Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 7

หน่วยที่ 7

Published by sopit2305, 2019-02-28 22:59:27

Description: หน่วยที่ 7

Search

Read the Text Version

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) พระนามเดิม คอื สมเด็จเจา้ พระยามหากษตั รยิ ศ์ กึ ทรงไดร้ ับการสนับสนุนจากขุนนางและไพร่ฟ้า ประชาชนให้ปราบดาภเิ ษกข้ึนครองราชสมบตั ิ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้โปรดเกล้าฯ ให้ประกอบ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยสังเขป เม่ือวันท่ี ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ได้ทรง สถาปนาราชวงศจ์ กั รีขึน้

ท่มี า : สารานกุ รมประวตั ศิ าสตรไ์ ทย เลม่ ๑, อกั ษร ก ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน, หนา้ ๑๒๔.

การสรา้ งพระนครและพระบรมมหาราชวัง เสร็จสิ้นใน พ.ศ. ๒๓๒๘ แล้วได้ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเต็มแบบแผนโบราณ ราชประเพณีและจดั พธิ สี มโภชพระนคร พร้อมทงั้ พระราชทานนามราชธานีแห่งใหม่ ว่า..

“กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสนิ ทร์ มหินทรายธุ ยา มหาดิลกภพ นพรัตนราช ธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุ กรรมประสทิ ธิ์” ต่อมาพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอย่หู ัวเปลยี่ นนามราชธานีเปน็ “กรุงเทพมหานคร อมรรตั นโกสินทร์”

อาณาจักรรตั นโกสินทร์ต้งั อยใู่ นบริเวณทรี่ าบลุ่มแมน่ ้าเจา้ พระยาทอ่ี ดุ มสมบูรณ์ ผู้คนสามารถด้ารงชีวิตดว้ ยการเกษตร ท้งั เพาะปลูก เลีย้ งสัตว์ และประมง อาณาจักรรตั นโกสินทรไ์ ด้รับสบื ทอดความเจริญรุ่งเรืองมาจากอาณาจักรอยุธยาและ ธนบุรี รวมทัง้ อาณาจักรอื่นๆ ท่ีเคยรุ่งเรืองอยู่ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันน้ี ทง้ั ขนบธรรมเนยี มประเพณี รูปแบบการปกครอง ศิลปกรรม เศรษฐกิจและการค้า โดย ได้มีการปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลงให้เหมาะสม

ความมงั่ คงของสถาบันพระมหากษตั ริย์ การส่งเสรมิ การค้าระหว่างประเทศ ภายหลังจากไทยทา้ สนธิสญั ญาเบาว์รงิ กับอังกฤษ ใน พ.ศ. ๒๓๙๘ การคา้ กบั ชาติ ตะวันตกได้เจริญรงุ่ เรอื ง ทา้ ใหข้ า้ วกลายเป็นสินคา้ ออกที่สา้ คัญ การส่งเสริมทางการค้าระหว่างประเทศยงั เปน็ ผลให้ไทยรบั ความเจรญิ ทางวทิ ยาการ ด้านตา่ งๆ เชน่ การแพทยแ์ ละสาธารณสุข การศกึ ษาตามแบบตะวันตก

การขยายอานาจทางการเมืองเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงของอาณาจักร และการปฏริ ูปประเทศใหท้ นั สมัยตามแบบตะวันตกทาให้สามารถรักษา เอกราชของชาตไิ ว้ได้ ทางด้านตะวนั ตก ทางเหนือ ทางตะวันออก ทางใต้



รชั กาลท่ี ๑

รชั กาลท่ี ๒

รชั กาลท่ี ๓

รชั กาลท่ี ๔

รชั กาลท่ี ๕

รชั กาลท่ี ๖

รชั กาลท่ี ๗

รชั กาลท่ี ๘

รชั กาลท่ี ๙

รชั กาลท่ี ๑๐

การปกครองสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นยังคงเป็นแบบการปกครองสมัยอยุธยา คอื ปกครองดว้ ยระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์ ตามแนวคิด การปกครองโดยธรรม หรือธรรมราชา และหลกั สมมติเทพ

การปกครองสว่ นกลาง หรอื การปกครองในเขตราชธานี กรมมหาดไทย กรมพระกลาโหม กรมพระกลาโหม กรมเวียงหรอื กรมเมือง กรมวงั กรมคลงั กรมนา

การปกครองหัวเมือง หัวเมืองขนั้ ใน หวั เมอื งชัน้ นอก หวั เมอื งช้ันนอก

การปกครองส่วนกลาง หรอื การปกครองในเขตราชธานี (๑) กรมมหาดไทย มหี น้าทบ่ี ังคับบญั ชาหวั เมอื งฝ่ายเหนอื และเมอื งประเทศราช (๒) กรมพระกลาโหม บังคับบญั ชาหัวเมอื งปักษใ์ ตแ้ ละเมอื งประเทศราช (๓) กรมท่า เปน็ กรมวา่ การตา่ งประเทศอย่างเดียวไม่ตอ้ งปกครองหัวเมอื ง (๔) กรมวงั วา่ การในพระราชวงั และกรมซึ่งใกลเ้ คยี งกบั ราชการ ในองค์พระเจา้ แผน่ ดนิ

(๕) กรมเมือง วา่ การโปลิศ การบญั ชคี นและการรกั ษาคนโทษ (๖) กรมนา (๗) กรมพระคลงั วา่ การเพาะปลูก การค้าขาย ปา่ ไม้ บอ่ แร่ (๘) กรมยุตธิ รรม จัดการเกี่ยวกบั ภาษีอากรและเงนิ ท่จี ะรบั จา่ ยในแผน่ ดินท้งั สนิ้ บงั คับบัญชาศาลที่จะช้าระความทง้ั ความแพ่ง ความอาญา นครบาล อทุ ธรณ์ท่ัวราชอาณาจกั ร

(๙) กรมยทุ ธนาธิการ มหี นา้ ทีจ่ ดั การในกรมทหารบก ทหารเรอื ซึ่งจะมผี ู้บัญชาการ ทหารบก ทหารเรือ ต่างหากอกี (๑๐) กรมธรรมการ มหี นา้ ท่ีบงั คับบัญชาเก่ยี วกบั พระสงฆ์และบงั คบั การโรงเรยี น และโรงพยาบาลทั่วราชอาณาจักร (๑๑) กรมโยธาธกิ าร มีหนา้ ทต่ี รวจตราการก่อสร้าง ทา้ ถนน ขุนคลองและการช่าง ทว่ั ไป รวมท้ังการไปรษณียโ์ ทรเลข และรถไฟ ซง่ึ จะมีตอ่ ไป (๑๒) กรมมุรธาธิการ มีหน้าท่ีรักษาพระราชลัญจกร รักษาพระราชก้าหนด กฎหมาย และหนังสอื ราชการทั้งปวง

จัดต้ังหนว่ ยราชการ ๑๒ หน่วยงาน ประกาศต้งั กระทรวงแบบใหม่ พ.ศ. ๒๔๓๕ การปฏิรูประบบบรหิ ารราชการส่วนภมู ภิ าค การปรบั ปรุงการปกครองส่วนทอ้ งถนิ่

การปฏิรปู การปกครองทาให้ประเทศไทยมีสภาพเป็นรฐั ประชาชาติ (Nation State) อยา่ งแท้จริง ดา้ นการพฒั นาทางการเมอื ง ผลกระทบต่อการปกครองส่วนภูมิภาค

สภาพทางการเมอื ง เศรษฐกิจ และสังคม ความขดั แยง้ ทางความคิดและมลู ค่าเหตสุ ่วนตัวระหว่างพระราชวงศ์ กับกลมุ่ ผนู้ าการปฏวิ ัติ ความไม่ม่นั คงของสถานะทางการเงินของประเทศในภาวะเศรษฐกิจ ตกต่าทั่วโลก

คณะราษฎร คือ กลมุ่ บคุ คลซง่ึ เป็นนกั ศกึ ษาจากตา่ งประเทศที่มรี ะบอบการปกครอง แบบประชาธปิ ไตย สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ คณะกรรมการราษฎร สภาผแู้ ทนราษฎร ศาล

จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ไดก้ ้าวข้นึ มาเป็นรัฐบาล แทนในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๑-๒๕๐๖ รัฐบาลทหารได้ ยุติการปกครองแบบรัฐสภาโดยออกพระราชบัญญัติ ยกเลิกพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๔๙๘ และประกาศให้สภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรี สน้ิ สดุ ลง

เป็นการรวมพลังคร้ังส้าคัญของปัญญาชนและชนช้ันกลาง น้าโดยขบวนการนิสิต นักศกึ ษา เพ่ือขับไล่ผู้น้าทางการเมืองท่ีผูกขาดอ้านาจทางการเมืองมานานกว่า ๑๐ ปี ผู้เขา้ ร่วมเดนิ ขบวนเปน็ จา้ นวนมากนบั แสนคน และเรยี กร้องให้ผนู้ ้าประเทศในเวลานนั้ คือ จอมพล ถนอม กิตตขิ จร และจอมพล ประภาส จารเุ สถยี ร ลาออกจากต้าแหน่ง



สืบเน่ืองจากเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เกิดจาก ความขัดแย้ง ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ ขั้วทางความคิดชัดเจน ฝ่ายซ้ายคือพวกที่มีแนวคิดอุดมการณ์สังคมนิยม และ ฝา่ ยขวาคือพวกอนุรักษน์ ยิ มทีไ่ มต่ ้องการเปลีย่ นแปลงใดๆ ความขดั แยง้ ได้เกดิ เปน็ ความรุนแรงถึงขั้นนองเลอื ด

พลเอก สุจินดา คราประยูร ขึ้นด้ารงต้าแหน่ง นายกรัฐมนตรี มีการเดินขบวนเคล่ือนไหวคัดค้าน ก า ร เ ข้ า ม า กุ ม อ้ า น า จ ท า ง ก า ร เ มื อ ง จ น ก ล า ย เ ป็ น เหตุการณเ์ ดือนพฤษภาคมที่จบลงด้วยการนองเลือด ระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่ึง ตอ่ มาเรียกว่า เหตกุ ารณ์พฤษภาทมิฬ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook