สัปดาห์ ๑๓ คำสมาส แบบสนธิ

คำสนธิ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๒

คำสนธิ หมำยถึง คำที่มีกำรเปลีย่ นแปลงรปู สระ มกั นิยมทำใหเ้ สียงกลมกลืนกันเขำ้ กบั พยำงค์หลังของคำแรก

สนธมิ ี ๓ ลกั ษณะ ๑. สระสนธิ (สระท้ำยของคำหน้ำ + สระแรกของคำหลัง = ได้สระใหม่) - อะ , อำ + อะ , อำ = อำ เช่น เทศ(ะ) + อ(ะ)ภบิ ำล = เทศำภิบำล - อะ , อำ + อิ , อี = อิ,อ,ี เอ เชน่ นร(ะ) + อนิ ทร์ = นรินทร์,นเรนทร์ - อะ , อำ + อุ , อู = อุ,อู,โอ เชน่ ชล(ะ) + อุทร = ชโลธร - อิ , อี + อิ = อิ เชน่ กร + อนทร์ = กรนทร์ - อุ , อู + อุ , อู = อุ , อู เชน่ คร + อปกรณ์ = ครปกรณ์ เคลด็ ลับ ตดั อ คำหลังก่อนสนธิ

สนธมิ ี ๓ ลกั ษณะ ๑. สระสนธิ (ตอ่ ) (สระท้ำยของคำหนำ้ + สระแรกของคำหลัง = ได้สระใหม่) - อิ , อี + สระอืน่ แปลง อ,ิ อี เป็น “ย” แลว้ สนธิกบั สระคำหลงั เช่น วัลล + อำภรณ์ = วัลย + อำภรณ์ = วัลยำภรณ์ - อุ , อู + สระอืน่ แปลง อ,ุ อู เปน็ “ว” แลว้ สนธิกบั สระคำหลัง เชน่ ธน + อำคม = ธนว + อำคม = ธนวำคม (ธันวำคม) เคลด็ ลบั ตดั อ คำหลงั ก่อนสนธิ

สนธมิ ี ๓ ลกั ษณะ ๑. สระสนธิ แบบท่ี ๒ ตดั สระท้ำยคำหน้ำ ใช้สระหนำ้ คำหลัง เช่น ชล + อำลยั = ชลำลยั วิทย + อำลยั = วิทยำลยั เทว + อำลยั = เทวำลยั ศิว + อำลยั = ศวิ ำลยั วชริ + อำวุธ = วชริ ำวธุ คทำ + อำวุธ = คทำวธุ มหำ + อรรณพ = มหรรณพ มหำ + ไอศวรรย์ = มไหศวรรย์ เคลด็ ลบั ตดั อ คำหลงั ก่อนสนธิ

สนธมิ ี ๓ ลกั ษณะ ๒. พยัญชนะสนธิ ๒.๑ วิธโี ลโป คอื ตดั พยำงค์สดุ ทำ้ ยของคำหน้ำ แลว้ สนธิกนั เชน่ ทรุ สฺ + พล = ทรุ พล นิรสฺ + ภยั = นริ ภัย ๒.๒ วิธอี ำเสโท คือ เปลีย่ นพยำงค์สดุ ทำ้ ยของคำหนำ้ เป็นสระโอ แลว้ สนธิกัน เชน่ มนสฺ + ภำพ = มโนภำพ ยสสฺ + ธร = ยโสธร

สนธิมี ๓ ลักษณะ ๓. นคิ หิต( ํ)สนธิ เปน็ กำรสนธิกบั พยัญชนะวรรค เปลี่ยนนิคหิตเปน็ พยญั ชนะแถวที่ ๕ ของพยญั ชนะแต่ละวรรค ๓.๑ พยญั ชนะตน้ ของคำหลงั เป็นพยัญชนะวรรค กะ เปลีย่ นนิคหิตเปน็ “ง” เช่น ส + กร = สงั กร ๓.๒ พยัญชนะตน้ ของคำหลังเป็นพยัญชนะวรรค จะ เปลี่ยนนิคหิตเป็น “ญ” เชน่ ส + จร = สญั จร ๓.๓ พยัญชนะตน้ ของคำหลังเป็นพยัญชนะวรรค ฏะ เปลี่ยนนิคหิตเป็น “ณ” เชน่ ส + ฐำน = สณั ฐำน เคลด็ ลับ เพิ่ม ไม้หนั อำกำศ ( ั ) พร้อมกบั เปลีย่ นนิคหิต

สนธิมี ๓ ลักษณะ ๓. นคิ หติ ( ํ)สนธิ เป็นกำรสนธิกบั พยัญชนะวรรค เปลี่ยนนคิ หติ เป็นพยัญชนะแถวที่ ๕ ของพยญั ชนะแตล่ ะวรรค (ตอ่ ) ๓.๔ พยัญชนะต้นของคำหลังเป็นพยัญชนะวรรค ตะ เปลี่ยนนคิ หติ เป็น “น” เชน่ ส + นบิ ำต = สนั นบิ ำต ๓.๕ พยัญชนะต้นของคำหลงั เป็นพยญั ชนะวรรค ปะ เปลี่ยนนคิ หติ เปน็ “ม” เช่น สย + ภู = สยมภู เคล็ดลับ สว่ นใหญเ่ พิม่ ไมห้ นั อำกำศ ( ั ) พร้อมกบั เปลีย่ นนิคหิต

สนธิมี ๓ ลักษณะ ๓. นคิ หติ ( ํ)สนธิ เปน็ กำรสนธิกบั พยญั ชนะวรรค เปลีย่ นนคิ หติ เปน็ พยัญชนะแถวที่ ๕ ของพยัญชนะแตล่ ะวรรค (ตอ่ ) ๓.๖ พยญั ชนะตน้ ของคำหลงั เป็นพยญั ชนะเศษวรรค เปลีย่ นนคิ หติ เป็น “ง” เช่น ส + หรณ์ = สังหรณ์ ๓.๗ นคิ หติ สนธกิ บั สระแรกของคำหลัง เปลีย่ นนคิ หติ เป็น “ม” เช่น ส + อำคม = สม + อำคม = สมำคม ส + อุทยั = สม + อุทยั = สมทุ ยั เคลด็ ลบั สว่ นใหญเ่ พิ่ม ไมห้ ันอำกำศ ( ั ) พร้อมกบั เปลี่ยนนคิ หิต

ประชันคำสนธิ คำมลู + คำมูล เขียนเปน็ คำสนธิ กรรม + อำชีพ ขีปน + อำวุธ จินตนำกำร พลำนำมัย เทว + อำลัย มเหสี ส + โอสร นร + อินทร์

















ประชันคำสนธิ คำมูล + คำมลู เขียนเปน็ คำสนธิ กรรม + อำชีพ กรรมำชีพ ขีปน + อำวุธ ขีปนำวธุ จินตนำ+ อำกำร จินตนำกำร เทว + อำลยั เทวำลยั พล + อนำมยั พลำนำมยั มห + อิสี มเหสี ส + โอสร สโมสร นร + อินทร์ นรินทร์ / นเรนทร์