ประโยชนนอยหนงึ่ แกภิกษนุ นั้ ไม ทา นจงทวงเอาคนื ทรพั ยของทา น ทรพั ยข องทา นอยา ไดฉ บิ หายเสยี เลย , นเี้ ปน สามจี กิ รรม (คอื ประพฤตชิ อบ) ในเรือ่ งน้นั . จวี รวรรคที่ ๑ (จบ). ๑๑. อนงึ่ ภิกษใุ ดใหท าํ สนั ถตั เจือดว ยไหม , เปน นิสสัคคยิ ปาจติ ตยี . ๑๒. อน่งึ ภิกษใุ ด ใหทาํ สนั ถตั แหงขนเจียมดาํ ลว น , เปน นสิ สคั คยิ ปาจติ ตยี . ๑๓. อน่งึ ภกิ ษผุ ูใ หท าํ สันถัตใหม พงึ ถอื เอาขนเจยี มดาํ ลว น ๒ สว น ขนเจียมขาวเปน สว นท่ี ๓ , ขนเจียมแดงเปนสว นท่ี ๔ , ถาภิกษไุ มถ ือเอาขนเจียมดาํ ลวน๒ สวน ขนเจียมขาวเปนสว นท่ี ๓ ขนเจยี มแดงเปน สวนท่ี ๔ใหทาํ สนั ถตั ใหม , เปน นิสสัคคยิ ปาจติ ตีย. ๑๔. อน่ึง ภกิ ษใุ หทาํ สันถัตใหมแ ลว พึงทรงไวใ หไ ด ๖ ป ถา หยอนกวา ๖ ป เธอสละเสยี แลว กด็ ยี งั ไมส ละแลว ก็ดี ซง่ึ สนั ถตั น้นั ใหทําสันถตั อน่ื ใหม เวนไวแ ตภกิ ษไุ ดส มมติ , เปน นิสสคั คยิ ปาจิตตยี . ๑๕. อน่ึง ภิกษผุ ูใหท ําสันถตั สาํ หรบั นงั่ พงึ ถือเอาคืบสคุ ตโดยรอบแหง สนั ถตั เกาเพือ่ ทาํ ใหเสยี สี , ถา ภกิ ษไุ มถ ือเอาคืบสุคต โดยรอบแหงสนั ถตั เกา ใหท ําสนั ถตั สาํ หรับนัง่ ใหม เปน นสิ สคั คยิ ปาจิตตีย. ๑๖. อนงึ่ ขนเจียมเกดิ ขนึ้ แกภกิ ษผุ เู ดินทาง ภิกษตุ องการพงึ รับได , ครนั้ รบั แลว เม่อื คนถอื ไมมี พึงถอื ไปดวยมอื ของตนเอง ตลอดระยะทาง ๓ โยชนเ ปน อยา งมาก ถา เธอถือเอาไปยิง่ กวานนั้ แมคนถือไมมี เปน นสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี . ๑๗. อนงึ่ ภกิ ษใุ ดยงั ภิกษณุ ีผมู ใิ ชญ าตใิ หซกั กด็ ี ใหย อ มกด็ ี ใหสางกด็ ี ซง่ึ ขนเจียม , เปนนสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี . ๑๘. อนึ่ง ภิกษใุ ดรับกด็ ี ใหรับกด็ ี ซงึ่ ทองเงิน หรือยินดที องเงินอนั เขาเก็บไวใ หกด็ ี , เปนนสิ สคั คิยปาจติ ตยี . ๑๙. อนึ่ง ภกิ ษใุ ดถึงความแลกเปลี่ยนดว ยรูปย ะมปี ระการตางๆ เปน นิสสคั คยิ ปาจติ ตยี . ๒๐. อนง่ึ ภิกษใุ ดถึงการซอ้ื และการขายมีประการตา งๆ เปน นิสสคั คิยปาจิตตยี โกสยิ วรรคท่ี ๒ (จบ) ๒๑. พงึ ทรงอติเรกบาตรไวไ ด ๑๐ วันเปนอยา งยงิ่ ภิกษุใหล ว งกาํ หนดน้ันไปเปน นสิ สคั คยิ ปาจติ ตยี . ๒๒. อนึง่ ภกิ ษใุ ดมบี าตรมีรอยราวนอยกวา ๕ นว้ิ ใหจ า ยบาตรอนื่ ใหม เปนนิสสคั คยิ ปาจติ ตยี . ภกิ ษนุ ั้นพงึ สละบาตรนนั้ ในภกิ ษบุ รษิ ทั , บาตรใบสดุ ทา ยแหง ภกิ ษุในบริษทั นัน้ พงึ มอบใหแกภกิ ษนุ ้นั สัง่ วา \"นี้บาตรของทา น พงึ ทรงไว (คอื ใช) กวาจะ แตก.\" นเ้ี ปน สามจี กิ รรม (คือการชอบ) ในเรอื่ งนน้ั . 51
๒๓. อนง่ึ มีเภสัชอันควรล้มิ ของภกิ ษุผูอ าพาธคือ เนยใส เนยขน นา้ํ มนั น้ําผ้ึง นาํ้ ออ ย , ภิกษรุ บั ของน้นั แลว พงึ เก็บไวฉ ันได ๗ วันเปน อยา งยงิ่ , ภิกษใุ หลว งกาํ หนดนนั้ ไปเปนนสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี . ๒๔. ภิกษุรูวา ฤดรู อนยงั เหลืออกี ๑ เดือน พงึ แสวงหาจวี รคือผาอาบนาํ้ ฝนได, รูวา ฤดรู อนยงั เหลืออกี กึ่งเดอื น พงึ ทาํ นงุ ได, ถาเธอรูว าฤดูรอ นเหลือล้าํ กวา ๑ เดอื นแสวงหาจวี รคือผา อาบน้าํ ฝน รูวา ฤดรู อนเหลือลา้ํ กวากงึ่ เดือน ทํานงุ เปน นิสสคั คยิ ปาจติ ตยี ๒๕. อน่งึ ภิกษใุ ด ใหจวี รแกภกิ ษเุ องแลว โกรธนอยใจ ชิงเอามากด็ ี ใหชงิ เอามากด็ ี เปน นสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี ๒๖. อน่งึ ภกิ ษุใดขอดายมาเองแลว ยงั ชางหูกใหทอจีวร เปน นิสสคั คิยปาจิตตีย ๒๗. อนงึ่ พอเจาเรอื นกด็ ี แมเ จาเรือนกด็ ี ผมู ิใชญ าติ สง่ั ชางหกู ใหทอจวี รเฉพาะภกิ ษุ ถาภกิ ษนุ น้ั เขาไมไ ดปวารณไวก อน เขา ไปหาชางหกู แลวถงึ ความกาํ หนดในจีวรในสํานักของเขานน้ั วา จีวรผืนน้ีทอเฉพาะรูป ขอทา นจงทําใหย าว ใหเปน ของขึงดี ให เปน ของท่ที อดี ใหเปน ของ ทสี่ างดี ใหเ ปน ของทีก่ รีดดี แมไ ฉน รูปจะใหของเลก็ นอยเปน รางวลั แกท า น ครนั้ กลา วอยา งน้แี ลว ภิกษุนน้ั ใหข องเล็กนอยเปนรางวลั โดยที่สดุ แมส กั วาบณิ ฑบาต เปนนิสสัคคิยปาจติ ตยี . ๒๘. วันปุรณมีที่ครบ ๓ เดือนแหง เดือนกตั ตกิ า (คอื เดือน๑๑) ยงั ไมมาอีก ๑๐ วัน อจั เจกจีวรเกิดขน้ึ แกภกิ ษุ ภกิ ษรุ วู า เปน อจั เจกจวี ร พึงรบั ไวไ ด ครน้ั รับไวแ ลว พึงเก็บไวไดจนตลอดสมัยทีเ่ ปน จีวรกาล ถา เธอเกบ็ ไวยงิ่ กวานน้ั เปน นิสสคั คยิ ปาจิตตีย. ๒๙. อนง่ึ (ถงึ ) วันปรุ ณมีแหง เดือนกตั ติกาทสี่ ดุ แหงฤดูฝน ภิกษอุ ยใู นเสนาสนะปาที่รกู ันวา เปน ทีร่ งั เกยี จ มีภยั เฉพาะหนา ปรารถนาอยูพงึ เกบ็ จวี ร ๓ ผนื ๆ ใดผืนหนึ่งไวใ นละแวกบานได และปจ จัยอะไรๆ เพ่อื จะอยูป ราศจากจวี รน้นั จะพงึ มแี กภ กิ ษุ ภกิ ษนุ น้ั พงึ อยปู ราศจากจีวรน้ันได ๖ คืนเปน อยางยงิ่ , ถาเธออยปู ราศย่ิงกวานนั้ เวนไวแ ตภ กิ ษไุ ดส มมติ เปน นิสสคั คยิ ปาจติ ตีย. ๓๐. อนง่ึ ภกิ ษใุ ดรูอ ยู นอมลาภทเี่ ขานอมไวเปน ของจะถวายสงฆมาเพ่ือตน เปน นสิ สัคคยิ ปาจิตตยี . ปตตวรรคที่ ๓ ( จบ) ทานทั้งหลาย ธรรมช่ือ นสิ สคั คยิ ปาจิตตยี ๓๐ (สกิ ขาบท) ขา พเจาแสดงขน้ึ แลว แล ขา พเจา ถามทานทงั้ หลายในขอ เหลา นั้น ทา นเปนผูบริสทุ ธิ์แลวหรอื ? ขาพเจาถามแมครัง้ ที่ ๒ ทานเปน ผูบริสุทธ์แิ ลวหรอื ? ขาพเจาถามแมครงั้ ที่ ๓ ทา นเปน ผบู รสิ ุทธ์ิแลว หรือ ? ทา นทั้งหลายเปน ผูบริสุทธิ์ในขอเหลา น้นั แลว เพราะฉะนนั้ จงึ นิง่ ขาพเจาทรงความนี้ไวอ ยา งน้ี ธรรมทงั้ หลายชอ่ื นิสสัคคิยปาจิตตยี นสิ สัคคยิ ปาจติ ตยี จบ . 52
คําแปล ปาจิตตยิ ะ (ปาจิตตยี ๙๒) ทานทัง้ หลาย ธรรมช่อื วา ปาจติ ตยี ๙๒ เหลา นแี้ ล ยอ มมาสอู ุทเทส ๑. เปน ปาจติ ตยี ในเพราะสมั ปชานมสุ าวาท (กลาวเทจ็ ท้ังรตู วั ) ๒. เปน ปาจติ ตีย ในเพราะโอมสวาท (ดา ) ๓. เปน ปาจติ ตยี ในเพราะสอ เสียดภกิ ษุ ๔. อนึ่ง ภิกษใุ ด ยงั อนุปสมั บนั ใหก ลาวธรรมโดยบท๑ เปนปาจิตตีย. ๕. อนง่ึ ภกิ ษุใด สาํ เร็จการนอนรว มกับอนุปสัมบนั ยงิ่ กวา ๒-๓ คนื เปน ปาจติ ตยี ๖. อนึง่ ภิกษใุ ด สําเร็จการนอนรวมกับมาตคุ าม เปนปาจิตตยี . ๗. อน่ึง ภิกษใุ ด แสดงธรรมแกม าตคุ าม ยง่ิ กวา ๕-๖ คํา เวนไวแ ตบ รุ ษุ ผูรูเดยี งสา (มอี ย)ู เปน ปาจิตตยี . ๘. อน่งึ ภกิ ษใุ ด บอกอตุ ตรมิ นสุ สธรรม (ของตน) แกอ นปุ สัมบนั เปน ปาจิตตีย เพราะมจี ริง ๙. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด บอกอาบตั ิช่วั หยาบของภกิ ษแุ กอ นปุ สัมบนั เวนไวแตภ กิ ษไุ ดรับสมมติ เปน ปาจติ ตยี . ๑๐. อนึง่ ภกิ ษใุ ดขดุ ก็ดี ใหขุดก็ดี ซง่ึ แผน ดิน เปนปาจติ ตยี . มุสาวาทวรรคที่ ๑ (จบ) ๑๑. เปน ปาจิตตยี ในเพราะความถูกพรากแหง ภูตคาม ๑๒. เปน ปาจติ ตยี ในเพราะความเปนผูกลาวคาํ อืน่ ในเพราะความเปน ผูใหลาํ บาก. ๑๓. เปน ปาจติ ตยี ในเพราะความเปน ผูโพนทะนา ในเพราะความเปน ผบู น วา ๑๔. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด วางไวแลวกด็ ี ใหว างไวแ ลว ก็ดี ซง่ึ เตยี งกด็ ี ตงั่ ก็ดี ฟูกกด็ ีเกาอกี้ ็ดี อันเปน ของสงฆในท่แี จง. เมื่อหลกี ไปไม เกบ็ ก็ดี ไมใ หเกบ็ กด็ ซี ง่ึ เสนาสนะท่ีวางไวน นั้ หรอื ไมบ อกสง่ั ไปเสยี เปนปาจติ ตีย. ๑๕. อนึง่ ภิกษใุ ด ปูแลว กด็ ี ใหปแู ลว กด็ ี ซง่ึ ท่นี อน ในวิหาร เปน ของสงฆ เมอื่ หลกี ไป ไมเกบ็ กด็ ี ไมใหเก็บกด็ ี ซึ่งที่นอนอนั ปูไว นนั้ หรือไมบ อกสงั่ ไปเสีย เปน ปาจติ ตยี . 53
๑๖. อน่ึง ภกิ ษใุ ดรูอ ยู สาํ เร็จการนอน เบยี ดภิกษผุ เู ขา ไปกอ นในวหิ ารของสงฆ ดว ยหมายวา ความคับแคบจกั มแี กผ ใู ดผูนนั้ จะ หลกี ไปเอง ทาํ ความหมายอยา งนี้เทานน้ั ใหเปนปจจัย หาใชอ ยา งอนื่ ไม เปน ปาจติ ตยี . ๑๗. อนง่ึ ภกิ ษใุ ด โกรธขัดใจฉดุ ครา เองก็ดี ใหผ อู ่นื ฉุดครา ก็ดีซง่ึ ภกิ ษุ จากวิหารของสงฆ เปน ปาจติ ตยี . ๑๘. อน่งึ ภกิ ษใุ ด น่งั ทับกด็ ี นอนทับก็ดี ซงึ่ เตยี งกด็ ี ซ่ึงตง่ั กด็ ี อันมเี ทา เสียบ(ในตวั เตยี ง) บนรา น ในวหิ ารเปน ของสงฆ เปน ปาจิตตยี . ๑๙. อน่ึง ภกิ ษผุ ูใ หทาํ ซงึ่ วหิ ารใหญ จะวางเชด็ หนา เพียงไรแตกรอบแหงประตู จะบริกรรมชองหนาตา ง พงึ ยนื ในที่ปราศจาก ของสดเขยี ว อํานวย (ใหพอก) ได ๒ - ๓ ชน้ั ถา เธออาํ นวย (ใหพ อก) ยิ่งกวาน้นั แมย นื ในทปี่ ราศจากของสดเขยี ว ก็เปน ปาจติ ตยี ๒๐. อนึง่ ภกิ ษใุ ดรูอ ยวู า นา้ํ มตี วั สตั ว รดกด็ ี ใหรดก็ดี ซงึ่ หญา กด็ ี ซงึ่ ดนิ กด็ ี เปน ปาจติ ตยี . ภตู คามวรรคท่ี ๒ (จบ). ๒๑. อน่ึง ภิกษใุ ด ไมไ ดร บั สมมติ สง่ั สอนพวกภกิ ษณุ ี เปนปาจติ ตีย. ๒๒. ถาภกิ ษไุ ดรับสมมติแลว เมอื่ พระอาทติ ยอัสดงคตแลว สงั่ สอนพวกภกิ ษุณี เปน ปาจติ ตยี ๒๓. อนง่ึ ภกิ ษใุ ด เขาไปสทู ี่อาศยั แหงภกิ ษณุ แี ลว ส่ังสอนพวกภกิ ษณุ ี เวนไวแ ตสมัย เปน ปาจติ ตยี สมยั ในเรื่องนน้ั ดงั น้ีคือ ภกิ ษุณอี าพาธ นส้ี มยั ในเร่อื งนนั้ ๒๔. อนง่ึ ภกิ ษุใด กลาวอยางนว้ี า \"พวกภิกษสุ งั่ สอนพวกภิกษุณเี พราะเหตุอามสิ \" เปน ปาจติ ตีย. ๒๕. อนง่ึ ภิกษใุ ด ใหจวี รแกภ กิ ษณุ ีผมู ิใชญาติ เวนไวแตแ ลกเปล่ียน เปนปาจติ ตยี . ๒๖. อน่ึง ภกิ ษุใด เย็บกด็ ี ใหเ ย็บก็ดีซ่ึงจีวรเพอื่ ภิกษณุ ผี มู ิใชญาติ เปน ปาจติ ตีย. ๒๗. อนงึ่ ภิกษใุ ด ชกั ชวนกนั แลว เดินทางไกลดว ยกนั กบั ภกิ ษณุ ี โดยทส่ี ุดแมส น้ิ ระยะบา นหนง่ึ เวน ไวแ ตส มยั เปนปาจติ ตีย. สมัยในเร่อื งนัน้ ดงั น้ี: คือทางเปนทีจ่ ะตองไปดว ยพวกเกวยี น รูกนั วา เปนทีน่ า รังเกยี จมภี ัยเฉพาะหนา นีส้ มยั ในเร่อื งน้นั ๒๘. อน่งึ ภกิ ษใุ ด ชกั ชวนแลว ขน้ึ เรอื ลําเดยี วกับภกิ ษณุ ี ขนึ้ นา้ํ ไปกด็ ี ลอ งนา้ํ ไปก็ดี เวนไวแตข า มฟาก เปน ปาจติ ตีย. ๒๙. อนง่ึ ภิกษใุ ด รูอ ยู ฉนั บณิ ฑบาตอนั ภกิ ษณุ ีแนะนําใหถ วาย เวนไวแตค ฤหัสถป รารภไวกอ น เปนปาจิตตยี . ๓๐. อน่ึง ภกิ ษใุ ด ผูเดียว สําเร็จการนงั่ ในทล่ี บั ตากับภกิ ษณุ ีผูเ ดยี ว เปน ปาจิตตีย. โอวาทวรรคที่ ๓ (จบ). 54
๓๑. ภิกษผุ มู ิใชอาพาธ พงึ ฉันอาหารในโรงทานไดครงั้ หนง่ึ ถาฉนั ยงิ่ กวา นน้ั เปน ปาจติ ตยี . ๓๒. เวนไวแ ตส มยั เปน ปาจิตตีย ในเพราะฉันเปน หม.ู นส้ี มัยในเร่อื งนัน้ คือคราวอาพาธ คราวท่ีเปน ฤดถู วายจวี ร คราวที่ทาํ จวี ร คราวทเ่ี ดนิ ทางไกล คราวท่ีข้ึนเรอื ไป คราวประชุมใหญ คราวภัตร ของสมณะ นส้ี มยั ในเรือ่ งน้นั ๓๓. เวน ไวแตส มยั เปน ปาจติ ตีย ในเพราะโภชนะทีหลัง. สมยั ในเรอ่ื งน้นั ดงั น:ี้ คือคราวเปน ไข คราวถวายจีวร คราวทําจวี ร นสี้ มยั ในเร่อื งนนั้ . ๓๔. อนึ่ง เขาปวารณาภกิ ษผุ เู ขา ไปสสู กลุ ดวยขนมก็ดี ดวยสตั ตุผงก็ดีเพ่อื นาํ ไปไดต ามปรารถนา ภกิ ษุผตู อ งการ พงึ รับไดเตม็ ๒ - ๓ บาตร ถารบั ย่งิ กวา น้ี เปนปาจติ ตยี . ครั้นรบั เตม็ ๒ - ๓ บาตรแลว นาํ ออกจากทีน่ นั้ แลว พงึ แบง ปน กบั ภกิ ษุทง้ั หลาย นี้เปน สามีจิกรรมในเรอื่ งนั้น. ๓๕. อนึง่ ภกิ ษุใด ฉันเสรจ็ หา มเสียแลว เคีย้ วก็ดี ฉนั ก็ดี ซงึ่ ของเคยี้ วก็ดี ซงึ่ ของฉนั ก็ดี อนั มใิ ชเ ดน เปนปาจติ ตีย. ๓๖. อนึ่ง ภิกษใุ ด นําไปปวารณาภิกษผุ ูฉนั เสรจ็ หา มเสยี แลว ดวยของเคยี้ วกด็ ี ดวยของฉนั กด็ ี อันมใิ ชเดนบอกวา \"เอาเถดิ ภิกษุ ขอจงเค้ียวหรือฉนั \" รูอยู เพง จะหาโทษให พอเธอฉันแลว เปน ปาจติ ตยี . ๓๗. อนงึ่ ภิกษใุ ดเคีย้ วกด็ ี ฉันก็ดี ซ่ึงของเคยี้ วกด็ ี ซงึ่ ของฉันกด็ ี ในเวลาวกิ าล เปน ปาจติ ตยี . ๓๘. อนึง่ ภกิ ษใุ ด เคี้ยวก็ดี ฉันกด็ ี ซ่งึ ของเคยี้ วกด็ ี ซง่ึ ของฉันก็ดี ทท่ี ําการสง่ั สมไว เปน ปาจิตตีย. ๓๙. อนึง่ ภิกษใุ ด มิใชผอู าพาธ ขอโภชนะอันประณตี เหน็ ปานนี้ เชน เนยใน เนยขน นํา้ มนั น้าํ ผง้ึ น้ําออย ปลา เนือ้ นมสด นมขน เพื่อประโยชนแกต น แลว ฉนั เปน ปาจติ ตยี . ๔๐. อนึง่ ภกิ ษใุ ด กลืนอาหารที่เขายงั ไมให ลว งชอ งปาก เวนไวแ ตน า้ํ และไมชาํ ระฟน เปน ปาจติ ตยี . โภชนวรรคท่ี ๔ (จบ). ๔๑. อน่ึง ภกิ ษใุ ด ใหของเคีย้ วก็ดี ของกนิ กด็ ี แกอ เจลกกด็ ี แกปรพิ าชกกด็ ี แกป ริพาชกิ ากด็ ี ดว ยมือของตน เปนปาจติ ตีย. ๔๒. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด กลา วตอ ภกิ ษอุ ยา งน้ีวาทา นจงมา เขา ไปสบู านหรอื สนู คิ มเพือ่ บณิ ฑบาตดวยกัน\" เธอยงั เขาใหถ วายแลวกด็ ี ไมใหถวายแลวก็ดี แกเธอแลว สงไป (ดวยคํา) วา ทา นจงไปเสีย การพดู กด็ ี การน่ังก็ดี ของเรากบั ทา น ไมเปนผาสุกเลย การพดู ก็ ดี การนง่ั กด็ ี ของเราคนเดยี วยอมเปน ผาสุก\" ทาํ ความหมายอยางน้เี ทาน้ันแล ใหเ ปน ปจ จยั หาใชอ ยางอนื่ ไม เปน ปาจิตตีย. ๔๓. อนง่ึ ภิกษใุ ด สําเรจ็ การนัง่ แทรกแซงในสโภชนสกลุ เปน ปาจิตตยี . ๔๔. อนึง่ ภกิ ษใุ ด สําเร็จการนั่งในท่ลี ับ คือ ในอาสนะกาํ บงั กบั มาตคุ าม เปน ปาจิตตยี . 55
๔๕. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด ผเู ดียวสาํ เร็จการนงั่ ในทล่ี บั ตากบั มาตุคามผูเดยี ว เปนปาจติ ตีย. ๔๖. อน่ึง ภกิ ษใุ ด รับนมิ นตแลว มภี ตั รอยแู ลว ไมบ อกลาภกิ ษซุ ่ึงมีอยู ถงึ ความเปนผูเ ทย่ี วไปในสกลุ ทง้ั หลาย กอ นฉันกด็ ี ที หลังฉนั ก็ดี เวนไวแ ตส มัยเปน ปาจติ ตยี . สมัยในเร่อื งน้ันดงั น้:ี คือคราวท่ีถวายจีวร คราวทีท่ าํ จวี ร , นี้สมยั ในเรื่องนัน้ . ๔๗. ภิกษใุ ด ไมใชผ ูอาพาธ พงึ ยนิ ดปี วารณาดวยปจ จยั เพยี ง ๔ เดือน เวน ไวแตปวารณาอกี เวนไวแตปวารณาเปนนติ ย ถา เธอยนิ ดยี ง่ิ กวา นัน้ เปนปาจิตตยี ๔๘. ภิกษใุ ด ไปเพ่ือจะดูกองทัพอนั ยกออกแลว เวน ไวแ ตป จ จัยมอี ยา งนี้เปนรูป เปนปาจติ ตยี . ๔๙. กถ็ าปจ จยั บางอยา ง เพ่ือจะไปสกู องทพั มีแกภกิ ษุนน้ั ภกิ ษุนัน้ พงึ อยไู ดในกองทพั เพยี ง ๒ - ๓ คืน ถาอยยู ิง่ กวา นน้ั เปน ปาจติ ตยี . ๕๐. ถาภกิ ษอุ ยใู นกองทพั ๒ - ๓ คืนไปสูส นามรบก็ดี ไปสทู ่ีพกั พลกด็ ี ไปสูท่จี ดั ขบวนทพั กด็ ี ไปดหู มอู นกึ ๒ คอื ชา ง มา รถ พลเดิน อนั จัดเปน กองๆ แลว กด็ ี เปนปาจติ ตีย อะเจละกะวรรคที่ ๕ (จบ). ๕๑. เปน ปาจิตตยี ในเพราะด่มื สุราและเมรัย. ๕๒. เปน ปาจิตตยี ในเพราะจ้ดี วยนิว้ มอื . ๕๓. เปนปาจติ ตีย ในเพราะธรรมคอื หัวเราะในนา้ํ (หมายเอาเลน นํา้ ) ๕๔. เปน ปาจติ ตีย ในเพราะความไมเ อ้อื เฟอ . ๕๕. อนง่ึ ภกิ ษุใดหลอนภิกษุใหกลัว เปนปาจติ ตยี . ๕๖. อนึง่ ภกิ ษใุ ด มใิ ชผ ูอ าพาธ ตดิ ก็ดี ใหต ดิ ก็ดี ซง่ึ ไฟ เวน ไวแตป จจัยมอี ยา งนนั้ เปน รูป เปนปาจติ ตยี . ๕๗. อนงึ่ ภกิ ษใุ ด ยังหยอ นกึ่งเดอื นอาบน้าํ เวน ไวแ ตสมยั เปน ปาจติ ตยี . สมยั ในเร่ืองนน้ั ดงั นี้: คือ \"เดอื นก่งึ ทา ยฤดรู อนเดอื น ตน แหง ฤดฝู น\" ๒ เดอื นกึ่งน้ี เปน คราวรอ น เปนคราวกระวนกระวาย คราวเจบ็ ไข คราวทาํ การงาน คราวไปทางไกล คราวฝนมากบั พายุ น้สี มยั ในเรือ่ งนั้น. ๕๘. อนง่ึ ภกิ ษุ ไดจ ีวรมาใหม พึงถือเอาวตั ถุสาํ หรับทาํ ใหเ สยี สี ๓ อยา งๆใดอยา งหน่งึ คอื ของเขยี วครามกไ็ ด ตมก็ได ของดาํ คล้ํากไ็ ด ถาภกิ ษุไมถ ือเอาวตั ถุสาํ หรบั ทําใหเสยี สี ๓ อยา งๆ ใดอยา งหนง่ึ ใชจวี รใหม เปน ปาจิตตยี . ๕๙. อนงึ่ ภกิ ษใุ ด วกิ ัปจวี รเอง แกภ ิกษกุ ็ดี แกภ ิกษณุ ีก็ดี แกน างสกิ ขมานากด็ ี แกส ามเณรก็ดี แกน างสามเณรีกด็ ี แลวใชสอย 56
(จีวรนน้ั ) ไมใ หเ ขาถอนกอน เปน ปาจิตตยี . ๖๐. อน่ึง ภกิ ษใุ ด ซอนก็ดี ใหซ อ นก็ดี ซ่ึงบาตรกด็ ี จีวรกด็ ี ผา ปนู ั่งก็ดี กลอ งเขม็ กด็ ี ประคตเอวก็ดี แหง ภิกษุ โดยทสี่ ุดแมห มาย จะหัวเราะ เปน ปาจิตตยี . สุราปานะวรรคท่ี ๖ (จบ). ๖๑. อนง่ึ ภกิ ษใุ ด แกลงพรากสัตวจากชีวติ เปน ปาจติ ตยี . ๖๒. อนงึ่ ภกิ ษใุ ดรูอยูบ ริโภคนาํ้ มตี ัวสตั ว เปน ปาจติ ตยี . ๖๓. อนง่ึ ภิกษใุ ดรอู ยู ฟน อธกิ รณท ่ที าํ เสร็จแลว ตามธรรม เพือ่ ทาํ อกี เปนปาจิตตยี . ๖๔. อนงึ่ ภกิ ษใุ ดรอู ยู ปดอาบตั ชิ ว่ั หยาบของภกิ ษุ เปน ปาจติ ตยี . ๖๕. อนึ่ง ภกิ ษใุ ดรอู ยู ยงั บุคคลมอี ายุไมครบ ๒๐ ปใ หอ ปุ สมบท บคุ คลนั้นไมเปนอุปสัมบนั ดวย ภกิ ษทุ งั้ หลายนัน้ ถกู ติเตยี นดวย นเี้ ปน ปาจติ ตยี ในเรื่องนั้น. ๖๖. อนึ่ง ภิกษใุ ดรูอยู ชักชวนแลว เดินทางไกลสายเดียวกันกับพวกเกวียน พวกตา ง ผูเปน โจร โดยทสี่ ดุ แมส ้ินระยะบานหนง่ึ เปน ปาจิตตยี . ๖๗. อนึง่ ภกิ ษใุ ด ชักชวนแลว เดนิ ทางไกลสายเดียวกนั กบั มาตคุ าม โดยทส่ี ุดแมส นิ้ ระยะบา นหนึ่ง เปนปาจิตตยี . ๖๘. อน่ึง ภิกษใุ ดกลา วอยา งน้วี า \"ขา พเจา รถู งึ ธรรมทพี่ ระผูมพี ระภาคเจาทรงแสดงแลว โดยประการวา เปน ธรรมทาํ อนั ตรายได อยา งไร ธรรมนั้นหาอาจทําอนั ตรายแกผเู สพได(จรงิ )ไม\" ภกิ ษนุ ั้นอนั ภกิ ษทุ ั้งหลายพงึ วา กลา วอยา งนีว้ า \"ทา นอยา ไดพูดอยางนั้น ทานอยา ไดกลา วตพู ระผมู ีพระภาคเจา การกลาวตพู ระผมู พี ระเจา ไมดดี อก พระผูม ีพระภาคเจา ไมไดต รสั อยางนั้นเลยแนะเธอ พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั ธรรมอนั ทาํ อนั ตรายไวโ ดยบรรยายเปน อนั มาก กแ็ ลธรรมนน้ั อาจทาํ อันตรายแกผ ูเสพได (จรงิ ) แลภกิ ษุ นน้ั อันภิกษทุ ั้งหลายวา กลา วอยอู ยา งนนั้ ขนื ถอื อยา งนนั้ แล ภกิ ษนุ ั้นอนั ภิกษทุ ้งั หลายพงึ สวดประกาศหา มจนหนท่ี ๓ เพื่อสละ การนัน้ เสยี ถาเธอถูกสวดประกาศหา มอยูจนหนท่ี ๓ สละการน้นั เสยี การสละไดด งั นเี้ ปน การดี ถา ไมส ละ เปน ปาจิตตยี ๖๙. อนึ่ง ภกิ ษใุ ดรูอยู กนิ รว มกด็ ี อยูร ว มก็ดี สาํ เร็จการนอนดวยกนั กด็ ี กับภกิ ษผุ ูกลา วอยา งนนั้ ยงั ไมไดทาํ ธรรมอนั สมควร ยังไมไ ดสละทฏิ ฐินนั้ เปน ปาจติ ตยี . ๗๐. ถาแมส มณทุ เทสกลาวอยา งน้วี า ขา พเจา รูธรรมทพ่ี ระผูมีพระภาคเจาทรงแสดงแลว โดยประการทตี่ รสั วา เปนธรรมทํา อันตรายไดอ ยา งไร ธรรมน้นั หาอาจทาํ อันตรายแกผ ูเ สพได (จรงิ ) ไม \"สมณทุ เทสนั้นอนั ภิกษทุ ้งั หลาย พงึ กลา วอยา งนวี้ า\" สมณทุ เทส เธออยาไดพ ูดอยา งนน้ั เธออยา ไดกลา วตูพระผูมีพระภาคเจา การกลา วตพู ระผูมพี ระภาคเจาไมดีดอก พระผูมพี ระภาคเจาไมไ ดตรสั อยา งนนั้ เลยแนะสมณุทเทส พระผูมพี ระภาคเจา ตรสั ธรรมทาํ อนั ตรายไวโดยปรยิ ายเปน อนั มาก ก็แล ธรรม เหลา นัน้ อาจทําอนั ตรายแกผ เู สพได (จริง) แลสมณุทเทสนนั้ อันภกิ ษทุ ง้ั หลายวา กลา วอยูอ ยา งนัน้ ขนื ถอื อยางนัน้ แล 57
สมณทุ เทสนัน้ อันภกิ ษทุ ้งั หลายพึงวา กลา วอยางนี้วา \"แนะ สมณทุ เทส เธออยา อา งพระผมู พี ระภาคเจา นนั้ วา เปน พระศาสดาของ เธอตงั้ แตว นั น้ไี ป แลพวกสมณุทเทสอืน่ ยอ มไดก ารนอนรว มเพยี ง ๒ - ๓ คนื กบั ภกิ ษทุ ัง้ หลายอันใด แมก ริ ิยาทไี่ ดการนอนรวม น้นั ไมม ีแกเ ธอ เจาคนเสีย เจาจงไปเสยี เจาจงฉิบหายเสยี \" แลภกิ ษใุ ดรูอยู เกลยี้ กลอ มสมณทุ เทสผถู กู ใหฉิบหายเสยี อยา งนน้ั แลวกด็ ี ใหอปุ ฐากก็ดี กนิ รวมกด็ ี สาํ เรจ็ การนอนรวมกด็ ีเปน ปาจติ ยี . สปั ปาณะวรรคที่ ๗ (จบ) ๗๑. ภิกษุใด อันภกิ ษทุ ง้ั หลายวา กลา วอยโู ดยชอบธรรม กลาวอยางน้ีวา \"แนะ เธอ ฉันจะยงั ไมศึกษาในสกิ ขาบทน้ี จนกวา จะไดถ ามภิกษอุ น่ื ผูฉ ลาดผทู รงวินยั \" เปนปาจติ ตยี . (ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย) อันภกิ ษศุ กึ ษาอยูควรรถู ึง ควรสอบถาม ควรตรติ รอง นีเ้ ปนสามจี กิ รรมในเรอื่ งน้ัน. ๗๒. อน่งึ ภิกษใุ ด เมอื่ มใี ครสวดปาฏโิ มกขอยู กลา วอยา งนี้วา ประโยชนอะไรดว ยสิกขาบทเล็กนอ ยเหลา นี้ ทส่ี วดข้ึนแลว ชางเปน ไปเพือ่ ความราํ คาญ เพือ่ ความลาํ บาก เพอ่ื ความยงุ ยง่ิ นก่ี ระไร เปนปาจติ ตยี เพราะตาํ หนสิ ิกขาบท. ๗๓. อนึ่ง ภิกษใุ ด เมอื่ ปฏโิ มกขส วดอยูทุกกง่ึ เดอื น กลาวอยา งนว้ี า \"ฉนั พ่ึงรูเดยี๋ วนี้เองวา เออ ธรรมแมน ก้ี ็มาแลว ในสตู ร เนื่อง แลวในสตู ร มาสูอ ุเทส (คอื การสวด) ทกุ ก่งึ เดอื น\" ถาภกิ ษทุ ัง้ หลายอนื่ รูจักภกิ ษนุ ัน้ วา \"ภกิ ษุนี้เคยนง่ั เมอื่ ปาฏิโมกขก าํ ลงั สวดอยู ๒ - ๓ คราวมาแลว กลาวอะไรอกี \" ความพน ดวยอาการทีไ่ มรู หามแี กภิกษนุ ้ันไม พงึ ปรบั เธอดวยอาบตั ิท่ตี องในเรือ่ งนน้ั และพึงยกความหลงขน้ึ แกเธอเพิ่มอีกวา \"แนะเธอไมใชลาภของเธอ เธอไดไ มดแี ลว ดวยเหตุวา เมื่อปาฏโิ มกขก ําลงั สวดอยเู ธอ หาทาํ ในใจใหสาํ เรจ็ ประโยชนด ไี ม\" น้ีเปน ปาจติ ตยี ในความผูเ ปน แสรงทาํ หลงน้ัน ๗๔. อน่งึ ภิกษใุ ด โกรธ นอยใจ ทาํ รา ย เปน ปาจติ ตยี ๗๕. อน่งึ ภกิ ษใุ ด โกรธ นอยใจ เงื้อหอกคือฝา มอื ขึ้นแกภกิ ษุ เปน ปาจติ ตยี ๗๖. อนงึ่ ภิกษใุ ด กาํ จัด (คอื โจท) ภิกษดุ วยอาบตั ิสงั ฆาทเิ สสหามลู มิได เปนปาจติ ตยี ๗๗. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด แกลง กอความรําคาญแกภกิ ษดุ ว ยหมายวา \"ดวยเชนน้ี ความไมผาสุกจกั มีแกเธอ แมครูห น่ึง\" ทํา ความหมายอยา งนเี้ ทา นัน้ แล ใหเปน ปจ จยั หาใชอยา งอ่ืนไม เปน ปาจติ ตยี ๗๘. อนึง่ ภกิ ษุใด เมอื่ ภกิ ษทุ งั้ หลาย เกดิ หมางกนั เกิดทะเลาะกนั ถงึ การววิ าทกัน ยืนแอบฟง ดวยหมายวา \"จกั ไดฟ ง คําทเ่ี ธอ พูดกัน\" ทาํ ความหมายอยา งนเ้ี ทานัน้ แล ใหเปนปจ จยั หาใชอ ยา งอื่นไม เปนปาจิตตยี . ๗๙. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด ใหฉนั ทะเพอื่ กรรมอันเปน ธรรมแลว ถงึ ธรรมคอื การบน วาในภายหลงั เปน ปาจติ ตีย ๘๐. อนึง่ ภกิ ษใุ ด เมอ่ื เรอ่ื งอนั จะพงึ วนิ จิ ฉยั ยงั เปน ไปอยใู นสงฆ ไมใ หฉ ันทะแลว ลกุ จากอาสนะ หลกี ไปเสีย เปนปาจิตตีย. ๘๑. อนง่ึ ภิกษใุ ด (พรอมใจ) ดว ยสงฆผูพ รอ มเพรียงกันใหจ ีวร(แกภ ิกษุ) แลวภายหลงั ถงึ ธรรมคือบน วา วา \"ภกิ ษทุ ง้ั หลายนอ ม ลาภของสงฆไปตามชอบใจ\" เปน ปาจติ ตยี . 58
๘๒. อน่ึง ภิกษใุ ดรูอยู นอมลาภทเ่ี ขานอ มไปจะถวายสงฆม าเพ่ือบคุ คล เปน ปาจิตตยี . สหธรรมมกิ วรรคที่ ๘ (จบ) ๘๓. อนึง่ ภกิ ษใุ ด ไมไดรับบอกกอ น กา วลว งธรณีเขา ไป (ในหอ ง) ของพระราชาผูก ษตั รยิ ไ ดรบั มฤธาภเิ ษกแลว ท่ีพระราชายงั ไมเสด็จออก ที่รตนะยงั ไมอ อก เปนปาจติ ตยี . ๘๔. อน่งึ ภิกษุใด เกบ็ เอาก็ดี ใหเก็บเอาก็ดี ซง่ึ รตนะกด็ ี ซงึ่ ของทสี่ มมตวิ าเปน รตนะกด็ ี เวนไวแ ตใ นวดั ทอ่ี ยกู ด็ ี ในท่อี ยพู ักกด็ ี เปน ปาจิตตยี . แลภกิ ษเุ ก็บเอาก็ดี ใหเก็บเอากด็ ี ซึง่ รตนะก็ดี ซงึ่ ของทสี่ มมตวิ ารตนะก็ดี ในวัดท่อี ยกู ็ดี ในที่อยูพกั กด็ ี แลว พงึ เกบ็ ไว ดวยหมายวา \"ของผใู ด ผนู น้ั จกั ไดเ อาไป\" นี้เปนสามีจกิ รรมในเรื่องนัน้ . ๘๕. อน่ึง ภกิ ษใุ ด ไมอ ําลาภกิ ษผุ มู ีอยแู ลว เขาไปสูบา นในเวลาวิกาล เวนไวแ ตกิจรีบ (คือธุระรอน) มอี ยางนั้นเปนรปู เปน ปาจิตตยี . ๘๖. อนึง่ ภิกษใุ ด ใหทํากลอ งเขม็ แลว ดวยกระดูกกด็ ี แลวดวยงากด็ ี แลว ดว ยเขากด็ ี เปน ปาจติ ตยี ทใี่ หทุบท้ิงเสยี . ๘๗. อนึง่ ภกิ ษผุ ใู หทําเตยี งกด็ ี ตงั่ ก็ดี ใหม พงึ ทาํ ใหม ีเทา เพียง๘นิว้ ดวยนว้ิ สคุ ต เวน ไวแตแ มแ ครเบอ้ื งตํา่ เธอทําใหล ว ง ประมาณน้ันไป เปนปาจิตตีย ทใี่ หตัดเสยี . ๘๘. อนึง่ ภิกษใุ ด ใหท าํ เตยี งก็ดี ต่ังก็ดีเปน ของหมุ นนุ (คือยัดนุน) เปนปาจิตตีย ทใี่ หรอื้ เสีย. ๘๙. อน่งึ ภกิ ษผุ ูใหทาํ ผา สาํ หรับน่งั ใหท าํ ใหไ ดประมาณน้ี ประมาณในคํานน้ั โดยยาว ๒ คบื โดยกวา งคบื หนง่ึ ชายคบื ครง่ึ ดวยคืบสคุ ต เธอทําใหล ว งประมาณนัน้ ไป เปนปาจิตตยี ทใ่ี หต ดั เสีย. ๙๐. อน่งึ ภิกษผุ ใู หทาํ ผา ปด ฝ พงึ ใหท ําใหไ ดป ระมาณน้ี ประมาณในคาํ น้นั โดยยาว ๔ คบื โดยกวา ง ๒ คืบครงึ่ ดวยคบื สคุ ต เธอทําใหล วงประมาณนนั้ ไป เปนปาจติ ตยี ทีใ่ หต ัดเสยี . ๙๑. อน่ึง ภิกษผุ ใู หท ําผา อาบน้ําฝนพงึ ทาํ ใหไ ดประมาณนี้ ประมาณในคํานนั้ โดยยาว ๖ คบื โดยกวาง ๒ คืบครึง่ ดว ยคบื สคุ ต เธอทาํ ใหลวงประมาณนนั้ ไป เปน ปาจติ ตยี ที่ใหต ดั เสยี . ๙๒. อน่งึ ภิกษใุ ด ใหท าํ จีวร มปี ระมาณเทา สุคตจีวร หรอื ย่งิ กวา เปนปาจติ ตยี ทีใ่ หต ัดเสยี . นีป้ ระมาณแหงสคุ ตจวี รของพระ สุคต ในคําน้ัน โดยยาว ๙ คืบ โดยกวาง ๖ คืบ ดวยคบื สคุ ต น้ปี ระมาณแหงสุคตจีวรของพระสุคต ระตะนะวรรคท่ี ๙ (จบ) ทานผมู ีอายุท้งั หลาย ธรรมชื่อปาจติ ตยี ๙๒ ขาพเจาไดแสดงขนึ้ แลว แล ขาพเจาถามทา นทงั้ หลายในขอ เหลาน้ัน ทา นทงั้ หลายเปน ผูบรสิ ทุ ธิ์แลว หรือ ? ขาพเจา ถามแมครงั้ ท่ี ๒ ทา นทง้ั หลายเปน ผบู รสิ ุทธแ์ิ ลวหรอื ? 59
ขา พเจาถามแมครงั้ ที่ ๓ ทานทง้ั หลายเปน ผบู รสิ ุทธแ์ิ ลวหรือ ? ทา นท้ังหลายเปนผบู รสิ ุทธใิ์ นขอเหลา นีแ้ ลว เพราะฉะนัน้ จงึ นงิ่ ขา พเจา ทรงความไวด วยอยางน.ี้ ปาจติ ตยี จบ. คาํ แปล ปาฏเิ ทสนยี ะ (ปาฏเิ ทสนียะ ๔) ทานผูมีอายุทง้ั หลาย ธรรมช่ือปาฏเิ ทสนียะ ๔ เหลา นแ้ี ล ยอมมาสูอทุ เทส. ๑. อน่ึง ภิกษใุ ด รับของเค้ยี วก็ดี ของฉันกด็ ี ดว ยมอื ของตน จากมอื ของนางภิกษณุ ผี มู ใิ ชญ าติ ผเู ขาไปแลว สลู ะแวกบานแลว เค้ียวก็ดี ฉนั ก็ดี อนั ภกิ ษุน้นั พงึ แสดงคืนวา \"แนะ เธอ ฉนั ตอ งธรรมทน่ี าติ ไมเปน สบาย ควรจะแสดงคนื ฉันแสดงคนื ธรรมนน้ั \". ๒. อน่ึง ภกิ ษทุ ั้งหลายรบั นมิ นตฉ นั อยใู นสกลุ ถาภิกษณุ มี ายนื สั่งเสยี อยใู นที่นนั้ วา \"จงถวายแกงในองคน ี้ จงถวายขา วในองค น้ี\" ภกิ ษทุ ้งั หลายเหลานน้ั พงึ รุกรานภกิ ษณุ ีนัน้ วา \"นอ งหญิง เธอจงหลีกไปเสยี ตลอดเวลาทภ่ี ิกษฉุ ันอย\"ู ถาภกิ ษแุ มร ปู หนง่ึ ไม กลาวออกไปเพ่อื จะรุกรานภิกษณุ นี ัน้ วา \"นอ งหญงิ เธอจงหลกี ไปเสยี ตลอดเวลาที่ภิกษฉุ นั อย\"ู อนั ภิกษุเหลา นน้ั พงึ แสดงคนื วา \"แนะ เธอ พวกฉนั ตองธรรมทน่ี า ติ ไมเปน สบาย ควรจะแสดงคนื พวกฉันแสดงคืนธรรมน้ัน\". ๓. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด ไมไดร ับนิมนตก อน มใิ ชผ ูอาพาธ รับของเคี้ยวก็ดี ของฉันก็ดี ในสกลุ ทสี่ งฆสมมติวา เปน เสขะ ดว ยมอื ของตน แลวเคย้ี วกด็ ี ฉันก็ดี อันภกิ ษนุ นั้ พงึ แสดงคนื วา \"แนะเธอ ฉันตองธรรมทนี่ าติ ไมเ ปน สบาย ควรจะแสดงคนื ฉันแสดงคนื ธรรม น้นั .\" ๔. อนึ่ง ภกิ ษใุ ด อยใู นเสนาสนะปา ท่รี กู ันวา เปน ทีม่ รี ังเกยี จ มีภยั เฉพาะหนา รับของเคี้ยวก็ดี ของฉันก็ดี อนั เขาไมไ ดบ อกใหร ไู ว กอน ดวยมอื ของตน ในวัดทีอ่ ยไู มใ ชผูอาพาธ เคยี้ วกด็ ี ฉันก็ดี อันภกิ ษนุ ้ันพงึ แสดงคนื วา \"แนะ เธอ ฉนั ตองธรรมทีน่ าติ ไมเ ปน สบาย ควรจะแสดงคนื ฉันแสดงคนื ธรรมน้ัน.\" ทา นทั้งหลาย ธรรมทง้ั หลายชอื่ ปาฏเิ ทสนียะ ๔ ขาพเจาไดแ สดงข้ึนแลว แล ขาพเจา ถามทานทง้ั หลายในขอ เหลา นั้น ทา นทง้ั หลายเปน ผูบรสิ ทุ ธแ์ิ ลวหรือ ? ขา พเจา ถามแมค รงั้ ที่ ๒ ทา นทงั้ หลายเปน ผบู รสิ ทุ ธ์แิ ลว หรอื ? ขา พเจา ถามแมค รงั้ ที่ ๓ ทา นทงั้ หลายเปน ผบู รสิ ทุ ธแ์ิ ลวหรอื ? ทา นทั้งหลายเปนผูบ รสิ ุทธิ์แลวในขอ เหลา นี้ เพราะฉะนน้ั จึงนง่ิ ขาพเจา ทรงความไวด วยอยางนี้. ปาฏิเทสะนยี ะ จบ. 60
คําแปล เสขิยะ (เสขยิ ะ ๗๕) ทา นทั้งหลาย ธรรมชือ่ เสขิยะเหลา นีแ้ ล ยอมมาสอู ุทเทส. ๑. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักนงุ เปนปริมณฑล\". ๒. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั หมเปน ปริมณฑล\". ๓. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจักปกปด กายดีไปในละแวกบาน\". ๔. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจักปกปด กายดีนง่ั ในละแวกบาน ๕. พึงทําศึกษาวา \"เราจกั สาํ รวมดไี ปในละแวกบาน\". ๖. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั สาํ รวมดี น่ังในละแวกบาน.\" ๗. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจักมตี าทอดลงไปในละแวกบา น.\" ๘. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั มตี าทอดลงนั่งในละแวกบา น.\" ๙. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักไมไ ปในละแวกบา นดวยทัง้ เวกิ ผา .\" ๑๐. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจักไมน ่งั ในละแวกบา น ดวยทง้ั เวกิ ผา .\" ปะรมิ ัณฑะละวรรค ทห่ี น่ึงจบ ๑๑. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมไ ปในละแวกบา น ดวยทง้ั ความหัวเราะลน่ั .\" ๑๒. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจกั ไมน ่งั ในละแวกบา น ดว ยท้งั ความหัวเราะล่ัน.\" ๑๓. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั มเี สยี งนอยไปในละแวกบา น.\" ๑๔. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั มีเสยี งนอ ยนั่งในละแวกบา น.\" ๑๕. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักไมโยกกายไปในละแวกบาน.\" ๑๖.พงึ ทาํ ศกึ ษาวา\"เราจักไมโ ยกกายนงั่ ในละแวกบาน.\" ๑๗. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมไ กวแขนไปในละแวกบา น.\" ๑๘.พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมไกวแขนน่ังในละแวกบาน\" ๑๙. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมโคลงศีรษะไปในละแวกบา น.\" ๒๐. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจักไมโคลงศรี ษะนงั่ ในละแวกบาน.\" นะ อุชชคั คิกะวรรค ทีส่ องจบ ๒๑. พึงทาํ ศกึ ษาวา\"เราจกั ไมทาํ ความค้ําไปในละแวกบา น.\" ๒๒. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมทาํ ความค้ํานงั่ ในละแวกบาน.\" ๒๓. พงึ ทําศึกษาวา \"เราจกั ไมค ลมุ (ศรี ษะ) ไปในละแวกบา น.\" ๒๔. พึงทําศึกษาวา \"เราจักไมคลมุ (ศีรษะ) นัง่ ในละแวกบา น.\" ๒๕. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมไปในในละแวกบา น ดว ยทง้ั ความกระโหยง .\" ๒๖. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักไมน ง่ั ในในละแวกบาน ดวยทง้ั ความรดั เขา .\" ๒๗. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจกั รบั บณิ ฑบาตโดยเออ้ื เฟอ \" ๒๘. พึงทําศกึ ษา\"เราจักจองดอู ยใู นบาตรรบั ิณฑบาต\" 61
๒๙. พึงทาํ ศึกษาวา\"เราจักรับบณิ ฑบาตมสี ูปะเสมอกนั ๓๐. พงึ ทําศึกษาวา \"เราจักรับบณิ ฑบาตเสมอขอบ\" นะ ขมั ภะกะตะวรรค ที่สามจบ ๓๑. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจักฉนั บณิ ฑบาตโดยเอ้อื เฟอ .\" ๓๒. พึงทําศึกษาวา \"เราจักจอ งดอู ยใู นบาตรฉันบิณฑบาต.\" ๓๓. พึงทําศึกษาวา \"เราจกั ฉันบณิ ฑบาตไมแ หวง .\" ๓๔.พงึ ทําศึกษาวา \"เราจักฉนั บณิ ฑบาตมีสูปะเสมอกนั \" ๓๕. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจักไมขยมุ ลงแตย อดฉันบิณฑบาต.\" ๓๖. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมก ลบแกงกด็ ี กับขา วกด็ ี ดว ยขา วสกุ อาศยั ความอยากไดม าก.\" ๓๗. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราไมอ าพาธ จักไมข อสปู ะก็ดี ขาวสุกก็ดี เพื่อประโยชนแ กต นฉนั .\" ๓๘. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมเพง โพนทะนาแลดบู าตรของผอู ่นื .\" ๓๙. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจักไมท ําคําขาวใหใหญน กั .\" ๔๐. พงึ ทําศึกษาวา \"เราจักทาํ คําขาวใหก ลมกลอ ม.\" สักกัจจะวรรค ทส่ี ่จี บ ๔๑. พึงทําศึกษาวา \"เมอ่ื คําขา วยงั ไมน าํ มาถงึ เราจกั ไมอา ชอ งปาก.\" ๔๒. พึงทําศึกษาวา \"เราฉนั อยู จักไมส อดมือท้ังนนั้ เขาในปาก ๔๓. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"ปากยงั มคี าํ ขา วเราจกั ไมพดู .\" ๔๔. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉ นั เดาะ คําขาว ๔๕. พึงทําศึกษาวา \"เราจกั ไมฉ ันกดั คําขา ว.\" ๔๖. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉันทาํ ใหต ยุ ๔๗. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉันสลัดมอื .\" ๔๘. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉันทําเมลด็ ขาวตก.\" ๔๙. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉนั แลบลิ้น ๕๐. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมฉ ันทําเสียงจับๆ นะ อะนาหะฏะวรรค ท่หี าจบ ๕๑. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักไมฉ ันทําเสียงซดู ๆ ๕๒. พึงทําศึกษาวา \"เราจกั ไมฉ ันเลียมือ.\" ๕๓. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจกั ไมฉนั ขอดบาตร.\" ๕๔. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจกั ไมฉ นั เลยี รมิ ฝป าก.\" ๕๕. พึงทําศกึ ษาวา \"เราจักไมรบั โอนาํ้ ดว ยมอื เปอ นอามสิ .\" ๕๖. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจกั ไมเทน้ําลา งบาตรมเี มลด็ ขาวในละแวกบา น.\" ๕๗. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมแ สดงธรรมแกบ คุ คลไมใชผูเ จบ็ ไข มรี ม ในมอื .\" ๕๘. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราจักไมแ สดงธรรมแกบคุ คลไมใชผ ูเจ็บไข มีไมพ ลองในมอื .\" ๕๙. พึงทาํ ศึกษาวา \"เราจักไมแ สดงธรรมแกบ คุ คลไมใ ชผูเจบ็ ไข มีศสั ตราในมอื .\" ๖๐. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจักไมแ สดงธรรมแกบ คุ คลไมใ ชผูเจ็บไข มีอาวุธในมอื .\" 62
นะ สรุ ุสรุ กุ าระกะวรรค ที่หกจบ ๖๑. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมแสดงธรรมแกบุคคลไมใชผ ูเ จ็บไขส วมเขียงเทา.\" ๖๒. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมแ สดงธรรมแกบุคคลไมใ ชผูเจ็บไขส วมรองเทา.\" ๖๓. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราจกั ไมแสดงธรรมแกบคุ คลไมใ ชผเู จบ็ ไขไ ปในยาน.\" ๖๔. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราจกั ไมแสดงธรรมแกบ ุคคลไมใชผูเจบ็ ไขอยบู นท่ีนอน.\" ๖๕ . พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจกั ไมแ สดงธรรมแกบคุ คลไมใ ชผ เู จ็บไขน ง่ั รัดเขา .\" ๖๖. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราจักไมแสดงธรรมแกบ ุคคลไมใ ชผ เู จบ็ ไขพันศรี ษะ.\" ๖๗. พงึ ทําศึกษาวา \"เราจักไมแสดงธรรมแกบคุ คลไมใชผ เู จ็บไขค ลมุ ศรี ษะ.\" ๖๘. พึงทาํ ศึกษาวา \"เรานง่ั อยทู แ่ี ผนดนิ จักไมแ สดงธรรมแกคนไมเ จบ็ ไข ผูน ั่งบนอาสนะ.\" ๖๙. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เรานง่ั บนอาสนะตาํ่ จักไมแ สดงธรรมแกค นไมเ จบ็ ไข ผนู ่ังบนอาสนะสงู .\" ๗๐. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เรายืนอยู จกั ไมแ สดงธรรมแกค นไมเจบ็ ไข ผูนงั่ อยู. \" นะ ปาทกุ ะวรรค ท่เี จ็ดจบ ๗๑. พงึ ทาํ ศกึ ษาวา \"เราเดินไปขา งหลงั จกั ไมแ สดงธรรมแกคนไมเจ็บไข ผูเดนิ ไปขางหนา.\" ๗๒. พงึ ทําศกึ ษาวา \"เราเดนิ ไปนอกทางจกั ไมแ สดงธรรมแกคนไมเจ็บไข ผูไปอยใู นทาง.\" ๗๓. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราไมอ าพาธ จักไมยนื ถา ยอุจจาระหรือปสสาวะ.\" ๗๔. พึงทาํ ศกึ ษาวา \"เราไมอ าพาธ จกั ไมถายอุจจาระ ปสสาวะ หรอื บวนเขฬะบนของสดเขียว.\" ๗๕. พงึ ทาํ ศึกษาวา \"เราไมอาพาธ จักไมถ ายอุจจาระ ปส สาวะ หรอื บว นเขฬะในนา้ํ นะ ปจฉะโตวรรค ที่แปดจบ ทา นทั้งหลาย ธรรมทงั้ หลายชอ่ื เสขิยะ ขา พเจา แสดงข้นึ แลว . ขา พเจาถามทา นท้งั หลายในเรื่องนน้ั ทา นทั้งหลายเปน ผูบ ริสทุ ธิ์แลว หรือ ? ขา พเจาถามแมค รงั้ ท่ี ๒ ทานทงั้ หลายเปน ผูบรสิ ทุ ธิแ์ ลวหรอื ? ขา พเจาถามแมครงั้ ที่ ๓ ทา นทง้ั หลายเปน ผบู รสิ ทุ ธแิ์ ลว หรือ ? ทานทัง้ หลายเปนผบู รสิ ทุ ธแิ์ ลวในเรอื่ งนนั้ เพราะฉะนัน้ จงึ นิ่ง. ขา พเจา ทรงความน้ไี วด ว ยอยางน.ี้ เสขยิ ะ จบ. 63
คาํ แปล อธิกรณสมถะ ๗ ทานทั้งหลาย ธรรมชอ่ื อธิกรณสมถะ ๗ เหลาน้ีแล ยอมมาสอู ทุ เทส. เพอื่ ความสงบ เพอื่ ความระงบั ซึง่ อธิกรณท ั้งหลายทเี่ กดิ ขน้ึ แลว ทเ่ี กิดข้ึนแลว พงึ ใหระเบยี บอันจะพงึ ทาํ ใหถ ึงพรอ มหนา พงึ ใหร ะเบยี บยกเอาสตขิ นึ้ เปนหลกั พงึ ใหระเบยี บที่ใหแกภ กิ ษผุ ูหายเปน บา แลว (พงึ ให) ทําตามรบั (พงึ ให) ตดั สนิ เอาตามคาํ ของคนมากเปนประมาณ (พึงให) กริ ยิ าทล่ี งโทษแกผ ูผดิ (พึงให) ระเบยี บดงั กลบไวดว ยหญา . ทานท้งั หลาย ธรรมชื่ออธกิ รณสมถะ ๗ อันขาพเจา แสดงข้นึ แลว แล ขาพเจาถามทานทั้งหลายในเร่ืองนนั้ ทา นทง้ั หลายเปน ผูบริสทุ ธแิ์ ลวหรอื ? ขาพเจา ถามแมค รงั้ ที่ ๒ ทานทง้ั หลายเปน ผูบ รสิ ุทธแิ์ ลวหรือ ? ขา พเจาถามแมค รงั้ ท่ี ๓ ทา นทงั้ หลายเปน ผบู รสิ ทุ ธิ์แลวหรือ ? ทา นทงั้ หลายเปน ผูบ รสิ ุทธิ์แลวในเรือ่ งนน้ั เพราะฉะนั้นจึงนง่ิ . ขา พเจาทรงความน้ีไวด ว ยอยางน้.ี อธกิ รณสมถะ ๗ จบ. ทา นท้ังหลาย คาํ นทิ าน ขาพเจาแสดงขน้ึ แลว แล ธรรมทั้งหลายชอื่ ปาราชิก ๔ ขาพเจา แสดงข้ึนแลว ธรรมทั้งหลายชื่อสงั ฆาทิเสส ๑๓ ขาพเจาแสดงขึ้นแลว ธรรมทั้งหลายช่อื อนยิ ต ๒ ขา พเจา แสดงขนึ้ แลว ธรรมทั้งหลายชอื่ นสิ สคั คยิ ปาจิตตยี ๓๐ ขาพเจา แสดงขน้ึ แลว ธรรมทง้ั หลายชอ่ื ปาจติ ตีย ๙๒ ขาพเจาแสดงขน้ึ แลว ธรรมทง้ั หลายชื่อปาฏเิ ทสนยี ะ ๔ ขาพเจา แสดงข้นึ แลว ธรรมทงั้ หลายชอื่ เสขยิ ะ ขา พเจาแสดงขึน้ แลว ธรรมทั้งหลายชื่ออธกิ รณสมถะ ๗ ขาพเจาแสดงขนึ้ แลว คําเทานี้ของพระผูมพี ระภาคเจานัน้ นับเนื่องในสูตรแลว มาในสูตรแลว ยอ มมาสอู ุทเทส ทกุ ๆ ก่ึงเดือน . อนั ภิกษทุ ง้ั หลายทง้ั ปวง นนั่ แล พงึ เปนผพู รอ มเพรียงกนั เปน ผชู น่ื ชมดวยดีอยู เปนผูไมว วิ าทอยู ศกึ ษาในพระปาฏโิ มกขน ั้นดงั น.้ี 64
Search