Presentation 2

การนาเสนอโครงงานทางวิศวกรรม อ.ธที ตั ดลวชิ ยั สาขาวชิ าวศิ วกรรมเครอ่ื งกล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี

เนื้อหาการนาเสนอ (Out line presentation) ประเภทของการนาเสนอ  ตวั อยา่ ง PPT นาเสนอ การเตรยี มการนาเสนอ  พน้ื หลงั และสตี วั หนงั สอื การวางเคลา้ โครงการนาเสนอ การนาเสนอเสนอดว้ ยวาจา  STD PPT ขอ้ เพงิ่ ระวงั ในการนาเสนอ ลาดบั การนาเสนอ  หน้าแรก  หน้าทส่ี อง  หน้ากอ่ นสุดทา้ ย  หน้าสดุ ทา้ ย เทคนิคการนาเสนอ  ขอ้ ความ รปู ภาพ วดิ โิ อ เทคนคิ การเตรยี มสอ่ื  ตาราง แผนภาพ

ประเภทการนาเสนอ นำเสนอด้วยวำจำ (Oral Presentation) นำเสนอด้วยกำรเขียน (Written Presentation) (เล่มรำยงำน โปสเตอร์ สรปุ ย่อ ฯลฯ)

การเตรยี มการนาเสนอ เรียบเรียงเนื้อหำกำรนำเสนออย่ำงมีตรรกะ ตรวจสอบควำมสมบรู ณ์ของเค้ำโครง คนหำข้อมลู สนับสนุน หรอื ขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวขอ้ ง (ต้องเป็นแหล่งที่เช่ือถอื และสำมำรถอ้ำงอิงได้) จดั รปู แบบให้น่ำสนใจ เข้ำใจง่ำย สวยงำม กระชบั ตรวจสอบควำมสมบรู ณ์ทงั้ หมดอีกครงั้ ซ้อมกำรนำเสนอ

การวางเค้าโครงการนาเสนอ ต้องมีวตั ถปุ ระสงคช์ ดั เจน มีจดุ หรือส่ิงท่ีต้องการสื่อสารชดั เจน นาเสนออะไรก่อน/หลงั เพ่ือให้เข้าใจง่าย เป็นลาดบั  ผฟู้ ัง ผอู้ ่าน เป็นใคร  มีเวลาเท่าไร (กรณีนาเสนอด้วยวาจา)  จานวนหน้า ขนาดพืน้ ที่ (นาเสนอแบบโปสเตอร)์

การนาเสนอด้วยวาจา ความเป็นจริงของผฟู้ ัง  มีสมาธิฟังประมาณ 25-50% ของเวลาทงั้ หมด  มีความจดจ่อประมาณ 5-7 ประเดน็  จาได้ประมาณ 10% ของสารที่ฟัง องคป์ ระกอบการนาเสนอ  น้าเสียง การแต่งกาย ภาษากาย เช่น การเดิน การใช้มือการแต่งกาย  ส่ือการนาเสนอ

ขอ้ พึงระวงั ในการนาเสนอ กำรนำเสนอเป็นทกั ษะ จงึ ต้องกำรกำรฝึ กซ้อม ไม่ใช่กำรอ่ำนให้ฟัง กรณีที่มีประเดน็ กำรนำเสนอจำนวนมำก อำจทำ กำรด์ ช่วยจำ โดยเขียนลำดบั เลขที่กำกบั ไว้ ใช้คำพดู ท่ีออกเสียงได้งำ่ ย ชดั เจน หลีกเลย่ี งคำ เฉพำะ ควบคมุ เวลำกำรนำเสนอ

ลาดบั การนาเสนอ กล่ำวสวสั ดี หรอื ทกั ทำยผฟู้ ังเพื่อเริ่มต้นกำร นำเสนอ บอกผฟู้ ัง ว่ำจะนำเสนอเรอ่ื งอะไร นำเสนอเนื้อหำท่ีจดั เตรยี มมำ เม่อื จบกำรนำเสนอ กล่ำวสรปุ อีกครงั้ ในประเดน็ ท่ี นำเสนอ เปิ ดโอกำสให้ผฟู้ ังซกั ถำม กล่ำวขอบคณุ เพ่ือจบกำรนำเสนอ

เทคนิ คการนาเสนอ พดู ชดั ถ้อยชดั คำ เสียงดงั พอ ยิ้มด้วยควำมมนั่ ใจ ไมพ่ ดู เรว็ หรอื ช้ำจนเกินไป ให้เป็นธรรมชำติมำกที่สดุ จดุ ที่สำคญั อำจเน้นเสียง หรอื หยดุ ให้เกิดควำมน่ำสนใจ ไมเ่ ล่นมขุ ตลกที่ไมแ่ น่ใจ (กล่มุ ผฟู้ ัง บรรยำกำศ โอกำส) ใช้ไมช้ ี้ หรอื Pointer จะช่วยให้ผฟู้ ังติดตำมไดง้ ำ่ ย ไมห่ นั หลงั ให้ผฟู้ ัง และพดู กบั กระดำนหรอื จอภำพ

เทคนิ คการนาเสนอ กวำดสำยตำไปทวั่ ห้อง สงั เกตสีหน้ำและบรรยำกำศ กำหนดจดุ ที่จะยืนนำเสนอ ไมบ่ งั จอภำพ ไมเ่ คลื่อนไหวไปมำบอ่ ยมำก จนทำให้ผฟู้ ังสบั สน สงั เกตอำกปั กิริยำของผฟู้ ัง ฝึ กใช้อปุ กรณ์ท่ีจะใช้ และมำถึงห้องก่อนเวลำนำเสนอ ให้มีควำมมนั่ ใจว่ำผฟู้ ังมีควำมสนใจในเรอ่ื งที่จะนำเสนอ

เทคนิ คการเตรียมส่ือ ขนำดตวั อกั ษรเหมำะสม มองเหน็ ได้ชดั เจนจำกหลงั ห้อง จำนวนอกั ษรต่อหน้ำไมแ่ น่นเกินไป ไม่ควรเกิน 7 บรรทดั เรยี บเรียงข้อมลู เป็นข้อๆ หำกสำมำรถทำได้ ใช้ภำพช่วยในกำรสรำ้ งควำมเข้ำใจ นำเสนอภำพรวมก่อนนำเสนอรำยละเอียดปลีกย่อยเสมอ ใช้สีช่วยในกำรจดั กล่มุ ข้อมลู เน้นควำมสำคญั สรำ้ งกำรเคลื่อนไหว ช่วยดึงควำมสนใจ แต่ไมม่ ำกจนเดน่ กว่ำข้อมลู ท่ีนำเสนอ

เทคนิ คการเตรียมส่ือ ใช้ฉำกหลงั ช่วยในกำรแบง่ ส่วนเนื้อหำ เลือก Slide Design & Background เลือกใช้ Slide Layout ที่กำหนดใน MS Power Point ให้ มำกที่สดุ ไมค่ วรใช้กล่องข้อควำมท่ีสรำ้ งเอง พิมพข์ ้อควำมและใส่รปู ภำพ จดั รปู แบบ ใส่ลำดบั และรปู แบบกำรนำเสนอ ดซู ำ้ เพือ่ ทดสอบลำดบั กำรนำเสนอ

เทคนิ คการเตรียมสื่อ ใช้เส้นแนวโน้มช่วยเพ่ือสรำ้ งควำมเข้ำใจ ใช้รปู รำ่ งจดุ ข้อมลู และสีให้เกิดควำมแตกต่ำงชดั เจน พรอ้ มแสดงสญั ลกั ษณ์ให้เหน็ แสดงข้อมลู เท่ำที่จำเป็นและมีควำมสำคญั ควรมีชื่อและลำดบั ท่ีกำกบั รปู ภำพและตำรำง

ตวั อยา่ ง Slide ที่สีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อยา่ ง Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อยา่ ง Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อยา่ ง Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อยา่ ง Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อย่าง Slide ทีส่ ีพืน้ กบั สีตัวหนังสือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ  Slide ที่สีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อย่าง Slide ทีส่ ีพืน้ กบั สีตัวหนังสือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ  Slide ที่สีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ  Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ  Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

ตวั อยา่ ง Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้นื กบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ที่สีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ• Slide ท่ีสีพ้ืนกบั สีตวั หนงั สือ

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT  STD PPT  STD PPT  STD PPT  STD PPT  STD PPT  STD PPT  STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT

STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT STD PPT

ตวั อยา่ งหนา้ แรกการนาเสนอโครงงานทางวศิ วกรรม อ.ธีทตั ดลวชิ ยั สาขาวชิ าวศิ วกรรมเคร่ืองกล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

ตวั อย่างหน้าแรกการนาเสนอโครงงานทางวศิ วกรรม อ.ธีทตั ดลวิชยั สาขาวิชาวศิ วกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

ตัวอย่างหน้าแรกการนาเสนอโครงงานทางวศิ วกรรม อ.ธีทตั ดลวชิ ยั สาขาวชิ าวศิ วกรรมเคร่ืองกล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

ตวั อยา่ งหนา้ แรกการนาเสนอโครงงานทางวศิ วกรรม อ.ธีทตั ดลวิชยั สาขาวิชาวศิ วกรรมเครื่องกล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

ตวั อยา่ งหนา้ แรกการนาเสนอโครงงานทางวิศวกรรม อ.ธีทตั ดลวชิ ยั สาขาวชิ าวิศวกรรมเคร่ืองกล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี

OUT LINE PRESENTATION• ABCD• EFGH• IJKL• MNOP• QRST• UVWX• YZ

ABCD• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT• STD PPT

หนา้ ก่อนสุดทา้ ยเปิ ดโอกาสสาหรับข้อซักถาม

หนา้ สุดทา้ ย ขอบคุณครับ

ตวั อย่าง (ไมด่ ี)กำรวิจยั และแก้ปัญหำพลศำสตรข์ องไหล (Computational FluidDynamics: CFD) ในเมืองไทยช่วงหลำยปี ท่ีผำ่ นมำ มีกำรนำควำมร้ทู ำงพลศำสตรข์ องไหลเชิงคำนวณเข้ำมำประยกุ ตใ์ ช้อย่ำงกว้ำงขวำง เน่ืองจำกมีควำมสะดวก อีกทงั้ ยงั ช่วยประหยดั เวลำและต้นทนุ ในกำรดำเนินกำร อย่ำงไรกต็ ำม เนื้องำนส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงประยกุ ตใ์ ช้ซอฟตแ์ วรม์ ำกกว่ำกำรพฒั นำซอฟตแ์ วร์เหตผุ ลหน่ึงที่งำนด้ำนพฒั นำซอฟตแ์ วรไ์ ม่ค่อยได้รบั ควำมสนใจจำกนักวิจยั ร่นุ ใหมเ่ ท่ำที่ควรนัน้ อำจเป็นเพรำะลกั ษณะงำนต้องกำรควำมละเอียดรอบคอบในกำรจดั กำร เนื้องำนมีควำมย่งุ ยำกและใช้เวลำนำน

Homogeneity in wire drawingตวั อย่าง(a) 3A (c) 9A(b) 6A (c) 12A

ตวั อย่างรปู ท่ี 1 แสดงกำรเปลี่ยนรปู ของเส้นลวดขณะผำ่ น Die

ตัวอย่างรปู ท่ี 2 แสดงกำรเปล่ียนรปู ของเส้นลวดขณะผำ่ น Die 3 pass

ตวั อย่างโมดลู ช่ือโมดลู จำนวนชวั่ โมง รอ้ ยละ1 นโยบำยและมำตรกำรส่งเสริม SMEs 3 1.782 กำรเตรียมควำมพร้อมสำหรบั กำรเป็นผปู้ ระกอบกำร 18 10.71ใหม่ กำรวิเครำะหโ์ อกำสกำรลงทนุ ทำงธรุ กิจ3 กลยทุ ธท์ ำงกำรตลำด 12 7.144 กำรบริหำรจดั กำรธรุ กิจ ( กำรผลิต / บริกำร ) 18 8.925 กำรบริหำรองคก์ รและบคุ ลำกร 12 7.146 กำรบริหำรทำงกำรเงิน / กำรบญั ชี 24 14.287 กำรจดั ทำแผนธรุ กิจและกำรเสนอแผนธรุ กิจรำยบคุ คล 18 10.71 รวม Module 1-7 ( ชม. ) 102 60.718 กำรให้คำปรกึ ษำเพื่อส่งเสริมให้เกิดกำรจดั ตงั้ ธรุ กิจ 60 35.719 กำรศึกษำดงู ำน 6 3.57 รวม Module 1-9 ( ชม. ) 168 100

ตวั อย่างหญงิ 40-50 ปี, 50-60 ปี,18 คน 15 คน (15%) 3 คน (3%)(45%) ชาย 20-30 ปี 22 คน 44 คน (44%) 55% จำแนกตำมเพศ 30-40 ปี จำแนกตำมช่วงอำยุ 38 คน (38%) ปวช/ ตา่ กวา่ ม. ป.โท วา่ งงานเทยี บเทา่ ปลาย 10 คน 3% 10 คน 5 คน (5%) (10%) ผปู ้ ระกอบการ ประกอบอาชพี 40% 47% (10%)ปวส/ปวท15 คน(15%) ป.ตรี ทายาทธุรกจิ 10% 60 คน จำแนกตำมสถำนะภำพกำรทำงำนจำแนกตำมวฒุ ิกำรศึกษำ(60%)

ผลสมั ฤทธ์ิการใชส้ ่ือหลักสตู รกอ่ น ขา่ ว มทส 4% 6%การแนะนา แผน่ ปลวิ18% 45% วทิ ยุ ไวนลิ โปสเตอร์อนิ 2เต%อรเ์ น็ต 3% 9% 13%

ข้อซักถาม

จบขอบคุณครับ