ภาษาไทย

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนเทศบาล 6 (วดั ตันตยาภิรม) ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช 2566 (ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 และฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560) ระดบั ประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาล 6 (วดั ตนั ตยาภริ ม) สำนกั การศึกษา เทศบาลนครตรงั

๒ คำนำ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๖ (วัดตันตยาภิรม) พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖6 ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับประถมศึกษา ใช้เป็นทิศทางในการจัดการเรียนการสอนตาม มาตรฐานการศึกษา เพ่ือพฒั นาผเู้ รียนทุกคนใหม้ คี ุณภาพดา้ นความรู้ และทักษะท่ีจำเป็นสำหรับใช้เป็นเคร่ืองมือใน การดำเนินชวี ติ ในสงั คมทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลงและแสวงหาความรูเ้ พอื่ พฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๖ (วัดตันตยาภิรม) พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖6 ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา ประกอบดว้ ย วิสัยทัศน์ ทำไมต้องเรียน เรียนรู้อะไร สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียน ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง การวิเคราะห์เพ่ือจัดทำ โครงสรา้ งรายวชิ าตลอดจนคำอธบิ ายรายวิชา คณะผู้จัดทำขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยให้เอกสารฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ ทางโรงเรียนเห็นว่า หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนเทศบาล ๖ (วดั ตันตยาภริ ม) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖6 ) กลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาไทย จะเป็นประโยชน์ตอ่ คณะครู สถานศกึ ษาและผู้ท่ีมีส่วนเกีย่ วข้องทกุ ฝ่ายเป็นอยา่ งดี คณะครกู ลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ล

สารบาญ ๓ เรื่อง หน้า คำนำ 2 สารบญั 3 วิสัยทัศน์ 4 ทำไมต้องเรียนภาษาไทย 4 เรยี นรู้อะไรในภาษาไทย 5 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 6 คุณภาพของผเู้ รียน จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 7 คณุ ภาพของผูเ้ รยี น จบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ 7 ตัวชวี้ ัดและสาระการเรียนรูแ้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 8 โครงสรา้ งหลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย 35 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวชิ า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 36 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวิชา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 44 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวชิ า ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 52 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวิชา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 62 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวชิ า ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 71 ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวิชา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 80 คำอธบิ ายรายวชิ า 92 โครงสรา้ งหน่วยการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน โครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรู้รายวิชาเพิม่ เตมิ 107 ตารางวเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวัด 152 ตารางวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ 156 โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย 95 โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่มิ เติม กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย 98 คณะผู้จดั ทำ 110

๔ วิสยั ทศั น์ ภาษาไทยเป็นเคร่อื งมอื และเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติ เพอ่ื การสอ่ื สารทาความเขา้ ใจกนั และใชภ้ าษา ในการประกอบกจิ การทงั้ ตนครอบครวั กจิ กรรมสงั คม และประเทศชาติ เป็นเคร่อื งมอื การเรยี นรู้ การบนั ทกึ เร่อื งราวในอดตี ถงึ ปัจจุบนั และเป็นวฒั นธรรมของชาติ ดงั นั้นการเรยี นภาษาไทย จงึ ต้องเรยี นรเู้ พ่อื ให้เกดิ ทกั ษะอย่างถูกต้องเหมาะสมในการส่อื สารเป็นเคร่อื งมอื ในการเรยี นรู้ และประสบการณ์เรยี นรใู้ นฐานะเป็น วฒั นธรรมทางภาษาให้เกิดความช่ืนชม ซาบซ้ึง และมีความภูมใิ จในภาษาไทย โดยเฉพาะคุณค่าของ วรรณคดี และภูมปิ ัญญาทางภาษาของบรรพบุรุษทส่ี รา้ งสรรคไ์ ว้ อนั เป็นสว่ นสรา้ งความงดงามในชวี ติ การเรยี นรู้ภาษาไทยย่อมเก่ยี วพนั กบั ความคดิ มนุษย์ เพราะภาษาเป็นส่อื ของความคดิ การเรยี นรู้ ภาษาไทย จงึ ส่งเสรมิ ผู้เรยี นคดิ สรา้ งสรรค์ คดิ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คดิ ตดั สนิ ใจขณะเดียวกนั การใช้ภาษไทย อย่างมเี หตผุ ล ใชใ้ นทางสรา้ งสรรคแ์ ละใชอ้ ย่างสละสลวย งดงาม สรา้ งเสรมิ บุคลกิ ภาพของผใู้ ชภ้ าษาใหเ้ กดิ ความน่าเชอ่ื ถอื และเช่อื ภูมดิ ว้ ย ภาษาไทยเป็นทกั ษะทต่ี ้องฝึกฝนใหเ้ กดิ ความชานาญในการใช้ภาษา เพ่อื การส่อื สารการอ่าน และ การฟังเป็นทกั ษะในการใช้เร่อื งราว ความรู้และประสบการณ์ ส่วนการพูด และการเขยี นเป็นทกั ษะของ การแสดงออกดว้ ยการแสดงความคดิ เหน็ ความรแู้ ละประสบการณ์ การเรยี นภาษาไทยจงึ ต้องเรยี นเพอ่ื การ ส่อื สารใหส้ ามารถรบั รขู้ อ้ มูลข่าวสารไดอ้ ย่างพนิ ิจพเิ คราะห์สามารถเลอื กใชค้ า เรยี บเรยี งความคดิ ความรู้ และใช้ภาษาได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ได้ตรงตามความหมาย และถูกต้องตามกาลเทศะ บุคคล และ ประสทิ ธภิ าพ ภาษาไทยมสี ่วนทเ่ี ป็นเน้ือหาสาระแก่กฎเกณฑ์ทางภาษา ซ่ึงผู้ใช้ภาษาจะต้องรู้ และใช้ภาษาให้ ถูกต้อง นอกจากนัน้ วรรณคดีและวรรณกรรม ตลอดจนบทร้องของเด็ก เพลงกล่อมเด็ก ปรศิ นาคาทาย เพลงพ้นื บา้ น วรรณกรรมพน้ื บ้าน เป็นสว่ นหน่ึงของวฒั นธรรม ซง่ึ มคี ุณค่า การเรยี นภาษาไทยจงึ ตอ้ งเรยี น วรรณคดี วรรณกรรม ภูมปิ ัญญาทางภาษา ท่ถี ่ายทอความรู้สกึ นึกคดิ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เร่อื งราวของสงั คมในอดตี และความงดงามในบทประพนั ธ์ทงั้ รอ้ ยแก้ว และรอ้ ยกรองประเภทต่าง ๆ เพ่อื ให้ เกดิ ความซาบซง้ึ และความภูมใิ จในสงิ่ ทบ่ี รรพบุรุษสงั่ สมและสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจุบนั ทำไมต้องเรียนภำษำไทย ภาษาไทยเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวฒั นธรรมอนั ก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและ เสรมิ สร้างบุคลิกภาพของคนในชาตใิ ห้มคี วามเป็นไทย เป็นเคร่อื งมอื ในการติดต่อส่อื สารเพ่อื สร้างความ เข้าใจและความสมั พนั ธ์ท่ดี ีต่อกนั ทาให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดารงชวี ติ ร่วมกนั ในสงั คม ประชาธิปไตยได้อย่างสนั ติสุข และเป็ นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูล สารสนเทศต่างๆ เพ่อื พฒั นาความรู้ พฒั นากระบวนการคดิ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทนั ต่อการ เปล่ยี นแปลงทางสงั คม และความก้าวหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพฒั นา อาชพี ให้มคี วามมนั่ คงทางเศรษฐกจิ นอกจากน้ียงั เป็นส่อื แสดงภูมปิ ัญญาของบรรพบุรุษด้านวฒั นธรรม ประเพณี และสุนทรยี ภาพ เป็นสมบตั ลิ ้าค่าควรแก่การเรยี นรู้ อนุรกั ษ์ และสบื สานให้คงอยู่คู่ชาตไิ ทย ตลอดไป

๕ เรียนร้อู ะไรในภำษำไทย ภาษาไทยเป็นทกั ษะท่ตี ้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใชภ้ าษาเพ่อื การส่อื สาร การเรยี นรู้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และเพอ่ื นาไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ • กำรอ่ำน การอ่านออกเสยี งคา ประโยค การอ่านบทรอ้ ยแกว้ คาประพนั ธ์ชนดิ ต่างๆ การ อ่านในใจเพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความรจู้ ากสง่ิ ทอ่ี ่าน เพ่อื นาไป ปรบั ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั • กำรเขียน การเขยี นสะกดตามอกั ขรวธิ ี การเขยี นส่อื สาร โดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่างๆ ของ การเขยี น ซง่ึ รวมถงึ การเขยี นเรยี งความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขยี นตามจนิ ตนาการ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ • กำรฟัง กำรดู และกำรพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคดิ เห็น ความรสู้ กึ พูดลาดบั เร่อื งราวตา่ งๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพดู ในโอกาสต่างๆ ทงั้ เป็นทางการและไม่ เป็นทางการ และการพดู เพอ่ื โน้มน้าวใจ • หลักกำรใช้ภำษำไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้อง เหมาะสมกบั โอกาสและบุคคล การแต่งบทประพนั ธ์ประเภทต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย • วรรณคดีและวรรณกรรม วเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพ่อื ศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของงานประพนั ธ์ และความเพลดิ เพลนิ การเรยี นรู้และทาความเข้าใจบทเห่ บทรอ้ งเล่นของเด็ก เพลงพ้นื บ้านท่ีเป็นภูมปิ ัญญาท่มี คี ุณค่าของไทย ซ่ึงได้ถ่ายทอดความรูส้ กึ นึกคดิ ค่านิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เร่อื งราวของสงั คมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่อื ให้เกิดความซาบซ้ึงและภูมใิ จในบรรพ บรุ ษุ ทไ่ี ดส้ งั่ สมสบื ทอดมาจนถงึ ปัจจบุ นั

๖ สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระที่ ๑ กำรอ่ำน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น สำระท่ี ๒ กำรเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่อื งราวในรูปแบบ ตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ สำระท่ี ๓ กำรฟัง กำรดู และกำรพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ สำระที่ ๔ หลกั กำรใช้ภำษำไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา และพลงั ของ ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ สำระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่าและ นามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ

๗ คณุ ภำพของผเู้ รียน จบช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ • อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ เร่ืองสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคำและข้อความท่ีอ่าน ตั้งคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุป ความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ปฏิบัติตามคำส่ัง คำอธิบายจากเรื่องที่อ่านได้ เข้าใจความหมายของข้อมูลจาก แผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิ อา่ นหนังสอื อยา่ งสม่ำเสมอ และมมี ารยาทในการอา่ น • มีทกั ษะในการคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั เขยี นบรรยาย บันทึกประจำวัน เขยี นจดหมายลาครู เขยี นเรอื่ งเกยี่ วกบั ประสบการณ์ เขียนเรือ่ งตามจินตนาการและมีมารยาทในการเขยี น • เล่ารายละเอียดและบอกสาระสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม รวมทั้งพูดแสดงความคิดความรู้สึก เก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดส่ือสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะนำ หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม และมี มารยาทในการฟงั ดู และพูด • สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ ความแตกต่างของคำและพยางค์ หน้าที่ของคำ ในประโยค มีทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคำคล้องจอง แต่งคำขวัญ และเลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ • เข้าใจและสามารถสรุปขอ้ คิดที่ได้จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีท่ีอ่าน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซ่ึงเป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่น ร้องบท ร้องเล่นสำหรบั เด็กในท้องถิน่ ทอ่ งจำบทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจได้ จบช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ • อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบายความหมายโดยตรง และความหมายโดยนัยของคำ ประโยค ข้อความ สำนวนโวหาร จากเร่ืองที่อ่าน เข้าใจคำแนะนำ คำอธิบาย ในคู่มือต่างๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและขอ้ เท็จจริง รวมทั้งจับใจความสำคัญของเรือ่ งท่ีอา่ นและนำความร้คู วามคิด จากเร่ืองที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตได้ มีมารยาทและมีนิสัยรักการอ่าน และเห็นคุณค่าส่ิงที่ อ่าน • มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดคำ แต่งประโยคและเขียน ข้อความ ตลอดจนเขียนส่ือสารโดยใช้ถ้อยคำชัดเจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรื่องและแผนภาพความคิด เพ่ือพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่างๆ เขี ยนแสดง ความรู้สึกและความคิดเหน็ เขียนเรอื่ งตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ และมมี ารยาทในการเขียน • พดู แสดงความรู้ ความคิดเกีย่ วกับเร่ืองท่ฟี ังและดู เลา่ เรือ่ งยอ่ หรือสรุปจากเรื่องท่ีฟังและดู ตง้ั คำถาม ตอบคำถามจากเร่ืองท่ีฟังและดู รวมท้ังประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูด ตามลำดับข้ันตอนเร่ืองต่างๆ อยา่ งชดั เจน พูดรายงานหรือประเดน็ ค้นควา้ จากการฟัง การดู การสนทนา และ พูดโนม้ น้าวไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล รวมท้งั มีมารยาทในการดแู ละพดู • สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ สำนวน คำพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจชนิดและหน้าท่ี ของคำในประโยค ชนิดของประโยค และคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้ คำราชาศัพท์และคำสุภาพได้ อย่างเหมาะสม แต่งประโยค แตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสภุ าพ และกาพย์ยานี ๑๑ • เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลงพ้ืนบ้านของ ทอ้ งถน่ิ นำขอ้ คดิ เห็นจากเรือ่ งท่อี า่ นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจรงิ และทอ่ งจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนดได้

๘ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๑ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่อื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดำเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และ  การอ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำ คำ ข้อความสน้ั ๆ คลอ้ งจอง และข้อความทปี่ ระกอบดว้ ยคำพื้นฐาน ๒. บอกความหมายของคำ และข้อความ คือ คำท่ีใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ไม่นอ้ ยกว่า ๖๐๐ คำ ทอ่ี า่ น รวมท้ังคำทีใ่ ชเ้ รยี นรูใ้ น กล่มุ สาระการเรยี นรอู้ น่ื ประกอบดว้ ย - คำที่มรี ปู วรรณยกุ ตแ์ ละไมม่ รี ูปวรรณยุกต์ - คำท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม มาตรา - คำที่มีพยญั ชนะควบกล้ำ - คำที่มีอักษรนำ ๓. ตอบคำถามเกยี่ วกับเร่ืองทอี่ ่าน  การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น ๔. เลา่ เร่ืองย่อจากเร่ืองท่ีอา่ น - นทิ าน ๕. คาดคะเนเหตุการณ์จากเรอ่ื งท่อี ่าน - เรอื่ งสนั้ ๆ - บทรอ้ งเล่นและบทเพลง ๖. อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ - เรื่องราวจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ อย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องท่ี ภาษาไทยและกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน อา่ น  การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น ๗. บอกความหมายของเคร่ืองหมาย - หนังสือทีน่ กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย หรือสัญลักษณส์ ำคญั ท่ีมักพบเหน็ ใน - หนงั สอื ทค่ี รูและนักเรียนกำหนดรว่ มกัน ชีวิตประจำวนั  การอ่านเคร่อื งหมายหรอื สัญลกั ษณ์ ประกอบดว้ ย ๘. มีมารยาท ในการอ่าน - เคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ์ต่างๆ ท่ีพบเห็นใน ชีวติ ประจำวนั - เครอื่ งหมายแสดงความปลอดภัยและแสดงอันตราย  มารยาทในการอ่าน เช่น - ไมอ่ า่ นเสยี งดังรบกวนผูอ้ ่นื - ไมเ่ ลน่ กนั ขณะท่ีอา่ น - ไมท่ ำลายหนงั สือ

๙ สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสอื่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ ช้ัน ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด  การคัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบการเขียน ตัวอักษรไทย ๒. เขียนส่อื สารด้วยคำและประโยคงา่ ยๆ  การเขยี นสื่อสาร - คำท่ใี ชใ้ นชีวิตประจำวนั - คำพน้ื ฐานในบทเรยี น - คำคลอ้ งจอง - ประโยคงา่ ยๆ ๓. มมี ารยาทในการเขยี น  มารยาทในการเขยี น เชน่ - เขียนให้อา่ นง่าย สะอาด ไม่ขดี ฆ่า - ไม่ขดี เขยี นในทสี่ าธารณะ - ใช้ภาษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานที่ และบคุ คล

๑๐ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกในโอกาส ต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. ฟงั คำแนะนำ คำสงั่ งา่ ยๆ และปฏิบัตติ าม  การฟังและปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ คำส่งั งา่ ยๆ ๒. ตอบคำถามและเลา่ เรือ่ งท่ีฟังและดู ท้ัง  การจบั ใจความและพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรู้สกึ จาก ที่เป็นความรูแ้ ละความบันเทิง เรือ่ งท่ีฟังและดู ท้งั ท่เี ปน็ ความรแู้ ละความบันเทงิ เชน่ ๓. พดู แสดงความคิดเหน็ และความร้สู ึก - เรอ่ื งเลา่ และสารคดสี ำหรบั เดก็ จากเรือ่ งทีฟ่ งั และดู - นทิ าน - การ์ตนู - เรอ่ื งขบขัน ๔. พดู ส่ือสารไดต้ ามวัตถุประสงค์  การพดู ส่ือสารในชีวติ ประจำวัน เช่น - การแนะนำตนเอง - การขอความชว่ ยเหลอื - การกลา่ วคำขอบคุณ - การกลา่ วคำขอโทษ ๕. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู  มารยาทในการฟัง เชน่ - ตั้งใจฟงั ตามองผพู้ ูด - ไม่รบกวนผูอ้ น่ื ขณะทีฟ่ งั - ไมค่ วรนำอาหารหรือเครอ่ื งดืม่ ไปรับประทานขณะทฟ่ี ัง - ใหเ้ กียรติผูพ้ ดู ด้วยการปรบมือ - ไมพ่ ดู สอดแทรกขณะท่ฟี งั  มารยาทในการดู เชน่ - ต้งั ใจดู - ไม่สง่ เสียงดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธิของผู้อ่ืน  มารยาทในการพดู เชน่ - ใชถ้ ้อยคำและกิริยาทส่ี ุภาพ เหมาะสมกับกาลเทศะ - ใช้นำ้ เสยี งนุ่มนวล - ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะทผี่ ู้อน่ื กำลังพูด

๑๑ สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์  พยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์ และเลขไทย  เลขไทย ๒. เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย ของ  การสะกดคำ การแจกลูก และการอ่านเปน็ คำ คำ  มาตราตัวสะกดท่ตี รงตามมาตราและไมต่ รงตาม มาตรา  การผันคำ  ความหมายของคำ ๓. เรียบเรยี งคำเป็นประโยคง่าย ๆ  การแต่งประโยค ๔. ตอ่ คำคล้องจองงา่ ยๆ  คำคลอ้ งจอง สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ คา่ และนำมา ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ช้ัน ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกข้อคิดท่ไี ดจ้ ากการอา่ นหรือการฟงั  วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรองสำหรบั เด็ก เชน่ วรรณกรรมร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง - นทิ าน สำหรับเด็ก - เรื่องสัน้ ง่ายๆ - ปริศนาคำทาย - บทร้องเลน่ - บทอาขยาน - บทรอ้ ยกรอง - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน ๒. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด  บทอาขยานและบทร้อยกรอง และบทร้อยกรองตามความสนใจ - บทอาขยานตามทกี่ ำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ

๑๒ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๒ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนินชวี ิต และมีนิสัยรักการอ่าน ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๒ ๑. อา่ นออกเสียงคำ คำคล้องจอง  การอ่านออกเสยี งและการบอกวามหมายของคำ คำคลอ้ ง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ จอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ทปี่ ระกอบด้วยคำ ไดถ้ กู ตอ้ ง พืน้ ฐานเพ่ิมจาก ป. ๑ ไมน่ ้อยกวา่ ๘๐๐ คำ รวมท้ังคำท่ีใช้ เรียนรู้ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้อนื่ ประกอบด้วย ๒. อธบิ ายความหมายของคำและ - คำทม่ี รี ปู วรรณยกุ ต์และไมม่ รี ูปวรรณยุกต์ ขอ้ ความทอี่ า่ น - คำท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา - คำท่มี พี ยญั ชนะควบกลำ้ - คำทม่ี อี ักษรนำ - คำทม่ี ีตวั การันต์ - คำที่มี รร - คำที่มีพยญั ชนะและสระที่ไมอ่ อกเสียง ๓. ตงั้ คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับ  การอา่ นจบั ใจความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น เร่ืองท่อี า่ น - นิทาน - เรอ่ื งเล่าสั้น ๆ ๔. ระบใุ จความสำคญั และรายละเอียด - บทเพลงและบทรอ้ ยกรองง่ายๆ จากเรอ่ื งท่ีอา่ น - เร่อื งราวจากบทเรียนในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๕. แสดงความคดิ เห็นและคาดคะเน และกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ น่ื เหตุการณ์จากเรอื่ งทอี่ ่าน - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวนั ๖. อา่ นหนังสอื ตามความสนใจอยา่ ง  การอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น สมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องทอี่ ่าน - หนังสือท่นี กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย - หนงั สอื ท่ีครแู ละนกั เรยี นกำหนดร่วมกนั ๗. อ่านข้อเขยี นเชิงอธิบาย และปฏบิ ตั ิ  การอ่านขอ้ เขยี นเชิงอธบิ าย และปฏบิ ตั ิตามคำส่ังหรอื ตามคำสงั่ หรอื ข้อแนะนำ ขอ้ แนะนำ - การใชส้ ถานทส่ี าธารณะ ๘. มีมารยาทในการอา่ น - คำแนะนำการใชเ้ ครอื่ งใชท้ ี่จำเป็นในบา้ นและในโรงเรียน  มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไมอ่ า่ นเสยี งดงั รบกวนผูอ้ น่ื - ไมเ่ ล่นกนั ขณะทีอ่ ่าน - ไม่ทำลายหนงั สอื - ไมค่ วรแย่งอา่ นหรือชะโงกหนา้ ไปอา่ นขณะท่ีผู้อื่นกำลงั อ่านอยู่

๑๓ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ชนั้ ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๒ ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัด  การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบการ เขียนตัวอักษรไทย ๒. เขียนเร่อื งส้นั ๆ เก่ยี วกับประสบการณ์  การเขียนเรื่องส้ันๆ เก่ยี วกบั ประสบการณ์ ๓. เขยี นเรื่องสั้นๆ ตามจนิ ตนาการ  การเขียนเร่อื งสั้นๆ ตามจนิ ตนาการ ๔. มีมารยาทในการเขียน  มารยาทในการเขยี น เชน่ - เขียนใหอ้ า่ นง่าย สะอาด ไม่ขดี ฆา่ - ไมข่ ดี เขยี นในทส่ี าธารณะ - ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานที่ และบุคคล - ไม่เขยี นลอ้ เลียนผูอ้ นื่ หรอื ทำให้ผู้อ่นื เสียหาย

๑๔ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ กึ ในโอกาส ตา่ งๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๒ ๑. ฟังคำแนะนำ คำสั่งทซ่ี บั ซอ้ น และ  การฟงั และปฏิบัติตามคำแนะนำ คำส่ังทซ่ี บั ซ้อน ปฏิบัตติ าม ๒. เล่าเรื่องทฟี่ ังและดทู ง้ั ทเ่ี ป็นความรู้  การจับใจความและพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และความบันเทิง จากเรอื่ งท่ฟี งั และดู ท้ังท่เี ปน็ ความรแู้ ละความบันเทงิ ๓. บอกสาระสำคัญของเรือ่ งทฟ่ี งั และดู เชน่ ๔. ตัง้ คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกบั - เร่อื งเลา่ และสารคดีสำหรบั เดก็ เรอื่ งทฟ่ี ังและดู - นทิ าน การต์ นู และเร่อื งขบขนั ๕. พูดแสดงความคิดเหน็ และความรูส้ ึก - รายการสำหรบั เดก็ จากเรือ่ งท่ฟี งั และดู - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวนั - เพลง ๖. พูดสื่อสารไดช้ ัดเจนตรงตาม  การพดู ส่ือสารในชีวติ ประจำวัน เช่น วัตถปุ ระสงค์ - การแนะนำตนเอง - การขอความชว่ ยเหลือ - การกลา่ วคำขอบคณุ - การกล่าวคำขอโทษ - การพูดขอรอ้ งในโอกาสตา่ งๆ - การเลา่ ประสบการณ์ในชวี ิตประจำวัน ๗. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด  มารยาทในการฟงั เชน่ - ตงั้ ใจฟัง ตามองผพู้ ดู - ไมร่ บกวนผู้อน่ื ขณะทฟี่ ัง - ไม่ควรนำอาหารหรือเคร่อื งดืม่ ไปรบั ประทานขณะท่ี ฟงั - ไม่พดู สอดแทรกขณะที่ฟัง  มารยาทในการดู เชน่ - ต้ังใจดู - ไมส่ ง่ เสยี งดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธขิ องผู้อน่ื  มารยาทในการพูด เชน่ - ใช้ถอ้ ยคำและกริ ยิ าท่ีสุภาพ เหมาะสมกบั กาลเทศะ - ใชน้ ้ำเสียงนุ่มนวล - ไม่พดู สอดแทรกในขณะทผี่ ูอ้ ่ืนกำลงั พูด - ไม่พดู ล้อเลียนให้ผู้อ่นื ได้รับความอบั อายหรือ เสยี หาย

๑๕ สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๒ ๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์  พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ และเลขไทย  เลขไทย ๒. เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย ของ  การสะกดคำ การแจกลูก และการอ่านเปน็ คำ คำ  มาตราตัวสะกดทีต่ รงตามมาตราและไมต่ รงตาม มาตรา  การผนั อักษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรตำ่  คำทม่ี ตี วั การนั ต์  คำท่มี ีพยญั ชนะควบกลำ้  คำท่ีมีอักษรนำ  คำท่ีมีความหมายตรงข้ามกนั  คำท่ีมี รร  ความหมายของคำ ๓. เรียบเรียงคำเป็นประโยคไดต้ รงตาม  การแต่งประโยค เจตนาของการส่ือสาร  การเรียบเรียงประโยคเปน็ ขอ้ ความสน้ั ๆ ๔. บอกลักษณะคำคลอ้ งจอง  คำคลอ้ งจอง ๕. เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและ  ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ  ภาษาถิน่

๑๖ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่าและนำมา ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๒ ๑. ระบขุ ้อคิดท่ีไดจ้ ากการอ่านหรอื  วรรณกรรมร้อยแก้วและรอ้ ยกรองสำหรบั เด็ก เชน่ การฟงั วรรณกรรมสำหรบั เดก็ เพ่อื - นทิ าน นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั - เรื่องสน้ั งา่ ยๆ - ปริศนาคำทาย - บทอาขยาน - บทร้อยกรอง - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น ๒. รอ้ งบทร้องเลน่ สำหรับเด็กในท้องถ่ิน  บทรอ้ งเลน่ ท่ีมีคุณค่า - บทรอ้ งเล่นในท้องถิ่น - บทร้องเลน่ ในการละเลน่ ของเดก็ ไทย ๓. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และ  บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณค่า บทรอ้ ยกรองทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

๑๗ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๓ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดำเนินชวี ิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. อ่านออกเสยี งคำ ขอ้ ความ เรือ่ ง  การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของคำ คำคลอ้ ง สนั้ ๆ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ ได้ ถูกต้อง คลอ่ งแคลว่ จอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ ทป่ี ระกอบดว้ ยคำ ๒. อธบิ ายความหมายของคำและ ข้อความทอ่ี ่าน พ้ืนฐานเพิ่มจาก ป.๒ ไมน่ ้อยกว่า ๑,๒๐๐ คำ รวมทั้งคำท่ี ๓. ต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ เรียนรู้ในกลุม่ สาระการเรียนรูอ้ ่นื ประกอบด้วย เหตผุ ลเกยี่ วกับเรอื่ งที่อา่ น - คำที่มีตวั การันต์ - คำที่มี รร - คำทม่ี ีพยัญชนะและสระไมอ่ อกเสียง - คำพ้อง - คำพิเศษอืน่ ๆ เชน่ คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ  การอา่ นจบั ใจความจากสือ่ ตา่ งๆ เชน่ - นิทานหรือเรอื่ งเกี่ยวกบั ท้องถ่ิน ๔. ลำดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเน - เรอ่ื งเล่าส้ันๆ เหตุการณจ์ ากเรอ่ื งทอ่ี า่ นโดยระบุ - บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง เหตผุ ลประกอบ - บทเรียนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน ๕. สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากเร่อื งที่ - ข่าวและเหตกุ ารณใ์ นชีวิตประจำวันในทอ้ งถ่ินและชมุ ชน อ่านเพ่อื นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ๖. อ่านหนงั สอื ตามความสนใจ  การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เชน่ อย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรอ่ื งที่ - หนงั สอื ทน่ี ักเรียนสนใจและเหมาะสมกบั วยั อา่ น - หนังสือท่คี รแู ละนักเรียนกำหนดร่วมกัน ๗. อ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏบิ ตั ิ  การอ่านขอ้ เขียนเชงิ อธบิ าย และปฏบิ ตั ิตามคำส่งั หรอื ตามคำสง่ั หรือขอ้ แนะนำ ข้อแนะนำ - คำแนะนำตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวัน - ประกาศ ปา้ ยโฆษณา และคำขวญั ๘. อธบิ ายความหมายของข้อมูลจาก  การอ่านขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ แผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ ๙. มีมารยาทในการอ่าน  มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไม่อา่ นเสยี งดงั รบกวนผ้อู ืน่ - ไม่เลน่ กันขณะท่อี ่าน - ไมท่ ำลายหนงั สอื - ไมค่ วรแย่งอ่านหรอื ชะโงกหน้าไปอา่ นขณะทผ่ี อู้ ืน่ กำลงั อา่ น

๑๘ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอ่ื งราวในรูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ช้นั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๓ ๑. คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั  การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบการ เขียน ตัวอกั ษรไทย ๒ เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ ได้  การเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ลักษณะของ คน สตั ว์ ส่ิงของ อยา่ งชัดเจน สถานที่ ๓. เขยี นบนั ทึกประจำวนั  การเขยี นบนั ทึกประจำวัน ๔. เขียนจดหมายลาครู  การเขยี นจดหมายลาครู ๕. เขยี นเร่อื งตามจินตนาการ  การเขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการจากคำ ภาพ และหวั ขอ้ ทกี่ ำหนด ๖. มีมารยาทในการเขยี น  มารยาทในการเขยี น เชน่ - เขยี นใหอ้ ่านง่าย สะอาด ไมข่ ดี ฆ่า - ไม่ขีดเขยี นในท่ีสาธารณะ - ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และบุคคล - ไมเ่ ขยี นลอ้ เลียนผูอ้ น่ื หรือทำใหผ้ ูอ้ ื่นเสยี หาย

๑๙ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาส ต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. เลา่ รายละเอยี ดเกย่ี วกบั เรอ่ื งท่ีฟัง  การจบั ใจความและพดู แสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกจาก และดูทง้ั ทเี่ ป็นความรู้และความ เรื่องท่ีฟงั และดูทง้ั ท่เี ปน็ ความรแู้ ละความบันเทิง เชน่ บันเทงิ - เร่ืองเล่าและสารคดสี ำหรบั เด็ก ๒. บอกสาระสำคญั จากการฟงั และ - นิทาน การ์ตนู เรื่องขบขนั การดู - รายการสำหรับเด็ก ๓. ตง้ั คำถามและตอบคำถาม - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจำวัน เก่ยี วกบั เรอ่ื งทฟี่ ังและดู - เพลง ๔. พูดแสดงความคิดเห็นและ ความรู้สึกจากเร่อื งที่ฟังและดู ๕. พดู สือ่ สารไดช้ ดั เจนตรงตาม  การพูดสอ่ื สารในชวี ติ ประจำวัน เชน่ วัตถปุ ระสงค์ - การแนะนำตนเอง - การแนะนำสถานทใ่ี นโรงเรยี นและในชุมชน ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และ - การแนะนำ/เชิญชวนเก่ียวกับการปฏิบัตติ นในดา้ นตา่ งๆ การพูด เชน่ การรกั ษาความสะอาดของร่างกาย - การเล่าประสบการณ์ในชีวติ ประจำวนั - การพูดในโอกาสตา่ งๆ เชน่ การพดู ขอรอ้ ง การพดู ทกั ทาย การกลา่ วขอบคุณและขอโทษ การพดู ปฏเิ สธ และการพดู ชักถาม  มารยาทในการฟัง เชน่ - ต้งั ใจฟัง ตามองผพู้ ดู - ไม่รบกวนผู้อนื่ ขณะทฟ่ี งั - ไม่ควรนำอาหารหรือเครือ่ งดื่มไปรับประทานขณะท่ฟี ัง - ไมแ่ สดงกิรยิ าทไี่ มเ่ หมาะสม เชน่ โห่ ฮา หาว - ให้เกียรตผิ ู้พดู ด้วยการปรบมือ - ไมพ่ ดู สอดแทรกขณะที่ฟัง  มารยาทในการดู เชน่ - ต้งั ใจดู - ไมส่ ่งเสียงดงั หรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิของผอู้ ่ืน  มารยาทในการพดู เชน่ - ใชถ้ ้อยคำและกริ ิยาทส่ี ุภาพ เหมาะสมกับกาลเทศะ - ใชน้ ำ้ เสยี งนุ่มนวล - ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะทผี่ ู้อืน่ กำลงั พูด - ไม่พดู ล้อเลยี นให้ผู้อ่ืนได้รบั ความอับอายหรือเสยี หาย

๒๐ สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๓ ๑. เขียนสะกดคำและบอกความหมา  การสะกดคำ การแจกลกู และการอา่ นเปน็ คำ ของคำ  มาตราตัวสะกดทตี่ รงตามมาตราและไมต่ รงตาม มาตรา  การผนั อกั ษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรตำ่  คำทม่ี พี ยญั ชนะควบกลำ้  คำทม่ี ีอกั ษรนำ  คำทป่ี ระวิสรรชนียแ์ ละคำทไ่ี ม่ประวสิ รรชนีย์  คำที่มี ฤ ฤๅ  คำท่ใี ช้ บัน บรร  คำทใ่ี ช้ รร  คำท่มี ีตวั การันต์  ความหมายของคำ ๓. ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ขี องคำในประโยค  ชนิดของคำ ไดแ้ ก่ - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกริยา ๔. ใชพ้ จนานุกรมคน้ หาความหมายของคำ  การใชพ้ จนานุกรม ๕. แตง่ ประโยคงา่ ยๆ  การแตง่ ประโยคเพอ่ื การสอื่ สาร ไดแ้ ก่ - ประโยคบอกเลา่ - ประโยคปฏเิ สธ - ประโยคคำถาม - ประโยคขอรอ้ ง - ประโยคคำสั่ง ๖. แต่งคำคล้องจองและคำขวญั  คำคลอ้ งจอง  คำขวญั ๗. เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ  ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถนิ่ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ  ภาษาถ่ิน

๒๑ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและนำมา ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๓ ๑. ระบขุ ้อคิดท่ไี ดจ้ ากการอ่านวรรณกรรม  วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพ้นื บ้าน เพอื่ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน - นิทานหรอื เรือ่ งในทอ้ งถิน่ ๒. ร้จู ักเพลงพ้นื บ้านและเพลงกลอ่ มเด็ก - เรือ่ งสั้นงา่ ยๆ ปรศิ นาคำทาย เพื่อปลูกฝงั ความชน่ื ชมวฒั นธรรม - บทร้อยกรอง ท้องถ่นิ - เพลงพ้นื บา้ น ๓. แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั วรรณคดี - เพลงกลอ่ มเด็ก ท่ีอ่าน - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรียนและ ตามความ สนใจ ๔. ท่องจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนดและ  บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่า บทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ คา่ ตามความสนใจ - บทอาขยานตามทกี่ ำหนด - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

๒๒ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๔ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชวี ิต และมีนสิ ัยรกั การอ่าน ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๔ ๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและ  การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมายของบทรอ้ ย บทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง แก้วและบทร้อยกรองที่ประกอบด้วย ๒. อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค - คำท่ีมี ร ล เป็นพยญั ชนะตน้ และสำนวนจากเร่ืองทอี่ า่ น - คำท่ีมพี ยญั ชนะควบกล้ำ - คำที่มีอักษรนำ - คำประสม - อกั ษรยอ่ และเคร่ืองหมายวรรคตอน - ประโยคทม่ี สี ำนวนเปน็ คำพงั เพย สภุ าษิต ปรศิ นาคำ ทาย และเครอื่ งหมายวรรคตอน  การอ่านบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ ๓. อ่านเรือ่ งสั้นๆ ตามเวลาทีก่ ำหนดและ  การอา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ เช่น ตอบคำถามจากเร่อื งที่อา่ น - เร่ืองส้ัน ๆ - เรื่องเล่าจากประสบการณ์ ๔. แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็น - นิทานชาดก จากเรอ่ื งท่ีอ่าน - บทความ - บทโฆษณา ๕. คาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองที่อา่ น - งานเขียนประเภทโน้มนา้ วใจ โดยระบเุ หตผุ ลประกอบ - ขา่ วและเหตุการณป์ ระจำวนั - สารคดแี ละบนั เทิงคดี ๖. สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดจากเร่ืองที่อา่ น เพอ่ื นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ๗. อ่านหนงั สือท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจ  การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เชน่ อยา่ งสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเหน็ - หนังสอื ทน่ี กั เรียนสนใจและเหมาะสมกบั วยั เกยี่ วกับเร่ืองที่อ่าน - หนงั สือทค่ี รแู ละนกั เรยี นกำหนดรว่ มกัน ๘. มมี ารยาทในการอ่าน  มารยาทในการอ่าน

๒๓ สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๔ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ  การคัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครึ่งบรรทดั ตาม ครง่ึ บรรทดั รปู แบบการเขียนตัวอกั ษรไทย ๒. เขยี นส่ือสารโดยใชค้ ำได้ถูกตอ้ ง  การเขียนสอ่ื สาร เชน่ ชดั เจน และเหมาะสม - คำขวญั - คำแนะนำ ๓. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ  การนำแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคิดไป ความคิดเพอื่ ใชพ้ ัฒนางานเขยี น พฒั นางานเขยี น ๔. เขียนยอ่ ความจากเรือ่ งสนั้ ๆ  การเขียนยอ่ ความจากสื่อตา่ งๆ เช่น นทิ าน ความ เรยี งประเภทต่างๆ ประกาศ จดหมาย คำสอน ๕. เขยี นจดหมายถงึ เพอ่ื นและบดิ ามารดา  การเขยี นจดหมายถึงเพือ่ นและบดิ ามารดา ๖. เขียนบันทึกและเขียนรายงานจาก  การเขยี นบนั ทึกและเขียนรายงานจากการศกึ ษา การศกึ ษาค้นคว้า คน้ ควา้ ๗. เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ  การเขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการ ๘. มีมารยาทในการเขยี น  มารยาทในการเขียน

๒๔ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกในโอกาส ต่างๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๔ ๑. จำแนกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จาก  การจำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเร่ืองที่ฟังและ เรอ่ื งท่ีฟงั และดู ดู ในชวี ติ ประจำวนั ๒. พูดสรปุ ความจากการฟงั และดู  การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้ ความคิดใน ๓. พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ เรือ่ งทฟ่ี ังและดู จากส่อื ตา่ งๆ เช่น และความรู้สึกเกยี่ วกับเรอ่ื งทฟี่ งั และดู - เรอื่ งเลา่ ๔. ต้ังคำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล - บทความส้ันๆ จากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู - ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวนั - โฆษณา - สือ่ อิเล็กทรอนิกส์ - เร่อื งราวจากบทเรยี นกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย และกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่ ๕. รายงานเรอื่ งหรือประเดน็ ท่ศี ึกษา  การรายงาน เชน่ คน้ ควา้ จากการฟงั การดู และการ - การพูดลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน สนทนา - การพดู ลำดบั เหตกุ ารณ์ ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด  มารยาทในการฟัง การดู และการพดู

๒๕ สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๔ ๑. สะกดคำและบอกความหมายของคำใน  คำในแม่ ก กา  มาตราตวั สะกด บรบิ ทตา่ งๆ  การผันอักษร  คำเปน็ คำตาย  คำพอ้ ง ๒. ระบุชนดิ และหนา้ ทขี่ องคำในประโยค  ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่ - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกรยิ า - คำวิเศษณ์ ๓ ใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมายของคำ  การใชพ้ จนานกุ รม ๔. แต่งประโยคได้ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา  ประโยคสามญั - สว่ นประกอบของประโยค - ประโยค ๒ สว่ น - ประโยค ๓ ส่วน ๕. แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ  กลอนสี่  คำขวญั ๖. บอกความหมายของสำนวน  สำนวนที่เปน็ คำพังเพยและสุภาษติ ๗. เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับ  ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิน่ ได้  ภาษาถ่ิน สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และนำมา ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๔ ๑. ระบุขอ้ คดิ จากนิทานพ้นื บา้ นหรือ  วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่ นทิ านคตธิ รรม - นทิ านพ้นื บ้าน ๒. อธบิ ายข้อคดิ จากการอา่ นเพอ่ื นำไปใช้ - นทิ านคติธรรม ในชีวติ จริง - เพลงพ้นื บา้ น - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี นและตามความ สนใจ ๓. รอ้ งเพลงพืน้ บ้าน  เพลงพน้ื บา้ น ๔. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และ  บทอาขยานและบทร้อยกรองท่มี ีคณุ คา่ บทรอ้ ยกรองที่มคี ุณคา่ ตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่กำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ

๒๖ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ท่ี ๕ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๕ ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และ  การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมายของบทรอ้ ย บทร้อยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง แกว้ และบทรอ้ ยกรองทป่ี ระกอบด้วย ๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำทมี่ ีพยัญชนะควบกลำ้ และขอ้ ความที่เป็นการบรรยาย - คำที่มอี ักษรนำ และการพรรณนา - คำที่มีตวั การันต์ ๓. อธิบายความหมายโดยนยั จากเร่ือง - อกั ษรย่อและเครอื่ งหมายวรรคตอน ทีอ่ า่ นอยา่ งหลากหลาย - ข้อความทเี่ ป็นการบรรยายและพรรณนา - ขอ้ ความท่ีมคี วามหมายโดยนยั  การอ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ ๔. แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็นจาก  การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น เร่ืองที่อ่าน - วรรณคดีในบทเรยี น ๕. วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ - บทความ เกย่ี วกับเรื่องทอ่ี ่านเพอื่ นำไปใช้ - บทโฆษณา ในการดำเนินชีวติ - งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ - ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน ๖. อ่านงานเขยี นเชิงอธบิ าย คำสง่ั  การอา่ นงานเขียนเชงิ อธิบาย คำสง่ั ขอ้ แนะนำ และ ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ัตติ าม ปฏิบตั ิตาม เช่น - การใช้พจนานกุ รม - การใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ - การอา่ นฉลากยา - คู่มือและเอกสารของโรงเรียนท่ีเกยี่ วข้องกับนกั เรยี น - ข่าวสารทางราชการ ๗. อา่ นหนงั สือทม่ี ีคณุ ค่าตามความสนใจ  การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น อย่างสมำ่ เสมอและแสดงความคิดเห็น - หนังสอื ทนี่ กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย เกี่ยวกบั เร่ืองทีอ่ า่ น - หนงั สอื ท่คี รูและนกั เรยี นกำหนดรว่ มกัน ๘. มีมารยาทในการอ่าน  มารยาทในการอ่าน

๒๗ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ชนั้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด และ  การคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั และ ครึ่ง คร่งึ บรรทดั บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย ๒. เขียนสื่อสารโดยใช้คำไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน  การเขยี นสือ่ สาร เชน่ และเหมาะสม - คำขวญั - คำอวยพร - คำแนะนำและคำอธิบายแสดงขนั้ ตอน ๓. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ  การนำแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคดิ ไป ความคดิ เพ่ือใชพ้ ฒั นางานเขียน พฒั นางานเขียน ๔. เขียนย่อความจากเร่ืองท่อี า่ น  การเขยี นย่อความจากสื่อตา่ งๆ เชน่ นิทาน ความเรียง ประเภทตา่ งๆ ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรยั ๕. เขยี นจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ  การเขยี นจดหมายถึงผปู้ กครองและญาติ ๖. เขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็น  การเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เหน็ ได้ตรงตามเจตนา  การกรอกแบบรายการ ๗. กรอกแบบรายการตา่ งๆ - ใบฝากเงินและใบถอนเงนิ - ธนาณัติ - แบบฝากสง่ พัสดไุ ปรษณียภัณฑ์ ๘. เขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ  การเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการ ๙. มีมารยาทในการเขียน  มารยาทในการเขียน

๒๘ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกในโอกาส ตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. พดู แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และ  การจับใจความ และการพดู แสดงความรู้ ความคิดใน ความรสู้ กึ จากเรื่องทีฟ่ ังและดู เรือ่ งท่ฟี งั และดู จากสอื่ ตา่ งๆ เชน่ ๒. ตัง้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล - เร่อื งเล่า จากเร่ืองทีฟ่ งั และดู - บทความ ๓. วเิ คราะห์ความนา่ เช่อื ถอื จากเร่ือง - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวัน ที่ฟงั และดูอยา่ งมีเหตผุ ล - โฆษณา - สื่อสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์  การวิเคราะหค์ วามนา่ เชื่อถือจากเรือ่ งที่ฟงั และดใู น ชีวิตประจำวนั ๔. พดู รายงานเร่ืองหรือประเดน็ ทีศ่ ึกษา  การรายงาน เชน่ ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพูดลำดบั ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน สนทนา - การพูดลำดบั เหตกุ ารณ์ ๕. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด  มารยาทในการฟัง การดู และการพูด

๒๙ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๕ ๑. ระบุชนดิ และหนา้ ทีข่ องคำในประโยค  ชนิดของคำ ได้แก่ - คำบุพบท - คำสันธาน - คำอทุ าน ๒. จำแนกสว่ นประกอบของประโยค  ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ๓. เปรยี บเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั  ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น  ภาษาถน่ิ ๔. ใช้คำราชาศพั ท์  คำราชาศัพท์ ๕. บอกคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย  คำท่ีมาจากภาษาตา่ งประเทศ ๖. แต่งบทร้อยกรอง  กาพย์ยานี ๑๑ ๗. ใช้สำนวนไดถ้ กู ต้อง  สำนวนทเ่ี ปน็ คำพงั เพยและสภุ าษติ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และนำมา ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. สรปุ เรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ี  วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่ อา่ น - นิทานพนื้ บา้ น ๒. ระบคุ วามรูแ้ ละข้อคดิ จากการอ่าน - นทิ านคตธิ รรม วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีสามารถ - เพลงพื้นบา้ น นำไปใช้ในชวี ติ จริง - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความ ๓. อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและ สนใจ วรรณกรรม ๔. ท่องจำบทอาขยานตามท่กี ำหนดและ  บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่า บทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

๓๐ ตวั ชี้วดั และสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปี ที่ ๖ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดำเนินชีวิต และมนี ิสัยรักการอ่าน ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๖ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และ  การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อย บทร้อยกรองได้ถูกต้อง แกว้ และบทร้อยกรอง ประกอบดว้ ย ๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำทม่ี พี ยญั ชนะควบกลำ้ และข้อความท่ีเปน็ โวหาร - คำที่มอี กั ษรนำ - คำทีม่ ีตัวการันต์ - คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ - อักษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน - วัน เดอื น ปีแบบไทย - ข้อความทเ่ี ปน็ โวหารตา่ งๆ - สำนวนเปรียบเทียบ  การอ่านบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ ๓. อ่านเรอื่ งสน้ั ๆ อยา่ งหลากหลาย โดย  การอ่านจบั ใจความจากสือ่ ตา่ งๆ เชน่ จบั เวลาแลว้ ถามเก่ยี วกบั เรอ่ื งที่อา่ น - เรื่องสนั้ ๆ ๔. แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็นจาก - นิทานและเพลงพืน้ บ้าน เรอื่ งทีอ่ า่ น - บทความ ๕. อธิบายการนำความร้แู ละความคิด - พระบรมราโชวาท จากเร่ืองที่อา่ นไปตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา - สารคดี - เรอื่ งสั้น ในการดำเนินชีวิต - งานเขียนประเภทโน้มนา้ ว - บทโฆษณา - ขา่ ว และเหตกุ ารณ์สำคัญ  การอ่านเรว็ ๖. อ่านงานเขียนเชิงอธบิ าย คำสงั่  การอ่านงานเขียนเชิงอธบิ าย คำสง่ั ขอ้ แนะนำ และ ข้อแนะนำ และปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิตาม - การใช้พจนานุกรม - การปฏิบัติตนในการอยูร่ ว่ มกันในสงั คม - ขอ้ ตกลงในการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน และการใช้ สถานที่สาธารณะในชมุ ชนและท้องถน่ิ ๗. อธิบายความหมายของขอ้ มูล จาก  การอา่ นขอ้ มลู จากแผนผงั แผนท่ี แผนภมู ิ และกราฟ การอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภมู ิ และ กราฟ ๘. อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ และ  การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เช่น อธิบายคณุ ค่าทไ่ี ด้รบั - หนังสือทีน่ ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั - หนังสอื อ่านท่ีครแู ละนักเรียนกำหนดรว่ มกัน ๙. มมี ารยาทในการอา่ น  มารยาทในการอ่าน

๓๑ สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๖ ๑. คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และ  การคดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และ ครึ่ง คร่งึ บรรทดั บรรทดั ตามรปู แบบการเขยี นตัวอักษรไทย ๒. เขียนสอ่ื สารโดยใช้คำได้ถูกต้อง  การเขียนสอ่ื สาร เชน่ ชัดเจน และเหมาะสม - คำขวญั - คำอวยพร - ประกาศ ๓. เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ  การเขียนแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพความคดิ ความคดิ เพ่อื ใช้พัฒนางานเขยี น ๔. เขยี นเรียงความ  การเขยี นเรียงความ ๕. เขยี นยอ่ ความจากเรอื่ งทอ่ี ่าน  การเขยี นย่อความจากสื่อต่างๆ เช่น นิทาน ความ เรยี งประเภทตา่ งๆ ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรัย สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสงั่ ๖. เขียนจดหมายสว่ นตวั  การเขยี นจดหมายสว่ นตัว - จดหมายขอโทษ - จดหมายแสดงความขอบคณุ - จดหมายแสดงความเห็นใจ - จดหมายแสดงความยินดี ๗. กรอกแบบรายการตา่ งๆ  การกรอกแบบรายการ - แบบคำร้องตา่ งๆ - ใบสมัครศึกษาตอ่ - แบบฝากสง่ พสั ดุและไปรษณยี ภณั ฑ์ ๘. เขยี นเรื่องตามจินตนาการและ  การเขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์  มารยาทในการเขยี น ๙. มีมารยาทในการเขยี น

๓๒ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาส ตา่ งๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ชัน้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๖ ๑. พูดแสดงความรู้ ความเขา้ ใจ  การพดู แสดงความรู้ ความเขา้ ใจในจดุ ประสงค์ของ จุดประสงค์ของเร่อื งทฟี่ งั และดู เรอ่ื งทฟี่ งั และดูจากสอื่ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ๒. ต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล - สอ่ื ส่ิงพิมพ์ จากเรอื่ งท่ฟี งั และดู - สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ ๓. วเิ คราะห์ความนา่ เชื่อถือจากการฟัง  การวเิ คราะหค์ วามนา่ เชอ่ื ถอื จากการฟงั และดสู อื่ และดสู อ่ื โฆษณาอย่างมเี หตผุ ล โฆษณา ๔. พดู รายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศกึ ษา  การรายงาน เชน่ ค้นควา้ จากการฟงั การดู และการ - การพูดลำดบั ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงาน สนทนา - การพูดลำดบั เหตกุ ารณ์ ๕. พูดโน้มนา้ วอย่างมีเหตุผล และ  การพูดโนม้ นา้ วในสถานการณต์ ่างๆ เชน่ น่าเชอ่ื ถือ - การเลอื กต้งั กรรมการนกั เรียน - การรณรงคด์ า้ นต่างๆ - การโต้วาที ๖. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู  มารยาทในการฟัง การดู และการพูด

๓๓ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิ ปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๖ ๑. วเิ คราะห์ชนิดและหนา้ ที่ของคำใน  ชนดิ ของคำ ประโยค - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกริยา - คำวเิ ศษณ์ - คำบพุ บท - คำเชือ่ ม - คำอทุ าน ๒. ใชค้ ำได้เหมาะสมกบั กาลเทศะและ  คำราชาศพั ท์ บคุ คล  ระดบั ภาษา  ภาษาถ่ิน ๓. รวบรวมและบอกความหมายของ  คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ คำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย  กล่มุ คำหรอื วลี ๔. ระบลุ กั ษณะของประโยค  ประโยคสามญั  ประโยครวม  ประโยคซอ้ น ๕. แตง่ บทรอ้ ยกรอง  กลอนสุภาพ ๖. วเิ คราะหแ์ ละเปรยี บเทียบสำนวนทเ่ี ปน็  สำนวนทเ่ี ปน็ คำพงั เพย และสภุ าษติ คำพงั เพย และสภุ าษติ

๓๔ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่าและนำมา ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๖ ๑. แสดงความคิดเหน็ จากวรรณคดี  วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่ หรอื วรรณกรรมที่อ่าน - นิทานพนื้ บา้ นทอ้ งถ่นิ ตนเองและทอ้ งถน่ิ อ่ืน ๒. เลา่ นทิ านพืน้ บา้ นท้องถ่นิ ตนเอง - นทิ านคติธรรม และนทิ านพนื้ บา้ นของท้องถน่ิ อน่ื - เพลงพน้ื บา้ น ๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และ - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความ วรรณกรรมทอี่ า่ นและนำไป สนใจ ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ  บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่มี คี ณุ ค่า บทร้อยกรองทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามทก่ี ำหนด - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

๓๕ โครงสรา้ งหลกั สตู ร กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษา ชนั้ รหสั วชิ า รายวชิ า เวลาเรยี น (ชวั่ โมง/ปี) รายวชิ าพน้ื ฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ป. ๑ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ป. ๒ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ป. ๓ ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐ ป. ๔ ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ป. ๕ ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ป. ๖ ๑๖๐ ท ๑๑๒๐๑ เสรมิ ทกั ษะอ่านเขยี น รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ท ๑๒๒๐๑ เสรมิ ทกั ษะอ่านเขยี น ๘๐ ป. ๑ ท ๑๓๒๐๑ เสรมิ ทกั ษะอ่านเขยี น ๘๐ ป. ๒ ๘๐ ป. ๓

๓๖ ตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑การใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นำไปใช้ตัดสินใจแกป้ ัญหาในการ ดำเนนิ ชวี ิตและมนี ิสัยรักการอ่าน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้ คำสำคัญท่ีเปน็ คุณภาพผู้เรยี น แกนกลาง บรู ณาการ ความรู(้ k) ทกั ษะ(P) คณุ สมบัต(ิ A) ท.๑.๑ ป.๑/๑ การอา่ นออกเสยี ง -การอ่านออก -อ่านออกเสยี ง -มีมารยาท อา่ นออกเสยี ง และบอก เสียงและบอก คำบอก การอ่าน คำ คำคล้องจอง ความหมายของคำ ความหมายของ ความหมายคำ และข้อความ คำคล้องจองและ คำ คำคล้องจอง คำคล้องจอง ส้นั ๆ ข้อความทอ่ี ่าน และคำพน้ื ฐาน ประกอบด้วยคำ ในชีวติ ประจำวนั พ้นื ฐาน คือคำทใ่ี ช้ ในชีวติ ประจำวนั ไมน่ อ้ ยกว่า๖00 คำ รวมทง้ั คำทใ่ี ช้ เรียนร้ใู นกล่มุ สาระ การเรียนรู้อนื่ ประกอบดว้ ย -คำท่มี รี ปู วรรณยกุ ต์และไม่มี รูปวรรณยุกต์ -คำทมี่ ีตวั สะกด ตรงตามมาตรา และไมต่ รงตาม มารตา -คำท่มี ีพยญั ชนะ ควบกลำ้ -คำทมี่ ีอกั ษรนำ

๓๗ ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ สาระที่ ๑ การอ่าน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ คำสำคญั ทเ่ี ป็นคณุ ภาพผเู้ รยี น แกนกลาง บรู ณาการ ความร(ู้ k) ทกั ษะ(P) คุณสมบัติ(A) ท.๑.๑ ป.๑/๔ การอ่านจบั ใจความ -อ่านหนังสือ -บทรอ้ งเล่น -รอ้ งเพลง -มีวินัยในการ เร่ืองยอ่ จาก จากสื่อต่างๆ เชน่ เร่อื งยพุ าทำ บทเพลงจาก -บอกบทร้อง ฝกึ ปฏบิ ตั ิ เรอ่ื งท่ีอ่าน -นทิ าน ความดี บทเรยี น เลน่ ในบทเรียน -เร่ืองสนั้ -บทรอ้ งเลน่ และบท เพลง -เรอ่ื งราวจาก บทเรยี นในกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้ภาษาไทย และกลุม่ สาระการ เรยี นรอู้ นื่ ท.๑.๑ ป.๑/๕ การจับใจความจาก -การคาดคะเน -บอกและ -มมี ารยาทและ คาดคะเน สอื่ ต่างๆ เช่น เหตุการณจ์ าก คาดคะเน มนี สิ ัยรักการ เหตุการณจ์ าก -นทิ าน เรื่องที่อา่ น เหตุการณ์ อ่าน เรื่องท่ีอา่ น -เรอ่ื งสนั้ -บทรอ้ งเล่นและบท เร่อื งราวทีอ่ ่าน เพลง -เร่อื งราวจาก บทเรยี นในกลุม่ สาระ การเรียนรภู้ าษาไทย และกลุ่มสาระการ เรยี นรูอ้ ื่น ท.๑.๑ ป.๑/๖ การอ่านหนงั สือตามความ -การอา่ น -อ่านออกเสยี ง -มมี ารยาทใน อา่ นหนงั สือตาม สนใจเช่น หนังสือท่ี หนงั สือที่สนใจ การอา่ น ความสนใจ -หนงั สอื ที่นกั เรียนสนใจและ นกั เรยี นสนใจ และเหมาะสม อยา่ งสมำ่ เสมอ เหมาะสมกับวัย เหมาะสมกับ กบั วยั และนำเสนอ -หนงั สือทีค่ รแู ละนักเรียน วยั และหนงั สือ เรอ่ื งที่อา่ น กำหนดรว่ มกนั ทคี่ รกู ำหนด

๓๘ ตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ สาระที่ ๑ การอ่าน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้ คำสำคญั ที่เปน็ คณุ ภาพผเู้ รยี น แกนกลาง บูรณาการ ความรู้(k) ทกั ษะ(P) คณุ สมบัติ(A) ท.๑.๑ ป.๑/๗ การอา่ นเครอ่ื งหมาย -การอ่าน -บอก -ใฝเ่ รียนรู้ บอก หรอื สญั ลักษณ์ เครื่องหมาย เครื่องหมาย ความหมาย ประกอบด้วย สญั ลกั ษณ์ สัญลักษณ์ ของ -เคร่ืองหมาย ตา่ งๆ ต่างๆใน เครื่องหมาย สญั ลักษณ์ต่างๆท่ีพบ ชวี ิตประจำวัน หรอื เหน็ ในชวี ิตประจำวนั ได้ สญั ลักษณ์ -เคร่อื งหมายแสดง สำคัญทมี่ ัก ความปลอดภัยและ พบเห็นใน แสดงอันตราย ชวี ิตประจำวัน ท.๑.๑ ป.๑/๘ มารยาทในการอ่าน -การมมี ารยาท -บอกมารยาท -มวี นิ ยั ในการฝึก ในการอ่าน ในการอ่าน ปฏบิ ัติ มีมารยาทใน เชน่ การอ่าน -ไมอ่ ่านออกเสียงดัง รบกวนผู้อืน่ -ไมเ่ ลน่ กันขณะทอี่ ่าน -ไมท่ ำลายหนงั สือ

๓๙ ตารางวิเคราะหค์ ำอธบิ ายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ สาระท่ี ๒ การเขยี น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ คำสำคัญท่เี ป็นคุณภาพผเู้ รยี น แกนกลาง บรู ณาการ ความร้(ู k) ทกั ษะ(P) คณุ สมบัต(ิ A) ท.๒.๑ ป.๑/๑ การคัดลายมือตวั -คัดลายมือ -การคัด -คดั ไดต้ ัวบรรจง -มคี วามม่งุ ม่ัน คดั ลายมือตัว บรรจงเตม็ บรรทัดตาม คำคล้องจอง ลายมอื ตามแบบ และต้ังใจ บรรจงเต็ม รูปแบบการเขียนตวั ประเทศ ตาม บรรทดั อกั ษรไทย อาเซียน รปู แบบตัว อักษรไทย ท.๒.๑ ป.๑/๒ การเขยี นส่อื สาร -การเขียน -เขียนคำสอ่ื สาร -มีมารยาทใน เขียนสอ่ื สาร -คำท่ีใชใ้ น สอ่ื สาร -คำพ้นื บานเป็น การเขียน ดว้ ยคำและ ชวี ติ ประจำวัน ด้วยคำ ประโยค ประโยคง่ายๆ -คำพืน้ ฐานในบทเรียน และ -คำคลอ้ งจอง ประโยค -ประโยคงา่ ยๆ ง่ายๆ ท.๒.๑ ป.๑/๓ มารยาทในการเขยี น -มมี ารยาท -การมมี ารยาท -มวี นิ ยั ในการ มารยาทใน เช่น ในการ การเขยี นใช้ ฝกึ ปฏิบตั ิ การเขยี น -เขียนใหอ้ า่ นง่าย เขยี นใช้ ภาษาเขยี นให้ ภาษา เหมาะสม สะอาด ไมข่ ีดฆ่า เขยี น -ไม่ขีดเขยี นในท่ี เหมาะสม สาธารณะ กบั วัยเวลา -ใช้ภาษาเขยี น สถานท่ี เหมาะสมกับเวลา และบุคคล สถานท่ีและบุคคล

๔๐ ตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการดู ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ คำสำคญั ที่เปน็ คณุ ภาพผู้เรยี น แกนกลาง บูรณาการ ความรู้(k) ทักษะ(P) คุณสมบัติ(A) ท.๓.๑ ป.๑/๑ การฟงั และปฏิบัติตาม -การฟงั -การปฏิบัติตาม -มีวินยั ในการ ฟงั คำแนะนำ คำแนะนำ คำ ส่ังงา่ ยๆ คำสงั่ คำสัง่ คำแนะนำ ฝกึ ปฏิบตั ิ คำสงั่ งา่ ยๆ คำแนะนำ และปฏิบัติ และปฏิบตั ิ ตาม ตาม ท.๓.๑ ป.๑/๒ การจับใจความและพูด -จับใจความ -การตอบ -จับใจความและ -มีมารยาทใน พดู เรอื่ งทีฟ่ ัง การฟัง การดู ตอบคำถาม แสดงความคิดเหน็ สำคญั ในเน้ือ คำถาม และดูสำหรับ และการพูด เด็ก และเลา่ เรือ่ งท่ี ความรู้สกึ จากเรื่องที่ เพลงโตไปไม่ และเลา่ ฟังและดดู ูทงั้ ฟังและดู ทัง้ ทเี่ ป็น โกง เรื่องท่ีฟงั ท่ีเปน็ ความรู้ ความรแู้ ละความ และดู และความ บันเทิง เชน่ บันเทงิ -เร่ืองเลา่ และสารคดี ท.๓.๑ ป.๑/๓ สำหรับเด็ก พูดแสดงความ -นิทาน คิดเหน็ และ -การต์ ูน ความร้สู กึ จาก -เรื่องขบขนั ทฟ่ี ังและดู ท.๓.๑ ป.๑/๔ การพูดส่ือสารใน -การพดู -พดู แนะนำ -มมี ารยาทใน พดู ส่อื สารได้ ชีวิตประจำวัน เช่น แนะนำ ตนเอง พูด การพูด ตาม -การแนะนำตนเอง ตนเอง สือ่ สารได้ตรง วัตถุประสงค์ -การขอความช่วยเหลอื -การพูดขอ ตาม ความ วัตถุประสงค์ -การกลา่ วขอบคณุ ชว่ ยเหลือ -การกล่าวขอโทษ -การกลา่ ว ขอบคุณ -การกลา่ ว ขอโทษ

๔๑ ตารางวิเคราะหค์ ำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๑ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการดู ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้ คำสำคัญทเี่ ปน็ คุณภาพผู้เรยี น แกนกลาง บูรณาการ ความร(ู้ k) ทกั ษะ(P) คุณสมบัติ(A) ท.๓.๑ ป.๑/๕ มารยาทในการฟัง -การตั้งใจ -มมี ารยาทใน -มีเหตุผลไม่ มมี ารยาทในการ เชน่ ฟังดแู ละมี การฟัง การดู ลำเอียงรจู้ กั ใช้ ฟัง การดูและการ -ตง้ั ใจฟงั ตามองผู้พดู มารยาทใน และการพดู วจิ ารณญาณ พูด -ไม่รบกวนผู้อ่ืนขณะที่ การพดู ฟัง -ไม่ควรนำอาหารหรือ เคร่อื งด่ืมไป รับประทานขณะทฟี่ ัง -ใหเ้ กยี รติผพู้ ดู ด้วยการ ปรบมือ -ไมพ่ ดู สอดแทรก ขณะท่ีฟัง มารยาทในการดู เชน่ -ต้ังใจดู -ไมส่ ง่ เสียงดังหรือ แสดงอาการรบกวน สมาธขิ องผู้อืน่ มารยาทในการพูด เช่น -ใชถ้ ้อยคำและกริ ิยาท่ี สุภาพเหมาะสมกบั กาลเทศะ -ใชน้ ำ้ เสยี งน่มุ นวล

๔๒ ตารางวเิ คราะห์คำอธบิ ายรายวิชา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษา ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ คำสำคัญท่ีเปน็ คณุ ภาพผู้เรยี น แกนกลาง บูรณาการ ความร้(ู k) ทกั ษะ(P) คุณสมบัติ(A) ท.๔.๑ ป.๑/๑ -พยญั ชนะ สระ และ -พยญั ชนะ -อ่านและเขียน -ใฝเ่ รยี นรู้ บอกและเขียน วรรณยกุ ต์ ก-ฮ พยัญชนะ สระ พยญั ชนะ สระ -เลขไทย -สระ ๓๒ วรรณยุกตแ์ ละ วรรณยุกตแ์ ละเลข เสยี ง เลขไทย ไทย - วรรณยกุ ต์ -เลขไทย ท.๔.๑ ป.๑/๒ -การสะกดคำ การ -การเขียน -เขียนคำตรง -มีมารยาทใน เขียนสะกดคำและ แจกลูกและการอ่าน สะกดคำ ตามมาตราและ การเขียน บอกความหมาย เป็นคำ แจกลูกคำ ไม่ตรงตาม -มีความมุง่ มน่ั ของคำ -มาตราตัวสะกดท่ตี รง ตามมาตรา มาตรา ในการปฏบิ ตั ิ ตามมาตราและไม่ตรง สะกดที่ ตามมาตรา ตรงตาม -การผันคำ มาตราและ -ความหมายของคำ ไมต่ รงตาม มาตรา ท.๔.๑ ป.๑/๓ การแตง่ ประโยค -การเขยี น -แต่งประโยค -มคี วามมุ่งมัน่ เรยี บเรยี งคำเปน็ คำเปน็ จากคำ ตัง้ ใจในการ ประโยคง่ายๆ ประโยค ปฏบิ ัติ ท.๔.๑ ป.๑/๔ คำคล้องจอง -การเขยี น -นำคำมาแต่ง -ใฝเ่ รียนรู้ ต่อคำคล้องจอง คำคล้อง เปน็ คำคลอ้ ง ง่ายๆ จอง จอง

๔๓ ตารางวเิ คราะหค์ ำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้ คำสำคญั ท่เี ปน็ คุณภาพผ้เู รียน แกนกลาง บูรณาการ ความร(ู้ k) ทักษะ(P) คุณสมบตั ิ(A) ท.๕.๑ ป.๑/๑ วรรณกรรมรอ้ ยแก้ว -บอกข้อคิด -วรรณกรรม -บอกข้อคดิ -รกั ความเป็น บอกข้อคิดที่ไดจ้ าก และรอ้ ยกรองสำหรบั จากการฟงั รอ้ ยแกว้ จากการอา่ น ไทยและกล้า การอ่านหรือการฟัง เด็ก เชน่ เรื่อง ร้อยกรอง วรรณกรรม แสดงออก วรรณกรรมรอ้ ยแก้ว -นทิ าน เศรษฐกิจ สำหรับเดก็ -นทิ าน และรอ้ ยกรอง -เรอื่ งส้นั งา่ ยๆ พอเพียง ในบทเรียน -เรอ่ื งสน้ั งา่ ยๆ สำหรับเด็ก -ปรศิ นาคำทาย ในบทเรียน -บทร้องเลน่ -บทอาขยาน -บทร้อยกรอง วรรณคดแี ละ วรรณกรรมในบทเรียน ท.๕.๑ ป.๑/๒ บทอาขยานและบท -บทอาขยาน -ท่องจำบท -รกั ความเป็น ทอ่ งจำบทอาขยาน ร้อยกรอง ตามท่ี อาขยานและ ไทยและกล้า ตามทีก่ ำหนดและ -บทอาขยานตามท่ี กำหนดและ บทรอ้ ยกรอง แสดงออก บทรอ้ ยกรองตาม กำหนด บทร้อย ในบทเรยี น ความสนใจ -บทรอ้ ยกรองตาม กรองใน ความสนใจ บทเรยี น

๔๔ ตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวชิ า กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท๑.๑ ใชก้ ระบวนการสรา้ งความรู้ และความคิด เพ่ือนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดำเนินชีวิต และมีนิสยั รักการอ่าน สาระการเรยี นรู้ คำสำคญั ทเี่ ป็นคุณภาพผู้เรียน ตัวชีว้ ัด แกนกลาง บูรณาการ ความรู้ (K) ทักษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท๑.๑ ป.๒/๑อ่าน ⬤ การอา่ นออกเสยี งและ - บอก บอกหลักการอ่านออก - อา่ นออก - มีมีนิสยั รัก ออกเสยี งคำ การอ่านอย่าง คำคล้องจอง การบอกวามหมายของ ความหมาย เสยี ง เสียง สมำ่ เสมอ ขอ้ ความ และ คำ คำคล้องจอง - มนี ิสัยอ่าน บทร้อยกรอง และอา่ นบท คำ คำคลอ้ งจอง ตามความ งา่ ยๆ ขอ้ ความ และบทรอ้ ย รอ้ ยกรองท่ี และบทร้อยกรอง สนใจเหมาะ ได้ถกู ต้อง กรองงา่ ยๆ ที่ ง่ายๆ ท่ี กบั วยั ได้ ประกอบด้วยคำพนื้ ฐาน เปน็ ภาษาถ่นิ ประกอบดว้ ยคำ อยา่ งพอใจ ท๑.๑ เพ่ิมจาก ป. ๑ ใต้ เชน่ พื้นฐานเพม่ิ จาก ตาม ป.๒/๒ ไมน่ ้อยกวา่ ๘๐๐ คำ นกเขาเอ๋ย ป. ๑ คำทใ่ี ช้ ความสามารถ อธิบาย รวมท้งั คำท่ใี ช้เรียนรใู้ น เพลงกล่อม เรียนร้ใู นกลุ่ม สามารถนำใช้ ความหมาย กลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น เด็ก สาระการเรียนรู้ ในชวี ิต ของคำ และ ประจำวนั ได้ ขอ้ ความที่ ประกอบดว้ ย อน่ื ประกอบด้วย อา่ น - คำที่มีรูปวรรณยกุ ต์และ - ภาษาถิ่น - คำทมี่ รี ปู เหนอื กลาง วรรณยกุ ต์และไม่ ไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์ - คำที่มตี วั สะกดตรง ใต้ อีสาน มรี ูปวรรณยกุ ต์ ตามมาตราและไม่ อา่ นเรอื่ งทีม่ ี - คำทีม่ ตี ัวสะกด ตรงตามมาตรา เน้อื หาเกย่ี วกบั ตรงตามมาตรา - คำทีม่ พี ยัญชนะควบ หลกั ปรัชญา และไม่ตรงตาม กล้ำ เศรษฐกจิ มาตรา - คำทมี่ ีอักษรนำ พอเพยี ง - คำที่มีพยญั ชนะ - คำทม่ี ตี วั การนั ต์ ควบกลำ้ - คำทม่ี ี รร - คำท่ีมีอกั ษรนำ - คำทม่ี พี ยัญชนะและสระ - คำทม่ี ีตัวการนั ต์ ทีไ่ มอ่ อกเสียง - คำท่มี ี รร - คำที่มพี ยัญชนะ และสระทไี่ ม่ออก เสียง

๔๕ ตารางวเิ คราะห์คำอธบิ ายรายวิชา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒ สาระท่ี ๑ การอา่ น ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้ คำสำคัญที่เปน็ คุณภาพผู้เรียน แกนกลาง บรู ณาการ ความรู้ (K) ทักษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท๑.๑ ⬤ การอา่ นจบั ใจความจาก ตั้งและตอบ ตง้ั และตอบ มคี วามสนใจใน ป.๒/๓ ตง้ั สอื่ ตา่ งๆ เชน่ คำถาม คำถาม การอา่ น คำถามและ - นทิ าน เกยี่ วกบั เรอ่ื ง เก่ยี วกับ มมี ารยาทในการ ตอบคำถาม - เรือ่ งเลา่ สั้น ๆ ท่อี า่ น เร่ืองที่อา่ น อา่ น เกยี่ วกบั - บทเพลงและบทรอ้ ย เรือ่ งทีอ่ ่าน ระบใุ จความ นำไปใชใ้ น กรองง่ายๆ สำคญั ชวี ติ ประจำวนั ป.๒/๔. ระบุ - เรื่องราวจากบทเรยี น ระบใุ จความ ใจความสำคญั ในกลมุ่ สาระการ สำคัญ และ เรียนรู้ภาษาไทย รายละเอียด และกลุม่ สาระการ แสดงความ แสดงความ จากเร่อื งที่อ่าน เรยี นรอู้ นื่ คดิ เห็น คิดเห็น - ข่าวและเหตุการณ์ ป.๒/๕. แสดง ประจำวนั ความคดิ เหน็ และคาดคะเน เหตุการณ์จาก เรอ่ื งทีอ่ า่ น ท๑.๑ ⬤ การอ่านหนงั สือตาม - เรอื่ งการ - ฝึกอา่ นที - มีความสนใจใน ป.๒/๖ อ่าน ความสนใจ เชน่ อ่านข้อความ ละคนตาม การอ่านนิทานและ หนงั สือตาม - หนังสือทนี่ ักเรยี น ขอ้ เขยี นและ แบบทีค่ รู มมี ารยาทในการ ความสนใจ นำไปใชใ้ น กำหนด อ่านได้อย่าง อยา่ ง สนใจและเหมาะสมกบั วัย การเขยี นเรื่อง หรือเลือก เหมาะสมและ สม่ำเสมอและ - หนงั สอื ท่คี รูและ ได้ใน เรียนจาก ถูกต้องต่อ นำเสนอเรื่อง นักเรยี นกำหนดร่วมกัน ชีวิตประจำวนั ความสนใจ สาธารณะและ ท่อี ่าน ของ พอใจในการใช้ นักเรยี น คำแนะนำและ อย่างมี พอใจในการ มารยาท นำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวนั

๔๖ ตารางวเิ คราะหค์ ำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒ สาระที่ ๑ การอ่าน ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ คำสำคัญท่ีเป็นคุณภาพผเู้ รียน ท๑.๑ แกนกลาง บรู ณาการ ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) ป.๒/๗ อา่ น ข้อเขยี นเชิง ⬤ การอา่ นข้อเขยี นเชิง ขอ้ ความ อ่าน มารยาทในการ อธบิ าย และ ปฏิบัติตาม อธบิ าย และปฏบิ ัตติ าม ขอ้ เขยี นและ อา่ น คำส่งั หรือ ข้อแนะนำ คำส่ังหรอื ข้อแนะนำ นำไปใชใ้ น ป.๒/๗ มี การเขยี นเรื่อง มารยาทในการ อ่าน - การใช้สถานที่ ได้ใน สาธารณะ ชีวติ ประจำวัน - คำแนะนำการใช้ เคร่ืองใช้ทีจ่ ำเปน็ ในบา้ น และในโรงเรียน ⬤ มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไม่อ่านเสียงดงั รบกวนผอู้ น่ื - ไม่เลน่ กันขณะท่ีอา่ น - ไมท่ ำลายหนงั สือ - ไมค่ วรแยง่ อา่ นหรอื ชะโงกหนา้ ไปอา่ นขณะท่ี ผ้อู ่ืนกำลงั อา่ นอยู่

๔๗ ตารางวเิ คราะห์คำอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ สาระการเรยี นรู้ คำสำคัญทีเ่ ป็นคณุ ภาพผเู้ รียน ตวั ช้ีวัด แกนกลาง บรู ณาการ ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) ท๒.๑ ป.๒/๑ คัด ⬤ การคัดลายมอื ตัวบรรจง -ความรเู้ รื่อง การคัดลายมือ คดั ลายมือ มีความพอใจ ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ เตม็ บรรทดั ตามรูปแบบ อาเซยี น และการชอบ บรรทดั การเขยี นตวั อักษรไทย ในการเขยี นอยู่ อยา่ ง สม่ำเสมอ ป.๒/๒ เขยี น ⬤ การเขยี นเร่อื งส้ันๆ -ความรเู้ รอื่ ง การเขียนเร่ือง เขียนเร่อื งสั้น - มีนิสยั รัก เรื่องสัน้ ๆ เก่ยี วกับประสบการณ์ อาเซยี น ส้ัน ๆเก่ียวกับ ๆเกี่ยวกับ การเขียนอยา่ ง เก่ยี วกับ ประสบการณ์ ประสบการณ์ ตอ่ เนื่อง ประสบการณ์ ⬤ การเขียนเรือ่ งสน้ั ๆ ตาม ป.๒/๓ เขยี น จินตนาการ การเขยี นเรอ่ื ง เขยี นเรอ่ื งสั้นๆ มคี วามพอใจ เรื่องสนั้ ๆ ตาม ส้ันๆ ตาม ตามจินตนาการ และการชอบ จนิ ตนาการ จินตนาการ ในการเขียนอยู่ ป.๒/๔ ๔. มี ⬤ มารยาทในการเขยี น มารยาทในการ อยา่ ง มารยาทใน เขียน สมำ่ เสมอ การเขยี น - มนี สิ ยั รัก การเขียนอยา่ ง ตอ่ เนอ่ื ง มมี ารยาทนา การเขียน

๔๘ ตารางวิเคราะห์คำอธบิ ายรายวชิ า กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู ึกใน โอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ สาระการเรยี นรู้ คำสำคญั ท่เี ปน็ คุณภาพผ้เู รยี น ตวั ช้วี ัด แกนกลาง บูรณาการ ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลกั ษณะ (A) ท๓.๑ ⬤ การฟงั และปฏบิ ตั ิตาม การฟงั และ ฟงั และปฏบิ ัติ ป.๓/๑ ฟัง คำแนะนำ คำสงั่ ที่ ปฏิบัตติ าม ตามคำแนะนำ คำแนะนำ ซบั ซอ้ น คำแนะนำ คำสง่ั คำส่งั ที่ คำส่งั ทซี่ บั ซ้อน ทซ่ี บั ซอ้ น ซบั ซอ้ น และปฏบิ ตั ิตาม ป.๓/๒เล่า ⬤ การจบั ใจความและพดู -พูดแสดงถึง การจบั ใจความ จับใจความ สามารถสอื่ สาร เร่ืองทฟ่ี ังและ แสดงความคิดเห็น ความมคี ุณธรรม และพดู แสดง และพดู แสดง ได้อยา่ งถูกตอ้ ง และโตไปไมโ่ กง ความคดิ เหน็ ดทู ง้ั ท่ีเป็น ความรสู้ ึกจากเร่อื งที่ ความรู้สึกจาก ความคดิ เหน็ อธิบายได้ บอกเลา่ เร่ือง เร่อื งที่ฟังและดู ความรู้สกึ จาก ถกู ต้องเก่ยี วกับ ความรแู้ ละ ฟงั และดู ทง้ั ทีเ่ ป็น เกยี่ วกบั ท้องถ่ิน เร่ืองท่ีฟังและ อาชพี อาหาร ของเรา (จังหวัด ดู รายไดจ้ าก ความบนั เทงิ ความรแู้ ละความ ตรงั ) บันเทิง เชน่ ป.๓/๓ บอก - เรอื่ งเล่าและสารคดี อาชีพในจังหวดั ตรัง ขนม สาระสำคญั สำหรบั เดก็ ฟังและบอก สญั ลักษณ์ เลา่ เร่ืองราว ประจำจงั หวัด ของเรือ่ งที่ฟงั - นทิ าน การต์ ูน และ ตา่ ง ๆ ใน จังหวดั ตรงั ได้ และดู เรือ่ งขบขนั ป.๓/๔ ตงั้ รายการสำหรับเดก็ คำถามและ - ขา่ วและเหตุการณ์ - พูดดว้ ย ตอบคำถาม ประจำวนั ประโยคที่ เก่ียวกบั เร่อื งท่ี - เพลง เหมาะสมได้ ฟงั และดู - บอกเลา่ ป.๓/๕ พดู แนะนำ แสดงความ ตนเองได้ คดิ เหน็ และ ความรู้สึกจาก เรื่องที่ฟังและ ดู

๔๙ ตารางวเิ คราะหค์ ำอธิบายรายวิชา กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู สาระการเรยี นรู้ คำสำคัญท่เี ปน็ คุณภาพผเู้ รียน ตัวชวี้ ัด แกนกลาง บูรณาการ ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลักษณะ (A) ท๓.๑ ⬤ การพดู สอ่ื สารใน พูดสอ่ื สาร การพูดส่อื สารใน พดู สอ่ื สารใน ป.๓/๖ พูด ชวี ติ ประจำวนั เช่น เกีย่ วกับอาชีพใน ชีวิตประจำวนั ชีวิตประจำวนั สอ่ื สารได้ - การแนะนำตนเอง จังหวดั ตรงั ธรุ กิจ ชัดเจนตรง - การขอความ สญั ลกั ษณ์ของ ตาม ช่วยเหลอื จังหวัด อาหารดงั วัตถุประสงค์ - การกล่าวคำขอบคุณ ของจงั หวดั - การกล่าวคำขอโทษ - การพูดขอรอ้ งใน โอกาสตา่ งๆ - การเลา่ ประสบการณ์ใน ชีวิตประจำวนั ป.๓/๗ มี ⬤ มารยาทในการฟงั มารยาทในการ ปฎบิ ัตติ นเปน็ มมี ารยาทในการ มารยาทใน ⬤ มารยาทในการดู ฟงั การดู และ ผูม้ ีมารยาทใน ฟงั การดู และ การฟัง การดู ⬤ มารยาทในการพูด การพูด การฟงั การดู การพูด และการพดู การพดู