Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ย

ความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ย

Published by Little Red, 2021-03-18 22:07:36

Description: ความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ย

Search

Read the Text Version

1

2

3

ดอกเบ้ยี ดอกเบ้ีย (Interest) คือ เงินตอบแทนท่ีได้เพิ่มข้ึนจากการออมหรือลงทุน เช่น ดอกเบี้ย เงินฝาก ดอกเบ้ียทีไ่ ด้รับจากการลงทุนในตราสารหน้ี เปน็ ตน้ หรอื จะเป็นเงินตอบแทนทผ่ี ู้ปล่อยกู้ ไดจ้ ากผู้ขอกู้ จากการท่ีผู้ขอกู้ต้องจา่ ยเงินตอบแทนกับผู้ใหก้ นู้ อกเหนือจากในส่วนของเงินตน้ ที่กู้มา ด้วย เรียกวา่ เป็นดอกเบีย้ เงินกูจ้ ากการใช้บริการสินเชอ่ื ซง่ึ คา่ ตอบแทนในลักษณะของดอกเบ้ียจะ มีการคดิ ในรูปแบบรอ้ ยละเป็นหลัก เชน่ รอ้ ยละ 3, รอ้ ยละ 5, ร้อยละ 20 ฯลฯ และอัตราดอกเบี้ย อย่างเป็นทางการของทั้งดอกเบ้ียเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทต่างๆ ก็จะถูกกาหนดจาก คณะกรรมการนโยบายการเงนิ (กนง.) ในการกากบั ดแู ลของธนาคารแห่งประเทศไทย องคป์ ระกอบของการคดิ ดอกเบ้ยี 1 เงินต้น หมายถงึ จานวนเงนิ ทฝ่ี ากหรือกู้ไปในครั้งแรก อตั ราดอกเบย้ี หมายถงึ ดอกเบีย้ ท่เี กดิ จากเงนิ ตน้ หนึง่ หนว่ ยต่อหนว่ ยเวลาของการ 2 กู้ยืม โดยท่ัวไปใช้หน่วยเงินเป็น บาท และ เวลาเป็นปี เช่น อัตราดอกเบ้ียเงนิ กู้ 7% ต่อปี หมายถึงในการกู้เงินต้น 100 บาทในเวลา 1 ปี ต้องชาระดอกเบี้ย 7 บาท เปน็ ตน้ ไป 3 ระยะเวลาของการคดิ ดอกเบีย้ 1

ดอกเบีย้ เงินฝาก VS ดอกเบยี้ เงินกู้ ดอกเบยี้ เงนิ ฝาก อตั ราดอกเบย้ี เงินฝากคืออะไร ? อัตรา ดอกเบ้ียเงินฝาก หมายถึง อัตราดอกเบี้ยร้อยละต่อปีท่ีสถาบนั การเงินได้ทาการจา่ ยให้เพอ่ื เปน็ คา่ ตอบแทนสาหรบั ทา่ นท่ีนาเงินนั้นมาฝากไว้กับธนาคารต่าง ๆ ซึง่ แตล่ ะธนาคารน้ันก็ให้อัตรา ดอกเบี้ยท่ีไม่เหมือนกัน และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันการเงินน้ันก็มีหลายประเภทเช่นกัน ค่ะ ทง้ั นีก้ ็ข้ึนอยู่กับแต่ละธนาคารทีไ่ ดต้ ั้งเงอื่ นไขในการฝากด้วยเป็นการฝากแบบไหน ซ่ึงอัตรา ดอกเบ้ียเงินฝาก ท่ีแต่ละธนาคารนั้น ได้ต้ังเง่ือนไขสาหรับในการฝากถอน ของแต่ละ ธนาคาร ดังนั้น จึงทาให้เปรียบเทียบได้ว่าแต่ละธนาคารน้ันมีอัตราดอกเบี้ยต่อปีนั้นแตกต่างกัน อยา่ งไรบ้าง และถ้าธนาคารไหนมเี งอ่ื นไขทีด่ ีและเหมาะกบั คนที่จะฝากเงินหรือเปิดบัญชี ซงึ่ หากมี เงื่อนไข ข้อตกลงดี ดอกเบ้ียท่ีจะได้นั้นสามารถให้ค่าตอบแทนได้สูงที่สุด อาทิเช่น อัตราดอกเบี้ย ของบญั ชเี งินฝากประจาตอ้ งมีระยะเวลาเทา่ ไหร่ถึงจะถอนได้ ทง้ั น้ี ท่านตอ้ งอ่านละเอยี ดให้ดี และ ทาความเขา้ ใจในขอ้ ตกลงและเง่ือนไขด้วยว่า ทางธนาคารท่ีท่านได้เปิดบัญชเี งินฝากนั้น มเี ง่อื นไข อย่างไรบ้าง ท้ังน้ีเพื่อความเข้าใจท่ีตรงกัน จึงจาเป็นที่จะต้องเข้าใจในทุกรายละเอียด แต่ถ้าหาก เกิดไมเ่ ขา้ ใจนั้น สามารถติดตอ่ สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาทาการคะ่ แนน่ อนอยู่แล้วว่า อัตราดอกเบ้ียท่ีเปิดแบบฝากประจานั้น จะได้ดอกเบ้ียต่อปีน้ันสูงกว่าการฝากออมทรัพย์ อีกท้ัง วิธีการฝาก ระยะเวลาการถอน ก็แตกต่างกันไป รวมไปถึงกฏกติกาเง่ือนไขด้วย ทั้งน้ีการอ่าน รายละเอียดให้ชัดเจนน้ันจะส่งผลดีแก่ตัวท่านเองค่ะ อาทิเช่นการฝากประจาแบบ 3 เดือน การ ฝากประจาแบบ 6 เดือน หรือการฝากประจาแบบ 12 เดือน ก็จะมีเงื่อนไขท่ีแตกต่างกันออกไป กอ่ นการตดั สนิ ใจสมัครทาบัญชที ี่ธนาคารกบั เจา้ หนา้ ทที่ ัง้ น้ี ในการตัดสนิ ใจในการเลอื กทาธุรกรรม ทางการเงินกับแต่ละธนาคารนั้น จึงจาเป็นท่ีจะต้องเลือกประเภทการฝากเงินที่เหมาะสมกับ รูปแบบการใช้ชวี ติ การดาเนินชีวติ สภาวะทางการเงนิ ของแต่ละคน เพอ่ื ทีจ่ ะได้รบั ประโยชนส์ ูงสุด จากการฝากเงนิ รวมไปถึงอัตราดอกเบย้ี เงนิ ฝากท่ที ่านจะไดร้ บั ด้วย 2

สาหรับการฝากเงนิ ในธนาคาร เป็นวิธีที่ดีในการออมเงิน ไม่ว่าจะออมเงินไว้ใช้ในอนาคตหรอื การ ออมเงนิ เพ่ือไวใ้ ชจ้ า่ ยฉกุ เฉิน หรือแม้กระท่งั ไวส้ าหรบั เปน็ ทนุ สารองในการประกอบอาชีพ อกี ท้ังยัง เป็นวิธีการออมและลงทุนที่ง่ายแสนง่าย การเปิด บัญชีเงินฝากก็มีให้เลือกแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ ละคนน้ันสามารถเลือกใช้ที่เหมาะกับตัวท่านเอง อาทิเช่น ผู้ท่ีอาจจะมีรายได้ท่ีไมม่ ากมายนัก มนุษย์ เงินเดือนตามบริษัทต่าง ๆ พนักงานห้าง พนักงาน ออฟฟิศ อาจจะไม่ได้มีเงินมากมายเหมือนคนที่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ก็อาจจะฝากเป็นบัญชีเงิน ฝากออมทรพั ย์ เพือ่ เปน็ การออมเงินเพราะการฝาก แบบออมทรัพย์ เงือ่ นไขอาจจะไม่ยุ่งยากมากนัก กฎกติกากไ็ มม่ าก แต่ดอกเบ้ยี ที่จะได้รบั นั้นก็น้อย มาก ๆ สาหรับข้อดีของการฝากแบบออมทรัพย์คือ สามารถทาธุรกรรมทางการเงิน ทั้งการฝาก โอน ถอนไดต้ ลอดเวลา ไดบ้ ่อยแตอ่ ตั ราดอกเบ้ียทจี่ ะไดร้ ับน้ันน้อยมาก แตผ่ ใู้ ช้บริการเงินฝากของ ธนาคารต่าง ๆ กันทุกวนั การเปดิ บญั ชีเงนิ ฝาก สาหรับการเปิดบัญชีเงินฝาก มีหลายประเภท ท่ีให้ทุกคนนั้นสามารถเลือกสรรได้ตามความชอบ และเหมาะสมกับตัวท่านเองและเชื่อว่ามีอกี หลายคนท่ียังไม่เขา้ ใจท่ีชัดเจนและขาดความเข้าใจใน ทิศทางเดียวกัน ดังน้ันจึงอาจทาให้บางครั้ง ด้วยความเข้าใจท่ีไม่ตรงกัน จะทาให้ท่านนั้น ขาด ผลประโยชนไ์ ด้ แลว้ ย่งิ ทกุ วันนเ้ี งินฝากของธนาคารก็มหี ลายแบบ จนบางคร้ังก็ประชาสมั พันธ์ผ่าน สื่อตา่ ง ๆ มากมาย ดังนั้น คณุ ควรพจิ ารณาไตรต่ รองให้ดี วา่ จะทาแบบไหนดี ถงึ จะได้รับประโยชน์ สูงสุดจากการฝากในรูปแบบต่าง ๆ เพราะบางคนจะพูดเชิญชวน ชักจูงเรา จนบางคร้ังเราอาจจะ หลวมตัวไปเปิดบญั ชที ีไ่ ม่เหมาะกับเราน่นั เอง ดังนน้ั ควรมีสมาธิ มีสติ ทุกครั้งทมี่ ีคนมาแนะนา เชิญ ชวน เพราะสว่ นมากแลว้ จะไม่ค่อยได้ใสใ่ จรายละเอียดของมันว่าเป็นยังไง เพราซึ่งถ้าเราไม่รู้ อาจ ทาใหเ้ ราฝากเงินของไปในบัญชีท่ีผิดประเภท และทาใหเ้ สยี ประโยชนใ์ นการเปิดบัญชีข้อดสี าหรับ การเลือกฝากเงินในบัญชีเงนิ ฝากที่ถูกประเภทจะสง่ ผลดีต่อเรา และจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์ จากการฝากเงินได้อย่างเต็มท่ี เพราะถ้าหากอยากออมเงินและมีค่าตอบแทนสูงนั้นต้องเลือกฝาก แบบประจา และการฝากแบบประจานั้นก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งนี้ ความแตกต่างของ ดอกเบย้ี ก็ยอ่ มแตกต่างกนั ไป 3

ดอกเบ้ียเงนิ กู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ คือ ค่าตอบแทน หรือผลตอบแทนที่ผู้ใหก้ ู้ เรียกเก็บจากผกู้ ู้ ตามอัตราทต่ี ก ลงกนั อัตราการคิดดอกเบย้ี เงินกู้ ดอกเบีย้ เงินกู้ มีอตั ราการคดิ อยู่ทรี่ ้อยละ ตอ่ ปี ต่อเดอื น หรอื ต่อวัน ขึ้นอยู่กับขอ้ ตกลงร่วม ในครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้ีกับลูกหนี้ ซ่ึงส่วนใหญ่การเก็บดอกเบ้ียเงินกู้เปน็ จานวนร้อยละต่อปนี ั้น เป็นหลักการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของทางธนาคาร ที่เก็บเพ่ือเป็นผลตอบแทนจากการอนุมตั ิให้ กู้ยมื อัตราดอกเบย้ี เงินกู้ มหี ลายรปู แบบ หลายอัตรา โดยข้ึนอยู่กับประเภทของสนิ เชอื่ น้ัน ๆ เกณฑ์การ คดิ อตั ราดอกเบีย้ เงนิ กู้ กแ็ ตกตา่ งกันไปตามกฎเกณฑ์ของสถาบนั การเงินนนั้ ๆ ประเภทของดอกเบยี้ เงินกทู้ ีพ่ บบ่อย 1. อัตราดอกเบย้ี เงนิ ก้แู บบคงที่ หรอื Fixed Rate หมายถึงอัตราดอกเบ้ียเงินกู้ท่ีกาหนดไว้ตายตัว ไม่มีการปรับอัตราขึ้นลงตามต้นทุนของทาง ธนาคาร มีความคงท่ีตลอดอายุการทาสัญญา หรือตามช่วงเวลาที่ตกลงกัน เช่น ทางธนาคาร กาหนดดอกเบย้ี ไว้ที่ รอ้ ยละ 7 ต่อปี โดยมีกาหนดระยะเวลาในการผอ่ นชาระคนื 10 ปี เปน็ ตน้ 2. อัตราดอกเบ้ยี เงินกแู้ บบลอยตัว หรือ Floating Rate หมายถงึ อัตราดอกเบ้ียเงินกู้ท่ีมีความผันผวน ปรบั เปล่ียนข้ึนลงไปตามต้นทุนและผลกาไรของทาง ธนาคาร ซ่งึ ทางธนาคารจะออกมาประกาศใหท้ ราบเป็นระยะ ๆ เช่นอตั ราดอกเบี้ยเงนิ กอู้ ้างองิ ของ ธนาคารท่ัวไป โดยใช้ตวั ยอ่ ภาษาองั กฤษเป็นสัญลกั ษณ์สากล เชน่ MLR, MOR, MRR เป็นตน้ ตวั ย่อ MLR, MOR, MRR คอื อะไร หมายถึงอัตราดอกเบ้ียเงินกู้ที่ทางธนาคารใช้เป็นเกณฑใ์ นการเรียกดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกค้า โดยมี ลักษณะเปน็ ดอกเบ้ียลอยตวั เช่น 4

1. MLR หรือ Minimum Loan Rate หมายถึง อัตราดอกเบี้ยท่ีทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ ท่ีถูกจัดไว้ในเกรดดี เช่น มี ประวัติทางการเงินที่ดี ไม่เส่ียงต่อการล้มละลาย มีหลักทรัพย์เพียงพอในการค้าประกัน และมี ความมั่นคงในอาชพี หรอื ธุรกิจท่ปี ระกอบการอยู่ เปน็ ต้น 2. MOR หรอื Minimum Overdraft Rate หมายถึง อัตราดอกเบ้ียท่ีทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ช้ันดี แต่ขอกู้วงเงินเกินบัญชี ดอกเบ้ียประเภทนี้จะคิดให้ก็ต่อเมื่อ ลูกค้าท่านนั้นมีประวัติการชาระเงินในรอบก่อนๆอย่าง สมา่ เสมอ และมคี วามม่ันคงพอสมควร ธนาคารจะตอ้ งพิจารณาในเรื่องความเสีย่ งในอนาคตเสมอ แมว้ า่ จะเปน็ ลูกค้าชน้ั ดกี ต็ าม 3. MRR หรอื Minimum Retail Rate หมายถึง อัตราดอกเบ้ียที่ทางธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่นสินเช่ือบ้านและท่ีอยู่ อาศยั สนิ เช่อื เงินกูส้ ว่ นบคุ คล เป็นต้น ซึ่งในกรณนี ที้ างธนาคารมกั จะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ ลูกค้านานพอสมควร ไมว่ ่าจะเปน็ ประวัติในการชาระหน้ี หรือการใชเ้ ครดิตต่างๆ ความมั่นคงทาง อาชีพ หรือความม่นั คงทางการเงิน เป็นต้น เพอ่ื คาดเดาถึงศักยภาพของลูกค้าในการผอ่ นชาระคืน ในอนาคต ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบอัตราดอกเบ้ียเงินกู้ต่างๆของแตล่ ะธนาคารผา่ นเว็ปไซต์ของธนาคารหรือ สถาบันการเงนิ นั้น ๆ หรือถ้าต้องการดขู ้อมูลโดยรวมก็สามารถเข้าไปดทู ่ีเว็ปไซต์ของธนาคารแหง่ ประเทศไทยได้ โดยเกณฑเ์ ปรยี บเทียบที่ควรศึกษามดี งั นี้ คา่ ธรรมเนยี มเปรยี บเทียบระหวา่ งสถาบนั การเงนิ แต่ละสถาบนั อัตราดอกเบีย้ ท่ีเรยี กเก็บยอ้ นหลัง ซง่ึ ทางสถาบันการเงินอาจกาหนดอัตราดอกเบ้ียสินเช่อื ชนิดต่างๆเพื่อเรียกเก็บ โดยบวกอัตราเพิ่ม หรอื ลดเม่ือเทยี บกับอตั ราดอกเบย้ี อ้างองิ ตามประเภทตา่ งๆ ดังน้ี 1. ดอกเบ้ียเงินกู้แบบเงนิ ต้นคงท่ี หรือ ดอกเบ้ียเงินกู้ ท่ีไม่มีการเพ่ิมอัตราเงินต้น แต่ได้ทาการบวกดอกเบ้ียไปในยอดชาระเงินราย เดือนของลูกค้า ซ่ึงดอกเบ้ียประเภทน้ี ไม่สามารถลดได้ด้วยการเอาเงินก้อนมาปิดยอดชาระก่อน เวลา เพราะมีอัตราการคิด ดอกเบ้ยี เงินกู้ ทต่ี ายตัวไว้อยแู่ ลว้ 5

2. ดอกเบย้ี เงนิ กแู้ บบลดตน้ ลดดอก ถือเปน็ อตั ราการคดิ ดอกเบย้ี เงนิ กู้ ทนี่ า่ สนใจ และมคี วามคุม้ ค่ากบั ตัวผกู้ เู้ อง เพราะหากในอนาคต คณุ มเี งนิ ก้อนหน่งึ มาปิดยอดชาระหนไี้ ด้ ดอกเบย้ี และคา่ ธรรมเนยี มตา่ งๆจะลดลงตามระยะเวลาที่ คุณปดิ ยอดในช่วงนน้ั ๆ ซ่ึงถอื ว่ามีความคมุ้ คา่ เปน็ อยา่ งมาก 3. ดอกเบี้ย ค่าปรบั ค่าธรรมเนยี มและคา่ บรกิ ารอ่นื ๆของบัตรเครดติ หมายถงึ คา่ ใชจ้ ่ายอ่ืนๆที่เรียกเก็บเปน็ ค่าตอบแทนจากการให้บรกิ ารของทางธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น ค่าบริการตู้ ATMสาหรับกดเงินสด ค่าบริการรายปี ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปี เป็นต้น ซึ่ง คา่ ธรรมเนียมเหล่านีค้ อ่ นข้างมอี ัตราการเรยี กเก็บที่บ่อยคร้ัง รวมๆเขา้ กม็ ีอตั ราสงู จนเพมิ่ ยอดชาระ คนื ได้อยา่ งนา่ ตกใจ ซ่ึงอัตราดอกเบี้ยเงินกเู้ หลา่ น้ีจะไม่ถูกเรียกเก็บก็ต่อเมือ่ คุณชาระเงินคืนตรงตามกาหนดเวลา และ คงสภาพการเป็นลกู หนท้ี ีด่ ีกับทางธนาคารหรอื สถาบันการเงนิ น้นั ๆ 4. ดอกเบ้ีย และคา่ ธรรมเนยี มของสินเช่อื บคุ คล ภายใต้การกากับ หรือท่ีเรียกกันวา่ คา่ ติดตามทวงถามเวลาที่เราผิดนดั รับชาระ ซ่งึ ค่าใชจ้ า่ ประเภท น้ีจะเกดิ ขึ้นกต็ อ่ เมอื่ คุณผดิ นดั ชาระเงนิ ตามงวดทีก่ าหนดกับทางธนาคาร ซึ่งทันทที ี่ผดิ นดั ชาระดัง กล่าว อัตราดอกเบ้ียจะพุ่งข้ึนสูงกวาเดิมตามที่คุณได้ทาข้อตกลงไว้ และทางธนาคารมีสิทธิ์ที่จะ เรียกเก็บคา่ ปรับ คา่ ตดิ ตามทวงถาม และยดึ ทรัพย์คุณไดท้ กุ กรณี 6

สินเชอ่ื อตั ราดอกเบีย้ แบบคงท่ี (Fixed Rate Loan) เปน็ สนิ เชอื่ ท่คี ิดดอกเบ้ียตามอัตราท่ีตกลงกัน ณ วนั ท่ใี หส้ ินเชือ่ และจะคดิ แบบอัตราคงท่ีไปตลอด ระยะเวลาการให้สินเช่ือ ดังนั้น เงินท่ีชาระเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละงวดก็จะคงที่ตลอด ระยะเวลากู้ ตัวอย่างสินเช่ืออัตราดอกเบี้ยแบบคงท่ี ได้แก่ สินเช่ือรถยนต์ สินเช่ือตู้เย็น สินเชื่อ ประเภทนจี้ ะใหค้ ่า Effective Interest Rate ทส่ี งู เป็นอัตราดอกเบ้ียที่ถูกต้ังข้ึนมาในสัญญาระหว่างผู้ให้กู้และผูข้ อกู้ โดยอัตราดอกเบ้ียคงท่ี จะไม่เปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบ้ียตลาด จะมีค่าเท่าเดิมตลอดจนหมดอายุสัญญา แม้ว่าผู้ขอกู้ เงินจะนาเงินมาชาระก่อนกาหนดผู้ขอกู้ก็จะต้องชาระอัตราดอกเบ้ียเต็มจานวนตามท่ีสญั ญาระบุ ตวั อย่างการนาสินเช่อื ประเภทอตั ราดอกเบี้ยคงท่ี เช่น สนิ เช่อื รถยนต์ ผขู้ อสนิ เชอื่ ต้องการกู้เงินซ้ือ รถ จานวน 600,000 บาท โดยจะผ่อนชาระเป็นเวลา 6 ปี ธนาคารได้คานวนเงินต้นรวมอัตรา ดอกเบ้ียที่ผู้ขอสินเชื่อต้องชาระคืนให้ธนาคารเป็นเงิน 800,000 บาท เม่ือเวลาผ่านไป 4 ปีผู้ขอ สนิ เชอื่ ตอ้ งการชาระหน้สี ินทงั้ หมด ผู้ขอสนิ เชอ่ื ก็ยังต้องชาระเต็ม 800,000 บาท จะสงั เกตเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยคงท่ี ไม่ว่าจะผ่อนชาระรายงวดไปจนครบ 6 ปี หรือ นาเงินก้อนมาปิดหนี้สินก่อน กาหนดก็จะมีค่าใช้จ่ายเท่ากัน สัญญาเงินกู้ประเภทอัตราดอกเบ้ียคงท่ีจะมีผลดีถ้าหากอัตรา ดอกเบ้ยี ตลาดปรับตวั สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยในสัญญาจะไมส่ งู ข้ึนตาม นน่ั หมายความว่าผู้กู้มีต้นทุน การขอยืมเงินที่ถูกกว่าตลาดในปัจจุบัน แต่ในทางกลับกับถ้าอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง อัตราดอกเบี้ยในสัญญาเงินกู้ก็จะไม่ปรับตัวลดลงด้วย ซ่ึงจะมีผลทาให้ผ้กู ู้มีต้นทุนการขอสนิ เชอ่ื ที่ แพงกวา่ ตลาดในปจั จบุ ัน 7

อตั ราดอกเบยี้ แบบลอยตัว (Floating Rate) เปน็ อตั ราดอกเบี้ยเงนิ กู้ที่จะอ้างองิ กบั อตั ราดอกเบ้ยี ตลาด คือเมอื่ อัตราดอกเบย้ี ธนาคาร ในปจั จุบันเปล่ยี นไปอัตราดอกเบ้ยี ในสญั ญาเงินก้กู จ็ ะเปลีย่ นตามไปด้วย จะไมค่ งที่เหมือนกบั อตั รา ดอกเบ้ียแบบคงท่ี สัญญาเงินกู้อัตราดอกเบ้ียแบบลอยตัว จะเป็นผลดีกับผู้กเู้ ม่ืออัตราดอกเบี้ยใน ตลาดปรับตัวลดลง อตั ราดอกเบย้ี ในสัญญาก็จะปรับลดลงด้วย ทาให้ตน้ ทนุ การก้ยู ืมเงินตา่ ลงตาม แตถ่ ้าหากอัตราดอกเบย้ี ในตลาดสูงขึน้ จะมีผลทาให้อัตราดอกเบีย้ ในสญั ญาเงินกปู้ รบั ตวั สงู ขนึ้ ตาม ด้วยซึ่งจะมีผลทาให้ต้นทุนใรการขอกู้ยืมเงินสูงขึ้นด้วย อัตราดอกเบ้ียแบบลอยตัวที่พบเป็นส่วน ใหญ่จะมี 3 ประเภทดังนี้ MLR,MOR และ MRR - อตั ราดอกเบ้ีย MLR (Minimum Loan Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารมักจะใช้ในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เช่น ลูกค้าที่มีฐานะทางการเงินที่ดี หรือลูกค้าที่มีหลักทรัพย์มาค้าประกันเพียงพอต่อยอดเงินที่ขอกู้ อตั ราดอกเบย้ี MLR โดยสว่ นใหญจ่ ะปล่อยใหเ้ ปน็ สนิ เช่อื เพอื่ การประกอบธรุ กจิ เปน็ ต้น - อัตราดอกเบ้ีย MRR (Minimum Overdraft Rate) อัตราดอกเบี้ยประเภทนี้ธนาคารมักจะนามาใช้ในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายย่อย เพ่ือใช้ในการ ซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะทาสัญญาแบบ 3 ปี แรกเป็น อตั ราดอกเบีย้ แบบคงท่ี และหลงั จาก 3 ปจี ะปรับเป็นอัตราดอกเบยี้ แบบลอยตัว นจี่ ึงเป็นเหตุผลที่ ทาให้ผู้ขอกู้ซื้อบ้านต้อง รีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี เพื่อประหยัดต้นทุนในการผ่อนชาระน่ันเอง - อตั ราดอกเบยี้ MOR หรือ (Minimum Overdraft Rate) เป็นอัตราดอกเบ้ียที่ธนาคารใช้คิดกับลูกค้าที่มคี วามต้องการที่จะเบิกเงินเกินบัญชี เช่น บัญชี กระแสรายวนั 8


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook