การพัฒนากิจกรรมเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา เรื่อง ทักษะการแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

การพัฒนากิจกรรมเรยี นรูว้ ิชาคณิตศาสตร์โดยใชก้ ารจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับกระบวนการแกโ้ จทย์ปญั หาของโพลยา เรือ่ ง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม สาหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โดย นายสุรพล คอนหาว 644212107 นักศึกษาหลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑติ เสนอ ดร.สาราญ กาจัดภยั

คำถำมของกำรวิจัย การวิจัยครงั้ น้ี ผู้วจิ ัยไดก้ าหนดคาถามของการวจิ ัยไว้ ดังน้ี 1. กิจกรรมการเรยี นร้วู ิชาคณิตศาสตร์ โดยใชก้ ารจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแกโ้ จทยป์ ัญหา ของโพลยา เรอ่ื ง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม สาหรบั นกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 หรอื ไม่ อยา่ งไร 2. ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรียนหลังเรียน โดยใช้กิจกรรมการเรียนรูแ้ บบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้ โจทยป์ ญั หาของโพลยา เร่อื ง การบวก การลบ และ การคูณทศนยิ ม สงู กว่าก่อนเรยี นหรือไม่ อยา่ งไร 3. ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณติ ศาสตรข์ องนกั เรียน หลงั เรียน โดยใชก้ จิ กรรมการเรียนรแู้ บบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา เร่อื ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนยิ ม สงู กวา่ กอ่ นเรยี นหรอื ไม่ อยา่ งไร 4. ความพึงพอใจของนักเรยี น ที่มีตอ่ กิจกรรมการเรียนรู้แบบรว่ มมอื เทคนคิ STAD ร่วมกับกระบวนการแกโ้ จทย์ปญั หาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ และ การคูณทศนยิ ม อยู่ในระดบั ใด

ควำมม่งุ หมำยของกำรวจิ ัย การวิจยั ครง้ั น้ี ผู้วจิ ยั ได้กาหนดความม่งุ หมายของการวิจัยไว้ ดงั นี้ 1. เพือ่ พฒั นาและหาประสทิ ธิภาพของกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ชิ าคณติ ศาสตร์ โดยใชก้ ารจัดการเรยี นร้แู บบร่วมมอื เทคนิค STAD รว่ มกบั กระบวนการแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา เรอ่ื ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม สาหรับนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 มีประสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ 70/70 2. เพ่อื เปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียนกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนโดยใชก้ ารจัดการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื เทคนิค STAD รว่ มกับกระบวนการแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา เรอ่ื ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม 3. เพอื่ เปรยี บเทียบทักษะการแก้โจทย์ปญั หาคณิตศาสตรข์ องนกั เรยี น ก่อนเรียนและหลงั เรยี น โดยใช้กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบบร่วมมือเทคนคิ STAD รว่ มกับกระบวนการแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา เรอ่ื ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม 4. เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรยี น ที่มตี อ่ กิจกรรมการเรียนรูแ้ บบรว่ มมอื เทคนคิ STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้โจทย์ ปญั หาของโพลยา เรอ่ื ง การบวก การลบ และ การคูณทศนยิ ม

ควำมสำคัญของกำรวจิ ยั การวิจัยคร้ังนี้ มคี วามสาคญั ตามประเด็นตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. ได้พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลสามารถนาไปใชก้ ระบวนการ แก้ปญั หาตามแนวคดิ ของโพลยารว่ มกบั การเรยี นร้แู บบร่วมมือ เทคนิค STAD 2. เป็นแนวทางกระบวนการแกป้ ัญหาตามแนวคดิ ของโพลยาร่วมกับการเรียนรแู้ บบร่วมมือเทคนคิ STAD 3. นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เรือ่ ง การบวก การลบ และการคณู ทศนิยม โดยใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาตาม แนวคิดของโพลยารว่ มกับการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื เทคนคิ STAD

สมมตฐิ ำนของกำรวิจยั การวิจัยครัง้ น้ี ผู้วิจัยไดก้ าหนดสมมติฐานของการวจิ ัย ดังนี้ 1. กิจกรรมการเรียนรู้วชิ าคณิตศาสตร์ โดยใชก้ ารจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้ โจทยป์ ัญหาของโพลยา เร่ือง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ท่ีต้งั ไว้ 70/70 2. ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนกั เรียนหลงั เรียน โดยใชก้ ิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแกโ้ จทยป์ ัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม สูงกวา่ ก่อนเรียน 3. ทกั ษะการแกโ้ จทยป์ ัญหาคณิตศาสตร์ของนกั เรียน หลงั เรียน โดยใชก้ ิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแกโ้ จทยป์ ัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม สูงกวา่ ก่อนเรียน 4. นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 ความพึงพอใจของนกั เรียน ท่ีมีต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแกโ้ จทยป์ ัญหาของโพลยา เรื่อง การบวก การลบ และ การคูณทศนิยม อยใู่ นระดบั มาก

ขอบเขตของกำรวจิ ัย การวจิ ัยคร้งั นี้ ผูว้ จิ ยั ได้กาหนดขอบเขตของการวจิ ยั ดงั นี้ 1. ขอบเขตด้านประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง 1.1 ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ถึง นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนบา้ นห้วยเปลวเงือก สงั กัดสานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 จานวน 3 หอ้ งเรยี น รวมทงั้ สิน้ 17 คน 1.2 กล่มุ ตวั อยา่ ง คือ นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นบ้านห้วยเปลวเงือก สงั กดั สานักงานเขตพนื้ ที่ การศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 จานวน 1 ห้องเรยี น รวมทง้ั ส้นิ 6 คน ซึ่งได้มาโดยวธิ กี าร สมุ่ แบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling Technique) โดยใช้หอ้ งเรียนเป็นหน่วยสมุ่

2. ขอบเขตด้ำนตัวแปร 2.1 ตัวแปรอิสระ คอื การเรยี นการสอนโดยใช้กระบวนการแกป้ ญั หาตามแนวคดิ ของโพลยา 2.2 ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่ 2.2.1 ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมอื เทคนิค STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา เรอื่ ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม 2.2.2 ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นวิชาคณิตศาสตร์ 2.2.3 มีความสามารถในการแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ 2.2.4 มีความพงึ พอใจต่อกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. ขอบเขตด้ำนเน้อื หำ เน้อื หาทใ่ี ช้ในวิจัยครั้ง มขี อบข่ายเน้ือหาสาระการเรียนรู้ ดังน้ี 3.1 สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(พืน้ ฐาน) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 เรอื่ ง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม 3.1.1 การบวกทศนิยม 3.1.2 การลบทศนิยม 3.1.3 การคณู ทศนิยม 3.1.4 ปัญหาการบวก การลบ และการคณู ทศนยิ ม 3.1.5 การบวก การลบ การคูณ ระคนของทศนิยม 3.1.6 แบบรปู และความสัมพนั ธข์ องทศนิยม

4. ขอบเขตดำ้ นระยะเวลำในกำรทดลอง ผู้วจิ ัยดาเนนิ การทดลองใช้ นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นบ้านหว้ ยเปลวเงอื ก สังกดั สานักงานเขต พน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 จานวน 1 หอ้ งเรยี น รวม ทง้ั สิ้น 6 คน ซึง่ ไดม้ าโดยวิธีการส่มุ แบบกลมุ่ (Cluster Random Sampling Technique) โดยใชห้ ้องเรยี น เปน็ หนว่ ยสมุ่ ในภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 รวมเวลาทัง้ สิน้ 13 ชว่ั โมง โดยเรม่ิ ทดลองตั้งแต่ .............. ถงึ ............................ 2564

กรอบแนวคดิ ของกำรวิจยั การพัฒนากจิ กรรมเรยี นร้วู ชิ าคณิตศาสตรโ์ ดยใชก้ ารจัดการเรยี นรู้แบบ รว่ มมือเทคนิค STAD รว่ มกับกระบวนการแก้โจทยป์ ญั หาของโพลยา เร่ือง การบวก การลบ และ การคณู ทศนิยม สาหรับนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ประสิทธิภาพของแบบฝึกทกั ษะ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น (วัดหลังเรยี น)

นยิ ำมศพั ท์เฉพำะ การวิจยั ครงั้ น้ี ผูว้ จิ ัยได้นิยามศพั ท์เฉพาะ ดังน้ี 1. การจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เทคนคิ STAD ร่วมกบั กระบวนการแก้โจทยป์ ญั หาของโพลยา กจิ กรรมการเรียนรู้วชิ าคณติ ศาสตร์ โดยใชก้ ารจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื เทคนิค STAD รว่ มกบั กระบวนการแก้โจทย์ ปญั หาของโพลยา 2. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น 3. ทกั ษะการแก้โจทย์ปญั หาคณิตศาสตร์ 4. ความพึงพอใจของนกั เรยี น

เอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง 1. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 2. การจดั การเรยี นรู้แบบร่วมมอื เทคนคิ STAD รว่ มกับกระบวนการแก้โจทย์ปญั หาของโพลยา 3. แผนการเรียนรู้วชิ าคณติ ศาสตร์ โดยใช้การจดั การเรยี นรู้แบบร่วมมือเทคนคิ STAD ร่วมกับกระบวนการแกโ้ จทยป์ ญั หาของโพลยา 4. ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณติ ศาสตร์ 5. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น 6. ความพงึ พอใจของนกั เรยี น 7. งานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง

จบการนาเสนอ ขอบคณุ ครบั