เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๑ พฤหสั บดีท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ บา้ นเลขท่ี ๒๗ หมู่ ๖ ต. เกาะเปี ยะ อ. ยา่ นตาขาว จ. ตรัง การเดินทางมาท่องเท่ียวจงั หวดั ตรังคร้ัง น้ี นบั เป็นการท่องเที่ยวท่ีประทบั ใจท่ีสุด เพราะไดส้ มั ผสั กบั วิถีชีวติ ของชาว ตรังท่ีมีเอกลกั ษณ์เฉพาะที่โดดเด่นและหลากหลาย หน่ึงในเอกลกั ษณท์ ่ีไม่มี ใครเหมือนนน่ั กค็ ือ ประเพณีงานศพ จงั หวดั ตรัง มีท้งั ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทย เช้ือสายจีน อาศยั อยู่ การจดั งานศพจึงมีพิธีกรรมท่ีแตกต่างไปตามศาสนา และความเชื่อด้งั เดิม แต่กม็ ีพิธีกรรมบางอยา่ งที่เหมือนกนั และมีลกั ษณะ ท่ีโดดเด่นจนเป็นเอกลกั ษณ์ของจงั หวดั ตรัง
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๒ วนั น้ีขณะที่กลบั จากท่องทะเลตรัง กิ๊บตอ้ งรีบกลบั บา้ นที่ยา่ นตาขาว เน่ืองจากคุณยายไดเ้ สียชีวติ ลง พวกเราทุกคนเลยตามกิ๊บมาดว้ ย เมื่อมาถึงบา้ นของกิ๊บพวก เราไดพ้ บกบั ญาติพ่ีนอ้ งและเพ่ือนบา้ นของก๊ิบมากมายที่มารอรดน้าศพคุณยายซ่ึงเป็นชาว ไทยพทุ ธ พิธีกรรมงานศพของชาวไทยพุทธ เร่ิมจากการเตรียมผตู้ ายก่อนบรรจุลง ในโลงศพ เริ่มดว้ ยการอาบน้า หรือรดน้า ใส่เส้ือผา้ ใหผ้ ตู้ าย จดั แต่งซองหมากพลู ดอกไม้ ธูปเทียน ใหผ้ ตู้ ายถือไวแ้ ลว้ คลุมดว้ ยผา้ พระภิกษุทาพิธีมดั ตราสงั จากน้นั นา ผตู้ ายบรรจุลงในโลงศพ ถา้ มีคนเสียชีวติ ในวนั พธุ ที่น่ีจะไม่บรรจุศพลงโลงศพ จะรอ เวลาจนผา่ นเที่ยงคืนไปแลว้ จึงจะบรรจุศพลงในโลงศพเพราะมีความเช่ือวา่ วนั พุธเป็น วนั ท่ีไม่เป็นมงคล เม่ือบรรจุผตู้ ายลงโลงศพเรียบร้อยแลว้ พระสงฆส์ วดพระอภิธรรม ศพ เป็นอนั เสร็จพิธีในช่วงแรกของพิธีกรรมงานศพ ค่าคืนน้ีเป็นค่าคืนท่ีค่อนขา้ งเศร้า พวกเราท้งั หา้ คนมีอาการสารวม ปราศจากเสียงหวั เราะสนุกสนานเฮฮา โดยเฉพาะก๊ิบมีอาการเศร้าท่ีสุด พวกเรากไ็ ด้ แต่พดู จาปลอบโยนเพื่อคลายความเศร้าโศก
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๓ วนั ศุกร์ท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ บา้ นเลขท่ี ๒๗ หมู่ ๖ ต. เกาะเปี ยะ อ. ยา่ นตาขาว จ. ตรัง เชา้ น้ีบรรยากาศภายในบา้ นของกิ๊บดูเงียบเหงา ท้งั ที่มีญาติพ่ีนอ้ งมากมาย สีหนา้ และแววตาของทุกคนแสดงใหเ้ ห็นถึงความเศร้าโศกในการจากไปของคุณยาย วนั น้ีกิ๊บไดร้ ับมอบหมายจากคุณพ่อใหท้ าหนา้ ท่ีจดรายช่ือเจา้ ภาพงานศพ สาหรับพิมพ์ ลงในใบประกาศ พวกเราสงสยั วา่ ใบประกาศคืออะไร คุณตาซ่ึงนงั่ อยดู่ ว้ ยไดใ้ หห้ นงั สือ พวกเราหน่ึงเล่มสาหรับไขขอ้ สงสยั เร่ืองใบประกาศ ในหนงั สือแลหลงั ...เมืองตรัง ใตร้ ่มพระบารมี หนา้ ๓๙-๔๐ กล่าวถึงเร่ืองใบประกาศไวว้ า่ “ใบประกาศ คือ แผน่ กระดาษขนาดใหญ่มีขอ้ ความ บอกขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผตู้ าย เช่น ชื่อ สกลุ อายุ สาเหตุการตาย ขอ้ มูล เกี่ยวกบั สถานท่ีจดั งาน วนั จดั งาน วนั ฌาปนกิจศพ และรายช่ือ เจา้ ภาพ
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๔ ใบประกาศงานศพ คลา้ ยกบั การ์ดเชิญ ต่างกนั ตรงท่ีการ์ดเชิญน้นั มกั เป็นงานมงคล เจา้ ภาพจะนาไปเชิญเพื่อนฝงู มาร่วมงานดว้ ยตวั เอง ส่วนใบ ประกาศจะนาไปปิ ดไวต้ ามท่ีชุมชน เช่น ร้านกาแฟ ร้านคา้ หรือส่งไปประกาศ ทางสถานีวิทยุ เม่ือผอู้ ่านหรือผฟู้ ังรู้ข่าว กจ็ ะไปร่วมงาน ซ่ึงการทาใบประกาศ แลว้ นาไปติดไวใ้ นที่ต่างๆ เพ่ือใหค้ นอ่ืนไดร้ ับทราบน้นั ถือวา่ เป็นการเชิญแลว้ ” “ความเป็นมาของใบประกาศงานศพเริ่มมาจากชาวจีนอพยพท่ีมาต้งั ถิ่นฐานทามา หากินในเมืองตรัง ชาวจีนอพยพเหล่าน้ีมีความผกู พนั ห่วงใย ต่อกนั มีการพบปะ ช่วยเหลือเก้ือกลู บอกเล่าทุกขส์ ุขสู่กนั โดยตลอด เมื่อมีการตายเกิดข้ึนจึงถือเป็นเร่ืองสาคญั ท่ีจาเป็นตอ้ งบอกกล่าว ต่อกนั หากแต่ความยากจนขน้ แคน้ ในภาวะความเป็นอยขู่ องชาวจีนในสมยั น้นั ไม่เอ้ืออานวยให้ สามารถส่งการ์ดเชิญใหแ้ ก่ญาติมิตรทุกบา้ นได้ จึงอาศยั การเขียนใบประกาศปิ ดตามร้านคา้ ร้าน กาแฟที่คนจีนนิยมมานง่ั ในตอนเชา้ ทาใหท้ ราบข่าวคราวของญาติมิตรได้ การบอกข่าวคนตายในหมู่คนจีน ไดข้ ยายไปสู่คนไทย จากการสื่อสารดว้ ยภาษาจีน มาเป็นการสื่อสารดว้ ยภาษาไทย จากการเขียนลงบนแผน่ กระดาษ มาสู่ระบบการพิมพ์ จากเขต เมืองสู่ชนบทรอบนอกและทวั่ ท้งั จงั หวดั จนทาให้ ใบประกาศงานศพน้ีเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของ เมืองตรัง”
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๕ วนั เสาร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ บา้ นเลขที่ ๒๗ หมู่ ๖ ต. เกาะเปี ยะ อ. ยา่ นตาขาว จ. ตรัง วนั น้ีเป็นวนั แรกของการจดั งานบาเพญ็ กศุ ลศพของคุณยาย ซ่ึงท่ีนี่เรียกวนั น้ี วา่ วนั เขา้ ทบั คือ วนั แรกของการจดั งานบาเพญ็ กศุ ลศพ เจา้ ภาพจดั เตรียมอาหารไวเ้ ล้ียง แขกท่ีมาร่วมงาน อาหารท่ีเตรียมไวม้ ีหลายอยา่ ง การเล้ียงอาหารม้ือเยน็ ถือเป็นเร่ือง สาคญั ยงิ่ ตอ้ งมีอาหารไม่นอ้ ยกวา่ ๓ – ๔ อยา่ ง แกงหลกั ๆ มกั จะเป็นแกงเน้ือววั แกงจืด ผดั ชนิดต่างๆ และท่ีขาดไม่ได้ คือ เกายกุ (คลา้ ยหมูพะโล้ ปรุงรสเพ่ิมเติมดว้ ยเตา้ หูย้ ้ี ใส่ เผอื ก เตา้ หูท้ อด และเห็ดหอม) เร่ืองอาหารน้ีเจา้ ภาพถือเป็นเร่ืองสาคญั ที่ตอ้ งดูแลมิใหข้ าด ตกบกพร่อง ตอนเชา้ ของวนั น้ีที่โรงครัวเตม็ ไปดว้ ยผคู้ นที่มาช่วยจดั เตรียม งาน เดก็ สาวๆ ช่วยกนั ลา้ งแกว้ ลา้ งจดั จดั โตะ๊ ไวส้ าหรับตอ้ นรับแขกท่ีมา งาน ส่วนเดก็ หนุ่มๆ ช่วยกนั หน่ั เน้ือ หน่ั หมู สาหรับใหพ้ อ่ ครัวทาแกง ดูแลว้ ช่างเป็นภาพที่น่าประทบั ใจ ผคู้ นมีความสามคั คีช่วยเหลือกนั และกนั โดย ปราศจากการวา่ จา้ ง
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๖ ตอนเยน็ เริ่มมีแขกมาร่วมงาน พวกเราท้งั ๕ คนและหญิงสาวญาติๆ ของกิ๊บและเพ่ือนบา้ นช่วยกนั ยกอาหาร เคร่ืองดื่มและขนมมาบริการ ซ่ึงคืนน้ีมีถว่ั ลิสงควั่ ขนมหมอ้ แกง ขนมหนา้ ต้งั ขนมสอดไส้ ผลไม้ และน้าชา ฉนั เกิดขอ้ สงสยั วา่ ทาไมท่ีน่ีเขาเล้ียงอาหารและขนมหลายอยา่ ง เลยถามเพ่ือน บา้ นของกิ๊บทราบวา่ เอกลกั ษณ์งานศพของชาวจงั หวดั ตรังท่ีโดดเด่น คือ การเล้ียงอาหารแก่ผู้ มาร่วมงานซ่ึงประกอบดว้ ยอาหารคาวหวาน จานวนมากอยา่ งตามฐานะของเจา้ ภาพหรือ ตามที่ญาติมิตรจดั มาใหด้ ว้ ยน้าใจแห่งมิตรภาพ
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๗ ค่าคืนน้ีในงานศพของคุณยายมีมหรสพแสดง ๒ รายการ คือ กาหลอ กบั หนงั ตะลุง ส่วนคืนพรุ่งน้ีจะมีการแสดงมโนราห์ ดว้ ยความอยากรู้เร่ืองราวความเป็นมาของกาหลอ จึงไป ขอหนงั สือจากคุณตามาอ่าน ในหนงั สือวฒั นธรรม พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ เอกลกั ษณ์และภมู ิปัญญาจงั หวดั ตรัง หนา้ ๑๘๘ กล่าวถึงเร่ืองกาหลอ ไวว้ า่ “กาหลอเป็ นเคร่ื องประโคมเก่าแก่นิยมเล่นในงานศพมา นาน เสียงป่ี กาหลอผสมผสานกบั เสียงฆอ้ งและกลองประโคมน้ี เชื่อ กนั วา่ เป็นการปลุกวญิ ญาณผตู้ ายใหค้ ลายโศก รวมท้งั ไดป้ ลอบ ประโลมญาติที่อยขู่ า้ งหลงั ดว้ ย
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๘ กาหลอวงหน่ึงจะมีเครื่องดนตรี ๓ อยา่ ง ไดแ้ ก่ ป่ี ชวา กลองทน (โทน) และฆอ้ ง ใชผ้ ู้ ประโคมดนตรี ๓ – ๔ คน คือ หวั หนา้ วงซ่ึงเป็นผเู้ ป่ าปี่ เรียกวา่ นายโรง หรือนายปี่ ลูกวงอีก ๓ คน ทาหนา้ ท่ีตีโทน ๒ คน เป็นโทนแม่กบั โทนลูก เรียกวา่ นายทน ตีฆอ้ ง ๑ คนเรียกวา่ นายฆอ้ ง กาหลอในยคุ เดิมมีบทบาทต่องานศพค่อนขา้ งมาก เพราะสมยั ก่อนไม่มีเคร่ือง ขยายเสียงท่ีจะเปิ ดเพลงกล่อมในงาน กาหลอจึงเป็นดนตรีที่เจา้ ภาพรับมาอยปู่ ระจางานศพ จนกวา่ จะเสร็จสิ้น กาหลอจึงมีบทบาทสร้างบรรยากาศของงานมิใหเ้ งียบเหงา นอกจากน้ียงั มีความเชื่อวา่ เสียงกาหลอจะออ้ นวอนพระกาฬใหย้ อมรับดวงวิญญาณของผตู้ ายไปสู่ปรโลก ดว้ ย ยคุ ปัจจุบนั ทายาทกาหลอ หาไดย้ ากยงิ่ กาหลอจึงนบั วนั ยง่ิ เลือนหายไรผ้ สู้ ืบสาน”
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๙ วนั อาทิตยท์ ่ี ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ บา้ นเลขท่ี ๒๗ หมู่ ๖ ต. เกาะเปี ยะ อ. ยา่ นตาขาว จ. ตรัง วนั น้ีเป็นวนั ที่สองของการจดั งานบาเพญ็ กศุ ลศพ เรียกวา่ วนั เขา้ การ ใน วนั น้ีคนมีคนมาร่วมงานเป็นจานวนมาก เจา้ ภาพทกั ทายผคู้ นท่ีมาร่วมงาน พิธีกรกล่าว ตอ้ นรับเช้ือเชิญแขกที่มาร่วมงานเขา้ สู่โรงเล้ียงเพื่อรับประทานอาหาร เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ญาติมิตร หรือแขกท่ีมา ร่วมงานกจ็ ะร่วมทาบุญ หรือท่ีเรียกวา่ “ใหง้ าน” ซ่ึงมีก๊ิบและญาติ สลบั กนั นง่ั คอยรับเงินทาบุญ พร้อมท้งั จดชื่อ นามสกลุ ท่ีอยู่ จานวนเงินที่ ทาบุญ เจา้ ภาพตอบแทนผทู้ ่ีร่วมทาบุญดว้ ยบตั รขอบคุณขนาดเลก็ ผกู ดา้ ย สีแดง ในบตั รขอบคุณมีขอ้ ความบอกกาหนดการฌาปนกิจศพไวซ้ ่ึงคลา้ ย เป็นการเชิญชวนใหม้ าร่วมพิธีในวนั เผาอีกคร้ังหน่ึง ปัจจุบนั บางงาน เปลี่ยนจากบตั รขอบคุณเป็นของชาร่วยประเภทยาหม่อง ยาดม ปากกา ฯลฯ
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๑๐ เป็นธรรมดาของชีวิตมีเกิดยอ่ มมีตาย ไม่มีใครที่จะมีชีวติ อยไู่ ดย้ นื ยาวโดยไม่มีการตาย เมื่อมีการตายเกิดข้ึนกย็ อ่ มเกิดประเพณี หรือแนวปฏิบตั ิเก่ียวกบั การตายข้ึนมา ซ่ึงแต่ละทอ้ งที่แต่ละเช้ือชาติจะมี ประเพณีเก่ียวกบั การตายท่ีแตกต่างกนั ในหนงั สือวฒั นธรรม พฒั นาการทาง ประวตั ิศาสตร์ เอกลกั ษณแ์ ละภูมิปัญญาจงั หวดั ตรัง หนา้ ๑๘๘ กล่าวเก่ียวกบั ประเพณีงานศพของชาวตรัง เช้ือสายจีนไวว้ า่ ประเพณีงานศพของชาวไทยเช้ือสายจีนมีความ คลา้ ยคลึงกบั ประเพณีงานศพของชาวไทยพทุ ธ กล่าวคือ เมื่อมี คนตายลงกจ็ ะนาศพใส่โลงไมห้ นาขนาดใหญ่ที่มีรูปทรง เฉพาะตวั เรียกวา่ โลงหวั หมู ชาวไทยเช้ือสายจีนมีความเชื่อ เก่ียวกบั การจดั ซ้ือโลงศพวา่ จะเพิม่ ราคาสูงกวา่ ที่ผขู้ ายบอก ดว้ ยเช่ือวา่ จะทาใหญ้ าติมิตรท่ีอยมู่ ีความเป็นอยเู่ จริญรุ่งเรือง ข้ึน
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๑๑ การแต่งกายไวท้ ุกขข์ องชาวไทยเช้ือสายจีน แต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ สีดา เหมือนกบั การไวท้ ุกขข์ องชาวไทยพทุ ธ แตกต่างตรงท่ีการแต่งกายของชาวไทยเช้ือ สายจีนมีเคร่ืองหมายบอกฐานะความสมั พนั ธก์ บั ผตู้ ายปิ ดไวท้ ี่เส้ือ ในวนั ที่ยกศพไปฝังที่ฮวงซุย้ ก่อนยกศพจะมีการเซ่นไหวห้ มู ยา่ ง ซ่ึงลูกหลานและญาติพ่นี อ้ งนามาเซ่นไหวค้ นละตวั หรือกลุ่มละตวั หลงั จากน้นั กใ็ ชเ้ ป็นอาหารเล้ียงแขกที่มาร่วมงานควบคูก่ บั บะหมี่ หรือขา้ ว สวย การเคลื่อนศพไปสุสาน นิยมจดั ขบวนแห่อยา่ งใหญ่โต มีรถ ของญาติและเพ่ือนๆ ผตู้ ายร่วมขบวนยาวเหยยี ดไปตามถนน เจา้ ภาพจะ ตอบแทนดว้ ยผา้ ขนหนูหรือผา้ ขาวมา้ ผกู ที่รถทุกคนั
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๑๒ ส่วนประเพณีงานศพของชาวไทยมุสลิม มีการปฏิบตั ิพิธีกรรม แบบเรียบง่ายตามหลกั ศาสนา เม่ือมีผตู้ าย เพ่ือนบา้ นจะใหค้ วามช่วยเหลือ ครอบครัวผตู้ าย มีการบอกข่าวการตายดว้ ยวาจาหรือตีกลองของมสั ยดิ พิธีศพของชาวไทยมุสลิมจะใชว้ ิธีฝัง ภายใน ๒๔ ชวั่ โมง เพราะถือวา่ ถา้ ไวน้ านจะทาใหผ้ ทู้ ่ีมีชีวติ อยตู่ อ้ งเสียใจเพิ่มมากข้ึน เพื่อนบา้ น จะช่วยกนั ขดุ หลุม ท่ีสุสานซ่ึงเรียก “กโุ บว”์ ทาโลงศพดว้ ยไมก้ ระดานแบบ ง่ายๆ เพราะถือวา่ การตายเป็นเร่ืองการเปล่ียนแปลงที่อยไู่ ปยงั อีกโลกหน่ึง การแต่งกายของญาติผตู้ ายหรือมิตรที่ไปร่วมพิธี ศพจะไม่แต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ สีดา หลงั จากฝังศพแลว้ จะมีประเพณีการเยย่ี มสุสาน เพ่ือระลึก ถึงความตาย เป็นการเตือนใจไม่ใหต้ ้งั อยใู่ นความประมาท มีการจดั ทา บุญ เรียกวา่ นุหรี ที่บา้ นหรือสุเหร่า เพ่ืออุทิศใหแ้ ก่ผตู้ าย ซ่ึงจะทากนั ใน ตาย และช่วงระยะเวลา ๓ วนั ๗ วนั หรือ ๔๐ วนั โดยเจา้ ภาพจะพิมพ์ ใบประกาศหรือบอกกล่าวแก่ญาติมิตรใหท้ ราบและเชิญมาร่วมงาน” การมาท่องเท่ียวจงั หวดั ตรังคร้ังน้ีนบั วา่ เป็นกาไรของ ชีวิตท่ีไดร้ ับความรู้เกี่ยวกบั ประเพณีงานศพของชาวตรงั
เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี ๑๓ วนั จนั ทร์ท่ี ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ บา้ นเลขท่ี ๒๗ หมู่ ๖ ต. เกาะเปี ยะ อ. ยา่ นตาขาว จ. ตรัง วนั น้ีเป็นวนั เผา คือวนั ยกศพไปเผาหรือไปฝัง บรรดา ญาติมิตรเพื่อนฝงู ที่รู้จกั กจ็ ะมาร่วมพิธีสวดมาติกาบงั สุกลุ วนั น้ีมีการ เล้ียงอาหารเที่ยงอีกคร้ังหน่ึง เม่ือถึงเวลากจ็ ะยกศพจากท่ีต้งั ไปสู่เมรุ เพ่ือเผา แลว้ จะเกบ็ อฐั ิในวนั รุ่งข้ึน โดยเจา้ ภาพจะนิมนตพ์ ระสงฆม์ า แปรธาตุเพื่อเกบ็ อฐั ินาไปบงั สุกลุ จากน้นั จะนาไปเกบ็ ไวใ้ นที่เหมาะสม หรือเกบ็ ไวใ้ นบวั ซ่ึงทาเป็นรูปเจดียเ์ ลก็ ๆ สูงประมาณ ๑ เมตร เรียกวา่ เขา้ บวั
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๑๔ ประเพณีงานศพท้งั สามเช้ือชาติของชาวตรัง สะทอ้ นถึงคุณคา่ ทางสงั คมซ่ึงมีหลาย ประการดว้ ยกนั ประการแรก คือ จานวนรายชื่อเจา้ ภาพในใบประกาศงานศพ ท่ีเตม็ ไปดว้ ยเครือญาติ เกือบคร่ึงร้อยหรือมากกวา่ น้นั ตรงน้ีแสดงใหเ้ ห็นถึงความรัก ความผกู พนั ระหวา่ งเครือญาติ ประการท่ีสอง อาหารจานวนมากอยา่ งที่นามาเล้ียงแขก คือคุณคา่ อนั เป็นเอกลกั ษณ์ ประเพณีงานศพของจงั หวดั ตรัง คนที่มองผวิ เผนิ ถือเอาเร่ืองเศรษฐกิจเป็นดชั นีช้ีวา่ สิ้นเปลือง ฟ่ ุมเฟื อย เขา้ ลกั ษณะคนตายขายคนเป็น หากแต่มองใหล้ ึกในแง่มุมของวิถีชีวิต ประเพณี ความ ฟ่ ุมเฟื อยลกั ษณะคนตายขายคนเป็นดงั กล่าว กจ็ ะถูกบดบงั ดว้ ยคุณค่า คนตายสร้างสายใยคนเป็น นนั่ หมายความวา่ คนเป็นยงั คงรักษามิตรภาพระหวา่ งญาติพี่นอ้ งและเพื่อนฝงู ใหค้ งอยนู่ านเท่านาน ประการที่สุดทา้ ย ประเพณีศพของชาวตรังเป็นการธารงไวซ้ ่ึงคุณธรรมของการ ช่วยเหลือเก้ือกลู กนั ทางแรงกาย การมีน้าใจ คนเฒ่าคนแก่ทาหนา้ ที่จดั หมากพลู ผชู้ ายสูงอายชุ ่วย ผา่ ฟื น เดก็ หนุ่มช่วยหนั่ เน้ือ ผหู้ ญิงช่วยทาครัว เดก็ สาวช่วยเสิร์ฟอาหาร ช่วยลา้ งภาชนะ ประเพณีงานศพเอกลกั ษณ์ของเมืองตรังจะยงั คงไวซ้ ่ึงสารัตถะและคุณค่าหรือไม่ หรือจะเหลือไวแ้ ต่เพียงรูปแบบของใบประกาศงานศพท่ีไร้คุณคา่ ยอ่ มข้ึนอยกู่ บั ลูกหลานของชาว ตรังวา่ จะรักษาจารีตประเพณีอนั เป็นเอกลกั ษณ์เอาไวห้ รือไม่
เล่ม ๕ วถิ ปี ระเพณี ๑๕ บรรณานุกรม จงั หวดั ตรัง. (๒๕๔๔). วฒั นธรรม พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ เอกลกั ษณ์และ ภูมปิ ัญญาจงั หวดั ตรัง. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว เทศบาลนครตรัง. (๒๕๔๙). แลหลงั เมืองตรัง ใต้ร่มพระบารมี. กรุงเทพฯ : บริษทั เวริ ์ค พอยทพ์ บั ลิชช่ิง จากดั . มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. (๒๕๔๘). รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการสารสนเทศ และสื่อ เพื่อพฒั นาการท่องเที่ยวจงั หวดั ตรัง. กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุม สหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . ราชบณั ฑิตสถาน.(๒๕๔๖). พจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพ : นานมีบุค๊ ส์พบั ลิเคชนั่ ส์.
คานา หนงั สือสารคดีเล่าขานเร่ืองราวตานาน วถิ ีตรัง เล่ม ๕ วถิ ีประเพณี เล่มน้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือเป็นส่ือส่งเสริมนิสยั รักการอา่ น และพฒั นาทกั ษะการเขียน เชิงสร้างสรรค์ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ ซ่ึงมุ่งเนน้ ให้ นกั เรียนสามารถผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่างๆได้ เน้ือหาในหนงั สือสารคดีเล่าขานเรื่องราวตานาน วิถีตรัง เลม่ น้ี กล่าวถึงประเพณีงานศพของชาวตรัง ประเพณีถือศีลกินเจ ท่ีมีเอกลกั ษณ์ เฉพาะตวั ซ่ึงนาเสนอในรูปของหนงั สือสารคดี มีตวั ละครเป็นผดู้ าเนินเร่ืองและ ถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้เก่ียวกบั ประเพณี หนงั สือส่งเสริมการอ่าน เลม่ น้ี คงอานวยประโยชนใ์ นการส่งเสริม นิสยั รักการอ่าน และส่งผลใหน้ กั เรียนมีความสามารถดา้ นการเขียนเชิง สร้างสรรคเ์ พม่ิ ข้ึน และส่งผลใหผ้ อู้ ่านมีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั วถิ ี ประเพณีของคนตรังเพิม่ ข้ึน ขอขอบพระคุณผทู้ ่ีมีส่วนช่วยใหค้ าแนะนาในการ จดั ทาหนงั สือจนสาเร็จเรียบร้อยดว้ ยดี นายภิญโญ สิทธิพิสยั นางสาวอุษา บุปผะโพธ์ิ นางสาวสุทิศา สิ้นทุกข์ ที่ปรึกษา นางสาวกวีกานต์ สงั ขท์ อง นางสาวจุฑามาศ สุขสนาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: