50 อานิสงสอ์ ันยิ่งใหญ่ ของกฐินทาน 6
51 1. เม่อื บารมเี ต็มเป่ียม หากเกิดเปน็ ชาย ในชาตทิ ่เี กิดมา พบพระพทุ ธเจา้ จะได้รบั การบวชแบบเอหิภิกขุอปุ สมั ปทา คือ พระพุทธเจา้ ประทานการบวชให้ 2. เมอื่ บารมเี ตม็ เปย่ี ม หากเกดิ เปน็ หญงิ กจ็ ะไดค้ รอบครอง เครอ่ื งประดบั อนั สงู คา่ ทสี่ ดุ ในยคุ นน้ั คอื เครอ่ื งประดบั มหาลดา- ปสาธน์ เหมอื นมหาอบุ าสกิ าวสิ าขา และนางมลั ลกิ า ภรรยาของ ท่านพันธุลเสนาบดี 3. จะมผี ิวพรรณวรรณะงดงาม สว่าง ผ่องใส
52
53 4. จะเปน็ ผทู้ ไ่ี ดค้ รอบครองเสอื้ ผา้ เครอ่ื งนงุ่ หม่ อนั ประณตี งดงามสงา่ ถกู อกถูกใจ 5. หากชาติใดพล้ังพลาดวิบากกรรมส่งผลให้ไปเกิดเป็น สัตว์ ก็จะเกดิ เป็นสตั วท์ ่มี ขี นงาม เช่น นกยงู ไกฟ่ ้า เปน็ ตน้ 6. จะได้ทรัพย์สมบัติตามกาล เพราะท�ำบุญตามกาล เช่น หากปลูกผลไม้ก็จะได้ผลผลิตจ�ำนวนมาก เพื่อให้ได้ใช้กิน ใช้ประโยชน์ ตรงตามฤดูกาลนั้น ๆ หรือได้สมบัติ ของขวัญ ของก�ำนลั ตรงตามกาล ตรงตามวาระ เชน่ วันเกดิ วนั ครบรอบ วันพเิ ศษตา่ ง ๆ 7. การถวายกฐนิ จดั เปน็ สงั ฆทาน คอื ทานทถ่ี วายไมเ่ ฉพาะ เจาะจงกับภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ซึ่งถือว่าได้บุญมากกว่าการถวาย ทานกับพระพุทธเจ้า 1 พระองค์ 8. ทรัพย์สมบัตทิ เี่ ก้ือกลู ต่อการบรรลุมรรค ผล นพิ พาน กจ็ ะมาบังเกดิ กบั เราอยา่ งงา่ ย ๆ 9. จะเปน็ ผมู้ จี ติ แชม่ ชนื่ บรสิ ทุ ธผ์ิ อ่ งใสอยเู่ สมอ จติ ใจตงั้ มน่ั เป็นสมาธิ และเข้าถึงธรรมได้ง่าย จนสามารถบรรลุมรรค ผล นพิ พาน และไปถึงทีส่ ุดแหง่ ธรรมไดโ้ ดยง่าย ฯลฯ
54 อาคารพระผู้ปราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 7 เร่ือง : มาตา
55 อาคารพระผปู้ ราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺ สโร) ผู้ใดใหท้ พ่ี ักอาศัย ผนู้ ั้นช่อื ว่าให้ทุกสิง่ สํ.ส. 15/44 สืบเน่ืองมาจากการขยายงานพระพุทธศาสนาผ่าน โครงการตา่ ง ๆ ของวดั พระธรรมกายมาเปน็ เวลา 40 กวา่ ปี ท�ำให้ ในปัจจุบันวัดพระธรรมกายมีจ�ำนวนพระภิกษุ-สามเณรเพิ่มข้ึน อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ทีพ่ ักอาศัยจึงไม่เพียงพอ ดังนนั้ โครงการก่อสรา้ ง ทพี่ กั อาศยั ของพระภกิ ษุ อาศรมบรรพชติ อาคารพระผปู้ ราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺ สโร) จึงบงั เกิดข้ึน และจ�ำเปน็ ต้อง ด�ำเนนิ การให้เสร็จส้นิ โดยเร็ว
56 1 ในปัจจุบันน้ี พระภิกษุ-สามเณรวัดพระธรรมกายมีที่พัก อาศัยหลกั ๆ อยู่ 5 แห่ง คือ 1. หมกู่ ฏุ พิ ระหนงึ่ 2. หม่กู ุฏพิ ระ สอง (ประกอบดว้ ยอาคาร 6 ชนั้ 3 หลงั แตล่ ะหลงั พกั ไดป้ ระมาณ 150 รูป) 3. หมู่กุฏพิ ระสาม (อาคาร 2 ช้นั 1 หลงั และอาคาร ชน้ั เดียว 1 หลัง) 4. หม่กู ฏุ ิพระสี่ (อาคาร 2 ชัน้ ) 5. หมู่กุฏพิ ระ บรเิ วณไซต์ 3 อาคารแกว้ ดวงใจ แกว้ ดวงบญุ และกฏุ มิ งุ จาก ฯลฯ ท้ังหมดน้ีรองรับพระภิกษุ-สามเณรท่ีจ�ำพรรษาอยู่ที่วัด ขณะนี้จ�ำนวน 2,257 รปู (พระภิกษุ 1,956 รูป สามเณร 301 รูป)
57 “ การถวายอาคาร พระผปู้ ราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺ สโร) เพือ่ เป็น ทพ่ี กั อาศัยของพระภิกษุ ถอื วา่ เป็นการใหท้ กุ สิ่ง แกผ่ ูม้ ศี ลี มธี รรม กศุ ลผลบญุ นจี้ ะส่งผลให้ ชีวติ ของผู้ให้ สมบูรณ์ทุกสง่ิ ตลอดไป ” 2 อาศรมบรรพชติ อาคารพระผปู้ ราบมาร พระมงคลเทพมนุ ี (สด จนทฺ สโร) ตอกเสาเขม็ ต้นแรกเมอ่ื เวลาประมาณ 17.00 น. ของวันเสาร์ท่ี 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งตรงกับวันพระ ขนึ้ 15 คำ�่ เดอื น 4 โดยมพี ระเทพญาณมหามนุ ี (หลวงพอ่ ธมั มชโย) เป็นประธานสงฆ์ ซ่ึงในโอกาสนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อกล่าว ให้โอวาทไว้ตอนหนึ่งว่า “อาคารหลังน้ีจะเป็นท่ีพักสงฆ์ ผู้เป็น สายโลหิตแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามค�ำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ใคร่ต่อ การศึกษาวิชชาธรรมกาย อีกท้ังเพ่ือขยายวิชชาธรรมกายไป ทั่วโลก เพราะฉะนัน้ อาคารหลงั น้ีจึงเป็นอาคารทีส่ �ำคัญทีเดยี ว”
58 ชั้นบนสุดของอาคาร เปน็ สถานท่สี วดมนต์ท�ำวตั รเช้า-เยน็ หอ้ งจ�ำวัตร (จ�ำวัด) ท่ีประดิษฐานแผ่นทองจารึกช่ือผู้มีบุญ ณ ห้องโถงกลาง อาคารธรุ การ
59 3 อาศรมบรรพชิต อาคารพระผู้ปราบมาร พระมงคล- เทพมนุ ี (สด จนทฺ สโร) เปน็ กฏุ พิ ระทรงสงู ทง้ั นเ้ี พอ่ื ประหยดั พน้ื ที่ เพราะวดั พระธรรมกายมีพระภิกษ-ุ สามเณรเปน็ จ�ำนวนมาก ถา้ สรา้ งตามแนวราบจะตอ้ งเสยี พน้ื ทสี่ �ำหรบั ใชป้ ระโยชนส์ ว่ นอนื่ ไป ตามโครงการท่ีต้ังไว้จะสร้างอาคารทั้งหมด 3 หลัง ทกุ อาคารมลี ักษณะเหมือนกัน คอื มีรปู ทรงเหมอื นเครอื่ งหมาย กากบาทหรอื เคร่อื งหมายคูณ (X) ความสงู 54 เมตร มี 12 ชน้ั แต่ละอาคารมีพื้นที่ใช้สอยเกือบ 70,000 ตารางเมตร รองรับ พระภิกษไุ ด้อาคารละ 2,000 กว่ารูป ชั้นท่ี 1 (ชน้ั ลา่ ง) เปน็ หอ้ งโถงใหญ่ เปิดโลง่ ส�ำหรับท�ำ กิจกรรมอเนกประสงค์
60 ชน้ั 2-12 มลี กั ษณะโครงสรา้ งอาคารเหมอื นกนั คอื แตล่ ะชนั้ มี 4 wing (ปกี ) แตล่ ะ wing มี 6 หอ้ ง รวมชัน้ ละ 24 หอ้ ง ขนาดหอ้ ง เทา่ กนั ชน้ั ที่ 2-11 เปน็ ทพี่ กั อาศยั แตล่ ะหอ้ งพกั ไดป้ ระมาณ 10 รปู ทกุ รปู ต้องพกั รวม ไม่มีหอ้ งส่วนตัว ห้องน้�ำกเ็ ป็นห้องนำ�้ รวม ไม่มี หอ้ งน�ำ้ ภายในห้องพกั ชั้นท่ี 12 มีห้องปฏิบัติธรรม 2 ห้อง ส�ำหรับพระภิกษุ สวดมนต์ ท�ำวัตร ปฏิบัติธรรม อีกส่วนหน่ึงเป็นที่พักของพระ ท่มี าจากวัดหรือศนู ย์ปฏิบัตธิ รรมในต่างประเทศ โซนกลางของอาคารเปน็ ทต่ี ง้ั ของลฟิ ต์ บนั ได หอ้ งนำ้� พน้ื ที่ ส�ำหรบั ซกั ผา้ ตากผา้ พน้ื ทสี่ �ำหรบั สนั ทนาการ เชน่ มมุ อา่ นหนงั สอื มมุ ดู DMC ฯลฯ ทกุ ชั้นมพี ื้นที่แบบน้เี หมือนกันหมด นอกจากอาคาร 3 หลังน้ี ยังมีอาคารด้านหน้าซึ่งเป็น อาคาร 2 ชนั้ ช้ันล่างใชส้ �ำหรบั งานธรุ การและตอ้ นรับญาตโิ ยม ช้ัน 2 เป็นห้องประชุมประมาณ 3 ห้อง ด้านข้างอาคารเป็น ท่จี อดรถ
61 4 ในการสรา้ งอาคารใชห้ ลกั ประหยดั สดุ ประโยชนส์ งู คงทน ถาวร ตามทพี่ ระเดชพระคณุ หลวงพอ่ ใหน้ โยบายไว้ ในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคต อาคารนี้แต่ละ ห้องมีผนังแยกจากกัน ท�ำให้มีช่องว่างระหว่างห้อง เพ่ือดึงลม เขา้ มาหมนุ เวยี นใหค้ วามเยน็ แกอ่ าคาร แตต่ ามอาคารทว่ั ไปจะใช้ ผนังเดยี วกัน นอกจากนี้ การทช่ี นั้ 1 ท�ำเปน็ ทโี่ ลง่ กช็ ว่ ยเรอื่ งการระบาย อากาศได้เป็นอย่างดี เพราะลมจะลอยขึ้นมาตรงโซนกลางของ อาคาร จากช้ัน 1 ข้ึนมาถงึ ชัน้ 12 แลว้ ดูดลมจากหอ้ งตา่ ง ๆ ขึ้น มาเรื่อย ๆ เป็นการช่วยระบายอากาศ ประกอบกับตัวอาคาร มีหน้าต่างเยอะมาก และยังต้ังหันเฉียงกับทิศเหนือเพื่อเพ่ิมการ รบั ลม ท�ำใหอ้ าคารมลี มพดั ผ่านเยน็ สบายตลอดทงั้ ปี อาคารหันเฉยี งกับทศิ เหนอื N อาคารเฉยี งรบั ลม หนา้ ร้อนลมพดั ไปทางนี้ หน้าหนาวพดั ไปทางนี้
62 ในสว่ นของงานระบบภายในอาคาร กด็ แู ลรกั ษางา่ ย วสั ดุ ท่ีใช้ในอาคารก็เน้นความเรียบง่าย ซ่อมง่าย หาเปล่ียนได้ง่าย ในอนาคต เชน่ พวกสุขภณั ฑ์ กระเบ้ือง ส่วนต่าง ๆ ของอาคาร กด็ แู ลรักษาง่าย เช่น มุมหอ้ งนำ้� ไม่ท�ำเปน็ มมุ 90 องศา ระหว่าง พน้ื กบั ผนงั มลี กั ษณะโคง้ เพอ่ื ไมใ่ หเ้ ปน็ ทสี่ ะสมคราบสกปรก จะได้ ท�ำความสะอาดไดง้ า่ ย และไมต่ ้องเสียเวลาดูแลมาก 5 ในส่วนของบุคลากร เพื่อให้การก่อสร้างออกมาดีท่ีสุด สมบูรณ์ท่ีสุด และปลอดภยั ทีส่ ุด ทมี งานจงึ สร้างความเขา้ ใจแก่ ผ้เู ก่ียวขอ้ ง เช่น ทีป่ รกึ ษาควบคมุ งานและผู้รบั เหมา ใหเ้ ข้าใจถงึ ความส�ำคญั ของอาคาร ประโยชนก์ ารใชส้ อย รวมทง้ั ความส�ำคญั ของพระเดชพระคณุ หลวงปู่ เพอ่ื ใหค้ ณะท�ำงานปลมื้ ปตี ทิ ม่ี โี อกาส มารว่ มงานกอ่ สร้างในคร้งั นี้ จากนนั้ กก็ ลา่ วถงึ บญุ และอานสิ งสต์ า่ ง ๆ ของการกอ่ สรา้ ง อาคารหลงั นี้ แลว้ จงึ ลงรายละเอยี ดของเนอื้ งานวา่ จะตอ้ งมคี วาม ประณตี ทกุ ขน้ั ตอน ตง้ั แตก่ ระบวนการท�ำแบบ ล�ำดบั การกอ่ สรา้ ง การประสานงาน การควบคมุ งาน คณุ ภาพงาน การทดสอบระบบ ต่าง ๆ เพอื่ ให้งานออกมาดีท่ีสุด
63 6 อาคารพระผู้ปราบมารหลังแรกมีก�ำหนดสร้างเสร็จใน เวลาประมาณ 2 ปี เมอื่ สร้างเสรจ็ แลว้ ก็จะเปิดใช้เลย และจะมี พระภิกษุเข้าไปอยู่อาศัยเต็มทุกห้องทันที ในขณะท่ีก่อสร้าง อาคารหลงั แรก อาคารต่อไปกจ็ ะทยอยสรา้ งตามมา ไม่นานเกินรอ อาคารพระผู้ปราบมารจะต้ังเด่นเป็นสง่า ใหเ้ ราทกุ คนเหน็ และภาคภมู ใิ จวา่ เราคอื หนง่ึ ในผสู้ ถาปนาอาคาร หลังน้ี เพื่อเป็นที่พักอาศัยของพระภิกษุผู้เป็นศาสนทายาท ผู้สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ให้คงอยู่และ แผ่ขยายไปทั่วโลกตราบสิน้ กาลนาน โส จ สพพฺ ทโท โหติ โย ททาติ อุปสสฺ ยํ ผ้ใู ดให้ทพ่ี กั อาศัย ผูน้ นั้ ชือ่ วา่ ให้ทุกสิง่ ส.ํ ส. 15/44
64 สมั ภาษณ์ นายธนะ เดชนนั ทรตั น์ ตวั แทนผ้ปู ระสานงาน ส่วนเจ้าของโครงการ คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องท�ำงานกันทุกคน เพอ่ื หาเลย้ี งปาก เลย้ี งทอ้ ง เลยี้ งครอบครวั งาน ท่ีคนทั่ว ๆ ไปท�ำนั้น ก็เป็นงานที่อาจมีความ ภาคภูมิใจอยู่บ้าง ภูมิใจในฝีมือ ภูมิใจที่ท�ำเสร็จ ภูมิใจท่ีท�ำงาน อวดคนอื่นได้ แต่จะมีงานใดที่ท�ำแล้วไดค้ วามปตี ิวา่ สิ่งที่ท�ำลงไป สรรคส์ รา้ งความดขี น้ึ ในโลก และมนั่ ใจวา่ งานนนั้ ๆ ไมถ่ กู น�ำไปใช้
65 ทัง้ ทางตรงและทางออ้ มใหค้ นเปน็ คนเลวหรอื เบียดเบยี นกนั ที่พักของพระภิกษุสงฆ์เป็นท่ีอาศัยของผู้ท่ีจะน�ำศีลธรรม มาสโู่ ลก สง่ั สอนคนใหเ้ ปน็ คนดี และสบื ทอดค�ำสอนของพระสมั มา- สัมพุทธเจ้าให้ยาวนาน ดังนั้นงานก่อสร้างน้ี จึงน�ำความปีติและ ภาคภมู ใิ จมาสทู่ มี งานวา่ มสี ว่ นในการสรา้ งคนดใี หก้ บั โลก สบื ทอด พระศาสนา และสืบทอดเส้นทางพระนิพพานให้กับโลกและ จักรวาลตอ่ ไป นายปราโมทย์ รตั นาลงั การ ผู้จัดการโครงการ อาคารพระผปู้ ราบมาร อาคารน้ีจะมีความคงทนและสามารถใช้ ประโยชนไ์ ดอ้ ย่างเต็มที่ คุม้ กับคา่ ใช้จา่ ยในการ กอ่ สร้าง และมคี ่าใชจ้ ่ายในการบ�ำรุงรกั ษานอ้ ย มีความเป็นระเบียบ สวยงาม เป็นแบบอย่างและมาตรฐานของ โครงการต่อ ๆ ไปได้ ซึ่งทั้งหมดน้ีเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ ครบู าอาจารย์ ในการท�ำงานต้องตระหนักไว้เสมอว่า ปัจจัยท่ีน�ำมา ก่อสร้างน้นั ญาตโิ ยมน�ำมาบริจาคทงั้ สิ้น ดงั นน้ั ทกุ ทา่ นท่มี าวัดจงึ อยู่ในฐานะเป็นเจ้าของอาคารและเจ้าของวัดร่วมกัน ทั้งการ ก่อสร้างและการประสานงานจึงต้องรักษาศรัทธาของเจ้าภาพไว้ เสมอ
66 นายธนา สาคร วศิ วกรระบบไฟฟา้ สื่อสาร รู้สึกปล้ืมใจและภูมิใจท่ีมีส่วนร่วมสร้าง อาคารที่พักส�ำหรับพระภกิ ษสุ งฆ์ ซ่งึ เปน็ ทีต่ ัง้ แห่งศรทั ธาในพระศาสนา การวางแนวคดิ และ รูปแบบห้องดูแล้วพระภิกษุสงฆ์ท่านเรียบง่าย ไม่เน้นอะไรที่ไม่จ�ำเป็นในที่พัก ย่ิงท�ำให้เข้าใจ ในวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์มากยิ่งข้ึน เหมือนที่พระเดชพระคุณ- หลวงพอ่ ให้นโยบายในการกอ่ สรา้ งวา่ ประโยชน์สงู ประหยัดสุด ตามที่ใช้ในการก่อสร้างวัดตง้ั แตต่ น้ มาโดยตลอด วธิ คี ดิ ในการท�ำงานของทมี งานจะแตกตา่ งออกไปจากการ สรา้ งอาคารสงู ตามโครงการอนื่ เนอื่ งจากโครงการทวั่ ไปจะคดิ และ ท�ำเพื่อขายให้ลูกค้า แต่โครงการนี้เราคิดและสร้างให้พระภิกษุ ผู้ทรงศีล 227 ข้อ พ�ำนักอาศัย เปรียบเสมือนการสร้างกุฏิเป็น พนั ๆ หลงั ใหพ้ ระนบั พนั รปู ดงั นนั้ กระบวนการกอ่ สรา้ งจะประณตี กว่างานขา้ งนอกมาก เพราะเราคิด function ส�ำหรบั พระ เมื่อดู ภายนอกอาจดูใหญโ่ ต แตด่ ้านใน เราจัด lay out อย่างเรยี บง่าย สมถะ หน่งึ หอ้ งมพี ระภกิ ษุอยรู่ ่วมกัน 4-10 รูป และเราออกแบบ โดยมองถงึ ความสงบและเรียบง่ายไปพรอ้ ม ๆ กนั แต่มมี าตรฐาน ความปลอดภัยสงู สุด
67 นายวราทิตย์ รอดรบั บุญ หัวหนา้ งานระบบโครงการฯ รู้สึกภูมิใจว่าเรามีบุญและโชคดีมากที่มี ส่วนร่วมในงานก่อสร้างอาคารหลังนี้ ซ่ึงชื่อ ของอาคารหมายถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน�้ำ ผู้เป็นมหาปูชนียาจารย์ของพวกเรา ทุกคน อาคารหลงั นจี้ ึงเป็นอาคารท่ีส�ำคัญมาก ๆ อาคารหน่งึ ใน วดั พระธรรมกาย เปน็ อาคารทพ่ี ระภกิ ษสุ งฆซ์ งึ่ เปรยี บเสมอื นลกู ศษิ ย์ หรอื หลานศษิ ยข์ องหลวงปพู่ �ำนกั อาศยั และประพฤตปิ ฏบิ ตั ธิ รรม โครงการนมี้ ีโจทย์อยู่ว่า เราจะตอ้ งสร้างอาคารให้ออกมา ดดู ี เปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย สะอาด และมคี วามประณตี ของเนอ้ื งาน ทกุ ๆ สว่ นใหม้ ากทสี่ ดุ เชน่ ท�ำความสะอาดงา่ ย งานระบบภายใน อาคารจะตอ้ งดแู ลรกั ษางา่ ย เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ย ประหยดั พลงั งาน รวมทั้งเกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคาร เพื่อให้คุ้มค่ากับปัจจัย ท่ีผู้มีบุญร่วมบุญมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และถอื ว่าเปน็ การบชู าธรรมพระเดชพระคุณหลวงปดู่ ้วยเชน่ กัน
68 อานิสงส์การสรา้ งอาคารพระผูป้ ราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 8
69 1. ผใู้ หท้ พ่ี กั อาศยั ขน้ึ ชอื่ วา่ ใหท้ กุ สง่ิ บญุ กศุ ลทเ่ี กดิ จากการ ใหท้ ุกส่งิ จะท�ำให้สมบูรณ์พร้อมทุกดา้ นอย่างง่าย ๆ 2. เมื่อไปเกิดในภพชาติใด ผู้สร้างจะปลอดกังวลในเรื่อง ที่อยู่อาศัย เพราะจะบังเกิดสมบัติเป็นท่ีอยู่อาศัยอันประณีตไว้ รอทา่ อกี ทงั้ ยงั เปน็ ทอ่ี ย่อู าศยั ในท�ำเลดี อยใู่ นปฏิรปู เทส 4 ซง่ึ ท�ำให้เกดิ ความสะดวกสบายในหนทางการสร้างบารมี เพราะได้ สร้างเหตุเอาไว้ในภพชาตินี้ 3. ผสู้ รา้ งจะมสี ขุ ภาพพลานามยั ทสี่ มบรู ณแ์ ขง็ แรงทงั้ กาย และใจ น่ัง นอน ยืน เดนิ หลับเปน็ สุข ตน่ื เปน็ สุข เพราะไดส้ รา้ ง สถานทพี่ ัก และท่จี �ำวดั ถวายแดพ่ ระภกิ ษสุ งฆจ์ �ำนวนมาก 4. ผ้สู ร้างจะมสี ายบุญเชอ่ื มกับมหาปูชนียาจารย์ และจะ
70
71 สามารถบรรลธุ รรมทที่ า่ นบรรลไุ ดโ้ ดยงา่ ย สามารถเขา้ ถงึ นพิ พาน และที่สดุ แหง่ ธรรมได้โดยงา่ ย 5. ผสู้ รา้ งจะเกิดในตระกูลสงู เข้าถึงฐานะอนั สงู สง่ เปน็ ท่ี เคารพนับถือเกรงใจของเหล่ามนุษย์และเทวา เพราะขึ้นชื่อว่า บูชาบุคคลท่คี วรบชู า ซง่ึ ถือวา่ เปน็ มงคลอนั สูงสดุ 6. ผู้สรา้ งจะมบี ุตร บริวาร ที่มคี วามเคารพ กตัญญู และ อยใู่ นโอวาท เพราะท�ำทานดว้ ยความเคารพ ความกตญั ญู ทม่ี ตี อ่ มหาปชู นยี าจารย์ 7. ผู้สร้างจะเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เพราะได้สร้าง มหากาลทานทปี่ ระกอบด้วยปัญญา บชู าผู้ท่ีมีปญั ญา ทีถ่ ึงพร้อม ดว้ ยวิชชาและจรณะ 8. ผสู้ รา้ งจะเปน็ ผมู้ สี มั มาทฐิ ิ เกดิ ในปฏริ ปู เทส ในดนิ แดน ทพ่ี ระพทุ ธศาสนาเจรญิ รงุ่ เรอื ง เพราะไดส้ รา้ งเหตแุ หง่ ความเจรญิ ไว้ในพระพุทธศาสนา 9. หลงั จากละโลกแลว้ จะไดไ้ ปเสวยทพิ ยสมบตั ิ ถงึ พรอ้ ม ด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ สขุ และอธิปไตยอนั ไม่มปี ระมาณ 10. เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเข้าถึงความเป็น มหาเศรษฐีได้โดยง่าย ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์อันมากมาย เพราะ ได้บริจาคทรัพย์ไว้ในพระพุทธศาสนา ได้ท�ำบุญกับเนื้อนาบุญ อันเลศิ ฯลฯ
72 ไขข้อข้องใจเกีย่ วกับ เรื่องการทำ�บุญ 9
73 1. จุดประสงค์ของการท�ำบุญ คือ ท�ำเพื่อขจัดความตระหน่ี และความโลภ แต่พอท�ำแล้วอธิษฐานอยากได้น่ัน อยากได้น่ี ไม่จดั ว่าเป็นความโลภหรือ? ตอบ ความอยาก มี 2 แบบ คอื ความอยากในทางไมด่ ี และความอยากในทางดี แบบแรก ความอยากในทางไมด่ ี เรยี กวา่ ความโลภ เปน็ ความอยากของคนมกี ิเลสตัณหาเปน็ แรงกระตุ้น เชน่ อยากจะมี ภรรยาเพิม่ อกี สกั คน หรืออยากยกั ยอกเงินของคนอืน่ ฯลฯ
74 ความอยากแบบน้ี เป็นความอยากท่ีเปรียบเสมือนคน ท�ำงานหนกั เพราะแรงกระตนุ้ ของยาเสพตดิ เชน่ ยาบา้ คอื กระตนุ้ ให้ท�ำงานไปชั่วระยะหนึ่ง พอหมดฤทธ์ิยาร่างกายก็อ่อนเพลีย อยา่ งเดมิ สขุ ภาพกแ็ ยล่ งทุกวัน และพอเสพคร้ังต่อ ๆ ไป ก็ต้อง เพิ่มปรมิ าณยามากข้นึ เร่ือย ๆ จนสุดทา้ ยกต็ อ้ งตายเพราะยานัน้ แบบที่สอง ความอยากในทางดี เรียกว่า ฉนั ทะ หรอื จะ ระบุให้ชัดเจนลงไปก็เรยี กวา่ ธรรมฉันทะ ตัวอย่างเช่น การท�ำบุญแล้วอธิษฐานตั้งความปรารถนา ในส่ิงท่ีดี คืออยากบรรลุมรรค ผล นิพพาน ตามพระสัมมา- สมั พทุ ธเจา้ เพอื่ ใหห้ มดกเิ ลส ไมต่ อ้ งกลบั มาเวยี นวา่ ยตายเกดิ อกี ไม่ตอ้ งกลบั มาสรา้ งกรรมอีก หรอื ท�ำบญุ แลว้ อธษิ ฐานขอให้รวย เพ่อื จะได้มที รัพย์ไว้บรจิ าคชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนุษย์ ชว่ ยท�ำนบุ �ำรงุ พระพทุ ธศาสนา และทส่ี �ำคญั หากเรารวย จะไดไ้ มต่ อ้ งกงั วลเรอ่ื ง การท�ำมาหากนิ มเี วลามาสรา้ งบญุ สรา้ งกศุ ล มเี วลานงั่ สมาธมิ าก ๆ เพ่อื จะได้หมดกิเลสบรรลมุ รรค ผล นิพพาน เรว็ ๆ ความอยาก แบบนี้เปรียบเสมือนน�้ำกล่ันท่ีสะอาดแล้ว ไม่มีฝุ่นละออง หรือ เชื้อโรคเลย ย่อมให้คุณแก่ร่างกายอย่างเดียว ย่ิงดื่มก็ย่ิงท�ำให้ ร่างกายสดชนื่ ระบบขับถา่ ยดี ระบบการดูดซมึ ดี และร่างกายก็ สดชืน่ แขง็ แรงขึน้ เรือ่ ย ๆ
75 2. ท�ำบุญแล้ว..จ�ำเป็นต้องอธิษฐานด้วยหรือ การอธิษฐาน เหมือนเป็นการท�ำบญุ แลว้ หวังผลหรือเปล่า? ตอบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังอธิษฐานเลย ท่านท�ำบุญ เมอื่ ไรกอ็ ธษิ ฐานตงั้ ความปรารถนาอยากจะเปน็ พระพทุ ธเจา้ เพอ่ื จะได้มาช่วยสรรพสตั วใ์ หห้ มดกเิ ลส อกี ทงั้ การอธษิ ฐานจติ กเ็ ปน็ หนงึ่ ในบารมี 10 ทศั ทจี่ �ำเปน็ ต้องท�ำอย่างยิ่ง เรยี กวา่ อธษิ ฐานบารมี เพราะหากท�ำบุญแลว้ ไม่อธิษฐาน เวลาบุญส่งผลก็อาจจะท�ำให้ชาติหน้าเกิดมาเป็น คนรวยทช่ี วั่ เอาทรพั ยไ์ ปใชใ้ นทางเสอื่ ม กอ่ เวรสรา้ งกรรมใหต้ วั เอง และผอู้ น่ื เดอื ดรอ้ น ดงั นน้ั เราจงึ ตอ้ งอธษิ ฐานเพอื่ ไมใ่ หเ้ อาผลบญุ ท่ีเราได้รับไปใช้ในทางเส่ือม เช่น อธิษฐานว่า ด้วยบุญกุศลนี้ ขอใหข้ า้ พเจา้ มที รพั ยไ์ วใ้ ชใ้ นการสรา้ งบญุ สรา้ งบารมแี ตฝ่ า่ ยเดยี ว สามารถมที รพั ยไ์ วเ้ ลยี้ งพอ่ แม่ ไมน่ �ำทรพั ยไ์ ปใชใ้ นทางเสอื่ ม และ ขอใหท้ รพั ยท์ จี่ ะบงั เกดิ แกข่ า้ พเจา้ ไมเ่ กดิ จากอาชพี มจิ ฉาวณชิ ชา 5 อยา่ ง ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรงหา้ มท�ำ คอื คา้ อาวธุ คา้ มนษุ ย์ คา้ สตั ว์ ให้เขาน�ำไปฆา่ คา้ น�้ำเมา คา้ ยาพษิ และอธิษฐานก�ำกบั ตอนท้าย ด้วยว่า ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าบรรลุมรรค ผล นิพพาน และ ไปถงึ ทส่ี ดุ แหง่ ธรรมโดยเร็วพลันเทอญ
76
77 3. ดอู ยา่ งไรว่า เราท�ำบุญไปมากพอหรอื ยงั ? ตอบ ถ้าบุญเรามากจนเต็มเปี่ยมแล้ว เราก็ไม่มาน่ังอ่าน หนังสือเล่มนี้อยู่ตรงน้ีหรอก เราคงบรรลุมรรค ผล นิพพาน ไปแล้ว และทีส่ �ำคัญ ถา้ บุญเรามากพอ..ปา่ นน้ีเราต้องสมหวงั ใน ทุกสิ่งไปแลว้ ดังนน้ั ให้เราย้อนกลบั ไปทบทวนดวู ่า ชวี ติ เราตั้งแต่ เกดิ มาจนถงึ ปจั จุบนั มคี วามพรอ่ งหรอื ได้รับความทุกขใ์ นเรอื่ งใด มาบ้าง ก็ใหท้ �ำบญุ แล้วอธษิ ฐานเพ่อื แกไ้ ขในสิง่ น้ัน ๆ 4. ตอ้ งท�ำบญุ ขนาดไหน? ตอบ ต้องท�ำถึงขนาดที่ใจเราปล้ืมสุด ๆ หากท�ำแล้วยัง ไมป่ ลมื้ กต็ อ้ งท�ำอกี จนกระทงั่ รสู้ กึ ปลม้ื ใหไ้ ด้ เพราะบญุ ทท่ี �ำแลว้ เกิดความปลื้มสดุ ๆ จะสง่ ผลไดเ้ ร็วกวา่ และแรงกวา่ บุญทท่ี �ำแล้ว รู้สกึ เฉย ๆ หรือท�ำไปเพราะความเกรงใจ และที่ส�ำคัญ หากเราท�ำบุญแล้วปลื้ม อีกทั้งยังสามารถ ตรกึ ระลกึ นกึ ถงึ บญุ ทเ่ี คยท�ำไปไดบ้ อ่ ยครงั้ มากเทา่ ไร กจ็ ะมผี ลตอ่ จ�ำนวนชาตทิ บี่ ญุ จะส่งผลมากขึ้นเท่านั้น และมากไปกว่าน้ัน หากตามตรกึ ระลึกนึกถึงบญุ ทีท่ �ำไป แล้วบ่อย ๆ ด้วยความปล้ืมปีติ บุญท่ีเราตามตรึกระลึกนึกถึงน้ี ก็จะไปดูดบุญเก่า ๆ ท่ีเคยท�ำผ่าน ๆ มาต้ังแต่อดีตชาติ ท้ัง บุญเล็กบุญน้อย หรือบุญท่ีอ่อนก�ำลังไปแล้ว ให้ตามมาส่งผล ใหต้ ามมาหลอ่ เลี้ยงชีวิตเราใหด้ ขี น้ึ
78 5. ต้องท�ำอยา่ งไรถงึ จะปล้มื ปตี ?ิ ตอบ ปกตโิ ดยทวั่ ไป ความปลมื้ ปตี เิ กดิ จากเหตหุ ลายอยา่ ง เชน่ ความปตี ทิ ีเ่ กิดจากอ�ำนาจสมาธิ การยอ้ นนึกถึงความดที ีท่ �ำ ไดย้ าก การท�ำบญุ อยา่ งสดุ ก�ำลงั หรอื การตดั ใจจากความตระหน่ี ที่ตัดได้ยากแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน อย่างเช่น นายติณบาล ท่ี ท�ำบุญด้วยทรัพย์ชิน้ สุดท้าย หรืออดตี ชาติของเมณฑกเศรษฐี ท่ี ท�ำบญุ ดว้ ยอาหารมอ้ื สดุ ทา้ ย ท�ำจนหมดตัว แตก่ ลบั ปลืม้ โดยไม่ นกึ เสยี ดายเลย อกี ทงั้ ยงั มคี วามปลมื้ ครบทงั้ 3 ระยะ คอื กอ่ นท�ำบญุ ขณะท�ำบุญ และหลังท�ำบุญ ความปล้ืมจะท�ำให้เราประทับใจ จดจ�ำสิ่งน้ันไปได้นานแสนนาน อีกทั้งยังสามารถนึกถึงได้เป็น สิ่งแรก โดยไมเ่ คยลมื ไปจากความทรงจ�ำเลย และนกึ ถงึ ครั้งใดก็ นำ้� หูน�้ำตาไหล ขนลกุ ชูชัน เพราะความปลม้ื ปตี ิ 6. อะไรเป็นเหตทุ ี่ท�ำใหบ้ ญุ สง่ ผลชา้ ? ตอบ คงเคยไดย้ นิ ค�ำพดู ทว่ี า่ ท�ำบญุ แลว้ บญุ ไมเ่ หน็ สง่ ผล สักที หากเราก�ำลังประสบปัญหาน้ี หรือเจอใครที่พบปัญหานี้ ก็ให้ลองมาส�ำรวจกันว่า เป็นเพราะเหตุผลบางประการเหล่าน้ี หรือไม่... 1. ท�ำบุญดว้ ยความไม่ศรัทธา 2. ท�ำบญุ ด้วยความเกรงใจ 3. ท�ำบุญแล้วไมป่ ลมื้ 4. ท�ำบุญแล้วไมต่ ามตรกึ ระลึกนกึ ถึงบญุ อย่างตอ่ เนื่อง
79 5. ท�ำบุญไมเ่ ต็มก�ำลงั 6. ท�ำบญุ ชา้ เวลาไดอ้ ะไรกไ็ ดช้ า้ 7. เวลาจะท�ำบญุ คิดแล้วคิดอกี มีเงื่อนไขในการท�ำบญุ เวลาได้ อะไรกเ็ ลยไดย้ าก มีเงอ่ื นไขมาก กวา่ จะไดท้ รัพยม์ ากต็ ้องเหนอ่ื ย ตอ้ งแลกมาดว้ ยความยากล�ำบาก 8. ก่อนท�ำบญุ ขณะท�ำบุญ หลงั ท�ำบุญ ใจไม่ใส มเี ร่ืองหงดุ หงิด กังวล โมโห จนท�ำใหใ้ จหมอง 9. วตั ถหุ รอื เงนิ ทน่ี �ำมาท�ำบญุ เป็นวัตถไุ มบ่ รสิ ทุ ธิ์ ได้มาจากความ ไม่สุจรติ ไดจ้ ากอาชพี ไม่บรสิ ทุ ธ์ิ 10. ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั เปน็ บคุ คลไมบ่ รสิ ทุ ธิ์ เชน่ รกั ษาศลี 5 ศลี 8 หรอื ศีล 227 ขอ้ ไมค่ รบ หรือมศี ีลด่างพร้อย 11. เจตนาในการท�ำบญุ ไมบ่ รสิ ทุ ธ์ิ เชน่ ท�ำบญุ เอาหนา้ ท�ำเพราะ แข่งดแี ขง่ เด่น ไม่ไดท้ �ำด้วยกุศลจิต เชน่ อยากบรรลุมรรค ผล นพิ พาน อยากสละความตระหน่ี ฯลฯ 12. ท�ำบุญแลว้ นึกเสียดายในภายหลัง 13. ท�ำบญุ ไม่ถูกแหลง่ เน้อื นาบญุ 14. ท�ำบญุ ไมต่ อ่ เนอ่ื ง ท�ำใหบ้ าปทเี่ คยท�ำไวไ้ ดช้ อ่ งสง่ ผลกอ่ นทบี่ ญุ จะสง่ ผล 15. ขาดการนง่ั สมาธทิ ส่ี มำ่� เสมอ เพราะการนง่ั สมาธจิ ะท�ำใหใ้ จใส หากใจใสแล้วจะมีอ�ำนาจไปดึงดูดบุญที่เคยท�ำไว้ให้มารวมส่งผล ได้เร็วแรง...
ผจู้ ดั ทำ� จัดท�ำโดย : ชมรมผูร้ ักบุญ ที่ปรึกษา : วนั ชัย ภทั รโกมล, สิริวรรณี ภปู ระเสริฐ, ปราณี ชัยผดุง, ขวัญจติ ต์ จติ สนิ ธ,ุ PRE-GAE & PM.TUN บรรณาธิการบรหิ าร : ส.สขุ โข กองบรรณาธกิ าร : รัดเกล้า ลิว่ เฉลมิ วงศ,์ ระพีพรรณ ใจภกั ด,ี สธุ ดิ า จินดากจิ นุกลู , กนกพร เทศนา, อมรพรรณ ทองสมบรู ณ,์ พงษว์ นาถ ดวงปาน, มะลิ รน่ื ณรงค์ ประสานงาน : นธิ นิ ันท์ นิธจิ งสวสั ดิ,์ น้ำ� ผ้ึง พ่มุ มาลี, พรรณี โอษฐ์นภาพร ภาพ : อมรรตั น์ สมาธทิ รัพยด์ ี, อดิเศรษฐ์ นฐั กรานต์นวุ ัฒน์ กองพุทธศลิ ป์ และศนู ยภ์ าพน่งิ ศิลปกรรม : สิริพนั ธ์ุ สมาหารพันธ,์ุ กาญจนา ประสมศรี จดั พมิ พ์ท่ี : โรงพิมพ์ เอส.เอม็ .เค พรน้ิ ติ้ง จ�ำกดั วันทพ่ี ิมพ์ : 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Search