Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้ของพยาบาลวิชาชีพงานห้องผู้ป่วยหนักเกี่ยวกับภาวะสับสนเฉียบพลันการเฝ้าระวัง และการจัดการภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้ป่วยผู้ใหญ่วิกฤต โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ : การศึกษานำร่อง

ความรู้ของพยาบาลวิชาชีพงานห้องผู้ป่วยหนักเกี่ยวกับภาวะสับสนเฉียบพลันการเฝ้าระวัง และการจัดการภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้ป่วยผู้ใหญ่วิกฤต โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ : การศึกษานำร่อง

Published by jnlbcnsp, 2019-03-09 18:34:45

Description: ปรียาวดี เทพมุสิก, ศศธิร ชำนาญผล, นิตยา กรายทอง, สุกัญญา ผลวิสุทธิ์, จันทนา นิลาศน์, จรูญศรี มีหนองหว้า

Search

Read the Text Version

ความรูข้ องพยาบาลวิชาชีพงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนกั เกีย่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผูป้ ่ วยผใู้ หญ่วิกฤต โรงพยาบาลสรรพสทิ ธิประสงค์ : การศกึ ษานารอ่ ง ปรยี าวดี เทพมุสิก1, ศศธิ ร ชานาญผล1 นิตยา กรายทอง1, สุกญั ญา ผลวิสุทธ์ิ1 จนั ทนา นิลาศน1์ , จรูญศรี มีหนองหวา้ 2* บทคดั ยอ่ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของผูป้ ่ วยวกิ ฤต พบมากในหอ้ งผปู้ ่ วยหนัก ความรขู้ องพยาบาล ที่อยู่ในหอ้ งผปู้ ่ วยหนักเกีย่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลันจงึ เป็ นเรื่องสาคญั แต่มพี ยาบาลใหค้ วาม สนใจน้อย การศึกษานาร่องคร้งั น้ ีมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ศึกษาความรขู้ องพยาบาลวิชาชพี ในงาน หอ้ งผูป้ ่ วยหนักเก่ียวกับภาวะสับสนเฉียบพลัน การเฝ้ าระวัง และการจัดการภาวะสบั สน เฉียบพลันของผูป้ ่ วยผูใ้ หญ่วิกฤต กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาชีพในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนัก ผใู้ หญ่ เลือกแบบเจาะจง จานวน 42 คน เคร่ืองมือวิจยั ประกอบดว้ ย ขอ้ มลู ส่วนบุคคล และ แบบวดั ความรูเ้ กี่ยวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลันในผูป้ ่ วยวิกฤต ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตวั อย่าง มผี ลคะแนนความรู้ ดงั น้ ี 1) คะแนนความรูเ้ กี่ยวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลัน มีคะแนนระหว่าง 14-23 คะแนน โดยมีค่าเฉลี่ย 19.19 (SD = 2.53) 2) คะแนนความรูเ้ กี่ยวกับการเฝ้ า ระวงั มีคะแนนระหว่าง 8-14 คะแนน โดยมีค่าเฉล่ีย 12.83 (SD=1.27) และ 3) คะแนน ความรูเ้ กี่ยวกบั การจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั มีคะแนนระหว่าง 5-13 คะแนน ค่าเฉลี่ย 10.86 (SD=1.75) นอกจากน้ ียังพบว่า พยาบาลท่ีมีประสบการณ์การทางานใน ICU มากกว่า 10 ปี มีความรู้อยู่ในระดับมาก มากท่ีสุด รอ้ ยละ 73.50 การเฝ้ าระวงั รอ้ ยละ 70.73 และการจัดการ ร้อยละ 66.67 ผลการศึกษานาร่องคร้ังน้ ีสะทอ้ นว่าควรเพิ่มพูน ความรูเ้ กย่ี วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ใหก้ บั พยาบาลที่มีประสบการณน์ ้อยในงานหอ้ งผูป้ ่ วยผปู้ ่ วยหนักเพือ่ ใหเ้ กิดผลลพั ธท์ ่ีผปู้ ่ วยไดร้ บั การ ดูแลทีม่ ีมาตรฐาน คาสาคญั : ความรู,้ พยาบาลวชิ าชพี , ภาวะสบั สนเฉียบพลนั , ผปู้ ่ วยผใู้ หญว่ ิกฤต 1 โรงพยาบาลสรรพสทิ ธิประสงค์ 2 ภาควชิ าการพยาบาลผใู้ หญ่และผสู้ งู อายุ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ * Correspondence e-mail: [email protected]

70 วารสารวิทยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) Knowledge Regarding to Delirium, Monitoring and Management in Critical Ill Patients among Nurses at Sunpasitthiprasong Hospital: A Pilot Study Preyawadee Thepmusik1, Sasithon chamnanphol1 Nittaya Kraythong1, Sukanya Phonwisut1 Jantana Nilas1, Jaroonsree Meenongwah2* Abstract Delirium in critically ill patients is common in the intensive care unit. The knowledge of nurses in the intensive care unit (ICU) regarding delirium is important but less to interest from nurse. This pilot study aimed to study the knowledge of nurses in adult ICU on delirium, monitoring and management. The samples were 42 nurses in ICU. The research tool consists of personal information and knowledge about delirium, monitoring and management in critical Ill patients. The results showed that: 1) Knowledge scores = 14-23, mean = 19.19, (SD = 2.53), 2) Monitoring scores = 8 - 14, mean = 12.83 (SD = 1.27), and 3) Management scores 5-13, mean = 10.86, (SD = 1.75). Nurses who experience more than 10 years in the ICU had a high level of knowledge (73.50%), monitoring (70.73%) and management (66.67%). The study was recommended that it should train nurses who less experienced critical care about early recognition of delirium, monitoring and management in ICU for standardized care outcomes. Keywords: knowledge, nurse, delirium, adult critical ill patient 1 Sunpasitthiprasong Hospital 2 Department of Adult and Elderly Nursing, Boromarajonani College of Nursing, Sanpasitthiprasong * Correspondence e-mail: [email protected]

วารสารวิทยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ 71 ปที ่ี 1 ฉบับท่ี 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา ภาวะสับสนเฉียบพลันของผู้ป่ วยวิกฤต (ICU delirium, ICU psychosis หรือ ICU syndrome) เป็ นภาวะท่ีสมองทางานบกพร่องกะทันหัน ทาให้เกิดการสับสน (acute confusion) กระวนกระวาย (agitation) และระดับความรูส้ ึกตัวเปล่ียนแปลง (Alteration of conscious) ความคิด สติปัญญา ความจา และสมาธิเสยี ไป กอ่ ใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมต่างๆ ตามมา เช่น วุ่นวาย นอนไมห่ ลบั ไม่มสี มาธิ ซึมเศรา้ วติ กกงั วล1 ภาวะสบั สนเฉียบพลนั พบไดม้ ากถึง รอ้ ยละ 80 ของผูป้ ่ วยหนักท่ีอยู่ใน ICU โดยเฉพาะอย่างยิ่งผูป้ ่ วยท่ีตอ้ งใชเ้ คร่ืองช่วยหายใจ2 ในประเทศไทย การศึกษาในหอผูป้ ่ วยวิกฤตอายุรกรรมโรงพยาบาลอุดรธานี พบอุบตั ิการณ์ การเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลนั รอ้ ยละ 31.83 ซ่ึงการเกดิ ภาวะสบั สนเฉียบพลันจะเกิดประมาณ 2 วนั หลงั เขา้ รบั การรกั ษาใน ICU และมีระยะเวลาการเกดิ ตอ่ เน่ืองโดยเฉลี่ย 3.4 วนั 4 สาเหตุของภาวะสับสนเฉียบพลันเกิดจากปั จจัยร่วมหลายอย่าง (Multifactorial) มีสมมุติฐานท่เี ป็ นไปไดเ้ ก่ียวกบั ความไมส่ มดุลของระบบสารสอ่ื ประสาท (Neurotransmitters) ซึ่งควบคุมเกี่ยวกับการรู้คิด (Cognitive function) พฤติกรรม (Behavior) และอารมณ์ (Mood) ขอ้ เท็จจริงคือ มีความสัมพันธ์ร่วมที่ซับซ้อนระหว่างปั จจัยชักนา (Predisposing Factors) และปัจจยั เร่งใหเ้ กิด (Precipitation Factors) ดงั น้ันผูป้ ่ วยที่มีความเปราะบางมากต่อ การเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลัน เช่น ผูส้ ูงอายุกลุ่มท่ีอายุสูงมาก ผูท้ ี่มีภาวะสมองเสื่อม และ มีภาวะร่วมหลายอย่าง เมื่อมีปัจจยั เร่งใหเ้ กิดเพียงอย่างเดียว เช่น ไดย้ านอนหลับเพียงคร้ัง เดียวมีโอกาสเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลันได้ แมว้ ่าผูป้ ่ วยท่ีไม่เปราะบางเม่ือมีปัจจยั เร่งใหเ้ กิด หลายอยา่ ง เชน่ ไดร้ บั ยาระงบั ความรูส้ ึก ผ่าตดั ใหญ่ ไดร้ บั ยากลุ่ม Psychoactive มีโอกาสเกิด ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ไดเ้ ช่นเดียวกนั 5 ภาวะสบั สนเฉียบพลันเกิดจากหลายสาเหตุ ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย จิตใจและการรกั ษา เช่น 1) ไดร้ ับการจดั การความปวดไม่เพียงพอ 2) ฤทธ์ิจากยาที่ออกฤทธ์ิต่อจิตประสาท 3) พยาธิสรีรภาพของภาวะวิกฤต 4) มไี ข้ 5) การเผาผลาญผิดปกติ เป็ นตน้ ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม เช่น 1) ภาวะพรากความรูส้ กึ 2) การนอนถูกรบกวน 3) แสงสว่างมากตลอดเวลา6 4) การ ไม่รูว้ นั เวลา สถานท่ี 5) เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์มีเสียงดัง เป็ นตน้ 2 พยาบาลใน ICU มบี ทบาทสาคญั ในการดแู ลผูป้ ่ วยเพ่ือป้ องกนั การเกดิ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั เน่ืองจากพยาบาล เป็ นผูท้ ่ีอยู่ใกลช้ ิดกบั ผูป้ ่ วยตลอดเวลา ไดแ้ ก่ บทบาทในการคดั กรอง เพ่ือระบุปัจจยั เส่ียงของ ภาวะสับสนเฉียบพลันท้ังในระยะเริ่มตน้ ของปัญหาและระยะท่ีกาลังเกิดข้ ึนอย่างต่อเนื่อง บทบาทในการป้ องกนั โดยการจดั การปัจจยั เสย่ี ง ซ่ึงการใชว้ ิธกี ารจดั การหลายวธิ ีร่วมกนั จะทา ใหก้ ารจดั การกบั ปัจจยั เส่ียงไดผ้ ลดมี ากยิ่งข้ ึน และบทบาทในการประสานงานกบั ทีมสหสาขา

72 วารสารวิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ ปีที่ 1 ฉบบั ที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) วชิ าชพี เพื่อร่วมกนั แกไ้ ขปัญหาภาวะสบั สนเฉียบพลนั มวี ิธีการบนั ทกึ ขอ้ มลู อยา่ งเป็ นระบบและ มกี ารสื่อสารกบั แพทยอ์ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ7 จากการศึกษาวิจยั เกีย่ วกบั ปัจจยั ทมี่ ีความสมั พนั ธก์ บั ความรขู้ องพยาบาลเกย่ี วกบั การ ป้ องกันและจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลันในผูป้ ่ วยวิกฤต โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดย สุพตั รา อุปนิสากรและคณะ8 ในปี 2552 พบว่า พยาบาลหออภิบาลผูป้ ่ วยมีความรูเ้ ก่ียวกับ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั การเกดิ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั และการจดั การภาวะสบั สน เฉียบพลนั ในผูป้ ่ วยวกิ ฤต อยูใ่ นระดบั ปานกลาง สาเหตุอาจเกิดจากการขาดความรู้ และความ สนใจเกี่ยวกบั ภาวะสับสนเฉียบพลัน พยาบาลขาดความมนั่ ใจในการใชแ้ บบประเมินภาวะ สบั สนเฉียบพลนั ในงานหอผูป้ ่ วยวิกฤต และอาจเน่ืองมาจากไม่มีนโยบายหรือแนวทางปฏิบตั ิ รวมถงึ ยงั ไม่มีแนวทางการใชเ้ ครื่องมือในการประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลนั อย่างชดั เจน เจา้ พยาบาลมีความรูไ้ ม่เพียงพอในการประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลัน ไม่มีระบบการบนั ทึกผล การประเมินทดี่ ี และแพทยย์ งั ไม่ไดน้ าผลการประเมนิ ไปเป็ นสว่ นหนึ่งของการตัดสินใจในการ วางแผนการรกั ษา นอกจากน้ ีอายุและระยะเวลาการทางานในหออภิบาลผปู้ ่ วยมีความสมั พนั ธ์ กบั ความรเู้ กี่ยวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั โดยเฉพาะพยาบาลทีม่ ีอายุการทางานประมาณ 3 – 5 ปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็ นพยาบาลกลุ่มท่ีตอ้ งใหก้ ารพยาบาลผูป้ ่ วยโดยตรง การศึกษาของ Christensen7 พบว่า พยาบาลรับรูเ้ กี่ยวกับนโยบายของโรงพยาบาลเกี่ยวกับภาวะสับสน เฉียบพลนั เพยี งรอ้ ยละ 38.5 และมพี ยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรมเกยี่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั เพียงรอ้ ยละ 32.7 สาเหตุท่ีพ ยาบาลไม่ประเมินภาวะสับสนเฉียบพ ลัน ส่วนหนึ่ งอาจเกิดจาก ความสามารถในการใชเ้ คร่ืองมือประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลันซ่ึงการสมั ภาษณพ์ ยาบาลท่ีใช้ แบบประเมินเห็นวา่ เคร่ืองมือมีความซบั ซอ้ น คลุมเครือ และมีความยุ่งยากในการนามาใช้ อีก ท้ังในผู้ป่ วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือได้รับยาระงับประสาทน้ัน การประเมินภาวะสับสน เฉียบพลันทาไดย้ าก หากพยาบาลมีความรูไ้ ม่เพียงพอน้ันอาจมีผลทาใหก้ ารประเมินภาวะ สบั สนเฉียบพลนั ในผปู้ ่ วยท่มี อี าการตา่ กว่าความเป็ นจริง8 จากการใหร้ หัสโรคในระบบ ICD 10 ผูป้ ่ วยท่ีมีภาวะสบั สนเฉียบพลันจดั อยู่ในรหัส F104 และ F050-059 ขอ้ มูลของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ในปี 2556, 2557 และ 2558 มีผูป้ ่ วยในท้งั IPD และ ICU ท่ีจดั อยู่ในกลุ่มรหสั โรค F104 มีจานวน 73, 91 และ 96 รายตามลาดบั และกลุ่มรหสั โรค F050-059 มีจานวน 69, 69 และ 70 รายตามลาดบั เห็น ได้ว่ามีแนวโน้มสูงข้ ึน ข้อมูลจากสัมภาษณ์เบ้ ืองตน้ กับพยาบาลในห้องผู้ป่ วยหนักท่ีมี ประสบการณ์การทางานระหว่าง 2-5 ปี พบว่าพยาบาลขาดความมัน่ ใจในการประเมิน การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลัน และพยาบาลเพียงรอ้ ยละ 3 เท่าน้ันทีเ่ ห็น

วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 73 ปีท่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ความสาคญั ของการประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลนั 10 นอกจากน้ ีพยาบาลท่ีปฏิบตั ิงานในหอ ผปู้ ่ วยวิกฤตรอ้ ยละ 54.2 ไม่เคยประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลนั และรอ้ ยละ 100 ไม่เคยไดร้ บั การฝึกอบรมเกีย่ วกบั การประเมนิ และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั 7 ทาใหผ้ ูป้ ่ วยไม่ไดร้ ับ การป้ องกนั โดยส่วนใหญ่แล้วพยาบาลประเมินภาวะสับสนเฉียบพลันจากอาการกระวน กระวาย10 หากผปู้ ่ วยเกิดอาการแลว้ ไมไ่ ดร้ บั การแกไ้ ขจะเกิดผลกระทบที่รุนแรง ทาใหผ้ ปู้ ่ วยดึง ท่อช่วยหายใจออกมากข้ ึน ส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตที่สูงข้ ึน หรือมีระยะเวลาการใช้ เครื่องช่วยหายใจนานข้ ึน ก่อให้เกิดปั ญหาติดเช้ ือในระบบทางเดินหายใจตามมา ทาให้ ระยะเวลานอนโรงพยาบาลนานข้ ึน2 นอกจากน้ ียงั ทาใหพ้ ยาบาลเกิดความเครียดในการดูแล ผปู้ ่ วย หรืออาจไดร้ บั บาดเจบ็ จากผปู้ ่ วยทว่ี นุ่ วายได้ การเฝ้ าระวงั การป้ องกนั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผูป้ ่ วยวกิ ฤตจงึ ตอ้ งมี การใหค้ วามรู้ และพัฒนาทกั ษะแก่พยาบาลและทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งปั จจุบนั มีเครื่องมือ เฉพาะที่มีมาตรฐานในการวินิจฉัยภาวะสบั สนเฉียบพลันในผูป้ ่ วยวิกฤต คือ The Confusion Assessment Method for the Intensive Care Unit (CAM-ICU) และ Intensive Care Delirium Screening Checklist (ICDSE) แต่ยังไม่มีการนาเครื่องมือน้ ีมาใชอ้ ย่างจริงจงั และเป็ นระบบ เพื่อป้ องกนั การเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลนั หรือช่วยใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ บั การดแู ลรกั ษาท่ีถูกตอ้ งและ รวดเร็ว11 ความรูแ้ ละความสามารถของพยาบาลในงานหอผูป้ ่ วยจึงเป็ นเรื่องท่ีสาคัญในการ ประเมิน การป้ องกัน และการจัดการภาวะสับสนเฉียบพลัน เพื่อใหก้ ารพยาบาลผูป้ ่ วยมี คุณภาพและมีมาตรฐานของการดูแลทีค่ รบแบบองคร์ วม การศกึ ษาความรขู้ องพยาบาลวิชาชพี ในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนักเกี่ยวกบั การประเมินการป้ องกนั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของผูป้ ่ วยวิกฤต จะช่วยใหผ้ ูบ้ ริหารงานหอผูป้ ่ วยหนักนามาวางแผนในการพฒั นาความรูข้ อง พยาบาล และเป็ นขอ้ มูลในการพฒั นาแนวทางการดูแลผปู้ ่ วยซึ่งมีความสาคญั ต่อการคงไวซ้ ึ่ง คุณภาพบริการพยาบาล คาถามงานวจิ ยั พยาบาลวิชาชีพในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนักมีความรเู้ กยี่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั การเฝ้ า ระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของผปู้ ่ วยผใู้ หญ่วิกฤตเป็ นอยา่ งไร วตั ถุประสงคง์ านวจิ ยั เพื่อศึกษาความรูข้ องพยาบาลวิชาชีพในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนัก เกี่ยวกับภาวะสับสน เฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของผปู้ ่ วยผใู้ หญ่วกิ ฤต

74 วารสารวิทยาศาสตรส์ ุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ ปที ่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ขอบเขตการวจิ ยั การศึกษานาร่องคร้งั น้ ี ศึกษาระดบั ความรูข้ องพยาบาลวิชาชีพในงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนัก โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เก่ียวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลัน การประเมิน การเฝ้ าระวัง และการจัดการภาวะสับสนเฉียบพลัน จานวน 19 หน่วยงาน โดยแบ่งระดับ ประสบการณใ์ นหอ้ งผปู้ ่ วยหนักของพยาบาลตาม Benner12 ไดแ้ ก่ - พยาบาลวชิ าชีพประสบการณก์ ารทางาน 0 - 1 ปี (Novice) - พยาบาลวิชาชีพประสบการณก์ ารทางาน >1 – 3 ปี (Advanced beginner) - พยาบาลวชิ าชพี ประสบการณก์ ารทางาน >3 – 5 ปี (Competent) - พยาบาลวิชาชีพประสบการณก์ ารทางาน >5 – 10 ปี (Proficient) - พยาบาลวิชาชพี ประสบการณก์ ารทางาน > 10 ปี (Expert) ระยะเวลาการดาเนินงาน เดือนตุลาคม 2558 – กนั ยายน 2559 ตวั แปรทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ความรูข้ องพยาบาลวิชาชีพในงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนักเก่ียวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลัน การ ประเมิน การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผปู้ ่ วยผใู้ หญ่วิกฤต นิยามศพั ท์ ความรู้ หมายถึง การรับรู้ ความจา และความเขา้ ใจ ในขอ้ เท็จจริงเก่ียวกับภาวะ สบั สนเฉียบพลัน การประเมิน การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผูป้ ่ วย ผใู้ หญ่ พยาบาลวิชาชีพ หมายถึง บุคลากรที่สาเร็จการศึกษาวุฒิปริญญาพยาบาลศาสตร บัณฑิต ประกาศนียบตั รพยาบาลศาสตร์และผดุงครรภ์ช้นั สูง (เทียบเท่าปริญญาตรี) หรือ ประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตร์และผดุงครรภ์ช้ันสูง (ต่อเนื่อง) ซึ่งไดข้ ้ ึนทะเบียนเป็ นผู้ ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลและผดุงครรภช์ ้นั หน่ึงจากสภาการพยาบาล ปฏิบตั ิงานใน ตาแหน่งพยาบาลวชิ าชีพในงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนักผใู้ หญ่ ระเบียบวธิ ีวจิ ยั การศกึ ษาน้ ีเป็ นการวจิ ยั เชงิ พรรณนา ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง พยาบาลวิชาชีพในงานห้องผู้ป่ วยหนักผู้ใหญ่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างในการศึกษานาร่องคร้ังน้ ีเลือกแบบเจาะจงมาจากงานห้อง

วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 75 ปีที่ 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ผูป้ ่ วยหนัก 19 หอ หอผูป้ ่ วยละ 2-3 คน ที่มีประสบการณ์การทางานแตกต่างกนั จานวน 42 คน เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 1.แบบวัดความรู้เก่ียวกับภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้ป่ วยวิกฤต ยืมจาก สุพัตรา อปุ นิสากร อุรา แสงเงิน ประสบสุข อินทรกั ษา และทพิ มาส ชิณวงศ์8 ประกอบไปดว้ ย 2 ส่วน คือ ส่วนท่ี 1 แบบบนั ทึกขอ้ มูลส่วนบุคคล มีจานวน 4 ขอ้ ประกอบดว้ ยอายุ ระยะเวลา การทางานในหออภิบาลผูป้ ่ วย ระดับการศึกษาสูงสุด และการประเมินความรูข้ องตนเอง เกย่ี วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผปู้ ่ วยวิกฤต ส่วนท่ี 2 แบบวดั ความรูเ้ ก่ียวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลันในผูป้ ่ วยวิกฤต มีจานวน 52 ขอ้ ขอ้ คาตอบเป็ นแบบเลือกตอบถูก-ผิด ขอ้ ละ 1 คะแนน แบ่งเป็ น 3 ดา้ น ดงั น้ ี ดา้ นท่ี 1 ความรูเ้ กีย่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั จานวน 23 ขอ้ มคี ่าความเท่ียง KR – 20 เทา่ กบั 0.85 ดา้ นท่ี 2 ความรูใ้ นการเฝ้ าระวงั การเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลนั จานวน 14 ขอ้ มีค่า ความเท่ียง KR – 20 เท่ากบั 0.89 ดา้ นที่ 3 ความรใู้ นการจดั การกบั ผปู้ ่ วยท่ีอยู่ในภาวะสบั สนเฉียบพลัน จานวน 15 ขอ้ มคี ่าความเที่ยง KR – 20 เท่ากบั 0.83 แปลผลระดบั ความรู้ โดย 1. ความรเู้ กยี่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั จานวน 23 ขอ้ คิดเป็ น 23 คะแนน - ตอบถูกระหว่าง 0 – 8 คะแนน หมายถงึ มคี วามรใู้ นระดบั น้อย - ตอบถูกระหว่าง 9 – 16 คะแนน หมายถึง มีความรูใ้ นระดับปาน กลาง - ตอบถกู ระหวา่ ง 17 – 23 คะแนน หมายถึง มคี วามรใู้ นระดบั มาก 2. ความรใู้ นการเฝ้ าระวงั การเกดิ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั จานวน 14 ขอ้ คิดเป็ น 14 คะแนน - ตอบถกู ระหวา่ ง 0 – 5 คะแนน หมายถึง มคี วามรใู้ นระดบั นอ้ ย - ตอบถูกระหว่าง 6 – 10 คะแนน หมายถึง มีความรูใ้ นระดับปาน กลาง - ตอบถูกระหวา่ ง 11 – 14 คะแนน หมายถึง มีความรใู้ นระดบั มาก

76 วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ ปีท่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) 3. ความรูใ้ นการจดั การกบั ผูป้ ่ วยท่ีอยู่ในภาวะสบั สนเฉียบพลัน จานวน 15 ขอ้ คดิ เป็ น 15 คะแนน - ตอบถกู ระหวา่ ง 0 – 5 คะแนน หมายถงึ มีความรใู้ นระดบั น้อย - ตอบถกู ระหว่าง 6 – 10 คะแนน หมายถึง มีความรูใ้ นระดับปาน กลาง - ตอบถกู ระหวา่ ง 11 – 15 คะแนน หมายถึง มีความรใู้ นระดบั มาก ขน้ั ตอนดาเนินการวิจยั ผูว้ ิจยั ช้ ีแจงวตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั ข้นั ตอนการวิจยั การพิทกั ษ์ สิทธ์ิกลุ่มตวั อย่าง และขอความร่วมมือในการวิจัย เมื่อกลุ่มตวั อย่างยินยอม / อนุญาตโดย วาจา จึงเร่ิมทาการศึกษาโดยผูว้ ิจยั ทาการเก็บขอ้ มูลดว้ ยตนเอง ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ ขอ้ มูลแลว้ นาขอ้ มูลมาวเิ คราะห์ สถติ แิ ละการวเิ คราะห์ วิเคราะหข์ อ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป มีขน้ั ตอนการวเิ คราะหต์ ามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ ี 1. ขอ้ มลู ส่วนบุคคล วิเคราะหโ์ ดยแจกแจงความถ่ี และค่ารอ้ ยละ 2. ขอ้ มูลความรูเ้ ก่ยี วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั การเกิดภาวะสบั สน เฉียบพลัน และการจัดการภาวะสับสนเฉียบพลัน วิเคราะห์โดยแจกแจง ความถแ่ี ละค่ารอ้ ยละ ผลการศกึ ษา การศึกษานาร่องคร้ังน้ ี กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็ นผูห้ ญิง ร้อยละ 97.62 มีอายุ มากกว่า 50 ปี มากที่สุดรอ้ ยละ 40.48 เป็ นพยาบาลประจาการรอ้ ยละ 50 มีประสบการณ์ การทางาน มากกว่า 10 ปี รอ้ ยละ 69.05 มีประสบการณก์ ารทางานใน ICU มากกวา่ 10 ปี รอ้ ยละ 47.62 เคยมีความรู้เกี่ยวกับภาวะสับสนเฉียบพลัน รอ้ ยละ 59.52 เม่ือแยกเป็ น ประเด็นย่อย พบว่ามีความรูเ้ ร่ืองภาวะสบั สนเฉียบพลนั มากที่สุด รอ้ ยละ 51.28 ความรูน้ ้อย ทสี่ ุดคือเร่ืองการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั รอ้ ยละ 12.82 (ตารางท่ี 1)

วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ 77 ปที ี่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) ตารางที่ 1 จานวนและรอ้ ยละขอ้ มูลทวั่ ไปของกลุ่มตวั อยา่ ง ขอ้ มลู ทวั่ ไป จานวน (n=42) รอ้ ยละ เพศ 97.62 - หญิง 41 2.38 - ชาย 1 23.81 อายุ (ปี ) 21.43 - 20-30 10 14.28 - 31-40 9 40.48 - 41-50 6 38.10 - > 50 17 11.90 ตาแหน่ง 50.00 - หวั หนา้ พยาบาล 16 2.38 - พยาบาลอาวโุ ส 5 7.14 - พยาบาลประจาการ 21 2.38 ประสบการณก์ ารทางาน (ปี ) 19.05 -0-1 1 69.05 - >1 – 3 3 2.38 - >3 – 5 1 4.76 - > 5 – 10 8 11.91 - > 10 29 33.33 ประสบการณก์ ารทางานใน ICU (ปี ) 47.62 -0-1 1 - >1 – 3 2 40.48 - >3 – 5 5 59.52 - > 5 – 10 14 51.28 - > 10 20 เค ย มี ค ว า ม รู ้เกี่ ย ว กั บ ภ า ว ะ สั บ ส น เฉียบพลนั - ไม่มี 17 - เคย 25 - ภาวะสบั สนเฉียบพลนั 20

78 วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ ปที ี่ 1 ฉบบั ที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) ขอ้ มูลทวั่ ไป จานวน (n=42) รอ้ ยละ - การเฝ้ าระวงั 7 17.95 - การจดั การ 5 12.82 ความรเู้ กย่ี วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของพยาบาล พบว่า 1) คะแนนความรูเ้ ก่ียวกบั ภาวะสับสนเฉียบพลัน มีคะแนนระหว่าง 14-23 คะแนน โดยมีค่าเฉลี่ย 19.19 (SD = 2.53) 2) คะแนนความรูเ้ กี่ยวกับการเฝ้ าระวงั มีคะแนนระหว่าง 8-14 คะแนน ค่าเฉล่ีย 12.83 (SD=1.27) และ 3) คะแนนความรูเ้ กี่ยวกับการจดั การ มีคะแนนระหว่าง 5-13 คะแนน ค่าเฉลี่ย 10.86 (SD=1.75) (ตารางท่ี 2) ตารางที่ 2 คะแนนความรเู้ กีย่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของพยาบาล ค่าพสิ ยั ค่าเฉล่ีย และ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความรเู้ ก่ียวกบั ภาวะสบั สน คะแนน คะแนน เฉียบพลนั ตา่ สุด สงู สดุ ค่าพสิ ยั mean SD ภาวะสบั สนเฉียบพลนั 14 23 9 19.19 2.53 (คะแนนเตม็ 23) การเฝ้ าระวงั (คะแนนเตม็ 14) 8 14 6 12.83 1.27 การจดั การ (คะแนนเตม็ 15) 5 13 8 10.86 1.75 ความรเู้ กย่ี วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลันของพยาบาลที่มปี ระสบการณก์ ารทางานใน ICU มากกวา่ 10 ปี มีความรูอ้ ยใู่ นระดบั มาก มีมากที่สุด รอ้ ยละ 73.50 ระดบั ปานกลาง รอ้ ยละ 50.00 รองลงมาคือพยาบาลที่มปี ระสบการณก์ ารทางานใน ICU มากกว่า 5-10 ปี มีความรู้ อยู่ในระดับมาก ร้อยละ 20.60 ระดับปานกลาง ร้อยละ 12.50 ส่วนพยาบาลที่มี ประสบการณ์ทางานเท่ากับหรือน้อยกว่า 5 ปี มีความรูอ้ ยู่ในระดบั ปานกลางเป็ นส่วนใหญ่ (ตารางท่ี 3)

วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 79 ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) ตารางที่ 3 จานวนและรอ้ ยละระดบั ความรขู้ องพยาบาลเกยี่ วกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั จาแนก ตามประสบการณก์ ารทางานในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนัก ประสบการณก์ าร ความรรู้ ะดบั กลาง ความรรู้ ะดบั มาก ทางานใน ICU (ปี ) จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ 0 – 1 1 12.50 1 2.95 >1 – 3 1 12.50 0 0.00 >3 – 5 1 12.50 1 2.95 >5 – 10 1 12.50 7 20.60 >10 4 50.00 25 73.50 รวม 8 100.00 34 100.00 ความรเู้ กี่ยวกบั การเฝ้ าระวงั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของพยาบาลท่ีมีประสบการณ์การ ทางานใน ICU มากกว่า 10 ปี มีความรูอ้ ยูใ่ นระดบั มาก มีมากท่ีสดุ รอ้ ยละ 70.73 รองลงมา คือพยาบาลที่มีประสบการณ์การทางานใน ICU มากกว่า 5-10 ปี มีความรูอ้ ยู่ในระดบั มาก รอ้ ยละ 17.07 โดยพยาบาลท่ีมีประสบการณ์ทางานมากกว่า 3-5 ปี และน้อยกว่า 1 ปี มี ความรอู้ ยใู่ นระดบั มากรอ้ ยละ 4.88 เทา่ กนั (ตารางที่ 4) ตารางท่ี 4 จานวนและรอ้ ยละระดบั ความรขู้ องพยาบาลเกีย่ วกบั การเฝ้ าระวงั ภาวะสบั สน เฉียบพลนั จาแนกตามประสบการณก์ ารทางานในงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนัก ประสบการณก์ ารทางาน ความรรู้ ะดบั กลาง ความรรู้ ะดบั มาก ใน ICU (ปี ) จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ 0-1 0 0.00 2 4.88 >1 – 3 0 0.00 1 2.44 >3 - 5 0 0.00 2 4.88 >5 - 10 1 100.00 7 17.07 >10 0 0.00 29 70.73 รวม 1 100.00 41 100.00 ความรูเ้ กี่ยวกบั การจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลันของพยาบาลท่ีมีประสบการณ์การ ทางานใน ICU มากกว่า 10 ปี มีความรอู้ ยูใ่ นระดบั มาก มีมากที่สดุ รอ้ ยละ 66.67 รองลงมา คือพยาบาลท่ีมีประสบการณก์ ารทางานใน ICU มากกว่า 5-10 ปี มีความรูอ้ ยู่ในระดบั มาก

80 วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ ปที ่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) รอ้ ยละ 20.00 โดยพยาบาลที่มีประสบการณ์ทางานมากกว่า 1-3 ปี และน้อยกว่า 1 ปี มี ความรูอ้ ยู่ในระดับมากรอ้ ยละ 3.33 เท่ากัน ส่วนกลุ่มพยาบาลท่ีมีความรูร้ ะดบั ปานกลาง พบวา่ พยาบาลท่ีมปี ระสบการณก์ ารทางานใน ICU มากกวา่ 10 ปี มมี ากที่สุด รอ้ ยละ 72.73 รองลงมาคือพยาบาลที่มีประสบการณ์การทางานใน ICU มากกว่า 5-10 ปี มีความรูอ้ ยู่ใน ระดบั ปานกลาง รอ้ ยละ 18.18 ตามลาดบั (ตารางที่ 5) ตารางท่ี 5 จานวนและรอ้ ยละระดบั ความรขู้ องพยาบาลเก่ียวกบั การจดั การภาวะสบั สน เฉียบพลนั จาแนกตามประสบการณก์ ารทางานในงานหอ้ งผปู้ ่ วยหนัก ประสบการณก์ าร ความรรู้ ะดบั ตา่ ความรรู้ ะดบั กลาง ความรรู้ ะดบั มาก ทางานใน ICU (ปี ) จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ 0 - 1 0 0.00 1 9.09 1 3.33 >1 – 3 0 0.00 0 0.00 1 3.33 >3 - 5 0 0.00 0 0.00 2 6.67 >5 - 10 0 0.00 2 18.18 6 20.00 >10 1 100.00 8 72.73 20 66.67 รวม 1 100.00 11 100.00 30 100.00 อภิปรายผล จากการศึกษาคร้ังน้ ีพบว่า พยาบาลที่มีประสบการณ์การทางาน ICU มากกว่า 10 ส่วนใหญ่มีความรูอ้ ยู่ในระดบั มาก ท้งั ในเร่ืองภาวะสบั สนเฉียบพลัน การป้ องกนั ภาวะสบั สน เฉียบพลนั และการจดั การภาวะสับสนเฉียบพลนั แต่ยงั พบว่าพยาบาลที่มีประสบการณก์ าร ทางานอยู่ในงานหอ้ งผู้ป่ วยหนักน้อยมีคะแนนความรูอ้ ยู่ในระดบั ปานกลาง สอดคล้องกับ การศึกษาของ Elfeky H and Ali FS7 ที่พบว่าพยาบาลพยาบาลที่มีประสบการณ์ในห้อง ผูป้ ่ วยหนักน้อยมกั ใหค้ วามสนใจกับภาวะสบั สนเฉียบพลันน้อย และความรูเ้ ก่ียวกับภาวะ สบั สนเฉียบพลนั มีความสมั พนั ธท์ างบวกกบั ประสบการณ์การทางานในหอ้ งผูป้ ่ วยหนัก โดย การประเมินภาวะสับสนเฉียบพลันจะเป็ นลาดับที่ 4 หลังการประเมินระดับความรูส้ ึกตัว ความปวด และอาการว่นุ วาย โดยใหค้ วามสนใจกบั อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือในการดแู ลผปู้ ่ วยมาก ท้งั น้ ีอาจเกดิ จากพยาบาลขาดความมนั่ ใจในการประเมิน และไม่เคยไดร้ บั การอบรมเร่ืองการ ประเมินและการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลันมาก่อน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั การศึกษาส่วนใหญ่ท่ี

วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 81 ปที ี่ 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) พบว่าพยาบาลประเมินภาวะสบั สนเฉียบพลันจากอาการวุ่นวาย8 เช่นเดียวกบั การศึกษาของ AndrewsL, Silva SG, Kaplan S and Zimbro K9 ที่พบว่าพยาบาลขาดความรู้ และความมนั่ ใจ ในการประเมินภาวะสับสนเฉียบพลัน และพยาบาลเห็นความสาคญั ของการประเมินภาวะ สบั สนเฉียบพลนั น้อย สาหรับพยาบาลในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนักโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เองยงั ไม่ไดร้ ับการฝึกปฏิบัติในเรื่องการประเมิน การเฝ้ าระวงั และการจัดการภาวะสับสน เฉียบพลันอย่างเป็ นระบบ และยงั ขาดการสอนแนะนา (coaching) อกี ท้งั ยงั ไม่มีแนวปฏบิ ตั ใิ น การดูแลผูป้ ่ วยท่ีมีภาวะสบั สนเฉียบพลันที่ชดั เจน ซึ่ง Balas et al.11 เสนอว่าพยาบาลควรใช้ หลักฐานเชิงประจกั ษ์เพ่ือสนับสนุนการเฝ้ าระวงั และจดั การภาวะสับสนเฉียบพลัน ท่ีพบว่า สามารถช่วยลดปั ญหาการเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันได้ คือ Awakening and Breathing Coordination, Delirium Monitoring and Management, and Early Mobility (ABCDE Bundle) ซ่ึงหมายถึงชุดของหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์เพ่อื การจดั การกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั โดยมีหลกั 3 ประการ คือ 1) ช่วยใหเ้ กิดการสื่อระหว่างสหสาขาวิชาชีพท่ีดีข้ ึน 2) มีกระบวนการดูแลที่มี มาตรฐาน และ 3) เพื่อลดวงจรของการใชย้ าเพื่อใหส้ งบมากเกินไประหวา่ งการใชเ้ ครื่องช่วย หายใจ สาหรบั การเฝ้ าระวงั และการจดั การท่ีเหมาะสมควรใชเ้ คร่ืองมือประเมินภาวะสบั สน เฉียบพลัน ได้แก่ Confusion Assessment Method-ICU (CAM-ICU) และ Intensive Care Delirium Screening Checklist (ICDSE) พยาบาลท่ีมีประสบการณ์การทางานในงานหอผูป้ ่ วยนานมีคะแนนความรู้เก่ียวกบั ภาวะสบั สนเฉียบพลันสูงทุกดา้ น อาจเนื่องจากประสบการณ์ทางานท่ีนาน มีโอกาสไดด้ ูแล ผูป้ ่ วยท่ีมีภาวะสบั สนเฉียบพลันไดม้ ากกว่าพยาบาลที่มีประสบการณ์การทางานในงานหอ้ ง ผูป้ ่ วยหนักน้อย ซึ่งพยาบาลไดส้ ัง่ สมความรูแ้ ละประสบการณ์จากการทางาน ไดแ้ ก่ การ conference การทา Nursing round และผ่านกิจกรรมต่างๆในงานหอ้ งผูป้ ่ วยหนัก นอกจากน้ ี พยาบาลยงั ไดร้ บั การเพิ่มพูนความรูแ้ ละทกั ษะท่ีหน่วยงานจดั ให้ ดังน้ันการเพ่ิมความรูแ้ ละ ทกั ษะใหแ้ ก่พยาบาลท่ีมีประสบการณ์ในงานหอผูป้ ่ วยหนักจึงควรทาอย่างเร่งด่วน และควรมี การใชแ้ นวปฏิบตั ิสาหรบั การป้ องกนั และจดั การผูป้ ่ วยที่มภี าวะโอกาสเกิดหรือเกิดภาวะสบั สน เฉียบพลัน ท่ีเป็ นมาตรฐานมาจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์และไดร้ ับการยอมรับจากสหสาขา วิชาชพี เพ่อื ส่งเสริมใหก้ ารพยาบาลมีมาตรฐานและคุณภาพท่ดี ีต่อไป

82 วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ปีท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) ขอ้ จากดั ของการศกึ ษา การศึกษานาร่องคร้ังน้ ี ยงั ไม่ครอบคลุมพยาบาลทุกคนในหอ้ งผูป้ ่ วยหนักอาจทาให้ ขอ้ มูลผลของความรูภ้ าวะสบั สนเฉียบพลนั ของพยาบาลยงั ไม่เพียงพอ แต่พอจะสะทอ้ นใหเ้ ห็น กา้ วต่อไปของการเตรียมพยาบาลใหม้ ีความพรอ้ มในการดูแลผู้ป่ วยท่ีอาจเกิดภาวะสบั สน เฉียบพลนั ได้ ขอ้ เสนอแนะในการทาวิจยั คร้งั ตอ่ ไป การศึกษาความรู้ของพยาบาลวิชาชีพงานห้องผู้ป่ วยหนักเกี่ยวกับภาวะสับสน เฉียบพลนั การเฝ้ าระวงั และการจดั การภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของผปู้ ่ วยผใู้ หญ่วิกฤต คร้งั น้ ีค่า คะแนนความรูอ้ าจไม่สะทอ้ นความจริง เนื่องจากแบบวดั ความรูค้ ่อนขา้ งง่าย จึงควรสรา้ ง เครื่องมือวดั ความรูท้ ่ีสะทอ้ นความจริง และมีแนวปฏิบตั ิสาหรับป้ องกนั และจดั การผูป้ ่ วยท่ีมี ความเสีย่ งตอ่ การเกิดภาวะสบั สนเฉียบพลนั หรือผปู้ ่ วยท่ีมีภาวะสบั สนเฉียบพลนั แลว้ กติ ตกิ รรมประกาศ คณะผูว้ ิจยั ขอขอบคุณ ผูอ้ านวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ หวั หน้าพยาบาล และคณะผูบ้ ริหารในการเอ้ ืออานวยการศึกษาวิจยั ในคร้งั น้ ี และขอขอบคุณพยาบาลผูต้ อบ แบบสอบถามทกุ คน เอกสารอา้ งอิง 1. Hickin SL, White S, & Knopp-Sihota J. Delirium in the Intensive Care Unit- A Nursing Refresher. Canadian Journal of Critical Care Nursing. 2017;28(2):19- 23. 2. Salluh JIF, et al Outcome of Delirium in critical Ill patients: Systematic Review and Meta-analysis. BMJ 2015;350:h2538doi:10.1135/bmj.h2538. 3. ทศั นีย์ เทศประสิทธ์ิ และพิมลรตั น์ พิมพด์ ี. 2553. อุบตั กิ ารณ์ ปัจจยั ทเี่ กย่ี วขอ้ งและ ผลลพั ธก์ ารเกดิ ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ในผปู้ ่ วยวกิ ฤตโรงพยาบาลอดุ รธานี[online]. from http://203.157.168.8/research/index.php?option=com_ content&view=article&id=75:acute-confusion&catid=1:latest-news

วารสารวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ 83 ปที ี่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) 4. ฐิตมิ า ลายอง และ ชนกพร จิตปัญญา. ปัจจยั ทสี่ มั พนั ธก์ บั ภาวะสบั สนเฉียบพลนั ของ ผปู้ ่ วยไอ ซี ยู ที่ใชเ้ ครื่องชว่ ยหายใจ. วารสารพยาบาลโรคหวั ใจและทรวงอก. 2555;23(1):20-30. 5. Brummel NE, Vasilevskied EE, Han JH, Boehm L, Pun BT & Ely EW. Implementing Delirium Screening in the ICU: Secrets to Success. Critical Care Medicine, 2013;41:2196-208. 6. Carins P. Prater J, Munro C,Calero K. Environmental Light and Delirium in the Intensive Care Unit. American Journal of Critical Care. 2017;26(3):E34. 7. Elfeky H and Ali FS. Nurses’ Practices and Perception of Delirium in the Intensive Care Units of a Selected University Hospitals in Egypt. IISTE Journals. 2013;4(19):61-71. 8. สุพตั รา อุปนิสากร อรุ า แสงเงนิ ประสบสุข อินทรกั ษา และทพิ มาส ชิณวงศ.์ ปัจจยั ที่ มีความสมั พนั ธก์ บั ความรขู้ องพยาบาลเกยี่ วกบั การป้ องกนั และจดั การภาวะสบั สน เฉียบพลนั ในผปู้ ่ วยวิกฤต. วารสารเวชบาบดั วกิ ฤต. 2554;17(2):6-12. 9. Christensen M. An Exploratory Study of Staff Nurses’ Knowledge of Delirium in the Medical ICU : An Asian perspective. Intensive and Critical Care Nursing. 2014;30:54-60. 10.Andrews L, Silva SG, Kaplan S and Zimbro K. Delirium Monitoring and Patient Outcomes in a General Intensive Care Unit. American journal of Critical Care. 2015;24(1):48-56. 11.Balas et al. Critical Care Nurses, Role in Implementing the “ABCDE Bundle” into Practice. Crt Care Nurse. 2012;32(2):35-48. 12.Benner PE. From Novice to Expert. September 16, 2011 Nursing Theories a companion to nursing theories and modelshttp://currentnursing.com/ nursing_theory/patricia_benner_from_novice_to_expert.html

84 วารสารวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560)