ในที่ทำ�งาน ย่อมเกิดจากการที่แต่ละคนต่างเคารพในศักดิ์ศรี ความเสมอภาค เสรีภาพของบุคคลโดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ถือว่าทุกคนเป็นเพ่ือนร่วมงาน เคารพในสิทธิและหน้าท่ีของกัน และกัน แตล่ ะคนยอ่ มเป็นผูร้ จู้ กั รับฟงั ความเหน็ ของกนั และกัน และ ทุกคนย่อมเคารพในระเบียบข้อบังคับของหน่วยงาน การท�ำ งานเพ่อื ให้ บรรลุเป้าหมายของหน่วยงานย่อมจะต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกัน ของผ้มู สี ่วนเก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ก�ำ หนดนโยบาย วางแผนงาน หรอื ตดั สินใจ ในการทำ�สิ่งหน่ึงสิ่งใดขึ้นมา การประชุมหารือกัน ควรจะมีการแสดง ความคดิ เหน็ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ หรอื คดั คา้ นอยา่ งเปน็ กนั เอง มคี วามอดกลน้ั รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของคนสว่ นใหญ ่ ทส่ี �ำ คญั สง่ เสรมิ ใหท้ กุ คนมสี ว่ นรว่ ม รบั ผดิ ชอบในการงานของสว่ นรวมและของตนเอง สถาบนั สอ่ื มวลชน ส่ือมวลชนทุกแขนง ไม่วา่ จะปน็ หนงั สือพมิ พ์ วทิ ยุ โทรทศั น์ หรอื สอ่ื อน่ื ๆ ลว้ นมบี ทบาทและความส�ำ คญั อยา่ งยง่ิ ตอ่ การพฒั นาวฒั นธรรม ทางการเมือง โดยหลักการแลว้ ส่อื มวลชนจะตอ้ งยึดมัน่ ในจรรยาบรรณ 50
51 ของตนเอง ในการเสนอข่าวสารและเผยแพรค่ วามรู้ความเข้าใจตา่ ง ๆ อยา่ งบรสิ ทุ ธ์ิ ยตุ ิธรรม และถ้าเป็นขา่ วสารทางด้านการเมือง ซ่งึ เป็น เรอ่ื งท่มี ีความส�ำ คญั ต่อการบริหารประเทศ การเสนอข่าว หรอื บทความ ตา่ ง ๆ จะตอ้ งเสนออย่างตรงไปตรงมา ไมม่ อี คติใด ๆ แอบแฝงและ ท่สี �ำ คัญคือ ต้องสง่ เสริมผ้มู คี ุณธรรมทางการเมอื ง และขณะเดียวกัน ก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา หรืออาจจะ ต้องตำ�หนิติเตียนประณามผู้ที่มีพฤติกรรมทำ�ลายวัฒนธรรมทาง การเมอื งแบบประชาธปิ ไตย นอกจากน้ี สอ่ื มวลชนยงั จะตอ้ งถอื เปน็ หนา้ ท่ี ท่ีจะต้องประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เพ่ือส่งเสริมวัฒนธรรมทาง การเมอื งแบบประชาธปิ ไตยตามควรแกโ่ อกาส เชน่ การโฆษณาชกั ชวนให้ ประชาชนไปใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปน็ ต้น
บทสรปุ วัฒนธรรมทางการเมืองเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรม ท่ีเป็นรูปแบบของความคิด ทัศนคติ ความเช่ือ และความโน้มเอียง ในการเรียนรู้ของบุคคล วัฒนธรรมทางการเมืองจึงเป็นเสมือนแนวทาง ของพฤติกรรมในการเสริมพลังให้ประชาชนได้ยึดถือปฏิบัติในฐานะ ท่ีเป็นสมาชิกของระบบการเมือง อีกทั้งเป็นปัจจัยสำ�คัญที่เสริมสร้าง ความชอบธรรมทางการเมืองให้กับระบบการปกครอง และทำ�ให้ ระบบการเมืองการปกครองของประเทศดำ�รงคงอยู่ได้อย่างราบร่ืน โดยอาศยั กระบวนการเรยี นรแู้ ละเสรมิ สรา้ งใหป้ ระชาชนเกดิ ความสำ�นกึ ในการเป็นสมาชิกของประเทศ และตระหนักถึงสิทธิและ หน้าท่ีตามหลักของประชาธิปไตย ดังน้ัน พ้ืนฐานประการแรกของการ เสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง ก็คือ การจัดระบบการศึกษาที่ดี ใหก้ บั ประชาชน โดยมงุ่ เน้นปลกู ฝงั ความรเู้ รื่องประชาธปิ ไตยทถ่ี กู ต้อง แก่เยาวชนท่จี ะเติบโตเป็นพลเมืองของชาติในอนาคต ด้วยการปลูกฝัง ให้เกิดความสำ�นึก ตระหนักในพันธะหน้าท่ีและความรับผิดชอบ ที่พึงประพฤติปฏิบัติในฐานะท่ีเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นสมาชิกของ ประเทศ รู้จักเข้ามีส่วนร่วมทางการเมือง รู้จักวิเคราะห์วิจารณ์อย่าง มีเหตุผล ในทางสร้างสรรค ์ มกี ารด�ำ เนินชีวิตร่วมกนั ในสังคมอย่างสันติ ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติสำ�คัญที่แสดงให้เห็นถึง วัฒนธรรมทางการเมือง แบบประชาธิปไตย ที่มีผลต่อโครงสร้าง และพฤติกรรมทางการเมือง ของคนในประเทศ อย่างไรกต็ าม วฒั นธรรมทางการเมือง ไม่สามารถ จะพัฒนาขึ้นเองโดยธรรมชาติได้ หากจำ�เป็นต้องอาศัยกระบวนการ อบรม ปลกู ฝงั หลอ่ หลอม กลอ่ มเกลา อาจกล่าวได้ว่า การพัฒนา 52
53 วัฒนธรรมทางการเมือง มีจุดเริ่มต้นมาจากกระบวนการกล่อมเกลา หลอ่ หลอม แนวคิด ความเชื่อ คา่ นิยม อุดมการณท์ างประชาธิปไตย โดยผ่านสถาบันต่าง ๆ ในสังคม และถึงเวลาแล้วท่ีประชาชนชาวไทย จะต้องรวมตัวกันสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยให้เกิดข้นึ ในสังคม เพราะวัฒนธรรมทางการเมืองก่อให้เกิดการพัฒนาการเมือง ซ่ึงอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ถ้ามีการเริ่มต้นกระทำ�ด้วย ความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง และประสบความสำ�เร็จ ประชาชนมี วัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยแล้ว ก็จะส่งผลให้การเมือง การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ เกิดการพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพม่ันคง ก็จะเกิดประโยชน์สุงสุด กับประชาชนมากขึ้นเท่าน้ัน
บรรณานกุ รม ทนิ พนั ธ ์ุ นาคะตะ. วถิ ชี วี ติ ไทย วฒั นธรรมทางการเมอื งของคนรนุ่ ใหม.่ กรงุ เทพฯ : หจก. สหายบลอ๊ กและการพมิ พ.์ (พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๑), ๒๕๔๖ พฤทธิสาณ ชมุ พล. ระบบการเมืองความรูเ้ บื้องตน้ . กรุงเทพฯ : ส�ำ นัก พิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (พิมพค์ รง้ั ที่ ๗), ๒๕๔๗ ลิขติ ธรี เวคิน. วฒั นธรรมทางการเมอื งและการกล่อมเกลาเรยี นรู้ ทางการเมอื ง. เอกสารทางวชิ าการ หมายเลข ๒๘ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร วเิ ชษฐ เทพเฉลมิ และสรุ พนั ธ ์ ทบั สวุ รรณ.์ วฒั นธรรมทางการเมอื ง ของสมาชกิ รฐั สภาไทย (พ.ศ.๒๕๒๔). ส�ำ นกั งานเลขาธกิ าร สภาผู้แทนราษฎร ศตพล วรปญั ญาตระกลู . วทิ ยานพิ นธ์ วฒั นธรรมทางการเมอื ง : รปู แบบ ทเ่ี หมาะสมในเชิงความสมั พนั ธ์ ระหว่างการรวมกลมุ่ และ บทบาททางการเมอื งของสมาชกิ ผูแ้ ทนราษฎร. มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๔ ข้อมลู ทางอินเตอร์เน็ต การพฒั นาการเมอื ง. สืบคน้ เม่ือวันท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จาก http://library.uru.ac.th/bookonline/books/politic7.pdf 54
55 กระบวนการหลอ่ หลอมวฒั นธรรมทางการเมอื งแบบประชาธปิ ไตย : สาระส�ำ คญั ทห่ี ายไปในสงั คมการเมอื งไทย. สบื คน้ เมอ่ื วนั ท ่ี ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ จาก http://www. nathoncity.com/paper/1832 วัฒนธรรมทางการเมือง. สืบคน้ เมื่อวนั ท ่ี ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จาก http://writer.dekd.com/danchoo/story/ viewlongc.php?id=315778&chapter=11 วฒั นธรรมทางการเมอื งของไทย : รฐั ธรรมนญู ทแ่ี ทจ้ รงิ ซง่ึ ไมเ่ คยถกู ยกเลกิ สบื คน้ เมอ่ื วนั ท ่ี ๑๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ จาก http:// www. pub-law.net/publaw/view.aspx?id=1014 วฒั นธรรมทางการเมอื งแบบพลเมอื ง:แนวทางการสรา้ งสงั คมประชาธปิ ไตย สบื คน้ เมื่อวนั ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ จาก http:// www. pub-law.net/publaw/view.aspx?id=1117
56
Search