กาพย์เห่เรือ ตอน เห่ชมเรือ โดยนางสาวอัญชลี สว่างเพชร
ก คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเื่อการศึกษา รหัสวิชา 1001204 เพื่อให้ได้ ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง กาพย์เห่เรือ ตอน เห่ชมเรือ โดยได้ศึกษาผ่านแหล่ง ความรู้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่องย่อของกาพย์เห่เรือ คำประพันธ์ และการถอดคำประพันธ์ ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้จะมี ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษากาพย์เห่เรือ ตอน เห่ชมเรือเป็นอย่างดี นางสาวอัญชลี สว่างเพชร
สารบัญ ข เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข เรื่องย่อ 1 คำประพันธ์และการถอดความคำประพันธ์ 2 บรรณานุกรม ค
1 เรื่องย่อ บทเห่ชมพยุหยาตราทางชลมารคเรียงลำกับจากบทชมกระบวนเรือใน กระบวนพยุหยาตราซึ่งออกเดินทางในยามเช้า เนื้อหาของบทเห่ชมกระบวน เรือในบทเริ่มต้นนั้น เน้นพรรณนารูปลักษณ์สวยงามแปลกตาและลักษณะ พิเศษของเรือพระที่นั่งและเรือลำต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวน ซึ่งเรือในกระบวน พยุหยาตราทางชลมารค ประกอบด้วยเรือพระที่นั่งกิ่ง และเรือที่มีโขนเรือ เป็นรูปสัตว์ คือ เรือชัย เรือนาควาสุกรี เรือเลียงผา เรือศรีสุพรรณหงส์ เรือครุฑจับนาค เรือไกรสรมุข เรือคชสีห์ เรือราชสีห์ เรือม้า เรือมังกร เรือ สิงห์ เรืออินทรี และยังกล่าวถึงความสามัคคีพรักพร้อมของคนพายที่ร่วม กระบวน เพื่อให่ผู้อ่านเห็นภาพโดยรวมของกระบวนเรือที่งดงามพร้อม เพรียง บทที่นิยมว่าแต่งได้งดงามและเห็นภาพคือบทเรือชมสุวรรณหงส์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นภาพกระบวนเรือที่เคลื่อนที่ไปอย่างมีชีวิตชีวาและ ในตอนท่ายของบทชมความงามของเรือ กวีได้แต่งให้เชื่อมโยงกับบทแห่ชม ปลา
2 ถอดความคำประพันธ์ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพรายทอง ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จทางชลมารค ทรงประทับเรือกิ่งซึ่งพรั่ง พร้อมด้วยกำลังพลทหารห้อมล้อม เป็นขบวน ภาพของเรือต้นงดงาม แวววาวระยิบระยับจากแสงสะท้อนที่มาจากพายสีทอง
3 พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งเเก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน ถอดคำประพันธ์ได้ว่า พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารคได้ประทับบนเรือ ต้นในการเดินทาง ภาพของเรือกิ่งนั้นดูแพรวพราวภาพการพายเรือนั้นก็ดู อ่อนไหว
4 นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง ถอดคำประพันธ์ได้ว่า กระบวนการพยุหยาตรานั้นมากมายแน่นขนัดเต็มท้องน้ำ เรือแต่ละลำ ประดิษฐ์ ตกแต่งโขนเรือเป็นรูปสัตว์นานาชนิด ริ้วกระบวนเรือเคลื่อนมามอง เห็นทิวธงประดับเป็นทิวแถว กระบวนเรือล่องลอยมาเสียงน้ำซัดกระจายเป็น คลื่นฟองเสียงดังไปทั่วท้องน้ำ
5 เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือครุฑ ซึ่งบนเรือนั้นมีพลทหารกำลังพายเรืออย่างเป็นจังหวะพร้อมกับ เปล่งเสียงโห่ร้อง
6 สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือสรมุข ลอยมาเปรียบความสวยงามดั่งพิมานบนสวรรค์ที่กำลังเคลื่อนที่ ผ่านหมู่เมฆ เรือสรมุขตกแต่งไปด้วยม่านสีทอง หลังคาสีแดงมีลวดลาย มังกรประดับอยู่
7 สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือสมรรถชัยลอยเคียงคู่กันไป แสงแวววับที่กราบเรือส่องสะท้อน กระทบบนผืนน้ำระยิบระยับตา สวยงามราวกับล่องลอยมาจากสรววค์
8 สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือสุวรรณหงส์ เป็นเรือพระที่นั่งที่มีโขนเรือเป็นรูปพญาหงส์ ตกแต่งด้วยพู่ ห้อยประดับ เหมือนพระพรหมทรงหงส์เป็นพาหนะ เคลื่อนไปอย่างงดงามน่า ชมที่สุด
9 เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือไชยแล่นด้วยความเร็วดั่งลม มีเสียงเศร้าคอยให้จังหวะท้ายเรือให้แล่น เคียงคู่กันไปกับเรือพระที่นั่งลำอื่น
10 คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือคชสีห์ที่กำลังแล่นอยู่ ดูแล้วชวนขบขัน ส่วนเรือราชสีห์ที่แล่นเคียงกันมาดู มั่นคงแข็งแรง
11 เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือม้า มีหัวเรือเป็นรูปศีรษะของม้า มีท่าทางมองมุ่งลงไปในน้ำ เรือมีลักษณะเรียว ล่องลอยมาอย่างช้าๆ งดงามราวกับม้าทรงของพระพาย ที่มีพละกำลังเผ่นโผนมาอย่างลำพอง
12 เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือสิงห์ ดูเหมือนกับว่ากำลังจะกระโจนลงสู่แม่น้ำและมีความลำพองใจนั้นก็ แล่นเป็นแถวตามๆกันมา
13 นาคาหน้าดังเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน มังกรถอนพายพัน ทันแข่งหน้าวาสุกรี ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือนาคา หรือเรือวาสุกรี โขนเรือเป็นรูปพญานาคมองดูแล้วเหมือนมี ชีวิตจริง ท่าเหมือนมองเขม้น ดูน่าตลก เรือมังกร โขนเรือเป็นรูปมังกร ล่องมาในขบวน พลพายพายเรืออย่างพร้อมเพรียง เรือล่องมาทันพร้อมกัน สิงห์ลำพอง ขบวนเรือล่องตามกันเป็นแถวเป็นแนว
14 เลียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เรือเลียงผา นั้นทำท่าเหมือนกับกำลังจะกระโจนลงแม่น้ำ ส่วนเรืออินทรี ก็มี ปีกที่เหมือนกับกำลังจะลอยไปในอากาศ
15 ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล ถอดคำประพันธ์ได้ว่า เสียงประโคมดนตรีดังก้อง เสียงไพร่หลแซ่ซ้องแห่ด้วยความโสมนัสยินดี
16 กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี ถอดคำประพันธ์ได้ว่า การเคลื่อนขบวนออกจากนั้นดูเข้มแข็งเป็นภาพที่ทำให้ชื่นอกชื่นใจมองดู เหมือนฝูงปลาที่มีมากมายในสายน้ำ
ค บรรณานุกรม Dr. Bualak Petchngam. กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://np.thai.ac/.pdf. (วันที่ค้น ข้อมูล : 30 สิงหาคม 2565)
ขอบคุณค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: