Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore EET102-01-ภาษาคอมพิวเตอร์ และขั้นตอนพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์

EET102-01-ภาษาคอมพิวเตอร์ และขั้นตอนพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์

Published by kapongnoi, 2017-08-02 00:00:46

Description: EET102-01-ภาษาคอมพิวเตอร์ และขั้นตอนพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

[DOCUMENT TITLE][Document subtitle]

Rajabhat Rajanagarindra University ใบความรู้ที่ 1 ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ชื่อวชิ า หลกั การโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (Computer Programming)รหัสวชิ าสาขาวชิ า EET102 3(3-0-6) คณะ ครุศาสตร์ กฤษฎา พลอยศรี เทคโนโลยกี ารศึกษา และการสอนคอมพิวเตอร์ ช่ือผ้สู อน Mail / FB [email protected]ภาพตัวอย่าง ภาษาคอมพิวเตอร์ และข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (waterfall model)วตั ถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. ผเู้ รียนสามารถอธิบายองคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ได้ 2. ผเู้ รียนสามารถบอกความหมายของภาษาคอมพิวเตอร์และประโยชน์ของภาษาคอมพิวเตอร์ได้ 3. ผเู้ รียนสามารถอธิบายพร้อมยกตวั อยา่ งไดว้ า่ แต่ละภาษาเหมาะกบั การพฒั นางานดา้ นใด 4. ผเู้ รียนสามารถอธิบายข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สารบัญหลกั การโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (Computer Programming) ...............................................................................................3ภาษาคอมพวิ เตอร์....................................................................................................................................................................4ระดบั ของภาษาคอมพิวเตอร์....................................................................................................................................................4 ภาษาระดบั สงู (High level language) ...........................................................................................................................4 ภาษาระดบั ต่า (Low level language) ...........................................................................................................................4ภาษาคอมพิวเตอร์ (Computer language)...........................................................................................................................5 1. ภาษาเครอื ง (Machine Languages) ...................................................................................................................5 2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly)..............................................................................................................................5 3. ภาษาซี (C language)...........................................................................................................................................6 4. ภาษาซีพลสั พลสั (C++).........................................................................................................................................7 5. ภาษาซชี าร์ป (C#) .................................................................................................................................................7 6. ภาษาโคบอล (COBOL language) .......................................................................................................................8 7. ภาษาเดลฟาย (Delphi).........................................................................................................................................8 8. ภาษาปาสกาล (Pascal) ........................................................................................................................................9 9. ภาษาเบสิก (BASIC)...............................................................................................................................................9 10. ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) .............................................................................................................................10 11. ภาษาเอชทเี อ็มแอล (HTML: Hypertext Markup Language) ........................................................................10 12. ภาษาจาวา (Java)................................................................................................................................................11 13. ภาษาจาวาสคริปต์ (JavaScript).........................................................................................................................11 14. ภาษาอ็อบเจกทีฟ-ซี (Objective-C หรอื ObjC).................................................................................................12 15. ภาษาเพิร์ล (Perl)................................................................................................................................................12 17. ภาษาไพทอน (Python).......................................................................................................................................13ตัวอยา่ งเว็บไซตน์ ิยมทพี ฒั นาด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ ............................................................................................................13ตวั อยา่ งซอฟตแ์ วร์ทพี ฒั นาดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์................................................................................................................15การพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ..........................................................................................................................................17 waterfall model (แบบจา่ ลองนา่ ตก)...........................................................................................................................18 การพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6 ขนั ตอน ..................................................................................................................19สรุปท้ายบท............................................................................................................................................................................21คา่ ถามทบทวน .......................................................................................................................................................................22อ้างองิ .....................................................................................................................................................................................23

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์หลักการโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (Computer Programming) ในศตวรรษที 21 อุปกรณ์เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และสมาร์ทวอทช์ นันมีบทบาทส่าคัญอยา่ งมากของคนยุคปัจจุบัน สามารถเป็นได้ทงั อปุ กรณ์ทีให้ความบันเทิง และเป็นอุปกรณ์ทีจ่าเป็นส่าหรบั การเรียนรู้, การท่างาน, อ่านวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจ่าวัน, การติดต่อสือสาร, การสืบค้นข้อมูล หรือการท่าธุรกิจแบบออนไลน์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่างๆ เหล่านีมี 6 องค์ประกอบทีส่าคัญ คือ (6 elements ofcomputer and communication technology system) 1. บุคลากร (People) 2. ขันตอนการทา่ งาน (Procedure) 3. ข้อมลู และสารสนเทศ (Data) 4. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 5. ซอฟตแ์ วร์ (Software) 6. การติดตอ่ สือสาร (Connectivity) จากองค์ประกอบทังหมดคนถือเป็นองค์ประกอบทีส่าคัญทีสุดของระบบคอมพิวเตอร์ เนืองจากทุกองค์ประกอบทีเกิดขึนนันสร้างมาเพือเอือประโชยน์ให้กับมนุษย์ทังสิน เช่น เพืออ่านวนความสะดวก เพือแก้ไขปัญหา เป็นต้น และเพือให้ได้ผลลัพธต์ ามต้องการจึงต้องอาศัยองค์ประกอบต่างๆ ทีมีการสังงานผ่านชุดค่าสังหลายคา่ สงั ซึงเรยี กวา่ ซอฟตแ์ วร์ (Software) ภาพที 1 องคป์ ระกอบคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์เทคโนโลยตี า่ งๆ ทีมา : https://hapapy.files.wordpress.com/2015/07/peopleware1.png

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ (Software) เป็นค่าทัวไปทีใช้กล่าวถงึ โปรแกรมหลายชนิดทใี ช้ในการสังงานคอมพิวเตอร์ หรือใช้เรียกโปรแกรมต่างๆ โดยทีไม่ระบุชอื ของโปรแกรมนันๆ โดยมีการแบ่งกลุ่มของซอฟต์แวร์ตามการใช้งาน และค่าว่า “ซอฟตแ์ วร”์ นนั เป็นค่าตรงข้ามกับฮารด์ แวร์ (Hard ware) ซอฟต์แวร์ นอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครืองใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีอืนๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ หุ่นยนต์ในโรงงาน เป็นต้น การพัฒนาซอฟต์แวร์นันสามารถท่าได้โดยการเขียนโค้ด (Coding) ด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ เพือให้คอมพิวเตอร์ท่างาน และได้ผลลัพท์ตามทีต้องการ ค่าว่า\"ซอฟต์แวร์\" ถูกใช้ครังแรกโดย จอห์น ดับเบิลยู. เทอร์กีย์ (John W. Turkey) ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) โดยแนวคิดของซอฟต์แวรป์ รากฏครงั แรกในเรยี งความของ แอลัน ทวั รงิ (Alan Turing) บิดาของวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์ คือภาษาทีใช้สือสารกับคอมพิวเตอร์เพือสังงานให้คอมพิวเตอร์ท่างานตามความตอ้ งการของผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์ โดยมีล่าดบั การสังงานเปน็ ขันตอน (algorithm) หรอื สงั ใหท้ า่ งานตามเงอื นไขทถี ูกก่าหนดไว้ โดยลักษณะของภาษาคอมพิวเตอร์แต่ละภาษาอาจมีรูปแบบเฉพาะเป็นของต้นเอง หรืออาจมีรูปแบบทีใกลเ้ คียงกนั ระดับของภาษาคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ระดับ คือ ภาษาระดับต่า (Low level language)และ ภาษาระดับสูง (High level language) ภาพที 2 ระดับของภาษาคอมพวิ เตอร์ (High to low level) ภาษาระดับสูง (High level language) จะเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ทีคนเราสามารถอ่านเข้าใจ และใช้งานได้ง่าย ใช้ค่าภาษาอังกฤษทัวไปในการสังงาน แต่จะไม่สามารถสังงานไปยังคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงจะต้องมีการแปลเปน็ ภาษาคอมพวิ เตอรก์ อ่ นเรยี กว่า Compiler ภาษาระดับต่า (Low level language) เป็นภาษาทีคอมพิวเตอร์เข้าใจโดยอยู่ในรูปแบบเลขฐานสอง ซึงยากทีมนุษย์จะทา่ ความเขา้ ใจ ทา่ ให้ยากต่อการตรวจสอบและแกไ้ ขโปรแกรม

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ภาพที 3 การแปลงภาษาระดับสูงเป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ (Compiler)ภาษาคอมพวิ เตอร์ (Computer language) 1. ภาษาเครือง (Machine Languages) คือกลุ่มของค่าสังทีสามารถสังงานไปยังหน่วยประมวลผลกลาง(CPU : Central Processing Unit) ได้ทันที เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ทีสามารถท่าให้เครืองรับรู้และเข้าใจได้โดยไม่ตอ้ งผ่านตวั แปลภาษา (Compiler) แต่ในการพัฒนางานทางคอมพิวเตอร์จะไม่นยิ มเขยี นเป็นภาษาเครือง เนอื งจากภาษาของแต่ละเครืองจะไม่เหมือนกันขึนกับการออกแบบระบบว่าเป็นแบบใด เวลาเขียนจะเขียนในรูปของเลขฐานสอง (binary) ระบบเลขฐานสองนันมีสัญลักษณ์เพียงสองตัวเท่านันคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึง) บางครังอาจเทียบเคยี งไดก้ ับการเลอื กไดเ้ พยี ง 2 ทาง เช่น ปดิ กบั เปดิ , เทจ็ กบั จริง เปน็ ต้น ภาพที 4 ภาพแสดงภาษาเครือง (Machine Languages) 2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly) เป็นภาษาทีพัฒนาภาษาต่อจากภาษาเครืองโดยใช้สัญญลักษณ์แทนค่าสังภาษาเครืองแต่ก็ยังจัดอยู่ในภาษาระดับต่า เช่น สัญญลักษณ์ ADD ใช้แทน 01000000 หมายถึง การบวกข้อมูล โดยจะเรียกภาษาสัญลักษณ์แบบนีว่า “ภาษานีโมนิค (Mnemonic code)” หรือภาษาแอสเซมบลีพืนฐานในการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษาแอสเซมบลี เมือเสร็จแล้วต้องน่าไป Compile โดยเรียกว่า “Assembling” ด้วยตวั แปลภาษาทชี อื ว่า “Assembler” (แปลภาษาแอสเซมบลีเปน็ ภาษาเครอื ง)

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ภาพที 5 ภาพตวั อย่างแสดงภาษา Assembly Mnemonic code Machine code MeansADD 01000000 การบวกข้อมูลLOADMOV 00100000 การโหลดขอ้ มลู จากหน่วยความจ่าSTRSUB 10010000 การย้ายข้อมูลเขา้ -ออกจากหนว่ ยความจา่ 00110000 การเก็บข้อมูลไวใ้ นหนว่ ยความจ่า 11010000 การลบขอ้ มูล ภาพที 6 ภาพตัวอย่างแสดง Mnemonic code 3. ภาษาซี (C language) เป็นภาษาทีใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ มีโครงสร้างภาษาเป็นภาษาอังกฤษซึงง่ายต่อการท่าความเข้าใจ มีความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรมและมีเครืองมืออ่านวยความสะดวกส่าหรับการเขียนโปรแกรม โดยภาษาซีนันเป็นภาษาทีนิยมใช้กนั อย่างแพรห่ ลาย อกี ทงั ตวั แปลภาษาของภาษาซี (Compiler) รองรับไดห้ ลายระบบปฏบิ ัติการ เช่น Unix, Linux, Windows และ Mac นอกจากนีภาษาซยี ังเป็นภาษาโครงสร้างพืนฐานของภาษาอนื ๆ เชน่ ภาษา Java หรอื ภาษา PHP เปน็ ต้น ภาพที 7 ภาพตวั อย่างแสดงภาษา C

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4. ภาษาซีพลัสพลัส (C++) เป็นภาษาทีพัฒนาจากภาษาซีโดยยังรองรับการเขียนโปรแกรมในระดับภาษาเครืองได้ เช่นเดียวกับภาษาซีแต่เพิมการเขียนโปรแกรมแบบ Class ท่าให้มีความสามารถในการท่างานทีสูงขึน ได้แก่ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ OOP (Object-oriented programming) เหมาะกับการเขียนโปรแกรมขนาดใหญ่ทีซับซ้อน และมีขอ้ มลู ในโปรแกรมจ่านวนมาก ด้วยภาษา C++ มคี วามซบั ซ้อนในการเขียนมากกว่าภาษาC จึงท่าให้มีโอกาสเกิดบั๊ก (Bug) ได้มากกว่าเช่นกัน (Bug หมายถึงปัญหาทีเกิดขึนกับการใช้งานโปรแกรม ท่าให้การท่างานของโปรแกรมไม่ถูกต้อง มีข้อผิดพลาด หรือไม่ราบรืน) “บ๊ัก” ค่านีมาจาก bug ทีแปลว่า ตัวด้วง ตัวแมลง ทีชอบท่าให้คอมพิวเตอร์สมัยก่อนเสีย (ท่าให้เกิดการลัดวงจรขึน) การแก้ไขจุดบกพร่องของโปรแกรม จึงใช้ค่าวา่ \"debug\") ภาพที 8 ภาพตัวอย่างแสดงภาษา C++ 5. ภาษาซีชาร์ป (C#) คือ เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ทีมีพืนฐานจาก C++ ถูกพัฒนาขึนโดย MicrosoftCorporation โดยใช้โครงสรา้ งพนื ฐานของ .NET Framework เป็นการรวมข้อดีของภาษาต่างๆ เช่น Delphi, C++มาปรับปรุงเพือให้มีความเป็นโปรแกรมเชงิ วตั ถุ ขณะเดียวกันก็ลดความซับซ้อนในโครงสร้างของภาษาลง ท่าให้การพัฒนาโปรแกรมดว้ ยภาษา C# สามารถท่าไดง้ ่ายผา่ นเครอื งมือ Visual Studio ภาพที 9 ภาพตัวอย่างแสดงภาษา C#

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6. ภาษาโคบอล (COBOL language) ย่อมาจาก Common Business Oriented Language เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงภาษาหนึงทีนิยมน่าไปใช้ทางธุรกิจ การจัดเก็บขอ้ มูลทางดา้ นบัญชี และการเชือมต่อคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร เนอื งจากสามารถใชง้ านแฟ้มขอ้ มูลไดห้ ลายแบบ กา่ หนดโครงสร้างข้อมูลได้สะดวก โดยสามารถเขยี นโปรแกรมเพือใช้งานได้ทังบนไมโครคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ และเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ภาษาโคบอลเป็นภาษาทีง่ายมากและยังช่วยให้คอมพิวเตอร์ท่างานได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่มีลูกเล่นให้ใช้มากเหมือนภาษา VB, Cและ Pascal ภาพที 10 ภาพตัวอย่างแสดงภาษา Cobol 7. ภาษาเดลฟาย (Delphi) เป็นภาษาทีได้รับความนิยมภาษาหนึง แนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษาเดลฟายเหมือนกับแนวคิดในการเขียนโปรแกรมภาษาวิชวลเบสิก (visual basic) คือในการเขียนโปรแกรมผู้พัฒนาโปรแกรมไม่จ่าเป็นต้องเชียวชาญโปรแกรมภาษาเดลฟายก็สามารถสร้างโปรแกรมได้ ด้วยการปรับเปลียนคุณสมบัติของคอมโพเนนต์ (Component) และส่วนประกอบของโปรแกรมทีใช้ส่าหรับติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบกราฟกิ ท่าให้ซอฟต์แวรท์ พี ฒั นามีความน่าสนใจและใช้งานง่ายขนึ ภาพที 11 ภาพตัวอยา่ งแสดงภาษา Delphi

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 8. ภาษาปาสกาล (Pascal) เป็นภาษาโปรแกรมทีใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะด้านการศึกษา ด้านคณิตศาสตร์ และงานด้านวิทยาศาสตร์ ปาสคาลเป็นภาษาทีง่ายต่อการท่าความเข้าใจเพราะมีรูปแบบเป็นภาษาอังกฤษ มีลักษณะการท่างานของโปรแกรมเป็นแบบทีมีโครงสร้างประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) ส่วนหัวโปรแกรม (Program Heading) 2) ส่วนของการประกาศการใช้งาน (Declarations) 3) ส่วนของค่าสัง(Executable Statement) ภาพที 12 ภาพตวั อย่างแสดงภาษา Pascal 9. ภาษาเบสกิ (BASIC) เป็นภาษาคอมพิวเตอรร์ ะดับสูงทเี หมาะส่าหรับผูท้ เี ริมฝกึ ทักษะการเขียนโปรแกรมเนืองจากมีรูปแบบค่าสังทีง่ายกว่าภาษาอืนๆ สามารถน่าไปใช้สร้างโปรแกรมได้ทังทางด้านการศึกษา ด้านธุรกิจทัวไป แต่รูปแบบของการเขียนโปรแกรมจะไม่เป็นโครงสร้างจึงไม่เหมาะกับการเขียนโปรแกรมทีซับซ้อน มีข้อมูลจ่านวนมาก ต่อมา Microsoft Corporation ได้มีการพัฒนาให้มีความสามารถมากขึนโดยใช้ชือว่า วิชวลเบสิก(Visual Basic) เป็นภาษาโปรแกรมแบบ GUI (graphical user interface) ช่วยให้พัฒนาโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็วแบบ RAD (Rapid Application Development) ทังด้านการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์แบบ GUI, การเข้าถึงฐานข้อมูลโดยใช้การเชือมต่อแบบ DAO, RDO, หรือ ADO และยังสามารถน่าโปรแกรมประยุกต์หลายๆโปรแกรมมารวมกันในโปรแกรมเดยี วไดอ้ ีกด้วย ภาพที 13 ภาพตัวอยา่ งแสดงภาษา Visual Basic (VB)

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 10. ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) ย่อมาจากค่าว่า “FORmular TRANslator” ภาษานีถือว่าเก่าแก่ทีสุดของวงการคอมพิวเตอร์ ถูกพัฒนาขึนในยุคคริสต์ทศวรรษ 1950 นับเป็นภาษาชันสูงภาษาแรกทีได้มีการใช้แพร่หลาย ฟอร์แทรนมีประสิทธิภาพในการค่านวณสูงกว่าภาษาอืนๆ เหมาะกับงานทีมีความซับซ้อน เช่น ด้านวิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และงานทีต้องมีการเขียนสูตร สมการ หรอื ฟังก์ชันต่างๆ ฟอร์แทรนนันสามารถน่าไปใช้กับเครืองคอมพิวเตอร์ได้หลายแบบ และมีคอมไพล์เลอร์ (Compiler) ทีสามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทัวไป ภาพที 14 ภาพตวั อย่างแสดงภาษา FORTRAN 11. ภาษาเอชทีเอ็มแอล (HTML: Hypertext Markup Language) เป็นภาษาหลักทใี ช้ในการสรา้ งเว็บเพจโดยสามารถแสดงผลในรูปแบบต่างๆ ได้หลายรูปแบบผ่านทางเว็บเบราเซอร์ (web browser) เช่น InternetExplorer, Google Chrome, Safari และ Firefox เป็นต้น โดยข้อมูลทีแสดงทีหน้าเพจนันจะมีลักษณะเป็นข้อความ, ลิงก์, ตาราง, ภาพ, วิดีโอ หรือเสียง ส่าหรับการพัฒนาเว็บไซค์ โดยใช้ภาษา HTML สามารถท่าได้โดยใช้โปรแกรมประเภท Text Editor ต่างๆ ได้แก่ Notepad, Notepad++, Editplus หรือเครืองมือประเภท Visuallydesign and develop ไดแ้ ก่ Dreamweaver และ Microsoft FrontPage เปน็ ตน้ ภาพที 15 ภาพตวั อยา่ งแสดงภาษา HTML5

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 12. ภาษาจาวา (Java) เป็นภาษาทีได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน สามารถพัฒนาโปรแกรมใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ทุกประเภท เช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และแท็บแล็ต เนืองจากเป็นภาษาทีมีความยืดหยุ่นสูงและรองรับระบบปฏิบัติการทุกระบบ จาวานันเป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุทีพัฒนาขึนมาเพือใช้แทนภาษาซีพลัสพลัส (C++) โดยค่าว่าจาวานันเป็นชือของกาแฟ อีกชือภาษาทีหนึงทีมีชือคล้ายกันคือ จาวาสคริปต์(JavaScript) และแมว้ า่ จะมีชือคล้ายกัน แตภ่ าษาจาวาไม่มคี วามเกยี วขอ้ งใด ๆ กับภาษาจาวาสครปิ ต์ (JavaScript) ภาพที 16 ภาพตวั อยา่ งแสดงภาษา Java 13. ภาษาจาวาสคริปต์ (JavaScript) ภาษาคอมพิวเตอร์ทีได้รับความนิยมส่าหรับการเขียนโปรแกรมรว่ มกับภาษา HTML เพือให้เว็บไซต์มีลูกเล่น มีการเคลือนไหว และสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้มากขึน โดยมีลักษณะเป็นภาษาเชิงวัตถุ OOP (Object Oriented Programming) และมีวิธีการท่างานโดยแปลทีละค่าสัง (interpret)ตัวอย่างทีพบบ่อยๆ ในการใช้งานภาษาจาวาสคริปต์ คือใช้ตรวจสอบข้อมูลในกรณีทีมีการกรอกข้อมูลผิด หรือตรวจสอบกรณีทีกรอกข้อมูลไม่ครบ จะมีการแจ้งเตือน หรือการสร้าง Cookies เพือท่าให้สามารถเข้าเว็บได้เร็วขึน(“คุกกี” คือ Text file ขนาดเล็กทีใช้เก็บข้อมูลการท่องเว็บของเรา เช่น IP Address, ชือผู้ใช้, วันเวลา, หน้าเว็บทีเขา้ ไป, การทา่ ธุรกรรม และอืนๆ และเมือเราเข้าเว็บไซต์เดิมทเี คยเข้าแล้ว เวบ็ นันจะรวู้ ่าเราเป็นใครท่าใหส้ ามารถใช้งานตอ่ จากครังก่อนไดท้ ันท)ี ภาพที 17 ภาพตัวอย่างแสดงภาษา JavaScript

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 14. ภาษาอ็อบเจกทีฟ-ซี (Objective-C หรือ ObjC) เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ ทีพัฒนามาจากภาษาซีออ็ บเจกทีฟ-ซี สามารถน่าไปใช้กบั ระบบปฏิบัตการ Mac ปัจจุบันเป็นภาษาโปรแกรมหลักทีใช้พัฒนา Applicationส่าหรับ iPhone, iPad และ iPod นอกจากนียังมีภาษาทีใช้เขียน Application ส่าหรับอุปกรณ์ทีใช้ iOS อีกภาษาหนึงคือ “Swift” ซึงเป็นภาษาโปรแกรมใหมท่ ี Apple เปิดตัวเมือปี 2014 เป็นภาษาทีใช้งานงา่ ยกว่า Objective-Cแตภ่ าษา Objective C นนั สามารถทา่ งานรว่ มกบั code ทีเป็นภาษา C ได้ ในขณะทีภาษา Swift ไม่สามารถท่าได้ ภาพที 18 ภาพตวั อยา่ งแสดงภาษา Objective-C 15. ภาษาเพิร์ล (Perl) ย่อมาจาก Practical Extraction and Report Language) เป็นภาษาโปรแกรมแบบไดนามิก พฒั นาเพือใช้งานกับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (Unix เปน็ ระบบปฏิบตั ิการแบบหนึงทีเขยี นดว้ ยภาษา C)ใช้งานง่าย โครงสร้างของภาษาไม่ซับซ้อน มีลักษณะคล้ายกับภาษาซี ตัวแปลภาษา Perl เป็นตัวแปลภาษาแบบinterpreter ซงึ การแปลแบบนจี ะใช้กา่ ลังของ CPU มากกวา่ โปรแกรมทีเปน็ ลกั ษณะของ compiled ภาพที 19 ภาพตัวอยา่ งแสดงภาษา Perl

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 16. ภาษาพีเอชพี (PHP) ย่อมาจาก Hypertext Preprocessor เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ในลักษณะเซิร์ฟเวอร์-ไซด์ สคริปต์ (Server-side scripting คือ ภาษา script ทีประมวลผลทีฝ่ัง server แล้วส่งผลลัพธ์ไปแสดงผลทีฝั่ง client ผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์) พีเอชพีสามารถพัฒนาเว็บไซต์แบบ Dynamic Website ทีมีประสิทธิภาพ สามารถโต้ตอบกบั ผ้ใู ช้เวบ็ ไซต์ และสามารถเชอื มต่อกับฐานข้อมูลเพือน่าข้อมลู มาแสดงผลในรูปแบบของ HTML ได้ ภาพที 20 ภาพตัวอยา่ งแสดงภาษา PHP 17. ภาษาไพทอน (Python) เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงแบบอินเทอร์พรีเตอร์ (interpreter) สามารถน่าไปใช้ได้โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ (Open Source License) อีกทังยังสามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการได้หลายระบบไม่ว่าจะเป็น Windows, Linux, OS/X นอกจากนีตัวโครงสร้างสามารถท่าความเข้าใจได้ง่าย และมี Object ด้านData Structure รองรบั อยู่หลายแบบชว่ ยให้พัฒนาโปรแกรมได้รวดเร็วมากขนึ ภาพที 21 ภาพตัวอย่างแสดงภาษา Pythonตัวอย่างเว็บไซต์นิยมทีพัฒนาด้วยภาษาคอมพวิ เตอร์ การเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ในปัจจุบันเป็นทีนิยมกันอย่างแพร่หลายเนืองจากสามารถใช้งานได้ง่ายและไมต่ ้องตดิ ตังโปรแกรมใดเพิมเติมมีเพยี ง Web Browser กส็ ามารถใช้งานได้ หากดูจากจ่านวนผ้ใู ช้งานในแตล่ ะเดอื นทีมีจ่านวนมากกว่า 1,000 ล้านคนทัวโลกทีออนไลน์ในแต่ละวัน (ข้อมูล update เมือ 3 มิถุนายน 2017) อ้างอิงจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Programming_languages_used_in_most_popular_websites

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Google เป็น search engine ทีได้รับความนยิ มมากทีสดุ ในโลกมีผู้ใช้งานมากกว่า 1,600 ลา้ นคนต่อเดือนเว็บไซต์ Google นันใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาส่วนของ Front-End ซึงเป็นส่วนทีติดต่อกับผู้ใช้ (Userinterface) หรือเรียกกันสันๆ ในหมู่โปรแกรมเมอร์ว่า “หน้าบ้าน” และใช้ภาษา C, C++, Java, Python ในการพัฒนา backend services ซึงเป็นส่วนทีให้บริการผู้ใช้เว็บไซต์อยู่เบืองหลัง และเก็บข้อมูลด้วยฐานข้อมูลBigTable, MariaDB ซึงเป็นระบบฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ Facebook เป็นเว็บ social networking ทีได้รับความนิยมมากทีสุดในโลกมีผู้คนเข้ามาใช้งานและเป็นสมาชิกมากกวา่ 1,000 ล้านคน และมีปริมาณการใช้งานมากถงึ 1,100 ล้านคนต่อเดือน เว็บไซต์ Facebook นันใช้ภาษา JavaScript รวมกบั HTML ในการพัฒนาส่วนของ Front-End หรือ Client-site ซงึ เป็นส่วนทีแสดงหนา้ เพจต่างๆ เช่น โปรไฟล์ หน้าหลัก เป็นต้น และยังมีเครืองมือทีช่วยในการพัฒนาโครงสร้างหลักของ Facebook โดยเรียกชุดเครืองมือนีว่า LAMP (Linux, Apache, MySQL, PHP) โดยมีการท่างานบน Memcache (อ่านว่า \"เมมแคช\") เป็นโปรแกรมทีท่างานบนหน่วยความจ่า (memory) และใช้หลายภาษาในการพัฒนา backend servicesได้แก่ PHP (HHVM), Python, C++, Java, Erlang, Xhp, Haskell เป็นต้น และเก็บข้อมูลด้วยฐานข้อมูลMariaDB, MySQL, HBase Cassandra YouTube เป็น video sharing site ทีได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยมีผู้ใช้งานมากถึง 1,100 ล้านคนต่อเดือน เว็บไซต์ YouTube นันใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาส่วนของ Front-End และใช้ภาษา C, C++,Python, Java ในการพัฒนา Black-End (Server-site) และใช้ Vitess, BigTable, MariaDB เปน็ ฐานขอ้ มลู Yahoo เป็นเว็บทีให้บริการทีหลากหลายทัง เมลล์ ข่าวสาร บันเทิง และอืนๆ อีกมากมาย ทีได้รับความนิยมสูงทีมีผู้ใช้งานมากกว่า 750 ล้านคนต่อเดือน เว็บไซต์ Yahoo ใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาส่วนของFront-End และใช้ PHP ในการพัฒนา Black-End และเกบ็ ข้อมูลดว้ ยฐานข้อมูล MySQL, PostgreSQL

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Amazon เป็น internet shopping ทไี ด้รับความนยิ มไปทวั โลกมีการให้บริการสูงถึง 500 ลา้ นคนต่อเดือนเว็บไซต์ Amazon ใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาส่วนของ Front-End และใช้ภาษา Java, C++, Perl ในการพฒั นา Black-End และเก็บขอ้ มูลด้วยฐานข้อมลู Oracle Database Twitter เป็น social network ทีมีการใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกมีการใช้งานถึง 290 ล้านคนต่อเดอื น เวบ็ ไซต์ Amazon ใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาส่วนของ Front-End และใชภ้ าษา C++, Java, Scala,Ruby ในการพฒั นา Black-End และเกบ็ ข้อมลู ดว้ ยฐานข้อมลู MySQL eBay เป็นเว็บไซต์ขายของ และประมูลออนไลน์ (Online auction house) ทีได้รับความนิยมไปทัวโลกมีการให้บริการสูงถึง 285 ล้านต่อเดอื น เว็บไซต์ eBay ใช้ภาษา JavaScript ในการพัฒนาสว่ นของ Front-End และใช้ภาษา Java, JavaScript, Scala ในการพฒั นา Black-End และเกบ็ ขอ้ มลู ด้วยฐานข้อมูล Oracle Database Microsoft เป็นบริษัททีจ่าหน่ายซอฟต์แวร์ทีมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น Windows, MicrosoftOffice, Skype, Microsoft SQL Server, Visual Studio, Xbox, Windows Azure เป็นต้น มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 270 ล้านคนต่อเดือน เว็บไซต์ Microsoft ใช้ภาษา JavaScript ในการพฒั นาส่วนของ Front-End และใช้ASP.NET ในการพฒั นา Black-End และเกบ็ ข้อมูลด้วยฐานขอ้ มูล Microsoft SQL Serverตวั อยา่ งซอฟตแ์ วร์ทพี ฒั นาดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ Windows เป็นซอฟต์แวร์ระบบทีพัฒนาด้วยภาษา C, C++, C# for Windows และ assembly (Someareas of code are written assembly) พัฒนาโดยบริษัท Microsoft เป็นระบบปฏิบัติการทีได้รับความนิยมมากทีสุดในบรรดาระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อป และทีมีส่วนแบ่งทางการตลาดเกือบ 100% (update June, 2017)

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ข้อมูลจาก https://www.netmarketshare.com/ OS: windows มีส่วนแบ่งมากกว่า 80% นันหมายความว่าคอมพิวเตอร์ทุกๆ 100 เครอื งบนโลกนจี ะใชง้ าน windows มากถงึ 80 เครอื ง ภาพที 22 ส่วนแบง่ ทางการตลาดระบบปฏิบัติการเดสกท์ ็อป (update June, 2017) แอนดรอยด์ (Android) เป็นระบบปฏิบัติการทีมีพืนฐานอยู่บนลินุกซ์ (Linux พัฒนาจากภาษา C)Android เป็นบริษัทในเครือของกูเกิล (Google) ในอดีตถูกออกแบบมาส่าหรับอุปกรณ์ทีใช้จอสัมผัส เช่นสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์ซซึงโอเพนซอร์ซจะอนุญาตให้ผู้ผลิตปรับแต่งและวางจ่าหน่ายได้ (ภายใต้เงือนไขทีกูเกิลก่าหนด) ปัจจุบันมีการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์มากมายด้วยภาษาจาวา (Java) ภาพที 23 สว่ นแบ่งทางการตลาดระบบปฏิบัตบิ นอปุ กรณเ์ คลือนที / แทบ็ เล็ต (update June, 2017) Adobe Photoshop มักเรียกสันๆ วา่ “โฟโตชอป” เป็นโปรแกรมประยกุ ตท์ ีมีความสามารถในการจดั การไฟล์ข้อมูลรูปภาพ แก้ไข และตกแต่งรูปภาพ (photo editing and retouching) แบบแรสเตอร์ทีมีประสิทธิภาพพฒั นามาจากภาษา C++

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์Microsoft Office เป็นชุดโปรแกรมส่านักงานเขียนด้วยภาษา C++ สามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการWindows และ Mac3ds Max เป็นซอฟต์แวรเ์ พืองานกราฟิกสส์ ามมิตจิ ากบริษัทออโตเดสก์ด้านกราฟิกส่าหรับงานทางดา้ น โมเดล 3 มิติและ แอนิเมชัน พฒั นามาจาก Visual Studio C++การพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิงแรกทีต้องค่านึงถึงในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์คือ วัตถุประสงค์ในการน่าไปใช้งาน เช่นเพืออ่านวยความสะดวก เพือแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาตามความต้องการ เพือพัฒนาโปรแกรมให้ประสิทธิภาพ เกิดข้อผิดพลาดน้อยทีสุด ง่ายต่อการใช้งาน ผเู้ ขียนโปรแกรม (Programmer) จะต้องมีการวิเคราะห์ความตอ้ งการแล้วน่าไปออกแบบเพือให้ได้ภาพรวมทังหมดก่อนทีจะเริมลงมือเขียนโปรแกรมจริงๆ จ่าเป็นต้องมีกระบวนการในการพฒั นา และการเลือกใช้ทรพั ยากร วธิ กี าร เครอื งมือไดอ้ ย่างเหมาะสม ภาพที 24 waterfall model

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ waterfall model (แบบจ่าลองน่าตก) เป็นรูปแบบในการพัฒนาซอฟต์แวร์รูปแบบหนีงโดยอาศัยหลกั การของน่าตกทีไหลจากด้านบนไปสดู่ ้านล่างเปรยี บเสมอื นกับการท่างานทตี ้องมีจดุ เรมิ ต้นคือชันบนสดุ แลว้ ไหลลงมาตามล่าดับ ในแต่ละขันตอนของการท่างานสามารถย้อนกลับขึนไปยังขันตอนก่อนหน้าได้เพือไขข้อผิดพลาดตา่ งๆ ทเี กดิ ขึน โดยรปู แบบการพัฒนาซอฟต์แวรแ์ บบน่าตกนีประกอบด้วย 5 ขันตอนดงั นี ขันตอนที 1 Analysis เป็นการวเิ คราะห์ความต้องการ วิเคราะหป์ ัญหา วเิ คราะห์การท่างานของโปรเกรมโดยดูตามวัตถปุ ระสงคเ์ ป็นหลัก แลว้ พิจรณาการท่างานจากการน่าข้อมลู เขา้ วธิ กี ารประมวลผล ผลลัพธ์ทตี อ้ งการ ขันตอนที 2 Design เป็นออกแบบการท่างานของโปรแกรมตามทีได้วิเคราะห์ไว้โดยใช้เครืองมือต่างๆ มาช่วยในการออกแบบว่าควรเป็นไปในทิศทางใด มีขันตอนการท่างานอย่างไร โดยออกแบบด้วยการเขียนผังงาน(Flowchart) หรอื รหสั จา่ ลอง (Pseudo code) ขันตอนที 3 Coding เป็นขันตอนการเขียนโปรแกรมตามทีเราออกแบบไว้โดยใช้ภาษาทีเหมาะสม ในปจั จบุ นั มเี ครืองมอื ทชี ่วยในการเขยี นโปรแกรมทสี ะดวกจงึ ท่าให้สามารถเขียนโปรแกรมไดร้ วดเรว็ ขึน ขันตอนที 4 Testing เป็นขันตอนทดสอบหลังจากโปรแกรมเสร็จ เพือดูว่าได้ผลลัพธ์ถูกต้องตรงกับความต้องการหรือไม่ หรือทดสอบเพือหาข้อผิดพลาด เช่น ข้อมูลทีใส่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องผลจะเป็นอย่างไรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผลลัพธ์ แล้วจดบันทึกผลการทดสอบอย่างละเอียดพร้อมอ้างอิงเพือน่าไปใช้ในการปรับปรงุ แกไ้ ข ขันตอนที 5 Maintenance เป็นขนั ตอนสุดท้ายทีส่าคัญไม่ต่างจากขันตอนการวิเคราะห์ โดยในขันตอนนีเป็นการบ่ารุงรักษาโปรแกรมให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนือง และตรวจเช็คการใช้งานวา่ โปรแกรมมีปญั หาในการใช้งานหรือไม่ รวมถึงการบริการให้ค่าปรึกษา รวบรวมปัญหาทีพบบ่อยๆ จัดท่าคู่มือการใช้งานให้แก่ผู้ใช้ ท่าคู่มือด้านเทคนคิ และรับขอ้ เสนอแนะเพอื ใช้เปน็ ข้อมลู ในการพัฒนาโปรแกรมเวอร์ชันใหมต่ ่อไป

Computer Programming - ภาษาคอมพวิ เตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 6 ขันตอน เป็นขันตอนมาตรฐานทีใช้ในการพัฒนาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทัวไป หากปฏิบตั ิตามขันตอนอย่างถูกต้องแล้วจะเปน็ การลดการเกิดขอ้ ผิดพลาดทเี กิดขนึ จากการเขยี นโปรแกรมได้เปน็ อย่างดี โดยมี 6 ขนั ตอน ดังนี ภาพที 25 การพัฒนาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 6 ขันตอน ขันตอนที 1 วิเคราะห์ปัญหา (Program Analysis) เพือท่าความเข้าใจกับวัตถุประสงค์ของการพัฒนาโปรแกรมนันผู้พัฒนาโปรแกรมจะต้องท่าความเข้าใจ 4 องค์ประกอบทีจะช่วยในการวิเคราะห์การพัฒนาโปรแกรมดงั นี 1. วัตถุประสงค์ (Objectives) ของการพัฒนาโปรแกรมโดยพจิ ารณาว่าโปรแกรมสามารถท่าอะไรได้บ้าง มคี ุณสมบตั อิ ย่างไร กา่ หนดออกมาเปน็ ข้อๆ พร้อมรายละเอียดพอสงั เขป 2. ข้อมูลน่าเข้า (Input) ต้องทราบว่าข้อมูลทีจะต้องใส่นันเป็นข้อมูลแบบไหน รูปแบบในการน่าเข้า ขอ้ มูล วิธีการน่าเข้าขอ้ มลู เปน็ อยา่ งไร 3. การประมวลผล (Process) กา่ หนดวิธีการประมวลผล ขันตอน เงือนไข เพอื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามต้องการ 4. ขอ้ มูลส่งออก (Output) ก่าหนดรูปแบบการแสดงผลของข้อมลู ทีผ่านการประมวลผลแล้ว ข้อทีแสดง เป็นอยา่ งไร ล่าลบั การแสดงผลตลอดจนรูปแบบและสือทีจะใช้ในการแสดงผล ขนั ตอนที 2 ออกแบบโปรแกรม (Program Design) เป็นการออกแบบขันตอนการท่างานของโปรแกรมสา่ หรบั ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาโปรแกรม ในปัจจุบนั มเี ครืองมือทีช่วยในการออกแบบ ทดสอบลา่ ดบั การท่างาน

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของโปรแกรม เช่น ผังงาน (Flow chart) หรือ ค่าสังล่าลอง (Pseudocode) ในขันตอนออกแบบนีเป็นการออกแบบล่าดับการท่างาน การประมวลผล เพราะฉนันยงั ไม่จา่ เปน็ ต้องกา่ หนดภาษาทีใช้ในการเขียนโปรแกรม ขันตอนที 3 เขียนโปรแกรม (Program Coding) การเขียนโปรแกรมเพือให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามทีก่าหนดไว้ โดยการเปลียนจากผังงาน (Flow chart) เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึงทีเหมาะสม หรืออาจมีส่วนเสริมโดยใช้ภาษาอืนก็ได้ โดยในขันตอนนีจะเน้นทีรูปแบบค่าสัง กฎเกณฑ์ของภาษาทีใช้ และการประมวลผลเพือให้สามารถตรวจสอบโปรแกรมได้ง่าย ระหว่างเขียนโปรแกรมควรใส่คอมเมนต์ (comment) เพือเป็นการอธบิ ายการท่างานของสว่ น หรอื ฟังกช์ ันตา่ งๆ เพอื ความสะดวกในการตรวจสอบและจัดทา่ คมู่ ือ ขนั ตอนที 4 ทดสอบโปรแกรม (Program Testing) คือการทดสอบโปรแกรม หรอื ระบบว่าสามารถท่างานได้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์หรือไม่ โดยผู้ทีท่าหน้าทีทดสอบโปรแกรมนีเรียกกันโดยทัวไปว่า “Tester” มีหน้าทีทดลองใชง้ านระบบว่าใช้งานได้หรอื ไม่ หรือโปรแกรมมี Bug อยู่หรือไม่ โดยการเขียนTest case ขึนมาส่าหรับแจ้งรายละเอียดข้อผิดพลาดทีตรวจพบและจะต้องมีการก่าหนดสถานการณ์จ่าลอง ซึงต้องครอบคลุมถึงกรณีทีท่ารายการผิด การกรอกข้อมูลผิดพลาด เพือทดสอบการแจ้งเตือนจากระบบในกรณีทีเกิดข้อผิดพลาด เช่น กรณีใส่User name หรือ Password ไม่ถูกต้อง ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนถูกต้องหรือไม่ เป็นต้น ในการทดสอบโปรแกรมนันสามารถแบ่งได้ 3 ประเภทคอื 1) Unit Test คอื การทดสอบการท่างานของแต่ละ Module 2) Integration Testing คือการทดสอบการทา่ งานร่วมกนั ของ Module หรอื Function ต่างๆ 3) Integration Testing ไปแล้ว คอื การทดสอบก่อนจะนา่ ระบบขึนใช้งานจริง ขันตอนที 5 จัดท่าคู่มือโปรแกรม (Program Manual) การท่าเอกสารประกอบโปรแกรม คู่มือการใช้งานจะช่วยให้ผู้ใช้โปรแกรมสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง เต็มประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ตามทีต้องการ โดยเอกสารทีสรา้ งขึนอาจอย่ใู นรูปแบบไฟล์ดจิ ิทลั หรือแบบออนไลน์ การท่าเอกสารคมู่ ือโดยทัวไปประกอบดว้ ยหัวขอ้ ดังนี 1. แนะน่าโปรแกรม (Introduction to software) 2. โปรแกรมใชส้ ่าหรบั ท่าอะไร มีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง (Software Purpose) 3. ขอ้ ก่าหนดความต้องการซอฟต์แวร์ (Software Requirement) 4. รายละเอียดโปรแกรม หรือคุณลักษณะพเิ ศษของโปรแกรม (Feature) 5. วิธกี ารใช้งานโปรแกรมในสว่ นตา่ งๆ (Manual) 6. ภาคผนวก (Appendices)หมายเหตุ หัวข้อสามารถปรับเปลยี นได้ตามความเหมาะสมเพือให้ผ้ใู ช้งานโปรแกรมสามารถใชง้ านได้ถกู ต้อง

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ขันตอนที 6 การบ่ารุงรักษาโปรแกรม (Program Maintenance) เป็นการท่าให้โปรแกรมสามารถท่างานได้อย่างราบรืนตอ่ เนืองไม่หยดุ ชะงกั การบา่ รงุ รักษาโปรแกรม มี 3 แนวทางดังนี 1. การบ่ารุงรักษาเพือให้มีความถูกต้องเสมอ (Corrective maintenance) การบ่ารุงรักษาและ แก้ไขข้อผิดพลาดของระบบทีอาจเกิดจากการออกแบบระบบ การเขียนโปรแกรม และการ ตดิ ตงั เพือการใช้งาน 2. การบ่ารุงรักษาเพือปรับเปลียนตามความต้องการ (Adaptive maintenance) เป็นการปรับ ตามความต้องการของผใู้ ช้งาน หรือเพือใหท้ นั ยุคสมัยเสมอื การมีพฒั นาการของซอฟต์แวร์ 3. การบ่ารุงรักษาเพือให้ระบบท่างานมีประสิทธิภาพสูงสุด (Perfective maintenance) เป็น การบ่ารุงรักษา หรือปรับปรุงให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงขึน หรือปรับตามเหตุการณ์ ความ ต้องการของผู้ใช้ทเี พิมมากขนึสรปุ ท้ายบท ภาษาคอมพิวเตอร์นันมีหลายภาษา แต่ละภาษามีความสามารถทีแต่กต่างกันไป มีเครืองมือสนับสนุนในการเขียนโปรแกรมมากมายท่าให้การเขียนในปัจจุบันง่ายมากขึน นักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์นันไม่จา่ เป็นต้องเขียนได้ทุกภาษาทีมีอยู่บนโลก เพียงแค่สามารถเขียนได้เพียงหนึงภาษาและเข้าใจภาษานันเป็นอย่างดีก็สามารถพัฒนาโปรแกรมได้มากมาย หลากหลายรูปแบบ แต่หากสามารถเขียนได้มากกว่าหนึงภาษาก็จะเป็นความได้เปรียบ ส่วนการเลือกในการเรียนรู้ภาษานันสามารถเริมได้จากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ความถนัด ความชอบส่วนตัว หรือดูจากแนวโน้มของภาษาตามความนิยม เป็นต้น ปัจจุบันมีการรวมตัวกันของกลุ่มโปรแกรมเมอร์ และแบง่ ปนั ประสบการณ์ ความรู้ตา่ งๆ มากมาย สิงเหล่านีจะมคี า่ มากกบั การทา่ งานในอนาคต ระดับของภาษาคอมพิวเตอรม์ ีแนวโน้มทีจะพัฒนาต่อไปเรือยๆ ทีสูงขึนมากกว่าเพียงแค่ภาษาระดบั สงู การเขยี นโปรแกรมในอนาคตอาจใช้เพียงแค่ค่าพดู เท่านันทีเป็นการสังการคอมพิวเตอรแ์ ทนการเขียน ส่วนทเี หลือระบบจะด่าเนินการเขียนซอสโค้ด (source code) และคอมไพล์ (Compiler) ให้เองอัตโนมัติ เมือถึงตอนนันเราอาจไม่ตอ้ งศึกษาภาษาคอมพวิ เตอร์ใดอีกเลยก็ได้ การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในปัจจบุ ันมีแนวโน้มจะเป็นลักษณะออนไลน์มากขึน เมือดูจากสถิตติ ่างๆเช่น ยอดขายสินค้าไอที ความนิยมทีก่าลังเป็นกระแส รวมถึงแนวการใช้ชีวิตในอนาคตทีทุกอย่างควบคุมได้จากปลายนวิ ทีอปุ กรณ์เครืองใชไ้ ฟฟา้ มีความสามารถเชือมต่อกับเครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น ห้องสมุด หอ้ งเรยี น

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทวี ี ตู้เย็น เป็นต้น สิงต่างๆ เหล่านีท่าให้เกดิ การเปลียนแปลงกับระบบการท่างานต่างๆ มากมาย เชน่ ตู้ ATM ในอีกไม่กีปีจะเหมือนตู้โทรศัพท์ในปัจจุบันก็ได้ แล้วแทนทีด้วย FinTech (Financial Technology) ทีเราทุกคนไม่ต้องจับ เงิน สดอีกต่อไป ห รือกลายมาเป็ น Internet Banking อย่างเต็มตัว ส่ งผลให้ การออกแบ บ และกระบวนการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะต้องมีการพัฒนาตามไปดว้ ยเชน่ กนั “Stay Hungry, Stay Foolish” จงกระหาย และ ทา่ ตวั เองใหโ้ งต่ ลอดเวลา เพราะถ้าเมือไหร่เราอิมและรสู้ สึกวา่ ตวั เองฉลาด เราจะไม่มีทางพัฒนาคา่ ถามทบทวน 1. บอกความหมายของภาษาคอมพิวเตอรต์ ามความเข้าใจ 2. เลอื กภาษาทีนกั ศึกษาสนใจ 1 ภาษา พรอ้ มทงั อธิบายรายละเอียดพอสงั เขป 3. อธบิ ายเหตผุ ลว่าเลอื กภาษานีเพราะอะไร และวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตของภาษาเป็นอยา่ งไร 4. บอกได้ว่าภาษาทนี ักศึกษาสนใจนนั มีความใกล้เคยี งกับภาษาใดบ้าง 5. อธบิ ายขนั ตอนการพัฒนาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์

Computer Programming - ภาษาคอมพิวเตอร์ และการพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์อ้างอิงกิตติ ภัคดีวัฒนะกลุ . (2550). วิศวกรรมซอฟตแ์ วร์ (Software Engineering). กรุงเทพมหานคร: เคทพี ี คอมพ์แอนด์ คอนซัลท์จักรชยั โสอนิ ทร์. (2555). Android App Development. กรงุ เทพมหานคร: ไอดีซี พรีเมียร์โอภาส เอยี มสริ วิ งศ์. (2547). การวเิ คราะห์และออกแบบระบบ (System Analysis and Design).กรุงเทพมหานคร: ซีเอด็ ยูเคชันhttp://comsci.sci.dusit.ac.th/wp-content/uploads/2016/10/CAAL_Book.pdfhttp://groups.engin.umd.umich.edu/CIS/course.des/cis400/index.htmlhttp://prasit.sirin.ac.th/pdf/introduction_programming.pdfhttp://www.bankhai.ac.th/dev_c/step_develop_program.htmlhttps://programcomputer1.wordpress.com/https://sysadmin.psu.ac.th/2015/11/03/การทดสอบโปรแกรม/https://th.wikipedia.org/wiki/softwarehttps://www.quora.com/What-programming-languagehttps://www.slideshare.net/JoshuaHernandez6/lesson-40-elements-of-computer-and-communication-system