Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University 2 URINARY SY STEM I Kidneys ureter urinary bladder urethra รายวชิ าพยาธสิ รรี วทิ ยา(Pathophysiology)ภาคการศกึ ษาที่3ป การศกึ ษา2564คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏนั ครปฐม
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University ธิ a h o ร า ก ก 5 า มท ร ฐ ณ \"ปัสสาวะทปี่ กติ ปรมิ าณ: แตกตา่ งกนั ตามวยั \" - ผูใ้ หญ่ : ครง้ั ละ250-400มลิ ลลิ ติ รหรอื 1.5-2 ลติ รตอ่ วนั สี : แตกตา่ งกนั ตามปรมิ าณสารนํา้ ทรี่ บั เขา้ สรู่ า่ งกาย - นํา้ เขา้ สรู่ า่ งกายมาก: สอี ําพนั อ่อน - นํํา้ เขา้ สรู่ า่ งกายนอ้ ย: สเี หลอื งเขม้ ความใส: ใส ไม่มตี ะกอนขนุ่ กลนิ่ : ปัสสาวะทเี่ พงิ่ ขบั ถา่ ยออกมาจะมกี ลนิ่ ออ่ น ปัสสาวะที่ ใส่ ภาชนะตง้ั ไวน้ านๆ จะมกี ลนิ่ แอมโมเนีย สารในปัสสาวะ: 96%เป็ นนํา้ 2%ยเู รยี และ 2%สารอนื่ pH: ประมาณ4.8-8 เป็ นกรดออ่ นๆ ความ ถว่ งจาํ เพาะ: 1.010- 1.040 3
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University รายวชิ าพยาธสิ รรี วทิ ยา(Pathophysiology)ภาคการศกึ ษาที่3ป การศกึ ษา2564คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยรั าชภฏนั ครปฐม \"ปัสสาวะทผี่ ิิดปก ปรมิ าณปัสสาวะผดิ ปกติ ต\"ิ ปัสสาวะมาก(Polyuria) ==>DI/ DMปััสสาวะนอ้ ย (Oliguria) ==>Oliguria / Anuria การถา่ ยปัสสาวะบอ่ ย(Frequency of urination) : >วนั ละ6ครง้ั การถา่ ยปัสสาวะบ่อยทปี่ รมิ าณปัสสาวะแตล่ ะครง้ั ปกติ การถา่ ยปัสสาวะกะปรบิ กะปรอย : นวิ่ อกั เสบ ตดิ เชอื้ Bilirubinuria Hematuria URINECOLOR ความผดิ ปกตทิ ตี่ บั อายรุ กรรมโรค ไต 4 IMAGE SOURCE: www.urineinfection.net, www.prevention.com, hubpages.com, treat-kidney.blogspot.com, www.georgetownpharmacy.com.my, www.slideshare.net (by MohammadAnas), www.researchgate.net, hubpages.com,shakahariblog.com
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University \"ปัสสาวะทผี่ ดิ ปกต\"ิ การถา่ ยปัสสาวะไม่ออก(Retention of urine) เฉียบพลนั (Acuteretentionofurine) เรอืร้ งั (Chronicretentionofurine) การปัสสาวะรดทนี่ อน(Nocturnalenuresis) การป สสาวะรดทนี่อนในเด็กทอี่ายเุ กนิ 3ขวบ IMAGE SOURCE: https://www.niddk.nih.gov/health-information/urologic-diseases/urinary-retention/definition-facts การถา่ ยปัสสาวะปวด(Painfulurination) IMAGE SOURCE : https://www.uherbalgroup.com/urinary-incontinence/ ปวดตลอดการถ ายป สสาวะ ปวดช วงถ ายป สสาวะสดุ การถา่ ยปัสสาวะลาํ บาก(Difficulty micturition) ใชเ วลาป สสาวะนานมากกว า30วนิ าที การกลน้ั ปัสสาวะไม่อย่(ู Urinary incontinence) กลน้ั ป สสาวะไม อยู โดยสนิ้ เชงิ (Trueincontinence) ป สสาวะเล็ด(Stressincontinence)ป สสาวะราด กลน้ั ไมทนั (Urgencyincontinence) เนอื่งจากป สสาวะล น(Overflow) กลน้ั ป สสาวะไม อยใิู นผู สงู อายุ 5
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University รายวชิ าพยาธสิ รรี วทิ ยา(Pathophysiology)ภาคการศกึ ษาท่ี3ป การศกึ ษา2564คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม ความผดิ ปกตขิ อง ความผดิ ปกตขิ องกลเูมอร ์ glomerulonephritis รลู สั nephroticsyndrome:NS \"ระบบทางเดนิ ปัสสาวะ\" (disorderof glomerulus function) nephrolithiasis Neurogenicbladder การอดุ กนั้ ทางเดนิ ปัสสาวะ cystitis (Urinarytract obstruction) pyelonephritis การตดิ เชอื้ ทางเดนิ ปัสสาวะ (Urinarytract infection: UTI) ภาวะไตวาย Acuterenalfailure:ARF Chronicrenalfailure (Renalfailure) 6
ความผดิ ปกตขิ องกลเู มอรร์ ลู สั (disorder of glomerulus function) ไตอกั เสบ (Glomerulonephritis, GN) ไตอกั เสบเฉียบพลนั (Acute Glomerulonephritis) ,ไตอกั เสบเรอื้รงั (Chronic Glomerulonephritis) Hematuria สาเหต ิุ พยาธวิ ทิ ยา ปัสสาวะเป็ นฟอง บวมนํํา้ ความดนั Streptococcus, เกดิ การทาํ ลายglomerulusหลอดเลอื ดฝอยถกู ทาํ ลาย BacterialEndocarditis, โปรตนี และเม็ดเลอื ดแดงรว่ั ออกมาในปัสสาวะมกี ารสรา้ ง โลหติ สงู Viral Infections ไฟบรนิ ออกมาเกาะที่bowman’scapsuleทําให ้ SLE,Goodpasture’sSyndrome glomerulusบวมและเลอื ดมาเลยี้ งไตลดลงทําใหไ้ ตเสยี Polyarteritis, หนา้ ทกี่ ารกรองและเกดิ โรคไตวาย GranulomatosiswithPolyangiitis โรค ความดนั เลอื ดสงู มะเรง็ nephrotic syndrome: NS สาเหตุ 1.หน่วยไตอกั เสบเรอื้ งรงั อาการและอาการแสดง 2.เกดิ รว่ มกบั โรคอนื่ ๆไดแ้ ก ิ่ บวม,ซดี , ฝี พุพองตามผวิ หนัง, เบอื่ อาหาร,ความดนั โลหติ อาจสูง - โรคSLE,Rheumaticarthritis หรอื ตาิํ ิ่ ได ้ - โรคหลอดเลอื ดแดงหลายหลอดอกั เสบ - โรคตดิ เชอื้ 7 - แบคทเี รยี ปรสติ ไวรสั - เนือ้ งอกของตอ่ มนํา้ เหลอื ง
การอดุ กน้ั ทางเดนิ ปัสสาวะ(Urinary tract obstruction) นวิ่ในไต (Kidney stone, nephrolithiasis) สาเหตุ ปวดเอวขา้ งทมี่ กี อ้ นนิ่ว, ปวดหลงั หรอื ชอ่ งทอ้ งชว่ งลา่ งขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ปวดเสยี ดปวดบดิ เป็ นพกั ๆ, มไี ขห้ นาว,คลนื่ ไส ้อาเจยี น เกยี่ วขอ้ งกบั การมแี คลเซยี มในปัสสาวะมากผดิ ปกตจิ ากปัจจยั ตา่ งๆ ไดแ้ ก ิ่ รบั ประทานอาหารแคลเซยี มโปรตนี เกลอื และนํา้ ตาลสงู มากเกนิ ไปดมื่ นํ้านอ้ ย ปัสสาวะขนุ่ แดง,เป็ นเม็ดทราย,เจ็บ,ปัสสาวะนอ้ ย/ไม่ออก ปวดบดิ ในทอ้ งรนุ แรงถา้ กอ้ นนวิ่ ตกลงมาทที่ อ่ ไต เกนิ ไป ***ผป้ ู ิ่ วยบางรายอาจไม่มอี าการแสดง กนิ อาหารทมี่ สี ารออกซาเลตยบั ยง้ั การดดู ซมึ แคลเซยี มอาทิถว่ั หน่อไมกนิ ิ้ วติ ามนิ ซมี ากกว่าวนั ละ1,000มลิ ลกิ รมั ตอ่ มพาราไทรอยดท์ ํางานมากเกนิ ไป โรคแทรกซอ้ นจากการเป็ นโรคเกาตโรค ิ์ พยาธวิ ทิ ยา ลาํ ไสอ้ กั เสบเรอื้ รงั โรคอว้ นนํา้ หนัก นิ่วในทางเดนิ ปัสสาวะทําใหข้ ดั ขวางของปัสสาวะเหนือตาํ แหน่งทมี่ กี ารอดุ ตนั ทําใหม้ แี รงดนั เพมิ่ ขนึ้ เหนือไตและกรวยไต มากเกนิ ไปโรคเบาหวาน กลา้ มเนือ้ ไตและกลา้ มเนือ้ กรวยไตจะมกี ารบบี ตวั แรงเพอื่ ผลกั นําิ้ปัสสาวะไปท่อไตถา้ การอดุ ตวั ไม่ไดร้ บั การแกไ้ ขทาํ ให ้ กลา้ มเนือ้ ไตและกลวยไตออ่ นแรงบางลงและพองออกและเกดิ ภาวะไตบวมนําิ้ตามมาจนทาํ ใหเ้กดิ ภาวะไตวาย กระเพาะปัสสาวะพกิ ารจากระบบประสาท ปัสสาวะคา้ งปัสสาวะออกไม่หมดปัสสาวะเล็ด พยาธวิ ทิ ยา หรอื ปัสสาวะออกมาโดยไมร่ สูก้ ปึ วด 1)Uppermotorneuronlesionเป็ นความผดิ ปกตขิ องไขสนั หลงั ตง้ั แต่ T12ขนึ้ ไปมกี ารหดตวั ของ ภาวะทมี่ิีความผดิ ปกตขิ องการขบั ถา่ ยปัสสาวะปัสสาวะมาก400-500มล กลา้ มเนือ้ detrussorอมากกวา่ ปกติทําใหค้ วามจกุ ระเพาะปัสสาวะลดลงแรงดนั สูงขนึ้ ทาํ ใหป้ วดปัสสาวะทงั้ ตดิ เชอื้ ทางเดนิ ปัสสาวะ ทปี่ รมิ าณปัสสาวะนอ้ ยและปัสสาวะราดได ้หรอื เรยี กวา่ spasticneurogenicbladder สาเหต ิุ 2)Lowermotorneuronlesionเป็ นความผดิ ปกตขิ องไขสนั หลงั ตงั้ แต่ S2ลงมาเชน่ ผปู้ ่ วยทมี่ ี เนื่องจากระบบประสาทเสอื่ มหนา้ ทหี่ รอื ถกู ทาํ ลายมกั พบใน peripheralneuropathyจากโรคเบาหวานกลา้ มเนือ้ detrussorจะไม่มกี ารหดตวั ถงึ แมม้ ปี ัสสาวะปรมิ าณมาก ผูป้ ่ วยเบาหวานแบง่ ได ้2แบบใหญๆ่ คอื (700-800มล.)ก็ยงัไม่ปวดปัสสาวะหรอื เรยี กวา่ flaccidneurogenicbladder 1.ปัสสาวะไม่ออก(failure to empty) 8 2.ปัสสาวะราด(failure to store)
การตดิ เชอื้ ทางเดนิ ปัสสาวะ(Urinary tract infection: UTI) กระเพาะปัสสาวะอกั เสบ (cystitis) สาเหต ิุ ปวดปัสสาวะปวดเบง่ กรวยไตอกั เสบ (pyelonephritis) ปัสสาวะมเีลอื ดปนปัสสาวะบ่อย St rept ococcus, ปวดหวั หน่าวปวดตอนถา่ ยปัสสาวะ การกลนั้ ปัสสาวะ ปัสสาวะขนุ่ ดมื่ นํา้ นอ้ ย การไม่เคลอื่ นไหวรา่ งกายเป็ นเวลานานการกระทบกระเทอื นที่ ทอ่ ปัสสาวะหรอื กระเพาะปัสสาวะการอกั เสบของท่อปัสสาวะ ตอ่ มลกู หมาก พยาธวิ ทิ ยา สาเหตุ มไี ขส้ ู ง39-40องศาหนาวสน่ั UTIเกดิ จากการทแี่ บคทเี รยี จากลําไสห้ รอื ผวิ หนัง ตดิ เชอื้ แบคทเี รยี ทางเดนิ ปัสสาวะสว่ นลา่ งแลว้ ลกุ ลาม ความดนั โลหติ สงู ปัสสาวะบอ่ ย ของอวยั วะเพศเขา้ ไปอยู่ในทางเดนิ ปัสสาวะและแพร่ ขนึ้ มาทไี่ ตแบคทเี รยี ทเี่ ป็ นสาเหตุไดแ้ ก่ E.coli, เขา้ ไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะหรอื ไต klebsiellapneumoniae,streptococcus, ปัสสาวะลาํ บาก Pseudomonasaeruginosa 9 1.กรวยไตอกั เสบเฉียบพลนั (Acutepyelonephritis) 2. กรวยไตอกั เสบเรอื้ รงั (Chronicpyelonephritis)
ภาวะไตวาย(Renal failure) สาเหตุ ไตวายเฉียบพลนั (Acute renal failure: ARF) 1.สาเหตกุ อ่ นไต เกดิ จากความผดิ ปกตขิ องเลอื ดมาเลยี้ งไตลดลง,hypotension,hypovolemia,การกรองลดลงเกดิ ภาวะacutetubularnecrosis(ATN) 2. สาเหตทุ ไ่ี ต ภาวะทเี่ นือ้ ไตกรวยไตและท่อไตถกู ทาํ ลาย การเกดิ hemolysisของฮโี มโกลบนิ จากการใหเ้ลอื ดมกี ารสะสมเขา้ สกู่ รวยไตและหลอดไต 3.สาเหตหุ ลงัไตไตถกู ทาํ ลายจากการอดุ ตนั การไหลของปัสสาวะความดนั ในหลอดเลอื ดไตสงู ขนึ้ ทาํ ใหอ้ ตั ราการกรองทไ่ี ตลดลงปัสสาวะออกมาไม่ได ้ พยาธวิ ทิ ยา hyperkalemia,anuria, metabolicacidosis,oliguria, 1.Initiation periodเป็ นระยะเรมิ่ แรกตน้ ตงั้ แตม่ พี ยาธสิ ภาพจนถงึ ระยะoliguria hypocalcemia,hypophosphatemia 2.Oliguriaperiodเป็ นระยะทมี่ ปี ัสสาวะออกนอ้ ยกวา่ 400มล.ใน24ชม. 3.Diuresisperiodระยะปัสสาวะออกมาก(Diureticphase) 4.Recoveryperiodระยะฟื้นฟูสภาพเป็ นระยะทไ่ี ตเรมิ่ ปรบั ตวั ได ้ ภาวะไตวายเรอืร้ งั (Chronic renal failure) สาเหตุ โรคเบาหวานความดนั โลหติ สงู ไตหรอื กรวยไตอกั เสบการอดุ กนั้ ของทางเดนิ หายใจการตดิ เชอื้ ความผดิ ปกติ แตก่ าํ เนิดความผดิ ปกตขิ องหลอดเลอื ดเลยี้ งไต การไดร้ บั สารพษิ พยาธวิ ทิ ยา ความดนั โลหติ สงู ,คนั ตามผวิ หนังนํา้ ทว่ มปอดฟังไดเ้สยี งcrepitation 1.การทํางานของไตลดลง(diminishedrenalreserve) 2.ระยะไตเสอ่ื มสมรรถภาพ(renalinsufficiency) เลอื ดออกในทางเดนิ อาหาร สบั สนไม่รวูิ้ ั นเวลาภาวะโลหติ จาง, 3. ระยะไตวาย(renal failure) 4.ระยะไตวายเรอื้ รงั ระยะสดุ ทา้ ย(endstagerenaldisease: ESRD) กลา้ มเนอือ้ อ่ นแรง 10
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University รายวชิ าพยาธสิ รรี วทิ ยา(Pathophysiology)ภาคการศกึ ษาที่3ป การศกึ ษา2564คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏันครปฐม \"การรกั ษา\" การรกั ษาจะเนน้ การรกั ษาแบบประคบั ประคองเพอื่ คงไว ้ ซงึ่ การทํา หนา้ ทขี่ องไตและสมดลุ ของรา่ งกายโดยการปรบั เรอื่ งอาหาร การใหย้ าการ แกไ้ ขสมดลุ ของนํา้ และเกลอื แรใ่ น รา่ งกายรวมถงึการรกั ษาดว้ ยการ ฟอกเลอื ดดว้ ยเครอื่ งไตเทยี ม และการฟอกเลอื ดทางหนา้ ทอ้ งและการ ผ่าตดั เปลยี่ นไต 11
Faculty of Nursing, Nakhon Pathom Rajabhat University รายวชิ าพยาธสิ รรี วทิ ยา(Pathophysiology)ภาคการศกึ ษาท่ี3ป การศกึ ษา2564คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม THANK YOU FOR LISTENING / YOUR ATTENTION. 12
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: