Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore SUKOTHAI

SUKOTHAI

Published by poravan2011, 2019-12-02 03:25:00

Description: SUKOTHAI

Search

Read the Text Version

จภ.ชร การเมอื งการปกครองอาณาจกั รสโุ ขทยั

ความเป็นมาก่อนการสถาปนาเมอื งสโุ ขทยั เปน็ ราชธานี อาณาจักรโบราณบนผืนแผน่ ดินไทยมีทง้ั ทเ่ี ป็นอาณาจกั รของชนชาติ ต่างเช่น มอญ เขมร และท้ังทเ่ี ปน็ อาณาจกั รของคนไทย บางอาณาจักร พัฒนาขน้ึ มาจากการเป็นเมืองทีม่ ีอานาจทางการเมอื งเข้มแข็งหรอื การรบั อารยธรรมจากตา่ งชาติ ความเจรญิ ทางอารยธรรมของอาณาจักรโบราณ เหล่าน้ี ได้สบื ทอดต่อมาจนเม่อื มีคนไทยตัง้ บา้ นเมืองของตนขึน้ ที่ลมุ่ แมน่ ้า ยม จงั หวดั สโุ ขทัย

สถาปนาขน้ึ ใน พ.ศ. 1792 กอ่ นการสถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั น้ัน ดนิ แดนแห่งนเ้ี คยเปน็ ทีต่ ้ังของชุมชนตง้ั แต่อดีต ท้ังชมุ ชนชาวมอญ ละวา้ ลาว และสยาม ปรากฏในจารึกหลายหลักในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาค ตะวันออกเฉยี งเหนอื

การเมอื งการปกครอง

รายพระนามพระมหากษัตรยิ ์อาณาจกั รสุโขทยั อาณาจกั รสุโขทัยมีความเจรญิ ร่งุ เรอื ง โดยมีพระมหากษัตริย์ราชวงศ์พระรว่ ง ปกครองทงั้ หมด 9 พระองค์ ซ่งึ มีพระนามดังนี้

ระบบการปกครองของอาณาจักรสโุ ขทัย จากการท่อี าณาจักรสโุ ขทัยมีความเจรญิ รงุ่ เรอื งเป็นปึกแผ่นมน่ั คงได้ น้ัน สาเหตุสว่ นหน่ึงมาจากการมรี ะบบการเมืองการปกครองทีส่ อดคล้องกับ สถานการณ์ในขณะนน้ั ระบบการเมืองการปกครองสมยั สุโขทัยแบ่งออกเป็น 2 ชว่ ง ดงั นี้

1. การปกครองสมัยสโุ ขทัยตอนตน้ ( พ.ศ. 1792 -1841 ) พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์จดั การปกครองใหม่เปน็ แบบ บิดาปกครอง บุตร หรอื พ่อปกครองลกู หรือ ปิตุลาธิปไตย

มีลักษณะสาคญั 4 ประการ คือ 1.รูปแบบราชาธปิ ไตย 2. รูปแบบบดิ าปกครองบตุ ร มีคานาหน้าพระนามวา่ พ่อขุน 3. ลกั ษณะลดหลัน่ กนั ลงมาเป็นข้ัน ๆ 4. การยึดหลักธรรมในพุทธศาสนาในการบรหิ ารบา้ นเมอื ง

2. การปกครองสมยั สุโขทัยตอนปลาย(พ.ศ. 1841-1981 ) การปกครองแบบบิดาปกครองบุตรเริ่มเส่ือมลง เพราะสถาบัน พระมหากษะตริย์ไมม่ นั้ คง เมอื งตา่ ง ๆ แยกตัวเป็นอิสระ พระมหาธรรมราชา ที่ 1 จึงทรงทานบุ ารงุ สง่ เสริมพระพทุ ธศาสนา ลักษณะการปกครองสุโขทัย ตอนปลายจึงเป็นแบบ ธรรมราชา

แบง่ เป็น 3 ลักษณะ คือ 1. การปกครองแบบพ่อปกครองลกู พระมหากษัตรยิ ์เหมือนพ่อของประชาชน และปลูกฝังความรู้สกึ ผูกพันญาติมติ ร เด่นชัดในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหง มหาราช 2. การปกครองแบบธรรมราชาหรือธรรมาธิปไตย ทรงยดึ และต้องเผยแพร่ ธรรมะ สปู่ ระชาชนดว้ ย รุ่งเรอื งมากในสมัยพระมหาธรรมราชาท่ี 1 3. ทรงปกครองโดยยดึ หลักสิทธิเสรีภาพ ให้มสี ทิ ธิเสรภี าพในการประกอบ อาชพี ดา้ นต่าง ๆ ตามความถนดั เปน็ ต้น

การปกครองของอาณาจักรสโุ ขทยั แบง่ การปกครองออกเป็น 4 ประเภท

1. เมืองหลวง หรอื ราชธานี 2. เมืองลกู หลวง เป็นเมอื งหนา้ ดา่ น ทศิ เหนอื เมอื งศรสี ชั ชนาลยั (สวรรคโลก) ทศิ ตะวนั ออก เมืองสองแคว (พิษณโุ ลก) ทิศใต้ เมอื งสระหลวง (พจิ ติ ร ) ทิศตะวันตก เมืองกาแพงเพชร

3. เมืองพระยามหานคร นครสวรรค์ เชยี งทอง บางพาน (เมอื งหลม่ เมอื งเพชรบูรณ์ เมอื งศรี เทพ เมืองแพรก(สรรค์บรุ )ี เมอื งสุพรรณบุร(ี อ่ทู อง) เมืองราชบรุ ี เมอื ง ตะนาวศรี)

4.เมอื งประเทศราช คือ: เมืองที่ไมไ่ ด้รวมเข้ากบั อาณาจกั รสโุ ขทัย แต่ยอมออ่ นน้อมต่อ ราชธานเี พือ่ ความปลอดภยั ของตนเอง ทตี่ ง้ั : ตดิ กบั เมืองชายแดนของอาณาจกั รสุโขทยั เชน่ เมอื งหลวง พระบาง เมาะตะมะ

ทิศตะวนั ออก - เมืองนา่ น เมอื งเซา่ (เมอื งหลวงพระบาง) เวยี งจนั ทร์ เวยี งคา ทศิ ใต้ - เมอื งนครศรีธรรมราช เมอื งมะละกา และเมอื งยะโฮร์ ทศิ ตะวนั ตก - เมอื งทะวาย เมอื งเมาะตะมะ เมืองหงสาวดี



ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ หลกั ฐานทปี่ รากฏอย่ใู นจารกึ สมัยสโุ ขทัยแสดงให้เห็นว่า พน้ื ฐานทาง เศรษฐกิจสมัยสโุ ขทยั ข้นึ อยกู่ ับการ เกษตรกรรม การพาณิชยกรรม และ การหัตถกรรม ดังน้ี

1. เกษตรกรรม พ้นื ฐานทางส่วนใหญ่ ข้นึ อยู่กับเกษตรกรรม เลยี้ ง ตนเองเป็นหลัก พืชทป่ี ลูก คอื ขา้ ว มะม่วง มะพรา้ ว มะขาม หมาก พลู ตาลโตนด ปลูก ตามทร่ี าบลมุ่ แมน่ า้ และตามรมิ แมน่ ้า หากผลิตไดม้ าก ชาวเมอื งจะนามาขายตาม ตลาดนัดหรอื ตลาดปสาน

2. การพาณชิ ยกรรม การคา้ ขายเป็นอกี อาชพี หนง่ึ ทีท่ าให้สโุ ขทัยมคี วามเปน็ ปึกแผน่ และมี เศรษฐกิจดี โดยมที งั้ การค้าขายภายในอาณาจกั รกับการค้าขายกับดินแดน อ่นื ๆ ทใี่ กลเ้ คียง และการคา้ ขายภายนอกอาณาจักร โดยเฉพาะการคา้ กบั จนี

3. การหตั ถกรรม การหัตถกรรมของสโุ ขทัยสว่ นใหญ่เป็นการผลติ เครอ่ื งป้ันดนิ เผาหรอื ทีเ่ รยี กวา่ เครอ่ื งสงั คโลก มีการพบเตาจานวนมากในเขตเมืองสโุ ขทัย เมอื ง ศรสี ัชนาลยั และบริเวณใกลเ้ คยี ง สันนิษฐานไดว้ ่านา่ จะเป็นสนิ ค้าออกที่ สาคัญ และสันนิษฐานวา่ น่าจะได้รบั วิธีการทาลวดลายจากจีน เพราะเป็น ศลิ ปะจีนสมัยปลายราชวงศ์ซ้องหรอื ซ่ง บางหลกั ฐานกล่าววา่ พ่อขุน รามคาแหงมหาราชนาช่างปั้นจากจีนเข้ามาเป็นจานวนมาก ทาใหก้ ารผลิต เครื่องสังคโลกของสโุ ขทยั เจรญิ ข้ึน

ลกั ษณะสังคมสมยั สโุ ขทัย สงั คมสมัยสุโขทัยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มใหญๆ่ คือ 1. ชนช้นั ปกครอง 1.1 พระมหากษัตริย์ ความเป็นสมมตเิ ทพปรากฏในชว่ งปลายสมัยแต่ไม่ ชดั เจนเท่ากับในสมัยอยธุ ยา 1.2 พระราชวงศห์ รือเจา้ นาย เป็นผูม้ เี ช้ือสายรว่ มกบั พระมหากษัตรยิ ์ 1.3 ขนุ นาง คอื ผ้ทู ่ีปฏิบตั ิหนา้ ทีด่ ูแลบ้านเมอื ง ปกครองผคู้ นและเปน็ ผู้นา กาลังไพร่พลออกทาสงครามตามพระบรมราชโองการของพระมหากษตั รยิ ์

2. ชนชน้ั ผู้ถกู ปกครอง 2.1 ไพรห่ รือไพร่ฟา้ หมายถงึ ราษฎรสามญั ชนซงึ่ มอี ิสระในการดาเนนิ ชวี ิต ของตนเอง แต่ตอ้ งถกู เกณฑ์แรงงานใหท้ างราชการตามกาหนด ในระหวา่ งทง้ั สองชนชนั้ น้ี ยงั มีพระสงฆท์ าหนา้ ทที่ างศาสนาและเปน็ ตัวเช่ือมระหวา่ งทง้ั สองชนชน้ั

2.2 ทาส คอื กลมุ่ คนท่ไี มม่ อี สิ ระและเสรภี าพในการดาเนินชีวิตของตนเองและ ต้องเสียสละแรงงานใหก้ ับนาย *ในระหว่างทงั้ สองชนชั้นน้ี ยังมีพระสงฆท์ าหน้าทท่ี างศาสนาและ เป็นตัวเชื่อมระหวา่ งทง้ั สองชนชั้น

เอกสารอ้างอิง • http://project611.exteen.com/20071118/entry-16 • http://nucha.chs.ac.th/1.4.htm#%A1%D2%C3%BB%A1%A4%C 3%CD%A7%CA%C1%D1%C2%CA%D8%E2%A2%B7%D1%C2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook