Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทความรอบรู้ทางการพยาบาล

บทความรอบรู้ทางการพยาบาล

Published by Nokky buajaroen, 2021-12-19 08:38:33

Description: 226824-Article Text-852814-1-10-20200630 (1)

Search

Read the Text Version

การทบทวนความรทู้ างการพยาบาล ณ จุดเริ่มตน้ ส่ปู จั จุบนั เพือ่ การพฒั นาทีย่ งั่ ยืน Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development สริ ิรตั น์ จนั ทรมะโน วท.ม.* Siriratana Juntaranano, M.S.* พนู พลิ าศ โรจนสพุ จน์ พย.ม.** Poonpilat Rojanasupot, M.N.S.** พมิ คณภรณ์ ตระกูลต่อวงศ์ พย.ม.*** Pimkanabhon Trakooltorwong, M.N.S.*** Co-responding Authors: Email: [email protected] Received: 26 Nov 2019, Revised: 28 Mar 2020, Accepted: 3 Apr 2020 บทคดั ย่อ บทความน้มี ีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือเชิญชวนพยาบาลให้มีการทบทวนความร้ทู ซ่ี อ่ นเรน้ ใน วิชาชีพการพยาบาล และน�ำไปส่กู ารจัดการองคค์ วามรู้ตนเอง แล้วแสดงออกให้เหน็ ถงึ ความร้อู ัน ชัดแจ้งจากทฤษฎีส่ิงแวดล้อมของฟลอเรนซ์ไนติงเกลซึ่งเป็นทฤษฎีมรดกทางวิชาชีพ ท้ังการ พยาบาลขา้ งเตยี งโดยประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนการพยาบาล และการดแู ลสขุ ภาพแบบองคร์ วมของการ แพทย์พื้นบ้านไทยท่ีเกิดมาก่อนทฤษฎกี ารดแู ลทางวัฒนธรรมของเมดาลนิ เอ็ม ไลนินเจอร์ มาก ไปกว่าน้ันการปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่นับถือพุทธศาสน์ยึดหลักศีล สมาธิ ปัญญา และหลกั โยโสมนสกิ าร และครสิ ตศ์ าสนท์ ส่ี อนใหป้ ฏบิ ตั กิ บั ผอู้ นื่ ดว้ ยสตปิ ญั ญา โดยใชโ้ อกาสใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และทำ� ใหด้ ที สี่ ดุ เหมอื นทำ� ตอ่ องคพ์ ระผเู้ ปน็ เจา้ การพฒั นาสมองสองดา้ นในการใชช้ วี ติ ประจ�ำวันโดยการใช้งานของมือทั้งสองไปพร้อมกันการทบทวนความรู้ด้วยหัวใจนักปราชญ์ (สุ-จ-ิ ป-ุ ลิ) และการใชภ้ าษาตามหลกั ภาษาไทย จะชว่ ยใหก้ ารเขยี นผลงานเชงิ วิชาการมีความถูก ตอ้ ง ชดั เจนอยา่ งเปน็ รปู ธรรม สง่ ผลใหม้ กี ารสรา้ งพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (ผใู้ ฝเ่ รยี น-ผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลง-พลเมอื งทเี่ ขม้ แขง็ ) นำ� ไปสกู่ ารพฒั นาวชิ าชพี และสรา้ งนวตั กรรม ทางการพยาบาลได้อยา่ งย่งั ยืน ค�ำส�ำคัญ: การทบทวนความร้ทู างการพยาบาล การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืน * รองศาสตราจารย์ คณะพยาบาลศาสตรแ์ มคคอร์มิค มหาวิทยาลยั พายัพ E-mail: [email protected] * Assoc. Prof., McCormick Faculty of Nursing, Payap University ** อาจารย์พยาบาล คณะพยาบาลศาสตรแ์ มคคอรม์ คิ มหาวิทยาลัยพายพั E-mail: [email protected] ** Lecturer, McCormick Faculty of Nursing, Payap University *** อาจารยพ์ ยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชธานี อบุ ลราชธานี E-mail: [email protected] *** Lecturer, Faculty of Nursing, Ratchathani University, Ubon Ratchathani ปที ่ี 26 ฉบบั ท่ี 1 ประจำ�เดือน มกราคม-มถิ ุนายน 2563 27

การทบทวนความร้ทู างการพยาบาล ณ จุดเรม่ิ ต้นสูป่ ัจจบุ นั เพอ่ื การพฒั นาท่ยี ัง่ ยืน Abstract The purpose of this article is to invite nurses to review nurses’tacit knowledge, to conduct knowledge management and revealing in the process of explicit knowledge. In Florence Nightingale’s Environmental Theory which were cultural heritage pro- fessions, bedside nursing by applying the nursing process and holistic health care of Thai indigenous medicine that originated before the Leiningers’ theory of cultural care diversity and universality. Moreover, practicing in Buddhism; precepts, meditation, wisdom, and the Yonisomanasikara principle and practicing in Christians, teach them to act wisely with the opportunity to benefit and make the best as well as to Jesus. Developments both sides of the brain on daily life by using both hands at the same time, reviewing knowledge with a saint’s heart (Su-Chi-Pu-Li) and manipulation of language according to Thai principles can help the author to write academic articles correctly, clearly and concretely. These affect learning behaviors of learners in the 21st century (learners, co-creators and active citizens) as a way to professional develop- ment and sustainable nursing innovative. Keywords: Reviewing basic of nursing knowledge, Sustainable development บทนำ� เตรยี มการรบั มอื ใหด้ ี เพอื่ ใหท้ นั ตอ่ บรบิ ทโลกทเี่ ตม็ ไป ปจั จบุ นั ความเจรญิ กา้ วหนา้ ดา้ นเทคโนโลยแี ละ ดว้ ยการแขง่ ขนั และการเปลยี่ นแปลงอยา่ งกา้ วกระโดด นวตั กรรม เขา้ มามบี ทบาทสำ� คญั ในการพฒั นาประเทศ ดงั นนั้ เพอื่ เปน็ การพฒั นานวตั กรรม และสรา้ งขดี ความ รตมิ า คชนนั ทน1์ กลา่ ววา่ “‘การพฒั นานวตั กรรมไทย สามารถทางการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ในอนาคต รฐั บาล อยตู่ รงไหนในเวทโี ลก’ ขณะทกี่ ารขบั เคลอื่ นเศรษฐกจิ จงึ พจิ ารณา 9 ประเดน็ หลกั ไดแ้ ก่ 1) ใหค้ วามสำ� คญั กบั ดว้ ยนวตั กรรมไทย เพอื่ ไปสกู่ ารเปน็ ประเทศทพ่ี ฒั นา การศึกษาเยาวชนในรปู แบบการบูรณาการความร้ใู น และมรี ายไดส้ งู ภายในปี พ.ศ.2579 ตามยทุ ธศาสตรช์ าติ วิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คณิตศาสตร์ และ 20 ปนี น้ั จำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ทต่ี อ้ งเปน็ การขบั เคลอื่ นบนฐาน วศิ วกรรมศาสตร์ และเออื้ ใหก้ ารสรา้ งนวตั กรรมเขา้ มา นวตั กรรมทมี่ งุ่ เนน้ การเพม่ิ ศกั ยภาพการแขง่ ขนั และ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของหลกั สตู ร เพอ่ื สรา้ งบคุ ลากรทมี่ คี วาม สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ภาคการผลติ การคา้ และการ รู้ ความสามารถเพยี งพอทจี่ ะมสี ว่ นชว่ ยในการพฒั นา บรกิ าร เพอ่ื กระตนุ้ การเพมิ่ ผลผลติ ทม่ี คี ณุ ภาพ และ เทคโนโลยี และนวตั กรรมของประเทศไทยในระยะยาว สรา้ งงานทมี่ คี ณุ คา่ ซง่ึ เปน็ เงอื่ นไขสำ� คญั ในการเพมิ่ ขดี 2) เรง่ สง่ เสรมิ การพฒั นานวตั กรรมโดยการรว่ มสรา้ ง ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศอยา่ งยง่ั ยนื ใน นวัตกรรมกับภาคเอกชน 3) สนับสนุนการสร้าง อนาคต ลดปญั หาความเหลอ่ื มลำ้� และยกระดบั คณุ ภาพ นวตั กรรมทม่ี าจากภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ใหส้ ะทอ้ นความ ชวี ติ ของประชาชน รฐั บาลใหค้ วามสำ� คญั และดำ� เนนิ เปน็ อตั ลกั ษณท์ โ่ี ดดเดน่ และเปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม 4) การอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอื่ ใหส้ ามารถนำ� ไปสเู่ ปา้ หมายทว่ี าง มงุ่ เนน้ การสรา้ งเครอื ขา่ ยทเี่ ขม้ แขง็ ระหวา่ งสถาบนั การ ไว้ อยา่ งไรกต็ ามยงั มปี ระเดน็ ความสำ� คญั ของบรบิ ทโลก ศึกษา สถาบันวิจัย ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ในอนาคตท่ีจะเข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อ เอกชน และเครอื ขา่ ยวจิ ยั ตา่ งประเทศ 5) มมี าตรการ เศรษฐกจิ ไทย โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ แนวโนม้ เทคโนโลยี ดงึ ดดู และรกั ษาคนเกง่ ไวใ้ นองคก์ ร 6) สง่ เสรมิ และผลกั นวัตกรรม และสังคมผู้สูงอายุที่ประเทศไทยต้องรีบ ดนั การนำ� ผลการวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม 28 วารสารสมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development 7) เรง่ สง่ เสรมิ นวตั กรรมแบบเปดิ เชน่ การสรา้ งเมอื ง สุขลักษณะ คือ (1) มีอากาศถ่ายเทบริสุทธิ์ (2) น้�ำ อจั ฉรยิ ะ (Smart city) 8) มงุ่ เนน้ การสรา้ งนวตั กรรม สะอาด (3) การขจดั ของเสยี จากทอ่ ระบายตา่ ง ๆ และ สำ� หรบั สงั คมผสู้ งู อายุ และ 9) เรง่ พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื หอ้ งนำ้� (4) ความสะอาดภายในและภายนอกบา้ น และ ฐานอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื รองรบั นวตั กรรมในอนาคต” จาก (5) การเปดิ หนา้ ตา่ งและประตชู ว่ ยลดการตดิ เชอ้ื ได ้ 3) บทความนท้ี ำ� ใหท้ กุ สาขาวชิ าชพี ตอ้ งตน่ื ตวั พรอ้ มมกี าร การจดั การในหอผปู้ ว่ ย มคี วามสำ� คญั ตอ่ การวางแผน ปรบั เปลยี่ นการพฒั นาศกั ยภาพทง้ั การผลติ การคา้ และ การพยาบาล และการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดย การบรกิ าร โดยใชก้ ลไกการขบั เคลอื่ นบนฐานนวตั กรรม พยาบาลหวั หนา้ เวร (In-charge) ตอ้ งจดั การหอผปู้ ว่ ย ซงึ่ เปน็ การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความยง่ั ยนื ใหเ้ รยี บรอ้ ย 4) เสยี ง การพกั ผอ่ นเปน็ สงิ่ สำ� คญั ของผู้ มน่ั คง ป่วย พยาบาลต้องระวังกับเสียงท่ีรบกวนผู้ป่วย 5) วิชาชีพการพยาบาลเป็นศาสตร์ท่ีพยาบาล สภาพสง่ิ แวดลอ้ ม การนอนปว่ ยนาน ๆ ทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยเกดิ วชิ าชพี สามารถสรา้ งนวตั กรรมทางการพยาบาล เพอ่ื อาการซมึ เศรา้ การดแู ลจดั สงิ่ แวดลอ้ ม ปรบั เปลย่ี นรปู การดแู ลผปู้ ว่ ยโดยมผี ปู้ ว่ ยเปน็ ศนู ยก์ ลาง บทความนผ้ี ู้ แบบใหม่ ๆ ชว่ ยใหร้ า่ งกายสดชน่ื สง่ ผลตอ่ จติ ใจดขี น้ึ เขยี นตอ้ งการนำ� เสนอการใชแ้ นวคดิ ของการยอ้ นกลบั 6) การรับประทานอาหาร พยาบาลต้องรู้จักจัดการ ไปทบทวนความรู้ ณ จดุ เรมิ่ ตน้ สปู่ จั จบุ นั เพอ่ื การพฒั นา เรอื่ งอาหารใหเ้ หมาะสมกบั ผปู้ ว่ ย และเสรมิ กำ� ลงั ใจให้ ที่ย่ังยืน จากการทบทวนความรู้ท่ีซ่อนเร้นแห่งตน ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้อย่างเพียงพอกับความ (Tacit knowledge) พบวา่ ความรทู้ างการพยาบาลมี ตอ้ งการของรา่ งกาย 7) ประเภทอาหาร การจดั อาหาร อยมู่ ากมายหลากหลายศาสตร์ ทง้ั ทไ่ี ดน้ ำ� มาใช้ และไม่ ทม่ี คี ณุ คา่ บำ� รงุ กำ� ลงั ชว่ ยชดเชยสว่ นทสี่ กึ หรอ และชว่ ย ไดน้ ำ� มาใชใ้ นการประกอบวชิ าชพี ความรบู้ างอยา่ งจำ� เสริมก�ำลังกายให้แก่ผู้ป่วย 8) เตียงและเคร่ืองนอน ได้ แตบ่ างอยา่ งจำ� ไดไ้ มค่ รบถว้ น สว่ นทจี่ ำ� ไดบ้ างครง้ั ไม่ เตยี งตอ้ งสะอาดและมขี นาดไมก่ วา้ งเกนิ ไป (ชว่ ยใหก้ าร สามารถนำ� ไปใชไ้ ด้ หรอื ขาดแนวทางการนำ� ไปใชต้ อ่ ย พยาบาลขา้ งเตยี งไดส้ ะดวก) ไมค่ วรสงู เกนิ ไปทำ� ใหข้ น้ึ อด และอกี หลายประเดน็ ทขี่ าดการรวบรวมความคดิ ลงล�ำบาก และผ้าปูท่ีนอนสะอาดไม่เปียกชื้นช่วย เพอ่ื จดั การองคค์ วามรขู้ องตนเอง (Knowledge man- ปอ้ งกนั การเกดิ แผลกดทบั 9) แสงสวา่ ง หอ้ งมแี สงสวา่ ง agement; KM) และแลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ บั ผอู้ น่ื ผเู้ ขยี น เพยี งพอ ชว่ ยลดอบุ ตั เิ หตุ 10) ความสะอาดของหอ้ ง จงึ ขอเรยี งลำ� ดบั การยอ้ นกลบั ไปทบทวนความรู้ ณ จดุ และผนงั มแี สงแดดสอ่ งไดท้ ว่ั หอ้ ง มปี ระโยชนต์ อ่ การ เรมิ่ ตน้ สปู่ จั จบุ นั เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ในหลาย ๆ ดา้ น กำ� จดั เชอื้ โรค 11) ความสะอาดสว่ นบคุ คล การทำ� ความ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง สะอาดและดแู ลใหผ้ วิ สะอาด ชมุ่ ชนื่ อยเู่ สมอ ปอ้ งกนั ทฤษฎีสงิ่ แวดลอ้ มของฟลอเรนซไ์ นตงิ เกล การอดุ ตนั ของรขู มุ ขน และผปู้ ว่ ยรสู้ กึ สขุ สบาย 12) การ ฟลอเรนซ ์ ไนตงิ เกล (ค.ศ.1820-1910) เปน็ ผใู้ ห้ สนทนาใหก้ ำ� ลงั ใจและใหค้ ำ� แนะนำ� เปน็ การใหค้ วามรู้ ก�ำเนิดวิชาชีพการพยาบาล ทฤษฎีส่ิงแวดล้อมของ ในการดแู ลสขุ ภาพ และการเจรจาพดู คยุ ใหผ้ ปู้ ว่ ยเกดิ ฟลอเรนซไ์ นตงิ เกล ถอื วา่ เปน็ ทฤษฎมี รดกทางวชิ าชพี ความรู้สึกสบายใจ และ 13) การสังเกตอาการป่วย และเปน็ ทฤษฎที างการพยาบาลแนวใหม ่ Nightingale2 พยาบาลจะเปน็ ผทู้ ชี่ า่ งสงั เกต เรยี กวา่ “การประเมนิ ” บรรยายถงึ มโนทศั นก์ ารพยาบาลไว้ ดงั น้ี 1) การระบาย ซงึ่ เปน็ ขน้ั ตอนแรกของกระบวนการพยาบาล อากาศและความอบอนุ่ อากาศบรสิ ทุ ธผ์ิ า่ นทางหนา้ ตา่ ง แนวคิดย้อนกลับไปคิดทบทวนความรู้ด้าน สว่ นอากาศเสยี ผา่ นทางประตู ผปู้ ว่ ยหายจากโรค เพราะ การพยาบาลตามทฤษฎกี ารพยาบาลของไนตงิ เกล พยาบาลใหก้ ารดแู ลเอาใจใสอ่ ยา่ งใกลช้ ดิ โดยเฉพาะผู้ ทฤษฎกี ารพยาบาลของไนตงิ เกล เนน้ สงิ่ แวดลอ้ มของ ป่วยท่ีอ่อนเพลีย 2) สุขลักษณะของบ้าน บ้านท่ีถูก ผปู้ ว่ ยเปน็ สำ� คญั การพยาบาลเปน็ การจดั สงิ่ แวดลอ้ ม ทีด่ ที ่ีสดุ ให้กับผปู้ ่วย เพอื่ ใหธ้ รรมชาตไิ ดม้ ีส่วนช่วยให้ ปีท่ี 26 ฉบับท่ี 1 ประจ�ำ เดือน มกราคม-มถิ นุ ายน 2563 29

การทบทวนความรู้ทางการพยาบาล ณ จดุ เร่มิ ตน้ สปู่ ัจจบุ ันเพอ่ื การพัฒนาที่ยัง่ ยืน ผปู้ ว่ ยหายเรว็ ขนึ้ การปฏิบตั ิการพยาบาลตามทฤษฎี อยเู่ สมอ สวมใสเ่ สอื้ ผา้ ทสี่ ะอาด ไมอ่ บั ชนื้ และใหอ้ บอนุ่ นี้จะตอ้ งท�ำรว่ มกบั หลกั การทางสาธารณสขุ ด้วย การ พียงพอ 2) รักษาฟันให้แข็งแรง แปรงฟันอย่างน้อย ปรับปรุงภาวะสุขภาพของทหารในประเทศอังกฤษ วนั ละ 2 ครง้ั เชา้ และกอ่ นนอน 3) ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดกอ่ น จดั การสภาพแวดลอ้ ม และการสขุ าภบิ าล และวิธีใช้ รบั ประทานอาหาร และหลงั การขบั ถา่ ย 4) รบั ประทาน หลกั การทางสถติ ิ พบวา่ อตั ราการตายของทหารลดลง อาหารสกุ สะอาด ดม่ื นำ้� สะอาดอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 8 แกว้ จากรอ้ ยละ 42 เหลอื รอ้ ยละ 2 ซง่ึ เปน็ การปฏบิ ตั งิ านท่ี 5) งดสบู บหุ รี่ สรุ า สารเสพตดิ การพนนั และการสาํ สอ่ น มผี ลลดอตั ราการตายโดยมสี ถติ อิ า้ งองิ เปน็ รปู ธรรมเชน่ ทางเพศ 6) สรา้ งความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั ใหอ้ บอนุ่ 7) เดยี วกบั สถานการณก์ ารระบาดของโรค COVID-19 ใน ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตดุ ว้ ยความไมป่ ระมาท 8) ออกกาํ ลงั กาย ปจั จบุ นั ทก่ี ารระบาดมกี ารแพรก่ ระจายจากบคุ คลหนง่ึ สมำ่� เสมออยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 3 ครงั้ 9) ทาํ จติ ใจให้ สอู่ กี คนอยา่ งรวดเรว็ แตด่ ว้ ยการคำ� นงึ ถงึ หลกั ระบาด รา่ เรงิ แจม่ ใสอยเู่ สมอ พกั ผอ่ น นอนหลบั ใหเ้ พยี งพอ และ วทิ ยา และหลกั การจดั สงิ่ แวดลอ้ ม ทำ� ใหก้ ารระบาดลด มองโลกในแงด่ ี 10) มสี าํ นกึ ตอ่ สว่ นรวม รว่ มสรา้ งสรรค์ ลง มแี นวทางในการควบคมุ การระบาดดขี น้ึ และเมอื ง สงั คม ใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยดั อนรุ กั ษแ์ ละพฒั นา ซง่ึ เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ ของโรคสามารถระงบั การระบาดได้ สง่ิ แวดลอ้ ม ทฤษฎนี มี้ สี าระสำ� คญั ในการสง่ เสรมิ การพกั โดยหลักระบาดวิทยา และหลักการจัดสิ่งแวดล้อมท่ี ผอ่ นนอนหลบั และความสขุ สบายของผปู้ ว่ ย สอดคลอ้ ง สำ� คญั คอื ตวั คน (Host) สงิ่ ทที่ ำ� ใหเ้ กดิ โรค (Agent) กบั งานวจิ ยั ของนงลกั ษณ์ ทศั นเกต8ุ พบวา่ ความเจบ็ และสง่ิ แวดลอ้ ม (Environment)3 ในสว่ นของตวั คน มี ปวดเปน็ ปจั จยั ดา้ นรา่ งกายทสี่ ง่ ผลตอ่ การนอนหลบั มาก การใชม้ าตรการในการคดั กรองผเู้ จบ็ ปว่ ยและผไู้ ดร้ บั เชอื้ ทสี่ ดุ และเสยี งเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทเี่ กดิ ขน้ึ ในขณะนอนโรง อยา่ งรวดเรว็ การแยกผปู้ ว่ ย การปอ้ งกนั บคุ คลทว่ั ไปไม่ พยาบาล แหลง่ ของเสยี งทพ่ี บบอ่ ยทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ เสยี งที่ ใหไ้ ดร้ บั เชอ้ื ดว้ ยมาตรการลดการสมั ผสั ทางกายกบั ผอู้ น่ื เกดิ จากกจิ กรรมการพยาบาลดแู ลผปู้ ว่ ยของพยาบาล งดการชมุ นมุ การลา้ งมอื บอ่ ย ๆ ไมส่ มั ผสั ใบหนา้ และ ทง้ั ทางตรง และทางออ้ ม เปน็ ปจั จยั ทรี่ บกวนการนอน รบั ประทานอาหารรอ้ น ในสว่ นของสงิ่ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ โรค มี หลับของผู้ป่วยหลังผ่าตัดในระดับมาก เสียงอุปกรณ์ การทดลองในหลายประเทศเกย่ี วกบั การใชย้ าทสี่ ามารถ การแพทย์ เชน่ เครอ่ื งคำ� นวณหยดนำ�้ เกลอื เครอื่ งชว่ ย ยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โตของเชอ้ื โรคได้ การปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ หายใจ สภาพแวดล้อม ได้แก่ เสยี งรบกวนจากผ้ปู ว่ ย ผไู้ ดร้ บั เชอื้ มกี ารแพรก่ ระจายเชอื้ สผู่ อู้ น่ื และในดา้ นสง่ิ อนื่ เสียงจากเจา้ หนา้ ที่ เสียงโทรศพั ท์ การถูกรบกวน แวดลอ้ ม มกี ารลา้ งทำ� ความสะอาดพนื้ ผวิ หอ้ ง การดแู ล จากแสงไฟ (ทำ� ใหก้ ารรบั รคู้ วามแตกตา่ งของกลางวนั ส่ิงแวดล้อมให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดด และกลางคนื ลดลง) และไมม่ คี วามเปน็ สว่ นตวั จากการ สอ่ งถงึ 4 นอนรวมกับผูอ้ ื่น จากทฤษฎกี ารพยาบาลของฟลอเรนซ์ จงึ ไดร้ บั ในสว่ นของบทบาทของพยาบาลวชิ าชพี สริ ริ ตั น์ การยกยอ่ งวา่ “เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ การวจิ ยั ทางการพยาบาล”5 จนั ทรมะโน9 กลา่ ววา่ บทบาทหนา้ ทพ่ี ยาบาลเปรยี บ จนกระท่ังในเวลาต่อมาได้รับการยกย่องจากสมาคม เทยี บใหเ้ หน็ ภาพทที่ ำ� ใหเ้ ขา้ ใจงา่ ย คอื บทบาทของแม่ สถติ โิ ลกวา่ เปน็ “มารดาแหง่ สถติ ชิ พี (Mother of Vital หมอ (ตอ้ งมคี วามรเู้ รอ่ื งโรค และการดแู ลชว่ ยเหลอื ) Statistics)” และไดร้ บั เกยี รตใิ หเ้ ปน็ สมาชกิ กติ ตมิ ศกั ด์ิ แมพ่ ระ (ตอ้ งมบี คุ ลกิ ภาพ นา่ เชอ่ื ถอื อบอนุ่ ไวใ้ จ พงึ่ พา ของสมาคม6 ทฤษฎีส่ิงแวดล้อมของฟลอเรนซ์ไนติง ไดเ้ มอ่ื เจบ็ ปว่ ย) แมน่ ม (เปน็ ผทู้ ใ่ี หก้ ารดแู ลเอาใจใสผ่ ู้ เกลน้ี เปน็ การแสดงบทบาทอสิ ระของพยาบาลอยา่ ง ปว่ ยเปน็ อยา่ งดดี จุ ญาตขิ องตน) แมค่ รู (เปน็ ผใู้ หค้ วามรู้ แทจ้ รงิ สอดคลอ้ งกบั หลกั สขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาต7ิ ไดแ้ ก่ 1) และค�ำแนะน�ำในการปฏิบัติตัวและการดูแลสุขภาพ การดแู ลรกั ษารา่ งกาย อาบนำ�้ ทกุ วนั วนั ละ 1 ครงั้ สระ ตนเองและครอบครวั ) และแมบ่ า้ น (เปน็ ผดู้ แู ลสารทกุ ข์ ผมอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 2 ครง้ั ตดั เลบ็ มอื เลบ็ เทา้ ใหส้ นั้ สุกดิบในช่วงที่นอนรักษาตัวจ�ำหน่ายออกจาก 30 วารสารสมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนอื

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development โรงพยาบาล) การเลือกใช้ศาสตร์ของการดูแลสขุ ภาพ อยา่ งไรกต็ ามในการใหก้ ารพยาบาลผปู้ ว่ ยในยคุ ปจั จบุ นั แบบทางเลือกต่อการพักผ่อนและการนอนหลับของ นี้ สง่ิ สำ� คญั คอื การยดึ การดแู ลแบบองคร์ วม เนน้ ผปู้ ว่ ย ผปู้ ่วย สอดคลอ้ งจนิ ดารตั น์ ชยั อาจ10 ทำ� การทบทวน เป็นศูนย์กลางและต้องใส่ใจในความหลากหลายและ วรรณกรรมอยา่ งเปน็ ระบบ (Systematic review) พบ แตกต่างทางวัฒนธรรมของผู้ป่วยด้วย เพราะว่า วา่ การสง่ เสรมิ การนอนหลบั แบง่ ออกเปน็ สขุ บญั ญตั ิ วฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ งกนั ทำ� ใหม้ คี วามตอ้ งการการดแู ลที่ การนอนหลบั การกดจดุ การผอ่ นคลาย การนวด การ แตกตา่ งกนั ไป ใชด้ นตรี และการใชเ้ สยี ง หรอื ภาพธรรมชาติ และสคุ นธ ทฤษฎีการดูแลทางวฒั นธรรมของเมดาลนิ เอม็ ไล บำ� บดั นอกจากนผี้ ลงานวจิ ยั ของสริ ริ ตั น์ จนั ทรมะโน11 นนิ เจอร์ (Madeleine M. Leininger’s) พบว่า การท�ำสมาธิด้วยพลังจิตและพลังพีระมิดช่วย ทฤษฎีการดูแลทางวัฒนธรรมของเมดาลิน ลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดใหญ่ได้ โดยกลุ่ม เอม็ ไลนนิ เจอร์ (Madeleine M. Leininger’s) ในปี ทดลองมีระดับความเจบ็ ปวดต�่ำกวา่ และกลุ่มควบคุม ค.ศ.1950 ทฤษฎนี ไี้ ดพ้ ฒั นาเรอื่ ยมาจนเปลยี่ นชอ่ื เปน็ อย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ เม่ือความปวดลดลง ทฤษฎีการดูแลเชิงวัฒนธรรมท่ีหลากหลายและเป็น คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น สากล (Leininger’s theory of cultural care diver- จากผลงานวจิ ยั ทมี่ ากลา่ วขา้ งตน้ พบวา่ เปน็ การ sity and universality)12 ไลนนิ เจอร์ ไดก้ ลา่ วถงึ ขอ้ น�ำความรู้ที่พยาบาลวิชาชีพมีอยู่เป็นทุนเดิม มาต่อ ตกลงเบอ้ื งตน้ ของทฤษฎนี ี้ ดงั นี้ 1) การดแู ลเปน็ แกน่ ยอดความรโู้ ดยผา่ นการทำ� วจิ ยั เพอ่ื ใหม้ คี วามนา่ เชอื่ ถอื แทใ้ นความสำ� คญั ของการพยาบาล และมคี วามแตกตา่ ง ในเชงิ วชิ าการ พบวา่ การจดั การสง่ิ แวดลอ้ มใหส้ ะอาด มจี ดุ เดน่ และการเปน็ ศนู ยก์ ลางและมคี วามมงุ่ หวงั เขา้ สอดคล้องกับการปฏิบัติตามสุขบัญญัติท่ีทราบกันมา รวมดว้ ยกนั ทง้ั หมด 2) การดแู ลเปน็ ความสำ� คญั ทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งแตว่ ยั เยาว์ และสอดคลอ้ งกบั การสง่ เสรมิ การนอน เพอื่ การมสี ขุ ภาพดี ความสมบรู ณแ์ ขง็ แรง และเผชญิ หลบั ของผปู้ ว่ ย เปน็ การปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลในบทบาท ชวี ติ หรอื ความตายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3) การดแู ลเชงิ อสิ ระโดยใชก้ ระบวนการพยาบาลเปน็ เครอื่ งมอื ในการ วัฒนธรรมเป็นการเรียนรู้ในความหมายของการดูแล ปฏบิ ตั ิ ทำ� ใหก้ ารพยาบาลมปี ระสทิ ธภิ าพ เกดิ ประโยชน์ สขุ ภาพแบบองคร์ วม และนำ� ปรากฏการณค์ วามเปน็ ตวั สงู สดุ ตอ่ ผใู้ ชบ้ รกิ าร เพราะพยาบาลมเี อกสทิ ธใิ์ นวชิ าชพี ตนของผทู้ ตี่ อ้ งการไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื มาเปน็ แนวทาง ของตน โดยเฉพาะกระบวนการดแู ลผปู้ ว่ ยจากกจิ กรรม ในการปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล 4) การพยาบาล เปน็ การดแู ล การพยาบาลขา้ งเตยี ง (Bedside nursing care) ซง่ึ เปน็ ท่ีให้ความเห็นอกเห็นใจแบบข้ามวัฒนธรรม และ หัวใจส�ำคัญของการพยาบาลเพื่อการดูแลความสุข เปน็ การดแู ลดว้ ยหลกั การของวทิ ยาศาสตร์ 5) การดแู ล สบาย และสขุ อนามยั ประจำ� วนั ไดแ้ ก่ การทำ� ความ เปน็ สงิ่ จำ� เปน็ ตอ่ การรกั ษา เยยี วยาใหห้ ายจากความเจบ็ สะอาดรา่ งกาย และการสระผม จากประสบการณข์ อง ปว่ ย การรกั ษาจะไมส่ มั ฤทธผ์ิ ลหากปราศจากซง่ึ การได้ ผู้เขียนการนิเทศบนคลินิกในวิชาปฏิบัติการพยาบาล รบั การดแู ล 6) แนวคดิ การดแู ลเชงิ วฒั นธรรม ประกอบ พน้ื ฐาน พบวา่ การสระผมผปู้ ว่ ยบนเตยี งแบบเดมิ ๆ ดว้ ย ความหมาย พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก กระบวนการ อาจมีความยุ่งยากในการปฏิบัติ เช่น น้�ำท่ีใช้หก กระทำ� และโครงสรา้ งของการดแู ล ซง่ึ มคี วามหลาก เลอะเทอะ ผา้ ยางรองสระผมทตี่ อ้ งทำ� และเกบ็ ทกุ ครง้ั หลาย และมคี วามเหมอื นกนั ทา่ มกลางทกุ วฒั นธรรมบน ผเู้ ขยี นจงึ ไดน้ ำ� นวตั กรรม “รถสระผมผปู้ ว่ ยเคลอื่ นท”่ี โลกใบนี้ 7) วฒั นธรรมของมนษุ ยท์ กุ เชอื้ ชาตเิ ปน็ การ มาประยกุ ตใ์ ชบ้ รกิ ารสระผมผปู้ ว่ ยบนเตยี งซงึ่ มวี ธิ กี าร ปฏบิ ตั โิ ดยทวั่ ไป การวางรากฐาน การดแู ลพน้ื บา้ นหรอื ปฏบิ ตั งิ า่ ยและสะดวกมากขนึ้ ไมย่ งุ่ ยากเหมอื นวธิ เี ดมิ ศาสตรพ์ น้ื บา้ น ทง้ั ความรแู้ ละการปฏบิ ตั ซิ งึ่ แตกตา่ งกนั ทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยสมั ผสั ไดถ้ งึ ความสขุ สบาย รถเขน็ ฯ นผ้ี ดู้ แู ล ไปตามบรบิ ทวฒั นธรรมของชมุ ชน 8) คา่ นยิ มของการ และญาตสิ ามารถใชส้ ระผมใหผ้ ปู้ ว่ ยบนเตยี งไดเ้ ชน่ กนั ปีที่ 26 ฉบบั ที่ 1 ประจำ�เดอื น มกราคม-มิถุนายน 2563 31

การทบทวนความรู้ทางการพยาบาล ณ จุดเริ่มตน้ สูป่ ัจจุบนั เพ่อื การพฒั นาทีย่ ่ังยนื ดแู ลเชงิ วฒั นธรรมเปน็ ความเชอื่ และการปฏบิ ตั ิ ซงึ่ ได้ เช่ือกันว่า ครูจะอวยพรให้มีปัญญาแกร่งกล้าเพ่ิมขึ้น รบั อทิ ธพิ ลจาก ภาษา ศาสนา (จติ วญิ ญาณ) เครอื ญาติ และน�ำความรู้นัน้ ไปใช้สอนลกู ศิษย์ของตนไดส้ มั ฤทธิ์ (สังคม) การเมือง (กฎหมาย) การศึกษา เศรษฐกิจ ผล วิธีการรักษาด้านร่างกายสอดคล้องกับการรักษา เทคโนโลยี ชาตพิ นั ธว์ุ ทิ ยา และการมสี ว่ นรว่ มของบรบิ ท ของศลั ยแพทยอ์ อรโ์ ธปิดิกส์ แตแ่ ตกตา่ งกนั ท่วี ัสดใุ น ทางวัฒนธรรม 9) การมีสุขภาพแข็งแรง และความ การดามกระดูกหัก และใช้วิธีการเยียวยารักษาด้าน พงึ พอใจทสี่ อดคลอ้ งกบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ตามวฒั นธรรม จิตวิญญาณ สรุปว่าวิธีการเยียวยารักษาด้านจิต นนั้ ขน้ึ อยกู่ บั การพยาบาลทเ่ี ลอื กสรรในการดแู ลสขุ ภาพ วิญญาณนนั้ น�ำมาประยกุ ตใ์ ช้กบั วชิ าชีพการพยาบาล ต่อตนเอง ครอบครัว เพื่อน และชุมชน ให้มีความ โดยมีข้อเสนอแนะว่า การดูแลสุขภาพด้วยการผสม สุขภาพดีและมีความสุข ภายใต้บริบทของสภาพ ผสานภูมิปัญญาไทยร่วมกับการพยาบาลจะช่วยให้ แวดลอ้ ม 10) การดแู ลทส่ี อดคลอ้ งกบั วฒั นธรรมอยา่ ง ผปู้ ว่ ยมคี ณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ที ง้ั ดา้ นรา่ งกายและจติ วญิ ญาณ ลงตวั 11) ความแตกตา่ งของการดแู ลเชงิ วฒั นธรรม นอกจากนก้ี ารใชห้ ลกั คมั ภรี ศ์ าสนาเพอื่ การ และความเหมอื นกนั ระหวา่ งผดู้ แู ลมอื อาชพี และผคู้ น ดูแลจิตวิญญาณของคริสตชน คือ ถ้อยค�ำของพระ ทว่ั ไป ยงั คงมอี ยใู่ นวฒั นธรรมของมนษุ ย์ 12) ผปู้ ว่ ยเปน็ ผเู้ ปน็ เจา้ ดลใจใหม้ นษุ ยบ์ นั ทกึ ไว้ แมจ้ ะมคี วามเกา่ แก่ ผมู้ ปี ระสบการณจ์ ากการไดร้ บั การพยาบาลทล่ี ม้ เหลว หากแต่มีสาระท่ีเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ทุกด้านและ สอดคลอ้ งกบั ความเชอื่ คา่ นยิ ม และการดแู ลสขุ ภาพ คงความทันสมัย อธิบายได้ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ ตามวถิ ชี วี ติ แหง่ ตน และ 13) กระบวนทศั นข์ องการดแู ล สาระหลักซ่ึงตอบสนองต่อความต้องการด้านจิต สขุ ภาพทมี่ คี ณุ ภาพ เปน็ วธิ กี ารใหมท่ มี่ คี วามแตกตา่ งกนั วญิ ญาณของมนษุ ย์ ไดแ้ ก่ ความตอ้ งการความรกั แบบ ซึ่งเกี่ยวกับญาณวิทยา (Epistemic) และภววิทยา ไมม่ เี งอ่ื นไข การไดร้ บั การอภยั ความหวงั ในชวี ติ หลงั ค (Ontological) ของการดแู ลสขุ ภาพขา้ มวฒั นธรรม วามตายหรือภราดรภาพ ความต้องการท่ีพึ่งอัน ประเสริฐ ความหมายและเป้าหมายในชีวิตซึ่งส่งผล แนวคดิ ยอ้ นกลบั ไปคดิ ทบทวนการดแู ลสขุ ภาพตาม ให้บุคคลที่ยึดเหนี่ยวศรัทธาได้รับการตอบสนองต่อ ทฤษฎกี ารดูแลทางวัฒนธรรมของไลนินเจอร์ ความต้องการทางจิตวิญญาณท�ำให้เกิดความผาสุก แนวคิดย้อนกลับไปคิดทบทวนการดูแล สงบ สว่ นสาระทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การสง่ เสรมิ สขุ ภาพและ สขุ ภาพ นบั ตง้ั แตท่ ฤษฎขี อง Leininger จนถงึ ปจั จบุ นั การป้องกันโรค ท่ีท�ำให้มนุษย์ปลอดภัยจากการแพร่ เป็นเวลาเกือบ 70 ปเี ทา่ นน้ั แตก่ ารดแู ลสุขภาพของ ระบาดของโรค อนั ตรายจากการตดิ เช้อื สง่ เสริมให้มี คนไทยด้วยศาสตร์พื้นบ้านนั้นมีมาตั้งแต่โบราณนับ สุขภาพที่ดี เม่ือศึกษาหลักธรรมของศาสนาคริสต์ ร้อย ๆ ปี ผ่านการด�ำเนินชีวิตตามบริบทประเพณี อยา่ งลกึ ซงึ้ ทำ� ใหเ้ ขา้ ใจบรบิ ททางสงั คมวฒั นธรรมของ วฒั นธรรมของไทย เปน็ มรดกทางวฒั นาธรรมทสี่ ง่ ตอ่ ครสิ ตชน และคน้ พบหลกั การทส่ี ามารถนำ� มาใชใ้ หเ้ กดิ รนุ่ สรู่ นุ่ สอดคล้องกับงานวจิ ยั ของสิรริ ตั น์ จันทรมะ ประโยชน์ต่อสังคมวงกว้างในปัจจุบันสมัยได้14 โน เจนระวี สว่างอารีย์รักษ์ และธนิดา ขุนบุญ ฟลอเรนซไ์ นตงิ เกล เปน็ ครสิ ตชนผหู้ นงึ่ ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ จนั ทร1์ 3 ทศ่ี กึ ษาภมู ปิ ญั ญาของหมอพน้ื บา้ นไทยในการ ประจักษ์ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ในจิตวิญญาณของผู้น�ำ เยียวยารักษาด้านจิตวิญญาณของผู้ป่วยกระดูกหัก ทางการพยาบาล อันเปน็ ทม่ี าของการสร้างสรรค์งาน พบว่า ภูมิปัญญาของหมอพ้ืนบ้านไทยได้รับการ อนั ทรงคณุ คา่ ตอ่ มวลมนษุ ยชาติ การลดอตั ราการตาย สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ครูผู้ล่วงลับ และสัมผัสท่ี ของทหารซ่ึงบาดเจ็บจากการสู้รบในสงครามไครเมีย หก จงึ ทำ� ให้ไม่มีต�ำราเรยี น ใช้การสอนแบบตวั ตอ่ ตวั ที่พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลทหารที่ สะคูตารี ใน ดว้ ยการจดจำ� ความรู้ หมอพนื้ บา้ นไทยตอ้ งทำ� พธิ ไี หว้ ประเทศตุรกี การดูแลช่วยเหลือทหารวันละ 20 ครูประจ�ำปี ซ่ึงเป็นการแสดงความเคารพต่อครูโดย ช่ัวโมง จนได้รับสมญานามว่าเป็น “สตรีแห่งดวง 32 วารสารสมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนอื

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development ประทปี ” (The lady with the lamp) เมอื่ สงคราม ความแขง็ แกรง่ ดา้ นจิตวิญญาณ (Spirituality) อยใู่ น สงบลงใน ปี ค.ศ.1856 ไดเ้ ดนิ ทางกลบั ประเทศองั กฤษ ตัวด้วย” เมื่อตนเองมีจิตวิญญาณท่ีแข็งแกร่งจึงจะ และทำ� การเปดิ โรงเรยี นพยาบาลไนตงิ เกลขน้ึ เปน็ แหง่ สามารถดแู ลจติ วญิ ญาณของผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งเขม้ แขง็ แรก นบั เปน็ การเปลยี่ นแปลงการพยาบาลในขณะนนั้ การจดั การเรยี นการสอนเพอื่ สรา้ งผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะ จากอาชีพท่ีคนมองไม่เห็นคุณค่ามาเป็นวิชาชีพที่มี ในศตวรรษที่ 21 โดยบรู ณาการคำ� สอนในศาสนาพทุ ธ มาตรฐานในการปฏบิ ตั โิ ดยมเี ปา้ ประสงคท์ สี่ ำ� คญั ในการ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกระทรวง ชว่ ยเหลอื เยยี วยา และปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลบนพนื้ ฐาน ศกึ ษาธกิ าร เรอ่ื ง มาตรฐานการอดุ มศกึ ษา พ.ศ.256117 ความรทู้ ดี่ ี รวมทงั้ ใหก้ ารดแู ลแบบองคร์ วม เปน็ การตอบ ระบุว่า มาตรฐานการอุดมศึกษา ประกอบด้วย สนองความตอ้ งการของผปู้ ว่ ยทง้ั ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ มาตรฐาน 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ มาตรฐานท่ี 1 ดา้ นผลลพั ธผ์ ู้ และจิตวิญญาณ เป็นการพยาบาลที่ยังใช้ได้ดีถึงใน เรยี น 1.1) เปน็ บคุ คลทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถ และความ ปจั จบุ นั แมว้ า่ จะผา่ นมาเกอื บสองรอ้ ยปแี ลว้ กต็ าม6 รอบรดู้ า้ นตา่ ง ๆ ในการสรา้ งสมั มาอาชพี ความมนั่ คง การดแู ลสขุ ภาพดา้ นจติ วญิ ญาณ สอดคลอ้ ง และคณุ ภาพชวี ติ ของตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน และ กบั อไุ ร หถั กจิ และวารรี ตั น์ ถานอ้ ย15ทกี่ ลา่ ววา่ “การ สังคม มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเป็นผู้มี พยาบาลองค์รวมมีโลกทัศน์ต่อบุคคลอย่างเป็นองค์ คณุ ธรรม ความเพยี ร มงุ่ มน่ั มานะ บากบน่ั และยดึ มน่ั รวม โดยใหค้ วามสำ� คญั กบั การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การ ในจรรยาบรรณวิชาชีพ (Leaner) 1.2) เป็นผู้ร่วม เยียวยา และความผาสกุ ของบคุ คล สง่ เสรมิ การใช้ทั้ง สรา้ งสรรคน์ วตั กรรม มที กั ษะศตวรรษที่ 21 มคี วาม การแพทย์แผนปัจจุบัน การดูแลสุขภาพแบบผสม สามารถในการบรู ณาการศาสตรต์ า่ ง ๆ เพอื่ พฒั นาหรอื ผสาน รวมทง้ั การบูรณาการประสบการณ์ของบุคคล แกไ้ ขปญั หาสงั คม มคี ณุ ลกั ษณะความเปน็ ผปู้ ระกอบ สู่การดูแลสุขภาพ ดว้ ยเหตนุ ีก้ ารพยาบาลองค์รวมจงึ การ รเู้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลงของสงั คมและของโลก สามารถตอบสนองความตอ้ งการดา้ นสขุ ภาพองคร์ วม สรา้ งโอกาสและเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั ตนเอง ชมุ ชน สงั คม ของบุคคลอย่างครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านกาย จิต และประเทศ (Co-creator) และ 1.3) เปน็ พลเมอื งที่ สังคมและจิตวิญญาณ ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นว่า เขม้ แขง็ มคี วามกลา้ หาญทางจรยิ ธรรม ยดึ มน่ั ในความ พยาบาลยงั ประสบปญั หาในการใหก้ ารพยาบาลแบบ ถกู ตอ้ ง รคู้ ณุ คา่ และรกั ษค์ วามเปน็ ไทย รว่ มมอื รวมพลงั องคร์ วมหลายประการ เชน่ การขาดความเขา้ ใจเกยี่ ว เพอื่ สรา้ งสรรคก์ ารพฒั นาและเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ขุ อยา่ ง กับแนวคิดขององค์รวมและจิตวิญญาณรวม ทั้งการ ยง่ั ยนื ทงั้ ในระดบั ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประชาคม ศึกษาที่เตรียมพยาบาลด้านนี้อาจยังไม่เพียงพอ โลก (Active citizen) สอดคลอ้ งกับทศั นีย์ ทองประทปี 16 กล่าววา่ “วชิ าชพี แนวคดิ ยอ้ นกลบั ไปคดิ ทบทวนการจดั การเรยี น พยาบาล เป็นวิชาชีพท่ีสร้างคุณประโยชน์ให้กับทุก การสอน เพอ่ื สรา้ งผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะในศตวรรษท่ี 21 สังคมทั่วโลกมาเป็นเวลาช้านาน เพราะพยาบาลท�ำ โดยบรู ณาการคำ� สอนในศาสนาพทุ ธ ดงั น้ี “ไตรสกิ ขา” หน้าท่ีในการดูแลสุขภาพและการเจ็บป่วยของ ในหลกั คำ� สอนของพระพทุ ธศาสนา หมายถงึ ขอ้ ทต่ี อ้ ง ประชาชนในทุกวัยตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งวาระ ศึกษาปฏิบัติ เป็นกระบวนการปฏิบัติเพื่อการพัฒนา สดุ ทา้ ยของชวี ติ และจติ วญิ ญาณเปน็ มติ หิ นงึ่ ของการ แบบบรู ณาการ 3 ข้อ คอื “ศีล” หมายถงึ การฝึกฝน พยาบาล” และพนิ จิ รตั นกลุ (อา้ งในทศั นยี ์ ทองประทปี ) พฒั นาพฤตกิ รรมทางกาย และวาจาในการสมั พนั ธก์ บั 16 กลา่ ววา่ “ผูท้ ่สี ามารถใหก้ ารดูแลดา้ นจติ วิญญาณ สง่ิ แวดลอ้ มทางวัตถุ และทางสงั คม ด้วยตา หู จมูก (Spiritual care) แก่ผู้ป่วยได้ดีที่สุด นอกจากเป็นผู้ ลิ้น กาย วาจา “สมาธ”ิ หมายถึง การฝกึ ฝนพฒั นา สามารถผสมผสานแนวคิด และวธิ ปี ฏบิ ัตขิ องศาสนา ดา้ นจติ ใจโดยการปลกู ฝงั คณุ ธรรม สรา้ งเสรมิ คณุ ภาพ ตา่ ง ๆ กับวธิ ีการทางการแพทยแ์ ล้ว ยังตอ้ งเป็นผทู้ มี่ ี ปที ่ี 26 ฉบบั ท่ี 1 ประจำ�เดอื น มกราคม-มถิ นุ ายน 2563 33

การทบทวนความร้ทู างการพยาบาล ณ จุดเรม่ิ ต้นสู่ปจั จบุ ันเพอื่ การพฒั นาท่ีย่ังยืน สมรรถภาพ และสุขภาพของจิตใจ การพัฒนาจิตใจ (3) การหาความถกู ตอ้ ง เมอ่ื ทำ� ซำ้� แลว้ จะหาความถกู ซึ่งเป็นฐานของการแสดงพฤติกรรมทุกอย่าง ตอ้ งในการปฏบิ ตั ิ (4) การกระทำ� อย่างตอ่ เนอ่ื ง เมอ่ื “ปญั ญา” หมายถงึ การฝกึ ฝนดา้ นปญั ญา เพอื่ ใหเ้ กดิ เลอื กรปู แบบทเ่ี ปน็ ของตวั จะทำ� ตามรปู แบบนนั้ อยา่ ง ความรู้ ความเข้าใจต่อทุกสิ่งที่เป็นจริง รู้เท่าทันโลก ต่อเน่ือง และ (5) การกระท�ำเป็นธรรมชาติ เป็น และชีวิต การพัฒนาปัญญา ซ่ึงเป็นตัวน�ำทาง และ พฤติกรรมที่ได้จากการฝึกอย่างต่อเนื่องเป็นไปอย่าง ควบคุมพฤติกรรมท้ังหมด18 การบูรณาการหลักไตร ธรรมชาติ สิขาเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ สอดคล้องกับทฤษฎีการ นอกจากนย้ี งั สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของศภุ กาญจน์ เรยี นรขู้ องบลมู (Bloom’s Taxonomy)19 ไดจ้ ำ� แนก วชิ านาต2ิ 0 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาการประยกุ ต์ จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ออกเป็น 3 ด้าน คือ 1) ด้าน ใช้หลักโยนิโสมนสิการในการแก้ปัญหาการเรียนของ พุทธิพิสัย แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ ได้แก่ (1) นักศึกษาระดับอุดมศึกษา และน�ำเสนอรูปแบบการ ความรู้ที่เกิดจากความจ�ำ เป็นการประมวล ประยุกต์ใช้หลักโยนิโสมนสิการในการแก้ปัญหาการ ประสบการณ์จากการที่ได้รับรู้ไว้และระลึกได้ (2) เรียนระดบั อุดมศึกษา หลักโยนโิ สมนสกิ าร 1) วิธีคิด ความเข้าใจ เป็นการจับใจความส�ำคัญของสื่อ และ แบบสืบค้นหาเหตุปัจจัยสัมพันธ์ 2) วิธีคิดแบบ แสดงออกมาในรูปของการแปลความ ตีความ คาด วิเคราะห์องค์ประกอบ 3) วิธีคิดแบบรู้เท่าทันตาม คะเน ขยายความ (3) การประยุกต์ เป็นการนำ� ความ ความเป็นจริง 4) วิธีคิดแบบแก้ไขปัญหาตามหลัก รู้ ประสบการณไ์ ปแกป้ ญั หาในสถานการณไ์ ด้ โดยตอ้ ง เหตผุ ล 5) วธิ คี ดิ แบบหลกั การสอดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย มคี วามรู้ ความเข้าใจ จึงสง่ ต่อให้น�ำไปใชไ้ ด้ (4) การ 6) วธิ คี ดิ แบบเหน็ ประโยชนโ์ ทษและทางออก 7) วิธี วิเคราะห์ เป็นการแก้ปัญหาที่ตรวจสอบได้ (5) การ คิดแบบคุณค่าแท-้ คุณค่าเทยี ม 8) วิธคี ดิ แบบปลกุ เร้า สงั เคราะห์ เป็นการน�ำความรทู้ ตี่ กผลึกนำ� มาสรา้ งส่ิง คุณงามความดี-คุณธรรม 9) วิธีคิดแบบรู้เท่าทัน ใหมใ่ หแ้ ตกต่างไปจากของเดมิ และ (6) การประเมนิ ปจั จบุ นั และ 10) วธิ คี ดิ แบบแยกแยะประเดน็ ผลการ ค่า เป็นการวัดและตัดสินใจได้บนพื้นฐานและเกณฑ์ วิจยั สาเหตสุ รปุ ปญั หาการเรยี น 5 ดา้ น และเลอื กใช้ ที่กำ� หนดไว้ 2) จิตพิสัย เป็นพฤติกรรมดา้ นจติ ใจ คา่ วิธีคิดตามหลักโยโสนมนสิการในการแก้ปัญหาการ นยิ ม ความรู้สกึ ทัศนคติ ความเชอ่ื ความสนใจ และ เรยี นฯ พบว่า (1) ด้านเจตนคติเชงิ ลบในการเรยี น ใช้ คุณธรรม พฤติกรรมน้ีต้องจัดกิจกรรมการเรียนการ ขอ้ 1-4 6-7 และ 9-10 (2) ดา้ นการมสี มาธสิ น้ั ตอ่ การ สอนโดยจดั สภาพแวดลอ้ มทเี่ หมาะสม และสอดแทรก เรียน ใชข้ ้อ 4 8 และ 9 (3) ดา้ นแรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธต์ิ ำ�่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมสงิ่ ทดี่ งี ามอยา่ งตอ่ เนอื่ ง พฤตกิ รรม ทางการเรยี น ใชช้ อ้ 1และ 8 (4) ดา้ นความวติ กกงั วล มี 5 ระดบั ไดแ้ ก่ (1) การรบั รู้ เปน็ ความรสู้ กึ ตอ่ สงิ่ เรา้ เกยี่ วกบั การเรยี น ใชข้ อ้ 1-3 5 และ 9 (4) ดา้ นการ (2) การตอบสนอง เปน็ การแสดงออกถงึ ความเตม็ ใจ บรหิ ารเวลาทไ่ี มม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ใชช้ อ้ 3 6 และ 9 สว่ น ยนิ ยอม และพอใจ (3) ค่านยิ ม เปน็ การเลอื กปฏิบัติ รปู แบบการประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั โยนโิ สมนสกิ ารฯ ไดร้ ปู แบบ ในสง่ิ ทสี่ งั คมใหก้ ารยอมรบั (4) การจดั ระบบ เปน็ การ ทเี่ รยี กวา่ “FIVE BRANCHES MODEL” ซง่ึ สอดคลอ้ ง จัดค่านิยมที่เกิดข้ึนบนพ้ืนฐานความสัมพันธ์ และ(5) กบั “หวั ใจนกั ปราชญ”์ สริ ริ ตั น์ จนั ทรมะโน ประพนั ธ์ บุคลิกภาพ เป็นการน�ำค่านิยมมาแสดงเป็นนิสัย ใหจ้ ดจำ� งา่ ย และนำ� ไปใชไ้ ดจ้ รงิ สุ (สตุ ะ) คอื ฟงั ฟงั ให้ ประจ�ำตัวท่ีออกมาจากบุคลิกภาพภายใน 3) ด้าน สรรพสดบั จติ จิ (จนิ ตะ) คอื คดิ คดิ ใหซ้ ง้ึ ซง่ึ คำ� สอน ปุ ทักษะพิสัย เป็นพฤติกรรมในการปฏิบัติงานได้อย่าง (ปจุ ฉา) คอื ถาม สงิ่ สงสยั ใหแ้ นน่ อน ลิ ลขิ ติ เขยี น เปน็ คลอ่ งแคลว่ มพี ฤตกิ รรม 5 ระดับ ไดแ้ ก่ (1) การรับรู้ คำ� กลอนทอ่ งขน้ึ ใจ เปน็ การรับร้หู ลกั การปฏิบัติทีถ่ ูกตอ้ ง (2) กระท�ำตาม บริบทการท�ำงานของพยาบาลนั้น พยาบาล แบบ เป็นพฤตกิ รรมเลียนแบบท�ำซำ�้ ๆ จนเกดิ ทักษะ วชิ าชพี ตอ้ งใชก้ ระบวนการพยาบาลเรยี งลำ� ดบั 5 ขนั้ ตอน 34 วารสารสมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนอื

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development ประกอบดว้ ย การประเมนิ การวนิ จิ ฉยั การวางแผน ภาษาเขยี นทถี่ กู ตอ้ ง ยกตวั อยา่ ง การอา่ นเอาเรอ่ื ง เมอ่ื การใหก้ ารพยาบาล และการประเมนิ ผล นำ� มาใชเ้ ปน็ คน้ ควา้ เนอ้ื หาขอ้ มลู ตา่ ง ๆ นำ� มาสรปุ เปน็ สำ� นวนของ เครื่องมือในการปฏิบัติการพยาบาลจนเป็นเรื่องปกติ เราใช้ทักษะการอ่านเอาเรื่อง และการย่อความสรุป นสิ ยั อรนนั ท์ หาญยทุ ธ21 กลา่ ววา่ การนำ� กระบวนการ ใจความไดค้ รบประเดน็ เมอื่ เรมิ่ ทำ� วจิ ยั แลว้ เสรจ็ ต้อง พยาบาลมาใชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล โดยการดำ� เนนิ เขียนบทความวิจัย (ตามรูปแบบของวารสาร) งานแตล่ ะขน้ั ตอนของกระบวนการพยาบาล เปน็ การใช้ บทความวชิ าการ ผเู้ ขยี นตอ้ งเปน็ นกั อา่ นตวั ยง (หนอน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ศาสตร์ทางการพยาบาล หนงั สอื ) เกบ็ ความรแู้ บบความรทู้ ซ่ี อ่ นเรน้ แหง่ ตน นำ� ศาสตรอ์ น่ื ทเี่ กยี่ วขอ้ ง และทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ การ ความรู้มาเช่ือมโยงร้อยเรียงให้เกิดบทความทาง ตดั สนิ ใจ และการใชเ้ หตผุ ลของการอา้ งองิ ตามหลกั การ วิชาการที่ต้องการน�ำเสนอให้ผู้อ่านทราบ ผู้เขียน แกป้ ญั หา โดยมเี ปา้ หมายเปน็ ตวั กำ� หนด สอดคลอ้ งกบั สามารถสอดแทรกแนวคิดของผู้เขียนตามความ สริ ิรตั น์ จันทรมะโน22 ไดก้ ลา่ ววา่ เมอ่ื ตอ้ งการสรา้ งผล เหมาะสมของบทความ การเขียนบทความปริทัศน์ งานทางวชิ าการ สามารถนำ� กระบวนการพยาบาลและ เปน็ การสง่ั สมความรคู้ วามสามารถจากประสบการณ์ กระบวนการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในการผลิตผลงาน การท�ำงานที่ผ่านมาของผู้เขียนจนตกกะกอนเป็น วิชาการ เพื่อการพัฒนาวิชาชีพที่ย่ังยืนได้ โดย ความรทู้ ตี่ อ้ งการนำ� เสนอแกผ่ อู้ า่ นโดยผา่ นการบรู ณา กระบวนการทงั้ สองนมี้ คี วามสอดคลอ้ งกนั คอื เปน็ กระ การแล้ว เป็นความรู้แบบความรู้อันชัดแจ้ง โดยน�ำ บวนการทางวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกัน ผลงานทาง ประสบการณม์ าเชอ่ื มโยงรอ้ ยเรยี งกบั เหตกุ ารณ์ ความ วชิ าการ หมายถงึ ตำ� รา หนงั สอื ผลงานวจิ ยั บทความ เจริญกา้ วหน้าด้านเทคโนโลยี หรือการรักษาพยาบาล วิจัย บทความวิชาการ บทความปริทัศน์ และ อย่างไรก็ตามผู้ที่ประสบความส�ำเร็จในการคิด นวัตกรรม ผเู้ ขยี นขอแนะนำ� เทคนคิ งา่ ย ๆ ในการทำ� สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ดี ๆ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารพฒั นาสมองสองซกี วจิ ยั เรม่ิ หาโจทยห์ รอื คำ� ถามวจิ ยั จากสง่ิ ทส่ี นใจ สงสยั ไปพรอ้ มกนั ปญั จนาฏ วรวฒั นชยั 23 สรปุ ไวว้ า่ “สมอง อยากรู้ นำ� ขอ้ มลู เหลา่ นนั้ มาตง้ั ชอื่ วจิ ยั (สน้ั กะทดั รดั ซกี ซา้ ย นกั วทิ ยาศาสตรเ์ รยี ก ‘สมองแหง่ เหตผุ ล’ ซง่ึ ชัดเจนเห็นถึงวิธีด�ำเนินการ) ตั้งวัตถุประสงค์ให้ มหี นา้ ทใ่ี นการใชภ้ าษา การคดิ เชงิ ตรรกะ การคดิ อยา่ ง สอดคลอ้ งกบั ชอ่ื เรอ่ื ง เขยี นประโยชนท์ จี่ ะไดร้ บั (จำ� นวน มวี จิ ารณญาณ ตวั เลข และความมเี หตผุ ล และควบคมุ ขอ้ เทา่ กบั วตั ถปุ ระสงคห์ รอื มากกวา่ ได้ แตห่ า้ มนอ้ ยกวา่ การเคลอ่ื นไหวของรา่ งกายซกี ขวา สว่ นสมองซกี ขวา นกั วตั ถุประสงค์) เกบ็ รวบรวมข้องมลู ตามวธิ ีดำ� เนินการ วทิ ยาศาสตรเ์ รยี ก ‘สมองแหง่ สหชั ญาณ’ ซงึ่ มหี นา้ ที่ ขณะดำ� เนนิ การวจิ ยั ตอ้ งยดึ ชอื่ เรอื่ งวจิ ยั ใหส้ อดคลอ้ งกบั เกยี่ วขอ้ งกบั การตระหนกั รใู้ นตนเอง ความเหน็ ใจผอู้ นื่ วตั ถปุ ระสงคไ์ ปอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ผลวจิ ยั ตอ้ งใหส้ อดคลอ้ ง ความนา่ เชอื่ ถอื อารมณ์ การสอ่ื สารไมใ่ ชจ้ ติ สำ� นกึ ความ กบั วตั ถปุ ระสงคท์ กุ ขอ้ อภปิ รายผล ตอ้ งใหส้ อดคลอ้ ง น่าดึงดูด การแสดงออกทางสีหน้า และควบคุมการ กับวัตถุประสงค์ทุกข้อ เช่ือมโยงความรู้ ทฤษฎีที่ เคลอ่ื นไหวของรา่ งกายซกี ซา้ ย ดงั นน้ั เมอื่ คนเราฝกึ การ เกยี่ วขอ้ ง ผลงานวจิ ยั และขอ้ เสนอแนะ ตอ้ งนำ� ไปใชใ้ ห้ ทำ� งานโดยใชม้ อื ไดท้ งั้ สองขา้ งทำ� กจิ กรรมไปพรอ้ มกนั เกดิ ประโยชนเ์ ปน็ รปู ธรรมไดจ้ รงิ จะชว่ ยพฒั นาสมองไดท้ งั้ สองซกี กจิ กรรมทค่ี นเราตอ้ ง แนวคิดย้อนกลับไปคิดทบทวนความรู้ในเร่ือง ทำ� ดว้ ยมอื สองขา้ งพรอ้ มกนั เชน่ การลา้ งจาน การซกั “หลักภาษาไทย” การทบทวนความรู้เดิมในวิชา ผา้ และรดี ผา้ การจดั เตรยี มวตั ถดุ บิ ในการทำ� อาหาร การ ภาษาไทยท่ีได้เรียนมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ได้แก่ เลน่ บาสเกตบอล การเลน่ วอลเลยบ์ อล การเลน่ ฟตุ บอล การอา่ นเอาเรือ่ ง การย่อความ การขยายความ การ การเลน่ ปงิ ปอง การเลน่ ดนตรปี ระเภทเครอื่ งสาย เครอื่ งเปา่ ใช้หลักภาษาไทย การเขียนรูปประโยค การใช้ตัว กจิ กรรมเหลา่ นเ้ี คยเปน็ กจิ กรรมทที่ ำ� ในชวี ติ ประจำ� วนั สะกด ตวั การรันต์ การเขียนค�ำผดิ -คำ� ถกู และการใช้ แตท่ วา่ ยคุ ปจั จบุ นั กจิ กรรมเหลา่ นถ้ี กู มองขา้ ม ไมป่ ฏบิ ตั ิ ปที ี่ 26 ฉบบั ท่ี 1 ประจ�ำ เดอื น มกราคม-มถิ นุ ายน 2563 35

การทบทวนความร้ทู างการพยาบาล ณ จุดเร่ิมต้นสู่ปัจจุบนั เพื่อการพฒั นาทยี่ ัง่ ยนื จากชีวิตความเป็นอยู่ท่ีเปลี่ยนไปของความเจริญทาง การสระผมโดยรถเข็นสระผมเคลื่อนท่ีก่อนและหลัง สงั คม ลกู ๆ จะไมไ่ ดช้ ว่ ยงานบา้ นของพอ่ แมผ่ ปู้ กครอง ฝกึ ปฏบิ ตั ฯิ แตกตา่ งอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั หรอื งานบา้ นทต่ี นเองตอ้ งรบั ผดิ ชอบ (การตน่ื เชา้ หงุ ขา้ ว .01 นอกจากนผ้ี เู้ ขยี นไดม้ อบรถเขน็ สระผมเคลอ่ื นทใ่ี ห้ กอ่ นไปโรงเรยี นนน้ั ไมป่ รากฎใหเ้ หน็ แลว้ ) การเลน่ กฬี า กับโรงพยาบาล และเก็บรวบรวมข้อมูลโดยท�ำการ กเ็ ปลย่ี นไปเปน็ การเลน่ เกมเขา้ มาแทนท่ี การเลน่ ดนตรี ศกึ ษา25 โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ประเมนิ ผลของนำ� รถ ก็เปลี่ยนไปใช้การฟงั เพลงมากกว่าการเลน่ ดนตรีด้วย เขน็ สระผมผปู้ ว่ ยเคลอ่ื นทไี่ ปใหบ้ รกิ ารกบั ผปู้ ว่ ยในของ ตนเอง อาจสง่ ผลใหก้ ารพฒั นาสมองไดไ้ มเ่ ตม็ ศกั ยภาพ โรงพยาบาล กลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ ผใู้ ชจ้ ำ� นวน 100 คน และ เทา่ ทคี่ วรจะเปน็ แมก้ ระทง่ั การสง่ เสรมิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ผปู้ ว่ ยจำ� นวน 100 คนจาก 5 โรงพยาบาลซง่ึ เปน็ แหลง่ ดงั ทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ นนั้ มโี อกาสตำ�่ หรอื อาจไมม่ โี อกาสเลย ฝกึ ปฏบิ ตั ฯิ ของนกั ศกึ ษา เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ ไดแ้ ก่ 1) รถ ในบางครอบครวั แตบ่ างครอบครวั ทพ่ี อ่ แมผ่ ปู้ กครองมี เขน็ สระผมผปู้ ว่ ยเคลอ่ื นท่ี และ 2) แบบประเมนิ การใช้ ความเขา้ ใจในวธิ กี ารเลย้ี งดลู กู หลานตามแบบอยา่ งไทย ประโยชนร์ ถเขน็ สระผมเคลอ่ื นท่ี พบวา่ 1) ดา้ นผใู้ ช้ พบ ในชว่ ยเรอ่ื งการพฒั นาสมองอยา่ งกลมกลนื ไปกบั การใช้ วา่ การผลติ อปุ กรณด์ ว้ ยตน้ ทนุ ตำ่� และระดบั ความพงึ ชวี ติ ประจำ� วนั ไดอ้ ยา่ งลงตวั พอใจในการใช้งานอยู่ในระดับมากที่สุด และเสริม การพฒั นาสองสมองซกี ทำ� ใหม้ กี ารคดิ อยา่ งมี บคุ ลกิ ภาพใหด้ สู งา่ งามเหมาะสมกบั ความเปน็ วชิ าชพี ใน วจิ ารณญาณ ความมเี หตแุ ละผล มคี วามตระหนกั รใู้ น ระหวา่ งการปฏบิ ตั อิ ยใู่ นระดบั มาก และ 2) ผปู้ ว่ ย พบวา่ ตนเอง มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เม่ือผนวกกับการ รสู้ กึ ไดถ้ งึ ความสะอาดสดชนื่ สขุ สบาย และมรี ะดบั ความ ประยกุ ตห์ ลกั โยโสมนสกิ ารในการเรยี นการสอน20 การ พงึ พอใจของบรกิ ารในภาพรวมอยใู่ นระดบั มากทส่ี ดุ ขอ้ ใชห้ ลกั หวั ใจนกั ปราชญ์ (เพอ่ื สง่ เสรมิ นสิ ยั การเรยี นร)ู้ เสนอแนะ: รถเขน็ สระผมผปู้ ว่ ยเคลอ่ื นทใี่ ชเ้ ปน็ อปุ กรณ์ ทฤษฎีส่ิงแวดล้อมของฟลอเรนซ์ไนติงเกล2 และ สระผมสำ� หรบั ใหก้ ารพยาบาลผปู้ ว่ ยขา้ งเตยี งทเี่ หมาะสม กระบวนการพยาบาลมาใชเ้ ปน็ ปกตนิ สิ ยั 21 รวมเขา้ ดว้ ย เมอ่ื ยอ้ นกลบั ไปทบทวนความรทู้ างการพยาบาล ณ จดุ กันอย่างลงตัวนั้น สอดคล้องกับบุคลิกภาพของ เรมิ่ ตน้ สปู่ จั จบุ นั เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื นน้ั พบความจรงิ พยาบาลวิชาชีพ9 ท�ำให้เกิดการพัฒนาการสร้าง วา่ เปน็ การทบทวน รอื้ ฟน้ื ความรทู้ ซี่ อ่ นเรน้ แหง่ ตนท่ี นวตั กรรม (Innovative) ในการดแู ลสขุ ภาพผปู้ ว่ ย ดงั สง่ั สมมาเปน็ เวลายาวนานโดยอาจไมไ่ ดค้ ดิ ถงึ หรอื อาจ ประสบการณ์ตัวอย่าง การสรา้ งรถเขน็ สระผมผปู้ ว่ ย ลืมไปแล้วในบางเรื่อง ได้แก่ ทฤษฎีส่ิงแวดล้อมของ เคลอ่ื นท2ี่ 4 (จดอนสุ ทิ ธบิ ตั ิ เลขที่ 8600 ลงวนั ที่ 25 ฟลอเรนซ์ไนติงเกล (ทฤษฎีมรดกทางวิชาชีพ) ธนั วาคม 2556 จากกรมทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา กระทรวง กระบวนการพยาบาล การพยาบาลขา้ งเตยี ง การดแู ล พาณิชย์) นอกจากใช้เป็นสื่อการสอนในวิชาการ สขุ ภาพแบบองคร์ วมตามบรบิ ทสงั คมวฒั นธรรม การ พยาบาลพนื้ ฐานของคณะพยาบาลศาสตรแ์ มคคอรม์ คิ เลี้ยงดูลูกตามวิถีชีวิตของคนไทย การปฏิบัติตนตาม แลว้ ไดน้ ำ� ไปใชเ้ ปน็ นวตั กรรมในการสระผมผปู้ ว่ ยบน หลกั ความเชอ่ื ของศาสนา รวมถงึ การทบทวนหลกั การ เตยี ง โดยการทำ� วจิ ยั ในชน้ั เรยี น มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งภาพูดและภาษาเขียน เปรยี บเทยี บผลของการฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสระผมโดยใชร้ ถ พยาบาลวชิ าชพี นำ� ความรทู้ สี่ งั่ สมมาจนตกตะกอนมา เขน็ สระผมเคลอ่ื นทก่ี อ่ นและหลงั ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล แสดงเปน็ ความรอู้ นั ชดั แจง้ ทำ� ใหผ้ อู้ น่ื ไดเ้ หน็ ศกั ยภาพ พน้ื ฐาน ประชากรเปน็ นกั ศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา 2557- แหง่ ตน ดว้ ยวธิ กี ารสกดั องคค์ วามรถู้ า่ ยทอดผา่ นการ 2559 ทำ� ใหไ้ ดป้ ระชากรจ�ำนวน 43 คน เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เขยี นบทความวชิ าการ บทความวจิ ยั บทความปรทิ ศั น์ 1) รถเขน็ สระผมผู้ปว่ ยเคลอ่ื นท่ี 2) แบบประเมนิ ผล ตำ� รา หรอื หนงั สอื อนั แสดงใหเ้ หน็ ศกั ยภาพและผลงาน การสระผมโดยประยุกต์ใช้กระบวนการพยาบาลใน อนั ทรงคณุ คา่ นอกจากนกี้ ารสรา้ งนวตั กรรมทางการ การสระผม ผลการศกึ ษาพบวา่ ผลของการฝกึ ปฏิบตั ิ พยาบาล เพอ่ื การดแู ลผปู้ ว่ ยใหม้ คี วามสขุ โดยการประ 36 วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนอื

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development ยตุ ใ์ ชก้ ระบวนการพยาบาลทเ่ี ปน็ เครอ่ื งมอื ทดี่ ใี ชใ้ หเ้ กดิ ระบาดของเชอื้ โรคโควิค 19 (COVID 2019) ประโยชนส์ งู สดุ ผปู้ ว่ ยมคี วามผาสกุ สขุ สงบในทกุ มติ ิ การเล้ียงดูจากครอบครัว นับว่าเป็นส่ิงส�ำคัญ และทสี่ ำ� คญั มคี วามทนั สมยั ในทกุ หว้ งเวลาแมจ้ ะลว่ งเลย “เด็กวันน้ีคือผู้ใหญ่ท่ีดีในวันหน้า” ครอบครัวเป็น ผา่ นมาเปน็ เวลาหลายรอ้ ยปกี ต็ าม ซงึ่ เปน็ การพฒั นา หนว่ ยเล็ก ๆ ทีม่ คี วามยิง่ ใหญ่ เพราะพ่อแมจ่ ะอบรม วชิ าชพี การพยาบาลทส่ี ง่ ตอ่ จากรนุ่ สรู่ นุ่ ไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื สงั่ สอนปลกู ฝงั ความคดิ คณุ งามความดี การมศี ลี ธรรม บทสรปุ และวิจารณ์ ยึดศาสนาที่นับถือเป็นที่พ่ึงทางใจกล่อมเกลาให้เป็น ทฤษฎสี งิ่ แวดลอ้ มของฟลอเรนซ์ ไนตงิ เกล เปน็ คนดีของสงั คมและรับใช้ประเทศชาติ นอกจากนี้การ ทฤษฎี มรดกทางวิชาชีพโดยมุ่งเน้นการจัดการกับ พัฒนาสมองสองซีกไปพร้อมกันจากการเล้ียงดูของ ความสะอาดของสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วย ทฤษฎนี ี้ถือ ครอบครวั โดยฝกึ หดั ใหล้ กู ไดช้ ว่ ยทำ� งานบา้ น เชน่ ลา้ ง เป็นรากแก้วของวิชาชีพการพยาบาล การย้อนกลับ จาน รีดผา้ เปน็ ตน้ ส่วนการออก�ำลังกาย เชน่ เล่น ไปทบทวนความรู้ทางการพยาบาล ณ จดุ เริ่มตน้ เมอ่ื บาสเกตบอล เล่นปิงปอง เป็นต้น เม่ือมาเรียน แรกเร่ิมย่างเข้าสู่การเป็นนักเรียนพยาบาล นักศึกษา พยาบาลการพยาบาลท่ีต้องใช้มือทั้งสองในการท�ำ พยาบาล หรือนิสิตพยาบาล (สุดแท้แต่สถาบันการ กิจกรรมการพยาบาล เช่น การเช็ดตัวผู้ป่วย การ ศกึ ษาที่จะขานนาม) การล้างมอื เป็นความสะอาดข้ัน วดั สญั ญาณชพี การฉดี ยา การใชม้ อื ซา้ ยหยบิ ของทอี่ ยู่ พื้นฐานที่ครพู ยาบาลจะปลกู ฝงั ไว้ในสายเลอื ด จะถูก ทางดา้ นซา้ ยและใชม้ อื ขวาหยบิ ของทอ่ี ยทู่ างดา้ นขวา ถามเสมอว่า “เธอล้างมอื แล้วหรือยัง” ความรูท้ ่ตี ้อง นั้นเป็นการประยุกต์ใช้หลักการเทคนิคปราศจากเช้ือ ปฏบิ ตั เิ มอ่ื ขนึ้ ฝกึ ปฏบิ ตั งิ านบนหอผปู้ ว่ ย “การลา้ งมอื (Sterile technique) โดยไม่เอ้ือมข้ามกรายของ ถือเป็นเรอื่ งสำ� คญั มีแนวปฏบิ ัติ คือ ก่อนและหลังจบั สะอาดปราศจากเชอื้ ทำ� ใหไ้ มเ่ กดิ การปนเปอ้ื น (Con- ตวั ผปู้ ว่ ยตอ้ งลา้ งมอื กอ่ นและหลงั เสมอ” เพอื่ ปอ้ งกนั taminate) เป็นต้น กิจกรรมดังกล่าวข้างต้นจะช่วย เชอ้ื โรคเขา้ สรู่ า่ งกายพยาบาลและลดการแพรก่ ระจาย พัฒนาสมองสองซีกไปพร้อม ๆ กัน ดงั นนั้ พยาบาล ของเชอื้ โรคจากคนหนง่ึ ไปสอู่ กี คนหนง่ึ (Cross infec- วชิ าชพี ตอ้ งผา่ น การอบรมจากสถาบนั การศกึ ษาทท่ี ำ� tion) การปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลของฟลอเรนซไ์ นตงิ เกล หน้าท่ีเป็นครอบครัวในการฟูมฟักหล่อหลอมให้เป็น พสิ จู นด์ ว้ ยหลกั วทิ ยาศาสตรแ์ ละสถติ ิ พบวา่ อตั ราการ พยาบาลวชิ าชพี ทพ่ี งึ ประสงค์ โดยสามารถทำ� หนา้ ทตี่ าม ตายของทหารลดลงจากร้อยละ 42 เหลือร้อยละ 2 บทบาทของพยาบาล คอื แมห่ มอ แมพ่ ระ แมน่ ม แม่ หมายความวา่ ในจำ� นวนทหาร 100 นาย มโี อกาสเสยี ครู และแมบ่ า้ น เพอื่ การดแู ลสขุ ภาพผคู้ นไมเ่ พยี งแค่ ชวิ ติ จากการตดิ เชอ้ื เพยี ง 2 นาย หลงั ไดร้ บั การจดั การ ความรบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ี (Responsibility) แตค่ วรเปน็ ดูแลเรื่องความสะอาดในสถานพยาบาลและการ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม (Accountability) การใหก้ าร ให้การพยาบาลโดยค�ำนึงถึงความสะอาดของส่ิง พยาบาลแบบองคร์ วม (เปน็ การดแู ลสขุ ภาพของศาสตร์ แวดล้อมเป็นส�ำคัญ การรณรงค์ให้ผู้คนตะหนักเห็น พนื้ บา้ นสบื ทอดภมู ปิ ญั ญาจากรนุ่ สรู่ นุ่ มานบั หลายรอ้ ย ความสำ� คญั ของการลา้ งมอื จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ นวตั กรรมการ ป)ี เนน้ ผปู้ ว่ ยเปน็ ศนู ยก์ ลางมคี วามใสใ่ จกบั ความหลาก ล้างมือ 7 ข้ันตอน และการล้างมือ 5 กิจกรรม (5 หลายและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของผปู้ ว่ ย ซง่ึ moments) ดังนี้ 1) ก่อนสมั ผัสผปู้ ่วย 2) กอ่ นทำ� ปจั จบุ นั การพยาบาลมงุ่ เนน้ ความสำ� คญั ในเรอื่ งนมี้ าก หตั ถการกบั ผปู้ ว่ ย 3) หลงั สมั ผสั สารคดั หลงั่ จากผปู้ ว่ ย ขนึ้ โดยเฉพาะการพยาบาลดา้ นจติ วญิ ญาณทมี่ งี านวจิ ยั 4) หลังสัมผัสผู้ป่วยและ5) หลังสัมผัสส่ิงที่ล้อมรอบ เผยแพรต่ พี มิ พอ์ ยา่ งเปน็ รปู ธรรมชดั เจนมหี ลกั ฐานเชงิ ของผูป้ ่วย ณ สถานการณป์ จั จบุ ันการลา้ งมอื (Hand ประจกั ษ์ washing) กลบั มามบี ทบาทสำ� คญั ตอ่ การลดการแพร่ ด้วยบุคลิกโดดเด่นของพยาบาลวิชาชีพท่ีมี ความ “ละเอียด รอบคอบ และมเี หตุผล” ท�ำใหเ้ ป็น ปีที่ 26 ฉบับท่ี 1 ประจำ�เดอื น มกราคม-มิถุนายน 2563 37

การทบทวนความรูท้ างการพยาบาล ณ จดุ เรม่ิ ตน้ สู่ปจั จบุ นั เพอื่ การพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน คนชา่ งสังเกต อยากรู้ อยากเหน็ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ บทความวชิ าการ บทความปรทิ ศั น์ ตำ� รา หรอื หนงั สอื ด้วยมีหลักการและเหตุผล โดยผ่านกระบวนการท�ำ โดยหวนกลับไปคิดทบทวนประสบการณ์ท่ีเก็บเก่ียว วจิ ยั ทางการพยาบาล และการสรา้ งนวตั กรรมทางการ สั่งสมจากการท�ำงานมาทั้งชีวิตของพยาบาล น�ำมา พยาบาล ซึ่งเป็นกระบวนการประมวลความรู้จาก ประมวลประสบการณจ์ นความรตู้ กผลกึ แลว้ วเิ คราะห์ ความรทู้ ซี่ อ่ นเรน้ (Tacit knowledge) นำ� มาวเิ คราะห์ ความรู้น้ันบูรณาการเช่ือมโยงกับความรู้ด้านสุขภาพ (Analysis) สังเคราะห์ (Synthesis) ผ่านการเรยี นรู้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งใดบา้ งจนสามารถสงั เคราะหไ์ ดผ้ ล ตามทฤษฎกี ารเรยี นรขู้ องบลมู ทำ� ใหเ้ กดิ ความรอู้ นั ชดั งานใหมท่ ี่มีประสบการณเ์ ดมิ เปน็ ฐานของการพัฒนา แจ้ง (Explicit knowledge) และน�ำไปใช้ในการ จนผลิตผลงานทางวิชาการดังกล่าวข้างต้นได้อย่าง พัฒนาวิชาชีพการพยาบาลให้มีความเจริญก้าวหน้า ลงตัว นอกจากน้ีพยาบาลวิชาชีพ น�ำกระบวนการ ทดั เทยี มกบั วชิ าชพี อน่ื อยา่ งสงา่ งาม สว่ นการสรา้ งผล พยาบาลมาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล งานวิชาการ จากการย้อนกลับไปทบทวนวิชาหลัก จนเป็นปกตินิสัย พบว่ากระบวนการพยาบาลและ ภาษาไทย เช่น การใช้ภาษาไทยในการเขียนเชิง กระบวนการวจิ ยั เปน็ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรท์ ่ี วิชาการ การอ้างอิง การย่อความ การขยายความ สอดคลอ้ งกนั เมอื่ นำ� มาวเิ คราะห์ (ดงั ตารางท่ี 1) ดงั น้ี เป็นต้น ผลงานวิชาการสามารถผลิตในรูปแบบของ ตารางท่ี 1 เปรียบเทยี บกระบวนการพยาบาลและกระบวนการวจิ ยั กระบวนการพยาบาล กระบวนการท�ำวจิ ัย ผลการวิเคราะห์ (Nursing process) (Research process) สอดคล้อง ไม่ 1. การประเมินภาวะสุขภาพ บทท่ี 1 ความเป็นมาและความส�ำคญั ของปัญหา (Health assessment) (Etiology, Back ground) Subjective data; S บทท่ี 2 วรรณกรรมและงานวิจัยทเ่ี ก่ยี วข้อง Objective data; O (Review literature) √ Physical examination (PE) Laboratory and ช่ืองานวิจัย (Research topic) √ special examination 2. การวนิ ิจฉยั ทางการพยาบาล บทท่ี 3 ระเบียบวธิ ีวจิ ยั (Methodology) √ (Nursing diagnosis) ออกแบบวจิ ัย (Research design) √ กำ� หนดขอ้ วินิจฉัยทางการพยาบาล เลอื กวิธีวเิ คราะหข์ ้อมูล (Analysis data) 3. การวางแผนการพยาบาล วธิ ีการเก็บรวบข้อมูล (Collecting data) (Nursing care plan) บทท่ี 4 ประมวลผลข้อมลู และวเิ คราะห์ผล ก�ำหนดวัตถปุ ระสงค์ (Result and analysis) ก�ำหนดเกณฑก์ ารประเมินผล บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 4. การปฏบิ ัติการพยาบาล (Discussion and conclusion ) (Nursing care) 5. การประเมนิ ผลการพยาบาล (Nursing evaluation) 38 วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ

Reviewing Basic of Nursing Knowledge towards to present for Sustainable Development เมื่อทราบแล้วว่ากระบวนการพยาบาลและ แตเ่ ดิมว่า “การทำ� วิจยั เปน็ เร่ืองยากมาก” ให้เปลี่ยน กระบวนการวิจัย เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีคิดใหม่เป็น “พัฒนาตน พัฒนางาน และพัฒนา ทน่ี ำ� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการแกป้ ญั หาอยา่ งมรี ะบบ และ วิชาชีพการพยาบาล โดยการใชก้ ระบวนการวิจยั เปน็ เป็นการค้นหาความจริงที่ต้องการรู้ ต้องการพิสูจน์ ฐานการเรียนรู้” หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวโน้มต่อไปน้ี อยา่ งเปน็ ระบบ ดงั นนั้ นบั ตอ่ จากนไ้ี ปพยาบาลวชิ าชพี พยาบาลวิชาชีพจะผลิตผลงานทางวิชาการ และ จะใชก้ ารคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ (Critical thinking) นวัตกรรมทางการพยาบาลได้อย่างย่งั ยืน ในการทำ� วจิ ยั อยา่ งกลา้ หาญสลดั ความกลวั ทเี่ คยรบั รู้ เอกสารอ้างอิง 1. รตมิ า คชรตั น์. HOT ISSUE: การพัฒนานวตั กรรมไทยอยตู่ รงไหนในเวทโี ลก. [อินเทอรเ์ นต็ ]. [เข้าถึงเมอ่ื 21 พฤศจกิ ายน 2562]. แหลง่ ทมี่ า: https://library2.parliament. go.th/ebook/e_hotissue.html. 2. Nightingale Florence. Notes on Nursing: What It Is and What It Is Not. [Internet]. [Cited Jul 13 2019]. Available from: https://digital.library.upenn.edu/women/nightingale/ nursing/ nursing.html. 3. พนั ธ์ชยั รตั นสุวรรณ. ต�ำราระบาดวิทยา. [อนิ เทอรเ์ นต็ ]. [เขา้ ถึงเม่อื 14 มนี าคม 2563]. แหล่งที่มา: https://smd.wu.ac.th/wp-content/uploads/2017/12/.pdf. 4. กรมควบคมุ โรค. โรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). [อินเทอร์เนต็ ]. [เข้าถงึ เมือ่ 14 มนี าคม 2563]. แหลง่ ทมี่ า: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/introduction.php. 5. จรรจา สนั ตยากร. ระบบบรกิ ารสุขภาพและการบริการพยาบาลในประเทศสหราชอาณาจักร. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 2551; 2: 1-8. 6. อดุ มรัตน์ สงวนศริ ธิ รรม และวภิ าดา คณุ าวิกติกลุ . โรงเรียนพยาบาลไนตงิ เกล: สถาบันการศึกษา ตน้ แบบ (The Nightingale School for Nurses: A Model of Nursing Educational Institute). เชยี งใหม่: มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่; 2559. 7. สำ� นกั งานกองทุนสรา้ งเสรมิ สุขภาพ. เชญิ ชวนปฏบิ ตั ติ ามแนวทางของสุขบญั ญัตแิ หง่ ชาติ 10 ขอ้ . [อนิ เทอรเ์ น็ต]. [ข้าถึงเมื่ 3 มกราคม 2020]. แหลง่ ที่มา: https://www.thaihealth.or.th /content/ 49300. 8. นงลกั ษณ์ ทัศนเกต.ุ คุณภาพการนอนหลับ และปจั จัยรบกวนการนอนหลบั ในผปู้ ว่ ยกระดกู หกั ท่ ี ไดร้ บั การผา่ ตดั . [วทิ ยานพิ นธ์มหาบัณฑติ ]. มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่; 2550. 9. สริ ริ ตั น์ จนั ทรมะโน. การพยาบาลพนื้ ฐานแบบองคร์ วม. เชยี งใหม:่ บณุ ยศริ งิ านพมิ พ;์ 2559. 10. จนิ ดารัตน์ ชยั อาจ. ปัจจัยที่รบกวนการนอนหลับในโรงพยาบาล: การจัดการโดยไม่ใชย้ า. พยาบาลสาร. 2556; (ฉบบั พเิ ศษ): 105-115. 11. สิริรัตน์ จนั ทรมะโน. การท�ำสมาธดิ ้วยพลงั พรี ะมิดลดความเจบ็ ปวดหลงั การผา่ ตัดใหญ.่ วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. 2550; 2: 66-78. 12. Liningers M. Culture care Diversity & Universality: A Theory of Nursing. New York: Nation League for Nursing Press; 1991. ปีที่ 26 ฉบบั ท่ี 1 ประจำ�เดือน มกราคม-มิถุนายน 2563 39

การทบทวนความรูท้ างการพยาบาล ณ จดุ เรม่ิ ตน้ สู่ปจั จุบันเพ่อื การพฒั นาท่ยี ่ังยนื 13. Juntaramano S., Swangareeruk J., & Khunboonchan T. The Wisdom of Thai Indigenous Healers for the Spiritual Healing of Fractures. Journal of Holistic Nursing. 2019; 1: 18-29. 14. พัชนี สมกำ� ลงั และเพ็ญศิริ ด�ำรงภคภากร. การใชห้ ลกั การคัมภีร์ศาสนาเพอื่ การดแู ลจติ วิญญาณ ตามบริบทสงั คมวฒั นธรรมตะวนั ตก. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ. 2554; 4: 93-101. 15. อุไร หถั กจิ และวารีรตั น์ ถาน้อย. การพยาบาลองคร์ วมและการดูแลสขุ ภาพผสมผสาน: การบรู ณาการแนวคดิ สกู่ ารจดั การศกึ ษาพยาบาล. วารสารสภาการพยาบาล. 2555; (ฉบบั พเิ ศษ): 5-17. 16. ทัศนีย์ ทองประทปี . จิตวญิ ญาณ: มิติหนึ่งของการพยาบาล. กรงุ เทพมหานคร: ส�ำนักพิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2552. 17. กระทรวงศกึ ษาธิการ. ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เร่ือง มาตรฐานการอดุ มศกึ ษา พ.ศ.2561. [อินเทอร์เน็ต]. [เขา้ ถงึ เมื่อ 21 พฤศจกิ ายน 2562]. แหลง่ ที่มา: http://www.eqd.cmu.ac.th /Curr/doc/mua/announce/Standard%20of%20Higher %20Education%2061.pdf. 18. สุพจน์ สเุ มโธ. ไตรสิกขาสกู่ ารเรยี นรู้. วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศน์. 2558; 2: 82-93. 19. Marzano, J. Robert & Kendall, S. John. The New Taxonomy of Education Objectives. 2ndEdition. California: Corwin Press; 2007.  20. ศภุ กาญจน์ วชิ านาต.ิ การประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั โยนโิ สมนสกิ ารในการแกป้ ญั หาการเรยี นของนกั ศกึ ษา ระดบั อดุ มศกึ ษา. วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร. 2556; 1: 34-42. 21. อรนนั ท์ หาญยทุ ธ. กระบวนการพยาบาลและการนำ� ไปใช.้ วารสารพยาบาลทหารบก (2557);3:137-143. 22. สิริรัตน์ จนั ทรมะโน. การสรา้ งผลงานทางวิชาการสำ� หรับพยาบาลวชิ าชีพ. เชยี งใหม:่ วาสนาการพมิ พ;์ 2563. 23. ปญั จนาฏ วรวัฒนชยั . กลไกสมองสองซกี กับความคดิ สรา้ งสรรค์ของมนษุ ย์. วารสารสารสนเทศ 2559; 2: 1-2. 24. สริ ริ ตั น์ จนั ทรมะโน. ผลของการฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสระผมโดยใชร้ ถเขน็ สระผมผปู้ ว่ ยเคลอื่ นทก่ี อ่ นและ หลงั ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลพนื้ ฐาน. [วจิ ยั ในชั้นเรยี น]. มหาวทิ ยาลยั พายพั ; 2560. 25. สริ ริ ตั น์ จนั ทรมะโน. ผลของนำ� รถเขน็ สระผมผปู้ ว่ ยเคลอื่ นทไี่ ปใหบ้ รกิ ารกบั ผปู้ ว่ ยในของโรงพยาบาล. [วจิ ยั R to R]. มหาวทิ ยาลยั พายพั ; 2560. 40 วารสารสมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนอื


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook