Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Netwoke Type

Netwoke Type

Published by 6032040032, 2018-08-21 03:56:39

Description: Netwoke Type

Search

Read the Text Version

ประเภทเครอื ข่าย1.แบง่ ตามลกั ษณะทางกายภาพ คอื- PAN ระบบการติดต่อส่ือสารไร้สายส่วนบุคคล\" ย่อมาจาก Personal Area Network หรือเรียกว่าBluetoothPersonal Area Network (PAN)คือเทคโนโลยีการเข้าถึงไร้สายในพ้ืนท่ีเฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1เมตร และมีอัตราการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซ่ึงเทคโนโลยีที่ใช้กันแพร หลาย ก็เช่น• Ultra Wide Band (UWB) ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.3a• Bluetooth ตามมาตรฐานIEEE 802.15.1• Zigbee ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.4เทคโนโลยีเหล่าน้ีใช้สาหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ต่อพ่วง(peripherals) ให้สามารถรับส่งข้อมูลถึงกันได้ และยังใช้สาหรับการรับส่งสญั ญาณวดิ ีโอท่มี ีความละเอียดภาพสูง (high-definition video signal)- LAN เป็นระบบเครือข่ายท่ีใช้งานอยู่ในบริเวณท่ีไม่กว้างนัก อาจใช้อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรืออาคารที่อยใู่ กล้กนั เชน่ ภายในมหาวทิ ยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สนิ คา้ หรอื โรงงาน เปน็ ต้น การส่งข้อมลู สามารถทาได้ด้วยความเร็วสูง และมีข้อผิดพลาดน้อย ระบบเครือข่ายระดับท้องถิ่นจึงถูกออกแบบมาให้ช่วยลดต้นทุนและเพือ่ เพม่ิ ประสิทธภิ าพในการทางาน และใชง้ านอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ รว่ มกนั- MAN เป็นระบบเครือข่ายท่ีมีขนาดอยู่ระหว่าง Lan และ Wan เป็นระบบเครือข่ายท่ีใช้ภายในเมืองหรือจังหวัดเท่านั้น การเช่ือมโยงจะต้องอาศัยระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใช้กับองค์การที่มีสาขาหา่ งไกลและต้องการเชอื่ มสาขา เหล่านน้ั เขา้ ด้วยกัน เชน่ ธนาคาร เครอื ขา่ ยแวนเชอ่ื มโยงระยะไกลมากจึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สูง เนื่องจากมีสัญญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยีที่ใช้กับเครือข่ายแวนมีความหลากหลาย มกี ารเชือ่ มโยงระหว่างประเทศด้วยช่องสญั ญาณดาวเทียม เสน้ ใยนาแสง คลน่ื ไมโครเวฟ คลน่ื วทิ ยุสายเคเบลิ- WAN เป็นระบบเครือข่ายท่ีติดตั้งใช้งานอยู่ในบริเวณกว้าง เช่น ระบบเครือข่ายท่ีติดตั้งใช้งานท่ัวโลก เป็นเครือข่ายท่ีเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วย กัน อาจจะต้องเป็นการติดต่อส่ือสารกนัในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือท่ัวโลกก็ได้ ในการเชื่อมการติดต่อนั้น จะต้องมีการต่อเข้ากับระบบส่ือสารขององคก์ ารโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่ง ประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเปน็ การส่งข้อมลู ผ่านสายโทรศัพท์ในการติดตอ่ ส่ือสารกันโดยปกติมี อัตราการสง่ ข้อมูลท่ีตา่ และมโี อกาสเกดิ ข้อผิดพลาด การสง่ ข้อมูลอาจใช้อุปกรณ์ในการส่อื สาร เช่น โมเดม็ (Modem) มาช่วย

2. แบ่งตามหนา้ ที่ของคอมพวิ เตอร์- Peer-to-Peer เครอื ข่ายประเภทนจ้ี ะไม่มีเคร่ืองเซริ ์ฟเวอร์ และไม่มีการแบ่งช้ันความสาคัญของคอมพวิ เตอร์ทเ่ี ชอื่ มตอ่ กันเขา้ กับเครือขา่ ย คอมพิวเตอรท์ ุกเครื่องจะมีสทิ ธิเทา่ เทยี มกนั ในการจกั การใชเ้ ครือข่าย ซ่ึงเรยี กว่าเพยี ร(์ Peer) นั่นเอง คอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเครอ่ื งจะทาหน้าทีเ่ ปน็ ทั้งไคลเอนทแ์ ละเซิรฟ์ เวอร์แล้วแตก่ ารใชง้ านของผู้ใช้ เครือข่ายประเภทนี้ ไม่จาเป็นต้องมีผู้ดูแลและจัดการระบบ หน้าที่นี้จะกระจายไปยังผู้ใช้แต่ละคนเนื่องจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์แต่ละเคร่อื งจะเป็นคนกาหนดว่าข้อมูลหรอื ทรัพยากรใดบ้างของเคร่ืองน้นั ท่ีต้องการแชร์กบั ผู้ใชค้ นอื่นๆ- Client-Server การท่มี ีเคร่ืองผูใ้ หบ้ ริการ (server) และเครื่องผูใ้ ช้บรกิ าร (client) เชื่อมตอ่ กนั อยู่ และเคร่อื งผู้ใช้บริการได้มีการติดต่อร้องขอบริการจากเครื่องผใู้ ห้บรกิ าร เครื่องผู้ให้บริการก็จะจัดการตามที่เคร่ืองผ้ขู อใช้บริการร้องขอ แล้วส่งข้อมูลกลบั ไปใหเ้ ครือข่ายแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ เหมาะกับระบบเครือข่ายท่ีต้องการเช่ือมต่อกับเคร่ืองลูกข่ายจานวนมาก โดยการรองรับจานวนเครื่องลูกข่าย (Client) อาจเป็นหลักสิบหลักร้อยหรือหลักพัน เพราะฉะน้ันเคร่ืองท่ีจะนามาทาหน้าท่ีให้บริการจะต้องเป็นเคร่ืองที่มี ประสิทธิภาพสูง เนื่องจากถูกต้องออกแบบมาเพื่อทนทานต่อความผดิ พลาด ( Fault Tolerance)และต้องคอยให้บริการทรพั ยากร การให้กับเครื่องลูกข่ายตลอดเวลาโดยเครื่องที่จะนามาทาเป็นเซิร์ฟเวอร์อาจเป็นคอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรมมินิคอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์ก็ได้ เครือข่ายประเภทนี้จะมีเคร่ืองศูนย์บริการ ท่ีเรียกว่า เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และมีเคร่ืองลูกข่ายต่าง ๆ เชื่อมต่อ โดยเครือข่ายหน่ึงอาจมีเคร่ืองเซิร์ฟเวอร์มากกว่าหนึ่งตัวเช่ือมต่อภายในวงแลนเดยี วกนั ซ่ึงเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวกท็ าหนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบที่แตกต่างกัน3. แบ่งตามระดับความปลอดภยั ของขอ้ มลู เปน็ เกณฑ์- Intranet คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีเชื่อมโยงการสื่อสารด้วยระบบโปรโตคอลทีซีพี/ไอพี(TCP/IP) ซึ่งเป็นระบบโปรโตคอลในการสื่อสารของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ดังนั้น โปรแกรมเพ่ือการสื่อสารบนเครือข่ายอินทราเน็ตจึงเป็นซอฟต์แวร์ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างเครือข่ายอินทราเน็ตกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีครอบคลุมท้ังโลก อินเทอร์เน็ตไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง และไม่มีใครสามารถควบคุมเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ ได้ แตส่ าหรับเครือข่ายอนิ ทราเน็ตมเี จ้าของแน่นอน และถูกควบคมุ โดยองค์กรหรอื บุคคลผ้เู ป็นเจา้ ของ

- Internet เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ที่มขี นาดใหญ่ มกี ารเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครอื ข่ายทวั่ โลก โดยใช้ภาษาท่ีใช้ส่ือสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายน้ีสามารถสื่อสารถงึ กันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เวบ็ บอร์ด และ โซเชยี ลเน็ตเวรค์ิ แนวโนม้ ลา่ สดุ ของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพ่ือสร้างเครือข่ายสังคม ซ่ึงพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ท่ีเก่ียวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกาลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่น Facebook (เฟซบุ๊ก) Twitter (ทวิตเตอร์)Instragram (อินสตราแกรม) และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ(Mobile Internet) มากขึน้ เนอื่ งจากเทคโนโลยปี ัจจบุ ันสนบั สนุนให้การเขา้ ถงึ เครือข่ายผ่านโทรศัพท์มอื ถือทาไดง้ า่ ยขนึ้ มาก และเป็นผลสืบเน่อื งมาจากเทคโนโนยี 3 จี และ 4 จี- Extranet คือ ระบบเครือข่ายซ่ึงเชื่อมเครือข่ายภายในองค์กร หรือ อินทราเน็ต (Intranet) เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายนอกองค์กร เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของสาขาของผู้จัดจาหน่าย หรือของลูกค้า เป็นต้นโดยการเชื่อมต่อเครือข่ายอาจเป็นได้ทั้งการเช่ือมต่อโดยตรงระหว่าง 2 จุด หรือการเช่ือมต่อแบบเครือข่ายเสมอื น (Virtual Network) ระหวา่ งระบบอนิ ทราเนต็ หลาย ๆ เครอื ขา่ ยผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตกไ็ ด้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook