Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิธีการแบบเปิด Open Approach

วิธีการแบบเปิด Open Approach

Published by monthakarn Muenkun, 2022-03-29 14:14:49

Description: รายงานการการศึกษาค้นคว้านี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา MAP4405 สัมมนาการศึกษาคณิตศาสตร์
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2565

Search

Read the Text Version

proach Open Approach Open Approach Open Approach Open Approac en Approach Open Approach Open Approach Open Approach Open Ap นายนนธกาญ สิงหค์ ง สาขาวิชาคณติ ศาสตร์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสุนนั ทา





Nohda (2000) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ วิธีการแบบเปิด หมายถึง วิธีการหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ คณิตศาสตร์กับธรรมชาติของนักเรียน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้ วิธีการท่ีหลากหลาย ซ่ึงมีจุดมุ่งหมายเพ่ือกระตุ้นแนวคิดของนักเรียนจน สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองจนน าไปสู่การแก้ปัญห า สถานการณต์ า่ ง ๆ ได้ ไมตรี อินทร์ประสิทธ์ิ (2547) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิด เป็นการสอนเพ่ือให้นักเรียนทุกคนสามารถ เรียนคณิตศาสตร์ในแนวทางท่ีตอบสนองความสามารถของพวกเขา ควบคู่ไปกับระดับของการตัดสินใจด้วยตนเองในการเรียนรู้ และสามารถ ขยายหรือเพ่ิมเติมคุณภาพของกระบวนการและผลที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ คณติ ศาสตร์ Pehkonen (1997) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดย ใช้วิธีการแบบเปดิ หมายถึง วธิ กี ารสอนที่ใช้ปญั หาปลายเปิดในห้องเรียน เพ่ือสง่ เสริมการอภปิ รายแนวคิดเก่ียวกบั คณิตศาสตร์ ผู้ศึกษาสรุปความหมายของวิธีการแบบเปิดได้ว่า เป็นการ จัดการกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอนที่เนน้ ให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์การเรียนรู้ ที่หลากหลายจากปัญหาปลายเปิด โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้วิธีการท่ี หลากหลายในการหาคาตอบ และส่งเสริมให้นักเรียนมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกันระหว่างกันในชั้นเรียน และเป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวของ นกั เรียนเพ่ือท่ีจะนาไปส่กู ารแก้ปัญหาในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้

การนาเสนอปัญหา การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ปลายเปดิ ของนักเรียน การสรปุ โดยเชื่อมโยง การอภปิ รายร่วมกนั ใน แนวคิดนกั เรยี น ช้นั เรยี น Inprasit (2011) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิด ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังน้ี 1. ข้ันนาเสนอปัญหาปลายเปิด (Posing Open-Ended Problem) เป็นข้ัน ท่ีครูเสนอปัญหาปลายเปิดในช้ันเรียน ครูจะต้องอธิบายปัญหานั้นให้นักเรียน ได้เข้าใจถงึ ความสมั พนั ธ์ กฎ และ เง่ือนไขของปญั หานั้น ๆ เพราะนักเรียนบาง คนอาจจะไม่เข้าใจปัญหาเนื่องจากเป็นปัญหาท่ีไม่คุ้นเคยและไม่เคยพบเจอมา กอ่ น โดยกระตุ้นให้นักเรียนเห็นถึงความสาคัญของปัญหา อาจใช้สื่อการสอน เพ่ือให้นักเรียนเข้าใจยิ่งข้ึนและให้ข้อมูลท่ัวไปเพ่ิมเติม เพ่ือให้เห็นปัญหาที่เป็น รูปธรรมมากข้ึน รวมถึงยกตัวอย่างแนวทางการคิดที่หลากหลายเก่ียวกับ ปญั หาน้ัน ๆ 2. ข้ันการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน (Student’sSelf-Learning) เป็นข้ันท่ีให้นักเรียนแต่ละคนได้ใช้ความคิดทางคณิตศาสตร์อย่างอิสระในการ แก้ปัญหา ครูไม่ควรกาหนดแนวทางการคิดของนักเรียนเพราะเน้นให้นักเรียน ไ ด้ คิ ด ห า แ น ว ท า ง ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ที่ ห ล า ก ห ล า ย ซึ่งรูปแบบการสอนนี้เป็นการรวมกันของสองส่ิงคือการทางานของแต่ละบุคคลและ การอภิปรายในช้ันเรียน

การนาเสนอปัญหา การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ปลายเปดิ ของนกั เรยี น การสรุปโดยเชื่อมโยง การอภปิ รายร่วมกันใน แนวคดิ นกั เรียน ช้ันเรียน 3. ขั้นอภิปรายและเปรียบเทียบแนวคิดในชั้นเรียน (Whole Class Discussion and Comparison) เป็นข้ันท่ีนักเรียนจะต้องอภิปรายแนวคิดการ ปัญหาของตนเองในชั้นเรียน สิ่งที่สาคัญคือการบันทึกแนวคิดการแก้ปัญหา ของนักเรียนในใบกิจกรรมหรือสมุดบันทึกเพ่ือให้มองเห็นถึงแนวคิดของ นักเรียนที่เป็นลายลักษณ์อักษร และครูก็จะสามารถประเมินนักเรียนได้จากใบ กจิ กรรมหรอื สมดุ บนั ทึกนั้น ๆ 4. ขั้นสรุปโดยเช่ือมโยงแนวคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน (Summing-Up by Connecting Student’s Emergent mathematical Ideas) เป็นขั้นท่ีครูหรือผู้เรียนควรเขียนแนวคิดของแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มบน กระดาน เพ่ือให้นักเรียนทุกคนได้เห็นถึงแนวคิดที่หลากหลาย แล้วครูทาการ เปรียบเทียบแนวคิดของนักเรียนถึงความเหมือนและความต่างของแนวคิดนั้น ๆ ครูควรส่งเสริมแนวคิดท่ีหลากหลายของนักเรียนในทางบวก พร้อมทั้ง แนะนาและปรับเปลี่ยนตามความคดิ เห็นของนักเรยี นคนอื่น ๆ

ครูมี ห น้ าท่ีใ น ก ารจัด ห้ องเรียน โด ยใ ช้ ปัญ ห า ปลายเปิด เพื่อให้นักเรยี นมีความ2กระตอื รอื รน้ ท่ีจะแกป้ ญั หา ครูให้นักเรียนได้เรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตนเอง ใหเ้ วลานักเรียนในการคิดและสืบค้นวธิ ีการแกป้ ัญหา ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีการอภิปรายแลกเปลี่ยน แนวคิดซ่ึงกันและกัน มีการสะท้อนกลับการเรียนรู้ของ นกั เรียน ครตู ้องพยายามทาความเข้าใจแนวคิดของนักเรียน ให้ได้มากที่สุด และพยายามทาให้นักเรียนสามารถเข้าใจ แนวคดิ ของนกั เรียนคนอื่นได้

ไมตรี อินทร์ประสทิ ธิ์ (2551, บทสมั ภาษณ)์ ได้กล่าวว่า ผล การศึกษาวิจัยวิจัยภายในโรงเรียนท่ีดาเนินการสอนแบบวิธีการแบบเปิด เด็กหลาย ๆ คน มักจะบอกว่ารอเล่นหรือรอเรียนคณิตศาสตร์ซ่ึงเป็นเจต คติท่ีต่างจากเดิม เป็นปรากฏการณ์ท่ีไม่เคยเป็นมาก่อนและผลจากการ สอนน้ันยังทาให้ตัวเด็กเองสามารถคิดได้ค่อนข้างสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยสังเกตจากชิ้นงานต่าง ๆ ของเด็ก รวมถึงตัวของครูหรืออาจารย์เองก็ ตระหนกั ถงึ การพัฒนาตัวเองไปพรอ้ มกับเดก็ ภายในหอ้ งเรียนนนั้ เกษม เปรมประยูร และคณะ (2554) ได้กล่าวว่า การจัด กิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธีการแบบเปิด ทาให้นักเรียนสามารถ พัฒนาภาษาทางคณิตศาสตร์ โดยนักเรียนสามารถใช้ภาษาของนักเรียน เองในการอธิบายและให้เหตุผลได้รวมทั้งส่ือถึงแนวคิดทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนในการแก้ปัญหาในกลุ่มย่อยและภาษาทางคณิตศาสตร์ของ นักเรียนไม่ได้เป็นคาศัพท์ท่ีเป็นทางการแต่เป็นภาษาท่ีนักเรียนใช้ใน ชีวิตประจาวันท่ีประกอบไปด้วยแนวคิดทางคณิตศาสตร์ การเขียนแสดง แนวคดิ ดว้ ยภาพและการใชท้ ่าทางของนักเรียน

พัทธยากร บุสสยา (2559) ได้กล่าวว่า การจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้วิธีการแบบเปิดนั้นจะช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการ เรียนมากขึ้น นักเรียนมีอิสระในการคิด มีโอกาสได้ใช้ความรู้และ ประสบการณ์ในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์มากข้ึนและนักเรียนยังมีแรง กระตุ้นหรือแรงจูงใจในการเรียนมากขึ้นทาให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี อีกท้ัง นักเรียนยังได้มีโอกาสได้แลกเปล่ียนความรู้ ความคิดเห็นกับนักเรียนคน อน่ื ผู้ศึกษาสรุปประโยชน์ของวิธีการแบบเปิด ได้ว่าการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบเปิดน้ันช่วยให้นักเรียนฝึกกระบวนการคิด แก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุและผล และยังช่วยกระตุ้นให้นักเรียนได้สะท้อน แนวคิดของตนเองในการทากิจกรรมการเรียนรู้และได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กบั นักเรียนคนอน่ื ในช้ันเรียน

พ้ืนท่ีสาหรบั การทบทวนบทเรียน และการนาเสนอปญั หา/สถานการณ์ปลายเปิด พน้ื ที่สาหรับการนาเสนอคาส่ังของกิจกรรม พ้นื ท่ีสาหรบั การตดิ ผลงานนักเรียน พน้ื ท่ีสาหรบั การสรุปบทเรยี น

เกษม เปรมประยูร, สดุ าลัด ลอยฟ้า และไมตรี อินทร์ประสทิ ธ์ิ. (2554). การพัฒนาภาษาทาง คณิตศาสตรข์ องนกั เรยี นโดยใชว้ ิธกี ารแบบเปดิ . ใน เอกสารการประชมุ ทางวชิ าการ ประจาปคี ณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ 9-10 กนั ยายน 2554 (30-36). ขอนแกน่ : คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น. พิมพ์สภุ า ว่นุ เหลี่ยม. (2563). ความสามารถในการแก้ปัญหาและการสอื่ สารทาง คณติ ศาสตร์ เร่ือง สมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี ว ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 โดยใช้วธิ ีการแบบเปิด. (วิทยานิพนธป์ รญิ ญาวทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ ). มหาวิทยาลยั มหาสารคาม, คณะ วทิ ยาศาสตร์, สาขาวิชา คณิตศาสตรศ์ ึกษา ภคปภา เวชกจิ . (กรกฎาคม-กนั ยายน 2551). บทสัมภาษณ์ นวัตกรรมการเรยี นการสอน คณิตศาสตรแ์ นวใหม่ ผู้ชว่ ยศาสตรต์ ราจารย์ ดร. ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์. วารสาร ศูนยบ์ รกิ ารวิชาการ, 16(3). ไมตรี อนิ ทร์ประสิทธ.์ิ (2547) การสอนโดยใชว้ ิธีการแบบเปดิ ในช้นั เรยี นคณติ ศาสตรข์ อง ญ่ีปุ่น. ขอนแกน่ : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . ยุพาพกั ตร์ สะเดา. (2555). พฒั นากิจกรรมการเรยี นการสอนภาษาไทยด้วยกระบวนการ Lesson Study หรรษานาพา Open Approach. วารสารวชิ าการ กรมวิชาการ, 25-35. วิจารณ์ พานชิ . (2557). Open approach: วธิ ปี ระยุกตก์ ารเรยี นรแู้ บบ Active learning สู่การเรียนรู้ในศตวรรษ ท่ี 21. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก www.gotoknow.org/posts/568714. ศ ศิ ธ ร แ ม้ น ส ง ว น . ( 2 5 5 5 ) . พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร ส อ น ค ณิ ต ศ า ส ต ร์ 2 . ก รุ ง เ ท พ ฯ : ม ห า ว ท ย า ลั ย รามคาแหง. ศิริศุก ร์ ศิริโช คชัยตระกูล แ ละคณะ. ( 2554 ). ก ารพัฒนากิจกรรมก ารเรียนรู้คณิตศ าส ตร์ ชั้น ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 3 โ ด ย ใ ช้ วิ ธี ก า ร แ บ บ เ ปิ ด ( OpenApproach) ด้ ว ยน วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า ชั้ น รี ย น ( LessonStudy) . ข อ น แ ก่ น : โ ร ง เ รี ย น ส า ธิ ต ม ห า วิ ท ย า ลั ย ข อ น แ ก่ น (ศกึ ษาศาสตร์) ระดับประถม. ศุภมาศ แก้วมณี. (2561). การจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการแบบเปิด เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ ปญั หา คณิ ต ศ าส ต ร์ ข อ ง นั กเ รี ย นช้ั น ป ระ ถ ม ศึ กษ า ปี ท่ี 4 . ( วิ ท ย านิ พ น ธ์ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร มหาบัณฑติ ). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี . คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม . สาขาการวจิ ยั และพัฒนาหลกั สตู ร. Becker, J. P., & Shimada, S. (1997). The Open-ended approach: A new proposal for teaching mathematics. Reston: National Council of Teachers of Mathematics. Henlsinki: Department of Teacher Education University of Helsink Inprasit, M. (2011). One feature of adaptive lesson study in Thailand: Designing Learning unit. Journal of Science and Mathematics Education in Southeast Asia, 34(1), 47-66. Nohda, N. (2000). A study of “poen-approach” method in school mathematics teaching. 10th ICME, Makuhari, Japan. Pehkonen, E. (1997). Use of open-ended problems in mathematics classroom. Sawada, S. (1997). The Open-ended approach: A new proposal for teaching mathematics. Reston: National Council of Teachers of Mathematics.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook