วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ÅÁྠÅÁ¾Ñ´ จัดทําโดย นางสาวมนทกานติ ตน้ พนม ค.บ.ชีววทยา 62040111125
เ นื อ ห า บ ท เ รี ย น 1. การเกิดลม 2.ลมบก ลมละเล 3. ประโยชนและโทษของลม 4.การผลติ ไฟฟ าจากกระแสลม
ลม หมายถงึ อากาศที่เคล่ือนที่ไปในทิศทางในแนวราบ เกิดจากการแทนท่ขี องอากาศ เน่ืองจากอากาศในบริเวณที่รอนจะลอยตัวสงู ข้ึน ในขณะท่ีอากาศบรเิ วณใกลเ คยี งท่ี อุณหภูมติ ่าํ กวา จะเคล่อื นที่เขามาแทนที่ เม่อื มกี ารเคล่ือนไหวของอากาศทเ่ี กิดจากการ เปล่ียนแปลงและแตกตา งกนั ของความกดอากาศ อากาศบริเวณที่มีความกออากาศสงู จะ เคล่อื นทเี่ ขา มายังบริเวณทมี่ ีความกดอากาศต่ํามวลอากาศทเี่ คล่อื นท่เี ราเรียกวา \"ลม\" จึงกลาวไดวา ลม เกิดจากการเคล่ือนทจ่ี ากบรเิ วณท่มี คี วามกดอากาศสงู ไปยังบริเวณท่มี ีความกดอากาศต่ํา นัน่ เอง โดยการเคล่ือนที่ของลมจะเร็วหรอื ชา ข้นึ อยกู ับความแตกตา งของความกดอากาศ สูงและความกดอากาศต่าํ ถามคี วามแตกตางกนั น อยลมท่ีเกิดข้ึนจะเป็นลมเอ่ือย และถามีความแตกตา งกนั มากจะกลายเป็นพายุได ดงั นัน้ การเกิดลม เป็นปรากฏการณทีอ่ ากาศรอ นลอยตัวสูงข้นึ และอากาศเย็นเคล่อื นทเี่ ขา มาแทนที่ นอกจากนัน้ การหมุนเวยี นของลมบนโลกเป็นกลไกในการชว ยกระจายพลังงานความรอน จากดวงอาทิตย ใหเ ฉลย่ี ทวั่ ถึงโลก และชวยพัดพาเอาความชุมช้นื จากพ้นื น้ํามาสพู ้นื ดิน ดว ยขอสงั เกต เราพบวาการเคล่ือนที่ของอากาศมี 2 ชนิด ดวยกนั คือ 1.ถา เคล่อื นท่ขี นานไปกับผวิ โลกเราเรยี กวา \"ลม\" (Wind) 2.ถา เคล่ือนที่ในแนวดิง่ เราเรียกวา \"กระแสอากาศ\" (Air current)
ลมทะเล ในเวลากลางวันพ้นื ดนิ รับความรอนไดเร็วกวา พ้ืนน้ํา ทําให อากาศเหนือพ้นื ดนิ มอี ุณหภมู ิสูงกวา อากาศเหนือพ้ืนน้ํา อากาศ เหนือพ้นื น้ําหรืออากาศเหนือพ้นื น้ํา มีความกดอากาศสูงกวา อากาศ เหนือพ้นื ดนิ เป็นผลใหอ ากาศเหนือพ้ืนน้ํามีความกด อากาศสงู กวา เคล่อื น ทีเ่ ขา เขาหา บรเิ วณพ้ืนดนิ ท่ีมคี วามกด อากาศต่ํากวา หรือเกิดลมพัดจากทะเลเขา หาฝั่งในเวลากลางวัน ลมบก ในเวลากลางคืนพ้นื ดนิ คลายไดเ ร็วกวา พ้ืนน้ํา ทาํ ใหอากาศเหนือ พ้ืนดนิ มอี ณุ หภูมิต่าํ กวาอากาศเหนือ พ้ืนน้ํา หรืออากาศเหนือพ้นื ดินมีความกดอากาศสูงกวา อากาศเหนือพ้ืนน้ํา เป็นผลใหอ ากาศ เหนือพ้นื ดนิ ทมี่ ี ความกดอากาศสงู กวา เคล่ือนทเ่ี ขา หาพ้ืนน้ําทีม่ ี ความกดอากาศต่ํากวา หรือเกิดลมพดั จากบกออกสฝู ั่งทะเลใน เวลากลางคืน
ประโยชน ของลม 1. ชว ยใหอากาศตามสถานท่ีตางๆมกี ารถา ยเท ไหลเวียน ไมอ ับช้ืน 2. ชวยใหเหง่ือระเหยเรว็ ข้นึ เราจึงรสู ึกเย็นสบาย 3. ชวยใหน ้ําระเหยกลายเป็นไอไดเร็วเส้อื ผา ท่ตี ากจะแหง เรว็ 4. ชว ยหมุนกงั หันลมเพ่ือฉดุ ระหัดวิดน้ําในนาเกลอื และเพ่อื ผลติ กระแสไฟฟ า 5. ชว ยใหส่งิ ของตางๆลอยอยบู นทองฟ า เชน วาว เคร่อื งรอ น 6. ชว ยพดั พาความช้นื จากแหลงตางๆเขา มาทาํ ใหเกดิ ฝนตก โทษของลม 1.ทาํ ใหบ านเรอื นและทรพั ยส นิ ตางๆเกดิ ความเสียหาย 2.ทาํ ใหเกิดฝนตกหนักจนอาจเกิดน้ําทว มได
ผลิตไฟฟาจาก กังหนั ลม เทคโนโลยีกังหนั ลมกังหนั ลม เป็นอุปกรณชนิดหน่ึงที่ใชส กดั พลงั งานจลนของกระแสลม และเปลี่ยนใหเป็นพลงั งานกล จากนัน้ จงึ นําพลังงานกลมาใชป ระโยชน เม่อื กระแสลมพัดผาน ใบกงั หันจะเกดิ การ ถา ยทอดพลังงานจลนไปสใู บกังหัน ทําใหกงั หันหมุนรอบแกน สามารถนําพลงั งานจากการ หมนุ นี้ไปใชงานได ชนิ ดของกังหันลม จาํ แนกตามลกั ษณะแนวแกนหมุนของกังหนั จะได 2 แบบ คือ กังหนั ลมแบบแกนแนวตัง้ (Vertical Axis Wind Turbine) เป็นกงั หันลมทม่ี ีแกนหมนุ และ ใบพัดตงั้ ฉนากกับการเคล่ือนท่ขี องลในแนวราบ ซ่งึ ทําใหสามารถรบั ลมในแนวราบไดทกุ ทศิ ทาง กังหันลมแบบแกนแนวนอน (Horizontal Axis Wind Turbine) เป็นกงั หันลมทม่ี ีแกนหมนุ ขนานกบั ทศิ ทางลม โดยมใี บพกั เป็นตวั ตัง้ ฉากรับแรงลม มอี ุปกรณควบคมุ กังหนั ใหห ันไป ตามทศิ ทางของกระแสลม เรียกวา หางเสือ และมอี ปุ กรณป องกันกังหันลมชาํ รดุ หรอื เสีย หายขณะเกดิ ลมพดั แรง เชน ลมพายุ
ผลิตไฟฟา ไดอ้ ยา่ งไร กังหันลมผลติ ไฟฟ าไดอ ยางไร หลกั การทํางานทัว่ ไปของกังหันลมผลิตไฟฟ า เม่ือมีกระแสลมพดั มาปะทะกบั ใบพัดของ กังหันลม กังหนั ลมจะทาํ หน าทเี่ ปลี่ยนพลงั งานลมที่อยูในรูปแบบของพลังงานจลนไป เป็นพลังงานกล ใบพดั เกิดการหมุนแรงจากการหมุนของใบพดั นี้จะถกู สงผา นเพลาแกน หมนุ ทําใหเฟืองขบั เคล่ือนหรอื เฟืองเกียร ท่ตี ิดอยูกบั เพลาแกนหมุนๆ ตามไปดว ย เม่ือ เฟืองขบั เคล่อื นของกังหนั ลมเกดิ การหมนุ จะขบั เคล่อื นใหเพลาแกนหมนุ ที่ตอ เช่อื มอยู กับเคร่อื งกาํ เนินไฟฟ าออกมา ปรมิ าณไฟฟ าท่ีผลิตไดจะข้นึ อยกู บั ความเรว็ ของลม ความ ยายของใบพัด และสถานที่ท่ีติดตัง้ กงั หนั ลม กงั หันลมผลติ ไฟฟ า กฟผ.ไดนํากังหนั ลมสําหรับใชผ ลติ ไฟฟ าติดตัง้ อยูทบี่ ริเวณแหลมพรหมเทพ จงั หวดั ภเู กต็ ใชเป็นสถานท่ีทดลองการผลติ ไฟฟ าจากกงั หนั ลม มาตัง้ แตป ี พ.ศ.2526 โดยใช ช่ือวา “สถานีพลังงานทดแทนพรหมเทพ” ตัง้ อยทู ศิ เหนือของแหลมพรหมเทพประมาณ 1 กิโลเมตร ซ่ึงจุดดงั กลา วเป็นจดุ ที่ตดิ กบั ทะเล เป็นพ้นื ทีส่ ูง ไดรับอิทธิพลจากลมมรสมุ ถึง 2 ชว ง คอื ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ มาจากทะเลอนั ดามัน และลมมรสุมตะวัน ตกเฉียงใต เป็นตําแหนงทรี่ ับลมไดเกอื บตลอดทงั้ ปี มีความเรว็ ลมเฉล่ยี ตลอดปีประมาณ 5 เมตร ตอวนิ าที
อ่านจบแลว้ อยา่ ลมื ทําแบบฝกหดั และขอ้ สอบนะคะ ครูกกิ เปนกาํ ลังใจใหค้ ะ่ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ พื น ฐ า น ร ะ ดั บ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ต อ น ต้ น
\"อสิ รภาพคือโอกาส ในการพัฒนาตวั เอง\" - อั ล แ บ ร ต์ ก า มู ส์ -
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: