Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วย 2 แผนฯ SPARK ม.1_Module 1

หน่วย 2 แผนฯ SPARK ม.1_Module 1

Published by นางสาวชฎาธาร จันนา, 2022-09-14 03:30:32

Description: หน่วย 2 แผนฯ SPARK ม.1_Module 1

Search

Read the Text Version

90

2 Cool Stuff! ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง 1 สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่อื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งท่ีฟงั และอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นทิ าน และบทรอ้ ยกรอง (poem) สน้ั ๆ ถูกต้องตามหลกั การ อา่ น ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคและข้อความให้สัมพันธก์ ับสื่อท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี ง (non-text information) ท่ีอ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ขอ้ เร่อื ง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และ อ่านบทสนทนา นิทาน และเร่อื งสั้น มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน ชวี ิตประจำวัน ต 1.2 ม. 1/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูล และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรือ่ งทฟี่ ังหรืออา่ น อย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการ พดู และการเขยี น ตัวชว้ี ดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดลอ้ ม ใกลต้ ัว ต 1.3 ม. 1/2 พูด/เขียนสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ (theme) ทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/ เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสงั คม สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวช้วี ดั 91

ต 2.1 ม. 1/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางสภุ าพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ต 2.1 ม. 1/3 เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื และเปน็ พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน ตัวชวี้ ดั ต 3.1 ม. 1/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเท็จจรงิ ทเี่ กยี่ วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู ืน่ จาก แหล่งการเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ตัวช้ีวดั ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและ สถานศึกษา 2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรคู้ ำศัพท์ สำนวน และโครงสรา้ งภาษา จะชว่ ยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเรอื่ งท่ีอา่ น และฟังได้ นอกจากนย้ี ังสามารถนำสิง่ ทเี่ รียนรไู้ ปใชใ้ นการพดู และเขียนสอื่ สาร แลกเปล่ยี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ส่งิ ของใกล้ตัว ลักษณะของบคุ คลได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ตลอดจนมคี วามเข้าใจในมารยาทและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Personal things (sunglasses, cap, skateboard, notebook, gloves, video game, trainers, handbag, guitar, helmet, digital camera, watch, comic book, scarf, bicycle, basketball) Appearance (young, old, long, short, tall, short, big, small, thin, plump, fat) Abilities (ride a bike, play the guitar, dance, drive a car, balance on a ball, jump, spin a ball, fly a plane, dive, run fast, climb a mountain, ski, swim) Souvenirs (T-shirt, sweatshirt, cap, mug, key ring, bag, pen, clock) Sentences (What can I do for you? I want to buy a souvenir. How about this cap? How much is it? It’s $15.00. Here you are.) Verbs (fly, protect, watch, find out, export) Nouns (engineer, business, secretary, metal suit, world, enemy, genes, identical twins, collection, football shirts, team, hobby, 92

handicraft, raw material, craftsman, household, natural resource, cabinet, tool, secret, industry, generation) Adjectives (loyal, strong, brilliant, wonderful, full of, alike, mad about, proud of, usual, local) Adverb (however) Grammar: have got possessive determiners plurals this - these/that - those Functions: Describing appearance Merlin is old and thin with short white hair and a long white beard. Talking about possessions Have you got a guitar? Yes, I have. Talking about abilities Can you drive a car? No, I can’t. Can you jump? Buying things What can I do for you? I want to buy a souvenir. Talking about your collection What is your collection? My collection is dolls. Discussing about handicrafts What handicraft products does your family own? My family has three baskets, two armchairs and a sofa. 2) Language Skills Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ, ฟงั การออกเสียงประโยค Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ลกั ษณะของบุคคล, พดู ขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกับ สิ่งของที่ตนเองมหี รอื ไม่ม,ี พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ, พูด สนทนาตามสถานการณ์ทกี่ ำหนด, พูดขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับของสะสม ของตนเอง, พดู ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกบั งานศิลปหตั ถกรรม Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, อา่ นออกเสยี งบทสนทนา Writing: เขียนบรรยายลักษณะของตัวการ์ตนู ทชี่ น่ื ชอบ, เขียนประโยคตามโครงสร้าง ที่เรยี น, เขียนส่งิ ทต่ี นเองสามารถทำไดแ้ ละไม่สามารถทำได,้ แตง่ บทสนทนา ตามสถานการณ์ที่กำหนด, เขยี นรายงานผลสำรวจลกั ษณะ 93

ของสมาชกิ ในครอบครวั , เขยี นอเี มลเลา่ เก่ยี วกับบ้านของสะสมของตนเอง, เขียนเกย่ี วกับงานศิลปหัตถกรรม 4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝ่เรยี นรู้ 2) ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 3) รกั ความเปน็ ไทย 6 ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) เขียนบรรยายลักษณะของตัวการ์ตูนที่ช่นื ชอบ 2) พูดขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับความสามารถ 3) อา่ นออกเสยี งบทสนทนา 4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี ำหนด 5) พูดสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ ำหนด 6) เขียนรายงานผลสำรวจลักษณะของสมาชกิ ในครอบครวั 7) เขยี นอีเมลเกี่ยวกับของสะสมของตนเอง 8) โปสเตอรเ์ ก่ยี วกับงานศิลปหตั ถกรรมของไทย 7 การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7.3 การประเมินหลังเรียน 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 94

1 Reading 2a & Vocabulary 2a 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคำถามและเขยี นให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีอา่ นและฟังได้ - พดู ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั พูดขอและใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกับลกั ษณะของบคุ คลได้ - เขียนบรรยายลกั ษณะของตัวการต์ ูนทชี่ ่นื ชอบได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี งั และอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตผุ ล ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม. 1/3 เลือก/ระบุประโยคและขอ้ ความให้สัมพนั ธ์กบั ส่อื ทไี่ มใ่ ชค่ วามเรยี ง (non-text information) ทอี่ ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวข้อเรือ่ ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่อื งส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชวี ติ ประจำวัน ต 1.2 ม. 1/4 พดู และเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมูล และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทฟ่ี ังหรอื อา่ น อยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ ง ๆ โดยการ พดู และการเขียน ตวั ช้วี ดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ ม ใกล้ตัว 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คำศพั ทเ์ กีย่ วกับสิ่งของ สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย adjectives ท่ีใช้บรรยายลกั ษณะของ บุคคล จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเรอ่ื งที่อ่านและฟังได้ นอกจากนีย้ งั สามารถนำคำศัพทท์ ่ี เรียนไปใช้พดู และเขียนให้ข้อมูลเก่ียวกับลกั ษณะของบคุ คลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 95

3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Personal things (sunglasses, cap, skateboard, notebook, gloves, video game, trainers, handbag, guitar, helmet, digital camera, watch, comic book, scarf, bicycle, basketball) Appearance (young, old, long, short, tall, short, big, small, thin, plump, fat) Verbs (fly, protect, watch, find out) Nouns (engineer, business, secretary, metal suit, world, enemy) Adjectives (loyal, strong, brilliant) Functions: Describing appearance Merlin is old and thin with short white hair and a long white beard. 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่อื หาข้อมูลเฉพาะ Speaking: พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับลกั ษณะของบคุ คล Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขียนบรรยายลกั ษณะของตวั การ์ตนู ที่ชนื่ ชอบ 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1) ความสามารถในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝเ่ รยี นรู้ 2) มุ่งม่ันในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั Warm up 1. ครูพดู ทักทายนักเรยี นว่า How’s it going? ใหน้ กั เรยี นตอบดว้ ยสำนวนอน่ื ทไ่ี มใ่ ช้ I’m fine. เชน่ Good./I’m OK./So so./Not (too) bad. 96

2. นกั เรยี นอ่านชื่อหน่วยการเรยี นรู้ (Cool Stuff!) ในหนงั สือเรียน หน้า 21 และเดาความหมาย (cool stuff เปน็ ภาษาท่ใี ชใ้ นกลุ่มวัยรนุ่ หมายถึง ส่งิ ทีเ่ ท่ ยอดเยย่ี ม) จากน้ันให้นักเรยี นดหู วั ข้อต่าง ๆ ท่ีจะ ไดเ้ รียนในหนว่ ยการเรียนร้นู ้เี พื่อดงึ ความสนใจของนกั เรียนเข้าส่บู ทเรียน 3. Find the page numbers for หนา้ 21 ครอู ธิบายคำศัพท์ทีน่ ักเรยี นไมร่ ้คู วามหมาย แล้วให้ นักเรยี นหาวา่ ภาพท่ีเกย่ี วกบั หัวขอ้ เหลา่ นี้อยใู่ นหนงั สือเรียนหน้าใด เมือ่ หาพบแลว้ ครูถามคำถามเพื่อ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน ขั้น Pre-reading 1. หนังสอื เรยี น หนา้ 21 Ex. 1 ให้นกั เรียนดูภาพสงิ่ ของต่าง ๆ แล้วครเู ปดิ CD ให้นักเรียนฟังคำศพั ท์ และออกเสยี งตามพร้อมกนั แลว้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี นออกเสียงทีละคน จากนัน้ ใหน้ กั เรียนบอก ความหมายของคำศพั ท์โดยดจู ากภาพ 2. ครทู บทวนการใช้ have got ในการแสดงความเป็นเจา้ ของสิ่งตา่ ง ๆ โดยให้นักเรยี นสำรวจสง่ิ ของของ ตนเอง จากน้ันครถู ามเกี่ยวกบั สิ่งของของนกั เรยี น 3. หนงั สอื เรยี น หนา้ 21 Ex. 2 ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟงั Peter พูดเก่ียวกบั ส่งิ ของของเขา และเติม ประโยคใหส้ มบูรณ์ เสร็จแล้วครูใหน้ ักเรียนอา่ นประโยคที่เติมสมบูรณ์แลว้ พรอ้ มกัน 4. หนงั สอื เรยี น หน้า 21 Ex. 3 ให้นักเรียนดูภาพสิ่งของทใ่ี ห้มา และเขยี นประโยคบอกสิ่งของทตี่ นเองมี และไมม่ ี เสรจ็ แลว้ ครสู ่มุ ถามนกั เรียน 2-3 วา่ What have you got? ให้นกั เรียนบอกคำตอบของ ตนเอง 5. ครนู ำเสนอคำคุณศัพทบ์ รรยายลักษณะรปู รา่ ง ได้แก่ young, old, long, short, tall, big, small, thin, plump, fat โดยพดู คำศพั ท์ พรอ้ มท้งั แสดงภาพประกอบหรือวาดภาพใหน้ กั เรียนดู เช่น ภาพ คนแก่ ภาพคนอว้ น แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกความหมาย ตอ่ มาครยู กตัวอยา่ งประโยคบนกระดาน ใหน้ ักเรียนสงั เกตตำแหนง่ ของ adjective ในประโยค และบอกครู จากนน้ั ครูสรปุ ใหฟ้ งั ว่า adjective จะวางไว้หลัง verb to be และวางไวห้ น้าคำนามท่ี adjective นั้นไปขยาย 6. ครใู ห้นกั เรียนคิดว่า การใชค้ ำคณุ ศพั ท์ หรอื adjective เพอื่ ขยายคำนาม ตำแหน่งของคำคุณศพั ท์ใน ประโยคภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยเหมือนกนั หรือไม่ เมื่อได้คำตอบว่าไม่เหมอื นกนั ครูยกตวั อยา่ ง ประโยคเพอ่ื ให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งข้นึ เช่น a fat cat ในภาษาอังกฤษคำคณุ ศัพท์ (fat) จะวางไวห้ นา้ คำนาม (cat) แต่ในภาษาไทย แมวอว้ น คำคุณศพั ท์ (อว้ น) จะวางไว้หลังคำนาม (แมว) 7. ครนู ำเสนอสำนวนทใ่ี ช้ถามลักษณะของบคุ คล โดยใหน้ ักเรียนหญิงคนหนง่ึ ยืนขน้ึ แล้วครสู ุ่มถามนกั เรยี น คนหนง่ึ ว่า What does she look like? ใหน้ ักเรียนบอกลกั ษณะของเพอ่ื นคนทีย่ นื อยู่ ครูเขยี นโครงสร้างประโยคคำถามบนกระดาน What do/does + noun/pronoun + look like? และอธบิ ายวา่ คำถามนใี้ ช้ถามลกั ษณะภายนอกของบุคคล จากนั้นครสู มุ่ เรียกนกั เรียน 2-3 คู่ พดู ถาม- ตอบลักษณะของเพอ่ื นรว่ มช้นั 8. หนงั สือเรียน หนา้ 22 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพตวั ละคร แลว้ ครถู ามวา่ Who’s the man in the picture? (Iron Man) จากน้นั ครูอา่ นช่ือบุคคลท่ีให้มา แล้วใหน้ กั เรยี นฟงั CD พรอ้ มทัง้ อา่ นบทอา่ น ตามไปด้วย เพ่อื หาความเกี่ยวข้องของบุคคลเหล่าน้ีกบั Iron Man 97

Tony Stark is Iron Man when he put on a special metal suit. Stark Industries is his father’s company. Pepper Potts is Tony Stark’s secretary. Iron Monger is Iron Man’s enemy. 9. นักเรยี นอา่ นคำศัพทใ์ นกรอบ Check these words หนังสือเรยี น หน้า 34 และช่วยกันอธิบาย ความหมาย ถ้าคำใดนักเรยี นไมร่ ู้ ครชู ่วยอธิบายหรือให้นักเรยี นเปิดหาความหมายในพจนานกุ รม ข้ัน Reading หนังสือเรยี น หนา้ 22 Ex. 2 นกั เรยี นอ่านคำถามทก่ี ำหนดให้ แล้วคิดวา่ นา่ จะตอบอะไร จากนั้นให้ นักเรยี นอา่ นบทอ่านเพ่อื หาเนือ้ เรอื่ งสว่ นทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั คำถาม เมอื่ พบแลว้ ใหอ้ ่านใหเ้ ขา้ ใจ แล้วจึงตอบ คำถาม ขน้ั Post-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 22 Ex. 3 นักเรยี นปิดหนังสอื เรียนและพยายามนึกถึง 2 สิ่งที่จำได้จากบทอา่ น แล้วเขียนลงในสมุด จากนนั้ ให้นกั เรียนจบั คกู่ ับเพ่ือนผลดั กันบอกสง่ิ ทีจ่ ำได้ แลว้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียน3- 4 คน บอกให้เพอื่ นในชัน้ ฟัง และใหเ้ พื่อนเปิดหนังสอื เรียนเพอ่ื ตรวจว่าถกู ตอ้ งหรอื ไม่ 2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 12 Exs. 1, 4 ให้นักเรยี นทำเปน็ การบา้ น ชว่ั โมงที่ 2 ขน้ั Warm up ครเู ปิดคลปิ วิดโี อจาก https://www.youtube.com/watch?v=h4eueDYPTIg เพอื่ ดงึ ความสนใจ ของนกั เรียนเข้าสบู่ ทเรียน โดยครอู าจให้นักเรยี นยนื ขน้ึ และทำทา่ ประกอบตามบทเพลง ขั้น Presentation 1. ครูนำเสนอคำศพั ท์เก่ียวกบั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ head, hair, face, eye, nose, ear, mouth, teeth, lips, beard, moustache, arm, hand, knee, leg, ankle, foot โดยติดภาพคน บนกระดาน แลว้ ช้ีทอ่ี วัยวะทลี ะสว่ น ให้นักเรียนออกเสยี งคำศพั ท์ตามครู 2. หนังสือเรยี น หนา้ 23 Ex. 5 ครูเปิด CD ให้นกั เรยี นฟงั คำศัพทเ์ กีย่ วกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และ ออกเสียงตาม จากนัน้ ครพู ูดคำศพั ท์ทีละคำ ให้นักเรยี นบอกความหมาย 3. ครสู ุ่มถามคำถามนกั เรียนทีละคน พรอ้ มทั้งชีท้ ี่อวัยวะทีละสว่ น เชน่ T: Non, is it a nose? (ช้ีทีจ่ มกู ) Non: Yes, it is. T: Fa, are they eyes? (จับหทู ัง้ 2 ขา้ ง) Fa: No, they aren’t. They are ears. 4. ครอู ธิบายการเรยี งลำดับคำคุณศัพท์ในการบรรยายลักษณะรปู รา่ ง โดยยกตัวอย่างบนกระดาน เชน่ Annie is a young short girl with short black hair. Sam is old with long white beard. แล้ว ชี้ท่คี ำคณุ ศัพท์ ให้นกั เรียนบอกวา่ คำคุณศัพท์นน้ั บรรยายอะไร 98

ในภาษาอังกฤษการใชค้ ำคณุ ศพั ทห์ ลาย ๆ คำมาขยายคำนาม จะเรยี งลำดับคำคณุ ศัพท์ ดังนี้ ลำดบั ท่ี 1: article เชน่ a, an, the หรอื possessive (คำแสดงความเปน็ เจ้าของ) เช่น his, her, their, my, your ลำดบั ที่ 2: number (จำนวน) เช่น one, two, three, four ลำดบั ที่ 3: opinion (ความคดิ เห็น) เช่น beautiful, pretty, smart, colorful ลำดบั ท่ี 4: size (ขนาด) เชน่ huge, slim, big ลำดบั ท่ี 5: shape (รปู ทรง) เช่น round, triangle ลำดับที่ 6: age (อายุ) เชน่ old, new, young ลำดับที่ 7: colour (สี) เชน่ red, blue, black, yellow ลำดบั ที่ 8: nationality (สญั ชาต)ิ เช่น Chinese, Dutch, American, British ลำดับที่ 9: material (วัสดุ) เชน่ silver, cotton ลำดับท่ี 10: คำนามทีน่ ำมาใช้เปน็ คำคุณศพั ท์ หรอื participle (v + -ing) เชน่ swimming, running ขน้ั Practice 1. หนังสือเรยี น หนา้ 23 Ex. 6 ให้นกั เรยี นดภู าพตวั การ์ตนู และครถู ามวา่ Do you know these cartoon characters? What film are they from? (Shrek III) จากน้ันให้นักเรยี นชว่ ยกันบอก ลกั ษณะของ ตัวการต์ นู เหลา่ นี้ แลว้ ให้นกั เรียนอ่านประโยค a-e และจบั คู่ประโยคกบั ตัวการ์ตูนทีส่ ัมพนั ธก์ ัน เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบโดยพดู ชือ่ ตวั การ์ตูน และสมุ่ เรยี กนกั เรยี นอ่านประโยคท่ีบรรยายลักษณะของ ตวั การ์ตูนตัวนั้น 2. หนังสอื เรยี น หน้า 23 Ex. 7 ครเู ปดิ CD ให้นกั เรยี นฟัง John พูดเก่ียวกบั ตวั การ์ตนู ที่เขาชน่ื ชอบใน เรอื่ ง Shrek เมอื่ ฟงั จบครถู ามนกั เรียนว่า Which two characters is John talking about? 3. ให้นกั เรยี นเลน่ เกม โดยครใู ห้เวลานกั เรียน 2 นาที จดจำลกั ษณะตวั การ์ตนู จากเรื่อง Shrek III แล้วปดิ หนังสือเรยี น จากน้ันใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3 คน และใหแ้ ตล่ ะคนเลอื กตวั การต์ นู มา 1 ตัว แลว้ บรรยายลกั ษณะตัวการ์ตูนใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ฟัง โดยบรรยายลกั ษณะทลี ะอยา่ ง เพ่ือให้แข่งกนั ทายว่า คอื ตวั การต์ นู ตวั ใด 4. หนังสอื เรยี น หน้า 23 Ex. 8 ให้นกั เรียนเลอื กตัวการ์ตนู ในภาพจากเรอ่ื ง Shrek III มาคนละ 1 ตัว แล้วพดู บรรยายลักษณะของตวั การต์ นู ที่เลือกให้เพอื่ นในชั้นฟัง ครแู นะนำใหน้ ักเรียนบรรยายลักษณะ ท่ัวไปกอ่ น เชน่ รูปร่าง ความสูง อายุ แลว้ จงึ บอกรายละเอยี ดที่เฉพาะเจาะจง เชน่ สีผม สี ดวงตา ขน้ั Production 1. หนงั สือเรียน หนา้ 23 Ex. 9 ใหน้ ักเรียนหาภาพตวั การต์ นู ทีต่ นเองชน่ื ชอบจากอินเทอร์เน็ต แลว้ พมิ พห์ รอื เขียนบรรยายลกั ษณะของตวั การต์ นู ลงในกระดาษ โดยใช้คำศพั ทท์ ่ีเรียนไป จากน้ันครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี น 5 คน ออกมาแสดงภาพตวั การ์ตูนใหเ้ พือ่ นดูท่ีหน้าช้ัน พรอ้ มทง้ั พูดบรรยายลักษณะของ ตวั การ์ตูน 99

2. นักเรยี นทำ Language Review 2a Exs. 1-3 ในหนังสือเรยี น หนา้ 106 ร่วมกนั ในช้ัน 3. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 12-13 Exs. 2-3, 5-8 ให้นกั เรยี นทำเปน็ การบ้าน 7. การวดั และการประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารผ่าน รอ้ ยละ 60 ตรวจการตอบคำถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด (Workbook) ระดับคุณภาพ พอใช้ สงั เกตการพูดขอและให้ข้อมลู เกยี่ วกับ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ลกั ษณะของบคุ คล ระดับคุณภาพ ผ่าน ประเมินเขียนบรรยายลักษณะของ แบบประเมนิ การเขียน ตัวการ์ตนู ที่ชื่นชอบ สงั เกตความใฝเ่ รยี นรู้และความมุง่ ม่ันใน แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ การทำงาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสอื่ ฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝกึ หดั SPARK 1 ม. 1 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานกุ รมออนไลน์ 6) อินเทอรเ์ น็ต 100

2 Grammar 2b 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - พูดขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับสง่ิ ของทต่ี นเองมีหรือไมม่ ีได้ - เขยี นประโยคตามโครงสร้างที่เรยี นได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมเี หตุผล ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม. 1/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคและขอ้ ความ ให้สมั พนั ธก์ ับสอ่ื ท่ีไม่ใช่ความเรยี ง (non-text information) ที่อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ พูดและการเขยี น ตัวชวี้ ดั ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสิง่ แวดล้อม ใกลต้ วั 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจโครงสรา้ งภาษา ชว่ ยให้สามารถพดู ขอและให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับสง่ิ ของใกล้ตัวไดอ้ ย่าง ถูกต้อง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Grammar: have got possessive determiners plurals 101

this - these/that - those Functions: Talking about possessions Have you got a guitar? Yes, I have. 2) Language Skills Speaking: พดู ขอและใหข้ ้อมูลเก่ียวกับสิ่งของที่ตนเองมหี รือไมม่ ี Writing: เขียนประโยคตามโครงสรา้ งทเ่ี รยี น 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝเ่ รียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครใู ห้นกั เรยี นเล่นเกม Bingo ทบทวนคำศพั ท์ โดยเขยี นตาราง 9 ช่องลงในกระดาษ และเขยี นคำศัพท์ เกี่ยวกับส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายลงในแต่ละช่องไมใ่ หซ้ ้ำกัน จากนน้ั ครูพูดส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายคร้งั ละ 1 คำ ตารางของใครมคี ำศพั ท์ดงั กล่าวใหท้ ำเครอื่ งหมายกากบาททบั คำศพั ทน์ ้ัน นกั เรียนคนใดท่ีทำ เครอ่ื งหมายทับคำศัพท์ได้ 3 ชอ่ งตดิ ต่อกันก่อนเป็นคนแรกคือผ้ชู นะ 2. ครูนำเข้าสู่บทเรียนเร่อื ง have got/has got โดยให้นักเรียนดูคลปิ วดิ โี อจาก https://www.youtube.com/watch?v=LicMWzUceuQ ขัน้ Presentation 1. ครทู บทวนการใช้ have got เพอื่ บรรยายลักษณะ โดยชที้ ี่ตาของตนเองและพูดว่า I have got black eyes. แลว้ เขยี นประโยคบนกระดาน ครชู ้ีไปทผ่ี มของนกั เรียนหญงิ คนหนึง่ และพดู ว่า She has got short hair. She hasn’t got long hair. แลว้ เขยี นประโยคบนกระดาน ขีดเสน้ ใต้คำว่า hasn’t got ครชู ้ีไปที่นกั เรียนชายคนหน่งึ และถามนกั เรียนที่เหลือวา่ Has he got short hair? (Yes, he has.) Has he got blue eyes? (No, he hasn’t.) แล้วเขียนประโยคบนกระดาน ขดี เสน้ ใต้ has got ใน ประโยคคำถาม จากนน้ั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้างประโยค have got ในการบรรยายลกั ษณะ 2. ครูสุม่ เรียกนักเรียนแต่งประโยคจากคำที่ครูกำหนดให้ 3. ครบู อกนักเรียนวา่ have got นอกจากจะใช้บรรยายลักษณะแลว้ ยังใช้เพือ่ แสดงความเปน็ เจ้าของได้ ดว้ ย แล้วครยู กตัวอย่าง เชน่ I have got a watch. พรอ้ มท้งั ชูนาฬิกาข้อมือให้นักเรยี นดู จากนน้ั สุ่ม 102

เรียกนกั เรียน 5 คน ใหบ้ อกสิ่งของทต่ี นเองมี เสร็จแลว้ ครถู ามคำถามนกั เรียนในชั้นเกีย่ วกับสิ่งของ ของเพ่อื นทั้ง 5 คน ขัน้ Practice 1. หนงั สอื เรียน หน้า 24 Ex. 1 ให้นักเรยี นอ่านประโยคในตารางเพือ่ ดรู ปู ประโยคบอกเลา่ ปฏเิ สธ และ คำถามทีใ่ ช้ have got เพือ่ บรรยายลักษณะ รวมทั้งการตอบคำถามแบบส้ัน 2. หนังสือเรียน หน้า 24 Ex. 2 ให้นกั เรยี นดภู าพตวั ละคร แลว้ ครูถามว่า What film are they from? (Star Wars) Who are they? (Luke Skywalker - ลุค สกายวอล์คเกอร์, Queen Amidala - ควนี อ มิดาล่า, Jar Jar Binks - จาร์ จาร์ บิงคส์, Princess Leia - ปรน๊ิ เซสเลอา, Yoda - โยดา) จากนั้นให้ นักเรยี นเตมิ ประโยคบรรยายลกั ษณะตัวละครให้สมบูรณ์ เสร็จแล้วครตู รวจคำตอบโดยสุ่มเรียก นักเรยี นอา่ นประโยค 3. ครูวาดภาพเดก็ ผู้หญิงคนหนง่ึ บนกระดาน แล้วบอกนกั เรยี นว่า เดก็ ผู้หญิงคนนี้ช่ือ Pam จากนนั้ ครู แจกกระดาษขอ้ ความขา้ งล่างนใี้ หน้ กั เรยี น เพ่ือเตมิ has got/have got, hasn’t got/haven’t got ลงในช่องว่าง 4. หนงั สอื เรยี น หน้า 24 Ex. 3 ให้นกั เรียนเขยี นประโยคบรรยายลักษณะของตัวละครใน Ex. 2 โดยใช้ วลีท่ีกำหนดให้ แล้วครูสุ่มเรียกนักเรยี นอา่ นประโยคใหเ้ พื่อนฟงั 5. ครถู ามคำถามนกั เรยี นเกี่ยวกบั ลกั ษณะของตัวละครจากเร่ือง Star Wars 4. หนังสือเรยี น หนา้ 24 Ex. 4 ให้นกั เรยี นเตมิ have got หรือ has got ลงในประโยคคำถามให้ ถูกตอ้ ง แลว้ ตอบคำถามโดยดขู ้อมูลท่ีกำหนดให้ จากน้ันครูสุม่ เรียกนักเรยี นอา่ นคำถามและบอก คำตอบ ขั้น Production 1. ครูเขยี นตารางตามนบี้ นกระดาน ใหน้ กั เรยี นลอกลงในสมดุ guitar sunglasses trainers digital basketball helmet camera cap watch bicycle gloves skateboard แลว้ ใหน้ กั เรียน 2 คน อ่านตวั อย่างให้เพอื่ นฟงั จากนนั้ ให้นักเรยี นจบั คกู่ นั พดู ถาม-ตอบเกยี่ วกับส่ิงของ จาก Ex. 4 ทีต่ นเองมหี รอื ไม่มี แล้วทำเคร่อื งหมาย  ลงในตารางถ้าเพอ่ื นมีสง่ิ ของน้ัน ขณะท่ีนกั เรียน ทำกิจกรรมครเู ดนิ สงั เกตรอบ ๆ ชัน้ เรยี น แล้วสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู รายงานสิง่ ของทค่ี ู่ ของตนเองมแี ละไมม่ ี 2. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 14 Exs. 1-2 ให้นักเรยี นทำเป็นการบ้าน 103

ชว่ั โมงท่ี 2 ขนั้ Warm up ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Beginning with โดยแบง่ นกั เรยี นออกเปน็ 2 ทีม จากนั้นครอู ธิบายวา่ ให้นกั เรยี น แตล่ ะทมี ช่วยกนั บอกคำศพั ทเ์ กีย่ วกับสงิ่ ของทข่ี นึ้ ต้นด้วยตัวอกั ษรทคี่ รบู อก ข้ัน Presentation 1. ครทู บทวน possessive adjective ซึง่ เปน็ คำคณุ ศพั ท์แสดงความเปน็ เจ้าของ โดยเขยี นตาราง 2 ช่อง บนกระดาน ชอ่ งแรกครเู ขยี น subject pronouns และให้นกั เรยี นช่วยกันบอก possessive determiners แลว้ ครเู ขียนเตมิ ลงในชอ่ งท่ี 2 Subject pronouns Possessive determiners I, you, he, she, it, we, you, they my, your, his, her, its, our, your, their ต่อมาครูเขียนประโยค This is my notebook. Your pen is on the desk. บนกระดาน ให้นักเรยี น ดแู ละบอกครวู า่ possessive adjective จะวางไว้หนา้ คำประเภทใด (คำนาม) จากนัน้ ครตู รวจสอบ ความเข้าใจโดยให้สุม่ เรียกนักเรียนแตง่ ประโยคทใี่ ช้ possessive adjective 2. ครูทบทวนการเปล่ียนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ โดยยกตัวอยา่ งคำนามเอกพจน์ และใหน้ กั เรียน บอกวา่ จะทำเปน็ พหพู จนไ์ ด้อย่างไร เชน่ box, ear, child, day แลว้ ครูทบทวนกฎการเปลย่ี นคำนาม เอกพจนเ์ ปน็ พหพู จน์ 3. ครูสอนการออกเสยี งคำนามพหพู จน์ โดยเขียนคำศพั ท์บนกระดาน เช่น hats, boxes, names, dogs, watches และออกเสียงใหน้ ักเรยี นฟัง ใหน้ กั เรียนบอกว่าคำนามพหูพจนส์ ามารถออกเสียงได้ก่ีแบบ ตอ่ มาครูอธบิ ายกฎการออกเสยี งคำนามพหพู จน์ แลว้ ใหน้ ักเรียนออกเสียงคำศพั ท์บนกระดานพรอ้ มกัน และทีละคน จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นเปรียบเทยี บว่าในภาษาไทยมีการออกเสยี งท้ายคำนามพหูพจน์ เหมอื นกับภาษาอังกฤษหรอื ไม่ เมอื่ ไดค้ ำตอบว่าไมเ่ หมอื น ครยู กตวั อย่าง เชน่ one box, two boxes และ กล่อง 1 ใบ, กล่อง 2 ใบ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากยิ่งข้ึน 4. ครูทบทวนการใช้ this - these/that - those โดยชหู นงั สอื 1 เลม่ พูดว่า This is a book. และชี้ไป ทห่ี นงั สือบนโต๊ะนกั เรียนแถวรมิ สดุ พูดวา่ That is a book. แล้วครถู ามนักเรียนวา่ รูปพหพู จนข์ อง this คอื อะไร (these) รูปพหพู จน์ของ that คืออะไร (those) ตอ่ มาครถู ามคำถามเพอื่ ตรวจสอบ ความเขา้ ใจของนกั เรียนว่า What do we use for things that are near to us? (this/these) What do we use for things that are far away from us? (that/those) จากนน้ั ครชู ้ีไปทส่ี งิ่ ของ ต่าง ๆ ในชน้ั เรยี น ใหน้ กั เรียนพูดประโยคโดยใช้ this - these/that - those 104

ข้ัน Practice 1. หนงั สือเรยี น หนา้ 25 Ex. 6 ให้นกั เรียนดู possessive determiners ในตาราง แลว้ บอก ความหมายของแต่ละคำเป็นภาษาไทย 2. หนงั สอื เรยี น หนา้ 25 Ex. 7 ให้นกั เรยี นอา่ นประโยคท่ีให้มา และเลอื กคำตอบที่ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู ตรวจคำตอบ และใหน้ กั เรยี นบอกวา่ คำตอบเป็น personal pronoun (PP) หรือ possessive adjective (PA) 3. หนงั สือเรยี น หน้า 25 Ex. 8 ให้นักเรยี นอ่านกฎการเปลีย่ นคำนามเอกพจนเ์ ปน็ พหูพจน์ และชว่ ยกัน คดิ วา่ ในภาษาไทยมกี ารเปล่ยี นคำนามเอกพจน์เป็นพหพู จนห์ รอื ไม่ 4. หนงั สือเรียน หนา้ 25 Ex. 9 ให้นกั เรียนเขยี นรปู พหพู จน์ของคำนามทกี่ ำหนดให้ เสร็จแลว้ ครเู ฉลย คำตอบบนกระดาน และถามนักเรยี นวา่ คำใดเปน็ irregular plural (I) 5. หนังสือเรยี น หน้า 25 Ex. 10 ใหน้ ักเรยี นอ่านกฎและตัวอย่างการใช้ this/these - that/those จากน้ันใหน้ ักเรียนดูภาพ และใช้ this/these - that/those เขยี นประโยคบอกสิง่ ของต่าง ๆ ที่ Jean และ Tom มี โดยสมมติวา่ ตนเองเป็น Jean และ Tom 6. หนงั สอื เรยี น หน้า 25 Ex. 11 ครูช้ไี ปทีส่ ่งิ ของต่าง ๆ รอบชัน้ เรยี น ใหน้ ักเรียนบอกคำศัพท์ ภาษาองั กฤษ เชน่ window, desk, handbag, blackboard, chair, door, map, pen, pencil, notebook, book แล้วให้นักเรยี นจบั ค่ผู ลัดกนั ช้ีสงิ่ ของ และพดู บอกว่าสิง่ ของนัน้ คืออะไร โดยใช้ this/these - that/those ครเู ดนิ ตรวจสอบว่านักเรียนพูดประโยคถูกต้องหรอื ไม่ 7. หนังสือเรียน หนา้ 25 Ex. 12 ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั คำศัพท์รปู พหูพจน์วา่ ออกเสยี ง /s/, /z/ หรือ /Iz/ แลว้ ทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงในตาราง จากนนั้ ครตู รวจคำตอบ แล้วเปิด CD โดยหยุดทีละคำ ให้ นักเรียนฝกึ ออกเสยี งตามพร้อมกนั หรือทีละคน 8. หนงั สอื เรยี น หนา้ 25 Ex. 13 ให้นกั เรยี นเขียนเกีย่ วกบั สิ่งของทตี่ นเองมแี ละไม่มีโดยใช้ have got แลว้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรียนอ่านประโยคใหเ้ พ่อื นฟงั ข้นั Production 1. ใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคโดยใช้ possessive determiners และ this/these – that/those มา 5 ประโยค เสร็จแลว้ ครสู มุ่ เรียกนกั เรยี นอ่านประโยคใหเ้ พ่อื นฟัง 2. นกั เรยี นทำ Grammar Bank 2 ในแบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 71 ร่วมกนั ในชน้ั 3. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 14-15 Exs. 3-8 ให้นักเรียนทำเปน็ การบา้ น 7. การวดั และการประเมนิ ผล วิธีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารผา่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้ สังเกตการพดู ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ - ส่ิงของทีต่ นเองมีหรอื ไมม่ ี ระดับคณุ ภาพ ผา่ น ตรวจการเขยี นประโยคตามโครงสร้างที่ สมุดนักเรยี น เรยี น สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ 105

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) คลปิ วดิ ีโอ 106

3 Skills 2c 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคำถามจากการฟงั ได้ - พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับความสามารถของตนเองและผู้อนื่ ได้ - เขียนสิ่งท่ตี นเองสามารถทำไดแ้ ละไม่สามารถทำได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ฟี งั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหวั ข้อเรอ่ื ง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และ อ่านบทสนทนา นทิ าน และเรือ่ งสน้ั มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน ชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการ พดู และการเขียน ตวั ช้วี ัด ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ยี วกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และสง่ิ แวดลอ้ ม ใกลต้ ัว 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรคู้ ำศัพท์และโครงสรา้ งภาษาเกี่ยวกับการบอกความสามารถ จะชว่ ยให้เขา้ ใจและบอก รายละเอียดของเร่ืองทฟี่ ังได้ รวมถงึ สามารถนำความรู้ที่เรยี นไปใช้พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองและ ผอู้ ่นื ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions 107

Vocabulary: Abilities (ride a bike, play the guitar, dance, drive a car, balance on a ball, jump, spin a ball, fly a plane, dive, run fast, climb a mountain, ski, swim) Functions: Talking about abilities Can you drive a car? No, I can’t. Can you jump? 2) Language Skills Listening: ฟงั เพือ่ หาข้อมลู เฉพาะ Speaking: พูดขอและใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับความสามารถ Writing: เขียนส่ิงทตี่ นเองสามารถทำไดแ้ ละไมส่ ามารถทำได้ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝเ่ รียนรู้ 2) มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครพู ูดทกั ทายนักเรียนว่า How’s it going? ใหน้ กั เรยี นตอบ I’m fine./I’m good./I’m OK. จากน้ัน ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นทีละค่ใู หพ้ ดู ทกั ทายกัน 2. ครูทบทวนคำนามพหูพจน์ โดยครพู ดู คำนามเอกพจน์ และใหน้ ักเรยี นพดู คำนามพหพู จน์ เช่น T: I have got a pen. S1: I have got two pens. T: He has got a watch. S2: He has got two watches. 3. ครแู บ่งนกั เรียนออกเปน็ 2 ทีม แล้วพูดคำศพั ทเ์ กี่ยวกบั สิ่งของตา่ ง ๆ ใหแ้ ต่ละทมี แต่งประโยคโดยใช้ this - these/that - those ถ้าแตง่ ประโยคถกู ต้องจะได้ 1 คะแนน ทีมทไ่ี ด้คะแนนมากทส่ี ดุ จะเป็นผู้ ชนะ เชน่ T: windows Team A S1: These are the windows. T: Correct. Team A gets 1 point. table Team B S1: This is my table. 108

ข้นั Presentation 1. ครนู ำเสนอคำศัพทเ์ กยี่ วกับความสามารถ ใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สอื เรยี น หน้า 26 และบอกครูวา่ บุคคลในแตล่ ะภาพทำอะไร แลว้ ครูพูดคำศัพทภ์ าษาองั กฤษ 2. หนังสอื เรยี น หนา้ 26 Ex. 1 ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั คำศัพทเ์ กี่ยวกับความสามารถ และฝึก ออกเสยี งตามพร้อมกนั หรือทลี ะคน 3. ครทู บทวนการใช้ can เพ่ือบอกความสามารถ โดยพูดวา่ She can drive a car. พร้อมทั้งเขยี น ประโยคบนกระดาน แล้วถามนักเรียนวา่ จะทำเป็นปฏิเสธได้อยา่ งไร (เตมิ not หลงั can) ครใู ห้ นกั เรยี นทำประโยคบนกระดานเป็นปฏเิ สธ (She can’t drive a car.) ตอ่ มาครูถามว่าจะทำเป็น ประโยคคำถามไดอ้ ย่างไร (นำ can มาขนึ้ ตน้ ประโยค) แล้วใหน้ ักเรยี นทำเป็นประโยคคำถาม (Can she drive a car?) 4. ครสู มุ่ ถามคำถามนกั เรยี น 3-4 คน 5. ครูเขียนคำตอบแบบสั้นบนกระดาน Yes, I can. และ No, I can’t. แลว้ บอกนักเรยี นวา่ การตอบ ปฏเิ สธสามารถตอบ No, I can’t. หรอื No, I cannot. ครูชีใ้ หน้ ักเรยี นสงั เกต cannot จะตอ้ งเขียน ตดิ กัน 6. หนงั สอื เรียน หน้า 26 Ex. 2 ให้นกั เรยี นอ่านประโยคในตาราง แล้วครูช้ีใหน้ กั เรยี นเหน็ วา่ can และ can’t ใช้รปู เหมอื นกันกับประธานทุกตัว จากนัน้ ใหน้ กั เรียนพูดประโยคเหลา่ นเ้ี ปน็ ภาษาไทย ขนั้ Practice 1. ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั เพ่อื เล่นเกม โดยให้แตล่ ะคนเลือกความสามารถจาก Ex. 1 แล้วผลัดกนั ทำท่าทาง ใบ้คำให้คู่ของตนทายวา่ สามารถทำอะไรได้ เช่น S1: (ทำท่าขีจ่ ักรยาน) S2: You can ride a bike. S1: correct. 2. หนงั สือเรียน หนา้ 26 Ex. 4 ใหน้ ักเรยี นอา่ นชื่อบุคคลและคำศัพทเ์ ก่ยี วกับความสามารถทใี่ หม้ า แลว้ ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรียนฟังบทสนทนาและจับคบู่ ุคคลกบั สง่ิ ท่ีพวกเขาสามารถทำได้ จากนัน้ ครูตรวจ คำตอบ โดยให้นกั เรียนพดู ประโยคบอกสง่ิ ทแ่ี ต่ละคนสามารถทำได้ เช่น Tony can dance very well. Sue can run very fast. ขนั้ Production 1. หนงั สือเรยี น หนา้ 26 Ex. 3 ครใู ห้นกั เรยี น 2 คน อ่านตวั อยา่ งการถาม-ตอบให้เพือ่ นฟัง แล้วให้ นักเรียนจับคู่ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเกย่ี วกับความสามารถโดยใช้คำศัพท์ใน Ex. 1 จากนนั้ ครูสุ่มเรียก นักเรยี น 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบทหี่ น้าชั้นเรยี น 2. นกั เรยี นทำ Language Review 2c Ex. 4 ในหนังสือเรยี น หนา้ 106 รว่ มกันในชั้น 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 16-17 Exs. 1-2, 4-5 ใหน้ กั เรียนทำเป็นการบา้ น 109

ช่วั โมงท่ี 2 ขนั้ Warm up 1. ครดู งึ ความสนใจของนักเรียนเขา้ สบู่ ทเรียน โดยนักเรียนดูคลิปวดิ โี อจากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=8-PQ7_yGa08 ขน้ั Presentation 1. ครูถามนกั เรียนว่า What can you do? แลว้ ใหน้ กั เรยี นออกมาทำท่าทางใหเ้ พือ่ นทาย 2. ครสู ุ่มถามคำถามนกั เรียนนกั เรียนหลาย ๆ คน เพื่อทบทวนรูปคำถามของ can ข้นั Practice 1. นักเรียนทำแบบสำรวจความสามารถของเพื่อน โดยครเู ขียนตารางตามน้บี นกระดาน ใหน้ ักเรยี นลอก ลงในสมดุ แล้วอ่านวลใี นตารางพรอ้ มกัน จากน้นั ใหน้ ักเรียนรวมกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ความสามารถของสมาชิกในกลุ่ม โดยใช้คำถาม Can you … Ability Name Can Can’t play rollerblade draw a picture play the guitar use a computer take a photo sing a song cook 2. เมื่อทุกกลุม่ ถามคำถามครบทุกคนแล้ว ให้เขยี นรายงานความสามารถของเพ่ือนในกลุ่ม แล้วสง่ ตวั แทน ออกมารายงานหน้าชั้น เชน่ Ann can draw a picture and sing a song. She can’t play rollerblade ขั้น Production 1. หนังสือเรยี น หน้า 26 Ex. 5 ให้นกั เรียนเขียนสง่ิ ทีต่ นเองสามารถทำได้และไมส่ ามารถทำได้ จากนน้ั ครุสุ่มเรยี กนักเรียน 5-6 คน พูดใหเ้ พือ่ นฟงั 2. แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 16 Ex. 3 ใหน้ ักเรียนฟัง CD แล้วเติมข้อมลู ลงในช่องวา่ ง 3. แบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 17 Ex. 6 ให้นักเรยี นฟงั CD แลว้ เลือกคำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง 7. การวดั และการประเมนิ ผล วธิ ีการวัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารผา่ น ตรวจการตอบคำถามจากการอ่าน แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60 ประเมินการพูดขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั แบบประเมนิ การพดู ระดับคุณภาพ พอใช้ ความสามารถ ตรวจการเขยี นสงิ่ ท่ตี นเองสามารถทำได้ แบบประเมินการสำรวจ/คน้ ควา้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ และไม่สามารถทำได้ 110

สงั เกตความใฝ่เรียนรแู้ ละความมุง่ มัน่ ใน แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น การทำงาน อันพงึ ประสงค์ 8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานกุ รมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) คลปิ วดิ ีโอ 111

4 Everyday English 2d 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงบทสนทนาถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่านได้ - ตอบคำถามจากการอ่านบทสนทนาได้ - แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ ำหนดได้ - พูดสนทนาในสถานการณ์ท่ีกำหนดได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมเี หตุผล ตัวชี้วัด ต 1.1 ม. 1/2 อ่านออกเสยี งข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) สั้น ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน ต 1.1 ม. 1/4 ระบุหัวขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นิทาน และเรอ่ื งสัน้ มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตัวชี้วัด ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชวี้ ดั ต 2.1 ม. 1/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาทา่ ทางสภุ าพเหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจ้าของภาษา สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม ตัวชว้ี ดั ต 4.1 ม. 1/1 ใช้ภาษาสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่ีเกิดขนึ้ ในห้องเรียนและ สถานศกึ ษา 112

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การเรียนรสู้ ำนวนภาษาที่ใช้ในการซื้อของ จะช่วยให้พดู สนทนาส่อื สารในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ งและเหมาะสม 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Souvenirs (T-shirt, sweatshirt, cap, mug, key ring, bag, pen, clock) Sentences (What can I do for you? I want to buy a souvenir. How about this cap? How much is it? It’s $15.00. Here you are.) Functions: Buying things What can I do for you? I want to buy a souvenir. 2) Language Skills Listening: ฟังการออกเสียงประโยค Speaking: พูดสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ ำหนด Reading: อ่านเพื่อหาข้อมลู เฉพาะ, อ่านออกเสยี งบทสนทนา Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 1) ใฝ่เรยี นรู้ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั Warm up ครูใหน้ ักเรยี นดภู าพรา้ นของท่ีระลึก ภายใน 20 วินาที แลว้ พยายามจำสิง่ ของต่าง ๆ ทอี่ ย่ใู นภาพ ใหม้ ากท่ีสุด ใครจำส่ิงของได้มากท่สี ดุ เป็นผ้ชู นะ ขัน้ Presentation ครูนำเสนอสำนวนภาษาท่ใี ชใ้ นการซื้อของ โดยให้นักเรียนช่วยกันคิดวา่ เวลาไปซ้ือของจะถามอะไรบา้ ง เชน่ สี ขนาด ราคา แลว้ ครูวาดตาราง 2 ชอ่ งบนกระดาน ชอ่ งแรกเปน็ สำนวนของคนขาย ชอ่ งท่ี 2 เป็นสำนวนของลกู ค้า 113

Shop keeper/Shop assistant Customer ถามความต้องการ บอกส่ิงทต่ี อ้ งการ - Can I help you? มอี ะไรใหช้ ว่ ยไหม - Do you have …? คุณมี ... ไหม - How can I help you? มอี ะไรให้ช่วยไหม - I want to buy … ฉนั /ผมตอ้ งการซ้อื ... - What can I do for you? มีอะไรใหช้ ่วยไหม - What are you looking for? คณุ กำลังมองหา - I’m looking for … ฉนั /ผมกำลงั มองหา ... สนิ ค้าอะไร เสนอสนิ ค้าใหพ้ ิจารณา บอกการตดั สินใจเลือก - How about this one? อันนีเ้ ปน็ ยังไง - I’ll take it. ฉันเอาอนั น้ี - How do you like this one? คุณชอบอันน้ี - I’ll take this. ฉันเอาอนั นี้ ไหม ถามสี บอกสีที่ตอ้ งการ - What colour do you want? คุณตอ้ งการสี - I want (blue). ฉัน/ผมตอ้ งการ (สีฟ้า) อะไร ถามขนาด บอกขนาดท่ตี อ้ งการ What size do you want? คณุ ต้องการไซต์ - I want size (M). ฉนั /ผมต้องการไซต์ (M) อะไร บอกราคา ถามราคา - It’s … ชิน้ นี้/อนั นรี้ าคา ... - How much is it/this? นี่ราคาเทา่ ไหร่ - How much does this cost? นี่ราคา - They’re… พวกนีร้ าคา ... เท่าไหร่ - How much are they? พวกน้รี าคาเทา่ ไหร่ ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งสำนวนบนกระดาน และลองเดาความหมาย จากน้นั ครบู อกความหมายของ แต่ละประโยค ใหน้ กั เรียนจดลงในสมุด ขั้น Practice 1. หนังสือเรยี น หน้า 27 Ex. 1a ครูเปิด CD ใหน้ ักเรยี นฟงั ประโยคทใ่ี ห้มา แลว้ ครูถามว่าแต่ละ ประโยคเน้นเสียงทีค่ ำใด จากน้ันครเู ปดิ CD ให้นกั เรียนฝกึ ออกเสยี ง โดยเน้นเสยี งให้ถกู ต้อง 2. หนงั สือเรยี น หนา้ 27 Ex. 1b ครูบอกนักเรยี นวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาที่เกิดขน้ึ ใน รา้ นคา้ จากน้นั ใหน้ ักเรียนพิจารณาว่าประโยคใดพนักงานขายของเปน็ ผูพ้ ูด ประโยคใดลกู คา้ เปน็ ผู้พูด แล้วครเู ปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังและอ่านบทสนทนาตามไปด้วยเพ่อื ตรวจคำตอบ 3. หนังสอื เรยี น หนา้ 27 Ex. 2a ครูถามคำถาม What is Mary buying? แล้วให้นกั เรยี นอ่านบท สนทนาเพ่อื หาคำตอบ 114

4. หนังสอื เรียน หนา้ 27 Ex. 2b ครเู ปิด CD อีกครั้ง ใหน้ กั เรยี นตั้งใจฟังบทสนทนา เมอื่ ฟังจบให้ นกั เรียนจบั ค่กู ัน ฝึกพดู สนทนา ครเู นน้ ให้นักเรยี นออกเสยี งสงู -ต่ำในประโยคให้ถกู ตอ้ ง ครเู ดิน รอบ ๆ ชัน้ เรยี น สงั เกตการออกเสยี งของนกั เรยี น จากน้นั สุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 คู่ ออกมาพูดสนทนาท่หี น้า ชนั้ 5. หนงั สือเรยี น หนา้ 27 Ex. 3 ให้นักเรยี นชว่ ยกันพดู ประโยคที่ใหม้ าใน Ex. 1 เป็นภาษาไทย 6. หนังสือเรยี น หน้า 27 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 แล้วอา่ นบทสนทนาอกี ครัง้ เพือ่ หาประโยคที่ มคี วามหมายเหมือนกบั ประโยคเหล่าน้ี จากนนั้ ครูสมุ่ เรยี กนักเรยี นบอกคำตอบ ขน้ั Production หนังสือเรยี น หนา้ 27 Ex. 5 นกั เรียนทำงานคู่ ช่วยกันแตง่ บทสนทนาโดยสมมติสถานการณว์ ่า นักเรียนอยู่ในรา้ นขายของทร่ี ะลึกในอเมรกิ า นกั เรียนสามารถใช้บทสนทนาใน Ex. 2a เป็นต้นแบบได้ โดยเปลี่ยนคำทเ่ี ป็นสฟี ้าใหเ้ ปน็ ข้อมลู เกย่ี วกับของที่ระลึกที่ตอ้ งการซ้อื เมอื่ แต่งบทสนทนาเสรจ็ แล้วสง่ ให้ครตู รวจ หลงั จากรบั งานคนื แลว้ ให้นักเรียนไปฝกึ ซ้อม เพ่ือมาพดู สนทนาในช่วั โมงถัดไป ช่ัวโมงที่ 2 ขัน้ Warm up ครูทบทวนคำศพั ทเ์ ก่ยี วกับของทร่ี ะลึก โดยใหน้ กั เรียน 1 คน ออกมาวาดภาพบนกระดาน เพือ่ ให้ นักเรียนในชนั้ ทายคำศพั ท์ ขนั้ Pre-speaking 1. ครเู ปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาในหนังสือเรยี น หน้า 27 Ex. 2a แลว้ อา่ นตามพร้อมกนั โดย ออกเสียงสงู -ต่ำให้ถกู ตอ้ ง 2. ครูใหเ้ วลานักเรียนแตล่ ะคทู่ บทวนบทสนทนาที่ตนเองแตง่ เพ่ือเตรียมความพร้อมก่อนออกมาพูด สนทนาหน้าชัน้ เรยี น ขัน้ Speaking 1. กอ่ นเร่มิ พูดสนทนา ครูให้นกั เรียนทกั ทายเพื่อนและแนะนำตนเองด้วย เชน่ Hi, everyone. I’m Sunisa. Hello, my friends. 2. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคูอ่ อกมาพูดสนทนาหน้าช้ันเรียน โดยครอู าจเรยี กตามลำดับเลขทีห่ รอื เรยี กตาม แถวทีน่ ัง่ ขณะท่นี กั เรียนพดู สนทนาครคู อยสังเกตและจดบันทกึ ขั้น Post-speaking 1. ครใู ห้ขอ้ มูลย้อนกลับ (feedback) เรอื่ งการใช้ภาษาของนกั เรียน เชน่ ไวยากรณ์ การออกเสียง นำ้ เสียง กิรยิ าทา่ ทาง เพอ่ื ให้นกั เรยี นนำไปปรบั ปรุงแกไ้ ขในคร้งั ต่อไป 2. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแต่ละคไู่ ปฝกึ อา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรียน หน้า 27 ให้คลอ่ ง แล้วมาอา่ น บทสนทนาให้ครูฟังนอกเวลาเรยี น 3. นักเรียนทำ Language Review 2d Ex. 5 ในหนังสือเรยี น หนา้ 106 ร่วมกันในชน้ั 4. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 18 Exs. 4-5 ให้นกั เรียนทำเป็นการบ้าน 115

7. การวัดและการประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผา่ น แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดับคณุ ภาพ พอใช้ วิธีการวัด แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60 ประเมนิ การอ่านออกเสียงบทสนทนา แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ตรวจการตอบคำถามจากการอา่ น แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดับคุณภาพ พอใช้ บทสนทนา บทบาทสมมติ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน ประเมนิ การแตง่ บทสนทนาตาม อันพึงประสงค์ สถานการณ์ที่กำหนด ประเมนิ การพดู สนทนาตาม สถานการณ์ท่ีกำหนด สังเกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละความมุ่งมั่น ในการทำงาน 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝกึ หัด SPARK 1 ม. 1 4) ภาพร้านของท่รี ะลึก 116

5ค่คู ิด Across the curriculum 2e 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคำถามจากการอ่านเรอื่ งได้ - พูดและเขียนใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั ลกั ษณะของบคุ คลได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ ง มีเหตุผล ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ข้อเรอ่ื ง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเร่อื งส้นั มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ ึกและ ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้วี ดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ พูดและการเขยี น ตวั ชีว้ ดั ต 1.3 ม. 1/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวัน ประสบการณ์ และสงิ่ แวดลอ้ ม ใกล้ตัว 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การเรียนรเู้ กี่ยวกับความเหมือนและความแตกตา่ งดา้ นลักษณะภายนอก จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจ ความสมั พนั ธข์ องบคุ คลทัง้ ทางพนั ธุกรรมและทางเช้อื ชาติ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Nouns (genes, identical twins) Adjectives (wonderful, full of, alike) Adverb (however) 117

2) Language Skills Reading: อ่านเพ่ือหาข้อมูลเฉพาะ Writing: เขยี นรายงานผลสำรวจลกั ษณะของสมาชกิ ในครอบครัว 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ใฝเ่ รียนรู้ 2) มุง่ ม่นั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขัน้ Warm up 1. ครูทบทวนการใช้ have got บอกลกั ษณะของบคุ คล โดยนำภาพนกั แสดง/นกั ร้องที่มชี อ่ื เสยี งมาแสดง ให้นักเรียนดู และพูดบอกลักษณะของบุคคลในภาพ 2. ครูให้นักเรยี นช่วยกนั คดิ และบอกว่าลกั ษณะของคนยโุ รปหรอื คนอเมรกิ นั และคนเอเชียแตกต่างกัน อยา่ งไร เช่น ความสงู สีผม สีผวิ 3. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพ และระดมความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ภาพ ดว้ ยการถามคำถาม What would it be like if we were all the same? Wouldn’t the world be boring if we were all alike? 4. ครสู ่งกระจกให้นักเรียนส่องดูสผี ม สีผวิ สีตาของตนเอง และส่งกระจกตอ่ ๆ กนั ไป แลว้ ให้นักเรียน บอกวา่ เหน็ ลกั ษณะตนเองอยา่ งไรในกระจก เชน่ I have got black hair and dark brown eyes. จากนนั้ ครูถามคำถาม What makes you special or unique? ขน้ั Presentation 1. ครูนำเสนอสำนวนทใ่ี ช้บอกความเหมอื นและความแตกตา่ งของลกั ษณะภายนอก โดยชูภาพนกั แสดง/ นกั ร้องให้นักเรยี นดู และยกตวั อย่าง เช่น Yaya has got the same hair colour as Kimberry. Yaya has got a different eye colour from Taylor Swift. แล้วครอู ธบิ ายว่า the same as ใชบ้ อกส่ิงที่เหมือนกัน ส่วน different from ใช้บอกสิง่ ที่ต่างกัน ครอู ธิบายเพมิ่ เติมว่าการบอกลกั ษณะทเ่ี หมือนกัน ยงั สามารถใช้ like ไดด้ ว้ ย เช่น Tom is like his father. Jane has got eye colour like her mother’s. ขน้ั Practice 1. หนังสือเรียน หนา้ 28 Ex. 1a ให้นักเรยี นดูภาพบุคคล และบอกว่าพวกเขามลี กั ษณะเหมือนกันและ ต่างกนั อยา่ งไร Jane has got a different hair colour from Kim and Lee. Pat has got the same eye colour as Kim. Bill and Sam are the same. They are twins. Lee has got the same hair colour as Kim. 118

2. หนงั สอื เรียน หนา้ 28 Ex. 1b ครถู ามนกั เรียนวา่ มพี ช่ี าย/นอ้ งชาย หรอื พี่สาว/นอ้ งสาวหรอื ไม่ และ นกั เรียนมลี กั ษณะเหมอื น/แตกต่างจากพี่นอ้ งอยา่ งไร 3. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 2 ใหค้ รเู ปิด CD ใหน้ ักเรียนฟงั และอา่ นบทอ่านตามไปดว้ ย จากนัน้ ให้ นกั เรียนอา่ นประโยคทกี่ ำหนด และตอบว่าประโยคถูกต้องตามเรอ่ื งทฟ่ี งั (T) หรือไม่ถกู ต้อง (F) หรือ ไม่ได้กลา่ วถงึ (DS) เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบพร้อมกัน แล้วครูให้นกั เรียนบอกความหมายของคำในกรอบ Check these words ขั้น Production 1. หนังสือเรียน หนา้ 28 Ex. 3 ครูบอกนักเรยี นว่าจะใหท้ ำ class survey เกย่ี วกับความเหมือนและ ความแตกตา่ งระหวา่ งเพอื่ นกับพ่อแม่ แล้วครูใหน้ ักเรยี นลอกตารางลงในสมดุ จากนั้นใหน้ กั เรียน สัมภาษณเ์ พ่อื นรว่ มช้ัน 4 คน ตามหัวขอ้ ในตาราง และบนั ทกึ คำตอบ เสรจ็ แลว้ ใหแ้ ต่ละคนเขยี นรายงานผลสำรวจ จากนัน้ ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 3-4 คน ออกมาอ่านรายงาน ให้เพอ่ื นฟงั ท่หี นา้ ช้ัน 4. นกั เรยี นทำ Language Review 3e Ex. 5 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 107 รว่ มกนั ในช้ัน 5. แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 26 Ex. 1 ให้นักเรยี นทำเป็นการบ้าน ช่วั โมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูสมุ่ ถามคำถามนกั เรียนหลาย ๆ คน เกยี่ วกบั ลกั ษณะภายนอก ขั้น Presentation ครทู บทวนสำนวน the same as และ different from ทีใ่ ช้บอกความเหมือนและความแตกต่างของ ลักษณะภายนอก โดยช้ที ีน่ ักเรยี น 2 คน และพูดประโยค เช่น May has got the same hair colour as Ning. จากนน้ั ครแู สดงภาพบคุ คลใหน้ ักเรียน และพดู ประโยค เชน่ Yaya has got a different eye colour from Taylor Swift. ครูถามนักเรยี นวา่ การบอกลักษณะทเี่ หมือนกนั นอกจาก the same as ยงั สามารถใช้คำใดไดอ้ กี (like) เชน่ Tom is like his father. Jane has got eye colour like her mother’s ขน้ั Practice 1. นกั เรียนทำงานคู่ โดยใช้ตารางผลสำรวจจาก Ex. 3 พดู รายงานความเหมอื นและความแตกต่างของ เพือ่ นใหค้ ่ขู องตนฟัง 2. ครูส่มุ เรยี กนกั เรยี น 3-4 คน ให้พดู รายงานวา่ ตนเองมีลกั ษณะใดทีเ่ หมอื นหรอื แตกต่างจากพอ่ แม่ ขั้น Production 1. ให้นกั เรียนสำรวจลกั ษณะของสมาชิกในครอบครัว และเขียนรายงานผลสำรวจมาสง่ ครู 2. นักเรยี นทำ Vocabulary Bank 2 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 89-91 3. แบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 18 Exs. 1-3 ให้นักเรียนทำเป็นการบา้ น 119

7. การวัดและการประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารผา่ น วธิ กี ารวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ สังเกตการสัมภาษณล์ กั ษณะของเพ่อื น ประเมินการเขียนรายงานผลสำรวจ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคุณภาพ ผา่ น ลกั ษณะของสมาชกิ ในครอบครัว อันพึงประสงค์ สังเกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละความมุ่งมน่ั ใน การทำงาน 8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝกึ หัด SPARK 1 ม. 1 4) พจนานกุ รมอังกฤษ-องั กฤษ 5) พจนานกุ รมออนไลน์ 6) ภาพบุคคล 120

6 Writing 2f 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคำถามจากการอ่านได้ - พดู ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ของสะสมของตนเองได้ - เขยี นอีเมลให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ของสะสมของตนเองได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตผุ ล ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ขอ้ เรือ่ ง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อ่านบทสนทนา นทิ าน และเรื่องสั้น มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและ ความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตัวช้ีวดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการ พูดและการเขียน ตวั ชวี้ ัด ต 1.3 ม. 1/1 พูดและเขียนบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อม ใกล้ตวั 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การเรยี นรู้เครอ่ื งหมายวรรคตอนต่าง ๆ จะช่วยใหส้ ามารถเขียนส่ือสารได้อยา่ งถูกต้องและมี ประสทิ ธิภาพ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: Nouns (collection, football shirts, team, hobby) Adjectives (mad about, proud of) 121

Functions: Talking about your collection What is your collection? My collection is dolls. 2) Language Skills Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Speaking: พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกบั ของสะสมของตนเอง Writing: เขียนอีเมลเล่าเกี่ยวกบั บ้านของสะสมของตนเอง 4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคิด 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ใฝเ่ รยี นรู้ 2) มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั Warm up 1. ครนู ำของสะสมของครมู าแสดงให้นกั เรยี นดู พรอ้ มกบั พูดบอกวา่ ของสะสมนั้นคืออะไร เช่น I have got a collection of stamp. จากนัน้ ครูสมุ่ ถามเกี่ยวกับของสะสมของนักเรยี น เชน่ T: Pom, have you got a collection? Pom: Yes, I have. T: What is your collection? Pom: My collection is Lego. 2. ครูใหน้ ักเรยี นดภู าพประกอบในหนังสือเรยี น หน้า 29 แล้วเดาวา่ ของสะสมของเด็กผู้ชายในภาพคือ อะไร ขน้ั Presentation 1. ครูสอนคำศัพทใ์ หม่ เชน่ proud, collections โดยการอธิบายความหมาย พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ แล้วครูถามว่า What is part of speech of “proud”? โดยกระตนุ้ ให้นักเรยี นบอกคำตอบว่า ครูถามว่า What is part of speech of “collection”? โดยกระตนุ้ ให้นักเรียนบอกคำตอบว่า noun 2. ครูทบทวนการใช้เคร่อื งหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ โดยเขียนประโยคตัวอย่าง บนกระดาน ครูวงกลมเครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ แลว้ ถามนักเรียนว่ามีเคร่อื งหมายอะไรบ้าง จากนั้นครูเขยี น เครื่องหมายบนกระดาน และถามนักเรียนว่าเครื่องหมายแตล่ ะอันใช้อย่างไร - full stop (.) ใช้วางไว้ทา้ ยประโยคบอกเล่าและปฏเิ สธ - comma (,) ใช้แบง่ รายการทมี่ มี ากกว่า 2 - exclamation mark (!) ใช้วางไวท้ ้ายประโยคท่แี สดงความรูส้ กึ - question mark (?) ใชว้ างไวท้ ้ายประโยคคำถาม 122

ขน้ั Practice 1. หนังสอื เรียน หนา้ 29 Ex. 1 ให้นักเรียนอ่านอเี มลและเตมิ คำทีก่ ำหนดให้ลงในชอ่ งวา่ งให้ถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครูเปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟังและอา่ นอเี มลเพ่อื ตรวจคำตอบ แลว้ ให้นกั เรยี นบอกความหมายของ คำศัพท์ในกรอบ Check these words 2. หนงั สอื เรยี น หน้า 29 Ex. 2 ใหน้ กั เรยี นอ่านอีเมลอกี ครั้ง เพอ่ื หาคำตอบมาเขียนเติมลงในประโยค เสรจ็ แลว้ ครตู รวจคำตอบ จากนนั้ ครูถามขอ้ มลู ของเด็กผูช้ ายในอีเมล ด้วยคำถาม What’s his name? How old is he? What is his collection? What’s his favourite one? ใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบ 3. ใหน้ กั เรียนจบั คผู่ ลัดกนั พูดถาม-ตอบเกีย่ วกบั ของสะสมของตนเอง ถา้ ใครไม่มขี องสะสมให้สมมตขิ ้ึน เอง โดยใช้คำถาม Have you got a collection? What is your collection? How many do you have? 3. หนงั สือเรียน หนา้ 29 Ex. 3 นกั เรยี นอ่าน Study skills เกยี่ วกบั การใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอน แล้ว หาประโยคทใี่ ช้เครอ่ื งหมายวรรคตอนเหล่านีใ้ นอีเมล Ex. 1 จากนั้นใหน้ ักเรียนอ่านประโยคที่ กำหนดให้ แลว้ ใส่เครื่องหมายวรรคตอนลงในประโยคให้ถูกต้อง เสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรยี กนกั เรยี นออกมา เขียนคำตอบบนกระดาน แลว้ ครูตรวจความถกู ต้องอกี ครั้ง ขน้ั Production 1. ให้นักเรียนเขียนประโยคโดยใชเ้ ครือ่ งหมายวรรคตอนตา่ ง ๆ มาเครือ่ งหมายละ 2 ประโยค เสร็จแล้วรวมรวมสง่ ให้ครตู รวจความถูกต้อง 2. แบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 19 Exs. 1-2 ให้นักเรียนทำเปน็ การบ้าน ชั่วโมงที่ 2 ขน้ั Warm up ครูถามนักเรยี นวา่ นักเรยี นมีอีเมลหรอื ไม่ เคยสง่ อเี มลไปหาเพื่อนใหมบ่ ้างหรอื ไม่ และนกั เรยี นส่งอเี มล บ่อยหรอื ไม่ ขั้น Pre-writing 1. ครูทบทวนการใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ โดยให้นกั เรยี นดอู ีเมลในหนังสอื เรยี น หนา้ 29 วา่ เคร่ืองหมายวรรคตอนอะไรบ้าง เช่น full stop, comma, exclamation, question mark แลว้ ให้นกั เรยี นบอกมีวิธีการใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอนตา่ ง ๆ - full stop (.) ใชว้ างไวท้ ้ายประโยคบอกเล่าและปฏเิ สธ - comma (,) ใชแ้ บ่งรายการท่ีมีมากกวา่ 2 - exclamation mark (!) ใชว้ างไวท้ า้ ยประโยคทแี่ สดงความร้สู กึ - question mark (?) ใช้วางไว้ท้ายประโยคคำถาม 2. ครูทบทวนคำถามท่ีใช้ถามข้อมูลสว่ นตัว เช่น What’s your name? How old are you? Where are you from? What is your collection? What is your favourite one? Are you proud of your collection? 123

3. ให้นกั เรยี นจบั คพู่ ดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั ของสะสมของตนเอง ถ้าใครไม่มีของสะสมใหส้ มมตขิ ึน้ เอง โดยใช้ คำถาม Have you got a collection? What is your collection? How many do you have? 4. ครูอธิบายภาระงานในหนังสอื เรียน หนา้ 29 Ex. 4 วา่ นักเรยี นจะได้เขียนอเี มลเกย่ี วกบั ของสะสมของ ตนเองตามโครงรา่ งทก่ี ำหนดให้ ความยาว 40-50 คำ ข้ัน Writing หนงั สือเรยี น หนา้ 29 Ex. 4 นกั เรียนเขยี นอเี มลเก่ียวกับของสะสมของตนเอง ข้นั Post-writing 1. นักเรยี นตรวจทานงานเขียนของตนเอง โดยดกู ารสะกดคำ ไวยากรณ์ การใช้ capital letters การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน ย่อหนา้ และปรบั แกง้ านเขียนใหเ้ รยี บรอ้ ย แลว้ นำส่งครูตรวจ 2. นกั เรียนทำ Self-Check 2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 114 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 19 Exs. 3-4 ให้นักเรยี นทำเปน็ การบา้ น 7. การวดั และการประเมินผล วิธีการวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การผา่ น ตรวจการเขียนประโยคโดยใช้ สมดุ นกั เรยี น - เครือ่ งหมายวรรคตอนต่าง ๆ สงั เกตการพดู ขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ของสะสมของตนเอง ประเมนิ การเขยี นอเี มลเก่ยี วกบั ของ แบบประเมนิ การเขียน ระดับคณุ ภาพ พอใช้ สะสมของตนเอง สังเกตความใฝ่เรียนรูแ้ ละความมุ่งม่ัน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1 3) แบบฝึกหดั SPARK 1 ม. 1 4) ของสะสมของครู 124

7 ASEAN corner 2 1 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - ตอบคำถามจากการอ่านได้ - พูดขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั งานศลิ ปหัตถกรรมได้ - คน้ คว้าเก่ยี วกับงานศลิ ปหัตถกรรมและนำเสนอได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล ตัวช้วี ดั ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ วั ข้อเรื่อง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อา่ นบทสนทนา นทิ าน และเรอื่ งสั้น มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรูส้ กึ และ ความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชีว้ ดั ต 1.2 ม. 1/1 สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวนั มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรอ่ื งตา่ ง ๆ โดยการ พดู และการเขยี น ตัวช้วี ดั ต 1.3 ม. 1/2 พดู /เขยี นสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ (theme) ทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/ เหตกุ ารณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่อื มโยงความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน และเป็น พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน ตัวชว้ี ัด ต 3.1 ม. 1/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ ืน่ จาก แหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น 125

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การเรยี นรูเ้ ก่ียวกบั งานศลิ ปหตั ถกรรมของประเทศตา่ ง ๆ จะชว่ ยใหร้ ู้วิถชี วี ิตความเปน็ อยู่ รวมถึง ขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในประเทศนนั้ ๆ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verb (export) Nouns (handicraft, raw material, craftsman, household, natural resource, cabinet, tool, secret, industry, generation) Adjectives (usual, local) Functions: Discussing about handicrafts What handicraft products does your family own? My family has three baskets, two armchairs and a sofa. 2) Language Skills Speaking: พดู ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั งานศิลปหัตถกรรม Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขยี นเกี่ยวกับงานศิลปหตั ถกรรม 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการใช้คดิ 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ใฝเ่ รยี นรู้ 2) รกั ความเป็นไทย 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั Warm up 1. ครูแสดงภาพ handicraft ใหน้ ักเรยี นดู และถามนกั เรียนวา่ Do you know handicrafts? Give me some examples of handicrafts. 2. ครูใหน้ ักเรียนสังเกตสง่ิ ของต่าง ๆ ในชั้นเรียน แล้วช่วยกนั บอกวา่ อะไรบ้างท่ที ำมาจากวัสดธุ รรมชาติ ข้นั Pre-reading 1. หนังสอื เรียน หนา้ 30 Ex. 1 ครูอา่ นคำศัพท์ 1-6 ให้นกั เรียนอ่านตาม แล้วครบู อกวา่ คำศพั ท์เหล่านี้ เปน็ คำศพั ท์ที่อย่ใู นบทอ่าน แล้วให้นักเรียนจับคคู่ ำศัพทก์ บั ความหมาย a-f เสรจ็ แล้วครูเฉลยคำตอบ แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกความหมายของคำศพั ท์เป็นภาษาไทย 126

2. ครูนำเสนอคำศพั ทค์ ำอนื่ ๆ ได้แก่ usual, cabinet, tool, local, secret, industry, generation โดยเขยี นคำศัพทบ์ นกระดาน และ ให้นักเรยี นแขง่ กนั เปิดหาความหมายในพจนานุกรม จากนนั้ ครู อธิบายความหมายใหน้ กั เรยี นฟงั อีกคร้งั ขั้น Reading หนังสือเรียน หนา้ 30 Ex. 2 นกั เรยี นอ่านคำถามทใี่ หม้ า เมอื่ อ่านจนเขา้ ใจให้ชว่ ยกันบอกคำสำคัญ ในคำถาม แลว้ นักเรียนอ่านบทอ่านเพอ่ื หาเนื้อเรอื่ งส่วนทเี่ กย่ี วขอ้ งกับคำสำคญั เม่อื พบแล้วให้อ่าน ประโยคหรือข้อความทค่ี ำถามน้ันพาดพงิ ไปถงึ หรอื อาจจะอา่ นข้อความแวดล้อมประมาณ 1-2 ประโยคกอ่ นหนา้ หรือถัดไปที่มขี ้อมูลพาดพิงไปถงึ เม่ือเข้าใจแล้วจึงตอบคำถามท่ีให้มา ขน้ั Post-reading 1. ครใู หน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นวา่ งานหตั ถกรรมมีคณุ ค่าด้านวัฒนธรรมอย่างไร เช่น ชว่ ยให้รู้วิถชี วี ิต ความเปน็ อยู่ แนวคิดและความเช่อื อาชพี เปน็ ต้น จากนั้นครูถามนักเรยี นวา่ จะมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษง์ านหตั ถกรรมได้อย่างไร เช่น เข้าร่วมกจิ กรรมที่ เกยี่ วข้องกบั งานศิลปหตั ถกรรม เชน่ ไปเทยี่ วชมและเลือกซอ้ื ของใชใ้ นงานแสดงสินค้าพ้นื บา้ น แนะนำ ให้สมาชิกในครอบครวั เพอ่ื น หรอื คนรจู้ กั ใช้ของใชท้ ่ีเปน็ งานศลิ ปหัตถกรรม ยกตวั อย่าง กระเปา๋ 2. หนังสอื เรียน หนา้ 30 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นคำถามพรอ้ มกนั ถ้ามคี ำถามข้อใดทน่ี ักเรยี นไมเ่ ข้าใจ ให้ ครูช่วยอธบิ าย จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นจับคกู่ ันอภปิ รายคำถามเหล่าน้ี หรือครูอาจให้นกั เรยี นอภิปรายเป็น กล่มุ 3. หนังสอื เรียน หน้า 30 Ex. 4 ให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 3-4 คน ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ หรอื หนงั สืออ้างองิ เกย่ี วกบั งานหตั ถกรรมของไทย แล้วนำข้อมลู มาจัดทำเปน็ โปสเตอร์ พร้อมทั้งตดิ ภาพและตกแต่งใหส้ วยงาม 7. การวดั และการประเมินผล วธิ กี ารวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารผ่าน ตรวจการตอบคำถามจากการอ่าน สมุดนกั เรียน ร้อยละ 60 สงั เกตการพูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ งานศลิ ปหตั ถกรรม ประเมินการทำโปสเตอรเ์ กีย่ วกับงาน แบบประเมนิ ชนิ้ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ศลิ ปหัตถกรรมของไทย สังเกตความใฝ่เรียนรู้และการรกั ความ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน เป็นไทย อันพงึ ประสงค์ 8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 1 ม. 1 2) พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 4) อินเทอร์เนต็ หรอื หนังสืออา้ งองิ 127

8 O-NET practice & Fun time 2 1 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ทบทวนคำศพั ทแ์ ละไวยากรณท์ ีเ่ รียนมาแลว้ ในหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 - เขียน quiz เกีย่ วกบั เน้อื หาทีเ่ รยี นมาแล้วได้ 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งทฟ่ี ังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล ตวั ชีว้ ัด ต 1.1 ม. 1/4 ระบหุ ัวข้อเร่ือง (topic) ใจความสำคัญ (main idea) และตอบคำถามจากการฟงั และ อา่ นบทสนทนา นิทาน และเรื่องสน้ั สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตัวชีว้ ดั ต 2.1 ม. 1/3 เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคำศัพท์ โครงสรา้ งภาษา ช่วยให้พูด/เขยี นสอ่ื สาร และเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาได้ อย่างเหมาะสม 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คำศพั ท์ในหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 Grammar: ไวยากรณ์ในหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 2) Language Skills Listening: ฟังเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ Writing: เขียน quiz เก่ียวกับเนอ้ื หาทเี่ รียนมาแลว้ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคดิ 128

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ัน Warm up ครูทบทวนคำศัพท์ท่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โดยให้นกั เรียนแบ่งเปน็ ทมี เล่นเกม Hangman ครเู ลือกคำศพั ท์ 1 คำ และขดี เส้นเท่าจำนวนตวั อกั ษรของคำ เชน่ skateboard s _ _ _ _ _ _ _ _ _ จากนน้ั ให้แต่ละทีมแข่งกนั ทายตวั อักษรครงั้ ละ 1 ตัว ถ้าทายถกู จะไดท้ ายตัวอักษรตัวต่อไป แต่ถ้า ทายผดิ ครวู าดเส้นที่ Hangman ทีละเสน้ ถ้า Hangman ของทมี ใดถกู แขวนคอก่อน จะถกู ปรบั แพ้ ทนั ที ทีมท่ีเหลือแข่งกนั ต่อไป ทมี ใดทายตัวอกั ษรได้ถูกทกุ ตัวกอ่ น จะได้ 1 คะแนน ทีมทีไ่ ดค้ ะแนน มากทสี่ ุดจะเป็นผูช้ นะ ขั้น Presentation 1. ใหน้ ักเรยี นบอกไวยากรณท์ ่เี รยี นในหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 แล้วครูเขียนบนกระดานในรูปของ mind map จากน้ันให้นกั เรียนช่วยกันบอกโครงสร้างและวธิ กี ารใช้ have got can (ability) ไวยากรณ์ possessive หน่วยการ determiners เรียนรู้ที่ 2 this-these/ plurals that-those 2. ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็น 2 ทมี แลว้ ครูพูดศัพท์ครั้งละ 1 คำ ใหแ้ ตล่ ะทมี สง่ ตัวแทนออกมาเขียน ประโยคบนกระดานโดยใชไ้ วยากรณท์ เ่ี รียนในหน่วยการเรียนรู้นี้ ทีมทเ่ี ขยี นประโยคถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน สดุ ท้ายทมี ท่ีได้คะแนนมากท่ีสุดจะเปน็ ผูช้ นะ ข้นั Practice 1. หนังสอื เรียน หนา้ 32 Ex. 1 นกั เรยี นเลน่ เกมเป็นคู่ โดยครูให้เวลา 5 นาที อ่านคำใบ้ท่ีให้มาและ เขียนคำตอบลงในกระดาษ จากน้นั ครเู ฉลยคำตอบ ให้นกั เรียนแลกกันตรวจกับเพอื่ นคอู่ ่นื ถา้ ตอบถูก จะได้ขอ้ ละ 1 คะแนน คทู่ ี่ได้คะแนนมากที่สดุ จะเป็นผชู้ นะ 129

1 cap 4 trainers 7 computer games 2 watch 5 handbag 3 sunglasses 6 comic book 2. หนังสอื เรยี น หน้า 32 GAME ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นทมี เพอื่ เล่นเกม แลว้ เร่ิมเล่นเกมโดยครูเลือก นกั เรยี น 1 คน ไวใ้ นใจ และให้แต่ละทีมถามคำถาม Yes/No questions ไดท้ มี ละ 3 คำถาม โดยผลัด กนั ถาม เพอื่ หาวา่ คนที่ครูเลอื กไว้คอื ใคร ถ้าทีมใดทายชอื่ ถูกจะได้ 1 คะแนน สดุ ท้ายทมี ท่ีไดค้ ะแนน มากท่สี ดุ จะเป็นผชู้ นะ เช่น T: He’s a boy. Team A S1: Is he tall? T: Yes, he is. Team B S1: Has he got short hair? T: Yes, he has. 3. หนงั สอื เรียน หน้า 32 Ex. 2 นักเรยี นทำ quiz โดยห้ามเปดิ ดเู นือ้ หา เสร็จแล้วใหน้ ักเรียนเปรียบเทยี บ คำตอบกบั เพื่อน จากน้ันครูเฉลยคำตอบ 1 He can fly. 2 Iron Man’s enemy. 3 No, he hasn’t. 4 No, he isn’t. 5 Because they have some of the same genes from their parents and grandparents. 4. หนังสือเรยี น หน้า 32 Ex. 4 นกั เรยี นอา่ นช่อื เพลง แล้วครอู ธิบายหรอื ให้นักเรียนบอกความหมาย ของวลีที่กำหนดให้ จากน้นั ครบู อกนกั เรยี นวา่ วลีเหลา่ นี้อยใู่ นเนอ้ื เพลง ใหน้ กั เรยี นเดาวา่ เพลงน้นี ่าจะ เกีย่ วกบั อะไร แลว้ ครูเปดิ CD ให้นกั เรยี นฟงั เพลงเพ่อื ตรวจคำตอบ เม่อื ฟงั เพลงจบแล้วให้นกั เรียนบอก ช่ือประเทศที่มีในเนื้อเพลง และบอกช่ือของทร่ี ะลึกท่เี ห็นในภาพ Things someone can do while on holiday. Countries: Italy, the UK, India, the USA, Mexico, Peru, Australia, Russia Souvenirs: hats (sombreros) from Mexico and a doll from India. 6. หนงั สอื เรยี น หน้า 31 O-NET practice ครใู ห้เวลานักเรียนทำข้อสอบ เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบ ร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไมเ่ ข้าใจ ใหค้ รอู ธบิ ายเพ่มิ เติม 130

Ex. 1 1 A b, B a 2 A b, B b 3 A c, B b Ex. 2 1 A d, B c 2 A b, B c 3 A c, B d ข้นั Production หนังสือเรียน หนา้ 32 Ex. 3 นักเรยี นจบั คู่กนั แลว้ ครแู จกกระดาษให้คู่ละ 1 แผน่ ใหแ้ ตล่ ะคู่คิด คำถาม quiz 5-6 ข้อ เก่ียวกับเนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เชน่ What has Tony Stark got? (A special metal suit.) ครใู หน้ กั เรียนเปดิ ดูเนือ้ หาได้ และให้นกั เรยี นเขียนคำตอบไวด้ ้านหลัง กระดาษ เม่ือทุกคคู่ ิดคำถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทำ quiz กับคอู่ น่ื 1 Who is big and fat with green skin? (Shrek) 2 Who is Pepper Potts? (Tony Stark’s loyal secretary) 3 Who is Luke Skywalker’s sister? (Princess Leia) 4 Who is plump with long red hair? (Princess Fiona) 5 What punctuation do we use after interrogative sentences? (A question mark) 7. การวดั และการประเมินผล เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารผ่าน วธิ ีการวดั - รอ้ ยละ 60 ตรวจการเขียน quiz เกี่ยวกับเน้อื หา แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน ในหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 อนั พึงประสงค์ สังเกตความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน 8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน SPARK 1 ม. 1 2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชดุ SPARK 1 ม. 1 131


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook