Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore raekna

raekna

Published by paoreeyapra, 2020-05-04 19:37:24

Description: raekna

Search

Read the Text Version

ความเช่อื เรือ่ งการแรกนาในเอกสารโบราณ ดอกรกั พยคั ศรี01 เม่ือวันพชื มงคลท่ีผานมา ตรงกบั วันจันทรที่ 13 พฤษภาคม 2556 ไดมีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เปนพระราชพิธี 2 พิธีรวมกัน คือ พระราชพิธีพืชมงคลอันเปนพิธีสงฆ ซ่ึงจะประกอบพระราชพิธีวันแรกในพระอุโบสถ วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม กบั พระราชพิธจี รดพระนงั คัลแรกนาขวัญ (วันไถหวาน) อันเปนพิธีพราหมณ ซึ่งจะประกอบพระราชพิธี ในวันรงุ ขึ้น ณ มณฑลพิธีทองสนามหลวง พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ หรือเรียกส้ันๆ วา พิธีแรกนา เปนพระราชพิธีท่ีมี มาแตโบราณตั้งแตครั้งสมยั สโุ ขทัยเปนราชธานี ภาพพธิ จี รดพระนังคัลแรกนาขวญั : http://media.thaigov.go.th/pageconfig/album1/index.asp?aid=5879&pageno= วัตถุประสงคของพระราชพิธีน้ี พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว ไดพระราชทานพระบรมราชาธิบายไวใน พระราชนิพนธเ ร่อื ง พระราชพธิ สี บิ สองเดอื น วา12 “การแรกนาทตี่ องเปนธรุ ะของผูซึง่ เปน ใหญในแผนดนิ เปน ธรรมเนียมนยิ มมีมาแตโบราณ เชน ใน เมืองจีนส่ีพันปลวงมาแลว พระเจาแผนดินก็ทรงลงไถนาเองเปนคราวแรก พระมเหสีเลี้ยงตัวไหม สวน จดหมายเรื่องราวอันใดในประเทศสยามที่มีปรากฏอยูในการแรกนาน้ี ก็มีอยูเสมอเปนนิจไมมีเวลาวางเวน 1 นกั วชิ าการ ศนู ยมานุษยวทิ ยาสริ ินธร(องคก ารมหาชน). 2 ประวตั ิพระราชพธิ ีมงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวัญ http://www.moac.go.th/ewt_news.php?nid=8822

ดวยการซงึ่ เปน ใหญในแผนดินลงมอื ทาํ เองเชน นี้ กเ็ พ่อื จะใหเ ปนตัวอยางแกราษฎร ชักนําใหมีใจหมั่นในการ ท่ีจะทํานา เพราะเปนสิ่งสําคัญท่ีจะไดอาศัยเล้ียงชีวิตท่ัวหนา เปนตนเหตุของความตั้งม่ันและความเจริญ ไพบูลยแหงพระนครทั้งปวง แตการซึ่งมีพิธีเจือปนตางๆ ไมเปนแตลงมือไถนาเปนตัวอยางเหมือนอยาง ชาวนาท้ังปวงลงมือไถนาของตนตามปกติก็ดวยความหวาดหว่ันตออันตราย คือ น้ําฝนน้ําทามากไปนอยไป ดวงเพล้ยี และสัตวต า งๆ จะบังเกดิ เปน อนั ตรายไมใหไดประโยชนเ ตม็ ภาคภมู ิ และมีความปรารถนาท่ีจะใหไ ด ประโยชนเต็มภาคภูมิเปนกําลัง จึงตองหาทางที่จะแกไขและหาทางท่ีจะอุดหนุนและท่ีจะเสี่ยงทายใหรู ลวงหนา จะไดเปนท่ีม่ันอกมั่นใจโดยอาศัยคําอธิษฐานเอาความสัตยเปนท่ีต้ังบาง ทําการซ่ึงไมมีโทษนับวา เปน การสวัสดมิ งคลตามซงึ่ มาในพระพุทธศาสนาบา ง บชู าเซน สรวงตามทม่ี าทาง ไสยศาสตรบาง ใหเปนการ ชวยแรงและเปน ที่ม่นั ใจตามความปรารถนาของมนษุ ยซ่ึงคดิ ไมม ีท่สี น้ิ สดุ ” พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในป พ.ศ. 2556 น้ี ไดมีการพยากรณถึงความสมบูรณของพืชพันธุธัญญาหาร ของประเทศ โดยพระยาแรกนาไดเสี่ยงทายหยิบผานุงแตงกาย ไดผา 4 คืบ พยากรณวาน้ําจะมากสักหนอย นาในท่ีดอนจะไดผล บริบูรณด ี นาในที่ลมุ อาจจะเสยี หายบา ง ไดผ ลไมเตม็ ที่ ภาพการเสย่ี งทายหยบิ ผา : http://media.thaigov.go.th/pageconfig/album1/index.asp?aid=5879&pageno=

นอกจากนี้พราหมณยังไดเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง ท่ีต้ังเลี้ยงพระโค ซึ่งผลเส่ียงทายพระโคกิน ขาวโพด พยากรณวา ธัญญาหาร ผลาหาร จะบรบิ รู ณด ี และพระโคกินหญา พยากรณวา นํ้าทา จะบรบิ รู ณพ อสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มัง สาหาร จะอดุ มสมบูรณดี ท้ังนี้ทั้งนั้นพิธีกรรมดังกลาวอันเปนพระราชประเพณีท่ีทําสืบทอดตอกันมาโดยพระมหากษัตริย นัยหนึ่ง เพอ่ื ใหเ ปนขวญั กาํ ลงั ใจแกพ สกนกิ รทท่ี าํ เกษตรกรรม ภาพเสี่ยงทายพระโค: http://media.thaigov.go.th/pageconfig/album1/index.asp?aid=5879&pageno= สําหรับชาวบานหรือเกษรตรกรเอง ก็มีความเช่ือเกี่ยวกับเรื่อง “การแรกนา” น้ีอยูเหมือนกัน ดังในเอกสารโบราณ ทองถ่ินบางฉบบั 23 ท่ไี ดบันทึกเร่ือง “การแรกนา” เอาไวรวมอยูในหมวดของตําราโหราศาตร ในเรื่องบอกถึงฤกษงามยามดีท่ีจะลง มอื ทาํ ไร ทํานา การทาํ เคร่ืองมอื อุปกรณการเกษตร เปนตน ซ่งึ มเี นื้อหาดงั น้ี ดแู รกนา “วัน 1 วัน 2 วัน 3 ใหแรกไถดี วัน 2 วัน 4 แรกเกี่ยวแลถากลานดี วัน 5 วัน 2 วัน 3 ใหแรกเอาขาวข้ึนยุง วัน 6 ให ทําขวัญขาวดี วนั 4 วัน 2 เขาหัวจอบขวานดี วนั 6 แรกตกกลา ดี วนั 5 ทําคราดดี วัน 4 เขา ไถดีแล 3 สมุดไทยขาว รหสั NPT004-053 ตาํ ราโหราศาสตร ฉบับพิพิธภัณฑพน้ื บานวัดลําพญา ต.ลําพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม.

สิทธกิ ารยิ ะ จะแรกไรแ รกนาก็ดี ใหร ูจ กั ชันษาจึงดีแล ปชวดใหแรกวัน 5 ปฉลูใหแรกวัน 4 ปขาลแรกวัน 6 ปเถาะแรก วัน 2 ปม ะโรงแรกวนั 1 ปมะเสง็ แรกวัน 3 ปมะเมียแรกวัน 4 ปมะแมแรกวัน 5 ปวอกแรกวัน 4 ประกาแรกวัน ๕ ปจอแรกวัน 2 ปก ุ แรกวัน 1 ดูดาํ กลา อนง่ึ วนั 1 ใหแ รกไถนา วัน 6 วัน 3 ใหห วา นขา วดีนักแล วัน 2 วัน 4 ใหเก่ียวขาวดีนักแล วัน 2 วัน 4 ใหถากลานดี ทํา ขวญั ขา วดี ทํารา นโรงขา วกาดีแล วัน 5 เขาหัวขวานจอบดีแล วัน 2 วัน 7 ใหตัดไมดีนักแล วัน 6 แรกเขาคันไถดีนักแล วัน 2 เขา คันคราดดแี ล ไมข ี้เหล็ก ไมตะโก ทาํ หัวหมูดแี ล วัน 5 แรกถากลานดีแล วัน 2 ทําขวัญขาวดีนักแล ถาจะหวานกลาใหดูท่ีมีรากนั้น เอาแตรองจึงถอนงา ยดแี ล อนงึ่ ถา ผูใดจะแรกปก เอาแตร องรากอนั ชมุ น้ันจึงปก เถิดดีแล” “การดูแรกนา และการดูดํากลา ” ในสมดุ ไทยขาว รหสั NPT004-053 ตาํ ราโหราศาสตร ฉบับพิพธิ ภัณฑพ ้นื บา นวัดลําพญา ต.ลําพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม การเรียกช่ือวันในสมัยกอนมักเรียกชื่อวันวา วัน 1 วัน 2 จนถึงวัน 7 โดยวัน 1 หมายถึง วันอาทิตย วัน 2 หมายถึง วันจันทร วนั 3 หมายถึง วนั องั คาร ไลไ ปจนถึงวนั 7 หมายถึงวันเสาร นอกจากนีก้ ารเรยี กวันดว ยตวั เลขแบบนยี้ ังนิยมใชใ นเรอื่ งราว ที่เกี่ยวกบั โหราศาตร การทํานายทายทกั รวมไปถงึ การพยากรณตา งๆ เมอ่ื ลองนาํ ขอความเร่อื ง ดูแรกนา กบั ดดู ํากลา ออกมาแจกแจงตามวนั อาทิตยถึงวันเสารวาวันไหนทําอะไรดีบาง ก็จะ ไดด ังตารางน้ี

วนั 1 อาทิตย วัน 2 จันทร วัน 3 อังคาร วัน 4 พุธ วัน 5 พฤหัสบดี วัน 6 ศกุ ร วนั 7 เสาร แรกไถดี แรกไถดี แรกไถดี แรกเก่ยี วดี เอาขา วข้ึนยุง ทาํ ขวัญขา ว ตดั ไมด ี แรกเก่ียวดี เอาขาวขน้ึ ยุง ถากลานดี ทาํ คราดดี แรกตกกลาดี ถากลานดี หวานขา ว เขาหวั จอบ เขาหวั ขวาน หวานขาว ขวานดี จอบดี เอาขา วข้นึ ยงุ เขาไถดี แรกถากลานดี แรกเขา คนั ไถดี เขา หวั จอบ เกยี่ วขา ว ขวานดี เกย่ี วขา ว ถากลานดี ถากลานดี ทาํ ขวัญขา วดี ทาํ ขวัญขา วดี ทาํ รานโรงขาว กาดี ทํารา นโรงขา ว กาดี ตดั ไมด ี เขาคันคราดดี ทาํ ขวญั ขา วดี จากตารางขางตน จะเห็นไดว า วันทีด่ ที สี่ ุดทเ่ี หมาะจะทําการเกือบทุกอยา ง เชน การแรกไถ การเกี่ยว การเอาขาวข้ึนยุง การถากลาน การทําอุปกรณเครื่องมือการเกษตร เปนตน คือวัน 2 หรือวันจันทร สวนวันที่ทํากิจกรรมไดนอยที่สุดคือ วันเสาร และวันอาทิตย นอกจากนี้ในเอกสารฯ ยังบันทึกรูปภาพของตนขาวตามวันขางข้ึนต้ังแตข้ึน 1 ค่ํา ถึง ข้ึน 15 ค่ํา และวันขางแรม ตงั้ แตแ รม 1 คา่ํ ถงึ แรม 15 คา่ํ โดยภาพตนขา วแถวบนเปน ภาพตนขาวในวนั ข้นึ 1 คาํ่ เรยี งจากซา ยไปขวาจนถึง 15 คํ่า สวนภาพ ตน ขาวแถวลางเปน ตนขาวในวนั แรม 1 คาํ่ เรียงจากซายไปขวาจนถึง 15 ค่ํา เชนกัน ในทายเร่อื งยังบอกถึงวาตํารานเ้ี ปน ตําราการทาํ มาหากนิ ถาอตั คดั ขดั สนกส็ ามารถนําเอาวิธีในตําราน้ีไปใชในทางทํามา หากนิ ได ไมย ากเลยดงั ความที่วา “อน่งึ ถาผูใดทํากนิ มพิ อปาก ใหดูตาํ รานีไ้ ปทาํ กินเถดิ หารูยากไมเ ลย ทา นทั้งหลายเอย”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook