Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1

หน่วยที่ 1

Published by sopit2305, 2022-05-16 08:55:34

Description: หน่วยที่ 1

Search

Read the Text Version

การบญั ชเี บ้อื งต้น รหัสวชิ า 20201-1002 สาขาวชิ าการบญั ชี วทิ ยาลยั เทคนิคสมทุ รสงคราม

ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การบญั ชี จัดทาโดย ครูโสพิศม์ ประยรู หงษ์ สาขาวชิ าการบัญชี

สมาคมนกั บญั ชีและผูส้ อบบญั ชรี บั อนุญาตแห่งประเทศไทย หรือ ส.บช. (The Institute of Certified Accountants and Auditor of Thailand : ICAAT) ในปจั จุบันคือสภาวิชาชีพบัญชี ในพ ระบรมราชูปถัมภ์ (Federation of Accounting Professions under the Royal Patronage of His Majesty the King) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบัญชีไว้ดังนี้ การบัญชี (Accounting) หมายถงึ ศิลปะของการเกบ็ รวบรวม บันทึก จาแนกและทาสรุป ข้อมูลอนั เก่ยี วกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสุดท้ายของการบัญชีก็คือการ ให้ขอ้ มลู ทางการเงนิ ซ่งึ เป็นประโยชนแ์ กบ่ ุคคลหลายฝ่าย และผู้ท่ีสนใจในกิจกรรมของกิจการ จากคานิยามดังกล่าว การบัญชี หมายถึง ศิลปะของการจดบันทึก การจาแนกให้เป็น หมวดหมู่และการสรุปผลสิ่งสาคัญในรูปตัวเงิน รายการและเหตุการณ์ต่างๆ ซ่ึงเก่ียวข้องด้าน การเงินรวมท้ังการแปลความหมายของผลการปฏิบัติ ซ่ึงเป็นคานิยามท่ีได้รับการยอมรับ โดยทวั่ ไป



การบญั ชีมีความหมายทส่ี าคญั 2 ประการ คอื 1. การทาบญั ชี (Bookkeeping) เปน็ หน้าที่ของผทู้ าบัญชี (Bookkeeper) มีดงั นี้ 1.1 การรวบรวม (Collecting) หมายถึง การรวบรวมข้อมูลหรือรายการค้าท่ีเกิดขึ้นประจาวัน และหลักฐานทีเ่ กย่ี วกบั การดาเนนิ ธุรกิจ เชน่ การซื้อและขาย การรับและจา่ ยเงนิ เปน็ ต้น 1.2 การบันทึก (Recording) หมายถึง การจดบันทึกรายการค้าท่ีเกิดข้ึนแต่ละครั้ง ให้ถูกต้องตามหลักการ บญั ชที รี่ ับรองท่ัวไปพรอ้ มกับบันทึกขอ้ มลู ให้อยใู่ นรปู ของหน่วยเงินตรา 1.3 การจาแนก (Classifying) หมายถึง การนาข้อมูลที่จดบันทึกไว้แล้วมาจาแนกให้เป็นหมวดหมู่ของบัญชี ประเภทต่างๆ เชน่ หมวดสนิ ทรพั ย์ หนส้ี นิ สว่ นของเจ้าของ รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ ่าย 1.4 การสรปุ ขอ้ มลู (Summarizing) เป็นการนาข้อมูลที่ไดจ้ าแนกใหเ้ ปน็ หมวดหมู่แล้วมาสรุปเป็นรายงานทาง การเงนิ (Accounting Report) ซง่ึ แสดงถงึ ผลการดาเนนิ งานและฐานะการเงนิ ของธรุ กิจ ตลอดจนการได้มาและใช้ไปของ เงินสดในรอบระยะเวลาบัญชีหน่งึ 2. การใหข้ อ้ มูลทางการเงิน เพื่อประโยชนแ์ กบ่ ุคคลทีเ่ กีย่ วขอ้ งหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายบริหาร ผู้ให้กู้ เจ้าหนี้ รัฐบาล นักลงทุน เป็นต้น นอกจากน้ีข้อมูลทางการเงินสามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางด้านการเงิน การจัดทา งบประมาณ การปรบั ปรุงระบบบญั ชี เปน็ ตน้

กจิ การประเภทตา่ งๆ ทีป่ ระกอบธรุ กจิ ร้านค้าเจ้าของคนเดียวต่างก็มุ่งหวังผลกาไรในกิจการ ของตนเองท้งั ส้ิน ดังนน้ั จึงจาเปน็ ต้องจดั ทาบญั ชีเพื่อวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ดังต่อไปนี้ 1.เพ่ือช่วยให้เจา้ ของกิจการสามารถควบคุมรกั ษาสนิ ทรัพยข์ องตนเองได้ 2.เพ่ือช่วยให้ทราบผลการดาเนินงานของกิจการ ในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่งว่าผลการ ดาเนินงานท่ีผา่ นมา กจิ การมีกาไรหรอื ขาดทนุ เป็นจานวนเท่าใด 3.เพ่อื ชว่ ยใหท้ ราบฐานะการเงนิ ของกจิ การ ณ วันใดวันหนง่ึ วา่ กิจการมีสินทรพั ย์ หนี้สนิ และ ทนุ ซึ่งเปน็ ส่วนของเจา้ ของกจิ การเป็นจานวนเท่าใด 4.การทาบัญชีเป็นการรวบรวมสถิติอย่างหนึ่งที่ช่วยในการบริหารงาน และให้ข้อมูลอันเป็น ประโยชน์ในการวางแผนการดาเนินงานและควบคุมกิจการให้ประสบผลสาเร็จตามความมุ่ง หมาย 5.เพอ่ื บันทกึ รายการคา้ ที่เกดิ ขนึ้ ตามลาดับก่อนหลังและจาแนกประเภทของรายการค้าไว้ 6.เพือ่ ใหถ้ กู ต้องตามพระราชบัญญตั ิว่าด้วยการทาบัญชขี องกิจการตา่ งๆ

เม่ือมีการจัดทาบัญชีอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์แล้ว ก็จะส่งผลทาให้กิจการได้รับประโยชน์ ของขอ้ มูลการบญั ชมี ากมาย ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.เพ่ือเป็นเคร่ืองมือวัดความสาเร็จในการดาเนินธุรกิจ การทาบัญชีจะทาให้กิจการทราบผล การดาเนินงาน ฐานะทางการเงนิ และความม่ันคงของธุรกิจ โดยในการจัดทาบัญชีน้ันจะบันทึกบัญชี รายการตา่ งๆ ที่เกดิ ข้ึนในการดาเนนิ ธรุ กิจ 2.เพ่ือช่วยในการวางแผนและตัดสินใจของธุรกิจ โดยประเมินจากข้อมูลเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซ่ึงอาจจะอยู่ในรูปของรายงานวิเคราะห์ต่างๆ อันเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ บริหารงานสามารถดาเนนิ งานอย่างมปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้ 3.เพือ่ ช่วยในการวางแผนกาไร และควบคุมค่าใช้จ่ายของกิจการ เม่ือข้อมูลทางบัญชีถูกต้อง จะทาใหท้ ราบจานวนต้นทนุ และคา่ ใชจ้ า่ ยท่เี กิดข้นึ และคานวณต้นทนุ ของสินค้าและบริการได้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจกาหนดราคาสินค้าหรือบริการของธุรกิจ ช่วยควบคุมต้นทุนการผลิตและ ค่าใช้จา่ ยตา่ งๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามท่กี าหนดไว้ และนาไปวเิ คราะห์ ปรับปรงุ รายจา่ ยที่ไม่จาเปน็ ออกรวมถึง ช่วยวางแผนการดาเนินงานไดถ้ กู ต้องเหมาะสมกับทรพั ยากรท่กี ิจการมีอยู่

การเรยี นวิชาบญั ชีนน้ั ต้องยึดถือ และปฏบิ ตั ิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองกนั โดยท่วั ไป ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานการบัญชี แม่บทการบัญชี ประกาศจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น โดยมีข้อแนะนา ดังนี้ 1.ควรอา่ นหนังสือวชิ าบัญชีแตล่ ะบทอย่างละเอยี ดอย่างน้อย 2 ครั้ง เร่ืองใดอ่านแล้วไม่เข้าใจให้ ถามครผู ู้สอนหรือผู้รู้ 2. ควรทาแบบประเมนิ ผลหรือแบบฝกึ หัดทุกขอ้ ดว้ ยตนเอง อยา่ งสม่าเสมอ รวดเร็วและถกู ต้อง 3. การเขยี นตัวหนงั สอื และตวั เลขตอ้ งใหอ้ ่านง่าย ชัดเจน สะอาด และเรียบร้อย 4. การเขยี นตวั เลขน้ันควรให้ตรงหลักเสมอ เช่น หลักหน่วยก็เขียนให้ตรงกับหลักหน่วย เหล่านี้ เป็นตน้ ตวั เลขทุกๆ 3 ตวั ใหใ้ ชเ้ ครอ่ื งหมาย “,” โดยนับจากจุดทศนิยมไปทางซ้ายมือทุก 3 ตัว และ ถา้ ไมม่ เี ศษสตางค์ให้ใช้เครื่องหมาย “- ” เชน่ 5,250.75 หรอื 15,000.- 5. ถ้าเขียนตัวเลขผิดให้ขีดเส้นฆ่าตัวเลขท่ีผิด แล้วเขียนตัวเลขใหม่ที่ถูกต้องไว้ข้างบนตัวเลขผิด และลงช่ือย่อกากับไว้ ไม่ควรขูดลบตัวเลขที่ผิดหรือเขียนตัวเลขอ่ืนทับตัวเลขที่ผิด ตัวอย่างเช่น ตัว เลขท่ีถกู ตอ้ งคือ 3,500 แต่เขียนเป็น 5,300 ดงั นนั้ จึงแก้ไขให้ถกู ตอ้ ง คอื

กรอบแนวคิดหรับการรายงานทางการเงิน กาหนดข้อสมมติของงบการเงิน (Underlying Assumption) ซงึ่ ระบไุ ว้เพยี งการดาเนนิ งานต่อเนือ่ ง (Going Concern) เกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) การบันทึกรายการทางบัญชี จะบันทึกก็ต่อเม่ือ รายการน้ันได้เกิดขึ้นแล้ว โดยบันทึกถูกต้องตรงตามงวดบัญชีท่ีเก่ียวข้อง นอกจากจะให้ ข้อมูลแก่ผู้ใช้งบการเงินเก่ียวกับรายการค้าในอดีตท่ีเกี่ยวข้องกับการรับและจ่ายเงินสด แล้ว ยังให้ข้อมูลเก่ียวกับภาระผูกพันท่ีกิจการต้องจ่ายเป็นเงินสดในอนาคต และข้อมูล เกี่ยวกับทรัพยากรท่ีจะได้รับเป็นเงินสดในอนาคตด้วย ดังนั้นจึงให้ข้อมูลรายการและ เหตุการณ์ทางบัญชีในอดตี ซง่ึ เป็นประโยชน์แก่ผ้ใู ชง้ บการเงินในการตัดสนิ ใจเชงิ เศรษฐกิจ ทัง้ น้ี ข้อมลู ผลการดาเนินงานตามเกณฑ์คงคา้ งถกู นาเสนอในงบกาไรขาดทนุ และกาไร ขาดทนุ เบด็ เสร็จอื่นของกิจการ โดยข้อสมมติของการดาเนินงานต่อเน่ือง เพื่อให้ผู้ใช้หลัก สามารถทราบผลตอบแทนจากการใช้ทรัพยากรของฝ่ายบริหาร รวมทั้งสามารถใช้ในการ พยากรณผ์ ลตอบแทนในอนาคตจากการใชท้ รพั ยากรของกิจการ

ขณะท่ีข้อมูลผลการดาเนินงานท่ีถูกสะท้อนด้วยกระแสเงินสดในอดีตถูก นาเสนอในงบกระแสเงินสดของกิจการ เพ่ือให้ผู้ใช้หลักสามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับ กระแสเงินสดระหว่างรอบระยะรายงานสาหรับกิจกรรมดาเนินงาน กิจกรรมลงทุน และกจิ กรรมจัดหาเงิน ตลอดจนสามารถใช้ประเมนิ สภาพคลอ่ งของกจิ การได้ ข้อสมมติในการจัดทางบการเงิน คือ การดาเนินงานต่อเนื่อง (Going Concern) กล่าวคือ งบการเงินที่จัดทาข้ึนตามกรอบแนวคิดสาหรับการรายงานทาง การเงิน ต้องมีข้อสมมติท่ีว่ากิจการจะดาเนินงานอย่างต่อเน่ืองและดารงอยู่ต่อไปใน อนาคต หรือสามารถกล่าวอีกนัยหน่ึงว่า กิจการไม่มีเจตนาหรือความจาเป็นท่ีจะเลิก กิจการหรือลดขนาดการดาเนินงานอย่างมีสาระสาคัญ อย่างไรก็ตามหากกิจการมี เจตนาหรือมีความจาเป็นดังกล่าว งบการเงินต้องจัดทาข้ึนโดยใช้เกณฑ์อื่น และต้อง เปิดเผยหลักเกณฑ์ที่ใชใ้ นหมายเหตุประกอบงบการเงินดว้ ย

องค์ประกอบของงบการเงนิ องค์ประกอบของงบการเงิน หมายถึง ประเภทของรายการทางบัญชีที่แยกแสดงตามลักษณะเน้ือหา เชิงเศรษฐกจิ ซงึ่ สามารถแบ่งองคป์ ระกอบของงบการเงนิ ไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1.องคป์ ระกอบท่ีเกี่ยวข้องโดยตรงกับฐานะการเงิน ได้แก่ สินทรัพย์ หน้ีสินและส่วนของเจ้าของซึ่ง กรอบแนวคดิ ทางการเงนิ ไดใ้ ห้คานยิ ามของแต่ละองคป์ ระกอบท่เี กย่ี วข้องโดยตรงกบั ฐานะการเงิน ดงั นี้ สินทรพั ย์ หมายถึง ทรัพยากรทอ่ี ยใู่ นความควบคุมของกจิ การ ซง่ึ เป็นผลมาจากเหตกุ ารณ์ในอดีตไม่ ว่ามาจากการซื้อ การผลติ หรอื การรับบริจาคกต็ าม แต่ต้องไมร่ วมถึงรายการและเหตุการณ์ทางบัญชีท่ีคาด ว่าจะเกดิ ขึ้นในอนาคต เช่น การทาสญั ญาซื้อสนิ คา้ ล่วงหน้า เป็นต้น หน้ีสิน หมายถึง ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการ ซ่ึงเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในอดีต เช่น การซ้ือสินค้าหรือ บรกิ ารเป็นเงินเชือ่ การกู้ยมื เงินจากสถาบนั การเงนิ การขายสนิ ค้าพร้อมกบั การรบั ประกันภายหลงั การขาย เป็นต้น ส่วนของเจา้ ของ หมายถงึ ส่วนไดเ้ สยี คงเหลือในสินทรพั ยข์ องกิจการหลังจากหกั หน้ีสนิ ท้งั หมดออก แลว้ เชน่ หุน้ สามัญ กาไรสะสม เปน็ ต้น

2.องค์ประกอบที่เกย่ี วข้องโดยตรงกับผลการดาเนินงาน ได้แก่ รายได้และค่าใช้จ่าย ซ่ึงกรอบ แนวคดิ สาหรับการรายงานทางการเงิน ไดใ้ ห้คานยิ ามของแต่ละองค์ประกอบทีเ่ กี่ยวขอ้ งโดยตรงกับผล การดาเนนิ งานในงบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ อน่ื ดังนี้ รายได้ หมายถึง การเพ่ิมข้ึนของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลารายงานในรูปของ กระแสเขา้ หรอื การเพ่มิ ค่าของสินทรพั ย์ หรอื การลดลงของหนี้สินอันส่งผลให้ส่วนของเจ้าของเพ่ิมข้ึน แต่ไมร่ วมถงึ เงินทุนท่ีได้รับจากผู้มีส่วนร่วมในส่วนของเจ้าของ เช่น รายได้จากการขายสินค้า รายได้ ค่าธรรมเนียม รายได้ดอกเบี้ย รายได้เงินปันผล รายได้ค่าเช่า เป็นต้น รายได้รวมถึงรายการที่เป็น รายได้ และผลกาไร คา่ ใชจ้ า่ ย หมายถึง การลดลงของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลารายงานในรูปของ กระแสออกหรอื การลดค่าของสนิ ทรพั ย์ หรือการเพ่ิมขึ้นของหน้ีสินอันส่งผลให้ส่วนของเจ้าของลดลง แต่ตอ้ งไมร่ วมถงึ การแบง่ ปนั ส่วนทุนใหก้ บั ผ้มู สี ่วนร่วมในส่วนของเจ้าของ เช่น การลดทุนการจ่ายเงิน ปนั ผลเป็นตน้ ท้งั นี้ ตวั อย่างรายการค่าใชจ้ ่าย เชน่ ตน้ ทุนขาย คา่ เสอื่ มราคา ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และการสง่ เสรมิ การขาย ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน เป็นต้น ท้ังน้ีผลขาดทุนจึงเป็นรายการที่ เป็นค่าใชจ้ ่าย เป็นตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook