Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัยต

แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัยต

Description: แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัยต

Search

Read the Text Version

39 ลายหลกั คือลายขนาดใหญท่ ส่ี ดุ ในผา้ ตนี ซิ่น อยูต่ รงกลางของผา้ ตีนจก เดน่ ชัดกว่าลายอื่นๆ ลายหลักทเ่ี ปน็ ลายเฉพาะของผ้าตนี จกหาดเส้ียวด้ังเดมิ ยงั คงสืบทอดกนั มาจนปัจจบุ นั มี 9 ลายคือ 1. ลายเครอื นอ้ ย ลายเครือนอ้ ย หมายถึงลายหลักทมี่ สี ่วนประกอบ ของตวั ลายหลักน้อยมากเป็นลายง่ายๆ สว่ นประกอบของลาย จะเป็นนกหมู่ ซึ่งเป็นลกั ษณะเฉพาะลายเครือน้อย ไมน่ ิยมนํานกหมู่ไปประกอบลายอ่ืน และยงั มีลายฟันปลา ลายสรอ้ ยหมาก และลายสรอ้ ยสาอยูต่ รงเชิ่งซน่ิ แตเ่ ดมิ ลายน้ตี อ้ งตอ่ กบั ซ่นิ มกุ 2. ลายเครอื กลาง ลายเครือกลาง คล้ายกับลายเครอื น้อยแตเ่ พิ่มความยากในการจกลายมากขนึ้ ส่วนประกอบหลกั ของ ลายนเ้ี ปน็ ลายนกคุ้มนก 2 ตัวหันหนา้ เขา้ หากัน ลายนกคาบ นก 2 ตวั คาบดอกไม้อยู่ตรงกลาง ลายพันคิง ลายดอกหม่ี และลายสรอ้ ยสาลายน้ใี ชต้ อ่ กบั ซิ่นเขน็

40 3. ลายเครือใหญ่ ลายเครอื ใหญ่ คอื ลายที่มดี อกไม้เพม่ิ ข้ึนตรงกลางเครือซ่ึงไมม่ ีใน 2 ลายแรก สว่ นประกอบ ของลายนเ้ี ป็นลายนกคมุ้ ลายนกคาบ ลายดอกหม่ี ลายฟันปลา ลายพนั คิง และลายเครอื ขอใชต้ ่อกบั ซนิ่ มกุ 4. ลายสบิ สองหนว่ ยตดั ลายสิบสองหน่วยตัด หมายถึงลายหลักท่ีมีขอ 12 ขอ ล้อมรอบดอกไม้ที่ทอไวต้ รงกลาง ประกอบกัน เปน็ ดอก มีขาพันทําเป็นสามเหลีย่ มและยงั มีนกคาบหรอื ฝูงหงสเ์ ล็กๆ อย่ดู ว้ ย ลายนใ้ี ช้ตอ่ กบั ซน่ิ ตาหว้า 5. ลายมนสบิ หก ลายมนสิบหก คอื ลายหลักทม่ี ีมุม 16 มุม ตัวลายคลา้ ยลายสบิ สองหนว่ ยตัดแต่ขอที่ล้อมรอบ ดอกไมม้ ี 16 ขอส่วนประกอบก็เหมอื นกบั ลายหลักอนื่ ๆ ใชต้ ่อกับซนิ่ ตาเติบ

41 6.ลายนํ้าอ่าง ลายนาํ้ อา่ ง คอื ลายหลกั ที่มีหงส์ 2 ตัวคาบดอกไม้ร่วมกัน คลา้ ยกับหงส์สองตวั คาบดอกไม้ ในอา่ งนํ้า ลายนผี้ ู้หญิงชวนพวนหาดเสย้ี วนิยมใช้มากทส่ี ุด เป็นลายท่ีเด่นสะดดุ ตา ลายนี้ต้องตอ่ ดว้ ยซ่นิ เข็น ลายสองท้อง เป็นลายหลักทคี่ ล้ายกับลายนํา้ อา่ งแตม่ ีขนาดใหญก่ ว่า คอื นอกจากจะมี นกใหญส่ องตวั คาบดอกไมร้ ่วมกันแล้ว ยงั มีนกอกี สองตัวทีม่ ีขนาดเล็กคาบดอกไม้ ร่วมกนั อยดู่ ้วยทาํ ใหล้ ายสองทอ้ งมขี นาดใหญก่ วา่ ลายหลกั อน่ื ๆ และลายประกอบท่ี แตกตา่ งจากลายหลกั อ่ืนๆ คอื จะใช้ลายผีเสอื้ แทนลายดอกหมี่ 7. ลายมนสบิ หก เป็นลายหลกั ทม่ี ีมุม ๑๖ มุม มีลกั ษณะคลา้ ยกบั ลายแปดขอ แตม่ ี ขนาดใหญก่ ว่า ลายประกอบ จะใชเ้ หมอื นกับลายอืน่ ๆโดยทัว่ ไป 9. ลายสบิ สองหนว่ ยตดั เป็นลายหลักทม่ี ขี อ ๑๒ ขอ มขี าพันทาํ เปน็ สามเหลี่ยม และมีนกคาบตัวเลก็ อยู่ตรงกลาง ลาย ประกอบจะใชเ้ หมือนกบั ลายอ่ืนๆ โดยทัว่ ไป

42 4. ชมุ ชนโบราณบ้านตลง่ิ ชนั -วังหาด แหลง่ โบราณคดบี ้านวังหาด ตาํ บลตลิ่งชัน อําเภอบา้ นด่านลานหอย ซงึ่ พบหลักฐานเครอื่ งมือ เคร่ืองใชท้ ่ีทําจากโลหะ เช่น หอก มดี เครื่องประดับทีเ่ ปน็ กําไลสํารดิ ลกู ปดั แก้ว ลกู ปดั หิน อาเกต ลกู ปัด หินคานเี ลียน เหรยี ญตราดวงอาทิตย์ และเศษภาชนะดนิ เผา นับเป็นแหลง่ โบราณคดลี ุม่ แม่นํ้ายมทมี่ ี พัฒนาการทางด้านโลหะกรรม โดยเฉพาะความถนัดในดา้ นการถลุงเหลก็ ท่ีมอี ายปุ ระมาณ 2500 ปี มา จนถงึ สมัยทวาราวดี 5. ชมุ ชนเครือ่ งปั้นดินเผาสงั คโลก - เมืองเกา่ สโุ ขทยั เครื่องสังคโลก เครอื่ งป้นั ดนิ เผา เปน็ วฒั นธรรมเชิงหัตถศลิ ป์ที่สืบทอดใหเ้ ราผู้ เป็นอนชุ นได้สืบเน่อื งความคิดของบรรพชนของเรา และพัฒนาจนมาเปน็ เครือ่ งใชไ้ ม้สอยทีท่ ันสมัยจนทกุ วันน้ี สโุ ขทัยเป็นแหลง่ อารยธรรมท่ี เจริญรุ่งเรืองมานานนบั พันปี ปรากฏไดจ้ ากโบราณสถาน และ โบราณวตั ถุ เครื่องปนั้ ดินเผาที่มีช่ือเสียงของสโุ ขทัย คือ เครอ่ื งสังคโลก เคร่อื งสงั คโลก หมายถงึ เคร่ืองปั้นดินเผาทผี่ ลิตขนึ้ ในรปู ภาชนะ เครอื่ งใช้ และเคร่ืองประดับอาคารต่าง ๆ เช่น ถว้ ย ชาม จาน ไหดิน โอง่ นํา้ ขวดดิน กระปกุ ปา้ นนา้ํ ชา ช้อน ตลอดดจนตุ๊กตารปู คน รูปสัตว์ เชน่ ช้าง รูปยักษ์ รปู เทวดา พระพุทธรูป กระเบื้องมงุ หลังคา สิงห์สงั คโลก ลกู มะหวด ทอ่ นํ้า ตกุ๊ ตาเสยี กบาล ตัวหมากรุก ชอ่ ฟ้า บราลี ฯลฯ มที ั้งทเี่ คลอื บนํา้ ยาและไม่ เคลอื บนา้ํ ยา ลกั ษณะเดน่ คือ เป็นเครอ่ื งป้ันดนิ เผาเคลือบเน้อื ละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดเน้อื แตกลาย

43 งาสีเขียวไขก่ า วิวัฒนาการของการเคลือบสีเขยี วประณีตงดงามทาํ ให้มกี ารเรียกชอ่ื เคร่ืองปั้นดนิ เผาสีเขยี ว วา่ \"เซลาดอน\" ซึง่ เคลอื บสรี ะดบั ตา่ ง ๆ กัน เช่น สีเขียวไขก่ า สีเขียวมะกอก การกําหนดอายเุ ครือ่ งสังคโลกจากหลักฐานท่ีคน้ พบเครอ่ื งสงั คโลกกบั เครือ่ งถว้ ยสเี ขยี วของจนี สมัย ราชวงศ์หยวนในเรอื ทจ่ี มใต้อ่าวไทยชือ่ เรอื รางเกวยี น กาํ หนดอายุประมาณต้นพทุ ธศตวรรษที่ 19 และ ศกึ ษาเปรียบเทยี บเครือ่ งสังคโลกกบั เคร่ืองปนั้ ดินเผาจนี สมัยราชวงศห์ มิงที่พบทีป่ ระเทศฟิลิปปนิ ส์ ได้ กําหนดเครอื่ งสังคโลกใหม้ อี ายรุ ะหว่างพทุ ธศตวรรษท่ี 18-19 การผลิตเครอ่ื งสงั คโลกเริ่มสมยั สุโขทยั แต่ ไดร้ บั การส่งเสริมเป็นสินค้าออกและขยายการผลิตจาํ นวนมากในสมยั กรงุ ศรอี ยุธยา การผลติ เคร่ืองสงั คโลก ลดลงตั้งแต่พทุ ธศตวรรษที่ 23 เหตุผลสําคญั ประการหน่ึงทีท่ ําใหต้ ลาดการค้าสงั คโลกเปลยี่ นแปลงคอื การ ทจ่ี นี หวนกลับมาผลิตเครื่องลายครามน้ําเงิน-ขาว ซ่งึ กลายเปน็ ท่นี ยิ ม และการค้าสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา เปล่ียนแปลงไปตามขอ้ เรยี กร้องของชาวตะวันตกท่ีมีบทบาททางการเมอื งในภมู ิภาคน้ี คาํ ว่า สงั คโลก มผี สู้ ันนษิ ฐานไว้ตา่ งกัน บ้างวา่ มาจากคาํ วา่ \"ซอ้ งโกลก\" แปลว่า เตาแผน่ ดนิ ซ้อง บา้ งว่ามาจากคําว่า \"ซนั โกโรก\"ุ หรือ \"ซังโกโรก\"ุ ในภาษาญ่ีป่นุ ซงึ่ อาจเพีย้ นมาจากคาํ วา่ \"สวรรคโลก\" อนั เปน็ ชอ่ื ท่แี พร่หลายของเมอื งเชลยี งหรือศรสี ชั นาลัยในพงศาวดารอยุธยา ชอ่ื เครื่องปัน้ ดินเผาสงั คโลก จงึ มคี วามหมายเดิมจาํ กัดอยู่เฉพาะบริเวณเชลยี งหรอื ศรสี ชั นาลัย และเมอื งท่ีสมั พันธก์ นั คอื สุโขทยั ดังไดพ้ บเตาผลิตมากมายในบรเิ วณน้ี อยา่ งไรกต็ ามเตาผลติ ทางภาคเหนือของไทยอกี หลายแห่งได้ผลติ เคร่ืองปน้ั ดินเผาประเภทที่เรยี กว่า สังคโลก เช่นกัน ประเภทของเครื่องสงั คโลก แบ่งไดต้ ามลกั ษณะเนื้อดนิ และลวดลาย และแบง่ ตามเตาเผา 1. ลกั ษณะเน้ือดินและลวดลาย เนอ้ื ดนิ เป็นประเภทเนือ้ แกรง่ หรือสโตนแวร์ (stoneware) ซึ่งใช้ อณุ หภมู ิในการเผาสงู ประมาณ 1150 - 1280 องศาเซลเชยี ส เทคนคิ การตกแตง่ ท้ังการเคลอื บและ ลวดลาย มีต่าง ๆ กัน ดงั น้ี - เครื่องป้ันดินเผาเนอ้ื แกร่งไม่เคลือบ ประดบั ลวดลายดว้ ยการใช้แมพ่ มิ พ์กดลวดลายประทับ เชน่ ลายกา้ นขด หรอื ลายเรขาคณติ มกี ารประดับด้วยวิธีปั้นดินแลว้ แปะตดิ เข้ากับภาชนะกอ่ นเผา - เคร่ืองถว้ ยสีนํา้ ตาลเขม้ เป็นการเคลือบสพี ้ืนเดยี ว ลักษณะรูปแบบและสนี าํ้ เคลอื บคล้ายกับ เครื่องถ้วยลพบรุ ีประเภทเคลอื บสีนาํ้ ตาล - เครอื่ งถว้ ยเคลือบขาวที่เขยี นลวดลายใตเ้ คลือบนํ้าตาลดํา ลกั ษณะคล้ายเคร่ืองถว้ ยจีนจาก เสาสอื โจว้ กับเครือ่ งถว้ ยอันหนาน (เครื่องถว้ ยของเวยี ดนาม) - เคร่อื งถ้วยเคลอื บขาวท่ีเขยี นลวดลายบนเคลือบสนี ํ้าตาลทอง - เคร่อื งถ้วยเคลอื บสเี ขียวไขก่ า หรอื เซลาดอน ซงึ่ ตกแต่งลวดลายด้วยวิธีการขดู และขดุ ลายใน เนื้อดนิ แล้วเคลือบทับ คลา้ ยคลงึ กับเครอ่ื งถ้วยจนี จากเตาหลงฉวน สมยั ราชวงศ์ซุง้ ตอนปลายถงึ ราชวงศ์ หยวน (ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 19-20)

44 ลวดลายที่ปรากฏในถ้วยชามสังคโลก เป็นลวดลายเฉพาะ ท่ีพบมากในจาน ชาม คือ รปู ปลา กงจกั ร ดอกไม้ โดยเฉพาะรูปปลาน้ันสันนิษฐานวา่ เปน็ ปลากา มิใช่ปลาตะเพยี นทเ่ี ข้าใจกันมาแตก่ ่อน เพราะพบในชามสังคโลกใบหน่งึ มอี กั ษรลายสอื ไท เขยี นบอกชือ่ ปลาไวว้ ่า \"แมป่ ลาก่า\" อยูใ่ ตต้ วั ปลา ปลากา เปน็ ปลานาํ้ จดื ชนิดหน่ึงรปู ร่างคลา้ ยปลาตะเพียนมีอยู่ 2 ชนดิ คือ ปลากาดํา และปลากาทรงเคร่ืองท้งั สอง ชนิดมีมากในแม่นาํ้ ลาํ คลองทวั่ ไป โดยเฉพาะทีแ่ มน่ ํา้ ยม แหล่งเตาเผา มีอยู่ 3 แหง่ คอื 1) เคร่อื งสังคโลกเตาสโุ ขทยั หรอื เรียกว่า เตาทเุ รยี งสโุ ขทยั ปัจจบุ นั อย่ใู นบรเิ วณอุทยานประวัตศิ าสตร์สโุ ขทัย ตําบลเมืองเกา่ อาํ เภอเมือง จังหวดั สโุ ขทยั เปน็ ภาชนะถ้วยชามเปน็ ส่วนใหญ่ เนอ้ื ดินค่อนขา้ งหยาบ ชบุ น้ําดินสขี าวลวดลายสีดํา การเรยี งถว้ ยชามเข้า เตาเผาแหง่ น้จี ะใช้ ก๋ี คือ จานท่มี ขี าป่มุ 5 ปมุ่ วางคัน่ ระหว่างชามต่อชาม ดังนัน้ ภายในชามของเตาสุโขทัย จะปรากฏรอย 5 จุด อยู่ 2) เครอ่ื งสังคโลกเตาทเุ รียงป่ายาง ปจั จุบนั อยใู่ นบริเวณอทุ ยานประวตั ิศาสตร์ศรสี ัชนาลยั บนฝง่ั ตะวนั ตกของแมน่ ้ํายม เหนอื แก่ง หลวง อยใู่ กลเ้ มอื งเกา่ ศรสี ชั นาลัย เครือ่ งสงั คโลกที่ได้จากแหลง่ นี้มีลวดลายและน้ํายาเคลือบสวยงาม รปู แบบพิเศษกว่าเตาเผาแหล่งอื่น แยกเปน็ เตาเผารปู ยกั ษ์ นาค มังกร และเตารูปตกุ๊ ตา สนั นิษฐานวา่ เตาน้ี จะเป็นเตาหลวง 3) เครอ่ื งสังคโลกทเุ รียงเกาะน้อย ปัจจุบันอย่ใู นบรเิ วณอุทยานประวัตศิ าสตร์สุโขทัยริมฝงั่ คลองบางบอน ตาํ บลหนองออ้ อําเภอ ศรีสชั นาลัย เปน็ ภาชนะถว้ ยชาม,ขวด มหี ลาย สีเชน่ สนี ํา้ ตาล สเี หลืองออ่ น สเี ขยี วไขก่ า สีขาว การเรยี ง เครือ่ งถ้วยเตาเผาไมซ่ อ้ นกนั เปน็ ชัน้ ๆ อยา่ งเตาสุโขทัย แต่วางบนกี๋แทง่ กลวง ก้นชามทเี่ ตาเกาะน้อย นจ้ี ะ เปน็ วงแหวนปรากฏอยู่

45 กจิ กรรม 1. ชุมชนเคร่ืองปั้นดินเผาทงุ่ หลวงอย่ทู อ่ี าํ เภออะไร ก. ครี ีมาศ ข. กงไกรลาศ ค. ศรสี าํ โรง ง. ศรีสัชนาลัย 2. ชาวทงุ่ หลวงใช้ดนิ อะไรปนั้ ของใช้ต่างๆ ก. ดินทราย ข. ดนิ ร่วน ค. ดินแดง ง. ดินเหนียว 3. ข้อใดเปน็ อาชีพเสริมของชุมชนบา้ นนาต้นจน่ั ก. ทอผา้ ข.จกั สาน ค.ทําหัตถกรรมตอไม้ ง.ถกู ทกุ ขอ้ 4. ขอ้ ใดไมใ่ ชแ่ หลง่ ท่องเทีย่ วในชุมชนบ้านนาตน้ จนั่ ก. ทอ่ งเทย่ี วเชิงเกษตร ข. ศกึ ษาวถิ ีชวี ติ ชุมชน ค. วัฒนธรรมประจําทอ้ งถ่นิ ง. ไม่มีขอ้ ถูก 5. ทรพั ยากรการทอ่ งเทย่ี วภายในชมุ ชน ประกอบดว้ ยทใี่ ดบ้าง ก.โบราณสถาน ข.เมืองเก่าศรสี ชั นาลัย ค.ภูมิปัญญาบา้ นตาวงค์ ง.ถกู ทุกขอ้ 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ประเภทเครอ่ื งปัน้ ดินเผา ก.ชอ้ น ข.คนโท ค.กานาํ้ ง.หม้อหวั ไก่ 7. เอกลกั ษณ์ของ ชุมชนบ้านนาต้นจั่นคอื อะไร ก.ตน้ จ่ัน ข.ต้นสัก ค.ต้นเฟ่ืองฟ้า ง.ต้นกลว้ ย 8. การดําเนนิ การของชุมชนบ้านนาต้นจ่นั มกี ารดาํ เนินการเปน็ กลุม่ 4 กล่มุ คอื กล่มุ ใดบ้าง ก.กลุม่ โฮมสเตย์ ข.กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ค.กลุ่มจกั สาน ง.ถกู ทุกข้อ

46 9. ตําบลทุง่ หลวงแบง่ ออกเปน็ กห่ี มบู่ า้ น ก. 2 ข. 3 ค. 4 ง. 13 10. อาชีพหลักของบา้ นท่งุ หลวงคอื อาชพี ใด ก. ทํานา ข. คา้ ขาย ค. กอ่ สร้าง ง. ปลูกยางพารา 11. คาํ ว่า หาดเสยี้ วหมายถงึ อะไร ก. ทา่ น้าํ ทแี่ หวง่ ไป ข. แผ่นดนิ ทถี่ กู น้ํากัดเซาะ ค. ชายหาดที่ถกู นาํ้ ทะเลกดั เซาะ ง. ท่านํ้าท่ถี ูกถมดว้ ยดิน 12. กลุ่มชนทอี่ พยพมาอาศยั อยูท่ ี่บ้านหาดเสี้ยวคอื กลมุ่ ชนใด ก. ไทพวน ข. ไทใหญ่ ค. มูเซอ ง. ปากะยอ 13. ผลติ ภณั ฑ์ใดที่เปน็ เอกลักษณข์ องบา้ นหาดเสยี้ ว ก. มะปางไข่ ข. ขา้ วตงั หนา้ ตง้ั ค. ผา้ ซ่นิ ตีนจก ง. เคร่ืองปั้นดินเผา 14. ผ้านงุ่ ซนิ่ ตีนดาํ หมายถึงอะไร ข. หญิงท่ีแตง่ งานแล้ว ก. หญงิ ทเี่ ป็นสาวโสด ง. หญงิ ทต่ี ัง้ ครรภ์ ค. หญิงทีเ่ ปน็ หม้าย 15. เครื่องมอื ใด ท่ไี มไ่ ด้ พบในชุมชนโบราณบ้านตลิ่งชัน ก. หอก ข. มดี ค. ลกู ปดั แกว้ ง. โล่ 16. ประเภทเครอื่ งปั้นสังคโลกสามารถแบง่ ออกได้ตามลักษณะใด ก. เน้ือดนิ ข. รูปทรง ค. ความสงู ง. ถูกทุกขอ้ 17. ลวดลายที่พบในเครอ่ื งสังคโลกสโุ ขทยั ที่พบมากท่ีสดุ คอื ลายใด ก. ลายปลา ข. ลายไก่ ค. ลายนกยงู ง. ลายมงั กร

47 18. แหลง่ เตาเผาทส่ี ําคญั ในจงั หวัดสโุ ขทัยมีก่แี หง่ ก. 2 แหง่ ข. 3 แห่ง ค. 4 แหง่ ง. 5 แห่ง 19. ลกั ษณะชามสังคโลกใดทพี่ บจากเตาทุเรียงสุโขทยั ก. เน้ือดนิ ค่อนขา้ งละเอียด ชบุ นํ้าสีขาว ลวดลายสเี ขยี ว ข. เนอื้ ดินคอ่ นขา้ งละเอยี ด ชุบนํ้าสีขาว ลวดลายสีดาํ ค. เน้ือดินค่อนขา้ งหยาบ ชบุ นาํ้ สขี าว ลวดลายสเี ขียว ง. เนื้อดนิ ค่อนขา้ งหยาบ ชบุ นํ้าสีขาว ลวดลายสดี าํ 20. ลกั ษณะใด ของเตาทุเรียงทข่ี ดุ พบมากที่สุดในอาํ เภอศรีสชั นาลัย ก. ทรงกลม ข. ทรงเหลีย่ ม ค. หลงั เตา่ ง. ประทนุ เรือจา้ ง

48 แบบทดสอบหลงั เรยี น 1. พระบรมรปู พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ตงั้ ประดษิ ฐส์ ถานอยทู่ ีต่ ําบลใด ก. ตําบลเมืองเกา่ ข. ตาํ บลธานี ค. ตําบลคีรมี าศ ง. ตําบลบ้านกลว้ ย 2. พระเจดยี ์มหาธาตุ ตั้งอยูใ่ นวดั ใด ก. วัดศรีชุม ข วดั มหาธาตุ ค. วัดตระพังตระกวน ง. วดั พระพายหลวง 3. พระเจดีย์มหาธาตุ ถกู ออกแบเปน็ รูปทรงใด ก. ดอกบวั บาน ข. พุ่มขา้ วบิณฑ์ ค. ดอกบัวควํา่ ง. ทรงปราสาท 4. วดั พระศรมี หาธาตุ มีชอื่ เรียกอีกชอ่ื ว่าอะไร ก. วดั มหาธาตุ ข. วัดช้างลอ้ ม ค. วดั ศรีสวาย ง. วัดพรปรางค์ 5. โบราณสถานสําคญั อยู่บรเิ วณกลางสระนา้ํ ท่ีมขี นาดใหญ่ บริเวณวดั สระศรี มชี ่อื วา่ อะไร ก. ตระพังทอง ข. ตระพังนา้ํ วน ค. ตระพังตระกวน ง. ตระพงั ทอง 6. ศาลตาผาแดง มลี ักษณะเปน็ โบราณสถานแบบใด ก. ศิลปะเขมร ข. ศลิ ปะแบบจนี ค. ศิลปะแบบลงั กา ง. ศลิ ปะแบบลพบรุ ี 7. พระอจั นะพูดไดน้ ั้น ประดิษฐ์สถานอยูท่ ว่ี ดั ใด ก. วัดพระปรางค์ ข. วดั ช้างล้อม ค. วัดชนะสงคราม ง. วัดศรชี ุม 8. พระพทุ ธอทุ ยานสุโขทัย มพี ระพุทธรปู จาํ ลองจํานวนก่ีองค์ ก. 8 องค์ ข. 9 องค์ ค. 10 องค์ ง. 11 องค์ 9. ลกั ษณะสถาปตั ยกรรมวิหารของพระพุทธอทุ ยานสโุ ขทยั เปน็ แบบใด ก. พระปรางคห์ า้ ยอด ข. พระปรางค์สามยอด ค. พระปรางค์เกา้ ยอด ง. ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์

49 10. อุทยานประวตั ิศาสตรศ์ รสี ชั นาลัย ไดร้ บั การยกย่องให้เป็นมรดกโลก เม่ือปี พ.ศ. ใด ก. 2551 ข. 2534 ค. 2532 ง. 2531 11. อทุ ยานแหง่ ชาติรามคําแหง ไม่มี เนอื้ ที่ครอบคลมุ อย่ใู นอาํ เภอใด ก. อาํ เภอบ้านดา่ นลานหอย ข. อาํ เภอเมอื งสุโขทยั ค. อาํ เภอทงุ่ เสลยี่ ม ง. อาํ เภอครี ีมาศ 12. “อุทยานแหง่ ชาติรามคําแหง” ไดอ้ ัญเชญิ สมญานามของกษตั รยิ อ์ งคใ์ ด มาเปน็ ชอ่ื ของอทุ ยาน แห่งชาติ ก. พอ่ ขุนเม็งราย ข. พอ่ ขุนรามคําแหงมหาราช ค. พ่อขนุ ศรอี ินทราทติ ย์ ง. พ่อขนุ บาลเมอื ง 13. พน้ื ทส่ี ว่ นใหญข่ องอทุ ยานแห่งชาตริ ามคาํ แหงปกคลมุ ดว้ ยปา่ ประเภทใดมากท่สี ุด ก. ป่าเบญจพรรณ ข. ป่าดบิ แล้ง ค. ปา่ ดบิ เขา ง. ปา่ เต็งรัง 14. สถานทีใ่ ด ไมใ่ ช่ หลกั ฐานทางประวัติศาสตรท์ ีพ่ บบริเวณอุทยานแหง่ ชาตริ ามคาํ แหง ก. วดั มหาธาตุ ข. ปล่องนางนาค ค. เขอ่ื นสรดี ภงส์ ง. รอยพระพุทธบาท 15. นํ้าตกใดท่พี บในบริเวณอทุ ยานแหง่ ชาตริ ามคาํ แหง ก. น้ําตกตาดเดือน ข. นํา้ ตกสายรงุ้ ค. นํ้าตกทลี อซู ง. น้าํ ตกตาดดาว

50 16. “เขาหลวง” ประกอบด้วยเทอื กเขาใดบ้าง ก. เขาพระนารายณ์ ข. เขาพระเจดยี ์ ค. เขาพระแม่ย่า ง. ถูกทกุ ขอ้ 17. อทุ ยานแหง่ ชาติศรสี ัชนาลัย มชี ื่อเรียกอีกชื่อหน่งึ คืออะไร ก. ปา่ คา ข. ป่าดงดิบ ค. ป่าหลวง ง. ปา่ แดง 18. สถานที่ใดเปน็ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วภายในอทุ ยานแหง่ ชาติศรสี ัชนาลยั ก. ถํา้ ค้างคาว ข. ถ้ําเจ้าราม ค. ถ้าํ ลม ง. ถ้าํ วงั 19. วนอทุ ยานถํ้าลม-ถา้ํ วงั ตงั้ อยใู่ นท้องทอี่ าํ เภอใด ก. อาํ เภอศรีสาํ โรง ข. อาํ เภอบ้านดา่ นลานหอย ค. อําเภอศรนี คร ง. อาํ เภอท่งุ เสลยี่ ม 20. ถ้าํ เจา้ รามตงั้ อยู่ในเขตอําเภอใด ก. ทงุ่ เสล่ยี ม-ศรีสําโรง ข. บา้ นด่านลานหอย-อาํ เภอเมืองสโุ ขทัย ค. ทงุ่ เสล่ียม-สวรรคโลก ง. ครี มี าศ-อําเภอเมืองสุโขทัย 21. ชุมชนเครอ่ื งปั้นดนิ เผาทุ่งหลวงอยู่ทอ่ี ําเภออะไร ก. ครี มี าศ ข. กงไกรลาศ ค. ศรสี าํ โรง ง. ศรสี ชั นาลัย 22. ชาวท่งุ หลวงใช้ดนิ อะไรป้ันของใช้ต่างๆ ก. ดนิ ทราย ข. ดนิ ร่วน ค. ดินแดง ง. ดินเหนยี ว 23. ขอ้ ใดเป็นอาชีพเสริมของชมุ ชนบ้านนาตน้ จัน่ ก. ทอผ้า ข.จักสาน ค.ทําหตั ถกรรมตอไม้ ง.ถกู ทุกขอ้ 24. ขอ้ ใดไมใ่ ช่แหลง่ ท่องเท่ียวในชมุ ชนบ้านนาต้นจน่ั ก. ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ข. ศกึ ษาวิถีชวี ติ ชุมชน ค. วฒั นธรรมประจําทอ้ งถิน่ ง. ไมม่ ีข้อถูก

51 25. ทรพั ยากรการทอ่ งเทยี่ วภายในชุมชน ประกอบดว้ ยทใ่ี ดบา้ ง ก.โบราณสถาน ข.เมืองเกา่ ศรีสชั นาลัย ค.ภมู ิปัญญาบา้ นตาวงค์ ง.ถกู ทกุ ข้อ 26. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระเภทเคร่ืองปัน้ ดินเผา ก.ช้อน ข.คนโท ค.กาน้ํา ง.หมอ้ หัวไก่ 27. เอกลักษณข์ อง ชุมชนบา้ นนาต้นจ่นั คอื อะไร ก.ตน้ จนั่ ข.ตน้ สกั ค.ตน้ เฟ่อื งฟ้า ง.ตน้ กลว้ ย 28. การดําเนินการของชมุ ชนบ้านนาตน้ จัน่ มกี ารดาํ เนนิ การเป็นกล่มุ 4 กลุ่ม คอื กลมุ่ ใดบา้ ง ก.กลุ่มโฮมสเตย์ ข.กลมุ่ เฟอร์นิเจอร์ ค.กล่มุ จักสาน ง.ถูกทุกข้อ 29. ตําบลทุ่งหลวงแบง่ ออกเปน็ กี่หมบู่ า้ น ก. 2 ข. 3 ค. 4 ง. 13 30. อาชพี หลกั ของบ้านทงุ่ หลวงคอื อาชีพใด ก. ทาํ นา ข. ค้าขาย ค. ก่อสร้าง ง. ปลกู ยางพารา 31. คาํ ว่า หาดเส้ียวหมายถึงอะไร ก. ท่าน้าํ ท่ีแหวง่ ไป ข. แผน่ ดนิ ทถ่ี กู น้าํ กัดเซาะ ค. ชายหาดทถ่ี กู น้าํ ทะเลกัดเซาะ ง. ทา่ น้าํ ทถี่ ูกถมด้วยดนิ 32. กลุ่มชนทอ่ี พยพมาอาศยั อยู่ทีบ่ ้านหาดเสย้ี วคอื กลุ่มชนใด ก. ไทพวน ข. ไทใหญ่ ค. มเู ซอ ง. ปากะยอ 33. ผลิตภัณฑใ์ ดทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของบา้ นหาดเสีย้ ว ก. มะปางไข่ ข. ขา้ วตงั หน้าต้ัง ค. ผ้าซ่นิ ตีนจก ง. เครื่องปน้ั ดินเผา 34. ผ้านุ่งซ่นิ ตีนดํา หมายถึงอะไร ก. หญิงทเี่ ปน็ สาวโสด ข. หญงิ ทีแ่ ต่งงานแล้ว ค. หญิงที่เปน็ หม้าย ง. หญิงทีต่ ง้ั ครรถ์

52 35. เคร่ืองมอื ใด ที่ไมไ่ ด้ พบในชุมชนโบราณบา้ นตล่งิ ชัน ก. หอก ข. มีด ค. ลกู ปดั แก้ว ง. โล่ 36. ประเภทเครื่องปั้นสังคโลกสามารถแบ่งออกไดต้ ามลักษณะใด ก. เน้ือดนิ ข. รูปทรง ค. ความสงู ง. ถูกทุกข้อ 37. ลวดลายที่พบในเคร่อื งสงั คโลกสุโขทัยทพี่ บมากทส่ี ดุ คือลายใด ก. ลายปลา ข. ลายไก่ ค. ลายนกยงู ง. ลายมงั กร 38. แหล่งเตาเผาที่สาํ คญั ในจงั หวดั สุทยั มกี แ่ี หง่ ก. 2 แห่ง ข. 3 แหง่ ค. 4 แหง่ ง. 5 แห่ง 39. ลกั ษณะชามสังคโลกใดที่พบจากเตาทุเรียงสโุ ขทัย ก. เนือ้ ดินค่อนขา้ งละเอียด ชบุ นา้ํ สขี าว ลวดลายสเี ขยี ว ข. เนือ้ ดนิ ค่อนข้างละเอียด ชุบนํา้ สขี าว ลวดลายสีดํา ค. เนือ้ ดินคอ่ นข้างหยาบ ชุบนา้ํ สขี าว ลวดลายสีเขยี ว ง. เนอื้ ดนิ คอ่ นข้างหยาบ ชบุ น้าํ สขี าว ลวดลายสดี ํา 40. ลักษณะใด ของเตาทุเรยี งทีข่ ดุ พบมากท่ีสดุ ในอาํ เภอศรีสชั นาลยั ก. ทรงกลม ข. ทรงเหลีย่ ม ค. หลงั เต่า ง. ประทุนเรอื จา้ ง

53 เฉลยแบบฝกึ ทักษะ กิจกรรม 1. มาจากสองคาํ คือ \"สขุ +อุทัย\" หมายความวา่ \"รุง่ อรุณแหง่ ความสขุ \"รอยอดตี แหง่ ความ รุ่งเรอื ง 2. การปกครอง 2 แบบ 1. การปกครองแบบ นายปกครองบ่าว 2. การปกครองแบบ บิดาปกครองบุตร หรอื พอ่ ปกครองลกู 3. วัดมหาธาตุ เคยเปน็ ทีป่ ระดษิ ฐานพระพทุ ธรปู สาํ รดิ ทใ่ี หญท่ ีส่ ดุ ในประเทศไทย คือ พระศรศี ากยมนุ ี ปัจจุบนั ไดร้ ับการเคลอ่ื นย้ายไปอยทู่ ี่วัดสทุ ัศนฯ์ กรงุ เทพมหานคร 4. วัดศรีชมุ มีลกั ษณะ เปน็ วดั ท่ีประดิษฐาน พระอจนะ เปน็ พระพุทธรูปปนู ปนั้ ปางมารวิชยั ขนาดใหญ่ หนา้ ตกั กวา้ ง 11.30 เมตร ลักษณะของวหิ ารสร้างเปน็ รูปสเ่ี หลี่ยมลกั ษณะคลา้ ยมณฑป แต่ หลังคาพงั ทลายลงมาหมดแลว้ เหลือเพียงผนังท้งั สี่ดา้ น ผนงั แต่ละดา้ น กอ่ อฐิ ถือปูนอย่างแนน่ หนา ผนัง ทางด้านใตม้ ชี ่องให้คนเข้าไปภายใน และเดนิ ขน้ึ ไปตามทางบันไดแคบ ๆ ถึงผนังดา้ นข้างขององคพ์ ระอจนะ หรอื สามารถขนึ้ ไปถึงสันผนังดา้ นบนได้ ภายในชอ่ งกาํ แพงตามฝาผนงั มภี าพเขียนเกา่ แก่แตเ่ ลอะเลอื นเกือบ หมด ภาพเขียนน้ีมีอายุเกอื บ 700 ปี นอกจากนแี้ ลว้ บนเพดานช่องบันไดยงั มแี ผน่ หินชนวนขนาดใหญ่ แกะสลกั ลวดลายเรอ่ื งชาดกต่าง ๆ มจี ํานวนทงั้ หมด 50 ภาพ เม่ือเดนิ ตามช่องทางบนั ไดขึ้นไปจะโผล่บน หลังคาวิหารมองเห็นทวิ ทัศน์โดยรอบ เพราะเหตุใดวหิ ารวดั ศรชี ุมจงึ มคี วามเรน้ ลับซอ่ นอยูอ่ ย่างนี้ เรื่องนี้ หากพจิ ารณากันอยา่ งลึกซึ้งแลว้ จะพบวา่ พระมหากษตั รยิ ใ์ นราชวงศ์พระรว่ งทรงพระปรชี าสามารถในด้าน ปลุกปลอบใจทหารหาญ และด้านอ่ืน ๆ อกี มาก เพราะผนังดา้ นข้างขององค์พระอจนะมชี อ่ งเล็ก ๆ ถ้าหาก ใครแอบเขา้ ไปทางอโุ มงค์แล้วไปโผลท่ ีช่ ่องนี้ และพูดออกมาดัง ๆ ผทู้ อ่ี ยูภ่ ายในวิหารจะต้องนกึ ว่าพระอจ นะพดู ได้ และเสยี งพูดน้นั จะกังวานน่าเกรงขาม เพราะวิหารน้ไี ม่มหี นา้ ตา่ ง แตเ่ ดมิ คงมีหลังคาเป็นรูปโคง้ คลา้ ยโดม 5. เดมิ ชอื่ วา่ “เมืองเชลียง” แลว้ เปลี่ยนชอื่ เป็น “ศรีสชั นาลยั ” ในสมยั กษตั รยิ ร์ าชวงศ์พระร่วง ข้ึนครองกรงุ สุโขทยั และได้สรา้ งเมอื งขนึ้ ใหม่เปน็ ศนู ย์กลางการปกครองแทนเมอื งเชลียง 6. เปน็ กลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ และเปน็ อารามหลวงชนั้ ราชวรวิหาร มโี บราณสถานท่ี สาํ คัญภายในวดั ไดแ้ ก่ พระปรางค์ประธาน กอ่ ด้วยศิลาแลง ฉาบปนู

54 เฉลยแบบฝึกทักษะ กิจกรรมที่ 1 1. อทุ ยาน แห่งชาตริ ามคําแหง มเี น้อื ทค่ี รอบคลมุ อยใู่ นทอ้ งทอี่ าํ เภอบา้ นด่านลานหอย อาํ เภอครี มี าศ และอาํ เภอเมอื ง จังหวัดสุโขทยั 2. อทุ ยานแหง่ ชาตริ ามคําแหง มีภเู ขาทสี่ ูงท่สี ดุ คอื “เขาหลวง” ประกอบดว้ ยเขานารายณ์ สูง 1,160 เมตร เขาพระเจดีย์ สงู 1,185 เมตร เขาภคู าและเขาพระแมย่ ่า สูง 1,200 เมตรจากระดับนํ้าทะเล 3. อุทยานแห่งชาตริ ามคําแหง เป็นอทุ ยานแหง่ ชาตทิ พ่ี บหลักฐานสาํ คญั ทางประวัตศิ าสตร์มากมาย ไดแ้ ก่ รอยพระพทุ ธบาท ปรางคเ์ ขาปูจ่ า ถนนพระรว่ ง ปลอ่ งนางนาค และเขอ่ื นสรดี ภงส์ 4. อุทยานแห่งชาตริ ามคําแหง มีแหลง่ ท่องเทยี่ วทางธรรมชาติท่นี ่าสนใจ ได้แก่ เขาหลวง ถํ้า นารายณ์ ทุ่งหญา้ ธรรมชาติ นํา้ ตกลาํ เกลยี ว น้ําตกสายรุ้ง เป็นตน้ 5. อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลยั มพี นื้ ท่คี รอบคลมุ อาํ เภออําเภอศรีสชั นาลัย และอําเภอทุ่งเสล่ียม 6. สตั ว์ป่าทพ่ี บในอุทยานแห่งชาตศิ รีสชั นาลยั ไดแ้ ก่ กระแต เสือไฟ อีเห็นขา้ งลาย เลียงผา เต่าปลู ู เปน็ ตน้ 7. วนอทุ ยาน ถา้ํ ลม-ถา้ํ วังตัง้ อยู่ในเขตป่าสงวนแหง่ ชาตปิ ่าแม่มอก-แม่พนั ลํา 8. กิจกรรมทน่ี ่าสนใจที่ถ้ําเจา้ รามคือ ชมคา้ งคาวบนิ เขา้ ออก จากถํ้าเจา้ ราม จาํ นวน 4-5 ลา้ นตวั 9. จากการสาํ รวจคา้ งคาวทีอ่ าศัยอยใู่ นถํา้ เจ้ารามประมาณเกอื บ 5 ล้านตัวแห่งนี้ พบวา่ เป็นพันธุท์ ี่กิน แมลงหล่อเล้ยี งชวี ติ และเพอ่ื การขยายเผ่าพันธุ์ มีอยู่ 6 ชนิดด้วยกนั คือ ค้างคาวเล็บกดุ คา้ งคาว ปกี ถงุ ใหญ่ ค้างคาวหนา้ ยกั ษ์กระบงั หนา้ ค้างคาวหนา้ ยักษส์ ามลืบ ค้างคาวปากยน่ และค้างคาว ปีกพบใหญ่ 10. เขื่อนสรีดภงสส์ ามารถกักเกบ็ นํา้ ได้จาํ นวน 400,000 ลูกบาศก์เมตร

55 เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะ กิจกรรมที่ 2 1. ค. อําเภอทงุ่ เสลี่ยม 2. ข. พ่อขนุ รามคาํ แหงมหาราช 3. ง. ป่าเต็งรัง 4. ก. วดั มหาธาตุ 5.ข. นํ้าตกสายรงุ้ 6. ง. ถกู ทุกขอ้ 7. ก. ป่าคา 8. ก. ถํ้าคา้ งคาว 9. ก. อาํ เภอศรีสาํ โรง 10. ก. หินปูน 11. ง. ป่าเบญจพรรณ 12. ข. 2 เสน้ ทาง 13. ก. 3 ปี 14. ก. ทุง่ เสลีย่ ม-ศรีสาํ โรง 15. ข. คา้ งคาว 16. ข. ไม้สกั 17. ค. 18 สิงหาคม 2532 18. ก. เป็นทห่ี ลบภยั จากข้าศึกศตั รู 19. ง. ถูกทกุ ขอ้ 20. ง. ถูกทกุ ขอ้

56 เฉลยแบบฝึกทกั ษะ บทที่ 3 1. ก. 2. ง 3. ง 4. ง 5. ง 6. ก 7. ก 8. ง 9.ง 10. ก 11. ก. 12. ก. 13. ค. 14. ข. 15. ง. 16. ก. 17. ก. 18. ข. 19. ง. 20. ง.

57 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ก. 2. ข 3. ข. 4. ก. 5. ค. 6. ก. 7. ง. 8. ข. 9. ง. 10. ค. 11. ข. 12. ง. 13. ก. 14. ข. 15. ง. 16. ก. 17. ก. 18. ก. 19. ก. 20. ก. 21. ก. 22. ง. 23. ง. 24. ง. 25. ง.

58 26. ก. 27. ก. 28. ง. 29. ง. 30. ก. 31. ก. 32. ก. 33. ค. 34. ข. 35. ง. 36. ก. 37. ก. 38. ข. 39. ง. 40. ง.

59 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ก. 2. ข 3. ข. 4. ก. 5. ค. 6. ก. 7. ง. 8. ข. 9. ง. 10. ค. 11. ข. 12. ง. 13. ก. 14. ข. 15. ง. 16. ก. 17. ก. 18. ก. 19. ก. 20. ก. 21. ก. 22. ง. 23. ง. 24. ง.

60 25. ง. 26. ก. 27. ก. 28. ง. 29. ง. 30. ก. 31. ก. 32. ก. 33. ค. 34. ข. 35. ง. 36. ก. 37. ก. 38. ข. 39. ง. 40. ง.

บรรณานกุ รม ธวัชชยั องค์วุฒิเวทย.์ (2551). ค่มู ือทอ่ งเทีย่ ว-เรยี นรู้ สโุ ขทยั ศรสี ัชนาลยั . กรุงเทพฯ : มวิ เซียมเพรส. ศริ ศิ กั ด์ิ คมุ้ รกั ษา. (2546). เมอื งประวตั ศิ าสตร์ สโุ ขทัย-ศรสี ัชนาลัย. กรงุ เทพฯ : แปลน รดี เดอร์ส. สวุ ัฒน์ แกว้ สงั ข์ทอง. (2550). เปิดโลกประวัตศิ าสตร์สโุ ขทัย. กรงุ เทพฯ : ดรมี พับลิชชง่ิ . มานพ ถนอมศรี. (2546). สโุ ขทยั อทุ ยานประวตั ิศาสตร์มรดกโลก. กรุงเทพฯ : พพี ีเวลิ มเี ดียจาํ กัด. สํานักงานการทอ่ งเทยี่ วและกฬี าจังหวดั สุโขทัย. (2550) สโุ ขทัย. สุโขทัย : สาํ นกั งานการท่องเทย่ี วและกฬี าจงั หวดั สโุ ขทยั . http://www.sukhothai.go.th/tour/tour_01.htm http://thai.tourismthailand.org/where-to-go/index.php?id=800&dest_id=114&L=2 http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=50&lg=1

คณะผู้จดั ทาํ ท่ีปรึกษา 1. นายสังวาลย์ ชาญพชิ ติ ผอ.สํานกั งาน กศน.จงั หวดั สโุ ขทัย 2. นางสาวศรีโสภา มีเจริญ รอง ผอ.สาํ นกั งาน กศน.จงั หวดั สุโขทยั 3. นายกิตตศิ กั ดิ์ พันธุ์โอภาส ผอ. กศน.อาํ เภอสวรรคโลก 4. นายแฉลม้ ธนาทิพยกลุ ผอ. กศน.อาํ เภอกงไกรลาศ 5. นายชนญั คงเมอื ง ผอ. กศน.อาํ เภอทงุ่ เสลีย่ ม 6. นายสําอางค์ บุญเกดิ ผอ. กศน.อาํ เภอคีรีมาศ 7. นายสมมาตร คงเรือง ผอ. กศน.อําเภอเมอื งสุโขทยั 8. นายรามณรงค์ โตนชัยภมู ิ ผอ. กศน.อําเภอศรีสัชนาลยั 9. นายธรรมรัตน์ เตชะบญุ บนั ดาล ผอ. กศน.อําเภอศรนี คร 10. นายสาํ ราญ ใจดา ผอ. กศน.อาํ เภอบ้านด่านลานหอย 11. นายจิรพงศ์ ผลนาค ผอ. กศน.อาํ เภอศรีสาํ โรง ผเุ้ ชย่ี วชาญเนอื้ หา ผู้ทรงคุณวุฒดิ า้ นประวัตศิ าสตรส์ ุโขทัย 1. นางทองเจอื สืบชมพู ผ้ทู รงคุณวุฒิดา้ นประวัตศิ าสตรส์ ุโขทยั 2. นายสมชาย เดือนเพญ็ นักวชิ าการกรมศลิ ปากร 3. นายชัยวัฒน์ ทองศักด์ิ ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานการท่องเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย 4. นางสาวจิตติมา สขุ ผลนิ สํานกั งานสุโขทยั ผจู้ ดั ทําเนอื้ หา ผทู้ รงคุณวุฒดิ า้ นประวตั ิศาสตร์สโุ ขทัย 1. นางทองเจอื สบื ชมพู ผูท้ รงคุณวุฒดิ า้ นประวตั ิศาสตรส์ ุโขทัย 2. นายสมชาย เดอื นเพ็ญ นกั วิชาการกรมศิลปากร 3. นายชัยวฒั น์ ทองศักดิ์ ผูอ้ ํานวยการสาํ นักงานการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทยสํานักงานสโุ ขทยั 4. นางสาวจิตตมิ า สุขผลนิ ผอ.กศน.อาํ เภอเมอื งสโุ ขทยั 5. นายสมมาตร คงเรือง ผอ.กศน.อาํ เภอศรสี ําโรง 6. นายจริ พงศ์ ผลนาค

คณะกรรมการบรรณาธกิ าร 1. นายจิรพงศ์ ผลนาค ผอ. กศน.อําเภอศรีสําโรง 2. นางบาํ เพ็ญ อิสระไพจติ ร ครูอาสาสมัคร 3. นางสาวกลั ญารตั น์ ถาแก้ว ครูอาสาสมัคร 4. นางวนิดา ออมสนิ ครู กศน.ตําบล 5. นางสาวสุรนิ ทร์ อ่อนใจ ครู กศน.ตําบล 6. นางสาวนงค์นุช บัวเพง็ ครู กศน.ตําบล 7. นางสาวขวัญนภา ภทู วี ครู กศน.ตาํ บล 8. นางสาวยุพนิ อยูเ่ ปยี ครู กศน.ตาํ บล 9. นางสาวจุฑามาศ ล้วนงาม ครู กศน.ตําบล 10. นางสาวปิยวรรณ สวุ รรณวงศ์ ครู กศน.ตําบล 11. นางสาวสําเนียง หยอมแหยม ครู กศน.ตําบล 12. นายครเิ มศย์ แสงบญุ ครู กศน.ตําบล 13. นายสุรชัย ประยรู ครู กศน.ตาํ บล 14. นางมชั ฌมิ า ช่างผาสขุ ครู กศน.ตําบล 15. นางยุณรี ตั น์ เปล่ยี นทอง ครชู าํ นาญการ 16. นางสาวอมุ าพร ชมกลน่ิ ครู กศน.ตาํ บล 17. นายประเสรฐิ ศกั ดิ์ เดชศรีวิศลั ย์ ครู กศน.ตาํ บล ผู้ออกแบบปก บวั เพง็ ครู กศน.ตําบล 1. นางสาวนงคน์ ุช