ตน้ มะละกอ
ต้นมะละกอ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Carica papaya L. ชอ่ื สามญั : Papaya, Pawpaw, Tree melon ชอ่ื วงศ์ : CARICACEAE ชอื่ พน้ื เมืองอ่นื : มะก้วย (ภาคเหนือ) ; สะกยุ เส่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮอ่ งสอน) ; หมากซางพอ (เงี้ยว- แมฮ่ ่องสอน) ; หมกั ห่งุ (นครพนม, เลย) ; มะละกอ (ภาคกลาง) ; ลอกอ (ภาคใต้) ; ก้วยลา (ยะลา) ; แตงต้น (สตลู ) ; มะเตะ๊ (มลายู-ปัตตานี) ลกั ษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดเล็ก ลาต้นตรงสูงประมาณ 2-10 เมตร เน้ืออ่อน และกลวง หักโค่นง่าย ไม่แตก กิ่งกา้ นสาขา ผวิ เปลือกตน้ ขรขุ ระและมีรอยแผลเป็นที่ใบร่วงหลุดไป ใบแคนา มีใบเป็นใบประกอบแบบขนช้ัน เดยี วปลายค่ี ออกตรงขา้ มกันประมาณ 3-5 คู่ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบ เบี้ยว ส่วนขอบใบหยักเป็นแบบซี่ฟันต้ืน ๆ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-16 เซนตเิ มตร ผิวใบดา้ นล่างมขี นสน้ั อยูป่ ระปรายบนกา้ นใบ ส่วนกา้ นใบยอ่ ยมคี วามยาวประมาณ 7-10 มิลลิเมตร ใบ เปน็ ใบเด่ียว แตกใบเวยี นรอบต้น ลักษณะใบรูปไขห่ รอื รปู สเี่ หล่ียมข้าวหลามตัด โคนใบรูป หัวใจหรอื รูปติง่ หู ปลายใบเรียบเรียวแหลม ขอบใบเปน็ แฉกลึกเข้าหาเส้นกลางใบ มีต้ังแต่ 3-7 แฉก บางครั้งใน แต่ละแฉกจะเป็นแฉกอีกครั้ง ขอบของแต่แฉกเป็นจักฟันเล่ือย และมีเส้นกลางใบมาบรรจบที่โคนใบ ก้านใบ กลวง และยาวประมาณ 60-100 ซม. ดอก ออกดอกเปน็ ช่อแบบช่อแยกแขนง ตามง่ามใบ สขี าวอมเหลือง หรอื สขี าวนวล ดอกมักจะ แยกเปน็ ตน้ เพศและต้นเพศเมยี หรือบางคร้งั พบดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน และดอกเพศผู้จะมี ขนาดเลก็ กว่า ดอกมกี ลีบดอก 5 กลบี โคนกลบี ดอกเชื่อมติดกัน ปลายกลีบแยกออกเป็นแฉก (ดอกเพศผู้) ส่วน ดอกเพศเมยี กลีบดอก 5 กลีบ แยกจากกนั ผล เป็นผลแบบมเี นือ้ หลายเมล็ด ลักษณะผลรปู รี หรือรปู ไข่ เปลือกเรียบ บาง สีเขียว เมื่อสุกจะ มีสเี หลืองหรือสีสม้ ตรงกลางกลวง เน้อื ในมสี ีขาว อ่อนนุ่ม เมอื่ สุกจะเป็นสีเหลืองหรือสสี ม้ ภายในมีเมลด็ เมลด็ เมลด็ มีสดี า หรือสนี า้ ตาลดา มีจานวนมาก นิเวศวิทยา มีถนิ่ กาเนิดในอเมริกากลางเขตรอ้ น สามารถปลกู ไดท้ วั่ ในเขตรอ้ น นิยมปลูกตามบา้ นเรอื น สวนครวั หรอื ปลูกเพอื่ การคา้ การปลกู และขยายพนั ธ์ุ เปน็ ไม้กลางแจง้ เจริญเตบิ โตไดด้ ใี นดนิ รว่ นซุย ต้องการน้ามาก ขยายพนั ธ์ดุ ว้ ยการเพาะเมลด็ หรอื การปกั ชา
ต้นมะละกอ ประโยชนข์ องตน้ มะละกอ รสและสรรพคณุ ในตารายา ราก รสขนื่ ฉนุ เอียน เป็นยาขับปัสสาวะ แกโ้ รคเก่ยี วกบั กระเพาะปัสสาวะ เชน่ ทางเดิน ปสั สาวะอักเสบ แก้โรคหนองใน บารงุ นา้ นม เจริญอาหาร แกม้ ุตกิดระดขู าว ใชท้ าถูเพื่อให้เลอื ดมาเลี้ยง บริเวณนน้ั มาก ๆ แก้โรคเกย่ี วกบั ไต หรอื ใชผ้ สมเปน็ ยาแกค้ ุดทะราด และรดิ สีดวงทวาร แกก้ ลากเกลื้อน ตน้ อ่อน รสฉนุ เอยี น แกม้ ุตกดิ ระดูขาว ทาใหแ้ ท้ง ใช้ตน้ มะละกอเปน็ ยาขบั ประจาเดือน และลดไข้ ผล ใชท้ ัง้ ผลดิบ (ผลจืด) และผลสกุ (รสหวาน) ตม้ แล้วคน้ั เอาน้าเป็นยา ขบั พยาธิ บารุง นา้ นม ขบั น้าเหลอื งเสยี แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน แก้โรคบิด แก้ริดสีดวงทวาร ชว่ ยอาหาร ขับนา้ ดี เป็นยา ขบั ปสั สาวะ แกป้ ัสสาวะขดั ยาถา่ ยหรอื ยาระบายออ่ น ๆ ขบั ลม และเปน็ ยาเจรญิ อาหาร ผลดบิ รสจืด ใชข้ ับลม ขับปสั สาวะ ขบั พยาธิ แก้ปสั สาวะขัด ผลสกุ รสหวาน เปน็ ยาระบายท้อง เหมาะสาหรบั ผูท้ ท่ี อ้ งผูกเป็นประจา บารุงนา้ นมและ เจรญิ อาหาร เน้ือในผลแหง้ เป็นยาลดการบวมและเทา้ อกั เสบ ใบ รสเอยี น โขลกพอกแผลเรือ้ รังฝี นาใบสดมายา่ งไฟหรอื ลวกนา้ รอ้ น แล้วใชประคบ ในขณะอ่นุ ๆ ตามบริเวณทป่ี วด แก้ปวดบวม แก้ปวดเจบ็ แก้ปวดวถิ ีประสาท ขบั น้านม และแกอ้ าการบวบ ของโรคเท้าชา้ ง หรอื ใช้ใบแหง้ โขลกให้ละเอียดเป็นผง ชงกับนา้ ดมื่ เป็นยาแกโ้ รคเกย่ี วกับกระเพาะอาหาร ใชใ้ บสดต้ม เอาน้าดืม่ เป็นยาแกห้ อบหดื แกบ้ วมเจ็บปวด แก้โรคเหนบ็ ชา แกไ้ ข้ ขับพยาธิ แกบ้ ดิ บารงุ หวั ใจ แกป้ วดบวม แก้โรคไขขอ้ อักเสบ แก้โรคเทา้ ชา้ ง ยาง รสเมากดั ยางจากผลดบิ ใชก้ ดั หูด กดั แผลรกั ษาตาปลา เน้ืองอกอ่นื ๆ กดั รอยด่างดา และทาใหผ้ ิวหนงั ออ่ นนุ่มได้ ใช้ทาเครอื่ งสาอาง เพอื่ ลบรอยฝา้ แก้จุดด่างดาบนใบหน้าและตามผวิ หนัง ต้ม ดืม่ ฆ่าพยาธหิ ลายชนดิ แก้กระเพาะอกั เสบ แกต้ ับม้ามโต เป็นยาเจริญอาหาร ขับระดู ในประเทศอินโดนเี ซยี และฟิลลปิ นิ ส์ ใชต้ ดั ปลายผล แลว้ ถแู ผลทถี่ กู งกู ดั จนกระทัง่ เลอื ดไหล หรือใช้ภายนอกทาลดอาการบวม อักเสบทีเ่ กดิ จากการซ้า ใชก้ ระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ขับประจาเดือน ขับพยาธิ ทมี่ า : https://prayod.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0% B8%AD/
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: