Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานประจำปีศวก.7 ขอนแก่น ประจำปี 2562

รายงานประจำปีศวก.7 ขอนแก่น ประจำปี 2562

Description: รายงานประจำปีศวก.7 ขอนแก่น ประจำปี 2562

Search

Read the Text Version

ANNUAL REPORT 2019 รายงานประจาปี 2562 RMSC 7th KHON KAEN REGIONAL MEDICAL SCIENCES CENTER 7th KHON KAEN ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ ๗ ขอนแก่น



นโยบายคุณภาพจากผ้บู รหิ าร ศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 7 ขอนแกน่ ศนู ย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen ให้บริการทดสอบและวิจยั ทางห้องปฏบิ ตั ิการด้าน วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ แก่หนว่ ยงานทัง้ ภาครฐั และ เอกชนรวมทงั้ ประชาชน โดยนำระบบบรหิ ารคณุ ภาพ ISO 9001:2015 และระบบบริหาร PMQA มา ประยุกตใ์ ชใ้ นการปฏิบัติงานร่วมกับระบบบรหิ าร คณุ ภาพหอ้ งปฏบิ ตั ิการ ISO/IEC17025:2017, ISO15189:2012 และ ISO15190:2003 เพอื่ ให้ ผใู้ ชบ้ ริการได้รับองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี บรกิ ารการ ตรวจวเิ คราะห์และขอ้ มูลท่ถี ูกตอ้ ง มคี ุณภาพและ ตอบสนองต่อสถาน- การณต์ ่าง ๆ อย่างทันเหตุการณ์ ดว้ ยระบบห้องปฏบิ ตั ิการท่ีเป็นทีย่ อมรับในระดบั สากล เปน็ ห้องปฏิบัติการอา้ งองิ และเปน็ ศนู ยก์ ลาง ข้อมลู อ้างอิง สารสนเทศด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ สนับสนุนการป้องกันและสง่ เสริมสุขภาพและความ มั่นคง มัง่ คง่ั และยั่งยืนด้านสขุ ภาพของประชาชนใน เขตสขุ ภาพท่ี 7 Annual Report 2019

สารบัญ 1 ประวตั คิ วามเปน็ มา 2 บทบาทหนา้ ที่ วสิ ัยทัศน์ พนั ธกจิ 3 โครงสรา้ งผบู้ รหิ ารและโครงสร้างหนว่ ยงาน - 10 พ้นื ทรี่ ับผิดชอบ 5 11 ทรพั ยากรบคุ คล 13 งบประมาณ 3 17 ผลงานเด่น 21 งานวจิ ัย/โครงการ/โครงการบรู ณาการ 34 งานบริการ 55 การเผยแพร่ผลงาน 57 การพฒั นาทรพั ยากรบคุ คล 61 การประสานความร่วมมอื กับหนว่ ยงานอนื่ 63 นทิ รรศการและกิจกรรมภายในหนว่ ยงาน 66 กจิ กรรมร่วมกับหนว่ ยงานอ่นื

สารบญั (ตอ่ ) 72 กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ 75 รางวลั แหง่ ความภาคภมู ใิ จ 77 คณะผูจ้ ัดทา

1 ประวัตคิ วามเปน็ มา ประวตั คิ วามเปน็ มา พ.ศ. ๒๕61 พ.ศ. ๒๕62 ห้องปฏิบตั ิการทั้งหมดของศูนย์ฯ ไดย้ ้ายมา ณ มีการปรบั ปรงุ อาคาร และศนู ยร์ วม อาคารทที่ าการแห่งใหมท่ ง้ั หมด เพ่ือการบริหาร บริการของศนู ย์ฯ เพอ่ื อานวยความ จัดการทรัพยากรและการทดสอบทางห้องปฏบิ ัติการ สะดวกใหแ้ ก่ผใู้ ช้บริการ ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดแกผ่ ู้มารับบริการ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๘ กอ่ สรา้ งอาคารสานกั งานแหง่ ใหม่ เลขท่ี ๓๙๔ หมู่ ๑๙ ถนนสี หราชเดโชไชย ตาบลศลิ า อาเภอเมือง จงั หวัดขอนแกน่ พ้ืนทใ่ี ช้ งาน ๔,๓๑๗ ตารางเมตร โดยกาหนดให้ใชช้ อื่ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์ การแพทย์ที่ ๗ ขอนแกน่ พื้นท่ีรบั ผิดชอบ 4 จงั หวดั ไดแ้ ก่ ขอนแกน่ กาฬสนิ ธ์ุ มหาสารคาม และร้อยเอด็ พ.ศ. ๒๕๓๐-๒๕๓๑ ได้รับงบประมาณก่อสรา้ งอาคารในที่ดินราชพสั ดุ จานวน ๑ ไร่ ๗๗ ตารางวา เลขที่ ๔๐๐/๒ ถนนหน้าศนู ยร์ าชการ ตาบลในเมอื ง อาเภอ เมอื ง จังหวดั ขอนแก่น พนื้ ท่ใี ช้งาน ๑,๔๕๓.๕๒ ตารางเมตร พ.ศ. ๒๕๒๒ จัดตงั้ ศูนย์ฯภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือตอนบนทจี่ ังหวัดขอนแก่น โดยดดั แปลงสานักงานเดมิ ช้ันล่างของตึกสานักงานสาธารณสขุ จังหวดั ขอนแก่น ถนนศรจี นั ทร์ อาเภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแกน่ ศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

2 วิสยั ทศั น์ วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ ค่านยิ ม และบทบาทหน้าท่ี “เปน็ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอ้างอิงดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ ท่ีมคี วามเปน็ เลิศในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ” พันธกิจ ๑. ศกึ ษาวจิ ัยและพฒั นาเพ่ือใหไ้ ดอ้ งคค์ วามรู้ เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตรก์ ารแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ๒. เฝา้ ระวัง ประเมนิ สอื่ สารแจ้งเตอื นภัย และกาหนดมาตรการ การจัดการความเสยี่ งจากโรคและภยั สขุ ภาพ ๓. บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการดา้ นวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์และสาธารณสุข ๔. พฒั นาและกาหนดมาตรการสนบั สนุนการป้องกันและแก้ไขปญั หายาเสพติดในพน้ื ที่ ๕. สื่อสารสาธารณะในภาวะท่ตี ้องพงึ่ พาขอ้ มูลด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสขุ ของประเทศ ค่านิยม มุง่ มน่ั พฒั นา คณุ ภาพบรกิ าร มาตรฐานสากล บทบาทหน้าท่ี ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้ศูนย์ วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์มอี านาจหน้าท่ดี งั ตอ่ ไปนี้ ๑. พัฒนาระบบการตรวจวิเคราะห์ และให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ สมุนไพร และ การชนั สูตรโรค ๒. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางห้องปฏิบัติการดา้ นผลิตภณั ฑ์สุขภาพ สมุนไพร และการ ชันสตู รโรคเพือ่ ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยตามกฎหมาย ๓. เป็นหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอ้างอิงดา้ นผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพ สมนุ ไพรและการชนั สตู รโรค ๔. พัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการ สนับสนุนด้านวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์และชันสูตรโรคแก่ ห้องปฏิบัตกิ ารเครือข่าย ห้องปฏิบัตกิ ารภาครฐั และเอกชน ๕. ปฏิบัติงานร่วมกับหรอื สนบั สนนุ การปฏบิ ัตงิ านของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวขอ้ งหรอื ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทยท์ ่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

3โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน โครงสร้างผู้บริหาร และโครงสร้างหน่วยงาน ศนู ย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

4 โครงสร้างผู้บริหาร โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน นางเลขา ปราสาททอง ผอู้ านวยการศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น นางวัจนา ชา่ งทอง นางกมลทิพย์ จุตาทศิ นายธรี วัฒน์ สภุ าวฒั นพันธ์ รองผ้อู านวยการ (ดา้ นวิชาการ) รองผอู้ านวยการ (ด้านบรหิ าร) รองผอู้ านวยการ (ดา้ นบริการ) ศนู ย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

5 คณะกรรมการบรหิ าร โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน นางเลขา ปราสาททอง ผูอ้ านวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ นางวจั นา ชา่ งทอง นางกมลทพิ ย์ จุตาทิศ นายธรี วฒั น์ สุภาวัฒนพันธ์ หัวหน้าห้องปฏิบัตกิ ารพยาธวิ ิทยาคลินิก หวั หนา้ ห้องปฏิบัติการจลุ ชีววทิ ยา หวั หนา้ ห้องปฏบิ ตั ิการรงั สแี ละเครือ่ งมือแพทย์ นางวาทนิ ี ดรบุญล้น นางเพยี งใจ วงศ์สุวรรณ นางเตยี งทอง วงษ์กาฬสินธุ์ นางสาวดาราวรรณ เวียงยศ หวั หน้าห้องปฏิบัติการเคมี ดา้ นพษิ วทิ ยา หวั หนา้ ห้องปฏบิ ตั กิ ารเคมี ด้านอาหาร หัวหนา้ ฝา่ ยบริหาร หัวหน้ากล่มุ พัฒนาคุณภาพ และยาเสพติด ยา เคร่ืองสาอาง และสมนุ ไพร และวิชาการ ศูนยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๖ โครงสร้างหน่วยงาน โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน อธิบดี ผู้อานวยการ ศูนยฯ์ คณะบรหิ ารจดั การด้านวชิ าการ คณะกรรมการระบบประกันคุณภาพ เจ้าหนา้ ทีค่ วามปลอดภยั ทางหอ้ งปฏิบตั ิการ (LSO) กลมุ่ พัฒนาคณุ ภาพ กลุ่มชันสตู รด้าน กลุ่มคุม้ ครองผู้บรโิ ภค ฝ่ายบริหาร และวชิ าการ สาธารณสขุ ดา้ นสาธารณสขุ ทวั่ ไป ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๗ โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน ศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ ๗ ขอนแกน่ จดั แบ่งโครงสร้างการบรหิ ารเปน็ ๑ ฝา่ ยและ ๓ กลมุ่ ดงั นี้ ฝ่ายบรหิ ารท่ัวไป ๑. งานบริหารทว่ั ไป ไดแ้ ก่ งานธรุ การ งานทรพั ยากรบุคคล งานการเงินและบญั ชี งานพสั ดุ งานอาคาร สถานท่ี งานยานพาหนะ ๒. ศนู ยร์ วมบรกิ าร ๓. ดา้ นประชาสัมพนั ธแ์ ละประสานงานกับหน่วยงานภายนอก กลุ่มพฒั นาคณุ ภาพและวชิ าการ ๑. ประสานงานการจดั ทาแผนงาน/โครงการต่างๆ ติดตามความก้าวหนา้ สรุปและประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน ๒. ดาเนนิ งานประกันคุณภาพหอ้ งปฏิบตั ิการ ๓. ดาเนินการพฒั นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและขอ้ มลู ขา่ วสารดา้ นวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๔. ประสานงานการดาเนนิ งานด้านพฒั นาองค์กร ๕. สนับสนุนด้านวิชาการและดา้ นประกนั คุณภาพห้องปฏิบตั กิ ารแกห่ น่วยงานเครือข่าย กลมุ่ คมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคด้านสาธารณสุข การตรวจวเิ คราะหค์ ณุ ภาพและความปลอดภัยของผลิตภณั ฑ์สุขภาพ ได้แก่ อาหาร นา้ ยา ผลิตภณั ฑ์จาก สมุนไพร ยาเสพตดิ วัตถอุ อกฤทธิ์ตอ่ จิตและประสาท เครือ่ งสาอาง วตั ถอุ นั ตราย เคร่อื งกาเนิดรงั สเี อกซ์ และ เครื่องมอื แพทย์ เพอื่ ควบคุมคณุ ภาพผลติ ภณั ฑ์ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานกาหนด ประกอบการขน้ึ ทะเบียน ผลติ ภณั ฑ์ การดาเนนิ คดตี ามกฎหมาย และสนับสนนุ การคมุ้ ครองผู้บรโิ ภค โดยแบ่งหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบเป็น ๓ งาน ดงั นี้ 1. ดา้ นอาหาร ๑. ตรวจวเิ คราะหค์ ุณภาพของอาหารและน้า ทังทางกายภาพ เคมี และจลุ ชวี วิทยา ๒. ตรวจวิเคราะห์สารตกคา้ ง สารปนเปอ้ื น วตั ถเุ จอื ปนท่ีใช้ในอาหาร เชน่ โลหะหนกั ยาฆ่าแมลง วตั ถกุ ันเสยี สารให้ความหวานแทนนา้ ตาล สีสงั เคราะห์ ๓. ตรวจวเิ คราะห์ และหาสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษทางจลุ ชีววทิ ยา เช่น โรคอุจจาระร่วง ๔. ศึกษาวิจัยและสนับสนนุ ดา้ นวชิ าการแก่หน่วยงานเครือขา่ ย เพอ่ื การคมุ้ ครองบรโิ ภคและแกไ้ ข ปญั หาสาธารณสุขในพืนที่ ศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๘ โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน 2. ด้านยาและเคร่อื งสาอาง ๑. ตรวจวิเคราะห์คณุ ภาพของยาส้าเรจ็ รูป วัตถดุ บิ ทน่ี ้ามาผลิตยา ทงั ทางกายภาพและทางเคมี เชน่ ปรมิ าณตวั ยาส้าคัญ การละลายของตัวยา ความสมา้่ เสมอของน้าหนกั ความเปน็ กรด-ดา่ ง (pH) ๒. ตรวจวเิ คราะหย์ าทางจุลชวี วิทยา เช่น ปริมาณเชือจุลนิ ทรียใ์ นยานา้ ยาจากสมุนไพร ๓. ตรวจเอกลักษณต์ ัวยาแผนปัจจบุ ัน ในผลติ ภัณฑ์ยาแผนปจั จบุ นั และยาแผนโบราณ ๔. ตรวจวิเคราะห์สารห้ามใชใ้ นเครื่องสา้ อาง ๕. ตรวจพิสูจนย์ าเสพตดิ ให้โทษและวตั ถอุ อกฤทธต์ิ ่อจิตและประสาท เพอื่ ประกอบการด้าเนินคดี เชน่ ยาบ้า เฮโรอีน ฝ่ิน กัญชา รวมทังน้ายาเคมที ี่ใชผ้ ลิตยาเสพติดเป็นตน้ ๖. ตรวจหาสารระเหยในวตั ถขุ องกลาง เช่น โทลูอีนในกาวเปน็ ตน้ ๗. ศกึ ษาวจิ ยั และสนับสนุนด้านวิชาการแกห่ น่วยงานเครอื ขา่ ย เพ่ือการคมุ้ ครองบรโิ ภคและแกไ้ ข ปญั หาสาธารณสขุ ในพืนที่ 3. ด้านรังสแี ละเครอื่ งมอื แพทย์ ๑. ตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภยั ในการใช้งานของเครอื่ งเอกซเรย์ หอ้ งเอกซเรย์ และวัสดุ ปอ้ งกันรงั สี ๒. ให้คา้ ปรึกษาและความรเู้ กี่ยวกบั การปฏิบัติงานและการป้องกันอันตรายจากรังสี ๓. ตรวจสอบคณุ ภาพผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เชน่ ถงุ ยางอนามยั ๔. สอบเทียบมาตรฐานเครอ่ื งวดั แอลกอฮอลจ์ ากลมหายใจ (Breath Analyzer) ๕. ศึกษาวิจัยและสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการแก่หนว่ ยงานเครือขา่ ย เพ่ือการคุม้ ครองบริโภคและแกไ้ ข ปญั หาสาธารณสุขในพืนที่ ศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๙ โครงสรา้ งผ้บู ริหารและโครงสรา้ งหนว่ ยงาน กลุม่ ชันสตู รดา้ นสาธารณสขุ ตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน รักษาโรค และส่งเสริม สุขภาพทางด้านโรคติดเชือและโรคไม่ติดเชือ ตรวจวเิ คราะห์ตัวอย่างทางด้านคลินิก นิติเวช สารเสพตดิ เพื่อ สนับสนุนการตรวจวินิจฉัยรักษา การด้าเนินคดีทางกฎหมาย และการเฝ้าระวังสุขภาพผู้ประกอบอาชีพท่ี เสี่ยงต่อสารพษิ โดยแบ่งหนา้ ท่คี วามรับผิดชอบเปน็ ๒ งาน ดงั นี 1.ดา้ นพยาธวิ ิทยาคลินิก ๑. ตรวจยืนยันด้านโรคติดเชอื เช่น โรคไข้เลอื ดออก ไขห้ วดั ใหญ่ ไวรสั ซกิ า (Zika virus) โรคติดเชอื ระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ( MERS-CoV) โรคเอดส์ โรคอจุ จาระร่วง เชอื ก่อโรคคอตีบ โรคหัด โรคหัดเยอรมนั และ Legionella ในนา้ ๒. ตรวจยืนยนั ดา้ นโรคตดิ ไมต่ ดิ เชอื เช่น โรคธาลัสซเี มีย เป็นตน้ ๓. ตรวจแยกสายพนั ธขุ์ องเชอื กอ่ โรคอจุ จาระรว่ งเพ่อื เฝา้ ระวงั ทางระบาดวิทยาและเฝา้ ระวังการดือยา ๔. เป็นห้องปฏิบตั กิ ารอา้ งอิง ดา้ นโรคอบุ ัติใหมอ่ ุบตั ิซ้า โดยใช้เทคโนโลยี ด้านอณวู ทิ ยาชันสูง (Advanced Molecular Detection Laboratory :AMD Lab.) ๕. สนับสนุนวสั ดุอปุ กรณ์ชนั สตู ร ได้แก่ VTM เปน็ ต้น ๖. ศึกษาวิจัยและสนบั สนุนดา้ นวิชาการแก่หน่วยงานเครอื ขา่ ย เพือ่ สนับสนุนการควบคุม ปอ้ งกันโรค และแก้ไขปญั หาสาธารณสุขในพนื ที่ 2.ด้านพิษวทิ ยา ๑. ตรวจวิเคราะหเ์ พือ่ หาชนิดและปริมาณสารพษิ ในตัวอย่างจากรา่ งกาย เชน่ เลือด น้าล้างกระเพาะ ปสั สาวะ และสิ่งสง่ ตรวจอืน่ ๆ ๒. ตรวจพิสจู นห์ าสารเสพติดและ วัตถอุ อกฤทธติ์ อ่ จติ และประสาทในปัสสาวะ เช่น ยาบ้า และ กญั ชา เพื่อประกอบการด้าเนินคดตี ามกฎหมาย ๓. ตรวจเอกลกั ษณห์ ายารกั ษาโรคในตัวอย่างจากร่างกาย เชน่ Benzophenone ,Barbiturates, Paracetamol ๔. ตรวจหาระดบั เอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลอื ดและซีรมั่ ๕. ตรวจวเิ คราะห์ด้านชีวอนามยั เชน่ ระดับตะก่วั ในเลอื ด ๖. ตรวจวิเคราะห์หาปริมาณแอลกอฮอลใ์ นเลือดและซรี มั่ เพอ่ื สนับสนนุ การดา้ เนนิ งานตาม พระราชบัญญตั จิ ราจรทางบก และการเฝา้ ระวังอบุ ัติเหตุทางท้องถนนตามนโยบายขอบรัฐบาล ๗. สนับสนุนชดุ ทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะและปัสสาวะควบคมุ ผลการทดสอบใหก้ บั หนว่ ยงาน ในพนื ท่ี ๘. ศกึ ษาวิจัยและสนบั สนุนด้านวิชาการแกห่ นว่ ยงานเครือขา่ ย เพอ่ื สนับสนนุ การแกไ้ ขปัญหา สาธารณสขุ ในพนื ท่ี ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๑๐ พื้นท่รี บั ผดิ ชอบ พ้นื ท่รี ับผดิ ชอบ ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ่ี ๗ ขอนแก่น รับผิดชอบพน้ื ท่ี ๔ จงั หวัด “ร้อยแกน่ สารสินธ”ุ์ ได้แก่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม รอ้ ยเอ็ด ขอนแก่น กาฬสนิ ธ์ุ ร้อยเอด็ ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น มหาสารคาม Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen Annual Report 2019

๑๑ ททรรัพัพยยากำกรบร ุคคล ทรพั ยากรบคุ คล บคุ คลกรอบอตั รากาลงั ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ ตำแหน่ง ข้ำรำชกำร ลกู จำ้ งประจำ พนกั งำน พนกั กระทรวง รวม (คน) (คน) (คน) รำชกำร (คน) สำธำรณสุข (คน) ๑. ผอู้ ำนวยกำร ๑ - - -๑ ๒. นักจดั กำรงำนท่วั ไป ๒ - - ๓๕ ๓. นักวทิ ยำศำสตร์ ๑๑ - ๒ ๗ ๒๐ กำรแพทย์ ๔. นกั เทคนิคกำรแพทย์ ๓ - ๑ -๔ ๕. เภสชั กร ๑ - - -๑ ๖. นกั ฟสิ ิกสร์ งั สี ๑ - - -๑ ๗. เจ้ำพนกั งำนธุรกำร ๑ - - ๓๔ 8. เจ้ำพนักงำนวทิ ยำศำสตร์ ๒ - - -๒ กำรแพทย์ - - - ๑๑ 9. นักวิชำกำรเงนิ และบัญชี - ๑ - -๑ ๑๐. พนกั งำนพมิ พ์ - - - ๑๑ ๑๑. นักวชิ ำกำรคอมพวิ เตอร์ - ๓ - -๓ ๑๒. พนกั งำนห้องปฏบิ ตั กิ ำร - - - ๓๓ ๑๓. พนกั งำนบรกิ ำร ๒๒ ๔ ๓ ๑๘ ๔๗ รวม (คน) แผนภาพแสดงสัดส่วน จาแนกตามประเภทบุคลากร พนักกระทรวง ขา้ ราชการ สาธารณสุข 47% 38% พนกั งานราชการ ลูกจ้าง ประจา 6% 9% ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๑1๒2 ทรพั ยากรบคุ คล วฒุ ิการศกึ ษา วฒุ กิ ำรศึกษำ ข้ำรำชกำร ลูกจ้ำงประจำ พนกั งำน พนกั งำนกระทรวง รวม (คน) (คน) รำชกำร สำธำรณสขุ (คน) (คน) (คน) ๑.ต่ำกว่ำปริญญำตรี 2 3 ๔ 9 ๒.ปริญญำตรี 8 ๑ - 13 22 ๓.ปรญิ ญำโท ๑0 - 1 ๑๔ 4.ปริญญำเอก 2 - - - 2 22 4 ๑8 47 รวม (คน) 3 - 3 แผนภาพแสดงวฒุ ิการศึกษาของบคุ ลากร ปรญิ ญาเอก ตากวา่ ปริญญา 4% ตรี 19% ปรญิ ญาโท 30% ปรญิ ญาตรี 47% ศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

13งบประมาณ งบประมาณ ปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

14 เงินงบประมาณ งบประมาณ รายรบั (บาท) รายจา่ ย (บาท) 32,172,714.00 32,172,696.78 งบดาเนินงาน งบลงทนุ รายรับ (บาท) รายจ่าย (บาท) รายรับ (บาท) รายจา่ ย (บาท) 12,000,600.00 12,004,582.78 19,481,114.00 19,481,114.00 ค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ รายรบั (บาท) รายจ่าย (บาท) รายรบั (บาท) รายจ่าย (บาท) 9,823,483.70 9,823,466.48 คา่ ครภุ ณั ฑ์ 12,401,114.00 12,401,114.00 ค่าทดี่ นิ และสง่ิ ก่อสร้าง 7,080,000.00 7,080,000.00 คา่ ตอบแทนเภสัชกร/สมทบ 87,210.00 87,210.00 ประกันสังคม 2,093,906.30 2,093,906.30 คา่ สาธารณูปโภค งบประมาณเบกิ แทนกัน แผนภมู แิ สดงงบประมาณ ในปงี บประมาณ ๒๕๖2 รายรับ (บาท) รายจา่ ย (บาท) งบดาเนินงาน งบลงทุน งบประมาณเบิกแทนกัน 687,000.00 687,000.00 2% เบิกแทนสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา 37% (สนบั สนนุ การตรวจวเิ คราะหผ์ ลิตภณั ฑ์สุขภาพ) 61% ศนู ย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

15 เงินบารุง งบประมาณ สถานะเงินบารุง ณ วนั ท่ี ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๒ จานวน ๔๐,๙๗๖,๐๖๐.๓๑ บาท จาแนกไดด้ งั นี้ คงเหลือ กราฟแสดงรายรบั -รายจา่ ย เงนิ บารุง ปงี บประมาณ 2562 รายรบั -รายจ่าย รายจา่ ย ปเงี นิ2บ5า6ร2งุ ๓๑% รายรับ ๖๙% รายละเอยี ด รายรับ รายจา่ ย เงินบารงุ ในปงี บประมาณ ๒๕๖2 รายการ ยอดรวม(บาท) คงเหลือ(บาท) ๑. เงนิ บารงุ (ยอดยกมา ปี ๒๕๖๑ เทา่ กับ ๓๓,๘๕๔,๓๑๐.๑๓ บาท) ๔๐,๙๗๖,๐๖๐.๓๑ ๑.๑ รายรบั ๑๒,๗๑๔,๕๑๓.๙๙ - -รายได้จากการขายสินคา้ และบรกิ าร ๑๑,๖๗๗,๙๕๐.๐๐ -รายไดด้ อกเบย้ี เงนิ ฝากธนาคาร ๑๑,๒๖๓.๙๙ -รายไดอ้ ื่น (เงนิ โอนจากกรมฯ) ๑,๐๒๕,๓๐๐.๐๐ ๑.๒ รายจ่าย ๕,๖๐๒,๖๕๓.๒๑ -ค่าจ้างพนกั งานกระทรวงสาธารณสุข/ลกู จา้ งช่ัวคราว ๓,๓๖๔,๗๙๕.๘๐ -คา่ ตอบแทนใช้สอยและวัสดุ ๘๓๙,๙๐๖.๒๗ -ค่าสาธารณูปโภค ๑๖๗,๕๔๗.๒๓ -คา่ ครภุ ัณฑ์ - -คา่ ท่ีดนิ และสิง่ ก่อสร้าง ๕๕๔,๖๒๕.๐๐ -ส่งคืนค่าตรวจวิเคราะห์ - -คา่ กองทนุ สารองเลยี้ งชพี กสจ. และค่าสมทบ ๕๕,๕๘๑.๒๐ -ค่าประกันสังคมและค่าสมทบ ๑๖๐,๓๗๓.๐๐ -คา่ ตอบแทน นวพ.และนกั ฟิสิกส์รังสี ๑๘๒,๘๖๔.๕๑ -อ่ืนๆ (คา่ ลวงเวลา) ๒๖,๐๐๐.๐๐ ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

16 รายไดจ้ ากการขายสนิ คา้ และบรกิ ารในปงี บประมาณ ๒๕๖2 งบประมาณ ๓๙๘,๖๐๐.๐๐ บาท ยา อาหาร ๖,๓๘๐,๕๕๐.๐๐ บาท ๑,๓๘๓,๔๐๐.๐๐ บาท รังสีและ พยาธิวทิ ยา ๒,๕๔๔,๒๕๐.๐๐ บาท เครื่องมือ คลนิ ิก แพทย์ ๙๕๙,๔๕๐.๐๐ บาท ค่าคดั ๑๑,๗๐๐.๐๐ บาท พษิ วทิ ยา สาเนา- บริการ แผนภมู ิแสดงรายไดจ้ ากการขายสนิ ค้าและบริการในปงี บประมาณ ๒๕๖2 (คิดเปน็ เปอรเ์ ซน็ ต)์ 0.1% 21.8% 8.2% 11.8% 54.6% 3.4% คดั สำเนำ-บรกิ ำร พษิ วทิ ยำ พยำธิวิทยำคลินิก รังสแี ละเครื่องมอื แพทย์ อำหำร ยำ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์การแพทยท์ ่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๑๗ผลงานเดน่ ผลงานเดน่ ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๑๘ การพัฒนาเครือขา่ ยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยช์ ุมชน ผลงานเดน่ ด้านเคร่ืองสาอางสมนุ ไพร กมลทิพย์ จุตาทศิ ปวีณา สาลแี สง และธญั ญาภทั ร์ วัชรชยั พัฒน์ ในปี 2562 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ัวประเทศ คาปรึกษาคา แนะนา รวมถึงการวางแผนแก้ไขปัญหาการผลิต รวม 15 แห่ง ร่วมกับสานักเครื่องสาอางและวัตถุอันตราย และ เครื่องสาอางสมุนไพรแก่ผู้ประกอบการท่ีผลิตสมุนไพรขม้ินชัน สถาบันวิจยั สมุนไพร ได้ดาเนินการพัฒนาศกั ยภาพผู้ประกอบการ หรือบวั บก SME/OTOP ผลิตเครื่องสาอางสมุนไพร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาผลิตภัณฑ์เคร่ืองสาอางสมุนไพรให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน จากผลการดาเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสาอาง สอดคล้องเกณฑ์ FDA Thai Herb โดยได้คัดเลือกผู้ประกอบการ สมุนไพรในปี 2562 ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทยท์ ่ัวประเทศ เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 26 ราย 37 ผลิตภัณฑ์ เป็นผลิตภัณฑ์ จานวน 37 ผลิตภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์ 9 ผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ 24.3) สบู่มากท่ีสุด ร้อยละ 24.3 รองลงมาคือแชมพู ผลิตภัณฑ์ทาถู ทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาและยกระดบั คุณภาพให้มคี ุณภาพสอดคล้องกับ นวด และเซร่ัมบารุงผิวหน้า คิดเป็นร้อยละ 21.6, 10.8 และ เกณฑ์ FDA Thai Herb โดยผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรการทดสอบด้าน 10.8 ตามลาดับ มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาองค์ การปนเป้ือนเชื้อจุลิทรีย์ โลหะหนัก เอกลักษณ์สมุนไพร และ/ ความรู้และศักยภาพประกอบการ SME/OTOP และเจ้าหน้าท่ี หรือประสิทธิภาพการกันเสีย และผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานเป็น จากกรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ ด้านกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ประเภทสบู่ 4 ผลิตภัณฑ์ และแชมพู 2 ผลิตภัณฑ์ เคร่ืองสาอางสมนุ ไพรให้มคี ณุ ภาพได้มาตรฐานตามเกณฑค์ ุณภาพ และโลช่ันบารุงผิวกาย เซรั่ม และโทนิคบารุงผม อย่างละ 1 FDA Thai Herb ร ว ม ทั้ ง ห ม ด 8 3 ค น เ นื้ อ ห า ห ลั ก สู ต ร ผลิตภัณฑ์ ถึงอย่างไรพบว่าผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ผ่านมาตรฐาน ประกอบด้วย การเลือกใช้สารกันเสียในผลิตภัณฑ์เคร่ืองสาอาง เนื่องจากตรวจไม่พบเอกลักษณ์สมุนไพรในตารับ คิดเป็นร้อยละ การสกัดสมุนไพร การควบคุมคุณภาพสารสกัด และการทดสอบ 32.3 พบการปนเปื้อนจุลินทรีย์เกินมาตรฐานร้อยละ 6.2 ส่วน ความคงตัว เป็นต้น ผู้เข้ารับอบรมได้ฝึกปฏิบัติการเตรียม โลหะหนักพบเข้ามาตรฐานทกุ ตัวอย่าง เครอ่ื งสาอาง 2 ตารับ ไดแ้ ก่ การเตรยี มตารบั มาคสห์ น้าแล้วลอก ออก และการเตรียมตารับลิปสติกเหลว มีการประเมินความรขู้ อง ในส่วนการดาเนินงานของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้เข้าอบรมโดยวัดความรู้เปรียบเทียบผลคะแนนการทดสอบ ท่ี 7 ขอนแก่น ได้คัดเลือกผู้ประกอบ 2 ราย และผลิตภัณฑ์ 4 ความรู้ก่อนและหลังการฝึกอบรม โดยใช้สถิติด้วยวิธี Pair ผลิตภัณฑ์เข้าร่วมโครงการ เป็นผลิตภัณฑ์สบู่ 2 ผลิตภัณฑ์ Sample T-test พบว่าผู้เข้าอบรมมีความรู้หลังการฝึกอบรม ผลติ ภณั ฑโ์ ลช่ันและสบเู่ หลวอยา่ งละ 1 ผลิตภณั ฑ์ มีผลติ ภณั ฑ์ 2 แตกต่างจากก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ ผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพให้มีคุณภาพ ความเช่ือมั่น 95% และจากการประเมินความพึงพอใจใน สอดคล้องกับเกณฑ์ FDA Thai Herb โดยผลิตภัณฑ์สบู่ทั้งหมด ภาพรวมตอ่ การจัดอบรมครัง้ นี้อย่ใู นระดับมากทีส่ ุดคิดเปน็ ร้อยละ ส่วนอีก 2 ผลิตภัณฑย์ ังพบปัญหาตรวจไม่พบเอกลักษณ์สมุนไพร 93.4 หลังการฝึกอบรมได้ลงพื้นที่ร่วมกับสานักเครื่องสาอางและ ในตารับซึ่งต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาสูตรตารับ สารสกัด วัตถุอันตรายและสถาบันวิจัยสมุนไพร เพ่ือตรวจเยี่ยมให้ รวมถงึ ศกึ ษาความคงตวั ของผลิตภณั ฑต์ ่อไป ศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๑๙ การพฒั นาศกั ยภาพเครอื ขา่ ยหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทางการแพทยใ์ นเขตสขุ ภาพที่ ๗ เพอื่ การตรวจคน้ หา ผลงานเดน่ วณั โรครายใหม่ดว้ ยวิธี TB-LAMP ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๗ ขอนแก่น สถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ เครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจวณั โรค เขตสุขภาพท่ี ๗ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๗ ขอนแก่น ได้จัดทา เหลือจากการตรวจด้วยวิธี Xpert MTB/RIF และมีผลเป็น โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายห้องปฏิบัติการทาง บวก ๖๐ ตัวอย่าง ผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตัวอย่าง การแพทย์ในเขตสขุ ภาพท่ี ๗ เพ่ือการตรวจค้นหาวัณโรคราย กลมุ่ ที่ ๑ ซึง่ มผี ลบวกดว้ ยวธิ ี AFB ให้ผลการตรวจด้วยวิธี TB- ใหม่ด้วยวิธี TB-LAMP ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดาเนินการ LAMP Test เป็นบวก ๗๔ ตัวอย่าง (ผลสอดคล้องร้อยละ เร่งรัดยุติปัญหาวัณโรคของเขตสุขภาพที่ ๗ ระยะดาเนินการ ๙๕) และในตัวอย่างกลุ่มท่ี ๒ ซ่ึงมีผลลบวิธี AFB Xpert ระหว่างเดือนธนั วาคม ๒๕๖๑ ถึงเดือนกนั ยายน ๒๕๖๒ โดย MTB/RIF ๑๙๑ ตัวอย่าง ให้ผลการตรวจ Xpert MTB/RIF ประกอบด้วย ๒ กิจกรรมหลักคือ การฝึกอบรมบุคลากรทาง และ TB-LAMP Test เป็นบวก จานวน ๘๓ และ ๕๑ ห้องปฏิบัติการ และ การประเมินชุดตรวจ TB-LAMP เพ่ือ ตามลาดบั ซึ่งคิดเป็นการตรวจพบผลบวกเพิ่มขนึ้ เป็น ร้อยละ เป็นข้อมูลเบ้ืองต้นก่อนการพิจารณานาวิธีดังกล่าวไปใช้ใน ๔๓ และ ๒๙ ตามลาดับ และสาหรับกลุม่ ท่ี ๓ เป็นตัวอย่างท่ี งานประจา ซ่ึงการฝึกอบรมบุคลากรทางห้องปฏิบัติการได้ มีผลบวกด้วยวิธี Xpert MTB/RIF ให้ผลการตรวจเป็นบวก ดาเนินการแล้วในระหว่างวันท่ี ๑๑-๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ด้วยวิธี TB-LAMP Test จานวน ๕๑ ตัวอย่างจาก ๖๐ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าท่ีตรวจวัณโรค ตัวอย่าง (ร้อยละ ๘๕) อีก ๙ ตัวอย่างให้ผลเป็นลบ เมื่อ ของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในเขตสุขภาพท่ี ๗ สาหรับ วิเคราะห์ข้อมูลของตวั อยา่ งทีใ่ ห้ผลลบท้ัง ๙ ตัวอย่างนี้ พบว่า กิจกรรมที่สองได้เริ่มการประเมินชุดตรวจ TB-LAMP ใน ผลบวกด้วยวิธี Xpert MTB/RIF อยู่ในช่วง Low, Very low เดือนเมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งห้องปฏบิ ัติการที่เขา้ ร่วมดาเนินการ และ Trace เป็น ๑, ๔ และ ๔ ตัวอย่างตามลาดับ ท้ังนี้เมื่อ มีจานวน ๔ แห่ง คือ โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาล นาข้อมูลตัวอย่างที่มีผลบวกด้วยวิธี Xpert MTB/RIF จาก ร้อยเอ็ด โรงพยาบาลมหาสารคาม และ สานักงานควบคุม กลุ่มที่ ๑, ๒ และ ๓ จานวน ๒๑๙ ตัวอย่างเปรียบเทียบกับ ป้องกันโรคท่ี ๗ ขอนแก่น โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี ผลการทดสอบด้วยวิธี TB-LAMP test พบผลบวกตรงกัน ๗ ทาหน้าที่ประสานการดาเนินการและได้รับงบสนับสนุน จานวน ๑๘๐ ตัวอย่าง คดิ เป็นรอ้ ยละ ๘๒ จากข้อมลู เบอ้ื งตน้ จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์- แสดงอนุมานได้ว่า หากนาวิธี TB-LAMP test ทดสอบใน การแพทย์ และมีการประชุมติดตามและประเมินผลการ กลุ่มตัวอย่างท่ีให้ผลลบด้วยวิธี AFB ก็จะสามารถเพ่ิมการ ดาเนินงานอย่างต่อเน่ืองทกุ ๆ สองเดือน ผลการประเมนิ การ ตรวจพบผูป้ ่วยได้เพิ่มขี้นถึงร้อยละ ๒๙ และเมื่อเปรียบเทียบ ตรวจวัณโรคด้วยวิธี TB-LAMP ของเครือข่ายห้องปฏิบัติการ กับการทดสอบในตัวอย่างกลุ่มที่เป็นผลบวกด้วยวิธี Xpert ท่ีเข้าร่วมโครงการ ซึ่งตัวอย่างที่ได้ทาการทดสอบมีจานวน MTB/RIF หากนาวิธี TB-LAMP test ทดสอบในตัวอย่างที่ ๓๒๙ ตัวอย่าง แยกเป็น ๓ กลุ่มดังนี้ กลุ่มท่ี ๑ คือ ตัวอย่าง AFB ใหผ้ ลการทดสอบทง้ั ลบและบวก จะสามารถลดปริมาณ เสมหะที่เหลือจากการตรวจด้วยวิธี AFB และมีผลเป็นบวก การทดสอบด้วยวิธี Xpert MTB/RIF ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ (Scanty, ๑+, ๒+ และ ๓+) จานวน ๗๘ ตัวอย่าง กลุ่มท่ี ๒ ซ่ึงจะส่งผลให้ได้การรายงานผลการตรวจที่รวดเร็วและ ลด คือ ตัวอย่างเสมหะที่เหลือจากการตรวจด้วยวิธี AFB และมี ระยะเวลาการรอคอยผลการตรวจอันจะนาไปสกู่ ารสนับสนุน ผลเปน็ ลบจานวน ๑๙๑ ตวั อย่าง กล่มุ ท่ี ๓ คือ ตัวอย่างที่ การควบคมุ และป้องกันวัณโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยงิ่ ขน้ี ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen Annual Report 2019

๒๐ ผลงานเดน่ โครงการพัฒนาเครือข่ายวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ชุมชน การพฒั นาอาเภอศนู ยแ์ จ้งเตือนภยั เฝา้ ระวัง และรับเรอ่ื งร้องเรยี นปัญหาสุขภาพในชมุ ชน อาเภอหนองนาคา จังหวัดขอนแก่น ศภุ ลักษณ์ พรง้ิ เพราะ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ได้ หน่วยงานต่าง ๆ โดยมีนายอาเภอหนองนาคาเป็น เล็งเห็นความสาคัญของการดาเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ประธาน สาธารณสุขอาเภอเปน็ เลขานุการ โรงพยาบาล ในระดับอาเภอซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สาคัญในการพัฒนา หนองนาคา เกษตรอาเภอหนองนาคา โรงเรียนหนอง- งาน โดยเพิ่มศักยภาพและยกระดับศูนย์แจ้งเตือนภัยฯ นาคา เทศบาล องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล สถานตี ารวจ ให้เป็นอาเภอต้นแบบศูนย์แจ้งเตือนภัย เฝ้าระวัง และรับ ตัวแทนผู้นาชุมชน สานักงานสาธารณสุขจังหวัด และ เรื่องร้องเรียนปัญหาสุขภาพ มีการดาเนินงานผ่าน ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น มีการค้นหา คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ(พชอ.) ซึ่ง ปัญหาในชุมชน โดยปัญหาท่ีพบท่ีต้องรีบแก้ไขอย่าง สอดรับกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข “อาเภอสุขใจ : เร่งด่วน ได้แก่ การปนเป้ือนสารเคมีในผัก ผลไม้ เส้นทางการพัฒนา พชอ. สู่ความย่ังยืน” เน้นการ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การดาเนินการของคณะทางาน ทางานอย่างบูรณาการทุกภาคส่วนท้ังภาครัฐและเอกชน พชอ. อาเภอหนองนาคา สามารถส่งผลกระทบให้กับ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาตามบริบทในพื้นท่ี อาเภอหนอง ชุมชนหรือสังคมเกิดการรับรู้ สร้างความตระหนัก นาคา จ.ขอนแกน่ เปน็ อาเภอท่มี ีความเขม้ แขง็ โดยศวก. ปรับเปล่ียนพฤติกรรม ต่อยอดและสร้างนวัตกรรม เกิด ที่ 7 ขอนแก่นได้พัฒนาศักยภาพให้เป็นอาเภอต้นแบบ มาตรการทางสังคม กฎระเบียบการใช้สารเคมีในชุมชน เครือข่ายศูนย์แจ้งเตือนภัย เพื่อเฝ้าระวังและรับเร่ือง ห้ามใช้ ห้ามนาเข้า และห้ามจาหน่ายสินค้าแบน 3 ชนิด ร้องเรี ย น ปัญ ห าผลิตภัณ ฑ์สุ ขภาพใน ชุมชน มี ในพื้นที่ ได้แก่ พาราควอต คลอรไ์ พรีฟอส และไกลโฟเซต โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลจานวน 5 แห่ง เพราะมีอันตรายต่อประชาชนและตกค้างในสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบ 35 หม่บู า้ น มี อสม.วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ เปน็ ระยะเวลานาน มกี ารสนับสนุนการใชน้ า้ หมกั ชวี ภาพ ชุมชน จานวน 70 คน ที่ผ่านการอบรมและการ แทนปุ๋ยและสารเคมีในการเกษตร นาไปสู่ต้นแบบ ประเมินตามเกณฑ์คุณภาพอาเภอต้นแบบศูนย์แจ้งเตือน “หนองนาคาโมเดล” ทาให้ประชาชนในพ้ืนท่ีมีคุณภาพ ภัยฯ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์ แจง้ ชีวิตทดี่ มี ีความยง่ั ยืน เตือนภัยฯท้ัง 5 แห่งผ่านการประเมินในระดับเข้มแข็ง แ ล ะ ล ง ท ะ เ บี ย น ใ น ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ข อ ง Annual Report 2019 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ “กรมวิทย์ With You” (http://alert.dmsc.moph.go.th) อาเภอหนองนาคา สามารถดาเนินการและขยายผลได้ด้วยตนเอง สรรหา งบประมาณจากหน่วยงานภายนอกและภายในอาเภอ มี รปู แบบการทางานร่วมกันเปน็ ภาคีเครือขา่ ยจาก ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๑งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ งานวิจัย/โครงการ/ โครงการบูรณาการ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๒ การตรวจวนิ จิ ฉัยโรคหัด และหัดเยอรมนั ตามโครงการกำจัดโรคหัด ตามพันธะสญั ญา นานาชาติ งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ นภัสวรรณ บญุ สาธร, รศั มี ออมสนิ และ วิทยา ศรีภักดี โครงการกำจัดโรคหัด ตามพันธะสัญญานานาชาติ มีจำนวนตัวอย่างส่งตรวจยืนยันหัด และหัดเยอรมันโดยวิธี ของประเทศไทย เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๓ ELISA จำนวน ๑๘๓ ตัวอย่าง มีตัวอย่างที่ให้ผลบวกต่อหัด โดยกำหนดให้มรี ะยะเวลาดำเนินการตง้ั แต่ วันที่ ๑ ตุลาคม และหัดเยอรมันร้อยละ ๒๘.๔ (๕๒ ตัวอย่าง) และร้อยละ ๒๕๕๓ ถึงวันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เพื่อลดอุบัติการณ์ ๓.๔ (๗ ตัวอย่าง) ตามลำดับ มีการส่งตรวจหาสายพันธ์ุหัด การเกิดโรคหัด ในประเทศไทยลงเหลือไม่เกิน ๑ รายต่อ โดยวิธี RT-PCR จำนวน ๓๓ ตัวอย่าง มีตัวอย่างที่ให้ผล ประชากรหน่ึงล้านคนภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ พบว่าชว่ งแรก บวกต่อหัด และหัดเยอรมันร้อยละ ๔๕.๕ (๑๕ ตัวอย่าง) ข อ งก ารด ำเนิ น งาน (ปี พ .ศ . ๒ ๕ ๕ ๓ -๒ ๕ ๕ ๗ ) มี และร้อยละ ๐ ตามลำดบั ความก้าวหน้าในการกำจัดโรคหัดเป็นอย่างมาก ทำให้มี การรายงานจำนวนผู้ป่วยสงสัยหัด และยืนยันหัดลดลง ปัญหาที่พบสำหรับการส่งตัวอย่างตรวจในเขต อย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าผลการดำเนินงานยัง สุขภาพที่ ๗ พบว่าการส่งตัวอย่างตรวจหาแอนติบอดีเพื่อ ไมไ่ ดต้ ามเปา้ หมายท่ตี ัง้ ไว้ ยืนยันโรคหัด และการส่งตรวจหาสายพันธุ์ยังคงต่ำกว่า เกณฑ์ที่กำหนดเม่ือเปรียบเทียบกับจำนวนประชากร และ สำหรับการดำเนินงานในปีพ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ ได้ ยังพบว่าช่วงระยะเวลาการเก็บตัวอย่างส่งตรวจยังไม่ ตง้ั เป้าหมายสำหรับการเฝา้ ระวงั โรคหดั โดยกำหนดให้มี ๑. ถูกต้องมีเพียงร้อยละ ๒๗-๓๕ ท่ีเก็บถูกต้องคือเก็บในช่วง เพมิ่ และรกั ษาระดับความครอบคลมุ การได้รับวัคซีนหัดเข็ม วันที่ ๔-๓๐ หลังออกผื่น สาเหตุอาจเน่ืองจากการขาดการ ท่ี๑ และเข็มท่ี๒ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๙๕ ในทุกพ้ืนท่ี ๒. รับรู้ และความเข้าใจของบุคลากรทางการแพทย์ ซ่ึงศูนย์ อัตราการรายงานผปู้ ่วยไข้ออกผื่น หรือผปู้ ่วยสงสัยโรคหัด/ วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี ๗ ขอนแก่นได้นำเสนอ และให้ หัดเยอรมัน ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๒ รายต่อประชากรแสนคน ความรกู้ ับเจ้าหน้าท่ีห้องปฏิบัติการถึงข้อมูลโรค วิธีการเก็บ ทุกกลุ่มอายุเป็นรายจังหวัด และเก็บตัวอย่างเพ่ือส่งตรวจ ตัวอย่าง และข้อมูลจากการตรวจวินิจฉัยในงานประชุม ยืนยัน Measles IgM ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ในทุกพ้ืนที่ เครือข่ายห้องปฏิบัติเขตสุขภาพท่ี ๗ เมื่อวันที่ ๒๖ และตรวจยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสโรคหัดไม่น้อยกว่าร้อย กันยายน ๒๕๖๒ ละ ๘๐ ของเหตุการณ์การระบาด ๓.ขยายเครือข่าย ห้องปฏิบัติการให้สามารถตรวจสายพันธุ์ของไวรัสด้วยวิธี Annual Report 2019 ท า ง อ ณู ชี ว โม เล กุ ล (RT-PCR) ไ ด้ ทุ ก ภ า ค โด ย ห้องปฏิบัติการต้องได้รับการรับรองระบบคุณภาพจาก องคก์ ารอนามัยโรค ห้องปฏิบัติการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๗ ขอนแก่น ให้บริการตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM ต่อเชื้อ ไวรัสโรคหัด และหัดเยอรมันโดยวิธี ELISA ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และเริ่มให้บริการตรวจหาสายพันธุ์ (Genotype) ไวรัสโดยวิธี RT-PCR ต้ังแต่ปีพ.ศ. ๒๕๕๙ โดยได้รับการ รับรองระบบคุณภาพจากองค์การอนามัยโรค ในปี ๒๕๖๒ ศูนยว์ ิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๓ การพัฒนาศักยภาพหอ้ งปฏิบัตกิ ารเครอื ขา่ ย และเฝ้าระวงั เช้ือด้อื ยาตา้ นจลุ ชีพ ปี 2562 งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ วัจนา ช่างทอง และทนงศกั ด์ิ เศษออ่ น เช้ือดื้อยาต้านจุลชีพเป็นปัญหาสำคัญทางการแพทย์ 3 โรงพยาบาล ซ่ึงมีผลการดำเนินงานที่แตกต่างกัน คือ และสาธารณสุขทั่วโลก โดยทั่วไปการเกิดภาวะดื้อยา มีสาเหตุ โรงพยาบาลขอนแก่น มีการดำเนินการขั้นสูง (advance : จากพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะอยา่ งไมเ่ หมาะสม สถาบันวิจัย 356 คะแนน) โรงพยาบาลสิรินธร มีการดำเนินการข้ันปาน วิทยาศาสตร์สาธารณสุข (สวส.) ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ กลาง (intermediate : 293 คะแนน) โรงพยาบาลชุมแพมี การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพ การดำเนินการข้ันปานกลาง (intermediate:328 คะแนน) ห้องปฏิบัติการเครือข่าย และเฝ้าระวังเชื้อ ด้ือยาต้านจุลชีพ และจังห วัดกาฬ สิน ธุ์ มี การ ดำเนิ น การข้ัน ป าน กลาง ประจำปี 2562 มีการดำเนินงานจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนา (intermediate : 342 คะแนน) โดยสรุปโรงพยาบาลในเขต ศักยภาพห้องปฏิบัติการเครือข่าย และเฝ้าระวังเชื้อด้ือยาต้าน สุขภาพท่ี 7 มีระบบจัดการการดอื้ ยาตา้ นจลุ ชีพอย่างบูรณาการ จุลชีพ ประสานโรงพยาบาลเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 7 เข้าร่วม (AMR) ร้อยละ 100 มีนวัตกรรมท่ีสามารถเป็นแบบอย่าง คือ โครงการฯ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่โรงพยาบาลขอนแก่น การนิเทศ แลกเปล่ียนเรียนรู้ระดับจังหวัด และเครือข่ายเขต โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลชุม สุขภาพที่ 7 ประกอบด้วย ทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เพ่ือ แพ โรงพ ยาบ าลร้อยเอ็ด โรงพ ยาบ าลกาฬ สินธุ์ และ พัฒนาระบบการลดเช้ือด้ือยาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน การ โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ่ึงทั้ง 7 แห่ง ส่งข้อมูลผลการ วิเคราะห์และพัฒนาแนวทางระดับเขต เช่น ระบบการส่งต่อ ทดสอบความไวของเชื้อต่อยาต้านจุลชีพมายงั ศูนย์ฯ และ สวส. ผู้ป่วยดื้อยาโดยเช่ือมโยงกับระบบ Refer แนวทางด้านการ ทุกเดือน และวิเคราะห์ผลการทดสอบความไวของเช้ือต่อยา ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล แนวทางมาตรฐานการตรวจ ต้านจุลชีพของโรงพยาบาลเครือข่ายเพื่อจัดทำ antibiogram ทางห้องปฏิบัติการ เป็นต้น การเข้าร่วมดำเนินการระบบเฝ้า ระดับเขตสุขภาพ ประจำปี 2561 ( มกราคม–ธันวาคม2561 ระวังเช้ือดื้อยาระดับโลก (Global Antimicrobial Resistance ) และประจำปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน 2562) โดยจัดส่ง Surveillance System : GLASS) มี จ ำ น ว น 2 แ ห่ ง คื อ antibiogram ให้ สวส. รวบรวมในภาพรวมระดับประเทศ โรงพยาบาลขอนแก่น และโรงพยาบาลศรีนครินทร์ สำหรับ ต่อไป และประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ของศูนย์ฯ ซง่ึ เช้ือดื้อยา การส่ง antibiogram โรงพ ยาบ าลเป้ าห ม ายระดั บ A,S ท่ีเป็นปัญหาสำคัญในการติดเชื้อในกระแสเลือด 8 เช้ือ ได้แก่ เครือข่ายเขตสุขภาพที่ 7 มีการส่ง antibiogram จำนวน 3 Acinetobacter spp. , Staphylococcus aureus, แหง่ คิดเป็นร้อยละ 75.0 ได้แก่ รพ. ขอนแก่น, รพ. ร้อยเอ็ด, Escherichia coli, Klebsiella pneumoniae, รพ. กาฬสินธุ์ สรุปผลการสุ่มตรวจสอบ antibiogram จาก Pseudomonas spp., Salmonella spp., Enterococcus โรงพยาบาลเป้าหมายระดับ A,S เครือข่ายเขตสุขภาพท่ี 7 faecium และ Streptococcus pneumoniae พบว่าเช้ือดื้อ จำนวน 3 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 และ antibiogram ท่ี ย ายั งก ล่ า ว ดื้ อ ต่ อ ย า ม า ก ท่ี สุ ด ดั งต่ อ ไป น้ี Co-trimoxazole, สุ่มตรวจมีความถูกต้อง (ไม่มีการพบข้อบกพร่องหลัก (Major PenicIllin,Ampicillin,Ampicillin/Sulbactam, Imipenem, Error) จำนวน 2 แห่ง คือ รพ. ขอนแก่น, รพ. ร้อยเอ็ด คิด Ampicillin, Ampicillin และ Tetracycline ตามลำดับ มีการ เป็น ร้อยละ 67.0 ดังนั้นการติดตามการพัฒนาการจัดการ นิเทศติดตามการพัฒนาศักยภาพหอ้ งปฏิบัติการโรงพยาบาลใน การด้ือยาต้านจุลชีพอย่างบรู ณาการในโรงพยาบาล (AMR) ต้อง เครือข่ายเพื่อการเฝ้าระวังเช้ือด้ือยาต้านจุลชีพ ( AMR ) อาศัยความรว่ มมือของเครือข่ายในการดำเนินงานร่วมกนั ท้ังใน ร่ ว ม กั บ ก า ร ต ร ว จ ร า ช ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุ ข ก ร ณี ป ก ติ ด้านการควบคุม กำกับดูแลการใช้ยาปฏิชีวนะ การพัฒนาการ จำนวน 4 จังหวัด พบว่าตัวชี้วัดร้อยละของโรงพยาบาลท่ีมี ตรวจทางห้องปฏิบัติการ การป้องกันควบคุมการแพร่กระจาย ระบบจัดการการด้ือยาต้านจุลชีพอย่างบูรณาการ(AMR)ของ ของเช้ือในโรงพยาบาล เพ่ือให้ผลการดำเนินงานมีการพัฒนา จังหวัดมหาสารคาม มีการดำเนินการขั้นสูง (advance : 366 อยา่ งต่อเน่ือง และยงั่ ยนื คะแนน) จังหวัดร้อยเอ็ด มีการดำเนินการขั้นปานกลาง (intermediate: 346 คะแนน) จังหวัดขอนแกน่ มีเปา้ หมาย Annual Report 2019 ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๔ เครอื ข่ายพฒั นาคุณภาพมาตรฐานห้องปฏิบตั ิการทางการแพทย์ ปี 2562 งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ วัจนา ช่างทอง และธรี วัฒน์ สุภาวฒั นพนั ธ์ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระดับบริการตามแผนการ ความชำนาญในการตรวจวินิจฉัยวัณโรค ซ่ึงเป็นการเพ่ิมขีด พัฒนาโครงสร้างระบบบริการสุขภาพ ออกเป็นหลายระดับ ความสามารถเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจวัณโรคของเขต ได้ แ ก่ ร ะ ดั บ ป ฐ ม ภู มิ (Primary care) ร ะ ดั บ ทุ ติ ย ภู มิ สุขภาพที่ 7 ซึ่งนำไปสู่การส่งเสริมประสิทธิภาพการตรวจทาง (Secondary care) และระดับตติยภูมิ (Tertiary care) โดย ห้องปฏิบัติการให้มีความรวดเร็ว และครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงมาก มุ่งหวังให้แต่ละระดับมีทรัพยากรและศักยภาพให้บริการท่ี ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเข้าร่วมประชุมจัดทำ คู่มือการตรวจสอบ จำเป็นและเหมาะสม ตลอดจนเชื่อมโยงเพื่อให้มีการให้บริการ คุณภาพการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยในระบบดิจิตอลของสำนัก สุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้รับบริการสามารถเข้าถึง รังสีและเคร่ืองมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จดั อบรม บริการได้อย่างท่ัวถึง และมีคุณภาพตามหน่วยบริการในระบบ ถ่ า ย ท อ ด อ ง ค์ ค ว า ม รู้ เค รื อ ข่ า ย พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ม า ต ร ฐ า น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดังน้ันห้องปฏิบัติการทางการ ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เขตสุขภาพที่ 7 เกี่ยวกับการ แพทย์ และรังสีการแพทย์ จำเป็นต้องนำระบบคุณภาพมา ประเมินประสิทธิภาพการใช้วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์และ ดำเนินการอยา่ งสม่ำเสมอต่อเนื่อง การส่งเสริมสนับสนุนการ การกำหนดเกณฑ์ศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาล พัฒนาระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการการแพทย์ เป็นภารกิจ ระดับต่าง ๆ ในเขตสขุ ภาพที่ 7 และมาตรฐานหอ้ งปฏิบัตกิ าร หนึ่งของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักมาตรฐาน ทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(MOPH) ห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพ่ือส่งเสริม รังสีวินิจฉัย จัดอบรมการพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการรังสี ให้ห้องปฏิบัติการมีการนำระบบคุณภาพไปดำเนินการ และ วินิจฉัยในโรงพยาบาลเขตสุขภาพท่ี 7 การควบคุมคุณภาพ พั ฒ น าคุ ณ ภ าพ ห้ อ งป ฏิ บั ติ ก าร ท างก าร แ พ ท ย์ มุ่ งสู่ ก า รข อ ภาพเอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล(DR/CR) และสัมมนาการพัฒนา รับรองห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ในปีงบประมาณ 2562 คุณภาพมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และรังสี ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ได้เล็งเห็น วินิจฉัย เขตสุขภาพท่ี 7 เพ่ือสรุปผลการดำเนินงาน ปี ความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเครือข่ายพัฒนา 25 6 2 และแผน การพั ฒ นาคุณ ภาพเครือข่ายระบบ คุณภาพหอ้ งปฏิบัติการทางการแพทย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ ห้องปฏิบัติการเขตสุขภาพที่ 7 ปี 2563 ผลการรับรอง พัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และรังสีวินิจฉัย มาตรฐานห้องปฏิบัติการ ของโรงพยาบาลเขตสุขภาพที่ 7 ปี ให้พฒั นาระบบคณุ ภาพ มุ่งสูก่ ารขอการรับรองห้องปฏิบัติการ 2562 ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเขต ตามมาตรฐาน ผลการพัฒนาระบบคุณภาพ มีการถ่ายทอด สุขภาพ 7 ผ่านการรบั รองมาตรฐานร้อยละ 61.84 ไม่ผ่าน องค์ความรู้เครือข่ายพัฒนาคุณภาพมาตรฐานห้องปฏิบัติการ การรับรองมาตรฐานหรือหมดอายุ ทุกมาตรฐาน ร้อยละ ทางการแพทย์เขตสุขภาพที่ 7 เกี่ยวกับการประเมิน 38.16 ไม่เคยผ่านการรับรองมาตรฐาน ร้อยละ 11.84 ประสิทธิภาพการใช้วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ การ โดยแยกตามมาตรฐาน ISO 15189, ISO 15190 ร้อยละ กำหนดเกณฑ์ศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลระดับ 3.95, MOPH ร้อยละ 34.21 และ LA ร้อยละ 36.84 ต่างๆ ในเขตสุขภาพท่ี 7 และมาตรฐานห้องปฏิบัติการทาง พร้อมทั้งสรุปประเมินผลการดำเนินงาน และจัดทำแผนการ การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(MOPH) สำหรับกิจกรรมการ พัฒนาคุณภาพเครือข่ายระบบห้องปฏิบัติการเขตสุขภาพท่ี 7 พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ห้ อ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร ท า ง ก า ร แ พ ท ย์ อ บ ร ม เชิ ง ปี 2563 ดังนั้นการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาระบบ ปฏิบัติการการตรวจวัณโรคทางห้องปฏิบัติการด้วยเทคนิค คุณภาพห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และรังสีวินิจฉัย จึงมี Tuberculosis-Loop-mediated isothermal ampli - ความจำเป็นที่ต้องมีการสนบั สนุนดา้ นนโยบายการพัฒนา และ fication (TB-LAMP) เพื่อให้บุคลากรท่ีเก่ียวข้องมีทักษะ งบประมาณ เพื่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพต่อไป ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๕ การตรวจทางเภสัชพนั ธศุ าสตร์ เพื่อปอ้ งกนั การเกดิ อาการแพย้ า งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ สุทธกิ านต์ สมบัตธิ รี ะ, อธชิ า มหาโยธา และวจั นา ชา่ งทอง การตรวจหายนี แพย้ า HLA-B allele ในผู้ปว่ ยกอ่ น ตรวจ ได้แก่ ผู้ป่วยใช้สิทธิกองทุนประกันสังคม และสิทธิ การได้รับยาเป็นการป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ การรักษาอ่ืน ๆ โรงพยาบาลสามารถส่งตัวอย่างพร้อม ทางระบบผิวหนังชนิดรุนแรง คือ Steven-Johnson แบบใบนำส่ง และมีหนังสือถึงอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์- Syndrome (SJS) ห รือ Toxic Epidermal Necrolysis การแพทย์ (ผ่านผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ (TEN) จากยา ซ่ึงพบว่าถ้าผู้ป่วยท่ีตรวจพบยีนเหล่าน้ีจะมี ท่ีจะส่งตรวจ) เพื่อนำตัวอย่างเข้าโครงการของขวัญปีใหม่ ความเส่ียงที่จะเกิดการแพ้ยาสูงข้ึนกว่าคนท่ีไม่พบ ตามที่ ส่ ว น ยี น HLA-B*58:01 allele แ ล ะ HLA-B*57:01 กระท รวงสาธารณ สุขมีน โยบ ายด้านการแพ ท ย์แม่น ยำ allele ผู้ป่วยท่ีใช้สิทธิสวัสดิการข้าราชการสามารถเบิกได้ (Precision Medicine) จึงมอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์ ในปีงบประมาณ 2562 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 การแพทย์ขยายบริการตรวจทางเภสัชพันธุศาสตร์ เพ่ือ ขอนแก่น มีจำนวนตัวอย่างท่ีส่งตรวจ HLA-B allele เป็นการป้องกันการเกิดอาการแพ้ยาท่ีรุนแรงและเพิ่มการ ทั้งสนิ้ 13 ตัวอย่าง ได้แก่ HLA-B*15:02 allele จำนวน เข้าถึงบริการ โดยกำหนดให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 10 ตัวอย่าง พบว่ามีผลบวกจำนวน 1 ตัวอย่าง คิดเป็น ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศสามารถเปิดให้บริการตรวจยีนแพ้ ร้อยละ 10 HLA-B*58:01 จำนวน 3 ตัวอย่าง พบว่ามี ยา HLA-B allele ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ผลบวกจำนวน 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 33.3 และ ขอนแก่น ได้เริ่มเปิดบริการการตรวจยีนแพ้ยาตั้งแต่วันที่ HLA-B*57:01 ไม่มีตัวอย่างส่งตรวจ การที่ศูนย์วิทยา- 1 มกราคม 2562 เป็นต้นมา โดยเปิดให้บริการตรวจ 3 ศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น เปิดใหบ้ ริการตรวจยีนแพ้ รายการ คือ HLA-B*15:02 allele เพ่ือหลีกเล่ียงอาการ ยา ในปีงบประมาณ 2562 ทำให้เพ่ิมทางเลือก และ ที่เกิดจากการได้รับยา Carbamazepine ที่ใช้เพ่ือรักษา โอกาสการเข้าถึงการตรวจวิเคราะห์ท่ีจะช่วยให้การรักษา โรคลมชัก โรคทางจิตเวช และอาการปวดปลายประสาท เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ เปน็ ตน้ HLA-B*58:01 allele เพอ่ื หลกี เล่ียงอาการที่เกิด ผ้ปู ว่ ย จากการได้รับยา Allopurinol ท่ีใช้รักษาโรคเก๊าท์ นิ่วใน ไต และลดการสร้างกรดยูริคในร่างกาย เป็นต้น HLA- B*57:01 allele เพื่อหลีกเล่ียงอาการผ่นื แพ้ยาที่เกิดจาก การได้รับยา Abacavir ท่ีใช้รักษาการติดเช้ือ HIV สิทธิ การรักษาสามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิของผู้ป่วยโดยยีน HLA-B*15:02 allele ผู้ ป่ วย ที่ ใช้ สิ ท ธิห ลั ก ป ระกั น สุขภาพแห่งชาติ และสวัสดิการข้าราชการ สามารถเบิกได้ ส่วนผู้ป่วยที่ไม่มีสิทธิประโยชน์รองรับค่าใช้จ่ายในการ ศูนยว์ ิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๖ โครงการสำรวจข้อมูลการปนเปื้อนเบื้องต้นของสารเคมีกำจดั วัชพชื ชนดิ ไกลโฟเสท (Glyphosate), งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ อาทราซีน (Atrazine), พาราควอต (Paraquat) และ 2,4-ดี (2,4-D) ในแหล่งน้ำดิบสำหรับผลติ นำ้ ดื่มประชารฐั นางวาทนิ ี ดรบญุ ลน้ และนางสาวชลธชิ า พุทธสอน ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มุ่งเน้นการ thickness), Injection volume ๑ µL, Helium flow rate ๑ . ๕ ml/min, Splitless mode, Inlet ผลิตพืชอาหารเพื่อการบริโภคท้ังภายในและภายนอก temperature ๒๕๐OC, Run time ๑๔.๔๓ minutes, Solvent delay ๖.๕๐ minutes และเตรียมตัวอย่างน้ำ ประเทศ ซึ่งผลักดันให้เกษตรกรไทยทำการเกษตรแบบ ด้วย Solid Phase Extraction ชนิด Carbon packing: Supelclean ENVI-Carb SPE Cartridge (Supelco) วิธี มุ่งเนน้ ผลผลิตด้วยการใช้เกษตรกรรมเคมีเตม็ รูปแบบ จาก ทดสอบท่ีได้สามารถแยกอาทราซีนออกจากสารอนุพันธ์ อื่น ๆ ได้ และตรวจวัดปริมาณอาทราซีนได้ท่ีความเข้มข้น ข้อมูลการนำเข้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร พบว่า ระดับไมโครกรัมต่อลิตร สำหรับการตรวจหาปริมาณ อาทราซีน ด้วยเทคนิค GC-MS วิธีการทดสอบสามารถ สารเคมีกำจัดวัชพืชมีการนำเข้าเป็นอันดับหนึ่ง โดย ตรวจวัดปริมาณอาทราซีนได้ที่ความเข้มข้นต่ำสุดที่ ๐.๕ ไมโครกรัมต่อลิตร และได้ค่าความสัมพันธ์เชิงเส้นของ สารเคมีกำจัดวัชพืช ๔ ลำดับแรกที่มีปริมาณการนำเข้า ความเข้มข้นในช่วง ๐.๕ – ๘.๐๐ ไมโครกรัมต่อลิตร โครงการได้เลือกพื้นที่เสี่ยงท่ีมีการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช สูงสุด ได้แก่ ไกลโฟเสต (Glyphosate) พาราควอท สูง จำนวน 3 แหล่ง/เขตบริการสุขภาพ โดยเก็บตัวอย่าง แหล่งละ 2 ตัวอย่าง (น้ำดิบและน้ำดื่ม) และควบคุม (Paraquat), ๒,๔-D และอาทราซีน(Atrazine) จากที่มี คุณภาพการเก็บตัวอย่างด้วยตัวอย่างน้ำควบคุมคุณภาพ ภาคสนาม (Field Blank) จากพ้ืนท่ีเขตบริการสุขภาพท่ัว การใช้อย่างแพร่หลายและขาดการควบคุม ส่งผลให้เกิด ประเทศ จำนวน 15 แห่ง ได้จำนวนตัวอย่างรวม 135 ตัวอย่าง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๗ ขอนแก่น ได้ ปัญหาการปนเปื้อนในดินและแหล่งน้ำ จากรายงาน ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำตามโครงการน้ำดื่มประชารัฐใน เขตบริการสุขภาพท่ี ๗ ในพ้ืนท่ีจังหวัดขอนแก่น จำนวน การศึกษาหลายชิ้นบ่งชี้ถึงการปนเปื้อนอาทราซีนในแหล่ง ๓ แหล่ง และรับตัวอย่างน้ำส่งต่อจากศูนย์วิทย์ฯ ทั่ว ประเทศ ผลการตรวจวิเคราะห์หาปรมิ าณอาทราซีนพบว่า ต้นน้ำ และยังพบในน้ำด่ืมบรรจุขวดอีกด้วย อาทราซีน มีตัวอย่างน้ำ จำนวน ๓ ตัวอย่าง มีอาทราซีนปนเปื้อนใน ป ริ ม าณ ท่ี น้ อ ย ก ว่ าค่ า ค ว า ม เข้ ม ข้ น ต่ ำ สุ ด ที่ วิ ธี ส า ม า ร ถ เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืชกลมุ่ triazine ประเภทดูดซึมและ ตรวจวัดเชิงปริมาณได้ เป็นตัวอย่างน้ำใต้ดินใช้เป็นน้ำดิบ สำหรับผลิตน้ำด่ืมประชารัฐ ข้อมูลที่ได้จะนำไปสรุปใน กำจัดแบบเจาะจง ใช้ควบคุมการงอกของเมล็ดวัชพืชและ ภาพรวมของท้ังโครงการประกอบกับข้อมูลแวดล้อมใน พ้ืนที่ ซ่ึงจะทำให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นของสภาวะการ กำจัดในระยะเริ่มงอก อาทราซีนมีพิษเฉียบพลันทางปาก ปนเป้ือนสารเคมีกำจัดวัชพืชท้ัง ๔ ชนิดในน้ำดิบและน้ำ ดมื่ ประชารัฐ (Preliminary Survey) ของทงั้ ประเทศ เพ่ือ ทางผิวหนัง อาจทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคือง ใช้เป็นข้อมูลนำเข้าสำหรับวางแผนการดำเนินงานในปี ต่อไป โดยผลการศึกษาการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัด เล็กน้อย มีผลกระทบต่อต่อมไร้ท่อ มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ วั ช พื ช ใ น น้ ำ ดิ บ ส ำ ห รั บ ผ ลิ ต น้ ำ ด่ื ม ป ร ะ ช า รั ฐ ส า ม า ร ถ ประเมินผลกระทบต่อสขุ ภาพของประชาชนจากการได้รับ และอาจกอ่ มะเรง็ ได้ สมั ผัสในภาพรวมของประเทศไดต้ อ่ ไป ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี ๗ ขอนแก่น ได้เข้า Annual Report 2019 รว่ มดำเนินงานโครงการสำรวจข้อมลู การปนเปือ้ นเบ้ืองต้น ของสารเคมีกำจัดวัชพืช ชนิดไกลโฟเสต, อาทราซีน พา ราควอต และ 2,4-ดี (2,4-D) ในแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิต น้ำดื่มประชารัฐ ซ่ึงเป็นโครงการบูรณาการเฝ้าระวัง เตือน ภัยสุขภาพ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ ท่ี ๗ ขอนแก่น ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตรวจ วิเคราะห์หาปริมาณอาทราซีนในน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำด่ืม ประชารัฐ ซึ่งได้พัฒนาวิธีตรวจวิเคราะห์หาปริมาณอาทรา ซีนในน้ำด้วยเทคนิค GC-MS สำหรับใช้เป็นวิธีมาตรฐาน ในการตรวจหาปริมาณอาทราซีนในน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำ ด่ืมประชารัฐ โดยใช้เคร่ือง GC-MS Model Agilent ๕๙๗๓ และมีเงื่อนไขการวิเคราะห์ ดังนี้ Column DB- ๑๗MS (๓๐ x ๐.๓๒ mm. i.d.x ๐.๒๕um. film ศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๗ โครงการสนับสนนุ การแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ และการควบคุมตวั ยาและสารเคมี งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ นางวาทิณี ดรบญุ ลน้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี ๗ ขอนแก่น ๑ ตัวอย่าง ตรวจพบ Methamphetamine HCl จำนวน ดำเนินงานตามภารกิจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใน ๑ ตัวอย่าง และตรวจไม่พบ จำนวน ๑ ตัวอย่าง จาก การให้บริการการตรวจพิสูจน์สารเสพติดในปัสสาวะ ของ ข้อมูลการให้บริการตรวจวิเคราะห์ พบว่าสามารถ กลางต้องสงสยั และสารระเหย ในพื้นที่บริการเขตสุขภาพ ให้บริการได้ ร้อยละ ๑๓๙.๖ ของเป้าหมาย มีรอบ ที่ ๗ และพ้ืนท่ีใกล้เคียง ดำเนินงานตามระบบควบคุม ระยะเวลาการให้บริการเฉลี่ยที่ ๕.๕ วันทำการ ผลการ คุณภาพห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานสากลรวมถึงการ ดำเนินการสนับสนุนชุดทดสอบเมทแอมเฟตามีนใน ให้บริการงานวิชาการด้านยาเสพติดแก่หน่วยงานในพื้นที่ ปัสสาวะ โดยการสนับสนุนผ่านศูนย์อำนวยการพลัง และการสนับสนุนชุดทดสอบเบื้องต้นหาเมทแอมเฟตามีน แผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของแต่ละจังหวัด จำนวน ๔ ในปัสสาวะสำหรับจังหวัดในพื้นที่ เป้าหมายของการ จังหวัด จังหวัดละ ๔,๐๐๐ ชุด รวมจำนวน ๒๐,๐๐๐ ชุด ดำเนินงานโครงการคือ สามารถให้บริการตรวจวิเคราะห์ การดำเนินการตามมาตรฐานคุณภาพ ศูนย์ฯ ได้สมัครเข้า ตลอดปี จำนวน ๕,๐๐๐ ตัวอย่าง ร่วมการทดสอบความชำนาญของห้องปฏิบัติการตรวจ ยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะ พบว่าผลการทดสอบใน ผลการดำเนินงานตามข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ พารามิเตอร์ที่เปิดให้บริการห้องปฏิบัติการสามารถ สิงหาคม ๒๕๖๒ พบว่าศูนย์ฯ สามารถดำเนินการ ดำเนินการทดสอบได้ถูกต้องทุกตัว สำหรับการทดสอบใน ให้บริการตรวจยืนยันหาสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน บางพารามิเตอร์อยู่ระหว่างการพัฒนาวิธีวิเคราะห์ เพื่อ ท้ังหมด ๖,๙๕๖ ตัวอย่าง ตรวจพบเมทแอมเฟตามีน สาม ารถ รอ งรับ ก ารให้ บ ริก ารใน พ้ื น ท่ี ได้ อ ย่ างมี ๕,๙๓๕ตัวอย่าง ตรวจพบกัญชา ๖๗ ตัวอย่าง ตรวจพบ ประสทิ ธิภาพ และจากการทบทวนกระบวนการพบว่าการ เมทแอมเฟตามีนและกัญชา ๔๕๔ ตัวอย่าง ตรวจไม่พบ สนับสนุนชุดทดสอบสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว สารเสพติด ๕๐๐ ตัวอยา่ ง สำหรบั การทดสอบหาสารเสพ ก่อนกำหนดเวลา เนื่องจากเครือข่ายท่ีเกี่ยวข้องมี ติดในของกลางและสารระเหย จำนวนทั้งหมด ๒๔ ผู้รับผิดชอบท่ีชัดเจนทำให้สามารถติดต่อประสานงานได้ ตัวอย่าง ตรวจพบ Toluene จำนวน ๑๔ ตัวอย่าง ตรวจ อย่างรวดเร็ว โดยสรุปผลการดำเนินงานด้านยาเสพติด พบ Toluene และ Ethyl acetate จำนวน ๔ ตัวอย่าง ทั้งหมดในภาพรวม ศูนย์ฯ สามารถดำเนินการได้ตามแผน ตรวจพบ Toluene และ Acetone จำนวน ๑ ตัวอย่าง ซึ่ ง ส า ม า ร ถ ต อ บ โจ ท ย์ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ตรวจพบ Toluene, Acetone และ n-Butyl acetate กระบวนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นท่ีบริการเขต จ ำ น ว น ๑ ตั ว อ ย่ า ง ต ร ว จ พ บ Toluene, Ethyl สุขภาพท่ี ๗ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปอย่าง acetate และ Methyl acetate จำนวน ๑ ตัวอย่าง ต่อเน่อื ง ตรวจพบ Methyl acetate และ Ethyl acetate จำนวน ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๘ แอลกอฮอล์ในเลอื ดของผู้ประสบอุบตั เิ หตุทางจราจรในเขตสขุ ภาพ ที่ 7 พ.ศ.2561 งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ ชลธชิ า พทุ ธสอน และวาทณิ ี ดรบุญลน้ อุบัติเหตุทางจราจรเนื่องจากเมาแล้วขับเป็น 61.32 โดยเป็นเพศชาย จำนวน 390 ราย คิดเป็น สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย ศูนย์ ร้อยละ 57.35 และมีตัวอย่างจำนวน 376 ราย ท่ีมี วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ให้บริการตรวจ ปรมิ าณแอลกอฮอล์เกนิ กฎหมายกำหนด (มากกว่า 50 วิเค ราะ ห์ ระ ดั บ แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ใน เลื อ ด ด้ วย วิธี mg% ) คิ ด เป็ น ร้อ ย ล ะ 5 5 .2 9 พ บ ว่าระดั บ Headspace Gas Chromatography รับผิดชอบดูแล แอลกอฮอล์ในเลือดมีค่าอยู่ในช่วง 101-200 mg% พื้นที่เขตบริการสุขภาพท่ี 7 จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ มากทส่ี ุด คดิ เป็นร้อยละ 22.5 ชว่ งอายขุ องผู้ทเ่ี มาแลว้ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ มี ขับที่พบมากท่ีสุดคือ 21-30 ปี คิดเป็นร้อยละ ตัวอย่างของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุทางจราจรท่ีนำส่งโดย 31.62 และผู้ที่เมาส่วนมากเป็นผู้ขับข่ีรถจักรยานยนต์ สถานพยาบาลและสถานีตำรวจจากจังหวดั ในพื้นที่เขต คดิ เปน็ รอ้ ยละ 61.18 ดังน้นั เพอื่ ลดการสูญเสียทัง้ ชีวติ บริการสุขภาพที่ 7 และพื้นที่ใกล้เคียง ระหว่างวนั ที่ 1 และทรัพย์สิน หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจึงควรรณรงค์การ มกราคม - 13 ธันวาคม 2561 จำนวน 680 ไม่ขับขี่รถขณะมึนเมาและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่าง ตัวอย่าง เป็นเพศชาย 617 ราย และเพศหญิง 63 เคร่งครดั อยา่ งต่อเนอ่ื ง ราย คิดเปน็ ร้อยละ 90.74 และ 9.26 ตามลำดับ ผล การท ดส อบ พ บ ว่ามี ตัวอย่างที่ ตรวจพ บ ระดั บ คำสำคญั : ระดบั แอลกอฮอล์ในเลือด, อบุ ตั เิ หตุทาง แอลกอฮอล์ในเลือดจำนวน 417 ราย คิดเป็นร้อยละ จราจร, เขตบริการสขุ ภาพ ท่ี 7 ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๒๙ การผลิตสารมาตรฐานกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทยแ์ ละอาเซียน (ต่อเนื่องปี 2562 - 2564) งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ กมลทพิ ย์ จุตาทศิ และปวีณา สาลแี สง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ได้ดำเนิน โครมาโทรกราฟีชนิดรีเวิร์สเฟส หรือใช้เครอื่ ง Semi-prep โครงการจัดทำสารมาตรฐานจากสมุนไพร โดยได้จัดทำ HPLC อีกครั้ง และจากการศกึ ษาตัวทำละลายที่เหมาะสม สารมาตรฐานจากสมุนไพรเถาวัลย์เปรียง (Derris สำหรับสกัดสาร GTG พบว่า MeOH ให้ Yield สูงสุด scandens (Roxb.) Benth.) เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่ถูก (1.16 %w/w) จึงเลือก MeOH เป็นตัวทำละลาย โดย บรรจุในบญั ชียาจากสมนุ ไพรในบัญชียาหลักแหง่ ชาติ มขี ้อ วัตถุดิบ 100 กรัม เม่ือสกัดด้วย MeOH และนำไปแยก บ่งช้ีในการบรรเทาอาการปวดกล้ามเน้ือ ลดการอักเสบ ต่อด้วยคอลัมน์โครมาโทรกราฟีชนิดนอร์มัลเฟสชะด้วย ของกล้ามเน้ือ และบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง และ อัตราส่วน Ehylacetate:MeOH (9:1) และคอลัมน์รี อาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)และ เวิร์ส เฟ ส ชะด้ วยอั ต ราส่วน ข อ ง Acetronitrile ท่ี เป็นสมุนไพร 1 ใน 5 ชนิด ท่ีมีการผลิตและใช้เยอะใน เหมาะสม จะได้สารมาตรฐานในเบ้ืองต้นประมาณ โรงพยาบาล นอกจากนี้สารมาตรฐาน Genistein 7-O- 106.25 มิลลิกรมั ซึ่งต้องไปทำให้บรสิ ุทธิ์มากข้ึน จากผล [-rhamnopyranosyl-(1→6)]--glucopyranoside การทดสอบเอกลักษณ์สาร GTG ท่ีแยกได้ในเบ้ืองต้น (GTG) ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดให้เป็น เทียบกับสารมาตรฐาน GTG ด้วยวิธี TLC และ HPLC สารเทียบในการควบคุมคุณภาพ ยังไม่มีบริษัทรายใดผลิต พบว่าให้ผลสอดคล้องกัน ดังน้ันเพ่ือเป็นการยืนยัน โดยการจดั ทำสารมาตรฐานมีบูรณาการการทำงานร่วมกับ โครงสร้างโมเลกุลและเอกลักษณ์ของสาร GTG ศูนย์ฯจะ สำนักยาและวัตถุเสพติด และเป็นโครงการต่อเน่ือง 3 ปี ส่งตัวอย่างตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วยวิธี NMR ที่คณะ (ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2562-2565) โดยในปี 2562 ต้อง วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ต่อไป ได้วธิ ีการต้นแบบในการผลติ สารมาตรฐาน นอกจากนี้ยังพบว่าในพบว่าในใบเถาวัลย์เปรียงยัง จากผลการดำเนินงานในปี 2562 ศูนย์ฯสามารถ แยกสารมาตรฐาน GTG ได้ท้ังหมด 8.10 กรัม โดยได้ พบสาร GTG และมีปริมาณมากพอควร ซ่ึงอาจเป็น สารที่มีความบริสุทธิ์ 90-92% ประมาณ 2.25 กรัม ถึง อย่างไรก็ตามต้องนำสารมาตรฐานไปแยกต่อด้วยคอลัมน์ ทางเลือกหนึ่งในการผลิตสารมาตรฐาน GTG จากใบ ซ่ึง จะช่วยลดการตัดลำต้นของเถาวัลย์เปรียงช่วยป้องกันการ สูญพนั ธ์ขุ องสมุนไพรชนิดนี้ได้ ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๐ โครงการประกนั คุณภาพยา ปงี บประมาณ 2562 งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ นางสาวธญั ญาภทั ร์ วชั รชยั พัฒน์ และนางกมลทิพย์ จุตาทศิ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น สำคัญ ความสม่ำเสมอของตัวยา การละลายของตัวยา ร่ ว ม กั บ ส ำ นั ก ย า แ ล ะ วั ต ถุ เส พ ติ ด ก ร ม วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ - และ Organic impurities ผลการทดสอบพบว่าตัวอย่าง การแพทย์ ได้ดำเนินงานตามโครงการประกันคุณภาพยา ยาเข้ามาตรฐาน 28 ตัวอย่าง (ร้อยละ 90.3) ผิด เพ่ือเฝ้าระวังคุณภาพยาท่ีจำหน่ายในสถานบริการของรัฐ มาตรฐาน 3 ตัวอย่าง (ร้อยละ 9.7) โดยตัวอย่างที่ผิด อย่างเป็นระบบ และเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ท่ีผ่านเกณฑ์ มาตรฐาน พบผิดมาตรฐานด้านความสม่ำเสมอของตัวยา คุณภาพทาง Mobile application ชื่อ GREEN BOOK และ organic impurities 2 ตัวอย่าง และผิดมาตรฐาน DMSC และหนังสือรายชื่อผลติ ภณั ฑ์ยาคุณภาพและผู้ผลิต ด้าน organic impurities 1 ตัวอย่าง ส่วนรายการการ (GREEN BOOK ) เพื่อให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องสามารถนำ ทดสอบปริมาณตัวยาสำคัญและการละลายของตัวยา ข้อมูลไปใช้เป็นแนวทางประกอบการพิจารณาคัดเลือก พบวา่ เข้ามาตรฐานทกุ ตวั อย่าง หรือกำหนดคุณลักษณะยาท่ีจัดซื้อ รวมถึงหน่วยงานท่ี ควบคุมกำกับดูแลระบบยาในประเทศ สามารถนำข้อมูล จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า คุณภาพยา ไปใช้ในการเฝ้าระวังและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา Enalapril Maleate ท่ี ตรวจวิเคราะห์ ตามโครงการ เกี่ยวกับคุณภาพยาในประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการ ประกันคุณภาพยาส่วนใหญ่มีคุณภาพดี แต่พบตัวอย่างยา กระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ผลิตยาในประเทศมีการพัฒนา เพียงบางส่วนผิดมาตรฐาน ดังน้ันหน่วยงานภาครัฐที่ คุ ณ ภ า พ ย า อ ย่ า ง ต่ อ เนื่ อ ง เพื่ อ ให้ มี คุ ณ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ เกี่ยวข้องควรเฝ้าระวังคุณภาพยาอย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้ มาตรฐานสากล ส่งเสริม/สนับสนุนการใช้ยาในประเทศ ประชาชนได้บริโภคยาท่ีมีคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่น ช่วยให้ ป ระห ยัด ค่าใช้จ่าย ลด ก ารน ำเข้ ายาจาก ใหบ้ ุคลากรทางแพทย์ในการสง่ั ใชย้ าที่ผลิตในประเทศ ต่างประเทศ สร้างความมั่นใจให้กับบุคลากรทาง ก า ร แ พ ท ย์ แ ล ะ ป ร ะ ช า ช น ใน ก า ร บ ริ โภ ค ย า ที่ ผ ลิ ต ใน ประเทศ สร้างความม่ันคงด้านยาของประเทศไทย จากผลการดำเนินงานตามโครงการประกัน คุณภาพยาในปีงบประมาณ 2562 ศูนย์วิทยาศาสตร์ การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น ได้รับตัวอย่างยาเม็ด Enalapril Maleate รวมจำนวน 31 ตัวอย่าง จากบริษัทผู้ผลิต 4 ราย ขนาดความแรง 5,10 และ 20 มิลลิกรัม จำนวน 16, 1 และ 14 ตัวอย่างตามลำดับ ทดสอบคุณภาพยา ตามมาตรฐานตำรายา USP 41 ในหัวข้อปริมาณตัวยา ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๑ โครงการคณุ ภาพสมนุ ไพรไทย ปี 2562 งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ กมลทิพย์ จุตาทศิ และทศพล นำปนสัก ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ได้ เก ณ ฑ์ แ ล ะ วิ ธี ม า ต ร ฐ า น ต า ม ต ำ ร า ย า Thai ดำเนินโครงการคุณภาพสมุนไพรไทย ร่วมกับสถาบันวิจัย Pharmacopoeia Volumes I and II Supplement สมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาตั้งแต่ปี 2545 2005 พบเข้ามาตรฐาน 4 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 80 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพ และผิดมาตรฐาน จำนวน 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 20 วตั ถุดบิ และผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรทผี่ ลติ โดยหน่วยงานภาครัฐ โดยตัวอย่างที่ผิดมาตรฐาน คือวัตถุดิบสมุนไพรขิง ตรวจ และเอกชนให้ได้มาตรฐานสากลและปลอดภัยต่อผบู้ ริโภค พบการปนเปือ้ นของเช้ือแบคทีเรยี Clostridium spp. เป็ น ก า ร ต อ บ ส น อ ง น โ ย บ า ย รั ฐ บ า ล ใ น ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้สามารถพ่ึงตนเอง จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ยา ได้ในด้านยา ลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน และสนับสนุน สมุนไพรและวัตถุดิบสมุนไพรยังพบปัญหาการปนเปื้อน การส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพร ในปีงบประมาณ 2562 ของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคโดยเฉพาะเช้ือแบคทีเรีย ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น ได้รับตัวอย่าง Clostridium spp. ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย ผลติ ภณั ฑย์ าสมุนไพรและวตั ถุดิบสมุนไพร ซ่ึงเป็นตวั อย่าง จากการบริโภคได้ ดังนั้นจึงควรเฝ้าระวังคุณภาพของ จากผู้ผลิตรายเดียว จำนวน 5 ตัวอย่าง ได้แก่ วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรอย่างต่อเน่ือง และหน่วยงานภาครัฐท่ี สมุนไพรจากไพล เถาวัลย์เปรียง และเพชรสังฆาต อย่าง เกี่ยวข้องควรส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาศักยภาพ ละ 1 ตัวอย่าง ยาแคปซูลสมุนไพรขิง และยาแคปซูล ผู้ประกอบการในด้านต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมและ ประสะจันทน์แดง ดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพตาม พฒั นาคณุ ภาพผลติ ภณั ฑ์สมุนไพรต่อไป ศูนยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๒ โครงการเฝ้าระวงั คณุ ภาพและความปลอดภยั ของผลิตภณั ฑ์สุขภาพรังสแี ละเครอ่ื งมอื แพทย์ งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ ในเขตสขุ ภาพท่ี 7 กลมุ่ คมุ้ ครองผู้บรโิ ภคดา้ นสาธารสขุ จากความก้าวห น้าท างวิท ยาศาสตร์และ มาตรฐานเกิดจากการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ยีสต์และราเกิน เทคโนโลยีทำให้ธุรกิจผลิตผลติ ภัณฑ์สุขภาพขยายตัวอย่าง มาตรฐาน พบเช้ือก่อโรค E. coli และ Salmonella รวดเร็ว ประกอบกับในปัจจุบันวิถีการดำรงชีวิตในสังคมท่ี spp. สว่ นผลิตภณั ฑ์จากน้ำโดยเฉพาะน้ำบริโภคในภาชนะ ต้องรีบเร่งและแข่งกับเวลา ทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภค บรรจุขวดที่ปิดสนิท พบผิดมาตรฐานถึงร้อยละ 20.2 ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยผู้ประกอบการมากข้ึน ทำให้ผู้ผลิต สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพบเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียเกิน ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขึ้นมามากมายและต้องเร่งการผลิตสินค้า มาตรฐาน ส่วนผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณพบผิดมาตรฐาน ให้ได้ปริมาณมากเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของ ร้อยละ 48.7 โดยตัวอย่างท่ีผิดมาตรฐานตรวจพบเชื้อก่อ ผู้บริโภค จนบางคร้ังขาดความตระหนักต่อคุณภาพและ โรค Clostridium spp. ถึงร้อยละ 89.5 ผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัยของสินค้า ทำให้เกิดสถานการณ์ท่ี เคร่ืองสำอางผสมสมุนไพรพบผิดมาตรฐานร้อยละ 23.1 ผู้บริโภคได้รับความไม่ปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ โดยพบการปนเป้ือนจุลินทรีย์ ยีสต์และราเกินมาตรฐาน สุขภาพอยู่บ่อยๆ ดังน้ันการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์สุขภาพจึง ส่วนการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ทางด้านรังสีและ เปน็ เร่อื งสำคญั เครื่องมือแพทย์ พบเคร่ืองวัดระดับแอลกอฮอล์จากลม หายใจผิดมาตรฐานมากท่ีสุด ร้อยละ 12.0 ซ่ึงสาเหตุเกิด จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลิตภัณ ฑ์สุขภาพ จาก Detector ผิดปกติ รองลงมาคือเครื่องเอกซเ์ รย์ และ ทางด้านยา อาหาร เครื่องสำอาง รังสแี ละเครื่องมือแพทย์ ห้องเอกซ์เรย์ ผิดมาตรฐานร้อยละ 3.7 และ 1.4 ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่นในปี ตามลำดบั 2562 พบมีตัวอย่างสง่ ทดสอบทั้งหมด 2,505 ตัวอย่าง เป็นตัวอย่างที่ทดสอบคุณภาพและความปลอดภัยรวม ดังนั้นการตรวจสอบเฝ้าระวังคุณภาพมาตรฐาน 2,368 ตัวอย่าง คิดเป็น ร้อยละ 94.5 ของตัวอย่างส่ง ของผลิตภัณฑ์สุขภาพ จึงเป็นกลไกสำคัญในการประเมิน ทดสอบทงั้ หมด พบผดิ มาตรฐาน 298 ตวั อย่าง (ร้อยละ สถานการณ์ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพ และใช้ 12.5) และตัวอย่างตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ยาคดี 131 เป็นข้อมูลให้หน่วยงานภาครัฐกำหนดแนวทางการจัดการ ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 5.2 ของตัวอย่างส่งทดสอบ ผลิตภณั ฑส์ ขุ ภาพของหนว่ ยงานภาครฐั เพอ่ื ใหผ้ ลติ ภัณฑม์ ี ทั้งหมด พบยาแผนปัจจุบัน 110 ตัวอย่าง (ร้อยละ คุณภาพและมีความปลอดภัย ช่วยลดปัจจัยเส่ียงด้าน 91.7) สุขภาพท่ีจะส่งผลกระทบต่อสุขภาวะท่ีดีของประชาชน แ ล ะ ยั ง ใ ช้ เป็ น ข้ อ มู ล ส ะ ท้ อ น ใ ห้ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร น ำ ไ ป ผลติ ภัณฑ์อาหารและเคร่อื งด่ืมท่ีพบผิดมาตรฐาน ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ท่ีมีคุณภาพ ส่วนใหญ่เป็น น้ำพริก ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ และ ปลอดภัยต่อไป เคร่ืองด่ืม โดยตัวอย่างท่ีผิดมาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 63.6, 43.7 และ 35.0 ตามลำดับ สาเหตุท่ีผิด ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๓ คณุ ภาพยาเม็ดแอมโลดิปนี Quality of Amlodipine Tablets งานวจิ ยั /โครงการ/โครงการบรู ณาการ ธญั ญาภทั ร์ วัชรชัยพัฒน์, ศุภลกั ษณ์ พรง้ิ เพราะ, ประภาพรรณ พิมพแ์ ก้ว และปวีณา สาลแี สง ยาเม็ดแอมโลดิปีน เป็นยากลุ่ม Calcium Channel ตัวอย่าง ตรวจวิเคราะห์คุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานตำรายา Blockers ชนิด dihydropyridine เป็นยาในบัญชียาหลัก ของสหรัฐอเมริกา ฉบับที่ 40 (USP 40) ในหัวข้อปริมาณตัว แห่งชาติ ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงและโรคท่ี ยาสำคัญ ความสม่ำเสมอของตัวยา การละลายของตัวยา และ เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดหัวใจ ในประเทศไทยมีจำหน่ายใน การตรวจหาสารปนเป้ือนอ่ืนๆที่ไม่ใช่ตัวยาสำคัญในตำรับ รูปแบบยาเม็ด ขนาดความแรง 2.5, 5 และ10 มิลลิกรัม ใน พบว่าเข้ามาตรฐาน 80 ตัวอย่าง(ร้อยละ 97.6)และผิด ปีงบประมาณ 2561 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 มาตรฐาน 2 ตัวอย่าง(ร้อยละ 2.4) ในหัวข้อความสม่ำเสมอ ขอนแก่นร่วมกับสำนักยาและวัตถุเสพติดและสำนักงาน ของตัวยา ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในคร้ังน้ี สามารถนำไปใช้ คณะกรรมการอาหารและยา เฝ้าระวังคุณภาพยาแอมโลดิปีน เป็นข้อมูลประกอบในการคัดเลือกยาให้กับหน่วยงานที่ ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย โดยสุ่ม เก็บ ตัวอย่างจาก ให้บริการด้านสาธารณสุข โดยข้อมูลเหล่านี้ จะถูกเผยแพร่ใน โรงพยาบาล ด่านคลังสินค้าและบริษัทยา จำนวน 82 หนังสือรายชอื่ ผลิตภัณฑย์ าคณุ ภาพและผูผ้ ลติ (Green book) ตัวอย่าง 21 ทะเบียนตำรับ แบ่งเป็นขนาดความแรง 5 มิลลิกรัม จำนวน 46 ตัวอย่างและ 10 มิลลิกรัม จำนวน 36 คำสำคญั : แอมโลดปิ ีน, คุณภาพ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๔งานบรกิ าร งานบรกิ าร ศนู ยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๕ ดา้ นอาหาร งานบรกิ าร ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๗ ขอนแกน่ ดาเนนิ การทดสอบผลติ ภัณฑส์ ขุ ภาพดา้ นอาหารรวม 1,253 ตวั อยา่ ง พบคณุ ภาพผดิ มาตรฐาน 219 ตัวอยา่ ง คดิ เป็นร้อยละ 17.5 จาแนกเป็นเป็นตัวอย่างก่อนจาหน่าย 756 ตัวอยา่ ง ผดิ มาตรฐาน 144 ตัวอยา่ ง คดิ เป็นรอ้ ยละ 19.0 และตัวอย่างหลงั จาหนา่ ย 484 ตวั อย่างผิดมาตรฐาน 75 ตวั อย่าง คดิ เป็นร้อยละ 15.5 ดังรายละเอียดดงั แสดงตามตารางที่ ๑ และ ๒ ตารางท่ี ๑ ผลการตรวจวเิ คราะห์ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพดา้ นอาหาร : กอ่ นจาหนา่ ย (Pre-Marketing) ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหนา่ ย (Pre-Marketing) ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจ ไม่เขา้ มาตรฐาน ทง้ั หมด ตัวอยา่ ง รอ้ ยละ รายการทดสอบทไี่ มผ่ า่ น (ตวั อยา่ ง) ๑. อาหารกาหนดคุณภาพหรอื มาตรฐาน 587 92 15.7 1.1 นาบริโภคในภาชนะบรรจุท่ปี ดิ สนทิ 378 60 15.9 -Coliforms + Nitrate(1), -Coliforms + E_coli +Total ๑.๒ นาแข็ง ๑๐๐ Harness(1) ,Coliforms + Total solid (1) - Fluoride (1) -Coliforms(51) Coliforms +E_coli(4) Coliform +E_coli + Salmonellae(1) ๑๒ ๑๒.0 -Total Solids+Chloride(๑) - Coliforms (๓) -Salmonella spp. (๑) -Coliforms+E. coli (๔) -Coliforms+E. coli+S. aureus (๑) -Coliforms+Salmonella spp.(๒) ศูนย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๖ ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหน่าย (Pre-Marketing) งานบรกิ าร ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจทง้ั หมด ไมเ่ ขา้ มาตรฐาน รายการทดสอบที่ไมผ่ า่ น (ตวั อยา่ ง) ตัวอย่าง รอ้ ยละ ๑.๓ เครอื่ งดมื่ ในภาชนะบรรจทุ ี่ปิดสนทิ ๗๓ ๒๐ ๒๗.๔ - B.cereus (๒) ๑.๔ นมโค - Benzoic acid + ยสี ต์และ ๑.๕ ไอศกรมี รา + MPN Coliforms (๑) ๒. อาหารควบคมุ ฉลาก - Benzoic acid + ๒.๑ ขนมปัง Saccharin + ยีสต์และรา (๑) ๒.๒ ขนม - ยีสต์และรา (๔) ๒.๓ ผลติ ภัณฑ์เนือสตั ว์แปรรปู - ยสี ต์และรา + MPN (ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ ลกู ชนิ ) Coliforms (๒) -แหนม - ยีสต์และรา + MPN -กนุ เชยี ง Coliforms + Bacillus -ลูกชนิ cereus (๑) -หมูแดดเดยี ว - MPN Coliforms + -หมูสวรรค์ Bacillus cereus (๒) -หมูฉกี - MPN Coliforms (๖) -ไส้กรอกอีสาน - Escherichia coli (๑) -หมยู อ ๓๕ ๐ 0 ๑ ๐๐ 27 6 22.2 ๖ ๐๐ ๔ ๐๐ ๑ ๐๐ ๕ ๐๐ ๔ ๓ ๗๕.๐ - benzoic acid (๓) - benzoic acid + Nitrate (๑) ๑ ๐๐ ๑ ๐๐ ๑ ๐๐ ๑ ๑ ๑๐๐ - MPN E.coli ,S.aureus(๑) ๓ ๒ ๖๖.๗ - Benzoic acid (2) ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๗ ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหนา่ ย (Pre-Marketing) งานบรกิ าร ประเภทผลติ ภณั ฑ์ ตรวจทง้ั หมด ไม่เขา้ มาตรฐาน รายการทดสอบทไี่ มผ่ า่ น ๓. อาหารท่ัวไป (ตัวอยา่ ง) ตัวอย่าง รอ้ ยละ ๓.๑ ปลาสม้ ๓.๒ นาปลารา้ 47 5 10.6 ๓.๓ ปลารา้ บอง ๓.๔ นาพรกิ ๓ ๒ ๖๖.๗ - MPN E.coli, ๓.๕ นาสลดั Salmonella spp.(๒) ๓.๖ นาดีววั ๓.๗ ไขเ่ คม็ ๒๒ ๐ ๐ ๓.๘ นากระเทียมดอง ๑ ๐๐ ๓.๙ แป้งข้าวฮาง ๓.๑๐ เสน้ ก๋วยเต๋ยี ว ๙ ๒ ๒๒.๒ - benzoic acid (๒) ๓.๑๑ งาดา ๔. น้าเพอ่ื อปุ โภค / บรโิ ภค ๑ ๐๐ ๔.๑ นาประปา ๒ ๑ ๕๐.๐ - Clostridium ๔.๒ นาทใ่ี ช้ในการผลติ perfringens (๑) ๑ ๐๐ รวม ๒ ๐๐ ศูนย์วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ่ี 7 ขอนแกน่ Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen ๓ ๐๐ ๒ ๐๐ ๑ ๐๐ 95 41 43.2 ๓๑ ๒๗ ๘๗.๑๐ -pH(๒),Iron(๓) -Coliforms(๓),pH+Total solid+Chloride (๑) -pH+Chloride (๑) -pH+Iron (๑),pH+Iron +Coliforms+Fecal Coliforms(๑) -pH+Coliforms+Fecal Coliforms(๒) -Total solid+Total Hardness (๑) ๖๔ ๑๔ ๒๑.9 -Total Hardness(๒) -Coliforms(๑๑) -Salmonella spp.(๑) 756 144 19.0 Annual Report 2019

๓๘ ตารางท่ี ๒ ผลการตรวจวเิ คราะห์ผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพดา้ นอาหาร : หลงั จาหนา่ ย (Post-Marketing) งานบรกิ าร ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหนา่ ย (Post-Marketing) ประเภทผลติ ภณั ฑ์ ตรวจทง้ั หมด ไมเ่ ข้ามาตรฐาน รายการทดสอบทไ่ี มผ่ ่าน (ตวั อยา่ ง) ตวั อย่าง รอ้ ยละ ๑.อาหารกาหนดคณุ ภาพหรือมาตรฐาน 409 63 15.4 1.1 นาบรโิ ภคในภาชนะบรรจุที่ปดิ สนทิ 295 50 16.9 -Coliform + Nitrate(1), ๑.๒ นาแขง็ ๐ -Coliform + Total ๑.๔ นมโค ๕๖ ๑.๓ เครอื่ งดม่ื ในภาชนะบรรจุทีป่ ิดสนทิ ๑๒ Harness(1) , ๑.๕ เกลอื เสรมิ ไอโอดีน ๔๖ -Coliform +E_coli(5) ๑.๓ เครอื่ งดม่ื ในภาชนะบรรจุท่ีปิดสนิท ๑๒ -Coliform(37) -pH(2) -Total Harnes(3),Iron (1) ๐๐ ๒ ๓.๖ โปรตนี (๑) ,B. cereus (๑) ๖ 50.๐ - Benzoic acid (๔) - Benzoic acid + Saccharin (๒) ๕ ๑๐.๙ ปริมาณไอโอดีน -ตา่ กวา่ มาตรฐาน (๒) -สูงกวา่ มาตรฐาน (๓) ๖ 50.๐ - Benzoic acid (๔) - Benzoic acid + Saccharin (๒) ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ่ี 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๓๙ ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหนา่ ย (Post-Marketing) งานบรกิ าร ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไม่เขา้ มาตรฐาน รายการทดสอบทไี่ มผ่ า่ น ๒. อาหารควบคุมฉลาก (ตวั อย่าง) ตวั อย่าง รอ้ ยละ ๒.๑ ผลติ ภณั ฑ์จากเนอื สตั ว์ 10 5 50.0 -ไส้กรอก (ไสก้ รอกอสี าน, ไสก้ รอกหมู) ๓ ๓ ๑๐๐.๐ -Nitrate+ -หมแู ดดเดียว Staphylococcus aureus (๒) -หมหู วาน -Nitrate+ -หมูหยอง Salmonella spp.(๑) -หมยู อ ๑ ๑ ๑๐๐ -Staphylococcus ๓. อาหารทว่ั ไป ๓.๑ ปลาส้ม aureus (๑) ๓.๒ ปลาร้าบอง ๓.๓ นาปลารา้ ๑ ๐๐ ๓.๔ นาพริก ๓.๕ อาหารปรุงสาเรจ็ ๒ ๐ ๐ - Benzoic acid (๑) ๓.๖ อาหารสายยาง ๓ ๑ ๓๓.๓ ๓.๗ อาหารแช่แขง็ ๔. น้าเพอื่ อปุ โภค / บริโภค 41 3 7.3 ๔.๑ นาประปา ๓ ๑ ๓๓.๓ - Bacillus cereus (๑) ๔.๒ นาทใ่ี ช้ในการผลติ ๕ ๐๐ ๔ ๑ ๒๕.๐ - benzoic acid (๑) ๖ ๑ ๑๖.๗ - benzoic acid (๑) 16 0 0 ๖ ๐๐ ๑ ๐๐ 18 4 22.2 ๑๗ ๔ ๒๓.๕๓ -Coliforms(๒) -Total solid+ Coliforms(๑) - Coliforms+ Fecal Coliforms(๑) ๑ ๐๐ ศนู ย์วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๐ ผลการดาเนนิ งานก่อนจาหนา่ ย (Post-Marketing) งานบรกิ าร ประเภทผลติ ภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไม่เข้ามาตรฐาน รายการทดสอบท่ีไมผ่ า่ น ๕. อื่นๆ (ตวั อยา่ ง) ตัวอย่าง ร้อยละ ๕.๑ swab อุปกรณ์ 6 00 -ภาชนะสัมผสั อาหาร -มือสมั ผสั อาหาร ๔ ๐๐ ๒ ๐๐ รวม 484 75 15.5 ศนู ย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๑ ดา้ นยา/สมุนไพร งานบรกิ าร ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี 7 ขอนแก่น ให้บริการทดสอบคุณภาพมาตรฐาน ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณและสมุนไพร ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ยาคดี และรวมถึงการ ปนปลอมยาแผนปัจจุบันในเครื่องดื่มสมุนไพร เพื่อเป็นการเฝ้าระวังด้านคุณภาพเพ่ือความ ปลอดภัยของผู้บริโภค โดยในปีงบประมาณ 2562 ได้รับตัวอย่างทังหมด 320 ตัวอย่าง พบผิดมาตรฐาน 218 ตัวอย่าง (ร้อยละ 68.1) เป็นตัวอย่างตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ยา 243 ตัวอย่าง มากท่ีสุดคิด เป็นร้อยละ 75.9 รองลงมาคือทดสอบการปนเป้ือนจุลินทรีย์ ร้อยละ14.4 และทดสอบคุณภาพคุณภาพยาแผน ปัจจบุ นั รอ้ ยละ 9.7 รายละเอียดดังแสดงตารางท่ี ๓ ตารางที่ ๓ ผลการตรวจวเิ คราะหผ์ ลติ ภัณฑส์ ขุ ภาพดา้ นยา และสมุนไพร ผลการดาเนนิ งาน ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไมเ่ ข้ามาตรฐาน รายการทดสอบทไี่ มผ่ า่ น (ตัวอยา่ ง) ตวั อยา่ ง ร้อยละ 1.ทดสอบคณุ ภาพยาแผนปัจจุบันตาม 31 5 16.1 content uniformity(3) โครงการประกนั คณุ ภาพยา organic impurity (2) Enalapril maleate Tablets 2.ยาแผนโบราณ/สมนุ ไพร ๔๖ ๒๒ ๔๗.๘ ๒.๑ เฝ้าระวังคณุ ภาพการปนเป้ือน - -- เชอื จลุ ินทรีย์ ๖ ๒ ๓๓.๓ Total aerobic microbial - จลุ นิ ทรยี ก์ ่อโรค ๓ ชนิด - ตามมาตรฐานตารายา count (1), Total aerobic microbial count และ ๒.๒ โครงการคุณภาพสมุนไพรไทย ๕ Clostridium spp. (1) ๒.๓ ผลติ ภัณฑช์ มุ ชน - ๑ ๒๐.๐ Clostridium spp. (1) -- ๒.๔ ผปู้ ระกอบการ ๓๒ - ขึนทะเบยี นตารับยา ๓ ๑๗ ๕๓.๑ Clostridium spp. (17) - การปนเปื้อนเชือจลุ นิ ทรยี ต์ าม ๒ ๖๖.๗ Clostridium spp. (2) มาตรฐานตารับยา - -- ๒.๕ การปนปลอมยาแผนปจั จุบันและ จุลนิ ทรีย์ก่อโรค ๓ ชนิด ศูนยว์ ิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๒ ผลการดาเนนิ งาน งานบรกิ าร ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไม่เขา้ มาตรฐาน (ตัวอย่าง) รายการทดสอบท่ีไมผ่ ่าน ๓.ตรวจพสิ จู น์เอกลกั ษณย์ า ๓.๑ ยาคดี 243 ตวั อย่าง รอ้ ยละ 196 191 78.6 170 86.7 พบ Trimethoprim/Sulfamet hoxazole (2), amoxicillin (5), ibuprofen (3), tetracycline (1), piroxicam (2), paracetamol (6), dexamethasone (1), CPM (5), thiamine (1), prednisolone (2), aluminium (2), disulfuram (1), diclofenac (1), indomethacin (2), cyproheptadine (1), sibutamine (21), hydroxyzine (3), caffeine (2), bisacodyl (14), fluoxetine (41), fluoxetine/sibutamine (37), bisacodyl/sibutamine (2), diazepam (2), niacinamide (3), sibutamine/hydroxyzine (1), fluoxetine/bisacodyl (1), diazepam/CPM (1), omeprazole (1), HCTZ (3), sildenafil (2) และ chlorpromazine (1) ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๓ ผลการดาเนนิ งาน งานบรกิ าร ประเภทผลติ ภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไม่เขา้ มาตรฐาน (ตัวอย่าง) รายการทดสอบทีไ่ มผ่ ่าน ๓.๒ ยาปัจจบุ นั ๓.๓ ยาแผนโบราณ 2 ตวั อย่าง ร้อยละ ๓.๔ ผลิตภัณฑเ์ สรมิ อาหาร 11 22 1 50.0 พบBisacodyl (1) ๓.๕ ตรวจเอกลักษณ์ยาตามโครงการ 1 9.09 พบ Dexamethasone (1) วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน 1 16 72.7 พบBisacodyl(3), fluoxetine ๓.6 ตรวจเอกลกั ษณย์ าแผนปจั จุบนั ใน 11 เครอื่ งดื่ม 320 (7), diazepam (2), phentermine (2) และ รวม chlorpheniramine maleate (2) 1 100 พบ Dexamethasone (1) 2 18.2 พบ Dexamethasone (2) 218 68.1 ศูนย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่ี 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๔ ดา้ นเครอ่ื งสาอาง งานบรกิ าร ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ท่ี ๗ ขอนแก่น ด้านห้องปฏิบัติการเคมี ให้บริการตรวจวิเคราะห์สารห้ามใช้ใน เครื่องสาอาง จานวน ๓ รายการ ได้แก่ สารประกอบของปรอท ไฮโดรควิโนน และกรดเรทิโนอิก โดยได้รับตัวอย่าง เครื่องสาอาง จานวน 12 ตัวอย่าง จากจังหวัดในเขตพืนท่ีรับผิดชอบ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด พบตัวอย่างผิดมาตรฐาน 2 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 16.7 จาแนกเป็นตรวจพบสารประกอบของปรอท ๑ ตัวอย่าง ไฮโดรควโิ นน ๑ ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 8 นอกจากทดสอบสารห้ามใช้ จานวน ๓ ชนิดแล้ว ห้องปฏิบัติการยังได้เพิ่ม การให้บริการอกี ๓ รายการทดสอบดังนี ๑. การทดสอบเอกลกั ษณส์ าร trigonelline และ caffeine ในเครอื่ งสาอางผสมสมุนไพรกาแฟ ๒. การทดสอบเอกลกั ษณ์สาร trans-Oxyresveratrol ในเครอื่ งสาอางผสมสมุนไพรมะหาด ๓. การทดสอบเอกลกั ษณส์ ารสเตยี รอยดใ์ นเครอื่ งสาอาง โดยรายการท่ี ๑ และ ๒ ในปงี บประมาณ 2562 ไม่มตี วั อยา่ งเข้ารับบริการ สาหรับรายการที่ ๓ เป็นตัวอย่าง กลมุ่ เดียวกบั ตวั อย่างท่ี 1 นอกจากงานบริการด้านหอ้ งปฏิบัติการเคมี ยังมีการให้บรกิ ารด้านหอ้ งปฏิบัตกิ ารจุลชีววทิ ยา ใหก้ าร ตรวจสอบการปนเปือ้ นเชีอจลุ ินทรยี ใ์ นเครอื่ งสาอาง และงานบรกิ ารโครงการส่งเสริมผ้ปู ระกอบการ OTOP/SME ผล การใหบ้ รกิ ารทดสอบดังรายละเอยี ดดงั แสดงในตารางท่ี ๔ ตารางท่ี ๔ ผลการตรวจวเิ คราะห์คณุ ภาพเครอ่ื งสาอาง ประเภทผลติ ภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ผลการดาเนนิ งาน ๑. ตรวจสารห้ามใช้ ๓ ชนดิ (ตัวอย่าง) ไม่เขา้ มาตรฐาน รายการทดสอบทไ่ี มผ่ า่ น ตัวอยา่ ง รอ้ ยละ 12 2 16.7 ตรวจพบ ๒. ทดสอบเอกลกั ษณส์ าร trigonelline ๐ hydroquinone(1) และ caffeine ในเครือ่ งสาอางผสม ๐ mercury compounds(1) สมนุ ไพรกาแฟ ๖* ๐๐ ๓. ทดสอบเอกลกั ษณส์ าร trans- Oxyresveratrol ในเครอ่ื งสาอางผสม ๐๐ สมนุ ไพรมะหาด ๔. ทดสอบเอกลักษณส์ ารสเตียรอยด์ใน ๐ 0 ตรวจไม่พบสารสเตยี รอยด์ เครือ่ งสาอาง ทงั 7 ชนิด ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ ี่ 7 ขอนแกน่ Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen

๔๕ ผลการดาเนนิ งาน งานบรกิ าร ประเภทผลิตภณั ฑ์ ตรวจทงั้ หมด ไม่เข้ามาตรฐาน รายการทดสอบท่ีไมผ่ ่าน (ตัวอย่าง) ตวั อยา่ ง รอ้ ยละ ๕. เคร่อื งสาอางสมนุ ไพร ๑๓ ๓ ๒๓.๑ ๕.๑ เฝา้ ระวงั คุณภาพการปนเปื้อน ๖ ๐๐ เชือจลุ ินทรีย์ ๖ ๕.๒ โครงการพัฒนาเครอื ข่าย ๒ ๓๓.๓ Total aerobic bacteria วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ชมุ ชนดา้ น ๑ and yeast and mold เครื่องสาอางสมุนไพร count and Clostridium spp. (2) ๕.๔ ผู้ประกอบการ -ตรวจการปนเปอ้ื นจุลินทรียต์ ามประกาศ ๑ ๑๐๐ Total aerobic bacteria กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กาหนด and yeast and mold ลกั ษณะของเคร่ืองสาอางทหี่ ้ามผลิตนาเขา้ count (1) หรือขาย พ.ศ. 2559 รวม 31 5 16.1 *ตัวอย่างเครอ่ื งสาอางกลมุ่ เดียวกบั ตรวจไมพ่ บสารห้ามใชท้ ้งั ๓ ชนดิ ศนู ย์วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น Annual Report 2019 Regional Medical Sciences Center 7 Khon Kaen


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook