ครผู ู้สอน : โสพิศม์ ประยูรหงษ์ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
– ความหมายของต้นทนุ ผลิตสินคา้ – องคป์ ระกอบของตน้ ทุนผลติ สนิ ค้า – คานวณหาต้นทุนผลติ ทั้งสิ้น – สินคา้ คงเหลอื ของกจิ การ อุตสาหกรรม จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
– บอกความหมายของต้นทนุ ผลติ สินคา้ ได้ – บอกองคป์ ระกอบของต้นทุนผลติ สินค้าได้ – คานวณหาตน้ ทนุ ผลิตทงั้ ส้นิ ได้ – บอกสินคา้ คงเหลือของกจิ การอตุ สาหกรรมได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
กิจการอุตสาหกรรม เป็นกิจการที่สามารถผลิตสินค้า เพื่อจาหน่ายได้เองโดยที่ สินค้าสาเร็จรูป (Finished Goods) จะเกิดจากการเปลี่ยนสภาพวัตถุดิบ (Raw Materials) หรือการแปลงสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้า สาเร็จรูป โดยอาศัยปัจจัยอื่น ๆ เพื่อช่วยกระทาให้ วัตถุดิบเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าสาเร็จรูปได้ ส่วน ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าก็คือ ต้นทุน ผลติ หรือ ต้นทุนผลิตสนิ ค้า จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
• ต้นทุนหรือรายจ่ายที่เกิดขึ้นในการผลิตสินค้าของ กิจการ เพื่อให้สินค้าอยู่ในสภาพที่พร้อมจะเสนอขาย ได้ ซึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรงที่ใช้ไปในการผลิต สินค้า หรืออาจเรียกว่าวัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิต ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายในการผลิต เรียกว่า ต้นทุนผลติ หรือ ตน้ ทนุ ผลิตทงั้ สนิ้ ก็ได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
การคานวณต้นทนุ ผลิตทงั้ สิ้น ต้นทนุ ผลติ ท้งั สนิ้ = วัตถดุ บิ ที่ใช้ไปในการผลิต + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
1. วัตถดุ บิ ทางตรงใช้ไป หรือวัตถดุ บิ ท่ีใช้ ในการผลิต (Materials consumed) 2. คา่ แรงงานทางตรง (Direct Labor) 3. คา่ ใช้จา่ ยในการผลติ (Manufacturing Overhead) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วตั ถดุ บิ (Raw Materials) 1. วตั ถุดิบทางตรง (Direct Materials) หรอื วตั ถดุ ิบท่ีใช้ไปในการผลิต (Materials Consumed) หมายถงึ สิ่งของที่เป็นส่วนประกอบสาคัญในการผลิตสินค้าและ เมื่อผลติ เป็นสนิ ค้าแลว้ จะเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้านั้น หรือเมื่อผลิตเป็นสินค้า แลว้ ส่ิงของนน้ั จะเปลยี่ นสภาพเป็นสว่ นประกอบสาคัญของสนิ ค้า และสามารถ คดิ เปน็ ตน้ ทนุ ของหน่วยผลิตได้โดยง่ายว่าใช้วัตถุดิบไปจานวนเท่าใด ในต่อละ หน่วย วัตถุดิบที่ใช้ไปในการผลิตก็คือ วัตถุดิบทางตรงที่ใช้ไปในการผลิตซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนผลิตสินค้า กิจการอุตสาหกรรมจาเป็นต้องจัดหา วัตถุดิบมาใช้ ในการผลิตสินค้าซึ่งวัตถุดิบที่ ใช้ ในการผลิตจะเป็นต้ นทุนผลิต สินค้าด้วย และถ้ามีวัตถุดิบคงเหลือก็จะเป็นวัตถุดิบคงเหลือปลายงวด ซึ่งจะ นาไปแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงินทางด้านสินทรัพย์ภายใต้หัวข้อ สนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี น ในบญั ชีวัตถดุ บิ คงเหลือ (Material Inventory) ของกิจการ ตอ่ ไป จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วตั ถุดบิ (Raw Materials) 2. วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect Materials) หรือวัสดุโรงงาน (Factory Supplies) หมายถงึ วตั ถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าแต่ ใช้ในปริมาณเล็กน้อยจนไม่ปรากฎว่าเป็นส่วนสาคัญของสินค้า ที่ผลิตสาเร็จ หรือไม่ใช่เป็นองค์ประกอบที่สาคัญของสินค้านั้น วัตถุดิบทางอ้อมจะมีราคาไม่สูงและมีลักษณะที่ยากต่อการ คานวณว่าสนิ คา้ แตล่ ะหน่วยใชว้ ัตถุดิบทางอ้อมไปจานวนเท่าใด และวัตถุดิบทางอ้อม จัดเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิต กิจการ อุตสาหกรรมจาเป็นต้องใช้วัตถุดิบทางอ้อมช่วยในการผลิ ต สนิ คา้ หรือช่วยประกอบให้สินคา้ สาเร็จสมบรูณ์ได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
คา่ แรง (Labor) • หมายถึง ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับ คนงานที่ทางานหรือปฏิบัติงานให้กิจการ อาจจะจ่ายเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน รายชิ้นของสินค้า หรือตามชั่วโมงการทางานก็ ได้ แล้วแตข่ อ้ ตกลงของกจิ การ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ค่าแรง (Labor) 1. ค่าแรงงานทางตรง หมายถึง ค่าจ้างคนงานที่ทางานในส่วน ที่ผลิตสินค้าหรือการเปลี่ยนสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งค่าแรงงานทางตรง จัดเป็นต้นทุนผลิตสินค้า ส่วนหนึ่งด้วย และลักษณะค่าแรงงานทางตรงจะมี ความสัมพันธ์กับปริมาณสินค้าที่ผลิตไปในทางเดียวกันด้วย กล่าวคือ ถ้าปริมาณสินค้าที่ผลิตมีจานวนเพิ่มมากขึ้น ค่าแรงงานทางตรงกจ็ ะเพ่มิ มากขึ้นดว้ ย แต่ถา้ ปริมาณสินคา้ ที่ ผลิตลดนอ้ ยลงคา่ แรงงานทางตรงกจ็ ะลดนอ้ ยลงด้วยเชน่ กัน จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
คา่ แรง (Labor) 2. ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect Labor) หมายถึง ค่าจ้าง คนงานอีกประเภทหนึ่งซึ่งไม่ ได้ทางานเกี่ยวข้องโดยตร งกับ การผลิตสินค้า หรือการเปลี่ยนสภาพวัตถุดิบเป็นสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์ แต่จาเป็นต้องมีคนงานเหล่านี้เพื่อช่วยให้การ ผลิตสินค้าสาเร็จลุล่วงไปได้ ส่วนค่าจ้างหรือค่าตอบแทน คนงานเหล่านี้เรียกว่า ค่าแรงงานทางอ้อม ซึ่งจัดเป็น คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลติ ดว้ ย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ (Manufacturing Overhead) หมายถึง คา่ ใช้จา่ ยต่าง ๆ ในสว่ นทีเ่ กี่ยวกับการผลิต สินค้า แต่ไม่รวมถึงวัตถุดิบทางตรง และ ค่าแรงงานทางตรง บางครั้งจะเรียกว่าค่าใช้จ่าย โรงงาน ลักษณะความสัมพันธ์ของค่าใช้จ่ายใน การผลติ กบั ปรมิ าณสินค้าที่ผลิต มี 2 ลกั ษณะ คอื จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
1. คา่ ใช้จา่ ยคงท่ี (Fixed Cost) หมายถงึ ค่าใชจ้ า่ ยที่ไมม่ ี ความสัมพนั ธก์ บั ปริมาณสนิ คา้ ทผ่ี ลติ กลา่ วคือไมว่ า่ กิจการจะผลิต สินค้าในปรมิ าณมากนอ้ ยเพยี งใด ค่าใชจ้ า่ ยคงท่ีก็จะต้องจ่ายเปน็ จานวนทคี่ งท่ีแน่นอน ไม่วา่ จะมกี ารผลติ สนิ ค้าหรือไมก่ ็ตาม เช่น เงนิ เดือนผู้ควบคมุ งาน ค่าเชา่ โรงงาน คา่ เส่ือมราคาเครอ่ื งจักร ค่า เสื่อมราคาอาคารโรงงาน เป็นตน้ 2. คา่ ใชจ้ า่ ยผันแปร (Variable Cost) หมายถงึ ค่าใช้จา่ ยที่มี ความสัมพนั ธ์กบั ปริมาณสินค้าทผ่ี ลติ ไปในทางเดยี วกนั คอื ถ้ากิจการ ผลติ สินค้าปริมาณเพม่ิ มากขึ้นคา่ ใชจ้ ่ายผนั แปรกจ็ ะเพ่มิ มากข้ึน เหมือนกนั แต่ถา้ ปรมิ าณการผลติ สนิ ค้าลดนอ้ ยลงคา่ ใชจ้ า่ ยผันแปรก็ จะลดนอ้ ยลงด้วย เช่น วัสดโุ รงงานประเภท กาว ตะปู สกรู สี ซิป ด้าย กระดมุ เปน็ ตน้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ค่าใช้จ่ายในการผลิต ประกอบดว้ ยคา่ ใช้จา่ ยตา่ ง ๆ สรปุ ได้ดงั น้ี 1. วัตถดุ บิ ทางออ้ ม (Indirect Materials) หรือวัสดุโรงงาน (Factory Supplies) หมายถงึ วตั ถดุ บิ ท่ีใช้ในการผลติ สินคา้ แต่ใช้ในปริมาณ น้อยราคาไมม่ าก และไม่ใช่เปน็ สว่ นสาคัญของสินคา้ นัน้ วตั ถุดบิ ทางออ้ มมีลักษณะทีย่ ากต่อการคานวณว่าสินคา้ แต่ละหนว่ ยจะใช้ วัตถุดบิ ทางออ้ มไปจานวนเทา่ ใดซ่ึงเปน็ ยากต่อการคิดต้นทุนของ สนิ คา้ วตั ถุดบิ ทางออ้ ม การคานวณวสั ดุโรงงานใช้ไป วสั ดุโรงงานใช้ไป = วสั ดุโรงงานตน้ งวด + ซื้อวัสดุโรงงานสทุ ธิ - วสั ดุโรงงานปลายงวด จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
2. คา่ แรงงานทางอ้อม (Indirect Labor) หมายถึง ค่าแรงคนงาน ที่ไม่เก่ยี วกบั การผลติ สนิ คา้ โดยตรง แต่ตอ้ งมแี รงงานพวกน้ี ชว่ ยในการผลติ สนิ คา้ และไมส่ ามารถช้ชี ดั ไดว้ า่ เป็นคา่ แรงของ ผลิตภณั ฑ์อะไร เช่น คนงานทาความสะอาดโรงงาน ยามรกั ษา ความปลอดภัยโรงงาน หรือเจา้ หน้าทีต่ รวจสอบคุณภาพสินค้า เป็นตน้ 3. คา่ เช่าโรงงาน (Factory Rent) หมายถงึ ค่าเชา่ โรงงาน หรือการ เชา่ พนื้ ที่ใช้ประโยชน์ในการผลิตสินค้า หรือในบางกรณีค่าเช่า โรงงานอาจจะใชป้ ระโยชน์รว่ มกันท้ังทางด้านการบรหิ าร และ การผลติ สนิ ค้าดว้ ย ซ่งึ ถ้าเป็นกรณอี ยา่ งน้จี ะตอ้ งปันสว่ นค่าเช่า โรงงานออกเป็นค่าใช้จา่ ยบริหาร และค่าใช้จ่ายในการผลิต ตาม อัตราส่วนที่กจิ การไดก้ าหจนดั ทำโดดย ไครวูโสพด้ศิ ม์ป้วระยยูรหงษ์
4. คา่ ไฟฟา้ (Heat, Light and Power) หมายถึง ค่าไฟฟ้าโรงงาน ท่ีให้ พลงั งานและแสงสวา่ งดว้ ย กิจการอตุ สาหกรรมส่วนใหญต่ ้องใช้ไฟฟา้ ใน การผลิตสินคา้ หรือในบางกจิ การอตุ สาหกรรม อาจจะใช้เคร่ืองกาเนดิ ไฟฟ้า ผลติ กระแสไฟฟา้ ใช้ในโรงงานเอง ซ่ึงคา่ ไฟฟ้านัน้ ถา้ มีการใช้หลายฝ่ายหรอื หลายแผนกงาน ก็จะต้องทาการปนั ส่วนค่าไฟฟ้าใหแ้ ตล่ ะฝา่ ยหรอื แต่ละ งานด้วย 5. ค่าเบ้ียประกนั ภัยโรงงาน (Factory Insurance) หมายถึง ค่าเบี้ยประกนั ภัย ท่เี กิดจากการประกนั ภยั อาคารโรงงาน เคร่ืองจักรอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการผลติ รวมทง้ั การประสบอุบตั ิเหตขุ องคนงานในโรงงานด้วย คา่ เบี้ยประกนั โรงงานถือเปน็ คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ ด้วย 6. คา่ ซ่อมแซมอาคารโรงงาน และเครื่องจักร ตลอดจนอปุ กรณท์ ่ีใช้ในการ ผลิตต่าง ๆ ซง่ึ ค่าซ่อมแซมจาพวกน้เี ปน็ ส่วนหนึง่ ของคา่ ใชจ้ า่ ยในการผลติ โดยกิจการอาจจะมีแผนกซอ่ มบารุง หรอื อาจจะจ้างบคุ คลภายนอกมาทา การซ่อมแซมก็ได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
6. คา่ เบยี้ ประกันภยั โรงงาน (Factory Insurance) หมายถึง คา่ เบ้ยี ประกนั ภัยท่ี เกดิ จากการประกนั ภัยอาคารโรงงาน เครื่องจกั รอุปกรณ์ท่ีใช้ในการผลิต รวมท้ังการประสบอุบัติเหตขุ องคนงานในโรงงานด้วย ค่าเบยี้ ประกนั โรงงาน ถอื เป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตด้วย 7. เครือ่ งมือใช้ไป หรอื ค่าใช้จา่ ยเครือ่ งมอื เครอื่ งใชข้ นาดเล็ก (Small tools used) คา่ ใชจ้ ่ายกรณีน้ีเกดิ จากการชารดุ สูญหาย หรือแตกหกั ไดง้ ่าย และส่วนใหญจ่ ะ สามารถจดั หาซือ้ ไดส้ ะดวกรวดเร็วราคาต่าอายุการใชง้ านสน้ั และเป็นการ ยากทจี่ ะประมาณอายุการใชง้ านของเคร่อื งมือเหล่าน้ัน สว่ นใหญจ่ ะใช้ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ขนาดเลก็ ในการชว่ ยประกอบสินค้า ให้เป็นรูปร่างสินค้าหรอื เป็นการประกอบผลิตภัณฑ์ เครอื่ งมือเหล่านี้ได้แก่ ดอกสว่าน ค้อน คีม ประแจ ไขควง เป็นต้น สว่ นการบนั ทึกบัญชีเครื่องมือ จะเป็นหมวดสินทรพั ย์ แต่ไม่ตอ้ งคดิ ค่าเส่อื มราคาเหมือนสนิ ทรพั ย์ถาวร เมื่อตอนซอ้ื เครื่องมือ จะ บนั ทึกบญั ชีในหมวดสินทรัพย์ โดย เดบิตบัญชเี ครอ่ื งมือ และในตอนส้ินงวด บัญชีกจ็ ะทาการตรวจนับเครอ่ื งมอื ทีเ่ หลอื ผลตา่ งจะถอื เปน็ ค่าใชจ้ ่ายในการ ผลิตของกิจการ และจะบนั ทกึ บัญชีโดย เดบติ บัญชเี ครอื่ งมือใช้ไป และ เครดิตบัญชเี ครอื่ งมอื จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
การบันทกึ บัญชีเกีย่ วกบั เครอื่ งมือ • การบันทกึ บัญชีเกย่ี วกบั เคร่ืองมือ สามารถบนั ทึกในระบบบัญชี ไดด้ ังน้ี เมอื่ ซอ้ื สินทรพั ย์ (เครื่องมอื ) บันทึกรายการโดย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
• เมือ่ ตอนส้ินงวดบญั ชี จะมีการตรวจนบั เคร่อื งมอื คงเหลือ นา ผลต่างท่ีหาได้มาบันทกึ บัญชี การคานวณหาหรอื การตรวจนับ เครื่องมือใช้ไป สามารถคานวณหาได้ดงั นี้ เมื่อทราบจานวนเครอื่ งมอื ใช้ไป จะบนั ทึกบัญชตี อนส้ินงวด ดังนี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
8. คา่ สทิ ธบิ ตั ร (Patents Expense) และสทิ ธิบตั ร (Patents) สิทธบิ ัตร (Patents) หมายถงึ สทิ ธติ ามกฎหมายที่รฐั บาลมอบ ใหแ้ ก่กจิ การหรือบุคคล ทีป่ ระดษิ ฐค์ ิดค้น หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ ใหม่ ๆ ขน้ึ มาเอง แล้วสามารถนาไปจดทะเบยี นสิทธิบตั ร หรอื เปน็ การซ้ือสทิ ธบิ ัตรจากบุคคลอื่นหรือกิจการอ่ืน ๆ ก็ได้จานวนเงิน ทง้ั หมดทีต่ ้องจ่ายชาระเพือ่ ให้ไดม้ าซึ่งสทิ ธิบัตรจะบนั ทกึ ไว้ในบญั ชี สทิ ธบิ ตั รซง่ึ เปน็ บัญชหี มวดสินทรัพย์ ส่วน คา่ สทิ ธบิ ัตร (Patents Expense) จะเปน็ ค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึง่ เกิดจากการตดั สิทธบิ ัตร ให้เป็นค่าใชจ้ ่าย ในแตล่ ะงวดบัญชี โดยการตดั เปน็ ค่าใชจ้ ่ายใน การผลิตให้หมดภายในระยะเวลาทกี่ าหนดไว้ เช่น ภายใน 5 ปี หรือ ภายใน 10 ปี เปน็ ตน้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
การบันทึกบญั ชีสิทธบิ ัตรเม่อื ตอนท่ีไดส้ ิทธบิ ตั รมาจะบันทึก รายการโดย เมอื่ ตัดสิทธบิ ตั รเป็นค่าใช้จา่ ยในการผลติ ประจางวด จะบันทกึ รายการโดย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
9. คา่ เส่อื มราคาอาคารโรงงานและคา่ เสื่อมราคาเคร่อื งจักร หมายถึง ค่าใช้จา่ ยทเ่ี กดิ จากการคดิ ค่าเสอ่ื มราคาของอาคาร โรงงาน และเครือ่ งจกั รอปุ กรณ์ ซง่ึ จัดเปน็ ค่าใชจ้ ่ายในการ ผลิต สินคา้ ของกิจการในแตล่ ะงวดบัญชีดว้ ย การบันทึกบญั ชคี า่ เส่ือมราคาอาคารโรงงาน เป็นดังน้ี การบนั ทกึ บัญชีคา่ เสอื่ มราคาเครอื่ งจักร เป็นดังน้ี จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
10. เงินเดือนผู้ควบคุมงาน หมายถึง เงินเดือนผู้ที่ทา หน้าที่ควบคุมงานผลิต เช่น เงินเดือนผู้จัดการโรงงาน นายช่าง หรือ หัวหน้าคนงาน หรือจะเป็นวิศวกรประจาโรงงานก็ได้ ซึ่ง คา่ ใช้จา่ ยสว่ นน้ีเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตค่าใช้จ่ายพวกนี้อาจจ่าย เป็นงวดหรือจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้ ซึ่งเป็นการยากต่อการระบุ ได้ชัดเจนว่าเป็นต้นทุนของสินค้าประเภทหรือชนิดอะไรและ จานวนเงินเท่าใด เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมงานจึงถูกจัดเป็น ค่าแรงงานทางอ้อม บางครั้งกิจการอุตสาหกรรมจะไม่บันทึก บัญชีเงินเดือนผู้ควบคุมงาน แต่จะบันทึกลงในบัญชีค่าแรงงาน ทางอ้อมแทนก็ได้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
11. คา่ ใชจ้ ่ายเบด็ เตล็ดโรงงาน หมายถึง ค่าใช้จา่ ยในการผลิตที่เปน็ จานวนเงนิ เล็กนอ้ ย ซงึ่ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งจาแนกชื่อบัญชแี ต่ละประเภทไวแ้ ยกกนั จึงนิยม บนั ทึกคา่ ใช้จ่ายเบด็ เตลด็ โรงงานรวมกนั เป็นบัญชเี ดียว การบนั ทกึ รายการบญั ชีคา่ ใช้จา่ ยเบด็ เตลด็ โรงงาน เปน็ ดังนี้ 12. ค่าภาษที รัพยส์ ินโรงงาน หมายถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยประเภทภาษที ต่ี อ้ งชาระ เกย่ี วกบั ทรพั ย์สินท่ีใช้ในการผลิตสินค้า ถือเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการผลิตด้วย การบันทกึ รายการบัญชคี า่ ภาษที รพั ยส์ นิ โรงงาน เปน็ ดังน้ี จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
จากทก่ี ลา่ วมาแลว้ วา่ ต้นทนุ ผลติ ทงั้ สิ้น เท่ากบั ผลรวมวัตถดุ ิบ ที่ใช้ไปในการผลติ ค่าแรงงานทางตรง และคา่ ใช้จา่ ยในการผลิต หรืออาจจะแสดงในรูปของสมการ ดงั นี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
ตวั อย่างที่ 2-1 กิจการแหง่ หนง่ึ เม่อื วนั สน้ิ งวดบญั ชี มี ยอดสรปุ รายละเอยี ดของการผลิต ดงั นี้ – ใชว้ ัตถุดิบทางตรงไป 95,000 บาท – คา่ แรงงานทางตรง 54,000 บาท – คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ 39,000 บาท ใหค้ านวณ ตน้ ทุนผลิตทั้งสน้ิ ของกจิ การแหง่ นี้ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วธิ ีคานวณ • ต้นทุนผลิตทง้ั สนิ้ = วตั ถุดบิ ที่ใช้ไปในการผลติ + คา่ แรงงานทางตรง + ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ • แทนคา่ ต้นทุนผลติ ทง้ั สน้ิ = 95,000 + 54,000 + 39,000 ต้นทนุ ผลิตท้ังสิน้ = 188,000 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตวั อยา่ งที่ 2-2 บรษิ ทั มงคลอุตสาหกรรม จากดั ไดผ้ ลิต สนิ ค้าชนิดหนง่ึ จานวน 1,000 หน่วย โดยใช้วตั ถุดบิ ทางตรงไป 49,000 บาท คา่ แรงงานทางตรง 56,000 บาท คา่ ใช้จ่ายในการผลติ รวม 32,000 บาท ให้คานวณ ต้นทนุ ผลติ ทั้งสนิ้ และต้นทุนผลิตตอ่ หน่วยสนิ ค้า จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
วิธคี านวณ 49,000 บาท วตั ถดุ ิบที่ใช้ไปในการผลติ 56,000 บาท ค่าแรงงานทางตรง 32,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการผลติ 137,000 บาท ต้นทุนผลติ ทง้ั สนิ้ คานวณตน้ ทนุ ผลิตตอ่ หน่วย = ต้นทนุ ผลิตท้งั สน้ิ = จานวนหนว่ ยที่ผลิตเสรจ็ 137,000 ต้นทุนผลติ ตอ่ หน่วย = 1,000 137 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
หรอื จากข้อมูลข้างต้นอาจจะคานวณไดอ้ ีกวธิ ี ดงั นี้ วตั ถดุ ิบท่ีใช้ไปในการผลติ ต่อหนว่ ย (49,0001,000) = 49 บาท คา่ แรงงานทางตรงตอ่ หนว่ ย (56,000 1,000) = 56 บาท คา่ ใช้จา่ ยในการผลติ ต่อหนว่ ย(32,0001,000) = 32 บาท ตน้ ทนุ ผลิตต่อหนว่ ย = 137 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตวั อย่างที่ 2-3 โรงงานอตุ สาหกรรมแห่งหนงึ่ ไม่มีสนิ คา้ คงเหลือในวัน ส้ินงวดบัญชี แตม่ รี ายละเอียดเกี่ยวกบั การผลิตสนิ ค้าดังนี้ ใช้ วัตถุดิบทางตรงไป 195,000 บาท คา่ แรงงานทางตรงเทา่ กับ 25% ของตน้ ทุนผลติ ทง้ั สิ้น และมคี ่าใชจ้ ่ายในการผลิตเกดิ ข้นึ เท่ากับ 15% ของตน้ ทนุ ผลิตทงั้ สิ้น ให้คานวณ ค่าแรงงานทางตรง ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ และตน้ ทนุ ผลิต ทง้ั สน้ิ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วธิ ีคำนวณ สมมติใหต้ น้ ทุนผลิตท้งั สิ้นเท่ากบั 100% ตน้ ทนุ ผลิตท้งั สิ้น = วตั ถุดิบที่ใชไ้ ปในการผลิต + คา่ แรงงานทางตรง + คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิต แทนคา่ 100% = 195,000 + 25% + 15% 60% = 195,000 วตั ถุดิบท่ีใชไ้ ปในการผลิตจานวน 195,000 บาท ซ่ึงเท่ากบั 60% ของตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น วตั ถุดิบท่ีใชไ้ ปในการผลิต 60% = 195,000 บาท คา่ แรงงานทางตรง 25% = 195,00025 60 ค่าแรงงานทางตรง = 81,250 บาท คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต 15 % = 81,25015 25 คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิต = 48,750 บาท ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = 195,000 + 81,250 + 48,750 บาท ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = 325,000 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตวั อยา่ งที่ 2-4 บริษทั ศริ ิอตุ สาหกรรม จากดั มรี ายละเอียดเก่ียวกับ การผลิตดงั น้ี - วตั ถดุ ิบที่ใช้ไปในการผลิตจานวน 150,000 บาท - จา่ ยคา่ แรงงานทางตรงไปเท่ากับ 80% ของวตั ถดุ ิบท่ีใช้ในการผลติ - มีคา่ ใช้จ่ายในการผลิตเกิดขึ้นเท่ากับ 60% ของคา่ แรงงานทางตรง ใหค้ านวณ หาตน้ ทุนผลติ ทง้ั สน้ิ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
วธิ ีคำนวณ = วตั ถดุ ิบที่ใชไ้ ปในการผลิต + ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต 150,000 บาท วตั ถดุ ิบท่ีใชไ้ ปในการผลิต = 150,000 x 80% 120,000 บาท หาค่าแรงงานทางตรง = 120,000 x 60% 72,000 บาท ค่าแรงงานทางตรง = 150,000 + 120,000 + 72,000 บาท 342,000 บาท หาค่าใชจ้ ่ายในการผลิต = ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต = ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตัวอย่างที่ 2-5 บริษัท สีทองอุตสาหกรรม จากัด ใช้วัตถุดิบ ทางตรงไปเท่ากับ 3 เท่าของค่าใช้จ่าย ในการผลิต และมี ค่าใช้จ่ายในการผลิตเกิดขึ้นเท่ากับ 20% ของต้นทุนผลิตทั้งสิ้น และจา่ ยค่าแรงทางตรงไปท้งั หมดเท่ากบั 100,000 บาท ให้คานวณ หาวัตถดุ บิ ท่ีใช้ไปในการผลิต ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต และต้นทนุ ผลิตทั้งส้ิน จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = วตั ถุดิบที่ใชไ้ ปในการผลิต + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต - สมมติใหต้ น้ ทุนผลิตท้งั สิ้นมีคา่ =Y - คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตเป็น 20% ของตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = 0.2 Y - วตั ถุดิบใชไ้ ปในการผลิตเป็น 3 เท่า ของค่าใชจ้ ่ายในการผลิต = 3 (0.2 Y) วตั ถุดิบท่ีใชไ้ ปในการผลิต = 0.6 Y จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
แทนค่ำในสูตร = 0.6 Y + 0.2 Y + 100,000 Y = 0.8 Y + 100,000 Y = 100,000 Y - 0.8 Y = 100,000 0.2 Y = 100,000 Y 0.2 Y= 500,000 บาท ตน้ ทุนผลิตท้งั สิ้น = 500,000 บาท จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
ส่วนของกิจการอุตสาหกรรมจะมสี ินคา้ คงเหลือตา่ งกบั กิจการ ประเภทอนื่ ท้ังน้ีเน่ืองจากกิจการอุตสาหกรรมจะมสี ินค้าคงเหลอื อยู่ 4 ชนดิ ได้แก่ 1. สนิ คา้ สาเร็จรปู คงเหลือ (Finished Goods Inventory) 2. สนิ ค้าระหว่างผลติ คงเหลือ (Goods in Process Inventory) 3. วัตถดุ ิบคงเหลือ (Material Inventory) 4. วสั ดุโรงงานคงเหลอื (Factory Supplies Inventory) จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
1. สนิ คา้ สาเร็จรปู คงเหลือ (Finished Goods Inventory) สินค้าของกิจการท่ีผลติ เสร็จสมบรู ณเ์ รยี บร้อยแลว้ เปน็ สินคา้ สาเรจ็ รปู พรอ้ มท่จี ะจาหน่ายให้แกผ่ ูซ้ ือ้ ทันที แต่ยังขายได้ไม่หมด ในวันส้ินงวดบัญชี สินค้าสาเร็จรปู ส่วนท่ีเหลืออยู่จะเปน็ สินทรัพย์ หมุนเวียน และจะนาไปแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน ภายใต้หัวขอ้ สนิ ทรัพยห์ มุนเวียน ทางด้านสนิ ทรัพย์ของกิจการ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยรู หงษ์
2. สนิ ค้าระหว่างผลติ คงเหลือ (Goods in Process Inventory) สนิ คา้ ทีผ่ ่านกระบวนการผลิตมาแล้ว แต่ยังผลิตไม่เสร็จสมบูรณ์ในวัน ส้ินงวดบญั ชี ซงึ่ อาจจะมีสว่ นใดส่วนหน่งึ ท่ยี ังไมผ่ ลติ แต่สามารถนาไป ผลติ ต่อให้เป็นสินค้าสาเร็จรูป ที่พร้อมจะนาเสนอขายได้ในงวดบัญชี ต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ สินค้าระหว่างผลิตคงเหลือตอนสิ้นงวดบัญชี เปน็ สินทรัพยห์ มนุ เวยี น มีมูลค่าเท่ากับต้นทุนสว่ นที่เกิดขึ้นในการผลิต สนิ คา้ ระหวา่ งผลิต ไดแ้ ก่ วัตถุดบิ คา่ แรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายใน การผลิต และจะนาไปแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงินทางด้าน สินทรัพย์ ภายใต้หัวข้อสินทรัพย์หมุนเวียนของกิจการในวันสิ้นงวด ดว้ ย จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
3. วัตถดุ บิ คงเหลือ (Materials Inventory) มูลคา่ ของวัตถุดบิ ท่ีมี ไว้เพื่อการผลิตสนิ ค้า ทย่ี งั คงเหลืออยู่ในวนั สิ้น งวดบญั ชี ซึง่ วัตถุดบิ คงเหลือจานวนน้จี ะนาไปใช้ในการผลติ สินคา้ ของ งวดบญั ชตี ่อไปด้วย วัตถดุ ิบคงเหลอื จะเป็นสินทรพั ย์หมนุ เวียน และจะ แสดงรายการวัตถุดบิ คงเหลือในตอนสนิ้ งวดบัญชีในงบแสดงฐานะ การเงนิ ในหัวขอ้ สินทรพั ย์หมนุ เวียนทางดา้ นสินทรัพยข์ องกิจการ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
4. วสั ดุโรงงานคงเหลอื (Factory Supplies Inventory) “วัสดุ” หรือของใช้สิ้นเปลืองที่กิจการนามาใช้ในการผลิตสินค้า ของกจิ การ นอกเหนอื จากวตั ถุดบิ ที่ใช้ในการผลิตแต่ใช้ในปริมาณ น้อยและไม่ใชส่ ว่ นประกอบที่สาคัญของสินค้า และในวันสิ้นงวดจะ ทาการตรวจนบั วัสดุโรงงานคงเหลือปลายงวดและจะนาไปใช้ผลิต ต่อในงวดบัญชีต่อไปด้วย วัสดุโรงงานคงเหลือเป็นบัญชีหมวด สินทรพั ย์หมุนเวยี นจะนาไปแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงิน ภายใตห้ ัวข้อสนิ ทรพั ยห์ มุนเวียนทางดา้ นสนิ ทรพั ย์ของกิจการ จดั ทำโดย ครูโสพศิ ม์ ประยูรหงษ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: