Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฐานภูมิปัญญา1

ฐานภูมิปัญญา1

Description: ฐานภูมิปัญญา1

Search

Read the Text Version

ฐานภมู ิปญั ญา สรรพวิชาที่ควรรู้ อยู่คู่สงั คมไทย ฉลาดคดิ ฉลาดทา พ่งึ ตนเอง จุดประกาย ขยายผล ทนสู้ รคู้ ดิ กศน.ตาบลบา้ นหลุม ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองสโุ ขทยั

บทนา กระบวนการเรยี นรู้พง่ึ ตนเอง เป็นวิธกี ารแก้ไขปัญหาความยากจนท่ียั่งยืน แต่ กระบวนการต้องรู้จักตัวเองก่อนว่ามีปัญหาอะไร แล้วพัฒนาให้เกิด ปัญญา แล้วนา ปัญญาไปแก้ไขปัญหาของตนเอง เป็นหลักการท่ีเห็นเป็นรูปธรรมที่สุด และสามารถ ทาได้ในระยะเวลาส้ัน กระบวนการเรียนรู้พ่ึงตนเองเป็นการลดค่าใช้จ่ายท่ียากที่สุด ในยุคท่ีประชาชนส่วนใหญ่มีค่่านิยมสูงแต่เศรษฐกิจตกต่าการพัฒนามุ่งสโครงการ ต่างๆซ่ึงมีงบประมาณ(เงิน) ข้าราชการคนไหน ทางานไม่มีโครงการ ก็ไม่มีผลงาน เศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการพระราชดาริฯ สามารถแก้ปัญหาความยากจนแป้ญ หาหน้ีสินได้กระบวนการเปลี่ยนวิธีคิดชีวิตจะเปล่ียนไป เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่ว่า ทาใช้เองทุกอย่าง ไม่ต้องซื้ออะไร ให้ทาเพียง 1 ใน 4 ส่วน ก็สามารถดารงชีวิตได้ อยา่ งมคี วามสุข ถอยหลงั มาหน่ึงก้าว เพื่อเดินหน้าอย่างย่ังยืนน้ัน ถอยหลังมาเพื่อใช้ ภูมิปัญญาชาวบ้านสมัยก่อนเทคโนโลยียังไม่มีบทบาทต่อชีวิต ขณะน้ีภูมิปัญญา ชาวบ้านนัน้ คนรนุ่ ใหม่เร่มิ เลือนหายไป หนังสือเล่มน้ี กระผมได้รวบรวมเฉพาะเรื่องท่ีเก่ียวข้องต่อกระบวนการเรียนรู้ พ่ึงตนเอง แผนชีวิตครอบครัว จากผู้รู้ จากคาบอกเล่าของเกษตรกร จากสารพัด เอกสารตารา จากหนังสือภูมิปัญญาพ้ืนบ้านเกษตรกรรมไทย แม้ไม่มีความรู้เชิง วิชาการแต่ก็หาความรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติด้วย วิธีสังเกตุหรือลองผิด ลองถูก แม้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ใช้วิธีบอกกล่าวเล่าขานสืบต่อ กันมา เป็นฐานภูมิปญั ญา หรือความร้เู ดมิ ทีม่ อี ยู่ในท้องถิ่น หากยคุ นน้ี าหลกั กาท้ังฐานภูมปิ ญั ญามาผสมผสานกับ ภมู ปิ ัญญาวชิ าการสมยั ใหมอ่ ย่างถกู ตอ้ งตามสภาวการณ์ แลว้ ยอ่ มประสบกับความล้าเรจ็ อยา่ งเเน่นอน นายอดุ มศกั ด์ิ ชยู มิ้ ครู กศน.ตาบลบ้านหลุม รวบรวมข้อมูล

ขอขอบคณุ - หนังสือฐานภูมิปัญญา ของนายประเสริฐ ป่ินนาค - นางมารศรี ศรมี ่วง ปราชญ์ชาวบา้ นตาบลบ้านหลุม - บ้านแสนรกั

เรอื่ ง สารบญั หนา้ แกน้ ำ้ ในบอ่ ขดุ ใหม่ขุ่น 1 1 แก้น้าบอ่ ขดุ ใหมซ่ มึ หายลงดนิ 2 2 ไก่ฟงั เพลงไขด่ ก 4 5 สมนุ ไพรป้องกันโรคไก่ 6 12 เล้ยี งแพลงคต์ อน (นา้ เขียว) 12 14 ปญั หามลู ไก่บนบอ่ ปลา 17 22 กาจดั หอยเชอรี่ 23 23 กาจัดปลงิ ในน้า 23 24 กาจดั หญ้าคา 25 25 กาจดั วชั พืชในนาขา้ ว ฮอรโ์ มนเรง่ รากก่ิงตอน ป๋ยุ บารงุ มะพรา้ ว ไอเสียกระตุ้นมะพรา้ วออกดอก ปลูกมะพรา้ วโดนเลก็ โคนใหญ่ ป้องกันกาจดั ดว้ งงวงเจาะยอดมะพร้าว กลา้ พนั ธุ์มะพร้าว เลอื กต้นพันธุ์ขนนุ กล้าต้นพันธุไ์ ม้ทัว่ ไป

แก้น้ำในบ่อขุดใหม่ขนุ่ 1 ความขุ่นของน้าเกดิ จากฝุ่นตะกอนดินทไ่ี หลมา พรอ้ มกับน้าใหมห่ รอื เกดิ จากปลาประเภทชอบขดุ คยุ้ ดนิ (ปลาดก) แกไ้ ขได้ดงั น้ี - ปลอ่ ยผกั ปอดลงไป เพอ่ื ใหร้ ากผักปอดดูดชบั ฝุ่นละอองดนิ - ใส่กิ่ง/ใบสดมะขามป้อมปลอ่ ยให้เนา่ สารแทนนินในมะขามปอ้ มสามารถ ปรบั น้าขุ่นให้เปน็ นา้ ใสได้ใสป่ ๋ยุ นา้ ชีวภาพหมกั ดีแล้วหรอื ใส่จลุ นิ ทรียเ์ ปลา่ ๆ ลงไปเพือ่ ใหจ้ ุลนิ ทรยี ์ยอ่ ยสลายฝนุ่ ตะกอนดินแล้วจมลงส่พู นื้ กันบ่อ ปล่อยนา้ ใหมใ่ สกว่าเข้าข้าๆ เพ่อื ให้น้าใหม่(ใส) ดนั นา้ เก่า(ขนุ่ ) ออกไป แก้น้าบ่อขดุ ใหม่ซมึ หายลงดิน สาเหตุบ่อใหม่เก็บน้าไม่อยู่เป็นเพราะมีช่องว่างระหว่างเม็ดดิน หรอื เมด็ ดินขนาดใหญ่หยาบ แกไ้ ขดว้ ยกระบวนการจลุ ินทรยี ์ ดงั น้ี - หว่านปุ๋ยคอกสดใหม่หรือเก่าแห้งก็ได้หว่านให้ท่ัวพื้นท่ีบ่อ ทิ้งไว้ให้ เกิดน้าเขียว สีเขียวของน้าที่เห็นคือแพลงค์ตอนซึ่งเป็นสัตว์เซลล์เดียว แพลงค์ตอนจะลงไปอยู่ตามช่องว่างระหว่างเม็ดดินเป็นการปิดช่อง ไม่ใหน้ ้าซมึ ลงไปใต้ดินได้ - หว่านฝุ่นดินละเอียดให้ท่ัวบ่อจนกระท่ังน้าขุ่น ย่ิงขุ่นมากย่ิงดีแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ให้ฝุ่นดินตกตะกอนลงไปอยู่กันบ่อหรือใส่ปุยชีวภาพหมักดี แล้ว จุลินทรีย์ในปุยน้าชีวภาพจะย่อยสลายฝุ่นดินลงไปปิดช่องว่าง ระหวา่ งเมด็ ดินไม่ให้นา้ ซมึ ลงไปใต้ดินได้ กลบั สารบญั

2 ไกฟ่ ังเพลงไข่ดก ไกไ่ ขใ่ นกรงถ้ามเี สียงดังมากๆ เช่นจักรยานยนต์ เรือยนต์ หรือเสียงอื่น ดงั ขนึ้ อย่างฉบั พลันโดยไกไ่ ม่ทนั ร้ตู วั ถ้าเป็นไก่ไข่ แมไ่ ก่จะตกใจอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้ไม่ออกไข่หรือท้ังแม่ไก่ไข่และไก่ตัวผู้ตกใจอย่างรุนแรง ชนกรง ถงึ กับบาดเจ็บ วิธีแก้ไขกค็ อื ทาให้ภายในโรงเรือน มเี สียงอยู่เสมอตลอดเวลา เพื่อให้ไก่ คนุ้ เคยแล้วจะไมต่ กใจเมอ่ื ได้ยนิ เสียง ดังๆ อย่างฉับพลันการเปิดเสียงเพลงตลอดเวลา นอกจากไก่จะคุ้นเคยกับ เสียงแล้วคนเลี้ยงหรือคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้รับความเพลิดเพลินไปด้วยไก่ฟัง เพลงไม่รู้เรื่องแต่คุ้นเคยกับเสียงดัง ๆ เม่ือแม่ไก่ไม่เกิดอาการตกใจอย่าง รุนแรงกจ็ ะออกไขต่ ามปกติ สมนุ ไพรป้องกันโรคไก่ สูตร 1 ฟ้าทะลายโจรแก่จัดท้ังตัน ตากแดดแห้งสนิท บดละเอียดจน เป็นผง 1 ก.ก. ผสมกับอาหารไก่ 100 ก.ก. ให้ไก่กินประจาต้ังแต่เกิด สามารถชว่ ยป้องกนั โรคทาได้ ไกจ่ ะสมบูรณ์แขง็ แรงและโตเรว็ สูตร 2 ปุ๋ยน้าชีวภาพหมักดีแล้ว1-2 ซีซี ผสมน้าสะอาด 10-20 ลิตร ใหไ้ กก่ นิ เป็นประจา จุลนิ ทรยี ม์ ีประโยชนใ์ นปยุ๋ น้าชีวภาพสามารถช่วยกาจัด จลุ นิ ทรยี เ์ ช้ือโรคในรา่ งกายไกช่ ว่ ยป้องกันโรคทางระบบยอ่ ยอาหารและอื่นๆ ไดด้ ี กลบั สารบญั

3 สูตร 3 ใบสดแก่ตันเหงอื กปลาหมอตวั เมยี ทุกส่วนของฟ้าทะลาย โจรสดแก่ ลกู ใตใ้ บสดแก่ ใบตันขาไก่คาสดแก่ อย่างละเทา่ ๆกัน โขลก พอแหลก น้าท่อี อกมาอย่าทิง้ ใสล่ งในภาชนะทไี่ มไ่ ซโลหะ ใส่กากน้าตาล 1 สว่ นตอ่ พชื สมนุ ไพร 3 สว่ น ใส่น้ามะพร้าวพอทว่ ม ใสจ่ ลุ นิ ทรีย์ (ติด เปลือกสบั ปะรด แปง้ ขา้ วหมาก ยาคูลท์ นา้ หมกั ชวี ภาพ อยา่ งใดอย่าง หนึ่ง) เล็กน้อยเก็บในรม่ คนวนั ละ 2 -3 ครั้ง หมักนาน 10 วนั ขึน้ ไป ได้ หวั เชอื้ สมุนไพรหมกั ยิง่ หมกั นานยิง่ ดี เก็บรกั ษาไดน้ านนับปี วิธีใช้และอัตราใช้ หวั เชือ้ สมนุ ไพรหมัก 5-10 ชีชี +น้า 20 ลติ ร ให้ไกก่ นิ ทุกวนั ต้ังแต่ เกดิ สามารถชว่ ยสร้างภูมิตา้ นทานโรคและชว่ ยใหไ้ ก่โตเร็วสมบูรณ์ แข็งแรงดี (สตู ร วนั เพญ็ สนลอย สวนวันเพญ็ พนั ธไุ์ ม้ 62/1 หมู่ 5 ต.ไม้ เดด็ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรึ) สูตร 4 เถาบอระเผด็ สดแก่ ตดั เปน็ ทอ่ นขนาด 2 ข้อนว้ิ มือไม่ตอ้ ง ทบุ แช่น้าให้ไกก่ ินทุกวนั ตัง้ แต่เกิด สามารถชว่ ยสร้างภูมิตา้ นทานโรคและ ชว่ ยใหโ้ ตเรว็ สมบูรณ์ แขง็ แรง เนอื่ งจาก บอระเพด็ มรี สขม ไก่โตอาจไม่ กิน แต่ไกเ่ ลก็ ที่ฝกึ ใหก้ ินตงั้ แตเ่ กิดจะเคยชินแลว้ ยอมกนิ น้าบอระเพ็ด กลบั สารบญั

4 เล้ียงแพลงคต์ อน (นา้ เขยี ว) กอ่ นการปลอ่ ยปลากนิ แพลงคต์ อนหรอื กินพืชลงบ่อควรทานา้ ให้ เปน็ สเี ขียวหรอื ทาแพลงคต์ อนใหเ้ กิดในน้าอย่างเพยี งพอสาหรบั เปน็ อาหารปลากอ่ น โดยมวี ิธีทาเองอย่างง่าย ๆ ดังนี้ - หวา่ นปยุ๋ คอกแห้งหรอื สดลงไปในน้า โดยการหวา่ นใหก้ ระจายทวั่ บ่อหรือเฉพาะบางจุด(ริมบ่อ) หรือใส่กระสอบ / ถงุ ไนล่อนวางตามจุด ต่าง ๆ ท่ัวบรเิ วณบ่อ ปล่อยให้จลุ นิ ทรีย์จากปยุ๋ คอกเกิดข้ึนเองแล้วพัฒนา เป็นแพลงคต์ อนกระจายไปท่ัวบอ่ ต่อไป - ทิ้งเศษใบพืชแหง้ (ฟาง หญ้า ใบไม้) หรือหญ้าสด (แห้งดีกว่าสด) แบบเป็นกองลงไปท่ีกน้ บ่อหรือใสก่ ระสอบไนล่อน ปล่อยแช่ท้ิงไว้ในน้า จะเกิดจลุ นิ ทรีย์และแพลงค์ตอนเองหวา่ นปุย๋ ชีวภาพ ใหก้ ระจายท่วั บอ่ ปุ๋ยชีวภาพ ทาให้เกิดแพลงคต์ อนเองปล่อยทิ้งไวจ้ นน้าเปน็ สเี ขียว เรยี กว่า น้าเขียว สเี ขยี วทเี่ หน็ คือแพลงคต์ อนอาหารธรรมชาตสิ าหรับ ปลากนิ พชื กลับสารบัญ

5 ปญั หามูลไก่บนบอ่ ปลา ปัญหาการเล้ยี งไกบ่ นบ่อปลาอยา่ งหนึ่งก็คอื การมีมลู ไก่มาก เกนิ ไปจนกระทง่ั ปลากินไม่ทันหรอื กนิ ไมห่ มด มลู ไก่ตกคา้ งจานวนมาก ทาใหเ้ กดิ ผลเสยี คือ - เกดิ แกซ๊ แอมโมเนียมากทาให้ปลาหายใจไม่สะดวก - เกดิ แพลงค์ตอนมากทาให้แย่งออกชิเจนจากปลา - ปลามีกล่ินคาวจัดและลาตัวมีสีดาคล้าไม่น่ารบั ประทาน วธิ แี กไ้ ข - ลดปริมาณมูลไกท่ ี่ลงสนู่ ้าในบ่อดว้ ยการใชต้ าขา่ ยไนลอ่ นหรอื วัสดุใดๆ กไ็ ด้ รองรับมูลไกท่ ่ไี กถ่ า่ ยออกมาไวไ้ ม่ใหต้ กลงไปในนา้ - ถ่ายน้าเก่าออก 1 ใน 3 สว่ น แลว้ เตมิ น้าใหมเ่ ขา้ ไปจนเต็ม - ลดจานวนไก่ใหเ้ หลอื น้อยลงเพ่ือลดปริมาณมูลไก่ กลบั สารบญั

6 กาจัดหอยเชอรี่ สูตร 1 ใชล้ ูกมะกรดู สดแกจ่ ดั ใส่ตะกรา้ เขย่าแรง ๆ ใหผ้ ิวซา้ แล้วผา่ เป็น2 ซกี หว่านลงในนาข้าวที่มรี ะดบั น้าประมาณ 1-2 ฝามือ ให้มะกรดู ผา่ ชคี แตล่ ะ ชิน้ ตกห่างกันประมาณ 10-15 เมตร กระจายทว่ั นา ในชว่ งกาลงั ระบาดเพื่อ การกาจดั หรอื ใช้ชว่ งก่อนการระบาดเพอ่ื ปอ้ งกัน หอยเชอร่ี เมอื่ สมั ผสั กบั นา้ มันมะกรดู จะหายใจไม่ออกแลว้ ตาย (สูตร ปรีชา เรือนเยน็ ร.พ.สวรรคป์ ระชารักษ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์) สูตร 2 ใส่ปุ๋ยน้าชวี ภาพ อัตรา 1-2 ลิตร/ไร่ ลงไปผสมกับนา้ ระดับอีก1 ฝา่ มอื หรือปล่อยไปพรอ้ มกบั น้าจังหวะสบู น้าเขา้ กลน่ิ และสารในปุ๋ยนา้ ชีวภาพจะ ชว่ ยขบั ไลห่ อยเชอร่ใี ห้หนไี ป ถ้าไมห่ นีก็ตอ้ งเปน็ อัมพาตไมส่ ามารถกิน อาหารได้ ไมน่ านก็ตายไปเอง สูตร 3 ใช้กากชาหรอื กากใบชาทช่ี งน้าซากินจนจดื แลว้ หว่านลงในบรเิ วณท่ี หอยเชอรอี่ ยูอ่ าศยั สารออกฤทธ์ใิ นกากใบชาจะทาให้หอยเชอร่ีตาย สตู ร 4 ใช้ ตน้ /ใบ/ดอก ยาสูบสดอายุ 5 เดือนข้นึ ไปถงึ แกจ่ ัดบดละเอยี ด 1 กก แชน่ า้ เปล่ 20 ลิตร หมกั ท้ิงไว้ 1 คืน ได้นา้ หัวเช้อื พรอ้ มใชง้ าน นานา้ หัวเช้อื ไม่เจอื จางน้าเปลา่ สาดใหท้ ่วั พืน้ นาทมี่ รี ะดบั น้าประมาณ 1-2 ฝ่ามอื หรอื ปลอ่ ยไปพร้อมกับชว่ งสูบน้าเขา้ นา ทาใหห้ อยเชอร่ี/ปลงิ /กากกงุ้ ตายแต่ ปลา/กบ/เขียด/องื่ อา่ ง/คางคกไมเ่ ปน็ อันตราย กลับสารบญั

7 สตู ร 5 ล่อหอยเชอรีใ่ หม้ าตดิ กับดกั โดยการหาพน้ื ทีบ่ ริเวณท้ายน้า ซึ่งเปน็ ทล่ี มุ่ ตา่ สุดของพื้นท่ี มีรม่ ไม้บังแดด ถา้ ไมม่ ีรม่ ไม้ตามธรรมชาตกิ ็ใหท้ า หลังคาเพงิ หมาแหงน ขดุ ดินบริเวณรม่ งาให้เป็นแอ่งลกึ กวา่ ผวิ พืน้ ดิน ปกตปิ ระมาณ 20-30 ซม.วางตะแกรงหรือตาข่ายไนล่อนลงไปก้นั เองใส่ ใบสดตาลงึ หรือใบสดมันสาปะหลังหรือใบสดมะละกอ (อยา่ งใดอย่าง หนงึ่ หรือทลายอย่าง) ลงไป จากนน้ั ปลอ่ ยนา้ ออกจากนาใหไ้ หลชา้ ๆ นา้ จะไหลจากดา้ นสูงของพน้ื ทีไ่ ปทางดา้ นต่ากวา่ ของพืน้ ที่ เม่ือหอยเชอรี่ รตู้ ัวว่าน้ากาลงั เริ่มแหง้ ก็จะออกเดินทางตามสายน้าไหลไป จนมาถึงแอง่ ที่ขุดดกั เอาไวซ้ ่งึ มีความลกึ มากกวา่ หอยเชอรี่รูว้ า่ นา้ ในแอง่ ไม่แหง้ แน่ แถมมอี าหารของชอบให้กินดว้ ยก็จะเขา้ ไปกนิ อาหารเหยื่อล่อดว้ ยความ เอร็ดอร่อย จากน้นั ก็ให้จบั หอยเชอรี่นาไปใช้ประโยชน์ได้โดยไมต่ ้องออก แรง หมายเหตุ การฆ่าหอยเชอรี่ให้ตายในเนอื้ ดินเมื่อใครยา่ เทา้ เปล่าลง ไปมีสทิ ธ์ถิ ูกคมเปลือกหอยเชอร่ีบาดเทา้ แน่ เพราะเปลือกหอยฝังอยใู่ ต้ ดินได้นานนบั ปีถึงหลาย ๆ ปี กลบั สารบัญ

8 การจัดการหอยเชอร่ีใหป้ ระสบผลสาเร็จ จาเปน็ ตอ้ งใช้วิธีการต่าง ๆ รว่ มกนั การใช้สารเคมีเพียงอย่างเดียวจะทาใหก้ ารกาจัดไมไ่ ด้ผล อีกท้ังยัง ต้องใช้สารเคมใี นปรมิ าณมากขึ้น ดงั นน้ั เกษตรกรควรคานึงวา่ การจัดการ หอยเชอร่ีทดี่ ที ่สี ดุ คอื ใชว้ ธิ ผี สมผสานโดยปฏิบัตดิ งั นี้ 1.ใช้วสั ดุก้ันทางท่ไี ขน้าเขา้ นา หอยเชอรแ่ี พรก่ ระจายและระบาดเข้าสู่ นาขา้ ว โดยทางนา้ เท่านั้น ดังน้ันทุกครง้ั ท่สี บู นา้ เขา้ นาไม่วา่ จะเป็นนาดา หรอื นาหวา่ นใหใ้ ชเ้ ฝอื กกนั สวะและหอยท่มี ีขนาดใหญก่ ่อน แลว้ จงึ ก้นั ตาม อีกช้นั ด้วยตาข่ายไนลอ่ นตาถ่ี ตอ้ งเก็บหอยและสวะออกจากตาข่ายเพอ่ื ไม่ให้กดี ขวางทางนา้ เขา้ อยา่ งสมา่ เสมอ 2.ทาลายตวั หอยและไข่ อย่างนอ้ ยสปั ดาหล์ ะคร้งั ในเวลาเช้าหรอื เย็น โดยใช้กระชอนทม่ี ีด้านยาวชอ้ นตวั หอยและไข่ ซงึ่ ตวั หอยจะอยูบ่ รเิ วณที่ลุ่ม หรือทีร่ ่มข้างคันนา สว่ นไข่มกั จะตดิ อยตู่ ามต้นข้าวและวัชพืช ทั้งนเี้ พราะ ถ้าปลอ่ ยทงิ้ ให้หอยอยู่ในนาข้าว หอยจะกัดกินตน้ ข้าวและวางไข่ แพร่ ลูกหลานอกี จานวนมาก 3.การนาหอยเชอรม่ี าทาประโยชน์ เช่น ทาอาหารบรโิ ภคในครวั เรือน นามาจาหนา่ ยหรอื นามาเปน็ อาหารสตั วต์ า่ ง ๆ แต่ไม่ควรเก็บหอยเชอรี่จาก บริเวณท่ีใชส้ ารเคมีหรอื แหล่งน้าบริเวณอุตสาหกรรมมาใช้อย่างเด็ดขาด และการนาหอยเชอร่มี าทาปุ๋ยนา้ หมัก กลับสารบญั

9 4.ใชส้ ารฆา่ หอย เพือ่ กาจัดหอยที่ฝังตัวจาศลี คา้ งอย่ใู นนาต้งั แตฤ่ ดูที่ แล้ว การใชส้ ารฆา่ หอยจะตอ้ งใช้ขณะทนี่ ้าในนาสูง 5 ซม. และต้องฉดี พน่ ให้มากขึน้ ในบรเิ วณท่ีลุม่ ซงึ่ หอยมักจะรวมกนั เปน็ จานวนมาก ดงั นนั้ ในนา ดาจึงตอ้ งพน่ ใหม้ ากข้นึ ในบรเิ วณทลี่ ุม่ ซ่ึงหอยมักจะรวมกนั เปน็ จานวน มาก ดังนน้ั ในนาดาจงึ ตอ้ งพน่ ใหม้ ากข้นึ ในบรเิ วณทีล่ ุ่ม ส่วนในนาหว่านนา้ ตมใหใ้ ช้สารฆา่ หอยหลังจากหวา่ นข้าวและไขนา้ เขา้ นา 1 – 2 ซม. และ ระดับ นา้ สงู คงท่ี 5 ซม. ขอ้ สาคญั ในการใชส้ ารฆ่าหอยคอื จะตอ้ งใช้เพียง ครง้ั เดียวต่อฤดปู ลูกขา้ ว ใชใ้ นวนั ทฝี่ นไม่ตกและใช้เฉพาะที่กองกีฎและสตั ว วิทยา กรมวชิ าการเกษตรแนะนาเท่าน้ัน 5.ควบคุมระดบั นา้ ภายหลังใส่สารอยา่ งน้อย 2 วัน ต้องควบคมุ ให้ ระดับน้าสงู เฉลีย่ 5 ซม. ทั้งน้เี พื่อรักษาความเขม้ ข้นของสารฆ่าหอยท่ใี สล่ ง ในนาขา้ ว ถ้าน้ามากหรอื น้อยเกนิ ไปปริมาณสารทหี่ อยได้รับจะไม่เพยี ง พอที่จะทาใหห้ อยตาย หลงั จากระยะนีผ้ ่านไปแล้ว ถ้าหากเปน็ ไปไดค้ วรลด ระดับน้าในนาใหต้ ่าท่สี ดุ เพอ่ื ปอ้ งกนั หอยท่เี หลือกัดทาลายต้นข้าว กลบั สารบญั

10 การป้องกนั และกาจดั โดยวิธีผสมผสาน เนื่องจากหอยเชอร่ี เป็นหอยท่ีเจรญิ เตบิ โตและขยายพันธ์ไุ ดร้ วดเรว็ ระบาดแพรก่ ระจายโดยลอยไปตามนา้ ไหล กินพชื น้าไดเ้ กอื บทกุ ชนิด วธิ กี าร ปอ้ งกันและกาจัดทใ่ี ห้ผลดคี วรจะปอ้ งกันและกาจัดโดยวิธผี สมผสาน ซง่ึ เป็น การนาเอาวธิ กี ารปอ้ งกันหลาย ๆ วิธีมาดาเนนิ การ ในระยะเวลาท่เี หมาะสม และตามความจาเปน็ คือ 1. วิธกี ล 1.1 เกบ็ กลุ่มไขแ่ ละตวั หอยมาบดทาลายหรอื บดหอยเชอร่ีใช้เปน็ อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ ปลา กะ ตะพาบน้า หรอื เลีย้ งเปด็ กอ่ นปลกู ข้าว หรอื หลังจากการเก็บเก่ยี วข้าวแลว้ ควรทาอย่างตอ่ เน่อื งตลอดปี หาก เกษตรกรจะนาเนื้อหอยมาประกอบเป็นอาหารบรโิ ภคจะตอ้ งตม้ ใหส้ ุกกอ่ น เสมอ เพ่ือฆา่ ตวั พยาธทิ ี่อาจติดมากบั หอย และการจับหอยเชอรีม่ าบดเพอ่ื ทา ปุ๋ยนา้ หมักใช้กับพืชต่าง ๆ 1.2 ใชต้ าขา่ ยไนล่อนชนิดตาถ่ี ดกั จบั หอยเชอรขี่ ณะสูบน้าเข้านา 1.3 เม่ือเตรยี มเทอื กเพอื่ หวา่ นเม่อื ปกั ดาเสร็จแลว้ ควรทิง้ ไว้ 2 – 3 วนั ใหม้ นี ้าขังอยู่ในระดับ 5 – 10 ซม. และหาทีก่ าบงั รม่ ใชใ้ บหญ้าออ่ นลอ่ ให้ หอยเชอรีม่ ากนิ แล้วคอยเก็บหอยที่มากินหรอื มาหลบแดด นามาทาลายหรือ ทาประโยชน์ให้หมด กลบั สารบญั

11 2. ชวี วธิ ี 2.1 ใช้สัตว์ตัวน้า เชน่ นกปากห่าง นกกระยาง นกอลี ุม้ เปด็ ฯลฯ กินหอยเชอร่ีเปน็ อาหารในฤดูปลูกขา้ ว ท้ังกอ่ นเพาะปลูกหรอื หลังการเก็บ เกยี่ วขา้ ว โดยอาจปล่อยฝูงเปด็ เข้าไปในนา เพ่ือใหเ้ ปด็ กนิ หอยเชอรท่ี ี่ หลงเหลือจากการกาจดั โดยวธิ กี ล 2.2 วธิ ีการอนรุ กั ษศ์ ตั รูธรรมชาติ เกษตรกรควรจะชว่ ยกันอนุรักษ์ และปกปอ้ งคุ้มครองนกปากห่าง รวมทัง้ สัตว์อน่ื ๆ ท่ีกนิ หอยเปน็ อาหาร เพ่อื ชว่ ยกาจดั อีกทางหนึง่ ด้วย 3. วธิ ีการใช้สารเคมี ถา้ ไม่จาเป็นเกษตรกรไม่ควรใช้สารเคมีกาจัดหอย เพราะเปลือกหอย ท่ตี ายแลว้ ในนาจะบาดมอื และเท้าเกษตรกรขณะทานา เกษตรกรอาจ ได้รับเชอ้ื โรคผ่านทางบาดแผลไดง้ า่ ย โดยเฉพาะโรคฉี่หนูหรอื โรคเลป็ โตส ไปโรซีส ซ่ึงกาลงั ระบาดรุนแรงอยใู่ นขณะนี้ กลบั สารบัญ

กาจดั ปลิงในน้า 12 ใช้ลาตน้ สดมะละกอ ตดั เป็นทอ่ น ๆ ใส่ลงในน้าบริเวณทมี่ ีปลงิ อยู่ กลน่ิ ยางมะละกอจะออกมาช่วยขับไลป่ ลิงใหห้ นีไปได้ (สตู ร สถาพร ปมี า 273 หมู่ 12 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา) กาจดั หญา้ คา หญา้ คา มเี หงา้ หรอื ไหลและรากจานวนมาก หยัง่ ลงไปในดนิ ลึก แผ่ กระจายเปน็ บรเิ วณกวา้ ง ปจั จุบนั ยังไม่มีสารเคมีชนิดฉดี พ่นทางใบย่หี ้อได้ กาจัดเหง้าหญา้ คาอยา่ งเดด็ ขาดได้ สงั เกตไดท้ ่ีหลังจากฉีดพน่ ไมน่ านหรือ เม่อื ฝนตก เหงา้ หญ้าคาจะแตกหน่อขึ้นมาใหมท่ ุกครง้ั หากตอ้ งการกาจัด หญ้าคาให้ส้นิ ซากจริง ๆ ตอ้ งใชว้ ิธีการธรรมชาตหิ ลายวธิ ี ดังนี้ ในแปลงขนาดใหญ่ ไถพรวนดิน / เตรยี มดินสาหรบั ปลูกพชื ไรต่ ามปกตแิ ล้วหวา่ นงาลง ไป ถา้ ต้องการผลผลิตงากต็ ้องปฏิบัติบารงุ ตน้ งาให้เจรญิ เติบโต หลังเกบ็ เกย่ี วงาแล้วให้ไถกลบตน้ งาลงดนิ เป็นปุ๋ยพชื สดบารงุ ดินต่อไป ถ้าไม่ ต้องการผลผลติ งากไ็ มต่ อ้ งปฏบิ ตั ิบารงุ มากนัก ปลอ่ ยให้ตันงาโตเอง อย่างไรกต็ ามอาจต้องบารุงบ้างเพ่อื ใหต้ น้ งามีรากมาก ๆ เมื่อตน้ งาโตเตม็ ท่ี แล้วให้ไถกลบลงดินลงไปเปน็ ป๋ยุ พืชสดบารุงดินตอ่ ไป ระหวา่ งทีต่ น้ งา กาลงั เจรญิ เติบโตนนั้ หญา้ คาเร่ิมโทรมลงอย่างเหน็ ไดซ้ ดั ทั้งนเี้ น่ืองจากใน รากงามสี ารออกฤทธส์ิ ามารถทาให้รากและเหงา้ ของหญ้าคาตาย กลบั สารบญั

ในแปลงขนาดเลก็ 13 วีธีที่ 1 ตดั หญ้าคาใหส้ ั้นติดดนิ กอ่ น แล้วรดนา้ บารุงให้เหงา้ หญ้าคา แตกยอดข้นึ มาใหม่ จากนน้ั ปลอ่ ยหา่ นลงไป 4-5 ตัว/ไร่ หา่ นจะกัดกนิ ยอด หญ้าคาทแี่ ตกใหมจ่ นไม่มโี อกาสโตขึน้ รบั แสงแดด เมอ่ื ต้นหญา้ คาไม่รบั แสง เเดดกไ็ ม่สามารถสรา้ งอาหารได้ ไม่นานก็ตายไปเอง วิธีนอ้ี าจต้องล้อมตา ข่ายกน้ั เขตและมรี ่มให้ห่านอย่ดู ว้ ย วธิ ีท่ี 2 ตัดหญ้าคาใหส้ ้ันตดิ ดนิ โรยทับด้วยแกลบดบิ หนาๆ ยงิ่ หนาย่ิง ดี แลว้ รดน้าบารุงใหห้ ญา้ คาทีแ่ ตกยอดใหม่จงั หวะนีร้ าก/เหง้าหญา้ คาจะ ลอยขึน้ มาอยูบ่ นแกลบจากนั้นให้ใช้วิธีถอนทัง้ รากและเหงา้ ขึ้นมาไดอ้ ย่าง ง่ายดาย วิธีท่ี 3 ตัดหญา้ คาใหส้ ัน้ ติดดินแลว้ ใชพ้ ลาสติกปบู งั แดด เมื่อหญา้ แตกยอดใหมข่ ึน้ มารับแสงแดดสงั เคราะหอ์ าหารไม่ได้ก็ตายไปเอง วธิ ีที่ 4 ตดั ใหส้ น้ั ติดหน้าดินไม่ต้องโรยทบั ด้วยแกลบดบิ แล้วรดดว้ ย แกลบดิบ แล้วรดดว้ ยนา้ +ปุยนา้ ชีวภาพ จุลินทรีย์ ในป๋ยุ น้าชวี ภาพจะทา ให้ดนิ ออ่ น ร่วน ซุย จากน้นั ให้ถอนด้วยมอื ทง้ั ราก และเหงา้ จะติดข้นึ มา กบั ตอไมข่ าดคา้ งในดนิ ให้งอกใหม่ไดอ้ ีก กลบั สารบญั

14 กาจดั วชั พชื ในนาข้าว หลักการกค็ อื ทาใหต้ น้ วัชพชื ไมส่ ามารถแตกยอดใหมข่ ึ้นมารบั แสงแดดได้ ซึ่งระหวา่ งทไ่ี ม่มใี บชว่ ยสงั เคราะห์อาหารนี้ ตน้ จะกินอาหารเดมิ ทส่ี ะสมไว้ในหวั /เหง้า เมอ่ื อาหารในหัว/เหง้าหมด หัว/เหงา้ จะเน่า ส่งผล ให้ต้นตายไปเอง เม่อื ทาลายต้นวัชพืชในนาได้เดด็ ขาดแลว้ ขั้นตอนตอ่ ไปคือ การปอ้ งกันเมล็ดพันธ์จุ ากภายนอกไมใ่ หเ้ ขา้ ไปแพร่ขยายในเนื้อนา โดยหมั่น ทาลายเมลด็ พนั ธุว์ ัชพชื ในนาได้เดด็ ขาดแลว้ ขั้นตอนตอ่ ไปคอื การปอ้ งกนั เมลด็ พันธุ์จากภายนอกไมใ่ หเ้ ขา้ แพรข่ ยายในเนื้อนาโดย หมั่นทาลายเมล็ดพนั ธ์ุวัชพืชจากพืน้ ที่ใกลเ้ คียงไมใ่ ห้ปลิวเข้าไปตกในเนือ้ นา ได้ ช้ันตอนการปฏิบัตมิ ีดงั น้ี - หลังจากเก่ยี วข้าวแล้วให้ลม้ ฟาง ปล่อย น้า + ปุยนา้ ชวี ภาพ 2-3 ลติ ร/ไร่ เข้าไปใหส้ งู กว่าตอข้าวประมาณ 15-20 ชม. แช่ท้ิงไว้ 5-7 วัน จะ พบว่ามีตน้ หญ้า วชั พืชและตน้ ข้าวขึน้ จานวนมากใหใ้ ช้ลูกทบุ หรืออขี ลบุ เข้า ยา่ ท้ังฟาง ตอชงั วชั พชื เหมือนการทาเทือกปกติ - หลังจากย่าทาเทือกรอบแรกแลว้ 5 วนั พบวา่ ยังมวี ัชพืชกับต้นข้าว บางส่วนหลงเหลืออยู่ ซึ่งเปน็ ของเก่าท่รี อดพน้ จากการถูกย่าหรือของใหม่ เพ่ิงงอกกใ็ หท้ าการย่าเป็นรอบสองหลังจากยา่ เทือกรอบสองแล้ว 5 วัน จะ ยงั มีวชั พชื บางสว่ นหลงเหลืออยูอ่ กี แต่นอ้ ยลงจากคร้งั แรกมากก็ให้ทาการยา่ เทอื กซา้ อีกทาการย่าเทือกหลาย ๆ รอบจนแน่ใจวา่ ไมม่ วี ชั พชื เมอ่ื ทานาปี ตอ่ ๆ ไปแมว้ า่ ยา่ เทอื กเพยี งครัง้ เดียวกส็ ามารถกาจัดวชั พืชได้การกาจัด วชั พชื แบบย่าเทอื กนีไ้ ม่เปน็ การทาลายดิน ตรงกนั ข้ามกลับเปน็ การบารงุ ดนิ ดว้ ย กลบั สารบญั

15 - ปอ้ งกนั เมล็ดพนั ธุ์วัชพชื จากภายนอกบรเิ วณใกล้เคยี ง ให้ทาลาย ดว้ ยการใช้ไม้เรียวเล็ก ๆ ฟาดกา้ นดอก เมอื่ พฒั นาเป็นเมล็ดไดอ้ ยา่ ปล่อยให้ ดอกแก่เดด็ ขาด เพราะเมือ่ ดอกแกแ่ ลว้ ปลวิ เขา้ ไปในเน้อื นากจ็ ะงอกเปน็ ตน้ ต่อไป ไม่ควรใช้ยาฆ่าหญ้ากาจัดวัชพชื บนคันนา แต่ให้ใช้วิธีการตดั ลด ความสงู ลงคร่ึงหนึง่ ของตน้ ขา้ วในนา ตอต้นวชั พืชท่เี หลอื บนคันนาเป็น แหลง่ อาศัยของแมลงธรรมชาตคิ อยช่วยกาจดั แมลงศัตรขู ้าวให้ - พยายามทาลายดอกวัชพืชไม่ใหก้ ลายเปน็ เมล็ดในบริเวณใกลเ้ คยี ง และปริมณฑล เพราะดอกวชั พืชเม่อื แกเ่ ต็มทแ่ี ล้วสามารถลอยตามลมไปลง ในเนอ้ื นาได้ - การไมเ่ ปิดโอกาสใหเ้ มลด็ วชั พชื ไดแ้ พรข่ ยายพนั ธ์ุ ไม่นานวชั พืช ชนดิ นัน้ กส็ ูญพันธุ์ไปเอง ในขณะเดียวกนั วัชพืชบางสายพนั ธเ์ุ มอื่ ไดอ้ อก ดอกขยายพนั ธแ์ุ ล้วหมดอายขุ ัยกจ็ ะเป็นการเรง่ หรือตอกยา้ ใหส้ ญู พันธุ์ แนน่ อนเรว็ ขึ้น ขนึ้ ไปอีก กลบั สารบญั

16 หมายเหตุ - ยาฆ่าหญา้ หรือสารกาจดั วชั พืชทุกยี่หอ้ และทกุ ประเภทมสี ถานะเปน็ กรดจัด เมื่อฉดี พ่นจนซมึ เข้าไปในเนือ้ วัชพืชแลว้ ครง้ั เมอื่ วชั พืชตน้ สลายตวั สารออกฤทธใิ์ นสารกาจัดวัชพืชก็จะละลายออกมา ปนู เป้ือนในเนอ้ื ดนิ ส่งผลใหด้ นิ เปน็ กรดได้ - ไมม่ ยี าฆา่ หญ้าหรอื สารกาจดั วชั พชื ใดในโลกสามารถกาจดั ได้ถงึ ราก/ เหงา้ หัว ตามคาโฆษณา สงั เกตได้หลงั จากใชไ้ ปแลว้ 2 - 3 เดอื นหญา้ หรอื วชั พชื ตน้ น้ัน (ตน้ เดิม) กง็ อกเจรญิ เตบิ โตข้นึ มาใหม่ นัน่ หมายความว่าจะตอ้ งฉีดพน่ สารกาจดั วชั พชื ทกุ ๆ 2-3 เดือน เท่ากบั เรง่ ใหด้ ินเป็นกรดจดั มากย่ิงข้ึน - สารกาจดั วชั พชื ประเภท ยาฆ่า - ยาคมุ ทช่ี าวนานิยมใชช้ ว่ งแรก ตอนอายตุ น้ ขา้ ว 20-30 วนั อาจไม่เหน็ ตน้ วชั พชื เกดิ แต่ครน้ั ถงึ วนั เกย่ี วขา้ วกลบั มีตนั วชั พชี ข้นึ โตและสูงกวา่ ตน้ ขา้ วเป็นจานวนมากทาใหส้ งสยั ว่า ตน้ หญา้ /วชั พชื เหลา่ น้นั มาจากไหน ในเม่อื ไดใ้ ชท้ ง้ั ยาฆ่าและยาคมุ แลว้ - ยาฆา่ หญา้ สารกัดวชั พชื ไมใ่ ช่สารอาหารพชื แตย่ าฆ่าหญา้ /สาร กาจัดวชั พืช ปนเปือ้ นอยกู่ ับดนิ บรเิ วณทรี่ ากพืชอยู่ จึงเช่อื ได้ว่าต้นพืชได้ ดดู ชบั สารกาจัดวชั พืชเขา้ ไปในต้นอย่างไมม่ ีทางหลกี เลย่ี ง เม่ือต้นพืชไดร้ บั สารพิษแทนสารอาหารย่อมออ่ นแอหรือไมเ่ จรญิ เติบโตเป็นธรรมดา กลบั สารบัญ

17 ฮอร์โมนเรง่ รากกง่ิ ตอน การตอนต้นไม้บางคร้งั พบวา่ ไมบ้ างชนดิ ออกรากงา่ ย บางชนิดออกราก ยากหรอื ท่ีเรยี กวา่ \"หวงกิง่ \" บางครัง้ กอ็ อกรากไมร่ อบก่ิงหรือออกเฉพาะดา้ น เดย่ี วของกง่ิ การใหฮ้ อรโ์ มนเรง่ รากแก่ก่ิงตอนสามารถชว่ ยให้กงิ่ ตอนแตกรากดี สตู ร 1 ใช้ \"กะป\"ี ทาจากกุ้งเคยล้วน ๆ ขนาดเทา่ หวั แม่มือ 1 กอ้ นใส่ น้าเปล่า 100-200 ซซี ี ละลายกะปใิ ห้เขา้ กนั ดี ทาท่แี ผลกิง่ ตอนหลงั จากควั่น เปลือกเรียบรอ้ ยแลว้ เสร็จแลว้ ใส่ตุ้มตอนตามปกติ.......ภมู ปิ ัญญาพน้ื บา้ น กะเหรี่ยงใช้กะปิลว้ นๆ สดๆ โดยไมต่ ้องละลายนา้ กอ่ นทาแผลตอนแลว้ หุม้ ด้วย ตุ้มตอนเลย กิง่ ตอนกอ็ อกรากดีเช่นกัน สูตร 2 แชห่ รือหมักขยุ มะพร้าวสาหรับทาตุ้มตอนใน นา้ มะพรา้ วทึนทึก (มะพร้าวที่มเี น้ือกรบุ ขนาดหนังหมู) นาน 1-2 คืนกาขยุ มะพร้าวอดั ใส่ ถุงพลาสตกิ ทาตุ้มตอน นาไปใช้ตอนไม้ตามปกติ สูตร 3 ใช้ \"รองเท้าทหาร\" ทีเ่ รยี กวา่ รองเท้าคอมแบก็ หรืออโี อ๊บเป็นหนงั เกา่ ใช้การไม่ไดท้ ้งิ ไว้จนผเุ ปอ่ื ยแตไ่ ม่เบอื่ ย นาสว่ นท่ีเปน็ หนังมาเผาไฟไม่ให้ไหม้ เกรียม แล้วบดละเอยี ดผสมกับดนิ โคนตน้ ของต้นที่ต้องการตอนก่ิง อัตราส่วน 1:1 นาไปหุม้ แผลตอนควน่ั กิง่ พรอ้ มแลว้ หอ่ ด้วยใบตองหลาย ๆ ชัน้ รดั หวั ทา้ ยให้มัน่ คงสารอาหารพชื จากหนงั เกา่ จะช่วยให้กง่ิ ตอนออกรากเรว็ ขน้ึ สตู ร 4 ใช้ \"ดินโคนต้น\" ของตน้ ทต่ี ้องการตอน ดินน้นั ไม่มปี ุย๋ เคมแี ละไม่ มสี ารเคมปี นเปือ้ น แต่มีเศษชากอินทรีย์วัตถุท่หี มักสะสมตวั เองมานานนาข้นึ หุ้มแผลตอนท่คี วัน่ เปลือกพรอ้ มแล้ว จากนัน้ ห่อด้วยใบตอง 1 – 2 ชนั้ ให้ มดิ ชิด มดั หวั ท้ายใหแ้ นน่ หนา สารอาหารจากดินโคนต้นเปน็ สารอาหารทพ่ี ืช ต้นนั้นไดร้ บั ประจาจะชว่ ยให้ก่งิ ตอนออกรากเร็วข้นึ กลับสารบญั

18 สตู ร 5 ใช้ \"สาหร่ายทะเลสด\" หมักแบบทาปยุ นา้ ชวี ภาพหมักนาน 3-6 เดอื นข้ึนไป อตั ราใช้ 20 -50 ซีซ.ี น้า 1 ลติ ร ทาบนแผลตอนก่อนหุ้มด้วยต้มุ มะพรา้ ว โฮรโ์ มนไซโตดนิ นินในสาหรา่ ยทะเลจะช่วยให้ กง่ิ ตอนออกรากเร็วขึน้ สตู ร 6 ใช้ \"ผงชูรส\" 100 กรัม ผสมน้า 1/ลติ ร เปน็ ฮอร์โมนเร่งรากใน กง่ิ ชา ใหน้ าก่ิงพนั ธท์ุ จ่ี ะขยายพันธุแ์ บบปักชาจมุ่ ลงในน้าละลายชูรสนาน 30 วินาที -1นาที ยกขึน้ ปลอ่ ยให้แห้งแล้วนาไปปักชาได้ กลูโคสและโปรตีนใน ผงชูรสเปน็ ตวั ชว่ ยใหก้ ่ิงปักชานน้ั ออกรากเรว็ ข้ึน สูตร 7 ใช้ \"ปยุ๋ นา้ ชวี ภาพ 100 ซซี ี + ฮอรโ์ มนไซโตดนิ นิน 10 ชซี ี ผสมน้า 1 ลติ ร\" แช่ ขยุ มะพร้าวให้ชน้ื 50-80 เปอรเ์ ซน็ ต์นาน 1-2 คืน นา ขุยมะพรา้ วไปทาต้มุ ตอนปกติ ฮอร์โมน ไซโตดเิ นนินทาเองเเละในน้า มะพรา้ วจะเปน็ ตัวช่วยให้กิง่ ตอนแตกรากเร็วข้นึ สูตร 8 ใช้ \"กะปิ + มูลแม่วัวตงั้ ทอ้ ง + ดนิ โคนต้น\" สดั สว่ น 1:3:2 ผสม คลุกเคล้าให้เข้ากนั ดี ทาต้มุ ตอนแล้วห่อด้วยใบตองในมลู แมว่ ัวตั้งทอ้ งมี ฮอรโ์ มนเร่งการเจรญิ เติบโตเปน็ ตวั ช่วยใหก้ ่งิ ตอนออกรากเร็วและจานวน มาก กลบั สารบญั

19 พนั ธ์ุไม้หลายชนดิ ได้มาจากการตอนกิ่ง ซง่ึ ก่ิงตอนทสี่ ามารถเจริญเติบโตในตนิ ได้ แล้วก็จะนาไปปลกู หรอื ชาลงใน ถุงพลาสติกท่เี ตรยี มดนิ ไว้กอ่ นสักระยะ เพื่อให้ก่ิงตอนแข็งแรง และเมื่อ นาไปปลกู สามารถเจริญเติบโตได้ดี มีความทนทานต่อแดดฝน หลายคนมี พนั ธ์ไุ ม้ทบี่ ้านอย่แู ล้ว หากอยากปลูกต้นไมช้ นิดเดมิ เพิ่ม คณุ สามารถเปดิ google ดูไดว้ า่ ต้นไมช้ นิดนั้นขยายพนั ธโุ์ ดยการตอนก่ิงไดห้ รือไม่ ถ้าได้กไ็ ม่ ต้องไปซื้อต้นไม่ให้เปลอื งตัง หาอุปกรณม์ าทาการตอนกิง่ เองใดเ้ ลย อปุ กรณ์ท่ีตอ้ งเตรยี มมดี งั น้ี 1.แกว้ พรอ้ มฝาปิด 2.คัดเตอร์ 3.เทปใส 4.ขุยมะพร้าว+ปยุ๋ อินทรยี ์+นา้ 5.กระดาษฟอยหรือกระดาษหนังสื่อพิมพ์ 6.เชอื กและก่งิ ไม้ 7.น้ายาเร่งรากหากไม่มีให้ใชก้ ะปิ 1 ช้อน ต่อนา้ ด่ืมชูกาลงั คร่ึงขวด วิธีการตอน 1. การเลอื กกิง่ นบั ว่าเป็นส่ิงสาคัญอันดบั แรกๆ จาเปน็ ต้องเลือกกิ่ง จากต้นพันธด์ุ ี ตอ้ งเปน็ กิง่ เพสลาด (กิง่ ก่งึ ออ่ นกงึ่ แก่) ทม่ี ีความสมบรู ณ์ ปราศจากการทาลายของโรคและแมลง ถ้าเป็นก่ิงกระโดงไดย้ ิง่ ดี หรือก่งิ จากส่วนอน่ื ที่สมบูรณ์แบบ กลบั สารบัญ

20 กรณีท่ตี ้นพันธดุ์ ีมอี ายมุ าก กิง่ ไม่สวย จาเปน็ ต้องตัดกง่ิ เพือ่ ให้ก่งิ ชุดใหม่แตก ออกมาเสยี ก่อน แลว้ จึงทาการตอนบนก่ิงชดุ ใหม่นั้น กิง่ ทมี่ คี วามสมบรู ณ์ พร้อมต่อการขยายพนั ธุ์ ลอกเปลือกออกงา่ ยมาก เปลือกไมต่ ดิ เนอ้ื กงิ่ เปลือก กง่ิ ในจะมีนา้ หล่อเลย้ี งชมุ่ ชนื้ ดี 2. พอไดก้ ่ิงทจ่ี ะทาการตอนแล้ว ก็ไปผสมต้มุ ก่งิ ตอนกนั ก่อน โดยนาขุยมะพร้าวใสใ่ นกาละมงั แลว้ ใส่นา้ ผสมลงไป ใชม้ ือเคล้าขุยมะพร้าวกบั นา้ ให้เขา้ กัน ใช้มอื เดยี วกาขุยมะพรา้ วแล้วบีบ มีน้าหยดลงมากใ็ ชไ้ ด้ ไม่ตอ้ งให้ เปียกโชก ใสป่ ุ๋ยอินทรยี ล์ งไปในขุยมะพรา้ วท่อี ยู่ในกาละมังพอประมาณ แล้ว ใชม้ อื เคล้าผสมใหเ้ ขา้ กัน (อยา่ ใส่มาก เด๋ยี วพอไปตอนกงิ่ แลว้ ก่ิงพนั ธ์ุจะ เหี่ยวเฉาและกง่ิ ตาย) 3. ทาการควัน่ ก่งิ การคว่ันก่ิงเปน็ วธิ ที ีน่ ยิ มและใช้กนั มานาน แล้ว สามารถใชไ้ ด้กับพืชหลายชนดิ เชน่ มะนาว ส้ม ชมพู่ ฝร่ัง ลนิ้ จี ส้มโอ และไม้ดอกไม้ประดบั ฯลฯ วธิ นี ี้เหมาะ สาหรับพืชที่ลอกเปลอื กไม้ออกได้งา่ ย โดยการใชม้ ดี คว่นั ก่งิ โดยรอบเปน็ วงแหวน ๒ วง ความห่างของวงแหวนประมาณ ความยาวของเส้นรอบวงของกง่ิ ที่ทาการตอน จากนัน้ กรีดรอยแผลจากดา้ นบนถึงดา้ นลา่ ง แลว้ ลอกเอาเปลอื กไม้ออกและขดู เยือ่ เจริญท่ีเป็น เมอื กล่ืนๆ รอบกิ่งออกใหห้ มด เสร็จแลว้ ใช้เชือกมดั พรอ้ มกงิ่ ไม้เลก็ ไวใ้ ต้แกว้ เพอื่ ไมใ่ ห้แกว้ หล่น การขูดผวิ เมือก : เปน็ การตดั ทอ่ นา้ เลย้ี งทอ่ อาหารของพชื หลายคนมกั พดู วา่ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งขดู ออก มันก็งอกรากได้ กลบั สารบญั

21 ไมต่ ้องมากเรอ่ื งนี้ใช่ถูกต้องครบั แตเ่ ท่าท่ผี มทา มาก่อนและสังเกตเห็นว่า รากจะออกไดช้ ้ากว่า จานวนนอ้ ยกว่า เพราะวา่ รากของพืชยังสามารถ ส่ง Auxins,IAA,IBA และสารอ่นื ๆ ไปเลย้ี งปลาย ยอดไดอ้ ยู่ ทาใหพ้ ชื ยังเจรญิ เตบิ โตทางยอดและ ลาต้น Auxins ยงั ไมถ่ กู ตดั ขาดฉบบั พลัน Auxins ที่อยูป่ ลายยอดจึงไม่ไหลย้อนลงมาท่ีบาดแผล (รอยคว่ัน)ได้มากพอ จึง่ ทาให้พชื ออกรากไดช้ า้ ลงครับ 4. นาฮอรโ์ มนเร่งรากทาเหนอื บรเิ วณรอยควน่ั ขน้ึ ไป 2-4 ซม. รอจน น้ายาแหง้ 5. นาแก้วพาสตกิ ผา่ แล้วนามาใส่กง่ิ ตอน นาขยุ มะพร้าวเก่า+ป๋ยุ อินทรียผ์ สมกันเรียบรอ้ ยที่แช่น้าจนอ่ิมตวั แล้วบีบนา้ ออกพอหมาดๆอดั ลง ในแกว้ พลาสติกอยา่ ใหแ้ นน่ มาก แล้วใชฝ้ าปดิ แกว้ เสรจ็ แลว้ นาพลาสติกใส พนั โดยรอบหรอื ใชย้ างวงรดั โดยรอบ 6. ใช้กระดาษฟอยหรอื หนังสือพมิ พ์ห่อแก้ว ปอ้ งกนั ความรอ้ นจากแสงแดด หลงั จาก 20 วัน จะเหน็ รากงอกออกมาให้เห็น เม่อื กิง่ ตอนงอกรากซ่ึงจะเกดิ ตรงบรเิ วณ รอยคว่นั ต้านบน และรากเริ่มแกเ่ ป็นสเี หลือง หรือมสี นี า้ ตาล ปลายรากมสี ีขาวและมจี านวน รากมากพอ จงึ ตดั กงิ่ ตอนไปชาหรอื ปลกู ได้ ตดั กิ่งตอนไปชาในภาชนะ ในกระถางหรอื ถงุ พลาสติก เพือ่ รอการปลกู ตอ่ ไป แหล่งท่มี า: web.ku.ac.th , https:/'www.sharesod.com อา้ งองิ รปู และข้อมลู จาก: อาจารย์ภูชิต พุทธาวุฒไิ กรและราเชน มน่ั ตะคุ กลบั สารบญั

ปยุ๋ บารงุ มะพร้าว 22 สูตร 1 มะพรา้ วเป็นพชื ชอบนา้ ประเภท ลกั จดื ลกั เคม็ หรือพื้นท่ี ๆ น้า ทะเลขน้ึ ถึงในพ้นื ทป่ี ลกู ท่ไี ม่มีน้าทะเลข้ึนถึงสามารถแก้ไขได้โดยการใสป่ ุย๋ อินทรียท์ ่มี คี วามเคม็ เช่น ใช้เกลือสมทุ รหรอื เกลือแกงหว่านท่ีโคนตน้ อตั รา 1/2 - 1 ก.ก/ตน้ ปี แลว้ ตามด้วยปยุ๋ คอก หรือใชก้ ากปลาจากการหมกั น้าปลา ทีค่ ้ันหรือกรองนา้ ปลาออกไปหมดแล้วผสมกับป๋ยุ คอกหรือปุ๋ยอินทรยี อ์ ่ืน ๆ อตั รา 1:10 ใสโ่ คนตน้ 1-2 ครั้งปี จะชว่ ยให้มะพร้าวเจริญเตบิ โตดี สูตร 2 ทางมะพรา้ วตัดลงมาจากต้นท้ิงไว้ให้แท้งแล้วเผาให้เป็นถา่ น เรยี กวา่ \"ถ่านทางมะพร้าว\"ใช้ถ่านทางมะพรา้ วผสมปยุ๋ คอก อตั ราส่วน 1:1 ใสโ่ ดนมะพร้าวจะชว่ ยให้มะพรา้ วสมบูรณแ์ ข็งแรงใหผ้ ลดกและมี คุณภาพดี หมายเหตุ มะพรา้ วเป็นพืชทีต่ อบสนองตอ่ ปุ๋ยขา้ มปี ถา้ ตอ้ งการใหม้ ะพร้าวออกจน่ั ตดิ ผลในเดือนใดของปีใด ตอ้ งบารุงใส่ปุ๋ยล่วงหนา้ 1 ปี หรอื บารุงใส่ปุ๋ยเดอื น นป้ี นี ี้ มะพรา้ วจะออกจั่น (ดอก) ติดผลในเดอื นน้ขี องปรี ุ่งขึ้น - เทคนิค \"ถบี ทาง\"หมายถงึ การใช้เท้าเหยียบบนทางมะพร้าวอายุหลัง เพสลาดแล้วให้โดนทางเปน็ มมุ กวา้ งกบั ลาตัน (คอ)เป็นการเรง่ ให้จัน่ มะพร้าว แทงออกมาเรว็ และมคี ณุ ภาพดี - ชว่ งมะพร้าวเร่ิมแทงจนั่ ฉีดพ่นด้วย เอ็นเอเอ(ทาเอง) 1 ครงั้ ช่วยให้ ดอกในจั่นนนั้ ติดเปน็ ผลได้มากหรือดกขึ้น - ชว่ งดอกตูมและเรม่ิ ตดิ ผลเลก็ ฉีดพ่นด้วยจ๊ิบเบอเรลลนิ (ทาเอง) ชว่ ง ละ 1 คร้ัง จะช่วยให้ก้านทะลายยาวขึ้นมพี น้ื ทวี่ า่ งระหว่างผลมากและเมื่อ บารุงดว้ ยฮอร์โมนไซโตดนิ นนิ (ทาเอง)ทาให้ผลมขี นาดใหญ่ขนึ้ ดว้ ย - ก่อนเก็บเก่ียว ฉดี พน่ ด้วย ฮอร์โมนมูลคา้ งคาวสกดั ชว่ ยใหม้ ะพรา้ วมี รสหวานและกลิ่นดี กลบั สารบญั

ไอเสียกระตุ้นมะพร้าวออกดอก 23 มะพรา้ วรมิ คลองมีเรอื แล่นผ่านประจา หรอื มะพรา้ วข้างทางท่่ีมรี ถแลน่ ผ่านบ่อย ๆ ไอสยี จากเครอื่ งยนตเ์ รอื และรถ ซึ่งมีสว่ นประกอบของ คารบ์ อนไดออกไซดพ์ ่นออกมา เม่ือตันมะพรา้ วไดร้ บั บ่อย ๆ จะเจริญเติบโต ให้ผลดกและมคี ณุ ภาพดี ปลูกมะพร้าวโดนเลก็ โคนใหญ่ ถา้ ตอ้ งการใหต้ น้ มะพรา้ วโตขึ้นแลว้ มโี คนตน้ ขนาดใหญ่ ใหป้ ลกู ตน้ พันธ์ุ โดยการฝังลึกเพียงครง่ึ ผลต้นพนั ธุ์ แตถ่ ้าต้องการใหต้ น้ มะพรา้ วโตขนึ้ แล้วมี โคนตน้ เล็กตามปกติ ใหป้ ลกู ตน้ พันธ์ุ โดยการฝงั ลึกมิดผลต้นพันธท์ุ งั้ นีก้ ารฝงั ผลตน้ พันธล์ุ ึกหรือตนื้ จะใหผ้ ลผลติ ที่อายุเทา่ กัน ปอ้ งกนั กาจดั ดว้ งงวงเจาะยอดมะพร้าว ด้วงงวงเจาะยอดมะพรา้ วถือเปน็ ศัตรูพืชสาคญั ตัวหนงึ่ สาหรบั มะพรา้ ว ต้นโตแล้ว เขา้ ทาลายโดยการเจาะยอดเพ่ือกินเนอ้ื ออ่ นในยอดการใชส้ ารเคมี ได้ผลเพียงช่ัวคราวเทา่ ทส่ี ารออกฤทธย์ิ งั คงสภาพเเล้วกไ็ มส่ ามารถปอ้ งกัน กาจัดดว้ ยงวงได้อีกตอ้ งเดิมสารเคมใี หม่ทกุ ครัง้ ไป กลับสารบญั

กล้าพันธมุ์ ะพร้าว 24 การเลือกหน่อหรอื กลา้ พันธ์มุ ะพร้าวใหไ้ ด้มะพร้าวพนั ธุ์ดีมีหลกั เกณฑ์ การเลือกดงั นี้ • เกิดจากตน้ แมอ่ ายไุ ม่น้อยกว่า 10 ปี หรือต้นแม่อายยุ ิง่ มากย่งิ ดี • ตน้ แม่ให้ผลดกตลอดปี คุณภาพดี เปน็ มะพร้าวน่ังทาง • มปี ระวตั กิ ารใหผ้ ลไม่นอ้ ยกวา่ 16-18 ทะลาย/ปี • รปู รา่ งลกั ษณะผล รส กล่ิน สี เหมอื นต้นแม่ • ทรงดนั แมเ่ มื่อมองจากภายนอก ปลายทาง (กง่ิ ) ของทุกทางย่ืนออกไป เปน็ วงกลมดี ทางทอ่ี ายรุ นุ่ เดยี วกันตอ้ งซื้อออกลาตันเป็นมมุ เท่ากันหรือ สม่าเสมอ • ขอ้ หรอื ปลอ้ งทุกขอ้ ตามผิวลาตนั มรี ะยะห่างเท่ากันตั้งแตโ่ ดนถงึ ยอด ลักษณะปล้องหา่ ง หมายถึง ปนี นั้ มะพรา้ วได้รับธาตอุ าหารและนา้ สมบูรณ์ แตถ่ า้ ปลอ้ งชิดแสดงว่าปีนั้นมะพรา้ วได้ธาตุอาหารและน้านอ้ ย • ผลที่นามาเพาะทาพันธต์ุ อ้ งเป็นผลแก่จดั คาต้น (ไม่ถึงกบั เปลอื กแห้ง) • การนาผลลงจากต้นแม่ต้องไมป่ ล่อยทิ้งลงกระแทกพ้นื ดิน แตใ่ ชว้ ิธี ผูกเชอื กกับทะลายแลว้ คอ่ ยๆ หยอ่ นลงมาหรือเดด็ ผลแล้วทง้ิ ลงนา้ ต้นกลา้ พนั ธ์ุหรอื หน่อทง่ี อกแล้วควรมีลกั ษณะดังนี้ - มคี วามสูงไมเ่ กิน 30 ชม. - ใบลา่ งสดุ แผ่กางเล็กน้อย ใบยอด ตัง้ ตรงไมแ่ ผ่กาง - คอหรือโคนตน้ พนั ธุไ์ มเ่ ปน็ กระเปาะ กลมใหญแ่ ตส่ ่วนปลายเล็กลักษณะหน่อเรียว จากโคนถึงยอด โดยสว่ นโคนใหญ่แลว้ ค่อย ๆ เรียวเล็กลงคล้ายต้นกล้วย - ลาตน้ ส่วนทต่ี ิดกบั กะลาไม่คดงอ กลับสารบัญ

เลือกตน้ พนั ธขุ์ นุน 25 ลักษณะตน้ กลา้ พันธุข์ นุนท่ดี ีต้อง ลาเปาตรงกลมมีกิง่ สาขานอ้ ย เรยี ง สม่าเสมอจากโคนถึงปลาย ช่วงขอ้ ทง้ั ส่วนเปาและก่งิ ยาวเรยี ว ส่วนประกอบ อน่ื ๆ ทตี่ อ้ งมี ไดแ้ ก่ ระบบรากสมบรู ณ์ แข็งแรง โคนรากดาปลายรากขาว จานวนมาก ใบยอดแก่จดั ตน้ กล้าพันธล์ กั ษณะดังกล่าวนจี้ ะให้ผลผลิตเร็วดก ดี และมคี ุณภาพ กลา้ ตน้ พันธุไ์ มท้ ัว่ ไป เทคนคิ การเลอื กกิง่ พนั ธไ์ุ ม้ยนื ต้นทง้ั กิง่ ตอน กิ่งทาบ กงิ่ เพาะชา กิ่งตมุ้ เล็ก ก่ิงตุม้ ใหญ่ และเพาะเมล็ด ได้แก่ - เป็นกิง่ ที่ได้จากก่ิงกระโดง - อายุกง่ิ กอ่ นขยายพนั ธ์กุ ลางอ่อนกลางแก่เปลือกเรม่ิ เกิดลายงา สี เปลอื กเขียวเขม้ แตไ่ มเ่ ขียวดากลา้ ไมม่ สี ะเก็ดเปลอื กถา้ เปน็ กิง่ ปกตจิ ากต้น (ไม่ใช่กิ่งกระโดง) ตอ้ งเป็นกิ่งชีข้ ้นึ ไม่ใชก่ ่ิงชีล้ ง หรอื ช้ีออกขา้ ง ลักษณะน้ี สงั เกตได้จากสว่ นปลายยอดว่าช้ตี รงหรือช้ีเลีย้ ว - สว่ นลาเปายาวหรอื กิ่งงามแรกสงู จากพนื้ โคนตน้ มาก ๆ - ใบยอดแก่จดั ต้นกลา้ พนั ธุ์ใบยอดออ่ นมักสู้แดดไมไ่ หว เมอ่ื นาลงปลกู ใบออ่ นจะถกู แสงแดดเผาจนเห่ียวแลว้ รว่ งไป ต้นต้องใชเ้ วลานานกว่าจะ สรา้ งยอดใหม่ขน้ึ มาได้ แตถ่ ้าเปน็ ต้นกล้าพันธ์ุใบยอดแกจ่ ดั ย่อมทนทานต่อ ความรอ้ นจากแสงแดดได้ ไม่เหี่ยว และไมร่ ว่ งแต่จะเจรญิ เติบโตต่อทนั ที หลังจากรากเริ่มเดนิ ถ้าตน้ กล้าพนั ธุ์ใบยอดยังเป็นใบออ่ นอยา่ รบี รอ้ นนาลง ปลูกในแปลงจรงิ แต่ให้อนุบาลไวก้ ่อนจนกวา่ ใบยอดจะเป็นใบแกจ่ ดั หรอื ให้ เด็ดยอดอ่อนทตี่ ิดมาทง้ิ ไปเลยไม่ตอ้ งเสยี ดายเพราะถา้ ทาแบบน้ตี นั กลา้ พันธุ์ จะแตกยอดใหม่จากข้อใต้ใบแก่ไดเ้ ร็ว กลบั สารบญั

26 - มรี ากจานวนมาก สมบรู ณ์ แขง็ แรง ปลายรากขาว โดนรากสนี ้าตาล เขม้ - กง่ิ พันธพ์ุ ชื ตระกลู ส้มทม่ี ีรากมากหรือยาวจนแทงทะลุออกมานอกถงุ แสดงว่ารากส่วนใหญ่หมนุ วนอย่ใู นถุงแล้วเรยี กวา่ \"รากวน\" เมื่อนาลงปลกู ใน แปลงจรงิ ต้องจัดรากทกุ รากให้ชี้ออกขา้ งใหด้ กี ่อนเพื่อปอ้ งกนั รากในหลุมปลกู การเลอื กก่งิ พนั ธพ์ุ ืชตระกูลสม้ ควรเลอื กกิ่งพันธทุ์ ี่รากยังไมม่ ากและยงั ไม่แก่ จัดนัก - ก่ิงพนั ธ์ุประเภทกง่ิ ทาบ แผลหายตอ้ งตดิ สนิทดีสงั เกตจากแผลทาบ บวมดนั พลาสตกิ พนั กง่ิ จนนูนข้ึนมาเห็นได้ชดั หรือพลาสติกพนั ก่ิงเร่ิมผเุ ปอ่ื ย - กงิ่ พันธุ์ในถุงดาใหส้ งั เกตเนื้อดนิ ในถุงต้องเป็นดินเก่า แสดงวา่ กงิ่ พันธ์ุ ตน้ นนั้ ผา่ นการอนุบาลหลงั ตัดลงมาจากตน้ แมน่ านพอสมควร ถา้ ดนิ ในถงุ มียงั ใหม่แสดงว่าเพิม่ ตัดลงมาใสถ่ ุงชาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบบรากยงั เดินไมม่ แี ละยัง เล้ยี งตัวเองไม่ได้การจับตนั แล้วยกข้ึนพรอ้ มถงุ ดา สามารถบอกได้ถงึ ความ แขง็ แรงของรากในถุงดาได้เป็นอย่างดี - กล้าพนั ธุไ์ ม้ยนี ต้นทยี่ ายพันธุ์มาจากกิ่งอายุน้อย ๆ หรอื ลกั ษณะต้นยัง ออ่ นดกี วา่ กง่ิ พนั ธท์ุ ่เี ปน็ กงิ่ อายุมากหรือเป็นก่ิงแก.่ .....ก่งิ แก่ อายุก่ิงมาก ๆ ความสูงมาก ๆ ความสูงมาก ๆ เม่อื นาลงปลกู ในแปลงจริงแลว้ มกั ใหผ้ ลผลิต ดีและดกในช่วง 2-3 ปแี รก จากนน้ั จะไม่ดกและอายตุ น้ มกั สัน้ ต้องแกไ้ ขด้วย การตัดแต่งกง่ิ ทาสาวใหญ่ กลับสารบญั

จดั ทำโดย นำยอดุ มศกั ด์ิ ชูยมิ้ ครู กศน.ตำบลบำ้ นหลมุ วนั ท่ี 1 กมุ ภำพนั ธ์ 2562 กลับเข้าสู่ หนา้ ปก คานา สารบัญ กลับสารบญั

กศน.ตาบลบา้ นหลมุ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งสโุ ขทยั สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั สโุ ขทยั 088 281 0288 กศน.ตาบลบา้ นหลมุ 131 หมูท่ ี่ 1 ตาบลบ้านหลมุ อาเภอเมอื งสโุ ขทยั จงั หวัดสโุ ขทยั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook