Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่6 ลดความเสี่ยง ภาคเรียนที่ 2

เล่มที่6 ลดความเสี่ยง ภาคเรียนที่ 2

Published by สายัณห์ นิชารัมย์, 2021-05-21 04:15:29

Description: เล่มที่6 ลดความเสี่ยง ภาคเรียนที่ 2

Search

Read the Text Version

กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 จัดทําโดย นางสาวนยั นา ศิริมูล ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการพเิ ศษ โรงเรียนปากช่อง ๒ สาํ นักการศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวดั นครราชสมี า กระทรวงมหาดไทย

คํานาํ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ ชุด ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ชุดที่ 6 ลดความเสี่ยง จัดทําข้ึนเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีเน้นนักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูเป็นผู้แนะนําเพ่ือให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ สาระท่ี 5 ความปลอดภัยในชีวิต มุ่งเสริมพัฒนาความคิด เสริมสร้างสมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน แล้วสามารถนําไปใช้ในชีวิตประจําวันได้ ดังน้ัน ครูผู้สอนเห็นความสําคัญการเรียนรู้ สาระท่ี 5 ความปลอดภัยในชีวิตจึงนํามา จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ให้แก่นักเรยี น หวังว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอนและผู้ท่ีสนใจ ได้เป็นอยา่ งดยี งิ่ นยั นา ศิรมิ ลู

สารบัญ หนา้ คํานํา 1 สารบญั 3 คําแนะนํา 4 บทบาทของครผู ้สู อน 5 บทบาทของนกั เรียน 5 สาระและมาตรฐาน 5 ตัวช้วี ัด 5 สาระสาํ คัญ 6 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 8 เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ 11 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 12 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 13 ชนั้ ท่ี 1 ช้แี จงเตรยี มบทเรียน 23 ข้ันท่ี 2 นําสอนเนือ้ หา 28 ข้นั ที่ 3 จัดกิจกรรมฝึกฝนเรียนรสู้ ู่ทมี 34 ข้ันที่ 4 นําไปใชแ้ ละตรวจสอบ 36 ขนั้ ที่ 5 สรุปบทเรียนและประเมนิ ผลการทาํ งานกลุ่ม 39 แบบทดสอบหลังเรียน 40 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 41 ตารางบันทกึ คะแนน บรรณานกุ รม

1 คําแนะนํา การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้เทคนิคการเรยี นแบบร่วมมือเชิงสรา้ งสรรค์ เร่ือง ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชุดนี้เป็นชุดท่ี 6 ลดความเส่ียง สร้างขึ้นเพื่อนําไปเป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ กระบวนการกลุ่ม ให้นักเรียนได้ศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม ยึดหลักการทํางาน รว่ มกนั ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกัน ชุดการสอนนค้ี รูเป็นผู้แนะนํานักเรียน ฉะนั้นครูจะต้อง ให้นักเรียนปฏิบัติตามข้ันตอนอย่างเคร่งครัด จึงจะทําให้การเรียนการสอนเกิด ประสิทธิภาพ สูงสุด ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ มีทั้งหมด 7 ชุด ดงั น้ี ชุดท่ี 1 การเลือกใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพ ชดุ ท่ี 2 เทคโนโลยที ีม่ ผี ลต่อสุขภาพ ชดุ ท่ี 3 สุขภาพกายและสขุ ภาพจิต ชดุ ที่ 4 การจดั การกับความเครียด ชดุ ท่ี 5 ห่างไกลยาเสพตดิ ชุดท่ี 6 ลดความเสี่ยง ชดุ ท่ี 7 หลกี เล่ยี งอนั ตราย ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้แต่ละชดุ ประกอบดว้ ย 1. คําช้ีแจง 2. บทบาทครูผูส้ อน 3. บทบาทนักเรียน 4. ขนั้ ตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบร่วมมือเชงิ สร้างสรรค์ 5. สาระ / มาตรฐาน / ตัวชี้วัด 6. สาระสําคญั 7. จุดประสงค์การเรียนรู้ 8. แบบทดสอบกอ่ นเรียน จํานวน 10 ขอ้ 9. บัตรเนอ้ื หา

2 10. บตั รกิจกรรม 11. เฉลยบตั รกจิ กรรม 12. แบบทดสอบหลงั เรยี น จาํ นวน 10 ขอ้ 13. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 14. เกณฑก์ ารประเมินผล / แบบบนั ทึกผลการประเมนิ ผล

3 บทบาทของครผู ้สู อน การใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมอื เชิงสร้างสรรค์ ชดุ ท่ี 6 ลดความเส่ียง 1. ครศู กึ ษาวิธใี ช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรตู้ ลอดจนการจัดการ เรยี นรู้โดยใช้เทคนคิ การเรียนแบบร่วมมอื เชงิ สรา้ งสรรค์ 2. ค้นคว้าและอา่ นเนือ้ หาท่เี กีย่ วขอ้ งเพิม่ เตมิ 3. เตรยี มการสอนลว่ งหนา้ เตรยี มสถานท่ี ส่ือการสอนตา่ ง ๆ ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ อื่น ๆ 4. การจัดห้องเรียนควรแบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ จํานวน 6 กล่มุ กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั จัดวางสื่อ การสอนตามแผนผังการจัดช้นั เรียน (อาจเปลี่ยนแปลงได)้ 5. ครจู ดั เตรยี มชดุ กจิ กรรมการเรียนร้โู ดยใชก้ ระบวนการกล่มุ เทคนคิ เชงิ สร้างสรรค์ ใหค้ รบถ้วน 6. แนะนําวธิ ีการใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมอื เชิง สร้างสรรค์เพื่อให้นักเรียนปฏิบตั ไิ ด้ถกู ต้อง 7. ดําเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ีกําหนดในแผนการจัดการเรยี นรู้ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ตามข้นั ตอนการเรยี นร้โู ดยใช้เทคนิคการเรยี นแบบรว่ มมือเชงิ สรา้ งสรรค์โดยมี 5 ขัน้ ตอน ดังน้ี ขัน้ ที่ 1 ชแ้ี จงเตรียมบทเรียน ข้ันที่ 2 นําสอนเนือ้ หา ขน้ั ที่ 3 จัดกจิ กรรมฝกึ ฝนเรียนรสู้ ู่ทมี ขนั้ ท่ี 4 นําไปใชแ้ ละตรวจสอบผลงาน ขนั้ ท่ี 5 สรปุ บทเรียนและประเมินผลการทาํ งานกลุ่ม 8. หากนักเรียนบางกลมุ่ หรอื บางคนเรียนไม่ทนั ครคู วรให้คําแนะนําเพิม่ เติมให้เกิดความ เข้าใจ และใหท้ นั กับเวลาทก่ี ําหนด 9. ประเมนิ ผลการเรยี นของนกั เรยี นหลังใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เพอ่ื การพฒั นาและ ความกา้ วหน้าของ ผ้เู รียน 10. ดแู ล สื่อและอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่มี อี ย่ใู นชดุ การสอนใหเ้ รียบรอ้ ยกอ่ นและหลงั การใช้ ทุกคร้ัง

4 บทบาทของนักเรยี น การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ ชุดท่ี 6 ลดความเสย่ี ง 1. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ โดยคละความสามารถของนกั เรียน เก่ง ปานกลาง และออ่ น ออกเป็นกลมุ่ เลอื กหวั หน้ากล่มุ เลขานุการ และต้ังช่ือกลุ่ม 2. ในการปฏิบัติกิจกรรมให้เปน็ ไปตามข้ันตอนอย่างเคร่งครดั 3. นักเรียนศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ และทาํ กจิ กรรมไปตามลาํ ดบั ข้ันตอนการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการเรยี นแบบร่วมมอื เชงิ สร้างสรรค์ โดยมี 5 ข้นั ตอน ดังน้ี ขนั้ ท่ี 1 ชแี้ จงเตรียมบทเรียน ขน้ั ที่ 2 นําสอนเนอื้ หา ขัน้ ท่ี 3 จดั กจิ กรรมฝกึ ฝนเรยี นรสู้ ู่ทมี ขั้นท่ี 4 นําไปใชแ้ ละตรวจสอบผลงาน ขั้นท่ี 5 สรปุ บทเรียนและประเมนิ ผลการทํางานกลุ่ม 3. นักเรียนพยายามทําให้เสร็จตามกําหนดเวลา อ่านคําช้ีแจงแต่ละกิจกรรม และ ปฏิบัติตามคําสั่งทีละข้ันตอน คือ ทดสอบความรู้ก่อนเรียน ทํากิจกรรม ตรวจคําตอบจากเฉลย ทบทวนความรู้ และทําข้อสอบหลงั เรียน 4. คาํ ถามจากบทเรียน ไม่ใชข่ อ้ สอบ แตเ่ ปน็ ส่วนหน่งึ ของการเรยี นรู้ หากมี ข้อสงสยั ในการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ให้ถามครผู ้สู อนได้ทนั ที 5. การศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เลม่ นี้ จะไมบ่ รรลผุ ลสาํ เร็จ ถ้านกั เรยี นขาด ความซ่อื สัตย์ในการปฏบิ ัติกิจกรรม 6. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรม และห้ามขดี เขียนข้อความใด ๆ ลงใน ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้เลม่ นี้

5 สาระที่ 5 ความปลอดภยั ในชีวติ มาตรฐาน พ 5. ปอ้ งกนั และหลกี เลย่ี งปัจจัยเสีย่ ง พฤตกิ รรมเส่ียงตอ่ สุขภาพ อบุ ัตเิ หตุการใชย้ าสารเสพติดและความรนุ แรง ตัวช้วี ดั 2. อธิบายวิธกี ารหลกี เล่ยี งพฤติกรรมเส่ยี งและสถานการณ์เสี่ยง สาระสาํ คญั พฤติกรรมเส่ียงเป็นการหลีกเล่ียงท่ีจะกระทําส่ิงท่ีส่งผลเสียต่อสุขภาพและความปลอดภัย และ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย ซึ่ง ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ การเข้าใจถึงแนวทางในการหลีกเล่ียง พฤติกรรมเสย่ี งและสถานการณเ์ สย่ี งที่ เกดิ ขึ้นจะชว่ ยใหม้ คี วามปลอดภยั ในชวี ิตเพ่มิ มากข้นึ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของคาํ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับการหลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมเส่ียงและ สถานการณ์เสย่ี งและ แนวทางในการปฏิบตั ิตนเพ่อื หลีกเลีย่ งพฤติกรรมเสีย่ งและสถานการณ์ เส่ยี งอย่างถกู ต้องได

6 เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมอื การจัดการเรยี นร้แู บบรว่ มมือ หมายถึง การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้สําหรับผเู้ รียนตั้งแต่ สองคนข้ึนไปหรือโดยการแบง่ ผู้เรยี นออกเป็นกลุ่มย่อยๆ สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนทํากิจกรรมรว่ มกนั โดยในกลมุ่ ประกอบดว้ ยสมาชิกทมี่ คี วามสามารถแตกตา่ งกนั มีการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ มี การช่วยเหลือพ่ึงพากัน มีความรบั ผดิ ชอบร่วมกัน ท้ังในส่วนตนและส่วนรวม เพอื่ ให้ตนเองและ สมาชิกทกุ คนในกลุ่มประสบความสาํ เรจ็ ตามเปา้ หมายทก่ี ําหนด ซง่ึ ตรงขา้ มกบั การเรียนท่ีเน้น การแข่งขนั และการเรยี นตามลําพงั สาํ หรับการจดั การเรียนการสอนสขุ ศกึ ษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ผสู้ อนได้บูรณาการ วิธกี ารจัดการเรยี นร้แู บบร่วมมอื ทง้ั 6 วิธมี าเปน็ เทคนิคการเรียนแบบร่วมมอื เชิงสร้างสรรค์ เทคนิคการเรยี นแบบรว่ มมือเชิงสร้างสรรค์ ขั้นที่ 1 ช้ีแจงเตรยี มบทเรียน 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 – 4 คน โดยคละความสามารถเก่ง ปานกลางและออ่ น 2. ครูแจกสื่อการเรียนใหค้ รบทุกกลุ่ม 3. ครนู ําเขา้ สู่บทเรียนเพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจใหก้ บั นกั เรยี น โดยมีการใช้ส่ือเช่น เกม เพลง กจิ กรรมอ่นื ๆ ขั้นที่ 2 นาํ สอนเนือ้ หา 1. ครทู บทวนเน้ือหาท่ีเรยี นมา 2. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเนอื้ หาของบทเรยี น และครอู ธิบายเพิม่ เติมและเสริมความรู้ ข้นั ที่ 3 จัดกจิ กรรมฝึกฝนเรียนรู้สูท่ มี 1. ให้นักเรียนทาํ ใบงานหรอื กิจกรรม นําคําตอบของแต่ละคน ในกลมุ่ มารวมเปน็ คําตอบที่ สมบูรณ์

7 ขัน้ ที่ 4 นําไปใช้และตรวจสอบผลงาน 1. นักเรียนศกึ ษาความรเู้ พ่มิ เตมิ เพือ่ ขยายความรูแ้ ละนาํ ความรู้ทไ่ี ด้ไปปรบั ใช้ใน ชวี ติ ประจาํ วนั 2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันอภปิ รายการทาํ กจิ กรรมท่ีได้จนเป็นที่เข้าใจของทกุ คนในกล่มุ 3. นกั เรยี นตรวจสอบผลงาน ขน้ั ท่ี 5 สรปุ บทเรียนและประเมินผลการทํางานกลมุ่ 1. ให้นักเรยี นสรปุ บทเรียนท่ีเรยี นมา 2. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ รายงานผลการสรปุ เนอ้ื หาชองบทเรยี น และการทํากิจกรรม โดยให้คาํ ชมเชยและรางวัลแก่กลุม่ ท่ถี ูกต้องทส่ี ดุ

8 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา สาระท่ี 5 ความปลอดภยั ในชวี ิต เร่ือง ลดความเสยี่ ง เวลา 10 นาที ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 1. บคุ คลในข้อใดอยู่ในพฤติกรรมที่เส่ยี งต่ออันตราย ก. ออมไปเรียนดนตรไี ทยทุกวนั อาทิตย์ ข. ต้อมไปทําบญุ ท่ีวัดกบั คณุ ยายในวนั พระ ค. ต้ัมชวนเพ่ือนๆ มาเลน่ ฟตุ บอลหลังเลกิ เรยี น ง. ต้นชอบไปเลน่ เกมคอมพิวเตอรท์ ่ีร้านอินเทอร์เน็ตเปน็ ประจาํ 2. การมวั่ สมุ เลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ทําให้เกดิ ผลเสียมากมาย ยกเว้นข้อใด ก. ผลการเรียนตกตา่ํ ข. ใช้คอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ กง่ ขึ้น ค. เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ง. เกดิ พฤตกิ รรมเลียนแบบความรุนแรงจากคอมพิวเตอร์ 3. หากนกั เรียนตอ้ งการพักผอ่ นนกั เรียนควรไปสถานทใี่ ดเพ่ือหลีกเลย่ี งสถานการณ์เสี่ยง ก. สวนสาธารณะ ข. บอ่ นการพนนั ค. สถานเรงิ รมยต์ ่าง ๆ ง. ร้านเกมคอมพิวเตอร์

9 4. ข้อใด ไมใ่ ช่ ปญั หาและผลกระทบจากการแข่งขนั รถจกั รยานยนต์บนท้องถนน ก. ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง และเกดิ ปญั หาการจราจร ข. ไดเ้ ป็นตัวแทนไปแขง่ ขนั รถจกั รยานยนต์ ค. การจราจรติดขดั และอาจเกิดอุบัติเหตไุ ด้ ง. การถูกตาํ รวจจบั ดาํ เนนิ คดไี ด้ 5. ใครหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณเ์ สย่ี งตอ่ อันตรายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ก. สมชอบนดั เพอ่ื นไปดืม่ เหลา้ ในตึกรา้ ง ข. สาวไปไหนกบั เพ่ือน ๆเปน็ กลุม่ ใหญเ่ สมอ ค. นุ่นขอบไปเท่ียวสถานที่ท่มี ีคนเยอะๆ เพราะทําให้รสู้ กึ คึกคกั ง. นมิ่ ตบเพ่อื นท่ีมคี วามประพฤติดแี ละอยูใ่ นทาํ นองคลองธรรม 6. ข้อใดกล่าวสรปุ ถึงสถานการณ์เสี่ยงหรือพฤตกิ รรมเส่ียงไดถ้ ูกต้อง ก. การเดินเขา้ ไปในพนื้ ทที่ ี่มกี ารชุมนมุ ข. การสบู บหุ รี่ในทส่ี าธารณะ ค. การรวมกลุม่ เล่นกีฬาฟุตบอล ง. การรับประทานอาหารร่วมกับญาติพ่ีนอ้ งจํานวนมาก 7. ผลจากการทะเลาะววิ าทในกลุ่มเพื่อนคอื ขอ้ ใด ก. ร่างกายเจรญิ เตบิ โตชา้ ข. เกิดความบาดหมางและเลกิ คบกนั ค. ผลการเรียนตกตํา่ ง. ทําให้เข้มแขง็ ขน้ึ

10 8. ข้อใดไมใ่ ช่สาเหตุของการทะเลาะววิ าทในกลมุ่ เพ่ือน ก. หยอกล้อและแกล้งกัน ข. ความคิดเห็นขดั แยง้ กัน ค. เล่นกีฬาที่ใช้ความรนุ แรงตอ่ กนั ง. ใช้เวลาว่างในการออกกาํ ลังกายในสวนสาธารณะ พิจารณาขอ้ ความต่อไปนี้ ตอบคาํ ถามข้อ 9 1. การปฏเิ สธ 2. การต่อรอง 3. ทกั ษะชีวติ 4. กระบวนการคิด 5. การคาดคะเน 9. ข้อใดเรยี งลาํ ดบั ขัน้ ตอนการป้องกันและหลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมเสี่ยงได้ถกู ตอ้ ง ก. 2 1 3 5 4 ข. 1 5 3 2 4 ค. 4 3 5 2 1 ง. 5 3 4 2 1 10. ขอ้ ใดเปน็ พฤตกิ รรมเส่ียงจากการเข้าไปในแหลง่ อบายมุข ก. ดกู ารแขง่ รถในสนามแขง่ ขัน ข. ดมื่ เครอ่ื งดืม่ ผสมแอลกอฮอล์ ค. ใชอ้ ินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมลู ขา่ วสาร ง. ชมฟตุ บอลถา่ ยทอดสดทางโทรทัศน์

11 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง ลดความเส่ียง 1. ง 2. ง 3. ด 4. ข 5. ง 6. ก 7. ข 8. ง 9. ง 10. ข

12 ขนÊั ทีÉ ř ชÊีแจงเตรยี มบทเรยี น จากภาพเหตุการณ์น้ีเกดิ ผลกระทบ อยา่ งไรบ้าง ภาพที่ 1 นักเรยี นทําร้ายร่างกายกนั ที่มา : http//www.dek-d.com/board/view/3030410/ ให้นกั เรียนชว่ ยกันบอกพฤตกิ รรมเสี่ยงและสถานการณเ์ สี่ยง ................................................................................................................................ ................................................................................................................................ ................................................................................................................................



14 บัตรเนือ้ หา พฤตกิ รรมเสยี่ งและสถานการณ์เส่ียง พฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณเ์ สีย่ งตอ่ อนั ตราย พฤตกิ รรมเส่ยี ง หมายถงึ พฤตกิ รรมท่ีเปน็ สาเหตใุ ห้เกดิ ความเส่ียงตอ่ การดําเนินชวี ติ สญุ เสยี หนา้ ท่ี พกิ าร หรอื เสียชีวิต เช่น พฤตกิ รรมสูบบหุ รี่ ดมื่ สรุ า ติดเกมส์ มีเพศสัมพันธ์ท่ไี ม่ ปลอดภยั การยตุ กิ ารตั้งครรภท์ ี่ไมป่ ลอดภัย การแข่งรถมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น สถานการณเ์ สี่ยง หมายถงึ สถานการณ์หรอื เหตุการณ์ทีท่ ําใหเ้ กิดความเสยี่ งต่อการ ดาํ เนินชีวิต ทําให้เกิดอุบตั ิเหตุ ไดร้ บั บาดเจบ็ และเสียชวี ิต หรือมีผลกระทบตอ่ สุขภาพของ บคุ คล ชมุ ชนและสงั คม พฤตกิ รรมเสย่ี ง และสถานการณ์เสี่ยง การมั่วสุมเสพสารเสพตดิ การมั่วสุมเลน่ เกมคอมพิวเตอร์ การมั่วสมุ ในเรอ่ื งเพศ การมั่วสุมเพ่อื ยกพวกตกี นั การมัว่ สุมในทส่ี าธารณะ การทะเลาะววิ าทในกลุ่มเพื่อน การเขา้ ไปในแหลง่ อบายมุข การมั่วสมุ แขง่ รถ

15 การมั่วสมุ เสพสารเสพตดิ วธิ กี ารหลีกเลีย่ งปอ้ งกัน 1. ไมห่ ลงเชอ่ื คาํ ชักชวนของเพื่อน เมื่อเพื่อนชวน ไปทดลองสารเสพตดิ 2. รจู้ ักหลีกเลย่ี งการคบหาคนที่ติดสารเสพติด 3. ไม่ทดลองเสพสารเสพติดเพราะอาจทําให้เกิดการติดได้ ภาพท่ี 4 การม่วั สุมลองสารเสพติด ท่มี า : http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/health4_2/gallery/lesson1/g1.php การม่วั สมุ เล่นเกมคอมพวิ เตอร์ วิธกี ารหลกี เลย่ี งปอ้ งกัน 1. หลกี เลีย่ งการเล่นเกมคอมพิวเตอรใ์ นร้านอินเทอร์เน็ตที่มกี ล่มุ วัยรุน่ ม่ัวสมุ กัน เพราะอาจเกดิ ปญั หาอาชญากรรม 2. ไมอ่ อกนอกโรงเรยี นเพ่ือไปเลน่ เกมในชว่ งเวลาเรียน 3. หากจิ กรรมทําในชว่ งเวลาว่าง เช่น เล่นกฬี า หรือออกกําลงั กาย ภาพท่ี 5 การมวั่ สุมเลน่ เกมคอมพิวเตอร์ ทีม่ า : https://www.compgamer.com/mainpage/410 การม่วั สุมในเร่อื งเพศ วิธีการหลกี เล่ียงปอ้ งกัน 1) ไม่สมั ผสั รา่ งกายกนั เพราะถือวา่ ไม่สุภาพ 2) ไม่อยใู่ นที่รโหฐานตามลําพัง 3) ไมด่ สู อื่ ยั่วยอุ ารมณ์ทางเพศกบั เพศตรงข้าม 4) ไม่เสพของมึนเมาหรือสารเสพติด ภาพที่ 6 การมวั่ สมุ ในเรือ่ งเพศ ทม่ี า : https://kanyaratpang.wordpress.com/category/uncategorized/

16 การม่วั สุมเพ่ือยกพวกตีกนั วิธีการหลกี เล่ยี งป้องกัน ไมเ่ ขา้ ไปรวมกลุม่ กับเพอื่ นทีม่ ีแนวโนม้ รวมตวั เพ่ือยกพวกตกี ันหรือทะเลาะวิวาทกบั กลมุ่ อน่ื ภาพที่ 7 มั่วสุมเพื่อยกพวกตกี นั ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9590000074348 การมวั่ สมุ ในท่ีสาธารณะ วธิ ีการหลีกเลี่ยงปอ้ งกัน ไมเ่ ข้าไปรวมกล่มุ กับเพื่อนทไ่ี มไ่ ดร้ วมกลุ่ม เพอื่ ทํากจิ กรรมท่ีสร้างสรรค์ ภาพที่ 8 มัว่ สุมในที่สาธารณะ ท่มี า : https://www.thairath.co.th/content/430032 สาเหตุการทะเลาะววิ าทในกลุ่มเพ่ือน 1. ความคดิ เหน็ ขัดแย้งกนั 2. เกิดการกระทบกระทงั่ กันท้ัง โดยเจตนาและไม่เจตนา 3. เล่นกีฬาทีใ่ ช้ความรุนแรงต่อกัน 4. เกดิ การขัดผลประโยชน์บางอยา่ ง 5. มีเรื่องขัดใจกนั ภาพที่ 9 การทะเลาะวิวาทกนั ในกลุ่มเพื่อน 6. หยอกล้อและแกลง้ กัน ท่ีมา : https://www.thairath.co.th/content/430032 วธิ ีการหลีกเลีย่ งปอ้ งกนั การทะเลาะววิ าทในกลมุ่ เพือ่ น 1. คบเพื่อนทีด่ ี ไมช่ วนกันไปทะเลาะวิวาทกับผู้อน่ื 2. ฝึกสมาธใิ ห้เปน็ คนใจเย็น มีสติ อดทน อดกลน้ั

17 สาเหตกุ ารทะเลาะววิ าทในกล่มุ ของคนที่อย่ใู นสถานการณ์ 1. เกดิ การเขม่นกัน เม่อื มองแล้วไมช่ อบ 2. เกดิ ความหึงพวงกนั ผู้กอ่ เหตอุ าจเป็นชายหรือหญิง 3. แกแ้ ค้นแทนเพือ่ น 4. มีนิสยั ชอบหาเรอ่ื ง วธิ ีการหลกี เลีย่ งปอ้ งกันการทะเลาะววิ าทในกลุ่มของคนทอี่ ยูใ่ นสถาบนั เดียวกนั 1. มสี ติ อดทน อดกลนั้ ตอ่ การยั่วยุ 2. มีปัญหาปรึกษาพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง ครูอาจารย์ 3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีเป็นประโยชน์ การเขา้ ไปในแหล่งอบายมุข แหล่งอบายมขุ หมายถงึ สถานทที่ ่นี ําไปสูค่ วามช่ัว ความทกุ ข์หรอื ความเส่อื ม 1. การด่ืมสุรา 2. การเทย่ี วกลางคืน 3. การดูการละเลน่ 4. การเล่นการพนัน 5. การคบคนชั่วเป็นมติ ร 6. ความเกยี จคร้าน วิธีการหลีกเลีย่ งป้องกัน ภาพที่ 10 การเข้าไปในแหล่งอบายมุข 1. ไม่หลงเช่อื คําชกั ชวนของ ท่มี า : https://www.77kaoded.com/tag เพ่อื นท่ชี กั ชวนให้เข้าไปยุง่ เกยี่ วกบั อบายมขุ การเขา้ ไปในแหลง่ อบายมุข 2. รจู้ กั ปฏิเสธและตอ่ รองอยา่ งเหมาะสม 3. ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ เช่น เล่นดนตรี วาดรปู เล่นกีฬา 4. เลือกคบเพอ่ื นท่ดี ี ไมม่ วั่ สุมกันในทางทผ่ี ดิ 5. หากมีปญั หาความเครยี ดควรปรึกษาคนในครอบครวั พอ่ แม่ ครูอาจารย์

18 กระบวนการป้องกนั และหลกี เลยี่ งพฤตกิ รรมเสี่ยงและสถานการณเ์ สีย่ ง กระบวนการคิด ทักษะชวี ิต การคาดคะเน การตอ่ รอง การปฏิเสธ 1. กระบวนการคิด หมายถงึ ระบบการคิดสําหรบั การดาํ รงชีวติ ในสังคมที่สําคัญการใช้ เหตผุ ลอยา่ งถูกต้องเหมาะสม และตดั สินใจอยา่ งมเี ป้าหมายท่ีดี ในแตล่ ะสถานการณข์ องชีวติ 2. ทกั ษะชีวติ หมายถึง ความสามารถทางสตปิ ัญญา ทท่ี กุ คนจําเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการเผชญิ สถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในชวี ติ ประจําวันได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยสามารถพฒั นาขน้ึ ได้ ดว้ ยการฝกึ และกระทําซ้าํ ๆ จนเปน็ ลกั ษณะนสิ ยั 3. การคาดคะเน หมายถึง การคาดการณ์ลว่ งหน้า ว่าจะเกิดอะไรขน้ึ ถา้ คาดคะเนแลว้ ว่าจะเป็นการเสีย่ ง ตอ่ อนั ตรายและไมป่ ลอดภยั กค็ วรท่จี ะหลกี เลี่ยง 4. การต่อรอง หมายถึง การเจรจาเพ่ือใหส้ ถานการณ์ ทค่ี บั ขันดขี น้ึ หรือการเจรจาเพื่อ หลกี เลีย่ ง สถานการณท์ ี่เสี่ยง 5. การปฏเิ สธ เปน็ ทักษะสาํ คัญในการเอาตวั รอด หรือหลีกเล่ยี งต่อ สถานการณ์เลวร้าย ที่จะเข้ามาในชีวิต ทกั ษะการปฏเิ สธนส้ี ามารถใช้ได้ กับทุกเรอื่ งทพี่ บในชวี ิตประจาํ วัน เชน่ การ ปฏิเสธการใช้สารเสพติด การปฏเิ สธท่ีจะเล่นการพนนั

19 พฤติกรรมเสยี่ งในวัยร่นุ ผศ. นพ. พนม เกตมุ าน พฤติกรรมเสีย่ งในวัยรนุ่ คือ พฤตกิ รรมท่ีนํามาหรือเปน็ สาเหตใุ ห้เกดิ ความเสยี่ งต่อ การดาํ เนินชวี ติ ทําให้ ร่างกายเป็นอนั ตรายสญู เสยี หน้าที่ ขาดโอกาสพฒั นาตามปกติหรอื เสยี ชวี ติ วัยรนุ่ จะมพี ฤติกรรมเสย่ี งมากกวา่ วัยอืน่ ๆ เน่ืองจากวยั น้ีต้องการความสนกุ สนาน ต่นื เตน้ ทา้ ทาย เปน็ ท่ียอมรับของคนอ่ืน อยากรู้อยากเหน็ อยากลอง มอี ารมณ์ทางเพศมากขนึ้ แตย่ งั ขาดการยั้งคดิ ไตรต่ รอง และการควบคมุ ตนเอง การเข้าใจและหาทางปอ้ งกันพฤติกรรม เสย่ี งในวัยรุ่นจงึ เปน็ ส่ิงสําคัญและจําเปน็ เพือ่ ปอ้ งกันปัญหาพฤตกิ รรมและผลเสียหายได้ ประเภทของพฤตกิ รรมเส่ียง พฤตกิ รรมเสยี่ งในวัยรนุ่ แยกเป็นประเภทตา่ งๆดังน้ี 1. พฤติกรรมเส่ียงต่ออบุ ตั ิเหตุ (unintentional injuries) ได้แก่ การร่วมกิจกรรมที่เส่ียง ต่ออบุ ัติเหตุ การ ไม่ปฏบิ ตั ิตามกฎแหง่ ความปลอดภัย (ไมส่ วมหมวกกนั นอ็ ค ไม่คาดเขม็ ขดั นิรภยั เมาในขณะขบั รถ ฯลฯ) 2. พฤติกรรมความรุนแรง(violence) ไดแ้ ก่ การเข้าร่วมกล่มุ ทม่ี ีพฤติกรรมกา้ วร้าว รุนแรง การทาํ ร้าย รา่ งกาย การพกพาอาวุธ ทําลายขา้ วของสาธารณะ 3. ภาวะซมึ เศรา้ และการฆ่าตวั ตาย (depression and suicidal idea) 4. การใช้ยาเสพตดิ (drug abuse) ได้แกก่ ารลองและใชย้ าเสพติด บหุ รี่ เหล้าหรอื อยู่ใน กลมุ่ เพอ่ื นที่ใช้ 5. พฤติกรรมเสย่ี งทางเพศสัมพนั ธ์ (sexual behaviors) ไดแ้ ก่ เริ่มตน้ จากการมแี ฟน เร็วเกนิ ไป การเร่มิ มี สัมผัสแตะเน้ือต้องตัว กอดจูบ อยูก่ ันตามลาํ พงั และมีเพศสัมพนั ธ์โดยไม่มี การป้องกนั การต้ังครรภแ์ ละโรคติดตอ่ ทาง เพศสมั พันธ์ 6. พฤติกรรมเสยี่ งต่อโรคกล้ามเน้อื หวั ใจตายเฉียบพลันในวยั กลางคน (myocardial infarction) ได้แก่ การรบั ประทานอาหารไขมันสงู อ้วน ขาดการออกกาํ ลังกาย

20 การซกั ประวตั เิ ก่ยี วกบั พฤตกิ รรมเสี่ยง ในวัยรุ่นการซกั ประวตั ิเพ่มิ เตมิ เก่ียวกับพฤตกิ รรมเสย่ี งจะชว่ ยให้ประเมนิ ความเสี่ยงดา้ น ตา่ งๆ โดยใช้ หวั ขอ้ HEEADSSS ดังนี้ 1. H – Home ครอบครัว ที่อยูอ่ าศัย ชมุ ชนแวดล้อม ความปลอดภยั ในบา้ น 2. E – Education/Employment การเรียน การทํางาน เปา้ หมายอาชพี และ ความหวังในชีวติ 3. Eating – พฤติกรรมการกิน มากหรอื นอ้ ยเกนิ ไป ไม่ถูกสุขลักษณะ ขาดอาหาร ผอม เกนิ ไปหรือเสีย่ งต่อ ภาวะนาํ้ หนกั เกิน 4. Activities and friends – กจิ วตั รประจําวัน การออกกําลงั กาย งานอดเิ รก กจิ กรรม ทส่ี นกุ และ เพลิดเพลนิ คลายเครียด เพื่อนและเพือ่ นสนิท กจิ กรรมท่ีทําร่วมกัน พฤติกรรมเสยี่ ง ในกลมุ่ เพือ่ น 5. Drugs abuse – การลองใช้ยาเสพติด การใช้เหล้าบหุ รี่ หรือยาอนื่ ๆทแี่ พทย์มิไดส้ ่ัง 6. Sexual activities – พฤตกิ รรมทางเพศ ความพึงพอใจทางเพศ(sexual orientation) เอกลักษณ์ทาง เพศ(sexual identity) พฤตกิ รรมรกั ร่วมเพศ การมเี พศสมั พันธ์ การป้องกนั โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธก์ ารป้องกนั การต้งั ครรภ์ 7. Safety/violence/abuse พฤติกรรมเส่ียงต่ออุบตั เิ หตแุ ละความรนุ แรง การปอ้ งกนั อุบัติเหตุในการใช้ ยานพาหนะ การชกต่อยใชอ้ าวุธ การพกพาอาวุธ ความรนุ แรงในครอบครัว การทารุณกรรม การละเมิดทางเพศ 8. Suicidal idea ความรู้สกึ เบ่อื หน่ายท้อแท้เบือ่ ชวี ิต ความคดิ อยากตาย การพยายาม ฆา่ ตวั ตายหรอื ทาํ ร้ายตนเอง

21 สาเหตขุ องพฤติกรรมเสย่ี ง สาเหตขุ องพฤติกรรมเสีย่ งวยั รนุ่ เกดิ จากปัจจยั ทางจิตใจและสงั คม ดงั น้ี 1. ขาดความรแู้ ละทักษะ ท่จี ําเปน็ สาํ หรบั วยั ร่นุ ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย อนั ตรายและความ เสย่ี งต่างในการดําเนนิ ชีวติ ความรู้เกี่ยวกับเรอ่ื งเพศ การจดั การอารมณ์เพศ ตนเอง การแกไ้ ขปญั หาต่างๆในชีวติ การปฏิเสธ การมกี ิจกรรมท่ีเปน็ สขุ เปน็ ประโยชนต์ ่อตนเอง และผู้อน่ื 2. ขาดความตระหนกั วยั รุ่นท่มี ีความรแู้ ละทกั ษะในการปอ้ งกันความเสยี่ ง แตย่ ังขาด ความตระหนักและ จรงิ จงั ต่อการป้องกนั ตนเอง เหน็ ประโยชน์ของการปอ้ งกัน และเหน็ โทษ หรอื พิษภยั จากพฤตกิ รรมเสย่ี ง จนใช้เปน็ หลักในจิตใจที่จะไม่ทาํ พฤตกิ รรมนน้ั 3. ขาดการควบคุมตนเอง ความรู้ ทักษะและความตระหนัก อาจไมช่ ่วยปอ้ งกันความ เสยี่ ง ถ้าวัยรุ่นไม่มีการ ควบคุมตนเองดีเพยี งพอ อาจคล้อยตามเพอื่ นหรือสิง่ แวดลอ้ มไดเ้ หล้า และยาเสพตดิ เป็นสาเหตทุ ่ีทาํ ให้จิตใจเสยี การ ควบคุมตนเอง อาจทําใหม้ ีพฤตกิ รรมเส่ียงได้ 4. ขาดวธิ ีการทท่ี ําให้ตนเองพึงพอใจทถ่ี กู ตอ้ ง วัยรุ่นต้องการกจิ กรรมทช่ี ่วยให้ตนเอง เกิดความ พงึ พอใจ ความสุข แตถ่ ูกตอ้ งเปน็ ทยี่ อมรับได้ วยั รุ่นที่มีจุดเดน่ เปน็ ทย่ี อมรับของ เพอ่ื นดา้ นบวกอยูแ่ ล้ว (เช่น การเรยี น กีฬา ดนตรี ฯลฯ) จะไม่แสวงหากิจกรรมด้านลบทอี่ าจ เป็นพฤติกรรมเส่ยี งต่างๆ 5. ปัญหาทางจติ ใจ อารมณ์ หรอื โรคทางจติ เวช ทําใหข้ าดความสุข เก็บกดความทกุ ข์ใจ ความก้าวร้าว หรือ เคยโดนกระทาํ ทารุณทางกายหรือทางเพศ จะแสดงออกเป็นพฤตกิ รรมเสยี่ ง ต่างๆ เพื่อชดเชย ปดิ บัง หรือระบาย อารมณ์เป็นพฤติกรรมเส่ียง เชน่ การใช้ยาเสพติดเพอื่ ลด ความเครียดหรอื อารมณ์เศรา้ 6. อิทธพิ ลของสิง่ แวดล้อม ทัศนคตแิ ละแบบอย่างในครอบครวั ความเปน็ สุขของ ครอบครัว อิทธพิ ลของ กลุ่มเพื่อน การตอ้ งการเป็นท่ียอมรับของเพอ่ื น และสังคม การชักจงู ใจ จากแฟชั่น ดารานกั ร้องการโฆษณา ค่านิยม ทางวัตถุนยิ ม

22 การปอ้ งกนั พฤตกิ รรมเสี่ยงในวัยร่นุ การปอ้ งกนั พฤติกรรมเส่ียงวัยรุ่น ทาํ ไดโ้ ดยลดปัจจัยสาเหตแุ ละเพิ่มปัจจยั ป้องกนั และ จัดการสิ่งแวดลอ้ มให้ เหมาะสม ดังน้ี 1. การใหค้ วามรู้ ท่ีจําเปน็ สําหรับวัยร่นุ ไดแ้ ก่ การเลี่ยนแปลงตนเองในวยั รุ่น ความรู้ เกย่ี วกบั ความปลอดภยั อันตรายและความเส่ยี งต่างในการดาํ เนนิ ชีวติ ความรู้เก่ยี วกบั เรือ่ งเพศ 2. การฝกึ ทักษะในการรูจ้ ักอารมณแ์ ละความคดิ ตนเอง จัดการกบั อารมณไ์ ด้จัดการ อารมณ์เพศตนเอง การ แก้ไขปญั หาต่างๆในชวี ิต การปฏิเสธ การมกี ิจกรรมท่ีเปน็ สขุ เป็น ประโยชน์ต่อตนเองและผอู้ นื่ 3. สรา้ งความตระหนกั ในการป้องกนั ความเสยี่ ง จริงจังต่อการป้องกันตนเองเห็น ประโยชน์ ของการปอ้ งกันและเห็นโทษหรือพิษภยั จากพฤตกิ รรมเส่ียง จนใช้เป็นหลักในจิตใจที่ จะไมท่ ําพฤติกรรมนน้ั 4. ฝกึ การควบคมุ ตนเอง ฝึกจติ ใจใหเ้ ข้มแข็ง การรจู้ กั จิตใจตนเองและควบคุมไดร้ ูจ้ ักย้ัง คดิ ฝกึ ระเบียบวนิ ัย ทม่ี าจากภายในใจตนเอง ฝกึ การปฏเิ สธเหล้าและยาเสพติดเป็นสาเหตทุ ีท่ ํา ให้จติ ใจเสยี การควบคุมตนเอง 5. ช่วยให้วยั รุ่นมีกจิ กรรมท่ที าํ ใหต้ นเองพงึ พอใจทถี่ ูกตอ้ ง วยั ร่นุ ต้องการกิจกรรมทช่ี ว่ ย ให้ตนเองเกดิ ความพงึ พอใจ ความสุข แตถ่ กู ตอ้ งเปน็ ท่ยี อมรับ วยั รุ่นทีม่ จี ุดเดน่ เป็นท่ียอมรบั ของเพื่อนด้านบวก จะไมแ่ สวงหา กิจกรรมดา้ นลบที่อาจเปน็ พฤติกรรมเสยี่ งต่างๆ 6. สร้างส่ิงแวดลอ้ มท่ีดพี ่อแม่เป็นแบบอยา่ ง มีทศั นคตทิ ่ดี ีต่อลูก แสวงหากิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ครอบครัว มคี วามสขุ ทัศนคติดตี อ่ การเรียนร้ทู ี่ถูกต้อง ส่งเสริมกลุม่ เพ่ือนที่ดีให้เป็นท่ี ยอมรบั ของ เพอ่ื น ครอบครวั ชมุ ชนและสังคม ขอ้ มูลจาก https://bit.ly/2DknglV/พฤติกรรมเสยี่ งในวัยรุ่น

23 ขนัÊ ทีÉ ś จดั กิจกรรมฝึ กฝนเรยี นรสู้ ทู่ ีม ให้นกั เรยี นทํากจิ กรรมลงในบตั รกจิ กรรม ใหน้ ักเรยี นนําคําตอบของแตล่ ะคนในกลุ่ม มารวมเป็นคําตอบที่สมบรู ณ์













30 10. พฤตกิ รรมส่ยี งต่อสขุ ภาพไดแ้ กอ่ ะไร กินอาหารที่ไม่ปลอดภยั สูบบุหรี่ ดม่ื สรุ า ใช้สารเสพติด ขาดการออกกําลังกาย สําส่อนทาง เพศ ไมใ่ สใ่ จสขุ ภาพของตนเอง

31 แนวการตอบบตั รกจิ กรรมที่ 2 ฉ 1. พฤตกิ รรมเส่ียง ก. โรคผิวหนัง อหิวาตกโรค ค 2. สถานการณ์เส่ยี ง ข. อตุ สาหกรรมห้องเย็น ช 3. มลพษิ ทางอากาศ ค. ความประมาท ก 4. มลพษิ ทางนา้ํ ง. ฟันเหลอื งถาวร จ 5. เคร่อื งจักรในโรงงานอตุ สาหกรรม จ. หอู ือ้ ชพี จรเต้นผดิ ปกติ ค 6. สิง่ แวดล้อมที่เส่ียงตอ่ การประกอบ ฉ. การกระทําของบุคคลท่ีแสดงออกมาท่ี อาชีพ ทาํ ให้เกิดความเสี่ยง ง 7. ยาเตตราซัยลิน ช. ใช้ยาไม่ถกู ขนาด ใชย้ าไมถ่ ูกกับโรค ช 8. การดอ้ื ยา ซ. กา๊ ซพษิ ควนั จากท่อไอเสยี ญ 9.พฤติกรรมเสีย่ งต่อการใช้สารเสพ ฌ. การซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นเอง ติด ฌ 10ความรู้เท่าไมถ่ ึงการณ์ ญ. ความอยากรูอ้ ยากลอง

32 แนวการตอบบตั รกจิ กรรมที่ 3 1. หากนกั เรียนอาศัยอยู่ในพืน้ ทีห่ รือชมุ ชนทมี่ ีการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนท้องถนน นกั เรียน มีวิธีหลีกเลยี่ งหรือปอ้ งกนั อันตรายอย่างไร มีวธิ ีหลกี เลี่ยงหรือปอ้ งกันอนั ตราย ดังน้ี 1) ไม่เข้าไปอย่หู รอื ไม่เข้าไปใกล้ในบริเวณท่ีมีการแข่งขันรถจกั รยานยนต์ 2) หากจําเปน็ จะต้องใชเ้ สน้ ทางนน้ั จะต้องขบั รถอยา่ งระมัดระวังและขบั ชิดขอบถนนด้านซา้ ย 3) หลกั เลยี่ งการคบเพ่อื นทเ่ี ข้ารว่ มการแขง่ รถจักรยานยนต์ 4) แจง้ ใหเ้ จา้ หนา้ ทต่ี ํารวจหรือหนว่ นงานที่เกย่ี วขอ้ งทราบ 2. การหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมเส่ียงและสถานการณเ์ ส่ยี งต่ออนั ตราย มีแนวทางในการปฏิบตั ิ อย่างไร 1) หลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสี่ยงและสถานการณ์เสย่ี งต่ออนั ตรายทกุ ชนิด 2) หลีกเลี่ยงการเขา้ ไปในสถานท่เี ส่ียงโดยไมจ่ ําเป็น หากมคี วามจําเป็นจะตอ้ งเข้าไปจะตอ้ งเพม่ิ ความระมดั ระวังให้มาก 3) เลือกคบเพอ่ื นทีม่ คี วามประพฤติดี และสามารถไวว้ างใจได้ 4) ติดตามข่าวสารท่ีเกยี่ วขอ้ งกับอันตรายจากส่ือต่าง ๆ เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการปอ้ งกัน ตนเอง

33 ภาพที่ 11 โปสเตอร์สาเหตุทย่ี าเสพตดิ สมั พันธ์กบั วัยรนุ่ มากกว่าวัยอื่นคืออะไร ทม่ี า : https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article

34 ขนÊั ทÉี ŝ สรปุ บทเรยี นและ ประเมินผลการทํางานกลม่ ุ ใหน้ กั เรียนสรุปบทเรียนทเี่ รยี นมา ให้แต่ละกลมุ่ รายงานผลการสรปุ เน้ือหาชองบทเรยี น และการทํากิจกรรมโดยใหค้ ําชมเชยและรางวัลแก่กลุ่ม ที่ถกู ต้องทสี่ ุด


















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook