ใบงาน วชิ าคอมพิวเตอรใ์ นงานธรุ กิจ (Computer in Business) รหัสวิชา ๒๒๐๔ - ๒๐๐๑ จดุ ประสงค์รายวชิ า เพ่อื ให้ ๑. เข้าใจหลกั การของระบบธรุ กจิ ๒. เขา้ ใจบทบาทคอมพวิ เตอรใ์ นงานธุรกจิ ๓. มเี จตคติทด่ี ีในการใชค้ อมพิวเตอรป์ ฏบิ ตั งิ านโดยคานงึ ถึงจรยิ ธรรมในวิชาชพี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความร้เู กี่ยวกับระบบธุรกจิ ๒. แสดงความรู้เกี่ยวกับความสมั พันธข์ องเอกสาร และการประมวลผลขอ้ มลู ในระบบงานธรุ กจิ ๓. วางแผนการใช้คอมพิวเตอรใ์ นงานธุรกิจ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ในระบบงานธรุ กจิ ความสัมพนั ธข์ องเอกสารในระบบงานธรุ กิจ การ นาคอมพวิ เตอรช์ ่วยงานด้านการบญั ชี ด้านการเงิน ดา้ นการตลาด ด้านการผลติ และการดาเนนิ การดา้ นทรัพยากร บคุ คล
หนว่ ยท่ี ๑ ระบบธรุ กิจ คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. ธุรกิจ หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทาให้มีการผลติ สินค้า และบริการ มีการซื้อขายแลกเปลย่ี น จาหน่าย และ กระจายสนิ คา้ และมีประโยชน์หรือกาไรจากกจิ กรรมนัน้ ๒. ประเภทของธุรกิจแบง่ ตามลักษณะของกิจกรรม ได้แก่ ธุรกจิ การเกษตร ธรุ กจิ อุตสาหกรรม ธรุ กิจการพาณชิ ย์ ธรุ กจิ การก่อสรา้ ง ธุรกจิ การเงนิ ธุรกจิ ให้บรกิ าร ๓. วัตถปุ ระสงคข์ องธรุ กิจ คือ ผลกาไร ความอยู่รอด และ ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๔. ประโยชน์ของธรุ กิจ ได้แก่ 1. ทาใหเ้ กดิ กระบวนการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร 2. ช่วยกระจายสินคา้ จากผ้ผู ลติ ไปสู่ ผู้บริโภค 3. เกิดการจ้างงาน 4. ช่วยให้ประชาชนมีมาตรฐานการครองชีพดีข้ึน 5. เกิดความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี ๕. ปัจจัยในการดาเนินธุรกิจที่เรยี กว่า 4M ประกอบด้วย 1. คน (Man) 2. เงิน (Money) 3. วัสดุหรือวัตถุดบิ (Material) 4. วธิ ีปฏบิ ตั งิ าน (Method) ๖. หน้าที่ในการประกอบธุรกจิ ประกอบด้วย 1. การผลติ (Production)2 . การจัดหาเงนิ ทนุ (Capital) 3. การ จัดการทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management) 4. การบริหารการตลาด (Marketing Management) ๗. ปัจจยั สาคัญท่ผี ูป้ ระกอบการทางธรุ กิจต้องพิจารณาในด้านของการผลิต คือ 1. การเลอื กทาเลทีต่ งั้ (Place) 2. การออกแบบสินค้า (Design) 3. การกาหนดตารางเวลาการผลิต (Time Table) 4. การตรวจสอบสินค้า (Check) ๘. 4 P’s คืออะไร ประกอบด้วย Product )ผลิตภัณล์(Price )ราคา(Place )การจัดจาหน่าย(Promote การ( )สง่ เสริมการตลาด ๙. “Put the right man in the right job” หมายถงึ การเลอื กคนปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมาะกบั งาน ๑๐.การจัดการทรพั ยากรมนษุ ย์ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ ควรพจิ ารณาด้าน 1. การวางแผนทรพั ยากรมนุษย์ 2. การสรรหา และการคัดเลือก 3. การบรรจุและการประเมินผลงาน 4. การฝึกอบรมและการพัฒนา 5. กระบวนการ ทางด้านสขุ ภาพ ความปลอดภัย และแรงงานสัมพันธ์6 . การใชว้ ินยั ควบคมุ ตลอดจนการประเมนิ ผล
หนว่ ยท่ี ๒ เอกสารท่ีใชใ้ นงานธุรกิจ คาชี้แจง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. เอกสาร หมายถึง กระดาษท่ีใช้ในธุรกิจหนังสือแบบฟอร์มแผนที่และวัตถุอ่ืน ๆ ท่ีบรรจุข้อความทั้งยังอาจ รวมถงึ ส่อื กลางท่ีใชใ้ นการจัดทาขอ้ มูลต่าง ๆ ของธรุ กจิ ด้วยเช่นจดหมายโต้ตอบแบบฟอร์ม เอกสารทางธุรกิจ ต่าง ๆ เป็นต้น 2. สาเหตุที่เอกสารมีความสาคัญต่อหน่วยงานธุรกิจ เพราะ 1. เอกสารเป็นเสมือนความจา 2. เอกสารใช้เปน็ หลักฐานในการอ้างองิ 3. เอกสารใช้เปน็ เครื่องมือในการติดต่อระหว่างหน่วยงาน 4. เอกสารเปน็ หลกั ฐาน ทางวฒั นธรรมและภมู ิปญั ญา 3. เอกสารแบ่งออกได้เป็นก่ีประเภท ได้แก่อะไรบ้าง 1. เอกสารภายนอก 2. เอกสารภายใน 3. เอกสาร อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 4. เอกสารธุรกิจ หมายถึง เอกสารท่ีใช้ในการสื่อสารและเป็นหลักฐานในวงการธุรกิจ ซ่ึงอาจจะเป็นระหว่าง หน่วยงานเอกชนกบั หน่วยงานเอกชน หรอื หน่วยงานเอกชนกบั หนว่ ยงานของภาครัฐ 5. ความสาคัญของเอกสารธุรกิจ ประกอบด้วย ใช้เป็นหลักฐานในการอ้างอิง โต้ตอบเพ่ือสื่อสารระหว่าง หน่วยงาน หรือใชเ้ ป็นเอกสารในการติดต่อซอื้ ขายของธุรกิจ 6. โปรแกรมท่ีใช้ในการสร้างเอกสารธุรกิจสาหรับหน่วยการเรียนรู้นี้ คือ โปรแกรม..Microsoft Word และ Microsoft Excel 7. เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง เอกสารที่จัดทาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือช่องทางทางระบบ อินเทอรเ์ นต็ 8. จงยกตัวอย่างเอกสารธุรกิจท่ีเก่ียวกับงานบุคคลมาอย่างน้อย 3 ชนิด ใบสมัครงาน คาสั่งแต่งตั้งบุคลากร คาส่งั มอบหมายการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี 9. จงยกตัวอยา่ งเอกสารธุรกจิ ทเ่ี กย่ี วกบั งานดา้ นการเงินอย่างน้อย 3 ชนดิ ใบเสรจ็ รับเงิน สมุดบญั ชี งบดุล 10. จงยกตัวอยา่ งเอกสารธุรกจิ ที่เก่ยี วกบั งานพัสดอุ ย่างนอ้ ย 3 ชนิด ใบเบิกของ บันทกึ รายการพัสดุ ใบสั่งซือ้
หน่วยท่ี ๓ การใช้คอมพวิ เตอรใ์ นงานธรุ กจิ คาช้แี จง จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1. การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานธุรกจิ ได้แก่ธุรกิจด้านใดบา้ ง 1. ด้านสถาบันการศึกษา 2. ด้านสือ่ สิ่งพิมพ์ 3. ดา้ นการธนาคาร 4. ดา้ นโรงแรม 5. ด้านธุรกจิ สายการบิน 6. ด้านการแพทย์ 7. ด้านอุตสาหกร รม 8. ด้านบนั เทิง 9. ด้านการสื่อสาร 10. ดา้ นตลาดหลักทรัพย์ 2. สาเหตทุ นี่ าคอมพิวเตอรเ์ ขา้ มาใชใ้ นงานธุรกจิ คอื 1. การประหยัดตน้ ทุน 2. การเพม่ิ ผลติ ภัณล์ 3. การเพ่มิ รายการ 4. การสร้างเครือข่ายธุรกิจ 5. การเพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติงาน 6. การเพ่ิมคุณภาพการ ตดั สนิ ใจของผูบ้ รหิ าร 7. การเพิ่มศกั ยภาพในการแข่งขัน 3. ประโยชน์ในการนาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในงานด้านธุรกิจ คือ 1. ใช้ในการเก็บบันทึกข้อมูล 2. ให้บริการ ลูกค้า 3. ใช้ในด้านการศึกษา 4. ใช้หาค่าของตัวเลขที่มีความสลบั ซับซ้อนในงานด้านการวิจัย 5. การเกบ็ รักษาสินค้า 6. สามารถป้อนขอ้ มูลสินคา้ ลงในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์เพ่อื ตรวจสอบคณุ ภาพสินค้า 7. สามารถนา โปรแกรมสาเรจ็ รูปทางบัญชีเข้ามาชว่ ยในเร่อื งต่าง ๆ 4. เอกสารธรุ กจิ หมายถึงเอกสารหรือตราสารต่างๆทท่ี าขน้ึ เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการประกอบธรุ กจิ โดยอาจจัดทาข้ึนในรปู ของแบบฟอร์มหรือในรูปของแบบพมิ พห์ รือเขยี นขึ้นในลกั ษณะทถ่ี กู ตอ้ งตามกฎหมายมี จดุ มงุ่ หมายเพ่ือใชเ้ ป็นหลกั ฐานยืนยนั หรืออา้ งองิ ในการประกอบธุรกิจ 5. ความสาคัญของเอกสารทางธุรกิจ ได้แก่ 1. ใช้เป็นหลกั ฐานท่ีมีผลตามกฎหมาย 2. ทาให้การติดต่อกนั ทาง ธรุ กิจมีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภยั 3. สร้างความเชื่อถือในการติดต่อทางด้านสินเชือ่ 4. ใชแ้ ทนการชาระ หน้ดี ว้ ยเงนิ สด 5. ใชเ้ ปน็ ข้อมูลในการบันทกึ ทางการบัญชี 6. ทาใหเ้ กดิ สภาพคล่องในการถอื หรอื เปล่ยี นมือ เกยี่ วกับหลักทรพั ยท์ างธรุ กิจ
หนว่ ยท่ี ๔ การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการบัญชี คาช้แี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. สมาคมนักบญั ชีและผู้สอบบญั ชีรบั อนญุ าตแหง่ ประเทศไทย ใหค้ าจากัดความวา่ การบญั ชี หมายถงึ การบญั ชี หมายถึง ศิลปะของการเก็บรวบรวม การจดบันทึก การจาแนก และการสรุปข้อมูลที่เกยี่ วกบั การทาธุรกรรม ทางเศรษฐกจิ ในรูปของตัวเงิน 2. สมาคมนักบัญชีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาให้คาจากัดความว่า การบัญชี หมายถึง…การบัญชีเปน็ ศิลปะของ การจดบันทึกรายการหรือเหตุการณ์และรายการต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับการเงินไว้ในรูปของเงินตรา การจัด หมวดหมูร่ ายการเหล่านัน้ การสรปุ ผล รวมท้ังการตีความของผลนัน้ 3. ความสาคัญของข้อมูลทางด้านการบัญชี ไดแ้ ก่…1 . เพ่อื ให้เจ้าของกจิ การสามารถควบคุมอย่างใกลช้ ดิ 2. เพื่อ ช่วยให้เจ้าของกิจการนาข้อมูลทางการบัญชีไปเปน็ แนวทางในการกาหนดนโยบายและการตัดสนิ ใจ 3. เพอ่ื ช่วยให้ทราบผลการดาเนินงานของกจิ การ 4. เพื่อช่วยให้ทราบฐานการเงินของกิจการ 5. เพ่ือประโยชนใ์ น การเพ่ิมทนุ ลดทนุ 6. เพ่ือใชเ้ ป็นหลกั ฐานสาคัญในการคานวณภาษี 7. เพื่อให้บคุ คลภายนอกใชใ้ นการอ้างองิ ประกอบการพจิ ารณาความมนั่ คงของกจิ การ 4. ระบบบัญชี หมายถึง..การจัดทาเพื่อเป็นแบบแผนของการปฏิบัติงานทางการบัญชี การจัดเก็บข้อมูลทาง การเงิน การจาแนกประเภทบัญชี การบันทึกบัญชี การกาหนดแบบพิมพ์เอกสารและสมุดบัญชี การจัดทา รายการ การใช้และรักษาเอกสาร และสมุดบญั ชี 5. ความสาคัญของระบบบัญชีที่มีต่อธุรกิจ คือ…1. ระบบบัญชีจะช่วยให้บันทึกบัญชีเป็นไปอย่างครบถ้วน 2. ระบบบัญชีทาให้ได้ตัวเลขข้อมูลทางการเงินท่ีถูกต้อง เช่ือถือได้ 3. ข้อมูลที่ได้จากระบบบัญชี สามารถ นามาใช้ในการวางแผนได้ถูกต้อง 4. ข้อมูลจากระบบบัญชี นามาใช้ในการควบคุมให้การปฏิบัติงานเปน็ ไป ตามแผน 5. ข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากระบบบญั ชี ชว่ ยใหผ้ บู้ ริหารตดั สินใจทางการเงนิ ได้ 6. ส่วนประกอบของระบบบัญชี ได้แก่…1. แบบพิมพ์เอกสารและรายงาน 2. วิธีปฏิบัติงาน 3. ผู้ปฏิบัติงาน 4. เครื่องมอื เครอ่ื งใช้ 7. งานบัญชีสาธารณะ หมายถึง…งานบญั ชที ีเ่ ป็นอสิ ระ ไม่เป็นลกู จ้างใคร ดาเนนิ การใหบ้ ริการทางด้านการบัญชี ให้แก่ลูกค้า เช่น การสอบบัญชี บริการด้านภาษี การจัดทาบัญชี และบริการให้คาปรึกษาเก่ียวกับงานด้าน บญั ชี เป็นต้น ซ่งึ นกั บัญชอี ิสระท่ีทางานแขนงนี้ จะต้องไดร้ บั อนญุ าตตามกฎหมายเสียก่อน 8. งานบัญชีของธุรกิจ หมายถึง…งานบัญชีทีน่ ักบัญชีรับทาให้แก่องค์กรธุรกจิ เอกชนท่ัวไป โดยนักบัญชีมีฐานะ เป็นพนักงานของกิจการนั้น ๆ 9. งานบัญชีของรัฐบาล หมายถึง…งานบัญชีที่นักบัญชีรับทาให้กับหน่วยงานรัฐบาล โดยนักบัญชีมีฐานะเป็น ข้าราชการประจาของหนว่ ยราชการนัน้ 10. “AIS” ย่อมาจากคาว่า…Accounting Information System)
หนว่ ยท่ี ๕ การนาคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นงานงานดา้ นการเงิน คาชี้แจง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การควบคุมทางการเงิน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ…การติดตามผล ตรวจสอบ และประเมินความ เหมาะสมในการดาเนินงานว่า เปน็ ไปตามแผนทีก่ าหนดหรอื ไม่ 2. ระบบสารสนเทศทางการเงนิ หมายถงึ …ระบบสารสนเทศท่ีพัฒนาขน้ึ สาหรับสนบั สนุนกจิ กรรมทางดน้ การเงนิ ขององค์กร ต้งั แตก่ ารวางแผน การดาเนินงาน และการควบคุมทางดา้ นการเงิน เพอ่ื ให้การจดั การทางการเงิน เกดิ ประสิทธภิ าพสูงสุด 3. แหล่งข้อมูลสาคัญในการบริหารการเงินขององค์การ ประกอบด้วย…1. การพยากรณ์ 2. การจัดการด้าน การเงิน 3. การควบคุมทางการเงนิ 4. แหลง่ ขอ้ มลู ทีใ่ ช้เป็นเครื่องกาหนดและแสดงวิสัยทศั น์ ภารกจิ วัตถปุ ระสงค์ และแนวทางการประกอบธรุ กิจใน อนาคต คอื รายงานประจาปี หนังสอื พมิ พ์ สอ่ื ตา่ ง และเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ 5. ส่วนท่ีนาเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการเงิน ได้แก่…1. แผนเชิงกลยุทธ์และนโยบายของ บริษัท 2. ระบบประมวลผลรายการ 3. แหล่งขอ้ มูลภายนอก 6. ผลลัพธ์ที่ได้จากระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการด้านการเงิน ได้แก่ รายงานกาไร/ขาดทุน รายงานระบบ คา่ ใชจ้ า่ ย รายงานการตรวจสอบภายในและภายนอก และรางานการใชแ้ ละการจดั การเงนิ ทนุ 7. โปรแกรมสาเร็จรูปทใี่ ช้ในดา้ นการเงินสาหรบั หน่วยการเรยี นรนู้ ี้ คอื โปรกรมตารางงาน (Microsoft Excel) 8. ฟงั ก์ชันพิเศษที่ใชก้ บั งานดา้ นการเงนิ เรยี กว่าอะไร Financial Function 9. จงยกตวั อย่างเอกสารทเี่ กย่ี วกับดา้ นการเงินมาอยา่ งนอ้ ย 5 ชอื่ …1. งบประมาณซอ้ื 2.งบประมาณต้นทนุ ขาย 3. ประมาณการค่าเส่ือมราคา 4. งบประมาณเงนิ สด 5. ประมาณการเงนิ ลงทนุ ระยะสั้น 10. จงบอกชื่อฟังก์ชันท่ีใช้กับงานด้านการเงินมาอย่างน้อย 5 ฟังก์ชัน sum , amount , count, price , received
หน่วยที่ ๖ การนาคอมพวิ เตอร์มาใช้ในงานงานด้านการตลาด คาชแ้ี จง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การตลาด ในความหมายทางธุรกิจ หมายถึง..กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีนาเอาสินค้าและบริการจากแหล่งผลิตหรอื ผปู้ ระกอบการไปถึงมอื ผูบ้ รโิ ภค ในเวลาและสถานท่ีทีต่ ้องการ 2. เปา้ หมายของการตลาดท่สี าคัญ 4 ประการ คอื …1. มุ่งทจ่ี ะใหป้ ระชาชนมโี อกาสจดั หาการบรโิ ภคสินค้า และ บริการมากที่สุด 2. มุ่งที่จะให้ผู้บริโภคได้รับความพอใจจากการบริโภคมากท่ีสุด 3. มุ่งท่ีจะให้ผู้บริโภคมี โอกาสเลือกมากที่สดุ 4. มุง่ ท่ีจะใหป้ ระชาชนมคี ุณภาพชวี ติ ดีขึน้ 3. สว่ นประกอบที่ทาใหก้ ารดาเนนิ งานการตลาดประสบความสาเร็จ ได้แก่…ผลติ ภณั ล์ (Product) ราคา (Price) สถานที่ (Place) และ การโฆษณา (Promotion) 4. สารสนเทศที่นักการตลาดต้องการในการวิเคราะห์ วางแผน ตรวจสอบ และควบคุม ได้แก่ ..1. ระบบ สารสนเทศสาหรับการขาย 2. ระบบสารสนเทศสาหรับการวิจัยตลาด 3. ระบบสารสนเทศสาหรับการ ส่งเสริมการขาย 4. ระบบสารสนเทศสาหรับการพัฒนาผลติ ภัณล์และบริการ.5. ระบบสารสนเทศสาหรับ พยากรณ์การขาย 6. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวางแผนกาไร 7. ระบบสารสนเทศสาหรบั การกาหนดราคา 8. ระบบสารสนเทศสาหรบั การควบคุมคา่ ใชจ้ ่าย 5. ระบบสารสนเทศสาหรับการขาย แบ่งออกเป็นระบบย่อย 3 ระบบ ได้แก่..1. ระบบสารสนเทศสาหรับ สนับสนุนการขาย 2. ระบบสารสนเทศสาหรับวิเคราะหก์ ารขาย 3. ระบบสารสนเทศสาหรับการวิเคราะห์ ลูกคา้ 6. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจยั ตลาด แบง่ ออกไดเ้ ปน็ ระบบยอ่ ยตามหนา้ ทีไ่ ด้ 2 ระบบ คือ ..12 ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจัยลูกคา้ .. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวจิ ยั ตลาด 7. ระบบสารสนเทศที่วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของผลติ ภัณลใ์ หม่ ๆ คือ..ระบบสารสนเทศสาหรับการพฒั นา ผลิตภณั ล์และบรกิ าร 8. ระบบสารสนเทศท่ีใหค้ วามสาคัญกบั แผนงานทางด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขาย คอื ..ระบบสารสนเทศ สาหรับการสง่ เสริมการขาย 9. ระบบสารสนเทศท่ีใช้วางแผนการขาย แผนการทากาไรจากสินค้าหรือบรกิ าร คือ..ระบบสารสนเทศสาหรบั พยากรณ์การขาย 10. โปรแกรมที่นิยมใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูลมากที่สดุ คือ..SPSS for Windows
หนว่ ยท่ี ๗ การนาคอมพวิ เตอร์มาชว่ ยงานดา้ นการผลติ คาชแี้ จง จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. การผลิต หมายถึง…กระบวนการท่ที าใหเ้ กิดมูลค่าเพ่มิ ท้ังทเี่ ปน็ มลู ค่า หรอื ประโยชน์ใชส้ อย และมลู ค่าในการ แลกเปลีย่ น โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของมนุษยใ์ นการดารงชีวติ 2. ปัจจยั การผลติ ประกอบดว้ ย..1. ทดี่ ินและทรพั ยากรธรรมชาติ 2. ทนุ 3. แรงงาน 4. ผปู้ ระกอบการ 3. สินค้าประเภททุน คือ..เคร่ืองมือเคร่ืองจักรที่สร้างขึ้นเพ่ือช่วยในการผลิต เช่น อาคาร โรงงาน เครื่องจักร เคร่อื งมอื ขนาดใหญท่ ม่ี นษุ ย์นามาใช้ในการผลิตสินค้าหรอื บรกิ าร 4. เงนิ ทุน หมายถงึ ..จาหนวนเงินทผี่ ู้ผลิตแตล่ ะรายนามาใชเ้ พ่ือซือ้ ปัจจยั การผลิตอ่นื ๆ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้า และบริการ 5. แรงงาน หมายถงึ ...บคุ คลทใ่ี ช้กาหลงั ความคดิ ทางานเพ่ือใหไ้ ดผ้ ลตอบแทน ซ่งึ อาจเปน็ เงนิ หรอื สงิ่ ของ และเงนิ หรอื สิ่งของท่ีไดม้ าน้ันสามารถบาบดั ความตอ้ งการของบุคคลได้ 6. ผปู้ ระกอบการ หมายถึง..บุคคลหรอื กลุ่มบคุ คลทีจ่ ดั ตงั้ องค์กรผลติ ขึ้นเพื่อทาการผลติ สนิ คา้ และบริการ รวมทั้ง ความสามารถในการดาเนนิ การวางแผน 7. แหล่งข้อมูลในการผลติ และการดาเนินงานขององค์การ ได้แก่..1. ข้อมูลการผลิต/การดาเนินงาน 2. ข้อมูล สินค้าคงคลัง 3. ข้อมูลจากผูข้ ายวัตถดุ ิบ 4. ขอ้ มลู แรงงานและบคุ ลากร 5. กลยุทธอ์ งค์กร 8. ส่วนที่นาเข้าไปยังระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านการผลติ ได้แก่...1. แผนเชิงกลยทุ ธ์และนโยบายของ บรษิ ัท 2. ระบบประมวลผลรายการ 3. แหลง่ ข้อมูลภายนอก 9. “EDI” ยอ่ มาจากคาว่า…Electronic Data Interchange 10. ระบบประมวลผลรายการ ได้แก่…การประมวลผลการสั่งซื้อ ข้อมูลสินค้าคงคลัง ข้อมูลการรับและการ ตรวจสอบวตั ถดุ บิ ทเี่ ขา้ มาในกระบวนการผลติ ข้อมลู บคุ ลากร และขอ้ มูลการผลิต
หน่วยท่ี ๘ การประยุกตใ์ ชค้ อมพิวเตอรใ์ นงาบุคคล คาช้ีแจง จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. ทรัพยากรบุคคล หมายถึง…บคุ ลากรภายในองค์กร กลุ่ม หรือธุรกิจใด ๆ ที่มีการใช้มนุษย์เข้ามามีสว่ นในการ ดาเนินการ กิจการหรือกจิ กรรมใด ๆ โดยมีเป้าหมายหรอื วัตถุประสงค์ในการปฏิบตั ิหน้าที่หรอื งานนน้ั ๆ ให้ สาเรจ็ ตามกรอบทกี่ าหนด โดยมีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในกิจกรรมหรอื งานนัน้ ๆ โดยดาเนนิ งานภายใต้ กรอบและกฎเกณลท์ ่ีกาหนดขององค์กร กลุ่ม หรือธุรกิจ กิจการใด ๆ 2. วัตถุประสงคข์ องการจดั การทรัพยากรบคุ คล คอื ..1. เพอ่ื สรรหาและคดั เลอื กบคุ ลากรท่มี คี วามรคู้ วามสามารถ เข้ามาทางานในองค์กร 2. เพ่ือใช้คนใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด 3. เพ่ือบารุงรักษาพนักงานท่มี ีความสามารถให้ อย่กู บั องค์กรนาน ๆ และ 4. เพอื่ พัฒนาใหม้ ีความรคู้ วามสามารถ 3. “การใชพ้ นกั งานจานวนน้อยเทา่ ทจี่ าเป็น” เป็นนโยบายทรัพยากรบคุ คลดา้ นใด..นโยบายด้านพนักงาน 4. “การบริหารค่าจ้างและผลตอบแทนโดยยึดหลักความเป็นธรรม” เป็นนโยบายทรัพยากรบุคคลด้านใด... นโยบายด้านการบริหารค่าจ้าง 5. “การสรรหาพนักงานจากภายในเป็นอนั ดับแรก” เป็นนโยบายทรัพยากรบคุ คลด้านใด..นโยบายด้านการสรร หาและคดั เลือกพนกั งาน 6. “การพัฒนาพนกั งานเปน็ การลงทนุ เพอ่ื สร้างความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขัน” เป็นนโยบายทรพั ยากรบุคคลด้าน ใด..นโยบายดา้ นการฝึกอบรมและพฒั นา 7. “การดูแลความก้าวหนา้ ในสายอาชพี ของพนักงานอยา่ งทั่วถงึ ” เป็นนโยบายทรัพยากรบคุ คลดา้ นใด นโยบาย ด้านความกา้ วหน้าในสายอาชพี 8. “HRIS” ยอ่ มาจากคาวา่ …Human Resource Information system 9. “PIS” ย่อมาจากคาว่า…Personnel Information System 10. โปรแกรมที่สามารถนามาใช้ในงานด้านทรัพยากรบุคคล ได้แก่อะไรบ้าง ..Microsoft Word, Microsoft Access, Visual Basi, SQL
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: