บทประพันธ์โดย เบญจวรรณ บุญสิน
บทละครประวัติศาสตร์ \" พระเจ้าตากสิน สู่แผ่นดินสมุย \" เรื่องราวที่ประวัติศาสตร์มิได้จดจาร แต่เป็นตำนานที่เล่าขานสืบเนื่องกันมาหลาย ชั่วอายุคนบนแผ่นดินสมุย ด้วยความภาค ภูมิใจว่า “บรรพชนของเราคือทหารของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ได้ร่วมภารกิจรวมแผ่นดินในครั้งนั้น
บทนำ ปีพุทธศักราช ๒๓๑๒ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้ยกทัพ ไปรวมแผ่นดินนครศรีธรรมราช มีผลทำให้อำนาจของกรุงธนบุรีขยายออกไป อย่างกว้างขวาง ในการรวมแผ่นดินครั้งนั้นประวัติศาสตร์ไทยมิเคยได้จารึก ถึงความสำคัญของชุมชนเล็ก ๆ กลางทะเลกว้างใหญ่อันเป็นยุทธศาสตร์ที่ สำคัญที่พระองค์เสด็จมาเยือนเพื่อรวบรวมเสบียงกรังในการเดินทางไปยัง นครศรีธรรมราช ต่อไปนี้ คือเรื่องราวที่ประวัติศาสตร์มิได้จดจารแต่เป็นตำนานที่เล่าขาน สืบเนื่องกันมาหลายชั่วอายุคนบนแผ่นดินสมุย ด้วยความภาคภูมิใจว่า “บรรพชนของเราคือทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ได้ร่วม ภารกิจรวมแผ่นดินในครั้งนั้น ซึ่งพวกเราคณะนักเรียนโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ภูมิใจนำเสนอในรูป แบบละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “พระเจ้าตากสินสู่แผ่นดินสมุย”
สมเด็จพระเจ้าตากสิน : พระยาจักรี ถึงครารวบรวมหัวเมือง ต่าง ๆ ขจัดคนชั่วให้สิ้นไป ทุกหัวระแหงในมณฑลใต้ยังมีไพร่ที่คิดการชั่วหลงเหลือ คิดยึดแผ่นดิน เจ้าจงนำทัพไปปราบปรามยังนครเถิด เจ้าพระยาจักรี : มิรอช้าเกล้ากระหม่อม สมเด็จพระเจ้าตากสิน : จงนำนักรบทหารกล้าเคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าไปด้วย เจ้าเห็นสมควรจะนำพลไปเท่าใดก็ประมาณการเองเถิด เจ้าพระยาจักรี : ข้ากระหม่อมจะทำทุกสิ่งอันให้ควรมิให้เคืองฝ่าเบื้อง พระบาทพระเจ้าข้า สมเด็จพระเจ้าตากสิน : ส่วนตัวข้าขอไปยังไชยาและชุมพร จงรวมพลเดี๋ยวนี้
สมเด็จพระเจ้าตากสิน : ท่านพ่อเฒ่า ข้าแว่วความถึงคนชั่วมีล้นเหลือเมือง นครศรี จักคิดการใดดี พ่อเฒ่าขรัว : ข้ากระหม่อมตรองดูแล้ว มิไร้หนทางดอก พระเจ้าข้า แต่ต้องทรงใช้ความเมตตา และความเพียรเป็นการตั้งมั่น สมเด็จพระเจ้าตากสิน : เช่นใด พ่อเฒ่าขรัว : ความเมตตาต่อไพร่ฟ้า ข้าแผ่นดิน ความเพียรในการสร้างแผ่น ดินดีดี จะนำพาพระองค์สู่ความมีชัยพระเจ้าข้า แล้วข้ากระหม่อมขอตามเบื้อง พระบาทเพื่อการนี้ด้วย สมเด็จพระเจ้าตากสิน : มิต้องดอก เจ้าพระยาจักรีไปนคร ข้าไปชุมพรไชยา เจ้าหากึ่งกลางเตรียมเสริมพลเสบียงก็สุดแล้วแต่ท่านเถิด พ่อเฒ่าขรัว : กึ่งกลาง เกาะสมุยดอกหรือพระเจ้าข้า สมเด็จพระเจ้าตากสิน : มิเกินปัญญาเจ้าดอกข้ารู้ ไปเถิด พ่อเฒ่าขรัว : รับด้วยเกล้าพระเจ้าข้า
นายไข่ : ข้าได้ทราบความไอ้จัญไร ไพร่พม่า บุกขอบเขตแดนดิน พี่หลวงขาม : ข้ารู้มาว่าพระองค์ท่านพ่อตากสิน หาได้ทุ่มพวกเราไม่ ท่านนำ ทัพไปยังเมืองนครเพื่อปกป้องแผ่นดิน พี่เณรหาร : ข้าแว่วความว่าท่านพ่อตากสินส่งคนดี มีวิชากับพวกมาขึ้น ที่วัดขามยังอยู่ เห็นว่าเป็นปะขาว นายไข่ : ข้าว่าน่าไปแล ทุกคน : ไป ...................
นายไข่ : ท่านมาจากที่ใดฤา พ่อเฒ่าขรัว : เรามาจากดินแดนไกล เพื่อรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งท่านคิดเยี่ยงไร นายไข่ : เหล่าข้าชนกลางสายน้ำ ขาดผู้นำจิตวิญญาณ หากพ่อเฒ่าคิดนำทาง เราชาวสมุยยินดียิ่ง พ่อเฒ่าขรัว : เช่นนั้น ท่านนาย จงเตรียมพลเสบียงไว้รอให้พร้อมเถิด นายไข่ : พ่อท่านโปรดนำทาง ชี้ความตามท่านสั่งด้วยเถิด พ่อเฒ่าขรัว : ท่านนายเตรียมชายหนุ่มฉกรรจ์ไว้รับศึก แม่นายไว้หุงหา เตรียมจัดที่ทางให้เป็นคุ้มวัง ลูกเล็กเด็กแดงไว้หาที่หลบยามคับขัน นายไข่ : ขอรับ นายไข่ : ดำ มึงไปเตรียมเด็กบาวบาวร่วมฝึกที่ทุ่งแร็ต เตรียมที่หลบภัย สำหรับคนเฒ่า คนแก่ลูกเล็กเด็กแดง หลวงขามมึงไปให้พวกหญิงหญิงเตรียม เสบียงอาหาร ดำ หลวงขาม : ได้
นางทอง : พี่ไข่ พี่คิดกระไรอยู่ นายไข่ : ข้าคิดเข้าร่วมกองทัพกับพ่อท่านตากสิน เจ้าคิดเห็นว่าหรือ นางทอง : ข้าไม่ขัดไหร่หรอก ขอเพียงพี่รักษาแผ่นดินไว้ได้ข้ากะยินดี นายไข่ : น้องไปร่วมกับคนอื่นเตรียมเสบียงกรังเถอะ ส่วนตัวข้าจะไปร่วม ฝึกอาวุธที่ทุ่งแร็ตกับพวกบาวบาวในบ้านของเรา และบ้านอื่น ๆ นางทอง : จ๊ะพี่
หลวงขาม : ทอง ทอง อยู่รึไม่ นางทอง : อยู่ ๆ มีกะไรรึ หลวงขาม เข้ามากินน้ำกินท่าก่อนเถิด หลวงขาม : ขอบใจจ๊ะ บาวไข่ให้ข้ามาแหลงกับพวกสู เรื่องการสะสมเสบียง พวกสูว่ารือ นางทอง : ข้าพอรู้มาบ้างเรื่องการสะสมเสบียง หลวงขาม : เอ๊ะ นั่นแม่ศรีมิใช่รึ นางทอง : ใช่ ศรี ศรีเอ้ย จะไปที่ใดมานี่ก่อนเถิด นางศรี : มีกะไรรึแม่ทอง นางทอง : หลวงขามมาบอกข่าวเรื่องการสะสมเสบียง เราหญิง หญิง มาปรึกษากันทีว่าที่ต้องจัดแจงไหรมีกะไรบ้าง นางศรี : สารเจ้า สารเหนียว ยาเส้น ยาสูบ ข้าทุ่งใหญ่รับเอง นางศรี : น้ำตาล หัวมัน ของแห้ง ของเหี่ยว พวกหน้าลานรับ นางทอง : พร้าวกับน้ำจืด ฝ่ายบ้านหานจัดการเอง นางศรี : แบบนั้นทุกสิ่งเอามารวมไว้ที่วัดขาม คนของพ่อเฒ่าขรัวได้ลงราย บาญชีไว้
พ่อเฒ่าขรัว : ข้านัดหมายพวกเจ้ามาวันนี้ เพื่อสอบถามการเตรียมการ ว่าเป็นเยี่ยงไร พ่อเพิ่ม : พ่อเฒ่า เสบียงกรังที่ชาวบ้านรวบรวมมาให้ มีจำนวนมากเพียง พอแล้วท่านจะคิดการใดต่อไป พ่อเฒ่าขรัว : ข้าคิดจะสร้างเรือสำเภาสัก ๔ ลำ เจ้าคิดเห็นเช่นไร นายกอง ทวย นายกองทวย : ข้าคิดว่าคนของเราจะมีกำลังไม่เพียงพอ พ่อเฒ่าขรัว : เช่นนั้น นายไข่ เจ้าพอจะช่วยพวกเราต่อเรือได้หรือไม่ นายไข่ : ได้พ่อเฒ่า
บทบรรยาย การยกกำลังไปรวบรวมเมืองนครศรีธรรมราชนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช ทรงให้เจ้าพระยาจักรี (แขก) เป็นแม่ทัพใหญ่ พระยาศรีพิพัฒน์ พระยาเพชรบุรีเป็นนายกองคุมกำลังทางบกมีกำลังพล ๕,๐๐๐ นายยกเป็นทัพ หน้าไปตีเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อประมาณเดือน ๔ ปีฉลู พุทธศักราช ๒๓๑๒ เมื่อกองทัพยกลงไปถึง แดนเมืองนครศรีธรรมราช ข้ามแม่น้ำหลวงไปถึงท่าหมากแขวงอำเภอลำพูน พบข้าศึกตั้งค่ายสกัดอยู่ กองทัพกรุงธนบุรีเข้าตีค่ายข้าศึกไม่พร้อมกัน จึงเสียที ข้าศึกพระยาศรีพิพัฒน์ และพระยาเพชรบุรีตายในที่รบ พระยาจักรีก็ถอยทัพ กลับมาสมทบทัพหลวงที่เมืองไชยาพระองค์จึงเสด็จโดยกระบวนเรือลงไปตี เมืองนครศรีธรรมราชโดยจัดกำลังทางบก ให้เจ้าพระยาจักรีกับพระยาพิชัย ราชาคุมกำลังยกลงไปทางหนึ่งพระองค์คุมกำลังลงไปอีกทางหนึ่ง กำหนดให้ เข้าตีเมืองนครศรีธรรมราชพร้อมกันทั้งสองทาง
สมเด็จพระเจ้าตากสิน : กรุงศรีมิใช่แตก ใจเรายังมั่นมิถอยดอก เจ้าพระยาจักรี : ข้าเช่นกันท่านพ่อ สมเด็จพระเจ้าตากสิน : เราทราบความจากท่านก่อนหน้านี้ ใจเราอาดูรยิ่ง นักการจากไปของสองนักรบ มิอาจทำให้เสียแผ่นดินไม่ เจ้าพระยาจักรี: ท่านพ่อข้า แผ่นดินไม่ไร้ชายชาติทหาร บุญชู บุตรพระเจ้า หัวเมืองไชยา พร้อมถวายตัวเพื่อท่านและแผ่นดิน พระเจ้าข้า บุตรพระเจ้าหัวเมืองไชยา : ข้ากระหม่อมมีชีวิตเพื่อแผ่นดินและขออยู่เคียง ข้างฝ่าพระบาทสืบไป * บุตรพระเจ้าหัวเมืองไชยา ต่อมา คือ พระยาวิชิตภักดี (บุญชู) เจ้าเมืองไชยา
บทบรรยาย ลุวันอาทิตย์ แรม ๒ค่ำเดือน ๑๐ ปีฉลู พุทธศักราช ๒๓๑๒ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จขึ้นฝั่งเกาะสมุย ณ ชายทะเลบ้านหาน พ่อเฒ่าขรัว พุดสอนและชาวเกาะสมุยได้รอรับอยู่แล้วประทับอยู่ที่เกาะสมุย เป็นเวลา ๕ วัน เพื่อพักเรือและไพร่พลเตรียมเสบียงแลน้ำจืด นิราศสมุย มหาราชองค์ตากสินปิ่นกรุงธน พระยุคลทรงยาตราจากกรุงศรี สู่แดนใต้กลางนที ณ ถิ่นนี้ ทุกชีวีน้อมเกล้าถวายพระพร เหล่าทวยราษฎร์สมุยบุญยิ่งแล้ว พระฉัตรแก้วคู่พ่อท่านขรัวพุดสอน ดั่งร่มโพธิ์ยึดเหนี่ยวใจพสกนิกร นิรันดรแดนสมุยตลอดกาล นิราศแล้วแรมร้างทรงห่างไกล ธ ห่วงใยปวงชนทั่วถิ่นฐาน ทรงมอบหมายพ่อเฒ่าขรัวเป็นประธาน ให้ลูกหลานได้ระลึกนึกถึงเอย * นิราศสมุย ประพันธ์โดย นางบุบผา บุญรักชาติ ข้าราชการบำนาญโรงเรียนบ้านหาดงาม
พ่อเฒ่าขรัว : พระมหาราช ข้ากระหม่อมพร้อมไพร่พละกำลัง เสบียง อาหาร เพื่อทุกชน ชายชาติอาชาไนย จากแคว้นแดนดินเกาะสมุยพร้อม ติดตามมิถอยหนี แม้ก้าวเดียว สมเด็จพระเจ้าตากสิน : แผ่นดินนี้มิใช่ของเราผู้เดียว มิไยท่านย่อมหวงแหน มิให้แม้นผู้ใดคิดการใดอันเป็นที่เสื่อมแก่แผ่นดิน ชาวเกาะสมุย : ทราบในใจทุกถ้วนหน้า ชีวิตพวกข้ากระหม่อมไม่ไร้ค่า ถ้าไม่ไร้แผ่นดินพระเจ้าข้า ปัจจุบัน ชายหาดเกาะสมุยคือบ้านหน้าค่าย
บทบรรยาย รุ่งอรุณวันพฤหัสบดี แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู พุทธศักราช ๒๓๑๒ พระองค์ท่านเสด็จพร้อมกองทัพเรือและชาวสมุย เสด็จกรีฑาทัพยังเมือง นครศรีธรรมราช ครั้งนั้น เจ้านครสำคัญว่ากองทัพกรุงธนบุรี ยกลงไปแต่ทางบกทาง เดียวเช่นคราวก่อน จึงไม่ได้เตรียมการต่อสู้ทางเรือ กำลังทางเรือของ พระเจ้าตากสินมหาราช ยกไปถึงปากพญา อันเป็นปากน้ำเมือง นครศรีธรรมราช พอเจ้านครทราบก็ตกใจ ให้อุปราชจันทร์นำกำลังไปตั้ง ค่ายต่อสู้ที่ท่าโพธิ์ อันเป็นท่าขึ้นเมืองนครศรีธรรมราช อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ ๓๐ เส้น พระองค์ท่านยกกำลังเข้าตีค่ายท่าโพธิ์แตก จับอุปราช จันทร์ได้ เจ้าเมืองนครเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็ไม่คิดต่อสู้ต่อไป จึงทิ้ง เมือง แล้วพาครอบครัวหนีไปเมืองสงขลา พระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนเจ้าพระยาจักรี ยกกำลังไปทางบก ไปถึงเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากพระองค์ตีเมืองได้ ๘ วัน จึงถูกภาคทัณฑ์โทษที่ไปไม่ทันตามกำหนด และให้เจ้าพระยาจักรีกับ พระยาพิชัยราชา คุมกำลังทางบก ทางเรือไปตามจับเจ้านครเป็นการแก้ตัว
..............รบ................
สมเด็จพระเจ้าตากสิน : ท่านไม่รู้ดอกหรือว่าข้ามาเยี่ยงมิตร มิใช่ศัตรู อุปราช(จันทร์) : ข้ากระหม่อมโง่เขลายิ่งนัก แต่ด้วยรักถิ่นเมืองนอน จึงมิ อาจนิ่งเฉยได้ สมเด็จพระเจ้าตากสิน : มิเป็นไรดอก เราก็มิได้เสียไพร่พลเท่าใดนัก รู้กัน เสียก่อน อย่าเอาความเลย อุปราช(จันทร์) : ขอท่านโปรดเมตตา ข้ากระหม่อมเถิด แลข้าเตรียมการ แสดงที่ประจักษ์ต่อหน้าพระพักตร์ อันเป็นมโนราห์ชาตรีถวายท่าน มหาราช ในการฉลองครานี้ด้วยพระเจ้าข้า ************************* รำมโนราห์ **************************** พระยาจักรี : งดงามยิ่งนักท่านอุปราช สมเด็จพระเจ้าตากสิน : ข้าจักนำมโนราชาตรีไปแสดงในวังหลวง เพื่อเป็น ที่ประจักษ์สืบไป พระยาจักรีไถ่โทษรบพ่าย ทำความดี ตามท่านหนูกลับมา อยู่ร่วมแผ่นดินกับข้าที พระยาจักรี : มิรอช้า หลังเพลานี้เสร็จการฉลองครั้งนี้ เกล้ากระหม่อมทูลลา *โนราห์ชาตรี พระองค์ท่านนำมาเผยแพร่ในพระราชวังกรุงธนบุรีและได้พัฒนาเป็นละครชาตรี ในเวลาต่อมา
สมเด็จพระเจ้าตากสิน : ท่านพ่อเฒ่า ท่านผู้นำแห่งความเสียสละจักอยู่ร่วม กับข้าหรือเยี่ยงไร บอกข้าเถิด พ่อเฒ่าขรัว : ท่านมหาราชข้าเป็นสุขยิ่งนักกับผืนแผ่นดินใหญ่ เหยียบย่างที่ ใดเย็นชุ่มดังสายน้ำ ข้ากระหม่อมขอกลับไปเป็นผู้นำชนกลางสายน้ำด้วยต้อง นำคนดินแดนนั้นกลับคืนถิ่นพระเจ้าข้า สมเด็จพระเจ้าตากสิน : เอาเถอะ ข้ามิรั้งท่านดอก แต่ข้าไปด้วยท่านมิได้ จง นำธงตราสัญลักษณ์ข้าไปเป็นการตอบแทนใจที่เสียสละและ ภักดีของแคว้น สมุย เดินทางโดยดีเถิด พ่อเฒ่าขรัว : รับด้วยเกล้าท่านมหาราช
พ่อเฒ่าขรัว : พวกท่านคิดทำประการใดกับธงสัญลักษณ์และวัตถุอันเป็น มงคลนี้ นายไข่ : พวกข้าคิดมิใดดอกแล้วแต่พ่อเฒ่าเห็นควรเถิด พ่อเฒ่าขรัว : ถ้าเช่นนั้นข้าจักปันเป็นสามส่วน เพื่อเก็บไว้ในเจดีย์ละแวกบ้าน ของพวกท่านทั้งหลาย คือทุ่งมะเรศหนึ่ง แหลมดินหนึ่ง หน้าลานหนึ่ง นายไข่ : เป็นมงคลยิ่งแล้วขอรับพ่อเฒ่า * พระยอดธง กรุวัดสำเร็จ
เมื่อเมืองนครศรีธรรมราชผนึกเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับกรุงธนบุรีศรี มหาสมุทร ราชอาณาจักรสยามได้เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเข้มแข็งอีกครั้งหลังจาก กรุงศรีอยุธยาล่มสลายลงด้วยน้ำมือพม่าและคนไทยที่ทรยศต่อแผ่นดินเกิด ของตนเอง ด้วยพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่ง ขณะนั้นได้สถาปนาเมืองธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งใหม่ให้ชื่อว่า “กรุงธนบุรี ศรีมหาสมุทร” และพระองค์ได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริษย์ ราช อาณาจักรสยามภายใต้การนำของพระองค์ได้แผ่พระราชอาณาเขตออกไป กว้างใหญ่ไพศาลอีกครั้ง จากทิศเหนือ อาณาจักรลานนา ถึง ทิศใต้เมือง ไทรบุรี ตรังกานู จากทิศตะวันออก กัมพูชา ญวนใต้ ถึง ทิศตะวันตก เมือง มะริด ตะนาวศรี มหาสมุทรอินเดีย ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นครเวียงจันทน์ ถึง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถึงเมืองพุทธไธมาศ และนี่คือสยามยุคใหม่หรือประเทศไทยในปัจจุบันที่พวกเราคนไทย ได้อยู่ได้กินอย่างมีความสุขตราบเท่าทุกวันนี้ พวกเราคณะนักเรียนโรงเรียน วัดสว่างอารมณ์ ขอเทิดพระเกียรติวีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และขอแสดงความ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อประเทศไทยและคนไทย อย่างหาที่สุดมิได้
๑. เจดีย์พ่อเฒ่าขรัว องค์ที่ ๑ อยู่ที่วัดสำเร็จ ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒. เจดีย์พ่อเฒ่าขรัว องค์ที่ ๒ อยู่ที่วัดหน้าพระลาน ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๓. เจดีย์พ่อเฒ่าขรัว องค์ที่ ๓ อยู่ที่สำนักสงฆ์แหลมดิน ตำบลลิปะน้อย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๔. สถูปพ่อเฒ่าขรัวพุดสอน อยู่ที่วัดสำเร็จ ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๕.โบสถ์มหาอุตม์ อยู่ที่วัดสำเร็จ ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๖.โบราณวัตถุที่ค้นพบ เช่น พระยอดธงทองคำ เงิน และกะไหล่ทอง ๗.มโนราห์ชาตรี พระองค์ท่านได้นำไปแสดงในวังหลวง (กรุงธนบุรี) และกลายเป็นละครชาตรี ๘.นามชื่อหมู่บ้านหน้าค่าย
ดนตกรีาทรี่ใแชส้ปดรงะกอบ กาพย์เห่เรือ จากการแสดง 4D VISTUAL LIGHT & SOUND ในชื่ อว่า \"พ่อ... THE GREATEST OF THE KINGS THE GREETINGS OF THE LAND\" ระหว่างวันที่ ๕-๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๒ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม อนุสติไทย คำร้อง: แสงสุวรรณทำนอง: เวส สุนทรจามร บรรเลงและขับร้องโดย : วงสุนทราภรณ์ โดยมี วรนุช อารีย์ เป็นผู้ร้องนำ ร่มฉัตร คำร้อง ทำนอง เรียบเรียง : วิรัช อยู่ถาวร ขับร้อง : ทิพย์วรรณ ปิ่ นภิบาล คนทำทาง เนื้ อร้อง : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ทำนอง : เพลงขอมทรงเครื่อง ๒ ชั้น ขับร้องและบรรเลงโดย : คีตาญชลี
อ้างอิง ทศยศ กระหม่อมแก้ว. พระเจ้าตากฯ สิ้นพระชนม์ที่เมืองนครฯ. พิมพ์ครั้งที่ ๖. นนทบุรี. กรีน-ปัญญาญาณ. ๒๕๕๓ มานิต วัลลิโภดม. โบราณคดีกับประวัติศาสตร์ไทย (ภาคใต้). 2530. สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช . ชีวิวัฒน์ เที่ยวที่ต่าง ๆ ภาคที่ ๗. พิมพ์ครั้งที่ ๓. ๒๕๑๐ จดหมายเหตุ เสด็จประพาสภาคใต้ ร.ศ. ๑๐๘. จดหมายเหตุ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเสด็จประพาสหัวเมืองแหลมมลายู พ.ศ. ๒๔๓๒ (ฉบับพระราชนิพนธ์). จดหมายเหตุหลวงอุดมสมบัติ. บันทึกตรวจราชการ สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช ร.ศ. ๑๓๑
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: