ประเภทของการขนส่ง

1. การขนสง่ ทางบก (Road or Motor Transportation) 2.การขนสง่ ทางน้า (Water Transportation) 3.การขนสง่ ทางอากาศ (Air Transportation) 4. การขนสง่ ระบบคอนเทนเนอร์ (Container System) 5. การขนสง่ ทางท่อ (Pipeline Transportation)

จาแนกเป็ น 2 ประเภท การขนสง่ ทางรถไฟ (Railroads) เป็ นเสน้ ทางการลาเลยี งท่ีสาคญั ที่สดุ ของประเทศ เหมาะสาหรบั การขนสง่ สนิ คา้ หนกั ๆ ปริมาณมากและในระยะทางไกล รวดเร็ว อตั ราค่าบริการไมแ่ พง และขนสง่ สินคา้ ไดจ้ านวนมากหลายชนดิ ทนั ตาม กาหนดเวลาที่ตอ้ งการ แตค่ วามยดื หยนุ่ มนี อ้ ย เพราะมเี สน้ ทางตายตวั

การขนสง่ ทางรถยนต์ (Motor Transportation) หรอื รถบรรทกุ (Truck Transportation) เป็ นทน่ี ยิ มในปัจจบุ นั เหมาะสาหรบั ของขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ ซ่ึงสะดวก รวดเร็วขนสง่ สนิ คา้ ไดต้ ลอดเวลาตามความตอ้ งการ ของลกู คา้ เหมาะกบั การขนสง่ ระยะสน้ั และระยะกลาง แตค่ า่ ขนสง่ สงู เม่ือเทียบ กบั การขนสง่ ทางรถไฟ มคี วามปลอดภยั ตา่ เกิดอบุ ตั เิ หตบุ ่อย กาหนดเวลา แนน่ อนไมไ่ ด้ ขน้ึ อยกู่ บั สภาพการจราจรและดนิ ฟ้ าอากาศ

การขนสง่ ทางน้า คือ การขนสง่ โดยการใชแ้ มน่ า้ ลาคลอง เสน้ ทางทางทะเลเป็ นเสน้ ทางลาเลียงสินคา้ สว่ นใหญใ่ ชส้ าหรับการขนสง่ สินคา้ ระหวา่ งประเทศ เหมาะกบั สินคา้ ท่ีมขี นาดใหญ่ ขนสง่ ไดป้ ริมาณมาก เป็ นสินคา้ ท่ียากแกก่ ารเสียหาย เชน่ ทราย แร่ ขา้ วเปลอื ก เครื่องจกั ร ยางพารา เป็ นตน้ อตั ราคา่ ขนสง่ ถกู กวา่ เมอื่ เทยี บกบั การขนสง่ ทางอน่ื

การขนสง่ ทางอากาศ เหมาะกบั การขนสง่ ระหวา่ งประเทศ หรือ การขนสง่ ท่ตี อ้ งการความรวดเร็ว สะดวกและปลอดภยั เหมาะกบั การขนสง่ สนิ คา้ ประเภททเ่ี ปราะบาง เชน่ ผกั ผลไม้ เป็ นตน้ ไมเ่ หมาะกบั สนิ คา้ ท่มี ขี นาด ใหญ่ นา้ หนกั มากและสินคา้ ราคาถกู ๆ ไมร่ ีบรอ้ นในการขนสง่ แตค่ ่าใชจ้ า่ ย แพงกวา่ การขนสง่ ประเภทอื่น

การขนสง่ ระบบคอนเทนเนอร์ เป็ นการขนสง่ โดยบรรจสุ นิ คา้ ทจ่ี ะ ขนสง่ ลงในตหู้ รือกลอ่ งเหล็กขนาดใหญ่ แลว้ ทาการขนสง่ โดยรถบรรทกุ รถไฟ หรือเครื่องบิน ไปยงั จดุ หมายปลายทางโดยไมม่ กี ารขนถ่ายสนิ คา้ ออก จากตรู้ ะหวา่ งทาการขนสง่ เท่ยี วนนั้ ซ่ึงตคู้ อนเทนเนอรท์ นทานตอ่ สภาพลม ฟ้ าอากาศ สามารถวางไวก้ ลางแจง้ ตคู้ อนเทนเนอร์ จึงสามารถป้ องกนั สินคา้ ชารดุ เสยี หายไดเ้ ป็ นอยา่ งดี

การขนสง่ ทางท่อ (Pipeline Transportation)เป็ นการขนสง่ สงิ่ ของ ประเภทของเหลวและกา๊ ซผา่ นสายทอ่ เชน่ นา้ ประปา นา้ มนั กา๊ ซธรรมชาติ เป็ นตน้ อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการขนสง่ ไมต่ อ้ งเคลอ่ื นที่ เสน้ ทางขนสง่ อาจจะอยบู่ น ดนิ ใตด้ นิ หรือใตน้ า้ ทาใหป้ ระหยดั ตน้ ทนุ เวลาในการขนยา้ ยสินคา้ และมคี วาม ปลอดภยั สงู จากการสญู หายหรือลกั ขโมย ค่าใชจ้ า่ ยในการลงทนุ คร้ังแรกสงู ไมเ่ หมาะกบั การขนสง่ ในภมู ปิ ระเทศท่มี แี ผน่ ดนิ ไหวบอ่ ย

1.1 ชว่ ยใหต้ ลาดสนิ คา้ ขยายขอบเขตออกไปกวา้ งขวางขน้ึ สามารถสง่ สินคา้ ไป จาหนา่ ยไกลๆได้ 1.2 สามารถเพิ่มมลู คา่ ของสนิ คา้ ได้ เพราะถา้ สง่ สนิ คา้ ไปยงั ที่ที่สนิ คา้ ดงั กลา่ ว ปริมาณนอ้ ยคนตอ้ งการย่อมทาใหส้ ินคา้ มีราคาแพงขน้ึ 1.3 ทาใหเ้ กิดการแบง่ งานกนั ทา 1.4 ทาใหไ้ มเ่ กดิ การกกั ตนุ สนิ คา้ เพราะการขนสง่ มไิ ดต้ ลอดเวลาใชเ้ วลาไมน่ านใน การขนสง่ แตล่ ะครง้ั 1.5 ทาใหป้ ระชาชนเดนิ ทางไปยงั สถานที่ตา่ งๆไดส้ ะดวก 1.6 ทาใหป้ ระชาชนมีงานทา เพราะการขนสง่ ตอ้ งใชแ้ รงงานระดบั ตา่ งๆจานวน มากจึงทาใหเ้ กิดอาชพี เก่ยี วกบั ขนสง่ และอาชพี ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง