สอ่ื สรา้ งสรรค์ให้คนไทยรกั การอ่าน ห้องสมุดประชาชนอําเภอทา่ บอ่ กศน.อําเภอท่าบ่อ สํานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย
วันอัฏฐมบี ชู า เป็นวันถวายพระเพลิง พระพุทธสรีระ หลังจากท่ีพระพทุ ธองค์ ทรงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานได้ ๘ วัน ในวันแรม ๘ คา เดือนวิสาขะ (เดือน ๖ ของไทย) นอกจากจะเปน็ วันถวายพระเพลิงพระ พุทธสรีระแล้ว วันน้ียงั เป็นวันคล้าย วันท่ีพระนางสิริมหามายา องค์พระพทุ ธ มารดาส้ินพระชนม์ (หลังเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ) และเปน็ วันคล้ายวันที่พระพทุ ธองค์ เสวยวิมตุ ติสุขตลอด ๗ วัน (หลังตรัสรู้) อีกด้วย
ความเป็นมาและความสําคัญ วันอัฏฐมบี ูชา วนั สําคัญอีกวันหน่ึงของ ชาวพทุ ธ ตรงกับวันพระ แรม ๘ คา เดือน วสิ าขะ กล่าวคือ เป็นเหตกุ ารณ์ท่เี กิดขน้ึ หลัง วันวสิ าบูชา ๘ วัน ถ้าหากปีใดเปน็ ปที ่มี ี อธกิ มาส (คือมีเดือน ๘ สองหน) ก็เล่ือนไป เปน็ เดือน ๗ ถึงแมว้ นั อัฏฐมบี ูชา จะเปน็ วัน สาํ คัญทางพทุ ธศาสนาวนั หน่ึง แต่เป็นที่น่า เสยี ดายวา่ ในเมอื งไทยเรามกั ลืมเลือนกันไป แล้ว จะมเี พียงบางวดั เท่าน้ันที่จัดให้มีการ ประกอบกศุ ลพิธใี นวันน้ี สมัยพุทธกาล เมอื งกสุ ินารา อันเป็นทีต่ ้ัง ของสาลวโนทยาน อยู่ในแควน้ มลั ละ โดยใน สมยั นั้นแควน้ มัลละ แยกเป็นสองสว่ น คือ ฝ่ายเหนือ มีเมอื งกสุ ินาราเปน็ เมอื งหลวง เจ้าปกครองเรยี กว่าโกสนิ ารกา และฝา่ ยใต้ มีเมืองปาวาเปน็ เมอื งหลวง เจ้าปกครองเรยี ก ว่า ปาเวยยมัลลกะ ทั้งสองเมืองนั้นตั้งอยูห่ ่าง กันเพียง ๑๒ กิโลเมตร มอี ํานาจในการบรหิ าร แยกจากกัน โดยมรี ะบอบการปกครองแบบ ราชาธปิ ไตยภายใต้รฐั ธรรมนูญ (สามคั คี ธรรม) โดยมีแม่นาหิรญั ญวดี ค่ันตรงกลาง
เหตุการณ์สาํ คัญ ท่เี กิดในวนั อัฏฐมีบูชาตามพทุ ธประวัติ พิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพ หลังจาก พระผูม้ พี ระภาคเจ้าเสด็จดับขันธป์ รนิ ิพพาน ใต้ต้นสาละในราตรี ๑๕ คา เดือน ๖ พวกเจ้า มลั ลกษัตรยิ ์จัดบูชาด้วยของหอม ดอกไม้ และ เครอ่ื งดนตรที กุ ชนิด ท่มี ีอยูใ่ นเมืองกสุ นิ ารา ตลอด ๗ วนั แล้วให้เจ้ามัลละระดับหัวหน้า ๘ คน สรงเกล้า นุ่งห่มผ้าใหม่ อัญเชญิ พระสรรี ะ ไปทางทศิ ตะวันออกของพระนคร เพือ่ ถวาย พระเพลิง สถานที่ประดิษฐานพระพุทธสรรี ะ เปน็ เวลา ๗ วัน ก่อนจะอัญเชญิ ไปถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณมกฏุ พนั ธนเจดีย์ ในวันท่ี ๘ อันเป็นทีม่ าของวันอัฏฐมบี ูชา
พระมหากัสสปะ: ประธานในการถวายพระ เพลิงพระพุทธสรรี ะ พวกเจ้ามลั ละถามถึงวธิ ปี ฏิบัติพระสรรี ะกับ พระอานนท์เถระ แล้วทําตามคําของพระเถระ นั้นคือ ห่อพระสรรี ะด้วยผา้ ใหมแ่ ล้วซับด้วยสําลี แล้วใชผ้ ้าใหมห่ ่อทบั อีก ทําเช่นนี้จนหมดผ้า ๕๐๐ คู่ แล้วเชญิ ลงในรางเหล็กทเี่ ติมด้วยนามนั แล้วทําจิตกาธานด้วยดอกไม้จันทน์และของ หอมทกุ ชนิด จากนั้นอัญเชญิ พวกเจ้ามลั ละระดับหัวหน้า ๔ คน สระสรงเกล้าและนุ่งห่มผ้าใหม่ พยายาม จุดไฟทีเ่ ชิงตะกอนแต่ก็ไม่อาจให้ไฟติดได้จึง สอบถามถึงสาเหตุ พระอนุรุทธะเถระ แจ้งวา่ \"เพราะเทวดามีค วามประสงค์ให้รอพระมหากัสสปะ และภิกษุหมู่ ใหญ่ ๕๐๐ รูป ผกู้ ําลังเดินทางมาเพอื่ ถวาย บังคมพระบาทเสียก่อน ไฟก็จะลุกไหม้\" กล่าวคือ หมูเ่ ทวดาเหล่าน้ัน เคยเป็นโยม อุปฏั ฐากของพระเถระ และพระสาวกผูใ้ หญ่มา ก่อน จึงไมย่ ินดีทีไ่ มเ่ ห็นพระมหากัสสปะเถระ และภิกษุสาวกทัง้ ๕๐๐ รูปอยูใ่ นพธิ ี
ครง้ั น้ันพระมหากัสสปะเถระและหม่ภู ิกษุ เดินทางจากเมืองปาวา หมายจะเขา้ เฝา้ พระ ศาสดา ระหว่างทางได้พบกับพราหมณ์คนหนึ่ง ถือ ดอกมณฑารพ สวนทางมา พระมหากัสสปะ ได้เห็นดอกมณฑารพก็ทราบวา่ มเี หตุการณ์ไม่ ปกติเกิดขน้ึ ดอกไม้น้ีมีเพียงในทพิ ยโ์ ลก ไม่มใี น เมืองมนุษย์ การทม่ี ดี อกมณฑารพอยู่ แสดงว่า จะต้องมอี ะไรเกิดข้นึ กับพระศาสดา พระมหา กัสสปะถามพราหมณ์นั้นวา่ ได้ขา่ วอะไรเกี่ยว กับพระศาสดาบา้ งหรอื ไม่ พราหมณ์นั้นตอบวา่ พระสมณโคดมได้ปรนิ ิพพานไปล่วงเจ็ดวนั แล้ว พระศาสดาปรนิ ิพพานแล้ว คําน้ีแทงใจ ของพระภิกษุปุถชุ นย่งิ นัก พระภิกษุศษิ ย์ของ พระมหากัสสปะบางรูป ท่ียังไมเ่ ปน็ พระอรหันต์ ก็กล้ิงเกลือกไปบนพื้น บ้างก็คราครวญราไห้ วา่ \"พระศาสดาปรนิ ิพพานเสียเรว็ นัก\" สว่ นพระ ภิกษุผ้เู ป็นอรหันต์ สน้ิ อาสวะแล้ว ย่อมเกิด ธรรมสังเวชว่า \"แม้พระศาสดา ผู้เปน็ ดวงตา ของโลก ยงั ต้องปรนิ ิพพาน สงั ขารธรรมไม่ เทย่ี งแทเ้ สียจรงิ หนอ\"
แต่ในหมู่ภิกษุทง้ั ๕๐๐ รูปนั้น เสียงของ สุภัททะ วุฑฒบรรพชิตก็ดังขน้ึ \"ท่านทงั้ หลายอย่าไปเสียใจเลย พระสมณ โคดมนิพพานไปซะได้ก็ดีแล้ว จะได้ไมม่ ีคนมา คอยจาจี้จาไช ว่าสง่ิ น้ีสมควรกับเรา สงิ่ น้ีไม่ สมควรกับเรา\" คําพูดของหลวงตาสภุ ัททะ เป็นท่สี งั เวช ต่อพระมหากัสสปะย่ิงนัก ท่านคิดวา่ พระผมู้ ี พระภาคยังนิพพานไปได้ไมน่ าน ก็มภี ิกษุบาป ชนกล่าวจาบจ้วงพระศาสดา จาบจ้วงพระธรรม วินัยเชน่ น้ี ถ้าเวลาผา่ นไปก็คงมีภิกษุ บาปชนเชน่ น้ี กล่าวจาบจ้วงพระธรรมวนิ ัย เกิดขน้ึ เปน็ อันมาก แต่ทา่ นก็ยง้ั ความคิดเช่นน้ีไว้ก่อน เพราะยงั ไม่ถึงเวลาท่จี ะกระทําส่งิ ใดๆ นอกจากจะต้อง จัดการถวายพระเพลิงพระพทุ ธสรรี ะเสยี ก่อน (ภายหลังจากการถวายพระเพลิงพระพทุ ธสรรี ะ เสรจ็ สน้ิ แล้ว ได้มี การสังคายนาพระธรรมวินัย ครง้ั ท่ี ๑ ในเวลาต่อมา)
เมอ่ื พระมหากัสสปะและภิกษุ ๕๐๐ รูป เดินทางมาถึงสถานที่ถวายพระเพลิง มกุฏพนั ธนเจดีย์ แล้ว ห่มจีวรเฉวยี งบา่ ข้างหน่ึง ประนมอัญชลี กระทําประทักษิณ รอบเชิง ตะกอน ๓ รอบ พระมหากัสสปะเปดิ ผ้าทางพระ บาทแล้ว ถวายบังคมพระบาททั้งสอง ด้วยเศยี รเกล้า โดยทา่ นกําหนดว่าตรงนี้เปน็ พระบาทแล้ว เข้าจตุตถฌาน อันเป็นบาทแห่ง อภิญญา ออกจากฌานแล้วอธษิ ฐานว่า ขอพระยุคลบาท ของพระองค์ที่มีลักษณะ เป็นจักรอันประกอบด้วยซพี่ นั ซี่ ขอจงชําแรกคู่ ผา้ ๕๐๐ คู่ พรอ้ มทง้ั สาํ ลี ไมจ้ ันทน์ ออกเปน็ ชอ่ ง ประดิษฐานเหนือเศยี รเกล้าของขา้ พระองค์ ด้วยเถิด
เม่อื อธษิ ฐานเสรจ็ พระยุคลบาทก็แหวกค่ผู ้า ๕๐๐ ค่อู อกมา พระเถระจับยุคลบาทไว้ม่นั และ น้อมนมสั การเหนือเศยี รเกล้าของตน มหาชน ต่างเห็นความอัศจรรยน์ ้ัน ก็ส่งเสียงแสดงความ อัศจรรย์ใจ เมอ่ื พระเถระและภิกษุ ๕๐๐ รูป ถวายบังคมแล้ว ฝา่ พระยุคลบาทก็เข้า ประดิษฐานในทเี่ ดิม ครน้ั แล้วเปลวเพลิงก็ลกุ โพลงทว่ มพระสรรี ะของพระศาสดา ด้วยอํานาจ ของเทวดา ในการเผาไหมน้ ี้ไมม่ ีควนั หรอื เขม่า ใด ๆ ฟุ้งข้ึนเลย เมื่อเพลิงใกล้จะดับก็มีทอ่ นา ไหลหลั่งลงมาจากอากาศและมีนาพุ่งขนึ้ จาก กองไม้สาละ ดับไฟท่ียงั เหลืออยู่น้ัน เหล่าเจ้ามัลละก็ปะพรมพระบรมสารรี กิ ธาตุ ด้วยของหอม ๔ ชนิด รอบๆ บรเิ วณ ก็โปรย ข้าวตอก เปน็ ต้น แล้วจัดกองกําลังอารกั ขา จัด ทาํ สัตติบญั ชร (ซีก่ รงทําด้วยหอก) เพื่อป้องกัน ภัย แล้วให้ขงึ เพดานผ้าไว้เบ้อื งบน ห้อยพวง ของหอม พวงมาลัย พวงแก้ว ให้ล้อมมา่ นและ เสอื่ ลําแพนไว้ท้งั สองขา้ ง ต้ังแต่มกุฏพันธน เจดีย์ จนถึงศาลาด้านล่าง ให้ติดเพดานไว้ เบ้ืองบน ตลอดทางติดธง ๕ สีโดยรอบ ให้ตั้งต้น กล้วย และหม้อนา พรอ้ มกับตามประทีปมดี ้าม ไวต้ ามถนนทกุ สาย
พวกเจ้ามลั ละนําพระธาตุทั้งหลายวางลงใน รางทองแล้ว อัญเชญิ ไว้บนคอช้าง นําพระธาตุ เขา้ พระนครประดิษฐานไวบ้ นบัลลังก์ทที่ าํ ด้วย รตั นะ ๗ อยา่ ง ก้ันเศวตรฉัตรไวเ้ บ้อื งบน แล้ว จัดกองกําลังอารกั ขาอยา่ งนี้คือ \"จัดเหล่าทหาร ถือหอกล้อมพระธาตไุ ว้ จากน้ันจัดเหล่าช้าง เรยี งลําดับกระพองต่อกันล้อมไว้ พน้ จากเหล่า ช้าง ก็เปน็ เหล่าม้า เรยี งลําดับคอต่อกัน จากน้ัน เป็นเหล่ารถ เหล่าราบรอบนอกสุดเป็นทหารธนู ล้อมอยู่\" พวกเจ้ามลั ละจะจัดฉลองพระบรมธาตุ ตลอด ๗ วนั ต้องการความมั่นใจว่า ๗ วัน น้ีแม้ จะมกี ารละเล่นก็เปน็ การละเล่นท่ีไมป่ ระมาท
แบง่ พระบรมสารรี กิ ธาตุ หลังจากน้ัน เม่ือขา่ วการปรนิ ิพพานของ พระพทุ ธเจ้า และการถวายพระเพลิงพระพุทธ สรรี ะ พระสรรี ะกลายเปน็ พระบรมสารรี กิ ธาตุ แล้ว เหล่ากษัตรยิ น์ในนครต่างๆ เม่ือทราบขา่ ว ก็ปรารถนาจะได้พระบรมธาตุไปบูชาจึงสง่ สาสน์สง่ ฑูตมาขอพระบรมสารรี กิ ธาตุ ด้วย เหตุผลวา่ \"พระผมู้ ีพระภาคของเรา\" \"พระผมู้ ี พระภาคเจ้าเป็นกษัตรยิ ์ แมเ้ ราก็เปน็ กษัตรยิ ์ เราจึงมีส่วนท่ีจะได้พระบรมธาตบุ ้าง\" เหล่ามัลละกษัตรยิ ์ก็ไมย่ อมยกให้ ด้วย เหตุผลวา่ \"พระผูม้ พี ระภาคเจ้าปรนิ ิพพานใน เมืองของเรา\" ดังนั้น กษัตรยิ ใ์ นพระนครต่างๆ เชน่ พระเจ้าอชาตศตั รู จอมกษัตรยิ ์แควน้ มคธ และกษัตรยิ ์เหล่าอื่นๆ จึงยกกองทพั มาด้วยหวัง วา่ จะแยง่ ชิงพระบรมสารรี กิ ธาตุ เมอ่ื ยกกองทพั มาถึงหน้าประตูเมือง ทําทา่ จะเกิดศกึ สงคราม แยง่ ชงิ พระบรมธาตุ ครง้ั นั้น พราหมณ์ผูใ้ หญ่ คนหนึ่ง คือ โทณพราหมณ์ หวน่ั เกรงว่าจะเกิด สงครามใหญ่
จึงข้นึ ไปยืนบนปอ้ มประตูเมอื ง ประกาศวา่ \"พระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา ทรงสรรเสรญิ ขนั ติ สรรเสรญิ สามัคคีธรรม การทเี่ ราจะมา ประหัตประหารเพราะแยง่ ชิงพระบรมธาตขุ อง พระองค์ผ้ปู ระเสรฐิ ย่อมไมส่ มควร ดังน้ันขอ ให้ท่านท้งั หลายจงยินดีในการท่ีจะแบ่งกันไป เป็น ๘ ส่วน และนําไปบูชายงั บ้านเมืองของท่าน ทงั้ หลายเถิด เพราะผูศ้ รทั ธาในพระผู้มีพระภาค เจ้านั้น มมี าก\"
หมู่คณะเหล่าน้ันตอบวา่ ข้าแต่พราหมณ์ ถ้าเช่นน้ันขอท่าน นั่นแหละจงแบ่งพระสรรี ะพระ ผมู้ ีพระภาคออกเปน็ ๘ สว่ นเท่า ๆ กัน ให้เรยี บรอ้ ยเถิด โทณพราหมณ์รบั คําของหมู่ คณะเหล่าน้ันแล้ว จึงแบ่งพระสรรี ะพระผู้มี พระภาค ออกเป็น ๘ ส่วนเทา่ กันเรยี บรอ้ ย จึงกล่าว กะหมู่คณะเหล่านั้นว่า ดกู รท่านผเู้ จรญิ ท้ังหลาย ขอพวกท่านจง ให้ตมุ พะน้ีแก่ข้าพเจ้าเถิด ขา้ พเจ้าจักกระทาํ พระสถปู และกระทําการฉลองตุมพะบ้างทตู เหล่าน้ันได้ให้ตุมพะแก่โทณพราหมณ์ ฯ พวกเจ้าโมรยิ ะเมอื งปิปผลิวัน ได้สดับข่าว ว่าพระผมู้ ีพระภาคเสด็จปรนิ ิพพานในเมือง กสุ นิ ารา จึงส่งทตู ไปหาพวกเจ้ามัลละเมอื ง กสุ นิ ารา วา่ พระผู้มีพระภาคเปน็ กษัตรยิ ์ แมเ้ ราก็เปน็ กษัตรยิ ์ เราควรจะได้ส่วนพระสรรี ะ พระผมู้ ีพระภาคบา้ ง จักได้กระทาํ พระสถปู และ การฉลองพระสรรี ะพระผู้มีพระภาค พวกเจ้า มลั ละ เมอื งกุสินาราตอบว่า ส่วนพระสรรี ะ พระผู้มพี ระภาคไมม่ ี เราได้แบ่งกันเสยี แล้ว พวกท่านจงนําพระอังคารไปแต่ที่นี่เถิด พวกทตู น้ันนําพระอังคารไปจากท่ีนั้นแล้ว ฯ
ครง้ั น้ัน พระเจ้าแผ่นดินมคธ พระนามวา่ อชาตศตั รู เวเทหิบุตรได้กระทําพระสถปู และการฉลองพระสรรี ะพระผูม้ พี ระภาค ในพระนครราชคฤห์ พวกกษัตรยิ ์ ลิจฉวี เมอื งเวสาลี ก็ได้กระทําพระสถปู และการฉลอง พระสรรี ะพระผู้มพี ระภาคในเมืองเวสาลี พวกกษัตรยิ ศ์ ากยะเมืองกบลิ พสั ด์ุ ก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระสรรี ะพระผู้มี พระภาคในเมืองกบลิ พัสด์ุ พวกกษัตรยิ ถ์ ูลี เมืองอัลกัปปะ ก็ได้กระทําพระสถูปและ การฉลองพระสรรี ะพระผู้มีพระภาคในเมือง อัลกัปปะ พวกกษัตรยิ โ์ กลิยะเมอื งรามคาม ก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระสรรี ะ พระผู้มพี ระภาคในเมืองรามคาม พราหมณ์ ผูค้ รองเมืองเวฏฐทปี กะ ก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระสรรี ะพระผูม้ ีพระภาคในเมอื ง เวฏฐทีปกะ พวกเจ้ามัลละเมืองปาวาก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระสรรี ะพระผมู้ พี ระ ภาคในเมอื งปาวา พวกเจ้ามลั ละ เมอื งกุสนิ ารา ก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระสรรี ะ พระผมู้ พี ระภาคในเมืองกุสินารา
โทณพราหมณ์ก็ได้กระทาํ สถปู และการ ฉลองตุมพะ พวกกษัตรยิ ์โมรยิ ะเมอื งปปิ ผลิวนั ก็ได้กระทาํ พระสถปู และการฉลองพระอังคาร ในเมอื งปปิ ผลิวัน ฯ พระสถปู บรรจุพระสรรี ะ มแี ปดแห่ง เป็นเก้าแห่งทงั้ สถูปบรรจุตุมพะ เปน็ สิบแห่ง ทั้งพระสถูปบรรจพุ ระอังคารด้วย ประการฉะนี้ การแจกพระธาตแุ ละการก่อ พระสถปู เชน่ นี้ เปน็ แบบอย่างมาแล้ว สถานท่ี ท่สี นั นิษฐานกันวา่ เปน็ ทโ่ี ทณพราหมณ์ แจกพระบรม สารรี กิ ธาตุแก่เจ้าผูค้ รองนครท้งั ๘ ในกสุ ินารานคร ปัจจุบนั ต้ังอยู่ทางด้านหลังของวดั ไทยกุสนิ าราเฉลิมราชย์ เมืองกสุ ินารา รฐั อุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย โดยมตี ้นโพธ์ขิ นาดใหญเ่ ปน็ ท่สี งั เกต
พระสรรี ะของพระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ แปดทะนาน เจ็ดทะนาน บูชากันอยูใ่ นชมพูทวปี สว่ นพระสรรี ะอีกทะนานหน่ึงของพระพุทธเจ้า ผูเ้ ปน็ บุรุษทป่ี ระเสรฐิ อันสงู สดุ พวกนาคราช บูชากันอยู่ในรามคาม พระเข้ียวองค์หน่ึงเทวดา ชาวไตรทพิ ยบ์ ูชาแล้ว สว่ นอีกองค์หนึ่งบูชากัน อยูใ่ นคันธารบุรี อีกองค์หน่ึงบูชากันอยูใ่ นแคว้น ของพระเจ้ากาลิงคะ อีกองค์หน่ึง พระยานาค บูชากันอยู่ ฯ ด้วยพระเดชแห่งพระสรรี ะพระพทุ ธเจ้าน้ัน แหละ แผน่ ดินน้ีช่ือว่าทรงไว้ซ่งึ แก้วประดับ แล้วด้วยนักพรตผู้ประเสรฐิ ท่สี ุด พระสรรี ะของ พระพุทธเจ้า ผ้มู จี ักษุนี้ ช่ือวา่ อันเขาผูส้ ักการะๆ สักการะดีแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์ใด อันจอม เทพจอมนาคและจอมนระบูชาแล้ว อันจอม มนุษย์ผปู้ ระเสรฐิ สดุ บูชาแล้วเหมือนกัน ขอทา่ น ท้งั หลาย จงประนมมือ ถวายบงั คมพระสรรี ะ นั้นๆ ของพระพทุ ธเจ้าพระองค์นั้น พระพทุ ธเจ้า ทัง้ หลายหาได้ยากโดยรอ้ ยแห่งกัป ฯ พระทนต์ ๔๐ องค์ บรบิ ูรณ์ พระเกศาและพระโลมา ทั้งหมด พวกเทวดานําไปองค์ละองค์ๆ โดยนํา ต่อๆ กันไปในจักรวาล ดังนี้แล ฯ— ท่มี า: พระสตุ ตันตปิฎก ทฆี นิกาย มหาวรรค มหาปรนิ ิพพาน สูตร ขอ้ ท่ี ๑๕๙-๑๖๒
ประเพณีวันอัฏฐมีบูชาในประเทศไทย ประเพณีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ จําลองในประเทศไทยพบที่วดั บรมธาตทุ งุ่ ยั้ง อําเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเพณีน้ีมีมา แต่เมอ่ื ใดไมป่ รากฏ ปจั จบุ นั ประเพณีน้ีได้รบั การสนับสนุนจากทางหน่วยงานภาครฐั และ เอกชน โดยจัดเป็นงาน วันอัฏฐมีบูชาราํ ลึก เมอื งทงุ่ ย้งั ณ วดั บรมธาตทุ ุ่งย้ัง อําเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์เปน็ ประจําทกุ ปี โดยกําหนด จัดงานในวันวสิ าขบูชา วันข้นึ ๑๕ คา เดือน ๖ ถึงวันแรม ๘ คา เดือน ๖ รวม ๙ วนั กิจกรรม ภายในงานมกี ารแสดง แสง สี เสียง ต้ังแต่ พระพทุ ธเจ้าเสด็จปรนิ ิพพาน จนถึงพธิ ถี วาย พระเพลิงพระบรมศพพระพทุ ธเจ้า (จําลอง) มีประชาชนชาวจังหวดั อุตรดิตถ์และจังหวัด ใกล้เคียงเขา้ ชมเป็นจํานวนมาก นอกจากนี้ยงั พบประเพณีการจําลองถวาย พระเพลิงอีกแห่งหน่ึงในภาคกลาง คือ วดั ใหม่ สุคนธาราม จัดโดยองค์การบรหิ ารสว่ นตําบล วัดละมุด ตําบลวัดละมดุ อําเภอนครชยั ศรี จังหวัดนครปฐม มกี ารสบื สานประเพณีนี้มา ยาวนาวกว่า ๑๒๐ ปี
ซึง่ ถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในล่มุ นา ภาคกลางท่ีรกั ษาประเพณีน้ีมายาวนานทสี่ ดุ เป็นประเพณีพ้ืนบ้านท่ีชาวบ้านรว่ มกันจัดขบวน แห่เครอ่ื งสกั การะ ตะไล บงั้ ไฟ มาจดุ เพือ่ เปน็ พุทธสกั การะและมีขบวนพทุ ธประวัติจําลอง หลักธรรมคําสอน ก่อนทจ่ี ะมพี ิธกี ารจําลองการ ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซ่งึ มปี ระชาชนใน ชมุ ชนและทวั่ ไปแห่แหนกันมารว่ มงานเป็น จํานวนมาก งานประเพณีวันอัฏฐมีบูชาราํ ลึก เมอื งทงุ่ ย้งั ณ วดั พระบรมธาตทุ ุ่งย้งั ต.ทุ่งย้งั อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
คณะผจู้ ัดทํา ทปี่ รกึ ษา นายปุณณรตั น์ ศรที าพฒุ ผอู้ ํานวยการ สาํ นักงาน กศน. จังหวัดหนองคาย นางสาวปารชิ าติ ไชยสถิตย์ รองผู้อํานวยการ สํานักงาน กศน.จังหวัดหนองคาย นางจามรี ภเู มฆ ผ้อู ํานวยการ กศน.อําเภอทา่ บอ่ ผู้จัดทํา/รวบรวมข้อมลู /ออกแบบ นางสาววรุณยุภา นาเกลือ บรรณารกั ษ์ชํานาญการ กศน.อําเภอทา่ บอ่ หนังสือเล่มน้ีเปน็ ลิขสทิ ธขิ์ อง ห้องสมุดประชาชนอําเภอท่าบ่อ กศน.อําเภอทา่ บอ่ สํานักงาน กศน.จังหวดั หนองคาย พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: