Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

air

Published by amnart07, 2018-06-05 08:58:27

Description: air

Search

Read the Text Version

6/6/2018 การทางานของเคร่ืองปรับอากาศ อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ อำนำจ อ่ิมสุข แผนกวชิ ำช่ำงยนต์

เคร่ืองปรับอำกำศมีทำงำนอยำ่ งไร หลกั กำรทำงำนของเครื่องปรับอำกำศที่ใชก้ นั อยำ่ งแพร่หลำยที่สุดในบำ้ นพกั อำศยั และอำคำรสำนกั งำนขนำดเลก็ ซ่ึงกค็ ือ ระบบอำกำศท้งั หมด (All-air system) แต่ก่อนท่ีเรำจะเรียนรู้กลไกกำรทำงำนของเคร่ืองปรับอำกำศ เรำควรทรำบก่อนวำ่ ส่วนประกอบท่ีสำคญั ของระบบกำรทำกำรควำมเยน็ (Refrigeration Cycle) มีอะไรบำ้ ง1) คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ทำหนำ้ ท่ีขบั เคลื่อนสำรทำควำมเยน็ หรือน้ำยำ (Refrigerant) ในระบบ โดยทำใหส้ ำรทำควำมเยน็ มีอุณหภูมิ และควำมดนั สูงข้ึน2) คอยลร์ ้อน (Condenser) ทำหนำ้ ที่ระบำยควำมร้อนของสำรทำควำมเยน็3) คอยลเ์ ยน็ (Evaporator) ทำหนำ้ ท่ีดูดซบั ควำมร้อนภำยในหอ้ งมำสู่สำรทำควำมเยน็4) อุปกรณ์ลดควำมดนั (Throttling Device) ทำหนำ้ ท่ีลดควำมดนั และอุณหภูมิของสำรทำควำมเยน็โดยทวั่ ไปจะใชเ้ ป็น แคป็ พิลลำรี่ทิ้วบ์ (Capillary tube) หรือ เอก็ สแปนชน่ั วำลว์ (Expansion Valve)ระบบกำรทำควำมเยน็ ท่ีเรำกำลงั กล่ำวถึงคือระบบอดั ไอ (Vapor-Compression Cycle) ซ่ึงมีหลกั กำรทำงำนง่ำยๆคือ กำรทำใหส้ ำรทำควำมเยน็ (น้ำยำ) ไหลวนไปตำมระบบ โดยผำ่ นส่วนประกอบหลกัท้งั 4 อยำ่ งต่อเน่ืองเป็น วฏั จกั รกำรทำควำมเยน็ (Refrigeration Cycle) โดยมีกระบวนกำรดงั น้ี1) เริ่มตน้ โดยคอมเพรสเซอร์ทำหนำ้ ท่ีดูดและอดั สำรทำควำมเยน็ เพอ่ื เพมิ่ ควำมดนั และอุณหภูมิของน้ำยำ แลว้ ส่งต่อเขำ้ คอยลร์ ้อน2) น้ำยำจะไหลวนผำ่ นแผงคอยลร์ ้อนโดยมีพดั ลมเป่ ำเพอื่ ช่วยระบำยควำมร้อน ทำใหน้ ้ำยำจะท่ีออกจำกคอยลร์ ้อนมีอุณหภูมิลดลง (ควำมดนั คงที่) จำกน้นั จะถูกส่งต่อใหอ้ ุปกรณ์ลดควำมดนั3) น้ำยำท่ีไหลผำ่ นอุปกรณ์ลดควำมดนั จะมีควำมดนั และอุณหภูมิที่ต่ำมำก แลว้ ไหลเขำ้ สู่คอยลเ์ ยน็(หรือที่นิยมเรียกกนั วำ่ กำรฉีดน้ำยำ)4) จำกน้นั น้ำยำจะไหลวนผำ่ นแผงคอยลเ์ ยน็ โดยมีพดั ลมเป่ ำเพ่อื ช่วยดูดซบั ควำมร้อนจำกภำยในหอ้ ง เพอื่ ทำใหอ้ ุณหภูมิหอ้ งลดลง ซ่ึงทำใหน้ ้ำยำที่ออกจำกคอยลเ์ ยน็ มีอุณหภูมิที่สูงข้ึน (ควำมดนัคงที่) จำกน้นั จะถูกส่งกลบั เขำ้ คอมเพรสเซอร์เพอื่ ทำกำรหมุนเวยี นน้ำยำต่อไปหลงั จำกท่ีเรำรู้กำรทำงำนของวฏั จกั รกำรทำควำมเยน็ แลว้ กพ็ อจะสรุปง่ำยๆไดด้ งั น้ี

1) สำรทำควำมเยน็ หรือน้ำยำ ทำหนำ้ ท่ีเป็นตวั กลำงดูดเอำควำมร้อนภำยในหอ้ ง (Indoor) ออกมำนอกหอ้ ง (Outdoor) จำกน้นั น้ำยำจะถูกทำใหเ้ ยน็ อีกคร้ังแลว้ ส่งกลบั เขำ้ หอ้ งเพื่อดูดซบั ควำมร้อนอีกโดยกระบวนกำรน้ีเกิดข้ึนอยำ่ งต่อเนื่อง ตลอดกำรทำงำนของคอมเพรสเซอร์2) คอมเพรสเซอร์เป็นอุปกรณ์ชนิดเดียวในระบบท่ีทำหนำ้ ที่ขบั เคล่ือนน้ำยำผำ่ นส่วนประกอบหลกัคือคอยลร์ ้อน อุปกรณ์ลดควำมดนั และคอยลเ์ ยน็ โดยจะเริ่มทำงำนเมื่ออุณหภูมิภำยในหอ้ งสูงเกินอุณหภูมิที่เรำต้งั ไว้ และจะหยดุ ทำงำนเม่ืออุณหภูมิภำยในหอ้ งต่ำกวำ่ อุณหภูมิท่ีเรำต้งั ไว้ ดงั น้นัคอมเพรสเซอร์จะเริ่ม และหยดุ ทำงำนอยตู่ ลอดเวลำเป็นระยะๆ เพื่อรักษำอุณหภูมิหอ้ งใหส้ ม่ำเสมอตำมที่เรำตอ้ งกำร ชนิดแผน่ ฟอกอำกำศแอร์ ชนิดของแผน่ ฟอกอำกำศของแอร์ แผน่ กรองอำกำศจะมีสองชนิด คือ1)แผน่ กรองอำกำศแบบ UV แคตตำไลทต์ ิก คุณสมบตั ิ คือจะมีอำยกุ ำรใชง้ ำนตลอดอำยกุ ำรใชง้ ำนของแอร์ไม่ตอ้ งเปล่ียน เพยี งแต่ทุกๆ 6 เดือน ตอ้ งนำออกมำตำกแดดประมำณ 6 ชว่ั โมงและทำกำรเคำะฝ่ นุ ออกเท่ำน้นั แต่ขอ้ ควรระวงั คือหำ้ มทำใหโ้ ดนน้ำโดยเดด็ ขำดเพรำะทำใหช้ ำรุดเสียหำย2)แผน่ กรองอำกำศแบบ โฟโตแคตตำไลทต์ ิก คุณสมบตั ิ คือ จะมีอำยกุ ำรใชง้ ำนประมำณ 2-3 ปีเท่ำน้นั กำรทำควำมสะอำดกเ็ พยี งนำมำเคำะฝ่ นุ ออกกเ็ พียงพอไม่ตอ้ งนำไปตำกแดด สำมำรถโดนน้ำไดแ้ ต่หำกทำควำมสะอำดดว้ ยน้ำไม่ควรบีบตวั กรองเพ่ือไล่น้ำเพรำะจะทำใหแ้ ผน่ กรองเสียรูป* ขอ้ สังเกตในกำรดูวำ่ แผน่ กรองอำกำศของเรำเป็นแบบไหนใหจ้ บั ดว้ ยมือ ถำ้ จบั ดูแลว้ แผน่ นุ่มๆสำมำรถบิดไดแ้ สดงวำ่ เป็นแผน่ กรองอำกำศแบบโฟโตแคตตำไลทต์ ิกแต่ถำ้ จบั ดูแลว้ แขง็ ๆ ไม่สำมำรถบิดตวั ไดก้ แ็ สดงว่ำเป็นแผน่ กรองอำกำศแบบ UV แคตตำไลทต์ ิกระบบฟอกอำกำศของแอร์บำ้ นระบบฟอกอำกำศของแอร์ในปัจจุบนั ระบบฟอกอำกำศ ( Air Purifier) ในปัจจุบนั ผผู้ ลิตนิยมติดต้งัระบบฟอกอำกำศไวใ้ นแอร์เพ่ือช่วยทำใหอ้ ำกำศภำยในหอ้ งมีควำมสะอำดบริสุทธ์ิ มำกข้ึน ซ่ึงระบบฟอกอำกำศที่ติดต้งั มำพร้อมเคร่ืองปรับอำกำศมีอยดู่ ว้ ยกนั หลำยระบบดงั น้ี

กำรกรอง ( Filtration) เป็นกำรใชแ้ ผน่ กรองอำกำศในกำรดกั จบั ฝ่ นุ ละออง หรืออนุภำคท่ีมีขนำดใหญ่กวำ่ ช่องวำ่ งระหวำ่ งเสน้ ใย โดยที่ส่ิงสกปรกจะติดคำ้ งอยทู่ ี่ไสก้ รอง และตอ้ งทำกำรเปลี่ยนเม่ือหมดอำยกุ ำรใชง้ ำน ตวั อยำ่ งของระบบน้ีกค็ ือ HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซ่ึงเป็นกำรกรองอำกำศท่ีมีประสิทธิภำพในกำรกำจดั อนุภำคขนำดเลก็ ถึง 0.05 ไมครอน ในกรณีท่ีตอ้ งกำรกำจดั กลิ่นในอำกำศ จะนิยมใชแ้ ผน่ คำร์บอน ( Activated carbon filters) เพ่อื ดูดซบั กล่ินเช่น กล่ินควนั บุหร่ี กล่ินอำหำรเป็นตน้ กำรดกั จบั ดว้ ยไฟฟ้ำสถิต ( Electrostatic Precipitator) ป็นกำรใช้ตะแกรงไฟฟ้ำ ( Electric grids) ในกำรดกั จบั ฝ่ นุ ละออง หรืออนุภำคโดยกำรเพม่ิ ประจุไฟฟ้ำใหก้ บัอนุภำคฝ่ นุ ละออง และใชแ้ ผน่ โลหะอีกชุดหน่ึงซ่ึงเรียงขนำนกนั ดูดอนุภำคฝ่ นุ ละอองไว้ โดยที่หลงั จำกใชง้ ำนไประยะหน่ึงตอ้ งหยดุ เครื่องเพื่อทำควำมสะอำดแผน่ โลหะ กำรปล่อยประจุไฟฟ้ำ (Ionizer) เป็นกำรใชเ้ ครื่องผลิตประจุไฟฟ้ำและปล่อยออกมำพร้อมกบั ลมเยน็ เพื่อดูดจบั อนุภำคฝ่ นุละออง และกล่ิน โดยประจุลบที่ปล่อยออกมำจะทำกำรดูดจบั อนุภำคฝ่ นุ ละอองและกล่ิน ซ่ึงมีโครงสร้ำงเป็นประจุบวก จนกระทง่ั กลุ่มอนุภำคเหล่ำน้นั รวมตวั กนั จนมีขนำดใหญ่ข้ึน และตกลงสู่พ้ืนหอ้ ง โดยกลุ่มอนุภำคเหล่ำน้นั จะถูกกำจดั ไปพร้อมกบั กำรทำควำมสะอำดพ้นื หอ้ งตำมปกติดงั น้นั ระบบน้ีจึงไม่จำเป็นตอ้ งมีกำรทำควำมสะอำดเพรำะไม่มีกำรดกั จบั โดยใชแ้ ผน่ กรอง แต่เป็นกำรใชป้ ฏิกิริยำทำงเคมี ประจุลบ หมำยถึง ผลิตจำกระบบฟอกอำกำศ ( อำกำศบริสุทธ์ิ ) ประจุบวกหมำยถึง ฝ่ นุ ละออง กลิ่น ควนั เช้ือโรคกำรติดต้งั เครื่องปรับอำกำศในท่ีน้ีจะกล่ำวเฉพำะเครื่องปรับอำกำศแบบแยกส่วน(Split Type) ท่ีใชต้ ำมบำ้ นทวั่ ๆไปก่อนดงั น้ีกำรเลือกตำแหน่งติดต้งั เครื่องปรับอำกำศตำแหน่งคอนเดน็ ซิ่งยนู ิต ( CDU ) ท่ีเหมำะสม1. บริเวณที่ติดต้งั เคร่ืองตอ้ งแขง็ แรงสำมำรถรับน้ำหนกั และแรงสั่นสะเทือนจำกกำรทำงำนได้2.ในกรณีท่ีคอนเดน็ ซิ่งต้งั วำงบนพ้ืนดินตอ้ งทำฐำนรองรับเคร่ืองดว้ ยคอนกรีต3. ติดต้งั ในบริเวณที่อำกำศถ่ำยเทไดส้ ะดวกและห่ำงจำกมุมอบั4. บริเวณที่ติดต้งั ตอ้ งมีกำรระบำยน้ำไดด้ ีหรือที่ท่ีน้ำท่วมไม่ถึง5. กำรวำงคอนดน็ ซิ่งยนู ิตควรมีลูกยำงรองเพื่อลดแรงสน่ั สะเทือนจำกกำรทำงำนของตวั เคร่ือง

6. ควรวำง CDU ใหห้ ่ำงจำกพ้ืนท่ีใชส้ อยทว่ั ไปเพื่อหลีกเลี่ยงจำกปัญหำเรื่องเสียงรบกวน7. อยำ่ ต้งั เคร่ืองชิดกบั คอนเดน็ ซิ่งยนู ิตอ่ืนหรือผนงั เพรำะทำใหร้ ะบำยควำมร้อนยำก8. หลีกเล่ียงกำรติดต้งั ในสภำพแวดลอ้ มท่ีไม่ดี เช่น มีควำมเป็นกรดสูง,แสงแดดแรงหรือมีน้ำหยด9. ควรวำง CDU ในบริเวณที่สำมำรถเขำ้ ไปตรวจซ่อมภำยหลงั ไดอ้ ยำ่ งสะดวกตำแหน่งแฟนคอยลย์ นู ิต ( FCU) ที่เหมำะสม1. ต้งั ในบริเวณที่สำมำรถกระจำยลมไดท้ ว่ั ท้งั หอ้ งอยำ่ ติดต้งั เครื่องในมุมอบั2. อยำ่ ใหส้ ิ่งของกีดขวำงทำงไหลของอำกำศเพรำะจะทำใหอ้ ำกำศหมุนเวยี นไม่สะดวก3. บริเวณท่ีติดต้งั เคร่ืองตอ้ งแขง็ แรงสำมำรถรับน้ำหนกั และแรงสน่ั สะเทือนจำกกำรทำงำนได้4. หลีกเล่ียงกำรวำง FCU ใกลก้ บั ประตู, หนำ้ ต่ำงหรือพดั ลมดูดอำกำศ5. ควรวำง FCU ในบริเวณท่ีสำมำรถตรวจซ่อมภำยหลงั ไดอ้ ยำ่ งสะดวก6. อยำ่ ต้งั ชิดผนงั ท่ีโดนแดดจดั เพรำะจะทำใหไ้ ดร้ ับควำมร้อนจำกภำยนอกไดง้ ่ำย7. พยำยำมติดต้งั แฟนคอยลย์ นู ิตใหอ้ ยใู่ กลก้ บั คอนเดน็ ซ่ิงยนู ิตจะทำใหป้ ระสิทธิภำพสูงสุดกำรติดต้งั ท่อน้ำยำระบบท่อน้ำยำนบั วำ่ เป็นส่วนท่ีมีควำมสำคญั มำกที่สุดในกำรติดต้งั เครื่องปรับอำกำศแบบแยก ส่วนกำรเลือกใชข้ นำดท่อท่ีมีขนำดเลก็ เกินไปจะมีผลทำใหเ้ กิดปัญหำตำมมำเช่น ทำใหป้ ระสิทธิ ภำพของเครื่องต่ำลงหรือควำมดนั ตกคร่อม (Pressure Drop) ระหวำ่ งท่อมำกเกินไป เป็นตน้ ดงั น้นั ในกำรเลือก ใชข้ นำดท่อน้ำยำตอ้ งคำนึงถึง1. PIPE DIAMETER ขนำดเสน้ ผำ่ ศนู ยก์ ลำงของท่อน้ำยำ2. PIPE LENGTH ควำมยำวท่อน้ำยำ3. NUMBER OF FITTINGS จำนวนของขอ้ ต่อต่ำงๆ เช่น ขอ้ งอ4. FLUID VELOCITY ควำมเร็วในกำรเคล่ือนที่ของสำรทำควำมเยน็กำรเลือกใชท้ ่อน้ำยำควรเลือกตำมคู่มือติดต้งั เครื่องปรับอำกำศน้นั ๆ แต่ถำ้ ไม่ทรำบกส็ ำมำรถหำขนำดคร่ำวๆไดจ้ ำกแผนผงั คำนวณขนำดท่อน้ำยำซ่ึงโดยทวั่ ไปกำหนดควำมดนั ตกคร่อมดำ้ นดูด(Suction Line Pressure Drop) 2 PSI/100 FT และควำมดนั ตกคร่อมดำ้ นส่ง (Discharge LinePressureDrop) 4 PSI/100 FT.นอกจำกกำรเลือกใชข้ นำดท่อน้ำยำท่ีถูกตอ้ งแลว้ กำรเดินท่อน้ำยำยงั ตอ้ งทำอยำ่ งถูกหลกั กำรอีก

ดว้ ยจึงจะทำใหเ้ คร่ืองทำงำนอยำ่ งมีประสิทธิภำพ เช่น ระบบท่อน้ำยำตอ้ งทำควำมสะอำดใหด้ ีและแหง้ และในกำรเดินท่อน้ำยำตอ้ งคำนึงถึงควำมเร็วของไอน้ำยำใหม้ ำกพอท่ีจะพำน้ำมนั หล่อล่ืน กลบัคอมเพรสเซอร์ดว้ ย ดงั น้นั ในกำรติดต้งั คอนเดน็ ซิ่งและอีวำพอเรเตอร์ในระดบั ที่ต่ำงกนั จะ ตอ้ งคำนึงถึง1. กำรติดต้งั อีวำพอเรเตอร์ต่ำกวำ่ คอนเดน็ ซ่ิง จะมีผลใหน้ ้ำมนั กลบั เขำ้ คอมเพรสเซอร์นอ้ ยเพรำะคอมเพรสเซอร์อยสู่ ูงกวำ่ ดงั น้นั กำรเดินท่อดำ้ นดูดตอ้ งคำนึงถึงควำมดนั ตกคร่อมและเรื่องน้ำมนักลบั ดว้ ย2. กำรติดต้งั คอนเดน็ ซ่ิงต่ำกวำ่ อีวำพอเรเตอร์ จะมีผลใหค้ วำมดนั ตกลงเพรำะคอมเพรสเซอร์ตอ้ ง อดัน้ำยำข้ึนที่สูง ดงั น้นั กำรเดินท่อดำ้ นส่งตอ้ งคำนึงถึงควำมดนั ตกคร่อมจำกควำมเสียดทำนและ กำรเดินท่อในแนวดิ่งกำรเดินท่อน้ำยำดำ้ นดูดเมื่อตำแหน่งกำรวำงอีวำพอเรเตอร์และคอนเดน็ ซ่ิงอยใู่ นลกั ษณะต่ำงๆ เป็นดงั น้ี1. เม่ือคอนเดน็ ซ่ิงอยเู่ หนืออีวำพอเรเตอร์ใหท้ ำที่กกั น้ำมนั (Oil Trap) เพ่ือใหแ้ น่ใจวำ่ น้ำมนั ที่อยใู่ นระบบจะไหลกบั ข้ึนไปยงั คอม เพรสเซอร์กำรทำที่กกั น้ำมนั ควรทำใหใ้ กล้ อีวำพอเรเตอร์ท่ีสุดเท่ำที่จะทำได้2. เมื่อคอนเดน็ ซิ่งอยเู่ หนืออีวำพอเรเตอร์ใหท้ ำท่ีกกั น้ำมนั ทุกๆช่วงควำมสูง 4.5 ม. ท้งั น้ีเพื่อใหเ้ กบ็กกั น้ำมนั เอำไวใ้ นขณะ ที่คอมเพรสเซอร์เร่ิมทำงำนอีกคร้ัง น้ำมนั จำกท่ีกกั น้ำมนั น้ีจะถูกดูดไปหล่อลื่นคอม เพรสเซอร์ไดท้ นั ที (ไม่ควรเดินท่อในแนวดิ่งสูงเกินกวำ่ 15 ม.)กำรเดินท่อน้ำยำต่อระบบทำควำมเยน็ ยำวเกิน 10 เมตร จะตอ้ งเติมน้ำมนั หล่อล่ืนเพ่มิ เติมเพื่อ ชดเชยผลของฟิ ลม์ น้ำมนั ที่ตกคำ้ งผวิ ดำ้ นในของท่อดูด ตำมอตั รำตำรำงต่อไปน้ีต่อทุกๆควำมยำว 1 เมตรท่ีเดิน กำรเติมน้ำมนั ใหด้ ูจำก OIL SIGHT GLASS (ถำ้ มี) โดยใหอ้ ยใู่ นช่วง 1/2 ถึง 3/4 ของ OILSIGHT GLASSขนำดท่อ อตั รำเติมน้ำมนั ต่อทุกควำมยำว 1 เมตร3/8 7.5 มิลลิเมตร (ซี.ซี)1/2 10 มิลลิเมตร (ซี.ซี)5/8 20 มิลลิเมตร (ซี.ซี)

3/4 30 มิลลิเมตร (ซี.ซี)7/8 40 มิลลิเมตร (ซี.ซี)1-1/8 50 มิลลิเมตร (ซี.ซี)เม่ือเดินท่อน้ำยำผำ่ นผนงั ,กำแพง ควรบุหรือห่อดว้ ยฉนวน ซ่ึงสำมำรถลดกำรสน่ั สะเทือนได้ ส่วนท่อดำ้ นดูดตอ้ งหุม้ ฉนวนตลอดควำมยำวของท่อ ฉนวนท่ีใชห้ ุม้ ท่อน้ีตอ้ งมีควำมหนำอยำ่ งนอ้ ย 1/2นิ้ว โดยปกติแลว้ ท่อดำ้ นส่งไม่จำเป็นตอ้ งหุม้ ฉนวน ยกเวน้ ในกรณีท่ีเดินท่อผำ่ นบริเวณท่ีมี อุณหภูมิสูง เช่น หอ้ งหมอ้ น้ำหรือกลำงแดดร้อนจดั ควรจะใชฉ้ นวนยำงท่ีมีควำมหนำอยำ่ งนอ้ ย 3/8 นิ้ว หุม้ห่อดำ้ นส่งดว้ ย และตอ้ งเพม่ิ ควำมหนำของฉนวนดำ้ นดูดข้ึนเป็นพเิ ศษดว้ ยอยำ่ งนอ้ ย หนำ 3/4 นิ้วกำรติดต้งั ท่อน้ำทิ้งท่อน้ำทิ้งจดั วำ่ เป็นส่วนสำคญั ส่วนหน่ึง ถำ้ ติดต้งั ไม่ดีอำจมีผลใหน้ ้ำไม่สำมำรถระบำยออกและขงัอยใู่ นตวั เคร่ืองจนลน้ ออกมำภำยนอกสร้ำงควำมเสียหำยใหบ้ ริเวณรอบๆเคร่ืองได้ ท่อน้ำทิง้ โดยมำกจะใชท้ ่อ S-LON หรือท่อ PVC โดยต่อออกจำกตวั เคร่ืองอีวำพอเรเตอร์ ท่อน้ำทิ้งควรจะหุม้ฉนวนตรงบริเวณท่ีอำจจะเกิดมีกำร condensate โดยเฉพำะถำ้ เดินท่ออยใู่ นฝ้ำเพดำน นอกจำก น้ีท่อน้ำทิ้งควรทำ TRAP ดว้ ยกำรบำรุงรักษำเคร่ืองปรับอำกำศเพอ่ื ใหเ้ ครื่องปรับอำกำศทำงำนเตม็ ประสิทธิภำพและมีอำยกุ ำรใชง้ ำนยำวนำนจึงควรหมนั่ ดูแลบำรุงรักษำอยำ่ งสม่ำเสมอ มีขอ้ แนะนำโดยทว่ั ไปเกี่ยวกบั กำรบำรุงรักษำดงั น้ี1. หมน่ั ตรวจสอบและทำควำมสะอำดแผน่ กรองอำกำศของแฟนคอยลย์ นู ิตทุกสองสปั ดำห์2. แผงอีวำพอเรเตอร์คอยลแ์ ละคอนเดน็ เซอร์คอยลค์ วรทำควำมสะอำด 3-6 เดือนต่อคร้ัง3. มอเตอร์พดั ลมท้งั แฟนคอยลย์ นู ิตและคอนเดน็ ซ่ิงยนู ิตตอ้ งมีกำรตรวจเช็คทุก 6 เดือน และทำกำรหล่อล่ืน โดยกำรอดั จำระบีหรือหยอดน้ำมนั อยำ่ งสม่ำเสมอ4. ตรวจดูถำดน้ำทิง้ ทำควำมสะอำดเพื่อใหก้ ำรไหลของน้ำทิ้งเป็นไปอยำ่ งสมบูรณ์5. ตรวจดูทิศทำงลมเขำ้ ออกของแฟนคอยลย์ นู ิต ตอ้ งไม่มีวสั ดุปิ ดขวำงทำงลม6. ตรวจสอบและซ่อมแซมฉนวนท่อน้ำยำท่ีต่อระหวำ่ งคอนเดน็ ซิ่งยนู ิตและแฟนคอยลย์ นู ิต7. ตรวจสอบหนำ้ ต่ำงและประตูวำ่ มีรูร่ัวทำใหอ้ ำกำศร้อนจำกภำยนอกเขำ้ สู่อำคำรหรือไม่8. ติดต่อช่ำงบริกำรท่ีเช่ือถือไดเ้ พอ่ื ตรวจสอบเคร่ืองอยำ่ งนอ้ ยปี ละ 2 คร้ัง

วธิ ีใชเ้ ครื่องปรับอำกำศอยำ่ งประหยดักำรใชไ้ ฟฟ้ำในบำ้ นเรือนหรืออำคำรสำนกั งำนประมำณ 60% จะใชก้ บั ระบบปรับอำกำศ ฉะน้นั ถำ้ใชเ้ ครื่องปรับอำกำศที่มีประสิทธิภำพต่ำหรือปล่อยใหม้ ีควำมร้อนเกิดข้ึนภำยในหอ้ งโดยไม่ จำเป็นยอ่ มก่อใหผ้ ใู้ ชเ้ สียค่ำไฟฟ้ำมำกกวำ่ ควำมจำเป็นกำรประหยดั ไฟฟ้ำสำหรับเครื่องปรับอำกำศน้นั สำมำรถดำเนินกำรไดด้ ว้ ยวธิ ีกำรต่ำงๆท้งั วธิ ี กำรท่ีไม่ตอ้ งลงทุน และลงทุนเลก็ นอ้ ยซ่ึงผลจำกกำรดำเนินงำนน้นั จะไม่ทำใหค้ วำมสะดวก สบำยท่ีไดร้ ับจำกกำรใชเ้ ครื่องปรับอำกำศตอ้ งลดนอ้ ยลงแต่จะลดค่ำไฟฟ้ำลงจำกปกติ วธิ ีกำร ประหยดั มีดงั ต่อไปน้ีกำรเลือกเคร่ืองปรับอำกำศท่ีเหมำะสม1. เลือกเครื่องปรับอำกำศที่มีประสิทธิภำพสูง คือ ใหค้ วำมเยน็ มำกแต่กินไฟนอ้ ย โดยดูท่ีกำร กินไฟฟ้ำเป็นวตั ต์ หรือแอมปโดยควรเลือกที่มีค่ำนอ้ ย หรือดูจำกค่ำ COP หรือ EER (EnergyEfficiency Ratio) ซ่ึงค่ำยงิ่ สูงยง่ิ ดี2. เลือกขนำดเคร่ืองปรับอำกำศท่ีเหมำะสมกบั หอ้ ง3. ควรเลือกอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิหรือเทอร์โมสตทั ท่ีมีควำมเที่ยงตรงสูง เช่น เทอร์โมสตทั ชนิดอิเลก็ ทรอนิกส์4. เปล่ียนเคร่ืองปรับอำกำศใหม่ทดแทนเคร่ืองปรับอำกำศเก่ำท่ีมีประสิทธิภำพต่ำ เน่ืองจำก ใชง้ ำนมำนำน กำรเปลี่ยนเครื่องใหม่ควรพจิ ำรณำเคร่ืองท่ีมีประสิทธิภำพสูงกำรลดควำมร้อนจำกภำยนอกกำรลดควำมร้อนจำกภำยนอกที่ผำ่ นเขำ้ ยงั บริเวณที่ปรับอำกำศโดยผำ่ นผนงั , หลงั คำและพ้นื โดยพจิ ำรณำเป็นส่วนๆดงั น้ี1. กำรลดควำมร้อนผำ่ นผนงั1.1 ผนงั กระจก เป็นสิ่งหน่ึงท่ีควำมร้อนจำกภำยนอกสำมำรถแผเ่ ขำ้ มำไดม้ ำก มีวธิ ีแกไ้ ขหลำย วธิ ีคือ1.1.1 ใชเ้ ครื่องบงั แดดภำยในอำคำร– ใชก้ นั สำดในแนวต้งั และแนวนอน หรือกำรหลบแนวหนำ้ ต่ำงเขำ้ มำภำยใน– สำหรับกระจกที่หนั ไปทำงทิศตะวนั ออกและทิศตะวนั ตก ควรติดกนั สำดในแนวนอน

– ส่วนกระจกท่ีหนั ไปทำงทิศเหนือและทิศใต้ ควรใชก้ นั สำดในแนวต้งั– ปลูกตน้ ไมบ้ งั แดดสำหรับกระจก ทำงดำ้ นทิศตะวนั ออกและทิศตะวนั ตก1.1.2 ใชผ้ ำ้ ม่ำนหรือมู่ล่ีสีอ่อนบงั แดดภำยในดำ้ นหลงั กระจกโดยเลือกใชม้ ู่ล่ีชนิดใบอยใู่ นแนว นอนสำหรับกระจกทำงทิศเหนือหรือทิศใต้ ส่วนกระจกทำงทิศตะวนั ออกหรือทิศตะวนั ตกควร ใชม้ ู่ล่ีชนิดใบอย๋ใู นแนวด่ิง1.1.3 เลือกกระจกที่มีคุณสมบตั ิยอมใหแ้ สงผำ่ นไดน้ อ้ ย โดยกระจกท่ีหนั ไปทำงทิศตะวนั ตก หรือตะวนั ออกควรใชก้ ระจกกรองแสงหรือแสงสะทอ้ น1.1.4 พยำยำมใชก้ ระจกเท่ำท่ีจำเป็นโดยเฉพำะดำ้ นทิศตะวนั ออกและทิศตะวนั ตกของอำคำร1.2 ผนงั อำคำรท่ีเป็นปูน1.2.1 ทำสีดำ้ นนอกดว้ ยสีขำวหรือสีอ่อนหรือใชว้ สั ดุผวิ มนั เช่นกระเบ้ืองเคลือบเพอ่ื ช่วยสะทอ้ นแสง1.2.2 ควรปลูกตน้ ไมห้ รือสร้ำงท่ีบงั แดดเพือ่ ใหร้ ่มเงำแก่ผนงั1.2.3 ผนงั หอ้ งปรับอำกำศโดยเฉพำะดำ้ นทิศตะวนั ออกหรือทิศตะวนั ตก ซ่ึงไม่มีเงำกำบงั หรือ หอ้ งขำ้ งเคียงเป็นหอ้ งครัว หรือเป็นหอ้ งท่ีมีควำมร้อนมำกควรบุฉนวนกนั ควำมร้อน1.3 ผนงั อำคำรที่เป็นไมห้ ำกมีช่องห่ำงของไมม้ ำกควรตีผนงั ดำ้ นในดว้ ยไมอ้ ดั เพอ่ื กนั กำรผำ่ น ของควำมร้อนจำกภำยนอกเขำ้ มำในอำคำร2. กำรลดควำมร้อนผำ่ นหนำ้ ต่ำง2.1 หนำ้ ต่ำงควรมีเฉพำะทิศเหนือหรือทิศใตข้ องอำคำร เพือ่ ลดกำรรับแสงแดดโดยตรง2.2 ตอ้ งพยำยำมไม่ใหม้ ีรอยร่ัวตำมขอบประตูหนำ้ ต่ำงหรือบริเวณฝ้ำเพดำน2.3 หนำ้ ต่ำงส่วนท่ีเป็นกระจกใหป้ รับปรุงตำมขอ้ เสนอแนะของผนงั กระจก3. กำรลดควำมร้อนผำ่ นหลงั คำและฝ้ำเพดำน3.1 หลงั คำที่เป็นสังกะสีหรือกระเบ้ือง ควรตีฝ้ำหรือติดต้งั วสั ดุสะทอ้ นควำมร้อน หรือบุฉนวน กนัควำมร้อน เพื่อช่วยลดควำมร้อนที่จะแผเ่ ขำ้ มำในอำคำร3.2 ถำ้ มชี ่องวำ่ งระหวำ่ งหลงั คำกบั ฝ้ำมำกควรเจำะช่องลมเพ่ือระบำยอำกำศจะทำใหป้ ระหยดั กำรปรับอำกำศได้4. กำรลดควำมร้อนผำ่ นพ้นื หำกเป็นพ้ืนไมค้ วรอุดช่องระหวำ่ งไมใ้ หส้ นิท แอร์จะไดไ้ ม่รั่ว ออกไป

5. กำรปรับปรุงในส่วนของรูปแบบอำคำร5.1 ออกแบบและกำหนดทิศทำงของอำคำรใหอ้ ยใู่ นลกั ษณะท่ีควำมร้อนจำกภำยนอกเขำ้ มำ ในอำคำรนอ้ ยที่สุด5.2 กำรเลือกสีผนงั ,เพดำน และเคร่ืองตกแต่งอำคำรควรเป็นสีอ่อน เพอื่ ช่วยในกำรสะทอ้ น แสงทำใหห้ อ้ งสวำ่ งและใชด้ วงไฟนอ้ ยลง5.3 อำคำรท่ีมีพ้ืนที่หรือหอ้ งซ่ึงไม่ไดใ้ ชง้ ำนประจำอยทู่ ำงทิศตะวนั ตกจะช่วยกนั ควำมร้อน ไม่ให้เขำ้ มำถึงหอ้ งที่ใชส้ อยประจำ ทำใหป้ ระหยดั พลงั งำนไฟฟ้ำในกำรปรับอุณหภูมิหอ้ งที่ ใชส้ อยประจำลงได้กำรลดควำมร้อนจำกดวงไฟและอุปกรณ์ภำยใน1. พยำยำมใชแ้ สงธรรมชำติช่วยส่องสวำ่ งภำยในอำคำรและควรจะปิ ดไฟท่ีไม่จำเป็น2. ภำยในอำคำรควรใชส้ ีอ่อน เพ่อื ช่วยในกำรสะทอ้ นแสงทำใหใ้ ชด้ วงไฟนอ้ ยลง3. เลือกใชห้ ลอดไฟที่มีประสิทธิภำพกำรส่องสวำ่ งสูง เช่น ใชห้ ลอดฟลูออเรสเซนตแ์ ทน หลอดไฟแบบมีไส้4. อุปกรณ์ท่ีใหค้ วำมร้อนมำกควรใชน้ อกหอ้ ง เช่น เตำรีด เครื่องปิ้ งขนมปัง หรือกำตม้ น้ำ5. ติดต้งั ฝำครอบระบำยอำกำศ สำหรับเคร่ืองหุงตม้ ทุกชนิดถำ้ จำเป็นตอ้ งใชใ้ นหอ้ งปรับอำกำศวธิ ีใชเ้ ครื่องปรับอำกำศอยำ่ งถูกตอ้ ง1. ต้งั อุณหภูมิใหเ้ หมำะสมไม่เยน็ จดั จนเกินไป โดยปกติขณะนอนหลบั ควรต้งั ที่ 78 F (26 C) แต่ถำ้ทำงำนต้งั ไวป้ ระมำณ 75 F (24 C)2.ควรติดต้งั เทอร์โมสตทั ใหใ้ กลก้ บั คอยลข์ องอีวำพอเรเตอร์ในตำแหน่งลมกลบั เขำ้ เครื่อง เพอ่ื ทำให้กำรตดั ต่อเป็นไปอยำ่ งถูกตอ้ ง3. เร่ิมตน้ เปิ ดเครื่องควรปรับระดบั ควำมเร็วพดั ลมที่ควำมเร็วสูง (Hi) ก่อนเพรำะจะทำใหเ้ ยน็ เร็วพอเยน็ ไดท้ ่ีแลว้ ควรปรับลดไปเป็นลมต่ำ (Low)4. ควรปิ ดประตู หนำ้ ต่ำง ใหม้ ิดชิดอยำ่ เปิ ดหนำ้ ต่ำงทิ้งไว้ เพรำะควำมร้อนจะเขำ้ มำ5. เปิ ดใชเ้ ครื่องปรับอำกำศเฉพำะส่วนและในเวลำท่ีจำเป็น ช่วงที่อำกำศไม่ค่อยร้อนใหป้ ิ ดเครื่องปรับอำกำศ แลว้ เปิ ดหนำ้ ต่ำงเพ่ือใหล้ มพดั ถ่ำยเท

6. หมนั่ ลำ้ งทำควำมสะอำดคอยล์ รวมท้งั แผงกรองอำกำศใหส้ ะอำดอยเู่ สมอ7. อยำ่ ใหม้ ีสิ่งกีดขวำงทำงลมท้งั ท่ีแฟนคอยลย์ นู ิต(ชุดท่ีอยใู่ นหอ้ ง)ขอ้ แนะนำในกำรติดต้งั คอยลร์ ้อนแอร์(Condensing Unit)• ตอ้ งระบำยควำมร้อนไดด้ ี ไม่มีส่ิงกีดขวำงทำงลมระบำยอำกำศ• สำมำรถเขำ้ ไปซ่อมบำรุง ลำ้ งทำควำมสะอำดไดโ้ ดยง่ำย ไม่ใช่ติดต้งั แลว้ ระบำยควำมร้อนไดด้ ีแต่ซ่อม ลำ้ งยำกเหลือเกิน อนั น้ีกไ็ ม่ใช่• ติดต้งั ไดง้ ่ำย ไม่ยงุ่ ยำก อำจใชข้ ำยำงรองหรือขำแขวนแบบสำเร็จที่ซ้ือมำจำกร้ำนอะไหล่แอร์กไ็ ด้• ตำแหน่งคอยลร์ ้อนไม่ควรห่ำงจำกคอยลเ์ ยน็ มำกนกั (ใหเ้ ป็นตำมคู่มือกำรติดต้งั ที่แถมมำในกล่องแอร์)• สวยงำม กลมกลืนไปกบั ตวั อำคำรเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นกำรติดต้งั แอร์1.ไขควงมำตรฐำน2.เกจวดั ระดบั3.สวำ่ นไฟฟ้ำ,ดอกเจำะ4.มีดหรือคีมปอกสำยไฟ5.ตลบั เมตร6.พุก7.ประแจแบบเหลี่ยม8.ประแจเลื่อน9.ฆอ้ น10.มีดตดั ท่อน้ำยำ11ระดบั น้ำ12.เครื่องมือบำนท่อน้ำยำ13.เครื่องแวค็ คม่ั14.สำยไฟขนำดเหมำะสมใชก้ บั แอร์ท่ีจะติดต้งั

15.น็อต,สกรู16.เทปพนั สำยไฟ,เทปพนั ท่อ17.กำว,แคม็ มิเนียม,ท่อน้ำทิง้18.ปลกั๊ พวง19.ปูนยปิ ซม่ัหลกั ในกำรเลือกซ้ือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำกำรประหยดั ไฟฟ้ำ ตอ้ งเริ่มจำกกำรพจิ ำรณำเลือกซ้ือเครื่องใชไ้ ฟฟ้ำอยำ่ งมีหลกั เกณฑ์ ซ่ึงขอ้ แนะนำต่อไปน้ีจะเป็นเครื่องช่วยประเมินคุณค่ำของเครื่องใชไ้ ฟฟ้ำที่จะซ้ือ ก่อนตดั สินใจควรพิจำรณำดงั น้ี1. ควรทรำบวำ่ เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำท่ีพบเห็นน้นั กินไฟมำกนอ้ ยเพยี งไร2. มีควำมเหมำะสมในกำรใชง้ ำนหรือไม่3. สะดวกในกำรใชส้ อย คงทน ปลอดภยั หรือไม่4. ภำระกำรติดต้งั และค่ำบำรุงรักษำ5. พจิ ำรณำคุณภำพ ค่ำใชจ้ ่ำย อำยใุ ชง้ ำน มำประเมินออกมำเป็นตวั เงินดว้ ยปริมำณกำรกินไฟ (กำลงั ไฟฟ้ำ) ของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำประเภทต่ำง ๆเครื่องใชไ้ ฟฟ้ำ กำลงั ไฟฟ้ำ (วตั ต)์พดั ลมต้งั พ้ืน 20 – 75พดั ลมเพดำน 70 – 100โทรทศั นข์ ำว-ดำ 28 – 150โทรทศั นส์ ี 80 – 180เคร่ืองเล่นวดิ ีโอ 25 – 50ตูเ้ ยน็ 7-10 คิว 70 – 145หมอ้ หุงขำ้ ว 450 – 1,500เตำหุงตม้ ไฟฟ้ำ 200 – 1,500หมอ้ ชงกำแฟ 200 -600เตำไมโครเวฟ 100 – 1,000

เคร่ืองปิ้งขนมปัง 800 – 1,000เคร่ืองทำน้ำอุ่น/ร้อน 2,500 – 12,000เครื่องเป่ ำผม 400 – 1,000เตำรีดไฟฟ้ำ 750 – 2,000เคร่ืองซกั ผำ้ แบบมีเครื่องอบผำ้ 3,000เครื่องปรับอำกำศ 1,200 – 3,300เครื่องดูดฝ่ นุ 750 – 1,200มอเตอร์จกั รเยบ็ ผำ้ 40 – 90เครื่องปรับอำกำศ1 ควรเลือกซ้ือเครื่องปรับอำกำศท่ีมีสลำกประหยดั ไฟ โดยเป็นสติกเกอร์ติดอยทู่ ี่เครื่องปรับอำกำศซ่ึงสำนกั งำนมำตรฐำนผลิตภณั ฑอ์ ุตสำหกรรม (สมอ.) เป็นผตู้ รวจสอบและรับรองคุณภำพ2 ควรเลือกขนำดของเครื่องปรับอำกำศใหเ้ หมำะสมกบั หอ้ งที่ตอ้ งกำรติดต้งั โดยท่ีควำมสูงของหอ้ งไม่เกิน 3 เมตร3. ชนิดของเคร่ืองปรับอำกำศที่นิยมใชใ้ นบำ้ นอยอู่ ำศยั ในปัจจุบนั มีจำหน่ำยในทอ้ งตลำด 3 ชนิดคือ3.1ชนิดติดหนำ้ ต่ำง จะเหมำะสมกบั หอ้ งท่ีมีลกั ษณะท่ีติดต้งั วงกบหนำ้ ต่ำง ติดกระจกช่องแสงติดตำย บำนกระทุง้ บำนเกลด็ เป็นตน้ มีขนำดต้งั แต่ 9,000 – 24,000 บีทีย/ู ชม. มีค่ำประสิทธิภำพ(EER=บีทียตู ่อชว่ั โมง/วตั ต)์ ต้งั แต่ 7.5 – 10 บีทีย/ู ชม./วตั ต์3.2 ชนิดแยกส่วนติดฝำผนงั หรือแขวน เหมำะสมกบั หอ้ งท่ีมีลกั ษณะทึบจะติดต้งั ไดส้ วยงำม แต่จะมีรำคแพงกวำ่ เม่ือเปรียบเทียบเครื่องปรับอำกำศชนิดต่ำง ๆ ท่ีมีขนำดเท่ำกนั (บีทีย/ู ชม.)เคร่ืองปรับอำกำศชนิดน้ีส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภำพสูงกวำ่ และจะมีสวติ ซ์ควบคุมอุณหภูมิอตั โนมตั ิแบบอิเลกคทรอนิกส์สำหรับควบคุมอุณหภูมิควำมเยน็ ของหอ้ ง มีขนำดต้งั แต่ 8,000 –24,000 บีทีย/ู ชม. ค่ำ EER ต้งั แต่ 7.5 – 13 บีทีย/ู ชม./วตั ต์3.3 เคร่ืองปรับอำกำศชนิดแยกส่วนต้งั พ้ืน จะเหมำะสมกบั หอ้ งท่ีมีลกั ษณะหอ้ งท่ีเป็นกระจกท้งั หมดผนงั ทึบซ่ึงไม่อำจเจำะ ช่องเพ่ือติดต้งั ได้ เมื่อเปรียบเทียบเคร่ืองปรับอำกำศชนิดต่ำง ๆ ท่ีมีขนำด

เท่ำกนั เคร่ืองปรับอำกำศชนิดน้ีส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภำพต่ำกวำ่ มีขนำดต้งั แต่ 12,000 – 36,000 บีทีย/ู ชม. มีค่ำ EER ต้งั แต่ 6 – 11 บีทีย/ู ชม./วตั ต์วธิ ีใชเ้ ครื่องปรับอำกำศใหป้ ระหยดั พลงั งำนคำแนะนำดำ้ นควำมปลอดภยั ของเครื่องปรับอำกำศ1.ควรต่อระบบสำยดินกบั เคร่ืองปรับอำกำศและทดสอบไฟร่ัวดว้ ยไขควงลองไฟ2.เคร่ืองตดั ไฟรั่วขนำดไมเ่ กิน 30 mA. หำกป้องกนั วงจรของเคร่ืองปรับอำกำศดว้ ย อำจมีปัญหำเครื่องตดั ไฟร่ัวทำงำนบ่อยข้ึน ควรหลีกเลี่ยงโดยกำรแยกวงจรออก และใชข้ นำด 100 mA. ป้องกนัอีกช้นั หน่ึง3.ติดต้งั เบรกเกอร์หรือสวิตซอ์ ตั โนมตั ิและควบคุมวงจรโดยเฉพำะ4.กรณีมีไฟตกหรือไฟดบั ถำ้ ไม่มีสวติ ซป์ ลดสบั เองโดยอตั โนมตั ิตอ้ งรีบปิ ดเครื่องทนั ทีก่อนท่ีจะมีไฟมำ และควรรอระยะเวลำประมำณ 3-5 นำที ก่อนท่ีจะสบั สวติ ซเ์ ขำ้ ใหม่5.หมนั่ ตรวจสอบข้วั และกำรเขำ้ สำยของจุดต่อต่ำง ๆ อยเู่ สมอ6.ดูขอ้ ควรปฏิบตั ิในกำรใชไ้ ฟฟ้ำหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำอยำ่ งปลอดภยั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook