วารสารเพจเด็กเรียน_ฉบับที่_1_เดือน_ตุลาคม_2555

ฉบับที่ 1 เดือน ตุลาคม 2555

สวัสดเี ดก็ เรียนทกุ ท่านครบั ฉบับน้ีเปน็ ฉบบั แรกของ วารสารเพจเด็กเรียน 4.00 เป็นการเปิดตวั อยา่ งเปน็ ทางการทั้งท่ยี งั มี ความพร้อมไมม่ ากนกั ครบั ฉบบั แรกมาพร้อมกับ “ประวตั ขิ องดินสอ” ท่เี ราใชก้ นั ทกุ วนั ว่ามีวนั มีจดุ กาเนินอยา่ งไรและมอี หี ลายเรอ่ื งให้น่าตดิ ตาม ฉบบั แรกคงไม่พูดไรมากเพราะตนื่ เต้น กบั การเปดิ ตวั วารสารฉบับ แรกของเพจเด็กเรียน วารสารของเราอาจจะไม่สวยเหมือนวารสารอน่ื นะ ครับ แอดมนิ ไม่มีศลิ ปะในตัวเท่าไหร(่ เน้นความร)ู้ และกาลงั หาฝา่ ยศลิ ป์ ในการจดั ทารปู เล่มอยนู่ ะครบั ฉบับหน้าอาจจะพบกับการสอนของ คุณครทู างวารสารของเดก็ เรยี น สดุ ทา้ ยหากตอ้ งการติชมหรอื ตอ้ งการแนะนาก็แนะนา ไดท้ ่ี facebook: เดก็ เรยี น 4.00 www.facebook.com/DEKlearning E-mail : [email protected] นะครับ 2

สารบัญ กระตุ้น”สมอง”เพ่ือการต่ืนตัวเสมอ 1 \"ความสาเร็จ\"คือสิ่งท่ีเริ่มจากการวางแผนที่ดี 3 พัฒนาการ”เขียน” 4 Game SUDOKU 7 จุดกาเนิดและประวัติของดินสอ 8 การประกวดภาพถ่าย\"ยกย่องเชิดชูเกียรติครู\" 10 10 อันดับ website เปล่ียนโลก 11 อาเซียนศึกษา ประเทศมาเลเซีย และ ประเทศ อินโดนิเซีย 12 10 อันดับ โรงเรียนดีท่ีสุดในระเทศ 13 “ผักบุ้ง”มีประโยชน์มากกว่าท่ีคิด 14 เที่ยวเต็มอิ่ม ณ ดอยอินทนนท์ 15 กลอนให้กาลังใจ 16 ๑๐๘ ปัญหา ถามมาตอบไป 17 3

>>> ทาในสง่ิ ทไี่ มค่ อ่ ยไดท้ า <<<< เพราะในการดาเนนิ ชวี ติ ในแตล่ ะวนั มกั เปน็ ในรปู แบบเดมิ ๆ ทาใหส้ มองเกดิ ความ เคยชนิ และไมม่ กี ารพฒั นาเทา่ ควร หรอื ทาจะทาใหค้ ณุ ใชส้ มองซกี ใดซกี หนง่ึ จนเกนิ ไป เชน่ การนง่ั โตะ๊ เดมิ ๆในการคาบเรยี นนน้ั ๆ กล็ องเปลย่ี นโตะ๊ นง่ั บา้ งจากหลงั หอ้ งเปน็ หนา้ หอ้ งบา้ ง การทา ในสง่ิ ทเ่ี ปลยี่ นไปถงึ เลก็ นอ้ ยกค็ อื วา่ เปน็ การกระตนุ้ ความคดิ ไดอ้ ยา่ งดี >>> ทาในสงิ่ ทไ่ี มป่ กติ <<<< อาจะฟงั ดไู มค่ อ่ ยเขา้ นกั ทจ่ี ะทาอะไรแปลกๆ แตก่ ารทสี่ มองไดล้ องคดิ ทาสงิ่ ใหมๆ่ กช็ ว่ ยกระตนุ้ ความคดิ ได้ ลองทาอะไรทกี่ ลบั ดา้ นจากเดมิ กเ็ ปน็ การเปลย่ี นบรรยากาศ เชน่ หากคณุ เขยี นหนงั สอื ดา้ นขวาเปน็ ปกตใิ หค้ ณุ ลองเปลย่ี นมาเขยี นดา้ นซา้ ยบา้ ง หรอื อาจจะลอง อา่ นหนงั สอื จากดา้ นหลงั กอ่ นยอ้ นกลบั มาเรอื้ ยๆ ซงึ่ เปน็ เรอ่ื งทค่ี ณุ ไมค่ นุ้ เคย แตก่ ส็ ามรถกระตนุ้ สมองคณุ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี วารสารเด็กเรยี น หนา้ -1 4

>>> กจิ กรรมกระตนุ้ สมอง <<<< หากคุณอยากใหส้ มองคณุ ตน่ื ตวั ตลอดเวลาก็ควรกจิ กรรมทีช่ ว่ ยปลกุ เซลล์ สมองเปน็ ตน้ วา่ เกมทต่ี อ้ งใช้ความคดิ ความจา ปรศิ นาอกั ษรไขว้ การคิดเลข เชาว์ปัญญา ลอง หาเกมเหลา่ นต้ี ดิ ตัวไวเ้ ล่นยามว่างๆ จะทาใหค้ ุณสมองดดี ว้ ยวธิ สี นกุ ๆ >>> ขา่ วสารนา่ รู้ <<<< ทกุ วนั โลกมกี ารเปลยี่ นแปลงไปอยา่ งมาก จงึ ควรใสใ่ จตดิ ตามขา่ วสารบ้านเมือง หรือข่าวสารเก่ียวกับ IT ข่าวการศึกษา ตลอดเวลานอกจากจะทาใหค้ ุณเปน็ คนทันตุการณ์แลว้ การรับสารขา่ วหรอื เรอ่ื งราวใหมๆ่ จะทาให้สมองเกดิ ความคิดและความจาอย่างต่อเนอ่ื ง วารสารเด็กเรยี น หน้า-25

คนรนุ่ ใหม่จำนวนมำกตอ้ งเผชญิ กับควำมลม้ เหลวและ ไม่ประสบควำมสำเรจ็ ในชีวิต เพรำะไม่มกี ำรวำงแผนของชีวติ เอำไว้ ชีวติ ต้องเป็นไปตำมขน้ึ ตอนโดยมกี ำรวงแผนไวล้ ่วงหนำ้ ในโลกของความเปน็ จรงิ มวี ยั รนุ่ จานวนมาก ทใ่ี ชช้ วี ติ อยา่ งไมม่ กี ารวางแผนการ เปน็ การใชช้ วี ติ อยา่ งไมม่ เี ปา้ หมายชวี ติ ดงั นนั้ ควรจะรวู้ า่ ตนเองคอื ใคร ตอ้ งทาอะไร เพอื่ สง่ิ ใด และตอ่ จากคณุ มแี นวคดิ ในการวางแผนและเปน็ ไปอยา่ งมขี น้ั ตอน วางแผนอยา่ งไมเ่ รง่ รบี โดย การไตเ่ ตา้ ไปชา้ ๆ แตม่ นั่ คง จงึ กลา่ วไดว้ า่ ชวี ติ ทมี่ กี ารวางแผน คอื สงิ่ ทท่ี าใหต้ วั เองรวู้ า่ ตอ้ งทา อะไร จงึ ตอ้ งมงุ่ มน่ั ไปทางนนั้ ทางทว่ี า่ งแผนไวโ้ ดยไมเ่ สยี เวลาหลงทางกบั สง่ิ ทไ่ี มใชเ่ ปา้ หมายของ ชวี ติ ดงั นนั้ การทคี่ นรนุ่ ใหมเ่ รมิ่ ตน้ ทางานสว่ นมาก ยงั คงสนกุ สนานกบั การใชช้ วี ติ ทตี่ ดิ พนั มา จากชว่ งทเ่ี ปน็ นกั ศกึ ษา เลกิ งานกเ็ อาแตเ่ ทย่ี วเตร่ สงั สรรคก์ บั เพอื่ นฝงู ไมเ่ กบ็ เงนิ ไมม่ องหา ลทู่ างของอนาคต กวา่ จะรตู้ วั กม็ านงั่ เสยี ดายวนั เวลา เสยี ดายเงนิ คา่ เหลา้ บหุ ร่ี คา่ เทย่ี ว หมดไปมากมายและเปลา่ ประโยชนเ์ ทา่ ทค่ี วร แตกตา่ งจากเพอ่ื นรว่ มงานกลมุ่ เดยี วกนั ทว่ี างแผนชวี ติ โดยมหี นา้ ทกี่ ารงานคอื สงิ่ สาคญั ทจี่ ะสรา้ งฐานะ สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตวั เองพรอ้ มทง้ั ประหยดั อดออม เพอื่ หากวนั ขา้ งหนา้ เกดิ เหตกุ ารณฉ์ กุ เฉนิ อนั ไมค่ าดคดิ วา่ จะเกดิ ขนึ้ เชน่ เจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย วารสารเดก็ เรยี น หน้า-3 6

พฒั นาการ”เขียน” กำรเขียนซึ่งถอื เป็นทกั ษะสำคญั ในกำรเรยี นและเชื่อวำ่ หลำยๆคน ประสบปญั หำ ลำยมอื ไม่สวย ลำยมืออ่ำนยำก เขียนชำ้ จดไมท่ ัน ก็โดน ตดั คะแนน บญั หำนที้ ำใหไ้ มย่ ำกส่งงำนไปเลย ซึ่งอปุ สรรคเหล่ำเล็กๆน้อยๆ เหลำ่ นที้ ำใหค้ วำมเกง่ ในตวั คณุ ลดลงเพรำะกำรเขยี นไม่เก่งจะไม่ใช่ เรือ่ งยำกอีกตอ่ ไป หำกคุณลองนำเทคนคิ เหล่ำนี้ไปใช้ในห้องเรียน 1> เขยี นลายมือใหอ้ า่ นงา่ ยๆๆ การเขยี นลายมอื อา่ นออกง่ายนั้นจะตอ้ งอาศยั เวลาในการฝกึ ฝนสักนดิ ควรเริ่มจากกร เขยี นตวั บรรจง ชา้ ๆ ไมต่ อ้ งรบี หรือจะหาซอ้ื หนงั สอื หัดเขยี น ก-ฮ ของเดก็ อนุบาลมาลอง เขียนดู ซ่ึงเมอ่ื เขยี นตวั บรรจงไดแ้ ลว้ กล็ องเพิม่ ความเร็วในการเขียน แต่อยา่ พยามเขยี นให้เรว็ มากจนเกินไปเพราะจะทาให้ตัวหนังสอื ขยกุ ขยิก 2> เขยี นดว้ ยความเขา้ ใจ ไม่วา่ จะเปน็ การบา้ น รายงาน ขอ้ สอบ ขอแนะนาใหเ้ ขยี นดว้ ยความเขา้ ใจ เพราะการเขยี นดว้ ย ความเข้าใจจะทาใหข้ อ้ ความทส่ี อ่ื ออกมาอ่านงา่ ยและเข้าใจงา่ ย ซงึ่ หากเราเขยี นขณะทเี่ ราไม่มคี วามรหู้ รอื ขณะอยู่ในอาการงงกจ็ ะทาให้สิ่งทเ่ี ขยี นออกมาน้ันเลือ่ นลอย คลมุ เครอื ไม่มคี วามชดั เจน ซง่ึ อาจทาให้ โดนตดั คะแนนได้ ดงั น้ันก่อนทจี่ ะลงมอื เขียนควรวา่ งแผนหรือทาความขา้ ใจในหวั ข้อท่จี ะเขยี นกอ่ น วารสารเด็กเรยี น หนา้ -4 7

3> เขยี นวนั เดือน ปี รายละเอยี ดปลกี ย่อยลงไปด้วย การจดบันทกึ ประจารายวชิ า เราควรเขียนวันเดอื นปี คาบวชิ าทเี่ รียนลงไปบนสมดุ ด้วยและควรใช้ตัวยอ่ ให้เขียนลงบนบรรทดั แรกของกระดาษ โดยเหตุผลของการเขียนเพราะวา่ เมอ่ื นาไปสง่ อาจารย์จะได้ทราบว่า เป็นงานทส่ี งั่ ของวนั ไหนเพอ่ื ความสะดวกในการใหค้ ะแนน 4> ฝึกเขยี นให้รวบรดั กระชับและตรงประเด็น คุณควรฝึกเขียนให้รวบรดั กระชับและตรงประเด็น โดยในระหว่างทท่ี าขอ้ สอบใหค้ ณุ อ่านโจทยใ์ หเ้ ขา้ ใจ หลงั จากนั้นวเิ คราะห์และคิดดีๆ ว่าคาตอบทีถ่ กู ต้องมอี ะไรบ้าง ซง่ึ ต้องนคี้ วรเลอื กเฉพาะเน้ือหาทถ่ี กู จริงๆและ อยา่ พยามเขยี นสิง่ ท่ีไม่เกยี่ วข้องกับคาตอบลงไปเพราะอาจจะส่งผลให้อาจารยต์ รวจขอ้ สอบแลว้ รู้สึกวา่ คุณไม่ ตั้งใจนาสิ่งทเี่ รยี นมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ 5> อยา่ พยามเขียนอธบิ ายในเรือ่ งท่ีไม่เกยี่ วขอ้ ง ก่อนลงมือเขียนอย่าน้อยคุณควรไปอ่านหนังสอื ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั เรอื่ งที่เขียน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ใน การเขยี นรายงานและขอสอบ คุณควรศกึ ษาและอา่ นหนงั สอื ทเี่ กี่ยวข้องใหม้ ากๆ เพราะยิง่ คณุ เขยี น เนอ้ื หาออกมาไดต้ รงประเด็นและได้ใจความมากไหรก่ ็จะไดค้ ะแนนย่ิงมากนัน้ วารสารเด็กเรยี น หนา้ -5 8

6 >ควรเวน้ ยอ่ หนา้ การเวน้ ย่อหนา้ จะทาใหเ้ รอื่ งทเ่ี ขียนสามรถอา่ นงา่ ยขน้ึ ซงึ่ หากคุณเขียนติดๆกนั จะทา ให้รายงานท่ีสง่ ไม่นา่ อ่าน เพราะฉะนั้นแลว้ การเขยี นรายงานทด่ี ๆี ก็ควรมีการเว้นยอ่ หน้าดว้ ย เพราะนอกจากจะทาให้นา่ อ่านแลว้ ยงั จะชว่ ยทาใหไ้ ด้คะแนนในการวางรปู เลม่ เพมิ่ ขน้ึ ดว้ ย 7> รักษาความสะอาดในงานเขียน เป็นเรอื่ งธรรมดาในการเขยี นการบ้าน จะเกดิ ความผิดพลาดแน่นอน เพราะฉะน้ันแลว้ คณุ ควรระมัดระวังเรอื่ งความสะอาดใหม้ าก อยา่ ลืมว่างานดตี ้องมีความสะอาด ดังน้ันเมอ่ื มี การเขยี นผดิ ขอแนะนาวา่ คุณไม่ควรใชป้ ากกาลบ ขดู ขีด ตวั หนงั สือ เพราะจะทาให้งานที่ นาไปสง่ ดสู กปรก ซ่ึงตรงนีค้ ณุ ควรเลอื กใชย้ างลบและนา้ ยาลบคาผดิ จะดกี วา่ วารสารเด็กเรยี น หนา้ -6 9

พัฒนาสมองประลองความรู้กบั เกม sudouk กติกาการเล่น ทีเ่ พจเด็กเรียนจัดเตรยี มมาใหส้ าหรับพฒั นา สมองโดยเฉพาะครับผม เพียงเติมตัวเลขจาก 1-9 ลงในแต่ละ ช่อง โดยมีเง่ือนไขว่าในกรอบส่ีเหลี่ยม แชร์ได้ท่ี ย่อย 3X3 น้ันจะต้องมีตัวเลข 1-9 ไม่ facebook.com/DEKlearning นะครบั ซ้ากัน และขณะเดียวกันในแต่ละช่อง ทั้งแนวต้ังและแนวนอน จะต้องมีตัวเลข 1-9 ไม่ซ้ากันด้วยเช่นกันครับ พร้อม แล้วเริ่มกันเลย!! วารสารเดก็ เรยี น หน้า-7 10

จดุ กำเนดิ และประวัติของดนิ สอ เม่ือประมำณ 400 กวำ่ ปกี อ่ น บำทหลวงชำวสวสิ เซอรแ์ ลนดไ์ ด้เป็นผู้คิดคน้ ประดิษฐ์ เครอ่ื งเขยี นทที่ ำจำกขนนกขน้ึ เป็นครั้งแรก แตใ่ ชต้ ้นทนุ คอ่ นขำ้ งสงู และไสด้ นิ สอมีควำมเปรำะเกิน กวำ่ จะใชใ้ นงำนเขียนปกตไิ ด้ ทำใหง้ ำนเขยี นชำ้ มำก ตอ่ มำในปี ค.ศ. 1564 ไดม้ ีกำรคน้ พบวัสดุที่ ใช้ทำไส้ดินสอได้ดโี ดยบงั เอิญ เนอื่ งจำกเกิดพำยใุ หญใ่ นทุ่งเลย้ี งแกะ ใกล้กับหมบู่ ้ำนบอร์โรวเ์ ดล ตำบลคมั เบอรแ์ ลนด์ ประเทศองั กฤษ ต้นไมใ้ หญ่ถกู พำยพุ ดั ถอนรำกถอนโคนเปน็ จำนวนมำก หลังจำกพำยุสงบชำวบำ้ นได้พบหนิ สดี ำอยใู่ ต้ดนิ ณ บริเวณรำกของตน้ ไมท้ ่ีโคน่ ลม้ เมอื่ ทดลอง นำมำขีดเขียน ปรำกฏวำ่ มคี วำมคมชดั ดมี ำก คนเล้ียงแกะจึงนำมำเขยี นสัญลกั ษณล์ งบนตวั แกะ ของตนเอง หนิ สดี ำท่คี น้ พบในครง้ั นั้นคอื แกรไฟต์ ( Graphite เปน็ คำร์บอนชนิดหน่ึง ) หลังจำก นน้ั ไม่นำนมผี ูน้ ำหนิ นม้ี ำทำเป็นแทง่ และนำไปขำยโดยโฆษณำว่ำเป็น \" หนิ สี \" สำมำรถนำไปเขยี น บนส่งิ ใดกต็ ดิ ทง้ั นั้น พอ่ ค้ำนิยมซ้อื ไปเขยี นตรำสญั ลักษณ์และทำเครอื่ งหมำยบนสนิ คำ้ หรอื หบี ห่อ ทีบ่ รรจสุ นิ คำ้ ของตน เพอื่ เป็นกำรบอกชนดิ จำนวน และรำคำของสินคำ้ นน้ั ๆ ต่อมำพระเจำ้ จอร์ช ที่ 2 ได้ยดึ เหมอื งแร่แกรไฟตแ์ หง่ บอรโ์ รวเ์ ดลให้เปน็ ของรฐั โดยเขำ้ ไปดำเนนิ กำรแบบผูกขำด (แกรไฟต์ เป็นวัตถสุ ำหรบั ทำกระสุนปนื ใหญ)่ ไมต่ ้องกำรใหป้ ระชำชนเข้ำไปเก่ยี วขอ้ ง เกรงจะถกู แยง่ ชิง โดยเปิดดำเนินกำรปลี ะ 2 - 3 เดือน เทำ่ นนั้ เพอื่ เปน็ กำรสงวนทรพั ยำกรธรรมชำติและ ลดต้นทนุ ในกำรผลติ ขณะหยุดดำเนินกำรจะหำ้ มไมใ่ ห้ผู้ใดเขำ้ มำภำยในเหมอื งแรอ่ ยำ่ งเดด็ ขำด วารสารเดก็ เรยี น หน้า-8 11

ครั้งแรกทผี่ ลิตแท่งแกรไฟต์ออกจำหนำ่ ยไดพ้ บวำ่ มีข้อบกพรอ่ งอยู่ 2 ประกำร คอื เวลำเขยี นจะ มีสดี ำสกปรกตดิ มอื และเปรำะแตกหักงำ่ ย จึงทำกำรแกไ้ ขด้วยกำรนำเชอื กเส้นเลก็ ๆพนั ไวร้ อบ จนแนน่ ตลอดแท่ง แลว้ คลำยออกทีละน้อยเวลำใช้ขดี เขยี นเพื่อไมใ่ หส้ ดี ำตดิ มอื ส่วนกำรเปรำะ และแตกหกั งำ่ ยไดร้ ับกำรแก้ไขให้ใชง้ ำนไดด้ ีขน้ึ ในปี ค.ศ. 1761 คำสปำร์ เปเปอร์ (ช่ำงงำน ฝีมอื ชำวบำวำเรยี ) ซึ่งอดตี เปน็ นักเคมี ได้นำแทง่ แกรไฟตไ์ ปบดให้ละเอยี ดแลว้ ผสมดว้ ย กำมะถัน พลวง และยำงสน จำกนัน้ จงึ นำไปใสใ่ นพมิ พท์ ำเป็นแทง่ เพ่ือใหเ้ กดิ ควำมสะดวกใน กำรใชง้ ำน ปี ค.ศ. 1795 พระเจำ้ นโปเลยี นที่ 1 มีรบั สั่งให้ นโิ คลำส แจค๊ ดงั เต้ ซง่ึ เปน็ หวั หนำ้ นกั เคมีและนกั ประดิษฐช์ ้นั แนวหนำ้ ของประเทศฝร่ังเศส นำแกรไฟต์ทส่ี ำมำรถหำไดท้ ัง้ หมดใน ฝรงั่ เศสมำทำเปน็ ดินสอ แตเ่ มอ่ื นำนเขำ้ ทำใหเ้ กดิ กำรขำดแคลนแกรไฟต์ นโิ คลำสจงึ ไดน้ ำเอำ แกรไฟตม์ ำบดเปน็ ผงแลว้ ผสมเขำ้ กับดนิ เหนยี วชนิดหนงึ่ (Clay) ในสัดสว่ นท่ีแตกต่ำงกนั เพ่ือหำ ส่วนผสมทดี่ ที ส่ี ุด แลว้ จึงนำไปเข้ำเตำเผำ จนกลำยเป็นต้นตำรบั ของกำรทำดนิ สอ คือ เนอ้ื เหนียวข้นึ ไม่หกั เปรำะง่ำย และด้วยกำรเพิ่มดนิ เหนยี วเข้ำไปตำมอัตรำส่วนนีเ้ องทำใหส้ ำมำรถ ผลติ ไสด้ นิ สอออกมำไดห้ ลำยขนำด คอื แขง็ ( Hard ) หรือ H ลงมำจนออ่ นสำมำรถเขยี นได้ติด ดำสนิท ( Black ) หรอื B ซ่งึ ในปัจจบุ ันมตี ้งั แต่ 5 H และ 6 B เพือ่ ใหเ้ หมำะสมกับกำรใช้งำน ตอ่ มำชำวอเมริกนั ชื่อ วิลเลยี ม มอนโร ซ่ึงเป็นช่ำงทำเฟอรน์ เิ จอร์ ได้ประดษิ ฐ์เครอื่ งมอื สำหรับ ผลติ ดนิ สอขนำดมำตรฐำนได้สำเร็จ สำมำรถตดั ไมอ้ อกเปน็ แผ่นบำงๆ ยำวประมำณ 6-7 น้วิ เซำะเปน็ รอ่ งเล็กๆตลอดควำมยำวของแผน่ ไม้ เพอื่ บรรจแุ ทง่ แกรไฟต์ และใชไ้ มอ้ กี แผน่ หนงึ่ เซำะรอ่ งไวอ้ ยำ่ งชน้ิ แรก นำมำทำกำวแลว้ ประกบลงไป ซงึ่ เปน็ ดินสอทีม่ ไี ม้หมุ้ และเปน็ ดินสอท่ี ทนั สมยั แท่งแรกของโลก เป็นเครือ่ งมอื สำหรบั ใช้ในกำรขดี - เขียน ทม่ี รี ำคำถูกและ สะดวก รปู รำ่ งกะทัดรดั และสวยงำม เปน็ ทยี่ อมรบั ในทกุ วงกำร ทำใหป้ ำกกำขนหำ่ นจมุ่ นำ้ หมกึ ในสมยั น้ันเสอ่ื มควำมนิยมไป วารสารเดก็ เรยี น หน้า-9 12

เปดิ รับผลงานตัง้ แต่ 1 ตลุ า - 31 พฤศจิกายน 2555 ดูรายละเอยี ดที่ www.otepc.go.th วารสารเด็กเรยี น หน้า-10 13

อนั ดบั 1 ตกเปน็ ของ Google เวบ็ ไซตท์ ี่ อนั ดบั 6 ตกเป็นของ Napster เปลย่ี นโฉมกำรคน้ หำขอ้ มลู และกำรลง โฆษณำตำ่ งๆมำกมำย อนั ดบั 7 ตกเป็นของ Twitter ทเี่ รำตอ้ ง เขำ้ ทกุ เหมอื น facebook อนั ดบั 2 ตกเป็นของ Wikipedia เว็บไซต์ สำรำณกุ รมทมี่ ที กุ ภำษำทว่ั โลก อนั ดบั 8 ตกเป็นของ Amazon ทเ่ี ป็น สอื่ กลำงกำรคำ้ ขำยทใี่ หญท่ สี่ ดุ อนั ดบั 3 ตกเปน็ ของ Facebook ทเ่ี รำตอ้ ง เขำ้ ทกุ วนั อันดบั 9 ตกเปน็ ของ craigslist.org ปำก ตอ่ ปำกแบบฉบบั ควำมสำเรจ็ ธรุ กจิ อันดบั 4 ตกเปน็ ของ Youtube ทเี่ ป็นคลงั วดิ ีโอทใ่ี หญท่ สี่ ดุ อนั ดบั 10 ตกเปน็ ของ wikkileaks เวบ็ ไซตท์ เ่ี ปดิ โปงหมดไสห้ มดพงุ อันดบั 5 ตกเปน็ ของ ebay ดว้ ยกำรขำยสิ คำ้ online วารสารเด็กเรยี น หน้า-11 14

รำยละเอยี ดพนื้ ฐำนแตะละประเทศ วารสารเด็กเรยี น หนา้ -12 15

10 อนั ดับโรงเรียนดีทีส่ ดุ ในประเทศ จากผลการจดั อันดบั โรงเรียนที่เก่งที่สุดในประเทศไทย ประจาปี 2554 โดยพิจารณาจาก โอลมิ ปิกวชิ าการ O-net โควตา รบั ตรง admission แพทย์ กสพท. ทุนรัฐบาล ทนุ กพ. ทุน พสวท. และ รางวัล ชนะเลศิ ทางวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี 1. โรงเรยี นมหดิ ลวทิ ยำนุสรณ์ 2. โรงเรียนเตรียมอดุ มศึกษำ 3. โรงเรียนสวนกุหลำบวทิ ยำลัย 4. โรงเรียนบดิทรเดชำ (สิงห์ สิงหเสนี) 5. โรงเรียนบุญวำทย์วทิ ยำลยั จ.ลำปำง 7. โรงเรยี นสำมเสนวิทยำลยั 6. โรงเรียนหำดใหญ่วทิ ยำลัย จ.สงขลำ 9. โรงเรียนเซนตค์ ำเบรยี ล 8. โรงเรียนสตรีวทิ ยำ ทม่ี า : http://www.dek-d.com 10.โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยำลยั จ.เชียงใหม่ วารสารเด็กเรยี น หน้า-13 16

“ผกั บ้งุ มีประโยชน์” มากกว่าทีค่ ิด ประโยชนแ์ ละสรรพคุณของผักบงุ้ นน้ั มี เยอะ และเปน็ ผักท่ีหลายๆคนชอบทานอย่แู ลว้ ร่วมทัง้ ผมด้วย เพราะนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังหาซอ้ื ไดง้ า่ ยท่ัวไปแลว้ ยงั มีตลอดทัง้ ปีแถมยังไม่ ค่อยแพง สรรพคณุ / ประโยชนข์ องผกั บุ้ง สรรพคณุ ของผกั บงุ้ -รสจดื เย็นช่วยขับพิษถอนพิษเมอ่ื เมา สรรพคณุ ทางยา : ผักบุ้งรสเย็นสรรพคณุ ถอนพิษเบื่อเมา ราก ผักบุ้งรสจดื เฝ่อื นสรรพคุณถอนพิษผดิ สาแดง ผักบุ้งขาวหรอื ผกั บุ้งขาว 100 กรัม ใหพ้ ลังงาน ผักบุ้งจนี ช่วยใหเ้ จริญอาหาร เป็นยาถอนพิษ บารงุ ธาตุ ต่อรา่ งกาย 22 กิโลแคลอรี่ สรรพคณุ ของผกั บุ้งโดยเฉพาะผกั บุ้งแดงคนทีช่ อบเปน็ ตาต้อ ประกอบด้วยเส้นใย 101 กรัม ตาแดง หรือคันนัยน์ตาบ่อย ๆ ตลอดจนมอี าการตาฟ่าฟาง -แคลเซียม 3 มิลลกิ รัม จาพวกคนสายตาส้ันจะทาให้สายตาที่แจม่ ใส บารุงสายตา -ฟอสฟอรัส 22 มลิ ลิกรมั ทาให้ไม่เปน็ โรคกระเพาะ -เหลก็ 3 มิลลกิ รมั -วิตามินเอ 11447IU -วิตามินบีหนึ่ง 0.06 มิลลกิ รมั -วิตามินบีสอง 0.17 มิลลกิ รัม -ไนอาซิน 1.3 มิลลกิ รัม -วิตามินซี 14 มิลลกิ รัม ทม่ี า http://www.n3k.in.th วารสารเดก็ เรยี น หนา้ -14 17

ปดิ เทอมนหี้ ลายคนคงหาที่เทยี่ วเพื่อเป็นการพักผอ่ นและเปน็ การ พักสมองในช่วงปิดเทอม สถาณท์ ีเ่ ทย่ี วคงมหี ลายทใ่ี ห้เลอื กที่แต่ สถานทีท่ แ่ี นะนาวันนค้ี ือ ดอยอินทนน์ เป็นทเ่ี หมาะสาหรับ การสัมผัสอากาศหนาวๆ ธรรมชาติสวยๆใหช้ ม ฤดหู นาวเดอื น ตลุ าคม – กมุ ภาพันธ์ อากาศคอ่ นขา้ ง หนาวและฝนเร่มิ ลดน้อยลงและอากาศเยน็ ลงบ้าง และมี อากาศหนาวจัดที่สุดในชว่ งเดือนมกราคม เป็นฤดูกาลที่ นกั ทอ่ งเที่ยวนิยมเท่ียวมากที่สุด เพราะสภาพภมู ิอากาศ หนาวเยน็ ท้องฟา้ แจ่มใส ตัดกับสเี ขียวของป่าไม้ อากาศจะ เย็นมากในตอนกลางคืน อณุ หภมู ิจะลดตา่ กวา่ 0 - 4 องศาเซลเซยี ส ซึง่ ช่วงน้ีแหละทเ่ี ราจะไดเ้ หน็ นา้ คางแข็ง หรอื แม่คะนิ้งกันละ่ อทุ ยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มพี ้ืนทีอ่ ยใู่ นท้องทีอ่ าเภอจอมทอง อาเภอแมแ่ จ่ม กิง่ อาเภอดอยหล่อ และ อาเภอแมว่ าง จังหวดั เชยี งใหม่ สามารถเข้าถึงได้โดยใชเ้ ส้นทาง เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 108) ไปยังอาเภอจอมทอง 50 กม. ระยะทางประมาณ 50 กม. เลีย้ วขวาตามถนนสาย จอมทอง-ดอยอนิ ทนนท์ (ทางหลวงจังหวดั หมายเลข 1009) ประมาณ 8 กม. ก็จะเริม่ เข้าเขตอุทยาน แห่งชาติที่บริเวณนา้ ตกแม่กลาง และตดั ขึน้ สยู่ อดดอยอินทนนท์เปน็ ระยะทางท้ังหมด 49.8 กม. ทท่ี าการ อทุ ยานแห่งชาติจะตั้งอยทู่ ี่กิโลเมตรที่ 31 คำ่ ธรรมเนียมกำรเขำ้ อุทยำนแห่งชำติ -ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท -เด็ก คนละ 10 บาท -กรณเี ปน็ เด็กอายตุ ้องต่ากว่า 14 ปี แตถ่ า้ อายุต่ากว่า 3 ปี จะไมเ่ รียกเกบ็ ค่าธรรมเนยี ม -กรณเี ป็นนกั เรียน นสิ ิต นกั ศึกษา ให้เก็บคา่ ธรรมเนียม ในอตั ราสาหรับเดก็ -รถจักรยาน 10 บาท/คนั -รถจกั รยานยนต์ 20 บาท/คัน -รถยนต์ 4 ลอ้ 30 บาท/คัน -รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท/คัน เทีย่ วให้สนุกนะครับ ภาพโดย:kapook.com -รถยนต์ไม่เกิน 10 ล้อ 200 บาท/คัน วารสารเดก็ เรยี น หนา้ -15 18

อปุ สรรคแค่ไหน ก็ไม่หวน่ั ทางขา้ งหนา้ ลางเลือนเหมอื นว่างเปล่า คนื และวนั จะโหดร่าย สกั เพยี งไหน แดดจะเผาผวิ ผอ่ ง เธอหมองไหม้ ร่อยและพนั ปญั หาจะฝา่ ไป ทตี่ รงนน้ั มีหุบเหว มีเปลวไฟ เพยี งมีเธอ ย้มิ ให่ ท่ีปลายทาง ถา้ ออ่ นแอจะฝา่ ไป อยา่ งไรกนั บทพิสจู นค์ วามแกรง่ แหง่ เพชรแท้ ถา้ ลม้ จงลกุ อยา่ ทกุ ท้อ ความแน่วแน่ท่จี ะไป...ใหถ้ ึงฝนั จงสานตอ่ ความฝันอนั ยิ่งใหญ่ จะย่อทอ้ หวน่ั ไหว ทาไมกัน แมว้ นั น้ไี ม่มีสทิ ธพ์ ิชิตชัย หวังและวันแห่งเส้นชัย...ไม่ไกลเกนิ กย็ ังมีวันใหม่ให้ท้าทาย ขอชวี ติ งดงามตามทีฝ่ ัน วันทีเหน่ือยหน่ายอ่อนล้า ขอทกุ วันเปน็ วันอนั สดใส ไม่รู้จะหันหน้าไปพ่ึงใครคนไหน ขอทุกก้าวคอื กา้ วทีม่ นั่ ใจ ลองนึกย้อนถึงความอาทรห่วงใย ขอวันใหม่กา้ วไกลไปกวา่ เดมิ กับความสนุกสดใสท่ีผ่านมา อนาคตเปน็ อย่างไร ใครจะรู้ แต่ใหส้ เู้ พือ่ ไปสสู่ ง่ิ ท่ีฝนั แม้เวลาอาจพาใจใหล้ มื กัน สาหรับฉนั ไม่มีวันจะเปลย่ี นไป วารสารเดก็ เรยี น หนา้ -16 19

Q:ทามยั ถงึ ตอ้ งเรยี กหอ้ งสมดุ ละคะ่ Q: โลโก้ 7-ELEVEn ทาไม ถงึ เปน็ ตวั พมิ พเ์ ลก็ คะ่ ก็เพรำะเมื่อกอ่ นเคยเปน็ ที่เก็บสมดุ คนโบรำณจดบนั ทกึ เรอ่ื งรำวและ ควำมรู้ตำ่ งๆลงในสมดุ ดว้ ยลำยมอื และนำมำเก็บรวบรวมไว้ในหอ้ งๆจึง ตำมตำนำนไดก้ ลำ่ วไวว้ ำ่ ผทู้ ่ีเปน็ เจ้ำของกิจกำร ได้ เรียกวำ่ “หอ้ งสมดุ ” เม่อื เทคโนโลยีกำรพมิ พเ์ ขำ้ มำ ควำมรูท้ งั้ หลำยได้จดั มีควำมเชือ่ เรอ่ื ง “ฮวงจ้ยุ ” จึงไดท้ ำกำรเลือกใช้ ในรูปแบบของกำรพิมพ์แทนกำรเขียน และห้องสมุดจึงมีแตห่ นงั สอื เตม็ ไป ตวั อกั ษร n ตวั เลก็ แทนที่จะใช้ N ตวั ใหญ่ ไงละครับ โดยเขำให้เหตผุ ลว่ำ เพรำะ n เล็ก มีรปู ร่ำงคลำ้ ย Q:สวสั ดคี รบั พๆี่ แอดมนิ ชว่ งนปี้ ดิ เทอมแลว้ ไปตาม กับแม่เหล็ก (ทเ่ี ป็นทรงเกอื กมำ้ ) ไดจ้ ะทำหน้ำทเ่ี ปน็ ดเู กรดมาบา้ งแลว้ เลยอยากทราบวา่ เขาหา เหมอื นกับตัวดดู เงินทองเข้ำร้ำนและคอนำโชคลำภ เกรดเฉลยี่ กนั อยา่ งไรกนั ควำมเจรญิ รุ่งเรืองแกก่ จิ กำร กำรคำนวณเกรดแตล่ ะภำคกำรศึกษำหรอื ปีกำรศกึ ษำ คำนวณจำก ผลกำรเรยี นในภำคเรยี นหรือปกี ำรศกึ ษำนัน้ โดย 1> นำเกรดคณู ดว้ ยหน่วยกติ ของแต่ละวชิ ำ 2> รวม (ผลคณู ที่ได้จำกขอ้ 1 ของทุกรำยวิชำ) 3> นำผลรวมทัง้ หมดทไ่ี ดจ้ ำกขอ้ 2 เป็นตัวตั้ง หำรด้วยจำนวน หน่วยกิต รวมของภำคเรียนหรือปกี ำรศึกษำนน้ั เองครับ มีขอ้ สงสยั หรอื ขอ้ ขอ้ งใจส่งมาถามไดเ้ ดยี๋ วนายโกจ้ ะตอบมาใหน้ ะครบั ถา้ หาไมไ่ ดจ้ ริงก็จะหาผู้รมู้ าตอบใหจ้ นไดค้ รับ E-mail: [email protected] หรอื www.facebook.com/DEKlearning วารสารเด็กเรยี น หนา้ -17 20

ประกำศรับนักเขยี น รับนักเขียนไม่ว่าจะเป็นมือสมคั เล่นหรือมืออาชพี ที่น้าใจที่ จะมอบความรใู้ หแ้ ก่ผอู้ ืน่ ด้วยใจจรงิ ไม่วา่ จะเปน็ นักเรียน ครู หรือคุ คลทัว่ ไป >ส่งชื่อ ชือ่ เลน่ อายุ เบอร์โทร โรงเรยี น อายุ >หวั ข้อที่ถนัดหรือหัวข้อทีจ่ ะเขียน ส่ง/ติดตอ่ ได้ที่ E-mail :[email protected] หรือทาง www.facebook.com/DEKlearning (งานนี้ไมม่ คี ่าตอบแทน ทาแล้วถงึ จะรู้ว่าได้อะไรกลบั ไปบ้าง) ชอ่ งทางตดิ ต่อสอื่ สาร E-mail : [email protected] Www.facebook.com/DEKlearning วารสารเด็กเรยี น หนา้ -18 21

ฉบบั หนา้ พบกับ “ชีวติ จริง ย่งิ กวา่ ละคร” และพบกบั “การจัดเตม็ ทีย่ ่งิ กวา่ น้ี จุใจกว่าน้ี” และท่ีสดุ จะมี “คณุ ครูมารว่ มในการเขยี นดว้ ย” ผิดพลาดส่วนไหนขออภัยมา ณ ทีน้ีดว้ ย ใครมีคาแนะนาหรือคาตชิ มสง่ มาที่ E-mail : [email protected] Facebook.com/DEKlearning 22