ทฤษฎีสี ( )THEORY OF COLOR
1.ความหมายและการเกดิ สี • สี (Color) •ตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน หมายถึง ลกั ษณะของแสง ท่ีปรากฏแก่ สายตาเรา ใหเ้ หน็ เป็น สีขาว ดา แดง เขียวฯลฯ หรอื การสะทอ้ นรศั มีของแสงมาสตู่ าเรา
•สี ท่ปี รากฏ ในธรรมชาติ เกิดจากการสะทอ้ นของแสงสวา่ ง ตกกระทบ กบั วตั ถุ แลว้ เกิดการหกั เหของแสง ( Spectrum ) สเี ป็นคล่นื แสงชนิดหนง่ึ ซ่งึ ปรากฏใหเ้ หน็ เม่อื แสงผ่านละอองไอนา้ ในอากาศ หรอื แทง่ แกว้ ปรซิ ึม ปรากฏ เป็นสีตา่ งๆ รวม 7 สี ไดแ้ ก่ สีแดง มว่ ง สม้ เหลอื ง นา้ เงิน คราม และเขียว เรยี กวา่ สีรุง้ ท่ปี รากฏบนทอ้ งฟา้
2.ประเภทของสี สี มีอยทู่ ่วั ไปในส่งิ แวดลอ้ มรอบๆตวั เรา สที ่ปี รากฏอยใู่ นโลกสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คอื 2.1 สีทเี่ กดิ ในธรรมชาติ มอี ยู่ 2 ชนิดคอื ก. สีท่เี ป็นแสง ( Spectrum ) คอื สีท่เี กิดจากการหกั เหของแสง เช่น สรี ุง้ สี จากแทง่ แกว้ ปรซิ มึ ข. สีท่อี ย่ใู นวตั ถุ หรอื เนือ้ สี ( Pigment ) คือ สีท่มี อี ย่ใู นวตั ถธุ รรมชาติท่วั ไป เช่น สขี องพชื สตั ว์ หรอื แรธ่ าตตุ า่ งๆ
•2.2 สีทม่ี นุษยส์ ร้างขนึ้ คอื สที ่ไี ดจ้ ากการสงั เคราะห์ เพ่อื ใชป้ ระโยชนใ์ นงาน ตา่ งๆ เช่น งานศิลปะ อตุ สาหกรรม การพาณิชย์ และในชีวติ ประจาวนั โดย สงั เคราะหจ์ ากวสั ดธุ รรมชาติ และจากสารเคมี ท่เี รยี กวา่ สวี ทิ ยาศาสตร์ ซง่ึ สที ่ี ไดจ้ าก การสงั เคราะหส์ ามารถนามาผสมกนั ใหเ้ กิดเป็น สีตา่ งๆอกี มากมาย
คาศัพทส์ ี สสี ัน หมายถงึ สีบรสิ ทุ ธิ์ท่อี ่มิ ตวั ตามท่เี หน็ ในวงลอ้ สีขา้ งตน้ สอี ่อน มาจากการผสมผสานองคป์ ระกอบของสี ขาวเพ่ือใหโ้ ทนท่สี ว่างขนึ้ และอ่มิ ตวั นอ้ ยลง โดยสี มกั จะเบากว่าคสู่ ที ่ีอ่มิ ตวั โทนสี ทาไดโ้ ดยการเพ่ิมสีเทาลงบนสสี นั ทาใหส้ ีดี ขนึ้ โดยรวม เฉดสี จะทาไดโ้ ดยการเพ่ิมสว่ นของสีดาลงในเฉด สเี ดียวเพ่ือทาใหเ้ กิดสีเขม้ ขนึ้ ความอม่ิ ตวั ของสี หมายถงึ ความเขม้ โดยรวม ของสี สที ่บี รสิ ทุ ธิ์จะอ่มิ ตวั มากกว่าสอี อ่ นหรอื โทนสี คา่ หมายถงึ ความสว่างโดยท่วั ไปหรอื ความมืด ของสี สีท่ีออ่ นจะมีคา่ มากกวา่ สเี ขม้
วงล้อสี
สีหลกั
สรี อง
สตี ตยิ ภมู ิ
วรรณะของสี (Tone of Color)
สโี ทนร้อน (WARM TONE) สีโทนร้อน (WARM TONE) ประกอบดว้ ย สีเหลือง สีสม้ เหลอื ง สีสม้ สี สม้ แดง สมี ว่ งแดงและสมี ่วง สีใน วรรณะรอ้ นนี้ ในธรรมชาติยอ่ มมีสี แตกต่างไปกว่าสใี นวงจรสธี รรมชาตอิ ีกมาก ถา้ หากวา่ สีใด คอ่ นขา้ งไปทางสีแดงหรอื สีสม้ เชน่ สนี า้ ตาลหรอื สีเทาอมทอง ก็ถือว่าเป็นสี วรรณะรอ้ น
สีโทนเยน็ (COOL TONE) สีโทนเยน็ (COOL TONE) ประกอบดว้ ย สี เหลอื ง สีเขียวเหลือง สเี ขียว สีเขียวนา้ เงนิ สนี า้ เงนิ สี มว่ งนา้ เงนิ และสีมว่ ง สว่ นสอี ่นื ๆ ถา้ หนกั ไปทางสนี า้ เงินและสเี ขียวก็ เป็นสีวรรณะเยน็ ดงั เช่น สีเทา สีดา สเี ขียวแก่ เป็นตน้ จะสงั เกตไดว้ า่ สีเหลอื งและสีม่วงอยทู่ งั้ วรรณะ รอ้ นและวรรณะเยน็
สที ไี่ ม่มวี รรณะของสี สที ไ่ี ม่มีสสี นั และความอมิ่ ตวั อยา่ งเชน่ สขี าว สีเทา และสดี า เรียกวา่ สที ่ีไมม่ ีวรรณะของสี ศลิ ปินหลายคนชอบท่ีจะทางานใน สภาพแวดลอ้ มแบบสที ่ีไมม่ วี รรณะของ สี เน่ืองจากมนั ใหค้ วามสาคญั โดยตรง กบั คา่ ผ่านเงาและความโดดเดน่
สเี อกรงค์ สโี มโนโครม, Monochrome color มงุ่ เนน้ ไปท่สี เี ดียว มกั ใชร้ ูปแบบของสีท่ี ผสมผสานกบั โทนสีและเฉดสี ใหค้ วามแตกตา่ งในคา่ ท่ีชว่ ยเพ่ิมความ สนใจและมิติขอ้ มลู ใหก้ บั องคป์ ระกอบของงาน
สโี มโนโครม
สขี ้างเคยี ง สขี า้ งเคียง คือ กลมุ่ ของสามหรอื ส่ีสีท่ี ติดกนั ภายในวงลอ้ สี คาว่า “คลา้ ยคลงึ กนั ” หมายถงึ ความสมั พนั ธ์ อยา่ งใกลช้ ิด ดงั นนั้ การรวมเฉดสีเหลา่ นี้ จงึ มีความคลา้ ยคลงึ กนั กบั โทนสเี ดียว
สขี า้ งเคยี ง
คสู่ ี คสู่ ี อย่ดู า้ นตรงขา้ มของวงลอ้ สี หนง่ึ สี มกั เป็นสหี ลักและอีกหนง่ึ สีมกั เป็นสรี อง คู่สหี ลกั คอื สนี า้ เงิน และสีสม้ ,สแี ดง และสีเขียว และสีเหลืองและสีมว่ ง
คู่สี คสู่ ีเสรมิ กนั ใน องคป์ ระกอบ เพ่ือเพ่มิ ความคมชดั และความ เขม้ ของภาพ ความสด ช่ืนของผลสม้ สีสม้ โดด เด่นเหนือฉากหลงั สีฟ้า ออ่ น
สตี รงกนั ข้ามเยอื้ ง สีตรงกนั ขา้ มเยอื้ งอาจมีลกั ษณะคลา้ ยกบั คสู่ ี แตช่ ดุ คา่ ผสมนี้ รวมทง้ั เฉดสที ่ีอยใู่ กลเ้ คียง กนั สองสี อาทิเชน่ สีเหลอื งคกู่ บั ม่วงฟ้าและม่วง แดง
สีตรงกันข้ามเยอื้ ง โทนสีนีม้ ีภาพลกั ษณ์ คลา้ ยคลงึ กบั คสู่ ี แต่ไม่ มีความเขม้ ขน้ การนาสี ท่ีคลา้ ยคลงึ กนั สามารถ ชว่ ยลดความแตกต่าง อย่างสนิ้ เชิงของการ เติมเตม็ ได้
สตี รงกนั ข้ามขา้ งเคยี งทง้ั สองดา้ น (Tetradic) คสู่ ีมีความเขม้ ขน้ ตามธรรมชาติ ในขณะท่สี ตี รงกนั ขา้ มขา้ งเคียงทง้ั สองดา้ น หรอื tetradic โทนสีจะใชส้ องคขู่ องคสู่ ี
สตี รงกันข้ามข้างเคียงทง้ั สองดา้ น (Tetradic) สีตรงกนั ขา้ มขา้ งเคยี งทงั้ สองดา้ น อยา่ งเชน่ สเี หลือง และสีมว่ งจบั คกู่ บั สีเขียว และสีแดงจะใชค้ า่ ที่ หลากหลายซง่ึ มกั จะยากที่ จะกลมกลนื ใหเ้ ลอื กสีท่ีโดด เดน่ และลดความอมิ่ ตวั หรอื ความเขม้ ของเฉดสีอนื่ ๆ
สที งั้ สาม สีทง้ั สามประกอบดว้ ยสีจานวนสามสี ซง่ึ เทคนิคการเลอื กสีโดยใชส้ ามเหลย่ี ม ดา้ นเทา่ มาทาบลงบนวงลอ้ สี ซง่ึ สที ง้ั สาม คือ สีหลกั สรี อง สตี ติยภมู ิ
สที งั้ สาม สีเหลอื ง สนี า้ เงิน และสี แดง คือสที งั้ สามท่สี ามารถ สรา้ งความสมดลุ ได้ ปลอ่ ย ใหส้ หี นึ่งฉายแวว อยา่ งเชน่ สีเหลอื งบนรถดา้ นลา่ ง และ เนน้ ดว้ ยเฉดสที งั้ สามอ่ืนๆ อาทิ เชน่ สฟี า้ และสแี ดงที่ พบในอปุ กรณช์ ายหาดบน รถ หลกั เกณฑท์ ี่ดใี นการ ออกแบบคอื การสรา้ งลาดบั ชนั้ กาหนดสีที่โดดเดน่
คา่ ความเข้มหรือนา้ หนักของสี (Value of color)
ค่านา้ หนักของสี (Value of Color) หมายถงึ ความเบา – หนกั หรอื ออ่ น – แก่ ของสใี ดสหี นง่ึ โดยไลน่ า้ หนกั จากออ่ น ไปแกไ่ ลน่ า้ หนกั จากออ่ นไปแก่
1.ค่าในนา้ หนักของสหี ลายสี (Value of different color) คือ สีตา่ งๆท่ีเกิดขนึ้ ในวงจรสี หากนามาเรยี งนา้ หนกั ความออ่ น แก่ของสหี ลายสี เชน่ มว่ ง นา้ เงนิ เขียวแกมนา้ เงิน เขียว และ เหลอื งแกมเขียว หรอื มว่ ง แดง แดงสม้ สม้ สม้ แกม เหลือง ดงั ตวั อยา่ ง 2.ค่านา้ หนักสีเดยี ว (Value of single color) คือ การ นาสีใดสีหนง่ึ เพียงสเี ดยี วแลว้ นามาไลน่ า้ หนกั ออ่ นแก่ใน ตวั เอง
ความเขม้ ของสี (Intensity) หมายถงึ สที กุ สีจะมีความเขม้ สงู สดุ เม่ือเป็นสีแทแ้ ละเม่ือสี แทถ้ กู เปล่ียนนา้ หนกั ความเขม้ ก็เปล่ียนไปดว้ ย สีท่ีมีความ เขม้ สงู สดุ คอื สีแดง ต่าสดุ คอื สมี ่วงความเขม้ ของสมี ี ความหมายคลา้ ยกบั คา่ สี (Chroma) หรอื สภาพ อ่มิ ตวั ของสี (Saturation) เป็นสีบรสิ ทุ ธิ์ไม่มีคา่ สเี ทา เจือปน ถา้ มีสีเทาเจือปนถือวา่ เป็นสีท่มี ีความเขม้ ต่า (Low intensity) สามารถลดความเขม้ ได้ 3 วิธี -ผสมขาว เพ่ือลดความเขม้ ใหม้ ีนา้ หนกั ไปทางสีขาว เรยี กว่า สอี อ่ น (Tint) -ผสมเทา เพ่ือลดความเขม้ ใหม้ ีนา้ หนกั กลาง เรยี กวา่ สจี างหรอื สีโทน (Tone) -ผสมดา เพ่ือลดความเขม้ ใหม้ ีนา้ หนกั ไปทางสีดา เรยี กว่า สคี ลา้ (Shade)
ความหมายของสี
สีโทนอบอุ่น สที อี่ บอุ่น อาทเิ ชน่ สแี ดง สม้ และเหลอื งจะ ช่วยกระตนุ้ ความรู้สกึ ทสี่ ดชน่ื และกระปรกี้ ระเปร่า สเี หล่านีเ้ ป็ นชุดของความรู้สกึ ทางอารมณ์ แต่ สามารถครอบงาไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย เมอื่ ใชเ้ ป็ นสที ่ี โดดเดน่ ในองคป์ ระกอบ โทนสแี ละเฉดสที อ่ี บอนุ่ ทาใหส้ ดี อู อ่ นลงโดยไม่ทาใหผ้ ลในเชงิ บวกลดลง
ความหมายของสแี ดง ความโดดเดน่ และความสดใสทาใหส้ ี แดง มีการตอบสนองทางอารมณท์ ่รี ุนแรง ในผชู้ ม เพ่ิมความอยากอาหาร ความ ต่นื เตน้ และความวิตกกงั วล รา้ นอาหารมกั จะนาสแี ดงไปใชใ้ น องคป์ ระกอบของแบรนดเ์ พ่ือใชป้ ระโยชน์ จากความกระหายท่เี พ่ิมมากขนึ้ ในขณะท่สี ีแดงเป็นสที ่ีเขม้ และมี ประสิทธิภาพ จงใชเ้ ทา่ ท่ีจาเป็นเสมอ โดยเฉพาะเม่ือจบั คกู่ บั เฉดสที ่ีสดใสอ่นื ๆ เน่ืองจากความรุนแรงมากเกินไปอาจทา ใหก้ ารออกแบบและกระตนุ้ อารมณ์ ผิดพลาดได้ อาจทาใหด้ กู า้ วรา้ ว
ความหมายของสสี ้ม สสี ม้ ประกอบดว้ ยความเขม้ ขนั สีแดง และความรา่ เรงิ ของสีเหลือง ความ ส่นั สะเทือนของมนั มกั แสดงถงึ ความ ม่นั ใจ ความสบายงา่ ยๆ และการ เร่มิ ตน้ ใหม่ จงคานงึ ถงึ สที ่คี ณุ จะจบั คกู่ บั สสี ม้ สีสม้ บรสิ ทุ ธิ์ท่ีจบั คกู่ บั สีดามีการ เช่อื มโยงถงึ ฮาโลวีน ลองใชโ้ ทนสีนา้ เงินเพ่ือเตมิ เตม็ สว่ นท่ีตดั กนั หรอื ตดิ กบั เฉดสที ่อี บอนุ่ เหมือนกนั โดยผสมผสาน สเี หลอื งหรอื สแี ดง เชน่ เดียวกบั รูป เกรฟฟรุต๊ นี้
ความหมายของสเี หลอื ง เฉดสีแสงแดดนี้ ทาใหเ้ กิดความอบอนุ่ ความสดช่นื และความเงียบสงบ ในรูปแบบ ท่บี รสิ ทุ ธิ์ สที ่ีสะดดุ ตาของสีเหลอื งยงั เป็นสที ่ี คนสงั เกตเหน็ ไดท้ นั ที โดยปกตใิ ชใ้ นการอา้ งอิงถงึ ความ ระมดั ระวงั ปา้ ยถนน และเสือ้ ก๊กั รกั ษาความ ปลอดภยั แบรนดน์ ิยมใชป้ ระโยชนจ์ าก ความสามารถในการมองเหน็ สีเหลอื งเพ่ือ ดงึ ดดู ลกู คา้ ไปยงั รา้ นคา้ ของตน
สโี ทนเยน็ สเปกตรัมเฉดสเี ยน็ มีแนวโน้มทจี่ ะทาใหเ้ กดิ ความ สงบและความน่าเชอื่ ถอื สนี า้ เงนิ สมี ่วง และแม้แตส่ ี ชมพมู ีแนวโน้มทจ่ี ะมีความหลากหลายมากขนึ้ เพม่ิ ความโดดเดน่ ใหก้ บั องคป์ ระกอบของภาพดว้ ย การทดลองใช้เฉดสเี ยน็ หรอื ประยุกตใ์ ช้โทนสอี บอุ่น เพอ่ื สร้างเอกลักษณใ์ หก้ ับคู่สที เี่ ป็ นโทนเยน็
ความหมายของสเี ขียว สีเขียวขจี การเกบ็ เก่ียวท่อี ดุ ม สมบรู ณ์ และความเจรญิ รุง่ เรอื ง ซง่ึ ชว่ ยปลกู ฝังความรูส้ กึ ของการ เจรญิ เติบโต ความปลอดภยั และการ นากลบั มาใชใ้ หม่ สีเขียวเป็นสีท่งี า่ ยในการมองเหน็ ทาใหเ้ หมาะท่สี ดุ ในการเป็นสีท่โี ดด เดน่ สาหรบั จานสี นบั ว่าเป็นเรอ่ื งงา่ ย เม่ือจบั คสู่ เี ขียวกบั โทนสีโมโนโครม สี ขา้ งเคียง หรอื คสู่ ี การผสมแบบโมโน โครมและขา้ งเคียงท่ีเหน็
ความหมายของสีนา้ เงนิ สที ่ีนิยมนีเ้ ป็นสญั ลกั ษณข์ องความ สงบ ความน่าเช่อื ถือ และความภกั ดีตอ่ ธรรมชาติอนั เงียบสงบ อยา่ งไรกต็ ามก็ยงั มีความหมายเชงิ ลบบางอยา่ งท่เี ก่ียวขอ้ ง กบั สนี ีซ้ ง่ึ เป็นท่รี ูจ้ กั สาหรบั ความเศรา้ และเป็นสญั ลกั ษณข์ องภาวะซมึ เศรา้ การจบั คสู่ ีนา้ เงินกบั สีท่ีอนุ่ ขนึ้ อาทิ เชน่ สสี ม้ หรอื สเี หลอื งเป็นจดุ เร่ิมตน้ ท่ดี ี หากเลอื กใชอ้ งคป์ ระกอบแบบทบึ ใหร้ วม โทนสีฟ้าและเฉดสที ่มี ีสสี นั อบอ่นุ ตามท่ี เหน็ ในพืน้ ผิวหนิ ออ่ น
ความหมายของสมี ่วง สมี ว่ งมคี วามหมายทางประวตั ศิ าสตรท์ ่ี สาคญั นยิ มในหมจู่ กั รพรรดแิ ละกษัตรยิ ์ รวมถงึ ช่วยสรา้ งกล่ินอายของพระบรมวงศานวุ งศแ์ ละ ความพิเศษ เมือ่ เวลาเปล่ียนไปความหมายของสี ก็เปล่ยี น ปัจจบุ นั สมี ว่ งเป็นสญั ลกั ษณข์ องสนั ตภิ าพ และความหรูหรา รงั สีอลั ตราไวโอเลตซงึ่ เป็นสีสนั ยอดเยยี่ มแหง่ ปีของปี 2018 ของแพนโทน ซง่ึ เป็น แง่มมุ ทม่ี องโลกในแง่ดีและลกึ ลบั เสนห่ ท์ เ่ี งียบ สงบและหรูหราของสีมว่ งทางานไดด้ ีกบั แบรนดท์ ่ี นาเสนอผลติ ภณั ฑร์ ะดบั ไฮเอนดห์ รอื มอบ สภาพแวดลอ้ มทีเ่ งียบสงบ อยา่ งเช่น สตดู ิโอ โยคะ
มเี สน่ห์
ความหมายของสีชมพู เม่ือนกึ ถงึ เฉดสชี มพู เรามกั นกึ ถงึ ความเป็นผหู้ ญิง ความโรแมนติค ความสนทิ สนม และไลฟ์ สไตล์ แต่ เชน่ เดียวกบั สีอื่นๆ สีชมพมู คี วามหมายทาง วฒั นธรรมท่ีแตกตา่ งกนั ในตา่ งประเทศ ในญี่ป่นุ สีชมพถู กู มองวา่ เป็นผชู้ ายมากขนึ้ ในเกาหลีเป็นสญั ลกั ษณแ์ หง่ ความไวว้ างใจ การทาความเขา้ ใจวา่ สตี า่ งๆของวฒั นธรรมถอื ว่ามี ความสาคญั อยา่ งยง่ิ ในขอบเขตความคดิ สรา้ งสรรค์ ในซีกโลกตะวนั ตก มกั มีการใชส้ ชี มพใู นการ สรา้ งแบรนดผ์ ลติ ภณั ฑแ์ ละเครอ่ื งสาอางของ ผหู้ ญิง เนื่องจากมคี วามสมั พนั ธท์ ่วั ไปของสีชมพู กบั สง่ิ ของ “แนวผหู้ ญิง” โดยเมื่อเรว็ ๆนสี้ ีชมพไู ด้ กลายเป็นสที ่ีมแี นวโนม้ ในดีไซนม์ าก
แบบฝึ กปฏบิ ตั ิ ใหน้ กั เรยี นฝึกระบายคา่ นา้ หนกั ของสีสเี ดยี ว จานวน 9 ระยะลงในช่องทกี่ าหนดไวด้ า้ นลา่ ง โดยใหส้ ีแทอ้ ยตู่ รงกลาง แลว้ เพ่ิมสขี าวไปทางซา้ ย 4 ระยะและเพิ่มสดี าลงไปทางขวา 4 ระยะ ดงั ตวั อยา่ ง (ใหเ้ ลือกสีแทจ้ ากวงลอ้ สธี รรมชาตติ ามใจชอบ) 12 34 5 6 7 89 สแี ท้ (HUE)
วัสดสุ ี หรือ รงควตั ถุ (Pigment) หมายถงึ วสั ดุสาหรับการวาดภาพระบายสี พน่ ทา ยอ้ ม เคลือบหรอื ผรมเขา้ ไปในเนือ้ ของวัตถุ
สโี ปสเตอร์ เป็ นสชี นิดสฝี ่ ุน (Tempera) ท่ผี สมกาวนา้ บรรจเุ สรจ็ เป็นขวด การใช้งาน เหมือน กบั สนี า้ คือใชน้ า้ เป็นตวั ผสมใหเ้ จอื จาง สโี ปสเตอรเ์ ป็นสีทบึ แสง มีเนือ้ สขี น้ สามารถระบายใหม้ ี เนือ้ เรยี บได้ สามารถ ระบายสที บั กนั ได้ ในขวดสีโปสเตอรม์ ี สว่ นผสมของกลีเซอรนี จะทาใหแ้ หง้ เรว็ สโี ปสเตอร์ (Poster Color) เป็ นสนี า้ ชนิด หนึ่งเนื่องจากมนี า้ เป็ นส่วนผสม นิยมบรรจุขวด มเี นือ้ สขี ้นคอ่ นข้างหยาบ และมคี ุณสมบตั ทิ บึ แสง เพราะ เตมิ แป้งหรือเนือ้ สขี าวลงไป เรียกว่า “สแี ป้ง”
สไี ม้ color pencil เป็ นสผี งละเอยี ด ผสมกบั ขผี้ งึ้ หรอื ไขสตั ว์ นามาอัด ใหเ้ ป็ นแทง่ อยใู่ นลกั ษณะของดนิ สอ มลี ักษณะคล้ายกบั สชี อลค์ แต่เป็ นสที ม่ี รี าคาถกู เนื่องจากมสี ่วนผสม อน่ื ๆ ปะปนอยมู่ าก มเี นือ้ สนี ้อย การระบายสไี ม้ สไี ม้เป็ นสีพนื้ ฐานทใี่ ช้ฝึ กวาดรูป และใช้กันอยา่ งแพร่หลายเนื่องจาก - สามารถควบคุมพนื้ ทใ่ี นการระบายได้ดีกว่า สปี ระเภทต่างๆ - ไม่ต้องใชอ้ ุปกรณเ์ สริมยุง่ ยากเช่นเดยี วกบั สีนา้ - พกพาสะดวก - มีความเหมาะสมในการทางานในสานักงาน และ การ present อย่างรวดเร็ว อาทิ งานก่อสร้าง ทตี่ ้องใชส้ ไี ม้ระบายเพอื่ แยก ความแตกต่างของพนื้ ที่ เป็ นต้น - สามารถแก้ไขได้งา่ ย ระบายเสริมได้งา่ ย ดกี ว่า สีหมึก และ ปากกาเมจกิ
สตี รงขา้ ม สีคปู่ ระกอบ สีคูป่ ฏปิ ักษ์ หรือสตี ดั กนั (Complementary) เมอื่ นาสคี ตู่ รงขา้ มมาผสมกนั ในสัดสว่ นเทา่ กัน จะไดส้ กี ลาง (neutral) เนื่องจากทงั้ 2 สี ประกอบดว้ ยแม่สที งั้ 3 สี ในอตั ราส่วนทเ่ี ทา่ กัน
หลักการใชส้ ีตัดกัน 1. หลกั 80-20 ทาให้มเี อกภาพและความกลมกลนื
หลักการใช้สตี ดั กัน 2. การลดค่าความสดใส ทาใหม้ คี วามกลมกลนื และลดการตดั กัน อยา่ งรุนแรง
หลักการใช้สีตดั กัน 3. การตัดเส้น การตดั ขอบสดี ว้ ยสดี า หรอื สเี ขม้ หรอื สขี าว หรอื สอี ่อนๆ จะทาใหส้ คี ปู่ ฏปิ ักษม์ ะยะหา่ งกัน ลดการตดั กันอย่างรุนแรง
หลักการใชส้ ีตัดกัน 4. การใช้สเี ยอื้ ง สที เ่ี ยอื้ งดา้ นซา้ ยหรือดา้ นขวา จะชว่ ย ลดการตดั กนั อยา่ งรุนแรงและเพมิ่ ความ หลากหลายใหก้ ับชนิ้ งาน
Search