กล่มุ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 จดั ทาํ โดย นางสาวนัยนา ศิริมูล ตําแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ โรงเรยี นปากช่อง ๒ สํานกั การศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัดนครราชสมี า กระทรวงมหาดไทย
คํานํา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ ชุด ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชุดท่ี 3 สุขภาพกายและสุขภาพจิต จัดทําขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองโดยครูเป็นผู้แนะนําเพ่ือให้ นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ สาระท่ี 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการ ป้องกันโรค มุ่งเสริมพัฒนาความคิด เสริมสร้างสมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนกั เรียน แลว้ สามารถนําไปใชใ้ นชีวติ ประจําวนั ได้ ดังนัน้ ครผู สู้ อนเห็นความสําคัญการ เรียนรู้ สาระท่ี 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรคจึงนํามาจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ ใหแ้ กน่ ักเรยี น หวังว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอนและผู้ที่สนใจได้ เป็นอยา่ งดียิง่ นยั นา ศริ ิมลู
สารบัญ หนา้ คํานํา 1 สารบญั 3 คําแนะนํา 4 บทบาทของครผู ้สู อน 5 บทบาทของนกั เรียน 5 สาระและมาตรฐาน 5 ตัวช้วี ัด 5 สาระสาํ คัญ 6 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 8 เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ 11 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 12 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 15 ชนั้ ท่ี 1 ช้แี จงเตรยี มบทเรียน 30 ข้ันท่ี 2 นําสอนเนือ้ หา 34 ข้นั ที่ 3 จัดกิจกรรมฝึกฝนเรียนรสู้ ู่ทมี 44 ข้ันที่ 4 นําไปใชแ้ ละตรวจสอบ 46 ขนั้ ที่ 5 สรุปบทเรียนและประเมนิ ผลการทาํ งานกลุ่ม 49 แบบทดสอบหลังเรียน 50 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 51 ตารางบันทกึ คะแนน บรรณานกุ รม
1 คําแนะนํา การใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้โู ดยใช้เทคนิคการเรยี นแบบร่วมมือเชงิ สรา้ งสรรค์ เร่ือง ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดนี้เป็นชุดท่ี 3 สุขภาพกายและสุขภาพจิต สร้างข้ึนเพ่ือนําไปเป็นส่ือในการจัดการเรียน การสอนโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ให้นักเรียนได้ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม ยึดหลักการทํางานร่วมกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ชุดการสอนน้ีครูเป็นผู้แนะนํา นักเรียน ฉะนั้นครูจะต้องให้นักเรียนปฏิบัติตามข้ันตอนอย่างเคร่งครัด จึงจะทําให้การเรียน การสอนเกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ มีท้งั หมด 7 ชดุ ดังน้ี ชดุ ท่ี 1 การเลือกใช้บรกิ ารทางสขุ ภาพ ชดุ ที่ 2 เทคโนโลยที ี่มีผลต่อสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 3 สุขภาพกายและสุขภาพจติ ชดุ ท่ี 4 การจดั การกับความเครยี ด ชุดที่ 5 ห่างไกลยาเสพติด ชดุ ท่ี 6 ลดความเส่ียง ชุดที่ 7 หลกี เล่ียงอนั ตราย ชุดกิจกรรมการเรียนรูแ้ ต่ละชดุ ประกอบดว้ ย 1. คาํ ช้ีแจง 2. บทบาทครผู สู้ อน 3. บทบาทนกั เรียน 4. ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบรว่ มมอื เชงิ สร้างสรรค์ 5. สาระ / มาตรฐาน / ตัวช้ีวดั 6. สาระสาํ คัญ 7. จุดประสงค์การเรียนรู้ 8. แบบทดสอบกอ่ นเรียน จาํ นวน 10 ข้อ
2 9. บตั รเนอื้ หา 10. บตั รกจิ กรรม 11. เฉลยบัตรกิจกรรม 12. แบบทดสอบหลงั เรยี น จาํ นวน 10 ขอ้ 13. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน 14. เกณฑก์ ารประเมินผล / แบบบนั ทึกผลการประเมนิ ผล
3 บทบาทของครผู ู้สอน การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมอื เชิงสร้างสรรค์ ชดุ ท่ี 3 สุขภาพกายและสขุ ภาพจิต 1. ครูศกึ ษาวธิ ีใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนร้ตู ลอดจนการจดั การ เรยี นรูโ้ ดยใช้เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมือเชิงสรา้ งสรรค์ 2. ค้นควา้ และอา่ นเนอื้ หาท่ีเกีย่ วขอ้ งเพม่ิ เติม 3. เตรยี มการสอนลว่ งหนา้ เตรยี มสถานท่ี ส่ือการสอนต่าง ๆ ตลอดจนวสั ดุอปุ กรณ์ อนื่ ๆ 4. การจัดห้องเรียนควรแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกล่มุ จํานวน 6 กลุ่ม กล่มุ ละเทา่ ๆ กัน จัดวางส่ือ การสอนตามแผนผงั การจัดชน้ั เรียน (อาจเปล่ยี นแปลงได้) 5. ครจู ดั เตรยี มชดุ กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ เทคนคิ เชงิ สรา้ งสรรค์ ให้ครบถ้วน 6. แนะนําวิธีการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบรว่ มมือเชิง สร้างสรรค์เพ่ือใหน้ กั เรียนปฏิบัติไดถ้ กู ต้อง 7. ดาํ เนนิ การจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีกําหนดในแผนการจดั การเรียนรู้ ปฏบิ ัติกิจกรรม ตามขน้ั ตอนการเรียนร้โู ดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบรว่ มมอื เชิงสรา้ งสรรค์โดยมี 5 ขัน้ ตอน ดงั น้ี ขัน้ ที่ 1 ชี้แจงเตรียมบทเรียน ขั้นที่ 2 นําสอนเนอ้ื หา ข้ันท่ี 3 จดั กิจกรรมฝึกฝนเรียนรูส้ ู่ทมี ขั้นท่ี 4 นําไปใช้และตรวจสอบผลงาน ขน้ั ที่ 5 สรุปบทเรียนและประเมนิ ผลการทํางานกลุ่ม 8. หากนกั เรียนบางกลุม่ หรอื บางคนเรยี นไม่ทนั ครูควรใหค้ าํ แนะนําเพิ่มเติมให้เกิดความ เขา้ ใจ และใหท้ นั กับเวลาที่กําหนด 9. ประเมินผลการเรียนของนักเรยี นหลังใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เพ่อื การพฒั นาและ ความก้าวหน้าของ ผู้เรียน 10. ดูแล ส่ือและอปุ กรณ์ต่าง ๆ ทม่ี อี ยูใ่ นชุดการสอนใหเ้ รยี บรอ้ ยก่อนและหลังการใช้ ทุกครงั้
4 บทบาทของนักเรียน การใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบรว่ มมอื เชิงสร้างสรรค์ ชุดที่ 3 l สขุ ภาพกายและสุขภาพจิต 1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ โดยคละความสามารถของนักเรียน เก่ง ปานกลาง และออ่ น ออกเป็นกลมุ่ เลือกหวั หน้ากลุ่ม เลขานุการ และต้งั ชอ่ื กลมุ่ 2. ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมใหเ้ ปน็ ไปตามขน้ั ตอนอย่างเคร่งครดั 3. นกั เรียนศกึ ษาชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ และทํากิจกรรมไปตามลําดับขนั้ ตอนการเรียนรู้ โดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบรว่ มมือเชิงสรา้ งสรรค์ โดยมี 5 ขนั้ ตอน ดงั น้ี ข้ันท่ี 1 ชี้แจงเตรียมบทเรียน ข้นั ที่ 2 นําสอนเนอื้ หา ขั้นที่ 3 จัดกิจกรรมฝกึ ฝนเรยี นรสู้ ู่ทมี ขั้นท่ี 4 นําไปใชแ้ ละตรวจสอบผลงาน ขั้นที่ 5 สรุปบทเรียนและประเมินผลการทาํ งานกลุ่ม 3. นักเรียนพยายามทําให้เสร็จตามกําหนดเวลา อ่านคําช้ีแจงแต่ละกิจกรรม และ ปฏิบัติตามคําสั่งทีละข้ันตอน คือ ทดสอบความรู้ก่อนเรียน ทํากิจกรรม ตรวจคําตอบจากเฉลย ทบทวนความรู้ และทาํ ขอ้ สอบหลังเรียน 4. คําถามจากบทเรียน ไม่ใชข่ อ้ สอบ แต่เป็นส่วนหนง่ึ ของการเรียนรู้ หากมี ข้อสงสัยในการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ให้ถามครผู ู้สอนได้ทันที 5. การศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้เลม่ นี้ จะไม่บรรลผุ ลสําเรจ็ ถา้ นักเรียนขาด ความซอ่ื สัตย์ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม 6. ให้นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรม และห้ามขดี เขยี นข้อความใด ๆ ลงใน ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้เล่มนี้
5 สาระที่ 4 การสร้างเสริมสขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณคา่ และมที กั ษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรค และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ ตวั ชวี้ ดั 4. วิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของภาวะสมดลุ ระหวา่ งสุขภาพ และสขุ ภาพจิต 5. อธบิ ายลักษณะอาการเบือ้ งตน้ ของผูม้ ปี ัญหาสขุ ภาพจติ สาระสําคัญ สุขภาพกายและสุขภาพจิตมีความสัมพันธ์กันจึงควรดูแลรักษาสุขภาพกายและ สุขภาพจิตให้อยู่ในภาวะท่ีสมดุล เพื่อให้สามารถปฏิบัติตนในการสร้างเสริมสุขภาพกายและ สุขภาพจติ ทด่ี ีได้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ได้ 2. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ได้ 3. วเิ คราะห์ลักษณะอาการเบอื้ งตน้ ของผู้มีปญั หาสขุ ภาพจติ ได้
6 เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมอื การจัดการเรยี นร้แู บบรว่ มมือ หมายถึง การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้สําหรบั ผเู้ รียนตั้งแต่ สองคนข้ึนไปหรือโดยการแบง่ ผู้เรยี นออกเป็นกลุ่มย่อยๆ สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนทํากิจกรรมรว่ มกนั โดยในกลมุ่ ประกอบดว้ ยสมาชิกทมี่ คี วามสามารถแตกตา่ งกนั มีการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ มี การช่วยเหลือพึ่งพากัน มีความรบั ผดิ ชอบร่วมกัน ท้ังในส่วนตนและส่วนรวม เพื่อให้ตนเองและ สมาชิกทกุ คนในกลุ่มประสบความสาํ เรจ็ ตามเปา้ หมายทก่ี ําหนด ซง่ึ ตรงขา้ มกบั การเรียนท่ีเน้น การแข่งขนั และการเรยี นตามลําพงั สาํ หรับการจดั การเรียนการสอนสขุ ศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ผสู้ อนได้บูรณาการ วิธกี ารจัดการเรยี นร้แู บบร่วมมอื ทง้ั 6 วิธมี าเปน็ เทคนิคการเรียนแบบร่วมมอื เชิงสร้างสรรค์ เทคนิคการเรยี นแบบรว่ มมือเชิงสร้างสรรค์ ขั้นที่ 1 ช้ีแจงเตรยี มบทเรียน 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 – 4 คน โดยคละความสามารถเก่ง ปานกลางและออ่ น 2. ครูแจกสื่อการเรียนใหค้ รบทุกกล่มุ 3. ครนู ําเขา้ สู่บทเรียนเพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจใหก้ บั นกั เรยี น โดยมีการใชส้ ื่อเช่น เกม เพลง กจิ กรรมอ่นื ๆ ขั้นที่ 2 นาํ สอนเนือ้ หา 1. ครทู บทวนเน้ือหาท่ีเรยี นมา 2. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเนอื้ หาของบทเรยี น และครอู ธิบายเพิม่ เติมและเสริมความรู้ ข้นั ที่ 3 จัดกจิ กรรมฝึกฝนเรียนรู้สูท่ มี 1. ให้นักเรียนทาํ ใบงานหรอื กิจกรรม นําคําตอบของแต่ละคน ในกลมุ่ มารวมเปน็ คําตอบที่ สมบูรณ์
7 ขัน้ ที่ 4 นําไปใช้และตรวจสอบผลงาน 1. นักเรียนศกึ ษาความรเู้ พ่มิ เตมิ เพือ่ ขยายความรูแ้ ละนาํ ความรู้ทไ่ี ด้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ติ ประจาํ วัน 2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายการทาํ กจิ กรรมท่ีได้จนเป็นที่เข้าใจของทกุ คนในกล่มุ 3. นกั เรยี นตรวจสอบผลงาน ขน้ั ท่ี 5 สรปุ บทเรียนและประเมินผลการทํางานกลมุ่ 1. ให้นักเรยี นสรปุ บทเรียนท่ีเรยี นมา 2. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รายงานผลการสรปุ เนอ้ื หาชองบทเรยี น และการทํากิจกรรม โดยให้คาํ ชมเชยและรางวัลแก่กลุม่ ท่ถี ูกต้องทส่ี ดุ
8 แบบทดสอบก่อนเรียน กลุม่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สาระท่ี 4 การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค เรอ่ื ง สุขภาพกายและสุขภาพจติ เวลา 10 นาที ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 1. ขอ้ ใดเป็นลักษณะของผมู้ ีสขุ ภาพกายที่ดี ก. นอนไมค่ อ่ ยหลับ ข. ตัวใหญ่ นาํ้ หนกั มาก ค. ไม่เป็นหวัดแม้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ง. รับประทานอาหารในปริมาณมากทุกมือ้ 2. การปฏบิ ัตใิ นขอ้ ใดไมใ่ ช่แนวทางสร้างเสรมิ สขุ ภาพกายที่ดี ก. รับประทานอาหารที่มปี ระโยชน์ ข. ออกกาํ ลงั กายสม่ําเสมอ ค. พกั ผ่อนให้เพยี งพอ ง. ฟงั เพลงเสยี งดงั 3. ผู้ที่มสี ขุ ภาพจิตดจี ะมลี ักษณะอย่างไร ก. ยอมรบั ในความบกพร่องของตนเอง และปรับปรุงใหด้ ขี น้ึ ข. เชื่อมนั่ ในตนเอง ไมย่ อมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน ค. อยใู่ นโลกของความฝัน ไม่กลา้ เผชญิ หน้ากับความจริง ง. นัง่ น่ิงเฉย เม่ือเห็นผู้อื่นไดร้ บั คาํ ชมเชย
9 4. ถา้ ต้องการเปน็ ผู้มีสขุ ภาพจิตดีต้องทาํ อย่างไร ก. ขอความชว่ ยเหลือจากผอู้ นื่ ในทกุ เรอื่ ง ข. ฝกึ ควบคุมอารมณแ์ ละความร้สู กึ ค. เมอ่ื พบปัญหาให้ลมื ปัญหาน้นั ง. น่งั อา่ นหนงั สอื ธรรมะทงั้ วัน 5. การมีสุขภาพท่ดี ีส่งผลต่อการใช้ชีวิตในสงั คมอย่างไร ก. ได้รับเชิญไปร่วมงานเล้ียงสงั สรรค์เปน็ ประจาํ ข. มชี ่อื เสียงเปน็ ท่ยี อมรบั ของบคุ คลท่ัวไป ค. ได้รับคําชมเชยขากผูท้ ีพ่ บปะพดู คุยด้วย ง. อยู่ร่วมกับผอู้ ่ืนได้อย่างมีความสขุ 6. ข้อใดสรุปความสัมพนั ธ์ของภาวะสมดุลระหวา่ งสุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. จิตเปน็ นาย กายเป็นบ่าว ข. จติ อ่อนโยนเมื่อร่างกายอ่อนแอ ค. จิตเขม้ แขง็ เพราะร่างกายแข็งแรง ง. จิตแจ่มใสอย่ใู นรา่ งกายท่ีแข็งแรง 7. ข้อใดเป็นการใช้วธิ ีการบริหารทางกายแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพจติ ก. ทําจติ ใจและอารมณใ์ หเ้ บิกบาน ข. ฝึกจติ ใจให้รูจ้ กั ระงบั อารมณใ์ หด้ ี ค. ระบายความคับข้องใจใหเ้ พอ่ื นฟัง ง. ออกกําลังกายใหม้ ีเหง่ือเปน็ ประจาํ
10 8. อาการทางกายทแ่ี สดงถึงการมีปัญหาสขุ ภาพจิตตรงกับข้อใด ก. ท้องเสีย ข. ง่วงนอนบอ่ ย ค. ผมแตกปลาย ง. นอนไม่หลับ 9. สง่ิ แวดล้อมในข้อใดก่อให้เกดิ ปญั หาสุขภาพจิต ก. ครอบครวั ที่สมาชิกพดู คยุ ปรึกษาหารอื กันได้ทกุ เรื่อง ข. ครอบครัวท่ผี ูป้ กครองทะเลาะเบาะแว้งกนั เปน็ ประจํา ค. ครอบครัวทีส่ มาชิกมเี วลาว่างทํากจิ กรรมรว่ มกัน ง. ครอบครัวทีพ่ อ่ หรอื แม่เสยี ชีวติ ไป 1 คน 10. พฤตกิ รรมใดทแ่ี สดงถงึ การมปี ญั หาสขุ ภาพจิตอยา่ งรุนแรง ก. ทําร้ายผ้อู ่ืนโดยไมร่ สู้ ึกตัว ข. ยํ้าคิดยาํ้ ทําเก่ียวกบั การเปดิ -ปดิ ประตบู า้ น ค. พดู ปดกบั เพอ่ื นเปน็ ประจํา ง. เจ้าระเบียบในเรอื่ งการแต่งกาย
11 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง สุขภาพกายและสุขภาพจิต 1. ค 2. ง 3. ก 4. ข 5. ง 6. ค 7. ง 8. ง 9. ข 10. ก
12 ขนÊั ทÉี ř ชÊีแจงเตรยี มบทเรยี น ดูภาพดา้ นลา่ งแล้วสังเกตตนเองวา่ เรามลี ักษณะตรงกับ ภาพใด เพราะเหตุใดจงึ คิดเชน่ น้นั ภาพที่ 1 และ 2 ลกั ษณะการแสดงออกทางอารมณ์ ทม่ี า : http//www.dltv.ac.th ใหน้ กั เรยี นประเมนตนเองว่าเป็นผู้มีพฤตกิ รรมสขุ ภาพจิตดหี รือไม่
17 ภาพขา่ วที่ 3 นายแพทย์ ฆา่ หั่นศพ....ภรรยา เกิดขึ้นในปี 2544 คือ คดี นพ.วิสุทธ์ิ บุญเกษมสันติ ผู้เช่ียวชาญด้านสูตินรีแพทย์ท่ีเป็น ถึงระดับอาจารย์แพทย์ชื่อดังของประเทศไทย ได้ลงมือฆ่า พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ สูตินรี แพทย์ ซึ่งเป็นภรรยาโดยคดีดังกล่าว นพ.วิสุทธิ์ ได้เข้าแจ้งความกับตํารวจสน.พญาไท เม่ือวันท่ี 21 ก.พ.2544 ว่า ภรรยาได้หายตัวไป ก่อนจะแจ้งให้ตํารวจทราบภายหลังว่าเจอตัวแล้ว พบว่า ไปนั่งวิปัสสนาที่ จ.ระยอง อีกท้ังยังมีจดหมายลางานจากพญ.ผัสพร เป็นเวลา 15 วัน แต่เม่ือ ครบกําหนด พญ.ผัสพร ไม่ปรากฏตัวทําให้ญาติ พญ.ผัสพรเข้าแจ้งความกับตํารวจ โดยพุ่งเป้า ไปทส่ี ามี เพราะกําลังมีปญั หาเร่อื งฟอ้ งหย่ากันอยู่จากนน้ั เจ้าหน้าทตี่ าํ รวจ ค้นพบจากกล้องวงจร ปิดว่า ก่อนเกิดเหตุ นพ.วิสุทธ์ิ ได้พา พญ.ผัสพร ไปรับประทานอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่ง หนึ่ง ซ่ึงขากลับนั้น นพ.วิสุทธิ์ ได้เดินประคอง พญ.ผัสพร ที่มีอาการผิดปกติคล้ายคนเหม่อลอย พอเจ้าหน้าที่ตาํ รวจตามรอยไปถงึ หอ้ งพกั ในมหาวทิ ยาลยั ช่ือดงั ได้พบคราบเลือดจาํ นวนมากและ ยงั พบชน้ิ ส่วนมนุษยท์ บ่ี อ่ เกรอะ ตรวจสอบดีเอ็นเอพบว่าตรงกบั พญ.ผัสพร ท่มี า : http://khlonglan.kamphaengphet.police.go.th
18 บตั รเน้อื หา ความหมายของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต สุขภาพกาย หมายถึง สภาวะของรา่ งกายทม่ี คี วามสมบรู ณ์ แข็งแรง เจริญเตบิ โตอย่าง ปกติ ระบบต่างๆของรา่ งกายสามารถทํางานได้เปน็ ปกติและมีประสทิ ธภิ าพ รา่ งกายมคี วาม ต้านทานโรคได้ดี ปราศจากโรคภัยไขเ้ จบ็ และความทพุ พลภาพ สุขภาพจติ หมายถึง สภาวะของจิตใจท่ีมีความสดชื่น แจ่มใส สามารถควบคุมอารมณ์ ให้ม่ันคงเปน็ ปกติ สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสง่ิ แวดล้อมต่างๆได้ดี สามารถเผชญิ กับปัญหาตา่ งๆไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และปราศจากความขัดแยง้ หรือความสับสน ภายในจิตใจ ภาพท่ี 3 การบริหารกาย ท่ีมา : hhttp://www.happyhospital.org/autopagev4/show_page. php?topic_id=764&auto_id=9&TopicPk=.
19 ความสําคญั ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต สุขภาพกายและสขุ ภาพจิตเปน็ สิ่งสําคญั และจําเป็นสาํ หรับทุกชวี ิต การทจี่ ะดาํ รงชีวิตอยู่ อยา่ งปกตกิ ค็ ือ การทําให้ร่างกายแข็งแรง สมบรู ณ์ จิตใจมีความสุข ความพอใจ ความสมหวังท้ัง ตนเองและผู้อ่ืน ผู้ท่ีมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี จะปฏิบัติหน้าท่ีประจําวันไม่ว่าเป็นการ เรียนหรือการทํางานเป็นไปด้วยดี มีประสิทธิภาพการท่ีเรารู้สึกว่า ทั้งสุขภาพกายและ สุขภาพจิตของเรามีความปกติและสมบูรณ์ดี เราก็จะมีความสุข ในทางตรงข้าม ถ้าสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของเราผิดปกติหรือไมสมบูรณ์ เราก็จะมีความทุกข์ การรู้จักบํารุงรักษา และ ส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นสิ่งท่ีจําเป็นสําหรับชีวิตของทุกคน ในปัจจุบันเป็นท่ี ยอมรับว่า การรู้จักดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิตนั้นเป็นสิ่งสําคัญมากท่ีจะช่วยให้ชีวิตอยู่ได้ ด้วยความสขุ สมบรู ณ์และมีคุณภาพทดี่ ี
20 ความสัมพันธ์ของภาวะสมดุลระหว่างสุขภาพกายและสุขภาพจติ ความสมั พันธ์ของภาวะสมดุลระหวา่ งสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต ลักษณะของผมู้ ภี าวะสขุ ภาพกายทีด่ ี 1. สภาพรา่ งกายมคี วามสมบรู ณ์แขง็ แรง 2. อวัยวะตา่ งๆทั้งภายในและภายนอกรา่ งกายสามารถทํางานไดต้ ามปกติ 3. ร่างกาย ไม่ทพุ พลภาพ 4. ความเจรญิ ทางด้านร่างกายเป็นไปตามปกติ 5. รา่ งกายได้รับการพกั ผอ่ นอย่างเพียงพอ ลักษณะของผู้มภี าวะสขุ ภาพจิตท่ีดี 1. มีอารมณม์ น่ั คง และสามารถควบคมุ อารมณไ์ ดด้ ี 2. มคี วามตั้งใจและกระตอื รือรน้ ในการทํางาน ไม่ย่อทอ้ เหนอื่ ยหน่ายหรือ หมดหวังในชีวติ 3. มีความสดชืน่ เบิกบาน แจม่ ใส ไม่เครียด ไม่มคี วามวติ กกงั วลใจจนเกนิ ไปมอี ารมณ์ ขนั บ้างตามสมควร 4. มคี วามรสู้ ึกต่อผู้อ่นื ในแง่ดี มองโลกในแง่ดี 5. รจู้ ักตนเองดีและมคี วามเขา้ ใจผู้อื่นดเี สมอ 6. มีความเปน็ ตวั ของตวั เอง และมคี วามเชือ่ มัน่ ในตนเองอย่างมีเหตุผล 7. สามารถปรบั ตัวเขา้ กับสงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มได้ดี 8. กล้าเผชิญกับปัญหา และสามารถตัดสนิ ใจแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วและถกู ต้อง 9. มีการแสดงออกอยา่ งเหมาะสม เมอ่ื มคี วามสะเทอื นใจ 10. สามารถแสดงความยนิ ดตี อ่ ผอู้ น่ื อย่างจรงิ ใจเมื่อประสบความสุข ความสมหวงั หรือ ความสําเร็จ
21 ภาพท่ี 4 ลกั ษณะของผู้มีสุขภาพจิตดี ทีม่ า : http://masterorg.wu.ac.th/source/detail.php?newss_id= 36&paths=cas. ลกั ษณะของผทู้ ม่ี สี ขุ ภาพจติ ดีผู้ทีม่ สี ขุ ภาพจติ ดีมีลกั ษณะดงั น้ี 1. เป็นผู้ท่รี จู้ กั และเขา้ ใจตนเอง ซง่ึ จะแสดงออก ดงั น้ี - ยอมรับความผดิ หวงั ได้อย่างกลา้ หาญ - ใจกว้างพอที่จะยอมรับและเข้าใจความรสู้ ึกนกึ คิดของผู้อน่ื - ประมาณความสามารถของตนเองไดใ้ กล้เคยี งกับความเป็นจริง - ยอมรบั สภาพความขาดแคลนหรือขดี จํากัดบางอยา่ งของตนได้ และยอมรับนบั ถอื ตนเอง - สามารถจัดการกับสภาพการณห์ รือเหตุการณ์ ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้นึ กับตนได้ - พอใจและชนื่ ชมยนิ ดีต่อความสุขหรือความสาํ เร็จของตนในชวี ิตประจําวนั ไม่ว่าจะ เลก็ นอ้ ยก็ตาม 2. เป็นผู้ทรี่ ู้จักเข้าใจผูอ้ ืน่ ซึ่งแสดงออก ดงั น้ี - ใหค้ วามสนใจและรกั คนอ่ืนเปน็ และยอมรบั ความสนใจและความรกั ใคร่ที่คนอื่นมี ต่อตน - เข้าใจและยอมรบั ความแตกต่างระหว่างบคุ คล - เปน็ ไดท้ ง้ั ผู้นําและผตู้ ามทด่ี ี - เป็นส่วนหนงึ่ ของหมู่คณะ
22 - มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ หมู่คณะหรือบุคคลอ่ืนท่ีเก่ียวโยง 3. เป็นผู้ทีส่ ามารถเผชญิ กับความจรงิ ในชีวติ ดงั น้ี - แก้ปญั หาและเผชญิ กบั อุปสรรคได้ดว้ ยตัวเอง โดยไมห่ วาดกลัวมากนัก - มีการวางแผนล่วงหนา้ ในการกระทํางานหรอื การปฏบิ ัตงิ านตา่ ง ๆ - ตงั้ จุดม่งุ หมายของชีวิตไว้สอดคลอ้ งกบั ความจริง - ตัดสินใจในปญั หาตา่ งๆ ได้อยา่ งฉลาด ฉบั พลัน ปราศจากการลังเลหรือเสียใจ ภายหลงั - สามารถใช้พลังงานทีม่ อี ยูไ่ ด้อยา่ งเตม็ ทแี่ ละเกดิ ประโยชน์มากท่ีสดุ เท่าทจ่ี ะทําได้ 4. ไมใ่ ชก้ ลวิธีปอ้ งกันตนเอง แบบใดแบบหนงึ่ มากเกนิ ไป แตจ่ ะยอมรับความจรงิ ท่ี เกิดขนึ้ และพยายามหาวิธีลดความวิตกกงั วลลงดว้ ยวธิ กี ารทส่ี มเหตุสมผล 5. เปน็ ผูม้ อี ารมณ์ขนั บ้าง พยายามมองโลกในแง่ดีดว้ ยการพจิ ารณาขอ้ ดีของเหตกุ ารณ์ ต่างๆ หรอื การกระทําตา่ งๆ เพราะเหตุการณห์ รือการกระทําบางอยา่ งนั้นมีทัง้ ข้อดแี ละข้อเสีย และการใช้อารมณ์ขนั ช่วยแก้ไขเหตุการณท์ ี่ตึงเครยี ด จะทาํ ใหม้ องโลกแงด่ ขี ้นึ ภาพท่ี 5 ลกั ษณะของผมู้ ีสุขภาพกาย และสุขภาพจติ ดี ท่มี า : https://woranoot.wordpress.com/healthy-
23 ลกั ษณะเบ้อื งตน้ ของผมู้ ปี ญั หาสขุ ภาพจิต ผมู้ ีปญั หาสุขภาพจิตจะมีอาการทต่ี นเองรสู้ ึกได้เองหรอื ผ้อู ืน่ สงั เกตเห็นแต่ตนเองไมร่ ้วู า่ คอื ปัญหา ได้แก่ 1. อาการทางกาย ปว่ ยทางกาย เชน่ มีความกังวลทําให้ระบบหายใจผดิ ปกติ เกดิ อาการ ใจสนั่ หอบ ทอ้ งอืด ท้องเฟ้อ รับประทานอาหารไม่ได้หรอื ทานมากเกินไป นอนไม่หลับ อ่อนเพลยี ทอ้ งผูก ปวดศรี ษะ ความดนั โลหิตสงู ชักเกรง็ ปวดขอ้ หรือปวดเมื่อยตามรา่ งกาย 2. อาการทางจิต แสดงออกทางทางความรู้สึก หรอื อารมณ์ 2.1 ด้านความรู้สกึ ไม่สบายใจ น้อยใจ หลงตัวเอง 2.2 ดา้ นความคิด ฟุง้ ซ่าน สับสน หูแวว่ เบ่อื ชีวิตขี้ระแวงน้ันเป็นคนท่ีไม่เคยไว้วางใจ ใครเลย ใครจะทาํ อะไร จะคิดอะไรก็นกึ คดิ ไปวา่ เขามคี วามประสงค์ร้ายกับตน คิดว่าใครๆ ไม่รัก ไมน่ ับถือ ระแวงว่าจะถูกทรยศหักหลัง ถ้าคุณเป็นเจ้านาย คุณก็จะระแวงว่างานท่ีมอบหมายให้ ลกู นอ้ งอาจจะทําไมส่ าํ เร็จ ถ้าคุณมแี ฟน ก็ระแวงว่าแฟนจะมีกิ๊กหมกมุ่นอยู่กับความอาฆาตแค้น 2.3 ด้านอารมณ์ ซมึ เศร้า ออ่ นไหว แสดงออกไม่เหมาะสม ความจาํ เส่ือม ไม่มสี มาธิ 3. ด้านพฤตกิ รรม แสดงออกลักษณะทสี่ ังคมไม่ยอมรับ กา้ วรา้ ว ทาํ ลายทรพั ย์สิน ทําร้ายผู้อื่น แยกตัว ติดยาเสพติด ประพฤติผิดทางเพศ เจ้าระเบียบเกินไป ยํ้าคิดยํ้าทํา พ่ึงพา ผู้อ่ืน แต่งกายไม่เหมาะสมกับเพศและวัยลักขโมย พูดปด เป็นต้นปัญหาสุขภาพจิตที่แสดงออก ทางพฤติกรรม โดยเฉพาะพฤติกรรมทางเพศพวกน้ีจะไม่สามารถเก็บกดความรู้สึกได้ เมื่อมี โอกาสเวลาใดจะมีความตอ้ งการอยา่ งผดิ ปกตแิ ละรนุ แรงแสดงออกโดยไม่รูต้ ัว ได้แก่ - Homosexual รักรว่ มเพศ สนใจเพศเดียวกนั - Incest มีความสมั พนั ธท์ างเพศกบั สายโลหติ เดียวกัน - Pedophillia การชอบร่วมเพศกบั เดก็ เลก็ ๆ - Best- tiolity ความรสู้ กึ รักใคร่ในสัตว์เดรัจฉาน - Satyiasis ความรู้สกึ มกั มากในทางกามารมณ์ ชอบมคี วามรสู้ กึ แปลก ๆ - Nymphomania หญิงที่มคี วามร้สู กึ ทางอารมณจ์ ัด - Exhibitionism ชอบอวดอวยั วะเพศใหเ้ พศตรงขา้ มดู - Sadism เพศชายท่ชี อบกระตนุ้ โดยการทารณุ เพศตรงขา้ ม - Masochism เพศหญงิ ท่ีชอบใหฝ้ า่ ยตรงข้ามทําให้เจ็บปวดทรมาน - Kleptomania พวกทช่ี อบขโมยหรือสะสมกางเกงใน เสอื้ ช้นั ในหญงิ สาว
24 4. การเจ็บปว่ ยทางจิต มีอาการเจบ็ ป่วยทางจติ แบ่งออกเป็น 2 ชนดิ คอื 4.1 โรคประสาท (Neurosis or Psychoneurosis) เป็นความผดิ ปกติของจิตใจ คอ่ นขา้ งรนุ แรง มีความวติ กกังวลเป็นอาการหลักร่วมกับอาการทางจิตอนื่ ๆ จากสภาพจิตใจท่ี ออ่ นแอไม่สามารถทนตอ่ ความคบั แคน้ ของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ สามารถปฏิบตั ิหน้าที่การ งานได้ตามปกติ อยู่ในกรอบของสงั คมได้ ประสทิ ธิภาพในการทํางานจะลดลง จะมีอาการนาน เกินหน่งึ เดือน สามารถรักษาให้หายหรือทุเลาได้ อาการของโรคแบ่งออกเปน็ 7 ชนิด คอื 1) วติ กกงั วลมาก (Anxiety) โดยไม่ทราบสาเหตุมอี าการทางกายและทางใจรว่ ม ด้วย 2) อาการชกั กระตุกหรือเกรง็ คล้ายผีเขา้ 3) อาการหวาดกลวั (Phobic disorder) เกดิ ความกลวั ฝงั แน่นตอ่ ส่งิ ใดสิ่งหน่ึง อยา่ งรุนแรงโดยไมม่ เี หตผุ ล 4) ย้ําคิดยาํ้ ทํา (Obsessive Compulsive disorder) ทาํ ซ้าํ ๆ คดิ ซํา้ ๆ เป็น เวลานานทงั้ ท่ีรู้ตัวแตค่ วบคุมไม่ได้ 5) เสียใจซมึ เศร้าเกินกว่าเหตุ (Neurotic depressive) จดจ่อยกู่ ับเร่อื งราวท่ี ได้รบั ความสะเทือนใจ มากกว่าทค่ี วรจะเป็น 6) หมกม่นุ อยู่กับความเจ็บป่วยของตนเอง 7) ออ่ นเพลยี เบ่อื หนา่ ย 4.2 โรคจติ (Psychosis) เปน็ ความผิดปกตขิ องจติ ใจขัน้ รนุ แรง ไมส่ ามารถประกอบ ภารกิจการงานได้ ไม่ทราบวา่ ตนเองมีความผิดปกติ ไมส่ ามารถชว่ ยตนเองในการดาํ รงชวี ติ ประจําวันได้ ไมส่ ามารถรับรูส้ ภาพความเป็นจริงในปัจจบุ นั ได้ ไม่ทราบว่าตนเองเปน็ ใคร บุคลิก เปล่ียนไปจากเดิมจาํ เป็นต้องไดร้ บั การรกั ษา อาการของโรคจิตแบ่งออกเปน็ กลมุ่ ใหญ่ๆ ได้ 6 กลุ่ม ดังน้ี 1) คลมุ้ คลงั่ เอะอะ อาละวาด เกรี้ยวกราด ดุรา้ ย 2) ยิม้ คนเดียว พดู พมึ พาํ เดินไปมา 3) ซึมเฉย แยกตัวเอง ไม่พดู กับใคร 4) หลงผิด (Delusion) หวาดระแวง กลวั ถูกทาํ รา้ ย 5) ประสาทหลอน (Hallusination) ไดย้ ินเสยี งคนมาพดู คุยดว้ ยโดยไม่มี ตวั ตน เหน็ ภาพแปลก ๆ
25 6) อาการหลายๆ อย่าง บางคร้ังเอะอะ บางคร้งั ซึมเฉย บางรายมอี าการ หลงผดิ หวาดกลวั ประสาทหลอน ภาพท่ี 6 โปสเตอรค์ ุณเป็นโรคซมึ เศร้า ที่มา : https://www.hosthai.com/02251/notify_show?id=466
26 สาเหตุของปัญหาสขุ ภาพจติ 1. สาเหตุของรา่ งกาย มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยโครโมโซม (Chromosome) เช่นเดียวกับ โรคเบาหวาน มะเร็งตับและความพิการของอวัยวะต่างๆ เช่น ในกลุ่มบิดา มารดา พ่ีน้องที่เคย เป็นโรคจิตมีโอกาสท่ีจะเป็นได้ร้อยละ 7-16 แต่ในคนท่ัวไปจะเป็นโรคจิตเพียงร้อย ละ 0.9 เท่าน้ันหรือ คู่แฝดของผู้ป่วยโรคจิตจากไข่ใบเดียวกัน มีโอกาสเป็นโรคจิตด้วยร้อย ละ 70-90 นอกจากน้ีความเจ็บป่วยทางกาย ความพิการ หรือมีโรคเรื้อรังจะทําให้บุคคลน้ันมี อารมณแ์ ปรปรวน เกดิ ความวิตกกังวล ทอ้ แท้ คิดมาก มผี ลกระทบต่อสขุ ภาพจิตได้ ดังน้ี 1.1 โรคทางสมอง โรคทางสมองทีพ่ บบ่อย ไดแ้ ก่ - ความเส่ือมของสมองตามวยั (Senile dermentia) - ความเส่อื มจากหลอดเลือดสมองตบี (Arteriosclerosis dermentia) - การอกั เสบของสมอง (Encephalitis) - เน้ืองอกของสมอง (Intracranial Neoplasm) - สมองพิการจากซฟิ ิลสิ (Syphilis Meningoencephalitis) พยาธิสภาพดังกล่าว ทําให้เซลล์ของสมองถูกทําลายและเกิดความเสื่อมของเซลล์สมองอันเป็น สาเหตุทาํ ใหเ้ กิดความผดิ ปกติของจิต 1.2 สารจากต่อมไร้ท่อ สารจากต่อมต่างๆ ในร่างกายมีผลต่อร่างกาย เช่น ต่อมไทรอยด์ เป็นพิษ (Hyperthyroidism) มีอาการหงุดหงิดกระวนกระวาย มีความเครียด มีอาการซึมเศร้า และเฉื่อยชา ความจําเสื่อมเม่ืออาการทางจิตเป็นมาก อาจกลายเป็นโรคจิตหรือโรคจิต เภท สําหรับโรคขาดฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ (Hypothyroidism ) ผู้ป่วยจะมีอาการ อ่อนเพลีย เฉื่อยชา ความจําเสื่อม อารมณ์เฉยเมย ไม่อยากพูด ประสาทหลอน และมีอาการ ซึมเศร้า 1.3 อุบัติเหตุทางสมอง เม่ือสมองได้รับอุบัติเหตุ เช่น กะโหลกศีรษะได้รับ อุบัติเหตุ กะโหลกศรี ษะฟาดพน้ื หรือของแขง็ และสมองได้รับความกระทบกระเทือนมากจนเกิด พยาธิสภาพของเซลล์สมอง หรืออาจมีเลือดออกภายในเน้ือสมองจนเลือดไปกดดันเนื้อเย่ือของ สมองย่อมทําให้เซลล์ของสมองเสื่อมไปตามความรุนแรงของอุบัติเหตุและพยาธิสภาพที่เกิดขึ้น ทําใหเ้ กดิ ความผิดปกติ และความแปรปรวนของจติ ได้
27 1.4 สารพษิ ตา่ งๆ ถ้ารา่ งกายได้รับสารพิษ เช่น กญั ชา มอรฟ์ ีน เฮโรอนี ฝน่ิ โคเคอนี ยานอนหลับ แอมเฟตามนี ( ยาบา้ ) เมือ่ ใช้สารต่าง ๆ เหล่าน้จี นติด หากไม่ไดก้ ินหรอื เสพจะทาํ ให้เกิดอาการแปรปรวนของจิตได้ เช่น หงุดหงิด ทุรนทุราย หาวนอน ประสาทหลอน หมดความละอาย ก้าวร้าว ชอบทะเลาะวิวาท คุมสติไม่อยู่และมักทําร้าย ร่างกายผอู้ ่ืน 1.5 โรคพิษสุราเรื้อรัง สุรามีสารท่ีสําคัญคือแอลกอฮอล์ เมื่อแอลกอฮอล์อยู่ในกระแส เลอื ดสามารถทําลายเซลล์ของสมองใหเ้ ส่ือมลงตามลําดับ ถ้าด่ืมสุรามากและด่ืมทุกวันสมอง จะ เส่ือมมากข้ึน จนเกิดความวิปริตทางจิต หรือเกิดโรคจิตได้หลายอย่าง เช่น มีอาการพลุ่งพล่าน อาละวาด ดรุ ้ายจนถงึ ข้นั ทาํ รา้ ยรา่ งกายและทาํ ลายชวี ิตผอู้ ่ืนได้ 1.6 การทํางานหนักเกินกําลัง การทํางานหนักเกินกําลังทุกๆ วันจะก่อให้เกิดความเครียด ความกังวลความหงุดหงิด คิดมาก นอนไม่หลับ อ่อนเพลียจนเกิดความสับสนและตัดสินใจ ผดิ พลาด ทําใหเ้ กิดปฏิกริ ยิ าทางจติ ใจและเป็นเหตุของโรคประสาทได้ 2. สาเหตทุ างจิตใจ เน่ืองจากมนุษยม์ ีความตอ้ งการด้านจติ ใจอยู่เสมอตราบใดทย่ี ังมชี ีวติ อย่คู วามต้องการดัง กล่าวคอื ความต้องการพ้ืนฐานท่ีเป็นแบบแผนเดียวกันกับทฤษฎขี องมาสโลว์ ซงึ่ แบง่ ออกเป็น 5 ขั้นดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 ต้องการทางด้านร่างกาย เชน่ ตอ้ งการอาหาร ทีอ่ ย่อู าศัย เคร่อื งนุง่ ห่ม ยารักษาโรค เปน็ ต้น ขน้ั ท่ี 2 ต้องการความปลอดภัย ไมต่ ้องการใหช้ วี ิตได้รบั อันตราย ข้ันท่ี 3 ตอ้ งการความรัก เช่น ความรกั จากพอ่ แม่ เพ่ือน เปน็ ต้น ขั้นที่ 4 ต้องการมีช่อื เสยี ง เชน่ อยากใหเ้ ปน็ ท่ีรู้จักของสงั คม ขั้นที่ 5 ต้องการประสบความสาํ เร็จ เช่น ประสบความสาํ เรจ็ ด้านการประกอบอาชพี ดา้ นการเรียน เป็นตน้ ในความต้องการพื้นฐานท้ัง 5 ข้ันดังกล่าว บางคนก็สมปรารถนาทุกขั้น บางคนก็ได้ เพยี ง 2-3 ขั้น และบางคนกว่าจะได้ตามความต้องการก็จะพบกับอุปสรรคมากมาย แม้จะต่อสู้ กไ็ ม่สมกับท่หี วงั ไว้และไมอ่ าจทําใจได้ หรอื ทําให้เกิดความผิดหวังรุนแรง เกิดความทุกข์ความไม่ สบายใจเปน็ เวลานาน จนอาจเกิดความเจ็บป่วยทางจิต หรือเกิดปัญหาสุขภาพจิตได้จากสาเหตุ ตา่ งๆ ดังนี้
28 2.1ความผิดหวงั รนุ แรง คนท่ีไมเ่ คยผิดหวัง เมอื่ ผิดหวงั ยอ่ มทําใหเ้ กิดอารมณเ์ ศร้า และเสียใจได้มาก เชน่ สอบไมผ่ า่ น สอบเข้าทํางานไม่ไดห้ รืออกหกั บางครั้งรอ้ งไห้คนเดียว มีอาการนอนไม่หลับ ออ่ นเพลยี กินข้าวไมไ่ ด้ หงดุ หงิด 2.2 การสูญเสียบุคคลที่รัก การสูญเสียบิดามารดาและบุคคลท่ีตนรัก เป็นเหตุให้เกิดความ เสียใจอย่างรุนแรง จนมีอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ หดหู่ใจ หงุดหงิดโกรธง่าย รู้สึกท้อแท้และ เบื่อชวี ติ 2.3 การตัดสินใจผิด ทุกคนมีความคิด ต่างก็คิดว่าตนคิดดีและตัดสินใจดีท่ีสุดแล้ว แต่กลับ ได้รบั ความล้มเหลวและความเสียหาย เช่นเดียวกับการสอบไล่ตก จึงทําให้เกิดอารมณ์เศร้าและ หมดความสขุ มีความเสยี ใจเศร้าอย่างรนุ แรง 2.4 การสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ของคนบางคนรุนแรงพอๆ กับการสูญเสียบุคคลที่ตน รัก เพราะจิตใจมุ่งม่ันอยู่แต่เร่ืองทรัพย์สินเมื่อสูญเสียคร้ังเดียวและเป็นเงินจํานวนมาก ทําให้ เสียใจ คิดมาก ทาํ ใหเ้ กดิ อาการซมึ เศร้านอนไม่หลับ 3. ปัจจัยภายนอกตัวบุคคล แบ่งออกเปน็ 6 ประการ ได้แก่ 3.1 สาเหตุจากครอบครัวและสัมพันธภาพระหว่างพ่อแม่ ลูก บุคคลที่ไม่ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ อยู่ในครอบครัวท่ีไม่มีความสุข ไม่ได้รับประสบการณ์ของสัมพันธภาพท่ี ดจี ากครอบครวั เมอื่ โตขน้ึ จงึ ไมส่ ามารถปรับตัวได้ จิตใจไม่เข้มแข็ง ไม่สามารถเผชิญปัญหาและ อปุ สรรคต์ า่ ง ๆ ของชีวติ ซ่งึ นาํ ไปสู่ปัญหาสขุ ภาพจติ 3.2 สาเหตุจากฐานะเศรษฐกิจ เงินเป็นปัจจัยสําคัญ หากครอบครัวใดไม่สามารถแก้ปัญหา เศรษฐกจิ ใหส้ มดุลกบั รายจ่ายได้ จงึ เกดิ หนส้ี นิ กก็ ระทบกบั สุขภาพจติ ของครอบครวั ได้ 3.3 การขาดการศึกษาอบรม การขาดการศึกษาอบรมส่ังสอนที่ดี ทําให้ชีวิตหมกมุ่นอยู่แต่ ในความมืดมน หมดหวงั ยอ่ มทําใหจ้ ติ ใจหดห่เู กดิ ความเส่ือมของสมองเปน็ ปัญหาสขุ ภาพจิตได้ 3.4 สภาพชีวิตสมรสหรือชีวิตโสดท่ีมีปัญหายุ่งยาก ในชีวิตสมรสมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น ความขัดแย้ง การตั้งครรภ์ การมีบุตร สิ่งเหล่าน้ีนําปัญหาเข้ามาในชีวิตสมรส ถ้าทางออก ไม่ได้ก็จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต สําหรับคนเป็นโสดอาจเกิดปัญหา เช่น ว้าเหว่ขาดเพื่อน เหงา คิดมาก นอนไมห่ ลับ เกิดปัญหาสุขภาพจติ ได้เช่นกัน
29 3.5 สาเหตุจากสภาวการณ์แวดล้อมต่าง ๆ เหตุการณ์หรือกิจกรรมท่ีเกิดข้ึนในช่วงวัย ต่าง ๆ ท่ีคนต้องปรับตัวตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ ถ้าปรับตัวไม่ได้ก็จะทําให้เกิดปัญหา สุขภาพจิต นอกจากนั้นการประสบภัยธรรมชาติ เช่น น้ําท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ซ่ึง สถานการณ์เหล่านีจ้ ะมีผลกระทบตอ่ จติ ใจอย่างรุนแรงทําให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้ 3.6 สาเหตุจากวัฒนธรรมและค่านิยมของสังคม ในสังคมปัจจุบันนี้มีการเปล่ียนแปลงทาง วัฒนธรรม และค่านิยมอย่างรวดเร็ว เด็กและวัยรุ่น มักรับวัฒนธรรมท่ีเปล่ียนใหม่ได้ง่ายและ รวดเร็ว ซึ่งจะเกิดความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ ทําให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้ ทงั้ เดก็ และผ้ใู หญ่ ทมี่ า : www.ilchonburi.org/substance/mental_health.htm
30 ขนัÊ ทีÉ ś จดั กิจกรรมฝึ กฝนเรยี นรสู้ ทู่ ีม ให้นกั เรียนทาํ กจิ กรรมลงในบตั รกจิ กรรม ใหน้ ักเรียนนําคาํ ตอบของแตล่ ะคนในกลุ่ม มารวมเปน็ คาํ ตอบที่สมบรู ณ์
36 8. ลกั ษณะอาการทแี่ สดงออกของผู้ท่มี ีอาการทางจิตเป็นอยา่ งไร มีอารมณ์เปล่ยี นแปลงง่าย มอี าการประสาทหลอน มีความผดิ ปกตดิ ้านความคดิ มีความผดิ ปกตดิ ้านพฤติกรรม 9. วัยรุ่นและวยั เรียนที่มปี ัญหาทางสขุ ภาพจติ จะมีพฤติกรรมทีแ่ สดงออกอย่างไร 1. พูดจาเสยี งดงั เอะอะโวยวาย ใช้วาจาไมส่ ภุ าพ 2. ไม่สนใจเรยี น หนีโรงเรยี น มาสาย ผลการเรียนตกต่ํา 3. สมั พนั ธภาพกับผ้อู ่ืนไม่ดี ไม่มเี พอ่ื น เกิดความขัดแย้งในครอบครวั 4. ชอบมว่ั สุมทางเพศ มักมเี พศสมั พนั ธใ์ นวัยเรียน 5. ดื่มสุรา หรอื ใชส้ ารเสพติด 10. จงอธบิ ายวิธีการปฏบิ ัติตนเพื่อส่งเสริมสขุ ภาพจิต 1. สรา้ งความรกั 2. การยอมรบั ผู้อ่นื 3. รู้จักยอมรับสภาพความเป็นจรงิ แหง่ ชวี ติ 4. หาท่ีปรกึ ษาเมื่อเกดิ ความคบั ข้องไมส่ บายใจ 5. มองโลกในแง่ดี
37 แนวการตอบบนั ทกึ กิจกรรมที่ 2 ...../...... ข้อความ ขอ้ ความท่ีแกไ้ ข 1. ผู้ทม่ี ีสขุ ภาพดีจะมรี า่ งกายสมบูรณแ์ ขง็ แรงมี ...../...... การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการทีส่ มวยั ปราศจาก 3. ผมู้ สี ุขภาพดีส่วนใหญ่จะมี .....X....... โรคภัยไข้เจ็บ บุคลิกภาพท่ีดี ...../...... 2. การมสี ขุ ภาพจติ ดจี ะทาํ ให้มสี ุขภาพกายดตี าม .....X....... ไปด้วย 5. การที่มสี ขุ ภาพจิตดี 3. ผู้ที่มีสขุ ภาพกายดสี ่วนใหญจ่ ะมีบคุ ลิกภาพที่ สามารถดาํ เนนิ ชีวติ ประจาํ วัน .....X....... ไมด่ ี ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ เสมอไป 4. ผู้ท่มี สี ุขภาพจิตดีจะรับสภาพความเปน็ จริง 6. ผู้ทส่ี ามารถปรบั ตวั เข้ากับ ...../....... เก่ยี วกบั ตนเองได้ สงั คมและสง่ิ แวดล้อมไดด้ ว้ ยดี .....X....... 5. การการทมี่ ีสขุ ภาพจติ ดบี างทีกไ็ ม่สามารถ แสดงว่าเป็นผ้มู ีสุขภาพจิตดี ดําเนินชวี ิตประจําวนั ได้อย่างมคี วามสุขเสมอไป ...../...... 8. การอาบนํ้าทําความสะอาด ...../...... 6. ผู้ท่ีสามารถปรบั ตัวเขา้ กับสังคมและ ร่างกายควรทําอย่างน้อยวัน สงิ่ แวดลอ้ มไดด้ ้วยดี แสดงว่าเปน็ ผูม้ ีสขุ ภาพกาย ละ 2 คร้ัง ดี 7. ควรออกกาํ ลงั กายอย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 3 ครัง้ คร้งั ละ 30 นาที 8. การอาบนํ้าทําความสะอาดร่างกายควรทํา วันละ 1 ครั้งกพ็ อ 9. การไม่อจิ ฉารษิ ยาเปน็ การปฏบิ ตั ิตนเพ่อื ส่งเสริมสุขภาพจติ 10.การใชช้ ีวติ โดยยึดหลกั ความพอเพยี งเป็น การปฏบิ ัติตนเพ่ือสง่ เสรมิ สขุ ภาพทางปัญญา
38 ภาพที่ 1 ปัญหาสขุ ภาพจิตคนไทย ภาพท่ี 2 ฆ่าตัวตายจากวามเครยี ด ภาพท่ี 3เล่นมอื ถอื หลงั 4 ท่มุ เสย่ี งปญั หาสขุ ภาพจิต
39 แบบทดสอบดัชนีช้ีวัดสขุ ภาพจิตคนไทยฉบับสมบูรณ์ 55 ข้อ ปีพ.ศ.2550 .................................................................... ชอื่ -สกุล.......................................................................ห้อง..................เลขท่.ี ..................... คําชีแ้ จง : กรณุ าเลือกคาํ ตอบในช่องที่มีข้อความตรงกับตวั ท่านมากท่ีสดุ และขอความรว่ มมือตอบคําถาม ทุกข้อ คาํ ถามต่อไปนจ้ี ะถามถึงประสบการณข์ องทา่ นในชว่ ง 1เดือนทผี่ ่านมา จนถึงปจั จุบนั ใหท้ ่านสาํ รวจ ตวั ท่านเองและประเมนิ เหตกุ ารณ์ อาการหรือความคิดเห็นและความรูส้ กึ ของทา่ น วา่ อย่ใู นระดับใด แลว้ ตอบลงในชอ่ งคําตอบทเ่ี ปน็ จรงิ กบั ตัวท่านมากท่สี ุด โดยคาํ ตอบจะมี 4 ตวั เลอื ก คอื ไมเ่ ลย หมายถงึ ไมเ่ คยมเี หตกุ ารณ์ อาการ ความรสู้ กึ หรือไม่เห็นดว้ ยกบั เรอ่ื งนน้ั ๆ เล็กน้อย หมายถงึ เคยมีเหตุการณ์ อาการ ความร้สู กึ ในเรื่องนนั้ ๆ เพียงเล็กนอ้ ยหรือเหน็ ดว้ ยกบั เรอื่ งนน้ั ๆ เพียงเล็กน้อย มาก หมายถึง เคยมเี หตกุ ารณ์ อาการ ความร้สู กึ ในเรอื่ งนน้ั ๆ มาก หรือเห็นด้วยกบั เรอื่ งน้นั ๆ มาก มากทสี่ ดุ หมายถงึ เคยมเี หตกุ ารณ์ อาการ ความรูส้ ึกในเร่อื งน้ัน ๆ มากทสี่ ดุ หรือเห็นด้วย กับเรอ่ื งน้นั ๆ มากทส่ี ดุ ขอ้ รายการ ไม่ เล็กน้อย มาก มาก เลย ทสี่ ุด 1 ท่านรสู้ กึ พงึ พอใจในชวี ิต 2 ทา่ นรสู้ ึกสบายใจ 3 ทา่ นรู้สกึ สดชนื่ เบกิ บานใจ 4 ท่านรู้สึกชีวิตของท่านมีความสขุ สงบ (ความสงบสุขในจติ ใจ) 5 ท่านรสู้ ึกเบอ่ื หน่ายทอ้ แท้กับการดําเนนิ ชีวิตประจาํ วัน 6 ท่านร้สู กึ ผดิ หวงั ในตัวเอง 7 ทา่ นรสู้ กึ วา่ ชวี ติ ของทา่ นมีแต่ความทุกข์ 8 ท่านรู้สกึ กงั วลใจ 9 ทา่ นรูส้ กึ เศร้าโดยไม่ทราบสาเหตุ 10 ทา่ นรู้สึกโกรธหงุดหงดิ งา่ ยโดยไม่ทราบสาเหตุ 11 ทา่ นตอ้ งไปรับการรกั ษาพยาบาลเสมอๆเพื่อให้สามารถ ดําเนนิ ชีวิตและทาํ งานได้ 12 ทา่ นเปน็ โรคเร้ือรัง (เบาหวาน ความดนั โลหติ สูง อัมพาต ลมชัก ฯลฯ ในกรณีถา้ มใี หร้ ะบุวา่ มีความรนุ แรงของโรค เล็กนอ้ ยหรอื มากตามอาการที่มี
40 ข้อ รายการ ไม่ เล็กนอ้ ย มาก มาก เลย ท่สี ดุ 13 ทา่ นรูส้ ึกกังวลหรอื ทุกขท์ รมานใจเก่ยี วกับการเจบ็ ป่วยของ ท่าน 14 ท่านพอใจต่อการผูกมติ รหรอื เข้ากบั บุคคลอน่ื 15 ทา่ นมีสมั พันธภาพที่ดีกบั เพื่อนบ้าน 16 ทา่ นมีสมั พันธภาพทีด่ ีกบั เพื่อนรว่ มงาน (ทํางานรว่ มกบั คน อืน่ ) 17 ท่านคดิ ว่าทา่ นมคี วามเป็นอยู่และฐานะทางสังคมตามทที่ า่ น ไดค้ าดหวังไว้ 18 ทา่ นรสู้ ึกประสบความสําเร็จและความก้าวหนา้ ในชีวิต 19 ทา่ นรสู้ กึ พงึ พอใจกบั ฐานะความเปน็ อยู่ของทา่ น 20 ทา่ นเห็นว่าปญั หาส่วนใหญ่เป็นส่งิ ทแ่ี ก้ไขได้ 21 ทา่ นสามารถทําใจยอมรับไดส้ ําหรบั ปญั หาท่ียากจะแกไ้ ข (เมื่อมปี ญั หา) 22 ท่านมัน่ ใจว่าจะสามารถควบคุมอารมณไ์ ด้เม่ือมีเหตุการณ์ คับขันหรอื ร้ายแรงเกิดขึ้น 23 ท่านม่นั ใจท่ีจะเผชิญกบั เหตุการณ์ร้ายแรงทีเ่ กิดขึ้นในชีวิต 24 ทา่ นแก้ปญั หาที่ขัดแยง้ ได้ 25 ทา่ นจะรูส้ ึกหงดุ หงิด ถ้าสิ่งต่างๆ ไมเ่ ป็นไปตามท่คี าดหวงั 26 ท่านหงดุ หงิดโมโหงา่ ยถ้าทา่ นถูกวิพากษ์วจิ ารณ์ 27 ท่านรู้สึกหงดุ หงิด กังวลใจกับเรอ่ื งเล็กๆน้อยๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ เสมอ 26 ท่านรูส้ กึ กังวลใจกับเร่อื งทกุ เร่ืองที่มากระทบตัวท่าน 29 ทา่ นรสู้ กึ ยินดีกบั ความสาํ เร็จของคนอื่น 30 ท่านรสู้ กึ เหน็ ใจเมื่อผู้อ่นื มีทุกข์ 31 ท่านรู้สกึ เป็นสุขในการช่วยเหลอื ผู้อ่นื เม่ือมโี อกาส
41 ขอ้ รายการ ไม่ เลก็ นอ้ ย มาก มาก เลย ทีส่ ุด 32 ทา่ นใหค้ วามช่วยเหลือแกผ่ ู้อื่นเม่ือมโี อกาส 33 ท่านเสียสละแรงกายหรอื ทรัพยส์ นิ เพอื่ ประโยชน์สว่ นรวม โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 34 หากมสี ถานการณ์คับขันท่านพร้อมท่จี ะให้ความช่วยเหลือ ร่วมกบั ผู้อ่ืน 35 ท่านพงึ พอใจกบั ความสามารถของตนเอง 36 ท่านรู้สึกภมู ใิ จในตนเอง 37 ทา่ นรสู้ ึกวา่ ท่านมีคณุ ค่าต่อครอบครัว 38 ทา่ นมสี ง่ิ ยึดเหน่ยี วสูงสดุ ในจติ ใจทท่ี ําให้จติ ใจม่ันคงในการ ดาํ เนนิ ชีวติ 39 ทา่ นมีความเชื่อมน่ั วา่ เมื่อเผชญิ กบั ความยุ่งยากท่านมีสิ่งยดึ เหน่ยี วในจิตใจ 40 ท่านเคยประสบกบั ความยุ่งยากและสง่ิ ยึดเหนย่ี วในจิตใจ ช่วยใหผ้ า่ นพน้ ไปได้ 41 ท่านต้องการทําบางสง่ิ ทใ่ี หม่ในทางที่ดีขึน้ กว่าทเ่ี ป็นอยู่เดมิ 42 ท่านมคี วามสุขกบั การรเิ รมิ่ งานใหมๆ่ และมุ่งมนั่ ท่จี ะทําให้ สาํ เรจ็ 43 ทา่ นมคี วามกระตอื รือรน้ ทจ่ี ะเรียนรสู้ ิง่ ใหม่ๆ ในทางทด่ี ี 44 ท่านมีเพื่อนหรือคนอ่ืนๆ ในสังคมคอยชว่ ยเหลือทา่ นในยาม ที่ตอ้ งการ 45 ท่านได้รบั ความช่วยเหลอื ตามทท่ี า่ นต้องการจากเพอ่ื นหรือ คนอื่นๆในสงั คม 46 ทา่ นรสู้ ึกมน่ั คง ปลอดภัยเม่ืออยู่ในครอบครัว 47 หากทา่ นป่วยหนกั ท่านเช่ือว่าครอบครัวจะดูแลทา่ นเป็น อยา่ งดี
42 ขอ้ รายการ ไม่ เล็กน้อย มาก มาก เลย ทีส่ ดุ 48 ทา่ นปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากครอบครัวเสมอเม่ือ ทา่ นมีปัญหา 49 สมาชิกในครอบครัวมีความรกั และผูกพันต่อกนั 50 ทา่ นมน่ั ใจวา่ ชุมชนที่ท่านอาศัยอยู่มีความปลอดภยั ต่อท่าน 51 ทา่ นร้สู ึกมัน่ คงปลอดภยั ในทรัพย์สนิ เมอื่ อาศยั อยู่ในชมุ ชนนี้ 52 มีหนว่ ยงานสาธารณสุขใกล้บ้านท่ที า่ นสามารถไปใช้บรกิ าร ได้ 53 หน่วยงานสาธารณสขุ ใกล้บ้านสามารถไปใหบ้ ริการได้เม่ือ ทา่ นตอ้ งการ 54 เม่อื ท่านหรือญาติเจ็บป่วยจะใชบ้ รกิ ารจากหน่วยงาน สาธารณสุขใกล้บ้าน 55 เมื่อท่านเดอื ดร้อนจะมหี น่วยงานในชมุ ชน(เชน่ มลู นิธิ ชมรม สมาคม วดั สเุ หรา่ ฯลฯ) มาชว่ ยเหลือดแู ลท่าน สรปุ ดัชนีช้วี ัดสุขภาพจติ คนไทยฉบบั สมบูรณ์ 55 ขอ้ (TMHI – 55) : มกี ารให้คะแนนแบบประเมิน 23 โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 41 55 กลุ่มที่ 1ได้แกข่ อ้ 1 2 3 4 14 15 16 17 18 19 20 21 22 24 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 แต่ละข้อให้คะแนนดังตอ่ ไปนี้ ไม่เลย 1 เลก็ นอ้ ย 2 มาก 3 มากท่ีสดุ 4
43 กลุ่มท่ี 2ได้แก่ขอ้ 8 9 10 11 567 26 27 28 12 13 25 มาก 2 มากทสี่ ุด 1 แต่ละข้อให้คะแนนดงั ตอ่ ไปน้ี ไม่เลย 4 เล็กนอ้ ย 3 การแปลผลการประเมิน ดชั นีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทยฉบับสมบรู ณ์ 55ข้อ มีคะแนนเต็มท้ังหมด 220คะแนน เม่อื ผตู้ อบไดป้ ระเมนิ ตนเองแลว้ และรวมคะแนนทุกข้อได้คะแนนเท่าไร สามารถนาํ มาเปรียบเทียบ กับเกณฑป์ กติท่กี ําหนดดังน้ี 179-220 คะแนน หมายถึง มสี ุขภาพจิตมากกวา่ คนทัว่ ไป (Good) 158-178 157 คะแนน หมายถึง มีสขุ ภาพจิตเท่ากับคนทั่วไป (Fair) คะแนนหรือนอ้ ยกว่า หมายถงึ มสี ขุ ภาพจิตต่ํากว่าคนท่ัวไป (Poor) ในกรณีท่ีทา่ นมีคะแนนอยู่ในกลุ่มสขุ ภาพจิตต่ํากวา่ คนทวั่ ไป ทา่ นอาจช่วยเหลือตนเองเบอื้ งตน้ โดยขอรบั บรกิ ารปรกึ ษาจากสถานบรกิ ารสาธารณสุขใกล้บ้านของท่านได้
44 ขนÊั ทÉี ŝ สรปุ บทเรยี นและ ประเมินผลการทํางานกลม่ ุ ใหน้ กั เรียนสรุปบทเรียนทเี่ รยี นมา ให้แต่ละกลมุ่ รายงานผลการสรปุ เน้ือหาชองบทเรยี น และการทํากิจกรรมโดยใหค้ ําชมเชยและรางวัลแก่กลุ่ม ที่ถกู ต้องทสี่ ุด
Search