-1- แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าคาสั่ง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว ทาเครื่องหมาย Х ลงในกระดาษคาตอบ1. ไฟฟ้ าท่ีเกิดจากฟ้ าผา่ คือไฟฟ้ าชนิดใดก. ไฟฟ้ าสถิต ข. ไฟฟ้ ากระแสค. ไฟฟ้ ากระแสสลบั ง. ไฟฟ้ ากระแสตรง2. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่เกิดจากแรงกดคือขอ้ ใดก. เทอร์โมคปั เปิ ล ข. ถ่านไฟฉายค. เซลลส์ ุริยะ ง. ผลึกควอตซ์3. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากแสงสวา่ งคือขอ้ ใดก. เทอร์โมคปั เปิ ล ข. ถ่านไฟฉายค. เซลลส์ ุริยะ ง. ผลึกควอตซ์4. อุปกรณ์ที่ใหก้ าเนิดไฟฟ้ าจากความร้อนคือขอ้ ใดก. เทอร์โมคปั เปิ ล ข. ถ่านไฟฉายค. เซลลส์ ุริยะ ง. ผลึกควอตซ์5. เซลลไ์ ฟฟ้ าเป็นแหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงท่ีไดจ้ ากอะไรก. ความร้อน ข. แสงสวา่ งค. ปฏิกิริยาเคมี ง. แรงกดอดั6. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ าก. ซิลิกอน ข. สังกะสีค. ทองแดง ง. อิเล็กโทรไลต์7. เซลลไ์ ฟฟ้ าขอ้ ใดเป็นเซลลป์ ฐมภมู ิก. ลิเธียมไอออน ข. ลิเธียมโพลิเมอร์ค. คาร์บอน-สงั กะสี ง. แบตเตอรี่สะสมไฟฟ้ าแบบตะกว่ั -กรด8. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดใดที่ใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สงั กะสี ประม าณ 4-9เท่าก. อลั คาไลน์ ข. ลิเธียมค. เซลลเ์ งิน ง. เซลลป์ รอท
-2-9. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดใดใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูง ใหแ้ รงดนั เร่ิมตน้ 3.6 โวลต์ นากลบั มาชาร์จใหมไ่ ด้น้าหนกั เบา นิยมใชใ้ นเคร่ืองบินเล็กก. ลิเธียมโพลิเมอร์ ข. ลิเธียมไอออนค. นิเกิลแคดเมียม ง. แบตเตอรี่สะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด10. การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมมีลกั ษณะสมบตั ิอยา่ งไรก. แรงดนั ไฟฟ้ าเท่าเดิม ข. แรงดนั ไฟฟ้ าเพิ่มข้ึนค. กระแสไฟฟ้ าลดลง ง. กระแสไฟฟ้ าเพิ่มข้ึน11. การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนานมีลกั ษณะสมบตั ิอยา่ งไรก. แรงดนั ไฟฟ้ าเพม่ิ ข้ึน ข. กระแสไฟฟ้ าลดลงค. แรงดนั ไฟฟ้ าลดลง ง. กระแสไฟฟ้ าเพิม่ ข้ึนจากรูปที่ ก-1.1 ใชต้ อบคาถามในขอ้ ท่ี 12-14 E3 E1 E2 3V 1A 3V 1A 3V 1A E4 E5 E6 3V 1A 3V 1A 3V 1A รูปท่ี ก-1.1 สาหรับตอบคาถามขอ้ ท่ี 12-1412. จากรูปท่ี ก-1.1 เป็นการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบใดก. อนุกรม ข. อนุกรม-ขนานค. ขนาน ง. ขนาน-อนุกรม13. แรงดนั ไฟฟ้ ารวมมีค่าเท่าใดก. 18 V ข. 9 Vค. 6 V ง. 3 V14. กระแสไฟฟ้ ารวมมีค่าเท่าใดก. 6 A ข. 3 Aค. 2 A ง. 1 A
-3- หน่วยที่ 1 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าสาระการเรียนรู้ 1.1 ชนิดของไฟฟ้ า 1.2 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า 1.3 เซลลไ์ ฟฟ้ า 1.4 หลกั การสร้างเซลลไ์ ฟฟ้ า 1.5 ชนิดของเซลลไ์ ฟฟ้ า 1.6 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าจุดประสงค์การสอนจุดประสงค์ทว่ั ไป เพ่ือใหน้ กั เรียนมีความ รู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ชนิดของไฟฟ้ า แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า หลกั การสร้างและชนิดของเซลลไ์ ฟฟ้ า และการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบต่าง ๆจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกชนิดของไฟฟ้ าได้ 2. บอกแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าแบบต่าง ๆ ได้ 3. บอกความหมายของเซลล์ไฟฟ้ าได้ 4. อธิบายหลกั การสร้างเซลลไ์ ฟฟ้ าได้ 5. บอกชนิดของเซลลไ์ ฟฟ้ าและการนาไปใชง้ านได้ 6. บอกลกั ษณะสมบตั ิของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบตา่ ง ๆ ได้ 7. คานวณหาแรงดนั ไฟฟ้ าและกระแสไฟฟ้ าจากการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบต่าง ๆ ได้
-4- แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าบทนา ไฟฟ้ ามีประโยชน์มากในการดาเนินชีวติ ประจาวนั ของมนุษย์ ไฟฟ้ ามีท้งั ท่ีเกิดข้ึนเองในธรรมชาติและมนุษยป์ ระดิษฐข์ ้ึนมา แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าใชส้ าหรับจา่ ยกระแสไฟฟ้ าใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้ าต่าง ๆ ทางานได้ โดยมีท้งั แหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงและแหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบัจึงตอ้ งศึกษาเก่ียวกบั แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าเพอ่ื จะไดน้ าไปใชง้ านไดถ้ ูกตอ้ ง โดยในหน่วยน้ีจะเป็นเร่ืองเกี่ยวกบั แหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรง1.1 ชนิดของไฟฟ้ า ไฟฟ้ ามีแหล่งกาเนิดมาจากหลายแหล่ง ไฟฟ้ าแบง่ ตามลกั ษณะและคุณสมบตั ิท่ีแตกตา่ งกนั ได้ 2 ชนิด คือ 1.1.1 ไฟฟ้ าสถิต ไฟฟ้ าสถิต คือ กระแสไฟฟ้ าที่เกิดจากการเสียดสีของวตั ถุ 2 ชนิด เช่น นาแท่งแกว้ นามาขดั ถูกบั ผา้ ไหม มีผลทาใหท้ าใหอ้ ิเลก็ ตรอนเคลื่อนท่ี แท่งแกว้ จะมีอานาจไฟฟ้ าดึงดูดวตั ถุเบา ๆเช่น เศษกระดาษ นอกจากน้ียงั มีไฟฟ้ าสถิตท่ีเกิดจากธรรมชาติ เช่น ฟ้ าแลบ็ ฟ้ าร้อง ฟ้ าผา่ มีการนาไฟฟ้ าสถิตไปใชใ้ นอุตสาหกรรมเกี่ยวกบั การพน่ สีโลหะตา่ ง ๆ การกรองฝ่ นุ และเขมา่ ออกจากควนั ไฟ การทากระดาษทราย เป็นตน้ 1.1.2 ไฟฟ้ ากระแส ไฟฟ้ ากระแส คือ แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่มนุษยผ์ ลิตข้ึนมา โดยการส่งกระแสไฟฟ้ าให้เคลื่อนที่ไปในลวดตวั นา ไฟฟ้ ากระแสมี 2 ชนิด คือ 1.1.2.1 ไฟฟ้ ากระแสตรง คือ การเคลื่อนที่ของอิเลก็ ตรอนท่ีมีทิศทางการไหลทิศทางเดียว โดยกระแสอิเลก็ ตรอนไหลจากข้วั ลบไปข้วั บวก แต่กร ะแสไฟฟ้ าในวงจรไหลจากข้วั บวกไปข้วั ลบ เช่น กระแสไฟฟ้ าจากถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ เซลลส์ ุริยะ เคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงเป็ นตน้ 1.1.2.2 ไฟฟ้ ากระแสสลบั คือ ไฟฟ้ าท่ีมี ทิศทาง การไหลของกระแสไฟฟ้ าท่ีเปลี่ยนทิศทางซ้า ๆ กนั ตลอดเวลา คือ ขณะหน่ึงจะมีคา่ เป็นศูนย์ แลว้ จะเพ่มิ ข้ึนมีคา่ สูงสุดในทางบวกแลว้ลดลงเป็นศูนย์ ตอ่ จากน้นั กจ็ ะมีค่าเพิ่มข้ึนอีกจนถึงค่าสูงสุดในทิศทางลบ แลว้ จะลดลงเป็นศูนยอ์ ีกจะสลบั กนั ไปตลอดเวลา ไฟฟ้ ากระแสสลบั ไดจ้ ากเครื่องกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบั
-5-1.2 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าแหล่งกาเนิดไฟฟ้ า หมายถึง ตน้ กาเนิดของกาลงั ไฟฟ้ าหรือแรงดนั ไฟฟ้ า ซ่ึงเกิดข้ึนไดจ้ ากวธิ ีการตา่ ง ๆ โดยไฟฟ้ าท่ีเกิดข้ึนอาจจะเป็นไฟฟ้ าสถิตหรือไฟฟ้ ากระแส แหล่งกาเนิดไฟฟ้ ามีดงั น้ี1.2.1 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากการขดั สีหรือเสียดสี ไดแ้ ก่ การนาแท่งอาพนั มาถูกบั ผา้ขนสตั ว์ พบ วา่ แท่งอาพนั สามา รถดูดผงเลก็ ๆ ได้ ไฟฟ้ าท่ีเกิดข้ึนเป็น ไฟฟ้ าสถิตบนวตั ถุท้งั สองหรือการหวผี มในช่วงท่ีมีอากาศแหง้ วธิ ีการน้ีจะทาใหเ้ กิดไฟฟ้ าสถิตเช่นกนั1.2.2 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่เกิดจากแรงกดอดั ไดแ้ ก่ การบีบตวั ของผลึกควอตซ์ (QuartzCrystal) ทวั ร์มาไลทแ์ ละเกลือโรเซลล์ เมื่อนาเอาผลึกดงั กล่าวมาวางไวร้ ะหวา่ งโลหะท้งั สองแผน่แลว้ ออกแรงกด จะมีกระแสไฟฟ้ าไหลออกมาท่ีปลายโลหะท้งั สอง พลงั งานไฟฟ้ าท่ีเกิดข้ึนน้ีมีคา่ ต่ามาก สามารถนาไปใชท้ าไมโครโฟน หูฟัง หวั เครื่องเล่นแผน่ เสียง เป็นตน้1.2.3 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากความร้อน ไดแ้ ก่ การใหค้ วามร้อนท่ีจุดต่อของโลหะท่ีต่างชนิดกนั จะเกิดกระแสไฟฟ้ าไหลในแท่งโลหะท้งั สอง เช่น ใชเ้ หลก็ กบั คอนสแตนแตน(Constantan)ซ่ึงคอนสแตนแตนเป็นโลหะผสมของทองแดง 60 เปอร์เซ็นต์ และนิเกิล 40 เปอร์เซ็นต์ โดย ยดึปลายขา้ งหน่ึงใหต้ ิดกนั และปลายอีกดา้ นหน่ึงของโลหะท้งั สองตอ่ เขา้ กบั กลั วานอร์มิเตอร์เพือ่ วดักระแสไฟฟ้ า เม่ือใหค้ วามร้อนท่ีปลายของโลหะท่ียดึ ติดกนั จะมีกระแสไฟฟ้ าไหลผา่ นกลั วานอร์มิเตอร์ วธิ ีการน้ี นาไปสร้างเป็นอุปกรณ์ใชง้ านจริงท่ีเรียกวา่ เทอร์โมคปั เปิ ล ใชเ้ พือ่ วดัอุณหภมู ิ เช่น ในเตาอบ เป็นตน้1.2.4 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากแสงสวา่ ง ไดแ้ ก่ เซลลส์ ุริยะ (Solar Cell) ที่รับแสงจากดวงอาทิตย์ โดยเซลลส์ ุริยะน้ีสร้างจาก สารก่ึงตวั นา เช่น ซิลิกอน (Silicon), แกลเลี่ยม อาร์เซไนด์(Gallium Arsenide), อินเดียม ฟอสไฟด์ (Indium Phosphide), แคดเมียม เทลเลอไรด์ (CadmiumTelluride) และคอปเปอร์ อินเดียม ไดเซเลไนด์ (Copper Indium Diselenide) เป็นตน้ เมื่อเซลล์สุริยะไดร้ ับแสงจะทาใหม้ ีกระแสไฟฟ้ าไหลออกมา กระแสไฟฟ้ าท่ีไดจ้ ะมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บัปริมาณแสงท่ีไดร้ ับ หากไดร้ ับแสงมาก จะมีกระแสไฟฟ้ าไหลมากดว้ ย เซลลส์ ุริยะมีใช้ งานแพร่หลายท้งั ในเครื่องคิดเลข นาฬิกา ดาวเทียม หรือใชผ้ ลิตกระแสไฟฟ้ าใชใ้ นบา้ นเรือน เป็นตน้ซ่ึงไฟฟ้ าท่ีไดเ้ ป็นไฟฟ้ ากระแสตรง1.2.5 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากปฏิกิริยาเคมี ไดแ้ ก่ การนาแผน่ สงั กะสีที่เป็นข้วั ลบ และแผน่ ทองแดงที่เป็นข้วั บวกจุม่ ลงในสารละลายของกรดกามะถนั อยา่ งเจือจาง ซ่ึงทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ จะทาใหเ้ กิดความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าระหวา่ งข้วั เซลล์ เม่ือตอ่ เซลลก์ บั วงจรภายนอก จะมีกระแสไฟฟ้ าไหลจากแผน่ ทองแดงไปยงั แผน่ สังกะสี แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าประเภทน้ีมีการนาไปใชง้ านมาก เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ี ซ่ึงไฟฟ้ าท่ีไดเ้ ป็นไฟฟ้ ากระแสตรง
-6- 1.2.6 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่เกิดจากสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้ า โดยใหข้ ดลวดตวั นาเคลื่อนท่ีตดั ผา่ นสนามแม่เหลก็ หรือสนามแม่เหลก็ เคลื่อนที่ตดั กบั ขดลวดตวั นา จะทาใหเ้ กิดแรงดนั ไฟฟ้ าข้ึนในตวั นาน้นั มี 2 ชนิด คือ เครื่องกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงและเครื่องกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบั 1.2.7 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าจากสิ่งมีชีวติ นกั วทิ ยาศาสตร์พบวา่ มีสตั วบ์ างชนิดท่ีสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ าได้ เช่น ปลาไหลไฟฟ้ า มนั ใชก้ ระแสไฟฟ้ าสาหรับป้ องกนั ตวั และล่าเหยอ่ื โดยในร่างกายของมนั มีเซลล์ พเิ ศษเรียงต่อกนั เป็นแถว สามารถสร้างความต่างศกั ย์ไดห้ ลายร้อยโวลต์ระหวา่ งหวั กบั หางของมนั ใหก้ ระแสไฟฟ้ าไดถ้ ึง 1 แอมแปร์ จากความรู้น้ีนกั วทิ ยาศาสตร์ไดส้ ร้างเซลลเ์ ทียมของปลาไหลไฟฟ้ า ข้ึน ซ่ึงสามารถนามาเป็นแหล่งพลงั งานสาหรับเคร่ืองปลูกถ่ายทางการแพทยห์ รืออุปกรณ์ไฟฟ้ าเล็ ก ๆ ชิ้นอื่น ๆ นอกจากสัตวบ์ างชนิดแลว้ ยงั พบวา่ มีความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้ าเกิดข้ึนในร่างกายของมนุษยด์ ว้ ย โดยเมื่อ วดั ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟ้ าระหวา่ ง แขนและขา จะพบวา่ มีความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าเกิดข้ึนทุกคร้ังท่ีหวั ใจเตน้ จากความรู้น้ีไดน้ ามาพฒั นาสร้างเคร่ืองตรวจหวั ใจที่เรียกวา่ “อิเลก็ โทรคาร์ดิโอกราฟ ” (electrocardiograph) ซ่ึงช่วยใหแ้ พทย์สามารถวนิ ิจฉยั โรคหวั ใจไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง1.3 เซลล์ไฟฟ้ า เซลลไ์ ฟฟ้ า คือ แหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงชนิดหน่ึงที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี ไฟฟ้ ากระแสตรงที่ไดเ้ ป็นไฟฟ้ าท่ีมีแรงดนั ไฟฟ้ าคา่ ตา่ ง ๆ ในแตล่ ะเซลล์ หากตอ้ งการกระแสไฟฟ้ าสูงข้ึนตอ้ งนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาตอ่ ขนานกนั และหากตอ้ งการแรงดนั ไฟฟ้ าสูงข้ึนตอ้ งนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาตอ่ อนุกรมกนั หรือหากตอ้ งการท้งั กระแส ไฟฟ้ าและแรงดนั ไฟฟ้ าที่สูงข้ึนก็ตอ้ งต่อแบบผสม ซ่ึงการนาเซลลไ์ ฟฟ้ าหลาย ๆ เซลลม์ าตอ่ นุกร มกนั น้นั จะไดเ้ ป็นแบตเตอรี่+- +-(ก) เซลลไ์ ฟฟ้ า (ข) แบตเตอร่ีรูปท่ี 1.1 แสดงสญั ลกั ษณ์ของเซลลไ์ ฟฟ้ าและแบตเตอร่ี1.4 หลกั การสร้างเซลล์ไฟฟ้ า เมื่อนาแผน่ โลหะต่างชนิดกนั ที่ทาหนา้ ท่ีเป็นข้วั ไฟฟ้ าข้วั บวกและข้วั ลบ เช่น สังกะสีท่ีเป็นข้วั ลบ และแผน่ ทองแดงที่เป็นข้วั บวก จุม่ ลงไปในสารละลายท่ีนาไฟฟ้ าได้ (อิเลก็ โทรไลต)์ ซ่ึงจะ
-7-แตกตวั ใหไ้ อออนบวกและไอออนลบ เช่น สารละลายกรดซลั ฟิ วริก ซ่ึงจะทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ ทาใหเ้ กิดความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าระหวา่ งข้วั เซลล์ โดยข้วั บวกจะมีศกั ยส์ ูงกวา่ ข้วั ลบเมื่อต่อเซลลก์ บั วงจรภายนอก จะมีกระแสไฟฟ้ าไหลจากข้วั ท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูงไปยงั ข้วั ที่มีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่า นน่ั คือจะมีกระแสไฟฟ้ าไหลจากแผน่ ทองแดงไปยงั แผน่ สังกะสี (อิเล็กตรอนจะไหลจากข้วั ท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้ าต่าไปยงั ข้วั ท่ีมีศกั ยไ์ ฟฟ้ าสูง) กระแสไฟฟ้ าจะไหลจนกระทงั่ ศกั ยไ์ ฟฟ้ าท่ีข้วั ท้งั สองเทา่ กนั จึงจะหยดุ ไหล แสดงวา่ ไมม่ ีกระแสไฟฟ้ าอีกตอ่ ไป แคโทด (-) (+) แอโนด ข้วั ไฟฟ้ า สารละลายอิเลก็ โทรไลต์ (มีไอออนบวกและไอออนลบ) รูปท่ี 1.2 แสดงส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ า ที่มา : http://school.obec.go.th/mrvilai/electrochemicalcall.htm1.5 ชนิดของเซลล์ไฟฟ้ า แบง่ ตามลกั ษณะการใชง้ านได้ 2 ชนิด คือ 1.5.1 เซลลป์ ฐมภมู ิ (Primary Cell) คือ เซลลไ์ ฟฟ้ าที่เมื่อใชง้ านไปนาน ๆ ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าจะลดลง จนไมม่ ีกระแสไฟฟ้ าไหล เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดน้ีไมส่ ามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ได้ มีหลายชนิด ดงั น้ี 1.5.1.1 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สงั กะสี หรือถ่านไฟฉายธรรมดาท่ีรู้จกั กนั โดยทว่ั ไปเป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่มีการใชง้ านมาก เช่น วทิ ยุ นาฬิกา กลอ้ ง เป็นตน้ โครงสร้างของถ่านไฟฉายประกอบดว้ ย โลหะสังกะสีที่ทาหนา้ ท่ีเป็นข้วั ลบ ซ่ึงเป็นตวั ถงั ภายนอก มีแทง่ คาร์บอนท่ีทาหนา้ ที่เป็นข้วั บวกอยภู่ ายในเป็นแกนกลางของถ่านไฟฉาย ใชส้ ารละลายแอมโมเนียคลอไรด์และแมงกานีสไดออกไซดเ์ ป็นตวั ทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาทางเคมี ซ่ึงทาใหเ้ กิดความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าภายในเซลล์
-8-ตวั ถงั โลหะ แท่งคาร์บอนสงั กะสี แผน่ ก้นัแอโนด แมงกานีส ไดออกไซด์ แคโทด รูปที่ 1.3 แสดงโครงสร้างภายในของถ่านไฟฉาย ท่ีมา : http://www.basiclite.com/web/index.php?topic=36.0 ถ่านไฟฉายโดยทว่ั ไปจะมีแรงดนั 1.5 โวลต์ มีหลายขนาด ไดแ้ ก่ D , C , AA , AAA แต่ที่นิยมใช้ คือ AA และ AAA นอกจากน้นั ยงั มีแบบกอ้ นสี่เหลี่ยมท่ีมีแรงดนั มาก เช่น ขนาดแรงดนั 9โวลต์ และ 12 โวลต์ เป็นตน้ รูปท่ี 1.4 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สงั กะสีขนาดตา่ ง ๆ ท่ีมา : http://www.excelchoice.com/media/catalog/product/cache/1/image/ 5e06319eda06f020e43594a9c230972d/3/_/3_68.jpg ขอ้ ดีของถ่านไฟฉายชนิดน้ี คือ ราคาถู กและมีหลายขนาดใหเ้ ลือกใช้ แต่ มีขอ้ เสีย คือ ให้พลงั งานไดน้ อ้ ยที่สุดเมื่อเทียบกบั ถ่านไฟฉายชนิดอ่ืน หากเกบ็ ในสถานท่ีมีอุณหภมู ิท่ีร้อนหรือเย็นเกินไปจะมีผลทาใหป้ ระสิทธิภาพของถ่านไฟฉายลดลง 1.5.1.2 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดอลั คาไลน์ (Alkaline Cell) หรือถ่านไฟฉายอลั คาไลน์ เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าไดส้ ูงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สังกะสี 4 – 9 เท่า ซ่ึงข้ึนอยกู่ บัสภาวะการใชง้ าน แตม่ ีราคาแพงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สังกะสี เหมาะกบั การใชง้ านที่ตอ่ เน่ืองยาวนาน มีลกั ษณะเหมือนกบั ถ่านไฟฉายทวั่ ๆ ไป
-9- รูปที่ 1.5 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดอลั คาไลน์ ที่มา : http://th.88dbmedia1.jobsdb.com/DB88UploadFiles/ 2008/08/25/50069827-E845-4DFA-A11C-6743E83B812E.jpg 1.5.1.3 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดปรอท หรือเซลลป์ รอท เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ าประมาณ 1.3 โวลต์ ใหก้ ระแสไฟฟ้ าต่า แต่ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ าเกือบคงท่ีตลอดอายกุ ารใชง้ าน มีขนาดเลก็ นิยมใชก้ นั มากในเครื่องฟังเสียงสาหรับคนหูพกิ าร หรือใชใ้ นเครื่องคิดเลข นาฬิกา เป็นตน้ รูปท่ี 1.6 ส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดปรอท ที่มา : http://thapring.com/Pingpong_web/Elec_Chem.htm 1.5.1.4 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดเงิน หรือเซลลเ์ งิน เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูงทางานในอุณภมู ิต่าไดด้ ี ให้แรงดนั ไฟฟ้ า 1.5 โวลต์ มีขนาดเลก็ มาก รูปร่างคลา้ ยเมด็ กระดุม อายุการใชง้ านนานมาก แต่มีราคาแพง ใชใ้ นงานที่ตอ้ งการกระแสสูง ๆ เช่น นาฬิกาขอ้ มือ เคร่ืองคิดเลข เป็นตน้ 1.5.1.5 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียม (Lithium cell) เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูงมีแรงดนั ไฟฟ้ าสูงกวา่ เซลทว่ั ๆ ไป มีขนาดเลก็ มาก รูปร่างคลา้ ยเมด็ กระดุม เหมาะสาหรับใชก้ บังานหนกั ท่ีตอ้ งการแรงดนั สูงกวา่ ปกติ นิยมใชใ้ นนาฬิกาขอ้ มือ เครื่องคิดเลข เกมกด รีโมทรถยนต์ เป็นตน้
- 10 - รูปที่ 1.7 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมแบบกระดุม ที่มา : http://cdn1.ioffer.com/img/item/958/799/95/CR2032-BP1.jpg1.5.2 เซลลท์ ุติยภมู ิ (Secondary Cell) คือ เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่สร้างข้ึนแลว้ ตอ้ งนาไปประจุไฟหรือชาร์จไฟ (Charge) เสียก่อนจึงจะนามาใชไ้ ด้ และเมื่อใชไ้ ฟหมดแลว้ สามารถทาใหศ้ กั ยไ์ ฟฟ้ าเพมิ่ ข้ึนได้ โดย การนาไปชาร์จใหม่ และส ามารถนากลบั มาใชไ้ ดอ้ ีก และเพ่ือใหม้ ีกระแสไฟฟ้ ามากจะตอ้ งใชเ้ ซลลห์ ลาย ๆ แผน่ ตอ่ กนั แบบขนาน แต่ถา้ ตอ้ งการให้แรงดนั ไฟฟ้ าสูงข้ึนกต็ อ้ งใชเ้ ซลล์หลาย ๆ แผน่ ต่อกนั แบบอนุกรม มีหลายชนิด ดงั น้ี 1.5.2.1 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด หรือ แบตเตอรี่สะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่สามารถชาร์จไฟเพอื่ นากลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ ใชเ้ ป็นแหล่งพลงั งานไฟฟ้ าในรถยนตห์ รือจกั รยานยนต์ โครงสร้างของแบตเตอร่ีประกอบดว้ ยโลหะท่ีทาหนา้ ที่เป็นข้วั บวกและโลหะท่ีเป็นข้วั ลบ แช่ในสารละลายกรดซลั ฟิ ว ริกซ่ึงเป็นตวั ทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาทางเคมีโดยแต่ละเซลลม์ ีขนาด 2 โวลต์ ต่อกนั แบบอนุกรมต้งั แต่ 2 เซลลข์ ้ึนไป เช่น แบตเตอร่ีรถยนต์ 12โวลต์ ไดจ้ ากการนาเซลลส์ ะสมไฟฟ้ าแบบตะกว่ั ซ่ึงมีความต่างศกั ยเ์ ซลลล์ ะ 2 โวลต์ มาตอ่ กนั แบบอนุกรมจานวน 6 เซลล์ ปัจจุบนั แบตเตอรี่รถยนตม์ ีท้งั แบบท่ีตอ้ งเติมน้ากลั่นและแบบที่ไมต่ อ้ งเติมน้ากลนั่ ข้วั บวก ข้วั ลบ จุก ฝา สะพานไฟ บสั บาร์ เปลือก แผน่ ธาตลุ บ แผน่ ก้นั ใยแลกบว้ แผน่ ธาตุบวก รูปที่ 1.8 แสดงโครงสร้างภายในของแบตเตอรี่ ท่ีมา : http://www.fbbattery.com/tips/pdf/battery.pdf
- 11 - ปัจจุบนั เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด มี 2 ชนิด คือ 1.5.2.1.1 แบบเปี ยก หรือเซลลเ์ ปิ ด (Open cell หรือ Unsealed battery) นิยมใช้กนั มาก มีท้งั แบบที่ตอ้ งเติมน้ากลนั่ บอ่ ย ๆ อยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละคร้ัง กบั แบบท่ีดูแลนาน ๆ คร้ัง โดยท้งั สองแบบน้ีจะมีฝาปิ ด-เปิ ดสาหรับเติมน้ากลน่ั แบบแรกจะมีอายกุ ารใชง้ านประมาณ 1.5-2 ปี แต่ไม่ควรใชง้ านนานเกิน 3 ปี ท้งั น้ีก็ข้ึนอยกู่ บั สภาพการใชง้ าน และการดูแลรักษา 1.5.2.1.2 แบบแหง้ หรือแบบไม่ตอ้ งดูแลรักษา (Maintenance free หรือ Sealedbattery) ไม่ตอ้ งเติมน้ากลนั่ มีความทนทาน มีอายกุ ารใชง้ านท่ียาวนานกวา่ แต่มีราคาแพง มีอายุการใชง้ านประมาณ 5-10 ปี แบตเตอร่ีแบบน้ีถูกปิ ดแน่น ไม่มีฝาปิ ด-เปิ ดสาหรับเติมน้ากลนั่ แตจ่ ะมีตาแมวไวส้ าหรับคอยตรวจเช็คระดบั น้ากรด(ก) แบบตอ้ งเติมน้ากลนั่ (ข) แบบไมต่ อ้ งเติมน้ากลน่ัรูปที่ 1.9 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรดท่ีมา : http://sst.tarad.com/shop/s/sst/img-lib/spd_20060319150205_b.jpghttp://www.leonics.co.th/html/th/aboutpower/greenway14.php 1.5.2.2 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียม (Nickel-cadmium cell, Ni-cd) หรือเรียกวา่นิแคด เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีสามารถชาร์จใหม่ได้ ใชแ้ ทนถ่านไฟฉายแบบธรรมดา มีแรงดนั ไฟฟ้ า1.2 โวลต์ สามารถชาร์จใหม่ไดน้ บั ร้อยคร้ัง แต่ตอ้ งใชง้ านให้กระแสไฟฟ้ าหมดเสียก่อน แลว้ จึงนาไปชาร์จใหม่ หากชาร์จถ่านขณะท่ีกระแสไฟฟ้ ายงั ไม่หมด จะทาใหป้ ระสิทธิภาพของเซลลไ์ ฟฟ้ าลดลง หรือหากชาร์จนานเกินไปจะทาใหร้ ้อนมากและเสียหายได้ รูปท่ี 1.10 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียมท่ีมา : http://www.vajira.ac.th/kt/images/article/200610251137341wq53.jpg
- 12 - 1.5.2.3 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลเมทลั ไฮไดรด์ (Nickel-metal hydride cell, Ni-MH) เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่ใชส้ าหรับอุปกรณ์ที่ตอ้ งการกาลงั ไฟฟ้ าสูง เช่น กลอ้ งดิจิตอล เคร่ืองเล่น MP3 เป็นตน้มีแรงดนั ไฟฟ้ า 1.2 โวลต์ สามารถชาร์จใหม่ไดน้ บั ร้อยคร้ัง มีปัญหาเร่ืองการชาร์จใหม่นอ้ ยมากมีความจุของกระแสสูงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียมมาก แต่มีขอ้ เสียคือมีน้าหนกั มากกวา่เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียม รูปที่ 1.11 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลเมทลั ไฮไดรด์ ท่ีมา : http://www.thaicharger.com/index.php?topic=60.0 15.2.4 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมไอออน (Lithium Ion cell , Li-Ion) เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีนิยมนามาใชก้ บั โทรศพั ทม์ ือถือ เคร่ือง PDA และคอมพวิ เตอร์โน๊ตบุค๊ เป็นตน้ มีน้าหนกั เบา ไม่มีปัญหาเรื่องการชาร์จใหม่ ชาร์จเม่ือใดก็ได้ เพราะมีวงจรตดั ไฟฟ้ าป้ องกนั ไฟเกินในตวั เอง มีระบบป้ องกนั การระเบิด และมีอตั ราการสูญเสียประจุต่ากวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบเดิมมาก แต่เน่ืองจากคา่แรงดนั ไฟฟ้ าเริ่มตน้ ของเซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดน้ีเร่ิมท่ี 3.6 โวลต์ จึงไมน่ ิยมนามาผลิตเป็นถ่านไฟฉายที่ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ า 1.5 โวลต์ รูปท่ี 1.12 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมไอออนแบบต่าง ๆ ท่ีมา : http://www.digitalland1.com/shop/d/digitalland/img-lib/spd_20070515111648_b.jpg http://www.powerstream.com/licoin.htm
- 13 - 1.5.2.5 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมโพลีเมอร์ (Lithium Polymer cell, Li-Po) เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่นิยมใชก้ นั มากในโทรศพั ทม์ ือถือ เครื่อง PDA คอมพวิ เตอร์โน๊ตบุค๊ เคร่ืองมือแพทย์และเครื่องบินเล็ก เป็นตน้ มีขอ้ ดีคือมีน้าหนกั ท่ีเบากวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมไอออน ใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูง ไม่มีปัญหาเรื่องการชาร์จใหม่ สามารถชาร์จไดต้ ามตอ้ งการ ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ าเริ่มตน้ประมาณ 3.6 โวลท์ รูปท่ี 1.13 เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมโพลิเมอร์ ที่มา : http://www.mrpalm.com/getcontent3.php?tid=3061.6 การต่อเซลล์ไฟฟ้ า การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ า คือ การนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั เพื่อเพมิ่ แรงดนั ไฟฟ้ าหรือเพ่ิมกระแสไฟฟ้ าท่ีจะนาไปจา่ ยใหก้ บั โหลด การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าตอ่ ได้ 3 ลกั ษณะ คือ การต่อแบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสม 1.6.1 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม คือ การนาเซลลไ์ ฟฟ้ ามาต่อเรียงกนั ไป ซ่ึงจะทาให้แรงดนั ไฟฟ้ ารวมเพมิ่ ข้ึนหากต่อใหแ้ รงดนั มีทิศทางเดียวกนั หรือทาใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ ารวมลดลงหากตอ่ ใหแ้ รงดนั มีทิศทางตรงขา้ มกนั ในการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมควรใชเ้ ซลลท์ ี่มีความจุกระแสและความตา้ นทานภายในเซลลเ์ ท่ากนั E1 E2 รูปท่ี 1.14 แสดงการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมที่แรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางเดียวกนั E1 E2 รูปท่ี 1.15 แสดงการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมท่ีแรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางตรงขา้ มกนั
- 14 - 1.6.1.1 ลกั ษณะสมบตั ิของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม ก) แรงดนั ไฟฟ้ ารวมเทา่ กบั แรงดนั ไฟฟ้ าของแตล่ ะเซลลร์ วมกนั เม่ือตอ่เซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีแรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางเดียวกนั ดงั รูปที่ 1.14 E T E1 E2 E3 ... En (1-1) ข) แรงดนั ไฟฟ้ ารวมเทา่ กบั แรงดนั ไฟฟ้ าของเซลล์ หกั ลา้ ง กนั เม่ือตอ่เซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีแรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางตรงขา้ มกนั ดงั รูปท่ี 1.15 ET E1 E2 (กรณีที่ E1 E2 ) (1-2) ET E2 E1 (กรณีที่ E2 E1) (1-3) ค) กระแสไฟฟ้ าท่ีไหลผา่ นแต่ละเซลลม์ ีคา่ เท่ากนั โดย ความจุของกระแสแบตเตอร่ีมีค่าเท่ากบั ความจุของกระแสเซลลเ์ ดียว (หากแตล่ ะเซลลม์ ีความจุของกระแสไม่เท่ากนัความจุของกระแสแบตเตอร่ีจะเทา่ กบั ความจุของกระแสของเซลลท์ ี่มีคา่ นอ้ ยท่ีสุด) IT กระแสของเซลลไ์ ฟฟ้ าที่มีค่านอ้ ยท่ีสุด (1-4) ความจุของกระแส คือ ความสามารถจา่ ยกระแสในเวลา 1 ชวั่ โมง ถา้ มีแบตเตอรี่ 1000mAh จะสามารถจา่ ยโหลดที่ดึงกระแส 1000 mA ไดต้ ่อเน่ืองเป็นเวลา 1 ชวั่ โมง หรือ สามารถจ่ายโหลดท่ีดึงกระแส 500 mA ไดต้ ่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชว่ั โมง ความจุของกระแสมีหน่วยเป็นแอมแปร์-ชว่ั โมง (Ah) 1.6.1.2 การคานวณหาค่ากระแสไฟฟ้ าและแรงดนั ไฟฟ้ า ของการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม E1 E2รูปที่ 1.16 แสดงการตอ่ เซลล์ไฟฟ้ าแบบอนุกรมท่ีแรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางเดียวกนั 2 เซลล์ จากรูปที่ 1.16 คานวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (1-5) หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม (1-6) ET E1 E2 หากระแสไฟฟ้ ารวมที่สามารถจ่ายออกมาได้ IT กระแสของเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีมีค่านอ้ ยที่สุด
- 15 - E1 E2รูปท่ี 1.17 แสดงการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมท่ีแรงดนั ไฟฟ้ ามีทิศทางตรงขา้ มกนั 2 เซลล์จากรูปที่ 1.17 คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (กรณีที่ E1 E2 ) (1-7)หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม (กรณีที่ E2 E1) (1-8) ET E1 E2 ET E2 E1หากระแสไฟฟ้ ารวมที่สามารถจา่ ยออกมาได้ (1-9) IT กระแสของเซลลไ์ ฟฟ้ าที่มีคา่ นอ้ ยที่สุดตวั อยา่ งท่ี 1.1 เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 1.5 V, 1 A จานวน 3 เซลลต์ อ่ อนุกรมกนั โดยทิศทางของแรงดนั ไฟฟ้ าไปในทิศทางเดียวกนั จงคานวณหา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ข. กระแสไฟฟ้ ารวมวธิ ีทา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ET E1 E2 E3 ตอบ 1.5 1.5 1.5 4.5 V ตอบข. กระแสไฟฟ้ ารวม กระแสของเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีมีค่านอ้ ยที่สุด IT IT 1Aตวั อยา่ งท่ี 1.2 เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 1.5 V, 1 A จานวน 3 เซลล์ ต่ออนุกรมกนั โดยสองเซลลแ์ รกมีทิศทางของแรงดนั ไฟฟ้ าไปในทิศทางเดียวกนั เซลลท์ ี่สามมีทิศทางตรงขา้ มกนั กบั สองเซลลแ์ รกจงคานวณหา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ข. กระแสไฟฟ้ ารวม
- 16 -วธิ ีทา ตอบ ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ET E1 E2 E3 1.5 1.5 1.5 1.5 Vข. กระแสไฟฟ้ ารวม ตอบ IT กระแสของเซลลไ์ ฟฟ้ าที่มีคา่ นอ้ ยที่สุด IT 1A 1.6.2 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน คือ การต่อข้วั บวกของเซลลท์ ุกเซลลเ์ ขา้ ดว้ ยกนั แลว้ ต่อเขา้กบั โหลดดา้ นหน่ึง และตอ่ ข้วั ลบของเซลลท์ ุกเซลลเ์ ขา้ ดว้ ยกนั แลว้ ตอ่ เขา้ กบั โหลดอีกดา้ นหน่ึง โดยเซลลท์ ี่นามาต่อขนานกนั จะตอ้ งมีขนาดแรงดนั ไฟฟ้ าเท่ากนั ทุกเซลล์ และควรมีความตา้ นทานภายในเซลลเ์ ท่ากนั ทุกเซลลด์ ว้ ย โดยการตอ่ แบบน้ีจะทาใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ ารวมเทา่ เดิม แต่กระแสไฟฟ้ าในวงจรจะมากข้ึน I1 E1 I2 E2 รูปท่ี 1.18 แสดงการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน1.6.2.1 ลกั ษณะสมบตั ิของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนานก) แรงดนั ไฟฟ้ ารวมเท่ากบั แรงดนั ไฟฟ้ าของเซลล์ ๆ เดียว E T E1 E 2 E3 ... E n (1-10)ข) กระแสไฟฟ้ าในวงจรจะมากข้ึน โดยมีค่าเท่ากบั ผลรวมของกระแสที่ไหลออกมาจากแตล่ ะเซลล์ IT I1 I2 I3 ... In (1-11)
- 17 - 1.6.2.2 การคานวณหาค่ากระแสและแรงดนั ไฟฟ้ าของการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน I1 E1 I2 E2 รูปท่ี 1.19 แสดงการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน 2 เซลล์ จากรูปท่ี 1.19 คานวณหาคา่ ตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (1-12) หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม ET E1 E2 กระแสไฟฟ้ ารวมที่จ่ายออกมาได้ (1-13) IT I1 I2ตวั อยา่ งท่ี 1.3 เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 12 V, 1 A จานวน 4 เซลล์ ตอ่ ขนานกนั จงคานวณหา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ข. กระแสไฟฟ้ ารวมวธิ ีทา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ET E1 E 2 E3 E 4 12 V ตอบ ข. กระแสไฟฟ้ ารวม IT I1 I2 I3 I4 ตอบ IT 1111 4 A 1.6.3 การตอ่ เซลล์ไฟฟ้ าแบบผสม การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบผสม เป็นการต่อท้งั แบบอนุกรมและขนานรวมกนั จึงตอ้ งใช้ลกั ษณะสมบตั ิของการตอ่ เซลลท์ ้งั แบบอนุกรมและขนานมาใชใ้ นการคานวณหาคา่ ต่าง ๆ โดยเซลลไ์ ฟฟ้ าท่ีนามาต่อตอ้ งมีขนาดแรงดนั ไฟฟ้ า ความจุ ของกระแสและความตา้ นทานภายในเทา่ กนัทุกเซลล์ การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบผสมแบง่ ได้ 2 แบบ คือ
- 18 - 1.6.3.1 การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม- ขนาน เป็นการตอ่ เซลลแ์ บบอนุกรมก่อนจากน้นั จึงนามาขนานกนั ดงั รูปที่ 1.20I1 E1 E2I2 E3 E4รูปท่ี 1.20 แสดงการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรม-ขนานจากการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าในรูปที่ 1.20 คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (1-14)หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม (1-15) ET E1 E2หรือ ET E3 E4กระแสไฟฟ้ ารวมที่สามารถจา่ ยออกมาได้ (1-16) (1-17) I1 I E1 I E2 (1-18) I2 IE3 IE4 IT I1 I2ตวั อยา่ งที่ 1.4 เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 6 V, 1 A จานวน 4 เซลล์ ตอ่ แบบอนุกรม-ขนาน จงคานวณหา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ข. กระแสไฟฟ้ ารวมวธิ ีทา ก. หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม ET E1 E2 ตอบ 6 6 12 V ตอบหรือ ET E3 E4 6 6 12 V
- 19 -ข. กระแสไฟฟ้ ารวม ตอบ I1 IE1 IE2 1 A I2 IE3 IE4 1A IT I1 I2 11 2A 1.6.3.2 การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบ ขนาน-อนุกรม เป็นการตอ่ เซลลแ์ บบขนานก่อนจากน้นั จึงนามาอนุกรมกนั ดงั รูปท่ี 1.21I1 E1 I3 E3I2 E2 I4 E4รูปท่ี 1.21 แสดงการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนาน-อนุกรมจากการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าในรูปท่ี 1.21 คานวณหาค่าตา่ ง ๆ ไดด้ งั น้ี (1-19)หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม (1-20) (1-21) E T1 E1 E 2 E T2 E 3 E 4 E T ET1 ET2กระแสไฟฟ้ ารวมท่ีสามารถจ่ายออกมาได้ (1-22) (1-23) IT1 I1 I2 (1-24) IT2 I3 I4 I T IT1 IT2ตวั อยา่ งที่ 1.5 เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 6 V, 1 A จานวน 4 เซลล์ ตอ่ แบบขนาน-อนุกรม จงคานวณหา ก. แรงดนั ไฟฟ้ ารวม ข. กระแสไฟฟ้ ารวม
- 20 -วธิ ีทา ตอบ ก. หาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม ตอบ E T1 E1 E 2 6 V E T2 E3 E 4 6 V E T ET1 ET2 6 6 12 V ข. กระแสไฟฟ้ ารวม IT1 I1 I2 11 2A IT2 I3 I4 11 2A IT IT1 IT2 2 Aสรุป ไฟฟ้ ามี 2 ชนิด คือไฟฟ้ าสถิตและไฟฟ้ ากระแส ไฟฟ้ ากระแสแบง่ ไดเ้ ป็นไฟฟ้ ากระแสตรงและไฟฟ้ ากระแสสลบั ไฟฟ้ าไดม้ าจากแหล่งกาเนิดหลายแหล่ง มีท้งั ท่ีเกิดจากการขดั สีหรือเสียดสีแรงกดอดั ความร้อน แสงสวา่ ง ปฏิกิริยาเคมี สนามแม่เหล็กไฟฟ้ า และไฟฟ้ าที่กาเนิดจากสิ่งมีชีวติเซลลไ์ ฟฟ้ า เป็นแหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงชนิดหน่ึงท่ีเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี โดยนาแผน่โลหะตา่ งชนิดกนั ทาหนา้ ที่เป็นข้วั ไฟฟ้ าข้วั บวกและข้วั ลบ จุม่ ในสารละลายท่ีนาไฟฟ้ าได้ ทาให้เกิดความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้ าระหวา่ งข้วั เซลล์ เม่ือต่อเซลลก์ บั วงจรภายนอกจะมีกระแสไฟฟ้ าไหลจากข้วั บวกไปข้วั ลบ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบ่งตามลกั ษณะการใชง้ านได้ 2 ชนิด คือ เซลลป์ ฐมภูมิและเซลล์ทุติยภมู ิ โดยเซลลป์ ฐมภูมิเป็นเซลล์ไฟฟ้ าที่ไม่สามารถนากลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สังกะสี เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดอลั คาไลน์ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดปรอท เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดเงิน และเซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียม เป็นตน้ เซลลฑ์ ุติยภมู ิ เป็นเซลลไ์ ฟฟ้ าที่สามารถนาไปชาร์จเพื่อนากลบั มาใชใ้ หม่ได้ ไดแ้ ก่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียมเซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลเมทลั ไฮไดรด์ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมไอออนและเซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมโพลิเมอร์ เป็นตน้ การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าต่อได้ 3 ลกั ษณะ คือ การตอ่ แบบอนุกรม แบบขนานและแบบผสม โดยการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมจะทาใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ ารวมเพ่ิมข้ึน แต่กระแสไฟฟ้ ารวมจะเท่ากบั ความจุของกระแสเซลลเ์ ดียวที่มีค่านอ้ ยที่สุด การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแ บบขนานจะทาให้
- 21 -แรงดนั ไฟฟ้ ารวมเทา่ กบั แรงดนั ไฟฟ้ าของเซลล์ ๆ เดียว แต่กระแสไฟฟ้ ารวมจะเพ่มิ ข้ึน หากตอ้ งการใหท้ ้งั กระแสไฟฟ้ าและแรงดนั ไฟฟ้ าเพิ่มข้ึนตอ้ งตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบผสม
- 22 - บรรณานุกรมบรรจง จนั ทมาศ. ทฤษฎวี งจรไฟฟ้ ากระแสตรง. พิมพค์ ร้ังที่ 12. กรุงเทพฯ : บริษทั ส.เอเชียเพรส จากดั , 2543.พนั ศกั ด์ิ พฒุ ิมานิตพงศแ์ ละคณะ. งานไฟฟ้ าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบอื้ งต้น. กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2547.มงคล ทองสงคราม. ทฤษฎวี งจรไฟฟ้ า 1. พมิ พค์ ร้ังท่ี 3. กรุงเทพฯ : หา้ งหุน้ ส่วนจากดั วี.เจ พริ้นติง้ , 2540.ไมตรี วรวฒุ ิจรรยากลุ . ทฤษฎวี งจรไฟฟ้ าเล่ม 1(ฉบับปรับปรุง). พิมพค์ ร้ังที่2. ฉะเชิงเทรา : ศนู ยก์ ารพิมพพ์ ลชยั , 2538.สุวรรณ บุญทิพย.์ ไฟฟ้ าอุตสาหกรรมเบือ้ งต้น. กรุงเทพฯ : ไดมอนด์ พริ้นติ้ง จากดั , 2539.อดุลย์ กลั ยาแกว้ และคณะ. วงจรไฟฟ้ า 1(วงจรไฟฟ้ ากระแสตรง). กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2546.การกาเนิดไฟฟ้ าและแหล่งกาเนิดไฟฟ้ า. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/55/1/circuit2/index.htm(12 ก.พ.2552 ).การผลติ กระแสไฟฟ้ า. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://online.benchama.ac.th/science/learning/sci/pra_website2/pan1.htm (10 ก.พ.2552 ).ความรู้เกย่ี วกบั เซลล์แสงอาทติ ย์. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.leonics.co.th/html/th/aboutpower/solar_knowledge.php(12 ก.พ.2552 ).โครงสร้างภายในของถ่านไฟฉาย. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.basiclite.com/web/index.php?topic=36.0 (16 ก.พ.2552 ).โครงสร้างภายในของแบตเตอร่ี. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.fbbattery.com/tips/pdf/battery.pdf (16 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ า. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://school.obec.go.th/mrvilai/electrochemicalcall.htm (16 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สังกะสีขนาดต่าง ๆ. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.excelchoice.com/media/catalog/product/cache/1/image/ 5e06319eda06f020e43594a9c230972d/3/_/3_68.jpg (16 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดนิเกลิ แคดเมียม. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.vajira.ac.th/kt/images/article/200610251137341wq53.jpg (17 ก.พ.2552).
- 23 -เซลล์ไฟฟ้ าชนิดนิเกลิ เมทลั ไฮไดรด์. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.thaicharger.com/index.php?topic=60.0 (17 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดปรอท. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://thapring.com/Pingpong_web/Elec_Chem.htm (17 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดลเิ ธียมแบบกระดุม. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://cdn1.ioffer.com/img/item/958/799/95/CR2032-BP1.jpg (17 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดลเิ ธียมไอออน. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.digitalland1.com/shop/d/digitalland/img-lib/spd_20070515111648_b.jpg (18 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดลเิ ธียมโพลเิ มอร์. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.mrpalm.com/getcontent3.php?tid=306 (18 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดลเิ ธียมไอออนแบบกระดุม. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.powerstream.com/licoin.htm (18 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://sst.tarad.com/shop/s/sst/img-lib/spd_20060319150205_b.jpg (16 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.leonics.co.th/html/th/aboutpower/greenway14.php (16 ก.พ.2552).เซลล์ไฟฟ้ าชนิดอลั คาไลน์ . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://th.88dbmedia1.jobsdb.com/DB88UploadFiles/2008/08/25/ 50069827-E845-4DFA-A11C-6743E83B812E.jpg (16 ก.พ.2552).เทอร์โมคัปเปิ ล. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.be2hand.com/scripts/shop.php?user=heater&do=view&id=4141 (11 ก.พ.2552 ).แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.rmutphysics.com/PHYSICS/oldfront/55/1/circuit2/index.htm (11 ก.พ.2552).แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/khonkhan/electric/content/ 2_2.htm (10 ก.พ.2552).แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าจากส่ิงมีชีวติ . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/khonkhan/electric/ content/2_6.htm (11 ก.พ.2552).
- 24 - แบบฝึ กหัด หน่วยที่ 1 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าตอนท่ี 1 จงเติมคาในช่องวา่ งหรือใหค้ วามหมายของคาต่อไปน้ี 1. ไฟฟ้ าแบ่งได้ 2 ชนิด คือ ..................................................................................................................................................... 2. ไฟฟ้ าที่เกิดจากฟ้ าผา่ คือ.............................................................................................................. 3. ไฟฟ้ ากระแสตรง คือ.................................................................................................................. ..................................................................................................................................................... 4. ไฟฟ้ ากระแสสลบั คือ.................................................................................................................. ..................................................................................................................................................... 5. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ า คือ................................................................................................................. 6. การนาแทง่ อาพนั ถูกบั ผา้ ขนสตั ว์ ไฟฟ้ าท่ีเกิดข้ึนเป็นไฟฟ้ า........................................................ 7. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากปฏิกิริยาเคมี ไดแ้ ก่.......................................................................... 8. มีการนาพลงั งานไฟฟ้ าที่เกิดจากแรงกดอดั ไปใชท้ า................................................................... 9. การใหค้ วามร้อนที่จุดตอ่ ของโลหะท่ีต่างชนิดกนั ทาใหเ้ กิดกระแสไหลในแทง่ โลหะ วธิ ีการน้ี ไดถ้ ูกนาไปสร้างอุปกรณ์สาหรับ................................ เรียกวา่ ....................................................10. เซลลส์ ุริยะเป็นแหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจาก................................................................................11. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่เกิดจากสนามแมเ่ หลก็ มี 2 ชนิด คือ .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................12. นกั วทิ ยาศาสตร์ไดพ้ บวา่ มีความต่างศกั ยบ์ นร่างกายมนุษย์ และไดน้ าความรู้น้ีมาสร้าง............ ....................................................................................................................................................13. เซลลไ์ ฟฟ้ า คือ...........................................................................................................................14. เซลลไ์ ฟฟ้ ามีหลกั การสร้าง คือ.................................................................................................... .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................15. เซลลป์ ฐมภมู ิ คือ........................................................................................................................ ....................................................................................................................................................
- 25 -16. เซลลท์ ุติยภูมิ คือ........................................................................................................................ ....................................................................................................................................................17. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดอลั คาไลน์มีขอ้ ดีกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สังกะสี คือ............................... ....................................................................................................................................................18. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดปรอทใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ า.................โวลต์ นิยมใชใ้ น......................................... ....................................................................................................................................................19. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดเงินใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ า.................โวลต์ นิยมใชใ้ น.............................................. ....................................................................................................................................................20. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดใดท่ีเหมาะกบั งานท่ีตอ้ งการแรงดนั สูงกวา่ ปกติ................................................21. แบตเตอรี่สะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรดมี 2 ชนิด คือ .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................22. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียมใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ า.................โวลต์ สามารถชาร์จใหมไ่ ด้ แต่ ตอ้ งใชง้ านใหก้ ระแสไฟฟ้ าหมดก่อนเพราะ................................................................................ ....................................................................................................................................................23. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลเมทลั ไฮไดรดม์ ีขอ้ ดีกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดนิเกิลแคดเมียม คือ..................... .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................24. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมไอออนใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ าเร่ิมตน้ ..............โวลต์ ไม่มีปัญหาเรื่องการ ชาร์จใหม่ ชาร์จเม่ือใดกไ็ ด้ เพราะ............................................................................................. นิยมใชใ้ น....................................................................................................................................25. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดลิเธียมโพลิเมอร์ใหแ้ รงดนั ไฟฟ้ าเร่ิมตน้ ..............โวลต์ มีขอ้ ดีกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ า ชนิดลิเธียมไอออน คือ............................................................................................................... นิยมใชใ้ น....................................................................................................................................ตอนท่ี 2 จงเขียนรูปการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าต่อไปน้ี1. เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 6 V, 2 A จานวน 4 เซลลต์ อ่ อนุกรมกนั โดยทิศทางของแรงดนั ไปใน ทิศทางเดียวกนั จงคานวณหาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม และกระแสไฟฟ้ ารวม
- 26 -2. เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 3 V, 1.5 A จานวน 4 เซลลต์ อ่ อนุกรมกนั โดยสาม เซลลแ์ รกมีทิศทางของ แรงดนั ไฟฟ้ าไปในทิศทางเดียวกนั เซลลท์ ี่ส่ีมีทิศทางตรงขา้ มกนั กบั สามเซลลแ์ รก จง คานวณหาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม และกระแสไฟฟ้ ารวม3. เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 1.5 V, 2.5 A จานวน 4 เซลลต์ อ่ ขนานกนั จงคานวณหาแรงดนั ไฟฟ้ ารวม และกระแสไฟฟ้ ารวม4. เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 1.5 V, 2.5 A จานวน 6 เซลล์ ตอ่ แบบอนุกรม- ขนาน จงคานวณหา แรงดนั ไฟฟ้ ารวม และกระแสไฟฟ้ ารวม ตามรูปท่ี ฝ-1.1 I1 E1 E2 E3I2 E4 E5 E6รูปที่ ฝ-1.1 แบบฝึกหดั ตอนที่ 2 ขอ้ 45. เซลลไ์ ฟฟ้ าขนาด 3 V, 2 A จานวน 6 เซลล์ ต่อแบบขนาน- อนุกรม จงคานวณหา แรงดนั ไฟฟ้ ารวม และกระแสไฟฟ้ ารวม ตามรูปที่ ฝ-1.2I1 E1 I4 E4I2 E2 I5 E5I3 E3 I6 E6รูปท่ี ฝ-1.2 แบบฝึกหดั ตอนที่ 2 ขอ้ 5
- 27 - แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1 แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าคาส่ัง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว ทาเครื่องหมาย Х ลงในกระดาษคาตอบ1. ไฟฟ้ าที่เกิดจากฟ้ าผา่ คือไฟฟ้ าชนิดใดก. ไฟฟ้ ากระแสตรง ข. ไฟฟ้ ากระแสค. ไฟฟ้ าสถิต ง. ไฟฟ้ ากระแสสลบั2. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าท่ีเกิดจากแรงกดคือขอ้ ใดก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลลส์ ุริยะค. ถ่านไฟฉาย ง. เทอร์โมคปั เปิ ล3. แหล่งกาเนิดไฟฟ้ าที่เกิดจากแสงสวา่ งคือขอ้ ใดก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลลส์ ุริยะค. ถ่านไฟฉาย ง. เทอร์โมคปั เปิ ล4. อุปกรณ์ท่ีใหก้ าเนิดไฟฟ้ าจากความร้อนคือขอ้ ใดก. ผลึกควอตซ์ ข. เซลลส์ ุริยะค. ถ่านไฟฉาย ง. เทอร์โมคปั เปิ ล5. เซลลไ์ ฟฟ้ าเป็นแหล่งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสตรงที่ไดจ้ ากอะไรก. แสงสวา่ ง ข. ความร้อนค. แรงกดอดั ง. ปฏิกิริยาเคมี6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ส่วนประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้ าก. สังกะสี ข. ทองแดงค. ซิลิกอน ง. อิเล็กโทรไลต์7. เซลลไ์ ฟฟ้ าขอ้ ใดเป็นเซลลป์ ฐมภูมิก. คาร์บอน-สังกะสี ข. ลิเธียมไอออนค. ลิเธียมโพลิเมอร์ ง. แบตเตอร่ีสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด8. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดใดท่ีใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูงกวา่ เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดคาร์บอน-สงั กะสี ประมาณ 4-9เทา่ก. เซลลเ์ งิน ข. เซลลป์ รอทค. อลั คาไลน์ ง. ลิเธียม
- 28 -9. เซลลไ์ ฟฟ้ าชนิดใดใหพ้ ลงั งานไฟฟ้ าสูง ใหแ้ รงดนั เริ่มตน้ 3.6 โวลต์ นากลบั มาชาร์จใหมไ่ ด้น้าหนกั เบา นิยมใชใ้ นเครื่องบินเล็กก. แบตเตอร่ีสะสมไฟฟ้ าแบบตะกวั่ -กรด ข. นิเกิลแคดเมียมค. ลิเธียมไอออน ง. ลิเธียมโพลิเมอร์10. การต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบอนุกรมมีลกั ษณะสมบตั ิอยา่ งไรก. แรงดนั ไฟฟ้ าเพ่มิ ข้ึน ข. แรงดนั ไฟฟ้ าเท่าเดิมค. กระแสไฟฟ้ าเพมิ่ ข้ึน ง. กระแสไฟฟ้ าลดลง11. การตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ าแบบขนานมีลกั ษณะสมบตั ิอยา่ งไรก. แรงดนั ไฟฟ้ าเพิ่มข้ึน ข. แรงดนั ไฟฟ้ าลดลงค. กระแสไฟฟ้ าเพม่ิ ข้ึน ง. กระแสไฟฟ้ าลดลงจากรูปที่ ล-1.1 ใชต้ อบคาถามในขอ้ ที่ 12-14 E3 E1 E2 3V 1A 3V 1A 3V 1A E4 E5 E6 3V 1A 3V 1A 3V 1A รูปท่ี ล-1.1 สาหรับตอบคาถามขอ้ ที่ 12-1412. จากรูปที่ ล-1.1 เป็นการต่อเซลลไ์ ฟฟ้ าแบบใดก. อนุกรม ข. ขนานค. อนุกรม-ขนาน ง. ขนาน-อนุกรม13. แรงดนั ไฟฟ้ ารวมมีค่าเท่าใดก. 3 V ข. 6 Vค. 9 V ง. 18 V14. กระแสไฟฟ้ ารวมมีคา่ เท่าใดก. 1 A ข. 2 Aค. 3 A ง. 6 A
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: