ส่วนท่ี 3 การดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผลการจดั การศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (รายละเอียดนโยบายการตรวจราชการฯ ดังเอกสาร แนบหนา้ 14) 2.1 การตรวจราชการกรณีปกติ 1) ดา้ นความม่ันคง การส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพ้ืนฐานชีวิตที่ม่ันคง และมีคุณธรรม ความเป็นพลเมือง ปลูกฝังความมีระเบียบวินัย โดยกระบวนการลูกเสือ และยุวกาชาด - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป (1) การฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ หลักสูตรผู้กากับลูกเสือข้ันความรู้ช้ันสูง (A.T.C) เพ่ือให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนบุคลากรทางการลูกเสือ และผู้ท่ีสนใจ ได้มีวุฒิทางการลูกเสือท่ีสูงขึ้น และมีความรู้ความเข้าใจในขบวนการลูกเสือสามารถบริหารกองลูกเสือของตนเองได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ย่ิงขึ้น โดยจัดโครงการฝึกอบรมผู้บังคับลูกเสือหลักสูตรผู้กากับลูกเสือข้ันความรู้ช้ันสูง (A.T.C) จานวน 3 หลักสตู ร 1. หลกั สูตรผูก้ ากับลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรชู้ น้ั สูง (A.T.C) ระหว่างวนั ท่ี 6 – 12 พ ฤ ศ จิ ก าย น 2 5 6 3 ณ ค่ าย ลู ก เสื อ ช่ั วค ราว โรงเรีย น บ้ าน ไร่ใต้ อาเภ อ พิ บู ล มั งส าห าร จงั หวัดอุบลราชธานี ผ้เู ข้าอบรมจานวน 65 คน 2. หลักสูตรผู้กากับลูกเสือสามัญ ขั้นความรู้ช้ันสูง (A.T.C) ระหว่างวันที่ 23 -29 พฤศจิกายน 2563 ณ ค่ายลูกเสือชั่วคราวโรงเรียนบ้านอ่างหิน (เพียรพิทยาคาร) อาเภอพิบูลมังสาหาร จงั หวดั อบุ ลราชธานี ผูเ้ ขา้ อบรมจานวน 62 คน 3. หลักสูตรผู้กากับลูกเสือสารอง ข้ันความรู้ชั้นสูง (A.T.C) ระหว่างวันท่ี 4 - 10 พฤศจิกายน 2563 ณ ค่ายลูกเสือสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ผู้เข้าอบรมจานวน 44 คน - ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ปัญหาอปุ สรรค ข้อเสนอแนะ -ผเู้ ข้าร่วมการอบรมมีภาระการสอนนักเรยี นมาก - เหน็ ควรให้มีการจัดอบรมในชว่ งปดิ ภาคเรียน - นวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอยา่ งท่ดี ี (Best Practice) -ไม่มี- (2) การจดั โครงการ “ศธ จิตอาสาบาเพ็ญประโยชน์” สานักงานลูกเสือเขตพื้นท่ีการศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้จัดกิจกรรมวันพ่อ แห่งชาติ ในโครงการ “ศธ. จิตอาสาบาเพ็ญ ประโยชน์” เพื่อน้อมราลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และเพื่อปลูกฝังจิตสานึกที่ดีให้กับลูกเสือ เนตรนารีจิตอาสา ผู้บาเพ็ญ ประโยชน์ ให้มีจิตอาสา และจติ สาธารณะบาเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลอื ผู้อ่ืน ในวนั ที่ 14 มกราคม 2564 ณ คา่ ยลูกเสอื ช่ัวคราว โรงเรียนบ้านไร่ใต้ อาเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี มีลูกเสือและเนตรนารีเข้าร่วมกิจกรรม จานวน 330 คน และผูบ้ ังคบั บัญชาลกู เสอื เขา้ ร่วมกิจกรรม จานวน 15 คน รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจดั การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หน้า 16
- ปญั หาและอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ไมม่ ี ปญั หาอปุ สรรค ไมม่ ี - นวัตกรรม/ตน้ แบบหรือแบบอยา่ งทด่ี ี (Best Practice) -ไมม่ ี- 2) ด้านการสร้างความสามารถในการแขง่ ขนั 2.1) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกชว่ งวยั โดยการเพิ่มพูนทักษะ (Re-skill) พัฒนาทักษะ (Up skill) และการเรียนรู้ทักษะใหม่ (New skills) เพ่ือเพ่ิมศักยภาพในการแข่งขัน - ผลการดาเนินงานโดยสรปุ (1) การสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และ คณติ ศาสตร์ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 โดยรบั สมคั รนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4-6 มนี ักเรียนสมัครสอบ ดงั นี้ 1) วชิ าคณิตศาสตร์ จานวน 36 คน 2) วิชาวิทยาศาสตร์ จานวน 39 คน จะดาเนินการสอบ วันท่ี 27 กุมภาพันธ์ 2564 โดยสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้นาข้อสอบปี 2563 เพ่ือให้ครูผู้รับผิดชอบนาไปให้นักเรียนฝึก ทาข้อสอบ และทบทวนความรูใ้ ห้นกั เรยี น โดยนักเรยี นทีไ่ ด้รับคัดเลือกให้รับเหรยี ญรางวัล วชิ าละ 100 คน จะได้รับเหรียญรางวัลพร้อมเกียรติบัตรการและการส่งเสริม จาก สสวท. ในรูปแบบท่ีจะเสริมศักยภาพของ นักเรียนให้สูงย่ิงๆขึ้นไป และนักเรียนท่ีเข้าสอบจะได้รับคัดเลือกวิชาละประมาณ 1,000 คน เพ่ือ สสวท. จะจัดส่งส่ือเสรมิ การเรยี นเพอื่ ศึกษานอกเวลาเรียนและใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ (2) การสอบแขง่ ขันทางวิชาการระดบั นานาชาติ ประจาปี พ.ศ. 2564 รับสมัครนักเรียน ชัน้ ป. 4-6 และ ม.1-3 โดยมีผู้สมคั ร 300 คน ดงั นี้ 1) วิชาคณติ ศาสตร์ ระดับประถมศึกษา จานวน 161 คน 2) วชิ าคณิตศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จานวน 20 คน 3) วิชาวทิ ยาศาสตร์ ระดบั ประถมศึกษา จานวน 119 คน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา สพฐ. ได้เล่ือนการ สอบแข่งขัน ทางวิชาการระดับนานาชาติ ประจาปี พ.ศ.2564 (รอบแรกระดับเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา) ออกไป ก่อน โดยในด้านการเตรียมความพร้อม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้นาขอ้ สอบปี 2563 เพือ่ ให้ครูผู้รบั ผิดชอบนาไปให้นกั เรยี นฝกึ ทาขอ้ สอบ และทบทวนความรใู้ ห้นกั เรียน (3) การส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนในกลมุ่ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยี ตาม นโยบาย เพ่ือฝึกประสบการณ์และทกั ษะอาชีพให้กับนักเรยี น เชน่ การสอนวชิ าชีพระยะสั้น การจดั กิจกรรม ลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ การจัดกิจกรรมเกษตรเพ่ือโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน นักเรียนที่จบชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ปีการศกึ ษา 2562 จานวน 1,312 คน โดยผลการดาเนินการนกั เรยี นที่มผี ลการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี เทคโนโลยี ตงั้ แต่ระดับ 3 จานวน 947 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 72.18 รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจดั การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 17
(4) โครงการฝึกทกั ษะอาชพี ทีไ่ ดร้ บั เงนิ จัดสรรจากกองทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทาง การศึกษา (5) สง่ เสริมให้โรงเรยี นนานักเรยี นไปศกึ ษาดงู านในสถานศึกษาทเี่ ปิดหลกั สูตรการอาชพี เชน่ วิทยาลยั การเกษตร สถาบันพฒั นาฝมี ือแรงงาน วทิ ยาลัยเทคนิค - ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ปญั หาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ 1. คัดเลือกนกั เรียนเข้าโครงการพฒั นาอจั ฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มีผสู้ มัครจานวนนอ้ ย เนื่องจากมีคา่ สมัครสอบ 2. นกั เรียนที่อยู่ห่างจากสถานทีส่ อบมีปญั หาในการเดินทาง - นวัตกรรม/ตน้ แบบหรอื แบบอย่างท่ีดี (Best Practice) นาขอ้ สอบเดิมของปีทแ่ี ล้วฝกึ ให้นักเรยี นทาข้อสอบ และครทู บทวนความรู้ใหน้ ักเรียน อภิบายในส่วนทนี่ กั เรยี นไม่เข้าใจ หรือทาข้อสอบไม่ได้ 2.2) การจัดการศึกษาแบบทวิศึกษา และห้องเรยี นอาชีพสู่การสรา้ งอนาคตใหผ้ ู้เรียนมีอาชีพและมงี านทา - ผลการดาเนินงานโดยสรปุ - - ปัญหาและอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปญั หาอุปสรรค - นวตั กรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างท่ีดี (Best Practice) 2.3) การจัดการศึกษาแบบทวิภาคี ข้อเสนอแนะ - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป - - ปัญหาและอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค - นวตั กรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 18
3) ดา้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1) การส่งเสริมสนับสนุนใหส้ ถานศึกษาจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาผู้เรยี นใหม้ ที ักษะในศตวรรษ ที่ 21 - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป 1. การจัดการเรยี นการสอนท่ีส่งเสริมการลงมือปฏบิ ตั จิ ริง Active learning 2. มีการจัดการเรียนการสอนเพือ่ ฝึกทักษะการคดิ แบบมเี หตผุ ลและเป็นขัน้ ตอน (Coding) 3. การจดั การเรยี นรู้ดว้ ย STEM Education 1.การจัดการเรยี นการสอนที่สง่ เสริมการการลงมือปฏิบัติจรงิ Active learning การจัดการเรยี นรดู้ ้วยวธิ ีการลงมอื ปฏบิ ัติจริง Active learning ผลการดาเนนิ งานพบวา่ หนว่ ยงาน สถานศึกษามีการชี้แจงนโยบายให้กับศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนเพื่อสร้างความรู้ความ เข้าใจแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริง Active learning เน้นการปฏิบัติจริงเชอื่ มโยงบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สภาพแวดล้อมใกล้ตวั ปัญหาชุมชน สังคมและผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และกระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญร่วมมือกับภาคชุมชนในการอบรมให้ความรู้แก่ครูแกนนา ในการจัดการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง Active learning และนาไปสู่การขยายผลแก่ครูในโรงเรียน เน้นการ เรยี นแบบปฏบิ ตั หิ รอื ลงมอื ทาสร้างกระบวนการจดั การเรียนรู้ท่ีผเู้ รยี นได้ลงมือปฏบิ ัติเอง ผลลพั ธ์/ความสาเรจ็ 1) มีนวัตกรรมในการสง่ เสริมสนับสนุนสถานศกึ ษาจดั กระบวนการเรียนรู้ ที่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั อยา่ งต่อเน่ือง 2) ผู้เรยี นสามารถแสวงหาความรูแ้ ละเรยี นรดู้ ้วยตนเองลงมอื ปฏบิ ตั จิ ริง ปัญหาและอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ปญั หาอุปสรรค ส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้ทุกโรงเรยี น จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนแบบ 1) ครูและบคุ ลากรทางการศึกษายงั ขาดความตระหนักความรู้ ลงมือปฏิบตั จิ ริง Active learning ความเข้าใจการจัดการเรียนการสอนแบบActive learning อยา่ งต่อเนอ่ื ง และขาดทกั ษะในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวทาง Active learning 2) ครูไม่ครบชนั้ ทาใหจ้ ัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทเี่ นน้ การลง มือปฏบิ ัติ Active learning ไมค่ รบถว้ นท้ังทุกกล่มุ สาระการ เรียนรู้ 2. มีการจดั การเรียนการสอนเพื่อฝกึ ทกั ษะการคดิ แบบมีเหตผุ ลและเปน็ ขน้ั ตอน (Coding) ผลการดาเนินงาน การจัดการเรียนการสอนเพ่ือฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผลและเป็นขั้นตอนได้ สนับสนุนส่งเสริมให้ความรู้ครูผู้สอน มีความรู้ความเข้าใจกระบวนการจัดการเรียนรู้ ออกแบบการจัดการรู้ ตรงตามมาตรฐานตัวชี้วัด นิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้ จนครูสามารถออกแบบการจัดการเรียนรูไ้ ดอ้ ย่าง มปี ระสิทธภิ าพ รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจดั การศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 19
ผลลัพธ/์ ความสาเร็จ 1) ครสู ามารถออกแบบกจิ กรรมการจัดการเรียนรเู้ พอ่ื ฝึกทักษะการคดิ แบบมเี หตุผลและเป็น ขัน้ ตอน Coding รวมทง้ั ในรปู แบบ Unplug 2) ผเู้ รยี นสามารถสร้างสรรคผ์ ลงานโดยผ่านกระบวนการฝกึ ทักษะการคิดแบบมีเหตผุ ลและเปน็ ขน้ั ตอน Coding ปญั หาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ ๑) ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษายังขาดความตระหนัก ควรพัฒนาครเู พื่อเพม่ิ พูนความร้คู วาม ความรูค้ วามเข้าใจการออกแบบกิจกรรมการจดั การ เข้าใจในการออกแบบกจิ กรรมการ เรยี นการสอน เพ่ือฝึกทักษะการคดิ แบบมีเหตุผลและ จดั การเรยี นการสอน เพ่ือฝกึ ทกั ษะการ เปน็ ข้นั ตอน Coding คิดแบบมเี หตุผลและเปน็ ขนั้ ตอน ๒) ครูไม่ครบชนั้ ทาให้จดั กิจกรรมการเรยี นการสอน เพื่อ Coding อย่างต่อเน่ือง ฝึกทกั ษะการคิดแบบมเี หตุผลและเป็นข้ันตอน Coding ไม่ครบถ้วนทั้งทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 3. การจดั การเรียนรู้ด้วย STEM Education ผลการดาเนินงานกลุ่มหน่วยงานด้านการศึกษามีการจัดอบรมและพัฒนาครูผู้สอนระดับปฐมวัย เร่ืองการจัดประสบการณ์เรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาและกิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โดย สอดแทรกกระบวนการสะเต็มลงไปในหน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนครูเข้ารับการอบรมสะเต็มในวิชา วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีการจดั การเรยี นการสอน ตามแนวทางของสถาบนั ส่งเสรมิ การสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เพ่ือให้เด็กได้คิดแก้ไขปัญหาด้วยตนเองโดยมีครูที่เป็นผู้ช่วยเหลือ แนะนาโรงเรียนจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการความรู้แบบสะเต็มศึกษาในรายวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีโรงเรียนจัดครูพ่ีเล้ียงสะเต็มศึกษาในแต่ละโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วยระบบ ทางไกลผา่ นดาวเทยี ม DLTV ผลลัพธ/์ ความสาเร็จ 1) ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงบูรณาการตามแนวทางสะเต็ม ศึกษาได้และมีทักษะในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ รวมถึงครูพ่ีเล้ียงท่ีผ่านการอบรมด้วย ระบบทางไกลสะเต็มศึกษา มีความรู้ความเขา้ ใจสามารถจัดกจิ กรรมการเรียนร้สู ะเต็มศึกษาได้ 2) โรงเรียนจัดให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสะเต็มศึกษามีกิจกรรมหลากหลาย ที่สามารถ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการคิดวิเคราะห์ ต่อยอดความรู้ โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ได้แก่ทักษะการคิดวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหาการคิดอย่างสรา้ งสรรค์ การจัดกิจกรรมการทดลอง การจดั ทาโครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละมกี ารประเมินพฒั นาการเดก็ อยา่ งต่อเน่ือง รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 20
ปัญหาและอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ 1) การสอนไม่ต่อเนอื่ งครบู างส่วนยังขาดทักษะ 1) ควรจดั อบรมให้ความรคู้ รูทุกคนและต่อเนอื่ ง ในการกจิ กรรมขาดความรคู้ วามเขา้ ใจและ ความชดั เจนในการปฏิบตั ิ ๒) ขาดวัสดุอปุ กรณ์และเครอื่ งมือตา่ งๆในการ 1) จัดหาส่อื อปุ กรณก์ ารจดั การเรียนการสอน จดั กจิ กรรมการเรียนรสู้ ะเต็มศึกษาและบาง ในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ สะเต็มศึกษาให้ แห่งไดร้ ับการจัดสรรหนงั สอื ของสถาบนั เพยี งพอกับจานวนของผู้เรียน สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)ไม่เพียงพอกบั จานวนนกั เรยี น - นวตั กรรม/ต้นแบบหรือแบบอย่างท่ีดี (Best Practice) - 3.2) การพัฒนาครูให้มีทักษะความรู้และความชานาญการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และภาษาอังกฤษ รวมท้ังการจัดการเรียนการสอน (Human Capital Excellence Center : HCEC) - ผลการดาเนินงานโดยสรุป ตามท่ี สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้ดาเนินการโครงการสอบวัดผล ทกั ษะภาษาอังกฤษสาหรับบคุ ลากรทางการศึกษาและครูผสู้ อนภาษาองั กฤษ ระดับประถมศึกษาและ มัธยมศึกษาประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๓วัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ (English proficiency) ของบุคลากรทางการศึกษาและครูผู้สอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษาและ มัธยมศึกษา เพื่อนาไปสู่แนวทางการพัฒนาศักยภาพระดับทักษะภาษาอังกฤษ (English Skill) ต่อไปใน อนาคตโดยใช้ชุดทดสอบวัดผลทักษะภาษาอังกฤษท่ีมีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์กรในระดับ สากลตามกรอบมาตรฐานทางภาษา CEFR (Common European) และทดสอบผ่านกระบวนการ แพลตฟอร์มการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (DEEP) โดยจะเรมิ่ ดาเนินการท่ีศูนย์พัฒนาศักยภาพเพ่ือความเป็น เลิศ (HCEC) จานวน ๘๒ ศูนย์ (ระยะที่ ๑ ) ช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายน ๒๕๖๓ ในวันเสาร์และวัน อาทติ ย์ เริม่ ดาเนนิ การสอบในวันท่ี ๑๕ สงิ หาคม ๒๕๖๓ น้ัน ผลการดาเนนิ งาน สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ได้ดาเนินการพัฒนาครูตามโครงการรสอบวัดผลทักษะ ภาษาอังกฤษสาหรับบุคลากรทางการศึกษาและครูผู้สอนภาษาอังกฤษระดั บประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๓ จานวน 2 รุ่น ในระหว่างวนั ที่ 23 สิงหาคม 2563 และ 12 – 13 กันยายน 2563 ดงั นี้ รุ่นท่ี 1 วนั ท่ี 23 สิงหาคม 2563 จานวน 62 คน ผ่านการพัฒนา จานวน 60 คน ไมผ่ า่ น 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 96.77 รนุ่ ที่ 2 วนั ท่ี 12- 13 กันยายน 2563 จานวน 18 คน รอผล ผา่ นการพัฒนา จานวน 61 คน รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 21
- ปญั หาและอปุ สรรคและขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปญั หาอปุ สรรค 1. ควรใชข้ ้อมูลผู้เข้ารบั การพัฒนาจากต้น สงั กดั สพป. ทีม่ ีตัวตนเป็นปจั จุบันเพือ่ ตัด 1. ขอ้ มลู ผูเ้ ขา้ รับการพฒั นา เป็นขอ้ มลู มาจาก ปัญหาการติดตามผเู้ ข้ารบั การพฒั นาฯ ส่วนกลาง (สพฐ.) ทาใหข้ ้อมลู ไมเ่ ปน็ ปจั จบุ ัน คอื มีการยา้ ยไปตา่ งเขต ทาให้ตอ้ งเสยี เวลา 2. ควรจัดหาอปุ กรณ์ที่มคี วามสมบูรณ์ ติดตามผเู้ ข้ารับการพัฒนา ทนั สมยั พร้อมใช้งาน เปน็ มาตรฐาน 2. เครื่องมือที่ใช้ทดสอบ สถานท่ี หอ้ งไมม่ ีความ เดยี วกนั เป็นสว่ นตวั อปุ กรณก์ ารทดสอบไม่มีความ สมบูรณ์ อาทิ เช่น หฟู ัง ไมค์ คยี บอรด์ (ฟงั ไม่ ชัด เสียงโต้ตอบของไมค์โครโฟนใชก้ ารได้ไมด่ ี, คยี บอรด์ พมิ พ์ยาก ครูพิมพ์ช้าไม่ทนั เวลา ฯลฯ - นวัตกรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทีด่ ี (Best Practice) -ไม่มี- 4) ดา้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1) การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพ่ือการเรียนรู้ และใช้ดิจิทัลเป็นเคร่ืองมือการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) - ผลการดาเนินงานโดยสรปุ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ดาเนินการจัดประชุม การใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม DEEP ของกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบทางไกล google meet การประชุม ครั้งนี้ มีวตั ถปุ ระสงค์ดงั นี้ 1) เพื่อให้ศึกษานิเทศก์ ผู้บรหิ าร ครู บุคลากรทางการศึกษาและผเู้ กี่ยวข้องมีแพลตฟอร์ม ดิจทิ ัลในการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาให้มปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ข้ึน 2) เพือ่ ให้ผู้บริหารและครผู ู้สอนตระหนัก เหน็ ความสาคัญ และมีความรูค้ วามเขา้ ใจในการ นาเทคโนโลยีมาใช้จัดการเรียนรู้ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ดูแลผู้ใช้งานระบบ DEEP ระดับโรงเรียน สาหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จานวน 55 โรงเรียน ขยายโครงการโดยผู้บริหารและครูผู้สอน ตระหนัก เห็นความสาคัญ และมีความรู้ความเข้าใจในการนาเทคโนโลยีมาใช้จัดการเรียนรู้ การตดิ ต่อส่อื สาร ร่วมถึงการแสวงหาความรู้ - ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค โรงเรยี นขาดแคลนอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ - นวัตกรรม/ตน้ แบบหรือแบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) - รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 22
4.2) การจดั การศึกษาเด็กปฐมวยั - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป 1) โครงการพฒั นาสมรรถนะการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ของครปู ฐมวัย ตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในสถานศึกษาตงั้ แต่ปกี ารศกึ ษา 2561 เปน็ ต้นไป สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต ๓ ได้ส่งเสริมให้สถานศึกษาในสังกัดดาเนินการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยของตนเอง ให้เหมาะสมกับเด็กและสภาพท้องถิ่นและเน้นจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning ) ในระดับปฐมวัย ตามเจตนารมณ์ของหลักสูตร โดยครูปฐมวัยจะต้องมีสมรรถนะในการจัดประสบการณ์ อันประกอบด้วย ความรู้ ทักษะ และเจตคติท่ีดี สอดคล้องกับการจัดประสบการณ์เชิงรุก เพื่อให้การเด็ก ปฐมวัยให้มีพัฒนาการและความพร้อมทุกด้านตามจุดหมายของหลักสตู ร จงึ ได้จดั กิจกรรมพัฒนาสมรรถนะ ครูปฐมวัย ประกอบด้วยการวิเคราะห์หลักสูตร การออกแบบการจัดประสบการณ์ การพัฒนานวัตกรรม การศึกษาปฐมวัย การวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาBest Practice ปฐมวัย และการประเมินพัฒนาการเด็ก ปฐมวยั เพือ่ สะท้อนสมรรถนะของครปู ฐมวยั อย่างรอบดา้ น 2) โครงการพัฒนาการจัดประสบการณท์ างวทิ ยาศาสตรร์ ะดับปฐมวัย มูลนธิ สิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ ได้ริเรมิ่ โครงการบา้ นนกั วทิ ยาศาสตร์นอ้ ยขึน้ เพอ่ื เป็น แนวทางในการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สาหรับเด็กปฐมวัย เพ่ือปลูกฝังให้เด็กมี เจตคติท่ีดีตอ่ วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติและเทคโนโลยี ผา่ นกิจกรรมทสี่ รา้ งความสนุก ความเพลิดเพลิน ความ สนใจใฝ่รู้ และความกระตอื รอื ร้น ใหเ้ ด็กหัดสงั เกต รู้จักต้ังคาถาม ค้นหาคาตอบด้วยตนเอง ฝกึ ทักษะการคิด วิเคราะห์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กเติบโตข้ึนเป็นทรัพยากรบุคคลท่ีมีจิตวิทยาศาสตร์ท่ีจะขับเคลื่อน เศรษฐกจิ และสังคมไทยใหเ้ จริญกา้ วหน้าต่อไป สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๓ ได้ส่งเสริม สนับสนุนให้ โรงเรยี น เข้าร่วมโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ดังนี้ รุ่นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๔ จานวน ๑๐ โรงเรียน รุ่นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๕ จานวน ๒๐ โรงเรียน รุ่นท่ี ๓ ปีการศึกษา ๒๕๕๖ จานวน ๑๔ โรงเรียน รุน่ ที่ ๔ ปีการศกึ ษา ๒๕๕๗ จานวน ๑๙ โรงเรยี น รุ่นท่ี ๕ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จานวน ๒๐ โรงเรียน และ รนุ่ ที่ ๖ ปีการศกึ ษา ๒๕๕๙ จานวน ๑๐ โรงเรียน รุน่ ท่ี ๗ โรงเรียนทั่วไป จานวน ๑๐ โรงเรียนและโรงเรยี น ขนาดเล็ก ๒๓โรงเรียนและรนุ่ ท่ี ๘ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ จานวน ๑๓ โรงเรียน รนุ่ ที่ ๙ จานวน ๗๒ โรงเรยี น รวมท้ังส้ิน จานวน ๒๐๔ โรงเรียน เพ่ือให้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สาหรับเด็กอนุบาล สอดคล้องกับหลักการ แนวคิดของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพจึงจัดทาโครงการพัฒนาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การเรียนรู้ด้วยการสืบเสาะหาความรู้ และใช้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรอ์ ยา่ งหลากหลาย การจัดกิจกรรมพัฒนาห้องเรียนคุณภาพระดับปฐมวัย โดยทุกโรงเรียนจะต้องมีการพัฒนา คุณภาพอย่างรอบด้านทั้ง ผู้เรียนปฐมวัย ครูผู้สอน สื่อ นวัตกรรม และการจัดประสบการณ์ บรรยากาศ และแหล่งเรียนรู้ที่ใช้ในการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานหลักสูตร วัย และวุฒิภาวะของเด็ก ปฐมวัย เพ่ือเป็นต้นแบบการพัฒนาครูปฐมวัยสู่มืออาชีพ เพ่ือสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัย เพอ่ื ประโยชน์ในการพฒั นาเด็กปฐมวยั อยา่ งมีประสิทธิภาพ รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจดั การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หน้า 23
ผลลพั ธ/์ ความสาเร็จ 1. ครูปฐมวัยทุกคนเข้าประชุมปฏิบัติการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการจดั ประสบการณ์ การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้และประเมินพฒั นาเด็ก 2. ทกุ โรงเรยี นประเมนิ พัฒนาการเด็กตามสภาพจริงสอดคล้องกบั มาตรฐานหลกั สตู รและสรปุ รายงาน ผลพฒั นาการเด็กอย่างครอบคลมุ พฒั นาการทุกดา้ น 3. ทกุ โรงเรียนมีการจัดประสบการณ์ทางวทิ ยาศาสตร์สาหรับเด็กปฐมวัย สามารถจัดกิจกรรมทดลอง วิทยาศาสตร์ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย การทาโครงงานวิทยาศาสตร์และการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 4. ครูปฐมวัยทกุ คนได้พัฒนาหอ้ งเรยี นคุณภาพและมีกจิ กรรมประเมินห้องเรียนคุณภาพอย่างรอบดา้ น ท้งั ผู้เรียนปฐมวัย ครูผู้สอน สื่อ นวตั กรรม และการจดั ประสบการณ์ บรรยากาศ และแหล่งเรยี นรู้ ที่ใช้ในการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานหลักสูตร วัย และวุฒิภาวะของเด็กปฐมวัย ทาใหห้ อ้ งเรยี นปฐมวยั สะอาด น่าดู น่าอยู่ นา่ เรียน และมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาปฐมวัย - ข้อจากดั ขาดการนิเทศตดิ ตามอยา่ งเป็นระบบและต่อเน่ือง เนื่องจากภารกิจงานหลากหลายและ ขาดงบประมาณ - ปัญหาและอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค 1. ควรมกี ารขับเคลอ่ื นโครงการต่างๆเหลา่ นี้ จานวน โรงเรยี นมมี าก ต้องใชเ้ วลาใน อยา่ งต่อเน่ืองทุกปี เพื่อพฒั นาคุณภาพ การนเิ ทศติดตามเชงิ ลกึ อยา่ งทั่วถึง การศึกษาปฐมวยั อย่างยั่งยืน และตอ่ เนื่อง 2. ควรจัดสรรงบประมาณสนับสนนุ การพัฒนา การศึกษาปฐมวัย ให้เหมาะสมกบั จานวนครู และโรงเรยี น - นวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอย่างทด่ี ี (Best Practice) 1) การจัดประสบการณต์ ามแนวคิดไฮสโคป (High scope) 2) การจดั ประสบการณต์ ามแนวคดิ ภาษาธรรมชาติ (Whole Language) 3) การจัดประสบการณ์โดยใชว้ ิทยาการคานวณระดบั ปฐมวัย 4) การจดั ประสบการณ์โดยใช้STEM ระดับปฐมวยั รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 24
4.3) การเข้าถึงทางการศึกษาสาหรับคนพกิ าร และผ้ดู ้อยโอกาส - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้มีการจัดการศึกษาแก่เด็กพิการ ให้ได้รับ การดูแลช่วยเหลือ และส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาเต็มศักยภาพ ร้อยละ 100 โดยจัดการศึกษาในรูป แบบเรียนรวมให้แก่นักเรียนพิการเรียนรวม จานวน 2,043 คน และจัดโครงการอบรมเพ่ือให้ครูผู้ดูแล นักเรียนพิการเรียนรวมได้รับความรู้ ความเข้าใจ และนาไปพัฒนาการเรียนการสอนสาหรับนักเรียนพิการ แต่ละประเภทได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ จานวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอบรมครูผู้คดั กรองคนพิการทาง การศึกษา มีครูผู้ผ่านการอบรมจานวน 111 คน และพัฒนาต่อยอดความรู้ในโครงการการจัดทาแผนการ จัดการศึกษาเฉพาะรายบุคคล(IEP) แผนการสอนรายบุคคล(IIP) และการรายงานข้อมูลในระบบบริหาร จัดการข้อมูลโรงเรียนเรียนรวม (ระบบ SET) และ ระบบส่ือคูปอง (IEP Online) มีครูผู้ผ่านการอบรม จานวน 153 คน โรงเรียนเรียนรวมในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้รับการ สนับสนุนส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลือทางการศึกษาสาหรับคนพิการ โดยได้รับ การพจิ ารณาอนุมัตสิ ่อื คปู อง จานวนโรงเรียน 55 แห่ง จานวนนกั เรียน 370 คน คนละ 2,000 บาท ด้านการสนับสนุนทุนการศึกษาสาหรับนักเรียนพิการเรียนรวม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา อบุ ลราชธานี เขต 3 มีกองทุนพัฒนานักเรยี นสานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอบุ ลราชธานี เขต 3 สาหรับให้ทุนสาหรับช่วยเหลือนักเรียนในกรณีต่างๆ และกองทุนพัฒนานักเรียนสานักงานเขตพ้ื นท่ี การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 เพื่อเด็กท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disabilities : LD) - ผลการดาเนินการการเขา้ ถึงทางการศึกษาสาหรับผู้ด้อยโอกาส ประเภท เดก็ ด้อยโอกาส จานวนท้งั หมด ได้รบั การดูแลชว่ ยเหลือ 1. เด็กที่ถูกบังคับให้ขายแรงงานหรือ แรงงานเด็ก (คน) จานวน ร้อยละ 2. เดก็ ทอี่ ยใู่ นธุรกจิ ทางเพศหรอื โสเภณี - -- 3. เดก็ ทีถ่ กู ทอดทงิ้ หรือกาพร้าเด็ก 4. เด็กในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและ - -- เยาวชน 56 56 100 5. เดก็ เรร่ อ่ น - -- 6. เด็กทไ่ี ดร้ บั ผลจากโรคเอดส์ฯ 7. เด็กในชนกลุม่ นอ้ ย - - - 8. เดก็ ที่ถูกทาร้ายทารณุ - - - 9. เด็กยากจน(มากเป็นพเิ ศษ) - - - 10. เดก็ ทมี่ ปี ญั หาเก่ยี วกับยาเสพติด 1 1 100 27,555 27,555 100 รวม - - - 27,612 27,612 100 รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 25
- ผลการดาเนนิ การการเขา้ ถงึ ทางการศกึ ษาสาหรบั ผูด้ ้อยโอกาส สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาอบุ ลราชธานี เขต 3 ไดส้ ง่ เสรมิ การเขา้ ถึงการศกึ ษาของเด็กดอ้ ย โอกาสใหไ้ ด้รับการดูแลช่วยเหลอื และสง่ เสริมใหไ้ ดร้ ับการศึกษาเตม็ ตามศกั ยภาพ รอ้ ยละ 100 ดังนี้ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้ดาเนินการเร่งรัดการดาเนินงาน โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข ปีการศึกษา 2563 โดยสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานและสานักงานกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา ได้ตกลงร่วมมือ กันเพ่ือดาเนินการโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเง่ือนไขในสถานศึกษา สังกัด สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และให้สถานศึกษาดาเนนิ การคัดกรองข้อมลู นักเรียนยากจน เพื่อขอรับเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข ประจาปีการศึกษา 2563 ตามระบบคัดกรอง นักเรียนยากจน ทางเวบ็ ไซต์ http://cct.thaieduforall.org - ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ - ครูผู้รับผิดชอบนักเรียนพิการเรียนรวม ครูพี่เลย้ี งเด็ก - ส่งเสรมิ ให้คุณครูในโรงเรียนทุกท่าน พิการ และครทู ่ีผ่านการอบรมหลกั สูตรดาเนินการคัดกรอง ได้รับการอบรมเกี่ยวกับการจดั การเรียนการ ค น พิ ก ารท างก ารศึ ก ษ า ต าม แ น บ ท้ าย ป ระก าศ สอนใหแ้ ก่นักเรียนพิการเรยี นรวม คณะกรรมการพิจารณาให้คนพิการได้รับสิทธิช่วยเหลือ - ควรพิจารณาจัดสรรตาแหน่งครูพี่เล้ียง ทางการศึกษา เร่ือง กาหนด หลักเกณฑ์และวิธีการ การ เด็กพิการใหแ้ ก่โรงเรยี นทม่ี ีการจัดการเรยี น รับรองบุคคลของสถานศึกษาว่าเป็นคนพิการ สานักงาน รวมอย่างทัว่ ถงึ คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และครูที่รับผิดชอบนักเรียนพิการเรียนรวมมีการโยกย้าย ลาออก ส่งผลให้ไม่มีครูในการคัดกรองนักเรียนและการ ดูแล ต้องขอความร่วมมือจากโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายมา ทาหน้าท่ีคัดกรองเด็ก ทาให้เกิดความล่าช้า และนักเรียน ไม่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากครูท่ีมีความรู้ความ เชยี่ วชาญเฉพาะด้านการจัดการเรียนรวม - นกั เรียนในสงั กดั ส่วนใหญพ่ บปญั หากับความยากจน การ - เพ่ิมความเข้มงวดในการใชก้ ฎหมาย ตาม ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นทุนการศึกษา พาหนะในการเดินทาง พรบ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 ยังไมเ่ พียงพอต่อความต้องการ - ผู้ปกครองทางานรบั จา้ งหาเชา้ กินค่า ไม่มเี วลาในการ ดแู ลเอาใจใส่นักเรียน อาจส่งผลต่อการเรยี น และการนาตัว นกั เรยี นเขา้ ส่รู ะบบการศึกษา - นกั เรียนอาศยั ดูกับผูส้ งู อายุ ทาใหเ้ กิดการตามใจ และไม่ สามารถควบคุมนักเรียนได้ - นวตั กรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) - ไม่มี- รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 26
5) ด้านการปรับสมดลุ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ 5.1) การขับเคล่ือนโรงเรียนคุณภาพของชมุ ชน สรุปภาพรวมการดาเนินการของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ใน การดาเนินการตามนโยบายดงั น้ี ๑. หลังจากรับทราบนโยบายจากกระทรวงศึกษาธิการในการขับเคล่ือนโครงการโรงเรียนคุณภาพ ของชุมชน โรงเรียน Stand Alone และโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง แล้ว สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้ประชุมวางแผนโดยรองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ผู้อานวยการกลุ่ม และผู้รับผิดชอบโครงการ เพอื่ วางแผนการดาเนนิ การคัดเลือกโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone ในพ้นื ที่ ๒. แตง่ ต้ังคณะกรรมการคัดเลอื กโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone ของเขต พืน้ ท่ี เพอื่ ลงพื้นท่ี เสนอความคดิ เหน็ ความเป็นไปไดแ้ ละความเหมาะสมในการกาหนดจุด โรงเรียนคณุ ภาพ ของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone ในสังกัด และจัดประชุมคัดเลือกโรงเรียนคุณภาพของชุมชนใน สังกัด โดยใช้เกณฑ์ตามท่ี สพฐ.กาหนด และใช้แนวคิดเชิงพื้นท่ีเป็นฐาน ให้ครอบคลุมโรงเรียนขนาดเล็ก ทั้งหมดในพ้ืนท่ี กาหนดจุดได้เป็น โรงเรียนคุณภาพของชุมชนจานวน ๑๘ จุด และโรงเรียน Stand Alone จานวน ๓ แห่ง ๓. มอบหมายผู้รับผิดชอบโครงการดาเนินการจัดทาข้อมูล แผนที่ Model รูปแบบการพัฒนา Master Plan และแผนการของบประมาณของโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone โดยการบูรณาการจากทุกกลุ่มงานสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา โดยกลุ่มนโยบายและแผน และกลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา ร่วมเป็นเจา้ ภาพหลกั ในการดาเนินการ ๔. จัดเรียงลาดับความสาคัญของโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone โดย พิจารณาจาก ความพร้อม ความเป็นไปได้ในการดาเนินการ โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ โรงเรียนคุณภาพ ของชุมชนนาร่องได้แก่ โรงเรียนอนุบาลศรีเมืองใหม่ และโรงเรียน Stand Alone ได้แก่โรงเรียนบ้านดงนา อาเภอศรเี มอื งใหม่ รายชื่อโรงเรยี นคุณภาพของชมุ ชน เรยี งตามลาดับดงั นี้ ลาดับที่ โรงเรียน อาเภอ ลาดับการพฒั นา 1 อนบุ าลศรีเมืองใหม่ ศรเี มอื งใหม่ 1 (ปีงบประมาณ 2565) 2 ไทยรฐั วทิ ยา 87(นคิ มสร้างตนเอง 1) สริ นิ ธร 3 บ้านอ่างหนิ (เพยี รพทิ ยาคาร) พิบลู มงั สาหาร 2 4 บา้ นนาโพธิก์ ลาง โขงเจยี ม 3 5 ชมุ ชนบา้ นเชียงแกว้ ตาลสมุ 4 6 บา้ นโนนยานาง พบิ ลู มังสาหาร 5 7 องคก์ ารอุตสาหกรรมป่าไม้ 17 สริ ินธร 6 8 บา้ นห้วยหมาก ศรีเมืองใหม่ 7 9 ชมุ ชนบ้านดอนจกิ (จรรยาราษฎร์) พิบลู มงั สาหาร 8 9 รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หน้า 27
ลาดับท่ี โรงเรียน อาเภอ ลาดับการพฒั นา 10 บ้านสร้างแก้ว พบิ ูลมงั สาหาร 10 11 บ้านห้วยยาง โขงเจียม 11 12 บา้ นภูหลน่ ศรีเมอื งใหม่ 12 13 บา้ นโพธศิ์ รี พิบูลมงั สาหาร 13 14 บ้านไรใ่ ต้ พบิ ูลมงั สาหาร 14 15 บา้ นโนนมว่ งโนนจิก ศรเี มอื งใหม่ 15 16 บ้านชาด ศรเี มืองใหม่ 16 17 บา้ นยอดดอนชี พบิ ูลมงั สาหาร 17 18 บ้านด่าน โขงเจียม 18 - ปญั หาและอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอปุ สรรค ควรกาหนดนโยบาย และแนวทางการดาเนินการ ให้ชัดเจน 1. ขาดความชดั เจนด้านนโยบายทาใหย้ ากต่อการ ปฏบิ ัติ ครู ผบู้ ริหารขาดความมน่ั ใจ ไม่แน่ใจใน ควรจดั สรรงบดาเนนิ การให้เขตพื้นที่สาหรบั การ ความยง่ั ยืนของโครงการ จัดการประชุมชแ้ี จง การลงพ้ืนที่ และการนเิ ทศ ตดิ ตาม 2. ขาดแคลนงบประมาณสนบั สนุนเขตพน้ื ทใ่ี นการ จัดสรรงบประมาณดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ให้ ดาเนินงาน เพียงพอเหมาะสมกบั สภาพ บริบท ความต้องการ ของโรงเรียนคุณภาพของชมุ ชน 3. ไม่มีความชัดเจนในงบประมาณทจี่ ะได้รับ จดั สรรใหก้ บั โรงเรียน - นวัตกรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทีด่ ี (Best Practice) ไมม่ ี 5.2) โรงเรยี นมธั ยมดีส่มี ุมเมือง - ผลการดาเนินงานโดยสรุป -ไม่มี- - ปัญหาและอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค - นวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี (Best Practice) รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมินผลการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 28
5.3) โรงเรียนคณุ ภาพประจาตาบล - ผลการดาเนนิ งานโดยสรุป สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 ได้ขับเคล่ือนโครงการ โรงเรียนคุณภาพประจาตาบล (1 ตาบล 1 โรงเรียนคุณภาพ) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตามบริบทของตนเอง เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนในพื้นที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มท่ี เกิด ความเท่าเทียมและครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้าด้านการจัดการศึกษาของประเทศ โดยมีโรงเรียนศูนย์กลางของชุมชนเป็นต้นแบบ สร้างความเชื่อม่ันด้านคุณภาพ นาไปสู่การร่วมกันจัด กิจกรรมทางการศึกษาท่ีเป็นประโยชน์ เชื่อมโยงความสัมพันธ์กบั ชุมชนไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง และมีประสิทธภิ าพ โดยได้ดาเนินการประสานงานการคัดเลือกโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล โดยคณะกรรมการคัดเลือกระดับ ตาบล คณะกรรมการระดับอาเภอ และคณะกรรมการระดับจังหวัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลการคัดเลอื กทา ให้ได้โรงเรยี นคุณภาพประจาตาบล จานวน 42 โรงเรยี น ครบทุกตาบล ใน 5 อาเภอ ได้แก่ อาเภอพบิ ูลมัง สาหาร อาเภอสิรินธร อาเภอโขงเจียม อาเภอศรีเมืองใหม่ และอาเภอตาลสุม ซึ่งได้มีการดาเนินการ ขับเคล่อื นในรปู แบบตา่ งๆ ดงั น้ี 1. มีการประชมุ อบรมเชิงปฏิบัติการกจิ กรรม ITA สถานศึกษาโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล 2. มีการจัดทาคู่มือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดาเนินงาน (ITA Online) โครงการโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล 3. จัดสรรงบประมาณเพ่ือสนับสนุนกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ โรงเรียนคณุ ภาพประจาตาบล 4. มกี ารจดั ทาแผนกากบั ติดตามการดาเนินงานโครงการโรงเรยี นคณุ ภาพประจาตาบล 5. มีการจัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้การดาเนินการโครงการโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล เปน็ ตน้ - ปญั หาและอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ปญั หาและอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ - ครแู ละบุคลากรในสถานศึกษายังขาดความ - ควรสร้างความตระหนักให้แก่บุคลากรในโรงเรียน ตระหนกั และยงั ไม่เขา้ ใจถึงแนวทางในการ เพือ่ ชว่ ยกันดาเนินการใหเ้ กดิ ความต่อเนื่องและจริงจัง ดาเนินการของโครงการโรงเรียนคณุ ภาพประจา เป็นโครงการที่สร้างคุณภาพด้านการศึกษาส่งผลให้ ตาบล นักเรียนมีการพัฒนา และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม - งบประมาณทส่ี นับสนนุ โครงการโรงเรียน สร้างงาน สร้างอาชีพและเพ่ิมโอกาสเข้าถึงการศึกษา คณุ ภาพประจาตาบล ยงั ไมเ่ พียงพอต่อการพฒั นา ให้กบั เด็กและเยาวชน ในด้านตา่ งๆ ทาใหเ้ กิดผลสาเร็จไดอ้ ยา่ งไมเ่ ตม็ ท่ี - ควรส่งเสริมให้มีการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียน คุณภาพประจาตาบลอย่างต่อเนื่องและตลอดไป ของ หน่วยงานต้นสังกดั - ควรสนับสนุนงบประมาณอย่างเพียงพอ โดยเปิด โอกาสให้คณะภาคีเครือข่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมและ สนับสนุนการบริหารจัดการในโรงเรียนให้มากยิ่งขึ้น และมีกระบวนการติดตามประเมนิ ผลอย่างตอ่ เนื่อง รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจดั การศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หน้า 29
- นวตั กรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทดี่ ี (Best Practice) 1. นวตั กรรมการส่งเสรมิ ทักษะอาชีพ และพฒั นาทักษะชวี ิต (ส่กู ารเรียนรใู้ นศตวรรษ ท่ี 21) 2. นวัตกรรมสือ่ การสอนเพอื่ พฒั นาทกั ษะการอ่าน 3. นวตั กรรมการพัฒนาทักษะการอา่ นออกเสียงของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 โดย ใช้ทฤษฎสี ี เพ่ือยกระดบั ผลการทดสอบระดับชาติ RT ,NT ,O - NET 4. นวตั กรรมการบริหารการศึกษาแบบมีสว่ นรว่ มสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ โดยใช้ โรงเรียนเปน็ ฐาน 5.4) โรงเรยี นขนาดเลก็ ทดี่ ารงอยไู่ ด้ดว้ ยตนเอง - ผลการดาเนนิ งานโดยสรปุ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3 แต่งต้ังคณะกรรมการคัดเลือก โรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone ของเขตพื้นท่ี เพ่ือลงพ้ืนที่ เสนอความคิดเห็น ความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการกาหนดจุด โรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียน Stand Alone ในสังกัด และจัดประชุมคัดเลือกโรงเรียนคุณภาพของชุมชนในสังกัด โดยใช้เกณฑ์ตามที่ สพฐ. กาหนด และใช้แนวคิดเชิงพ้ืนท่ีเป็นฐาน ให้ครอบคลุมโรงเรียนขนาดเล็กท้ังหมดในพ้ืนท่ี กาหนดจุดได้เป็น โรงเรียน Stand Alone จานวน ๓ แหง่ รายช่ือโรงเรยี น Stand Alone เรยี งตามลาดบั ดงั นี้ ลาดับที่ โรงเรยี น อาเภอ ปงี บประมาณ 1 บ้านดงนา ศรเี มืองใหม่ 2565 2 บา้ นโหงน่ ขาม ศรเี มอื งใหม่ 3 บา้ นโนนคูณ พิบลู มังสาหาร - ปญั หาและอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ปญั หาอปุ สรรค ไม่มีความชดั เจนในงบประมาณทีจ่ ะไดร้ บั ควรกาหนดแนวทางการพฒั นาโรงเรียน จัดสรรใหก้ ับโรงเรียน Stand Alone ใหช้ ดั เจน จัดสรรงบประมาณ ขาดแคลนบุคลากร ใหเ้ พียงพอต่อความตอ้ งการ ควรมีการปลดลอ็ กจานวนครูและบุคลากรใน โรงเรยี น Stand Alone โดยใช้เกณฑ์พิเศษ - นวัตกรรม/ต้นแบบหรือแบบอยา่ งทด่ี ี (Best Practice) ไมม่ ี รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หนา้ 30
2.2 การตรวจราชการกรณีพิเศษ ๑) การจัดการเรยี นการสอนและมาตรการปอ้ งกันในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) - ผลการดาเนินงานโดยสรุป ๑. โรงเรียนมีการประชุมสรา้ งความเขา้ ใจ การสารวจเพอ่ื จดั กลุ่มนกั เรียนและผู้ปกครอง ๑.๑ การประชุมสร้างความเข้าใจ พบว่า จัดประชุมช้ีแจงท่ีโรงเรียน ร้อยละ ๙๒.๒๒ ครูผู้สอน ชแ้ี จงโดยตรงที่บ้าน รอ้ ยละ ๗.๗๘ ๑.๒ การจัดกลุ่มความพร้อมของนกั เรียน พบวา่ ดาเนนิ การแลว้ ร้อยละ ๑๐๐ ๑.๓ การจัดกลุม่ ความพร้อมของผูป้ กครอง พบว่า ดาเนนิ การแลว้ รอ้ ย ๑๐๐ ๒. ผลการสารวจความพรอ้ มในการเขา้ ถงึ การรบั ชมการสอนทางไกลของนกั เรียนในสงั กดั ๒.๑ กลุม่ ความพรอ้ มนอ้ ย มรี ้อยละ ๒๘.๐๑ ๒.๒ กลุ่มความพรอ้ มปานกลาง มรี อ้ ยละ ๓๗.๒๔ ๒.๓ กลุม่ มคี วามพร้อมมาก มรี ้อยละ ๓๔.๗๕ ๓. ผลการดาเนินการจัดการเรยี นการสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ๓.๑ โรงเรียนมีการจัดรูปแบบการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ในการเปิดภาคเรียนท่ี ๑/๒๕๖๓ มีการดาเนินการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับ รูปแบบการเรยี นการสอนให้กับผู้ปกครองทราบ ๑) มีการดาเนินการจัดการเรียนการสอนแบบปกติ (on site) คือ ทุกโรงเรียนมีการ ดาเนินการจดั การเรียนการสอนให้นักเรียนมาเรียนที่โรงเรียนทุกโรงเรยี น คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ แต่อาจจะมี มาตรการหรือรปู แบบในการจดั การเรยี นการสอนทแี่ ตกต่างกันตามบรบิ ทของโรงเรยี น ๒) มีการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (blended learning) คิดเป็นร้อยละ ๔๑.๖๗ เช่น มีการสลับกลุ่มนักเรียนมาเรียน แบบแบ่งนักเรียนในห้องเรียนเป็น ๒ กลุ่ม ท่ีมีการจัดกลุ่ม นักเรียนเป็น ๒ กลุ่ม แยกเป็นกลุ่มหมู่บ้านท่ีมีพ้ืนที่อยู่ใกล้เคียงกันเพ่ือความสะดวกในการรับส่งนักเรียน และสลับกันมาเรียนแบบเว้นสัปดาห์โดยกลุ่มที่อยู่ท่ีบ้านจะได้รับใบงานหรือใบกิจกรรมให้นักเรียนไปทา บางโรงเรียนมีการแบ่งนักเรียนเป็น ๒ กลุ่ม คือกล่มุ เลขทค่ี ู่และเลขที่ค่ี สลับวันมาเรียน เฉพาะห้องเรียนที่มี นักเรียนเกิน ยกเว้นนักเรียนช้ัน ป.๖ และ ม.๓ จะให้มาโรงเรียนตามปกติ เนื่องเป็นระดับช้ันท่ีจะมีการ ทดสอบ O-NET จึงจัดห้องเรียนไว้ให้เพียงพอก่อนระดับช้ันอื่น นอกจากน้ียังมีโรงเรียนท่ีจัดรูปแบบอื่น ๆ ผสมผสานเพ่อื ให้เกิดความเหมาะสมและตามข้อตกลงจากการประชุมผปู้ กครอง คดิ เป็นร้อยละ ๘.๓๓ ๓) โรงเรียนมีการประเมินตนเองอยู่ในกลุ่มสีเขียวท่ีสามารถเกิดเรียนได้ตามปกติ คิดเป็น ร้อยละ ๘๘.๓๓ และมีโรงเรียนท่ีประเมินตนเองอยู่ในกลุ่มสีเหลืองท่ีสามารถเปิดการเรียนได้แต่ต้องมี มาตรการเพม่ิ เติมเพ่ือปรับปรงุ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน คดิ เป็นร้อยละ ๑๖.๑๗ จึงได้มีการจัดหาวัสดอุ ปุ กรณ์ ในการคัดกรอง วัดไข้ และทาสื่อประชาสัมพันธ์ เอกสารเพิ่มเติมตามแบบประเมินท่ีโรงเรียนยังไม่มีให้ครบ ตามแบบประเมิน ๖ มิติ ๔๔ ข้อ ได้มีการจัดหาอุปกรณ์และเพ่ิมมาตรการการป้องกันอย่างเคร่งครัดตาม แบบประเมิน ๖ มิติ ๔๔ ข้อ เป็นท่ีเรยี บร้อย ในส่วนการดาเนินงานเพ่ือความปลอดภัยจากการลดการแพร่ เชอ้ื ในสถานศึกษาท้งั ๖ อยา่ ง ได้แก่ การคัดกรองวดั ไข้ สวมหน้ากาก ลา้ งมอื เว้นระยะห่าง ทาความสะอาด ลดความแออัด พบว่า ทุกโรงเรียนได้มีการดาเนินงานเพื่อความปลอดภัยจากการลดการแพร่เชื้อ ๖ อย่าง ทุกข้นั ตอนและเป็นไปตามมาตรการการป้องกนั การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อยา่ งเคร่งครัด รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและตดิ ตามประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบที่ 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการท่ี 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 31
โดยมีการจัดครูเวรประจาวัน พร้อมได้รบั ความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ อสม. ประจาหมูบ่ ้านมาช่วยในการคัด กรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน มีหน้ากากสารองให้กับนักเรียนท่ีไม่มีหน้ากาก โดยโรงเรียนที่มีการ ดาเนนิ การ คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ทุกโรงเรยี น ๔) โรงเรียนมีการนาส่ือเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เช่น DLTV, DLIT หรอื การสอนออนไลนผ์ า่ นแอปพลิเคชั่นตา่ ง ๆ มากขึน้ - ปัญหาและอุปสรรคและขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ๑. โรงเรียนที่มีนักเรียนต่างสัญชาติมาเรียน (นักเรียนสัญชาติลาว -ให้ครูจัดทาใบงาน ใบความรู้ ให้ ท่ีติดตามผู้ปกครองมาทางาน) ยังไม่กลับมาเรียนตามปกติ นั ก เรีย น ได้ ศึ ก ษ าผ่ าน ช่ อ งท าง เนื่องจากเดินทางกลับประเทศในช่วงปิดภาคภาคเรียน และ ออนไลน์ นักเรียนที่กลับมาแล้วยังกักตัว ๑๔ วัน ก่อนที่จะมาโรงเรียน รวม ไปถึงนักเรียนท่ีติดตามผู้ปกครองไปทางานต่างจังหวัดด้วย ทาให้ นักเรียนยังมาเรียนไม่ครบตามจานวนที่ควรจะเป็น อาจจะเป็น ปัญหาต่อการบริหารจัดการช้ันเรียนและสอนเสริมนักเรียนอาจ เรียนไม่ทันเพ่ือนร่วมห้อง นอกจากน้ียังมีนักเรียนจานวนหน่ึงท่ี ผู้ปกครองยังไม่ไว้วางใจให้มาโรงเรียนตามปกติ เพราะยังกังวลต่อ สถานการณ์ทย่ี งั ไมค่ ล่ีคลาย ๒. โรงเรียนบางแห่งยังไม่ได้วางแผนการจัดการเรียนการสอน -ให้ผู้บริหารมีการประชุมคณะครู ชดเชย เน่ืองจากยังไม่มีความพร้อมด้านบุคลากร รูปแบบการ โดยอาจให้ศึกษานิเทศก์มาให้ความรู้ จัดการเรียนการสอนแบบสลับอาจทาให้เกิดความยุ่งยากในการ และแนวทางการจัดสอนชดเชยที่ จัดการเรียนการสอนชดเชย และทางโรงเรียนยังไม่เข้าใจแนวทาง ชดั เจนมากข้ึน ท่ชี ัดเจนในการจัดการเรยี นการสอนชดเชย ซง่ึ อาจจะมกี ารประชุม ผปู้ กครองอกี ครัง้ หน่งึ ๓. เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นชินกับการสวมหน้ากากอนามัย - ให้นักเรียนถอดหน้ากากเป็นระยะ เพราะอดึ อดั และหายใจลาบาก ทาให้เด็กดงึ หนา้ กากออกบ่อยคร้งั และใหน้ กั เรียนเวน้ ระยะห่างมากข้ึน ๔. เนื่องจากการปิดภาคเรียนท่ีนานทาให้นักเรียนหลายคนขาด -จัดหาส่ือ/นวัตกรรม ที่ช่วยกระตุ้น ความกระตือรือร้นในการเรียน และลืมสิ่งท่ีได้เรียนไป ทาให้ครู ให้นักเรยี นอยากเรยี นรู้มากข้นึ ต้องใช้เวลาทบทวนความรู้ให้นักเรียนมากขึ้น การเรียนในระยะนี้ จึงเปน็ ไปไดช้ ้ากว่าทว่ี างแผนไว้ ๕. เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา ๒๐๑๙ ทาให้โรงเรียนดาเนินการบริหารงานด้านต่าง ๆ ได้ช้า กว่ากาหนด เช่น การจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัตกิ ารประจาปี หลกั สูตรสถานศึกษา ส่งผลต่อการเตรียม ความพร้อมกอ่ นเปิดเรยี น นวตั กรรม/ต้นแบบหรือแบบอยา่ งท่ดี ี (Best Practice) -ไมม่ ี- รายงานผลการดาเนนิ งานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมนิ ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 หน้า 32
2) มาตรการการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 - ผลการดาเนนิ งานโดยสรปุ ไม่ไดด้ าเนนิ การ เพราะ สพป.อบุ ลราชธานี เขต 3 ไมไ่ ด้เกดิ ภาวะปัญหาฝุ่นละอองขนาด เลก็ PM 2.5 - ปัญหาและอปุ สรรคและข้อเสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาอปุ สรรค - นวตั กรรม/ตน้ แบบหรือแบบอย่างทด่ี ี (Best Practice) ผู้รายงาน นายนิวัลชยั โคตรพฒั น์ ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการกล่มุ นโยบายและแผน วันที่ 17/กุมภาพันธ์/2564 โทรศพั ทต์ ิดต่อประสานงาน 098-8297859 รายงานผลการดาเนินงานตามนโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร รอบท่ี 1 ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เขตตรวจราชการที่ 14 : สพป.อุบลราชธานี เขต 3 หนา้ 33
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: