Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือออนไลน์8

หนังสือออนไลน์8

Published by tae090, 2022-01-05 15:09:49

Description: หนังสือออนไลน์8

Search

Read the Text Version

วิชาศิลปะ 2 ศ31102 ม.4/8 นาฏศลิ ป์และการละคร ครโู ชติกา หนูสวัสดิ์

สมาชกิ ในกลุ่ม ร นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี(ขวญั ข้าว) GROUP WORK เลขที 26 กลุ่ม : พจชรดลญา E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 099-0415006 Facebook : Kwankhaw Bunyanuch Line : bunyanuch26

รองหวั หน้ากลุ่ม เลขานกุ าร นางสาวทักษิณา พลอาชา (แก้ม) เลขที 25 ชอื -สกุล : นางสาวฟาใส มุ่งชยั (เบยี ร)์ E-mail : [email protected] เลขที 29 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 095-5402803 E-mail : [email protected] Facebook : Thaksina Polacha เบอรโ์ ทรศัพท์ :093-5838171 Line : gamthaksina Facebook :Fasai Mungchai Line : 5107403124832330 หวั หน้ากลุ่ม ชอื -สกุล : นายภัทรพล ปาลรงั ษี (โลตัส) เลขที 17 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0886470572 Facebook : Lotus Pattarapon Line : 0886470572

ใหค้ วามรูพ้ ืนฐานในด้านการแสดงนาฏศิลปทุกประเภทนับตังแต่ป การจัดกิจกรรมต่างๆ ระวตั ิความเปนมาลักษณะการแสดง ขนบนิยมในการแสดง เพอื เปนการอนรุ กั ษ์นาฏศิลปไทย รูปแบบลีลาท่าราํ การ ตีบท กลุ่มผู้สรา้ งงานนาฏศิลปในระบบการเรยี นการส ความเปนเอกลักษณ์ของการแสดงทีละชุดต้องใหค็ วามรูแ้ ก่ผู้ชมทั อน งในด้านทฤฎีและปฏิบตั ิ ผูส้ อนควรสรา้ งโอกาศในการเรยี นรูน้ าฏศิลปไท ย เปดโอกาสใหป้ ระชาชนได้ชมการแสดงนาฏศิลปไทยทุกประเภท ทังในรูปแบบเดิมและรูปแบบทีปรบั ปรุงขึนใหม่ กลุ่มผู้สรา้ งงานนาฏศิลปแนวอนรุ กั ษ์ ควรมีความรู้ ความเชยี วชาญ เพือจุดประกายใหเ้ กิดความคิด ในการวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ หรอื มีรสนิยมทีจะสรา้ งผลงานด้านนาฏศิลป วจิ ารณ์เปรยี บเทียบผลงานการแสดง การสรา้ งค่านิยมใหม่ ในองค์กรทังทีเปนของรฐั กลุ่มผูช้ ม หรอื เอกชน ต้องมีส่วนรว่ มในการกําหนดนโยบายเพือสนับสนนุ งานนาฏศิลปแนวอนรุ กั ษ์ เพอื ดูดความสนใจของผูช้ มผูส้ รา้ งงานอาจพฒั นา ดิมใหม้ ีความทันสมัย กระชบั มากขึน กลุ่มผูค้ นสรา้ งงาน แนวทางการอนรุ กั ษ์นา ชว่ ย ฏศิลป ชว่ ยใ นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี เลขที 26 มีค ประพนั ธบ์ ทโขนละคร ประโยชน์ในการเรยี นน ป ในการแสดงโขน ละคร การละเล่นพืนเมือง ระบําราํ ฟอน เผยแพรศ่ ิลปวฒั นธรรมไทยเปนผูฝ้ กสอน และอาํ นวยการฝกซ้อม นางสาวทักษิณา พลอาชา เ ผูค้ ัดเลือกการแสดง จัดทําบทและเปนผูฝ้ กสอน ฝกซ้อม อาํ นวยการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระทีนัง ตังคณะสายเมธี ท่าราํ ของตัวพระ นาง ยกั ษ์ ลิง มีความสามารถในการราํ เพ เปนนาฏศิลปสูงสุ แสดงนิยายและบรรเลงในแบบดนตรสี ากลแ และตัวประกอบ ลงหน้าพาทยอ์ งค์พระพิรา ด ละดนตรไี ทย ท่านผูห้ ญงิ แผ้ว สนิทวงศ์เสนี พ แสดงเปนพระถังซําจังและเป แสดงเปนพระเอกภาพยนตรเ์ รอื ง ครูอาคม สายาคม นผู้กํากับการแสดง อมตาเทวี เรอื งไซอวิ ประดิษฐ์ท่าราํ ได้แก่ ครูสอนนาฏศิลปโขน เพลงหน้าพาทยต์ ระนาฏราช เพลงหน้าพาทยโ์ ปรยข้าวตอก เพลงเชดิ จีน ครูรงภักดี (เจียร จารุจรณ) เชน่ ราํ แม่บทใหญ่ ประดิษฐ์ท่าราํ ใหก้ รมศิลปากรใ ครูลมุล ยมะคุปต์ บุคคลสําคัญ พืนฐานนาฏศิลปไท ราํ ซัดชาตรี นฐานะผู้เชยี วชาญ นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี เลขที 26 นายภัทรพล ปาลรงั ษี เลขท ราํ วงมาตรฐาน รา่ งหลักสูตรใหแ้ ก่วทิ ยาลัยนาฏ ศิลป คุณสมบัติของผู้เรมิ เรยี นนาฏศ ทําใหก้ ารเรยี นนาฏศิลปมีระบบ มีขนั ตอนในการฝกหดั ต้องมีความสนใจและตังใจจ หมายถึง นายภัทรพล ปาลรงั ษี เลขที 17 หมายถึง ต้องมีสมาธแิ น่วแน่ในขณะป การแสดงท่าทางการเคลือนไหวร่ รูปเเบบของนาฏศิลป ศิลปะการรา่ ยราํ ทีแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่ างกายประกอบจังกวะเพลงรอ้ งหรื ต้องเปนผูท้ ีชา่ งสังเกต อเพลงบรรเลงจะเปนศิลปะการราํ ราํ ละคร ระบํา ไม่ดําเนินเรอื งราว ใชเ้ พลงบรรเลง ต้องเปนผู้ทีไม่ท้อถอยต่อความย อาจมีเนือรอ้ งหรอื ไม่มีเนือรอ้ งก็ได้ เดียว ราํ คู่ ราํ ประกอบเพลง ตัวอยา่ ง ตัวอยา่ ง เน้นการแปรแถวในลักษณะต่าง ๆ ทเรยี น หรอื ความเมือยล ราํ อาวธุ ราํ ทําบทหรอื ราํ ใชบ้ ท อยา่ งมีระเบยี บงดงามและเน้นความพรอ้ มเพียง ต้องเปนผูท้ ีขยนั ในการทบทวนฝกซ โดยเน้นท่วงท่าลีลาการรา่ ยราํ ทีง เปนหลัก ยูส่ มาเสมอ ดงาม ระบาํ ชุมนมุ เผา่ ไทย ราํ ฉุยฉาย ระบาํ สุโขทัย ราํ สีนวล ระบําโบราณคดี หมายถึง ระบําทีมีนักแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่ ฟอน หมายถึง เปนศิลปะการรา่ ยราํ ทีมีลีลาเฉพาะ การรอ้ งราํ ทําเพลงแบบพืนเมืองอสี าน หมายถึง ลีลาและจังหวะการรา่ ยราํ จะรวดเรว็ กระ ในท้องถินล้านนา การแสดงเปนเรอื งราว ฉับกระเฉงส่วนใหญ่การเซิงจะใชส้ ําหรบั ทีเปนการเคลือนไหวแขน ขา โดยนําภาพจากประสบการณ์แ เซิง นํากระบวนแหต่ ่าง ๆ ละจิตนาการของมนษุ ยม์ าผูกเ ยดื ยุบเข่าตามจังหวะ เซิงสวงิ เพือความออ่ นชอ้ ยสวยงาม ปนเรอื ง ตัวอยา่ ง มีจุดมุ่งหมายเพอื แสดงอารม ฟอนเมือง ตัวอยา่ ง ณ์ความรูส้ ึกก่อใหเ้ กิดความบนั เซิงกระติบข้าว ฟอนเงยี ว เทิง และความสนกุ สนาน โขน เพลิดเพลินโดยมีนักแสดงเปน ผูส้ ือความหมาย และเรอื งราวต่อผู้ชม หมายถึง ศิลปะการแสดงนาฏศิลปของไทยรูปแบบหนึง อากัปกิรยิ าของตัวละครจะมีทังการราํ และการเต้นทีออกท่าทางเขา้ กับดนตรี นักแสดงจะถูกสมมติใหเ้ ปนตัวยกั ษ์ ตัวลิง มนษุ ย์ เทวดา โดยการสวมหน้ากากหรอื เรยี กวา่ “หวั โขน” ส่วนนักแสดงเปนมนษุ ย์ และเทวดาจะไม่สวมหวั โขน การแต่งกายแต่งยนื เครอื งครบถ้วนตามลักษณะของยกั ษ์ ลิง มนษุ ย์ นักแสดงไม่ต้องรอ้ งหรอื เจรจาเอง เพราะจะมีผู้พากยเ์ จรจาขับรอ้ งแทน

ส ท นผู้สรา้ ง ารูปแบบเ สามารถยดึ เปนอาชพี ไ เกิดจากการเล่นเลียนแบบของมนษุ ย์ ด้ จะเหน็ วา่ มนษุ ยน์ ิยมเลียนแบบสิงต่าง ๆ ได้รบั ความรูน้ าฏศิลปจนเกิดความชาํ นาญ ทังจากมนษุ ยเ์ องสังเกตจากเด็ก ๆ สามารถปฏิบัติได้ดีมีชอื เสียง ชอบแสดงบทบาทสมมุติเปนพอ่ เปนแม่ในเวลาเล่นกันห รอื เลียนแบบจากธรรมชาติและสิงแวดล้อมต่าง ๆ ยในการออกกําลังกายได้เปนอยา่ งดี จนทําใหเ้ กิดการเล่นต่างๆ เชน่ การเล่นงูกินหาง การแสดงระบํานกยูง เปนต้น ใหเ้ ปนคนทีมีบุคลิกท่าทางเคลือนไหวสงา่ งาม การทีมนษุ ยต์ ้องการเอาชนะธรรมชาติด้วยวธิ ตี ่างๆ ความสามัคคีในหมู่คณะ ทีนําไปสู่การราํ เพือบูชาสิงทีตนเคารพตามลัทธศิ าสนา ของตน ต่อมาจึงเกิดเปนความเชอื ในเรอื งเทพเจ้า การทีมนษุ ยค์ ิดประดิษฐ์หาเครอื งบันเทิงใจ เรมิ แรกอาจเปนการเล่านิทาน นิยาย มีการนําเอาดนตรี และการแสดงท่าทางต่าง ๆ ประกอบเปนการรา่ ยราํ จนถึงขันแสดงเปนเรอื งราว นาฏศิล เกิดจากทีมนษุ ยต์ ้องการแสดงอารมณ์ทีเกิ มนษุ ยแ์ สดงอารมณ์ตามธรรมชาติออกมาตรง ๆ ดขึนตามธรรมชาติ เลขที 25 เพือเปนการฝกใหร้ ูจ้ ักกล้าแสดงออก เพือเปนการปลูกฝงและส่งเสรมิ นิสัยทาง วฒั นธรรมอนิ เดียเกียวกับวฒั นกรรมทีเปนเรอื งของเทพเจ้า ความมุ่งหมายในการเรยี ศิลปะแก่ผูเ้ รยี น และตํานานการฟอนราํ โดยผ่านเข้าสู่ประเทศไทย นนาฏศิลป เพือใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจยงิ ขึน ทังทางตรงและทางออ้ ม คือ ผ่านชนชาติชวาและเขมร นางสาวทักษิณา พลอาชา เลขที 25 ก่อนทีจะนํามาปรบั ปรุงใหเ้ ปนรูปแบบตามเอกลักษณ์ของไทย เชน่ เพือเปนการส่งเสรมิ และอนรุ กั ษ์วฒั นธร ตัวอยา่ งของเทวรูปศิวะปางนาฏราช ทีสรา้ งเปนท่าการรา่ ยราํ ของ รมของชาติใหค้ งอยูส่ ืบไป พระอศิ วร ซึงมีทังหมด 108 ท่า หรอื 108 กรณะ กําเนิดของนาฏศิลป การรบั วฒั นธรรมมาจากอนิ เดี โดยทรงฟอนราํ ครงั แรกในโลก ณ ตําบลจิทรมั พรมั เมืองมัทราส ย อนิ เดียใต้ ปจจุบันอยูใ่ นรฐั ทมิฬนาดู นับเปนคัมภีรส์ ําหรบั การฟอนราํ แต่งโดยพระภรตมุนี เรยี กวา่ คัมภีรภ์ รตนาฏยศาสตร์ ถือเปนอทิ ธพิ ลสําคัญต่อแบบแผนการสืบสาน และการถ่ายทอดนาฏศิลปของไทย จนเกิดขนึ เปนเอกลักษณ์ของตนเองทีมีรูปแบบ นางสาวทักษิณา พลอาชา เลขที 25 สรุปได้วา่ “นาฏศิลป” คือ ศิลปะการรอ้ งราํ ทําเพลงทีมนษุ ยเ์ ปน ผูส้ รา้ งสรรค์โดยประดิษฐ์ขนึ อยา่ งประณีตและมีแบบแผน ใหค้ วามรูค้ วามบนั เทิง นางสาวฟาใส มุ่งชยั เลขที 29 นาฏศิลป มาจากคําวา่ “นาฏ” กับคําวา่ ซึงเปนพืนฐานสําคัญทียงั คงใหเ้ หน็ ถึงวฒั นธรรมความรุง่ เรอื งของชาติได้เปนอยา่ งดี ทย ความหมายของนาฏ “ศิลปะ” นาฏศิลป คือ ศิลป ศิลปะ คือ ศิลปะแหง่ การละครหรอื การฟอนราํ การแสดงออกมาใหป้ รากฏขนึ อยา่ งงดงาม น่าพึงชมก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจ นาฏศิลป คือ การฟอนราํ นาฏศิลป คือ ความชาชองในการฟอนราํ เมือนําทังสองคํามารวมกันมีผู้ใหค้ วามหมายต่าง ๆ นาฏศิลป คือ การรอ้ งราํ ทําเพลง ใหค้ วามบนั เทิงใจ กัน ดังนี อนั ประกอบด้วยความโน้มเอยี งแหง่ อารมณ์และความรูส้ ึก ที 17 ศิลป จรงิ นางสาวฟาใส มุ่งชยั เลขที 29 ความหมาย “สุนทรยี ะทางนาฏศิลป” หมายถึง ความวจิ ิตรงดงามของการแสดงนาฏศิลปสากล ปฏิบัติ ความหมายสุนทรยี ะทางนาฏศิลป ซึงประกอบไปด้วยระบาํ ราํ ฟอน ละคร อนั มีลีลาท่าราํ และการเคลือนไหว ทีประกอบด้วยดนตรี บทรอ้ งตามลักษณะและชนิดของการ แสดงแต่ละประเภท ยากของบ 1. สุนทรยี ะทางวรรณกรรม วนั ที 25/11/64 ล้า หมายถึงความงามทางตัวอกั ษรโดยเฉพาะคํา ประพันธป์ ระเภทรอ้ ยกรอง อา้ งองิ ซ้อมท่าราํ อ ทีมีความงามทางตัวอกั ษรของกวหี รอื ผู้ประพันธท์ ีมีศิลปะใ นการใชถ้ ้อยคําซึงก่อใหเ้ กิดการโน้มน้าว \"ประเภทของนาฏศิลปของไทย” [ออนไลน์] 2561 เขา้ ถึงได้จาก ความรูส้ ึกในแงข่ องคติสอนใจ ; ทีมีคุณประโยชน์ในการเสรมิ สรา้ งปญญา โดยความงามของวรรณคดีประเภทรอ้ ยกรองนันประกอบ สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2564 ด้วย ความงามของเนือหาสาระและศิลปะการใชถ้ ้อยคํา การเล่นคํา เล่นอกั ษร เล่นสระ และเล่นเสียง \"พืนฐานของนาฎศิลปไทย\" [ออนไลน์] 2555 เข้าถึงได้จาก ; สืบค้น 25 2. สุนทรยี ะทางดนรแี ละการขบั รอ้ ง ความงามทีได้จากดนตรแี ละการขบั รอ้ งนันต้องอาศัยทังผู้ พฤศจิกายน 2564 บรรเลง ผูร้ อ้ ง และผู้ฟง เนืองจากในเพลงไทยมักจะมีทังการบรรเลงดนตรแี ละการ “บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปของไทย” [ออนไลน์] 2559 ขบั รอ้ งไวด้ ้วยกัน เขา้ ถึงได้จาก ; › bth-thi2-kar- ตลอดจนมีผูฟ้ งเพลงทีมาชว่ ยกันสรา้ งสุนทรยี ะทางดนตรี และการขับรอ้ งรว่ มกัน saedng-natsilp-thiy สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2564 \"ประโยชน์และคุณสมบตั ิของผู้เรยี นนาฎศิลป\" [ออนไลน์] 2560 เขา้ ถึงได้จาก ; 2564 สืบค้น 23 ธนั วาคม \"6แนวทางการอนรุ กั ษ์นาฏศิลป\" [ออนไลน์] 2556 เข้าถึงได้จาก ; สืบค้น 23 ธนั วาคม 2564



“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์

สมาชกิ ในกลุ่ม กลุ่ม : นางสาวพิชญากร บุญฤทธิ (จิบ) เลขที 28 E-mail : [email protected] Phone number : 099-3633691 Facebook : พิชญากร บุญฤทธิ Line : 0937423398_123_123_3 สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ (ปูม) เลขที 23 E-mail : [email protected] Phone number : 099-3102646 Facebook : กรกฎ ดวงใหญ่ Line : Poom Korakod 23 เลขานกุ าร เลขที 32 นางสาวอสั รยี า ยามาเจรญิ (ซายา่ ) E-mail : [email protected] Phone number : 062-9797805 Facebook : Aussareeya Yamacharoen Line : saya_2549

สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวณัฐณิชา เปยฉิม (ทราย) เลขที 24 E-mail : [email protected] Phone number : 080-2631787 Facebook : Natnicha Piachim Line : 080-2631787 Group Work รองหวั หน้ากลุ่ม : นาฏศิลปไทยในอดีตกาล นางสาวปญญดา ปติ (เฟรส์ ) เลขที 27 E-mail : [email protected] Phone number : 099-2717783 Facebook : ปญญดา ปติ Line : first14349 หวั หน้ากลุ่ม นางสาวพิมพ์พิชชา มณีอนิ ทร(์ ไอซ์) เลขที 31 E-mail : [email protected] Phone number : 093-6067733 Facebook : Pimpitcha Maneein Line : 0936067733

โด ทห ม บุค ซึงแ ด้านการราํ ไทย มีกล่าวถึงตังแต่ครงั กรุงสุโขทัยจากศิลาจารึ กหลักที 8 แต่ไม่มีการอา้ งถึงเปนรายบุคคล ไม่ปรากฏรายชอื ศิลปนทรงคุณค่า สมัยสุโขท สมัยน่านเจ้า น่านเจ้าอยูบ่ รเิ วณตะวนั ตกเฉียงใต้ของ อา้ งองิ เรอื งของ “ มโนหร์ า” ประเทศจีนทางตอนเหนือของไทย นางสาวณัฐณิชา เปยฉิม ครูศรณั ย์ สาครเสถียร (2021). ระบาํ หมวก, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน 2564. จาก ดูรูปกินรมี โนหร์ าจะเหน็ ได้วา่ เปนอมนษุ ยช์ นิดหนึงอยูก่ ึง สมัยนันยงั มีการติดต่อค้าขายอยู่ รบั ผดิ ชอบ ศิลปนทรงค https://artandcom.wordpress.com . (2021). มารจู้ กั องค์ประกอบนาฏศิลปจนี มอี ะไรบา้ ง และน่าสนใจอบา่ งไร, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน มนษุ ยก์ ึงสวรรค์ มีตัวเปนคน มโนหร์ า สันนิษฐาวา่ ชนทีอาศัยอยูใ่ นสมัยนันคือ 2564. จาก https://americanidiotonbroadway.com มีหางและปกเปนนก ตามปกติจะดูภาพกินรไี ด้ใน ชาวไต madmee987654321. (2021). ๑๓ บทที ๒ ประวตั ิละครไทยก่อนสมยั กรงุ ศรอี ยุธยา, สบื ค้นเมอื 23 พระอุโบสถ ดังเชน่ ทีอุโบสถวดั สุทัศน์เทพวราราม ระบาํ หมวก พฤศจกิ ายน 2564. จาก https://madmee987654321.files.wordpress.com ระบํานกยูง การศึกษาเรอื งการละครไทย sittipanareerat422. (2021). ววิ ฒั นาการละครไทย, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน 2564. เรอื งกินรมี โนหร์ านี เราได้ความคิดมาจากชาดก เรอื ง “ และนาฏศิลปไทยในสมยั นี พบวา่ จาก https://sites.google.com/site/sittipanareerat422/bth-thi3-lakhr- พระสุธนชาดก” ไทยมนี ิยายเรอื งหนึง คือ เรอื ง “มโนหร์ า” thiy/k ซงึ ปจจุบนั นกี ็ยงั มอี ยูใ่ นประเทศจนี ตอนใต้ในอาณาจั สุธนนันเปนชอื ของพระเอกแต่ทางจีนตอนใต้เรยี กเพียน กรนา่ นเจา้ เดมิ นนั เอง นยิ ายเรอื งนนั คือ เปน เจ้าชูตน ส่วนนางเอกนันชอื วา่ มโนหร์ า “นามาโนหร์ า (Namanora) เปนนิยายของพวกไต พวกไตคือไทยเรานีเอง ระบําหมวกเวยี ดนามหมวกรูปทรงกรวยทีเรยี กวา่ \"นอนล้า\" แต่เปนพวกทีไมอ่ พยพลงมาจากดินแดนเดิม สมัยน่านเจ้า พ ศ ๑๑๖๑ – ๑๑๙๔ และชุดแต่งกายทีเรยี กวา่ \"อาวหยาย\" (áo dài) เรอื งนามาโนหร์ านีจะนาํ มาเล่นเปนละครหรอื ไมน่ นั ยงั ไ เปนสิงของและการแต่งกายทีใชใ้ นชวี ติ ประจําวนั มม่ หี ลักฐานปรากฎเดน่ ชดั นางสาวปญญดา ปติ เลขที 27 รบั ผดิ ชอบ สมัยน่านเจ้า การแสดงปจจุบันระบําหมวกจึงแสดงเอกลักษณ์ทีโดดเด่นของช การละเล่นของไทยสมยั น่านเจา้ นันมพี วกระบาํ อยูแ่ ล้ว าวเวยี ดนามอยา่ งชดั เจน คือ ระบาํ หมวก และระบาํ นกยูง คนไทยสมยั นนั เรมิ มี ความเจรญิ รุง่ เรอื ง และทราบนามของ ระบํานกยูงนีเปนทีโด่งดังอยา่ งมากในแถบเอเชยี กษัตรยิ อ์ งค์แรก ( แหง่ ราชวงศ์ ”ตีมง” ) วา่ มันมีความหมายสือถึง สวรรค์ ความสงบ ความสงา่ งาม ”พระเจา้ สโิ ลน”ุ และความโชคดี สมัยน่านเจ้าไม่มีปรากฏบุคคลสําคัญแต่อยา่ งใดแ รูปแบบการเคลือนไหวจะเปนการเลียนแบบนกยูง ต่มีปรากฏวรรณกรรมเรอื ง มโนราห์ ซึงจะเรมิ ตังแต่การตืน การออกหาอาหาร การละเล่นในสมัยน่านเจ้า ระบําหมวก และ การอาบนาในแม่นํา ในตอนท้ายทีสุดก็จะบนิ ออกไป ระบํานกยูง ระบําสุโขทัย ระบาํ ราํ นางสาวอสั รยี า ยามาเจรญิ เลขที 32 เปนระบําทีได้สรา้ งขึนตามความรูส้ ึกของถ้อยคําไทยใน ศิลปะรา่ ยราํ ทีแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่เปนชุด การแสดงทีมุ่งเน้นความงามของการรา่ ยราํ รบั ผิดชอบ สมัยสุโขทัย ศิลาจารกึ ไม่มีการดําเนินเรอื งราว เปนการแสดงท่าทางลีลาของผูร้ าํ สมัยสุโขทัย ประกอบด้วยลีลาท่าเยอื งกรายอนั นิมนวลออ่ นชอ้ ยของ มุ่งถึงความพรอ้ มเพรยี งความสวยงามในการใชล้ ีลาท่า โดยใชม้ ือและแขนเปนหลัก 2. รามเกียรติคําพากย์ : หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศิล รูปภาพปูนปนหล่อในสมัยสุโขทัย ราํ และความสวยงามของเครอื งแต่งกาย เปนการแสดงประเภทระบํา ราํ ฟอน มีววิ ฒั นาการมาจากการ ได้แบ่งตีพิมพ์ไวเ้ ปนภาค โดยมีเนือเรอื งติดต่อ การแสดงระบําสุโขทัย ละเล่นของชาวบ้าน เปนการพกั ผ่อนหยอ่ นใจหลังจากเสรจ็ งาน 2 ตอน “สีดาหาย” ไปจนถึงภาค 9 ตอน ”กุมภก ฟอน เข้าใจวา่ คําพากยเ์ หล่านีแต่เดิมใชเ้ ล่นหนัง จะราํ ตามจังหวะดนตรไี ม่มีเนือรอ้ ง ศิลปะการแสดงทีเปนประเพณีของทางภาคเหนื หรอื แสดงในงานบุญ งานรนื เรงิ ประจําป ต่อมาภายหลังได้มีผู้นํามาใชเ้ ล่นโขนด้วย ปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระรว่ งฉบับ ระบําศรสี ัชนาลัย อ จะใชผ้ ู้แสดงเปนจํานวนมาก 3. รามเกีย ลักษณะท่ารา่ ยราํ ของระบํา มีลีลาการฟอนพรอ้ มเพรยี งกันด้วยจังหวะทีค่อ พระมหาราชาลิไทวา่ “บ้างเต้น บ้างราํ บ้างฟอน ระบําบันลือ” “องคตส จะโน้มเอยี งไปทางศิลปะการรา่ ยราํ แบบเขมรหรอื แสดงใหเ้ หน็ รูปแบบของนาฏศิลปทีปรากฏในสมัยนี คือ เต้น ราํ ฟอน เมือนําม ขอม เพราะตามหลักฐานทางโบราณคดีนันพบวา่ นข้างชา้ จะเหน็ ว ศิลปะสมัยศรสี ัชนาลัยเปนศิลปะทีนิยมแบบเขมร และระบํา และยงั พบหลักฐาน การละครทีปรากฏอยูใ่ นศิลาจารกึ จึงเข้าใ ของพ่อขุนรามคําแหง ระบําเทววารศี รเี มืองบางขลัง อา้ งองิ ลักษณะท่าราํ ได้จินตนาการมาจากเหล่าอปั สรเทวดานางฟาทัง การแสดงละครทีสันนิษฐานวา่ มีในสมัยสุโข 1. รกั ษ์ศิลปไทย [ออนไลน์]. 2016, แหล่งทีมา ทัยคือ มโนราห์ และละครแก้บน ๗ วนั (จึงใชผ้ ูแ้ สดง ๗ คน) องิ แอบกับความสําคัญของลํานา [21 พฤษจิกาย แนวคิดของท่าราํ เน้นถึงสิงศักดิสิทธทิ ีมีบทบาทต่อความรูส้ ึกนึก 2. ละครชาตร[ี ออนไลน์].2556, แหล่งทีมา: คิดในโลกของความจรงิ ทีต้องการใหเ้ ทวดานางฟามา [21 พฤษ ปกปอง คุ้มครองสิงอนั เปนทีบูชา 2564] มโนราห์ ละครแก้บน เปนชอื ศิลปะการแสดงพืนเมืองอยา่ งหนึงของภาคใ เปนสือกลางในเรอื งการชว่ ยเหลือและการตอบแทนระหวา่ ง ต้ การราํ โนราจะราํ ใหเ้ สมือนกับท่ารา่ ยราํ ของเทวดา ผูบ้ นกับองค์หลวงพอ่ พุทธโสธร อา้ งองิ และเปนสือสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงความเชอื แบบไทยๆ คือเรอื งบุญคุณ ความกตัญ ู 1.ผู้ชว่ ยศาสตราจารยอ์ รวรรณ ขมวฒั นา,นาวาอากาศตรหี ญิงวรี ส์ ุดา บุนนาค นาฏศิลป [ออนไลน์]. 2008, แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 2.ธญั ญ์พัฒน์ ขานสันเทียะ,นางสาวจารุวรรณ มนตรี และนางสาวณัฐฐินันท์ วงค์ชาชม ววิ ฒั นาการนาฏศิลปไทย [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 3.ละครแก้บน [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 4.อาภัสรา ศรจี ันทร,์ วริ ตี บัวผิว การแสดงแหง่ สุโขทัย [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564]

. (2021). นาฏศิลป ชนั มธั ยมศึกษาปที 4, สบื ค้นเมอื 24 พฤศจกิ ายน 2564. จาก http://academic.obec.go.th บุญรตั น์ แจม่ กระจา่ ง (2021). บุคอคา้ งลอสงิ าํ คัญและววิ ฒั นาการของนาฏศิลปและการละครไทย, สบื ค้นเมอื 24 พฤศจกิ ายน 2564. จาก https://sites.google.com/site/natasintk/course-outline ดยใชต้ ํารวจแสดงเปนฝายอสูร 100 คน บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปสมัยธนบุรี ประวตั ิ ครูอมิ อเิ หนา หารมหาดเล็กเปนฝายเทพยดา 100 คน ได้แก่ ครูอมิ อเิ หนา ท้าววรจันทร์ (เจ้าจอมมารดาอมิ ) หรอื เปนพาลี สุครพี ซึงต่อมาได้เปนครูละครหลวง อมิ อเิ หนา มหาชมพูและบรวิ ารวานรอกี 103 คน และได้เปนเจ้าจอมในรชั กาลที ๑ เปนพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอ การแสดงชกั นาคดึกดําบรรพ์ แหง่ กรุงรตั นโกสินทร์ ดฟาจุฬาโลกมหาราช ฝายอสูรชกั ส่วนหวั นับวา่ เปนผู้สืบทอดศิลปะการฟอนราํ การละครจากสมัยธนบุรถี ึงสมัยรตั นโกสินท เปนธดิ าเจ้าพระยารตั นาธเิ บศร์ (กุน รตั นกุล) ฝายเทพยดาชกั ส่วนหาง สมุหนายกในรชั กาลที 2 และบรวิ ารอยูส่ ่วนปลายหาง ร์ รวมผูเ้ ล่นโขนประมาณ 300 กวา่ คน เดิมเปนครูละครหลวงสมัยกรุงธนบุรี แล้วได้เปน ครูละครหลวงรุน่ ใหญ่ในรชั กาลที 1 เมือประมาณ แต่ไม่กล่าวถึงชอื ผู้แสดง พ ศ 2333 ได้รบั ราชการเปนเจ้าจอมในรชั กาลที 1 คคลสําคัญในวงการนาฏศิลปสมัยอยุธยา มีพระราชธดิ า 1 พระองค์ ได้แก่ ตํารวจ ทหารมหาดเล็ก พระราชธดิ า คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ แสดงโขนกลางสนามปรากฏอยูใ่ นตํารา พระองค์เจ้าจักรจัน พระราชพิธอี นิ ทราภิเษก สมัยอยุธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งรา 1.ตอนหนมุ านเกียวนางวานริ ทัย มเกียรติขึนอกี 5 ตอน น ในสมัยนีเปนชว่ งต่อเนืองจากสงครามในสมัยอ และมีคณะละครหลวง สมัยธนบุรี ยุธยา ทําใหศ้ ิลปนกระจายไปในทีต่าง ๆ 2.ตอนท้าวมาลีวราชวา่ ความ คณะละครเอกชนเกิดขึนหลายโรง เชน่ เมือพระเจ้ากรุงธนบุรไี ด้ปราบดาภิเษกกรุงธนบุ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ รี ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล จึงมีการฟนฟูละครใหม่และรวบรวมศิลปนต่าง ๆ ใหม้ าอยูร่ วมกัน รามเกียรติ 5 ตอน มีดังนี ศิลปนทรงคุณค่าของนาฏศิลปแล ๑ หนมุ านเข้าหอ้ งนางวานรนิ ะการละครไทย ๒ ท้าวมาลีวราชวา่ ความ ๓ ทศกัณฑ์ตังพิธเี ผารูปเทวดา ม เลขที 24 และ นางสาวพิชญากร บุญฤทธิ เลขที 28 ๔ พระลักษณ์ถูกหอกกบลิ พัท และปล่อยม้าอุปการ คุณค่าของนาฏศิลปและการละครไทย และเปนพิธกี ร ๕ ปล่อยม้าอุปการ ววิ ฒั นาการของนาฏศิลปและการละครไทย สมัยธนบุรพี ศ 2310-พ ศ 2325 สมัยนีเปนชว่ งต่อเนืองหลังจากทีกรุงศรอี ยุธยาเสียแก่พม่าทําให้ ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละคร เรอื ง 3.ตอนทศกันฐ์ตังพธิ ที รายกร น่านเจ้า สุโขทัย ธนบุรี กรุงศรอี ยุธยา เหล่าศิลปนได้กระจัดกระจายไปในทีต่างๆ เพราะผลจากสงคราม รามเกียรติ ด กลุ่ม นาฏศิลปไทยในอดีตกาล นางสาวพิมพ์พิชชา มณีอนิ ทร์ เลขที 31 รบั ผดิ ชอบ สมัยธนบุรี ครนั พระเจ้ากรุงธนบุรไี ด้ปราบดาภิเษกในปพ ศ 2311 อกี 5 ตอนได้แก่ 4.ตอนพระลักษมณ์ถูกหอกกบลิ พทั พระองค์ทรงส่งเสรมิ ฟนฟูการละครขนึ ใหม่ มีคณะละครหลวง และเอกชนเกิดขึนหลายโรง 5.ตอนปล่อยม้าอุปการ และรวบรวมศิลปนตลอดทังบทละครเก่าๆทีกระจัดกระจายไปใหเ้ ขา้ เชน่ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ มาอยูร่ วมกัน ทังนีพระองค์ ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล หมืนโวหารภิรมย์ ได้ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งรามเกียรติขนึ อกี 5 ตอน นอกจากละครไทยแล้วยงั มี การเเสดงครงั สําคัญ ละครเขมรของหลวงพิพิธวาทีอกี ด้วย สมัยธนบุรี นาฏศิลปและการละเล่นสมัยกรุงธนบุรี มีการเล่นประชนั กันหลายคณะหลายโรงทังของหลวง เท่าทีปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุ จากบนั ทึกความของกรมหลวงนรนิ ทรเทวี ของเจ้านคร และของเอกชน สมโภชพระแก้วมรกต พ ศ 2323 ทําใหร้ ูว้ า่ มีการฝกซ้อมใหฝ้ กหดั ละครผูห้ ญิงเ มีมหรสพนานาชนิดเล่นเรยี งรายกัน โขน ปนเครอื งประดับในสมัยธนบุรี รวมหลายสิบโรงด้วยกัน นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ เลขที 23 ตัวอยา่ งของเทวรูปศิวะปางนาฏราช คณะละครหลวงเเละเอกชน รบั ผิดชอบ : สมัยกรุงศรอี ยุธยา ทีสรา้ งเปนท่าการรา่ ยราํ ของ พระอศิ วร ซึงมีทังหมด 108 ท่า ก็คือเมือคราวงานต้อนรบั และ สมัยอยุธยายงั มีความสัมพันธก์ ับประเทศอนิ เดียจาก หรอื 108 กรณะ โดยทรงฟอนราํ ครงั แรก ณ เมืองมัทราส สมโภชพระแก้วมรกตนับเปนงานสนกุ สนานมโหฬารที หลักฐานทีพบวา่ มีการแต่งบทละครรามเกียรติสําหรบั สมัยกรุงศรอี ยุธยา อนิ เดียใต้ ปจจุบันอยูใ่ นรฐั ทมิฬนาดู สุดของคนไทยในครงั นัน เล่นโขนไวส้ มัยกรุงศรอี ยุธยา ดังนี นับเปนคัมภีรส์ ําหรบั การฟอนราํ แต่งโดยพระภรตมุนี เรยี กวา่ นับตังแต่เสียกรุงศรอี ยุธยามาได้ 12 ปเต็มพอดี คัมภีรภ์ รตนาฏยศาสตร์ สมโภชพระเเก้วมรกต ถือเปนอทิ ธพิ ลสําคัญต่อแบบแผนการสืบสาน หุน่ ละคร 1. รามเกียรติคําฉันท์ : ละครไทยเรมิ จัดระเบยี บแบบแผนใหร้ ดั กุมยงิ ขนึ อยา่ งไรก็ตาม อา้ งองิ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ มีกล่าวไวใ้ นหนังสือจินดามณีของพระโหราธบิ ดี เข้าใจวา่ มีการตังชอื ละครทีเคยเล่นกันอยูใ่ หเ้ ปนไปตาม บรรดาผู้เชยี วชาญทีศึกษาทางด้านนาฏศิลปไทยได้สันนิษฐานวา่ ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล พระโหราธบิ ดีคงจะหยบิ ยกมาจากคําพากยข์ องเก่าทีแต่งไวส้ ําหรั ตามประวตั ิการสรา้ งเทวาลัยศิวะนาฎราชทีสรา้ งขึนในป พ ศ 1800 ภิสชา มะลิวลั ย์ ๒๕๖๒ ววิ ฒั นาการละครไทย บเล่นโขนหรอื เล่นหนัง หลักวชิ านาฏศิลปขึน (ออนไลน์).เเหล่งทีมา: หมืนโวหารภิรมย์ มีการแสดงเกิดขึนในสมัยนีหลายอยา่ ง ซึงเปนระยะทีไทยเรมิ ก่อตังกรุงสุโขทัย ลปากร การแสดงบางอยา่ งก็รบั วฒั นธรรมเพอื นบา้ น ดังนันราํ ไทยทีดัดแปลงมาจากอนิ เดียในครงั แรกจึงเปนความคิดของนักปราช พฤศจิกายน ๒๕๖๔ อกันไปตังแต่ภาค พรมรนิ ทร์ ทุยหล่อน ๒๕๖๔ บุคคลสําคัญในสมัยกรุงธนบุรี (ออนไลน์). กรรณล้ม” และวฒั นธรรมต่างชาติเข้ามาผสม ญใ์ นสมัยกรุงศรอี ยุธยา และมีการแก้ไข ปรบั ปรุงมาจนถึงปจจุบัน เเหล่งทีมา: บทละครหลักในสมัยอยุธยามี 4 เรอื ง คือ อเิ หนา พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รามเกียรติ อุณรุท ดาหลัง ภณ ณ นคร ๒๕๖๐ เชอื วงศ์ธนบุรี ผู้ภักดีแหง่ กรุงสยาม ยรติบทละครครงั กรุงเก่า : กล่าวความตังแต่ตอน “พระรามประชุมพล” จนถึง ละครนอก ละครใน ตํานานเจ้าเมืองนครศรธี รรมราชสมัยรตั นโกสินทร์ สือสาร” บทละครนีไม่เคยตีพมิ พ์ออกเผยแพร่ มาเปรยี บเทียบกับรามเกียรติบทละครในรชั กาลที 1 อเิ หนา (ออนไลน์).เเหล่งทีมา: วา่ มีเนือความไม่ตรงกันในบางตอน และถ้อยคําในบทละครก็ดูไม่เหมาะสม พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ใจวา่ น่าจะเปนบทละครรามเกียรติฉบับเชลยศักดิทีถูกคัดลอกไว้ ธนิต อยูโ่ พธิ ๒๕๓๑ ศิลปละครราํ หรอื คู่มือนาฏศิลปะไทย (ออนไลน์). รามเกียรติ อุณรุท ดาหลัง เเหล่งทีมา: พฤศจิกายน ๒๕๖๔ า: สมัยนีมีการแสดงมากมาย เชน่ ละครชาตรี ละครนอก ละครใน ละครนอก : มีมาตังแต่ครงั กรุงศรอี ยุธยา ยน 2564] โขน เปนละครทีแสดงกันนอกราชธานี แต่เดิมคงตัวละครเพียง ๓-๔ ตัว ษจิกายน นาฏศิลปไทยได้รบั อทิ ธพิ ลแบบแผนตามแนวคิดจากวฒั นธรรมอนิ เ ต่อมามีการแสดงละครกันอยา่ งแพรห่ ลายทัวไปในหมู่ราษฎร ดียเกียวกับในเรอื งของเทพเจ้า และตํานานการฟอนราํ ผู้แสดงยงั คงเปนชายล้วน ก่อนทีจะนํามาปรบั ปรุงใหเ้ ปนรูปแบบตามเอกลักษณ์ของไทย แต่มีการเปลียนแปลงใหป้ ระณีตงามขึนในสมัยกรุงศรอี ยุธยา นิยมเล่นกันหลายเรอื ง เชน่ คาวี ไชยทัต พิกุลทอง สังข์ทอง ละครใน : มีหลายชอื เชน่ ละครใน ละครข้างใน ละครนางใน และละครในพระราชฐาน เปนต้น สันนิษฐานวา่ มีมาตังแต่สมัยอยุธยา และรุง่ เรอื งมากทีสุดในสมัยพระเจ้าอยูห่ วั บรมโกศ แต่หลังสมัยรชั กาลที ๖ มิได้มีละครในในเมืองหลวงอกี เนืองจากมีละครสมัยใหม่เข้ามามาก

คำถำมกล่มุ นำฏศิลป์ ไทยในอดตี กำล เร่ืองววิ ฒั นำกำรของนำฏศิลป์ และกำรละครไทย น่ำนเจ้ำ สุโขทยั ธนบุรี กรุงศรีอยุธยำ ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวปัญญดา ปิ ติ เลขที่ 27 ผู้รับผดิ ชอบ : นางสาวพิชญากร บุญฤทธ์ิ เลขท่ี 28 คำถำม : 1.เร่ืองกินรีมโนราห์ไดค้ วามคิดมาจากเรื่องใด คำถำม : 5.บุคคลสาคญั ของวงการนาฏศิลป์ และการละครไทยในสมยั อยธุ ยาคือใคร ก. รามเกียรต์ิ ข. พระสุธนชาดก ก. ขา้ ราชการ ขนุ นาง ค. ดาหลงั ข. เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิมนตรี ง. โขน ค. ตารวจ ทหารมหาดเลก็ ผู้รับผดิ ชอบ : นางสาวอสั รียา ยามาเจริญ เลขที่ 32 ง. ครูสอนนาฏศิลป์ ในวงั คำถำม : 2.การแสดงประเภทระบา รา ฟ้อน ในสมยั สุโขทยั น้นั มีวิวฒั นาการมาจากส่ิงใด ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวณฐั ณิชา เปี ยฉิม เลขที่ 24 ก. โขน คำถำม : 6.หลงั จากสมเด็จพระเจา้ กรุงธนบุรีปราบดาภิเษกกรุง ธนบุรีข้ึนไดพ้ ระราชนิพนธ์บทละครเร่ืองใดเพิ่มข้ึนอีก ข. ละครนอก ละครใน ก. อิเหนา ค. การละเลน่ ของชาวบา้ น ข. ดาหลงั ค. อณุ รุท ง. ละครไทย ง. รามเกียรต์ิ ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวพมิ พพ์ ิชชา มณีอินทร์ เลขที่ 31 เฉลย คำถำม : 3.พระเจา้ กรุงธนบุรีทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เร่ืองใดเพ่มิ เติมจากเดิม เพิม่ ท้งั หมดก่ีตอน 123456 ขคขคคง ก. เร่ืองอิเหนา 3 ตอน ข. เร่ืองรามเกียรต์ิ 5 ตอน ค. เรื่องอุณรุท 4 ตอน ง. เร่ืองรามเกียรต์ิ 3 ตอน ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ เลขที่ 23 คำถำม : 4.รามเกียรต์ิเป็นหลกั ฐานของความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งไทยกบั ประเทศใดและแบ่งออกไดก้ ี่ประเภท ก. เขมร แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ข. อินเดีย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ค. อินเดีย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ง. เขมร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์









ข้อสอบเรื่องวิวัฒนาการของนาฏศิลป์เเละการละครไทย ของรัตนโกสินทร์สมัยรัชกาลที่1ถึงรัชกาล9 1.สมัยรัตนโกสินทร์ มีบทพระราชนิพนธ์ละครนอกในรัชกาลที่เท่าไร ก. รัชกาลที่ 1 ตอบ ข.รัชกาลที่2 ข. รัชกาลที่ 2 ค. รัชกาลที่ 3 ง. รัชกาลที่ 4 2.การดัดแปลงการรำเบิกโรงชุดประเลงเป็นรำดอกไม้เงินทองเกิดในสมัยรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลใด ก.รัชกาลที่ 1 ข.รัชกาลที่ 3 ตอบ ง.ไม่มีข้อที่ถูก ค.รัชกาลที่ 5 ง.ไม่มีข้อที่ถูก 3.บุคคลใดเป็นผู้จัดตั้งกรมมหรสพขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ก. พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ข.พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอบ ง.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ค.พระบาทสมเด็จพระจุลจอลเกล้าเจ้าอยู่หัว ง.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 4.ข้อใดจับคู่ เหตุการณ์สำคัญของวิวัฒนาการนาฏศิลป์และการละครไทย สมัยรัตนโกสินทร์ ร.1-ร.9 ไม่ถูกต้อง ก. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวยกเลิกละครหลวงทำให้นาฏศิลป์ไทยเป็นที่นิยมแพร่ หลายในหมู่ประชาชน ข.รัชสมัยสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้มีการจัดตั้งศิลปากรขึ้นแทนกรมมหรสพที่ถูกยุบไป ค. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลการดัดแปลงการำเบิกโรงชุดประเริงมาเป็น รำ ดอกไม้เงินทอง ง. รัชสมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมีการปรับปรุงเครื่องแต่งกายยืนเครื่องแบบละครใน ตอบ ค. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล การดัดแปลงการำเบิกโรงชุดประเริงมาเป็น รำดอกไม้เงินทอง 5.ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่ภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่9 ได้ทรงมีการส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทยประดิษฐ์ระบำชุดใหม่คือระบำใด ก.ระบำพม่าไทยอธิษฐาน 1.นายเมธัส ศรีสงคราม เลขที่ 1 (ข้อ1) ข.ระบำดาวดึงส์ 2.นายศักดิ์นที อ่อนรักษ์ เลขที่ 14 (ข้อ2) ค.ระบำนพรัตน์ 3.นางสาวชนม์นิภา นุชพุ่ม เลขที่ 17 (ข้อ3) ง.ระบำเริงอรุณ 4.นางสาวจุฬาบดี ชอบกิจ เลขที่ 24 (ข้อ4) 5.นางสาวศุภิสรา ทองจินดา เลขที่ 26 (ข้อ5) ตอบ ก.ระบำพม่าไทยอธิษฐาน

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์

รองหวั หน้ากลุ่ม หวั หน้ากลุ่ม ชอื : นางสาวนันท์นภัส ทองเกิด ชอื : นางสาวธน Email : [email protected] Email : 51024@ เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0989079772 เบอรโ์ ทรศัพท์ : Facebook : Nannapat Thongkoed Facebook : Th Line : 0989079772 Line : 0918463 เลขที : 20 เลขที : 18 สมาชกิ ในกลุ่ม GROUP WORK นายประตินันท์ ชูชนื (ออกัส) กลุ่ม : หวั ใจนาฏศิลป Email : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0951705642 สมาช Facebook : Pratinan Choochuen ชอื : Line : windowxd Ema เลขที : 7 เบอร Face Line เลขที

นัชชา มานะชาํ นิ เลขานกุ าร @mvsk.ac.th นายหาญพล พรหมสมบัติ 0918463904 Email : [email protected] hanatcha Manachamni เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0936901973 3904 Facebook : หาญพล พรหมสมบัติ Line : 0937531118 ชกิ ในกลุ่ม เลขที : 4 นางสาวพิชญา เชวงกิจวรกุล ail : [email protected] สมาชกิ ในกลุ่ม รโ์ ทรศัพท์ : 0618648811 ชอื : นายคมสัน ปอมกระสันต์ ebook : Sea Pitchaya Email : [email protected] : c_pitchaya_c เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0628916352 : 22 Facebook : คมสัน ปอมกระสันต์ Line : 0628916352 เลขที : 10

จัดทําโดย นายคมสัน ปอมกระสันต์ ม 4/8 เลขที10 เสภามีกําเนิดมาจากการเล่านิทาน เมือการเล่านิทานเปนทีนิยมแพรห่ ลาย ทําใหเ้ กิดมีการปรบั ปรุงแข่งขันกันขึน ผู้เล่าบางท่านจึงคิดแต่งเปนกลอน ใส่ทํานอง มีเครอื งประกอบจังหวะ คือ \"กรบั \" จนกลายเปนขับเสภาขึน การแสดงละครเสภาจะดําเนินเรอื งด้วยการขับเสภ ลักษณะการแสดง า โดยมีต้นเสียงกับลูกคู่เปนผู้ขับเสภา เรอื งทีนิยมใชแ้ สดง ส่วนถ้อยคําทีเปนบทขับเสภาหรอื บทขับรอ้ งของผู้แ สดง ผู้แสดงจะต้องขับเสภาหรอื รอ้ งเอง ขุนชา้ งขุนแผน ไกรทอง พญาราชวงั สัน สามัคคีเสวก นิยมใชผ้ ู้แสดงชายและหญงิ ตามบทเสภาของเรอื ง ผู้แสดง แต่งกายตามท้องเรอื งคล้ายกับละครพันทาง การแต่งกาย ละครเสภา แสดงในโรงบนเวที มีการเปลียนฉากตามท้องเรอื ง สถานทีแสดง มักนิยมใชว้ งปพาทยเ์ ครอื งหา้ บรรเลง วงดนตรที ีใชป้ ระกอบการแสดง แหล่งอา้ งองิ และมีกรบั ขยบั ประกอบการขับเสภา นายแจ้ง คล้ายสีทอง มีลักษณะคล้ายละครพันทาง เพลงรอ้ ง ศิลปนผู้ทรงคุณค่า แต่จะมีการขับเสภาซึงเปนบทกลอนสุภาพ แทรกอยูใ่ นเรอื งตลอดเวลา การขับเสภาแล้วมีรอ้ งส่งใหป้ พาทยร์ บั เสภาทรงเครอื ง การแสดง เสภาราํ เกิดขึนในสมัยรชั กาลที ๕ กระบวนการเล่น มีคนขับเสภาและเครอื งปพาทย์ เกิดเมือวนั ที 10 มีนาคม 2478 ประวตั ิ บางครงั ก็ใชม้ โหรแี ทน มีตัวละครออกแสดงบทตามคําขับเสภา และมีเจรจาตามเนือรอ้ ง เสภาราํ มีแบบสุภาพและแบบตลก เปนศิลปนทีมีความสามารถในด้านคีตศิลป การขับเสภา ได้รบั ฉายา \"ชา่ งขับคําหอม\" ได้รบั เชญิ ใหเ้ ข้ารว่ มขับเสภา และขับรอ้ งในงานการกุศลต่างๆ เสมอ ทังยงั ได้รบั การคัดเลือกใหเ้ ปนผู้ขับรอ้ งในการเดินท างไปเผยแพรน่ าฏศิลปไทยยงั ต่างประเทศ จัดทําโดย นางสาวพชิ ญา เชวงกิจวรกุล ม 4/8 เลขที 22 ละครร เปนละครประเภททีใชศ้ ละครพันทาง เปนละครแบบผสม ผู้ใหก้ ําเนิดละครพันทางคือ เจ้าพระยามหนิ ทรศ์ ักดิธาํ รง (เพ็ง เพ็ญกุล) าํ เนินเรอื ง มีการขับ เปนกลอนบ ท่านเปนเจ้าของคณะละครมาตังแต่สมัยรชั กาลที ๔ แต่เพิงมาเปนหลักฐานมันคงในรชั กาลที ๕ ซึงละครราํ ทีเปนแบบฉบ น ซึงแต่เดิมก็แสดงละครนอก ละครใน ต่อมาในสมัยรชั กาลที ๕ ท่านไปยุโรปจึงนําแบบละครยุโรปมาปรบั ปรุงละครนอกของท่าน ต่อมาได้พฒั นาเปนต้นก นสมัยอย ใหม้ ีแนวทางทีแปลกออกไป ละครของท่านได้รบั ความนิยมมากในปลายรชั กาลที ๕ ความหมายขอ ดําเนินเรอื งด้วยคํารอ้ ง เนืองจากเปนละครแบบผสมดังกล่าวแล้ว ดังนันบางแบบต้นเสียง และคู่รอ้ งทังหมดเหมือนละครนอก ละครใน ละครราํ แบบปรั ละครไทย บางแบบต้นเสียงลูกคู่รอ้ งแต่บทบรรยายกิรยิ า ส่วนบททีเปนคําพูด ตัวละครจะรอ้ งเองเหมือนละครรอ้ ง มีบทเจรจาเปนคําพูดธรรมดาแทรกอยูบ่ า้ ง บปรุง ทละคร แต่งขึนจากพงศาวดารของไทยเอง และของชาติต่างๆ ได้แก่ ส่วนมากดัดแปลงมาจากบทละครนอก ลักษณะการแสดง แหล่งอา้ งองิ เรอื งหอ้ งสิน ตังฮนั สามก๊ก เรอื งทีนิยมใชแ้ สดง ละครพันทาง เรอื งทีปรบั ปรุงจากวรรณคดีเก่าแก่ของภาคเหนือ เชน่ ผู้แสดง พระลอ แต่งขนึ ในระยะหลังก็มี เชน่ พระอภัยมณี มักนิยมใชผ้ ู้แสดงชาย และหญงิ แสดงตามบทบาทตัวละครทีปรากฏในเรอื ง ไม่แต่งกายตามแบบละครราํ ทัวไป แต่จะแต่งกายตามลักษณะเชอื ชาติ การแต่งกาย แสดงบนเวที สถานทีแสดง มีการจัดฉากไปตามท้องเรอื งเชน่ เดียวกับละครดึกดําบรรพ์ มักนิยมใชว้ งปพาทยไ์ ม้นวม เรอื งใดทีมีท่าราํ เพลงรอ้ ง และเพลงดนตรขี องต่างชาติผสมอยูด่ ้วย วงดนตรที ีใชป้ ระกอบการแสดง ก็จะเพมิ เครอื งดนตรอี นั เปนสัญลักษณ์ของภาษานันๆ เพลงทีใชร้ อ้ งจะเปนเพลงภาษา สําหรบั เพลงภาษานันหมายถึงเพลงประเภทหนึงทีคณาจารยด์ ุรยิ างคศิลปได้ประดิษฐ์ขนึ เพลงรอ้ ง ศิลปนทรงคุณค่า เกิด: พ ศ 2364 เจ้าพระยามหนิ ทรศ์ ักดิธาํ รง (เพง็ เพ็ญกุล) เสียชวี ติ เมือ: 2 มกราคม 2437 ผูก้ ่อตังโรงละครอยา่ งตะวนั ตกโดยใชช้ อื วา่ ปรนิ ซ์เธยี รเ์ ตอร์ และการรเิ รมิ แสดงละคร จัดทําโดย นายประตินันท์ ชูชนื ม 4/8 เลขที 7 เปนละครทีเกิดขึนในสมัยรชั กาลที 5 ท่านชนื ชมการแสดงละครโอเปรา่ มากอยากทําใหเ้ ปนแบบไทย จึงเล่าถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานรศิ รานวุ ดั ติวงศ์ ก็โปรดเหน็ วา่ ดีในการสรา้ งละครดึกดําบรรพ์ กําเนิดขึนทีบ้านเจ้าพระยาเทเวศรล์ งศ์ววิ ฒั น์ โดยแสดง ณ โรงละครทีตังชอื วา่ “โรงละครดึกดําบรรพ์” ผู้แสดงต้องรอ้ งเองราํ เอง ไม่มีบรรยายกิรยิ าของตัวละคร ได้มีการปรบั ปรุงการแสดงความเปนไปในเนือเรอื ง ลักษณะการแสดง พยายามแสดงใหส้ มจรงิ มากทีสุด ผู้แสดง ละครดึกดําบรรพ์ เปนผู้ทีมีเสียงดี ขับรอ้ งเพลงไทยได้ไพเราะ ใชผ้ ู้หญิงล้วน ผู้ทีจะได้รบั คัดเลือกใหแ้ สดงละครดึกดําบรรพ์จะต้องมีความสามารถพิเศษด้วยคุณสมบัติ 2 ประการ เปนผู้ทีมีรูปรา่ งงาม ราํ สวย ดัดแปลงเพือความเหมาะสม และใหต้ รงกับความเปนจรงิ การแต่งกาย อเิ หนาตอนไหวพ้ ระ เรอื งทีแสดง สังข์ทอง รามเกียรติ ใชป้ พาทยด์ ึกดําบรรพ์ เพือความไพเราะน่มุ นวล ด้วยการผสมวงดนตรขี ึนใหม่และเหลือไวแ้ ต่เสียงทุ้ม ดนตรี ทังเพิมเติมสิงทีเหมาะสมเข้ามา เชน่ ฆ้องหุย่ มี 7 ลูก 7 เสียง ต่อมาเรยี กวา่ “วงปพาทยด์ ึกดําบรรพ์” ตัดคําวา่ “เมือนัน” “บัดนัน” เมือจะกล่าวถึงใคร เพลงรอ้ ง แหล่งอา้ งองิ โดยใหต้ ัวละครราํ ใชบ้ ทเพือใหเ้ ข้าใจวา่ ใครเปนผู้พูด สถานทีการแสดง งูเขียว หางบอบชา (2543). ละครดึกดําบรรพ์ สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2564, มีการนําทํานองเสนาะมาใช้ จาก มีการตกแต่งฉากและสถานที ใชแ้ สง สี เสียง ประกอบฉาก นับเปนต้นแบบในการจัดฉากประกอบการแสดงของโขน มหาเสวกโท พระยาศรภี ูรปิ รชี า (กมล สาลักษณ) ศิลปนทรงคุณค่า บทละครดึกดําบรรพ์ เรอื งสิทธธิ นู ซึงใชเ้ ปนหนังสืออา่ นประกอบนอกเวลาวชิ าภาษาไทย

จัดทําโดย นายหาญพล พรหมสมบัติ ม 4/8 เลขที 4 ละครใน เปนละครไทย ท่าราํ ต้องประณีตงดงามตามแบบราชสํานัก ทีพระมหากษัตรยิ ท์ รงดัดแปลงมาจากละครนอก ละครในมุ่งดูศิลปะการรา่ ยราํ มากกวา่ เนือเรอื ง ใชผ้ ู้หญิงแสดงล้วน การแสดงละครในมีความประณีตวจิ ิตรงดงาม ท่าราํ ต้องพิถีพิถันใหม้ ีความออ่ นชอ้ ย ลักษณะการแสดง อุณรุท เรอื งทีใชเ้ เสดงในละครใน อเิ หนา มีเพียง 3 เรอื ง คือ รามเกียรติ ผู้แสดง เดิมเปนหญงิ ล้วน ต่อมาสมัยรชั กาลที ๑ มี ละครในผู้ชายแสดง การเเต่งกาย พิถีพิถันตามแบบแผนกษัตรยิ จ์ รงิ ๆ เรยี กวา่ ยนื เครอื งทังตัวพระและตัวนาง (แต่งเลียนแบบเครอื งต้นเครอื งทรงของพระมหาก ษัตรยิ )์ ละครใน สถานทีแสดง ในระยะแรกการแสดงละครในจะแสดงภายในพระ ราชฐานเท่านัน แต่ในระยะหลังไม่มีการจํากัดสถานทีแสดง วงดนทีทีใชป้ ระกอบการแสดง โดยปกติใชว้ งปพาทยเ์ ครอื งหา้ นิยมตีด้วยไม้นวม เพือใหม้ ีกระแสเสียงทีน่มุ นวล เพลงรอ้ งและหน้าพาทยท์ ีใชป้ ระกอบการรา่ ยราํ จากบทละครทีปรากฏเปนหลักฐาน ใชเ้ พลงรอ้ งไม่มากนักโดยจะดําเนินเรอื งด้วย “เพลงรา่ ยใน” เปนหลัก การใชเ้ พลงรอ้ งทํานองต่างๆ ปรากฏมากขึนในระยะทีมีละครดึกดําบรรพ์เกิดขึนแล้ว และเปนแบบแผนสืบมาถึงปจจุบนั ศิลปนผู้ทรงคุณค่า ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี นามเดิมวา่ แผ้ว สุทธบิ ูรณ์ เกิด เมือวนั ที 25 ธนั วาคม พ ศ 2446 ขณะทีอายุได้ 8 ขวบได้ถวายตัวในสมเด็จพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟาอษั ฎางค์เดชาวุธ กรมกลวงนครราชสีมา โดยได้รบั การฝกหดั นาฏศิลปในราชสํานักจากเจ้าจอมมารดาวาด และเจ้าจอมมารดาเขียน ต่อมาท่านทําหน้าทีในการฝกสอน อาํ นวยการแสดงไม่วา่ จะเปน โขน ละคร ฟอน ราํ ระบาํ เซิง และท่านยงั เปนผู้ประดิษฐ์คิดค้นท่าราํ ต่าง ๆ มากมาย และได้รบั ยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติเปนศิลปนแหง่ ชาติสาขานาฏศิลป เมือ พ ศ 2528 อา้ งองิ ราํ จัดทําโดย นางสาวนันท์นภัส ทองเกิด ม 4/8 เลขที 20 ศิลปะในการรา่ ยราํ ด บรอ้ งและเจรจา ละครชาตรี นับเปนละครทีมีมาแต่สมัยโบราณ และมีอายุเก่าแก่กวา่ ละครชนิดอนื ๆ บทละคร มีลักษณะเปนละครเรค่ ล้ายของอนิ เดียทีเรยี กวา่ \"ยาตร\"ี หรอื บับดังเดิมของไทยนั \"ยาตรา\"ซึงแปลวา่ เดินทางท่องเทียว กําเนิดของละครราํ ใ ละครยาตรานีคือละครพืนเมืองของชาวเบงคลีในประเทศอนิ เดีย ยุธยา ในสมัยโบราณละครชาตรเี ปนทีนิยมแพรห่ ลายทางภาคใต้ของไทย เรอื งทีแสดงคงจะนิยมเรอื งพระสุธนนางมโนหร์ า องละครราํ จึงเรยี กการแสดงประเภทนีวา่ “โนหร์ าชาตร”ี สันนิษฐานวา่ ละครชาตรไี ด้แพรห่ ลายเข้ามายงั กรุงรตั นโกสินทร์ ๓ ครงั คือ ใน พ ศ ๒๓๑๒ เมือพระบาทสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรเี สด็จยกทัพไปปราบเจ้านครศรธี รรมราช และพาขึนมากรุงธนบุรพี รอ้ มด้วยพวกละคร ใน พ ศ ๒๓๒๓ ในวานฉลองพระแก้วมรกต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหล้ ะครของนครศรธี รรมราชขึนมาแสดงประชนั กับละครหลวงผู้หญงิ ของหลวง ใน พ ศ ๒๓๗๕ สมัยรชั กาลที ๓ แหง่ กรุงรตั นโกสินทร์ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) สมัยทียงั เปนเจ้าพระยาพระคลัง ได้ลงไปปราบ และระงบั เหตุการณ์รา้ ยทางหวั เมืองภาคใต้ พวกชาวใต้จึงอพยพติดตามขึนมาด้วย รวมทังพวกทีมีความสามารถในการแสดงละครชาตรี ยประเภ ละครราํ แบบดัง ผู้แสดง ในสมัยโบราณจะใชผ้ ู้ชายแสดงล้วน มีตัวละครเพียง รราํ เดิม การแต่งกาย ๓ ตัว คือ ตัวนายโรง ตัวนาง และตัวตลก ละครชาตรี เรอื งทีแสดง แต่มาถึงยุคปจจุบันมักนิยมใชผ้ ู้หญิงเปนผู้แสดงเสีย แหล่งอา้ งองิ ส่วนใหญ่ ละครชาตรแี ต่โบราณไม่สวมเสือ เพราะทุกตัวใชผ้ ู้ชายแสดง ตัวยนื เครอื งซึงเปนตัวทีแต่งกายดีกวา่ ตัวอนื ก็น่งุ สนับเพลา น่งุ ผ้าคาดเจียระบาดมีหอ้ ยหน้า หอ้ ยขา้ ง สวมสังวาล ทับทรวง กรองคอกับตัวเปล่า บนศีรษะสวมเทรดิ เท่านัน การผดั หน้าในสมัยโบราณใชข้ มินลงพืนสีหน้าจนนวลปนเหลือง ไม่ใชป่ นแดงอยา่ งเดียวนี ส่วนการแต่งกายในสมัยปจจุบันมักนิยมแต่งเครอื งละครสวยงาม เรยี กตามภาษาชาวบา้ นวา่ \"เขา้ เครอื งหรอื ยนื เครอื ง\" ในสมัยโบราณ ละครชาตรนี ิยมแสดงเรอื งจักรๆวงศ์ๆ โดยเฉพาะเรอื งพระสุธนนางมโนหร์ า กับรถเสน (นางสิบสอง) นอกจากนียงั มี บทละครชาตรที ีนํามาจากบทละครนอก (สํานวนชาวบ้าน) ได้แก่ ลักษณวงศ์ ตอนถวายพราหมณ์ถึงฆ่าพราหมณ์เกสร แก้วหน้าม้า ตะเพียนทอง สังข์ทอง ตอนกําเนิดพระสังข์ ฯลฯ เรอื งเหล่านีเปนทีนิยมกันมากในสมัย ๖๐ ปมาแล้ว ต้นฉบบั บางเรอื งยงั หาไม่พบก็มี การแสดง เรมิ ต้นจะต้องทําพธิ บี ูชาครูเบิกโรง หลังจากนันปพาทยก์ ็โหมโรงชาตรี ตัวหน้าบทตามเพลง การราํ ซัดนีสมัยโบราณขณะรา่ ยราํ ผู้แสดงจะต้องวา่ อาคมไปด้วย เพือปองกันเสนียดจัญไร และการกระทํายายตี ่างๆ วธิ เี ดินวนราํ ซัดก่อนแสดงนีจะราํ เวยี นซ้าย เรยี กวา่ \"ชกั ใยแมงมุม\" หรอื \"ชกั ยนั ต์\" ต่อจากราํ ซัดหน้าบทเวยี นซ้ายแล้วก็เรมิ จับเรอื ง ตัวแสดงขึนนังเตียงแสดงต่อไป การแสดงละครชาตรตี ัวละครรอ้ งเองไม่ต้องมีต้นเสียง ตัวละครทีนังอยูท่ ีนันก็เปนลูกคู่ไปในตัว และเมือเลิกการแสดงจะราํ ซัดอกี ครงั หนึง วา่ อาคมถอยหลัง ราํ เวยี นขวาเรยี กวา่ \"คลายยนั ต์\" เปนการถอนอาถรรพ์ทังปวง ดนตรี วงดนตรปี พาทยท์ ีประกอบการแสดงมี ป สําหรบั ทําทํานอง ๑ โทน ๒ กลองเล็ก เพลงรอ้ ง (เรยี กวา่ \"กลองชาตร\"ี ) ๒ และฆ้อง ๑ คู่ แต่ละครชาตรที ีมาแสดงกันในกรุงเทพฯ นี มักตัดเอาฆ้องคู่ออกใชม้ ้าล่อแทน ซึงเปนประเพณีสืบต่อกันมา และบางครงั ก็ยงั ใชก้ ลองแขกอกี ด้วย ในสมัยโบราณตัวละครมักเปนผู้ด้นกลอน และรอ้ งเปนทํานองเพลงรา่ ย และปจจุบันเพลงรอ้ งมักมีคําวา่ \"ชาตร\"ี อยูด่ ้วย เชน่ รา่ ยชาตรี รา่ ยชาตรกี รบั รา่ ยชาตรี ราํ ชาตรี ชาตรตี ะลุง สถานทีแสดง ใชบ้ รเิ วณบา้ น ทีกลางแจ้ง หรอื ศาลเจ้าก็ได้ ไม่ต้องมีสิงใดประกอบมากมาย แม้ฉากก็ไม่ต้องมี บรเิ วณทีแสดงนอกจากมีหลังคาไวบ้ งั แดดบงั ฝนตามธรรมดา โบราณใชเ้ สา ๔ ต้น ปก ๔ มุม เปนสีเหลียมจัตุรสั มีเตียง ๑ เตียง จะลงเสากลางซึงถือวา่ เปนเสามหาชยั อกี ๑ เสา เสานีสําคัญมาก (ในสมัยก่อนจะต้องใชไ้ ม้ชยั พฤกษ์) เปนเสาทีพระวสิ สุกรรมเสด็จมาประทับเพือปกปองผองภัยอนั ตราย จึงได้ทําเสาผูกผ้าแดงปกไวต้ รงกลางดรง เสานีในภายหลังใชเ้ ปนทีผูกซองคลี (ซองใส่ไม้รบต่างๆ) เพือสะดวกในการแสดงทีตัวละครจะหยบิ ได้ตามความต้องการโดยรวดเรว็ ศิลปนทรงคุณค่า ทองใบ เรอื งนนท์ ทองใบ เรอื งนนท์ (พ ศ 2469 - พ ศ 2550) ผู้ได้รบั การยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติใหเ้ ปนศิลปนแหง่ ชาติ จัดทําโดย นางสาวธนัชชา มานะชาํ นิ ม 4/8 เลขที 18 สาขาศิลปะการแสดง (ละครชาตร)ี ประจํา พ ศ 2540 มีมาตังแต่ครงั กรุงศรอี ยุธยา เปนละครทีแสดงกันนอกราชธานี แต่เดิมคงมาจากการละเล่นพืนเมือง และรอ้ งแก้กัน แล้วต่อมาภายหลังจับเปนเรอื งเปนตอนขึน เปนละครทีดัดแปลงววิ ฒั นาการมาจากละคร \"โนหร์ า\" หรอื \"ชาตร\"ี โดยปรบั ปรุงวธิ แี สดงต่างๆ ตลอดจนเพลงรอ้ ง และดนตรปี ระกอบใหแ้ ปลกออกไป ละครนอก ในสมัยโบราณจะใชผ้ ูช้ ายแสดงล้วน ผู้แสดงจะต้องมีความคล่องแคล่วในการราํ และรอ้ ง ผู้แสดง มีความสามารถทีจะหาคําพูดมาใชใ้ นการแสดงได้อยา่ งทันท่วงทีกับเห ตุการณ์ เพราะขณะแสดงต้องเจรจาเอง การแต่งกาย แต่งใหร้ ดั กุมเพอื แสดงบทบาทได้สะดวก ตัวแสดงบทเปนตัวนางก็นําเอาผ้าขาวม้ามาหม่ สไบเฉียง เรอื งทีแสดง ใหผ้ ู้ชมละครทราบวา่ ผู้แสดงคนนันกําลังแสดงเปนตัวนาง การแสดง ถ้าแสดงบทเปนตัวยกั ษ์ก็เขียนหน้าหรอื ใส่หน้ากาก ต่อมามีการแต่งกายใหด้ ูงดงามมากขึน วจิ ิตรพสิ ดารขึน เพราะเลียนแบบมาจากละครใน บางครงั เรยี กการแต่งกายลักษณะนีวา่ \"ยนื เครอื ง\" แสดงได้ทุกเรอื งยกเวน้ ๓ เรอื ง คือ อเิ หนา อุณรุฑ และรามเกียรติ บทละครทีแสดงมีดังนี คือ สมัยโบราณ มีบทละครนอกอยูม่ ากมาย แต่ทีมีหลักฐานปรากฏมีเพียง ๑๔ เรอื ง คือ การะเกด คาวี ไชยทัต พิกุลทอง พมิ พ์สวรรค์ พณิ สุรยิ วงศ์ มโนหร์ า โม่งปา มณีพชิ ยั สังข์ทอง สังข์ศิลปชยั สุวรรณศิลป สุวรรณหงส์ และโสวตั มีความมุ่งหมายในการแสดงเรอื งมากกวา่ ความประณีตในการรา่ ยราํ ฉะนันในการดําเนินเรอื งจะรวดเรว็ ตลกขบขัน ไม่พิถีพิถันในเรอื งของขนบธรรมเนียมประเพณี การใชถ้ ้อยคําของผู้แสดง มักใชถ้ ้อยคํา \"ตลาด\" เปนละครทีชาวบา้ นเรยี กกันเปนภาษาธรรมดาวา่ \"ละครตลาด\" ทังนีเพือใหท้ ันอกทันใจผู้ชมละคร ดนตรี มักนิยมใชว้ งปพาทยเ์ ครอื งหา้ ก่อนการแสดงละครนอก เพลงรอ้ ง ปพาทยจ์ ะบรรเลงเพลงโหมโรงเยน็ เปนการเรยี กคนดู เพลงโหมโรงเยน็ ประกอบด้วย เพลงสาธุการ ตระ รวั สามลา เข้าม่าน ปฐม และเพลงลา มักเปนเพลงชนั เดียว หรอื เพลง ๒ ชนั ทีมีจังหวะรวดเรว็ มักจะมีคําวา่ \"นอก\" ติดกับชอื เพลง เชน่ เพลงชา้ ปนอก โอโ้ ลมนอก ปนตลิงนอก ขึนพลับพลานอก เปนต้น มีต้นเสียง และลูกคู่ บางทีตัวละครจะรอ้ งเอง โดยมีลูกคู่รบั ทวน มีคนบอกบทอกี ๑ คน แหล่งอา้ งองิ สถานทีแสดง โรงละครเปนรูปสีเหลียมดูได้ ๓ ด้าน (เดิม) กันฉากผืนเดียวโดยไม่ต้องเปลียนแปลงไปตามท้องเรอื ง มีประตูเข้าออก ๒ ทาง หน้าฉากตรงกลางตังเตียงสําหรบั ตัวละครนัง ด้านหลังฉากเปนส่วนสําหรบั ตัวละครพักหรอื แต่งตัว ศิลปนอนั ทรงคุณค่า รจั นา พวงประยงค์ เกิดเมือวนั ศุกรท์ ี 6 ตุลาคม พ ศ 2484 ณ บ้านถนนข้าวสาร อาํ เภอพระนคร จังหวดั พระนคร (ปจจุบัน คือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร) เปนธดิ าของนายหลี และนางสมพล พวงประยงค์ นายหลีผู้เปนบิดาเคยเปนคนละครสมัยเก่ามาก่อน ส่วนมารดาของนางรจั นา พวงประยงค์ นัน เคยหดั ละครอยูก่ ับ นางมัลลี คงประภัศร์ (ครูหมัน) แต่เนืองจากไม่สนใจอยา่ งจรงิ จัง และไม่ชอบเรอื งนาฏศิลป จึงไม่ได้เปนนักแสดง

ขอ้ สอบวชิ านาฏศิลป์ 1.ศิลปินอนั ทรงคณุ คา่ ของละครเสภาคือใคร 4.วงดนตรีท่ใี ชป้ ระกอบการแสดงในละครพนั ทางใชว้ งอะไร ก. ทา่ นผหู้ ญิงแผว้ สนิทวงศเ์ สนี ก.วงป่ีพาทยเ์ ครื่องหา้ บรรเลง ข. มหาเสวกโท พระยาศรภี รู ปิ รีชา (กมล สาลกั ษณ) ข.วงป่ีพาทยไ์ มน้ วม ค. นายแจง้ คลา้ ยสีทอง ค.วงป่ีพาทยด์ กึ ดาบรรพ์ ง. เจา้ พระยามหินทรศ์ กั ด์ิธารง (เพง็ เพญ็ กลุ ) ง.วงป่ีพาทยช์ าตรี ตอบ ค. นายแจง้ คลา้ ยสีทอง ตอบ ข.ไมน้ วม (นายคมสนั ปอ้ มกระสนั ต์ เลขท่1ี 0) (น.ส.พิชญา เชวงกจิ วรกลุ เลขท่2ี 2) 2.ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งเก่ียวกบั ละครชาตรี 5.บทละครในขอ้ ใดคือเรอ่ื งท่ใี ชใ้ นการแสดงละครในทง้ั 3 เร่อื ง ก.ละครชาตรมี ีท่ีมาจากละครเรย่ าตรขี องอนิ เดีย ก.ไกรทอง อเิ หนา ขนุ ชา้ งขนุ แผน ข.การแสดงละครชาตรจี ะมีพธิ ีบชู าครูเบิกโรง ข.อเิ หนา อณุ รุท รามเกียรต์ิ ค.เสากลางท่ใี ชป้ ักในสถานท่แี สดงคือเสามหาชยั ค.อณุ รุท รามเกยี รต์ิ พระอภยมั ณี ง.ทองใบ เรอื งนนทเ์ ป็นศลิ ปินแหง่ ชาติสาขาละครชาตรใี นพ.ศ. 2539 ง.ไกรทอง ขนุ ชา้ งขนุ แผน พระอภยั มณี ตอบ ง.ทองใบ เรืองนนทเ์ ป็นศลิ ปินแหง่ ชาตสิ าขาละครชาตรใี นพ.ศ. 2539 ตอบ ข.อเิ หนา อณุ รุท รามเกียรต์ิ (น.ส.นนั ทน์ ภสั ทองเกดิ เลขท่ี20) (นายหาญพล พรหมสมบตั ิ เลขท่4ี ) 3.ฉากละครใดเป็นตน้ แบบในการจดั ฉากประกอบการแสดงของโขน 6.ละครราชนดิ ใดท่มี ขี อ้ ยกเวน้ วา่ หา้ มแสดงเร่อื งอเิ หนา ก.ละครพนั ทาง รามเกียรต์ิ และอณุ รุฑ ข.ละครเสภา ก.ละครนอก ค.ละครชาตรี ข.ละครใน ง.ละครดกึ ดาบรรพ์ ค.ละครพนั ทาง ตอบ ง.ละครดกึ ดาบรรพ์ ง.ละครชาตรี (นายประตินนั ท์ ชชู ่ืน เลขท่ี7) ตอบ ก.ละครนอก (น.ส.ธนชั ชา มานะชานิ เลขท่ี18)

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์

เลขานกุ าร Group Work กลุ่ม : พฤกษาแหง่ นายสานสิน สันหลี Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ :0650654209 Facebook : NIcky Sunlee LIne : thepastisneverdead เลขที 9 สมาชกิ ในกลุ่ม นายปภังกร อนรุ าธา Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0973455553 Facebook : Papangkorn Guy LIne : guypapangkorn เลขที 14

หวั หน้ากลุ่ม รองหวั หน้ากลุ่ม นายพริ ยิ พงศ์ คงชู นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ Email : Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0640750008 เบอรโ์ ทรศัพท์ :0640722251 Facebook : พิรยิ พงศ์ คงชู Facebook :ณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ LIne :0640722251 Line : phemsmart เลขที 16 เลขที 6 งบทละคร สมาชกิ ในกลุ่ม นายธติ ิพัฒน์ สุขขัง สมาชกิ ในกลุ่ม Email : นายทรงวุฒิ สรงวารี Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0896570969 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0924284281 Facebook : Thitiphat Ice Facebook : Songwut Songwaree Line : Ice170149 LIne : iden234zzz เลขที 7 เลขที 11

การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยวธิ พี ูดทีเปนคําประพันธช์ นิด วธิ กี ารแสดง การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยวธิ พี ูดใชท้ ่าทางแบบสามัญชนประกอบ เพลงรอ้ งไม่มี ผู้แสดงดําเนินเรอื งโดยการพูด คํากลอน คําฉันท์ คําโคลง เพลงรอ้ ง การพูดทีเปนธรรมชาติ ลักษณะพิเศษของละครชนิดนีคือ ดนตรี เพลงรอ้ งไม่มี ในขณะทีตัวละครคิดอะไรอยูใ่ นใจ มักจะใชว้ ธิ ปี องปากพูดกับผู้ดุ ผู้แสดงดําเนินเรอื งโดยการพูดเปนคําประพันธช์ นิดนันๆ เรอื งทีแสดง ถึงแม้จะมีตัวละครอนื ๆ อยูใ่ กล้ๆ ก็สมมติวา่ ไม่ได้ยนิ บรรเลงดนตรคี ล้ายกับละครพูดล้วนๆ การแต่งกาย เพลงรอ้ ง ดนตรี บรรเลงโดยวงดนตรสี กลหรอื วงปพาทยไ์ ม้นวม ผู้ทีแสดง เรอื งทีแสดง แต่จะบรรเลงประกอบเฉพาะเวลาปดฉากเท่านัน ละครพูดคํากลอน เชน่ เรอื งเวนิสวาณิช ละครพูดคําฉันท์ วธิ กี ารแสดง ได้แก่ เรอื งมัทนะพาธา ละครพูดคําโคลง ได้แก่ เรอื งทีแสดงเรอื งแรก คือ เรอื ง\"โพงพาง\" เมือ พ ศ 2463 เรอื งต่อมาคือ \"เจ้าข้าสารวดั \" ทังสองเรอื ง เรอื งสีนา ิกา ของอจั ฉราพรรณ(อาจารยม์ นตรี ตราโมท) ประพันธเ์ มือป พ ศ 2469 เปนพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอ ยูห่ วั แต่งใหเ้ หมาะสมถูกต้องตามบุคคลิกของตัวละคร และยุคสมัยทีบ่งบอกไวใ้ นบทละคร ละคนพูดแบบรอ้ ยกรอง ละครพูดล้วนๆ ใชผ้ ู้แสดงทังชายและหญงิ มีบุคคลิกและการแสดงเหมาะสมตามลักษณะทีบ่งไวใ้ นบท ละคร นาเสียงแจ่มใสชดั เจนดี เสียงกังวาน พูดฉะฉาน ไหวพรบิ ดี munoka001. ละครเพลง สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก ผู้ทีแสดง ในสมัยโบราณใชผ้ ู้ชายแสดงล้วน การแต่งกาย ต่อมานิยมใชผ้ ู้แสดงเปนชายล้วน เปนละครของเอกชนทีเกิดขึนภายหลังการเปลียนแปลง ต่อมานิยมใชผ้ ู้แสดงชายจรงิ หญิงแท้ การปกครอง พ ศ ๒๔๗๕ ละครทีมีชอื เสียงนี คือ ละครพูดสลับลํา ละครจันทโรภาส เปนละครของนายจวงจันทน์ แต่งกายตามสมัยนิยม จันทรค์ ณา (พรานบูรณ์) ตามเนือเรอื งโดยคํานึงถึงสภาพความเปนจรงิ ของตัวละคร สิงหนึงทีพรานบูรณ์ทําเปนหลัก คือ การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยบทเพลงทีปรบั ปรุงขึนใหม่จาก วธิ กี ารแสดง ปรบั ปรุงจากเพลงไทยเดิมทีมีทํานองเออื น วธิ กี ารแสดง ยดึ ถือบทพูดมีความสําคัญในการดําเนินเรอื งแต่เพียงอยา่ ง เพลงไทยเดิมเปนเพลงไทยสากล เพลงรอ้ ง มาเปนเพลงไทยสากลทีไม่มีทํานองเออื น เพลงรอ้ ง เดียว บทรอ้ งเปนเพียงสอดแทรกเพือเสรมิ ความ ยาความ ใชท้ ่าทางทีเปนธรรมชาติประกอบบทรอ้ ง ดนตรี นับเปนหวั เลียวหวั ต่อของการเปลียนแปลงเพลงไทยเดิ ดนตรี มีเพลงรอ้ งเปนบางส่วน มมากทีเดียว โดยทํานองเพลงขึนอยูก่ ับผู้ประพันธท์ ีจะแต่งเสรมิ เข้ามาใ จะเปนเพลงทีประพันธข์ ึนใหม่ เรอื งทีแสดง โดยประยุกต์จากเพลงไทยเดิมมาเปนเพลงไทยสากลตามจั ผู้ทีแสดง นเรอื ง การแต่งกาย บรรเลงดนตรคี ล้ายกับละครพูดล้วนๆ งหวะและทํานอง แต่บางครงั ในชว่ งดําเนินเรอื ง ถ้ามีบทรอ้ ง ทีผู้ประพันธก์ ําหนดขึนใหก้ ับผู้แสดงได้ขับรอ้ งในระหวา่ งแส ดนตรกี ็จะบรรเลงรว่ มไปด้วย ดง เรอื งชงิ นาง และปล่อยแก่ ซึงเปนของนายบัว ทองอนิ นิยมบรรเลงด้วยวงดนตรสี ากล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงพระราชนิพนธบ์ ทรอ้ งแทรก โดยใชพ้ ระนามแฝงวา่ \"ศรอี ยุธยา\" และทรงแสดงเปนหลวงเกียรติคุณ เมือ พ ศ ละครเพลง 2449 ใชผ้ ู้แสดงทังชายและหญงิ เหมือนละครพูดแบบรอ้ ยกรอง การแต่งกายเหมือนละครพูดล้วนๆ หรอื แต่งกายตามเนือเรอื ง จันทรเ์ จ้าขา โจ๊ะโจ้ซัง ฝนสังฟา คืนหนึงยงั จําได้ เรอื งทีแสดง แต่งกายตามสภาพความเปนจรงิ ของเนือเรอื ง การแต่งกาย ละครพูดเรมิ ขึนในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอ ผู้แสดง ยูห่ วั ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จะใชผ้ ู้แสดงทีเปนทังผู้ชายและผู้หญิง แสดงจรงิ ตามบทบาทในเรอื ง ใหม้ ีการแสดงละครพูดสมัครเล่นเปนครงั แรก เนือเรอื งละครพูดทีแสดงในสมัยนี โดยผู้แสดงจะต้องเปนผู้ทีมีความสามารถในการรอ้ งเพลงเ ปนอยา่ งดี ดัดแปลงมาจากบทละครราํ ทีรูจ้ ักกันอยา่ งแพรห่ ลาย วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครพูด สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก จัดทําโดย นายทรงวฒุ ิ สรงวารี เลขที11 ละคร หมายถึงการแสดงราํ ทีเปนเรอื งเปนราว จัดทําโดย นายสานสิน สันหลี เลขที 9 ละครพูด จัดทําโดย นายทรงวุฒิ สรงวารี เลขที 11 ละครสังคีตหมายถึง ละครสังคีตเปนละครทีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอ ดําเนินเรอื งไปโดยลําดับ มีตัวเอกของเรอื ง ความหมายของละคร ละครทีมีทังบทพูดและบทรอ้ งเปนส่วนสําคัญเสมอ ยูห่ วั ทรงรเิ รมิ ขึน โดยมีววิ ฒั นาการจากละครพูดสลับลํา ละครสังคีต ต่างกันทีละครสังคีตมีบทสําหรบั พูด ฝายชายเรยี กวา่ ตัวพระ จัดทําโดย นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ ม 4/9 เลขที 6 จะตัดอยา่ งใดอยา่ งหนึงออกไม่ได้ และบทสําหรบั ตัวละครรอ้ งในการดําเนินเรอื งเท่าๆ กัน เพราะสมัยโบราณแสดงแต่เรอื งจักร ๆ วงศ์ ๆ เปนเรอื งของกษัตรยิ ์ มีชอื วา่ พระต่าง ๆ เชน่ พระอนิรุทธิ ผู้เเสดง ใชผ้ ู้ชายและผู้หญงิ แสดงจรงิ ตามเนือเรอื ง พระไชยเชษฐ์ พระอภัยมณี ฝายหญิงเรยี กวา่ ตัวนาง เพราะในเรอื งทีแสดงมักชอื วา่ นางต่าง ๆ เชน่ นางสีดา นางบุษบา นางทิพยเ์ กสร ยงั ไม่มีการแบ่งเปนนางสาวและนางทีมีสามีแล้ว และตัวประกอบอนื ๆ การเเต่งกาย แต่งตามสมัยนิยม แล้วแต่ในเรอื งจะมีละครมีหลายแบบ เรอื งทีเเสดง คํานึงถึงสภาพความเปนจรงิ ของฐานะตัวละครตามเนือเรอื แต่ละละครมีการแสดงและความมุ่งหมายแตกต่างกัน การเเสดง ง และความงดงามของเครอื งแต่งกาย ดนตรี เชน่ ละครโนรา ละครนอก ละครใน ละครถาม นิยมแสดงบทพระราชนิพนธใ์ น และละครดึกดําบรรพ์ เพลงรอ้ ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั มี 4 เรอื ง เชน่ เรอื งหนามยอกเอาหนามบง่ ทรงเรยี กวา่ \"ละครสลับลํา\" Wikipedia. สืบค้นเมือวนั ที 25 พฤษจิกายน 2564 วรรคที 1 จาก มุ่งหมายทีความไพเราะของเพลง ตัวละครจะต้องรอ้ งเองคล้ายกับละครรอ้ ง อาจารย์ สมภพ จันทรประภา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั แต่ต่างกันทีละครรอ้ งดําเนินเรอื งด้วยบทรอ้ ง เปนผู้แต่งบทประพันธล์ ะครเวทีองิ ประวตั ิศาสตรเ์ รอื ง เปนผู้แต่งบทละครพระราชนิพนธม์ ี 4 เรอื งคือ มิกาโด รชั กาลที6ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครพูดเปนจํานวนมาก การพูดเปนเจรจาทวนบท “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” วงั ต่ ี หนามยอกเอาหนามบง่ และววิ าหพระสมุท ทังบทละครทีทรงพระราชนิพนธข์ ึนมาใหม่ ส่วนละครสังคีตมุ่งบทรอ้ งและบทพูดเปนหลักสําคัญในการ สองเรอื งแรกคือมิกาโดและวงั ตี และบทพระราชนิพนธท์ ีทรงแปลหรอื แปลงงานจากต้นฉบั ดําเนินเรอื ง ทรงแปลงมาจากบทละครเรอื งมิกาโดของ เซอร์ กิลเบิรต์ บภาษาต่างประเทศ หลังจากทีทรงพระราชนิพนธแ์ ล้วไม่มีประวตั ิการจัดแสดง งานนิพนธป์ ระเภทละครของพระองค์ได้รบั อทิ ธพิ ลจากงาน บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวม ส่วนหนามยอกเอาหนามบ่งและววิ าหพระสมุท ประพันธข์ องกวตี ่างชาติหลายคน ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง 2 ชนั มีลํานําทีไพเราะ ทรงคิดเรอื งและพระราชนิพนธด์ ้วยพระองค์เอง วตั ถุประสงค์ในการพระราชนิพน์บทละครพูด ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ นอกจากจะใชส้ ําหรบั เล่นละครและใชอ้ า่ นเพือความเพลิดเ วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครรอ้ ง สืบค้นเมือ 25 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครรอ้ งสลับลํา มีการจัดแสดงหลายครงั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ววิ าหพระสมุท มีการจัดแสดงเสมอจนสินรชั กาล พลินแล้ว หน้าทีสําคัญของงานบทละครพูดทีทรงพระราชนิพนธค์ ือ ละครสังคีต การถ่ายทอดแนวพระราชดํารขิ องพระองค์ผ่านตัวละคร พระบรมวงค์เธอ กรมพระนราธปิ ประพันธพ์ งศ์ ละครพูด เพือสือสารต่อผู้อา่ นหรอื ผู้ชม เปนผู้พระนิพนธบ์ ท และกํากับการแสดง บทละครพูดทีแต่งขึนสามารถใหว้ าทกรรมเสียดสี วพิ ากษ์สังคมขณะนัน, โน้มน้าวใจประชาชนใหค้ ล้อยตาม เรอื งทีแสดงได้แก่ ตุ๊กตายอดรกั ขวดแก้วเจียระไน รวมถึงการสรา้ งภาพลักษณ์ตามพระราชประสงค์ เครอื ณรงค์ กากี ละครรอ้ งล้วน ๆ เรอื งทีแสดง คือ เรอื งสาวติ รี ละครรอ้ ง ศิลปนผู้ทรงคุณค่า จัดทําโดย นายธติ ิพัฒน์ สุขขัง ม 4/9 เลขที7 ละครรอ้ งล้วนๆ สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าชเจ้าฟามหาวชริ าวธุ ละครรอ้ งกําเนิดขึนในตอนปลายรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระจุ สยามมกุฎราชกุมาร ลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ละครรอ้ ง ทรงดัดแปลงละครของชาวตะวนั ตกจากละครอุปรากรทีเรยี ได้ปรบั ปรุงขึนดดยได้รบั อทิ ธพิ ลจากละครต่างประเทศ กวา่ \"โอเปอเรติก ลิเบรตโต\" มาเปนละครในภาษาไทย ละครรอ้ งนันต้นกําเนิด มาจากจากแสดงของชาวมลายู และได้รบั ความนิยมอกี แบบหนึง เรยี กวา่ “บงั สาวนั ” (Malay Opera) ได้เคยเล่นถวายรชั กาลที 5 ทอดพระเนตรครงั แรกทีเมืองไทรบุรี นายจวงจันทน์ จันทรค์ ณา (พรานบูรณ์)นักแต่งเพลงไทย ละครวทิ ยุ และ ละครโทรทัศน์ The Tree ละครรอ้ งสลับพูด ใชผ้ ู้หญิงแสดงล้วน เปนคนแรกผู้ปฏิรูปรูปแบบเพลงไทยประกอบละครรอ้ ง ยกเวน้ ตัวตลกหรอื จําอวดทีเรยี กวา่ \"ตลกตามพระ\" จากท่วงทํานองเพลงไทยเดิมทีมีลูกเออื นใหม้ ีลักษณะสาก ละครเพลง และ ละครเวที วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครพูด สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน ละครทีพฒั นาขึนใหม่ 1.ละครรอ้ งสลับพูด 2564 จาก 2.ละครรอ้ งล้วนๆ ซึงใชผ้ ู้ชายแสดง ลยงิ ขึน อาจกล่าววา่ เเบ่งเปนสองประเภท มีบทเปนผู้ชว่ ยพระเอกแสดงบทตลกขบขันจรงิ ๆ พรานบูรพ์คือผู้รเิ รมิ เพลงไทยสากลก็ได้ munoka001. ละครเพลง สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน มีผลงานสรา้ งชอื เสียงคือ ละครรอ้ งเรอื ง \"จันทรเ์ จ้าขา\" คุณสมสุข กัลยจ์ าฤก 2564จาก เพือใหเ้ กิดความสนกุ สนาน และ \"โรสิตา\" สําหรบั ละครเพลงในประเทศไทยในยุคแรก เปนผู้ทีมีความสามารถในการประพันธบ์ ทละครวทิ ยุและล ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ใชผ้ ู้ชาย และผู้หญิงแสดงจรงิ ตามเนือเรอื ง เปนละครทีถูกจัดโดยภาคเอกชน ะครโทรทัศน์ มีผลงานกวา่ 300 เรอื ง ซึงเกิดขึนภายหลังจากการเปลียนแปลงการปกครอง และถูกนําไปสรา้ งเปนละครโทรทัศน์และภาพยนตรท์ ีมีชอื เ ละครรอ้ ง การเเสดง ละครรอ้ งสลับพูด มีทังบทรอ้ ง และบทพูด พ ศ 2475 โดยละครเพลงทีมีชอื เสียงในยุคนัน คือ สียงมากมาย อาทิ เพชรตาแมว, ตุ๊กตาผี, ผู้หญิงคนหนึง, จัดทําโดย นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ ม 4/9 เลขที 6 เรอื งทีเเสดง เชน่ ยดึ ถือการรอ้ งเปนส่วนสําคัญ เงนิ ปากผี,หญิงก็มีหวั ใจ, หอ้ งหนุ่ เมือวนั ที 21 กุมภาพันธ์ ‘คณะจันทโรภาส’ อนั เปนละครของนายจวงจันทน์ บทพูดเจรจาสอดแทรกเข้ามาเพือทวนบททีตัวละครรอ้ งออ จันทรค์ ณา 2561 กมาส่วนละครรอ้ งล้วนๆ ตัวละครขับรอ้ งโต้ตอบกัน และเล่าเรอื งเปนทํานองแทนการพูด ซึงสิงหนึงทีพรานบูรณ์นํามาใชใ้ นละครของเขาจนเกิดควา ได้มีแถลงผลการคัดเลือกศิลปนแหง่ ชาติซึงคุณสมสุข ดําเนินเรอื งด้วยการรอ้ งเพลงล้วนๆ มเปนเอกลักษณ์ขึนมา คือ กัลยจ์ าฤก ศิลปนแหง่ ชาติ ตุ๊กตายอดรกั ขวดแก้วเจียระไน เครอื ณรงค์ กากี ภารตะ ปรบั ปรุงเพลงไทยเดิมซึงมีทํานองลูกเออื น ในสาขาศิลปะการแสดงประเภทภาพยนตรแ์ ละละคร สาวติ รี เข้ามาเปนเพลงไทยสากลอนั ปราศจากทํานองเออื น จัดเปนเรอื งหนึงทีมีความสําคัญ และเปนอกี หนึงเส้นทางทีก่อใหเ้ กิดการเปลียนแปลงเพลงไ ทยเดิมเปนอยา่ งมาก นายพิรยพงศ์ คงชู ม 4/9 เลขที 16 ดนตรี ละครรอ้ งสลับพูด เพลงรอ้ ง บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวมหรอื อาจใชว้ งมโหรปี ระกอบ Wikipedia. ละครอา้ งองิ ประวตั ิศาสตร์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครรอ้ งล้วนๆ บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวม ละครองิ ประวติศาสตร์ ละครรอ้ งสลับพูด ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง ๒ ชนั ในขณะทีตัวละครรอ้ งใชซ้ ออูค้ ลอตามเบาๆ เรยี กวา่ \"รอ้ งคลอ\" ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ เปนละครทีมีเนือหาเกียวข้องกับบุคคลจรงิ ในประวตั ิศาสตร์ ดําเนินเรอื งในชว่ งหนึงของประวตั ิศาสตร์ ละครรอ้ งล้วนๆ ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง ๒ ชนั ทีมีลํานําทํานองไพเราะ ใหค้ วามรูท้ างด้านประวตั ิศาสตร์ ละครเรอื ง บุพเพสันนิวาส มีเนือหาละครในชว่ งยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เปนละครทีได้รบั ความนิยมสูงสุดนับตังแตประเทศไทยเข้าสู่ยุคทีวดี ิจิตอลเมือป 2558 ละครทีมีเรอื งราวในชว่ งปลายกรุงศรอี ยุธยา ชว่ งการเสียกรุงศรอี ยุธยาครงั ทีสอง ได้แก่ละครเรอื ง สายโลหติ และ ฟาใหม่ ละครเรอื ง รตั นโกสินทร์ ยอ้ นยุคไปในสมัยรชั กาลที 1 ถึงรชั กาลที 3 เรอื ง ขา้ บดินทร์ มีเนือเรอื งเกิดขนึ สมัยรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระนังเกล้าเจ้าอยูห่ วั ละครทีเล่าเรอื งราวในชว่ งรชั กาลที 5 ยุคทีประเทศชาติบ้านเมืองมีการเปลียนแปลง และประวตั ิศาสตรท์ ีน่าจดจําหลายอยา่ ง เชน่ บว่ งบาป, นางทาส, ลูกทาส, สีแผน่ ดิน, รม่ ฉัตร และ ทวภิ พ จัดทําโดย นายปภังกร อนรุ าธา ม 4/9 เลขที 14 วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครรอ้ ง สืบค้นเมือ 25 พฤศจิกายน 2564 จาก รูปแบบรายการโทรทัศน์ประเภทบนั เทิงของไทย นายพริ ยิ พงศ์ คงชู ม 4/9 เลชที 16 ละครวทิ ยุ เปนการแสดงละครโดยใชเ้ สียงอยา่ งเดียว ละครวทิ ยุ เมือไม่มีภาพ จึงต้องขึนอยูก่ ับบทสนทนาโต้ตอบ ละครโทรทัศน์ไทยเรอื งแรกคือ สุรยิ านีไม่ยอมแต่งงาน ละครโทรทัศน์ ออกอากาศทางชอ่ ง 4 บางขุนพรหม ดนตรแี ละเอฟเฟกซ์เสียงเพือชว่ ยใหผ้ ู้ฟงจินตนาการถึงตัว ละครและนิยายออก ยุคบุกเบิก Romeo and Juliet ละครวทิ ยุอาจเปนละครทีเขียนขึนเพือออกอากาศทางวทิ ยุ โดยเฉพาะ ละครสารคดี งานบนั เทิงคดีทีสรา้ งเปนละคร ละครเวที เรอื งทีเเสดง เชน่ จัดทําโดย นายปภังกร อนรุ าธา ม 4/9 เลขที 14 เรมิ ได้รบั ความนิยม ความเปนมา หรอื ละครทีเดิมเขียนขึนเปนละครเวที เข้าสู่ธุรกิจละครเต็มรูปแบบ เปนการนําการแสดงทีมีอยูม่ าออกอากาศทางวทิ ยุกระจาย ละครวทิ ยุกําเนิดหลังละครเวที คาดกันวา่ ละครเวทีมีมาตังแต่สมัยกรกี เสียง อรสิ โตเติลบันทึกไวว้ า่ ละครของกรกี เล่นในวาระโอกาสพิเศษต่าง ๆ เชน่ วนั แม่ วนั ทีระลึกของหน่วยงานต่าง ๆ ละครการกุศล มีลักษณะตอนเดียวจบ ละครประเภทพเิ ศษ นักเขียนบทละครชาวโรมัน \" มักใชเ้ วลาประมาณ 1-2 ชวั โมง ละครสันแบบTV series ดังนันลักษณะของบทละครวทิ ยุจึงแตกต่างจากบทละครทั เซเนกาถูกอา้ งวา่ เปนผู้บุกเบกิ ละครวทิ ยุเพราะบทละครขอ เรมิ ต้นขึนจากการกล่าวคําบูชาเทพเจ้าไดโอนีซุส ละครเรอื งยาว วไป ผู้ประพันธจ์ ะต้องหาวธิ สี รา้ งจินตนาการใหแ้ ก่ผู้ฟง งเขาแสดงโดยผู้อา่ นเปนบทละครไม่ใชน่ ักแสดงเปนละครเ เทพเจ้าแหง่ ไวน์และความอุดมสมบูรณ์ มีความยาวระหวา่ ง 30-60 นาที ออกอากาศเปนประจํา ละครสันแบบMini series ใหส้ ามารถเข้าใจและนึกถึงภาพความเปนไปของเรอื งได้ นับตังแต่บุคลิกลักษณะ กิรยิ าท่าทาง วที องค์ประกอบของละครเวที คือ การแสดงสดบนเวที ละครเรอื งยาวทีเล่นหลายตอนจบ ประมาณ 20-30 ตอน ละครจบในตอน อุปนิสัยใจคอของตัวละคร อารมณ์และความรูส้ ึกต่างๆ แต่ในแงน่ ีเซเนกาไม่มีผู้สืบทอดทีสําคัญจนกระทังเทคโนโ ทีมีฉาก แสง เสียง ประกอบ และบทละคร คือ เนือเรอื งต่อเนืองกัน ออกอากาศเปนประจํา ซิตคอม จะต้องแสดงออกทางคําพูดของตัวละคร ส่วนทีสําคัญทีสุดในการทําละครทุกชนิด ใส่ความรูส้ ึกทางคําพูด ลยใี นศตวรรษที 20 ทําใหแ้ พรห่ ลาย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ละครเวที เพราะมันคือ ปนละครทีผลิตเปนเรอื งยาว มีความยาวตังแต่ต้นจนจบมากกวา่ 3 การเจรจาบทต้องใส่อารมณ์เปนพิเศษ การเผยแพรล่ ะครเสียง” ชวั โมง จึงจําเปนต้องแบง่ ออกอากาศมากกวา่ 1 ครงั มักมีความยาว เพราะผู้ฟงมองไม่เหน็ ภาพตัวละคร ตัวกําหนดองค์ประกอบอนื ๆ ทุกอยา่ งในละคร ไม่วา่ จะเปน ละครวทิ ยุ สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก โครงของเรอื งของนักแสดงด้วย 2-8 ตอน จึงไม่สามารถสังเกตกิรยิ าท่าทางและสีหน้าของตัวละครได้ ประเภท ผู้แสดงไม่ใชช่ ุดเดียวกัน และเรอื งราวแต่ละตอนไม่เกียวขอ้ งกัน ตัวละครสําหรบั บทละครวทิ ยุต้องมีตัวสําคัญประมาณ 3-4 ตัวและต้องเลือกผู้แสดงทีมีเสียงแตกต่างกันมากๆ เเบ่งเปน ละครเพลง (Musical) ละครแนวสนกุ สนานมีลักษณะล้อเลียนสถานการณ์จรงิ ทีเกิดขนึ ละครโศกนาฎกรรม (Tragedy) จบในตอน มิฉะนันผู้ฟงจะแยกเสียงไม่ออกวา่ เปนบทของตัวละครตัวไ หน เสียงประกอบ ได้แก่ ดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลืนลมตามธรรมชาติ เสียงประกอบบทอนื ๆ เชน่ เสียงชกต่อย ทะเลาะววิ าทกัน เสียงฟนดาบ ม้าวงิ เสียงปน ฯลฯ การแต่งกาย ผู้แสดงละครวทิ ยุแต่งกายแบบใดก็ได้ ละครเวที สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครสุขนาฏกรรม (Comedy) เพราะออกอากาศแต่เสียง ผู้ฟงไม่เหน็ ตัว จุดเด่นของละครเวทีคือ การสือสารระหวา่ งผู้ชมกับนักแสดงพรอ้ ม ๆ กัน Wikipedia. ละครโทรทัศน์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครนาเน่า ละครผี แนวเรอื ง ละครสะท้อนสังคม ละครสําหรบั เด็ก ละครเกียวกับกลุ่มบุคคลทีมีความหลากหลายทางเพศ ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ ละครวยั รุน่ ละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ละครซูเปอรฮ์ โี รและจินตนิมิต ละครแนวข้ามเวลา ละครโลดโผน

คำถำมนำฎศลิ ป์ 1.เวลำเรยี กช่ือตวั ละครหลกั (ชำย) และ ตวั ละครหลกั (หญิง)จะใชค้ ำนำหนำ้ วำ่ อะไร ก. พระเอก นำงเอก ช. ตวั เอก ตวั รอง ค. ตวั พระ ตวั นำง ง. พ่เี อก นอ้ งเอก 2.ละครรอ้ งมีตน้ กำเนดิ มำจำกกำรเเสดงของชำวมลำยทู ่ีเรียกวำ่ อะไร ก. มะโย่ง ข.บงั สำวนั ค.โนรำ ง.รองเง็งตนั หยง 3.ละครวทิ ยเุ ป็นละครเเบบใด ก. เป็นละครท่ีตอ้ งใชเ้ เสง สี เสยี ง ใหเ้ หมำะสม ข. เป็นละครท่ใี ชน้ กั เเสดงเป็นจำนวนมำก ค. เป็นกำรแสดงละครโดยใชเ้ สยี งอย่ำงเดียว ง. เป็นละครท่ใี ชเ้ ครื่องเเต่งกำยสวยงำม 4.ขอ้ ใดคือละครสะทอ้ นสงั คม ก.รษิ ยำ ข.บพุ เพสนั นิวำส ค.ระยำ้ ง.สงครำมนำงฟ้ำ 5.บคุ คลใดตอ่ ไปท่ีเป็นศิลปินดงั ของละครวทิ ยแุ ละละครโทรทศั น์ ก.คณุ สมสขุ กลั ยจ์ ำฤก ข.นำยจวงจนั ทน์ จนั ทรค์ ณำ ค.พระบำทสมเด็จพระมงกฏุ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ง.พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระนรำธิปพระประพนั ธพ์ งค์ 6.ละครเร่อื งใดคือละครพดู แบบรอ้ ยกรอง ก.ปลอ่ ยแก่ ข.เวนิสวำณิช ค.โจ๊ะโจซ้ งั ง.เจำ้ ขำสำรวดั เฉลย ค ข ค ง ก ข









ข้อสอบ เรื่อง การแสดงพื้นเมือง 4 ภาค 1.ข้อใดต่อไปนี้เป็นการแสดงของภาคใต้ทั้งหมด (ปรีดิ์ธินันท์ เลขที่ 21) ก. มโนราห์ ฟ้อนเงี้ยว ข. รองเง็ง ระบำตารีกีปัส ค. รำเถิดเทิง เซิ้งสวิง ง. เซิ้งกระหยัง หนังตะลุง 2.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแสดงพื้นเมืองภาคกลาง (วชิรญาณ์ เลขที่ 29) ก. การแสดงเป็นรูปแบบของขนบธรรมเนียมประเพณี และการประกอบอาชีพ ข. วงดนตรีพื้นบ้านบ้านประกอบด้วย วงเครื่องสาย วงปี่พาทย์มอญ วงปี่พาทย์นางหงส์ วงปี่พาทย์พื้นบ้าน ค. การแสดงระบำชาวนาจะใส่ชุดม่อฮ่อมเพราะเป็นชุดที่เรียบง่าย เห็นแล้วทำให้รู้ได้เลยว่าการแสดงชุดนี้เกี่ยวกับ การทำนา ง. วงดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงพื้นเมืองส่วนใหญ่เป็นวงมโหรี 3.ลักษณะการแสดงซึ่งเป็นลีลาเฉพาะของภาคอีสานคือข้อใด (ภคพร เลขที่ 23) ก. การแต่งกายด้วยผ้าซิ่นพื้นบ้านของผู้แสดง ข. การเล่นดนตรีประกอบการแสดงที่มีจังหวะรุกเร้า สนุกสนาน ค. การใช้อุปกรณ์พื้นบ้านประกอบการแสดง ง. ลีลาและจังหวะในการก้าวเท้าของผู้แสดง 4.เพราะเหตุใดศิลปะการแสดงของชาวพื้นเมืองยังคงอยู่ไม่สูญหายไป (พรปวีณ์ เลขที่ 25) ก.เพราะมีคนรวยมาลงทุนจ้างให้ทำการแสดง ข.เพราะชาวต่างชาติเห็นคุณค่าและชื่นชม ค.เพราะคนท้องถิ่นและคนไทยตระหนักถึงคุณค่าและช่วยเก็บรักษาให้คงอยู่ ง.เพราะมีกฎหมายบังคับให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาเกี่ยวกับการแสดง 5.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแสดง \"ฟ้อนเทียน\" (ปฐมพงศ์ เลขที่ 2) ก. เป็นการแสดงที่ใช้ผู้แสดงเป็นผู้หญิงทั้งหมด ข. ผู้ฟ้อนส่วนมากมักจะเป็นเจ้านาย หรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายใน ค. เป็นการแสดงพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ง. ผู้แสดงจะถือเทียนมือละเล่ม ส่วนมากนิยมแสดงในเวลากลางคืน 6.ข้อใดคือความหมายของการแสดงพื้นเมือง (ธัญญารัตน์ เลขที่ 19) ก.การละเล่นตามสถานที่ ข.การสืบทอดศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอย่างยาวนาน ค.การเปิดโอกาสให้ผู้คนได้แสดงความสามารถ ง.การฉลองในพิธีกรรมต่างๆ เฉลย 3.ง 5.ค 4.ค 6.ข 1.ข 2.ง

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์

หวั หน้ากลุ่ม GROUP W นายอธชิ ล เรอื งหริ ญั (ไช/้ เพชร) รวมมิตร ฮติ แต่ล E-mail : [email protected] Tel : 0842672181 Facebook : Atichol Petch Line :hc7ep สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวฟาใส หอมบุตร(ฟาใส) E-mail : [email protected] Tel : 0612152162 FB : Fasai Hombood Line : aundafasaihombood สมาชกิ ในกลุ่ม นายสิรวชิ ญ์ คงทอง (ทีน) E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0936413995 Facebook : Sirawit Kongtong Line : teen0936413995

WORK รองหวั หน้ากลุ่ม ละประเทศ นายณฐนนท์ อรา่ มเรอื ง (พีร)์ E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0624516527 Facebook : Pea Natanon Line : peena2549 : สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวเมษยา ชยั เวทย์ (เมษา) Email : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0914086420 Facebook : Maysaya Chaiwate Line : 0914086420 เลขา นายณัฐวรรธน์ สนิทมัจโร (เลตเต้) Email : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0620510315 Facebook : Nattawatsanit Line : nattawatlette

“การเชดิ สิงโต” (Lion Dance) เชดิ สิงโต (Lion Dance) คือการเต้นราํ แบบดังเดิมของกลุ่มชาติพันธุม์ ลายูบรูไน เปนส่วนหนึงของการเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีน เต้นราํ อะไดอะไดมักจะเต้นโดยคู่ชายสีคนและผู้หญิงสีคนพ รอ้ มกับราํ มะนาและแกมบัสและรอ้ งเพลงด้วยจังหวะทีเกือ หรอื วนั ขึนปใหม่ของชาวจีนทัวโลก ในประเทศสิงคโปรส์ ่วนใหญ่มีเชอื สายจากชมชนชาวจีน บจะคล้ายกับจังหวะการเต้นซาปน มักจัดขึนในชว่ งฝูงชนของชาวมาเลยบ์ รูไนหรอื เพือต้อนรบั มณฑลทางภาคใต้ของประเทศจีน จึงทําใหแ้ บบอยา่ งการเชดิ สิงโตและการผลิตหวั สิงโตเป การมาถึงของผู้มีตําแหน่งสูง นักเต้นยงั สวมชุดพิเศษสีสันสดใสการเต้นราํ นีจะขึนอยูก่ ับ นแบบสิงโตทางภาคใต้ (South Lion) มีการใชโ้ ครงไม้ไผ่ประกอบเข้ากับวสั ดุท้องถิน เชน่ ชวี ติ ของชาวประมง กระดาษ ผ้าไหม โลหะ แผ่นเงนิ และเกล็ดทอง ฯลฯ ระบํานีบอกเล่าเรอื งราวของกลุ่มชาวประมงทีไปตกปลาในท เยบ็ ประกอบและจัดสรา้ งตามแบบหวั สิงโตท้องถินในฮก ะเลขณะทีผู้หญงิ รอการกลับมาทีชายหาดเพือชว่ ยรวบรวม เกียน แต้จิว และกวางตุ้ง (ปยะแสง จันทรวงศ์ไพศาล, ปลาทีจับได้บางครงั ไม่มีการใชเ้ ครอื งดนตรใี ด ๆ 2558, หน้า 378-379) แทนเสียงทีมาพรอ้ มกับการรอ้ งเพลงคือการตีของนักพายเ รอื อาได อาได (Adai –Adai) \"ฐานข้อมูลสังคม - วฒั นธรรมเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ \" [ออนไลน์]. (2559). นายณฐนนท์ อรา่ มเรอื ง ม 4/8 เลขที 11 บรูไน เข้าถึงได้จาก : https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php? (รองหวั หน้ากลุ่ม) นางสา sj_id=71 [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] สิงคโปร์ เดิมหนุ่ กระบอกทีทําจากไม้นีเปนองค์ประกอบสําคัญในการ งวิ หุน่ กระบอก ประกอบพิธกี รรมในงานศพและพิธขี จัดกาฬโรคในสมัยโบ ราณ ต่อมาในสมัยปลายราชวงศ์ฮนั ได้ถูกนํามาแสดงในงานมงค ลด้วย แต่การใชห้ ุน่ กระบอกแสดงในงานศพก็ยงั คงมีต่อมาจนถึง ราชวงศ์หมิง ในสมัยราชวงศ์หมิง มีหุน่ กระบอกชนิดใหม่เกิดขึนเรยี กวา่ หนุ่ กระบอกถุงมือ หรอื เรยี กวา่ ปูไต้ซี หรอื จ่าจงซี การละเล่นชนิดนีเรมิ เจรญิ ขึนทีมณฑลฮกเกียน เมืองเฉวยี นโจว และการแสดงชนิดนีเปนทีนิยมกันมากทีไต้หวนั โดยเฉพาะ ในชาวจีนฮกเกียน ปจจุบันพิธกี รรมดังกล่าวก็ยงั มีใหเ้ หน็ อยูใ่ นประเทศสิงคโป ร์ เชน่ พิธกี งเต๊กทีวดั จีนผู่เจวยี ซือ ศิลปะการรา่ ยราํ แบบดังเดิมทีได้รบั ความนิยมมากทีสุดของมาเลเซี โยเก็ต ย มีจังหวะทีสนกุ สนาน นักแสดงหลายคู่ เคลือนไหวอยา่ งรวดเรว็ สวยงาม เน้นอารมณ์ขัน นายสิรวชิ ญ์ คงทอง ม 4/8 เลขที 16 (สมาชกิ ในกลุ่ม) ต้นกําเนิดมาจากการเต้นราํ ของชาวโปรตุเกส มาเลเซีย แพรห่ ลายในมะละกา ยุคทีมีการค้าเครอื งเทศ โดยปกตินิยมแสดงในชว่ งเทศกาลต่าง ๆ งานประเพณี งานแต่งงาน งานพิธที างสังคมต่าง ๆ แสดงโดยคู่นักเต้นระบําชาย- หญิง จังหวะของดนตรโี ยเก็ตจะค่อนขา้ งเรว็ ในระหวา่ งทีคู่เต้นหยอกล้อเล่ นกัน ขับรอ้ งด้วยสําเนียงมาเลเซียตะวนั ออกเฉียงเหนือ \"นาฏศิลปของชาวมาเลเซีย \" [ออนไลน์]. (2560). เข้าถึงได้จาก : https://strikernzero.blogspot.com/2017/06/blog-post.html [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] ได้รบั ความนิยมในรฐั ยะโฮร์ การแสดงพนื บ้านอาเซ กล่าวได้วา่ เปนการรา่ ยราํ ดังเดิมของมาเลเซียทีสะท้อนใหเ้ หน็ อทิ ธพิ ลข นเอเชยี ตะวนั ออกเฉ องศาสนาอสิ ลามได้เด่นชดั ทีสุด ซาปน เขา้ มาในประเทศมาเลเซียเมือมิสชนั นารมี ุสลิมจากตะวนั ออกกลางเข้า หนุ่ ชกั พม่าเปนศิลปะทีนิยมในราชสํานักพม่า มาเผยแผศ่ าสนา เปนการแสดงทีสือถึงนัยยะสําคัญทางการเมือง จุดประสงค์คือการสวดมนต์และเผยแพรค่ วามรูเ้ กียวกับประวตั ิศาสตร์ เรอื งราวต่างๆ ในราชสํานักทีไม่สามารถพูดถึงอยา่ งตรงไปตรงมาได้ ของอารธรรมอสิ ลามการแสดงระบาํ ซาปนมีผูแ้ สดง 12 คน ในอดีตผู้ชกั หุน่ ต้องเปนชายเท่านัน แบ่งเปนหญงิ ชายจํานวนเท่ากัน ฝายละ 6 จับคู่เต้นกันเปนกลุ่ม นักเล่นหนุ่ ชกั หลายคนได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ปนถึงขุนน ใชก้ ารยกเท้ายกขาพรอ้ มกันเปนจังหวะ เครอื งแต่งกายเปนแบบเรยี บๆ าง เชน่ อูปุ ผู้มีสิทธกิ ินส่วยจาก 12 หวั เมือง เปนต้น แต่ต่อมาในภายหลังเรมิ มีการถ่ายทอดความรูห้ นุ่ ชกั ชายใส่หมวกอสิ ลามหรอื หมวกแขก ใสเสือกัก น่งุ โสรง่ พม่าใหแ้ ก่ผู้หญิง อาทิเชน่ คณะแสดงหนุ่ มัณฑะเลย์ หญงิ น่งุ กระโปรง เสือรดั รูป มีผ้าแพรคลุมศีรษะ อาจารยผ์ ู้ควบคุมคณะได้ถ่ายทอดวชิ าใหแ้ ก่ลูกและห ลานทีเปนผู้หญิง เต้นราํ ตามจังหวะดนตรี ซึงบรรเลงจากชา้ ไปหาเรว็ เพือสืบทอดวธิ กี ารชกั หนุ่ พม่าตามรูปแบบทีมีมาแต่โบ ราณ \"นาฏศิลปของชาวมาเลเซีย \" [ออนไลน์]. (2560). เข้าถึงได้จาก : นอกจากผู้ชกั หุน่ แล้วยงั มีนักรอ้ งและนักดนตรวี งปพา https://strikernzero.blogspot.com/2017/06/blog-post.html [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน ทย์ เสียงและคารมของนักรอ้ งนับเปนจุดเด่นและปจจัยวั 2564] ดความสําเรจ็ ของคณะหนุ่ ชกั การแสดงหุน่ ชกั ได้แพรก่ ระจายจากราชสํานักในชว่ งป \"ฐานข้อมูลสังคม - วฒั นธรรมเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ \" ลายสมัยราชวงศ์คองบองไปสู่พม่าตอนล่าง [ออนไลน์]. (2559). เข้าถึงได้จาก : หลังจากทีองั กฤษยดึ ครอง โดยนิยมเล่นกันในเมืองยา่ งกุ้ง https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.ph p?sj_id=56 [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] โยว่ เต พม่า ฟอนม่านมุ้ยเชยี งตา นายณฐนนท์ อรา่ มเรอื ง ม 4/8 เลขที 11 เปนกระบวนฟอนทีเกิดขนึ จากพระดํารขิ องพระราชชา (รองหวั หน้ากลุ่ม) ยาเจ้าดารารศั มีทีทรงตังพระทัยจะใหเ้ ปนการฟอนทีแ เจ้าดารารศั มี พระราชชายา ปลกไปจากการฟอนทีเคยมีอยู่ ดังนันจึงรบั สังใหห้ าตัวระบําของพม่ามาราํ ถวาย โดยทรงคิดวา่ ถ้าท่าราํ ของพม่าสวยงามเหมาะสมก็จะดัดแปลงและ นํามาผสมกับท่าราํ ของไทย เปนราํ พม่าแปลง โซฟลีน เจียม ชารป์ โร เกิดเมือป นายสิรวชิ ญ์ คงทอง ม 4/8 เลขที 16 (สมาชกิ ในกลุ่ม) พ ศ 2510 ปจจุบันอายุ 54 ป ถือเปนผู้ทีขับเคลือนนาฏศิลปเอเชยี ตะวนั ออกเ กัมพูชา ฉียงใต้ ในระยะเวลา 30 ป ใหห้ ลังนี เธอคือหนึงในผู้ทีรอดชวี ติ จากการสังหารหมู่นัก โซฟลีน เจียม ชารป์ โร ดนตรี นักเต้น นักเขียน จิตรกร ฯลฯ วาน เลิง งอ็ ก Van Le Ngoc(เวยี ดนาม) โดยเขมรแดง หลักเขมรแดงสินอาํ นาจเธอได้กลับมาฟนฟูศิล ปะวฒั นธรรมของกัมพูชาใหก้ ลับมารุง่ เรอื งอกี ค รงั เปนการแสดงนาฏศิลปทีโดดเด่นของกัมพูชา เปนบลั เล่ต์ เต้นและนักออกแบบท่าเต้น เกิดในฮานอย , เวยี ดนาม ซึงถอดแบบการ เวยี ดนามเขายา้ ยไปอยูอ่ าศัยและการศึกษาในประเทศฝรงั เศสในป ระบําหมวก แต่งกายและท่ารา่ ยราํ มาจากภาพจําหลักรูปนางอปั สร 1996 จาก 1996-1998 ทีปราสาทนครวดั เขาตามการศึกษาของเขาจะกลายเปนนักเต้นบัลเลต์แหง่ ชาติสุพีเรยี ใครได้เปนตัวเอกในระบําอปั สรานันเชอื ได้วา่ เปนตัวนา วทิ ยาลัยดนตรแี ละการเต้นราํ ในลียง (CNSM) ในเดือนกันยายนป 1998 งชนั ยอดแหง่ ยุคสมัยนครวดั เปนอุดมคติแหง่ ชาติกัมพูชา Van ทังนีการแสดงระบาํ อปั สรายงั ถือเปนการแสดงทีมีคุณู ลงนามในสัญญาครงั แรกของเขากับบัลเลต์แหง่ ชาติเดอมารเ์ ซยภ์ ายใต้ทิ ปการต่อการเรยี กรอ้ งเอกราชของชาวกัมพูชาจากฝรงั เ ศทางของมารโี คลดพตี รากาลลา, Etoile ของParis Opera บัลเล่ต์ หา้ ปต่อมาในป 2546 เขาออกจาก Ballet National de Marseille ศส เพือเขา้ รว่ มEnglish National Ballet ในลอนดอน \"ฐานข้อมูลสังคม - วฒั นธรรมเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ \" [ออนไลน์]. (2559). ระบําอปั สรา เข้าถึงได้จาก : https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php? ระบาํ หมวก เวยี ดนาม หมวกรูปทรงกรวยทีเรยี กวา่ “นอนล้า” c_id=2&sj_id=36 [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] และชุดแต่งกายทีเรยี กวา่ “อาวหยาย” (áo dài)เปนสิงของและการแต่งกายทีใชใ้ นชวี ติ ประจําวนั การแสดงระบําหมวกจึงแสดงเอกลักษณ์ทีโดดเด่นของชาวเวยี ดนา มอยา่ งชดั เจน

อาลุส ูวา ดินดัง (Alus Jua Dendang) คือการแสดงฟอนราํ ของชาวบรูไน เปนประเพณีทีสืบต่อกันมาจากสมัยโบราณ มักมีแสดงในงานแต่งงาน มีนักเต้นทังผู้ชายและผู้หญงิ ทําการฟอนราํ และรอ้ งเพลงประกอบ ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์(บรูไน) \"การแสดงประจําชาติของประเทศในสมาชกิ อาเซียน \" [ออนไลน์]. (2558). เข้าถึงได้จาก : http://asiandancestep123.blogspot.com/2015/01/blog- post.html [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] าวเมษยา ชยั เวทย์ ม 4/8 เลขที 28 (สมาชกิ ในกลุ่ม) ระบาํ คะชกั หรอื ระบาํ ลิง (Kecak) เปนการแสดงของชาวบาหลี ตัดตอนมาจากรามเกียรติ เล่าเรอื งราวของพระรามกับเหล่าพลวานนรทีตามไปชว่ ยนางสีดาจากทศกัณฐ์ ผู้ทีแสดงเปนลิงจะน่งุ ผ้าตาหมากรุก เปลือยท่อนบน ทัดดอกชบาแดงข้างหู นังล้อมวงกัน 4 – 5 ชนั โบกมือขึนลงพรอ้ มทังโยกตัวไปมาและรอ้ งวา่ “คะชกั คะชกั ” เปนเสียงสูงตาคล้ายทํานองดนตรี โดยตัวเอกต่างๆ จะเดินรา่ ยราํ ไปมาตรงกลางวง นายอธชิ ล เรอื งหริ ญั ม 4/8 เลขที 5 (หวั หน้ากลุ่ม) ระบําบารอ็ ง (Barong Dance) เปนการแสดงทีรูจ้ ักกันในหมู่นักท่องเทียว อนิ โดนีเซีย เลกอง (Legong) เรอื งราวเกียวกับการต่อสู้ระหวา่ งฝายธรรมะกับอธรรม บารอ็ งคือตัวแทนฝายดี เปนคนครงึ สัตว์ ส่วนรงั ดาเปนพ่อมดหมอผีฝายอธรรม ซึงจะต่อสู้กันจนฝายธรรมะได้รบั ชยั ชนะในทีสุด เปนการแสดงของชาวบาหลีมีลักษณะการรา่ ยราํ งดงาม เชอื งชา้ เนิบนาบ โดยใชเ้ ด็กหญงิ หน้าตาสวยงามทีผ่านการฝกฝนมาเปนอย่ างดี 3 คนเปนตัวแสดง ในสมัยทียงั ไม่มีประจําเดือนเท่านี \"สาธารณรฐั อนิ โดนีเซีย \" [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : เปนทีรูจ้ ักกันดีในชอื บนเวทีของเขา Didik Nini Thowok เปนนักเต้น https://sites.google.com/site/indoniseiy1987/kar-saedng [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] ชาวชวา ทีมักแอบอา้ งเปนผูห้ ญิงในระหวา่ งการแสดง Didik Nini Thowok(อนิ โดนีเซีย) การเต้นราํ แบบชวา และ การเต้นราํ แบบบาหลี การเต้นราํ ทีมีชอื เสียงทีสุดของ Didik Nini Thowok คือ Dwimuka (สอง face) เต้นราํ โดยเขาสวมหน้ากากหนึงอนั สวมทีด้านหลังศีรษะและโดยปกติ อกี อนั จะอยูด่ ้านหน้า เขาเต้นราํ โดยหนั หลังใหผ้ ู้ชมทําใหพ้ วกเขาเชอื วา่ นันคือด้านหน้าของเ ขา การเต้นราํ นีทําใหเ้ กิดความตกใจและเสียงหวั เราะเสมอเมือผูช้ มค้นพ บความจรงิ เปนนักเขยี น กวี และนักแต่งเพลงลูกทุ่งลาวอนั โด่งดัง และยงั เปนศิลปนแหง่ ชาติของสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาวอี กด้วย เขาเกิดเมือวนั ที 3 สิงหาคม พ ศ 2497 ทีเมืองโขง แขวงจําปาศักดิ เปนบุตรของนายเหงยี ม แสงราตรี และนางคําปน ศรอี กั ษร มีพนี ้องรว่ มกัน 11 คน ซียนในโช ดาวเวยี ง บุตรนาโค(ลาว) ฉียงใต้ นางสาวฟาใส หอมบุตร ม 4/8 เลขที 27 (สมาชกิ ในกลุ่ม) ลําลาว(Lam Lao)หรอื หมอลํา หมอลําเปนการแสดงดนตรพี ืนบา้ นของลาว นายณัฐวรรธน์ สนิทมัจโร ม 4/8 เลขที 12 (เลขานกุ าร) มีนักรอ้ งหรอื ผู้เล่าเรอื งและแคนเปนองค์ประกอบ ลาว เปนการโต้ตอบกันผา่ นโคลงกลอน \"การแสดงประจําชาติของอาเซียน \" [ออนไลน์]. (2558). เข้าถึงได้จาก : หรอื การรอ้ งทีมีสัมผสั คล้องจองระหวา่ งนักรอ้ งชายและหญงิ https://asiandancestep123.blogspot.com/ [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] การแสดงดําเนินไปด้วยท่าราํ ทีหลากหลาย มุกตลกต่างๆ แจ่ว อนั เกิดจากปฏิภาณไหวพรบิ ของผูร้ อ้ ง เปนรูปแบบของละครเพลงเสียดสีสังคม และการหยอกเยา้ กันระหวา่ งผูแ้ สดงและผู้ชม โดยทัวไปการเต้นราํ แจ่วนียงั คงอนรุ กั ษ์รูปแบบดังเดิมไว้ การแสดงแบบเดียวกันนีในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของไทยเรยี กหม จากการระบําของชาวบ้านในภาคเหนือของเวยี ดนามทีสืบทอดมาอย่ อลํา แต่ในลาว คําวา่ หมอลําจะเน้นทีตัวผูข้ ับรอ้ ง างยาวนานตังแต่ศตวรรษที 16 การแสดง มักแสดงกลางแจ้ง หรอื ลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน ลําตังหวาย (Lum tung wai) ในอดีตไม่มีฉาก ไม่มีการตกแต่งเสือผา้ หรอื แต่งหน้าใดๆ วงดนตรเี ปนวงดนตรแี บบดังเดิมทีประกอบไปด้วย ซอ ขลุ่ย เรมิ ต้นจากการขบั ลําประกอบดนตรี ภายหลังมีการฟอนราํ ประกอบ และกลอง ปจจุบันนิยมจัดแสดงในรม่ มากขึน ทํานองการลําตังหวาย และแสดงโดยนักแสดงมืออาชพี เปนทีนิยมนํามาขบั ลําเพอื ความบันเทิงของทังสองฝงแม่นาโขง \"ระบาํ หมาก \" [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : และมีการนํามาสรา้ งสรรค์การขับลํา และประกอบการแสดงอยูเ่ สมอ https://artandcom.wordpress.com/%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B% E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8 \"การแสดงประจําชาติของอาเซียน \" [ออนไลน์]. (2558). เข้าถึงได้จาก : %A2%E0%B8%99/%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E https://asiandancestep123.blogspot.com/2015/01/blog-post.html? 0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1- fbclid=IwAR3YzNcbgPffTm812vVeEDIDNxkvT6GI5iN4rZXs4jU8vuEEDXzN7I vietnam/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A QyQ6A [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] 1%E0%B8%A7%E0%B8%81/ [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] นายอธชิ ล เรอื งหริ ญั ม 4/8 เลขที 5 (หวั หน้ากลุ่ม) คารโิ นซา (Carinosa) เปนระบําพืนเมืองทีได้อทิ ธพิ ลมาจากสเปน คารโิ นซา แปลวา่ ฟลิปปนส์ คู่รกั หรอื ทีรกั เวลาเต้นจะจับคู่หญิง – ชาย ผู้หญิงจะใส่ชุด Maria Clara และถือพัด หรอื ผ้าเชด็ หน้า ตินิกลิง (Tinikling) รา่ ยราํ แสดงท่าทางเขินอาย บทเพลงมรเนือหาชมความงามของหญิงสาว ระบําประจําชาติของฟลิปปนส์ เปนระบําของชนเผ่าพืนเมืองทีใชไ้ ม่ไผ่สองลําตี – แตะกระทบกัน ผู้เต้นจะก้าวขาเต้นเปนจังหวะระหวา่ งไม่ไผ่สองลํานั น ตินิกลิงเปนระบําทีต้องอาศัยความเชยี วชาญและกา รฝกฝน ผู้เต้นต้องมีความรวดเรว็ และความคล่องตัว เปนการแสดงพืนบ้านของเมืองเลยเ์ ต (Leyte) และเมืองอนื ๆ ในหมู่เกาะวซี ายสั \"สาธารณรฐั ฟลิปปนส์ \" [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/filippins5170/wathnthr rm-pra-phe [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] นางสาวฟาใส หอมบุตร ม 4/8 เลขที 27 (สมาชกิ ในกลุ่ม) คือมหรสพทีแพรห่ ลายของคนไทยอกี อยา่ งหนึง ตัวหนังจะใชแ้ ผ่นหนังววั ฉลุเปนรูปตัวละครในเรอื งรามเกียรติ หนังใหญ่ และมีไม้ผูกทาบตัวหนังไวท้ ังสองข้าง เพอื ใหต้ ัวหนังตังตรงไม่งอ และทําใหม้ ีคันยนื ลงมาใต้ตัวหนังเปนสองขา้ งสําหรบั จับถือและยกได้ถนั ไทย โขน ด สถานทีเล่นจะปลูกโรงผา้ ใชผ้ ้าขาวคาดเปนจอ ส่วนด้านหลังจอจะจุดไต้และก่อไฟไว้ เพือใหม้ ีแสง ทําใหเ้ หน็ เงาตัวหนัง ซึงมีลวดลายวจิ ิตรมาติดอยูท่ ีจอผา้ ขาว และการเชดิ นันคนเชดิ ต้องเต้นไปตามจังหวะดนตรแี ละบทพากยบ์ ทเจร จาด้วย การแสดงโขนก็ประกอบไปด้วยการพากย์ เจรจา ขบั รอ้ ง และการเต้นทําท่าตามบทพากย์ จึงกล่าวได้วา่ โขนนําเอาการพากย์ เจรจา และท่าทางการเต้นการแสดงมาจากหนังใหญ่ เปนนาฏศิลปชนั สูงทีเก่าแก่ของไทย มีมาตังแต่ สมัยกรุงศรอี ยุธยา ตามหลักฐานจากจดหมายเหตุของ ลาลูแบร์ ราชทูตฝรงั เศสสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้กล่าวถึงการเล่นโขนวา่ เปนการเต้นออกท่าทางเข้ากับเสียงซอและเครอื งดนตรอี นื ๆ ผู้เต้นสวมหน้ากากและ ถืออาวธุ ครูประสิทธิ ปนแก้ว(ไทย) เกิดเมือวนั ที 13 พฤศจิกายน พ ศ 2484 เปนศิลปนทีมีความรูค้ วามเชยี วชาญ ในการแสดงโขนลิงเปนอยา่ งมาก \"การแสดงประจําชาติของอาเซียน \" [ออนไลน์]. (2558). จึงได้รบั ใหแ้ สดงตังแต่ เขนลุง สิบแปดมงกุฎ สุครพี พาลี องคต หนมุ าน เขา้ ถึงได้จาก : แสดงเปนหนมุ านแทบทุกตอน อาทิ ตอนหนมุ านอาสา https://asiandancestep123.blogspot.com/2015/01/blog- ตอนหนมุ านจับนางสุพรรณมัจฉา รวมทังได้แสดงละครและราํ เบ็ดเตล็ด post.html? อาทิ ราํ กราวอาสาในละครเรอื งมโนหร์ า ราํ ซัดชาตรี ราํ สีภาค ราํ เหยอ่ ย fbclid=IwAR3YzNcbgPffTm812vVeEDIDNxkvT6GI5iN4rZXs4j ราํ โคม แสดงละครเรอื งอานภุ าพแหง่ ความรกั U8vuEEDXzN7IQyQ6A [สืบค้นเมือ วนั ที 25 พฤศจิกายน 2564] อานภุ าพพอ่ ขุนรามคําแหง เปนต้น นอกจากงานด้านการแสดงโขนแล้ว ท่านยงั ได้สรา้ งสรรค์ผลงานมากมาย อาทิ ประดิษฐ์ท่าราํ ฉุยฉายพาลี ราํ กราวทหารนเรศวร ราํ เพลงปลุกใจ ประดิษฐ์ท่าเต้นโขนลิงประกอบการแสดงเรอื งรามเกียรติของกรมศิลปาก ร ชุดโขนวานรพงศ์

คำถามนาฏศิลป์ เรื่อง การแสดงพ้นื บา้ นอาเซยี นในโชนเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ 1.) การแสดงพ้ืนบา้ นประเทศบรไู น “อะได อะได” เปน็ การแสดงพื้นบา้ นท่มี เี นื้อหาเพลงบอกเลา่ ถึงเร่อื งใด ก. การพร่ำร่ำลาจากกนั ค. วิถชี ีวติ ของชาวประมง ข. การเกีย้ วพาราสี ง. การเฉลมิ ฉลองในพิธแี ต่งงาน 2.) ขอ้ ใดเป็นการแสดงพน้ื เมอื งของประเทศอินโดนเี ซีย ก.คารโิ นซา ข.ระบำอสั รา ค.เลกอง ง.ซาปิน 3.) ข้อใดคือความหมายของโขน ก. เปน็ ศิลปะการแสดงชัน้ สงู ของไทย มีความอลงั การและออ่ นช้อย เป็นการแสดงที่ใชท้ า่ รำตามแบบละครใน ข. เป็นจดุ ศูนย์รวมของศาสตร์และศลิ ปห์ ลากหลายแขนง เชน่ วรรณกรรม วรรณศลิ ป์ นาฏศิลป์ คีตศลิ ป์ หัตถศิลป์ ค.มกี ารนำเอาวิธเี ลน่ มาจากการเลน่ ชักนาคดกึ ดำบรรพ์ รวมทงั้ การนำศลิ ปะการพากย์ การเจรจา หน้าพาทย์และเพลง ดนตรี เข้ามาประกอบ ง. ถูกทัง้ ก ข และ ค 4.) การแสดงพน้ื บา้ นที่เปน็ เอกลักษณข์ องประเทศเวยี ดนามอยา่ งการแสดงระบำหมวกแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ให้เห็นถงึ ความสวยงาม ของการแสดงพื้นบ้านเวยี ดนามและยงั แสดงใหเ้ ห็นถึงอะไรบา้ ง ก.ประเพณีดา้ นการเมอื ง ค.อาชพี ส่วนใหญท่ ่คี นประกกอบอาชีพ ข.รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวนั ง.ประเพณกี ารแตง่ ตัวของคนเวียดนามในชีวิตประจำวนั 5.) ข้อใดไม่ใช่ปจั จยั ทที่ ำให้ “ระบำอปั สรา” กลายเป็นศลิ ปะการแสดงประจำชาติและเอกลกั ษณ์ของกัมพชู า ก.ระบำอปั สราองิ ความย่ิงใหญข่ องปราสาทนครวดั โดยการถอดแบบนางอปั สรมาจากจติ รกรรมในปราสาท ข.ระบำอปั สราเปน็ การแสดงเชิงสญั ลักษณ์ในการเรียกรอ้ งเอกราชจากฝร่งั เศสใหก้ บั กมั พชู า ค.ระบำอปั สราเปน็ การแสดงทเ่ี ชอื่ ว่าสบื ทอดต่อกนั มาจากเทพเจา้ เปน็ ระยะเวลาหลายพันปี ง.ระบำอปั สราเปน็ การแสดงทสี่ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ความเช่ือของชาวกมั พูชาอยา่ งชดั เจน 6.) การเชิดสงิ โตในประเทศสงิ คโปร์ได้รับอทิ ธิพลมาจากบรเิ วณใดของจีน ก.มณฑลทางภาคเหนอื ค.มณฑลทางภาคตะวนั ตก ข.มณฑลทางภาคตะวันออก ง.มณฑลทางภาคใต้ เฉลย 1.) ค. 2.) ค. 3.) ง. 4.) ง. 5.) ค. 6.) ง.

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์

สมาชกิ ในกลุ่ม Work กล่มุ : นายอทิ ธกิ ร เสนาวลั ย์ (อานัส) เลขที 5 E-mail [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0805579769 Facebook : Rnus Ittigorn Line :0805579769 เลขานกุ าร นายกชพล ชูประพันธ์ (ลัคกี) เลขที 1 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0617358688 Facebook : กชพล ชูประพันธ์ Line : กชพล ชูประพนั ธ์

หวั หน้ากลุ่ม: นายภูรพิ ฒั น์ ทองคงเเก้ว (ภู) เลขที 8 E-mail [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ 0807107123 Facebook ภูรพิ ฒั น์ ทองคงเเก้ว Line poo710485 Group รองหวั หน้ากลุ่ม :นาฏศิลปสรา้ งสรรค์ นายนพดล ชูสวา่ ง (ที) เลขที 2 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0948818543 Facebook : นพดล ชูสวา่ ง Line : teeza254999

อา้ งองิ https://livejap สืบค้นเมือวนั ท การเเสดงพืนบ้านประเทศญีปุน ผู้แสดงต้องได้รบั การฝกฝนอยา่ งมีแบบแผน นักแสดง ดนตรที ีใชป้ ระกอบ ดนตรี ทีใชป้ ระกอบการแสดง นายนพดล ชูสวา่ ด้วยระยะเวลายาวนานจนมีฝมือยอดเยยี ม ในวงดนตรจี ะมีผู้ขับรอ้ ง 2 คน การเเสดงพืนบ้านอาเซียน คนหนึงจะตีฉิง คอยใหจ้ ังหวะแก่ผู้เต้น สามารถเครอื งไหวรา่ งกายได้สอดคล้องกับจังหวะดนตรี อกี คนจะเปนผู้ขับรอ้ งและตีกลองเปนหวั ใจส นายภูรพิ ัฒน์ ทองคงเเก้ว ม 4/1 เลขที 8 เนือหาสาระของการแสดง ําคัญของการแสดงภารตะนาฏยมั ส่วนเครอื งดีด และเครอื งเปา การเเสดงพืนบา้ นเกาหลี สะท้อนสัจธรรมทีปลูกฝงยดึ มันในคําสอนของศาสนา เปนเพียงส่วนประกอบใหเ้ กิดความไพเราะเท่ แสดงได้ทุกสถานที ไม่เน้นเวที ฉาก านัน ประวตั ิความเปนมา เพราะความโดดเด่นทีเปนเอกลักษณ์ของภารตะนาฏยมั คือลีลาการเต้น และการา่ ยราํ ประวตั ิความเปนมาของภารตนาฏยมั การเเสดงพืนบ้านประเทศอนิ เดีย นายกชพล ชูประพันธ์ ม 4/1 เลขที 1 ภารตนาฏยมั ภารตนาฏยมั เปนนาฏศิลปทีเก่าแก่ทีสุดในอนิ เดีย https://www.gotoknow.org/posts/408293 มีส่วนสําคัญในพิธขี องศาสนาฮนิ ดูสมัยโบราณ สืบค้นเมือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 สตรฮี นิ ดูจะถวายตัวรบั ใชศ้ าสนาเปน “เทวทาสี” รา่ ยราํ ขับรอ้ ง บูชาเทพในเทวาลัย ซึงจะเรมิ ฝกตังแต่อายุ 5 ขวบ ศึกษาพระเวท วรรณกรรม ดนตรี การขับรอ้ งของเทวทาสีเปรยี บประดุจนางอปั สรทีทําหน้าทีรา่ ยราํ บน สวรรค์ อา้ งองิ บุคคลสําคัญ สาวติ า สัสตรี เปนนักเต้นราํ และนักออกแบบท่าเต้ นชาวอนิ เดียทีรูจ้ ักกันดีคือภารตนาฏ ยมั เธอเปนทีรูจ้ ักในการแสดงภารตนาฏ ยมั แบบดังเดิม ตัวอยา่ งการแสดงพนื บ้านอาเซียนhttps://yout u.be/a6OCwIbOhCo ชงั กูชุม หรอื ชงั โกชุม ชุดทีใชป้ ระกอบการเเสดงช ลักษณะกลองทีใชป้ ระกอบการเเสดง อา้ งองิ https:// 321e1o สืบค้นเม

ประวตั ิความเปนมาของละครโน ต้นกําเนิดของละครโนมาจากละคร \"Sarugaku”ทีมาจากประเทศจีน ซึงตรงกับสมัยนารา หรอื ราวปค ศ 700โดยละคร Sarugaku ทีมีการเลียนแบบท่าทางพรอ้ มกับการแสดง และการแสดงบทเพลงทีฟงดูเปนตลกขบขันนัน ได้รบั ความนิยมในฐานะการแสดงมหรสพทีจัดขึนตามวดั และศาลเจ้า และแพรห่ ลายไปยงั หมู่คนทัวไปในเวลาต่อมา ในปจจุบัน ละครโนสามารถรบั ชมได้ในหลายพืนทีในญีปุนในฐานะการแสดงพืนบ้านและพิธกี รรมศักดิสิทธิ และยงั เปนทียอมรบั ในต่างประเทศเปนอยา่ งมาก pan.com/th/article-a0000298/ การแสดงของนักดนตรที ีเล่นเพลงใหเ้ ขา้ กับแต่ละฉาก ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 เปนสิงทีขาดไม่ได้สําหรบั เวทีละครโน เครอื งดนตรที ีใชล้ ้วนเปนองค์ประกอบสําคัญของละครโน โดยเครอื งดนตรที ีใชน้ ันมีขลุ่ย (ทีเวลาเปาจะขนานกับพนื ) เรยี กวา่ \"Noukan” กลองเล็กทีสะพายไหล่ กลองใหญท่ ีคาดไวท้ ีเอว กลองใหญท่ ีใชไ้ ม้ตีใหญ่ โดยนักดนตรจี ะออกเสียง เสียงยะ (Ya-goe) และเสียงฮะ (Ha-goe) เพือเพมิ ความสนกุ สนานครนื เครง Nougaku (ละครโน) เพลงในละครโน าง ม 4/1 เลขที2 นักแสดงละครโน นักแสดงหลักของละครโนจะเรยี กวา่ \"Shi-te\" ๑ โดยไม่ใชเ่ พียงแค่มนษุ ยเ์ ท่านัน แต่ยงั มีบทครอบคลุมหลากหลายบทบาท การแสดงหนุ่ เกิดจากจินตนาการของประติมากรในสมัยโบราณศิ บุคคลสําคัญ ไม่วา่ จะเปนเทพเจ้า นักรบ วญิ ญาณ วญิ ญาณหญิงสาว ปศาจสาว เท็นงู ลปะประติมากรรมยงั นิยม สรา้ งเปนรูปเหมือนแบบ เชน่ รูปปน Zeami Motokiyo (วญิ ญาณบนภูเขา มีจมูกยาวและผิวสีแดง) หรอื เทพเจ้ามังกร คน สัตว์ และผู้ทีแสดงรว่ มกับ Shi-te จะเรยี กวา่ \"Waki\" และสิงของรูปเหล่านีในขั้นแรกเปนรูปนิงเคลือนไหวไม่ได้ มีบทบาทสําคัญทีขาดไม่ได้เลยในแทบทุกบทแสดง ประติมากรอาจมีจินตนาการไปไกลวา่ เมือปนเปนรูปเหมือนแล้วก็ควรใหเ้ คลือนไหวเหมือนคนจรงิ ด้วย ประวตั ิความเปนมาการเเสดงหุน่ จีน ด้วยเหตุนีจึงคิดประดิษฐ์กลไกในตัวหนุ่ ใหเ้ คลือนไหวตามต้องการ ความคิดและการสรา้ งหนุ่ ให้ เคลือนไหวของประติมากร การเเสดงพนื บ้านประเทศจีน* หุน่ จีน ๒ การแสดงหน่ ุ ลักษณะหุน่ จีน เปนพัฒนาการของการแสดงคนจรงิ หุน่ จีนมีรูปรา่ งลักษณะใหญ่เท่ากับตัวคน นายอทิ ธกิ ร เสนาวลั ย์ ม 4/1 เลขที 5 การมหรสพทีใชค้ นจรงิ ๆนั้นเปนมหรสพที ส่วนประกอบของหนุ่ จีนก็มีส่วนศีรษะและมือทั้ง ๒ ข้าง เก่าแก่อาจจะเปนทีซาซากจําเจแก่คนดู ส่วนลําตัวใชก้ ระบอกไม้ไผ่ทั้งปล้องสวมตั้งแต่คอลงมา อาจจะมีคณะมหรสพใชค้ นจรงิ แสดงหลายคณะจนเกิ ส่วนศีรษะและลําตัวถอดออกจากกันได้ ดการ แข่งขัน การสรา้ งศีรษะหนุ่ จีนนั้นจะต้องหาไม้เนื้อดีไม่มีตาไม้เพราะจะทําใ และเพือประหยดั และได้ผลประโยชน์สูง หย้ ากแก่การแกะสลัก และไม้นั้น จะต้องเปนไม้เนือออ่ น เมือหาไม้มาได้แล้วจะต้องขัดเกลาเสียก่อนจนกวา่ ชา่ งแกะสลักจ ลักษณะหุน่ จีน ะพอใจ เมือชา่ ง พอใจแล้วก็จะนํามาสลักใหเ้ ปนรูปศีรษะ รูปหน้าตา และลําคอ ส่วนลําคอนีชา่ งจะต้องทําใหล้ ําคอยาว เพือจะสอดลงไปกับแก่นลําตัวของหุน่ ได้ เมือได้รูปศีรษะเรยี บรอ้ ยแล้วขั้นต่อไปจึงหาด้ายรดั ใหเ้ กลียง เกลา ประเภทของหุน่ จีน ๑ การแสดงหนุ่ ด้วยสายโยงใยบังคับจากเบืองบน ๒ การแสดงหนุ่ ด้วยมือ บุคลสําคัญ หลักฐานลายลักษณ์อกั ษรทีระบุไวอ้ ยา่ งชดั เจน นันคือ หนังสือสาส์นสมเด็จ ลายพระหตั ถ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานภุ าพ และสมเด็จฯ เจ้าฟากรมพระยานรศิ รานวุ ดั ติวงศ์ ซึงทังสองพระองค์ใชเ้ วลาทีวา่ งโต้ตอบวจิ ารณ์ ประทานคําอธบิ ายเกียวกับวทิ ยาการต่างๆ เชน่ ประวตั ิศาสตร์ โบราณคดี วรรณคดี และศิลปะ ฯลฯ โดยเรมิ ตังแต่ป พ ศ 2475 ซึงเปนปทีสมเด็จพระเจ้าบราวงศ์เธอกรมพระยาดํา รงราชานภุ าพ เสด็จออกไปประทับอยู่ ณ บ้านชนิ นามอน เกาะปนัง อา้ งองิ http://culture.mcru.ac.th/8-th/85-th/5.pdf สืบค้นเมือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 นาฏศิลปของเกาหลี การแสดงระบําชงั กูเปนการแสดงทีถูกรอื ฟนขึนมาใหม่ ซึงก่อนหน้านีมันได้ถูกกวาดล้างไปพรอ้ ม ๆกับวฒั นธรรมของเกาหลีในยุคสมัยทีถูกญปี ุนยดึ ครอง การแสดงชุดนีจะใชน้ ักแสดงผู้หญงิ เท่านัน จะใชค้ นเดียวหรอื เปนกลุ่มก็ได้ งั กูชุม ชงั กูชุม” ถือวา่ เปนการรา่ ยราํ ทีไม่ได้แต่งองค์ทรงเครอื งซับซ้อนอะไรมา ก มีเพียงแค่ชุดฮนั บก กลองจังโก และสายคาดกลองก็ราํ ได้แล้ว ด้วยความงา่ ยในการเตรยี มตัวนีเอง ทําใหช้ าวเกาหลีนิยมแสดง “ชงั กูชุม” ในงานเทศกาลหรอื งานฉลอง ใชก้ ลองจังโกประกอบการเเสดง จังโกเปนกลองพืนบ้านรูปนา ิกาทราย ทีนิยมใชก้ ันในดนตรแี ละนาฏศิลปเกาหลี ไม่วา่ จะเปนในดนตรรี าชสํานัก ดนตรชี าวบา้ น ดนตรชี าวนา บุคคลสําคัญ พระเจ้าเซจงมหาราช เปนพระมหากษัตรยิ เ์ กาหลีรชั กาลที 4 แหง่ ราชวงศ์โชซ็อน ครองราชยร์ ะหวา่ ง พ ศ 1961 ถึง พ ศ 1993 ทรงเปนทีรูจ้ ักในการทีทรงประดิษฐ์อกั ษรเกาหลี ฮนั กึล และทรงเปนหนึงในสองกษัตรยิ เ์ กาหลีทีได้รบั สมั ญญาวา่ เปนมหาราช /th49.ilovetranslation.com/yYGCXeH5E4hOKr o5W==d/ : มือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564

ขอ้ สอบจากกลุม่ นาฏศิลป์ สร้างสรรค์ หวั ขอ้ การแสดงพบื้ า้ นอาเซียน จีน อินเดีย ญ่ีป่นุ เกาหลี 1. หนุ่ จีนนิยมทาํ หนุ่ เป็นทรงยงั ไง ก. ตน้ ไม้ ข. คนสตั ว์ ค. บา้ น ง. สงิ่ ของ ตอบ ข. คนสตั ว์ ( นายอิทธิกร เสนาวลั ย์ (อานสั ) เลขท่ี 5) 2. การตนาฏยมั เป็นการแสดงพนื้ บา้ นของประเทศใด ก. เกาหลี ข. อนิ เดีย ด. ญ่ีป่นุ ง. มาเลเซยี ตอบ ข. อนิ เดยี ( นายกชพล ชปู ระพนั ธ์ (ลคั ก)ี้ เลขท่ี 1) 3. ตน้ กาํ เนดิ ของละครโนมาจากละคร \"Sarugaku” ท่มี าจากประเทศอะไร ก. จีน ข.ญ่ีป่ นุ ค. อินเดยี ง. เกาหลี ตอบ ก. จนี ( นายนพดล ชสู ว่าง (ท)ี เลขท่ี 2) 4. ผคู้ ดิ คน้ อกั ษรเกาหลฮี นั กลุ คอื ใคร ก. พระเจา้ เซจงมหาราช ข. พระถงั ซมั จ๋งั ค. พระเจา้ ซุนจง ง. พระเจา้ โชซอน ตอบ ก.พระเจา้ เซจงมหาราช ( นายภรู พิ ฒั น์ ทองคงเเกว้ (ภ)ู เลขท่ี 8)

“ต้งั ใจอ่านหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอยไู่ มไ่ กลแลว้ ครเู ป็นกาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศิลปแ์ ละการละคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook