โครงสร้างเครอื ขา่ ย (Topology)1. ลักษณะการเชือ่ มตอ่ เครือขา่ ย 1.1 การเช่อื มตอ่ แบบจดุ ต่อจดุ (Point to Point) - เป็นการเชื่อมต่อระหวา่ งเคร่ืองคอมพิวเตอร์หรืออปุ กรณ์สื่อสาร 2 เคร่ือง โดยใช้สื่อกลาง หรือช่องทางในการสื่อสารชอ่ งทางเดียวเป็นการจองสายในการส่งข้อมูลระหวา่ งกัน โดยไม่มี การใช้งานส่ือกลางน้ันร่วมกับอุปกรณ์ช้ินหลังอื่น ๆ ลักษณะนี้เป็นการเช่ือมต่อท่ีทาให้ ส้ินเปลอื งชอ่ งทางการสือ่ สารขอ้ ดี1. มีความเร็วในการส่ือสารข้อมูลสูง โปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมการสื่อสารก็เป็นแบบพื้นฐานไม่ ซับซ้อนมากนัก2. สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากและไม่มีปัญหาเร่ืองการจัดการการจราจรในส่ือ ส่งข้อมูลไม่ เหมอื นกับแบบท่ีใชส้ ่อื สง่ ขอ้ มลู รว่ มกัน3. มีความทนทานต่อความเสียหายเม่ือส่ือส่งข้อมูลหรือสายใดสายหน่ึงเสียหายใช้ การไม่ได้ ไม่ส่งผลต่อ ระบบเครือขา่ ยโดยรวม แตเ่ กิดเสยี หายเฉพาะเครอ่ื งตน้ สายและปลายสายเท่านนั้4. ระบบเครือข่ายมีความปลอดภัยหรือมีความเป็นส่วนตัว เมื่อข่าวสารถูกรับส่งโดยใช้สายเฉพาะ ระหว่าง 2 เคร่ืองเท่านนั้ เครอื่ งอน่ื ไม่สามารถเขา้ ไปใชส้ ายรว่ มดว้ ย5. เนื่องจากโทโพโลยีแบบสมบูรณ์เป็นการเชือ่ มต่อแบบจุดต่อจุด ทาให้เราสามารถแยกหรือระบุเครื่อง หรอื สายทเ่ี สยี หายได้ทันที ช่วยใหผ้ ดู้ ูแลระบบแก้ไขข้อผิดพราดหรือจุดที่เสยี หายไดง้ ่ายขอ้ เสีย1. จานวนสายที่ใช้ต้องมีจานวนมากและอินพุด/เอาต์พตุ พอร์ต (i/o port) ต้องใช้จานวนมากเช่นกัน เพราะแต่ละเคร่ืองตอ้ งตอ่ เช่อื มไปยงั ทกุ ๆ เครอื่ งทาให้การติดตง้ั หรอื แก้ไขระบบทาได้ยาก2. สายที่ใชม้ ีจานวนมาก ทาใหส้ นิ้ เปลอื งพ้ืนที่ในการเดินสาย3. เน่ืองจากอุปกรณ์ต้องการใช้อินพุด/เอาต์พุตพอร์ตจานวนมาก ดังนั้นราคาของอุปกรณ์ต่อเช่ือมจึงมี ราคาแพงและจากข้อเสยี ข้างต้นทาให้โทโพ โลยแี บบสมบรู ณจ์ ึงถูกทาไปใชค้ อ่ นข้างอยูใ่ นวงแคบ 1.2 การเชอ่ื มต่อแบบหลายจดุ (Multipoint or Multidrop) - เนือ่ งจากค่าเชา่ ช่องทางในการสง่ ผ่านข้อมูลตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ ่ายสงู การเชอื่ มตอ่ แบบจดุ ตอ่ จุดนัน้ สิน้ เปลอื งสายส่อื สารมากการส่งขอ้ มูลไม่ไดใ้ ช้ งานตลอดเวลา จึงมแี นวความคดิ ท่ี จะใช้สายส่ือสารเพียงสายเดยี วแต่เชื่อมตอ่ กบั หลายๆ จดุ ซง่ึ ทาใหป้ ระหยดั คา่ ใช้จ่ายได้ มากกว่า
ขอ้ ดี 1. ประหยดั สายส่งขอ้ มูล 2. การเพม่ิ เติมโหนดสามารถเพ่มิ ได้โดยง่ายดว้ ยการเช่ือมตอ่ เขา้ กบั สายส่งทใ่ี ช้งานร่วมกนั ไดท้ ันที ขอ้ เสีย 1. หากสายส่งขอ้ มลู ขาด จะมผี ลกระทบต่อระบบเครอื ขา่ ย 2. ไม่เหมาะกับการส่งข้อมลู แบบตอ่ เน่อื งทม่ี ีข้อมูลคราวละมากๆในเวลาเดียวกนั 2. โครงสรา้ งของเครือข่าย (Network Topology) แบง่ เป็น 6 ชนดิ 2.1 โครงสร้างแบบบัส (Bus Topology) - เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยสายเคเบิ้ลยาว ต่อเนื่องไป เรือ่ ย ๆ โดยจะมีคอนเนก็ เตอรเ์ ป็นตวั เชอ่ื มต่อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เข้ากับสายเคเบิ้ล ใน การส่งข้อมูล จะมีคอมพิวเตอร์เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งข้อมูลได้ในช่วงเวลา หน่ึงๆ การจัดส่งข้อมูลวิธีนี้จะต้องกาหนดวิธีการ ท่ีจะไม่ให้ทุกสถานีส่งข้อมูลพร้อมกัน เพราะจะทา ให้ข้อมูลชนกัน วิธีการท่ีใชอ้ าจแบ่งเวลาหรือให้แต่ละสถานีใช้ความถ่ี สัญญาณที่แตกต่างกัน การเซตอัปเครื่องเครือข่ายแบบบัสน้ีทาได้ไม่ยากเพราะคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ แต่ละชนิด ถูกเชื่อมตอ่ ด้วยสายเคเบ้ิลเพียงเส้นเดียวโดยส่วนใหญ่เครือข่ายแบบบสั มักจะใชใ้ นเครือข่าย ขนาดเล็ก ซ่งึ อยู่ในองคก์ รท่มี ีคอมพวิ เตอรใ์ ชไ้ มม่ ากนกั ขอ้ ดี ขอ้ ดขี องการเชอ่ื มต่อแบบบัส คือ ใชส้ ือ่ นาขอ้ มลู น้อย ชว่ ยใหป้ ระหยดั ค่าใชจ้ ่าย และถา้ เคร่อื งคอมพิวเตอร์เคร่อื งใดเครือ่ งหน่งึ เสยี ก็จะไมส่ ง่ ผลตอ่ การทางาน ของระบบโดยรวม ขอ้ เสีย ขอ้ เสยี คอื การตรวจจดุ ทม่ี ีปญั หา กระทาได้ค่อนข้างยาก และถ้ามจี านวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครอื ข่ายมากเกินไป จะมกี ารสง่ ข้อมูลชนกนั มากจนเป็นปญั หาข้อจากดั คือ จาเปน็ ตอ้ งใช้วงจรสอ่ื สารและซอฟตแ์ วรเ์ ข้ามาชว่ ยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันของ สญั ญาณข้อมูล และถา้ มอี ุปกรณ์ตวั ใดตวั หน่ึงเสียหาย อาจส่งผลใหท้ ั้งระบบหยดุ ทางานได้
2.2 โครงสร้างแบบดาว (Star Topology) - เป็นเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับอุปกรณ์ท่ีเป็น จุดศูนย์กลาง ของเครือข่าย โดยการนา สถานีต่าง ๆ มาต่อร่วมกันกับหน่วยสลับสายกลางการติดต่อส่ือสารระหว่างสถานีจะกระทาได้ ด้วย การ ติดต่อผ่านทางวงจรของหน่วนสลับสายกลางการทางานของหน่วยสลับสายกลางจึงเป็น ศูนย์กลางของการตดิ ต่อ วงจรเชือ่ มโยงระหวา่ งสถานตี ่าง ๆ ที่ต้องการติดตอ่ กนั ข้อดี - ถ้าต้องการเชื่อมตอ่ คอมพวิ เตอร์เคร่ืองใหม่ก็สามารถทาได้งา่ ยและไม่กระทบต่อ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์อ่ืนๆ ในระบบ ขอ้ เสีย - ค่าใช้จ่ายในการใช้สายเคเบิ้ลจะคอ่ นข้างสูง และเมอ่ื ฮับไม่ทางาน การส่ือสารของคอมพวิ เตอร์ทัง้ระบบกจ็ ะหยดุ ตามไปดว้ ย 2.3 โครงสรา้ งแบบวงแหวน (Ring Topology) - เป็นเครือข่ายท่ีเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยสายเคเบิลยาวเส้นเดียว ในลักษณะวงแหวน การรับส่ง ข้อมูลในเครือข่ายวงแหวน จะใช้ทิศทางเดียวเท่านั้น เม่ือคอมพิวเตอร์เครื่องหน่ึงส่งข้อมูล มันก็จะ ส่งไปยงั คอมพวิ เตอร์เคร่ืองถดั ไป ถา้ ขอ้ มลู ท่รี บั มาไม่ตรงตามท่ีคอมพิวเตอร์เคร่ืองตน้ ทางระบุ มันก็จะ ส่งผ่านไปยัง คอมพิวเตอร์เครื่องถัดไปซ่ึงจะเป็นข้ันตอนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงคอมพิวเตอร์ ปลายทางทถี่ กู ระบตุ ามที่อยู่
ข้อดี- เครอื ข่ายแบบวงแหวนคอื ใช้สายเคเบิ้ลนอ้ ย และถา้ ตัดเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่ีเสยี ออกจากระบบ ก็จะไมส่ ง่ ผลตอ่ การทางานของระบบเครือขา่ ยนี้ และจะไมม่ กี ารชนกนั ของขอ้ มลู ทแ่ี ตล่ ะเครอื่ งส่งข้อเสยี- ถา้ เครื่องใดเคร่อื งหนึ่งในเครือข่ายเสยี หาย อาจทาใหท้ ้งั ระบบหยดุ ทางานได้2.4 โครงสรา้ งแบบต้นไม้ (Tree Topology) - มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายน สัญญาณแยกออกไปเป็นแบบกิ่งไม่เป็นวงรอบ โครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผล แบบกลมุ่ จะประกอบด้วยเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ระดับต่างๆกันอยู่หลายเคร่ืองแล้วต่อกันเป็นช้นั ๆ ดูราวกับแผนภาพองคก์ ร แต่ละกล่มุ จะมีโหนดแม่ละโหนดลูกในกลุ่มน้ันที่มีการสัมพนั ธ์กัน การ ส่อื สารขอ้ มูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานอี ่นื ๆไดท้ ้ังหมด เพราะทุกสถานีจะอยู่บนทางเชื่อม และ รับส่งข้อมูลเดียวกัน ดงั นน้ั ในแตล่ ะกลมุ่ จะส่งขอ้ มลู ไดท้ ีละสถานโี ดยไมส่ ่งพรอ้ มกัน ข้อดี - มีความเรว็ ในการสือ่ สารขอ้ มลู สงู โปรแกรมที่ใชใ้ นการควบคุมการสอื่ สารกเ็ ป็นแบบพ้ืนฐานไม่ซับซ้อนมากสามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมาก ไม่มีปญั หาเรื่องการจัดการการจราจรในส่ือส่งข้อมูลไม่เหมอื นกบั แบบทใ่ี ช้ส่อื ส่งขอ้ มูลร่วมกนั - มีความทนทานต่อความเสียหายเม่ือสื่อส่งข้อมูลหรือสายใดสายหนึ่งเสียหายใช้การไม่ได้ไม่สง่ ผลต่อระบบเครือข่ายโดยรวม แตเ่ กดิ เสยี หายเฉพาะเคร่ืองต้นสายและปลายสายเทา่ นนั้ ข้อเสีย - จานวนสายที่ใชต้ ้องมีจานวนมากและอินพุด / เอาต์พตุ พอร์ต (i / o port ) ต้องใช้จานวนมากเช่นกันเพราะแต่ละเคร่ืองต้องต่อเชื่อมไปยังทุก ๆ เคร่ืองทาให้การติดตั้งหรือแก้ไขระบบทาได้ยากสายทใี่ ช้มจี านวนมากทาให้สิ้นเปลืองพนื้ ที่ในการเดินสาย เนื่องจากอุปกรณ์ตอ้ งการใช้อินพดุ / เอาต์พุต
พอร์ตจานวนมาก ดังนั้นราคาของอุปกรณ์ต่อเช่ือมจึงมีราคาแพงและจากข้อเสียข้างต้นทาให้โทโพโลยีแบบสมบูรณจ์ ึงถูกทาไปใช้ค่อนขา้ งอยใู่ นวงแคบ2.5 โครงสร้างแบบผสม (Hybrid Topology) - เป็นเครือข่ายท่ีผสมผสานกนั ทั้งแบบดาว,วงแหวน และบัส เช่น วิทยาเขตขนาดเลก็ ที่มี หลายอาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใชแ้ บบบัสเชอ่ื มตอ่ กบั อาคารอื่นๆทใี่ ชแ้ บบดาว และแบบวงแหวน ข้อดี - สามารถเขา้ ถงึ เครอื ขา่ ยทอ่ี ย่ใู นระยะไกลได้ - ทาให้การส่ือสารข้อมูลมีประสิทธภิ าพ ข้อเสีย - ดแู ลระบบยาก และเสียคา่ ใช้จ่ายในการดแู ลรกั ษาสูง - โครงสรา้ งมคี วามซับซ้อนมรี ปู แบบไมแ่ น่นอน2.6 โครงสรา้ งแบบเมซ (Mesh Topology) - ลักษณะการสื่อสารจะมกี ารตอ่ สายหรอื การเดินของขอ้ มูลระหวา่ งคอมพวิ เตอรห์ รือโหนด ไปยงั โหนดอน่ื ๆ ทุก ๆ ตัว ทาให้มีทางเดินขอ้ มลู หลายเสน้ และปลอดภยั จากเหตุการณท์ ่ีจะ เกิดจากการล้มเหลวของระบบ แตร่ ะบบนีจ้ ะมีคา่ ใชจ้ า่ ยมากกวา่ ระบบอนื่ ๆ เพราะต้องใช้ สายสอ่ื สารเป็นจานวนมาก
ขอ้ ดี - อัตราความเร็วในการสง่ ข้อมูล ความเชื่อถอื ไดข้ องระบบ - งา่ ยต่อการตรวจสอบความผิดพลาด - ขอ้ มลู มีความปลอดภัยและมคี วามเปน็ สว่ นตวัขอ้ เสีย - จานวนจุดท่ีต้องใช้ในการเช่ือมต่อ และจานวน Port I/O ของแต่ละโหนดมีจานวนมาก (ตามสูตรข้างต้น) ถ้าในกรณีท่ีจานวนโหนดมาก เช่นถ้าจานวนโหนดท้ังหมดในเครือข่ายมีอยู่ 100 โหนด จะต้องมจี านวนจดุ เชอ่ื มตอ่ ถึง 4,950 เส้น เปน็ ต้น ---------------------------------------------
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: