โครงงานภาษาไทย เร่ือง ของดีเมืองตรังใน แบบกลอนสุภาพ โดย ด.ช.ณฐั ภทั ร ศรีประภา ม.2/1 เลขท่ี 5 ด.ช.พชิ ญพงศ์ สิงหา ม.2/1 เลขที่ 12 ครูท่ีปรึกษา คุณครูอุไรภรณ์ พรหมลา โครงงานน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของรายวิชาภาษาไทยเพื่อการเขียนรายงานเชิงวิชาการ โรงเรียนสภาราชินีจงั หวดั ตรัง ภาคเรียนที่ 2 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี2 ปี การศึกษาท่ี 2564
คานา รายงานเล่มน้ีจดั ทาข้ึนเพอ่ื เป็นส่วนหน่ึงของวชิ า ภาษาไทยเพ่อื การเขียนรายงานเชิง วชิ าการ เพอ่ื ใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรู้ในเร่ืองกลอนตา่ งๆ โดยไดศ้ ึกษาผา่ นแหล่งความรู้ต่างๆ อาทิเช่น ตารา หนงั สือ หนงั สือพมิ พ์ วารสาร หอ้ งสมุด และแหล่งความรู้จากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ โดย รายงานเลม่ น้ีมีเน้ือหาเก่ียวกบั กลอนสุภาพ ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ การจดั ทาเอกสารถบบั น้ีจะมีขอ้ มลู ที่เป็นประโยชน์ต่อผทู้ ี่ สนใจจะศึกษาเก่ียวกบั กลอนตา่ งๆ ณฐั ภทั ร ศรีประภา พชิ ญพงศ์ สิงหา
กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานเรื่องของดีเมืองตรังใน แบบกลอนสุภาพน้ีสาเร็จลงไดด้ ว้ ยความกรุณาของคุณครู กลุ่มสาระการเรียนรู้กายาไทยและครูท่ีปรึกษาโครงงาน คุณครูอุไรกรณ์ พรหมลาท่ีกรุณาให้ คาแนะนาในการจดั ทาโครงงาน การสืบคนั ขอ้ มลู ดว้ ยอินเทอร์เนต็ และการคน้ หาหนงั สือรวมถึงการ ใชพ้ จนานุกรม ทา้ ยสุดขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแมท่ ี่กรุณาใหข้ อ้ มูลรวมท้งั สนบั สนุนวสั ดุอปุ กรณ์ และใหก้ าลงั ใจในการทาโครงงานจนสาเร็จลงดว้ ยดี ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงาน ใครงงานเล่มน้ีจะเป็นประ โยชน์ต่อผสู้ นใจสาหรับเป็ นแนวทาง ในการจดั ทารายงานโครงงานต่อไป
บทคดั ย่อ โครงงานเร่ือง ของดีเมืองตรังใน แบบกลอนสุภาพท่ีกลุ่มของขา้ พจา้ ไดจ้ ดั ทาข้ึนเพือ่ ให้ ผเู้ รียนรู้และผทู้ ี่สนใจทุกคนไดศ้ ึกษาคนั ควา้ และสามารถนาไปใชเ้ ป็นเอกสารประกอบการเรียนได้ และเพ่อื ใหท้ ุกคนรับรู้ถึงคาศพั ทแ์ ละความหมายที่ถกู ตอ้ งของคายมื ที่มาจากภาษาจีน การทางานคร้ังน้ีจดั ทาข้ึนเพอื่ จุดประสงคห์ ลายประการ เช่น เพ่อื ใชเ้ ป็นเอกสารประกอบ การเรียนรู้เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถศึกษากนั ควา้ นาไปประกอบการเรียน รู้จกั กลอนสุภาพไดด้ ียง่ิ ข้ึน เยอะข้ึนและอา่ นกลอนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตรงตามความหมาย
สารบัญ เรื่อง คานา……………………………………………………………………………………….ก กิตติกรรมประกาศ…………………………………………………………………………ข บทคดั ยอ่ …………………………………………………………………………………...ค บทที่ 1 บทนา………………………………………………………………………………1 - ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน - วตั ถปุ ระสงค์ - ขอบเขตการศึกษาคน้ ควา้ - ประโยชน์ท่ีคาควา่ จะไดร้ ับ บทที่ 2 เอกสารและโครงงานที่เก่ียวขอ้ ง……………………………………………………2 - 3 บทที่ 3 วิธีการจดั ทาโครงงาน………………………………………………………………4 - วสั ดุและอุปกรณ์ - วธิ ีการจดั ทาโครงงาน บทที่ 4 ผลการศึกษา…………………………………………………………………………5 - 10 บทท่ี 5 สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………11 - สรุปผลการศึกษา ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากโครงงาน ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม……………………………………………………………………………… ….12
บท1 ที่มาและความสาคญั บท1 บทนา ท่ีมาและความสาคญั โคลงส่ีสุภาพ เป็น โคลงชนิดหน่ึงที่กวีนิยมแต่งมากที่สุก ดว้ ยเสน่ห์ของการบงั คบั วรรรณยกุ ตเ์ อกโทอนั เป็นมรดกของภายาไทยท่ีลงตวั ท่ีสุด คาวา่ สุภาพ หรือ เสาวภาพ หมาขถึงคาที่มิไดม้ รูปปวรรณยกุ ต์ โคลงสี่สุภาพ ปรากฎในวรรณกรรมไทย ต้งั แต่สมยั ตน้ อยธุ ยา ปรากฏในมหาชาติคาหลวงเป็นเรื่องแรกและมีวรรณกรรมที่แต่ง ดว้ ยโคลงส่ีสุภาพ 3 เรื่อง ไดแ้ ก่ โคลงนิราศหริภุญชยั โคลงมงั ทราตีเชียงใหม่ และลิลิตพระลอ สมยั อยธุ ยาตอนกลาง วรรณกรรมที่ใชโ้ คลงสี่สุภาพ ไดแ้ ก่ โครงเร่ิองพาลีสอนนอ้ ง โคลงทศรถสอนพระราม และ โคลงราชสวสั ด์ิ พระราชนิพนธส์ มเด็จพระนายรายณ์มหาราช โคลงเฉลิมพระเกียรติพระนารายณมหาราช โคลงนิราศนครสวรรค์ กาพยห์ ่อโคลงและโคลงอกั ษรสามของพระศรมีโหสถสมยั อยธุ ยาตอนปลาย ไดแ้ ก่ โคลงนิราศพระบาท โคลงนิราศเจา้ ฟ้าอภยั และกพยห์ ่อโคลงพระราชนิพนธเ์ จา้ ธรรมาธิเบศรสมยั ธนบุรี ไดแ้ ก่โดลงขอพระเกียรติพระเจา้ กรุงธนบรุ ีและถิลิตเพชรมงกฎุ สมยั รัตนโกสินทร์วรรณกรรมท่ีใชโ้ คลงสี่สุภาพ ที่เด่นๆไดแ้ ก่ลิลิตตะเลงพา่ ยนิราสนรินทร์ โคลงนิราศสุพรรณโคลงโลกนิติสามกรุงโคลงสี่สุภาพเป็นคา ประพนั ธท์ ่ีกวีชอบแตง่ และผา่ นการพฒั นามายาวนานจนมีฉนั ทลกั ษณ์ท่ีลงตวั และ เป็นแบบฉบบั คงั ที่ขีดถือกนั ในปัจจุบนั วตั ถุประสงค์ 1.เพอ่ื ทาใหเ้ กิดความภาคภมู ิใจในวรรณคดีของไทย และรักษาวฒั นธรรมไทย 2.เพอื่ ดึงดูดความสนใจใหค้ นอื่นๆหนั มาอยากศึกษาเร่ืองน้ี สมมตฐิ าน - โครงงานเร่ืองน้ี มีเน้ือหาและที่มาและความสาคญั ของกลอน ท่ีสามารถเป็นสื่อในการศึกษาหาความรู้ได้
บทที่ 2 เอกสารท่เี กย่ี วข้อง ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ผจู้ ดั ทา ไดร้ วบรวมแนวคิดต่างๆจากเอกสารที่ เกี่ยวขอ้ งดงั ต่อไปน้ี 2.1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของโคลงสี่สุภาพ 2.2 ลกั ษณะของโคลงสี่สุภาพ 2.3 หลกั การแต่งโคลงส่ีสุภาพ 2.1 ข้อมูลของโคลงส่ีสุภาพ 2.1.1ประวตั ิความเป็นมา โคลงส่ีสุภาพ เป็นโคลงชนิดหน่ึงที่กวีนิยมแต่งมากที่สุด ดว้ ยเสน่ห์ของการบงั คบั วรรณยกุ ตเ์ อกโทอนั เป็นมรดกของภาษาไทยที่ลงตวั ท่ีสุดคาวา่ สุภาพ หรือ เสาวภาพ หมายถึงคาท่ีมิไดม้ ีรูปวรรณยุกต์ โคลงสี่สุภาพ ปรากฏในวรรณกรรมไทย ต้งั แตส่ มยั ตน้ อยธุ ยา ปรากฏในมหาชาติคาหลวงเป็นเร่ืองแรกและมีวรรณกรรมท่ีแตง่ ดว้ ยโคลงส่ีสุภาพ 3 เรื่อง ไดแ้ ก่ โคลงนิราศหริภุญชยั โคลงมงั ทราตีเชียงใหม่และลิลิตพระลอสมยั อยธุ ยาตอนกลาง วรรณกรรมที่ใชโ้ คลงสี่สุภาพ ไดแ้ ก่ โครงเร่ืองพาลีสอนนอ้ ง โคลงทศรถสอนพระราม และโคลงราชสวสั ด์ิ พระราชนิพนธ์สมเด็จพระนายรายณ์มหาราชโคลงเฉลิมพระเกียรติพระนารายณมห์ าราช โคลงนิราศนครสวรรค์ กาพยห์ ่อโคลงและโคลงอกั ษรสามของพระศรมี โหสถสมยั อยธุ ยาตอนปลาย ไดแ้ ก่ โคลงนิราศพระบาทโคลงนิราศเจา้ ฟ้าอภยั และกาพยห์ ่อโคลงพระราชนิพนธเ์ จา้ ฟ้าธรรมาธิเบศรสมยั ธนบุรีไดแ้ ก่โคลงยอพระเกียรต พระเจา้ กรุงธนบุรีและลิลิตเพชรมงกฎุ สมยั รัตนโกสินทร์วรรณกรรมที่ใชโ้ คลงสี่สุภาพที่เด่นๆไดแ้ ก่ ลิลิตตะเลงพา่ ย นิราศนรินทร์ โคลงนิราศสุพรรณ โคลงโลกนิติ สามกรุงโคลงสี่สุภาพเป็นคาประพนั ธท์ ่ีกวชี อบแต่งและผา่ นการพฒั นามายาวนานจนมีฉนั ทลกั ษณ์ที่ลงตวั และเป็นแบบฉบบั ดงั ที่ยดึ ถือกนั ในปัจจุบนั
2.2 ลกั ษณะของโคลงส่ีสุภาพ หน่ึงบทมี 4 บาท , 3 บาทแรกบาทละ 7 คา บาทที่สี่ 9 คา ดงั น้ี บาท ท่ี 1 มี 7 คา บาท ท่ี 2 มี 7 คา บาท ท่ี 3 มี 7 คา บาท ท่ี 4 มี 9 คา 1 บาท แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 คา วรรคหลงั 2 คา ยกเวน้ บาทที่ 4 จะมีวรรคหลงั 4 คา สรุปรวม 1 บทประกอบดว้ ย 30 คา มีคาสร้อยไดใ้ นบาทท่ี 1 บาทที่ 3 (คาสร้อย คือ คาที่แต่งเติมต่อทา้ ยบาท เพื่อทาใหไ้ ดใ้ จความครบถว้ น ถา้ โคลงบาทใดไดค้ วามครบถว้ นแลว้ กไ็ มจ่ าเป็ยตอ้ งเติมคาสร้อย) กฎการสัมผสั คาสุดทา้ ยของบาทที่ 1 ตอ้ งสัมผสั กบั คาท่ี 5 ของบาทที่ 2 และบาทท่ี 3 คาสุดทา้ ยของบาท ที่ 2 ตอ้ งสัมผสั กบั คาที่ 5 ของบาทท่ี 4 บงั คบั ตาแหน่งวรรณยกุ ต์ เอก 7 แห่ง โท 4 แห่ง
2.3 หลกั การสังเกตโคลงส่ีสุภาพ 1. บทหน่ึงมี ๔ บรรทดั 2. วรรคหนา้ ของทุกบรรทดั มี ๕ พยางค์ วรรคหลงั ของบรรทดั ที่ ๑ - ๓ มี ๒ พยางค์ บรรทดั ที่ ๔ มี ๔ พยางค์ สามารถท่องจานวนพยางคไ์ ดด้ งั น้ี หา้ -สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มกั ลงทา้ ยดว้ ย นา แฮ เฮย เพอ่ื รับคา ต่อคา เชื่อมคา ) หา้ - สอง หา้ - สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มกั ลงทา้ ยดว้ ย นา แฮ เฮย เพื่อรับคา ต่อคา เชื่อมคา ) หา้ - สี่ (หากจะใหเ้ กิดความไพเราะในการอา่ นนิยมลงเสียงจตั วา) 3. มีตาแหน่งสมั ผสั ตามเส้นโยง 4. บงั คบั รูปวรรณยกุ ต์ เอก ๗ โท ๔ ตามตาแหน่งในแผนผงั
บทท3ี่ วธิ ีการดาเนนิ โครงงาน ในการจดั ทาโครงงานภาษาไทยเพือ่ การเขียนรายงานเชิงวชิ าการ เร่ือง บอกเล่าเร่ืองราวของดีในจงั หวดั ตรังดว้ ยดว้ ยโคลงส่ีสุภาพเพื่อแสดงเอกลกั ษณ์ในตา้ นกวีและของตีทวั่ ไป ผจู้ ดั ทาโครงงานมีวิธีตามข้นั ตอนตงั น้ี 3.1 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 3.1.1 คดิ หวั ขอ้ โครงงานเพ่ือนาเสนอที่ปรึกษาโครรงงาน 3.1.2 ศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มลู ที่เก่ียวขอ้ งกบั เรื่องที่สนใจ คือเรื่อง บอกเล่าเรื่องราวของตีในจงั หวดั ตรังดว้ ย โคลง สุภาพวา่ มีเน้ือหามากนอ้ ยเพียงใตและตอ้ งศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติมเพยี งใตและเก็บขอ้ มลู ไวเ้ พอ่ื จตั ทาเน้ือหาตอ่ ไป 3.1.3 ศึกษาการสร้างเวบ็ บลอ็ กที่สร้างจากเวบ็ ไชค์ Google ide จากเอกสารจากครูประจาวชิ าท่ีกาหนต และจากเวบ็ ไชตต์ ่างๆที่นาเสนอเทคนิค วธิ ีการสร้างเน้ือหาของโครงงาน 3.1.4. จดั ทาโครงร่างโครงงานภาษาไทยเพื่อการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ เพ่ือนาเสนอครูที่ปรึกษาผา่ น google Sideของตวั เอง 3.1.5 ปฏิบตั ิการทาโครรงงานภาษาไทยเพ่อื นการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ เร่ือง บอกเล่าเรื่องราวของดีใน จงั หวดั ตรังดว้ ยโคลงสีสุภาพ โดยการสร้างบทเรียนที่สนใจตามแบบเสนอโครงร่างท่ีเสนอไวแ้ ลว้ 3.1.6 นาเสนอรายงานความกา้ วหนา้ เป็นระยะๆ ซ่ึงครูท่ีปรึกษาโครรงงานจะใหข้ อ้ เสนอแนะตา่ งๆ เพ่ือให้ จดั ทา เน้ือหา และการนาเสนอท่ีนาสนใจตอ่ ไป ท้งั น้ีเม่ือไดร้ ับคาแนะนาก็จะนามาปรับปรุงแกไ้ ขแกใ้ ขใหเ้ ป็นท่ีสนใจ ยง่ิ ข้นึ 3.1.7 จดั ทาเอกสารรายงานโครรงงานคอมพวิ เตอร์โดยนาเสนอในรูปแบบ ไฟลค์ อมพิวเตอร์ 3.1.8 ประเมินผลงาน โตยการนาเสนอผา่ น Google Side 3.1.9 นาเสนอผา่ น Google Side เพ่อื ใหผ้ สู้ นใจศึกษาหาความรู้ต่อไป 3.2 วสั ตอุปูกรณณ์ 3.2.1 สมุดจดเอาไวส้ อบถอบชาวบา้ น 3.2.2 ปากกาเอาไวจ้ ดส่ิงสาคญั 3.2.1 โทรศพั ทม์ ือถือ หรือส่ืออิเลก็ ทรอนิคไวใ้ ชห้ าขอ้ มูลเกี่ยวกบั เวบ็ ไชต์
3.3 ข้นั ตอนการทา 3.3.1 จดั เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อศึกษาหาขอ้ มลู เกี่ยวกบั โครงงาน เช่น สอบถามชาวบา้ นในบริเวณน้นั หรือศึกษาผา่ นทางเวบ็ ไชต์ 3.3.2 ศึกษาหาขอ้ มลู ผา่ นทางเวบ็ ไชด์ และสอบถามชาวบา้ นเพอื่ รวบรวมขอ้ มลู 3.3.3 นาขอมลู ท่ีไตม้ าสรุปใจความสาคญั ใหช้ ดั เจน
บทที่4 ผลการดาเนินงาน ในการจดั ทาโครงงานภาษาไทยเร่ือง ของดีเมืองตรังใน แบบกลอนสุภาพ ผจู้ ดั ทาไดม้ ีผลการดาเนินงาน ดงั น้ี 4.1 ตารางบนั ทึกผลและการดาเนินงาน ลาดบั ที่ ข้นั ตอนการดาเนินงาน ปัญหาและอปุ สรรค/แนวทางแกป้ ัญหา 1 ช้ันวางแผน ปัญหาและอุปสรรค 2 1.ศึกษาและหาขอ้ มลู สมาชิกมีหวั ขอ้ ท่ีอยากจะทาตา่ งกนั 2.นาเสนอหวั ขอ้ โครงงาน 3.ส่งแบบร่างโครงงาน แนวทางแกป้ ัญหา ปรีกษาร่วมกนั คิดถึงความยากง่ายของหวั ขอ้ ที่ จะทา และจะใหป้ ระโยชนม์ ากนอ้ ยเพยี งใด ข้นั เตรียม ปัญหาและอุปสรรค 1.จดั เตรียมอุปกรณ์ท่ีใชส้ าหรับ อุปกรณ์ในการทางานชารุดบ่อย ทาโครงงาน แนวทางแกป้ ัญหา 2.ทดลองทาโครงงาน นาอุปกรณืท่ีชารุดไปซ่อม ข้นั ดาเนินการ ปัญหาและอุปสรรค 1.เริ่มลงมือทาโครงงาน 1.ขอ้ มูลหาไดย้ าก 3 2.รวบรวมและจดั เตรียมเน้ือหา 2.ใชเ้ วลาในการทารูปเล่มเป็นเวลานาน 3.จดั ทารูปเลม่ ของโครงงาน แนวทางแกป้ ัญหา คน้ หาขอ้ มลู ในอินเทอร์เน็ตเพ่อื ความรวดเร็ว ข้นั ประเมนิ ผล ปัญหาและอุปสรรค 1.ตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดในเลม่ 1.โครงงานมีขอ้ ผดิ พบาด 4 โครงงาน 2.จาบทในการนาเสนอไมค่ อ่ ยได้ 2.บนั ทึกและสรุปการทาโครงงาน แนวทางแกป้ ัญหา 3.นาเสนอโครงงาน 1.แกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดในโครงงาน 2.ฝึ กนาเสนอบ่อยๆ
บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผลการดาเนินงาน ในการจดั ทาโครงงานภาษาไทย เร่ือง ของดีเมืองตรังในแบบกลอนสุภาพ มีผลสรุปและอภิปรายการ ดาเนินงาน ดงั น้ี 5.1 สรุปผลการดาเนินงาน จากการศึกษาคน้ ควา้ เร่ืองของดีเมืองตรังในแบบกลอนสุภาพสรุปไดว้ า่ กลอนสุภาพน้นั มีรูปแบบแตกต่างจาก กลอนอื่นและแตกต่างกนั ออกไป ผจู้ ดั ทาเลยยกตวั อยา่ งมาบางส่วนเพอื่ เป็นแนวทางในการอ่านละรวบรวมไวท้ ี่ กลอนในบทท่ี4 5.2 อภิปรายผลการดาเนินงาน โครงงานเรื่องของดีเมืองตรังในแบบกลอนสุภาพ เป็นโครงงานท่ีช่วยทาใหบ้ คุ คลที่ศึกษาหาความรู้วธิ ีเขยี น และ อ่านกลอนไดอ้ ยา่ งถูกวิธี นอกจากน้ีการทาโครงงานน้ีจะช่วยใหเ้ รามีความรู้เกี่ยวกบั กลอนสุภาพไดด้ ียงิ่ ข้ึน อีกดว้ ย 5.3 ปัญหาที่พบ 5.3.1 อุปกรณ์ในการทาชารุดบอ่ ย 5.3.2 หาขอ้ มูลไดย้ าก 5.3.3 ใชเ้ วลานานในการรวบรวมขอ้ มูลและทารูปเลม่ 5.4 ประโยชน์ที่จะไดร้ ับ มีความรู้ความเขา้ ใจในเรื่องกลอนสุภาพมากยง่ิ ข้ึน และสามารถนาความรู้เรื่องกลอนสุภาพไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดด้ ียง่ิ ข้ึน 5.5 ขอ้ เสนอแนะ 5.5.1 ควรศึกษาหาความรู้เพ่มิ เติมเก่ียวกบั เน้ือหาที่จะนามาเขยี นเป็นกลอนใหม้ ากข้นึ 5.5.2 ควรศึกษาวางแผนใหเ้ ป็นระบบมากยงิ่ ข้ึน 5.5.3 ควรพูดคุยกบั สมาชิกในกลมุ่ หีมีความเขา้ ใจเพ่มิ มากยงิ่ ข้นึ
บรรณานุกรม สัมผสั กลอนสุภาพ - บา้ นจอมยทุ ธ https://www.baanjomyut.com/library_2/thai_poetry/05.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: