Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดตั้งธุรกิจโรงแรม

การจัดตั้งธุรกิจโรงแรม

Published by JARUNAN TK, 2021-10-19 10:43:02

Description: นางสาววาสนา แก้วเรือง เลขที่38
นางสาวจารุนันท์ ทองคำ เลขที่51
Sec.31
*มุมมองคอมพิวเตอร์*

Search

Read the Text Version

การจดั ตั้งธรุ กิจโรงแรม วาสนา แกว้ เรือง กลุ่ม 31 เลขที่ 38 จารนุ ันท์ ทองคำ กลมุ่ 31 เลขที่ 51 รายงานนี้เปน็ สว่ นหน่งึ ของการศกึ ษาวชิ าการค้นควา้ และการเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ สาขาการจดั การโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564



การจดั ตั้งธรุ กิจโรงแรม วาสนา แกว้ เรือง กลุ่ม 31 เลขที่ 38 จารนุ ันท์ ทองคำ กลมุ่ 31 เลขที่ 51 รายงานนี้เปน็ สว่ นหน่งึ ของการศกึ ษาวชิ าการค้นควา้ และการเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ สาขาการจดั การโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564



ก คำนำ รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบ อันเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซึง่ จะนำไปใชใ้ นการทำรายงานค้นควา้ สำหรับรายวชิ าอน่ื ได้อีกต่อไป การที่ผจู้ ัดทำเลือกทำเรอ่ื ง “การ จัดตั้งธุรกิจโรงแรม” เนื่องด้วยในปัจจุบันในโรงงานอุตสาหกรรมมีการนำเครื่องจักรมาใช้แทน แรงงานคน ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาเครื่องจกั ร ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องนำเสนอ ความรู้ความเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ งเก่ียวกบั การบำรุงรักษาเครื่องจักร รายงานเล่มนี้กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นมา การก่อตั้งอาคาร กฎหมายโรงแรม การบริหารจัดการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง และ ทราบแนวทางการบำรงุ รักษาเครอื่ งจักร ขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย ตลอด และขอขอบคุณท่านเจ้าของหนังสือ บทความที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงทุกท่าน สุดท้ายนี้หากมี ข้อบกพร่องประการใด ผเู้ ขียนขอนอ้ มรับไวเ้ พ่อื ปรับปรงุ ตอ่ ไป วาสนา แก้วเรอื ง จารนุ ันท์ ทองคำ 14 ตลุ าคม 2564



ข สารบญั หน้า คำนำ................................................................................................................................................. ก สารบัญภาพประกอบ......................................................................................................................... ค บทที่ 1 บทนำ.................................................................................................................................. 1 1.1 ความเป็นมาของธรุ กจิ โรงแรม................................................................................................. 1 1.2 ความหมายของโรงแรม........................................................................................................... 3 1.3 ความสำคญั ของธรุ กิจโรงแรม.................................................................................................. 4 1.4 ประเภทและระดับธุรกิจโรงแรม.............................................................................................. 6 บทที่ 2 การขอจัดตัง้ โรงแรม .......................................................................................................... 11 2.1 การขอใบอนญุ าตกอ่ สรา้ ง/ดดั แปลง/รือ้ ถอนอาคาร .............................................................. 11 2.2 การขออนุญาตจดั ต้งั โรงแรม ................................................................................................. 15 2.3 ขอ้ กำหนดเก่ยี วกบั สถานประกอบการ................................................................................... 18 2.4 กฎหมายทีเ่ กยี่ วข้อง.............................................................................................................. 19 บทที่ 3 การบรหิ ารจดั การ.............................................................................................................. 29 3.1 กลยทุ ธกิ์ ารบรหิ ารจดั การภายในโรงแรม............................................................................... 29 3.2 ระบบบรหิ ารจดั การโรงแรม หรอื PMS................................................................................. 30 3.3 รปู แบบการบรหิ ารจดั การธุรกจิ โรงแรม................................................................................. 32 3.4 การแบ่งสายงานและระดับของการบรหิ ารจัดการในโรงแรม ................................................. 33 บทที่ 4 สรปุ ................................................................................................................................... 35 บรรณานุกรม................................................................................................................................... 37

ค สารบัญภาพประกอบ ภาพท่ี หนา้ 1.1 โรงแรมโอเรยี นเต็ล.................................................................................................………………2 1.2 พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระกำแพงเพชรอคั รโยธิน.............................................………………2

บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาของธุรกจิ โรงแรม ความเปน็ มาธรุ กิจทพ่ี ักในไทย ในบันทึกประวัติศาสตร์ไทยกล่าวไว้ว่า คนไทยมีการติดต่อค้าขาย เมื่อนักเดินทางจาก ประเทศอน่ื เดนิ ทางมาถึงจงึ ต้องการท่ีพักอาศัยชว่ั คราว ซ่ึงที่พักแรมในประเทศเมื่อ 300 กวา่ ปีก่อน มี ลักษณะเรยี บง่าย เพยี งเพือ่ อาศยั นอนเทา่ น้ัน ทพ่ี กั แรมจะไม่แบ่งแยกห้องเปน็ สว่ นตัวแต่เป็นการนอน รวมตวั ในหอ้ งโถงใหญ่ ตอ่ มามีการแบง่ ห้องเปน็ สัดส่วนไมป่ ะปนกัน พอ่ คา้ ธรรมดาจะพักอาศัยตามวัด วาอาราม ต่อมาในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น การเดินทางคมนาคมไปมาหาสู่กนั การเดนิ ทางน้ำ ถือเป็นทางสายหลัก เส้นทางการค้ามักจะเป็นเรือ จึงปรากฏหลักฐานที่พักแรมของชาวต่างชาติที่เขา้ มาทำการค้าติดอยู่ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนนักเดินทางชาวสยามจะอาศัยตามบ้านญาติ เพื่อนฝูง หรือคนรู้จกั ชอบพอ หากแต่เป็นนกั การทตู หรอื บรรดาเช้ือพระวงศ์ จะมที พ่ี ักอาศัยท่ีทางการจดั เตรียม ไว้ให้ ไมว่ ่าจะเปน็ ในวังหรือตามบ้านเจ้าเมอื งต่าง ๆ เมื่อเข้าสู่ยุคการเป็นธุรกิจโรงแรม ในช่วงปี พ.ศ 2488 – 2491 หลักฐานที่พักแรมที่เปิดใน เชิงธุรกิจ ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอก เรคคอร์ดเดอร์ (Bangkok Recorder) ของหมอบรัดเลย์ ครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว (รชั กาลท่ี 4) ซ่งึ เป็นชว่ งเวลาทเี่ รากำลังเริ่มรับ วัฒนธรรมจากชาติตะวันตก ทำให้เราเจริญก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและการศึกษา ในปี พ.ศ 2406 ได้มีการก่อสร้างโรงแรมแห่งแรก ตั้งอยู่บนถนนที่ชื่อว่าถนนเจริญกรุงชื่อยูเนี่ยน โฮเต็ล (Union Hotel) เป็นโรงแรมที่สรา้ งตามแบบมาตรฐานโรงแรมในฝั่งตะวันตก ต่อมาไดม้ ีการสรา้ งโรงแรมขึ้นมา อีก 2 แห่งคือ ฟิชเบอร์ส โฮเต็ล (Fisher’s Hotel) และโอเรียนเต็ล โฮเต็ล (Oriental Hotel) โดยที่ ทง้ั สามโรงแรมลกู คา้ สว่ นใหญ่จะเป็นชาวตา่ งชาติ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นยุคที่ประเทศมีความ เจริญทัดเทียมกับประเทศตะวันตก และมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น ทำให้ธุรกิจ โรงแรมมีความเจริญก้าวหน้าตามไปดว้ ยและปรบั ปรุงใหห้ รหู ราและสะดวกสบายข้นึ กวา่ เดมิ ดว้ ย ในปี พ.ศ 2419 ได้มีการกอ่ สร้างโรงแรมโอเรยี นเตล็ (The Oriental Hotel) ลกั ษณะเป็นอาคารไมช้ ัน้ เดียว ขนาดเลก็ ริมแม่น้ำเจา้ พระยา ชว่ งแรกมนี ักเดนิ เรือชาวเดนมาร์กสองคนเป็นเจ้าของแต่ก็ถูกเปลี่ยนมือ เจ้าของอกี หลายครั้ง ซึง่ โรงแรมน้เี ป็นโรงแรมแรกทนี่ ำระบบไฟฟ้าเข้ามาใช้ เปิดบรกิ ารปัจจุบัน ต่อมา ได้มกี ารสรา้ งตึกเพ่ิมขน้ึ อีก 2 หลัง เพอ่ื รองรบั นักเดินทาง ถือได้ว่าโรงแรมโอเรียนเต็ล มีความทันสมัย ที่สุดต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจบุ ัน ต่อมาในปี พ.ศ 2524 โรงแรมน้ีได้รบั การยกยอ่ งให้เป็นโรงแรมชั้นเย่ยี ม บริการดีอนั ดบั 1 ของโลก

2 ภาพท่ี 1.1 โรงแรมโอเรยี นเต็ล ทีม่ า: https://www.facebook.com/CharoenkrungCD/photos. (2018) สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคอื ง ไม่มี งบประมาณในการพัฒนาประเทศ แตถ่ ึงกระน้นั การยังมีงบลงทนุ ในการสรา้ งโรงแรมหลาย ๆ แหง่ ได้มี การสร้างบงั กะโลไม้ท่ีชายหาดหวั หิน สร้างขน้ึ โดยพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึง่ ตอ่ มาพระองค์ทา่ นได้ถูกยกย่องใหเ้ ป็นบิดาของการโรงแรมไทย ต่อมารชั กาลท่ี 6 ทรงโปรดให้สร้าง อาคารขึ้นมาใหม่ ให้โดดเด่นตามแบบตะวันตก ได้รับการขนานนามว่าเป็น โรงแรมที่พักตากอาศที่ หรหู ราทีส่ ุดในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ จากน้นั ก็ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนมือผู้บริหารจนปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมโซฟเี ทลเซ็นทรัล หัวหินรสี อร์ท ภาพที่ 1.2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ทีม่ า: https://www.tnews.co.th/religion/357958/. (2017)

3 ด้านมาตรฐานการบริการของโรงแรมสมัยนั้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น ระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ 2475 ธุรกิจโรงแรมขยายเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด รัฐบาลจึงจัดระบบการควบคุมดูแล โดยออกพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ 2478 เพ่ือ จัดระเบียบธุรกจิ โรงแรม หลังชว่ งสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 จบส้ินลง ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทยต่างให้ความสำคัญเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในยุคนั้นยังมีสายการบินจากต่างประเทศเปิด เส้นทางการบินในไทยมากขึ้น การท่องเที่ยวจึงดีขึ้นตามลำดับ รัฐบาลสมัยนั้นรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จึงได้จัดตั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแหง่ ประเทศไทย ในยุคนั้นนอกจากโรงแรมที่สร้าง โดยรัฐบาล เช่น โรงแรมเอราวัณแล้ว ภาคเอกชนได้ดึงเอากลุ่มนักบริหารโรงแรมเครือข่าย (Hotel Chains) จากต่างประเทศ ทำให้ช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นยุคทองของนกั บริหารชาวต่างชาติ โดยโรงแรม แรกที่เซ็นสัญญากับกลุ่มเครือข่ายโรงแรมฮิลตันเข้ามาบริหารและเปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมรามาฮิลตัน (Rama Hilton Hotel) ต่อมาก็มีกลุ่มอื่น ๆ ตามเข้ามาที่เป็นที่รู้จัก เช่น กลุ่มเชอราตัน, ไฮแอท, รีเจ้นท์, ฮอลิเดย์อิน, แมนดารินโนโวเทล, โซฟีเทลและแชงกรีลา เป็นต้น โดยวิธีการบริหารคือบริษัท แมจ่ ะสง่ ตวั แทนเข้ามาบริหาร วางระบบใหม่ใหม้ ีมาตรฐานเท่ากันเทา่ โลก 1.2 ความหมายของโรงแรม ธุรกิจที่พักแรม (Accommodation Business) หมายถึงธุรกิจที่ให้บริการที่พักอาศัยแก่ นักทอ่ งเที่ยว โดยใหบ้ ริการห้องพัก อาหารและเคร่ืองดื่มเพื่อตอบสนองความต้องการแก่นักท่องเท่ียว โดยคิดค่าตอบแทนจากนักท่องเที่ยวเพื่อผลกำไรของกิจการ ที่พักแรม (Lodging) หมายถึง สถานท่ี พกั ทจี่ ดั ไว้ใหส้ ำหรับผู้เดนิ ทาง ลกู คา้ หรอื แขก ที่ตอ้ งการนอนค้างคนื เพ่ือพกั ผ่อน โดยให้บริการอาหาร เครื่องดื่มตลอดจนสระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย (Fitness) เป็นต้น โดยที่พักแรมบางประเภทให้ ความสำคัญกับการอยู่ในทีพ่ ักมากกว่าสถานทีท่ ่องเท่ียวเสียอกี Hotel มาจากภาษาฝรั่งเศษ หมายถึง คฤหาสน์ของเศรษฐี มีลักษณะเป็นบ้านหลังใหญ่ มีห้องนอนจำนวนมาก รวมถึงห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ต่อมาก็เปิดให้คนเข้าไปได้ จึงเป็น จดุ เริ่มตน้ ของโรงแรมส่วนหนง่ึ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานปี พ.ศ. 2525 กล่าวว่า โรงแรมเป็นสถานที่พักเพื่อนัก เดินทางใช้เปน็ ท่หี ลับนอนเพียงชัว่ คราว (ราชบณั ฑิตยสถาน, 2552) พระราชบัญญัตโิ รงแรมปี พ.ศ. 2478 มาตรา 3 กำหนดวา่ โรงแรม หมายถงึ สถานท่ีทุกชนิด ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรับสินจ้างสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลที่ต้องการที่อยู่หรือที่พักชั่วคราว (สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา, 2562)

4 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโรงแรม พ.ศ. 2547 ได้ให้คำจัดกัดความไว้ว่า ธุรกิจ โรงแรม ดำเนินการไม่มวี ันหยุดโดยแบ่งงานออกเป็น 3 ผลดั ผ้บู ริหารตอ้ งเป็นผดู้ ูแลพนักงานในแต่ละ ผลัดเพื่อ ก่อให้เกิดความเหมาะสมเพียงพอระหว่างแรงงานกับปริมาณงานที่มีในแต่ละผลัด อตุ สาหกรรมโรงแรม และทีพ่ ักจึงมีลกั ษณะทแี่ ตกต่างจากอตุ สาหกรรมอนื่ ดงั นี้ 1. เป็นอุตสาหกรรมท่ไี ม่สามารถเก็บผลผลติ ไว้ได้ 2. มีหน่วยผลติ หลายหนว่ ยผลิตเป็นองค์ประกอบท่ีรวมตัวกันเพ่ือสร้างทั้งสินค้าและ บรกิ าร 3. เป็นบรกิ ารแบบเบด็ เสร็จสมบรู ณ์ ภายในกระบวนการ ลูกค้ารับรู้ได้ในทันที ณ ที่ ทำการผลติ บรกิ าร 4. ในการเปิดบริการในเวลาที่กิจการกำหนด หากเวลาที่ลูกค้าต้องการใช้บริการไม่ ตรงเวลาไม่ สามารถใหบ้ รกิ ารก่อนหรอื หลังได้ 5. เป็นอตุ สาหกรรมทมี่ ีความเช่ือมโยงกิจกรรมทางธุรกิจหลายธุรกิจเข้าด้วยกัน เช่น กิจการ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสริมสวย การรักษาพยาบาล การท่องเที่ยว กีฬา สถานบนั เทิงต่าง ๆ เปน็ ต้น 6. การลงทุนระยะแรกสูงมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ทำให้มีผู้ลงทุนไม่มากนัก ส่วนใหญ่ เป็นการลงทุน ในทรพั ย์สนิ ถาวรที่เคล่อื นทไ่ี มไ่ ดเ้ กนิ กวา่ รอ้ ยละ 80% ของเงินลงทุนท้ังหมด 7. การให้บริการเฉพาะเจาะจง เฉพาะคน ไม่สามารถแบ่งแยกให้บริการลูกค้าราย อน่ื ในเวลาเดยี วกันได้ 8. งานบริการขึ้นอยู่กับบุคลากรขององค์การมากกว่าเครื่องมือ เครื่องจักร เป็น ผสู้ รา้ งผลผลิตนั้น 9. เปน็ อุตสาหกรรมท่ขี ายท้งั สินคา้ และบรกิ ารไปในเวลาเดยี วกัน 10. การบริการลอกเลียนแบบยากไม่เหมือนสินค้า มีความแตกต่างโดดเด่นเป็น เอกลักษณ์ 1.3 ความสำคญั ของธรุ กจิ โรงแรม ปัจจุบันอุตสาหกรรมที่พักแรม มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นลักษณะการ ดำเนินการ จัดการของโรงแรมในอดีตกับปัจจุบัน จึงมีความแตกต่าง เนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ ขนาดของที่พักแรม สถานที่ตั้งตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีไว้บริการ เป็นต้น ในอดีต การบริหารในธุรกิจที่พักแรม ส่วนมากเจ้าของกิจการจะเป็นผู้ดูแลและบริหารงานเองเนื่องจากคู่ แข่งขัน ในธุรกิจยังมีน้อยแต่ในปัจจุบัน สภาพเหล่าน้ีเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีโรงแรมขนาดใหญ่ จำนวนหลายร้อยห้องพักและมีสิ่งอำนวย ความสะดวกที่ครบครันเกิดขึ้นจำนวนมากจึงจำเป็นต้องมี

5 การระดมเงินทุนจำนวนมากเพื่อสร้างสิ่งดึงดูดใจต่าง ๆ ให้ลูกค้ามาใช้บริการและเกิดความประทับใจ ประกอบกบั การเดินทางที่สะดวกสบายมากข้ึนในปจั จบุ ัน ส่งผลให้มีการเดนิ ทางระหว่างประเทศอย่าง กว้างขวาง ดังนั้นระบบการ จัดการในธุรกิจที่พักแรม จึงจำเป็นต้องใช้หลักการบริหารตาม มาตรฐานสากลและการบริหารงานอย่างมืออาชพี ความสำคัญของธรุ กิจทพ่ี ักแรมในดา้ นเศรษฐกิจ การเจริญเติบโตของกิจการด้านที่พักแรมและการท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดรายได้และการจ้าง งาน ภายในประเทศเกิดการกระจายรายได้ใหแ้ ก่ประชาชนในท้องถ่นิ ผู้ทเี่ ป็นแรงงานในธรุ กิจท่องเที่ยว และ ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งนี้นอกจากการจ่ายค่าที่พักแรมและบริการอื่น ๆ จากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีการจับจ่ายใช้สอยในค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย เช่นการบริการจัดนำเที่ยวการขนส่ง ของที่ ระลึก ฯลฯ ส่งผลให้อาชีพการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวมีการขยายตัวมากยิ่งข้ึน เพื่อตอบสนอง ความตอ้ งการตา่ ง ๆ ของนักท่องเทย่ี ว ความสำคัญของธุรกจิ ทพ่ี ักแรมในดา้ นเศรษฐกจิ สามารถสรุปได้ ดงั น้ี 1. ทำให้เกิดการสรา้ งงานและอาชีพให้แกค่ นในชุมชน 2. นำรายไดเ้ ข้าสปู่ ระเทศและสรา้ งเม็ดเงนิ หมนุ เวียนในระบบเศรษฐกจิ 3. เป็นแหล่งรับซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรม อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ อาหารและ เครือ่ งดมื่ ของท่ีระลกึ เฟอร์นิเจอรข์ องประดบั ตกแต่ง ฯลฯ 4. สนับสนุนกจิ กรรมทางการทอ่ งเท่ยี วและสง่ เสริมการลงทุนในภูมิภาค ความสำคัญของธรุ กจิ ท่ีพักแรมในดา้ นสังคม จากการที่กิจการที่พักแรมได้ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้และการจ้างงานให้กับคนใน ชุมชนนั้น ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชวี ิตทีด่ ขี ้ึน กล่าวคือ มีการกระจายรายได้ไปยังส่วนต่าง ๆ ของชุมชน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญ ๆ ต้ังอยู่ ซึ่งสามารถดึงดูดให้ นักท่องเที่ยวสนใจ เดินทางมาเยี่ยมชม ทำให้คนในชุมชนน้ันมีรายได้มากข้ึน ช่วยลดปัญหาการ วา่ งงาน การอพยพแรงงานจากทอ้ งถิ่นเขา้ ส่เู มืองใหญ่ ความสำคัญของธุรกิจที่พักแรมในดา้ นสังคม สามารถสรุปได้ดงั นี้ 1. ช่วยยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของท้องถิ่น เช่น ระบบสาธารณูปโภคการ คมนาคมขนสง่ ความปลอดภัย ระบบการตดิ ตอ่ สือ่ สาร เป็นต้น 2. ลดปัญหาการว่างงานและชุมชนแออัด จากการอพยพเข้ามาขายแรงงานในเมือง ใหญ่เป็นจำนวนมาก อนั จะเป็นผลทำให้เกิดปัญหาสงั คมต่าง ๆ ตามมา 3. เปน็ แหล่งบันเทิงของชุมชนเพ่ือการพักผอ่ นหย่อนใจ 4. เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์และศูนย์รวมกิจกรรมทางสังคม เช่นการจัด ประชมุ สมั มนาการจัดงาน สังสรรค์ตา่ ง ๆ เป็นต้น

6 1.4 ประเภทและระดับธรุ กจิ โรงแรม ท่ีพักเยาวชน (Youth Hotel) เปน็ บรกิ ารสำหรบั แขกที่เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยว สามารถเข้า พักได้ทุกเพศทุกวัย โดยจะมุ่งไปที่หนุ่มสาวเป็นหลัก จะมีลักษณะห้องพักเป็นแบบรวมแยกชายและ หญิงเป็นหลัก เสน่ห์อยู่ตรงที่สามารถใช้บริการได้ในราคาถูกเมื่อเทียบกับโรงแรมแล้ว ซึ่งจะมีอยู่เป็น จำนวนมากในแทบประเทศยโุ รปตะวนั ตก บังกะโล (Bungalow) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สถานตากอากาศ มีลักษณะก่อสร้างเป็นหลัง ห้องพักมีราคาถูก โดยถ้าเทียบกับโรงแรมแล้วจะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกหรือความหรูหรา ทันสมัยเหมือนกับโรงแรม เนื่องจากบังกะโลเน้นธรรมชาติมากที่สุด จะตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติเปน็ ส่วนใหญ่ เชน่ ตดิ ชายทะเลหรือตามแนวชายเขา เกสต์เฮ้าส์ (Guest House) ลักษณะจะเป็นบ้านหลังใหญ่แล้วแบ่งเป็นหลาย ๆ ห้อง เพื่อให้ เข้าพักพร้อมกันได้หลายคน คนละห้องแต่อยู่ในบ้านเดียวกัน บางทีก็เป็นห้องน้ำรวม โดยจะมีเพียง ห้องพักและอาหารเช้าไว้ให้บริการ เน้นราคาย่อมเยา สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้จะคล้ายกับ บงั กะโล โรงแรมตากอากาศ (Resort Hotels) ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นหลัง ๆ หรือถ้าเป็นตึกก็จะไม่สูง มากนัก จะเปน็ โรงแรมทตี่ ้ังอยใู่ นทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมท่ีดี โดยเน้นไปทีแ่ ขกท่ีต้องการมาเพ่ือ พักผ่อน ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองทอ่ งเที่ยวและในพื้นที่ท่ีมีทิวทัศน์สวยงาม เช่น ตั้งอยู่ติดริมทะเล โดย พื้นที่ภายในโรงแรมจะเปิดโล่งอย่างมากเพื่อให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศ รวมถึงการจัดส่ิง อำนวยความสะดวกท่ีเหมาะสำหรบั การพักผ่อนเพื่อให้เกดิ ความผ่อนคลายเช่น สปา สนามกอล์ฟหรือ กิจกรรมทางน้ำ โดยทีบ่ างทแี ขกไมต่ ้องออกไปข้างนอก กส็ ามารถผอ่ นคลายได้มาก โรงแรมประจำท่าอากาศยาน (Airport Hotels) จะตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน โดยเฉพาะ สนามบินนานาชาติ โดยท่ีลกู คา้ ส่วนใหญจ่ ะเปน็ นักธรุ กจิ ลกู ค้าท่มี ารอเปลยี่ นเคร่ืองเพื่อไปยังประเทศ อื่น บริษัททัวร์ หรืออย่างลูกค้าสำคัญสำหรับโรงแรมประเภทนี้คือ ลูกเรือของสายการบินต่าง ๆ โรงแรมน้ีจึงเหมาะกับแขกที่ไมอ่ ยากเสยี เวลาเข้าตวั เมอื ง โรงแรมเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Hotels) จะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ ใกล้อุตสาหกรรม สะดวกตอ่ การตดิ ต่องาน โดยทางการตลาดโรงแรมประเภทนี้ถูกสร้างมาเพ่ือตอบสนองนักธุรกิจอย่าง สูงสดุ โดยท่ที างโรงแรมไดจ้ ดั ส่งิ อำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ ไวอ้ ย่างครบครนั เช่น รา้ นขายของท่ีระลึก มีคอมพิวเตอร์และไวไฟให้ใช้ โดยนอกจากห้องพักยังมี ห้องประชุม (Meeting Room) และห้องจัด เล้ียง ไว้คอยบริการเวลาทแ่ี ขกตอ้ งการประชมุ หรือพูดคยุ ท้ังอย่างเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ โรงแรมห้องสวีท (Suite Hotels) เป็นโรงแรมที่มิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น มี ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำแยกต่างหาก ซึ่งโรงแรมประเภทนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่มีอำนาจใช้ จา่ ยสงู สามารถรองรบั ลกู ค้าเพอ่ื การทำธรุ กิจในขณะเดียวกนั ก็ยังสามารถสงั สรรคไ์ ด้อกี

7 โรงแรมสำหรบั ผู้พักระยะยาว (Extended Stay Hotels) โรงแรมประเภทนี้คล้ายกับโรงแรม ห้องสวีท แต่จะมหี อ้ งครัวเพิ่มมาด้วย เหมาะกบั ผู้พักระยะยาวที่อยู่ตั้งแต่อาทิตย์ขึ้นไปและไม่ต้องการ สง่ิ อำนวยความสะดวกต่าง ๆ อื่น ๆ ของโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ (Service Apartment) สำหรับผู้พักระยะยาว โดยทำสัญญากันเป็น เดอื นหรอื เป็นปี โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จัดไวพ้ รอ้ มสรรพ ทแี่ ตกต่างจาดโรงแรมท่ัวไปคือ จะมีบริการแม่บ้านทจี่ ำกัด ส่วนมากจะเปน็ รายอาทิตย์ ไม่ใช่รายวนั เหมือนโรงแรม (นาตยา เกตุสมบูรณ์. 2549 : 21) และ (ธัญญา แซ่หุ่น. 2542 : 156) โรงแรมในปัจจุบันมี หลายประเภท และมีการแบ่งประเภทของโรงแรมหลายแบบ ซ่ึงมีปจั จัยต่าง ๆ ทกี่ าํ หนดประเภทของ โรงแรมดังน้ี 1. แบง่ ตามสถานที่ต้งั โดยใช้ลกั ษณะของสถานที่ตง้ั เป็นเกณฑ์ในการแบง่ ประเภท ดังนี้ 1.1 โรงแรมในเมือง (Center City Hotel or Down Town Hotel) เป็นโรงแรม ท่ีตั้งอยู่ในตัวเมือง ลูกค้าส่วนมากเป็นนักธุรกิจและนักท่องเท่ียวซึ่งได้รับความสะดวกสบายในการ ติดต่อ ธุรกิจและการจับจ่ายซื้อของตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในด้านขนาด และ อุปกรณ์อํานวยความสะดวกคือมีทั้งโรงแรม ขนาดเล็กท่ีมีห้องพักต่ำกว่า 100 ห้องและโรงแรม ขนาด ใหญท่ ม่ี หี ้องพกั ต้ังแต่ 100 หอ้ ง พื้นฐานการบรกิ ารคลายคลึงกัน แตก่ ารตกแตง่ โรงแรมจะแตกต่างกัน ไปตามระดบั โรงแรม ซึ่งเปน็ เครอื่ งบ่งชี้ ถึงราคาคา่ เช่าทพ่ี ักดว้ ย โรงแรมในเมืองทใ่ี หญโ่ ตหรหู รา ได้แก่ โรงแรมเพื่อการประชุม ลูกค้าท่ีมาพักสามารถอยู่ได้ตลอดไม่ต้องออกจาก โรงแรม เนื่องจากมีบริการ ทกุ อย่าง มอี าหารหลายประเภทในทกุ ภัตตาคารของโรงแรม 1.2 โรงแรมชานเมือง (Sub Urban Hotel) เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ตามชานเมือง ไม่ ไกล จากตัวเมืองมากนัก การคมนาคมติดต่อกับเมืองสะดวก ลูกค้าสามารถติดต่อธุรกิจในเมืองและ ใกล้เคียงไดส้ ะดวก 1.3 โรงแรมสําหรับพักตากอากาศ (Resort Hotel) มักจะตั้งอยู่ใกล้กับแหล่ง ทอ่ งเทย่ี วทเ่ี ป็นธรรมชาติ เช่น ทะเล น้ำตก ภูเขา เหมาะสําหรับนักท่องเทย่ี วทตี่ อ้ งการพกั ผ่อน ซ่ึง ทาํ เลที่ตั้งเหล่านี้ที่ดึงดูดแขกให้มาพักมิใช่ตัวโรงแรมและเป็นคู่แข่งขันของโรงแรมในเมือง สามารถ อํานวยความสะดวกได้ไม่แพ้โรงแรมในเมือง ไม่ว่าจะเป็นการบริการ เคร่ืองดื่ม ห้องประชุม ห้องจัด เลี้ยงแตจ่ ะดอ้ ยกว่าในด้านห้องพกั ที่มนี ้อยกว่า 1.4 โรงแรมท่าอากาศยาน (Airport Hotel) เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยาน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าหรือผู้โดยสารของสายการบินต่าง ๆ ที่เดินทางผ่านและมีเวลาไม่มากต้องเดินทาง ต่อไปที่อื่น หรือพนักงานของสายการบินต่าง ๆ รวมถึงนักเดินทางก็ใช้โรงแรมน้ี พักผ่อน และรอ เปลี่ยนเครื่องโรงแรมประเภทนี้มักมีจํานวนห้องไม่ต่ำกว่า 100 ห้อง มีภัตตาคาร คอฟฟ่ีช็อป ห้องอาหาร แต่จะหวังพึ่งลูกค้าที่มีปัญหาการเดินทาง ประเภทเดียวก็ไม่พอที่จะทําให้โรงแรม

8 ดําเนินงานอย่างมีกําไรได้จึงจัดให้มีบริการด้านห้องจัดเล้ียงและห้องประชุมเพ่ือดึงดูดคนใน ท้องถิ่น นั้นด้วย 2. แบง่ ตามวตั ถปุ ระสงค์ ตามหน้าท่ี หรือตามลักษณะการให้บริการมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 2.1 โรงแรมเพื่อการค้าหรือธุรกิจ (Commercial or Transit) เป็นโรงแรมที่จัดข้ึน เพอ่ื ให้นกั ธรุ กจิ และพ่อค้าเขา้ พักเพื่อติดต่อธุรกิจและอยู่ใจกลางเมอื ง 2.2 โรงแรมเพื่อการพักผ่อน เป็นโรงแรมที่ตั้งขึ้นเพ่ือสําหรับให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อน และสัมผัสกับธรรมชาติในบริเวณนั้น ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิประเทศ หรืออาจจะเป็น การสร้างใหเ้ กิดมีสถานทพี่ กั ผ่อนหย่อนใจในที่พกั นน้ั แก่ผู้ทเี่ ขา้ พักได้ 2.3 โรงแรมเพื่อการประชุม (Convention Hotel) เป็นโรงแรมท่ีจัดตั้งข้ึนเพื่อเน้น ให้บริการด้านการจัดประชุม สัมมนา หรืออบรมต่าง ๆ พร้อมห้องพักที่ มีจํานวนมากไว้รองรับ ผู้เขา้ ร่วมประชมุ 2.4 โรงแรมเพื่อการเดินทางโดยรถยนต์ (Motel) เป็นโรงแรมท่ี สร้างขึ้นอยู่ริมทาง หลวง เพื่อบริการแก่ผู้เดินทางโดยรถยนต์ได้แวะพักระหว่างการเดินทาง ไม่เน้นส่ิงอํานวยความ สะดวกเน้นที่พักระหว่างทางของผู้เดนิ ทางที่พักรถและมบี ริการอาหาร 2.5 ที่พักสําหรับเยาวชน เป็นที่พักที่เน้นให้บริการแก่หนุ่มสาวหรือกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาราคาประหยัดและในปัจจุบันจะมีเครือข่ายท่ัวโลก ซึ่งจะ เป็นท่ีพักราคาถกู กว่าโรงแรม 3. แบง่ ตามระยะเวลาที่เข้าพัก แบง่ ได้ 2 ประเภท ดังนี้ 3.1 โรงแรมสําหรับพักชั่วคราว (Transient Hotel) เป็นสถานท่ีพักสําหรับ นกั ทอ่ งเทย่ี ว ที่พักเปน็ ระยะเวลาส้ัน ๆ ไมก่ ว่ี นั 3.2 โรงแรมสําหรับพักประจํา หรือท่ีพักกึ่งถาวร (Residential Hotel) เป็นสถานท่ี พัก สําหรับนักท่องเที่ยวหรือลูกค้าที่เข้าพักเป็นระยะเวลายาวโดยมากมักชําระค่าเช่าเป็นรายเดือน หรือรายปี 4. แบง่ ประเภทโรงแรมตามส่ิงอํานวยความสะดวกและความหรหู รา โดยมีหน่วยงานท่ีได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกลางของกลุ่มโรงแรมหรืออุตสาหกรรม ท่องเท่ียวเป็นผู้กําหนดมาตรฐานการให้บริการของโรงแรมในส่วนของอาคารสถานที่การตกแต่ง สงิ่ อํานวยความสะดวกตา่ ง ๆ ทจี่ ะตอ้ งตอบสนองความต้องการของผเู้ ขา้ พักโดยมีมาตรฐานการให้ดาว ตามความพร้อม ของสิ่งที่ให้ความสะดวกสบายแขกผู้เข้าพัก หรือผู้ที่เข้ามาใช้บริการ โดยแบ่งความ พร้อมของสิ่ง อํานวยความสะดวกมาจัดลําดับในการให้ดาว สามารถแบ่งดาวของโรงแรมออกเป็น 5 กลุม่ ดงั นี้

9 4.1 โรงแรมระดบั 5 ดาว (โรงแรมช้ันพเิ ศษ Deluxe) เป็นโรงแรมทมี่ ีส่ิงอํานวยความ สะดวกครบครนั มคี วามสมบูรณ์แบบทุกอย่างตามเกณฑม์ าตรฐานและมีการบรกิ ารท่ีดีเยี่ยม 4.2 โรงแรมระดับ 4 ดาว (โรงแรมชั้น 1 First Class) เป็นโรงแรมที่ยังขาดการ บรกิ าร ที่ดเี ยยี่ ม และยังขาดส่ิงอํานวยความสะดวกบางอยา่ งไป 4.3 โรงแรมระดับ 3 ดาว (โรงแรมชั้น 2 Second Class) เป็นโรงแรมท่ี ค่อนข้างดี ซึ่งโรงแรมระดับนี้ มักจะมีนักท่องเท่ียวท้ังในประเทศและต่างประเทศ มักจะเลือกโรงแรมนี้ เป็น สว่ นมาก เน่ืองจากมีสิ่งอํานวยความสะดวกเพียงพอที่ จะพกั ได้อย่างสบาย 4.4 โรงแรมระดับ 2 ดาว (โรงแรมชั้น 3 Third Class) เป็นโรงแรมที่ไม่เน้นส่ิง อาํ นวย ความสะดวกตา่ ง ๆ มอี ุปกรณเ์ คร่ืองใช้ทจ่ี าํ กัดไว้สําหรับใช้เทา่ น้ัน มคี วามสะดวกของที่พัก 4.5 โรงแรมระดับ 1 ดาว (โรงแรมระดับประหยัด Economy Class) เป็นโรงแรมท่ี มีสิ่งอํานวยความสะดวกในการใช้งานจํากัด สภาพอุปกรณ์เครื่องใช้ตา่ ง ๆ ค่อนข้างเก่าและมีคณุ ภาพ ไม่ดีความสะอาดในห้องพักค่อนข้างน้อยรวมถึงบริเวณทั่วไปของโรงแรม แต่จะเป็นท่ีพักท่ีราคาถูก ทสี่ ดุ 5. การแบง่ ตามราคา โดยพจิ ารณาจากอัตราการคดิ ค่าห้องพักท่ีโรงแรมกาํ หนดน้ี แมจ้ ะไม่สามารถแสดงถึงลักษณะ กิจการได้อย่างถูกต้องเสมอไป แต่สามารถบอกได้ในระดับหนึ่งถึง คุณภาพการบริการท่ีย่อมมี ความสัมพันธ์กับปริมาณและคุณภาพของการบริการท่ีต้องอาศัยเงิน ลงทุนสูงและกลุ่มเป้าหมาย รวมทง้ั ยังสามารถสร้างความคาดหวงั แก่ผู้ใช้บรกิ ารได้อกี ด้วย ขณะเดยี วกนั การท่องเทย่ี วแห่งประเทศ ไทย กองสถิติและวิจัยได้จัดแบ่งกลุ่มสถานท่ี พักแรมเพ่ือประโยชน์ทางสถิติไม่ได้ถือมาตรฐานสากล และไมไ่ ดเ้ ป็นการจัดอันดับของกจิ การแต่ใช้ราคาตำ่ สุด ของราคาประกาศขายแบ่งเปน็ 5 กลมุ่ ดงั น้ี 1) โรงแรมกลุ่มที่ 1 หมายถึง ราคาตง้ั แต่ 2,500 บาทขน้ึ ไป 2) โรงแรมกลุ่มท่ี 2 หมายถึง ราคาต้ังแต่ 1,500 – 2,499 บาท 3) โรงแรมกลุ่มที่ 3 หมายถึง ราคาตั้งแต่ 1,000- 1,4499 บาท 4) โรงแรมกลุ่มที่ 4 หมายถึง ราคาตงั้ แต่ 500 – 999 บาท 5) โรงแรมกลุ่มที่ 5 หมายถึง ราคาตำ่ กว่า 500 บาท ส่งิ อำนวยความสะดวกในโรงแรม 1. หอ้ งโถงส่วนกลาง Hotel Lobby 2. สระวา่ ยน้ำ Swimming Pool 3. สถานท่อี อกกำลงั กาย Fitness Center, Gymnasium 4. สปาเพือ่ สุขภาพ Spa and Massage 5. ภตั ตาคารพิเศษ (ญี่ปุน่ เกาหลี ฝรัง่ เศส อติ าเลียน อินเดีย มสุ ลมิ ฯลฯ)

10 6. คอฟฟี่ชอป Coffee Shop 7. บาร์ BAR 8. ดิสโก้เทค Discotheque Bar 9. หอ้ งคาราโอเกะ Karaoke 10 บรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ Internet access in room 11. หอ้ งสำหรับเด็กๆเล่นเกมส์ Children Playroom 12. ร้านเสริมสวย Beauty Salon 13. รา้ นจำหน่ายของฝาก Gift Shop 14. บริการรบั ซกั รีดเส้ือผ้า Laundry Service 15. บรกิ ารรับเลี้ยงเดก็ เล็ก Baby sitting 16. รถรับสง่ บริการท่องเท่ียว Shuttle Bus Service 17. บริการอาหารในหอ้ งพัก Room Service 18. บรกิ ารสำหรับนักธรุ กิจ Business Center 19.บริการขัดรองเท้าและบริการหนังสอื พิมพร์ ายวนั Newspaper and shoeshine 20. พนกั งานบริการทว่ั ไปประจำช้นั ทพี่ ัก Butler Service 21. เคาเตอรบ์ ริการท่องเที่ยว Counter Sign seeing Service or Tour Desk 22. ท่รี บั แลกเงนิ ตราต่างประเทศ Currency Exchange 23. ทงั้ นสี้ งิ่ อำนวยความสะดวกท้งั หลายขึน้ อย่กู บั ขนาดของโรงแรม

บทท่ี 2 การขอจัดตั้งโรงแรม 2.1 การขอใบอนญุ าตก่อสร้าง/ดัดแปลง/รอ้ื ถอนอาคาร 2.1.1 ขั้นตอนการขอใบอนุญาตกอ่ สร้าง ดดั แปลง รื้อถอนอาคาร (การขอใบอนญุ าตอาคารและส่งิ กอ่ สรา้ ง, ออนไลน์) การขออนุญาตก่อสรา้ งอาคารสามารถ ดําเนนิ การโดย 2 วิธคี ือ 1. การขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามมาตรา 21 ในการขออนุญาตก่อสร้างอาคารในอํานาจของสํานักงานเขตให้ผู้ประสงค์จะก่อสร้างอาคาร ขออนุญาตที่สํานักงานเขตพ้ืนที่นั้น ๆ ส่วนอาคารที่ นอกเหนืออํานาจของสํานักงานเขต ให้ยื่นขอท่ี กองควบคุมอาคาร สํานักการโยธาศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ถ.มิตรไมตรีแขวงดินแดง เขตดิน แดงกทม.10400 เอกสารประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร รื้อถอนอาคาร หรือเคลี่อน ยา้ ยอาคาร (ตามมาตรา 21) มีดังนี้ (1) แบบคําขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคารหรือรื้อถอนอาคาร (แบบ ข.1) (2) สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งแสดงวัตถุประสงค์และผู้มี อํานาจลงช่ือแทน นิตบิ ุคคลที่หนว่ ยงานซ่ึงมีอํานาจรบั รองออกให้ไมเ่ กนิ 6 เดอื น (กรณีทีน่ ิติบคุ คลเป็น ผู้ขออนญุ าต) และผู้มอี าํ นาจลง นามรับรองสาํ เนาทุกหน้าจาํ นวน 1 ชดุ (3) สําเนาหรือภาพถ่ายโฉนดทดี่ นิ ขนาดเท่ากับตน้ ฉบบั จรงิ และเจ้าของท่ีดินลงนาม รบั รองสําเนา ถูกต้องทุกหน้าจำนวน 5 ชดุ (4) หนังสือยินยอมของเจ้าของที่ดินให้ก่อสร้างอาคารในที่ดินหรือสําเนาสัญญาเช่า ทด่ี นิ (กรณี ผู้ขออนุญาตไม่ใช่เจ้าของท่ีดนิ ) จํานวน 1 ชุด (5) สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนและสําเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต, ผู้รับ มอบอํานาจ, ผู้มีอํานาจลงนามแทนนติ ิบุคคล และเจ้าของที่ดิน พร้อมลงนามรับรองสําเนาถกู ต้องทุก หนา้ จาํ นวน 1 ชุด (6) หนังสือแสดงความยินยอมและรับรองของสถาปนิกวิศวกรผู้ออกแบบและ คํานวณพร้อมสําเนา ใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพฯ (กรณีอาคารท่ีขออนุญาตอยู่ในประเภทเป็น วชิ าชพี วศิ วกรรมควบคุมหรือวชิ าชพี สถาปัตยกรรม) จาํ นวน 1 ชดุ (7) แผนผงั บริเวณ แบบแปลน และรายการประกอบแบบแปลน จาํ นวน 5 ชุด (8) รายการคาํ นวณโครงสร้างจาํ นวน 1 ชุด

12 (9) โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ตลาดสด ภัตตาคาร อาคารชุด หอพัก และ อาคารท่ีเก่ียวกับกิจการค้าอันเป็นที่น่ารังเกียจ ต้องแสดงแบบระบบบําบัดน้ำเสีย จํานวน 5 ชุด และ รายการคาํ นวณระบบ บาํ บัดน้ำเสีย จาํ นวน 1 ชุด 2. การยื่นคําขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ มดี ังนี้ (1) แบบหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างดัดแปลง หรือร้ือถอนอาคาร (แบบ กทม.1) หรือ แบบหนงั สือแจ้งความประสงคจ์ ะเคล่ือนย้ายอาคาร (แบบ กทม.2) (2) สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลที่หน่วยงานซ่ึงมีอํานาจรับรอง ออกให้ไมเ่ กิน 6 เดอื น (กรณีท่ีนติ ิบุคคลเป็นผู้ขออนุญาต) และผู้มีอํานาจลงนามรับรองสําเนาทุกหน้า จาํ นวน 1 ชุด (3) สําเนาหรือภาพถ่ายโฉนดที่ดินขนาดเท่ากับต้นฉบับ และเจ้าของที่ดินลงนาม รับรองสําเนา ถูกต้องทุกหน้า จํานวน 5 ชุด (4) หนังสือยินยอมของเจ้าของที่ดินให้ก่อสร้างอาคารในที่ดินหรือสําเนาสัญญาเช่า ท่ีดนิ (กรณี ผู้ขออนุญาตไม่ใช่เจ้าของทด่ี นิ ) จํานวน 1 ชุด (5) สาํ เนาบัตรประจําตัวประชาชนและสําเนาทะเบียนบ้านของผู้แจ้งความประสงค์, ผู้รับมอบ อํานาจ, ผู้มีอํานาจ, ลงนามแทนนิติบุคคลและเจ้าของที่ดิน พร้อมลงนามสําเนารับรอง ถูกต้องทุกหน้า จํานวน 1 ชดุ (6) หนงั สอื แสดงความยินยอมและรบั รองของวฒุ ิสถาปนกิ วฒุ ิวิศวกรผู้ออกแบบและ คํานวณ (แบบ กทม.5) พร้อมสําเนาใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพ สถาปัตยกรรม จาํ นวน 1 ชดุ (7) หนังสือแสดงความยนิ ยอมและรบั รองของผู้ควบคุมงานของสถาปนิกและวิศวกร (แบบ กทม.5) พร้อมสําเนาใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพฯ จาํ นวน 1 ชุด (8) แผนผังบรเิ วณ แบบแปลน และรายการประกอบแบบแปลน จํานวน 5 ชุด (9) รายการคํานวณโครงสร้าง จาํ นวน 1 ชุด (10) โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ตลาดสด ภัตตาคาร อาคารชุด หอพัก และ อาคารท่ีเก่ียวกับกิจการค้าอันเป็นที่น่ารังเกียจ ต้องแสดงแบบระบบบําบัดน้ำเสีย จํานวน 5 ชุด และ รายการคํานวณระบบ บําบดั น้ำเสีย จาํ นวน 1 ชดุ (11) รายการคํานวณพื้นท่ี อาคารทุกช้ันและทุกหลัง / จํานวนท่ี จอดรถยนต์ /การ คดิ คา่ ธรรมเนียม (12) ชาํ ระค่าธรรมเนยี มในวันทยี่ น่ื แจ้งฯ ตามมาตรา 39 ทวิ

13 (13) ปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เร่ือง กําหนดแบบหนังสือแจ้งความ ประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคารโดยไม่ยื่นคํา ขอรับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ท้องถิ่น แบบใบรับแจ้งและแบบหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถน่ิ ตรวจสอบการก่อสร้างดดั แปลงหรือเคล่ือนย้ายอาคาร (ฉบบั ที่ 2) ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2545 การขออนุญาตดัดแปลงอาคารสามารถดําเนินการโดย 2 วิธี เช่นเดียวกับการขออนุญาต ก่อสร้าง คอื (1) การขอรบั ใบอนญุ าตดดั แปลงอาคาร ตามมาตรา 21 (2) การแจ้งขอความประสงค์ดัดแปลงอาคารโดยไม่ยื่นคําขอรับใบอนุญาต ตาม มาตรา 39 ทวิ เอกสารประกอบการขออนุญาตดัดแปลงอาคาร เช่นเดียวกบั การขออนุญาตก่อสร้างอาคารแต่แบบแปลนสําหรับการดัดแปลงอาคาร ให้แสดงส่วนท่ีมีอยู่เดมิ และส่วนท่ีจะดดั แปลง ให้ชดั เจนพร้อมแนบเอกสาร (1) ใบอนญุ าตกอ่ สร้างอาคารเดิมที่ได้รบั อนุญาต (2) ในกรณีต่อเติมเพ่ิมชั้นอาคาร ต้องมีหนังสือรับรองความม่ันคงของอาคารเดิม จากสถาบันท่ี น่าเช่ือถือได้ (ส่วนราชการหรือบริษัทจํากัดท่ีมีวัตถุประสงค์ในการให้คําปรึกษาแนะนํา ด้านวิศวกรรม ซึ่งมีวิศวกร ประเภทวุฒิวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ วิศวกรรม เป็นผู้ให้คำปรกึ ษาแนะนําและลงลายมอื ช่ือรับรองผลการตรวจสอบงานวศิ วกรรมควบคมุ ) การกระทําดงั ต่อไปนไี้ มถ่ ือเป็นการดดั แปลงอาคาร (1) การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารโดยใช้วัสดุ ขนาด จํานวน และชนิดเดียวกับ ของเดมิ แต่เว้นการเปลยี่ นโครงสร้างของอาคารทเ่ี ป็นคอนกรตี เสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็ก โครงสร้างงานรูปพรรณ (2) การเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารท่ีไม่เป็นโครงสร้างของอาคารโดยใช้วัสดุชนิด เดียวกบั ของเดิมหรือวัสดุชนดิ อ่ืนซ่ึงเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่ โครงสร้างของอาคารเดมิ ส่วนหน่ึงส่วน ใดไมเ่ กนิ รอ้ ยละสิบ (3) การเปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด หรือ ขยาย ลักษณะขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เน้ือที่ของส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่เป็นโครงสรางของอาคาร ซึ่งไม่เป็นการเพิ่ม น้ำหนกั ให้แก่โครงสร้างของอาคารส่วนหนึ่งส่วนใดเกนิ ร้อยละสิบ (4) การลดหรือขยายเน้ือที่ของพื้นชั้นหนึ่งชั้นใด ให้มีเน้ือที่น้อยลงหรือมากข้ึน รวมกนั ไมเ่ กนิ ห้าตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพ่ิมจํานวนเสาหรือคาน

14 (5) การลดหรือขยายเนื้อท่ี ของหลังคา ให้มีเนื้อที่มากขึ้นรวมกันไม่เกิน ห้าตาราง เมตรโดยไม่ลด หรือเพม่ิ จาํ นวนเสาหรอื คาน ทั้งนี้ การกระทําข้างต้น ต้องไม่ขัดต่อกฎกระทรวง ฯ หรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร หาก เจ้าของ อาคารมีความประสงค์จะดัดแปลงต่อเติมอาคารนอกเหนือจากการกระทําข้างต้น จะต้องยื่น ขออนุญาตดัดแปลงอาคารก่อนดําเนินการ เมอื่ ได้รับใบอนญุ าตก่อสร้าง ก่อนลงมือก่อสร้างให้ทา่ นดําเนินการ ดงั นี้ (1) ตดิ ป้ายโครงการ แสดงรายละเอียดตามท่ีพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคารกําหนด (2) จดั ให้มีใบอนุญาตกอ่ สร้าง พร้อมแบบแปลนอยู่ทีส่ ถานที่กอ่ สร้าง 1 ชดุ (3) แจ้งชื่อผู้ควบคุมงาน และแจ้งวันเริ่มตน้ จนถงึ วันส้ินสุดของการดําเนนิ การ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตมีหนังสือแจ้งชื่อผู้ควบคุมงานและแจ้งวันเริ่มต้นจนถึงวันสิ้นสดุ การดําเนนิ การ ตามทไี่ ด้รบั อนญุ าตใหก้ รุงเทพมหานครทราบ พร้อมทง้ั แนบหนงั สอื แสดงความยินยอม ของผู้ควบคุมงานมาดว้ ย ผู้ควบคมุ งานจะเป็นบคุ คลใดหรอื เป็นเจ้าของอาคารก็ได้ เว้นแตจ่ ะเปน็ การต้องห้าม ตามกฎหมายว่า ดว้ ยวิชาชพี วิศวกรรมหรอื กฎหมายว่าด้วยวชิ าชีพสถาปัตยกรรม (4) เอกสารทตี่ ้องใช้ในการแจ้งช่ือผู้ควบคุมงาน (4.1) แบบคํารอ้ งทว่ั ไป (4.2) สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลท่ี หน่วยงานมีอํานาจ รับรองออกให้ ไมเ่ กนิ 6 เดือน และผู้มอี าํ นาจลงนามรับรองสําเนาทกุ หน้า จาํ นวน 1 ชุด (4.3) สาํ เนาบัตรประจําตัวและสำเนาทะเบียนบา้ นของผู้ยนื่ คาํ ร้องผู้รับมอบ อาํ นาจ ผู้มอี ํานาจ ลงนามแทนนติ บิ ุคคล พร้อมลงนามรับรองสาํ เนาทกุ หน้า จาํ นวน 1 ชดุ (4.4) หนังสือแสดงความยินยอมและรับรองของผู้ควบคุมงานของสถาปนิก และวิศวกรพร้อม สาํ เนาใบอนญุ าตผู้ประกอบวิชาชีพฯ จาํ นวน 1 ชุด (4.5) สาํ เนาใบอนญุ าตเดิม พร้อมลงนามรบั รองสาํ เนาทกุ หน้าจาํ นวน 1 ชดุ การแจ้งเลกิ ผู้ควบคมุ งาน 2.1.2 การแจ้งขอเปดิ อาคาร เมอื่ ก่อสร้างเสรจ็ สิน้ แล้ว ตอ้ งขอแจง้ เปดิ ใชอ้ าคาร ณ งานโยธา สำนักงานเขตในเขตกรุงเทพ มหานครเมืองพทั ยา หรือเทศบาลทอ้ งถ่นิ ทีอ่ าคารตั้งอยู่ เอกสารท่ตี ้องใช้ 1) หนังสอื แจง้ ให้เจา้ พนักงานทอ้ งถ่นิ ตรวจสอบการกอ่ สร้าง ดดั แปลง หรือ เคล่ือนยา้ ยอาคาร (กทม.4) 2) สำเนาหนงั สือรับรองการจดทะเบยี นบริษัท

15 3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านกรรมการผู้มีอำนาจลง นาม 4) สำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (อ.1) 5) สำเนาใบอนุญาตการตัดคนั หนิ ทางเท้า ลดระดับคนั หินทางเท้า และ/หรือทำทาง เชอ่ื มในทีส่ าธารณะ 2.1.3 การตอ่ ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม (การต่อใบอนุญาติประกอบธุรกิจโรงแรม, ออนไลน์) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมมีอายุ 5 ปี นับจากวันที่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตฯ โดย ยืน่ เร่อื งกอ่ นวนั ที่ใบอนุญาตส้นิ อายุ หากโรงแรมไหนย่ืนช้าแตย่ งั อยู่ภายใน 60 วนั นบั จากวนั สิ้นอายุ ก็ ยังสามารถยื่นได้ แต่จะต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีก20% ของค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาต และถ้าย่ืน ภายหลัง 60 วันนับจากวันที่ใบอนุญาตหมดอายุ จะต้องทำการยื่นขอใบอนุญาตใหม่ ผู้ขอต่ออายุ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม จะต้องไปยื่นด้วยตนเอง เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ ลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา 16 (5) (6) แห่งพระราชบญั ญัตโิ รงแรม พ.ศ. 2547 (จากนน้ั ทางกรมการ ปกครองจะมีการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม แค่นี้เองครับ ทั้งนี้ ระยะเวลาท่ี เจา้ หนา้ ทใี่ ช้ในการตรวจสอบ คอื ประมาณ 66 – 70 วนั ทำการครบั โดยเอกสารทตี่ ้องใช้ในการย่ืนขอ ต่อใบอนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม 2.2 การขออนญุ าตจดั ตัง้ โรงแรม 2.2.1 ประเภทของใบอนญุ าตการจดั ตัง้ (การขอใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม, ออนไลน์) โรงแรม หมายความว่า สถานท่ีพกั ท่ี จดั ตงั้ ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธรุ กิจ เพ่ือใหบ้ รกิ ารท่พี ักชัว่ คราวสำหรับคนเดนิ ทางหรือบคุ คลอื่น ใด โดยมีค่าตอบแทน องค์ประกอบ “โรงแรม” 1. สถานทพ่ี กั 2. มวี ตั ถปุ ระสงค์ในทางธุรกิจ 3. ใหบ้ รกิ ารท่พี ักช่ัวคราว 4. สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอ่นื ใด 5. โดยมีคา่ ตอบแทน

16 ข้อยกเวน้ 1. สถานทีพ่ กั ทจี่ ดั ตง้ั ข้นึ เพื่อใหบ้ ริการท่ีพักช่วั คราวซ่ึงดำเนินการโดยสว่ นราชการ รฐั วสิ าหกจิ องค์การมหาชน หรือหนว่ ยงานอืน่ ของรฐั หรอื เพ่อื การกุศล หรือการศึกษา 2. สถานท่ีพักท่ีจดั ตง้ั ข้ึนโดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อให้บริการท่ีพักอาศยั โดยคดิ ค่าบริการเป็นราย เดือนขน้ึ ไปเท่าน้ัน 3. สถานที่พกั อน่ื ใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ประเภทของโรงแรม โรงแรมประเภทที่ 1 : มีเฉพาะหอ้ งพกั มหี อ้ งพักได้ไมเ่ กิน 50 ห้อง และมีพืน้ ท่หี อ้ งพัก ไม่ น้อยกว่า 8 ตารางเมตร โรงแรมประเภทท่ี 2 : ประกอบด้วยห้องพัก / ห้องอาหาร / สถานทบ่ี ริการอาหาร / สถานที่ ประกอบอาหาร มพี ื้นท่หี อ้ งพัก ไมน่ ้อยกว่า 8 ตารางเมตร โรงแรมประเภทที่ 3 : ประกอบด้วยห้องพัก / ห้องอาหาร / สถานทบ่ี ริการอาหาร / สถานท่ี ประกอบอาหาร / สถานบรกิ าร หรือหอ้ งประชุม สัมมนา มพี น้ื ที่ห้องพัก ไม่นอ้ ยกวา่ 14 ตารางเมตร โรงแรมประเภทที่ 4 : ประกอบด้วยห้องพัก / หอ้ งอาหาร / สถานทีบ่ ริการอาหาร / สถานท่ี ประกอบอาหาร / สถานบริการ และห้องประชุม สมั มนา มีพื้นท่หี ้องพกั ไมน่ อ้ ยกว่า 14 ตารางเมตร หลักเกณฑใ์ นการจัดต้งั โรงแรม 1. ลักษณะของอาคารที่พัก ต้องเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืออาคารอื่นที่มีลักษณะ ม่ันคง แขง็ แรง 2. วตั ถปุ ระสงคข์ องโรงแรม ตอ้ งใช้เป็นทพี่ ักของผูเ้ ดินทาง หรือนักท่องเท่ียวโดยแท้ และไม่มี ลักษณะ หรือพฤติการณ์อันส่อไปในทางเป็นแหล่งมั่วสุม หรือขัดต่อความเงียบสงบ เรียบร้อย หรือ ศลี ธรรมอันดี 3. สถานที่ตั้ง ต้องไม่อยู่ใกล้สถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด สถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรม ทางศาสนา สถานรกั ษาพยาบาลผู้ปว่ ย หรอื โรงพยาบาล ในรศั มี 100 เมตร และต้องตัง้ อยู่ ในสถานที่ ท่ีเหมาะสม สะดวกแกก่ ารตรวจตรา เสน้ ทางเข้า-ออก ต้องไมม่ ปี ัญหาเก่ยี วกบั การจราจร 4. สถานที่จอดรถ ต้องมีเพียงพอสมดุลกับจำนวนห้องพัก โดยสถานที่จอดรถต้องแยกออก ตา่ งหากจากบรเิ วณหอ้ งพัก ไมใ่ ห้ปะปนกนั 2.2.2 คุณสมบตั ิของผ้ขู อรบั ใบอนุญาต 1. มอี ายุไมต่ ำ่ กวา่ ยส่ี บิ ปีบรบิ รู ณ์ 2. มภี มู ลิ ำเนาหรอื ถนิ่ ที่อยู่ในราชอาณาจกั รไทย 3. ไม่เปน็ บุคคลลม้ ละลาย 4. ไมเ่ ปน็ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ

17 5. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่ ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลงโทษ 6. ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับ เพศ / ยาเสพติด / ค้าหญงิ และเด็ก / ค้าประเวณี 7. ไม่เปน็ ผู้อย่ใู นระหวา่ งถกู สั่งพักใชใ้ บอนญุ าต 8. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยเหตุอื่นที่ไม่ใช่เหตุตาม แตเ่ วลาได้ลว่ งพ้นมาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ สามปี 2.2.3 สถานที่ติดต่อ สถานที่ติดต่อเพื่อขออนุญาตจัดตั้งโรงแรมติดต่อยื่นเรื่องราวขออนุญาตจัดตั้งโรงแรมได้ท่ี อำเภอทอ้ งที่ท่โี รงแรมนนั้ ตง้ั อยู่ (ที่ทำการปกครองอำเภอ) หรือขอทราบรายละเอยี ดไดท้ ่ี 1. สำนักงานจังหวดั ซ่ึงตั้งอยู่ ณ ศาลากลางจงั หวัดทกุ จังหวดั 2. กองตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โทร. 2211133, 2212893 E-mail [email protected] สำหรับในเขต กทม. ติดต่อที่ กองทะเบียน สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ โทร. 5139050, 5133219 2.2.4 เอกสาร/หลักฐานทใี่ ช้ 1. บตั รประจำตัวประชาชน 2. สำเนาหนังสือรับรองนิตบิ คุ คล 3. คำขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กิจโรงแรม (แบบ ร.ร.1/1) 4. สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม (แบบ ร.ร.2) 5. กรณีผู้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นนิติบุคคลจะต้องมีบัตร ประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน และ/หรือ หนังสือแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคล ในกรณีกรรมการผูม้ อี ำนาจลงนามผกู พนั นติ บิ คุ คลไม่ไดร้ ะบผุ ู้มีอำนาจลงนามใหช้ ดั เจน 6. ใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.1) กรณีโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 80 ห้อง ขึ้นไป หรือโรงแรมที่เปน็ อาคารสูงตัง้ แต่ 23 เมตรขึ้นไป หรือโรงแรมทีเ่ ป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษท่มี ี พน้ื ทตี่ งั้ แต่ 10,000 ตารางเมตรขน้ึ ไป แลว้ แตก่ รณีตามกฎหมายวา่ ด้วยการควบคมุ อาคาร 7. กรณีที่มีหลักฐานและเอกสารที่ยื่นไว้ในการขออนุญาตมกี ารแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลง ผู้ขอ ตอ้ งยื่นหลักฐานแสดงเอกสารที่มกี ารแก้ไขเปลยี่ นแปลงดว้ ย 2.2.5 คา่ ธรรมเนยี ม ชำระครึ่งหนึ่งจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 1. โรงแรมประเภท 1 จำนวน 5,000 บาท 2. โรงแรมประเภท 2 จำนวน 10,000 บาท

18 3. โรงแรมประเภท 3 จำนวน 15,000 บาท 4. โรงแรมประเภท 4 จำนวน 20,000 บาท - คา่ ธรรมเนยี มการประกอบธุรกิจโรงแรมปลี ะ 40 บาทตอ่ หอ้ งระยะเวลา 66 วนั 2.3 ข้อกำหนดเก่ยี วกับสถานประกอบการ 2.3.1 ประเภทสถานประกอบการ โรงแรมประเภทท่ี 1 : มเี ฉพาะห้องพกั มีหอ้ งพกั ได้ไม่เกิน 50 หอ้ ง และมีพื้นท่ีห้องพัก ไมน่ อ้ ย กว่า8ตารางเมตร โรงแรมประเภทท่ี 2 : ประกอบด้วยห้องพัก / หอ้ งอาหาร / สถานทบี่ ริการอาหาร / สถานท่ี ประกอบอาหาร มพี ื้นทห่ี ้องพัก ไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร โรงแรมประเภทที่ 3 : ประกอบด้วยห้องพัก / หอ้ งอาหาร / สถานที่บริการอาหาร / สถานท่ี ประกอบอาหาร / สถานบริการ หรอื หอ้ งประชุม สัมมนา มีพื้นท่หี ้องพัก ไมน่ ้อยกวา่ 14 ตารางเมตร โรงแรมประเภทที่ 4 : ประกอบด้วยหอ้ งพกั / หอ้ งอาหาร / สถานทบี่ รกิ ารอาหาร / สถานที่ ประกอบอาหาร / สถานบริการ และห้องประชุม สมั มนา มีพนื้ ท่ีห้องพกั ไม่นอ้ ยกว่า 14 ตารางเมตร 2.3.2 ใบอนญุ าตสถานประกอบการ สถานท่ีตดิ ต่อ (กทม.) สว่ นรกั ษาความสงบเรียบร้อย 3 สำนักการสอบสวนและนิตกิ ารกรมการปกครอง (วังไชยา) (ตา่ งจงั หวดั ) ทว่ี า่ การอำเภอ เอกสาร/หลกั ฐานที่ใช้ 1. บตั รประจำตวั ประชาชน 2. ใบคำขอรบั ใบอนุญาตประกอบธรุ กิจโรงแรม (แบบ ร.ร.1) 3. แบบแปลน แผนผัง รายการประกอบแบบแปลนแผนผังอาคารโรงแรม ทว่ี ิศวกรและ สถาปนิก ผู้ไดร้ ับอนญุ าตตามกฎหมายลงชอ่ื รับรอง 4. หลกั ฐานแสดงความเปน็ เจ้าของอาคาร หรอื สถานที่ท่ีใช้ประกอบธรุ กจิ โรงแรม หรอื หนงั สอื แสดงความยนิ ยอมให้ใช้อาคาร หรอื สถานทที่ ี่ขออนุญาตประกอบกจิ การพาณิชย์ ในกรIณี ท่ีอาคารหรอื สถานท่นี ้นั เปน็ ของผูอ้ น่ื 5. สำเนาหนงั สอื สำคญั แสดงกรรมสิทธคิ์ รอบครองในทด่ี นิ ทจ่ี ะใช้เป็นที่ตั้งโรงแรม 6. กรณโี รงแรมตง้ั อยูใ่ นเขตการบังคบั ใช้ พ.ร.บ.ควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 ใหย้ ื่นสำเนา เอกสารที่แสดงว่าได้รับอนุญาตให้ใช้อาคารเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่ าด้วยการควบคุมอาคาร 7. กรณโี รงแรมตง้ั อยูใ่ นท้องทีท่ ีไ่ มม่ กี ฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคุมอาคารใช้บงั คับ ต้องไดร้ ับ ใบรับรองการตรวจสภาพอาคารว่ามีความมงั่ คงแข็งแรง ปลอดภยั จากผู้ซ่ึงได้รบั ใบอนญุ าตประเภท

19 วิศวกรรมควบคมุ หรือผู้ซ่งึ ได้รับใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพสถาปตั ยกรรมควบคมุ ตามกฎหมายนน้ั 8. แผนที่ตงั้ โรงแรมโดยสงั เขป 9. รายงานการวิเคราะหผ์ ลกระทบส่งิ แวดลอ้ ม (EIA) หรือรายงานผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม กรณีนิตบิ คุ คล 1. สำเนาหนังสอื รบั รองการจดทะเบียนนติ ิบุคคล (นายทะเบยี นรับรองไม่เกิน 3 เดือนนับถึง วันย่นื ขออนุญาต) 2. บัตรประจำตัวประชาชนผแู้ ทนนติ ิบุคคล 3. หนงั สือแตง่ ตงั้ ผแู้ ทนนติ ิบุคคลซ่งึ ต้องเป็นกรรมการหรือบุคคลผู้มีอำนาจลงนามผูกพนั นิติ บุคคลของผโู้ อนและผู้รับโอนเอกสารอน่ื เชน่ เดียวกบั บคุ คลธรรมดา 2.4 กฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ ง 2.4.1 พระราชบัญญตั โิ รมแรม พ.ศ.2547 (สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎา, 2547) 1.สถานทพี่ กั ทจ่ี ัดต้ังขึน้ เพ่ือให้บริการท่ีพักชั่วคราวซึ่งดำเนินการโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรฐั หรือเพือ่ นการกุศล หรือการศึกษา ทั้งนี้ โดยมิใช่หาผลกำไร หรือรายไดม้ าแบ่งปนั กนั 2.สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัยโดย คิดค่าบริการเป็นราย เดือนข้ึนไปเทา่ น้ัน 3.สถานที่พักอื่นใดตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง 2.4.2 กฎหมายกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแร ม พ.ศ.2551 หมวด ๑ สถานทพี่ กั ทไ่ี มเ่ ปน็ โรงแรมและประเภทของโรงแรม ข้อ ๑ ให้สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรอื หลายอาคารรวมกันไม่ เกินสี่ห้องและมีจำนวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราว สำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมีลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหา รายได้เสริมและได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนด ไม่เป็นโรงแรมตาม (๓) ของ บทนยิ ามคำวา่ “โรงแรม” ในมาตรา ๔ ข้อ ๒ โรงแรมแบ่งเปน็ ๔ ประเภท ดงั ต่อไปนี้ (๑) โรงแรมประเภท ๑ หมายความว่า โรงแรมทีใ่ หบ้ ริการเฉพาะหอ้ งพกั (๒) โรงแรมประเภท ๒ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพักและห้องอาหาร หรือสถานที่สำหรบั บรกิ ารอาหารหรอื สถานที่สำหรับประกอบอาหาร

20 (๓) โรงแรมประเภท ๓ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือ สถานที่สำหรับบริการอาหารหรือสถานที่สำหรับประกอบอาหาร และสถานบริการตามกฎหมายว่า ด้วยสถานบริการหรือห้องประชมุ สัมมนา (๔) โรงแรมประเภท ๔ หมายความว่า โรงแรมที่ให้บริการห้องพัก ห้องอาหารหรือ สถานที่สำหรับบริการอาหารหรือสถานที่สำหรับประกอบอาหาร สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วย สถานบรกิ าร และหอ้ งประชุมสัมมนา หมวด ๒ หลกั เกณฑ์และเง่ือนไขสำหรับโรงแรมทุกประเภท ข้อ ๓ สถานที่ต้ังของโรงแรมต้องมีลกั ษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอนามัยของผู้พักและมี การคมนาคมสะดวกและปลอดภัย (๒) เส้นทางเขา้ ออกโรงแรมตอ้ งไม่กอ่ ให้เกิดปัญหาดา้ นการจราจร (๓) ในกรณที ่ใี ชพ้ ื้นทีป่ ระกอบธรุ กิจโรงแรมในอาคารเดียวกนั กบั การประกอบกิจการ อื่นต้องแบ่งสถานที่ให้ชัดเจน และการประกอบกิจการอื่นต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ โรงแรม (๔) ไม่ตั้งอยู่ในบริเวณหรือใกล้เคยี งกับโบราณสถาน ศาสนสถานหรอื สถาน อันเป็น ที่เคารพในทางศาสนา หรือสถานที่อื่นใดอันจะทำให้เกิดทัศนียภาพที่ไม่เหมาะสม กระทบต่อความ ม่นั คงและการดำรงอย่ขู องสถานท่ดี งั กล่าว หรือจะทำใหข้ ดั ต่อขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรม ทอ้ งถ่ิน ข้อ ๔ โรงแรมต้องจัดให้มีการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พักอย่าง น้อยดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) สถานทีล่ งทะเบียนผู้พกั (๒) โทรศัพท์หรือระบบการตดิ ต่อสอ่ื สารทั้งภายในและภายนอกโรงแรมโดยจะจัดให้ มีเฉพาะภายนอกห้องพักก็ได้ แตต่ ้องมีจำนวนเพียงพอต่อการให้บริการแก่ผู้พัก (๓) การปฐมพยาบาลเบอื้ งต้นและการสง่ ต่อผู้ปว่ ยไปยังสถานพยาบาลใกล้เคยี ง (๔) ระบบรกั ษาความปลอดภัยอย่างทว่ั ถึงตลอดยส่ี บิ สี่ชัว่ โมง ข้อ ๕ โรงแรมต้องจัดให้มีห้องน้ำและห้องส้วมในส่วนที่ให้บริการสาธารณะโดย จดั แยกส่วนสำหรับชายและหญิง และตอ้ งรักษาความสะอาดอยา่ งสม่ำเสมอ ข้อ ๖ ห้องพักต้องไม่มีรปู แบบทางสถาปัตยกรรมที่มีลกั ษณะเหมือนหรอื คล้าย หรือ มงุ่ หมายใหเ้ หมอื นหรอื คลา้ ยกับศาสนสถานหรอื สถานอันเป็นท่เี คารพในทางศาสนา ข้อ ๗ ห้องพักต้องมีเลขที่ประจำห้องพักกำกับไว้ทุกห้องเป็นตัวเลขอารบิกโดยให้ แสดงไว้บริเวณด้านหน้าห้องพักที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และในกรณีที่โรงแรมใดมีหลาย

21 อาคาร เลขทปี่ ระจำห้องพักแต่ละอาคารต้องไม่ซ้ำกนั ประตหู อ้ งพักให้มชี ่อง หรอื วธิ ีการอื่นที่สามารถ มองจากภายในสูภ่ ายนอกห้องพักได้ และมกี ลอนหรืออุปกรณ์อน่ื ทส่ี ามารถล็อกจากภายในห้องพักทุก ห้อง ข้อ ๘ สถานที่จอดรถของโรงแรมที่อยู่ติดห้องพักต้องไม่มีลักษณะมิดชิดและต้อง สามารถมองเห็นรถท่ีจอดอยไู่ ดต้ ลอดเวลา ข้อ ๙ อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในท้องที่ที่มีกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคารใชบ้ งั คับ ต้องมีหลกั ฐานแสดงวา่ ได้รับอนญุ าตให้ใช้อาคารเปน็ โรงแรมหรือมีใบรับรองการตรวจ สภาพอาคาร ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคมุ อาคาร ข้อ ๑๐ อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในท้องที่ท่ีไม่มีกฎหมายว่าด้วยการ ควบคุมอาคารใช้บังคับ ต้องมีใบรับรองการตรวจสอบสภาพอาคารว่ามีความมั่นคงแข็งแรงและ ปลอดภยั โดยผ้ซู ึ่งไดร้ ับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพวิศวกรรมควบคมุ หรือผซู้ ึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และผ่านการตรวจพิจารณาจากนาย ทะเบยี นวา่ เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ ข้อ ๑๓ ข้อ ๑๔ ข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ และขอ้ ๑๗ ขอ้ ๑๑ อาคารสำหรบั ใชเ้ ป็นโรงแรมตามข้อ ๑๐ ต้องมกี ารรักษาความสะอาด มกี าร จัดแสงสว่างอย่างเพียงพอ และมีระบบระบายน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบระบายอากาศที่ถูก สขุ ลักษณะ ข้อ ๑๒ อาคารสำหรบั ใชเ้ ปน็ โรงแรมตามข้อ ๑๐ ตอ้ งติดตง้ั เครอ่ื งดับเพลิงตาม หลกั เกณฑด์ ังต่อไปนี้ (๑) อาคารท่ีมลี กั ษณะเป็นห้องแถว ตึกแถว บา้ นแถว บา้ นเดย่ี วหรอื บา้ นแฝด ทม่ี ี ความสูงไม่เกินสองชั้น ตอ้ งติดตงั้ เครอ่ื งดบั เพลงิ แบบมือถือตามชนิดและขนาดที่เหมาะสมกบั สภาพ ของอาคารและวัสดภุ ายใน จำนวนคูหาละ ๑ เคร่ือง (๒) อาคารอื่นนอกจากอาคารตาม (๑) ตอ้ งติดตั้งเคร่ืองดบั เพลงิ แบบมือถือในแต่ละ ชั้นจำนวน ๑ เครื่อง ต่อพ้นื ที่อาคารไม่เกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร ทกุ ระยะไม่เกิน ๔๕ เมตร แต่ไมน่ ้อย กว่าชนั้ ละ ๑ เครอ่ื ง (๓) การติดตัง้ เครอ่ื งดบั เพลิง ตอ้ งตดิ ตั้งใหส้ ว่ นบนสดุ ของตัวเคร่ืองสูงจากระดบั พ้นื อาคารไม่เกิน ๑.๕๐ เมตร และต้องติดตัง้ ไวใ้ นทีท่ สี่ ามารถมองเห็นและอา่ นคำแนะนำการใช้ได้ โดยสะดวก (๔) เครอ่ื งดบั เพลิงตอ้ งอยใู่ นสภาพท่ีใชง้ านไดต้ ลอดเวลาและสามารถนำมาใชง้ านได้ โดยสะดวก

22 ข้อ ๑๓ อาคารสำหรบั ใชเ้ ปน็ โรงแรมตามขอ้ ๑๐ ต้องตดิ ตง้ั ระบบสญั ญาณเตือน เพลิงไหม้ตามหลกั เกณฑ์ดังต่อไปนี้ (๑) อาคารที่มีลักษณะเป็นห้องแถว ตึกแถว บ้านแถว บ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดที่มี ความสงู ไม่เกินสองชน้ั ตอ้ งมรี ะบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ติดต้ังอยู่ในอาคารอยา่ งน้อย ๑ เคร่ือง ทุก คูหา (๒) อาคารตาม (๑) ที่มีความสูงเกินสองชั้น ต้องมีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ติด ตัง้ อย่ภู ายในอาคารอยา่ งน้อย ๑ เครอ่ื ง ทกุ ช้นั และทุกคูหา (๓) อาคารอื่นนอกจากอาคารตาม (๑) และ (๒) ท่ีมีพน้ื ท่ีรวมกันทุกชนั้ ในอาคารหลัง เดียวกนั เกิน ๒,๐๐๐ ตารางเมตร ต้องมรี ะบบสัญญาณเตือนเพลงิ ไหมท้ กุ ชนั้ ข้อ ๑๔ อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมตามข้อ ๑๐ ต้องมีช่องทางเดินภายในอาคาร กว้างไมน่ อ้ ยกวา่ ๑.๕๐ เมตร ข้อ ๑๕ อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมตามข้อ ๑๐ ต้องมีทางหนีไฟหรือบันไดหนีไฟ ตามหลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขทีก่ ำหนดในกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคมุ อาคาร ข้อ ๑๖ อาคารสำหรับใช้เป็นโรงแรมตามข้อ ๑๐ ที่มีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคาร หลงั เดยี วกนั เกนิ ๒,๐๐๐ ตารางเมตร ภายในอาคารตอ้ งจดั ใหม้ ีระบบจ่ายพลงั งานไฟฟ้าสำรองสำหรับ กรณีฉุกเฉิน เช่น แบตเตอร่ี หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แยกเป็นอิสระจากระบบที่ใช้อยู่ตามปกติและ สามารถทำงานไดโ้ ดยอตั โนมัตเิ ม่ือระบบจา่ ยพลงั งานไฟฟ้าปกติหยดุ ทำงาน ระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าสำรองตามวรรคหนึ่ง ต้องสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้ เพียงพอสำหรับเครื่องหมายแสดงทางออกฉุกเฉิน ทางเดิน ห้องโถง บันได บันไดหนีไฟ และระบบ สัญญาณเตือนเพลงิ ไหมเ้ ป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ สองช่วั โมง ขอ้ ๑๗ บ่อเกรอะและบ่อซึมของส้วมของอาคารสำหรบั ใชเ้ ป็นโรงแรมตามข้อ ๑๐ ต้องอยหู่ ่างจากแมน่ ้ำ คู คลอง หรอื แหล่งน้ำสาธารณะไมน่ ้อยกวา่ ๑๐ เมตร เว้นแตก่ รณีท่สี ้วมมี ระบบกำจดั สง่ิ ปฏิกลู ทถี่ ูกต้องตามหลกั สขุ าภบิ าลและมีขนาดทเี่ หมาะสม หมวด ๓ หลกั เกณฑ์และเงื่อนไขสำหรบั โรงแรมแตล่ ะประเภท ขอ้ ๑๘ โรงแรมประเภท ๑ ต้องปฏบิ ัตติ ามหลักเกณฑ์และเงือ่ นไข ดังต่อไปน้ี (๑) มหี อ้ งพกั ไม่เกิน ๕๐ ห้อง (๒) หอ้ งพักทุกห้องต้องมีพนื้ ท่ใี ชส้ อยไมน่ ้อยกวา่ ๘ ตารางเมตร ไม่รวมห้องน้ำ หอ้ ง ส้วม และระเบยี งห้องพกั (๓) มีหอ้ งน้ำและห้องส้วมที่ถูกสขุ ลักษณะอยา่ งเพียงพอสำหรับผพู้ ัก ข้อ ๑๙ โรงแรมประเภท ๒ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไข ดังต่อไปนี้

23 (๑) ห้องพักทุกห้องต้องมีพนื้ ทีใ่ ชส้ อยไม่นอ้ ยกว่า ๘ ตารางเมตร ไม่รวมห้องนำ้ ห้อง สว้ ม และระเบยี งห้องพกั (๒) มหี ้องน้ำและห้องส้วมที่ถูกสขุ ลักษณะอย่างเพียงพอสำหรบั ผพู้ ัก ข้อ ๒๐ โรงแรมประเภท ๓ และประเภท ๔ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ห้องพักทุกห้องต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า ๑๔ ตารางเมตร ไม่รวมห้องน้ำ หอ้ งสว้ ม และระเบยี งห้องพัก (๒) มีห้องนำ้ และหอ้ งส้วมที่ถกู สุขลกั ษณะในห้องพักทุกหอ้ ง (๓) กรณีมีห้องพักไม่เกิน ๘๐ ห้อง ห้ามมีสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถาน บริการ ความใน (๓) มิให้นำมาใช้บังคับแก่โรงแรมที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นทีเ่ พื่อการอนุญาตให้ตง้ั สถานบริการและโรงแรมที่ต้ังอยู่นอกเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการหรือโรงแรมที่ตั้งอยู่ ในท้องที่งดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการซึ่งมีสถานบริการตามมาตรา ๓ (๕) แห่งพระราชบัญญัติสถาน บริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งแก้ไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิสถานบริการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๖ 2.4.3 กฎหมายคุ้มครองผู้บรโิ ภค (สำนกั งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, 2564) 1. กฎหมายคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภคทม่ี ีหน้าทีค่ ุ้มครองสทิ ธิของผู้บรโิ ภค โดยตรง คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้ผู้บริโภคมีสทิ ธิที่ จะได้รบั ความคมุ้ ครองตามกฎหมาย 5 ประการดังนี้ 1. สทิ ธทิ จ่ี ะได้รบั ข่าวสารรวมทงั้ คำพรรณนาคณุ ภาพทถ่ี ูกต้องและเพียงพอเกีย่ วกบั สินคา้ หรอื บริการ 2. สทิ ธทิ ี่จะได้อิสระในการเลือกหาสนิ คา้ หรือบรกิ าร 3. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ ับความปลอดภัยจากการใช้สนิ ค้าหรือบรกิ าร 4. สทิ ธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา 5. สทิ ธิท่จี ะได้การพจิ ารณาและชดเชยความเสยี หาย 2. กฎหมายคมุ้ ครองผูบ้ ริโภคท่ีมหี นา้ ที่คุ้มครองผู้บรโิ ภค โดยการเขา้ ไปควบคุมตรวจสอบ และ กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจที่ผลิตสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและได้รับ ความปลอดภัยในการใช้สินค้าและ การรบั บริการ โดยสามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท ดงั นี้ 2.1 กฎหมายคุ้มครองเพ่ือให้ผบู้ รโิ ภคได้รับความปลอดภัยในการใช้สนิ คา้ และการรับ บรกิ าร เช่น

24 กฎหมายค้มุ ครองผู้บรโิ ภคโดยกระทรวงสาธารณสุข พระราชบัญญัติหลักประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. 2545 พระราชบญั ญตั ิอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญตั ิยา พ.ศ. 2510 กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคโดยกระทรวงอุตสาหกรรม พระราชบญั ญัติมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 พระราชบญั ญตั ิวัตถอุ ันตราย พ.ศ. 2535 2.2 กฎหมายคุ้มครองผบู้ ริโภคเพ่ือให้ผบู้ ริโภคไดร้ บั ความเปน็ ธรรมในการใช้สนิ คา้ และการรบั บริการ เช่น กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคโดยกระทรวงพาณชิ ย์ พระราชบญั ญตั ิการแขง่ ขันทางการค้า พ.ศ. 2542 พระราชบญั ญตั ิวา่ ด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กฎหมายคุ้มครองผูบ้ ริโภคโดยกระทรวงยุตธิ รรม พระราชบญั ญัตวิ ่าด้วยขอ้ สัญญาไมเ่ ป็นธรรม พ.ศ. 2540 2.4.4 ความผดิ เกี่ยวกับโรงแรมผิดกฎหมาย พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 บัญญัติไว้ว่า คือ “สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมี ค่าตอบแทน”มาตรา 15 บังคับว่าท่านต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (ร.ร. 2) หากไม่มีก็มี โทษจำคกุ ไม่เกินหนึ่งปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสองหม่ืนบาท หรอื ทงั้ จำท้ังปรับ และปรบั อีกวันละไม่เกินหน่ึง หมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ นอกจากผิดกฎหมายโรงแรมแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 33 ซึ่งห้ามไม่ให้ใช้อาคารผิดประเภทที่ขอ ใบอนุญาตก่อสร้างไว้ คือ ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมก็นำอาคารมาทำโรงแรมไม่ได้ โดยมาตรา 44 ของกฎหมายควบคุมอาคารก็อนุญาตให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งระงับการใช้ อาคาร หากมีการฝ่าฝืนอีกก็มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรบั และปรบั อีกไม่เกนิ วันละหนง่ึ หมืน่ บาท ตลอดเวลาท่ียงั ฝ่าฝนื หรอื จนกวา่ ปฏิบัติให้ถูกตอ้ ง กรณีผู้ทำธุรกิจโฮมสเตย์ ซึ่งโดยเจตนาของกฎหมายยกเว้นให้นั้น มีเงื่อนไขอยู่ 3 ประการ หากขาดข้อใดข้อหนึ่งถือวา่ ผิดกฎหมายโรงแรมเชน่ กนั คือ ข้อหนึ่ง ต้องมีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกิน 4 หอ้ ง และมจี ำนวนผพู้ กั รวมกนั ทงั้ หมดไมเ่ กิน 20 คน ข้อสอง ต้องเปน็ กิจการท่ีเป็นรายไดเ้ สรมิ เชน่ รายได้หลักมาจากอาชีพการเกษตร ข้อสาม ต้องไปแจง้ ให้นายทะเบยี นโรงแรมทราบ

25 2.4.5 พระราชบญั ญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตินเี้ รียกว่า “พระราชบัญญตั ิควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒” มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั ิน้ีให้ใช้บงั คบั ต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ จะใช้บังคับในท้องที่ใด มีบริเวณเพียงใด ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาสำหรับเขตท้องที่ที่ได้มีการ ประกาศให้ใช้บังคบั ผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองหรือเขตท้องท่ีท่ีได้เคยมีการประกาศ ดังกลา่ ว ให้ใชพ้ ระราชบัญญตั นิ บี้ งั คับตามเขตของผงั เมืองรวมนน้ั โดยไม่ต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา [๒]สำหรับอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารชุมนุมคน และโรงมหรสพ ให้ใช้บทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัตินี้บังคับไม่ว่าท้องที่ที่อาคารนั้นตั้งอยู่จะได้มีพระร าชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับ พระราชบญั ญตั ิน้หี รือไมก่ ็ตาม[๓] มาตรา ๗ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการ ปฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญัตินีไ้ ม่ว่าทั้งหมดหรอื บางสว่ นเกย่ี วกับอาคาร ดังตอ่ ไปนี้ (๑) อาคารของกระทรวง ทบวง กรม ทีใ่ ชใ้ นราชการหรอื ใช้เพ่ือสาธารณประโยชน์ (๒) อาคารของราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ทใ่ี ชใ้ นราชการหรอื ใชเ้ พ่อื สาธารณประโยชน์ (๓) อาคารขององค์การของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ที่ใช้ในกิจการขององค์การ หรือใชเ้ พ่อื สาธารณประโยชน์ (๔) โบราณสถาน วดั วาอาราม หรืออาคารต่าง ๆ ทีใ่ ช้เพ่ือการศาสนา ซ่ึงมีกฎหมาย ควบคุมการก่อสร้างไว้แล้วโดยเฉพาะ (๕) อาคารทท่ี ำการขององค์การระหว่างประเทศ หรอื อาคารท่ีทำการของหน่วยงาน ทต่ี ัง้ ข้ึนตามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศ (๖) อาคารทีท่ ำการสถานทตู หรอื สถานกงสลุ ตา่ งประเทศ (๗) อาคารชั่วคราวเพื่อใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างอาคารถาวร หรืออาคารเพื่อใช้ ประโยชน์เป็นการชว่ั คราวทีม่ ีกำหนดเวลาการรอื้ ถอน (๘) อาคารที่กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนทอ้ งถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การของรัฐ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดให้มีหรือพัฒนาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มี รายได้น้อย ทั้งนี้ ต้องมิใช่การยกเว้นหรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง และความ ปลอดภัยของอาคาร หรอื ความปลอดภยั ของผซู้ ่งึ อย่อู าศยั หรอื ใชอ้ าคาร มาตรา ๘ เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การ สาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความ สะดวกแก่การจราจร ตลอดจนการอื่นที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีโดย คำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมอาคารมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนด (๑) ประเภท ลักษณะ แบบ รูปทรง สดั สว่ น ขนาด เนอื้ ท่ี และทต่ี งั้ ของอาคาร

26 (๒) การรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทน ตลอดจนลักษณะ และคุณสมบัติ ของวัสดุที่ใช้ (๓) การรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับ อาคาร (๔) แบบและวิธีการเกี่ยวกับการติดตั้งระบบประปา ก๊าซ ไฟฟ้า เครื่องกล ความ ปลอดภยั เก่ยี วกับอคั คีภัยหรือภัยพบิ ัติอยา่ งอืน่ และการป้องกันอนั ตรายเมอ่ื มีเหตชุ ลุ มุนว่นุ วาย (๕) แบบและจำนวนของห้องนำ้ และหอ้ งส้วม (๖) ระบบการจัดการเกย่ี วกับสภาพแวดล้อมของอาคาร เช่น ระบบการจัดแสงสว่าง การระบายอากาศ การปรับอากาศ การฟอกอากาศ การระบายน้ำ การบำบัดน้ำเสีย และการกำจัด ขยะมลู ฝอย และสง่ิ ปฏกิ ลู (๗) ลกั ษณะ ระดับ ความสูง เนือ้ ที่ของทวี่ ่างภายนอกอาคาร หรอื แนวอาคาร (๘) ระยะหรือระดับระหว่างอาคารกับอาคารหรือเขตที่ดินของผู้อื่น หรือระหว่าง อาคารกับถนน ตรอก ซอย ทางเทา้ ทาง หรอื ที่สาธารณะ (๙) พื้นที่หรือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จอดรถ ที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถ สำหรับอาคารบางชนิด หรือบางประเภท ตลอดจนลักษณะและขนาดของพื้นที่หรือสิ่งที่สร้างขึ้น ดงั กล่าว (๑๐) บริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย และใช้หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารชนิดใดหรือประเภทใด (๑๑) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย ใช้หรือเปลย่ี นการใช้อาคาร (๑๒) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การอนุญาต การต่ออายุ ใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต การออกใบรับรอง และการออกใบแทนตามพระราชบญั ญัติน้ี (๑๓) หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้ดำเนินการ ผู้ครอบครองอาคาร และเจา้ ของอาคาร (๑๔) คุณสมบัติเฉพาะและลักษณะต้องห้ามของผู้ตรวจสอบ ตลอดจนหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงอื่ นไขในการขอข้นึ ทะเบียน และการเพกิ ถอนการข้ึนทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ (๑๕) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจสอบอาคาร ติดตั้งและตรวจสอบ อปุ กรณป์ ระกอบของอาคาร (๑๖) ชนิดหรือประเภทของอาคารที่เจ้าของอาคาร หรือผู้ครอบครองอาคาร หรือ ผู้ดำเนินการต้องทำการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของ บุคคลภายนอก

27 กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งจะกำหนดให้เร่อื งทเ่ี ป็นรายละเอียดทางดา้ นเทคนิค เกยี่ วกบั การก่อสร้าง ดดั แปลง รอ้ื ถอน หรือเคล่ือนย้ายอาคาร ที่มกี ารเปล่ียนแปลงรวดเรว็ เปน็ ไปตาม หลกั เกณฑท์ ่ีรฐั มนตรโี ดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมอาคารประกาศกำหนดในราชกิจจา นเุ บกษากไ็ ด้[๑๔] มาตรา ๘ ทวิ เพ่ือประโยชนแ์ ห่งความปลอดภัยของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการควบคุมอาคารมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือลักษณะของส่ิงท่ีสร้างขึ้น เพื่อใช้ในการขนส่งบุคคลในบริเวณใดในลักษณะกระเช้าไฟฟ้าหรือสิ่งอื่นใดที่สร้างขึ้นโดยมี วตั ถปุ ระสงค์อย่างเดยี วกนั หรือออกกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรอื ลักษณะของส่ิงทส่ี ร้างข้ึนเพ่ือใช้ เป็นเครื่องเล่นในสวนสนุก หรือในสถานที่อื่นใดเพื่อประโยชน์ในลักษณะเดียวกันเป็นอาคารตาม พระราชบัญญตั นิ ี้ กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการก่อสร้าง การ อนุญาตให้ใช้ การตรวจสอบ มาตรฐานการรับน้ำหนัก ความปลอดภัย และคุณสมบัติของวัสดุ หรือ อปุ กรณ์ที่จำเปน็ เกยี่ วเนื่องกับสง่ิ น้ัน ทงั้ นี้ ตามความเหมาะสมของส่ิงทสี่ ร้างขน้ึ แต่ละประเภทหรือแต่ ละลักษณะ โดยอาจกำหนดใหแ้ ตกต่างจากบทบญั ญตั ขิ องพระราชบัญญัตินี้ได้



บทที่ 3 การบริการจัดการ 3.1 กลยุทธิ์การบริหารจัดการภายในโรงแรม 3.1.1. กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.1 การออกแบบตัวโรงแรม ไม่จำเป็นต้องหรูหราเทียบชั้นโรงแรม 5 ดาว หรือ 6 ดาว แต่ควรออกแบบและตกแต่งให้เรียบง่าย แต่ดูดี เพื่อดูแลทำความสะอาดได้ง่าย และที่สำคัญ ซ่อมบำรุงรักษาได้ง่ายด้วย โดยหากมีพื้นที่ ควรจะมีสวนเล็ก ๆ ไม่ต้องใหญ่มาก เพราะจะมีต้นทุนใน การดูแลสูง ซึ่งการออกแบบให้เรียบง่าย ดูดี ดูแลง่าย จะช่วยให้นักลงทุนโรงแรมขนาดเล็ก ยังคง รักษาสภาพของโรงแรมนั้น ๆ ให้อยู่ในสภาพที่ดีได้เสมอ ภายใต้ต้นทุนในการดูแลที่ไม่สูงนัก เพราะ หากออกแบบให้หรูเลิศเกินไป อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลอาคารสูง และถ้าเจ้าของโรงแรมไม่มี งบประมาณในส่วนนี้ ท้ายที่สุด ตัวอาคารจะทรุดโทรม 1.2 การดูแลรักษาตัวอาคาร เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก เพราะโรงแรมเกิดใหม่มีจำนวนมาก แข่งขันด้านราคาก็สูง ควรวางงบประมาณในการดูแลรักษา อาคารไว้ทุกปี และกำหนดการปรับปรุงตัวอาคาร เช่น ทาสีใหม่ทั้งนอกอาคาร และในห้องพักในทุก 3 ปี หรือ 5 ปี ซึ่งในระยะหลัง กรณีการทาสี 3.1.2. กลยุทธ์ด้านราคา (Price Strategy) มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ พอ ๆ กับกลยุทธ์ ด้านการบริการ ซึ่งในส่วนของราคาจะผันแปรตามความต้องการของนักท่องเท่ียว ฤดูกาลท่องเที่ยว ทำเลของโรงแรมน้ัน ๆ และคุณภาพของการบริการ โดยก่อนการลงทุน ควรศึกษาอัตราค่าเข้าพักใน ย่านนั้น ๆ ก่อน จึงจะนำมาเป็นแนวทางให้การออกแบบและกำหนดราคาค่าเข้าพัก ซึ่งถ้ามีการ บริการท่ีดี อยู่ในทำเลท่ีดีแล้ว มีโอกาสที่อัตราค่าเข้าพักจะสูงกว่าคู่แข่งในย่านเดียวกันได้ 3.1.3. กลยุทธ์ด้านทำเล (Place Strategy) ถือเป็นหัวใจอันดับต้น ๆ ของธุรกิจโรงแรม ขนาดเล็ก ที่ควรอยู่ใกล้ศูนย์กลางการท่องเที่ยวในจังหวัดนั้น ๆ ใกล้ตลาด ใกล้แหล่งอำนวยความ สะดวก โดยข้อดีของการสร้างโรงแรมอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยว แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก แต่ก็ทำให้ ผู้เข้าพักเข้าถึงได้ง่าย ซ่ึงหากแข่งขันในด้านทำเลได้แล้ว ถ้าพัฒนาด้านคุณภาพในการบริการให้ดีกว่า คู่แข่ง ย่อมมีโอกาสท่ีดีกว่าทั้งในด้านอัตราค่าเข้าพัก และจำนวนผู้เข้าพัก 3.1.4. กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion Strategy) ในทีนี้ ไม่ได้หมายถึงการหั่น ราคาค่าเข้าพัก หรือการทำโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมเหมือนสินค้าคอนซูเมอร์ แต่หมายถึงการทำ ตลาดเพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวนั้น สัดส่วนมากกว่า 95% พึ่งพาส่ืออินเทอร์เน็ตเป็นหลัก

30 ดังนั้น ควรศึกษาการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตทุกรูปแบบให้เป็นประโยชน์ เริ่มจาก ควรมีเว็บไซต์ เป็นของตัวเอง มีสื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram เพื่อกระจายไปยัง กลุ่มเป้าหมาย เรียนรู้การใช้เว็บไซต์เกี่ยวกับการจองห้องพัก เช่น Agoda, Tripadvisor, Hotelscombined, Booking เป็นต้น รวมถึง เว็บไซต์จองที่พักในแต่ละท้องถ่ินน้ันๆ ว่ามีเง่ือนไขใน การฝากห้องพักอย่างไร เปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสียของเว็บไซต์เหล่านี้ และเลือกให้เหมาะสมกับ โรงแรมของตัวเอง 3.1.5. กลยุทธ์ด้านพนักงาน (People Strategy) เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญเช่นกันของธุรกิจ โรงแรม โดยไม่ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ ต้องมีพนักงานที่มีหัวใจในการให้บริการ หรือที่เรียกว่า “เซอร์วิส มายด์” (Service Mind) ฝึกฝนอบรมพนักงานอย่างหนักให้มีเซอร์วิส มายด์ ยิ้มแย้ม ทักทาย พูดจาสุภาพ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เข้าพักสูงสุด ซึ่งธุรกิจโรงแรมมีความแปลกที่น่าสนใจ คือ ผู้เข้าพักจะยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น เพื่อได้คุณภาพ การบริการที่ดีกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่มีจำนวนโรงแรมค่อนข้างมาก สิ่งที่จะชนะคู่แข่งได้ ไม่ใช่เรื่อง อัตราค่าเข้าพักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นเรื่อง คุณภาพการบริการจากพนักงานด้วย 3.1.6. กลยุทธ์ด้านกระบวนการให้บริการ (Process Strategy) เป็นการส่งมอบคุณภาพใน การให้บริการกับลูกค้าได้รวดเร็วและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer satisfaction) ซึ่ง จะเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ด้านพนักงาน โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก กระบวนการในการส่ง มอบบริการจะครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการจองห้องพักทั้งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และจองตรงกับ ทางโรงแรมผ่านทางโทรศัพท์ การให้ข้อมูล จนเมื่อถึงวันเข้าพัก กระบวนการในการเช็กอินต้อง รวดเร็ว การจัดส่งกระเป๋าถึงห้องพัก บริการประสานงานกับแหล่งท่องเที่ยว ร้านสปา ร้านอาหาร บริการรถขับส่ง เป็นต้น 3.1.7. กลยุทธ์ด้านกายภาพ (Physical Evidence and Presentation Strategy) สำหรับ ธุรกิจบริการแล้ว ลักษณะทางภายภาพ อาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งท่ีสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า เช่น ปัจจัย ด้านความสะอาด ความสะดวก หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ซึ่งธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กจำเป็นต้องให้ ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ เพราะลักษณะทางกายภาย มีส่วนที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ บรรยากาศของโรงแรม สิ่งแวดล้อมบริเวณรอบข้าง มีความปลอดภัยหรือไม่ บรรยากาศห้องพัก ส่ิงอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตมีให้บริการฟรี บริการด้านอาหารเช้า ระบบ รักษาความปลอดภัย มีความจูงใจให้เกิดความอยากเข้าพัก 3.2 ระบบบรหิ ารจดั การโรงแรม หรอื PMS (กลยุทธ์การจัดต้ังโรงแรมให้ยั่งยนื , ออนไลน์) ไดใ้ หข้ ้อมลู ไวว้ ่า 3.2.1. Property Management System (PMS)

31 ระบบที่ช่วยในการจัดการแทบจะทุกเรื่องภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นส่วนห้องพัก ส่วน ร้านอาหาร หรือส่วนหลังบ้าน บัญชีการเงิน สต๊อกต่าง ๆ แต่ละผู้ให้บริการจะแบ่งการให้บริการ ออกเป็น Module ให้เราเลอื กวา่ เราจะใช้อะไรหรือไม่ใช้อะไร เช่น + Front Office Module เป็นระบบจัดการส่วนหน้า ได้แก่ ห้องพัก ราคาขาย จำนวน ห้องพกั ที่ว่าง ที่ใช้งานไดใ้ นแต่ละวนั การทำจองหอ้ งพัก การโยกห้องพักในแต่ละวัน การสร้างรายงาน ประจำวันประเภทต่าง ๆ การทำงานร่วมกับแผนกแม่บ้านเพื่อแจ้งว่าห้องทำความสะอาดเสร็จ เรียบรอ้ ยหรือไม่ เพ่อื ทห่ี นา้ ฟรอ้ นทจ์ ะไดท้ ราบวา่ หอ้ งไหนสามารถใหล้ ูกคา้ เข้าพักได้ เปน็ ตน้ + Point of Sales (POS) เป็นระบบจัดการเรื่องการขายแต่ละจุดตามต้องการ มักใช้กับ ร้านอาหาร หรือร้านจำหน่ายของที่ระลึก หรือสปา ระบบจะดูแลในเรื่องการบันทึกและประมวลผล จำนวนลูกค้า ยอดค่าใช้จ่าย การสั่งอาหารและเครื่องดื่ม การจัดทำรายงาน สามารถซื้ออุปกรณ์ต่อ พ่วงในส่วนของเครื่องพิมพ์ให้พิมพ์ออเดอร์อาหารเข้าไปในครัวเมื่อพนักงานเสริฟกดสั่งอาหาร สามารถใชง้ านร่วมกับแทป็ เล็ตให้พนกั งานเสริฟรบั ออเดอร์ได้ เปน็ ต้น + Accounting Module เปน็ ระบบจัดการในสว่ นของบญั ชีทั้งหมด ทง้ั ขารบั เข้า ขาจ่ายออก ไปจนถงึ เรอ่ื งการส่ังซ้ือ การจดั ซือ้ การลงบนั ทกึ สต๊อกคงคา้ ง ณ จดุ ต่าง ๆ ท้งั น้ขี ้นึ อย่กู บั ว่าโรงแรมจะ ส่ังซื้อในส่วนใดบา้ ง สมัยก่อนผู้ให้บริการบางรายให้บริการเฉพาะบาง Module ดังนั้นหากโรงแรมต้องการจะ เชื่อมข้อมูลของแต่ละระบบก็ต้องไปเช็คว่าสามารถทำงานร่วมกันได้หรือเปล่า บางยี่ห้อก็ไม่สามารถ ทำงานร่วมกับบางยี่ห้อได้ แต่ปัจจุบันมีผูใ้ ห้บริการหลายรายที่ให้บริการแบบครบวงจรไม่ต้องเทีย่ ววง่ิ หาแต่ละระบบและมาเช่ือมกนั สำหรับโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ก็มักจะใช้เฉพาะ Front Office Module เป็นหลักในการ จัดการเรือ่ งจองหอ้ งพัก การจดั สรรห้องพักในแตล่ ะวนั การสร้างรายงานสรปุ ตวั เลขรายได้ในแต่ละวัน ซึ่งในกรณีระบบนี้เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายตามงบประมาณที่สะดวกของแต่ละ โรงแรม 3.2.2. Booking Engine ระบบจัดการห้องพัก รับจองห้องพักสำหรับโรงแรมที่ต้องการให้ลูกค้าสามารถเช็คและจอง ห้องพักที่ว่างในวันและเวลาที่ลูกค้าต้องการแบบได้คำตอบทันที เพราะระบบจะจัดสรรจำนวน ประเภทห้องพักและราคาขายตามท่ีเรากำหนดในแต่ละชว่ งเวลา ลกู ค้าไมต่ ้องรอ สามารถตัดสินใจทำ รายการไดท้ นั ที ระบบนี้จะแปะไว้ที่ website ของโรงแรม มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความชอบ และ งบประมาณ แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ ขั้นตอนการจองห้องพัก ไม่ควรยุ่งยาก วุ่นวาย หลาย ข้นั ตอน เพราะจะทำให้ลูกคา้ รูส้ กึ ลำบากในการทำรายการแต่ละคร้ัง

32 3.2.3. Channel Manager ระบบบริหารจัดการห้องพักและจัดสรรจำนวนห้องพักที่จะเปิดขายในแต่ละชอ่ งทางการขาย ระบบนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะการเติบโตของตลาดออนไลน์เอเย่นต์ หรือ OTA (Online Travel Agent) นั่นเอง ยิ่งโรงแรมมีความต้องการขายห้องพักผ่าน OTA หลายราย ระบบ Channel Manager ก็จะมีประโยชน์ในการช่วยจัดสรรเรื่องจำนวนห้องที่จะขายและราคาที่จะขายในแต่ละ ช่องทาง ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเข้าไปทำทีละราย ทีละราย ซึ่งจะเสียเวลามาก ๆ ในแต่ละวัน ย่ิง ถา้ สัญญาณอนิ เตอร์เน็ทไม่ดี เวลาในหนึง่ วันจะหมดไปอย่างรวดเรว็ ในการจดั การในเร่ืองนี้ นี่คือระบบหลัก ๆ ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใครจะมีระบบอะไรเพิ่มเติมเข้ามาเสริมใน เรือ่ งอื่น ๆ กย็ งั มอี กี มากให้เลือกใช้ ขน้ึ อยู่กับความจำเปน็ และงบประมาณ และทีส่ ำคญั ทีส่ ดุ คือ “คน” ที่จะทำหน้าทีใ่ สข่ อ้ มูลและบรหิ ารขอ้ มูลในระบบให้เกดิ การใช้งานอย่างมีประสทิ ธิภาพ หลายโรงแรมลงทุนในระบบ แต่ไม่ใช้งานให้คุ้มกับเงินที่ลงทุนไป ต่อให้ระบบดีแค่ไหน ก็ไม่ สามารถช่วยคุณได้ และคุณก็เสียโอกาสในด้านการขายและการตลาดไปด้วยเช่นกัน ถ้าไม่รู้จักนำ รายงานท่ีระบบช่วยคดิ คำนวณใหม้ าแปลผล และวเิ คราะห์ให้เกดิ ประโยชน์ 3.3 รูปแบบการบรหิ ารจัดการธุรกจิ โรงแรม (การจัดการงานแผนกต่าง ๆ, ออนไลน์) -แผนกบริการทั่วไป รวมถึงงานในแผนกบัญชี แผนกรักษาความปลอดภัย แผนกการตลาด แผนกประชาสมั พนั ธ์ แผนกฝกึ อบรม -แผนกบคุ คล และแผนกซ่อมบำรงุ -แผนกต้อนรับ ข้อมูลการจองหอ้ งพัก -แผนกครัว แผนกแมบ่ ้าน รปู แบบการดำเนินธุรกิจโรงแรม 1. Independent Hotel เป็นการดำเนินธุรกจิ และบรหิ ารโรงแรมด้วยตนเอง 2. Alliance Hotel เป็นการดำเนินธรุ กิจและบรหิ ารโรงแรมด้วยตนเอง แตม่ กี ารเขา้ ร่วมกลุ่ม กบั โรงแรมอน่ื ๆ ในลักษณะพันธมิตรทางธรุ กิจ 3. Affiliate Hotel เป็นการดำเนินธุรกิจและบริหารโรงแรมด้วยตนเอง แต่มีการเข้าร่วมกับ องค์กรภายนอกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการตลาดโรงแรมเพื่อประโยชน์ในด้านสร้างเครือข่าย เพ่ิม ชอ่ งทางการตลาดและการขายใหก้ วา้ งไกลมากยง่ิ ข้นึ 4. Franchise Hotel เป็นการบริหารโรงแรมด้วยตนเอง แต่ซื้อสิทธิ์ในการใช้ชื่อของแบนรด์ โรงแรมทีม่ ชี ื่อเสียงมาใชเ้ พื่อให้ไดร้ บั การยอมรับ 5. Chain Hotel เป็นการดำเนินธรุ กิจ โดยการว่าจ้างทีมงานของเครือโรงแรมที่มีชื่อเสียงมา บริหารและใชช้ ่อื แบนรด์ของเครือโรงแรมทม่ี ชี ื่อเสยี งในการดำเนนิ ธรุ กิจ

33 3.4 การแบ่งสายงานและระดับของการบริหารจดั การในโรงแรม (ธรรมรงณ์ ศรรี ัตนลิ้ม. Dr.Hotel) กล่าววา่ ฝ่ายบรกิ ารหอ้ งพัก (Rooms/Resident) แบง่ เป็น 2 สว่ นหลักคือ - แผนกบริการสว่ นหนา้ (Front Office) ดูแลการต้อนรับและการให้บริการตา่ ง ๆ แกแ่ ขก - แผนกแม่บ้าน (Housekeeping) ดูแลด้านการจัดเตรียมห้องพัก ทำความสะอาดหอ้ งพัก ฝ่ายบริการอาหารและเครื่องด่ืม (Food & Beverage) แบง่ เป็น 3 ส่วนหลกั คือ - แผนกครวั (Kitchen) บรกิ ารดา้ นการจดั เตรยี ม ประกอบอาหารเพ่อื บรกิ ารลกู คา้ ท่มี าใชบ้ รกิ าร - แผนกบริการอาหารและเคร่ืองดม่ื (Food & Beverage Services) ดแู ลในด้านการ ให้บริการอาหารและเคร่อื งด่ืมแกล่ กู คา้ ตามจุดต่าง ๆ ท่ีมีการจำหน่ายอาหารและเคร่ืองดื่ม - แผนกจัดเลีย้ ง (Banquet& Outside Catering) ดูแลในดา้ นงานจดั เลีย้ ง และกจิ กรรม พิเศษต่างๆ ทีจ่ ัดข้ึนภายในและภายนอกโรงแรม ฝา่ ยทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources) แบ่งออกเปน็ 2 ส่วนหลักคอื - แผนกฝึกอบรม (Training) ดแู ลเรื่องของการฝกึ อบรม พัฒนาทกั ษะบคุ ลากร - แผนกบคุ คล (Personnel) ดูแลเรื่องบุคลากรในองค์กร เงินเดอื น ค่าจ้าง และสวัสดกิ าร ฝ่ายควบคุม (Controller) ดแู ลดา้ น การเงิน การบัญชขี ององค์กร แบง่ เป็น 4 ส่วนหลักดังน้ี - แผนกการเงิน (Financial) ดแู ลด้านการเงนิ ของโรงแรม ควบคุมการรับ-จา่ ยเงนิ - แผนกบญั ชี (Accounting) ดูแลเร่ืองบัญชตี า่ ง ๆ ภายในโรงแรม และจดั ทำรายงานให้แก่ ผบู้ ริหารและผูท้ ี่เก่ยี วข้องได้รับทราบ - แผนกจัดหา/จดั ซอ้ื จัดจ้าง (Procurement) ดแู ลเรอ่ื งการจดั หา วตั ถดุ ิบหรือปัจจยั การผลิต และการใหบ้ ริการตา่ ง ๆ ให้แกโ่ รงแรม - แผนกคลงั (Inventory) ดแู ลเรือ่ งคลงั สินคา้ วตั ถุดบิ ทเ่ี ปน็ ปัจจัยในการผลติ การใหบ้ ริการ ลกู คา้ และการดำเนินงานของโรงแรมทเ่ี ป็นสว่ นกลาง ฝ่ายการตลาดและการขาย (Sales & Marketing) ดูแลด้านการตลาดและการขายเพื่อหา รายไดใ้ หแ้ กโ่ รงแรม แบง่ เป็น 2 ส่วนหลักคอื - แผนกการตลาด (Marketing) ดแู ลเร่ืองการขับเคล่ือนกลยทุ ธ์การตลาดในด้านต่าง ๆ ให้ บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์และเป้าหมาย ท่ีกำหนดไว้ในแผนการตลาดของโรงแรม - แผนกขาย (Sales) ดแู ลเรอื่ งการขายหารายไดใ้ ห้แกโ่ รงแรมตามเป้าหมายท่กี ำหนด ดูแล และรกั ษาลกู คา้ ของโรงแรม

34 ฝ่ายวิศวกรรมและบำรุงรักษา (Engineer & Maintenance) แบ่งออกเป็น 2 ส่วน - แผนกวิศวกรรม (Engineer) ดูแลงานด้านวิศวกรรมของระบบต่าง ๆ ที่ใช้งาน - แผนกซอ่ มบำรุง (Maintenance) ดแู ลงานซ่อมบำรุงวสั ดุ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ภายในโรงแรม ให้อยู่ในสภาพดที ี่พร้อมใชง้ านได้ตลอดเวลา ระดับของการบริหารจัดการในองคก์ ร (ระบบบริหารจัดการโรงแรม, ออนไลน์) Top Management/Executive Committee (Ex.Com.) เป็นผู้บริหารระดับสูงที่มีหน้าที่ เป็นเหมอื นคณะกรรมการบรหิ ารระดับนโยบายของโรงแรม Middle Management/Department Head เป็นผู้บริหารระดับหัวหน้าแผนกทำหน้าท่ี กำกับดูแลการปฏิบัติงานแผนกต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแนวนโยบายของทางโรงแรมด้วยความเรียบร้อย และราบรืน่ Junior Management/Manager เปน็ ผู้บรหิ ารระดับปฏิบตั ิการ ทำหน้าท่บี รหิ ารจัดการงาน ตามหน้าที่ต่าง ๆ ที่ตนเองรับผิดชอบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามมาตรฐานการปฏิบัติ (Standard Operating Procedure - SOP) ท่ที างโรงแรมได้กำหนดไว้ Supervisor เป็นหัวหน้างานเฉพาะด้านที่รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาไปแจกจ่ายให้แก่ พนักงานระดับปฏบิ ตั งิ าน และดแู ลการปฏิบัตงิ านใหเ้ ป็นไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ยตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย Operator/Staff เป็นพนักงานระดับปฏิบัติการทั้งหลายที่มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ มอบหมายจากหวั หน้างาน

บทที่ 4 สรปุ ความเป็นมาของโรงแรม เริ่มยุคแรกของสมัยรัชกาลท่ี 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หวั ซึง่ เป็นช่วงเวลาทปี่ ีพ.ศ.2406 เป็นการก่อตง้ั โรงแรมแห่งแรกของประเทศไทยขนึ้ ชื่อ ยูเน่ียน โฮเต็ล (Union Hotel) ตั้งอยู่บนถนนที่ชื่อว่าถนนเจริญกรุง ต่อมาได้มีการสร้างโรงแรมขึ้นมาอีก 2 แห่งคือ ฟิชเบอร์ส โฮเต็ล (Fisher’s Hotel) และโอเรียนเต็ล โฮเต็ล (Oriental Hotel) โดยที่ทั้งสาม โรงแรมลกู คา้ ส่วนใหญ่จะเปน็ ชาวต่างชาตในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั (รัชกาลที่ 5) เป็นยุคที่ประเทศมีความเจริญทัดเทียมกับประเทศตะวันตก และมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใน ประเทศมากขึ้น ทำให้ธุรกิจโรงแรมมีความเจริญก้าวหน้าตามไปด้วยและปรับปรุงให้หรูหราและ สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิมด้วย ในปี พ.ศ 2419 ได้มีการก่อสร้างโรงแรมโอเรียนเต็ล (The Oriental Hotel) ลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ขนาดเล็กริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงแรกมีนักเดินเรือชาว เดนมาร์กสองคนเป็นเจ้าของแต่ก็ถกู เปลี่ยนมือเจ้าของอีกหลายครั้ง ซึ่งโรงแรมนี้เป็นโรงแรมแรกที่นำ ระบบไฟฟ้าเข้ามาใช้ เปิดบริการปัจจุบัน ต่อมาได้มีการสร้างตึกเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง เพื่อรองรับนัก เดินทาง ถือได้ว่าโรงแรมโอเรียนเต็ล มีความทันสมัยที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ 2524 โรงแรมน้ไี ดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นโรงแรมช้ันเย่ียมบริการดอี ันดบั 1 ของโลก ในปีพ.ศ.2522 ก็มีการตั้งกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับสถาปนิก และ ให้กับผู้ที่จะลงทุนกับธุรกิจโรงแรม เป็นมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งยังเป็น เครื่องการันตีความปลอดภัยให้แก่ผู้เข้าพัก การก่อตั้งอาคารเป็นการจัดทำโดยการผ่านกระบวนการ ทางกฎหมายหลากหลาย ซึ่งขั้นตอนการก่อตั้งดัดแปลงหรือรื้อถอนต้องการกรมอาคารของแต่ละเขต ก่อนจึงจะทำการสร้างได้ หากฝ่าฝืน โดนปรับหรอื จำคุกหรือทั้งจำท้ังปรับ ในเวลาถดั มาก็มกี ฎหมาย คมุ้ ครองที่เกีย่ วกับโรงแรมอีกมากมาย ทพี่ รอ้ มจะการันตีความปลอดภัยเพื่อความสบายใจอย่างสูงสุด เช่นกฎหมายที่ออกมาเอื้ออำนวยให้กับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากอุบัติเหตุระหว่างการเข้าห้อง หรือการเรียกคืนเงนิ ในกรณีทผ่ี ู้ใช้บริการไมต่ ้องการเข้าพักแล้ว น้ันกจ็ ะยิง่ ดึงดูดนกั ท่องเท่ียวให้เข้ามา ใช้บริการมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกฎหมายโรงแรม หากฝ่าฝืนมีโทษถึงปรับและจำคุก การบริหารจัดการ โรงแรมด้วยระบบPMS เป็นการจัดการทางอิเล็กทรอนกิ ส์ ทันสมัย ง่ายต่อการเข้าถงึ พนักงานทุกคน สามารถเรียนร้ไู ดง้ า่ ย ทั้งยงั มีการแบง่ สัดสว่ น แบง่ หน้าทกี่ ารทำงานของแตล่ ะแผนกอย่างชัดเจน คณะ ผู้จัดทำเชื่อว่าทุกแผนก ส่งผลถึงกันละกัน ถ้าเราบริการให้กันเองด้วยความจริงใจ พนักงานที่จะไป บริการแขกก็จะบริการออกมาได้ดี เนื่องจากหลาย ๆ ฝ่ายร่วมมือกัน เช่น แผนกการขาย ก็ตั้งใจทำ ยอด ขายโรงแรมออกไปใหม้ ากที่สดุ หางานใหเ้ ข้ามาในโรงแรมให้ได้มากทส่ี ุด พอไดง้ านแผนกจัด เลี้ยงก็รับหน้าที่มาดูแลงาน ดูแลแขกที่จะมาใช้บริการ หรือพนักงานหลังบ้านเช่น แม่ครัวทำกับข้าว

36 อร่อยมาก พนักงานส่วนหน้าได้รับประทานก็มีความสุข รู้สึกอยากจะบริการแขกให้ดีเหมือนกัน นี่จึง ถึงได้ว่าการบริหารจัดการคน ดึงดูดกำลังใจมาให้พนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เกิดตำแหน่งต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อมาซับพอร์ตกัน เช่นถ้าเรามีหัวหน้าทีมทีด่ ี แน่นอนว่าหัวหน้าทีมก็จะพาลูกน้องทุกคนไปได้ ไกล และพร้อมที่จะผลักดัน หรอื ดงึ ความสามารถของลูกน้องมาใช้ได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ก็จะ ส่งผลทำให้ธุรกิจโรงแรมรุ่งเรือง แขกอยากจะกลับมาเข้าพัก ได้รับการรีวิวในเชิงบวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงการดไี ซด์โรงแรมให้ตอบโจทยผ์ ู้มาใช้บริการ ปัจจัยทั่วไปเช่น การรักษาบำรุงสถานทีใ่ ห้พร้อมใช้ งานอยู่เสมอ และการบรกิ ารของพนักงานอย่างเตม็ ประสิทธภิ าพ

บรรณานุกรม “กฎกระทรวงกำหนดประเภท และหลักเกณฑ์การประกอบธรุ กจิ โรงแรม,” [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก: http://dspace.spu.ac.th, 2551. [สบื ค้นเมอ่ื 14 สงิ หาคม 2564] “กฎหมายธุรกิจโรงแรม,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: https.//www.a-lisa.net.ac.th. ม.ป.ป [สืบคน้ เมื่อ 14 สิงหาคม 2564] กมลชนก, “ธุรกจิ โรงแรม,” [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก : http://kamonchanok01. blogspot.com, 2560. [สืบค้นเมอ่ื 1 สิงหาคม 2564] “กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th. ม.ป.ป [สืบค้นเมือ่ 3 สงิ หาคม 2564] “ระบบบริหารจดั การโรงแรม,” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: https://thethinkwise.com. ม.ป.ป [สบื ค้นเม่อื 11 ตุลาคม 2564] “การจดั การงานแผนกตา่ ง ๆ,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: https:www.sites.google.com/site/sirinapampkott. ม.ป.ป [สืบค้นเมื่อ 11 ตลุ าคม 2564] “กลยุทธก์ ารจัดต้ังโรงแรมให้ยั่งยืน,” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.smeleader.com/7. ม.ป.ป [สบื ค้นเม่อื 10 ตุลาคม 2564] “กลยุทธ์การบรหิ ารจัดการภายในโรงแรม,” [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก: https://dtc.ac.th. ม.ป.ป [สืบค้นเม่ือ 15 สงิ หาคม 2564] “การขอใบอนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก: https://siamguru.com/th/. ม.ป.ป [สืบค้นเม่ือ 2 สิงหาคม 2564] “การขอใบอนญุ าตอาคารและสงิ่ ก่อสรา้ ง,” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://biz.govchannel.go.th/th/Home/Article/9. ม.ป.ป [สืบคน้ เมือ่ 6 สิงหาคม 2564] “การต่อใบอนญุ าตปิ ระกอบธรุ กิจโรงแรม,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก: https://enlistgroup.com. ม.ป.ป [สบื คน้ เม่ือ 14 สงิ หาคม 2564] “การแบ่งสายงานและระดับของการบริหารจัดการ,” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.doctortiotelthailand.com. ม.ป.ป [สืบคน้ เมอื่ 15 สิงหาคม 2564] “ความผิดเกยี่ วกับธรุ กิจโรงแรม,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: https://www.thaihotelbusiness.com/law-tax. ม.ป.ป [สบื ค้นเม่อื 10 ตุลาคม 2564]

38 “ความผิดเกย่ี วโรงแรมผิดกฎหมาย,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: http://www.thaihotelbusiness.com. ม.ป.ป [สืบคน้ เมอ่ื 14 สงิ หาคม 2564] ธุรกิจทพี่ ักแรม. “ธรุ กจิ ทีเ่ กี่ยวข้องกบั อุตสาหกรรมการทอ่ งเทย่ี ว,” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก: http://www.elfhs.ssru.ac.th/. ม.ป.ป [สบื คน้ เม่ือ 4 สิงหาคม 2564] ธุรกจิ โรงแรม. “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า,” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dbd.go.th/, 2554. [สบื ค้นเมื่อ 1 สงิ หาคม 2564] ธรรมรงณ์ ศรีรตั นลิ้ม. “Dr.Hotel Thailand,” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก: https://www.doctorhotelthailand.com/16770454/. ม.ป.ป [สบื คน้ เมอ่ื 8 กนั ยายน 2564] “ประเภทสถานประกอบการ,” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://www.safesiri.com/safety-of- factory/. ม.ป.ป [สบื คน้ เมอ่ื 6 สิงหาคม 2564] “พระราชบญั ญตั คิ วบคุมอาคาร,” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://web.krisdika.go.th/lawHeadContent. ม.ป.ป [สบื ค้นเมอ่ื 10 ตลุ าคม 2564] “พระราชบญั ญัติโรงแรม,” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก: http://www.bsa.or.th, 2547. [สืบค้นเม่อื 14 สิงหาคม 2564] รณภพ เวยี งสมี า. เอกสารประกอบการบรรยายกฎหมายโรงแรม. กรุงเทพฯ: สํานกั การสอบสวน และนติ ิการ กรมการปกครอง, 2550 “รูปแบบการบริหารจดั การธรุ กจิ โรงแรม,” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://so01.tci-thaijo.org. ม.ป.ป [สบื คน้ เม่ือ 15 สิงหาคม 2564] “ระบบการจดั การโรงแรม,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: https://ezeethailand.com. ม.ป.ป [สืบค้นเมอ่ื 15 สงิ หาคม 2564] “สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎา,” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก: https://www.krisdika.go.th. ม.ป.ป [สบื ค้นเมื่อ 3 สงิ หาคม 2564] “สำนกั งานคณะกรรมการคมุ้ ครองผ้บู ริโภค,” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก: https://www.ocpb.go.th/more_news.php?cid=289, 2564. [สืบคน้ เม่ือ 5 กนั ยายน 2564]




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook