การจัดทางานวจิ ัยในชัน้ เรียน การพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ด้านทกั ษะการใชเ้ ครือ่ งมืองานชา่ งของนกั เรียนระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษา ปีท่ ี่ 1/5 วชิ าการงานพน้ื ฐานอาชพี ( งานชา่ ง ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานพืน้ ฐานอาชพี จดั ทาโดย นายศภุ ากร ทาอวน ตาแหน่งพนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ตาบลช่างเคง่ิ อาเภอแม่แจม่ จังหวัดเชียงใหม่ สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ สานกั งานการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
ชอื่ ผลงานวจิ ัย การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ดิ ้านทักษะการใช้เครื่องมืองานช่างของนกั เรียนระดบั ชั้นมธั ยมศึกษา ปี่ที่ 1/5 วชิ าการงานพนื้ ฐานอาชพี ( งานช่าง ) อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ ช่อื ผูว้ ิจัย นายศุภากร ทาอวน ตาแหนง่ ครูผ้สู อน วฒุ กิ ารศึกษา ครุศาสตร์บณั ฑิต (คบ.) สถานศึกษาทต่ี ดิ ต่อ โรงเรียนราชประชานุเคราห์ 31 ปีท่ที าวิจัยเสรจ็ 2563 ประเภทงานวจิ ัย วจิ ัยในชัน้ เรยี น บทคดั ยอ่ (Abstract) การวจิ ัยเรือ่ งศึกษาการใช้เครอื่ งมอื ช่างยนต์ ระดับชัน้ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ ชน้ั ปีท่ี 3 แผนกวิชาช่าง ยนต์สามารถสรปุ ผลการวจิ ัยได้ดังนผ้ี ลการวิจยั พบวา่ นักเรยี นมีพฤตกิ รรมการใช้เครอ่ื งมอื ช่างยนตท์ ถ่ี กู ต้อง และ แม่นย ามากขนึ้ โดยรวมอย่ใู นระดับมากเมื่อพิจารณาเปน็ รายข้ออยู่ในระดบั มากทกุ ขอ้ ดงั นีค้ วามสนใจการ ใช้ เครือ่ งมือชา่ งยนต์ โดยสรุปจากการสงั เกตและทดสอบการใช้เครื่องมือชา่ งยนต์ เพ่อื สร้างพฤตกิ รรมของ ผเู้ รยี นให้ มีความกระตอื รือรน้ และมีความเอาใจใสต่ ่อการเรียนครผู สู้ อนต้องสร้างจิตสานกึ ใหก้ ับผู้เรียนอยเู่ สมอ ตลอดจนการ ใช้รูปแบบการจดั การเรียนการสอนท่มี ีความหลากหลายเพื่อมใิ ห้ผูเ้ รยี นเกิดความเบ่อื หนา่ ยและมี ความสนใจมาก ขึ้นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนด้วยระบบใบงานเปน็ อกี หนึ่งวธิ ีการสอนมีสว่ นสาคัญใน การปรับพฤติกรรม ของผูเ้ รียนให้เกิดความกระตือรือร้นและเอาใจใส่ต่อการเรยี นการสอนเป็นอย่างดี 1. ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา จากการใช้เคร่ืองมือเป็นปัจจัยที่สาคัญอย่างหน่ึงต่อการพัฒนาคุณภาพและการดารงชีวิตท่ีจะต้องมี แนวทางในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดเน้ือหาสาระ กิจกรรม ให้สอดคล้องกับความถนัดและความ สนใจ โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ตลอดจนฝึก ทักษะกระบวนการการจัดการเผชิญประสบการณ์ และการประยุกต์ความรู้ มาใชเ้ พอ่ื ใชใ้ นชวี ติ และแก้ไขปญั หา โดยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รยี นรู้ทุกประสบการณ์จริงผสมผสาน ความรูอ้ ยา่ งสมดุล รวมท้ังจัดสภาพแวดล้อมทางสงั คม ใหผ้ ูเ้ รยี นได้เรียนร้อู ย่างรอบดา้ นและประสานความร่วมมือ เพอื่ พัฒนาผ้เู รียนใหม้ ีศักยภาพอนั จะนาไปสู่การปรบั ปรุงคุณภาพชีวิตและใชก้ ระบวนการใช้อปุ กรณ์การช่าง ทาให้ ทุกคนไดพ้ ฒั นาทกั ษะงานช่าง มที ักษะความรู้ มคี วามสามารถในการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นนักเรียนเป็นสาคัญ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี เน้นให้นักเรียนได้ คิด ค้นคว้าหาความรู้และลงมือปฏิบัติหรือกระทาจริงทุกข้ันตอน จนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง การพัฒนาครู เก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสาคัญ เป็นวิธีหน่ึงท่ีจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาครูให้มี ความรู้ความสามารถในการวางแผนจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนเป็นคนดี คนเก่ง และเป็นคนที่อยู่ในสังคมได้อย่าง มีความสุข
ผวู้ ิจยั จงึ ศึกษาการสอนประเภทต่าง ๆ และเป็นเหตใุ ห้ผู้ศึกษาเกิดความสนใจ ในการศกึ ษาการใช้อุปกรณ์ การช่าง เพื่อนามาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การนาเสนอเน้ือหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่ม สาระการเรยี นรู้การงานพ้นื ฐานอาชพี (งานชา่ ง ) จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา การงานพื้นฐานอาชีพ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1/5 ผู้วิจัยพบว่า ผู้เรียนไม่เกิดการเรียนรู้และไม่เข้าใจในการปฏิบัติการใช้เคร่ืองมือ ไม่สามารถทาแบบฝึกทักษะได้ จึงส่งผลให้ ผู้เรียนเกิดอันตรายในการเรียน และการนาไปใช้ ทาให้มีขาดความรู้เก่ียวกับทักษะการใช้เคร่ืองมืองานช่าง ซ่ึง การศึกษาครัง้ นีจ้ ะก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์นาไปใชจ้ ดั การเรียนการสอนในวชิ าการงานพ้นื ฐานอาชพี ได้ นักเรยี นมีความ ต่นื เตน้ สนุก สนใจและอยากจะเรยี นดว้ ยตนเอง และได้พัฒนาทักษะการทางานและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีดี ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1/5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 2.1 เพอื่ พฒั นาทกั ษะการใชเ้ คร่อื งมอื ช่างสาหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1/5 2.2. เพื่อศึกษาแนวทางในการแก้ปญั หานกั เรยี นท่ีมีทกั ษะการใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่างบางอย่างในชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้องแม่นยา 80% ของผู้เรยี น ทงั้ หมด 3.ขอบเขตของการวิจัย 3.1กล่มุ ตัวอยา่ ง นักเรยี นรายวชิ า การงานพ้ืนฐานอาชีพ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1/5 โรงเรียนราช ประชานเุ คราะห์ 31 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 จานวน 29 คน 3.2 ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการวิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 4. นิยามศัพทท์ ทบใชใ้ นการวจิ ัย เคร่อื งมือช่างยนตห์ มายถึงเครอ่ื งมือท่ใี ช้ทางานโดยใช้แรงจากคนอาจจะใช้สาหรบั เจาะ ตดั ขดั ฯลฯ ทกั ษะในการเคร่ืองมือชา่ งหมายถึงทักษะดา้ นการใชง้ านอปุ กรณใ์ หถ้ ูกตอ้ งกับประเภทของงานหรือเหมาะ กับงาน เพ่ือเป็นการปอ้ งกันเครอื่ งมอื ชารุดเสยี หาย และอปุ กรณ์ของเครอ่ื งมอื ด้วย 5. ประโยชนท์ ทบไดร้ บั จากการวจิ ยั 1. ผู้เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นทกั ษะการใชเ้ คร่ืองมอื ชา่ ง ในรายวิชา การงานพ้ืนฐานอาชีพ สูงขึน้ 2. ผเู้ รียนมีพฒั นาดา้ นทกั ษะการใช้เคร่ืองมือชา่ งสงู ขน้ึ
เอกสารและงานวจิ ัยททบเกย่ี วข้อง บทท่ี( 2) ในการวิจยั เพอ่ื การพฒั นาทักษะการเคร่ืองมอื ชา่ งของระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1/5 แผนกวิชาการงาน พน้ื ฐาน (งานช่าง ) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 โดยใชก้ จิ กรรมฝกึ ปฏบิ ตั ิในครั้งนีพ้ บว่ามีเอกสารและ งานวิจัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ งดงั นี้ 1. เอกสารททบเกี่ยวข้อง “เครือ่ งมอื ชา่ งยนต์” เปน็ เครือ่ งมอื สาหรับ ทางานโดยใชแ้ รงจากคนอาจจะใช้สาหรบั ขัน ตอก ตัด ฯลฯ ประแจเป็นเรอื่ งมอื หลักทส่ี าคญั ทสี่ ดุ ในการซอ่ มเครือ่ งยนต์ หรือเครอ่ื งจักรกลทัว่ ไป สลักเกลยี วและ แปน้ เกลยี วทใ่ี ช้ในงานช่างยนต์มักจะเปน็ หกเหลีย่ มฉะนนั้ ประแจตา่ ง ๆท่ีใชต้ อ้ งเลือกประแจสาหรบั น๊อต – หก เหลีย่ มให้ถูกตอ้ ง 2. 2 ชนิดของประแจ ผู้ผลติ เคร่อื งมอื ไดอ้ อกแบบประแจให้มีรปู รา่ งและแบบใหแ้ ตกต่างกันหลายชนิด บา่ ง ชนดิ ใชก้ บั งานทวั่ ไป บางชนดิ ใชก้ ับงานเฉพาะอย่าง ท่จี ะกล่าวตอ่ ไปน้เี ปน็ ประแจสาหรับงานช่างยนต์ 2.1 ประแจแหวน ใช้กับงานทว่ั ไป ราคาไม่แพง ซงึ่ คอจะงอเปน็ มุมประมาณ 15 องศา ประแจแหวน ที่ใช้ ท่ัวไปจะมี 2 หวั 2.2 ประแจปากตาย เปน็ ประแจทีใ่ ชแ้ ทนประแจแหวน แต่เน่ืองจากปากประแจสัมผัสหัวเกลยี วหรือ นอ๊ ต เพียงสองด้านท าให้เหลีย่ มมนไดง้ า่ ย เหมาะสมกับงานบางประเภทเช่น ขันน๊อตหรอื หสกรูหรอื นอ๊ ตทอ่ ตา่ ง ๆ 2.3 ประแจรวม เป็นประแจท่ีออกแบบมาข้างหน่ึงเปน็ ประแจแหวนอีกขา้ งหนึง่ เปน็ ประแจปากตาย 2.4 ประแจกระบอก เป็นประแจที่ใช้ร่วมกบั ด้ามขนั ประแจชนดิ น้ใี ช้สาหรบั ขันสลักเกลียวและแป้น เกลียว ได้ดที ส่ี ุด 2.5 ประแจหัวผ่า ออกแบบมาเพื่อถอดนอ๊ ตท่อซ่ึงปลายประแจจะมีลักษณะคล้ายประแจแหวนแต่ สว่ นปลาย จะผา่ เพ่ือสาหรับรอดผ่านท่อ 3. ด้ามประแจ การเลอื กใช้ด้ามประแจให้ถูกตอ้ งกับงานจะชว่ ยใหท้ างานได้รวดเรว็ และอายุการใช้งานนาน 3.1 ดา้ มสว่าน ใชต้ อ่ กบั ประแจกระบอกสาหรับขันหรอื คลายสลกั เกลียวเพ่อื ความรวดเร็ว แต่สลัก เกลียว ต้องไมแ่ นน่ เกนิ ไป 3.2 ดา้ มยาว ใช้สาหรบั ขันสลักเกลียวทีแ่ นน่ มาก ๆ โดยทวั่ ไปจะใชข้ ันเป็นคร้ังสุดทา้ ย 3.3 ด้ามกรอกแกรก เป็นด้ามท่ใี ชส้ าหรับขนั หรอื คลายสลกั เกลียวในที่แคบ ๆ ด้ามชนิดน้ไี มค่ อ่ ยแข็งแรง จรงึ ท า ให้เสียบ่อยเพราะใช้งานผิดประเภท 3.4 ด้ามที ใช้สาหรับงานทตี่ ้องการแรงกดทางซา้ ยหรือทางขวาเท่า ๆกนั 4. ประแจพิเศษแบบตา่ ง ๆ เป็นประแจทอี่ อกแบบใหใ้ ชง้ านสะดวกขนึ้ ซึ่งใช้กับงานเฉพาะอย่าง 4.1 ประแจกแหวนกรอกแกรก สามารถขันสลกั เกลียวไดโ้ ดยไม่ตอ้ งยกประแจออก การกลบั ทางหมนุ ใชส้ ลับ ด้านด้ามประแจ 4.2 ประแจกระบอกข้อต่ออ่อน ใช้สาหรบั ขนั สลกั เกลียวท่แี นวขันเอยี งเป็นมุม 4.3 ประแจกระบอกข้อต่ออ่อนดา้ มในตวั ใช้แทนประแจแหวนหรือประแจกระบอก 4.4 ประแจถอดสตัด ใช้สาหรบั ใส่หรือถอดสตดั
4.5 อิมแพคเรน้ ซ์ ประแจแบบนี้มีท้งั ใช้ไฟฟา้ และลม ใช้คกู่ บั ประแจกระบอกจากผลการวจิ ยั ของแดน ประชาคร้ามแสง (2547)ในการแก้ปญั หาทักษะขาดความแมน่ ย าในการมองนตั และโบลตก์ บั การ เลือกใช้ ประแจของนกั เรียนระดบั ชัน้ ปวช. 3 แผนกวชิ าช่างยนตใ์ นการสอนวิชางานจกั รยานยนต์โดยใช้ชุดฝึก ความ แม่นยาในการมองหวั นัตและโบลต์ผลการวิจัยพบว่าสามารถพฒั นาทกั ษะการมองหัวนัตและโบลต์ของ นกั ศึกษาได้แมน่ ยามากขนึ้ ทาให้นกั เรียนเลือกใช้ประแจได้อยา่ งถูกตอ้ งทาใหป้ ระหยัดเวลาในการทางานการ สอนวชิ างานจกั ยานยนตจ์ ะทาการสาธิตและปฏบิ ัติจรงิ ให้นักเรียนดูเปน็ ตัวอย่างการฝึกปฏิบตั คิ รจู ะให้ นกั เรียน จับคู่ฝึกปฏิบัตหิ รือฝึกเปน็ กลุ่มๆครเู ดนิ ดูทุกคู่ทุกกลุ่มนักเรยี นคนใดกลุ่มใดปฏิบตั ิไมถ่ ูกต้องครูให้ค า แนะนา แกไ้ ขทันทแี ละให้นกั เรยี นท่ีปฏบิ ัตไิ ด้ดอี อกมาสาธิตให้เพอ่ื นๆดแู ลว้ ใหน้ ักเรยี นกลับไปฝึกปฏิบัติใหม่ ทาซา้ ๆ จนเกดิ ความชานาญสามารถปฏิบัตไิ ดท้ ุกคนท าใหน้ กั เรียนเกิดความมน่ั ใจ 1. ความเปน็ มาแบบเพือ่ นชว่ ยเพ่ือน บริษทั นา้ มันยกั ษใ์ หญ่ของประเทศองั กฤษ โดยการสรา้ งให้เกิดกลไกการ เรียนรู้ประสบการณผ์ อู้ น่ื ซึ่ง เป็นเพ่ือนรว่ มอดุ มการณ์หรอื รว่ มวชิ าชีพ )peers) กอ่ นท่ีจะเริ่มดาเนินกิจกรรม หรอื โครงการใด ๆ ทัง้ นี้ ความหมายของ เพื่อนชว่ ยเพอ่ื นจะเก่ียวขอ้ งกบั 1. การประชุมหรือการปฏิบัติการรว่ มกนั โดยมผี ูท้ ี่ได้รบั เชิญจากทมี ภายนอก หรือทีมอนื่ เพอ่ื มา แบง่ ปนั ประสบการณค์ วามรู้กบั ทีมเจ้าบา้ นทีเ่ ป็นผู้ของขอความชว่ ยเหลือ- เครื่องมอื สาหรับ แบ่งปนั ประสบการณค์ วาม เข้าใจความรใู้ นเร่ืองต่าง ๆ 2. กลไกสาหรบั แลกเปลี่ยนความรู้ผ่านการเช่ือมโยงตดิ ต่อระหวา่ งบคุ คลสา หรับขอ้ดขี องการทา Peer Assist นัน้ ได้แก่ 2.1 เป็นกลไกการเรียนรกู้ อ่ นลงมอื ทากจิ กรรม )Learning Before Doing) ผา่ นประสบการณ์ผอู้ ่นื เพื่อใหร้ ูว้ ่าใครรอู้ ะไรและไมท่ าผดิ พลาดซา้ ในสิง่ ที่เคยมผี ้ทู าผิดพลาด ตลอดจนเรยี นลัดวิธีทางานตา่ ง ๆ ทเี่ ราอาจ ไมเ่ คยรูม้ าก่อนจากประสบการณ์ของทมี ผู้ชว่ ยภายนอก 2.2 ช่วยให้ทีมเจา้ บ้านไดค้ วามช่วยเหลือความคิดเหน็ และมุมมองจากทมี ผูช้ ว่ ยภายนอก ซ่งึ อาจ นาไปสู่ แนวทางในการแกป้ ัญหาหรอื การทางานใหม่ๆ 2. วิธีการแบบเพอ่ื นช่วยเพ่อื น วิธกี ารแบบเพอ่ื นช่วยเพอื่ นสามารถท า ไดด้ งั น้ี 1. ก าหนดวตั ถปุ ระสงค์ใหช้ ัดเจนวา่ ทาเพอื่ นช่วยเพือ่ นทา ไปเพื่ออะไรอะไรคอื ต้นตอของปญั หา ที่ ต้องการ ขอความช่วยเหลือ 2. ตรวจสอบว่า ใครท่ีเคยแกป้ ัญหาทีเ่ ราพบมากอ่ นบางหรอื ไมโ่ ดยทาแจง้ แผนการทาเพ่ือนชว่ ย เพื่อนของทีม ให้หนว่ ยงานอนื่ ๆ ไดร้ ับรู้เพอ่ื หาผรู้ ้ใู นปัญหาดงักล่าว 3. ก าหนดFacilitator (คณุ อานวยหรือผู้สนับสนนุ และอ (ำนวยความสะดวกในกระบวนการ แลกเปลย่ี น เรยี นรรู้ ะหว่างทมี เพือ่ ให้ไดผ้ ลลัพธ์ตามต้องการ 4. คานึงถึงการวางตารางเวลาใหเ้ หมาะสมและทันตอ่ การนาไปใช้งาน หรือการปฏิบตั ิจรงิ โดยอาจเผื่อเวลา สาหรับปัญหาทไี่ มค่ าดคิดทอ่ี าจจะเกิดข้ึน
5. ควรเลอื กผ้เู ข้ารว่ มแลกเปล่ยี นเรียนร้ใู หม่ความหลากหลาย(Diverse) ท้ังในด้านทกั (Skill) ความสามารถ) ความเชีย่ วชาญ/Competencies) และประสบการณ์ )Experience) สาหรบั จานวนผูเ้ ข้ารว่ ม แลกเปลย่ี นอยู่ ทีป่ ระมาณ 6-8คนกเ็ พียงพอ 6. มุ่งหาผลลัพธ์หรอื สง่ิ ทีต่ อ้ งการได้รับจรงิ ๆ กลา่ วคอื การท าเพอื่ นช่วยเพ่อื นนน้ั จะตอ้ งมองใหท้ ะลุถึง ปญั หาสร้างทางเลอื กหลายๆ ทางมากกว่าที่จะใช้ค าตอบสาเร็จรูปทางใดทางหนง่ึ 7. วางแผนเวลาสาหรับการพบปะสังสรรค์ทางสงั คม หรือการพูดคยุ แบบไม่เป็นทางการนอก(รอบ) 8. กาหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายให้ชดั เจน ตลอดจนสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ใหเ้ อื้ออานวยตอ่ การ แลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ะหว่างกัน 3. รูปแบบกลวิธกี ารเรียนรแู้ บบเพ่ือนช่วยเพ่อื น นักการศกึ ษาหลายท่านได้ประมวลการสอนทีม่ แี นวคดิ จากกลวธิ ี การเรยี นรูแ้ บบเพ่ือนชว่ ยเพอ่ื นไวม้ ากมาย มี รายละเอยี ดดังนี้ 1. การสอนโดยเพือ่ นร่วมชน้ั ) Classwide-Peer Tutoring) เปน็ การสอนท่เี ปิดโอกาสให้ผเู้ รียนทัง้ สอง คนที่ จบั คู่กันมสี ่วนร่วมในการเรียนการสอน โดยให้ผเู้ รียนท้งั สองสลบั บทบาทเป็นทั้งนกั เรยี น ผู้สอนที่คอย ถ่ายทอดความรใู้ หแ้ ก่นกั เรียนผเู้ รยี น และนักเรียนผู้เรียนซ่งึ เปน็ ผู้ทไ่ี ดร้ บั การสอน 2. การสอนโดยเพือ่ นต่างระดับชนั้ ) Cross-Age Peer Tutoring) เป็นการสอนทีม่ ีการจบั ค่รู ะหว่าง ผเู้ รียนท่มี ี ระดับอายแุ ตกตา่ งกัน โดยใหผ้ ู้เรยี นท่มี รี ะดบั อายุสูงกวา่ ทาหนา้ ที่เป็นผู้สอนและใหค้ วามรู้ซึง่ ผเู้ รยี น ทั้งสอง คนไม่จาเปน็ ต้องมีความสามารถทางการเรยี นที่แตกตา่ งกันมาก 3. การสอนโดยการจับคู่ )One-to-One Tutoring) เป็นการสอนที่ให้ผเู้ รยี นทีม่ ีความสามารถ ทางการ เรียน สูงกว่าเลอื กจับคู่กบั ผู้เรียนทมี่ ีความสามารถทางการเรียนต่ากวา่ ดว้ ยความสมัครใจของตนเอง แลว้ ทาหนา้ ที่ สอนในเรื่องที่ตนมคี วามสนใจ มีความถนัดและมีทักษะทด่ี ี 4. การสอนโดยบุคคลทางบา้ น) Home-Based Tutoring) เป็นการสอนที่ใหบ้ คุ คลท่ีบา้ นของ ผู้เรยี น มีส่วน ร่วมในการสอนใหค้ วามชว่ ยเหลือในการพัฒนาความร้คู วามสามารถแก่บุตรหลานของตน ระหว่างทบ่ี ุตร หลานอยู่ทบี่ า้ น 4. หลกั การใชก้ ลวิธีการเรียนรแู้ บบเพอื่ นช่วยเพ่ือน การใหเ้ พื่อนชว่ ยเพ่ือนจะมีประสทิ ธิภาพสูงสดุ นั้นควรดาเนนิ ไป ตามหลักเกณฑ์ดงั น้ี 1. เพอื่ นผูส้ อนจะต้องมีทกั ษะทจ่ี าเปน็ เช่น ความเขา้ ใจในจุดประสงคข์ องการสอนจาแนกไดว้ ่า คาตอบท่ผี ิด และค าตอบที่ถูกต่างกันอย่างไรรู้จกั การใหแ้ รงเสริมแกเ่ พื่อนผเู้ รียน รจู้ ักบันทึก ความกา้ วหนา้ ใน การเรียนของ เพอ่ื นผูเ้ รยี น และมนษุ ย์สมั พันธ์ท่ดี ีกบั เพอ่ื นผู้เรียน 2. ก าหนดจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมให้ชดั เจน ทั้งน้เี พ่อื ให้บุคคลทงั้ สองช่วยกนั บรรลเุ ป้าหมาย ในการเรียน 3. ครเู ป็นผู้กาหนดข้นั ตอนในการสอนให้ชัดเจนและใหเ้ พือ่ นผูเ้ รยี นดาเนินการตามขั้นตอน เหล่าน้นั 4. สอนทีละข้นั หรือทีละแนวคิดจนกว่าเพอื่ นผ้เู รียนเขา้ ใจดีแล้ว จงึ สอนขน้ั ตอ่ ไป 5. ฝึกให้เพอ่ื นผ้สู อนเขา้ ใจพฤตกิ รรมการแสดงออกของเพื่อนผู้เรียนดว้ ยว่า พฤตกิ รรมใดแสดง ว่า เพอ่ื น ผู้เรยี นไมเ่ ขา้ ใจ ทัง้ นี้จได้แกไ่ ขให้ถกู ต้อง 6. เพือ่ นผสู้ อนควรบันทึกความก้าวหน้าในการเรียนของเพ่ือนผเู้ รยี นตามจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมที่ กาหนดไว้
7. ครูผู้ดแู ลรับผิดชอบจะต้องติดตามผลการสอนของเพื่อนผูส้ อนและการเรยี นของเพอ่ื นผ้เู รียน ดว้ ย ว่า ดาเนินการไปในลกั ษณใดมีปญั หาหรอื ไม่ 8. ครใู ห้แรงเสริมแก่ท้ัง2คนอยา่ งสม่าเสมอ 9. ชว่ งเวลาในการให้เพ่ือนชว่ ยเพื่อนไม่ควรใชเ้ วลานานเกนิ ไป งานวจิ ยั ระบวุ ่า ระยะเวลาท่มี ี ประสิทธภิ าพใน การใหเ้ พือ่ นช่วยเพื่อนในระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาอยู่ระหวา่ ง คาบเรียนชว่ ยไกล้หมดเวลา 10. เพอื่ นผู้สอนมีการยกตวั อยา่ งประกอบการสอน จึงจะช่วยให้เพ่ือนผูเ้ รียนเรียนเข้าใจเนอ้ื หาไดด้ ี ย่งิ ข้ึน 5. ประโยชนข์ อง เพอ่ื นชว่ ยเพ่อื น 1. เป็นการเรยี นลดั ดว้ ยการเรียน การทางานตา่ ง ๆทีเ่ ราอาจจะเคยทราบมาก่อน สิ่งเหล่านจี้ ะมาจาก ประสบการณ์เทคนคิ วิธตี า่ ง ๆของคเู่ พื่อนชว่ ยเพื่อนหรอื ทมี เพื่อนชว่ ยเพ่อื น 2. เป็นการแลกเปล่ยี นความร้ปู ระสบการณ์มุมมองความคดิ ตา่ ง ๆร่วมกนั เพอื่ ชว่ ยกนั พัฒนา ความรู้ เดมิ ที่มีอยใู่ ห้ มกี ารพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่ือง 3. สรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละความสามัคคีเพราะกระบวนการเพ่อื นชว่ ยเพ่อื นตอ้ งเกดิ จากการ ท างาน เป็นค่หู รอื เป็นทีม ดงั นนั้ การมปี ฏิสมั พันธ์อันดีต่อกนั ยอ่ มท าใหเ้ กดิ ผลการเรียนรู้ทด่ี ีตามมา งานวิจัยททบเก่ียวข้อง สบิ เอกเพชร เทพปัน (2558) ไดท้ าการวจิ ัยในช้ันเรยี นเรื่อง ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนการลับมีดกลึง รายวิชางานเครอ่ื งมือกลเบื้องต้น นักศึกษาแผนกวชิ าอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี โดยวธิ ีการ การ จบั คู่ฝกึ แบบเพอ่ื นชว่ ยเพือ่ น วทิ ยาลัยเทคโนโลยเี มโทร จงั หวดั เชียงใหม่ สงั กัดส านกั งานคณะกรรมการ ส่งเสรมิ การศกึ ษาเอกชน ผลการศึกษาพบว่า การวจิ ัยในครัง้ นี้ มวี ตั ถุประสงค์เพื่อศกึ ษาผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนการลับมดี กลึงรายวิชางาน เครื่องมือกลเบื้องต้น นักศกึ ษาแผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ระดบั ประกาศนยี บตั ร วชิ าชีพ โดยวธิ ีการ จับคู่ ฝกึ แบบเพ่ือนชว่ ยเพอื่ น วทิ ยาลยั เทคโนโลยีเมโทรประชากรและกลุ่มตัวอยา่ งท่ีใชใ้ น การศกึ ษาทีใ่ ช้ใน การ วจิ ัยในครั้งนนี้ กั ศกึ ษาแผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ ปีที่1 ที่ก าลังเรยี นรายวิชางานเคร่อื งมอื กล เบื้องต้น จานวน 16 คน โดยวธิ กี ารสุ่มอยา่ งง่าย เครือ่ งมอื ท่ีใช้ในการวิจัยและเก็บรวบรวมขอ้ มูล ได้แก่ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี น เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิระหว่างเรียน กับหลังเรยี น สถติ ิที่ใช้ในการวจิ ยั กาวิเคราะห์หาประสิทธภิ าพ วิธกี ารจบั คฝู่ ึกแบบเพ่ือนชว่ ยเพื่อน คา่ สถิติทีเทส (t – test)ค่าเฉล่ีย (xˉ) และ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจยั ดังนีผ้ ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนการลบั มดี กลงึ รายวชิ างานเครือ่ งมอื กล เบื้องต้นนักศึกษา แผนกวิชา อิเลก็ ทรอนิกส์ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพโดยวิธกี ารจับคูฝ่ กึ แบบเพอื่ นชว่ ย เพอ่ื น วทิ ยาลัยเทคโนโลยีเมโทร จงั หวัดเชียงใหม่ มีคะแนนหลงั เรยี นของนกั ศกึ ษามีคะแนนเฉลีย่ เท่ากับ18 คิดเปน็ รอ้ ยละ90.00 เมอ่ื เปรียบเทียบระหวา่ งเกณฑ์ กบั คะแนนสอบหลังเรียนพบว่า คะแนนสอบหลงั เรียนสูงกว่าเกณฑอ์ ยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ 0.05 นน่ั คอื วา่ การจบั คู่ฝึกแบบเพือ่ นชว่ ยเพ่ือน การลบั มีดกลงึ รายวิชางานเคร่อื งมอื กลเบ้อื งตน้ มปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมีค่าเท่ากับ 80.00/90.00 ซึ่งมคี ่ารอ้ ยละสงู กวา่ เกณฑ์ ทต่ี ้ังไว้ คอื 60/60 นางสาวอัญชลี อินสมพันธ์ (2555)การวิจัยคร้ังน้ี มวี ัตถปุ ระสงค์ในการวจิ ยั 1) เพอื่ ศึกษาผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน ในรายวิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลค า ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชั้นปที ี่ 2 ห้องTI201 วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบรหิ ารธุรกจิ ที่ไดเ้ รียนรโู้ ดยวธิ เี พ่ือนช่วยเพอื่ น 2)เพือ่ เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ กอ่ น และหลงั เรยี น ในรายวิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลค า ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชั้นปที ี่ 2 ห้อง TI201
วทิ ยาลัยเทคโนโลยีพายพั และบริหารธรุ กิจ ท่ีไดเ้ รียนร้โู ดยวธิ เี พ่ือนช่วยเพือ่ น และ 3) เพือ่ ศึกษาความ พงึ พอใจ ของผเู้ รยี นหลังการเรยี นร้โู ดยวิธีเพ่อื นช่วยเพ่ือน กลมุ่ ตวั อยา่ งที่ใช้ในการศึกษา คอื นักศกึ ษาระดับ ประกาศนียบตั ร วิชาชีพชั้นปีท่ี 2 หอ้ ง TI201 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2555 วทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ายัพ และบริหารธุรกจิ จานวน 26 คน เคร่อื งมือทใ่ี ช้ใน การวจิ ยั ประกอบดว้ ย 1) แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การ สร้างกราฟ 2) แบบ วดั ผลสัมฤทธก์ิ อ่ นเรยี นและหลังเรียน สาหรบั การประเมินผลการจัดการเรยี นรูก้ อ่ นและ หลังเรียน เรื่องการสรา้ ง กราฟ คะแนนเฉลยี่ ก่อนเรียน ของนักศกึ ษามคี ่าเทา่ กับ 8.59 ซึ่งคิดเป็นรอ้ ยละ 42.88 และค่าคะแนนเฉลย่ี หลงั เรียน ของนักศกึ ษามคี ่าเท่ากับ 15.23 ซึ่งคดิ เป็นรอ้ ยละ 76.15 ซ่งึ คะแนน เฉล่ยี หลงั เรียนสงู กวา่ คะแนนเฉล่ยี กอ่ นเรียน โดยมกี ารพัฒนาการของคะแนนระหวา่ ง 2-11 คะแนน คดิ เปน็ ร้อยละของคะแนนทเ่ี พิม่ ขึ้นร้อยละ 10.00-55.00 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรยี นทม่ี ีต่อการ เรยี นทม่ี ีต่อการเรยี นการสอนเรอื่ งการ สรา้ งกราฟ โดยใช้กิจกรรมเพือ่ นชว่ ยเพือ่ น โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก สภุ ารัตน์ คุ้มบารงุ )2552) ท าการวิจัยเรอื่ ง รายงานวิจัยในชน้ั เรยี นการเพ่ิมผลสมั ฤทธ์ทางการเรยี น วชิ าการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรแ์ ละอัลกอริทึมโดยใชกจิ กรรม จับคู่เพื่อนดแู ลกัน คณะวิทยาการจัดการ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎสวนดุสิตผลการวิจัย .1)นักศึกษาตอนเรียน A1 มพี ฤติกรรมทางการเรียน โดยเข้าเรียนทกุ คร้ัง 15 ครั้งจานวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 47.92 นกั ศึกษาตอนเรียน B1 เข้าเรียนทกุ ครั้งจานวน 35 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 55.56 สว่ นการส่งงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายหรอื แบบฝกึ หัดท้ายบทเรียนกลมุ่ ตัวอย่างท่ีสง่ งานตรง ตามก าหนดคดิ เป็นรอ้ ยละ 52.25 (2) สรุปกิจกรรมท่ีคู่เพอื่ นไดท้ าร่วมกนั โดยเรยี งล าดบั จากกิจกรรมท่เี กิดขนึ้ บอ่ ย มากทส่ี ุดไปนอ้ ยท่ีสุด 3 อันดบั ได้ดงั น้ี1.ช่วยกันท าแบบฝึกหัดในหอ้ งเรยี น 2. ทบทวนเนอ้ื หาหลงั จากการ เรียน การสอน 3.ปรกึ ษาเรอ่ื งงานทอ่ี าจารยม์ อบหมาย) 3) นกั ศกึ ษาทีไ่ ดร้ ะดับคะแนน D+, D และ E ในภาค เรยี นที่ 1/2552 ลดลงจากภาคเรียน ที่ 1/2551 แตย่ ังคงสูงกวา่ ภาคเรียนท่ี1/2550 วิธกี ารดาเนินงาน (บทททบ 3) การวจิ ยั ครัง้ นีเ้ ปน็ การวิจยั เชงิ ทดลอง ใช้รปู แบบการทดลองในชัน้ เรียน โดยทดลองเป็นรายหอ้ ง 1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรคอื ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1/5 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จานวน 29 คน ภาคเรยี นที่ 2/2563 2. เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจัย เครือ่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัยเร่อื ง การศึกษาพฒั นาทกั ษะการใช้เครอ่ื งมืองานชา่ ง ของนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/5 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31โดยใช้กจิ กรรมจับคฝู่ กึ ปฏิบตั ิได้แก่ 1. เคร่อื งมือชา่ ง 2. ชุดฝึก เครื่องมอื ช่าง 3. ใบงาน/ใบความรู 4. แบบประเมนิ การปฏบิ ัติงาน
3. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 1. แจง้ ผลการประเมนิ จากการสังเกตเบื้องต้นในนักศึกษาทราบถงึ ระดบั ความสามารถของตนเองใน ปจั จุบัน 2. ใหน้ ักศึกษาท่ีมีความสามารถในการใช้เครื่องมอื ชา่ ง ในระดบั ดีจบั คฝู่ กึ ปฏิบัติกบั นักเรียนท่มี ี ระดับ ความสามารถต่ากว่าตามความสมัครใจ 3. กาหนดการฝึกรว่ มกบั นกั เรยี นช่วงพกั กลางวนั และหลังเลกิ เรยี น 4. ดาเนินการฝึกตามแผนทก่ี าหนดไว้ 5. กาหนดประเดน็ การประเมินและสร้างแบบประเมนิ ทักษะภาคปฏิบตั ิ 6. ทดสอบพัฒนาการทเี่ กิดข้ึนและบันทกึ ลงในแบบประเมินผล 4. การวิเคราะห์ข้อมลู ผู้วจิ ยั ไดด้ าเนนิ การเกบ็ ข้อมูล 1. น าผลคะแนนทไ่ี ด้จากการประเมนิ การปฏบิ ัตงิ านเปรยี บเทียบกบั เกณฑท์ ่กี าหนดไว้ 2. บรรยายข้อมูลด้วยการแจงแจกความถี่ค่าร้อยละ (%) ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู บทททบ( 4) การวจิ ัยคร้ังน้ไี ดท้ าการศึกษาในการวิจัยเพอื่ การศึกษาพัฒนาทกั ษะการใชเ้ ครือ่ งมืองานช่าง ของนกั เรียนช้ัน มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/5 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 1. นาผลคะแนนท่ไี ดจ้ ากการประเมนิ การปฏิบตั งิ านเปรียบเทยี บกับเกณฑ์ท่กี าหนดไว้ 2. บรรยายขอ้ มลู ดว้ ยการแจงแจกความถี่ค่าร้อยละ (%) 3 นักเรียนรายวิชา การงานพ้นื ฐานอาชพี ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1/5 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 โดยใช้
กิจกรรมจับค่ฝู ึกปฏบิ ัติซ่ึงมผี ลการ วเิ คราะห์ขอ้ มูลดังน้ี ท่ี ชอ่ื — สกุล ั้ขนตอน การ ปฏิบั ิตงาน ระดบั คะแนน การใ ้ช ๑. เด็กชายฐปนนท์ แก้วตา เค ื่รอง ืมอ ๒. นิเด็กชายชคุณ ธาราคณุ ากร คะ่ชแางนยนนร ์ตวม ๓. เด็กชายมนต์ธัช ผองชนอารยะ ร้อย ละ (%) ๔. เด็กชายคมชาญ ถวิลเมฆา ๕. เด็กชายเมธัส ช่นื สุขเลศิ โกมล 5 5 10 ๖. เดก็ ชายการุณฑ์ บรบิ ลู สินทรัพย์ ๗. เดก็ ชายณฐั พล เกียรตบิ ญุ ชู 347 ๘. เด็กชายรชั พล สิรจิ รญู 347 ๙. เดก็ ชายภพสรรค์ ถนอมบญุ นิธิ 448 ๑๐. เด็กชายพัชรพล สตั ยซ์ ือ่ 549 ๑๑. เดก็ ชายเทพพนม เมธากลุ วดี 549 ๑๒. เด็กชายธรี ชาติ เสรีพนาพงศ์ 448 ๑๓. เด็กหญิงพมิ พ์วิภา เมธีเบญจา 336 ๑๔. เด็กหญิงฟ้า อรุณนภาลัย --- ๑๕. เดก็ หญิงประภัสสร นเุ กร 336 ๑๖. เดก็ หญงิ สุภาภรณ์ มังกาละ 336 ๑๗. เด็กหญงิ ปรียาอร แซก่ อื 336 ๑๘. เดก็ หญิงพรนภสั สริ ิจรูญ 336 ๑๙. เด็กหญิงนุชษรา โสภติ เงินทอง 336 ๒๐. เดก็ หญงิ ตุลยดา โกเมศบษุ รา 448 ๒๑. เด็กหญิงวิชา ชลาศัยอดุ ร 549 ๒๒. เดก็ หญิงพิมพพ์ ศิ า ประทีปไมตรี 336 ๒๓. เดก็ หญงิ ดาวพร สริ ดิ ารงกลุ 459 ๒๔. เดก็ หญงิ กัญญาณฐั วัชรไพรงาม 549 ๒๕. เดก็ หญงิ ธนัญพร ทรพั ย์ไพรวัลย์ 347 ๒๖. เดก็ หญงิ วราลกั ษณ์ ภมู อิ นันตพ์ นาไพร 448 ๒๗. เดก็ หญิงวรวรรณ ศศิธรบารงุ 5 5 10 ๒๘. เดก็ หญงิ ธญั วรตั น์ ดุเจโตะ๊ 5 5 10 ๒๙. เดก็ หญงิ นิชา เอกขจรไพศาล 549 549 รวม รอ้ ยละ 347 549 347 448 336 96.55
จากตารางพบวา่ คะแนนทไ่ี ด้จากแบบประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านของผเู้ รยี นสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินได้ จานวน 28 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 96.55 ไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ 1 คนคดิ เป็นรอ้ ยละ 3.45 ของนักศึกษาท่เี ข้า รว่ ม กิจกรรมจับคู่ฝกึ ปฏิบัติ สรุปผลการวิจัย และขอ้ เสนอแนะ บทที่ 5 การวจิ ยั เรื่อง การพัฒนาทกั ษะการใช้เคร่อื งมอื ชา่ งของนักเรียนรายวชิ า การงานพ้ืนฐานอาชพี ระดับชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ฝึกปฏิบัติ มีวัตถุประสงคเ์ พื่อศกึ ษาถึงแนวทางท่จี ะชว่ ยเพม่ิ ทกั ษะและวิธีการใชเ้ คร่ืองมือช่างไดม้ ากข้ึน และ เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษามีทกั ษะในการใชเ้ คร่อื งมอื ช่างได้อยา่ งถูกตอ้ ง แมน่ ยาและผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 50% ได้ 80%ของผู้เรียนทั้งหมด 1. สรุปผลการวิจัย ผลจากการพัฒนาทกั ษะการใชเ้ คร่อื งมอื ชา่ งโดยใชก้ ิจกรรมจฝกึ ปฏิบัติของกลุม่ ตวั อยา่ งซ่งึ เปน็ นักเรยี น รายวชิ า การงานพน้ื ฐานอาชพี ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1/5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31จานวน 29 คน นกั เรียนท่ีสามารถผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ ไดจ้ านวน 28 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 95.55 ไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมิน 1 คนคดิ เป็นร้อยละ 3.45 ของนักเรียนท่เี ขา้ รว่ มกจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ 2. ข้อเสนอแนะจากการวจิ ยั ควรน าวธิ ีการพัฒนาทักษะการใชเ้ คร่ืองมอื ช่างโดยใช้กิจกรรมฝกึ ปฏบิ ัติไปใชใ้ นการเรียนการสอน หนว่ ยอ่ืน นกั เรียนกลุ่มอื่นและควรใชว้ ิธีการสอนเป็นรายบุคคลสาหรับนกั เรยี นทย่ี ังมีผลประเมินผลการ ปฏิบัติการใช้ เคร่ืองมือชา่ งต่าวา่ 50% ซึง่ เกดิ จากสาเหตุไม้เข้าเรียน บรรณานกุ รม 1) “เครอื่ งมือช่างยนต์”, [ออนไลน]์ .เข้าถงึ ไดจ้ าก: URL: http://www.siamtech.ac.th/learning/anucha /gauge.html , 2550 [20 มกราคม 2551]. 2) อุเทศ บาลนิมิตใต้ ซอย.ถ 131 สานกั พิมพศ์ ูนยส์ ง่ เสริมอาชีวะ.กรงุ เทพฯ.งานเคร่ืองยนต.์ อัมพร ภักดีชาติ. . แขวงลาดยาว เขตจตจุ ักร กทม 110900. 3) สภุ ารัตน์ คมุ้ บารุง )2552). รายงานวจิ ยั ในช้ันเรียนการเพ่ิมผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาการเขียน โปรแกรม คอมพิวเตอรแ์ ละอลักอรทิ ึม่ โดยใช้กิจกรรม จับคู่เพือ่ นดแู ลกนั คณะวิทยาการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎสวน ดุสติ . 4) อรศริ ิ เลิศกิตติสขุ และดวงกมลลมิ โกมุท) .2552). การสอนแบบเพ่อื นชว่ ยเพอื่ น(ระบบออนไลน์) . http://www.thaigoodview.com/node/42182. .13/8/2557. VicharnPanich. เทคนิคเพ่ือนช่วยเพอ่ื น. (ระบบออนไลน)์ .http://gotoknow.org/blog/thaikm/2415. .13 /8/ 2557
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: