แผนการสอนคำควบกล้ำแท้สมบูรณ์

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าภาษาไทย เรอ่ื ง คำควบกล้ำแท้ จดั ทำโดย 1. นางสาวญานิศา ทองไทย เลขท่ี 6 รหัสนักศึกษา 16215165 2. นางสาวมณรี ตั น์ ตา่ งครบรุ ี เลขที่ 13 รหสั นักศกึ ษา 16215172 3. นายรัชกร คลังเจริญลาภ เลขที่ 14 รหสั นักศกึ ษา 16215173 4. นายวศิ วะ หลวงหาญ เลขท่ี 19 รหสั นกั ศึกษา 16215179 5. นายศภุ วัฒน์ ธปู สุวรรณ์ เลขที่ 20 รหัสนกั ศึกษา 16215180 สาขาวิชาการสอนภาษาไทยชนั้ ปีที่ 3 หม่ทู ่ี 1 เสนอ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์หนงึ่ ฤทัย ชวนะลิขิกร รายวิชา 1164201 หลกั การสอนอา่ นออกเขียนได้ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยธุ ยา

กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ รหสั วิชา ท ๑๓๑๐๑ เวลาเรียน 200 ช่ัวโมง/ปี ชือ่ วิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เรอื่ ง หลกั การใชภ้ าษาไทย เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง/หน่วย เรือ่ ง คำควบกล้ำแท้ แผนการสอนท่ี ๑ เวลา 60 นาที/คาบ ๑.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั ทเ่ี กี่ยวข้อง มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ตวั ช้ีวดั ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นบอกความหมายของคำท่มี ีพยัญชนะควบกล้ำแท้ไดถ้ ูกต้อง (K) ๒. นกั เรยี นอา่ นสะกดคำทีป่ ระสมดว้ ยพยญั ชนะควบกลำ้ แทไ้ ด้ (P) ๓. นกั เรยี นสามารถเขียนสะกดคำทป่ี ระสมด้วยพยญั ชนะควบกล้ำแท้ได้ (P) ๔. นักเรยี นเห็นคุณค่าของการใช้ภาษาไทย (A)

๓. กจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั ๑๒ ประการในการจดั การเรียนรโู้ ดยใชแ้ นวคดิ สมองเป็นฐาน สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการเรียนรู้ของมนุษย์ ดังนั้นเราจึงควรที่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับผูเ้ รยี น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาศกั ยภาพในการเรียนรู้ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสงู สดุ ทางผู้สอนจึงได้นำหลักการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการทำงานของสมองทั้ง ๑๒ ประการ มาใช้ในการ ออกแบบการเรียนการสอน เรื่อง คำควบกล้ำแท้ ในระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เพื่อให้การเรียนการสอนนัน้ เกิดประโยชน์สงู สุดแก่ตัวผ้เู รียน ดงั นี้ ขนั้ ท่ี ๑ ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (๑๐ นาที) ประการที่ ๑ สมองเป็นเครื่องประมวลผลที่ทำงาน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและสอบถาม ในเชิงคู่ขนาน คือ สมองของผู้เรียนสามารถทำอะไร เกี่ยวกับเรื่องงานอดิเรกที่นักเรียนมักจะทำใน หลาย ๆ อย่าง ในเวลาเดียวกันได้ กล่าวคือ เวลาวา่ ง ตาดู หูฟัง และสมองคิด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิด ๒. ครูนำแผ่นชาร์จนิทานคำกลอนขนาดสั้น ขึ้นมาจากการทำกิจกรรมอย่างหลากหลายท่ี เรื่อง “สัตว์ป่าน่าเอ็นด”ู ขึ้นมาให้นักเรียนไดอ้ ่านไป สอดแทรกอยู่ในการเรียนการสอน ซึ่งในที่นี้ครูให้ พร้อมกัน ซึ่งนิทานเรื่องนี้เป็นนิทานเกี่ยวกับคำควบ นักเรียนทำกิจกรรมร้องเพลงหลกั การจำคำควบกลำ้ กล้ำแท้ทั้ง ๑๕ รูป โดยในแผ่นชาร์จครูจะมีการทำ “เพลง จ้ำจี้คำควบกล้ำ” โดยมีท่าทางประกอบ ซ่ึง ตัวอักษรเป็นสีสันต่าง ๆ ไว้ที่คำศัพท์ที่เป็นคำควบ ในส่วนนี้สมองของผู้เรียนก็จะได้ทำงานร่วมกัน กลำ้ แท้ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนในขั้นนี้จะช่วยให้ ผู้เรียนได้ใช้ประสาทสัมผัสอย่างครบถ้วน คือ ตาดู เนื้อเพลงบนแผ่นชาร์จ ปากต้องร้องเพลงไปด้วย มือ ตอ้ งขยบั เพอ่ื ทำท่าทาง และหูต้องฟงั เสยี ง อกี ทั้งการ จัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพจะส่งผลให้ ผ้เู รียนมีพัฒนาการท่ดี ีและหลากหลายมากขึน้ ประการที่ ๒ สมองจะมีการเรียนรู้ผ่านการมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น คือ การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับ ผู้อื่นในสงั คม หรอื การทำกจิ กรรมเป็นกลุ่มจะช่วยให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าการเรียนด้วยตนเอง เพียงคนเดียว ผู้สอนจึงออกแบบการเรียนการสอน ให้มีการทำกิจกรรมร่วมกันภายในห้องมากกว่าการ ทำกิจกรรมเพียงคนเดียว เช่น การทำกิจกรรม “บอกหน่อยอ่านว่าอะไร” ซึ่งเป็นกิจกรรมกลุ่มใหญ่ นักเรียนที่เป็นสมาชิกในแต่ละกลุ่มจะต้องทำ

๓. ครูใช้คำถามกระตุ้นความคิดถามนักเรียน กิจกรรมร่วมกันกับครูและเพื่อนโดยจะเป็นลักษณะ เม่ือนกั เรยี นอ่านนทิ านจบแล้ว โดยคำถามมีดังน้ี ของการสุ่มแต่ละกลุ่มและส่งสมาชิกออกมาทำ ๓.๑) “นักเรียนสังเกตเห็นความแตกต่าง กิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฝึกให้อ่านสะกดคำควบ ของอะไรในแผ่นชาร์จ” ซึ่งครูจะมีการพูดสรุปอีก กล้ำที่มีตัวสะกด โดยนักเรียนจะได้ฝึกความสามัคคี คร้งั ว่าสสี ันของตวั อักษรของคำบางคำในแผ่นชาร์จมี และช่วยเหลือกันภายในกลุ่มเพื่อให้กลุ่มตนเองได้ ความตา่ งกนั เป็นผู้ชนะซึ่งการเรียนรู้เช่นนี้จะเป็นการสร้าง ๓.๒) “นักเรียนคิดว่าคำเหล่าน้ีมีสิ่งใดท่ี ประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้มากยิ่งขึ้น เหมือนกัน” ซึ่งครูจะมีการพูดสรุปอีกครั้งว่าส่ิงท่ี จากการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมดงั กลา่ ว เหมือนกันคือ คำศัพท์ในนิทานที่ครูทำตัวอักษรสีไว้ น้ันเปน็ คำควบกล้ำแท้เหมือนกนั พร้อมทงั้ เขียนถอด รูปของพยัญชนะควบกล้ำทั้ง ๑๕ รูปจากคำศัพท์ใน นทิ านทีค่ รูทำตวั อักษรสไี วใ้ หน้ กั เรียนดบู นกระดาน ๔. ครูพูดเชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องที่จะเรียนคือ เรื่องคำควบกล้ำแท้ ๕. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้เรื่อง คำ ควบกล้ำแท้ ข้นั ท่ี ๒. ขน้ั การสอน (๔๐ นาที) ประการที่ ๓ การเรียนรู้ในสิ่งที่มีความหมายต่อ ๑. ครูให้นักเรียนท่องหลักกการจำคำควบกล้ำ ตนเอง คอื สมองจะเกิดความตอ้ งการและแสดงออก แท้ โดยใช้เพลง “จ้ำจี้คำควบกล้ำ” ซึ่งครูจะพลิกไป โดยอัตโนมัติก็ต่อเมื่อได้พบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็น อีกด้านของแผ่นชาร์จนิทาน ซึ่งจะเป็นเนื้อเพลง ตัวกระตุ้นให้เกิดการค้นหา ผู้สอนจึงได้จัดทำสื่อการ “จ้ำจี้คำควบกล้ำ” ให้นักเรียนได้ร้องตามพร้อมทำ สอนที่มีสีสันสวยงามดึงดูดความสนใจของผู้เรียน ท่าทางประกอบ มากที่สุด เช่น สื่อวงล้อคำควบกล้ำ แผ่นชาร์จนิทาน คำกลอนคำควบกล้ำเรื่อง “สัตว์ป่าน่าเอ็นดู” หรือ แผ่นชาร์จเทคนิคการจำคำควบกล้ำเพลง “จ้ำจี้คำ ควบกล้ำ” ซึ่งสื่อการสอนที่แปลกใหม่และน่าสนใจ จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากสิ่งที่เห็น และ ผู้เรียนจะเกิดการตอบสนองที่อยากรู้อยากเห็น สมองจะกระตุ้นให้คิดหาคำตอบจากสิ่งที่เห็น อยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งนั้นคืออะไร ผู้เรียนเรียนไปแล้ว จะสามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างไร ประกอบกับ การออกแบบกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้ผู้เรียน ต้องการที่จะตอบคำถามและต้องการที่จะเป็นส่วน หนงึ่ ในกจิ กรรมทผี่ ู้สอนนำเสนอ

ประการที่ ๔ การค้นหาความหมายของมนุษย์ ๒. ครใู ช้คำถามกระตุ้นความคดิ ถามนกั เรยี น เกิดขึ้นจากการเรียนรู้รูปแบบ คือ เปิดโอกาสให้ เมอ่ื นกั เรียนรอ้ งเพลง “จำ้ จคี้ ำควบกล้ำ” จบแล้ว ผู้เรียนได้เรียนรู้และออกแบบรูปแบบที่เป็นของ โดยคำถามมีดงั นี้ ตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนได้สามารถแก้ปัญหาเองได้ ใน ๒.๑ “จากเพลงคำควบกล้ำมีพยัญชนะ ที่นี้ ผู้สอนได้เริ่มจากการเป็นผู้ให้ความรู้แก่นักเรียน ตัวใดบ้างที่ควบได้ทั้ง ร ล และ ว ” เมื่อนักเรียน และให้นักเรียนได้ลองเรียนรู้จากกการเป็นฝ่ายรับ ตอบคำถามเรียบร้อยแล้ว ครูจะเขียนสรุปให้บน ก่อน เช่น การให้นักเรียนท่องหลักกการจำเพลง กระดานอีกครั้งว่า ก ข ค สามารถควบได้ทั้ง ร ล “จ้ำจี้คำควบกล้ำ” ต่อมาผู้สอนจึงได้ให้นักเรียนได้ และ ว ซึง่ จะได้รูป กร, กล, กว, ขร, ขล, ขว, คร, คล เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เช่น การทำ และ คว กิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรม “บอกหน่อยอ่านว่า ๒ .๒ “ น อ ก จ า ก พ ย ั ญ ช น ะ ข ้ า ง ต้ น อะไร” รวมถึงผู้สอนได้ให้นักเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว พยัญชนะ พ ป ต และ ผ สามารถควบกล้ำด้วย เช่น ในกิจกรรม “ควบกล้ำนี้มีความหมาย” ซ่ึง พยัญชนะใดได้บ้าง” เมื่อนักเรียนตอบคำถาม นักเรียนจะต้องฝึกเชื่อมโยงความรู้ที่ได้รับกับส่ิง เรียบร้อยแล้ว ครูจะเขียนสรุปใหบ้ นกระดานอีกครั้ง รอบตัวโดยในกิจกรรมนี้นักเรียนต้องมีการ ว่า พ และ ป สามารถควบได้ทั้ง ร และ ล คือ พร ยกตัวอย่างคำควบกล้ำที่เป็นคำที่นักเรียนใช้ใน ปร ส่วน ต ควบได้เฉพาะ ร คือ ตร และ ผ สามารถ ชีวิตประจำวันหรือเป็นคำที่เกี่ยวกับสิ่งรอบตัว ควบได้เฉพาะ ล คือ ผล รวมถึงผู้สอนยังได้ให้นักเรียนทำ Mind mapping ๓. ครูให้นักเรียนทบทวนรูปพยัญชนะควบ หัวข้อ คำควบกล้ำ โดยให้นักเรียนคิดคำที่เกิดจาก กล้ำทั้ง ๑๕ รูปโดยให้นักเรียนอ่านพร้อมกัน ซึ่งครู พยัญชนะควบกล้ำซึ่งจะเป็นรูปใดก็ได้ ซึ่งนักเรียน จะใช้ไม้ช้ี ช้ีไปตามรปู พยญั ชนะควบกลำ้ ทงั้ ๑๕ รปู จะต้องเขียนรูปของคำควบกล้ำไว้ตรงกลางและแตก ๔. ครูจัดนักเรียนให้นั่งเป็นรูปตัวยู และให้ ยอดออกไปเป็นคำต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้ นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี งคำควบกล้ำดว้ ยสอื่ วงล้อคำ สร้างวิธีการจดจำและเกิดการคิดวิเคราะห์ในแบบ ควบกล้ำซึ่งครูจะทำเป็นตัวอย่างให้นักเรียนดูก่อน ของตนเอง ดังนั้นการเรยี นการสอนจะช่วยให้ผู้เรียน ท้ังหมด 3 ครัง้ โดยมีขน้ั ตอนดังต่อไปน้ี คน้ หาควาหมายของคำตอบไดอ้ ย่างถกู ต้อง ๔.๑ หมุนวงล้อเพื่อเลือกพยัญชนะต้น ประการที่ ๕ อารมณ์ความรู้สึกมีผลต่อการเรียนรู้ ซึ่งจะมีทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ ก ข ค พ ป ต และ ผ คือ อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยหากลูศรไปหยุดตรงกับพยญั ชนะใดพยัญชนะตัว ต่อการจดจำ เพราะหากผู้เรียนมอี ารมณ์ความร้สู ึกที่ นัน้ จะถือว่าเปน็ พยญั ชนะตน้ ท่ีนักเรยี นได้ ดีต่อการรับรู้ก็จะช่วยให้สมองสามารถบันทึก ๔.๒ หยิบบัตรพยัญชนะควบกล้ำมา ๑ รายละเอียดของข้อมูลและสามารถดึงข้อมูลเก่า ใบ จากทั้งหมด ๓ ใบ ซึ่งประกอบไปด้วยบัตร กลบั มาใช้ใหม่ได้ ดังนน้ั ผูส้ อนจงึ ออกแบบกิจกรรมที่ พยัญชนะตัว ร ล และ ว โดยจะต้องเลือกพยัญชนะ มกี ารเรียนรู้เนอื้ หา ผสมผสานกับกจิ กรรมในรูปแบบ ของการเรียนรู้ผ่านการเล่นเกม เพื่อลดภาวะ

ควบกลำ้ ให้สอดคล้องกับพยัญชนะตน้ ที่ได้และนำไป การตึงเครียดของผู้เรียน โดยในที่นี้ผู้สอนได้มีการ ตดิ ทแี่ ผ่นพยัญชนะควบกลำ้ การนำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรม “บอกหน่อย ๔.๓ หมุนวงล้อเพื่อเลือกสระ ซึ่งจะมี อ่านว่าอะไร” กิจกรรม “คำนี้มีความหมาย” หรือ ทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ สระอา สระอี สระอู สระเอ บทเพลงและนิทาน เช่น เพลง “จ้ำจี้คำควบกล้ำ” สระแอ และสระโอ โดยหากลศู รไปหยุดตรงกับสระ และนิทานคำกลอนคำควบกล้ำเรื่อง “สัตว์ป่าน่า ใดสระตวั นั้นจะถือว่าเป็นสระทีน่ กั เรยี นได้ เอ็นดู” ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับเนื้อหามาใช้ ๕.๔ อ่านสะกดคำตามส่วนประกอบของ ประกอบการเรยี นการสอน เปน็ การกระตนุ้ ผเู้ รียนให้ คำที่สุ่มได้จากสื่อวงล้อคำควบกล้ำ เช่น หมุนวงล้อ เกิดความต้องการที่จะเรียนและตื่นตัวมากยิง่ ขึ้น ทำ พยัญชนะต้นได้ ก.ไก่ หยิบบัตรพยัญชนะควบกล้ำ ใหส้ มองนำขอ้ มลู ที่เคยจดจำความรู้ วิธกี ารจดจำต่าง เป็นตัว ล.ลิง และหมุนวงล้อสระได้สระอาจะต้อง ๆ กลับมาประมวลผล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในการ อ่านว่า “กอ-อา-กา, ลอ-อา-ลา, กา, ลา” และอ่าน เล่นเกม ซึ่งการเรียนการสอนแบบเล่นปนเรียนที่ ควบกล้ำใหเ้ ป็นคำเดยี วกนั ว่า “กอ-ลอ-อา-กลา” เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ผู้เรียนจึงเกิดอารมณ์ ๕. นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมจากสื่อวงล้อ สนุกสนานผ่อนคลาย ส่งผลดีทำให้ผู้เรียนสามารถ คำควบกล้ำ โดยครูจะนำลูกบอลสีให้นักเรียนส่งลูก จดจำเนอ้ื หาทีเ่ รยี นไปได้มาก บอลสีต่อกัน ซึ่งระหว่างนั้นครูจะเปิดเพลงประกอบ ประการที่ ๖ สมองประมวลผลจากส่วนย่อยและ ไปด้วย และหากเพลงหยุดแล้วลูกบอลอยู่ที่ใคร ส่วนรวมในเวลาเดียวกัน คือ การรับรู้และเข้าใจ นักเรียนคนนั้นจะต้องออกมาทำกิจกรรมซึ่งครูจะมี ภาพรวมทั้งหมดโดยรวมของสิ่งที่อยู่ในการรับรู้น้ัน การสุ่มนักเรียนออกมาทั้งหมด ๕ คน โดยออกมาที พร้อม ๆ กัน ก็จะสามารถรับรู้ถึงส่วนย่อย ๆ ละคน และทำตามข้ันตอนดังตอ่ ไปน้ี ที่ประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่รับรู้นั้นได้ อธิบายได้ว่า ๕.๑ หมุนวงล้อเพื่อเลือกพยัญชนะต้น หลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้รูปของคำควบกล้ำแท้ ซึ่งจะมีทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ ก ข ค พ ป ต และ ผ จากเพลง “จ้ำจี้คำควบกล้ำ” และการได้ฝึกอ่านคำ โดยหากลูศรไปหยุดตรงกับพยัญชนะใดพยัญชนะตัว ควบกล้ำจากการทำกิจกรรม “บอกหน่อยอ่านว่า นนั้ จะถอื วา่ เป็นพยญั ชนะต้นทีน่ ักเรียนได้ อะไร” นักเรียนจะเรยี นรูไ้ ดว้ า่ พยัญชนะควบกล้ำแต่ ๕.๒ หยิบบัตรพยัญชนะควบกล้ำมา ๑ ละรูปเมื่อปรากฏเป็นรูปเมื่อนำมาประสมกับสระ ใบ จากทั้งหมด ๓ ใบ ซึ่งประกอบไปด้วยบัตร แล้วจะมีวิธีการอ่านว่าอย่างไร ซึ่งนักเรียนจะได้รู้ว่า พยัญชนะตัว ร ล และ ว โดยจะต้องเลือกพยัญชนะ ในการออกเสียงจะแตกต่างจากการอ่านประสมคำท่ี ควบกลำ้ ให้สอดคล้องกับพยัญชนะตน้ ท่ีได้และนำไป เป็นพยัญชนะต้นเดี่ยว และสมองจะประมวลผลได้ ติดท่แี ผน่ พยญั ชนะควบกลำ้ ขณะทำกิจกรรมว่า หากเป็นพยัญชนะต้นเดี่ยวหรือ ๕.๓ หมุนวงล้อเพื่อเลือกสระ ซึ่งจะมี อักษรนำจะอ่านเรียงพยางค์ แต่หากเป็นพยัญชนะ ทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ สระอา สระอี สระอู สระเอ ควบกล้ำแท้แม้ว่าจะมีตัวอักษรสองตัวคู่กันแต่จะไม่ สระแอ และสระโอ โดยหากลูศรไปหยดุ ตรงกับสระ อ่านแบบเรียงพยางค์แต่จะอ่านควบกันทีเดียว เม่ือ ใดสระตัวนน้ั จะถือว่าเปน็ สระทนี่ กั เรยี นได้ นักเรียนเรียนรู้ความรู้ส่วนย่อยของคำควบกล้ำแล้ว นักเรียนจะสามารถประมวลความรู้เกี่ยวกับคำควบ

กล้ำได้ คือ เมื่อพบคำพบคำควบกล้ำ นักเรียนจะ ๕.๔ อ่านสะกดคำตามส่วนประกอบของ สามารถอ่านออกเสียงคำ ๆ นั้นได้ทันที เพราะ คำทส่ี มุ่ ได้ เชน่ หมุนวงล้อพยัญชนะตน้ ได้ ก.ไก่ หยบิ นักเรียนได้เรียนรู้ลักษณะของรูปเขียนและการอ่าน บัตรพยัญชนะควบกล้ำเป็นตัว ล.ลิง และหมุนวงล้อ ออกเสยี งของคำควบกล้ำแท้มาแล้ว สระได้สระอาจะตอ้ งอา่ นว่า “กอ-อา-กา, ลอ-อา-ลา, ประการที่ ๗ การเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสิ่งที่มุ่ง กา, ลา” และอ่านควบกล้ำให้เป็นคำเดียวกันว่า ความสนใจและการรับรู้จากสิ่งที่อยู่ภายนอก “กอ-ลอ-อา-กลา” คือ สมองจะจดจำทั้งข้อมูลที่กำลังสนใจและข้อมูล ๕.๕ ครูใช้คำถามกระตุ้นความคิด ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากสิ่งที่กำลังสนใจ โดย “นักเรียนคิดว่าการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำมี ตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก ผู้สอนนำสื่อการ ลกั ษณะอยา่ งไร” สอนที่มีสีสัน สดใส การใช้เพลงช่วยจำ เช่น เพลง ๖. นักเรียนทำกิจกรรม “บอกหน่อยอ่านว่า จ้ำจี้คำควบกล้ำ สื่อแผ่นชาร์จนิทาน และกิจกรรม อะไร” โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๓ ต่าง ๆ เช่น กิจกรรมบอกหน่อยอ่านว่าอะไร เข้ามา กลุม่ กลุ่มละ ๗ คน (สมมติให้นักเรียนมีทงั้ หมด ๒๑ ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อดึงดูดความสนใจ คน) ซึ่งครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม นั่งรวมกันเป็น ของผู้เรียน และช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจเนื้อหา วงกลม พรอ้ มทงั้ ครอู ธิบายกตกิ าให้นักเรียนฟัง ดังน้ี ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน ๖.๑ ครูหมุนวงล้อเพื่อเลือกพยัญชนะ เหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอน คือ จัดโต๊ะ ต้น ซึ่งจะมีทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ ก ข ค พ ป ต และ เป็นรูปตัวยูเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้อย่าง ผ โดยหากลศู รไปหยุดตรงกบั พยัญชนะใดพยัญชนะ สะดวก เลือกใช้ห้องสอนที่มีขนาดเหมาะสมกับการ ตัวนั้นจะถอื วา่ เปน็ พยัญชนะตน้ ท่ไี ด้ จดั กจิ กรรม และมแี สงสวา่ งเพียงพอ ๖.๒ ครูหยิบบัตรพยัญชนะควบกล้ำมา ประการท่ี ๘ การเรยี นรเู้ กดิ ข้ึนทัง้ ในภาวะที่รู้สำนึก ๑ ใบ จากทั้งหมด ๓ ใบ ซึ่งประกอบไปด้วยบัตร และภาวะที่ไร้สำนึก คือ การเรียนรู้บางอย่างจะ พยัญชนะตัว ร ล และ ว โดยจะต้องเลือกพยัญชนะ เกิดขึ้นต่อเมื่อผู้เรียนอยู่ในภาวะรู้สำนึก ตั้งใจ ควบกล้ำให้สอดคล้องกับพยัญชนะตน้ ที่ได้และนำไป และจดจ่ออยู่กับการเรียนรู้นั้น เช่น การที่ผู้เรียน ตดิ ท่ีแผ่นพยญั ชนะควบกลำ้ ตั้งใจเรียน ฟังในสิ่งที่ครูอธิบายและยกตัวอย่างจน ๖.๓ ครูหมุนวงล้อเพื่อเลือกสระ ซึ่งจะมี เข้าใจและเกิดการเรียนรู้ แต่บางครั้งก็เกิดขึ้นใน ทั้งหมด ๗ ตัว ได้แก่ สระอา สระอี สระอู สระเอ ขณะที่ไม่ได้อยู่ในภาวะรู้สำนึก แต่เกิดจากการที่ได้ สระแอ และสระโอ โดยหากลูศรไปหยุดตรงกับสระ ลงมือปฏิบัติบ่อย ๆ จนเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ ใดสระตวั นั้นจะถือว่าเป็นสระท่ไี ด้ จดจำไปอยา่ งไม่รู้ตัว เช่น การให้นักเรยี นภายในห้อง ๖.๔ นักเรียนกลุ่มที่ ๑ ๒ และ ๓ ส่ง ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเรียนเรื่อง ตัวแทนออกมากลุ่มละ ๑ คน โดยเรียงลำดับจาก ๑ คำควบกล้ำ ซึ่งนักเรียนจะไม่ได้เพียงความสนุก ๒ และ ๓ เม่อื คณุ ครหู มุนวงล้อท้ังหมด ได้พยัญชนะ เท่านั้น แต่กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้น ยังส่งเสริมการ ตน้ พยัญชนะควบกลำ้ และสระ เชน่ ก ร อา คณุ ครู เรยี นรู้ใหน้ กั เรียนไปดว้ ยซึ่งนักเรยี นจะเกิดการเรียนรู้ จะเขียน กรา ไว้บนกระดาน และให้นักเรียนกลุ่มท่ี

๑ ออกมาสุ่มหยิบบัตรตัวสะกด หากได้ตัว ด ต้อง ขณะที่กำลังสนุกสนาน หรือแข่งขันกันในระหว่าง เลือกสมาชิกกลุ่มอื่นออกมา สมาชิกกลุ่มที่ถูกเลือก การทำกิจกรรมไปโดยอตั โนมัติ จะต้องมาติดบัตรตัวสะกด ด ไว้ข้างหลังคำว่า กรา ที่คุณครูเขียนไว้บนกระดาน เป็นคำว่า กราด แล้ว อ่านสะกดคำให้เพื่อน ๆ ฟังว่า กอ-รอ-อา-ดอ-กราด และให้นักเรียนที่เหลือในห้องอ่านสะกดคำตาม เล่น ไปเรอื่ ย ๆ จนครบ ๒ รอบ ๖.๕ คุณครูใช้คำถามกระตุ้นความคิด เพ่ือ เชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรม “ควบกล้ำนี้มีความหมาย” ด้วยคำถามที่ว่า “นักเรียนคิดว่าคำควบกล้ำ จะทำ ใหม้ คี ำใช้มากขนึ้ หรอื ไม่.” ๗. นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่มย่อย “ควบกล้ำ นี้มีความหมาย” โดยครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ย่อย ๗ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน (สมมติให้นักเรียนมี ทั้งหมด ๒๑ คน) ซึ่งครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม น่ัง รวมกันเป็นวงกลม พร้อมทั้งครูอธิบายกติกาให้ นกั เรยี นฟงั ดงั นี้ ๗.๑ คุณครูเขียนพยัญชนะต้นและ อักษรควบกล้ำไว้บนกระดาน เมื่อเขียนเสร็จ ให้แต่ ละกลุ่มยกมือเพื่อชิงบอกคำที่สามารถสร้างได้จาก พยัญชนะต้นและอักษรควบกล้ำดังกล่าวโดยคำน้ัน จะต้องเป็นคำที่นักเรียนพูดในชีวิตประจำวัน หรือ ปฏบิ ัติในชีวิตประจำวัน หรืออาจเป็นคำทเ่ี กีย่ วกับสิ่ง รอบตัวของนักเรียนก็ได้ เช่น กร นักเรียนที่สามารถ ตอบได้ต้องยกมือ และบอกคำที่ตนเองคิดไว้ เช่น เด็กชายเขียวหันไปมองตู้ปลาที่ต้งั อยู่รมิ หน้าต่างและ เห็นว่ามีกรวดสีอยู่ภายในตู้ เด็กชายเขียวจึง ยกตัวอย่างคำว่า กรวด และออกมาเขียนสระอัว และด.เด็ก ไว้หลัง กร ที่คุณครูเขียนไว้บนกระดาน พร้อมทั้งอ่านออกเสียงให้เพื่อนฟัง และบอก ความหมายของคำ ๆ นั้น คำว่า กรวด แปลว่า ก้อน หินชนิดหนึ่ง แล้วคุณครูก็จะเขียนความหมายลงบน กระดาน เล่นไปเรื่อย ๆ จนครบ ๑๐ คำ โดย

พยัญชนะต้นและพยัญชนะควบกล้ำ ครูจะเป็นคน กำหนดให้ ดงั น้ี กร กล กว ขว คล คว ขล ปล พร ตร ๗.๒ เมอ่ื ทำกิจกรรมจนครบ ๑๐ คำแล้ว นักเรียนกลุ่มใดยังไม่ได้ร่วมกิจกรรม คุณครูจะให้ นักเรยี นกลุ่มน้นั ออกมาอ่านคำและบอกความหมาย ให้เพื่อน ๆ ฟัง ๗.๓ สำหรับพยัญชนะควบกล้ำที่คุณครู ไม่ได้ยกตัวอย่างให้นักเรียนทำในกิจกรรม ครูจะ ยกตวั อย่างและบอกความหมายของคำนัน้ ๆ ใหค้ รบ ท้งั ๑๕ รูป ๘. ครูให้นักเรียนทำใบงานเดี่ยว เรื่อง คำควบกลำ้ ประการที่ ๙ สมองมีวิธีการจำอย่างน้อย 2 วิธี ขั้นที่ ๓ ขั้นสรปุ (๑๐ นาที) คือ จากประสบการณ์และจากการท่องจำ ผู้สอนได้ ๑. ครูให้นักเรียนกลับมานั่งเป็นรูปแบบตัวยู ใช้ทั้งสองวิธี โดยผู้สอนใช้เพลงที่เป็นคำง่าย ๆ ท่ี จากนั้นครูวาดแผนผังความคิด Mind mapping ประกอบไปด้วย พยัญชนะต้นเดี่ยว สระ วรรณยุกต์ หัวข้อ คำควบกล้ำ ลงบนกระดาน โดยแบ่งหัวข้อ และตัวสะกดตรงตามมาตรา และเป็นทำนองง่าย ๆ ยอ่ ยออกเปน็ พยญั ชนะควบกลำ้ ท้งั ๑๕ คู่ คอื กร กล ที่ผู้เรียนคุ้นเคยมาตัวช่วยให้ผู้เรียนสามารถจดจำได้ กว ขร ขล ขว คร คล คว ปร ปล พร พล ตร ผล ให้ ง่ายขึ้น เมื่อผู้เรียนสามารถร้องเพลงได้ ก็จะทำให้ นกั เรยี นคิดคำทเี่ กิดจากพยัญชนะควบกลำ้ ซ่ึงจะเป็น เด็กสามารถจดจำรูปของพยัญชนะควบกล้ำแท้ได้ รูปใดกไ็ ด้ สว่ นการจำจากประสบการณ์ กค็ ือการที่ผู้เรียนได้ทำ ๒. ครูถามคำควบกล้ำกับนักเรียนทุกคน โดย กิจกรรม ที่หลากหลายทั้งกจิ กรรม “บอกหน่อยอ่าน เรียงลำดับการถามจากด้านขวาของห้องไปยัง ว่าอะไร” และ“ควบกล้ำนี้มีความหมาย” ซึ่งมีทั้ง ด้านซ้ายของห้อง โดยนักเรียนต้องบอกว่าตนเองจะ กจิ กรรมสมุ่ และกิจกรรมกลุม่ ยอ่ ยกลุ่มใหญ่ต่าง ๆ ซง่ึ พูดคำที่เป็นพยัญชนะควบกล้ำรูปใด และต่อด้วยคำ ผู้เรียนต้องผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์มาแล้วใน ที่ตนเองคิด เช่น กร คำว่า กราบ และครูก็จะเขียน แต่ละกิจกรรม ดังนั้นการที่นักเรียนเคยได้เห็น ได้ คำวา่ กราบ แยกออกมาจากกล่องข้อความ กร ลองคิด ลองสังเกตและลองทำแบบฝึกทักษะมาแล้ว ๓. ครแู ละนักเรยี นทบทวนความรู้ เรื่อง คำควบ ผู้เรียนก็จะเกิดการจดจำว่ารูปของพยัญชนะควบ กล้ำโดยครูจะใช้ประเด็นคำถามกระตุ้นความคิด กล้ำแท้ การอ่าน การเขียนสะกดคำที่ประสมด้วย ดงั น้ี พยัญชนะควบกล้ำแท้มีลักษณะอย่างไร รวมถึงได้ ๓.๑ พยญั ชนะควบกลำ้ แท้มีทง้ั หมดก่ีรปู เรยี นรูค้ วามหมายของคำจากคำควบกล้ำแท้อีกด้วย

๓.๒ คำที่มีพยัญชนะควบกลำ้ มีลกั ษณะการ ประการที่ ๑๐ สมองเขา้ ใจและจดจำได้ดเี ม่อื ทักษะ ออกเสียงอย่างไร ถูกฝังอยู่ในความจำจากประสบการณ์ตรง คือ ๔ . ครูนัดหมายนักเรียนในการเรียนการสอน ความจำจากประสบการณ์ตรงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ครั้งต่อไป ผู้สอนจัดกิจกรรมที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ จากการลงมือปฏิบัติดว้ ย ผู้สอนจึงออกแบบกิจกรรม ท่เี น้นให้ผู้เรยี นได้ลงมอื ในการทำกิจกรรมด้วยตนเอง และให้ผู้เรียนร่วมสรุปความรู้จากการใช้คำถาม ทบทวนความรู้ที่ได้จากการเรียน เพื่อช่วยให้ผู้เรียน จดจำเนอื้ หาไดด้ ียง่ิ ข้นึ ประการที่ ๑๑ การเรียนรู้ที่ซับซ้อนจะเพิ่มขึ้นได้ ด้วยความท้าทายและการลดความคุกคามลง คือ สมองจะเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด เมื่อได้รับ ความท้าทายที่เหมาะสม แต่จะรับรู้ได้น้อยลง เมื่อถูกคุกคาม ผู้สอนจึงพยายามสร้างบรรยากาศใน ห้องเรียนให้ผู้เรียนเกิดความตื่นตัวที่ผ่อนคลาย โดยการพูดคุยซักถามด้วยท่าทางเป็นมิตร ยิ้มแย้ม แจ่มใส และมีอารมณ์ขัน เพ่อื ไมใ่ หผ้ เู้ รยี นมีความรู้สึก ว่ากำลังถูกคุกคาม ในขณะเดียวกันผู้สอนก็พยายาม สร้างความรสู้ กึ ท้าทายให้แก่ผูเ้ รียนโดยการใช้คำถาม ทม่ี เี น้อื หาเกี่ยวกับบทเรยี น การให้ทำกจิ กรรมต่าง ๆ เชน่ กจิ กรรมกลมุ่ ใหญท่ ่ีสร้างความทา้ ทายในเชิงการ แข่งขันและการให้แบบฝึกทักษะ หรือใบงานเพื่อ กระตุน้ การเรยี นรู้และทบทวนความรูข้ องผู้เรียน ประการที่ ๑๒ สมองแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะตัว คือ สมองของแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะทแี่ ตกต่างกัน การสอนด้วยวิธีการเดียวกันอาจจะไม่ได้ผล กับผู้เรียนทุกคน จึงควรมีวิธีการสอนที่หลากหลาย ผู้สอนจึงเลือกใช้เทคนิคการเรียนรู้ทั้งการใช้เพลง การใช้คำถาม การให้ทำใบงาน รวมทั้งการจัด กิจกรรมต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้ลงปฏิบัติทั้งการทำงาน เดี่ยว การทำกิจกรรมกลุ่ม และการสรุปความรู้ รว่ มกนั ทงั้ ห้อง เพราะผเู้ รยี นแต่ละคนมีความถนัดใน การเรียนรู้ไม่เหมือนกัน นักเรียนบางกลุ่มอาจจะ

เรียนรู้ได้ดีจากการฟังหรือการอ่านซ้ำ ๆ การดู ตวั อยา่ งหลาย ๆ ครงั้ ในขณะที่อีกกลมุ่ อาจจะเรียนรู้ ได้ดีจากการเขียน การได้ลงมือทำหรือการปฏิบัติ กิจกรรม ผู้สอนจึงมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนมีความสนุกสนานและเกิด ความสุขในการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ตนถนัด รวมทั้ง ยังมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ตนไม่ ถนดั อกี ดว้ ย

ภาคผนวก

แผน่ ชารจ์ หลักการจำคำควบกลำ้ เพลง “จำ้ จี้คำควบกลำ้ ”

แผน่ ชารจ์ นทิ านคำควบกลำ้ เร่อื ง “สตั วป์ ่านา่ เอ็นด”ู

สอ่ื วงล้อสำหรบั ทำกจิ กรรม “บอกหน่อยอ่านวา่ อะไร” (ขนาดจำลอง) ส่อื บัตรพยญั ชนะตวั สะกดสำหรับทำกจิ กรรม “บอกหนอ่ ยอา่ นว่าอะไร” (ขนาดจำลอง)

ใบงานเด่ยี วเรื่อง “คำควบกลำ้ ”