ข้ันตอนท่ี 12 จำ� นวนครูทีต่ อ้ งการ จำ� นวนครทู ต่ี อ้ งการนน้ั สามารถหาไดจ้ ากจำ� นวนของชน้ั เรยี น (กลมุ่ ) โดยใชอ้ ตั ราสว่ นครตู อ่ ชนั้ เรยี น ซงึ่ เปน็ แนวทางทีน่ ิยมใชส้ ำ� หรับระดบั ประถมศกึ ษา ในแบบจ�ำลองที่จะน�ำเสนอนีเ้ ปน็ การค�ำนวณความต้องการครูเป็นรายวชิ า เพอื่ ใหส้ ามารถวางแผนความต้องการครูวชิ าตา่ ง ๆ ตามการเปล่ยี นแปลงหลกั สูตรได้ ขอ้ มูลทีม่ คี ือ • จ�ำนวนชั้นเรียนส�ำหรบั ช่วงเวลาทต่ี ้องคาดคะเน • ตารางสอนแยกตามวชิ า และระดบั ชั้น ขั้นตอนการประมาณ คือ • คาดคะเนตารางสอนของแต่ละช้นั ปตี ามวันทีเ่ รมิ่ ใชห้ ลักสูตรใหม่ • ประมาณการจ�ำนวนชวั่ โมงสอนทตี่ ้องการ • คาดคะเนคา่ เฉลยี่ ของชวั่ โมงทำ� งานของครู ในแบบฝกึ หัดนี้ คาดวา่ จะใช้หลกั สตู รใหม่เพมิ่ ขึน้ เร่อื ย ๆ จากปี ค.ศ. 2014 ถงึ 2016หน้าจอท่ี 34 การเตรยี มตารางความต้องการครจู ากจ�ำนวนชั้นปี และตารางสอน จำ� นวนคาบสำ� หรบั แต่ละวชิ า (รวม 3 ปตี ่อระดบั ) คำ� นวณไดโ้ ดยการคณู จ�ำนวนช้ันเรยี นด้วยจำ� นวนชั่วโมงทกี่ ำ� หนดไว้ส�ำหรบั วิชาน้นั ๆ ในแตล่ ะชั้นปีตามลำ� ดบั และบวกผลลัพธเ์ ข้าด้วยกัน ขอ้ ควรระวงั เปลย่ี นการเชื่อมโยง (link) กบั ตารางสอนตัง้ แต่ ค.ศ. 2014 เปน็ ต้นไป เม่ือเรม่ิ ใชห้ ลกั สูตรใหมเ่ พ่ิมขึน้ปีละช้นั จนถึง ค.ศ. 2016หน้าจอที่ 35 การคำ� นวณจำ� นวนชัว่ โมงการสอนทตี่ อ้ งการจากตารางสอน 48
ต่อไปคอื วธิ ีคำ� นวณจำ� นวนชว่ั โมงสอนทจี่ �ำเป็นส�ำหรบั วชิ าคณิตศาสตรใ์ นปี ค.ศ. 2008 กรอกสูตร =C$58*$E92+C$59*$E93+C$60*$E94 ลงในเซลล์ C102 คดั ลอกสตู รนี้ไปใช้กับปีตอ่ ๆ ไปจนถึง ค.ศ. 2013 เท่าน้ัน เพราะจะมกี ารเปล่ยี นหลักสูตรในชน้ั ม. 1 ใน ค.ศ. 2014 การค�ำนวณช่ัวโมงสอนวิชาอ่ืน ๆ ใช้วิธีการเดียวกันน้ีตลอดช่วงท่ีมีการคาดคะเน ยกเว้นระยะการเปลี่ยนหลักสูตรจาก ค.ศ. 2014 ถงึ 2016 เมอื่ คำ� นวณช่ัวโมงสอนไดแ้ ลว้ จงึ คำ� นวณจำ� นวนครูทีต่ ้องการจากตารางสอน ขอ้ มลู ในเซลล์ F111 ระบวุ า่ ครูมภี าระงานสอน 18 ช่วั โมง จ�ำนวนครทู ีต่ อ้ งการคอื จำ� นวนชั่วโมงสอนท่ีต้องการ หารด้วยภาระงานสอนของครูหน้าจอที่ 36 การคาดคะเนจ�ำนวนครทู ี่ต้องการจากตารางสอน กรอกจ�ำนวนครคู ณิตศาสตร์ท่ีบรรจจุ รงิ ของ ค.ศ. 2008 ถึง ค.ศ. 2010 ลงในเซลล์ C133 ถึง 139 และกรอกขอ้ มลูของวชิ าอนื่ ๆ ลงในแถวและเซลลท์ ีส่ อดคลอ้ งกนั ใหถ้ ูกตอ้ งหน้าจอท่ี 37 จ�ำนวนครูทตี่ อ้ งการจรงิ ในแถวท่ี 124 ถงึ 130 ของคอลมั นป์ ฐี าน หารจำ� นวนครทู ต่ี อ้ งการจรงิ ดว้ ยจำ� นวนครทู ตี่ อ้ งการตามตารางสอน ผลลพั ธ์คอื อตั ราส่วนของจำ� นวนจรงิ ต่อจำ� นวนท่คี วรจะเป็นส�ำหรบั ค.ศ. 2008 ถึง 2010 49
หน้าจอท่ี 38 อตั ราสว่ นจำ� นวนครูท่ีบรรจจุ รงิ ต่อจำ� นวนครูท่ตี ้องการตามตารางสอน ในการคำ� นวณจำ� นวนครูทีต่ อ้ งการจริงสำ� หรบั ปที ค่ี าดคะเนนน้ั ตอ้ งก�ำหนดข้อสมมติพ้ืนฐานว่าอัตราสว่ นในอนาคตจะเป็นเทา่ ไร และต้องประมาณค่าในชว่ งเชิงเสน้ (linear interpolation) สำ� หรับแบบฝกึ หัดน้ี ให้ใชค้ า่ 1.30 ส�ำหรบั ปีเปา้ หมาย ในเซลล์ F133 ใช้สูตร =F115*F124 (คือ จ�ำนวนครูทีต่ อ้ งการตามตารางสอน คูณด้วย อัตราสว่ นจำ� นวนครทู บี่ รรจุจรงิ ต่อจ�ำนวนครทู คี่ วรจะเปน็ สำ� หรับวชิ าคณติ ศาสตร์ใน ค.ศ. 2011) อยา่ งไรก็ดี อาจจะมีบางปกี ารศึกษาทม่ี ีจำ� นวนครทู ี่ตอ้ งการนอ้ ยลง คอื ตำ่� กวา่ จำ� นวณครทู มี่ อี ยจู่ รงิ เพราะวา่ ครทู บี่ รรจแุ ลว้ ยงั คงอยใู่ นระบบ ดงั นน้ั จะตอ้ งใชส้ ตู ร Max เหมอื นกบั ท่ีใช้ค�ำนวณจำ� นวนหอ้ งเรียนท่ไี ด้ฝกึ ไปแลว้ นอกจากนยี้ งั ต้องคำ� นงึ ถงึ อตั ราการลดลงของจ�ำนวนครู ในเซลล์ C84 กรอกคา่ 2.5% และกรอกหวั ขอ้ ว่า อตั ราการลดลง ไว้ในเซลล์ A84 กรอกสตู ร =MAX(E133*(1-$C$84);F115*F124) ลงในเซลล์ F133 หากผลการคำ� นวณแสดงวา่ ตอ้ งการครเู พม่ิ ขนึ้ แบบจำ� ลองนจี้ ะใชส้ ตู รสว่ นหลงั คอื (F115*F124) มาคำ� นวณ แตห่ ากจำ� นวนครลู ดลง หรอื ไมม่ คี รเู ขา้ ใหม่ แบบจำ� ลองนจี้ ะคำ� นวณจำ� นวนครขู องปที ผี่ า่ นมา (E133*(1-$C$84)) ดว้ ยอตั ราการลดลงของครู เพ่อื หาว่ามีครูออกไปกี่คน ผลคำ� นวณทีไ่ ดค้ ือคา่ ประมาณของจำ� นวนครทู ่ตี ้องการตามรายวชิ า จากนนั้ ใช้ฟงั ก์ชั่นค�ำนวณผลรวมอัตโนมตั ิ เพ่ือหาจ�ำนวนครทู ้งั หมดท่ีต้องการหนา้ จอที่ 39 การคาดคะเนจ�ำนวนครูท่ีตอ้ งการจริง หากจ�ำเป็นต้องประมาณว่าจะต้องสรรหาจ้างครูเพ่ิมอีกปีละก่ีคนในระยะเวลาท่ีต้องคาดคะเนน้ัน ให้ค�ำนวณส่วนต่างระหว่างจ�ำนวนครูท่ีต้องการของสองปี และบวกด้วยจ�ำนวนครูท่ีเข้ามาทดแทนครูท่ีออกไปโดยใช้อัตราการลดจ�ำนวนลง (attrition rate)ทใ่ี หไ้ ว้แล้ว 50
เช่นสำ� หรบั วิชาคณติ ศาสตร์ใน ค.ศ. 2011 ใหก้ รอกสตู รต่อไปนี้ลงในเซลล์ F142 = (F133-E133)+(E133*$C$84)หนา้ จอท่ี 40 การคาดคะเนจำ� นวนครทู ่ตี อ้ งรับเพม่ิข้นั ตอนที่ 13 ทรัพยากรอื่น ๆ บุคลากรฝ่ายสนบั สนนุ และ หนงั สอื เรยี นในโรงเรียนรัฐบาล ในแบบฝึกหัดนี้ จำ� นวนบคุ ลากรฝา่ ยสนบั สนนุ จะสมั พนั ธก์ ับจ�ำนวนนักเรยี นและหนังสือเรยี น หลังจากที่ได้ค�ำนวณค่าและอัตราต่าง ๆ ดังที่ผ่านมาแล้ว จะสามารถคาดคะเนความต้องการทรัพยากรได้ โดยใช้ข้อมูลดงั ตอ่ ไปนใี้ นการคำ� นวณหน้าจอที่ 41 บคุ ลากรฝา่ ยสนับสนนุ มีขอ้ สมมตพิ ื้นฐานวา่ อัตราส่วนคอื บุคลากรฝ่ายสนบั สนนุ 1 คน ดแู ลนกั เรยี น 125 คน ใน ค.ศ. 2021หน้าจอที่ 42 หนังสอื เรียน ข้อสมมติพ้นื ฐาน คือ นกั เรียน 1 คนต่อหนังสอื เรียน 4 เลม่ ใน ค.ศ. 2021 การค�ำนวณทรัพยากรอ่นื ๆ ใชว้ ิธีการเดียวกันนี้ (เชน่ สนามเดก็ เล่น หรอื อุปกรณอ์ ่ืน ๆ ท่ีตอ้ งใช้ในโรงเรยี น) โดยตอ้ งระบตุ ัวแปรลงในแบบจำ� ลอง (ชน้ั เรียน การเข้าเรยี น โรงเรยี น หรอื จ�ำนวนครู เปน็ ต้น) เพอื่ ที่จะไดเ้ ชื่อมขอ้ มูลเข้ากับทรพั ยากรสำ� หรับการคำ� นวณหาอตั ราส่วน และการคาดคะเน 51
52
บทท่ี 4การคาดคะเนความต้องการด้านการเงิน และกรอบเศรษฐกิจมหภาค(Projection of financial requirements, macro-economic framework) บทท่ี 4 หลังจากท่ีได้ประมาณความต้องการด้านบุคลากร วัสดุ และทรัพยากรกายภาพอ่ืน ๆ ส�ำหรับ ชว่ งเวลาการคาดคะเนตามภาพอนาคตเรียบรอ้ ยแลว้ ข้นั ตอนสุดท้ายของแบบจำ� ลองสถานการณ์น้ีคอื การคำ� นวณความต้องการงบประมาณการศกึ ษาด้วยกรอบเศรษฐกิจมหภาค และคำ� นวณหาจำ� นวนเงิน สนับสนนุ ที่ยังขาดอยู่วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือเสนอข้ันตอนการคาดคะเนทรัพยากรการเงิน และการจ�ำลองสถานการณ์ด้วยคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะท่ีใช้โปรแกรมการคำ� นวณของ Excelเนอ้ื หา • การเตรยี มการคำ� นวณ • การคาดคะเนต้นทนุ ต่าง ๆ สำ� หรบั ปจั จยั นำ� เข้าท่ีตอ้ งการท้ังหมด ทงั้ ด้านทรัพยากรบคุ คลและ ทรพั ยากรกายภาพ • การคาดคะเนกรอบเศรษฐกิจมหภาค และ ทรัพยากรการเงินผลการเรียนรู้ เมอ่ื เรยี นจบบทที่ 4 แลว้ ผเู้ รยี นควรสามารถ • เลือกข้อมลู พืน้ ฐานท่จี ำ� เปน็ ตอ่ การคาดคะเนความต้องการทรพั ยากรการเงิน กรอบเศรษฐกิจ มหภาค และสร้างไฟล์งาน Excel ท่ีใช้ขอ้ มลู ดังกลา่ วได้ • เขยี นสูตรคำ� นวณและใชฟ้ งั กช์ นั่ ที่จำ� เป็นเพ่อื คำ� นวณการคาดคะเนดังกล่าวได้ • สรา้ งและใชแ้ บบจำ� ลองภาพอนาคตตา่ ง ๆ ทใี่ ชข้ อ้ สมมตพิ น้ื ฐานเรอื่ งสภาวะการเงนิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ได้กรอบเวลา • บทนเ้ี รมิ่ เรยี นวันที่ ... ถึงวันท่ี ... 53
กจิ กรรมกล่มุ ผู้เรยี นควรเร่มิ อา่ นบทท่ี 4 ต้ังแต่วนั ท่ี ... • เตรยี มกิจกรรมกลุม่ ดว้ ยตนเอง โดยคาดคะเนกรอบเศรษฐกจิ มหภาค และกรอบการเงนิ ด้วย โปรแกรม Excel และใช้วธิ ที ีเ่ รยี นในบทน้ี • ประชุมกับเพอ่ื นร่วมกลุม่ เรว็ ที่สุดเพ่อื อภปิ รายและเตรยี มคำ� ตอบของกลุม่ • รว่ มในการอภปิ รายในฟอรัมตอ่ ไป ผูป้ ระสานงานกลมุ่ ควรส่งงานกลุ่มไปยงั IIEP ทางระบบฟอรม์ อเี ลริ น์ นงิ ภายในวนั ท่ี ... คณะผสู้ อนท่ีIIEP จะส่งข้อคิดเห็นใหก้ ลุ่มไดท้ ราบภายในสัปดาห์ถดั ไป 54
ตอนที่ 1 กรอบเศรษฐกิจมหภาค(Macro-economic framework) กรอบเศรษฐกิจมหภาคเปน็ วิสัยทัศนแ์ บบยอ่ สำ� หรบั การจัดหางบประมาณใหส้ าขาย่อย (sub-sector)ตา่ ง ๆ งบประมาณส�ำหรบั สาขายอ่ ยของการศึกษา (เชน่ ระดบั อดุ มศกึ ษาในแผนภาพด้านล่าง) เป็นส่วนหนึง่ของงบประมาณการศกึ ษาทัง้ หมด ซึ่งเปน็ ส่วนหน่งึ ของงบประมาณแผน่ ดนิ งบประมาณแผ่นดนิ มาจากภาษีทเี่ รยี กเกบ็ จากผลประกอบการทางเศรษกจิ ของประเทศรว่ มกับรายไดอ้ นื่ ๆ ของประเทศ ผลประกอบการดา้ นเศรษฐกจิ ในแตล่ ะปคี ือผลิตภัณฑม์ วลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Productivity: GDP) งบประมาณแผน่ ดนิ หรอื งบประมาณภาครฐั ทงั้ หมดนนั้ นำ� ไปสมั พนั ธก์ บั GDP ไดโ้ ดยแสดงอตั ราสว่ นเปน็ รอ้ ยละของ GDP ในทำ� นองเดยี วกนั สามารถแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งงบประมาณการศกึ ษา กบั รายจา่ ยภาครฐั ทงั้ หมดได้ ว่ามีการใช้จ่ายเพือ่ การศกึ ษาเป็นรอ้ ยละเท่าไรของรายจ่ายภาครัฐทง้ั หมด สว่ นงบประมาณของสาขายอ่ ยของการศกึ ษาเป็นส่วนแบง่ ของงบประมาณสาขาการศึกษาท้งั หมดกรอบเศรษฐกจิ มหภาค GDP เศรษฐกิจ ความม่ังคง่ั ของประเทศ แรงกดดนั ทางการคลงั งบประมาณรัฐบาล/ GDP ทรัพยากรสำหรับรัฐบาล รายจา ยภาครัฐท้งั หมด การจัดสรรแกส าขาตาง ๆ การศึกษา/งบประมาณรฐั บาล สาขาการศกึ ษา งบประมาณการศึกษาการจัดสรรแกส าขายอยของการศึกษา สวนของงบประมาณการศกึ ษา สาขายอ ยอดุ มศึกษา เพือ่ การอุดมศกี ษา รายจายดานอดุ มศึกษา กรอบนี้ใช้คาดคะเนงบประมาณการศกึ ษาในอนาคตได้ 55
ขัน้ ตอนที่ 14 การคาดคะเนงบประมาณดา้ นการศึกษาในอนาคต เตรยี มแผน่ งานตามตัวอยา่ งดงั ต่อไปน้ี (ข้อมลู ด้านการเงินมีหน่วยเป็นหลกั ลา้ น)หนา้ จอที่ 43 การเตรยี มกรอบเศรษฐกจิ มหภาค อตั ราสว่ นตา่ ง ๆ สำ� หรบั ค.ศ. 2008 ถึง 2010 แสดงไว้เปน็ ตวั หนา เมอ่ื กำ� หนดการเติบโตทางเศรษฐกจิ ในแตล่ ะปไี ด้แล้ว (ในตวั อยา่ งนคี้ ือ 3%) จะสามารถคาดคะเน GDP ได้โดยใช้ราคาใน ค.ศ. 2010 การเพม่ิ ของ GDP เมือ่ ราคาคงทซี่ ึ่งตดั ผลของภาวะเงนิ เฟอ้ ออกแล้วคือการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ กำ� หนดเป้าหมายของอตั ราสว่ นทั้งสามสำ� หรับ ค.ศ. 2021 ใหเ้ ทา่ กับของ ค.ศ. 2010 • งบประมาณแผน่ ดินเปน็ % ของ GDP (เซลล์ P170=E170) • งบประมาณการศกึ ษาเปน็ % ของงบประมาณแผน่ ดิน (เซลล์ P172-E172) • งบประมาณของระดับมธั ยมศึกษาตอนต้นเปน็ % ของงบประมาณการศึกษาทงั้ หมด (เซลล์ P174=E174) จากน้ันจะสามารถคาดคะเนค่าระหว่างกลางของอัตราส่วนท้ังสาม และ ค�ำนวณ GDP งบประมาณแผ่นดิน งบประมาณการศึกษา และ งบประมาณมัธยมศกึ ษาตอนต้นของแต่ละปไี ด้หนา้ จอท่ี 44 การคาดคะเนกรอบเศรษฐกจิ มหภาค แถวที่ 173 คอื งบประมาณทน่ี ่าจะต้องจดั สรรใหก้ ับการศกึ ษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ตามข้อสมมตพิ ้นื ฐานท่ใี ช้ 56
ตอนที่ 2 การคาดคะเนความต้องการงบประมาณ(Projection of the funding requirements) ข้นั ตอนที่ 15 การคาดคะเนความต้องการงบประมาณ ตารางตอ่ ไปนี้คืองบประมาณการศึกษาระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น (หน่วยเป็นลา้ นบาท)งป. มธั ยมศึกษาตอนตน้ 2008 2009 2010คา่ ตอบแทนบุคลากร 13,886 14,329 14,091รายจา่ ยการบรหิ ารจัดการ 1,969 2,051 2,105เงินอุดหนนุ สถานศกึ ษา 11,402 12,987 14,030หนังสือเรยี น 690 695 702รายจา่ ยลงทนุ 812 1,112 415รวม 28,759 31,174 31,343 งบประมาณหมวดตา่ ง ๆ สามารถคาดคะเนไดต้ ามความตอ้ งการทรพั ยากรนน้ั ๆ ขนั้ ตอนในแบบฝกึ หดัตอ่ ไปนี้ คือ• คาดคะเนเงนิ เดือนทงั้ หมดตามจำ� นวนครู และค่าเฉลี่ยเงนิ เดือน• คาดคะเนรายจา่ ยการบรหิ ารจดั การจากค่าเฉลี่ยต่อนักเรยี นหนง่ึ คน• คาดคะเนเงินอุดหนุนสถานศกึ ษาจากรายจ่ายเฉลย่ี ตอ่ นกั เรียนหนึง่ คน• คาดคะเนรายจ่ายสำ� หรับหนังสอื เรยี นตามราคาหนงั สือต่อเลม่• คาดคะเนรายจา่ ยลงทนุ จากจำ� นวนหอ้ งเรียนท่ีต้องสรา้ งและต้นทุนเฉล่ยี ตอ่ หน่วย การคาดคะเนดังกลา่ วนที้ ัง้ หมดใชว้ ิธเี ชน่ ทีไ่ ด้ฝกึ ฝนไปแล้ว2.1 เงินเดือนครู (Teachers’ salaries) ได้มีการตัดสินใจว่าเงินเดือนโดยเฉล่ียรายปีของครูและบุคลากรฝ่ายสนับสนุนจะต้องสัมพันธ์กับการเตบิ โตของเศรษฐกจิ นนั่ คอื แตล่ ะปเี งนิ เดอื นเฉลย่ี จะเพม่ิ ขน้ึ ไดเ้ ปน็ 25% ของการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ (เซลล์E191) ในข้ันนค้ี วรเตรยี มตารางเพอ่ื ชว่ ยให้ค�ำนวณได้ตามล�ำดับ 57
หนา้ จอท่ี 45 การออกแบบตารางเงนิ เดือน กรอกรายจ่ายเงินเดอื นรวมจากงบประมาณปกี ่อนหนา้ ลงในเซลล์ C187, D187 และ E187 จากนน้ั คัดลอกขอ้ มลูบุคลากร(ดว้ ยการใช้สูตร =) ลงในแถวที่ 188 และ 189 ตลอดระยะการคาดคะเน เน่ืองจากงบประมาณเงินเดอื นไมไ่ ด้จำ� แนกตามประเภทของบุคลากร จงึ ต้องคำ� นวณประมาณการของน้ำ� หนกั เงินเดอื นของบุคลากรทั้งสองกลุม่ ซ่ึงจะเทา่ กับ 0.8 หมายความว่า เงินเดอื นส�ำหรับบุคลากรฝ่ายสนับสนนุ มคี า่ เท่ากบั 0.8เทา่ ของเงนิ เดอื นบคุ ลากรครู 1. คำ� นวณคา่ เฉลย่ี ของเงนิ เดือนท้ังปีของบุคลากรครใู นปกี ่อน ๆ สูตรการค�ำนวณอตั ราเงนิ เดอื นเฉล่ียของครูต่อปี ใน ค.ศ. 2008 คือ = C187*1000000/(C188+C189*$E190) หมายความว่าเงินเดอื นทง้ั หมดใน ค.ศ. 2008 คูณดว้ ย 1,000,000 (งบประมาณมีหน่วยเป็นหลักล้าน แต่เงนิ เดอื นเปน็ หน่วยเชิงเดี่ยว) หารด้วยจ�ำนวนของครแู ละบุคลากรฝ่ายสนบั สนุน โดยตอ้ งแปลงจำ� นวนบุคลากร สนบั สนนุ ด้วยสัมประสิทธิ์ 0.8 ให้เทยี บเทา่ กบั ครกู อ่ น 2. คำ� นวณเงนิ เดอื นเฉลย่ี คาดคะเนรายปี โดยใหแ้ ปรผนั ตามอตั ราการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ (ใชข้ อ้ มลู จากแถว 168) คอื เป็น 25% ของการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ดงั นนั้ ขอ้ มลู ใน ค.ศ. 2011 คือ =E192*(1+F168*$E191) เงินเดอื นบคุ ลากรครจู ะเพม่ิ ขนึ้ จากปกี ่อน 25% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจหน้าจอท่ี 46 การคาดคะเนเงนิ เดอื นครูเฉลย่ี ตอ่ คน 3. หลังจากที่ไดด้ �ำเนินการตามข้นั ตอนครบแลว้ จึงค�ำนวณเงนิ เดอื นคาดคะเนสำ� หรับบุคลากร เช่น สำ� หรับ ค.ศ. 2011 คำ� นวณดว้ ยสตู ร = F192*(F188+F189*$E190)/1000000 58
หนา้ จอท่ี 47 การคาดคะเนงบประมาณเงินเดือน2.2 ต้นทุนการบริหารจัดการ (Administrative costs) งบประมาณหมวดนจ้ี ะคาดคะเนตามตน้ ทนุ เฉลย่ี ตอ่ นกั เรยี นหนงึ่ คน โดยมขี อ้ สมมตพิ น้ื ฐานวา่ ตน้ ทนุ คอื 1,200 บาทต่อนกั เรียนหนึง่ คนใน ค.ศ. 2021 หน้าจอที่ 48 การเตรยี มตารางตน้ ทุนการบริหารจดั การ การคาดคะเนต้นทุนการบริหารจัดการทั้งหมดต้องใช้ต้นทุนต่อหน่วย และจ�ำนวนนักเรียน ผลลัพธ์ที่ได้ควรจะเป็นดังน้ีหน้าจอที่ 49 ตารางการคาดคะเนตน้ ทนุ การบรหิ ารจัดการ ขอให้สังเกตว่างบประมาณมีหน่วยเป็นหลักล้าน ดังน้ันเม่ือคูณต้นทุนต่อหน่วยด้วยจ�ำนวนนักเรียนแล้วจะต้องหารดว้ ย 1,000,0002.3 รายจ่ายเงินอดุ หนุนสถานศกึ ษา (School grants expenditure) งบประมาณหมวดนี้จะคาดคะเนตามความแปรผันของต้นทุนเฉล่ียรายหัวนักเรียน โดยมีข้อสมมติพ้ืนฐานว่าต้นทุนคอื 15,000 ต่อนกั เรียนหนง่ึ คนใน ค.ศ. 2021หน้าจอท่ี 50 การเตรียมตารางต้นทุนเงนิ อดุ หนนุ ของสถานศกึ ษา ตอ่ ไปน้ีคอื ผลลพั ธ์ งบประมาณรวมมหี น่วยเป็นหลักลา้ น 59
หน้าจอที่ 51 ตารางการคาดคะเนเงินอุดหนนุ ของสถานศกึ ษา2.4 รายจา่ ยลงทนุ (Capital expenditures) ในแบบจ�ำลองนี้ สมมตวิ ่าตน้ ทุนตอ่ หนว่ ยสำ� หรบั การกอ่ สรา้ งห้องเรียนมาตรฐานคือ 600,000 และ หอ้ งเรยี นพิเศษคอื 900,000 ค่ากอ่ สรา้ งคือผลคูณของจ�ำนวนห้องเรยี นทตี่ อ้ งสรา้ งเพม่ิ ด้วยต้นทนุ การกอ่ สร้างตอ่ หนว่ ย นอกจากนคี้ วรตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ตน้ ทนุ คา่ ปรบั ปรงุ หอ้ งเรยี น ซง่ึ ไดก้ ำ� หนดไวว้ า่ ตน้ ทนุ การปรบั ปรงุ หอ้ งเรยี นมาตรฐานคอื 60,000 และ 90,000สำ� หรับห้องเรยี นพเิ ศษผลลัพธค์ วรจะเปน็ ดังต่อไปนี้หนา้ จอที่ 52 ตารางตน้ ทุนการก่อสร้าง2.5 รายจ่ายหนังสอื เรยี น (Textbooks expenditures) งบประมาณหมวดน้คี าดคะเนได้จากตน้ ทุนเฉลย่ี ตอ่ หนงั สอื เรยี น คอื 300 ต่อเล่มหนา้ จอท่ี 53 ตารางรายจ่ายหนงั สือเรียน2.6 สรปุ ทรพั ยากรท่ีตอ้ งการ (Recapitulation of the resource requirements) เมอื่ คำ� นวณรายจา่ ยรายการตา่ ง ๆ แลว้ จงึ พอจะสรปุ ทรพั ยากรทต่ี อ้ งใชใ้ นการศกึ ษาได ้ และยงั อาจเปรยี บเทยี บความตอ้ งการงบประมาณกับงบประมาณทค่ี าดคะเนตามกรอบเศรษฐกิจมหภาค (หน้าจอที่ 44 กับงบประมาณที่ควรจดั สรรให)้เพื่อประเมินว่ายังขาดงบประมาณอย่อู ีกเทา่ ไร 60
หนา้ จอท่ี 54 สรปุ ความตอ้ งการงบประมาณ และสว่ นตา่ งงบประมาณเมอ่ื เทยี บกบั กรอบเศรษฐกจิ มหภาค 61
กิจกรรมกล่มุ ครง้ั สุดท้าย ตลอดหนว่ ยการเรียนรูน้ ้ี ผูเ้ รียนไดท้ �ำกจิ กรรมกลุ่มเพ่ือคาดคะเนจ�ำนวนนักเรยี นทเ่ี ข้าเรยี น (บทท่ี 2)ทรพั ยากร (บทที่ 3) และความตอ้ งการทางการเงนิ และกรอบเศรษฐกจิ มหภาค (บทท่ี 4) และผสู้ อนไดว้ พิ ากษ์วิจารณ์และเสนอข้อคิดเห็น รวมท้ังข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรุง ผู้เรียนควรปรับปรุงงานที่ได้ท�ำแล้วให้เสร็จสมบูรณต์ ามขอ้ เสนอแนะจากผู้สอน และคดิ ไตร่ตรองดว้ ยตนเองดว้ ย 62
หนว่ ยการเรียนน้โี ดยยอ่ กิจกรรมต่าง ๆ ตง้ั แตบ่ ทท่ี 2 ถงึ บทท่ี 4 เปน็ การฝึกข้นั ตอนสำ� คญั ของการค�ำนวณจ�ำนวนนกั เรยี นทเี่ ข้าเรียน การคาดคะเนทรัพยากรมนษุ ยแ์ ละการเงนิ และการจ�ำลองสถานการณโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมค�ำนวณ ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทแรกเรื่องการจ�ำลองสถานการณ์ และแบบจ�ำลองสถานการณ์ว่าเคร่ืองมือนี้ไม่ได้พยายามทำ� นายอนาคต แตช่ ว่ ยใหท้ ราบวา่ อาจเกดิ อะไรขนึ้ ไดบ้ า้ งหากมพี ฒั นาการไปในทศิ ทางใดทศิ ทางหนง่ึหรือหากมีการใชม้ าตรการใดมาตรการหน่ึง เคร่อื งมอื เหล่านแ้ี สดงถึงผลที่จะเกดิ ขึ้นจากทางเลอื กตา่ ง ๆ จงึช่วยให้ผู้มีอ�ำนาจหรือมีหน้าท่ีเก่ียวข้องสามารถเลือกทางเลือกท่ีดีท่ีสุดส�ำหรับสถานการณ์ที่มีเงื่อนไขและข้อจำ� กดั ตา่ ง ๆ ได้ ความเทยี่ งตรงของแบบจำ� ลองสถานการณข์ นึ้ อยกู่ บั ความแมน่ ยำ� ของขอ้ มลู ทม่ี สี ำ� หรบั ปฐี านและปกี อ่ นหน้านั้นเป็นอันดับแรก นอกจากน้ันจะข้ึนอยู่กับการสร้างแบบจ�ำลองในเชิงคณิตศาสตร์ (ค�ำนึงถึงตัวแปรทงั้ หมด และปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ ตวั แปรทตี่ อ้ งประมาณหรอื ไม)่ รวมทง้ั ความสมเหตผุ ลของขอ้ สมมตพิ น้ื ฐานทก่ี �ำหนดขน้ึ ดว้ ย เปา้ หมายในทสี่ ดุ คอื การใหข้ อ้ มลู อยา่ งคงเสน้ คงวา และสมั พนั ธก์ นั เปน็ หนงึ่ เดยี ว เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ มู้ อี ำ� นาจตดั สนิ ใจกำ� หนดกลยทุ ธ์ และทางเลอื ก และกระตนุ้ ใหป้ ระชาชนไดร้ ว่ มแสดงความเหน็ ในการนต้ี อ้ งดำ� เนนิ การตามขั้นตอนตอ่ ไปนี้ • ระบตุ วั แปรทส่ี �ำคัญ • วเิ คราะหเ์ ชงิ อธบิ าย (explanatory analysis) แนวโนม้ ววิ ัฒนาการหลกั ก�ำเนดิ ของการ เปล่ยี นแปลง ความเขา้ ใจในกลยทุ ธข์ องผมู้ ีบทบาท • กำ� หนดข้อสมมตพิ ื้นฐานเรื่องตัวแปรหลกั และกลยทุ ธ์ของผมู้ บี ทบาท • เลือกทางเลือกอนาคตที่เปน็ ไปได้ • สรา้ งภาพอนาคต ภาพอนาคตแตล่ ะชดุ ควรตอ้ งมอี งคป์ ระกอบทส่ี มั พนั ธแ์ ละสอดคลอ้ งกนั (ขอ้ สมมตพิ น้ื ฐานสำ� หรบั ระดบัต่าง ๆ ตอ้ งเป็นเหตเุ ปน็ ผลกนั ) ภาพอนาคตทเ่ี สนอตอ้ งตรงประเดน็ และสมจรงิ (สำ� รวจทางเลือกท่สี มเหตุผลและคมุ้ ค่า) ทั้งยังตอ้ งโปร่งใสด้วย (อา่ นงา่ ย และเขา้ ใจงา่ ยสำ� หรบั ผูม้ ีบทบาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) 63
64
Search