หน่วยที่ 5 แผนการสอน รหสั วิชา 06-334-203ความรูท้ วั่ ไปเกยี่ วกบั งานใบตอง เวลาเรียน 4 คาบ ทฤษฎี 1 คาบ ปฏิบตั ิ 3 คาบชือ่ บทเรียน 5.1 ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั งานใบตอง เวลาสอน 25 นาที 5.2 วัสดุและอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในงานใบตอง 5.3 ปฏบิ ัติการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ เวลาสอน 25 นาที เวลาสอน 150 นาทีจุดประสงคก์ ารสอน 5.1 เข้าใจความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั งานใบตอง 5.1.1 บอกประวัตขิ องงานใบตอง 5.1.2 อธบิ ายองคป์ ระกอบของงานใบตอง 5.1.3 ระบุประเภทของงานใบตอง 5.2 เข้าใจวัสดุและอุปกรณ์ท่ใี ช้ในงานใบตอง 5.2.1 จาํ แนกประเภทของวัสดุและอปุ กรณ์ 5.2.2 อธบิ ายการเตรียมและการเกบ็ รักษาวัสดุ 5.3 ปฏบิ ัติการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ 5.3.1 อธบิ ายวัสดุและอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ 5.3.2 อธบิ ายวิธพี ับกลีบใบตอง 5.3.3 พับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ
129เน้ อื หาสาระ5.1 ประวตั ิ องคป์ ระกอบ และประเภทของงานใบตอง 5.1.1 ประวตั ิความเป็ นมาของงานใบตอง ต้งั แต่สมัยโบราณเป็นต้นมา มนุษย์เรากไ็ ด้ใช้ใบตองมาห่ออาหาร ห่อขนมต่างๆ และใช้ในเร่ืองท่เี ก่ยี วกบั ชีวิตประจาํ วัน เช่น สมัยก่อนใช้เตาถ่านรีดผ้า กต็ ้องรีดกบั ใบตองกอ่ นจะทาํ ให้เตารีดล่ืนดขี ้ึน ในด้านความสวยงาม กไ็ ด้มผี ู้คดิ ประดิษฐ์ใบตองให้เป็นกระทงบายศรี ตลอดจนภาชนะใสส่ ่ิงของ ทาํ ให้เกดิ การวิวัฒนาการกนั มาเร่ือยๆ ไม่มีผู้ใดท่จี ะตอบได้ว่า “งานใบตอง” เร่ิมข้นึ เม่อื ใดหรือยุคใดใครเป็นผู้สอน มีหนังสอื ท่จี ะค้นคว้าได้กค็ อื พระราชนิพนธเ์ ร่ือง พระราชพิธี 12 เดือน ซ่ึงว่าด้วยการลอยพระประทปี และบุคคลท่อี ้างถึงและกล่าวขวัญกนั จนติดปากกค็ ือ นางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ซ่ึงได้คิดตกแต่งโคมลอยประดบั ด้วยดอกไม้หลากสีสวยงาม และยังนาํ ผลไม้มาแกะสลักเป็นพวกนกต่างๆ เกาะตามกลีบดอกไม้แต่งด้วยธปู เทยี นสวยงาม จากส่งิ เหล่าน้ีกไ็ ด้จาํ ฝังใจกนั มาจนปัจจุบันว่าในสมัยโบราณบรรพบรุ ุษของเรา ได้มีความสามารถลาํ้ เลิศย่ิงนักในการประดิษฐ์ดอกไม้ ใบไม้ ตลอดจนผลไม้และวัสดุอ่นื ๆ เม่อื มาถึงปัจจุบันน้ี งานใบตองกไ็ ด้ขยายวงกว้างข้ึนเป็นท่สี นใจของประชาชนทว่ั ไปจนถงึ ชาวต่างชาติ ได้มีการจัดนิทรรศการกนั ตามสถานศึกษา ศูนย์การค้า ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ หรือกระท่งั รายการโชว์ทางโทรทศั น์ ดังน้ันผู้ท่คี ดิ ประดษิ ฐ์หรือสนใจในวิชาน้ี กไ็ ด้พยายามประยุกต์และวิวัฒนาการให้เกดิ เป็นหลายรูปแบบในทางสร้างสรรค์ งานใบตองกเ็ ลยเป็นวิชาท่เี ตบิ โตข้นึ อย่างรวดเรว็ ท้งั ในสถานศึกษาและเป็นส่อื ในการดึงดูดให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทยดีย่ิงข้นึ เพราะงานใบตองเป็นเอกลักษณอ์ ย่างหน่ึงของประเทศไทย เป็นท่สี งั เกตได้ว่า งานฝีมือต่างๆ ต้นกาํ เนิดมกั จะเกดิ ข้ึนภายในพระมหาราชวัง โดยมีการนาํ ลูกหลานเข้าถวายตัว เพ่ือเข้ารับการฝึกในศิลปวฒั นธรรมต่างๆ เม่ือออกมาแล้วกไ็ ด้นาํ มาเผยแพร่หรือประกวดประชันกนั ต่อๆ ไป จนเป็นท่แี พร่หลายในหมู่ประชากรทว่ั ไป ย่งิ นานวันเข้าความสนใจในศิลปะของ “งานใบตอง” น้ีจะย่งิ แพร่หลายและเตบิ โตย่งิ ข้นึ จะเหน็ ได้ว่าสถานศึกษาหลายระดับ ยังสอดแทรกวิชางานใบตองไว้ในหลักสูตร เพ่ือเป็นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนะธรรมด้านงานใบตองไว้ พร้อมท้งั ปลูกฝงั ให้เยาวชนได้ตระหนักและสามารถประดิษฐ์ช้ินงานได้
130 5.1.2 องคป์ ระกอบของงานใบตอง ในการประดิษฐ์งานใบตองในรูปแบบต่าง ๆ ท่พี บเหน็ น้ัน ในช้ินงานมกั ประกอบไปด้วยหลาย ๆ ส่วน ซ่ึงสามารถแยกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ดงั น้ี 1. ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ใบตองท่พี ับเป็นกลีบรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือนาํ มาใช้ประกอบเป็นรูปทรงต่าง ๆ เช่น ใบตองท่พี ับเป็นรูปกลีบผกาซ้อน รูปกลีบเลบ็ ครุฑ หรือ รูปหักคอม้า เป็นต้น รูปท่ี 32 องคป์ ระกอบของงานใบตองในสว่ นประกอบหลัก 2. สว่ นประกอบตกแต่ง ได้แก่ ใบตองท่พี ับเป็นรูปต่าง ๆ เพ่ือนาํ มาใช้ตกแต่งผลงานให้เรียบร้อยดูประณีต และสวยงามย่ิงข้ึน เช่น ใบตองท่พี ับเป็นลายนมสาว นาํ มาถักตะขาบหรือพับลายกลีบลาํ ดวน เป็นต้น รูปท่ี 33 องค์ประกอบของงานใบตองในส่วนประกอบตกแต่ง
131 5.1.3 ประเภทของงานใบตอง งานใบตองสามารถแบ่งเป็นประเภทตามลักษณะการนาํ ไปใช้งานได้ดังน้ี 1. ประเภทใช้ห่อหรือบรรจุอาหาร ซ่ึงงานใบตองประเภทน้ี พบเหน็ ได้โดยทว่ั ไปในชีวิตประจาํ วัน ในยุคหน่ึงใบตองไม่ได้รับการนิยม เน่ืองจากความทนั สมัยและความสะดวกของพลาสติก แต่ปัจจุบันได้มกี ารรณรงคใ์ ห้หันกลับมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติ จึงมีการนาํ ใบตองกลับมาใช้ในชีวิตประจาํ วันใหม่ งานใบตองประเภทใช้ห่อหรือบรรจุอาหาร ได้แก่ การห่อแบบต่าง ๆกระทง ถาด และกระเช้า - การห่อขนมและอาหาร เช่น การห่อสวม ห่อทรงเต้ยี และห่อทรงสูง ซ่ึงสามารถนาํ ไปใช้บรรจุอาหารประเภทอาหารแห้ง เช่น การห่อข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ ขนมใสไ่ ส้ห่อหมก เป็นต้น รูปท่ี 34 งานใบตองประเภทห่อหรือบรรจุอาหาร - กระทงใสข่ นมและอาหาร เช่น กระทงมุมเดียว กระทงสองมุม กระทงส่มี ุมเราสามารถนาํ ไปใช้บรรจุอาหารประเภทของแห้ง หรือท่มี ีนา้ํ ขลุกขลิก ได้แก่ ขนมกล้วย ขนมตาลขนมต้มแดงต้มขาว เป็นต้น รูปท่ี 35 งานใบตองประเภทกระทงใส่อาหาร
132 - ถาดใบตอง ซ่ึงสามารถประดษิ ฐ์เป็นถาดได้หลายรูปแบบ เช่น ถาดรูปกลมถาดรูปรี ถาดรูปหัวใจ เป็นต้น โดยเยบ็ เป็นแบบต่าง ๆ เช่นลายเลบ็ ครุฑ ลายกลีบผกา หรือลายผเี ส้อื เป็นต้น นาํ มาบรรจุอาหารหรือผลไม้ในงานเล้ียงต่าง ๆ รูปท่ี 36 งานใบตองประเภทถาดใบตอง - กระเช้าใบตอง สว่ นมากมักพบในโอกาสพิเศษ ใช้สาํ หรับบรรจุขนมไทย เพ่ือนาํ ไปกราบผู้ใหญ่ท่เี คารพ เช่น กระเช้าแบบมหี ูใส่ขนมไทยชนิดต่าง ๆ ตกแต่งด้วยดอกไม้สดสวยงาม เป็นต้น รูปท่ี 37 งานใบตองประเภทกระเช้าใบตอง
133 2. ประเภทกระทงดอกไม้ กระทงดอกไม้มีหลายรูปแบบ ซ่ึงในแต่ละแบบผู้ประดษิ ฐ์พยายามพัฒนาและสร้างสรรคไ์ ด้อย่างสวยงาม กระทงทุก ๆ แบบสามารถนาํ ไปใช้ได้หลายโอกาส เช่น - ใช้เป็นเคร่ืองสกั การะบูชาพระรัตนตรัย - ใช้เป็นเคร่ืองสกั การะพระมหากษัตริยแ์ ละพระราชวงศ์ - นาํ ไปกราบลาอุปสมบท - กราบพ่อแม่ ครูอาจารย์ - ขอขมาลาโทษ - ชุดขนั หมาก เป็นต้น รูปท่ี 38 งานใบตองประเภทกระทงดอกไม้
134 3. ประเภทกระทงลอย กระทงลอยคอื ภาชนะสาํ หรับใส่ดอกไม้ ธปู เทยี น ส่งิ ของ ท่ลี อยนาํ้ ได้ ส่วนใหญ่ประดิษฐ์จากใบตอง ซ่ึงใช้ในเทศกาลวันลอยกระทงคือ ในวันเพญ็ เดอื น 12 ตามความเช่ือว่า การลอยกระทงเพ่ือเป็นการขอขมาแก่แม่คงคา เพราะได้อาศัยนา้ํ เพ่ือด่ืมกนิ และใช้ในชีวิตประจาํ วัน รูปท่ี 39 งานใบตองประเภทกระทงลอย
135 4. ประเภทบายศรี “บายศรี คือ ภาชนะท่ตี กแต่งสวยงามเป็นพิเศษ เพ่ือเป็นสาํ รับใสอ่ าหาร คาว หวานในพิธสี ังเวยบูชาและพิธีทาํ ขวัญต่าง ๆ ท้งั พระราชพิธแี ละพิธขี องราษฎร์” (มณีรัตน์ จันทนะผะลิน.งานใบตอง : 487) บายศรีหลวง หรือของพระมหากษัตริย์ แบ่งเป็น 3 ชนิดคือ 1. บายศรีสาํ รับเลก็ 2. บายศรีสาํ รับใหญ่ 3. บายศรีตองรองทองขาว บายศรีท่ใี ช้ในพิธขี องราษฎร์ บายศรีของราษฎรน้ันมีต้งั แต่ขนาดเลก็ ไปจนถงึ ขนาดใหญ่ และแบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ 1. บายศรีใหญ่ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ 1.1 บายศรีใหญ่ เป็นบายศรีท่มี ีขนาดใหญ่กว่าบายศรีปากชาม โดยจัดทาํ ใส่ภาชนะท่ใี หญ่ เช่น พาน โตก หรือตะลุ่ม ซ่ึงอาจมชี ้ันเดยี วหรือหลายช้ันกไ็ ด้ เช่น บายศรีภาคอสี าน บายศรีภาคเหนือ เป็นต้น รูปท่ี 40 บายศรีใหญ่
136 1.2 บายศรีต้น บายศรีต้งั หรือบายศรีช้ัน มีลักษณะโครงทาํ ด้วยไม้ มีฐานล่างใหญ่ รูปกลมแบน ตรงกลางฐานใช้ไม้กลมเป็นแกนลาํ ต้นตลอดยอด ท่แี กนตดิ แป้ นเป็นเถา ห่างเป็นระยะมี 5 ช้ัน 7 ช้ัน 9 ช้ัน บายศรีต้น ประกอบด้วย - ทาํ ตัวบายศรีด้วยใบตอง ตรึงกบั ไม้แป้ นตามลาํ ดบั - ระหว่างแป้ นแต่งด้วยดอกไม้ หรืองานแกะสลัก - พุ่มดอกไม้เป็นยอดหรือบายศรี (หรือใช้บายศรีปากชาม) - ไม้พันผ้าขาว 3 อนั ผูกขนาบให้แน่น ประโยชน์ ใช้เป็นเคร่ืองบูชาเทพยดา ตามลัทธพิ ราหมณ์ ไม่ใช่บูชาพระ ใช้ในพิธที าํขวัญและไหว้ครู รูปท่ี 41 บายศรีต้น
137 2. บายศรีปากชาม มีลักษณะเลก็ ใสใ่ นชามหรือขัน ประกอบด้วย - ตัวบายศรีทาํ ด้วยใบตองเทา่ ๆ กนั 3 ตวั - กรวยใบตองบรรจุข้าวสกุ ปากหม้อเตม็ 1 กรวย - ใบตองทาํ เป็นแมงดา 3 ตวั - กล้วยและแตงกวา แบ่งตามยาวของลูกอย่างละ 3 ช้ิน - ไม้ไผ่เลก็ ยาวเสยี บตลอดกรวย เหลือยอดเสยี บไข่ต้ม ตกแต่งด้วยดอกไม้ ประโยชน์ ใช้เป็นเคร่ืองสังเวยเทพยดา ต้ังศาลพระภมู ิ ทาํ ขวัญเป็นประเพณีของพราหมณเ์ ช่นเดยี วกบั บายศรีต้น รูปท่ี 42 บายศรีปากชาม ท่มี า : เรณู ขาํ เลิศ. การประดษิ ฐ์เคร่ืองใช้ด้วยใบตอง.
1385.2 วสั ดุและอุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นงานใบตอง งานประดิษฐ์ภาชนะจากใบตอง เป็นงานประณตี ใช้ฝีมอื และทกั ษะความชาํ นาญของผู้ทาํ ส่ิงหน่ึงท่มี ีส่วนช่วยให้งานออกมาดีคอื ใบตอง ซ่ึงเป็นวสั ดุหลกั ใบตองมีหลายชนิดแต่ท่มี ีคุณสมบัติเหมาะสมในการประดษิ ฐ์ท่สี ดุ คือ ใบตองจากกล้วยตานี สาํ หรับอปุ กรณ์ในการเยบ็ใบตองแต่ละคร้ังต้องเตรียมไว้ให้พร้อม จะทาํ ให้การทาํ งานเรว็ และราบร่ืน ฉะน้ันในการเลือกวัสดุอปุ กรณท์ ่เี หมาะสมย่อมช่วยให้การทาํ งานสะดวกและมีประสทิ ธภิ าพ 5.2.1 ประเภทของวสั ดุและอุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นงานใบตอง 1. ใบตองตานี คุณสมบตั ิของใบตองตานี - มผี ิวเป็นมนั สเี ขียวเข้ม ไม่แห้งกราก - มคี วามนุ่มเหนียว ไม่เปราะ ไม่ฉีกขาดง่าย มีความหนา-บางพอเหมาะ - สขี องใบตองจะไม่ตกตดิ อาหาร ถงึ แม้จะถูกความร้อน 2. กรรไกร ขนาดและรูปร่างเหมาะมอื นาํ้ หนักเบาและคมตลอดปลาย เวลาจับน้ิวท้งั หมดเข้าช่องได้พอดี ตัดใบตองใช้ขนาดใหญ่ ถ้าตดั ด้ายใช้ขนาดเลก็ 3. เข็มมือ ถ้างานละเอยี ดช้ินเลก็ มากใช้เบอร์ 9 ถ้างานปกตใิ ช้เบอร์ 8 เลือกท่ีแขง็ แรง รูกว้างและตัวยาว 4. เข็มหมุด ชนิดหัวมุกใช้เลก็ น้อยในบางคร้ัง ใช้กลัด หรือตรึงให้อยู่กบั ท่ชี ่ัวคราวชนิดหัวเลก็ ใช้บ่อย ต้องเลือกตวั ยาวและปลายแหลม ซ้ือกล่องใหญ่ราคาถูกดกี ว่ากล่องเลก็ 5. ไมก้ ลดั ขนาดเลก็ แหลมแขง็ แรง ใช้ไม้ติดผิวหรือใกล้ผิว 6. ดา้ ย สเี ขียวเข้มหรือสดี าํ เบอร์ 60 ใช้สองเส้นดีกว่าเส้นเดียว เพราะใช้เส้นเดียวจะมีความคมตัดใบตองให้ขาดง่ายกว่าเส้นคู่ 7. ผา้ ขาวบาง สาํ หรับห่อใบตองท่ฉี ีกแล้วหรือห่อผลงานท่แี ช่นา้ํ พอแล้ว ใช้ผ้าสาลูทบ 2 ช้ัน เยบ็ ริมคล้ายผ้าอ้อม 8. ผา้ เช็ดใบตอง ใช้ผ้าฝ้ ายดีกว่าผ้าผสมใยสงั เคราะห์ เพราะนุ่มและดูดซึมได้ดกี ว่า 9. ยางลบอย่างแข็ง ยางลบเน้ือแขง็ ๆ ใช้สาํ หรับกดเขม็ หมุดแทนน้ิวมือ นุ่มและไม่เล่ือนหลุดเวลากด 10. ไมบ้ รรทดั เลือกท่เี หน็ เส้นและตัวเลขชัดเจน 11. นอกจากน้ ี บางคร้ังยงั ต้องใช้คมี ปากคีบ ลวด กรรไกรตัดลวด มดี คัทเตอร์วงเวียน เขียง ถาด กะละมัง ท่ฉี ีดนาํ้ และภาชนะต่างๆ ตามแต่ความจาํ เป็นของแต่ละเร่ือง ควรจะเลือกให้ดพี อเหมาะท้งั ขนาดและคุณสมบัติท่ตี ้องการ
139 รูปท่ี 43 วัสดุและอุปกรณท์ ่ใี ช้ในงานใบตอง 5.2.2 การเตรียมและการเก็บรกั ษาวสั ดุและอุปกรณ์ หลกั การเตรียมใบตอง ชนิดของใบตอง ควรเลือกใช้ใบตองตานี เพราะมีความนุ่มเหนียว ไม่เปราะไม่ฉีกขาดง่าย มคี วามหนา-บางพอเหมาะ ใบตองชนิดอ่นื ๆ หนาไป หรือเปราะเกนิ ไป การห่อของเลก็ ๆน้อยๆ ในชีวิตประจาํ วันอาจใช้ใบตองกล้วยนาํ้ ว้าได้ แต่ถ้าจะประดิษฐ์ส่งิ ของสวยงามประณีต เช่นกระทงดอกไม้ แจกนั ฯลฯ จาํ เป็นต้องใช้เฉพาะใบตองตานีเทา่ น้ัน อายุของใบตอง ไม่ควรใช้ใบตองท่ยี ังออ่ นอยู่ เพราะไม่แขง็ แรงเห่ียวง่าย ฉีกขาด และชาํ้ มือง่าย ไม่คงรูปทรงท่ตี ้องการ ใบตองท่แี กเ่ กนิ ไปกไ็ ม่ควรใช้ เพราะอายุการใช้งานส้นั เหลืองเรว็ ดงั น้ันจึงควรเลือกใบตองท่มี ีอายุปานกลางกล่าวคือ เร่ิมมีสเี ขยี วแก่ ใบโตเตม็ ท่ี เวลาในการตดั ใบตองจากต้น ถ้าต้องการตัดใบตองจากต้นแล้วใช้งานได้ทนั ที ไม่ต้องเสยี เวลาผ่ึงให้นุ่ม ควรเลือกตัดในตอนเช้าเวลาสายให้นาํ้ ค้างท่เี กาะอยู่บนใบตองเร่ิมแห้ง ในตอนเยน็ แดดออ่ นๆ ใบตองท่สี ลบแดดในตอนท่แี ดดจัดน้ันเร่ิมฟ้ื นตัวและแขง็ แรงข้ึน แต่อย่ารอให้เยน็ย่าํ ค่าํ ใกล้ขมุกขมัว เพราะนอกจากจะมองเหน็ สไี ม่ถนัดแล้วอาจจะเกดิ มอี นั ตรายได้ การตัดใบตองไปรอการจาํ หน่ายหรือรอการใช้งานนานๆ จาํ เป็นต้องตดั เม่ือรุ่งเช้าหรือเช้าตรู่ เพ่ือจะได้ใบตองสดกรอบ ม้วนพับไว้ได้นานๆ ไม่เห่ียวง่าย วิธตี ัดใบตองจากต้น ควรตัดให้เหลือหูใบตอง (สว่ นใบท่โี คนก้านทางใบตอง) ติดอยู่กบั ต้นเลก็ น้อย ท้งั น้ีเพ่ือให้ช่วยทาํ หน้าท่สี งั เคราะห์แสงเล้ียงสว่ นก้านและกาบไม่ให้เน่าและเห่ียวแห้ง รุงรัง ต้นผอม ถ้าตัดใบตองถูกวิธตี ้นกล้วยจะดูเรียบร้อยสวยงาม ต้นอวบอ้วนสมบูรณด์ ี
140 วิธเี ชด็ ใบตอง ควรเฉือนใบตองออกจากก้าน และฉีกเป็นแผ่นกว้างพอจับเชด็ ถนัดมือใช้ผ้าฝ้ ายเน้ือนุ่มแห้งสะอาด เชด็ จากโคนถูไปหาปลายร้ิวใบตอง ถ้ามรี อยเป้ื อนเลก็ น้อยเฉพาะแห่งใช้ผ้าหมาดๆ เชด็ ออก ถ้าเป็นรอยติดแน่นให้ฉีกท้งิ แต่ถ้ามคี ราบฝ่ ุนเกาะหนาเตอะทว่ั ท้งั ใบให้ล้างนาํ้ ให้สะอาด ผ่ึงให้นา้ํ แห้งแล้วเชด็ อกี คร้ังถ้าจาํ เป็น สว่ นการเยบ็ ใบตองเป็นภาชนะใสข่ นมอาหารรับประทานน้ันเม่อื เยบ็ เสรจ็ แล้วควรล้างนา้ํ ให้สะอาดกอ่ นใช้ การตดั ถ้าต้องการใช้ใบตองรูปกลมหลายๆ แผ่นในการเยบ็ กระทง 1-3-4-5-6 มุมสาํ หรับจะใส่ขนมหรืออาหาร ควรฉีกใบตองกว้างเทา่ ท่ตี ้องการหาถ้วยกลมมาทาํ แบบขดี รอยแล้วใช้กรรไกรตัดหรือใช้มดี คมๆ กรีดตามแบบภาชนะบนเขยี ง การฉีก ควรใช้ปลายเขม็ หมุดจิกแล้วฉีก ถ้ามีเลบ็ มอื จะใช้เลบ็ หัวแม่มือกไ็ ด้ ควรค่อนไปทางปลายใบเลยกลางใบไปประมาณ 1–1½ น้ิว ช้ินท่ใี ช้เป็นแบบหันหน้านวลข้ึน และใช้ช้ินเดยี วตลอดเพ่ือขนาดจะได้ไม่คลาดเคล่ือน การเกบ็ รกั ษางานใบตอง ถ้าต้องการให้ใบตองสดทนนาน เม่ือประดษิ ฐ์เสรจ็ แล้วต้องแช่นาํ้ อย่างน้อย 3 ช่ัวโมงหรือ 1 คนื แล้วนาํ มาวางในภาชนะแล้วคลุมด้วยผ้าชุบนา้ํ หมาดๆ จะอยู่ได้หลายวัน (3-5 วัน) แต่ถ้างานช้ินไม่ใหญ่มาก นาํ ใส่ถุงพลาสตกิ รัดปากถุงให้แน่น เกบ็ ในตู้เยน็ กส็ ามารถเกบ็ ได้นานย่ิงข้ึน(ประมาณ 1 เดอื น) สว่ นอปุ กรณ์ท่คี วรดูแลเป็นพิเศษคือ กรรไกรและเขม็ มือ หลังจากใช้แล้วมียางเหนียวของใบตองเกาะอยู่ ควรล้างด้วยผงซักฟอก เชด็ ให้แห้งก่อนเกบ็ ถ้าเกบ็ ไว้นาน ๆ จึงหยิบใช้ ควรทาด้วยนา้ํ มันจักร เพ่ือป้ องกนั สนิมวิธีสอนและกิจกรรม 1. ผู้สอนอธบิ ายและซักถามผู้เรียน ในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของงานใบตอง 1.2 ประเภทของงานใบตอง 2. ผู้สอนอธบิ ายถึงอปุ กรณ์ท่ใี ช้ในงานใบตอง โดยมอี ปุ กรณ์ของจริงประกอบการอธบิ าย แล้วแนะนาํ วิธใี ช้ พร้อมท้งั ซักถามนักศึกษา 3. ผู้สอนนาํ ช้ินงานใบตองท่ปี ระดิษฐ์เป็นตวั อย่าง 1 ช้ิน มาวางหน้าช้ัน แล้วให้นักศึกษาช่วยกนั บอกองค์ประกอบของงานใบตองท่นี ักศึกษาเหน็ โดยผู้สอนคอยแนะนาํ และสรุปปิ ดท้ายเพ่ือให้ถูกต้องตามเน้ือหาสาระ
141 4. ผู้สอนนาํ ตัวอย่างใบตองชนิดต่าง ๆ มาให้นักศึกษาดูประกอบการอธบิ ายในเร่ืองคุณสมบัติของใบตองท่เี หมาะสมกบั งานใบตอง โดยให้นักศึกษาสงั เกตและสัมผสั จากน้ันทาํ การทดสอบโดยหยิบตวั อย่างใบตองและให้นักศึกษาช่วยกนั ตอบว่า เป็นใบตองชนิดใด มีวิธสี ังเกตได้อย่างไร โดยผู้สอนคอยสรุปและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในตอนท้าย 5. ให้นักศึกษาบางคนออกมาหน้าช้ัน เพ่ือสาธติ การเตรียมใบตองโดยผู้สอนคอยวิจารณ์ ตชิ ม แก้ไข และสาธิตวิธที ่ถี ูกต้องให้ 6. ผู้สอนสาธติ ประกอบการบรรยายการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ ท้งั สว่ นประกอบหลักและส่วนประกอบตกแต่ง โดยมีตัวอย่างกลีบใบตองท่พี ับแบบต่าง ๆ ให้นักศึกษาดูประกอบการบรรยาย 7. ให้นักศึกษาลงมือปฏบิ ัติตามใบงาน รหัสเอกสารท่ี 08 เร่ือง การพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ 8. ให้นักศึกษาทาํ แบบฝึกหัดท้ายบทสือ่ การสอน 1. หนังสืออ้างองิ 1, 2, 6, 8 2. เอกสารประกอบการสอน 2.1 เอกสารคาํ บรรยาย เร่ือง ความรู้ทว่ั ไปเก่ยี วกบั งานใบตอง 2.2 ใบงาน เร่ือง การพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ รหัสเอกสารท่ี 08 3. วัสดุโสตทศั น์ 3.1 ของจริง : อปุ กรณท์ ่ใี ช้ในงานใบตอง : ตัวอย่างช้ินงานใบตองท่ปี ระดษิ ฐ์เสรจ็ แล้ว 1 ช้ิน : ตวั อย่างใบตองชนิดต่าง ๆ : ตัวอย่างกลีบใบตองท่พี ับแบบต่าง ๆ 3.2 รูปภาพ : ภาชนะท่ปี ระดษิ ฐ์จากใบตอง
142งานที่มอบหมาย1. ให้นักศึกษาจัดเตรียมอุปกรณ์เพ่ือใช้พับกลีบใบตองต่าง ๆ2. ให้นักศึกษาเตรียมใบตองตานี เพ่ือใช้ในการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ ดังน้ี- ขนาดกว้าง 1¼ น้ิว ยาว 5 น้ิว จาํ นวน 20 ช้ิน- ขนาดกว้าง 1½ น้ิว ยาวตลอดทางตอง จาํ นวน 10 ช้ิน- ขนาดกว้าง 1¾ น้ิว ยาวตลอดทางตอง จาํ นวน 20 ช้ิน- ขนาดกว้าง ¼ น้ิว ยาวตลอดทางตอง จาํ นวน 20 ช้ินการประเมินผล 1 การซักถาม 2 การแสดงความคดิ เหน็ 3 ความสนใจและความร่วมมือในกจิ กรรมการเรียนการสอน 4 การทาํ แบบฝึกหัด 5 ผลงานตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 5.1 ใบประเมนิ ผลภาคปฏบิ ัติ 5.2 ใบปฏบิ ัตงิ านแบบฝึ กหดั ทา้ ยบท จงตอบคําถามต่อไปน้ ี 1. องคป์ ระกอบของงานใบตองแบ่งเป็นก่สี ว่ นอะไรบ้าง จงยกตวั อย่าง 2. จงบอกคุณสมบัติของใบตองตานี 3. ด้ายท่ใี ช้เยบ็ งานใบตองควรใช้ด้ายก่เี ส้น เพราะอะไร 4. จงอธบิ ายการฉีกใบตองท่ถี ูกต้อง 5. วิธใี ดท่สี ามารถทาํ ให้ใบตองสดทนนานแนวคําตอบข้อ 1 พิจารณาแนวคาํ ตอบจากเน้ือหาสาระหัวข้อท่ี 5.1.2ข้อ 2, ข้อ 3 พิจารณาแนวคาํ ตอบจากเน้ือหาสาระหัวข้อท่ี 5.2.1ข้อ 4, ข้อ 5 พิจารณาแนวคาํ ตอบจากเน้ือหาสาระหัวข้อท่ี 5.2.2
143สถาบนั เทคโนโลยีราชมงคล FM 4-1วิทยาเขตโชติเวช ISSUE 2 ใบงาน/หรือแบบฝึ กหดั หน้า……/…… ใบงานรหสั ที่ 08 เรือ่ ง การพบั กลีบใบตองแบบต่าง ๆ วิชา การแกะสลกั ผกั ผลไม้ และงานใบตองส่งั งานวันท่…ี …………………..……..กาํ หนดส่งงาน……………………..……..เวลา………….จุดประสงค์ 5.2 มที กั ษะในการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ 5.2.1 อธบิ ายวัสดุและอุปกรณ์ท่ใี ช้ในการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ 5.2.2 อธบิ ายวิธพี ับกลีบใบตอง 5.2.3 พับกลีบใบตองแบบต่าง ๆวสั ดุและอุปกรณ์ 1. ใบตองตานี 2. เขม็ มือเบอร์ 8-9 3. ด้ายสเี ขียวเบอร์ 60 4. กรรไกรจีน 5. ไม้บรรทดั 6. เขม็ หมุด 7. อ่างนาํ้ 8. ถาด 9. ผ้าขาวบาง
144การพบั กลีบใบตองเพอื่ ใชเ้ ป็ นส่วนประกอบหลกั 1. การพบั กลีบผกา วิธีทํา 1. ฉีกใบตองกว้าง 1 ¼ น้ิว ยาว 5 น้ิว จาํ นวน 12 ช้ิน 2. จับใบตองให้ริมด้านแขง็ อยู่ซ้ายมือ พับทบริมซ้าย มาทางขวา 2 ใน 3 ส่วน 3. พับริมขวามาชิดริมซ้าย พับทบอกี คร้ังจะได้แนวก่งึ กลาง พอดี ลายร้ิวทะแยงซ้ายและขวาจะเทา่ กนั
1454. กลีบผกาซ้อน นาํ กลีบผกามาเรียงซ้อนกนั 3 กลีบ ให้ยอดลดต่าํ ลงประมาณ ¼ น้ิว เยบ็ ตรึงตดิ กนั ตัดโคนตองท้งิ เลก็ น้อย เป็นกลีบผกาซ้อน เรียกว่า 1 ตับขอ้ เสนอแนะ1. ควรเลือกใช้ใบตองช่วงส้นั และตดั ค่อนไปทาง ปลายช้ินงานจะได้ไม่หนาจนเกนิ ไป2. เพ่ือความรวดเรว็ อาจใช้ลวดเยบ็ กระดาษเยบ็ กไ็ ด้
1462. การพบั กลบี เล็บครุฑ วิธีทํา 1. ฉีกใบตองกว้าง 1 ¼ น้ิว ยาว 5 น้ิว จาํ นวน 10 ช้ิน 2. จับใบตองให้ริมด้านแขง็ อยู่ซ้ายมือ หันด้านนวลเข้า หาตัวเรา พับทบเข้ามาข้างละ 2 คร้ัง ให้ชิดพอดีท่ี ก่งึ กลาง 3. พับสนั ทบซ้ายไขว้ไปทางขวามอื พับสนั ทบขวาไขว้ ไปทางซ้ายมือ เยบ็ ตรึงเป็นดอกจัน ขอ้ เสนอแนะ 1. การพับสนั ทบไขว้ทางใดกอ่ น-หลัง ควรทาํ ให้ เหมอื นกนั ทุกช้ิน เพ่ือความสวยงาม 2. เพ่ือความรวดเรว็ อาจใช้ลวดเยบ็ กระดาษเยบ็ กไ็ ด้
1473. การพบั กลีบบวั สตั ตบงกช วิธีทํา 1. ใช้ใบตองช่วงยาว ฉีกกว้าง 1½ น้ิว ยาวตลอด ทางตอง จาํ นวน 10 ช้ิน 2. จับใบตองให้ริมด้านแขง็ อยู่ทางซ้ายมอื หันนวลเข้า หาตัว พับทบริมซ้ายมาทางขวา 2 ใน 3 สว่ น แล้ว พับริมขวาชิดริมซ้าย พับทบมาอกี ทบหน่ึง จะได้ แนวก่งึ กลางพอดี
1483. จีบกระพุ้งก้นโดยกดสนั ทบกลางมุมลงไป ยกสนั ทบด้านซ้ายมอื ข้ึนมา ไขว้ไปทางขวา แล้วตัดชายให้ เหลือยาวเทา่ กบั ตัวกลีบ ตรึงดอกจันขอ้ เสนอแนะ1. การจีบกระพุ้งก้น ควรยกกลีบทบด้านซ้ายมือไขว้ไป ทางขวาเสมอ เม่ือเยบ็ แล้วกลีบจะไม่คลายตวั ออก2. เพ่ือความรวดเรว็ อาจใช้ลวดเยบ็ กระดาษเยบ็ กไ็ ด้
1494. การพบั กลีบกหุ ลาบ วิธีทํา 1. ฉีกใบตองกว้าง 1 ½ น้ิว ยาวตลอดตอง จาํ นวน 10 ช้ิน 2. ถอื ให้ริมแขง็ อยู่ด้านซ้าย ริมออ่ นอยู่ด้านขวาหัน ด้านนวลเข้าหาตวั พับริมแขง็ ทบลงมาเป็นมุมฉาก พับริมอ่อน (ด้านขวา) ลงมาให้ชิดกนั พับทบท้งั 2 ข้างเข้าหากนั 3. พับตลบสนั ทบกลับมาทางขวาให้เป็นเส้นโค้ง ทะแยง อกี ด้านทาํ เหมือนกนั 4. หนีบไว้ด้วยน้ิวกลางและน้ิวช้ี แล้วพับกลีบต่อไป นาํ มาสวมหุ้มท้งั ตับเรียงซ้อนกนั ให้กะระยะห่างกนั ¼ น้ิว ระวังปลายตอง (ยอดแหลม) ให้เสมอกนั เยบ็ ด้น ขอ้ เสนอแนะ การสวมหุ้มท้งั ตับเรียงซ้อนกันตามเขม็ นาฬกิ า จะได้ ลายท่ดี ูเรียบร้อย
1505. การพบั กลบี แบบคอมา้ วิธีทํา 1. ฉีกตองกว้าง 1 ¾ น้ิว ยาวตลอดตอง (ควรเลอื กใช้ ส่วนกลางตอง เพราะตองมชี ่วงยาว และร้ิวตองเป็น แนวตรงด)ี ตดั หัวท้ายท้งิ เพียงเลก็ น้อยเท่าน้ัน เรียง ทางอ่อนทางแขง็ ไว้ทางเดียวกนั จาํ นวน 10 ช้ิน 2. พับตองท้งั 2 ข้างให้มาชนกนั ตรงกลาง แล้วประกบเข้า หากนั อกี คร้ัง 3. หันสนั ตองข้นึ ข้างบน พับริมตองท่เี หลือลงมาท้งั สอง ด้าน พลิกส่วนท่พี ับน้ีไปทางซ้ายมอื อกี 1 คร้ัง
1514. พับตองเช่นน้ีประมาณ 4-5 ช้ิน เรียงซ้อนกนั ดังน้ี จบั ตองช้ินท่ี 1 ไว้ในมอื ขวา จับตองช้ินท่ี 2 ครอบทบั ตอง ช้ินท่ี 1, ช้ินท่ี 3 ครอบทบั ช้ินท่ี 2, ช้ินท่ี 4 ครอบทบั ช้ิน ท่ี 3 เว้นระยะห่างกนั ¼ น้ิว กดสนั ตองด้านบนให้ชดิ สนิทกนั5. จับมุมตองด้านซ้ายมือ พลิกตลบมาทางขวามือทุกช้ิน เยบ็ ให้แน่น พับตองแบบคอม้าน้ีอกี 1 ช้ิน ครอบทบั ช้ินท่ี 4 พลิกริมตองตลบมาทางขวามอื แล้วเยบ็ ทาํ เช่นน้ีต่อไปทลี ะช้ินขอ้ เสนอแนะ1. ถ้าต้องการให้กลีบแบบคอม้า มสี สี อดสลบั สวยงาม ย่ิงข้นึ ให้ใช้ใบกระบอื เลือกใบงามๆ สแี ดงสด ตดั กระดูกกลางใบออก ใช้ตลอดความยาวของใบ นาํ มา คาดบริเวณสว่ นบนของคอม้า เม่ือพับตองขวามอื ไป ทางซ้าย ตองจะปิ ดทบั สว่ นล่างของใบกระบือ คงเหน็ เฉพาะสว่ นบน การท่ใี ช้ใบกระบือสอดให้มีสแี ดงสลับ เด่นข้ึนน้ี เรียกว่า คอม้าสอดสี2. พับตองแบบคอม้าน้ีเช่นเดียวกนั แต่นาํ ตองช้ินท่ี 2 สอดเข้าใต้ตองช้ินท่ี 1, ช้ินท่ี 3 สอดเข้าใต้ช้ินท่ี 2, ช้ินท่ี 4 สอดเข้าภายใต้ช้ินท่ี 3 ทาํ เช่นน้ีเร่ือยไป ส่วนริมตอง ท่พี ลิกออกจะซ้อนขัดกนั อย่างสวยงามมาก จึงเรียกวธิ ี น้ีว่า คอม้าแบบคัดสลับ
1526. การพบั กลบี ผีเส้ ือ วิธีทํา1. ฉีกใบตองกว้าง 1¾ น้ิว ยาวตลอดตอง (ควรใช้ ใบตองช่วงยาว) จาํ นวน 10 ช้ิน2. ถือใบตองให้ริมด้านแขง็ อยู่ทางซ้ายมอื หันนวลเข้า หาตวั พับริมด้านแขง็ ลงมาเป็นมุมฉาก ให้เหลือ ชายเพียงเลก็ น้อย3. พับริมอ่อน (ด้านขวา) ลงมาให้ชิดกนั แล้วพับทบ ไปด้ายซ้ายมอื
1534. พับริมยาวท่เี หลือไปทางด้านขวา ให้มุมด้านซ้ายมือ เป็นมุมแหลม แล้วพับทบข้ึนข้างบน5. พับริมยาวลงมาอกี คร้ัง ให้มุมบนเป็นมุมแหลม แล้วพับทบมาทางซ้าย6. เผยอกลีบแยกออกมา ใช้น้ิวช้ีดุนล้ินกลางให้ตลบ ข้ึนไปแทรกอยู่ตรงกลาง ระวังอย่าให้สูงเกนิ ยอด แหลม
1547. ทาํ เช่นน้ีอกี 1 กลีบ แล้วนาํ มาสอดกนั โดยให้ขาท้งั 2 ข้างของช้ินท่ี 2 สอดเข้าไปตรงกลีบกลางของช้ินท่ี 1 เพ่ือบังคบั ไม่ให้กลีบบานเกนิ ไปขอ้ เสนอแนะควรระวังการนาํ กลีบมาสอด ต้องให้ขาท้งั 2 ข้างของช้ินท่ี 2 สอดเข้ากลีบกลางของช้ินท่ี 1 เสมอกอ่ นเยบ็ เพ่ือไม่ให้กลีบบานเกนิ ไป
155การพบั กลบี ใบตองเพอื่ ใชเ้ ป็ นส่วนประกอบตกแต่ง 1. การพบั ลายนมสาว วิธีทํา 1. ฉีกใบตองช่วงยาวท่สี ดุ กว้าง ¼ น้ิว 2. ฉีกแบ่งคร่ึงให้ได้ตอง 2 เส้น ซ้อนโคนไว้สว่ นท่ี เหลือแยกเป็นแนวเฉียง แล้วจับไขว้กนั เป็นมุม แหลม เยบ็ ด้วยฝีเขม็ ส้นั ๆ ให้ปิ ดรอยเยบ็ เดิมทาํ เช่นน้ีเร่ือยไปจนรอบภาชนะน้ันๆ ขอ้ เสนอแนะ 1. ขนาดของนมสาวข้นึ อยู่กบั ขนาดและลวดลายของ งานประดิษฐ์ ควรให้สมดุลและได้สดั สว่ นกนั 2. ควรฉีกตองให้มีขนาดเทา่ ๆ กนั ทุกเส้น
1562. การถกั ตะขาบ วิธีทํา 1. ฉีกตองกว้าง ¼ น้ิว ยาวตลอดทางตอง 2 เส้น ตดั ปลายทางอ่อนให้เรียบตรง ส่วนปลายทางแขง็ ตัดให้ แหลม เพ่ือให้สอดได้ง่าย วางตอง 2 เส้นน้ีซ้อนขวาง กนั ให้ปลายตองซ้อนเกยกนั ¼ น้ิว เส้นต้ังอยู่ล่าง เส้น นอนอยู่บน 2. พับปลายตองสว่ นบนลงมา พับตองทางซ้ายมือทบั ลง แล้วจบั ตองท่พี ับซ้อนกนั น้ีคว่าํ ลงทางด้านหน้าอกี 1 คร้ัง 3. จับตองเส้นท่อี ยู่ทางขวามือ อ้อมไปทางด้านหลงั สอด ปลายตองเข้าไปในช่องท่พี ับไว้ ดงึ เส้นตองให้เรียบ สนทิ
1574. จบั ตองเส้นท่อี ยู่ทางขวามือ สอดกลับทางช่องเดิมให้ เป็ นห่วง5. จบั ตองด้านตรง ทบให้เป็นห่วงสอดเข้าไปในห่วงแรก ดึงห่วงแรกให้ตงึ6. พับสอดสลบั กนั ไปจวนจะหมดเส้นจงึ ต่อเส้นใหม่ โดย สอดปลายเส้นใหม่เข้าไป ในตองเส้นท่ไี ม่ได้เป็นห่วง ถักต่อไปอกี 2 คร้ัง จงึ จะต่ออกี 1 เส้นได้
158ขอ้ เสนอแนะ1. การถักตะขาบน้อี าจใช้ทางมะพร้าวหรือใบเตยแทน ใบตองกไ็ ด้2. ตะขาบจะมีขนาดเลก็ หรือใหญ่ ข้ึนอยู่กบั การฉีกตอง ถ้าตองมีขนาดใหญ่เม่ือถกั แล้วตะขาบกจ็ ะมขี นาดใหญ่ ถ้าฉีกตองเลก็ ตะขาบกม็ ีขนาดเลก็ สดุ แต่ความ ต้องการของผู้ประดิษฐ์3. ควรถกั ให้แน่น ตะขาบจะคุ้มแน่นและแขง็4. ควรฉีกตองให้มีขนาดเทา่ กนั ทกุ ๆ เส้น ตะขาบจะได้มี ขนาดเทา่ กนั ตลอด ไม่เลก็ บ้างใหญ่บ้าง ไม่น่าดู
1593. การพบั ดอกลาํ ดวน วิธีทํา 1. ฉีกตองกว้างประมาณ ¼ น้วิ 4 เส้น ตดั ปลายตองท้งั 2 ข้างให้เป็นมมุ แหลมเพ่ือสะดวกในการสอด พับทบคร่ึง ตองท้งั 4 เส้น ให้ปลายทางแขง็ อยู่ด้านบน 2. จับตองช้ินท่ี 1 ไว้ในมอื ซ้าย สนั ทบตองต้งั ข้นึ ข้างบน นาํ ตอง ช้นิ ท่ี 2 คล้องทบั ช้นิ ท่ี 1 หันปลายตองไปทางขวา 3. นาํ ช้ินท่ี 3 คล้องทบั ช้นิ ท่ี 2 ปลายตองหันข้นึ ข้างบน ช้นิ ท่ี 4 คล้องทบั ช้ินท่ี 3 ปลายตองสอดเข้าไปในช่องของช้นิ ท่ี 1 ดงึ ตองทุกช้นิ ให้ตดิ กนั
1604. จะสงั เกตเหน็ ว่าตองท้งั 4 เส้น ทบซ้อนกนั อยู่เป็นค่ๆู ต่อไปจับปลายตองช้นิ ท่ี 1 แยกออกเพียง 1 ช้ินพับข้นึ ข้างบน พับช้ินท่ี 2 (ด้านซ้ายมอื ) ซ้อนทบั ช้นิ ท่ี 1, ช้นิ ท่ี 3 (ด้านบน) ทบั ช้นิ ท่ี 2 และช้นิ ท่ี 4 ซ้อนทบั ช้นิ ท่ี 3, สอด ปลายตองช้นิ ท่ี 4 (ด้านขวา) น้เี ข้าไปในช่องใต้ช้นิ ท่ี 1 ดงึ ตองท้งั หมดให้ชิดสนทิ แต่ละด้านจะมตี อง 2 เส้น เส้นหน่งึ อยู่สงู และอกี เส้นหน่งึ อยู่ต่าํ กว่า5. พลิกกลบั ด้าน จบี ตองเส้นท่อี ยู่ต่าํ (เส้นบนสดุ ) พับไปทาง ด้านหลงั เป็นแนวเฉียง 1 คร้งั แล้วพับกลีบมาทาง ด้านหน้าอกี 1 คร้งั ปลายกลบี เป็นมมุ แหลม สอดปลาย ตองเข้าช่องท่อี ยู่ทางขวามอื ดงึ ออกไปให้สดุ ตองเพียงเบา ๆ มอื ตองจะเป็นกลบี แหลมต้งั ข้นึ ท่มี มุ ใช้น้วิ มอื ดุนใต้ กลีบให้ต้งั เป็นมมุ ฉาก ทาํ เช่นน้ที ้งั 4 มุม เป็นกลีบรอบท่ี 1
1616. เม่อื ทาํ กลบี รอบท่ี 1 เสรจ็ แล้ว ปลายตองจะมารวมกนั อยู่ ภายในดอกท้งั 4 เส้น จับปลายตอง (เส้นบนท่ปี ลายตอง หันไปทางซ้ายมอื ) บดิ ไปข้างหลังแล้วสอดเข้าช่องท่อี ยู่ ขวามอื ทางด้านล่าง สอดจากด้านบนลงไปด้านล่าง ปลาย ตองจะออกไปทางด้านนอกทบั เส้นยาวของดอก ทาํ เช่นน้ี ท้งั 4 เส้น เป็นกลีบรอบท่ี 2 กลบี จะโค้งรวมกนั อยู่ตรง กลางดอก ตดั ปลายตองออกให้ชดิ ขอบ (เส้นส้นั )7. ปลายตองด้านนอกยงั คงเหลืออกี ด้านละ 1 เส้น จบั ตอง พับไปทางด้านหลงั เป็นแนวเฉียง 1 คร้งั แล้วพับกลบั มา ทางด้านหน้าอกี 1 คร้งั ปลายกลบี เป็นมมุ แหลม สอด ปลายตองเข้าไปด้านหลังของดอก ทาํ เช่นน้ที ้งั 4 เส้น เป็น กลีบรอบท่ี 2 แล้วตดั ปลายตองท้งิ ไป
162 ขอ้ เสนอแนะ 1. การสานดอกลาํ ดวนน้ีอาจใช้ทางมะพร้าวหรือ ใบเตยแทนใบตองกไ็ ด้ ถ้าต้องการให้อยู่คงทนอาจ ใช้ใบลานแทนกไ็ ด้ 2. เม่ือสานเสรจ็ แล้วนาํ ไปเยบ็ ติดบนฝาจุกตลับ หรือ ประดับบนหลังห่อยาจืดกไ็ ด้หนงั สืออา้ งอิง 1, 2, 6, 8การมอบหมายงาน ให้นักศึกษาปฏบิ ัติการพับกลีบใบตองแบบต่าง ๆ ตามใบงานรหัสเอกสารท่ี 08 แบบละ 5 ช้ิน แล้วนาํ ส่งผู้สอน เพ่ือประเมินผลการประเมินผล โดยใช้แบบประเมนิ ผลภาคปฏบิ ัติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: