Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีอายุยืน ตำบลปทุม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

พฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีอายุยืน ตำบลปทุม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

Published by jnlbcnsp, 2019-03-09 18:56:18

Description: วรางคณา บุตรศรี, นันทรียา โลหะไพบูลย์กุล

Search

Read the Text Version

พฤติกรรมสุขภาพของผูส้ ูงอายุที่มีอายุยนื ตาบลปทุม อาเภอเมือง จงั หวดั อุบลราชธานี วรางคณา บุตรศร1ี นนั ทรยี า โลหะไพบูลยก์ ุล2 บทคดั ยอ่ การวจิ ยั คร้งั น้ ีเป็ นวจิ ยั เชิงคุณภาพ มีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ศกึ ษาพฤติกรรมสขุ ภาพของ ผูส้ ูงอายุท่ีมีอายุยืน ที่อาศยั อยู่ในเขตกึ่งเมืองกึ่งชนบท ตาบลปทุม อาเภอเมือง จงั หวัด อุบลราชธานี ผูใ้ หข้ อ้ มูลเป็ นผูส้ ูงอายุท่ีมีอายุต้งั แต่ 80 ปี ข้ ึนไปจานวน 20 คน คัดเลือก แบบเจาะจง เก็บขอ้ มูลโดยการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลึกดว้ ยแบบสมั ภาษณแ์ บบมโี ครงสรา้ ง 3 ดา้ น คือ ดา้ นพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกาลังกาย และพฤติกรรมการ จดั การอารมณ์ ผลการวิจยั พบวา่ พฤติกรรมบริโภคอาหารสว่ นใหญ่ รบั ประทานอาหารครบ 3 ม้ ือ รบั ประทานขา้ วเจา้ และเน้ ือปลาเป็ นหลัก ไขมนั ที่ใชป้ ระกอบอาหารส่วนใหญ่ไดจ้ ากพืช เน้นผกั ทีห่ าไดง้ า่ ยตามพ้ นื บา้ น ผลไมท้ ีร่ บั ประทานส่วนใหญ่เป็ นกลว้ ย และดม่ื น้าเปล่าเป็ น หลกั วนั ละ 8 แกว้ ส่วนพฤติกรรมการออกกาลังกายส่วนใหญ่พบว่า เป็ นการเสริมสรา้ ง ความทนทานของระบบหวั ใจและหลอดเลือด โดยใชว้ ธิ ีการเดนิ พฤติกรรมดา้ นการจดั การ อารมณ์ ใชว้ ิธกี ารยบั ย้งั อารมณโ์ ดยใชห้ ลกั การปล่อยวาง เป็ นแนวทางในการดาเนินชวี ติ คาสาคญั : พฤติกรรมสุขภาพ, ผสู้ งู อายุทม่ี ีอายุยนื 1 ,2 กลุม่ วิชาการพยาบาลอนามยั ชุมชน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธิประสงค์ อุบลราชธานี

86 วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ปีท่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) Health Behaviors of the Longevity Elderly in Pathum Sub-District, Mueang District, Ubon Ratchathani Province Warangkana Bootsri 1 Nantareya Lohapiboonkul2 Abstract This qualitative research aimed to study the health behaviors of elderly with longevity that resided in sub-urban and sub-district, Tombon Pratum, Ubon Ratchathani Province. Of 20 key informants were selected by purposive sampling of elderly persons who aged 80 years and over. The structured in-depth interview methodology was used that composed of 3 aspects, namely: dietary behavior, exercise behavior and emotional management behavior. The result found most dietary behavior by eaten three meals. Their main sources of diet were rice and fish. The cooking oil was mostly from vegetable. Focus on vegetables that are easy to find in the local areas. The main source of fruits was bananas. The informants took 8 glasses of water per day. The exercise behavior was to strengthen the endurance of the cardiovascular system by walking. The emotional management behavior was controlled by practice letting somethings go as the guiding way of life. Key words: health behavior, elderly with longevity 1,2 Community nursing department, Boromarajonani college of Nursing Sanpasithiprasong, Ubonratchathani. E-mail: [email protected]

วารสารวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ 87 ปีท่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา องค์การสหประชาชาติไดน้ ิยามไวว้ ่าประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ปี ข้ ึนไปเป็ น สดั ส่วนรอ้ ยละ 10 หรืออายุ 65 ปี ข้ ึนไปเกินรอ้ ยละ 7 ของประชากรท้ังประเทศถือว่า ประเทศน้ันไดก้ า้ วเขา้ สู่สังคมผู้สูงอายุ (aging society) และจะเป็ นสังคมผู้สูงอายุโดย สมบรู ณ์ (aged society) เม่ือสดั ส่วนประชากรอายุ 60 ปี ข้ ึนไปเพิ่มเป็ นรอ้ ยละ 20 และ อายุ 65 ปี ข้ นึ ไปเพ่ิมรอ้ ยละ 14 ซ่ึงประเทศไทยไดก้ า้ วเขา้ ส่สู งั คมผูส้ งู อายุแลว้ จากจานวน ประชากรสูงอายุ เมื่อมกราคม 2557 มีจานวนประมาณ 9,928,000 คนหรือรอ้ ยละ 15.301 ในขณะเดียวกนั ผูส้ งู อายุในประเทศไทยน้ันมีอายุยนื ข้ นึ โดยพบว่าอายุขยั เฉลี่ยของ ประชาชนไทยเพิม่ ข้ นึ จากขอ้ มลู พบวา่ อายุคาดเฉล่ียเม่ือแรกเกดิ ของชายไทยเพิ่มจาก 67.9 ปี ในปี พ.ศ.2548 เป็ น 69.5 ปี ในปี พ.ศ.2552 และมีการคาดประมาณว่าจะเพ่ิมสูงถึง 79.1 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2588-2593 สาหรบั หญิงไทยอายุคาดเฉล่ียเมื่อแรกเกิดเพ่ิมจาก ประมาณ 75.0 ปี ในปี พ.ศ.2548เป็ น 76.3 ปี ในปี พ.ศ.2552 และคาดว่าจะเพิ่มเป็ น 81.5 ปี ในปี พ.ศ.2588-2593 เมื่อพิจารณาจานวนปี ที่จะมีชีวิตต่อไปไดเ้ มื่ออายุ 60 ปี และอายุ 80 ปี พบวา่ อายุคาดเฉล่ียเม่ืออายุดงั กล่าวเพมิ่ ข้ นึ อย่างตอ่ เนื่อง2 ตาบลปทุม อาเภอเมือง จังหวดั อุบลราชธานี อยู่ห่างจากท่ีว่าการอาเภอเมือง จงั หวดั อุบลราชธานี ประมาณ 7 กิโลเมตร มีพ้ นื ท่ีเป็ นรอยตอ่ ระหว่างเขตเมืองกึ่งชนบท มี ลกั ษณะภูมิประเทศเป็ นที่ราบ มีแม่น้ามูลไหลผ่านตลอดปี วิถีชีวิตของชาวบา้ นจะมีความ ผูกพนั กับปากหว้ ยวงั นอง ซ่ึงเป็ นหว้ ยน้าขนาดใหญ่ พ้ ืนที่ส่วนใหญ่ใชเ้ ป็ นที่อยู่อาศยั มี พ้ ืนที่ประกอบอาชีพดา้ นการเกษตรเพียงเล็กน้อย เน่ืองจากเป็ นพ้ ืนที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้า มลู และมีอา่ งเกบ็ น้าหว้ ยวงั นองอยลู่ อ้ มรอบพ้ ืนทถี่ งึ 3 ดา้ น มองจากทส่ี งู จะมีลกั ษณะคลา้ ย เกาะ จงึ ทาใหป้ ระสบปัญหาน้าท่วมขงั ในพ้ ืนท่ีลาดตา่ อยู่เป็ นประจา มกี ารดารงชวี ิตในการ ประมงและเครื่องป้ันดินเผา ลักษณะประชากร มีประชากรท้งั ส้ ิน 10,484 คน เป็ นเพศ ชาย 4,948 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ 47.20 และเพศหญิง 5,536 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ 52 มี ประชากรวยั แรงงานอายุระหว่าง 25-59 ปี คิดเป็ นรอ้ ยละ 54.88 วยั ผสู้ ูงอายุมแี นวโน้ม สูงข้ ึน รอ้ ยละ 14.41 ของประชากรท้งั หมด ประชากรส่วนใหญ่เป็ นประชากรท่ียา้ ยมา ปฏิบัติงานและมาปลูกสรา้ งบา้ นเรือนอยู่อาศัย และมีประชากรเคล่ือนยา้ ยในกลุ่มวัย แรงงานจึงไม่ค่อยมีประชาชนด้งั เดิมอาศยั อยู่ ประกอบดว้ ย จานวนหลงั คาเรือน 2,566 หลงั คาเรือน จากจานวนหมู่บา้ น 12 หมู่บา้ น และจากขอ้ มูลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตาบลปทุม อาเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีจานวนประชากรท่ีมีอายุ 80 ปี ข้ ึนไป จานวนถงึ 115 คน3

88 วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) จากการท่ีประเทศไทยกา้ วเขา้ เขา้ สู่สังคมผูส้ ูงอายุ ดงั น้ันจึงควรมีการศึกษา พฤติกรรมสุขภาพของผูส้ งู อายุที่มีวยั เกิน 80 ปี โดยศึกษาถึงพฤติกรรมสขุ ภาพตามหลกั 3 อ.ของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข 4 ท่ีส่งผลต่อการมีอายุยืนยาวของผูส้ งู อายุไทย ขอ้ มูลที่ไดจ้ ะเป็ นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการมีพฤติกรรมบริโภคที่เหมาะสม ส่งผลให้ ประชาชนไทย มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยีนยาวข้ ึน รวมท้งั เป็ นประโยชน์ต่อการพัฒนา ศกั ยภาพของผูส้ ูงอายุ ช่วยลดภาวะพึ่งพิงและเสริมคุณคุณค่าใหก้ บั ผูส้ ูงอายุ ผูใ้ หบ้ ริการ สุขภาพสามารถนาขอ้ มลู ท่ีไดไ้ ปใชใ้ นการดูแลต่อเนื่องที่บา้ นแบบบรู ณาการต่อไป วตั ถุประสงคก์ ารวิจยั เพ่ือศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของผูส้ ูงอายุที่มีอายุยืนในตาบลปทุม อาเภอเมือง จงั หวดั อบุ ลราชธานี คาถามการวิจยั พฤติกรรมสุขภาพของผูส้ ูงอายุที่มีอายุยืนในตาบลปทุม อาเภอเมือง จังหวัด อุบลราชธานีเป็ นอย่างไร วิธกี ารดาเนินการวจิ ยั การวจิ ยั คร้งั น้ ี เป็ นการวิจยั เชิงคุณภาพ ผูใ้ หข้ อ้ มลู ผู้ให้ขอ้ มูลถูกคัดเลือกมาแบบเฉพาะเจาะจง (purposive sampling technique) เป็ นผูส้ งู อายุท่ีมีอายุ 80 ปี ข้ ึนไป จานวน 20 คน สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ และสมคั ร ใจร่วมงานวจิ ยั เครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั และการเก็บรวบรวมขอ้ มลู เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจัยเป็ นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสรา้ งไดจ้ ากการทบทวน วรรณกรรมประกอบดว้ ย 3 ดา้ น คอื ดา้ นพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออก กาลงั กาย และพฤติกรรมการจดั การอารมณ์ ผูว้ ิจยั รวบรวมขอ้ มูลวิจยั ดว้ ยวิธีการสมั ภาษณ์แบบเจาะลึก (in-depth Interview) เร่ิมตน้ การสมั ภาษณ์ดว้ ยการแนะนาตวั ช้ ีแจงวตั ถุประสงค์การวิจยั บนั ทึกเสียงระหว่าง การสัมภาษณ์โดยไดร้ ับอนุญาตจากผูส้ ูงอายุทุกคร้ัง ใชเ้ วลาในการสมั ภาษณ์คนละ 60 นาที โดยทาการสมั ภาษณด์ ว้ ยผวู้ จิ ยั เองท้งั 20 คน

วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ 89 ปที ี่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) ระยะเวลาในการเกบ็ ขอ้ มูล การศกึ ษาคร้งั น้ ี ใชเ้ วลาในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ระหว่างเดือนสงิ หาคม – พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2560 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู คณะผจู้ ดั ทาวิจยั ไดท้ าความเขา้ ใจกบั ผูส้ งู อายุและญาติทดี่ แู ลผูส้ งู อายุ เพอื่ ขอความ ร่วมมอื ในการสมั ภาษณ์ เก็บขอ้ มูล โดยคณะผจู้ ดั ทาวิจยั เป็ นผรู้ วบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง ได้ ทาการนัดเวลาและสถานทเี่ พ่อื เตรียมการสมั ภาษณผ์ สู้ งู อายุและผดู้ แู ลจานวน 1-2 คร้งั พรอ้ มทง้ั ขออนุญาตบนั ทกึ เทป และใชว้ ธิ กี ารจดบนั ทกึ ขอ้ มลู พรอ้ มการสงั เกตต่างๆ เพ่อื ให้ ไดข้ อ้ มลู ท่ถี ูกตอ้ งมากท่ีสุด และส้ นิ สุดการสมั ภาษณเ์ มือ่ ขอ้ มลู มีความครอบคลุม การวิเคราะหข์ อ้ มูล ผวู้ ิจยั ทาการวเิ คราะหข์ อ้ มูลเชงิ คุณภาพ เพ่อื สรุปพฤติกรรมสุขภาพของผสู้ งู อายุที่มี อายุยืน โดยผูว้ ิจยั ทาการถอดเทปแบบคาต่อคา (transcribed verbatim)5 วิเคราะหข์ อ้ มูล เชิงใจความหลัก (thematic analysis) แยกขอ้ มูลและประเด็นย่อย (categories) 3 ดา้ น คือ ดา้ นพฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกาลงั กาย และพฤติกรรมการ จดั การอารมณ์ การตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของการวิเคราะหข์ อ้ มูล ความน่าเชื่อถือของงานวิจัยเชิงคุณภาพผูว้ ิจัยยึดแนวทางของ Lincoln, Guba6 ไดแ้ ก่ การเลือกผใู้ หข้ อ้ มูลท่ีเป็ นตวั แทนที่ดี (representativeness) ประกอบดว้ ย ผสู้ งู อายุท่ี มีอายุ 80 ปี ข้ ึนไป เพื่อใหม้ นั่ ใจว่าคาบรรยายพฤติกรรมสุขภาพของผูส้ ูงอายุท่ีมีอายุยืน (credibility) การบรรยายพฤติกรรมสุขภาพของผสู้ งู อายุที่มีอายุยืนท่ีศึกษาใหม้ ากและลึก พอเพื่อสามารถนาผลที่ได้ไปอ้างถึงในบริบทท่ีคล้ายคลึงกัน (transferability) การ ตรวจสอบกระบวนการของการศึกษาวิจยั โดยที่ผูว้ ิจยั อีกหนึ่งท่านสามารถติดตามการ ตดั สินใจต่าง ๆ และเห็นดว้ ยกบั ผลท่ีไดใ้ นการศึกษาโดยไม่มีขอ้ ขัดแยง้ (dependability) และใช้การเขียนบันทึกพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีอายุยืน 3 ด้าน คือ ด้าน พฤติกรรมการบริโภคอาหาร พฤติกรรมการออกกาลังกาย และพฤติกรรมการจดั การ อารมณ์ และความคิดเห็นตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวกบั ปรากฏการณ์ที่ศึกษา เพื่อใหผ้ วู้ ิจยั อีกหน่ึงทา่ น สามารถตรวจสอบได้ (confirmability)

90 วารสารวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ ปีท่ี 1 ฉบบั ที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) ผลการวจิ ยั 1. ขอ้ มูลทวั ่ ไปของกลุ่มตวั อยา่ ง กลุ่มตวั อย่างจานวน 20 คน เพศชายรอ้ ยละ 40 เพศหญิงรอ้ ยละ 60 อายุอยู่ ระหว่าง 80 - 84 ปี จานวน 11 คน คิดรอ้ ยละ 55 รองลงมาคืออายุ 85 – 89 ปี รอ้ ย ละ 25 อายุมากกวา่ 60 ปี รอ้ ยละ 12.5 ตามลาดบั อายุกลุ่มตวั อยา่ งที่ศกึ ษา ส่วนใหญ่ อายุระหว่าง 80-84 ปี จานวน 11 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ 55 รองลงมาคอื อายุระหวา่ ง 85- 89 ปี จานวน 6 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ 30และอายุระหวา่ ง 85-89 ปี จานวน 6 คน คิดเป็ น รอ้ ยละ30 และอายุระหว่าง 90 – 94 ปี จานวน 3 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ15 อายุสูงสุด 94 ปี อายุตา่ สดุ 80 ปี ดา้ นภาวะสุขภาพส่วนใหญไ่ มม่ ีโรคประจาตวั จานวน 11 คน คดิ เป็ น รอ้ ยละ 55 และมโี รคประจาตวั จานวน 9 คน คิดเป็ นรอ้ ยละ 45 2. ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากสมั ภาษณก์ ลุ่มตวั อย่างพบพฤติกรรมสุขภาพของผสู้ งู อายุท่มี ีอายุ ยืน ตาบลประทุม อาเภอเมอื ง จงั หวดั อุบลราชธานี ดงั น้ ี 2.1 พฤตกิ รรมดา้ นการบรโิ ภคอาหาร อาหารหลกั 5 หมู่ ขา้ ว พบว่า ส่วนใหญร่ บั ประทานขา้ วเจา้ หอมมะลิ ดงั ขอ้ มูล “กนิ ขา้ วเจา้ ขา้ วหอมมะลิ กินเป็ นจานพุน้ ละ” (รายที่ 3) “โดยมากมกั ขา้ วเหนียวแต่หมอใหก้ ินขา้ วเจา้ เลยบค่ อ่ ยไดก้ ิน” (รายท่ี 4) “กนิ ขา้ วเจา้ ขา้ วหอมมะลิ” (รายท่ี 6) “กนิ ขา้ วผสมขา้ วไรซเ์ บอรร์ ี่ แตก่ อ่ นกนิ ขา้ วขาวหอมมะลิ ขา้ วซอ้ มมอื สมยั กอ่ น กนิ ประมาณ 1-2 ทพั พี” (รายที่ 17) “ขา้ วหอมมะลิ เอาขา้ วกลอ้ งผสม ” (รายที่ 19) เน้ ือสตั ว์ พบวา่ สว่ นใหญจ่ ะเน้นรบั ประทานเน้ ือปลา ดงั ขอ้ มูล “กินเน้ ือปลาเป็ นหลกั ปลาทบั ทมิ ปลาคอ่ ปลาดุก” (รายที่2) “โดยมากกินปลากนิ หยงั ไป ปลาชบู๊ ปลานาง” (รายท่ี 4) “ส่วนใหญ่กนิ เน้ ือปลา”(รายท่ี 5) “ถา้ ปลายา่ งกินค่ะ”(รายท่ี 7) “ส่วนมากจะกนิ เน้ ือปลา ซ้ ือมาก็จะมปี ลานิล ปลาช่อน” (รายที่ 19) “ตม้ ปลากบั ทอดปลาท”ู (รายที่ 20) ผกั พบวา่ ส่วนใหญ่จะเนน้ ผกั ท่ีหาง่ายตามบา้ นหรือหาซ้ ือไดต้ าทอ้ งตลาด โดยจะตม้ หรือนึ่งใหส้ ุก ก่อน รบั ประทาน ดงั ขอ้ มลู

วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ 91 ปีที่ 1 ฉบับท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) “น่ึงผกั กนิ เล่น น่ึงบกั ถวั่ น่ึงบกั หยงั น่ึงบวบ บกั เขอื บกั แขง้ เอามานึ่งกนิ ผกั ออบแอบ” (รายท่ี 4) “ผกั กะมกั บกั บงุ้ อ้นั ละหลาย ผกั คะนา้ ท่อน้ันละ เอามาลา้ งใหส้ ะอาดแลว้ เอามาตม้ ” (รายที่ 6) “เรื่องผกั นะ แม่กินอยู่ แม่มกั กินผกั บงุ้ ผักสลดั แต่ทกุ ม้ อื น้ ีกินบ่ไดเ้ ลยเด้ ยอ้ นมนั ติดฟันปลอม ยา้ บแ่ หลกแม่กินเป็ นผกั ตม้ กะบก่ ลา้ กนิ สดกะยอ้ นวา ยา่ น ร่างกายเฮาบแ่ ข็งแรง ย่านทอ้ งอดื แน่นทอ้ ง” (รายท่ี 11) “กนิ อยู่ ลงั เทือเขากะลวกผกั กระถนิ กบั แจ่วกบั ปลาแดกไปสนั่ แหล่ว ลวก ผกั ผกั หยงั กะกินไดเ้ บดิ วา่ แต่ลวก” (รายท่ี 14) “ผกั ก็ทุกผกั แหละ ตม้ ใหเ้ ปื่ อยๆ กนิ ไดห้ มด ผกั บงุ้ ผกั กาด” (รายที่ 19) “สว่ นมากกะสเิ ป็ นกะหลา่ ปลี ผกั อีหลา่ อยูร่ ้วั มานึ่ง” (รายท่ี 20) ผลไม้ พบว่าเลือกรบั ประทานผลไม้ ดงั ขอ้ มลู เลือกรบั ประทานผลไมท้ ีม่ สี ีเหลืองและสม้ ดงั ขอ้ มูล “บกั นัดกะกนิ ขา้ วโพดกะกิน” (รายที่ 4) “แม่ชอบสม้ มะม่วง แลว้ ก็สบั ปะรดคะ่ ” (รายที่ 7) เลือกรบั ประทานผลไมท้ ่มี สี ีแดง ดงั ขอ้ มูล “บกั แอปเป้ ิ ลสแี ดงๆกะมี” (รายท่ี 4) “แตงโมยงั ไมก่ นิ กะกบั ขา้ วเลย” (รายที่ 7) เลือกรบั ประทานผลไมท้ มี่ ีสีม่วง มว่ งอมน้าเงิน ดงั ขอ้ มลู “แม่ชอบองุน่ ”(รายท่ี 7) “ผลไมท้ ่ีแกชอบของหวานๆทง้ั หมดเลย องุน่ ไรเ้ มล็ด” (รายที่ 8) ผลไมอ้ ืน่ ๆ “พวกละมุดแหละหลาย มนั หวานมนั เย็นดกี ะเลยมกั กนิ ” (รายที่ 6) “กลว้ ยกท็ านบ่อย ต่นื ข้ นึ มาก็ทานเลยกลว้ ย กลว้ ยกจ็ ะกนิ เล่นๆเลย” (รายท่ี 7) “ขน้ั กลว้ ยน่ีขาดบไ่ ดเ้ ลยเด”้ (รายท่ี 11) “พวกกลว้ ยไข่ กลว้ ยน้าวา้ สองหวสี ามหวีเฮากะกินไป” (รายที่ 12) “กนิ กลว้ ยเป็ นหลกั ” (รายที่ 19) “ส่วนมากกะสซิ ้ ือกลว้ ยน้าวา้ ใหก้ ินนา คาบละหน่วย ” (รายที่ 20) ไขมนั พบวา่ ใชไ้ ขมนั ทไ่ี ดจ้ ากพืช มาปรงุ อาหาร ดงั ขอ้ มูล “น้ามนั ถวั่ เหลืองนิละ” (รายท่ี 1)

92 วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) “น้ามนั องนุ่ น้ามนั บกั พรา้ ว” (รายที่ 2) “น้ามนั พืชละลูกเตา้ เขา้ พากนิ กะกนิ น้ามนั กุก๊ น้ามนั ถวั่ เหลือง” (รายที่ 3) “น้ามนั พชื น้ามนั กุก๊ น้ามนั ถวั่ เหลือง ” (รายที่ 6) “ส่วนมากน้ามนั พชื กจ็ ะทานยหี่ อ้ กุก๊ บอ่ ยมากกวา่ ยี่หอ้ อื่นคะ่ กุก๊ น่ีก็ จะเป็ นน้ามนั มะพรา้ วนะคะ” (รายที่ 7) จานวนม้ อื อาหาร พบวา่ ส่วนมากจะรบั ประทานอาหารครบ 3 ม้ อื ชว่ งเวลาสว่ นใหญท่ ี่รบั ประทานเป็ นชว่ งเชา้ เที่ยงและเยน็ ดงั ขอ้ มูล “กินขา้ วม้ อื ละ 3 เทือ่ 4 เทอ่ื พนุ้ ละ ม้ อื ไดห๋ วิ กะกิน 4 ม้ อื ได๋บค่ อ่ ย หิวกะกิน 2 กะมแี ลว้ แตม่ นั คอื อยากบ่คอื อยากน้ันหนา เชา้ เท่ยี ง แลง”(รายท่ี 2) “ม้ อื ละ 2-3 เทอื นิละ สองโมงเท่ือหน่ึง เที่ยงเท่อื หน่ึง ยามแลงกะ ท่มุ หนึ่งน้ันละ ทมุ่ กว่าๆ” (รายที่ 3) “แลว้ แตบ่ างม้ อื กะสองบางม้ อื กะสาม อนั ช่วงเซา้ กนิ นมอม่ิ ดีซอง หน่ึงใส่น้าฮอ้ น มนั กะอม่ิ กนิ กบั ขนมแลว้ กะส่ีโมงกวา่ ๆจงั มากนิ ขา้ ว บาดนิกะม้ อื แลงพรอ้ ม หมู่ทมุ่ สองทมุ่ ” (รายท่ี 5) “7 โมงกนิ แตเ่ ชา้ เทีย่ งกะกินตรง แลงกะประมาณหา้ หกโมง” (รายท่ี 16) นอกจากน้ ียงั พบวา่ มบี างรายรบั ประทานอาหาร 2 ม้ อื “ม้ อื หนึ่งตามปกติคอื ม้ อื นิกิน 2 เทอื่ นิละ กินตอนเชา้ 2 โมงนิละ แลว้ ก็ตอนเย็น” (รายที่ 1) “บางเทอื กะกินคาบเดยี วแลว้ แต่มนั หวิ กินแต่เซา้ กะแลว้ แลงนอน เลย ถา้ มันพออยู่ กะอยู่กะนอนเลย ถา้ ว่าเฮากินขา้ วเหนียวมนั อืดมนั เป็ นแน่นๆทอ้ ง ลาง เทือกะกนิ 3 คาบอยู่ อย่างหลาย 2 คาบทอ่ น้ันละ” (รายท่ี 4) “กินขา้ วยามเที่ยงกบั แลง” (รายที่ 6) “ทกุ ม้ อื น้ ีพ่อกิน 2 คาบ กนิ เชา้ กบั เย็น” (รายที่ 9) “วนั หน่ึงกนิ 2 เทอื กินเชา้ กบั กนิ เที่ยง ยามมอ่ื แลงบก่ ินดอก” (รายท่ี 13) “วนั ละ 2 คาบ สามโมงค่อยกนิ แลว้ กบ็ า่ ย 2” (รายที่ 18)

วารสารวิทยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 93 ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) น้าด่ืม พบว่าผสู้ งู อายุส่วนใหญ่ ชอบด่ืมน้า ดงั ขอ้ มลู “หลายๆ แตย่ ามเชา้ นี่กะเบิดโอนึง ตื่นมาป๊ับนี่หละขนั น่ีหละจงั่ วา่ ห้ วิ กระติกน้านอ้ ยออกมานาโลด กะคอ่ ยๆกนิ ไป มกั กินน้าเปล่าประมาณ 4 แกว้ ”(รายท่ี 9) “ดมื่ ก็ 1 ขวดเท่าขวดน้าอดั ลมนะ เขาจะเอาไปกรอกไวข้ วดขนาดเทา่ น้ัน จะด่มื ได้ 2 วนั ประมาณ 4 แกว้ ” (รายท่ี 10) “น้าเปล่ากนิ เป็ นน้าขวด 2 ขวดกะหมดทง้ั ม้ อื ประมาณ 3 แกว้ ” (รายท่ี 16) “น้าเปล่าวนั ละ 2 ขวดใหญอ่ ย่างตา่ บางมื่อกะ 3 ขวด” (รายที่ 17) “ซ้ ือเป็ นถงั แลว้ กะมาไห่ใส่ขวดน้อยใหเ้ พิ่นกินม้ อื ละสองขวดนอ้ ย” (รายที่ 18 ) 2.2 พฤตกิ รรมดา้ นการออกกาลงั กาย จากการศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของผสู้ งู อายุทีม่ อี ายุยืน พบวา่ ดา้ นการออกกาลังกายสาหรับเพิ่มความทนทานของระบบหวั ใจและหลอดเลือด กิจกรรมที่ สามารถทาไดต้ ่อเนื่อง เช่น เดิน ว่ิง ปั่นจักรยาน หรือเตน้ แอโรบิค เป็ นตน้ พบว่า ผสู้ งู อายุส่วนใหญจ่ ะใชก้ ารเดนิ เป็ นวธิ กี ารออกกาลงั กาย โดยสว่ นมากผสู้ งู อายุจะใช้ เวลาในการเดนิ คร้งั ละ 30-60 นาที ดงั ขอ้ มูล “หย่างเลาะยุนามุนิละ หย่างหลบไปหลบมายุบา้ นเฮานิละ” (ราย ท่ี 2) “ม้ อื หนึ่งหย่างหลาย ประมาณ 50 เทื่อ ออ้ มอยู่ (รายที่ 5) “ใชก้ ารเดนิ คะ่ 1 ชวั่ โมง แตไ่ มใ่ ช่ 1 ชวั่ โมงเดินตลอดนะคะ เดิน บา้ งพกั บา้ งคะ่ ” (รายท่ี 7) “มเี ดินหนา้ บา้ น 1 สปั ดาห์ 3 คร้งั ได้ แต่กเ็ ดินออกมาตากผา้ เกือบทุกวนั นะ” (รายที่ 8) ดา้ นการออกกาลงั กายสาหรบั เพ่ิมความยดื หยุน่ ของกลา้ มเน้ ือชนิด stretching exercise เลือกกลา้ มเน้ ือทต่ี อ้ งการยดื ใหเ้ หมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ จนกวา่ กลา้ มเน้ ือจะลด ความตงึ ตวั ความถ่ี 3 รอบต่อวนั สามารถทาไดท้ ุกวนั พบว่าผสู้ งู อายุใชว้ ิธีแกวง่ แขนเป็ น การออกกาลงั กาย ดงั ขอ้ มลู “บดั ยามสนิ อนกะยกขายกแขน หมุนไปหมุนมาคาวเดยี ว” (รายท่ี4) “ธรรมดาเฮาแกว่งแขน กวดั ไปกวดั มา” (รายท่ี 12) “ออกกาลงั กายกะแก่งแขนธรรมดา” (รายท่ี 15)

94 วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ ปที ่ี 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) “แต่ก่อนแกว่งแขน ขา แลว้ กะยกขา ยกแขน” (รายท่ี 16) 2.3 พฤตกิ รรมดา้ นจดั การอารมณ์ ดา้ นการยบั ยง้ั อารมณ์ (Emotional Inhibition) พบวา่ ผสู้ งู อายุ สว่ นมากมวี ธิ กี ารควบคุมอารมณโ์ ดยใชห้ ลกั ธรรมะ การปล่อยวางไม่ใหเ้ กดิ อารมณโ์ กรธ หรือเครียด ดงั ขอ้ มลู “อ่านหนังสอื ตลอด หนังสือธรรมะ ถา้ วา่ งๆกะอ่าน” (รายท่ี 2) “นัง่ สมาธิทุกเชา้ สวดมนต”์ (รายท่ี 13) “กจ็ ะชอบสวดมนต์ พระทา่ นชว่ ยไง เรามที ุกขร์ อ้ น มีอะไรกข็ อพร ไม่ สบายใจก็ สวดมนต”์ (รายท่ี 19) ดา้ นการทบทวนอารมณ์ (Emotional Rumination) พบว่าผสู้ งู อายุ มี วิธกี ารจดั การอารมณโ์ ดยไตร่ตรองสาเหตุของความเครียดและความโกธร ดงั ขอ้ มลู “เฮากะเฒ่าแลว้ สิไปหาเครียดจงั สนั่ จงั สิเฮ็ดหยงั งานการกะบ่มกี ะ สบายแลว้ เฮาสิไปเครียดนาลูกหลานเฮ็ดหยงั่ ” (รายท่ี 1) “กะท่องในใจ เคยี ดหนอ เคียดหนอ แลว้ มนั กะเซาไปเองนัน่ ละ ลองเฮ็ดเบง่ิ เดอ้ ” (รายที่ 11) “ขน้ั เฮาเครียด เฮากะพกั ก่อน มนั กะหายไปเองมนั ” (รายที่ 12) ดา้ นการควบคุมลกั ษณะอารมณใ์ หส้ มเหตสุ มผล (Benign Control) พบวา่ ผสู้ งู อายุมีการควบคุมและผ่อนคลายอารมณจ์ ากความเครียดและความ โกรธโดยการฟังเพลง ฟังวทิ ยุ หรือสื่อบนั เทงิ ต่างๆ ดงั ขอ้ มูล “ฟังแต่เพลง รอ้ งเพลงใหเ้ ขาฟังนา” (รายที่ 4) “มีแต่ฟังวิทยุ แลว้ แตอ่ ยากฟังเพลงหยงั่ กะฟัง” (รายที่ 5) “กะมแี ตฟ่ ังหมอลานิละ” (รายที่ 18) การอภิปรายผล จากการศึกษาพฤตกิ รรมสุขภาพของผสู้ งู อายุที่มอี ายุยนื ในตาบลปทุม อาเภอเมอื ง จงั หวดั อบุ ลราชธานี มกี ารอภิปรายผลดงั ตอ่ ไปน้ ี พฤตกิ รรมดา้ นการบรโิ ภคอาหาร จากการศึกษา พฤติกรรมสุขภาพของผูส้ งู อายุท่ีมีอายุยืนพบว่า มีการรับประทาน อาหารครบ 3 ม้ ือบริโภคอาหารครบ 5 หมู่ โดย การรับประทานอาหารส่วนมากจะ รบั ประทานเน้ ือปลาเป็ นหลกั สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ ศนั สนีย์ กระจ่างโฉม และสุวภิ า7 พบว่า ผู้สูงอายุรับประทานอาหารวันละ 3 ม้ ือ เน้นม้ ือเชา้ และม้ ือกลางวัน ไม่ค่อย รับประทานหมูและเน้ ือมากนัก ไม่นิยมใส่เน้ ื อสัตว์ในอาหารแต่ละประเภท หากเป็ น

วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ 95 ปที ี่ 1 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สงิ หาคม 2560) เน้ ือสตั ว์ ส่วนใหญ่จะรับประทานปลาที่ลูกหลานหามาให้ การรบั ประทานอาหารประเภท ขา้ ว พบวา่ ผูส้ ูงอายุรบั ประทานขา้ วเจา้ เป็ นหลัก และไขมนั ท่ีใชป้ ระกอบอาหารสว่ นใหญ่ได้ จากพืช และเป็ นน้ามันถวั่ เหลือง การรับประทานผักเน้นผกั ที่หาไดง้ ่ายตามพ้ ืนบา้ นโดย ผ่านการตม้ หรือนึ่งใหน้ ิ่มเพ่ือง่ายต่อการรับประทาน สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ ศนั สนีย์ กระจ่างโฉม และสุวภิ า จาปาวลั ย5์ รายการอาหารหลักแตล่ ะม้ ือ ทานพรอ้ มผกั นึ่ง/ผกั ลวก น้าปูและน้าพริกต่างๆ ทานพรอ้ มผกั สดและผักลวกท่ีหาไดใ้ นทอ้ งถิ่น ผลไมท้ ี่รบั ประทาน ส่วนใหญ่เป็ นกลว้ ยเนื่องจากหาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ่นสอดคลอ้ งกับการศึกษาของ นภสั วรรณ ทรพั ย์มา และไฉไล ศกั ดิวรพงศ์8 พบว่า ผูส้ ูงอายุในชุมชนดอนคารับประทานเป็ นประจา น้ันเป็ นประเภทผกั และ ผลไมท้ ่ีมาจากปลกู เองทีบ่ า้ น โดยจะรบั ประทานทานผกั และผลไม้ ทุกชนิดโดยเฉพาะ กลว้ ยน้าวา้ จะชอบทานเป็ นพิเศษ ซ่ึงอาหารทรี่ บั ประทานเป็ นอาหารท่ี มีประประโยชน์และปลอดสารพษิ นอกจากยงั มีการรบั ประทาน องุ่น สปั ปะรด สม้ มะมว่ ง แตงโม และแอปเป้ ิ ลแดงดว้ ย สอดคล้องกับการศึกษาของสถาบันสุขภาพนิวทรีไลท์ (Nutrilite Health Institute)9 พ บ ว่าใน ความ เป็ น จริงแล้วผักผล ไม้แต่ล ะชนิ ด ให้ คุณประโยชน์จาก ไฟโตนิวเทรียนท์ที่ต่างกัน ดังน้ันการท่ีจะไดร้ บั ไฟโตนิวเทรียนทอ์ ย่าง เต็มท่ี จึงตอ้ งกนิ ผกั ผลไมใ้ หห้ ลากสีดว้ ย โดยแบง่ สีของผกั ผลไมอ้ อกเป็ น 5 กลุ่ม หรือ 5 สี คือ สีเขียว แดง เหลือง ม่วง และขาว เพราะแต่ละชนิดแต่ละสี ใหส้ ารไฟโตนิวเทรียนทท์ ี่ แตกต่างกนั ไป และด่มื น้าเปล่าเป็ นหลกั วนั ละ 8 แกว้ สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ วนั ทนีย์ เกรียงสนิ ยศและคณะ10 พบว่าความตอ้ งการน้าในผสู้ งู อายุจะนอ้ ยกว่าวยั ผใู้ หญ่และเด็ก แต่ พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะด่ืมน้าในปริมาณน้อยและไม่เพียงพอต่อความตอ้ งการของ ร่างกาย ดงั น้ันผสู้ งู อายุควรดืม่ น้าประมาณวนั ละ 6-8 แกว้ เป็ นประจาทกุ วนั พฤตกิ รรมดา้ นการออกกาลงั กาย จากการศกึ ษาพบวา่ วธิ กี ารออกกาลงั กายของผสู้ งู อายุส่วนใหญ่เป็ นการออกกาลัง กายเพ่ือเพ่ิมความทนทานของระบบหวั ใจและหลอดเลือดคือการเดินซึ่งเป็ นกิจกรรมที่ สามารถทาไดต้ ่อเนื่อง โดยส่วนมากผูส้ ูงอายุจะใชเ้ วลาในการเดินคร้ังละ 30-60 นาที นอกจากน้ ียงั พบว่าผูส้ ูงอายุบางรายใชว้ ิธีการออกกาลังกายเพื่อความยืดหยุ่นกลา้ มเน้ ือ หรือยดื เหยยี ดกลา้ มเน้ ือคือ การแกว่งแขนซึ่งเป็ นกิจกรรมทสี่ ามารถทาไดท้ ุกวนั พฤตกิ รรมดา้ นการจดั การอารมณ์ จากการศึกษา พบว่าผูส้ ูงอายุมีการจัดการอารมณ์ดา้ นการยับย้ังอารมณ์ ท่ีมี วิธีการควบคุมอารมณ์โดยใชห้ ลักธรรมะ พรหมวิหาร 4 คือ การปล่อยวางไม่ใหเ้ กิด อารมณโ์ กรธหรือเครียดเป็ นส่วนใหญ่ ดา้ นการทบทวนอารมณ์ พบว่าผสู้ งู อายุ มีวธิ กี ารอยู่ กบั ตัวเอง เพื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเอง และสุดทา้ ย คือ ดา้ นการควบคุมลักษณะ

96 วารสารวทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์ ปที ่ี 1 ฉบบั ที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) อารมณ์ให้สมเหตุสมผล พบว่าผู้สูงอายุมีการควบคุมและผ่อนคลายอารมณ์จาก ความเครียดและความโกรธโดยการฟังเพลง ฟังวิทยุ ซ่ึงจะสอดคลอ้ งกบั แนวคิดเกี่ยวกบั การควบคุมอารมณ์ นอกจากน้ ีผสู้ งู อายุยงั มวี ิธีการจดั การอารมณโ์ ดยการทากจิ กรรมทีเ่ ป็ น ประโยชน์อีกดว้ ย สอดคลอ้ งกบั บทความของ นภสั วรรณ ทรพั ยม์ า และไฉไล ศกั ดิวรพงศ์8 ไดก้ ล่าวไวว้ ่า อารมณ์และสภาพจิตใจ โดยทวั่ ไปผูส้ ูงอายุท่ีอายุยืนเป็ นผูท้ ี่มีอารมณ์ดี ไม่ เครียด สนุกสนานเขา้ ร่วมกิจกรรมประเพณีชองชุมชนอย่างสมา่ เสมอ มีทศั นคติทางบวก และนาหลกั ธรรมคาสอนของพระพทุ ธศาสนาในการดารงชีวิต ขอ้ เสนอแนะ จากการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุ มีการรับประทานอาหารท่ีสอดคลอ้ งกับความ ตอ้ งการและความชอบของตนเอง ดงั น้ันจงึ ควรจัดโปรแกรมใหค้ วามรูด้ า้ นโภชนาการดา้ น การออกกาลงั กายและดา้ นอารมณ์ ท่ีเหมาะสมสาหรบั ผูส้ งู อายุทม่ี ีอายุมากกว่า 80 ปี ข้ ึน ไป เพอ่ื เป็ นทางเลือกทผ่ี สู้ งู อายุสามารถเลือกปฏิบตั ไิ ดต้ ามความเหมาะสม ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การวิจยั ครง้ั ตอ่ ไป ควรมีการนาขอ้ คน้ พบท่ีไดจ้ ากการศึกษาคร้งั น้ ีไปดาเนินการวิจยั ในเชิงปริมาณ เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู จานวนมากข้ นึ ซ่ึงจะเป็ นประโยชน์ในการจดั ทานโยบายในการดแู ลผสู้ งู อายุ ตอ่ ไป บรรณานุกรม 1. ปราโมทย์ ประสาทกุล บรรณาธกิ าร. สถานการณผ์ สู้ งู อายุไทย พ.ศ. 2559. สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คมมหาวิทยาลยั มหดิ ล. 2560. 2. มูลนิธิสถาบนั วิจยั และพฒั นาผูส้ งู อายุไทย. สถานการณ์ผูส้ ูงอายุไทย ประจาปี 2560. มูลนิธสิ ถาบนั วจิ ยั และพฒั นาผสู้ งู อายุไทย (มส.ผส.). 2560. 3. โปรแกรมฐานขอ้ มลู โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตาบลปทุม, 2560. 4. กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข. การดาเนินงานส่งเสริมสุขภาพตามกลุ่มวยั . รายงาน ประจาปี กรมอนามยั . 2554;27–42. 5. Liamputtong, P. Qualitative Research Methods. Australia & New Zealand: Oxford University Press. 2009.

วารสารวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสทิ ธปิ ระสงค์ 97 ปีท่ี 1 ฉบับท่ี 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2560) 6. Lincoln YS, Guba EG. Naturalistic inquiry. Newbury Park, CA: Sage Publications; 1985. 7. ศนั สนีย์ กระจ่างโฉม และสวุ ภิ า จาปาวลั ย.์ การบริโภคอาหารทีท่ าใหม้ อี ายุยนื ยาวของ ผสู้ งู อายุกลุ่มชาติพนั ธุไ์ ทยวนในอาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่. 2557. 8. นภสั วรรณ ทรพั ยม์ า และไฉไล ศกั ดวิ รพงศ.์ แบบแผนการดาเนินชีวิตของผสู้ งู อายุท่ีมี อายุยืนยาว ในชุมชนดอนคา อาเภอทา่ ตะโก จงั หวดั นครสวรรค.์ วารสารสงั คมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ปี ที่ 40. ฉบบั ที่ 2. 2557;113-4. 9. สถาบนั สุขภาพนิวทรีไลท.์ รฐั แคลิฟอรเ์ นีย ประเทศสหรฐั อเมริกา. 2557. 10.วนั ทนีย์ เกรียงสินยศ และคณะ. องคค์ วามรดู้ า้ นอาหารและโภชนาการสาหรบั ทกุ ชว่ ง วยั . ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ. สานักอาหาร สานัก คณะกรรมการอาหารและยา. 2559.