ครผู ู้สอน : โสพิศม์ ประยูรหงษ์ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
สาระการเรียนรู้ –การจัดซื้อและการรบั จ่ายวัตถุดิบ –หลกั การบัญชีเก่ยี วกับวตั ถุดิบ –การคานวณหาต้นทนุ วัตถดุ ิบทใี่ ช้ไป ในการผลติ –การคานวณต้นทุนวัตถุดิบคงเหลือ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ –อธบิ ายการจัดซื้อและการรับจ่าย วตั ถดุ ิบได้ –บันทึกบัญชีเกย่ี วกับวัตถดุ ิบได้ –คานวณหาต้นทนุ วตั ถุดิบทใี่ ช้ไปในการ ผลติ ได้ –คานวณต้นทนุ วตั ถดุ ิบคงเหลือได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
หมายถงึ “ของที่ซื้อมาหรือได้มา” เพื่อใช้เป็น ส่วนผสมหรือสว่ นประกอบอันสาคัญของสินค้า สาเร็จรูป วัตถุดิบ (Raw Materials) เป็น ส่วนประกอบที่สาคัญในการผลิตสินค้าของ กิจการอุตสาหกรรมสามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท 1. วตั ถุดิบทางตรง (Direct Materials) 2. วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect Materials) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
1. วัตถุดิบทางตรง (Direct Materials) ซึ่งสมาคม นักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศ ไ ท ย ไ ด้ บั ญ ญั ติ ศั พ ท์ บั ญ ชี ค า ว่ า “วั ต ถุ ดิ บ ทางตรง” ให้ความหมายว่ามูลค่าของวัตถุดิบที่ใช้ ในการผลิตสินค้าโดยตรง และเป็นส่วนสาคัญท่ี สามารถคดิ เขา้ เปน็ ต้นทุนของหน่วยผลิตได้โดยง่าย เช่น เหล็กแผ่นเป็นวัตถุดิบทางตรงในการผลิตตู้ เอกสารเหล็ก หรือ กระดาษเป็นวัตถุดิบทางตรงใน การผลิตสมดุ เปน็ ต้น จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
2. วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect Materials) หรือ เรียกว่า วัสดุโรงงาน (Factory Supplies) หมายถึง วัสดุ หรือส่ิงของท่ีนามาใช้ในการผลิต สิ น ค้ า โ ด ย ใ ช้ ใ น ป ริ ม า ณ น้ อ ย แ ล ะ ใ ช้ เ ป็ น ส่วนประกอบหรือช่วยให้สินค้าสาเร็จรูปสมบูรณ์ ได้ แต่ไม่ได้เป็นส่วนสาคัญหรือองค์ประกอบ สาคัญของตัวสินค้าน้ัน วัตถุดิบทางอ้อมเป็น ค่าใช้จ่ายในการผลิต เช่น น๊อต สกรู กาว ด้าย สี เปน็ ต้น จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
- วัตถุดิบเป็นส่วนประกอบที่สาคัญในการผลิตสินค้า และ เป็น ต้นทุนของสินค้าตัวหนึ่งน้ัน การบริหารงานของกิจการ อุตสาหกรรม จึงต้องมีการควบคุมตรวจสอบและบริหารการ จัดซ้ือวัตถุดิบให้รัดกุม หรือบริหารการใช้วัตถุดิบให้เกิด ประโยชน์สูงสุดต่อการผลิตเพื่อกิจการจะได้ลดต้นทุนหรือ ประหยดั ต้นทุนวัตถดุ ิบให้มากท่สี ดุ - กจิ การอุตสาหกรรมแต่ละกิจการจะมีข้ันตอนการจัดซ้ือวัตถุดิบ ต่างกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายหรือขนาดและสภาพของกิจการนั้น โดยส่วนมากกิจการอุตสาหกรรมจะกาหนดจานวนของ วตั ถดุ ิบคงเหลือข้ันต่าสุด และปรมิ าณวตั ถดุ ิบคงเหลือขั้นสูงสุด ของจานวนหรอื ปริมาณวตั ถดุ ิบไว้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ขน้ั ตอนการรบั วัตถุดบิ การรับวัตถุดิบ แต่ละกิจการจะแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบใน การจัดซื้อวัตถุดิบ การตรวจสอบ และการเก็บรักษาเพื่อ ป้องกันการทุจริต โดยมีการควบคุมดูแลอย่างรัดกุมซึ่งมี แบบฟอร์มเอกสารต่าง ๆ ช่วยในการควบคุมดาเนินงานให้มี ประสทิ ธิภาพ โดยมขี ้ันตอน ดงั น้ี • ข้ันตอนที่ 1 การขอซือ้ หรอื ขออนมุ ตั ิซือ้ วัตถุดิบ • ข้ันตอนที่ 2 การสง่ั ซือ้ วตั ถดุ ิบ • ขั้นตอนที่ 3 การรบั วัตถุดิบ • ขั้นตอนที่ 4 การชาระหน้ีคา่ วัตถุดิบ • ขั้นตอนที่ 5 การเกบ็ รกั ษาวตั ถุดิบ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ข้นั ตอนที่ 1 การขอซอ้ื หรือขออนุมตั ิซื้อวัตถดุ ิบ • เม่ือวัตถุดิบที่เก็บในคลังพัสดุใกล้จะหมดหรือถึงจุด ต่าสุดทีก่ าหนดไว้หรือเมือ่ แผนกผลิตต้องการใช้วัตถุดิบ ก็จะดาเนินการจัดซื้อ โดยการจัดทาเอกสารใบขอซื้อ วัตถุดิบหรือใบขออนุมัติซื้อ (Purchase Requisition) พร้อมทั้งสาเนาอย่างน้อย 2 ฉบับ เพ่ือส่งไปให้ส่วนงาน ทีเ่ กีย่ วข้องดาเนินการอนุมัติ และจัดซื้อ โดยส่งเอกสาร ดงั นี้ • ใบขอซือ้ ฉบบั ที่ 1 ส่งไปแผนกจัดซื้อเพ่ือดาเนินการ จดั ซ้ือ • ใบขอซอื้ ฉบับที่ 2 เก็บไว้เป็นหลักฐานของแผนกที่ จดั ทาใบขอซือ้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ข้นั ตอนท่ี 2 การสัง่ ซื้อวตั ถุดิบ • เมื่อการขอซื้อหรอื การขออนุมัติซือ้ วัตถดุ บิ ได้รับการอนุมตั ิให้ ดาเนินการซ้อื ได้แล้ว ผู้มีหน้าทีจ่ ดั ซอื้ ก็จะพิจารณาเลือก ผู้ขายที่ให้ขอ้ เสนอทีด่ ีและมคี ุณประโยชน์ต่อกจิ การ และแผนก จัดซ้ือจะจัดทาเอกสารใบสั่งซือ้ (Purchase Order) พรอ้ มทา สาเนาเอกสาร อย่างน้อย 5 ฉบับ ดังนี้ • ใบส่ังซ้ือฉบับท่ี 1 ส่งให้ผขู้ ายวัตถดุ ิบ • ใบสั่งซ้ือฉบบั ท่ี 2 ส่งให้แผนกบัญชตี รวจสอบกบั ใบกากบั สินคา้ หรอื ใบทวงหนี้ • ใบสั่งซ้ือฉบบั ท่ี 3 ส่งให้แผนกตรวจรับวตั ถดุ ิบ • ใบสั่งซ้ือฉบับท่ี 4 ส่งให้แผนกทีท่ าใบขอซ้ือหรอื ขออนุมัตซิ ้ือ • ใบส่งั ซือ้ ฉบบั ที่ 5 แผนกซือ้ เกบ็ ไว้เป็นหลกั ฐาน จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ขนั้ ตอนท่ี 3 การรบั วัตถุดิบ • เมือ่ กิจการส่งั ซือ้ วตั ถดุ บิ ไปยงั ผู้ขายแล้ว ทางผู้ขายกจ็ ะส่งวตั ถดุ ิบพร้อม ใบกากับสินคา้ มาให้ผู้มหี น้าทตี่ รวจรบั วตั ถดุ ิบ ตรวจสอบประสิทธิภาพ คุณภาพ และปริมาณวา่ ถกู ต้องตรงกบั ทีก่ ิจการสง่ั ซอื้ ไปหรือไม่ ถ้าไม่ถกู ต้อง หรือตรงกบั ทกี่ ิจการสงั่ ซือ้ ไปหรือกรณีมีการชารุดเสียหาย ก็ให้แผนกที่รับของ จดั ทาเอกสารหลักฐานการส่งคืนวัตถดุ ิบคืนให้ผขู้ ายต่อไป เมื่อแผนกตรวจของ ตรวจรบั เรยี บร้อยแล้ว ก็จะทาเอกสารใบรบั ของ(Receiving Report) พร้อมกับ สาเนาอย่างน้อย 5 ฉบบั โดยส่งวตั ถดุ ิบและ ใบรบั ของไปยงั แผนกคลงั พัสดุ เพือ่ เก็บรักษาและตรวจสอบอีกครงั้ พร้อมท้ังลงนามในใบกากบั สนิ ค้าของ ผู้ขาย ซึง่ ผขู้ ายจะนากลับไปและทางผู้ขายจะทงิ้ เอกสารใบกากบั สินค้าไว้ให้เบิก จ่ายเงินให้ผู้ขายตอ่ ไป • ใบรับของฉบบั ที่ 1 ส่งแผนกซอื้ เพอ่ื ตรวจสอบกับใบสั่งซอื้ • ใบรบั ของฉบบั ที่ 2 ส่งแผนกคลังพัสดเุ ก็บเปน็ หลักฐานในการรับวัตถุดิบ • ใบรับของฉบบั ที่ 3 ส่งแผนกบญั ชีและการเงนิ เพือ่ ตรวจสอบการชาระเงนิ และ เป็นหลกั ฐาน • ใบรบั ของฉบับที่ 4 ส่งให้แผนกพัสดุเพือ่ เปน็ หลักฐานบันทึกบญั ชี • ใบรับของฉบับที่ 5 แผนกตรวจรับของเกบ็ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ขั้นตอนท่ี 4 การชาระหนีค้ ่าวัตถุดบิ การชาระค่าวัตถุดิบส่วนใหญ่กิจการจะพยายามชาระให้ ทันระยะเวลาได้ส่วนลดเงินสดหรือเลือกวิธีการชาระหนี้ที่ ให้เกิดประโยชน์ต่อกิจการมากที่สุด การบันทึกบัญชี เจ้าหนี้อาจใช้ระบบใบสาคัญจ่าย (Voucher System) ก็ได้ เมือ่ กจิ การตรวจสอบความถกู ต้องของใบกากบั สินค้าและ ใบรับของแล้วก็จะทาการจ่ายเงิน โดยการขออนุมัติการ จ่ายเงินจากผู้มีอานาจอนุมัติจ่ายเสียก่อน แล้วจึง จ่ายเงินได้ และถ้ากิจการใช้ระบบใบสาคัญจ่าย ก็จะ บันทึกที่ทะเบียนใบสาคญั และเมื่อจ่ายเชค็ ชาระหนแี้ ล้ว ก็ จะบันทึกที่ทะเบียนจา่ ยเช็คด้วย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ขน้ั ตอนที่ 5 การเก็บรกั ษาวตั ถดุ ิบ เมือ่ แผนกพัสดุได้รับวัตถุดิบพร้อมเอกสารการตรวจรับ ก็ต้อง ทาการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง พร้อมทั้งเก็บรักษา วัตถุดิบให้อยู่ในที่ปลอดภัยเหมาะสม และป้องกันการทุจริต หรือการสูญหายหรือชารุดต่อไป การบันทึกรายการวัตถุดิบ จะบันทึกวัตถุดิบแต่ละชนิดลงในบัตรพัสดุ หรือบัตรวัตถุดิบ (Stock Card) ซึ่งในเอกสารจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการรับ วัตถดุ ิบการจ่ายวตั ถดุ ิบ และยอดคงเหลือของวัตถุดิบพร้อมทั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับจานวนข้ันสูงหรือจานวนข้ันต่า รวมท้ังจุด ส่งั ซือ้ วัตถุดิบหรือจานวนที่ต้องใชใ้ นระหว่างการส่ังซือ้ ด้วย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ขน้ั ตอนการเบิกจา่ ยวตั ถุดิบ • เมือ่ ฝ่ายผลิตมีความจาเป็นต้องใช้วตั ถดุ ิบในการผลิตกจ็ ะทาเรือ่ ง ขอเบิกวตั ถดุ ิบโดยทาเอกสารใบเบกิ วตั ถุดิบ(Materials Requisition) ระบรุ ายละเอียดเกย่ี วกบั วัตถุดิบที่ต้องการใช้ในการ ผลิต เช่น ชนิดของวตั ถดุ ิบ ลกั ษณะของวัตถุดิบ จานวนที่ ต้องการ หรือวตั ถปุ ระสงค์ของการนาวตั ถุดบิ ไปใช้ และมีราคา ต่อหน่วย หรอื ราคารวม โดยจัดทาเอกสารใบเบิกวัตถดุ ิบพรอ้ ม สาเนาอย่างน้อย 3 ฉบับ ดงั นี้ • ใบเบิกวตั ถุดิบฉบับท่ี 1 ส่งให้แผนกคลังพสั ดุ • ใบเบิกวัตถุดิบฉบับท่ี 2ส่งให้แผนกบญั ชเี พื่อบนั ทึกรายการบัญชี • ใบเบิกวัตถดุ ิบฉบบั ท่ี 3เกบ็ ไว้เป็นหลกั ฐานของแผนกที่เบกิ วตั ถดุ ิบ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
หลกั การบญั ชีเกี่ยวกบั วัตถดุ ิบ วตั ถดุ บิ จาแนกได้เปน็ 2 ประเภท คือ วตั ถุดิบทางตรง และวัตถดุ ิบ ทางอ้อม สว่ นการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับวัตถุดิบนน้ั กจิ การสามารถ บ•ันทกึกรวณตั ีทถดุี่ 1ิบไดบ้ ัน2ทกึกรบณัญี ดชงัีวนัตี้ ถุดิบทางตรงและวัตถุดิบทางอ้อมแยก จากกัน คือ เปิดบัญชีวัตถุดิบทางตรง และวัตถุดิบทางอ้อมแยกกัน ตา่ งหาก • กรณีที่ 2 บันทึกบญั ชีวตั ถดุ บิ ทางตรงและวัตถุดิบทางอ้อมรวมกัน คือไม่แยกว่าเป็นวัตถุดิบทางตรงหรือวัตถุดิบทางอ้อม เพราะเป็น การยากที่จะพิจารณาแยกว่าวัตถุดิบใดเป็นวัตถุดิบทางตรง และ วัตถุดิบใดเป็นวัตถุดิบทางอ้อม โดยการเปิดบัญชีวัตถุดิบรวม ทั้ง 2 ชนดิ ไว้ด้วยกันและใช้ชื่อบัญชีว่า “บัญชีคุมยอดวัตถุดิบ” เป็นบัญชี คุมยอดวัตถุดิบทุกชนิดรวมกัน และวิธีการน้ีเป็นที่นิยมใช้กันเพราะ สะดวก และในบางครง้ั เป็นการยากที่จะแยกว่ารายการใดเป็นวัตถุดิบ ทางตรง รายการใดเปน็ วตั ถุดบิ ทางออ้ ม และในบางกรณีวัตถุดิบบาง รายการ อาจจะเปน็ ได้ทั้งวัตถุดิบทางตรงและเป็นวตั ถดุ ิบทางอ้อมก็ได้ ขนึ้ อยกู่ บั วัตถุประสงค์การนาไปผลิตสนิ คา้ ดว้ ย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
วิธีการบนั ทกึ บัญชีเกี่ยวกบั วตั ถุดบิ 1. วิธีบันทกึ บัญชีวัตถดุ ิบคงเหลือแบบตรวจนับตอนสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) ตามวิธีน้ีจะมีการบันทึกบัญชีวัตถุดิบคงเหลือต้นงวด ส่วนระหว่างงวด บัญชถี ้ามีการซื้อวัตถุดบิ เข้ามาใชใ้ นการผลิต ตามวิธีน้ีจะไม่บันทึกเข้าใน บญั ชีวตั ถดุ บิ แต่จะเปิดบัญชีซื้อวัตถุดิบขึ้นมาแทน ซึ่งบัญชีซื้อวัตถุดิบ น้ีจะบันทึกเกี่ยวกับการซื้อวัตถุดิบ แต่ถ้าเป็นส่วนลดรับ ค่าขนส่งเข้า หรือการส่งคืนวัตถุดิบก็จะจาแนกบัญชีไว้ต่างหาก และถ้ามีการเบิก วตั ถดุ บิ ไปใชใ้ นการผลิตก็ไมต่ อ้ งบันทึกบญั ชใี ด ๆ ทง้ั สนิ้ การคานวณจานวนตน้ ทนุ วัตถดุ บิ ที่ใชไ้ ปในระหวา่ งงวดได้จากการตรวจ นับและตรี าคาวัตถุดบิ ทีเ่ หลอื อยจู่ รงิ ณ วนั ส้ินงวดบัญชี วัตถดุ ิบคงเหลอื ที่ตรวจนบั ไดก้ จ็ ะเป็นวัตถุดบิ คงเหลอื ปลายงวดน้ัน ๆ และจะเป็น วตั ถดุ บิ คงเหลอื ต้นงวดของกิจการในงวดบัญชตี อ่ ไปดว้ ย จะเห็นได้วา่ การบันทึกวตั ถุดิบตามวิธีนีจ้ ะบันทึกวัตถุดิบเฉพาะวัตถุดบิ คงเหลอื ต้น งวดในบญั ชวี ตั ถดุ บิ เท่านน้ั จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
วิธีการบนั ทึกบญั ชเี กีย่ วกับวตั ถุดบิ 2. วธิ ีบนั ทึกบญั ชีวตั ถดุ ิบคงเหลือแบบตอ่ เนือ่ ง (Perpetual Inventory Method) วิธีบันทึกบัญชีวัตถุดิบคงเหลือแบบต่อเนื่อง จะเป็นวิธีการบันทึก วัตถุดิบตามการเคล่ือนไหวหรือการเปล่ียนแปลงของวัตถุดิบคงเหลืออยู่ ตลอดเวลาตามการเปล่ียนแปลง เช่น การบันทึกการรับวัตถุดิบเข้ามาใน กิจการ หรือการเบิกจ่ายวัตถุดิบจากคลังพัสดุไปใช้ในการผลิต ซึ่งมีการ บันทึกรายการอย่างต่อเนื่องตามความเป็นจริง ท้ังนี้ก็เพื่อให้ทราบจานวน ของวัตถุดิบคงเหลือที่เป็นปัจจุบันการบันทึกวัตถุดิบตามวิธีนี้จะบันทึก รายการเกี่ยวกับวัตถุดิบ เช่น การซื้อวัตถุดิบ ค่าขนส่งเข้า ส่วนลดรับและ ส่งคืนวัตถุดิบเข้าบัญชีวัตถุดิบ หรือบัญชีคุมยอดวัตถุดิบ การบันทึก วัตถุดิบคงเหลือตามวิธีนี้สามารถคานวณหาต้นทุนการผลิตหรือจานวน วัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิต จากยอดวัตถุดิบที่ลดลงน่ันเอง อย่างไรก็ตาม การควบคุมตรวจสอบวัตถุดิบที่ดีก็ควรมีการตรวจนับวัตถุดิบคงเหลือ ซึ่ง การตรวจนบั เป็นส่งิ สาคัญและจาเปน็ อย่างยิ่งในการพิสูจน์ความถูกต้องของ การบนั ทึกบัญชี จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
การเปรียบเทยี บการบนั ทกึ บญั ชีวัตถุดิบตามวิธีตอนสิ้นงวด และวิธีแบบตอ่ เน่อื ง จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
• ตวั อย่างที่ 3-1 บริษทั โชคอานวยอตุ สาหกรรม จากัด มขี ้อมลู เกย่ี วกับวัตถดุ ิบและการคดิ ภาษีมูลคา่ เพ่มิ ในอตั รา 7% ซึง่ ประกอบด้วย รายละเอียดดังนี้ 2556 ธ.ค. 5 ซ้ือวตั ถุดิบเป็นเงินสด 5,000 บาท 9 จา่ ยชาระคา่ ขนส่งเข้าเปน็ เงินสด 1,500 บาท 11 ซ้ือวตั ถุดิบเปน็ เงินเชื่อ จากรา้ น แสงทอง 7,000 บาท เงื่อนไข 2/10, n/30 15 ส่งคนื วัตถุดิบทีซ่ ้อื จากรา้ นแสงทอง จานวน 500 บาท 19 จา่ ยชาระหนีค้ า่ วตั ถุดิบทั้งหมดใหร้ ้านแสงทอง 20 เบิกวัตถุดิบไปใช้ในการผลติ 8,000 บาท 25 ส่งคนื วตั ถุดิบทีเ่ หลือจากการผลิตคนื คลงั พสั ดุ 300 บาท 31 ตรวจนับวตั ถดุ ิบคงเหลือส้ินงวดได้ 5,170 บาท ให้ทา บันทึกรายการในสมดุ รายวนั ท่ัวไปเกย่ี วกบั วัตถดุ ิบทง้ั แบบตอนสิน้ งวดและแบบต่อเนือ่ ง จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วิธกี ารบันทึกบญั ชี เปน็ ดงั นี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
การคานวณหาต้นทนุ วตั ถุดิบที่ ใชไ้ ปในการผลิต กิจการอุตสาหกรรมจะมีการจัดหาวัตถุดิบมาใช้ใน การผลิตอย่างต่อเน่ืองเป็นประจา เพื่อให้ทันกับ ความต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้า ส่วนการ บันทึกบญั ชวี ัตถดุ ิบคงเหลือกส็ ามารถบนั ทึกได้หลาย วิธี หรือการคานวณหาวัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิต และวตั ถดุ ิบคงเหลือตอนสนิ้ งวดบญั ชีเป็นดังน้ี จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
1. วิธีบันทึกบัญชีวตั ถุดิบคงเหลือตอนสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) การบันทึกบัญชีวัตถุดิบวิธีนี้จะมี บัญชีซื้อ วัตถุดิบ บัญชีค่าขนส่งเข้า บัญชีส่งคืนวัตถุดิบ และ บัญชีส่วนลดรับ การหาวัตถุดิบคงเหลือปลายงวด หาได้จากการตรวจนับและสามารถหาต้นทุน วัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิตได้จากการนาวัตถุดิบ ปลายงวดมาหกั ออกจากวัตถุดิบท่มี อี ยู่ท้ังส้นิ ดงั นี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
2. วิธีบนั ทึกบัญชีวัตถดุ ิบคงเหลอื แบบต่อเนื่อง (Perpetual Inventory Method) ถ้ากิจการต้องการเบิกวัตถุดิบไปใช้ในการผลิตก็จะทาเรื่อง เบิกวตั ถุดบิ จากคลังพสั ดซุ ึง่ ผู้ควบคุมการบันทกึ วัตถุดบิ จะ ทาการบันทึกบัญชีโดย เดบิต บัญชีต้นทุนผลิต และ เครดิต บัญชคี ุมยอดวัตถุดิบ ดงั นน้ั การจะหาต้นทนุ วตั ถุดิบที่ใช้ไปใน การผลิต ก็คือ ยอดจานวนวัตถุดิบที่ลดลงนั่นเอง จะเห็นได้ ว่าการหาต้นทุนวตั ถดุ บิ ทใี่ ชไ้ ปในการผลิตสามารถคานวณได้ โดยสะดวก รวดเร็ว ส่วนการบันทึกบัญชีวัตถุดิบที่ใช้ไปใน การผลิต จะโอนเข้าบัญชีสินค้าระหว่างผลิต หรือ บัญชีงาน ระหว่างทา ดงั นี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ตวั อยา่ งที่ 3-2 การบันทึกบญั ชีเกี่ยวกบั การซือ้ วตั ถดุ ิบและการคานวณหา วตั ถดุ ิบทีใ่ ชใ้ นการผลิตของ บรษิ ัท ไม้สกั อุตสาหกรรม จากดั ซึง่ มียอด วัตถุดิบคงเหลือตน้ งวดในวนั ที่ 1 มกราคม 2557 จานวน 50,000 บาท และคดิ ภาษีมลู ค่าเพิ่มในอัตรา 7% ซึ่งมีรายละเอยี ดเกีย่ วกับการซอื้ วัตถุดบิ ในระหว่างเดือน มกราคม 2557 ดังนี้ 2557 ม.ค. 6 ซอื้ วตั ถดุ ิบเป็นเงินเชื่อ เงื่อนไข (2/10,n/30) 100,000 บาท 10 จ่ายชาระค่าขนส่งเข้าจานวน 25,000 บาท 12 ส่งคืนวัตถุดิบทีซ่ อื้ มาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.57 5,000 บาท 15 จ่ายชาระหนีค้ ่าวัตถดุ ิบทีซ่ ือ้ เมือ่ วันที่ 6 ม.ค. 57 และได้รบั ส่วนลดตามเงือ่ นไข ใหท้ า 1. ให้บนั ทึกรายการข้างต้นในสมุดรายวนั ท่วั ไปในกรณีดังต่อไปนี้ – Periodic Inventory Method (กิจการตรวจนบั และตีราคาวัตถดุ ิบคงเหลือ ปลายงวดสิ้นเดือน มกราคม 2557 ได้จานวน 28,000 บาท) – Perpetual Inventory Method (กิจการเบิกวัตถดุ ิบใช้ในการผลิตระหว่าง เดือน มกราคม 2557 รวมท้ังสนิ้ จานวน 140,100 บาท) 2. บัญชีแยกประเภทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสนิ ค้า 3. คานวณหาวัตถุดิบทีใ่ ชไ้ ปในการผลิต จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
วิธีการบนั ทึกบญั ชี จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
บญั ชีแยกประเภทท่วั ไปแบบ Periodic Inventory Method บญั ชวี ัตถดุ ิบ บัญชีซ้อื วัตถุดิบ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
บัญชีค่าขนส่งเข้า บญั ชีส่งคนื วัตถุดบิ บญั ชสี ว่ นลดรบั จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
บญั ชีแยกประเภททั่วไปแบบ Perpetual Inventory Method บญั ชคี มุ ยอดวัตถดุ บิ บญั ชสี ินค้าระหว่างผลิต จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
การคานวณหายอดวตั ถุดิบที่ใชใ้ นการผลิตตามวธิ กี ารบนั ทึก วตั ถุดิบคงเหลือตอนสนิ้ งวดบญั ชี (Periodic Inventory Method) เปน็ ดงั นี้ วตั ถดุ ิบคงเหลือต้นปี 50,000.– ซ้ือวตั ถดุ ิบ 100,000.– บวก คา่ ขนส่งเข้า 25,000.– 125,000.– หกั ส่งคนื และส่วนลด 5,000.– ส่วนลดรับ 1,900.– 6,900.– ซ้ือวัตถุดิบสทุ ธิ 118,100.– วัตถุดิบทีม่ ีอยู่ท้ังสนิ้ 168,100.– หัก วัตถดุ ิบคงเหลือปลายปี 28,000.– วตั ถดุ ิบที่ใชไ้ ปในการผลิต 140,100.– จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตามปกติกิจการอุตสาหกรรมแต่ละแห่งจะมีการซื้อวัตถุดิบ เข้ามาใช้ในการผลิตอยู่บ่อยคร้ัง และราคาวัตถุดิบอาจจะ เปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามราคาตลาด ส่วนการจะคานวณหา ต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิตก็มีความยุ่งยากพอสมควร และเปน็ การยากต่อการระบุว่าวัตถุดิบที่เหลืออยู่เป็นวัตถุดิบที่ ซือ้ มาราคาเท่าใด โดยทั่วไปการคานวณหาวัตถุดิบคงเหลือใน ตอนส้ินงวด นิยมคานวณตามวิธีราคาทุน (Cost Method) และ ตามวิธีราคาทุนหรือราคาตลาดที่ต่ากว่า (Lower of Cost or Market Method) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
1. วิธีคดิ ตามราคาท่แี ท้จรงิ (Specific Identification Method) วิธีนเี้ ปน็ วิธีทีท่ ราบราคาวัตถุดิบคงเหลอื ที่เป็น จรงิ แน่นอนว่าราคาหน่วยละเท่าใด ซึ่งเป็นราคาทีแ่ ท้จรงิ ของวตั ถดุ ิบน้ัน ๆ ดังนั้น วัตถุดิบคงเหลอื จงึ ใชร้ าคาวตั ถุดิบ จรงิ ในการคานวณ 2. วิธีเขา้ กอ่ น-ออกกอ่ น (First–In, First–Out Method) หรอื FIFO เปน็ วิธีการคานวณต้นทุนวตั ถดุ ิบ โดยถือหลกั ว่า วัตถดุ ิบทีซ่ ือ้ มาก่อนควรจะต้องเบิกไปใช้ในการผลิตก่อน ซึ่งวิธีน้ีวตั ถดุ ิบคงเหลือปลายงวดจะเปน็ วตั ถุดิบทีซ่ ือ้ มาที หลัง จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
3. วิธีถัวเฉลี่ย (Average Method) วิธีนี้เหมาะสาหรับวัตถุดิบที่กิจการ ซ้ือเข้ามามีลักษณะคล้าย ๆ กนั หรอื เหมือน ๆ กนั เช่น ข้าวสาร น้าตาล เป็นต้น ซึ่งเป็นการยากที่จะแยก วัตถุดิบที่ซ้ือมาว่าซ้ือมาเมื่อใด หรือ จานวนราคาเท่าไรเพราะบางครั้งวัตถุดิบที่ซื้อมาใหม่ได้ผสมรวมกับ วัตถดุ ิบที่มีอยู่เดมิ แล้ว ดังนั้น การคานวณต้นทนุ วัตถดุ ิบในลกั ษณะนี้จึง ควรเป็นราคาถัวเฉลี่ย โดยมีหลัก การคานวณดังนี้คือ นายอด คงเหลือของวัตถุดิบต้นงวดและยอดซ้ือวัตถุดิบระหว่างงวดมารวมกัน แล้วหารด้วยผลรวมของจานวนวัตถุดิบต้นงวดและจานวนยอดซ้ือ วัตถุดิบระหว่างงวด ก็จะได้ราคาถัวเฉลี่ยต่อหน่วย เมื่อต้องการหา ต้นทุนของวตั ถดุ ิบคงเหลือก็นามาคูณกับจานวนวัตถุดิบคงเหลือปลาย งวด นั่นเอง ซึ่งตามวิธีนี้ต้นทุนวัตถุดิบต่อหน่วยจะเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง ที่มีการซ้ือวัตถุดิบเข้ามาใหม่ วิธีนี้เหมาะสาหรับกิจการที่ใช้วิธีบันทึก วตั ถุดิบแบบต่อเนื่อง (Perpetual Inventory Method) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตัวอยา่ งที่ 3-3 บริษัท ธนทรัพย์เครื่องหนัง จากัด ประกอบกิจการผลิตเคร่ืองหนังเป็นปีแรกและในระหว่าง ปีมีการซื้อวัตถุดิบประเภทหนัง และมีการเบิกวัตถุดิบไป ใช้ในการผลิต เคร่อื งหนัง ดังนี้ ใหค้ านวณ ต้นทุนวัตถุดิบคงเหลอื ตามวิธีตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. วิธีคิดตามราคาที่แท้จรงิ (Specific Identification Method) (กาหนดราคา 200 บาท) 2. วิธีเข้าก่อน–ออกก่อน (FIFO) 3. วิธีถัวเฉลี่ย (Average Method) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
1. วิธีทา วิธีคดิ ตามราคาทแ่ี ทจ้ ริง (Specific Identification Method) จานวนวัตถดุ ิบคงเหลือ = จานวนวัตถุดิบระหว่างปี – วตั ถดุ ิบเบิกไปใช้ = (4,000 + 2,000) – 5,000 = 1,000 หลา มูลคา่ วตั ถุดิบคงเหลือ = 1,000 200 = 200,000 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
2. วิธีเข้ากอ่ น–ออกกอ่ น (FIFO) จานวนวัตถุดิบคงเหลือ = จานวนวตั ถดุ ิบระหว่างปี – วัตถุดบิ เบิกไปใช้ = (4,000 + 2,000) – 5,000 = 1,000 หลา มลู ค่าวตั ถดุ ิบคงเหลือ = 1,000 200 = 200,000 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
3. วธิ ีถัวเฉลย่ี (Average Method) จำนวนวตั ถดุ ิบระหวำ่ งปี – วตั ถุดิบเบิกไปใช้ จำนวนวตั ถดุ ิบคงเหลือ = (4,000 + 2,000) – 5,000 หลำ 1,000 หลำ = ผลรวมของมูลคำ่ ตน้ งวดและซ้ือระหวำ่ งงวด = รำคำทุนถวั เฉล่ียต่อหน่วย = จำนวนของวตั ถดุ ิบท่ีมีท้งั หมด (4,000 150) + (2,000 200) = (4,000 + 2,000) = 166.67 บำท = มูลคำ่ วตั ถุดิบคงเหลือ = 1,000 166.67 บำท 166,670 บำท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตวั อยา่ ง ใบขอซือ้ /ใบเสนอซือ้ หรือใบขออนมุ ตั ิ (Purchase Requisition) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ตวั อยา่ ง บตั ร วตั ถดุ ิบ (Stock Card) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: