Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค

Published by flowerz_uk, 2019-12-04 02:53:12

Description: รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค

Search

Read the Text Version

จดั ทาํ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส โดยสํานักการพิมพ

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค

เรื่อง รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครัฐในระดบั มหภาค จดั พิมพค์ ร้งั ที่ จานวนหน้า 1/2562 จานวนพมิ พ์ จัดทาโดย 46 หน้า ท่ปี รกึ ษา 780 เล่ม คณะผู้จัดทา สานักงบประมาณของรัฐสภา พิมพ์ท่ี สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพทั ธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพมหานคร 10400 โทรศพั ท์ 0-2244-2222 โทรสาร 0-2244-0088 นายสรศักด์ิ เพยี รเวช เลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร นางสาวสุกญั ญา หอมชื่นชม รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายนพรตั น์ ทวี ผบู้ ังคับบัญชาสานกั งบประมาณของรฐั สภา นางสาวปยิ วรรณ เงินคล้าย นกั วเิ คราะห์งบประมาณชานาญการพิเศษ นายวรี วัฒน์ พลิ ากลุ นักวิเคราะหง์ บประมาณชานาญการ นางสาวนันทยิ า แสนโกศกิ นกั วเิ คราะห์งบประมาณปฏบิ ัตกิ าร สานกั การพมิ พ์ สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพทั ธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2244-2117 โทรสาร 0-2244-2122

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดับมหภาค คานา สานักงบประมาณของรัฐสภา มีหน้าที่สนับสนุนการดาเนินงานด้านวิชาการให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ เพ่ือใหก้ ารพจิ ารณาอนุมตั ิร่างพระราชบญั ญัติงบประมาณรายจา่ ยประจาปีมปี ระสิทธิภาพ จงึ ได้รวบรวม ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมที่สาคัญและมีความจาเป็นประกอบการพิจารณารายจ่ายประจาปี ประกอบด้วย กรอบการบริหารทางการคลัง ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ ผลิตภัณฑ์ ประชาชาติ อัตราการว่างงาน งบกระแสเงินสดรัฐบาล โครงสร้างงบประมาณ การจัดเก็บรายได้ของ รัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณ หนี้สาธารณะคงค้าง วิเคราะห์งบการเงิน จานวนประชากร เส้นค่าความ ยากจน (Poverty line) สัดส่วนคนจน สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini coefficient) รายได้โดย เฉลี่ยตอ่ เดือนตอ่ ครวั เรือน หน้ีสินท้ังสนิ้ เฉลี่ยต่อครวั เรือน และสนิ เชือ่ จากสถาบันการเงินตอ่ GDP เพ่ือให้ สมาชิกรัฐสภา คณะกรรมาธิการฯ และผู้ท่ีสนใจใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี สานักงบประมาณของรัฐสภา หวังเป็นอย่างย่ิงว่า รายงานฉบับน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก รัฐสภา คณะกรรมาธิการฯ และผู้ที่สนใจใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจาปตี อ่ ไป สานกั งบประมาณของรฐั สภา กันยายน 2562 สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร -ก-

สารบัญ หน้า 1 1. กรอบการบริหารทางการคลัง 3 2. ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ Gross domestic product 5 3. อตั ราเงนิ เฟอ้ 6 4. ผลติ ภัณฑ์ประชาชาติ 7 5. อตั ราการวา่ งงาน 8 6. งบกระแสเงนิ สดรฐั บาล 9 7. โครงสรา้ งงบประมาณ 13 8. ผลการจัดเก็บรายได้รฐั บาล 18 9. ผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณ 19 10. หนส้ี าธารณะคงค้าง ระหวา่ งปงี บประมาณ พ.ศ. 2552 - 2562 20 11. วเิ คราะหง์ บการเงนิ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 27 12. จานวนประชากร 28 13. เส้นคา่ ความยากจน (Poverty line) 29 14. สดั ส่วนคนจน 30 15. สัมประสิทธค์ิ วามไมเ่ สมอภาค (Gini coefficient) 32 16. รายไดโ้ ดยเฉล่ียต่อเดือนต่อครัวเรอื น เป็นรายภาค และจังหวัด 33 17. หนส้ี นิ ท้งั ส้ินเฉลีย่ ตอ่ ครัวเรือน จาแนกรายจังหวัด พ.ศ. 2552 – 2560 36 18. สินเชือ่ จากสถาบันการเงนิ ต่อ GDP สานักงบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -ข-

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดบั มหภาค 1. กรอบการบริหารทางการคลัง ประกอบด้วย 1.1 กรอบความย่งั ยนื ทางการคลงั : เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ฐานะความยั่งยืนทางการคลังท่ีกระทรวงการคลังจัดทาข้ึน ซ่ึงการ ดาเนินการตามกรอบความยั่งยืนทางการคลังจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยสามารถเติบโตได้ อยา่ งมีคณุ ภาพและมเี สถยี รภาพ เป็นการรักษาวนิ ัยทางการคลงั ซ่ึงกรอบความยง่ั ยนื ประกอบดว้ ย 1. หน้สี าธารณะคงค้างต่อ GDP ไม่เกนิ ร้อยละ 60 2. ภาระหนี้ตอ่ งบประมาณไม่เกนิ ร้อยละ 15 3. งบประมาณสมดุล 4. รายจา่ ยลงทนุ ตอ่ งบประมาณไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 25 ปีงบประมาณ หน่วย : ล้านบาท 2562F 2563F 2564F 2565F 2566F เป้าหมายและตัวชว้ี ัดกรอบความยง่ั ยืนทางด้านการคลงั ยอดหนี้สาธารณะคงคา้ ง/GDP ≤ 60 ≤ 60 ≤ 60 ≤ 60 ≤ 60 (ปีงบประมาณ) ภาระหน้/ี งบประมาณ (ร้อยละ) ≤ 15 ≤ 15 ≤ 15 ≤ 15 ≤ 15 รายจา่ ยลงทุน/งบประมาณ (ร้อยละ) ≥ 25 ≥ 25 ≥ 25 ≥ 25 ≥ 25 ผลการดาเนินงานภายใต้กรอบความยงั่ ยนื ทางการคลงั 1. หนสี้ าธารณะคงค้าง1)/GDP (FY) 43.3 44.4 45.7 47.4 47.9 (1.2/1.1) (รอ้ ยละ) 1.1 nominal GDP (FY) 17,091,700 18,117,200 19,204,200 20,433,300 21,659,300 1.2 หนสี้ าธารณะคงค้าง 7,402,143 8,036,764 8,775,918 9,691,581 10,381,773 2. ภาระหน้ี/งบประมาณ2) (2.1/3.2) (ร้อยละ) 8.7 9.3 9.8 10.4 10.9 2.1 ภาระหน้ี (2.1.1 + 2.1.2) 259,610 297,971 324,767 359,364 392,644 2.1.1 ชาระต้นเงนิ กู้ 78,206 96,000 99,000 104,100 108,300 2.1.2 ดอกเบี้ยและคา่ ธรรมเนยี ม 181,404 201,971 225,767 255,264 284,344 3. ดลุ งบประมาณ (3.1 - 3.2) (450,000) (450,000) (527,000) (584,000) (578,000) 3.1 รายไดร้ ฐั บาลสทุ ธิ3) 3.2 งบประมาณรายจา่ ย 2,550,000 2,750,000 2,773,000 2,886,000 3,032,000 3,000,000 3,200,000 3,300,000 3,470,000 3,610,000 4. รายจ่ายลงทนุ 4)/งบประมาณ5) (4.1/3.2) 21.6 21.8 22.0 21.9 21.5 (รอ้ ยละ) 4.1 รายจา่ ยลงทนุ 649,138 698,848 725,003 758,927 776,098 ทม่ี าขอ้ มูล : สานักงานเศรษฐกจิ การคลงั หมายเหตุ : 1. กรอบความยงั่ ยืนทางการคลงั ประมาณการ ณ ส้ินไตรมาสท่ี 1 ปงี บประมาณ 2562 (ณ เดอื นธนั วาคม 2561) 2. ข้อมูล ประมาณการ ข้อสมมตุ ฐิ านตา่ งๆจากหน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้อง ไดแ้ ก่ 1)สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการ เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ 2)สานักงานบรหิ ารหนสี้ าธารณะ 3) และ 4)สานกั นโยบายการคลัง 5)สานกั งบประมาณ สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร -1-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค กรอบความยั่งยืนทางการคลัง เป็นการคาดการณ์การบริหารทางการคลังในอนาคต ซึ่งจะทาให้ การบริหารหนี้สาธารณะและการจัดสรรงบประมาณเป็นไปด้วยความรอบคอบ คุ้มค่า รักษาเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจ และจะส่งผลให้เกิดความย่ังยืนทางการคลังในระยะยาว ผลการดาเนินงานภายใต้ เปา้ หมายและตัวชวี้ ัดต่าง ๆ พบว่า 1. ประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในช่วง 5 ปี (ปี 2562 - 2566) พบว่า มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน คือ จากร้อยละ 43.3 ในปี พ.ศ. 2562 เป็นร้อยละ 47.9 ในปี พ.ศ. 2566 อย่างไรก็ตาม ระดับหนีส้ าธารณะต่อ GDP ยงั อยู่ในกรอบฯท่ีกาหนดใหไ้ ม่เกนิ ร้อยละ 60 2. ประมาณการภาระหนี้ต่องบประมาณ มีแนวโน้มเพิ่มข้ึน จากร้อยละ 8.7 ในปี 2562 เปน็ 10.9 ในปี 2566 ซง่ึ ยังอยูใ่ นกรอบฯ ท่ีกาหนดไว้คือ รอ้ ยละ 15 3. รัฐบาลยังจาเป็นต้องดาเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพ่ือรองรับการลงทุนใน โครงสร้างพน้ื ฐานดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม จงึ ยังไมส่ ามารถจดั ทางบประมาณแบบสมดุลได้ 4. ประมาณการรายจ่ายลงทุนต่องบประมาณ มีค่าอยรู่ ะหว่างร้อยละ 21.5 - 22.0 ซง่ึ อยู่ในกรอบฯทีก่ าหนดไว้ทีร่ ้อยละ 25 1.2 กรอบวินัยการเงนิ การคลังของรัฐ1 ประกอบดว้ ย 1.2.1 การรกั ษาวินยั การเงนิ การคลังของรฐั 2 - งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จาเปน็ ต้องตัง้ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละสอง แตไ่ ม่เกนิ ร้อยละสามจดุ หา้ ของงบประมาณรายจา่ ยประจาปี - สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชาระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ซึ่งรัฐบาลต้องรับภาระ ต้องต้ังไม่น้อยกว่าร้อยละสองจุดห้า แต่ไม่เกินร้อยละสามจุดห้าของงบประมาณ รายจ่ายประจาปี - สัดส่วนงบประมาณเพ่ือการชาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการกู้เงินของรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐซ่ึงรัฐบาลตอ้ งรับภาระ ต้องต้ังตามภาระท่คี าดวา่ จะเกดิ ข้นึ ในปงี บประมาณนัน้ - สดั ส่วนการก่อหน้ผี ูกพนั งบประมาณรายจา่ ยขา้ มปีงบประมาณ ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละ สิบของงบประมาณรายจา่ ยประจาปี - สัดส่วนการก่อหน้ีผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากท่ีกฎหมายว่าด้วย งบประมาณรายจา่ ย ตอ้ งไมเ่ กนิ ร้อยละแปดของงบประมาณรายจา่ ยประจาปี 1 พระราชบญั ญัตวิ ินยั การเงนิ การคลงั ของรฐั พ.ศ.2561 2 ประกาศนโยบายการเงินการคลงั ของภาครัฐ เรื่องการกาหนดสดั สว่ นต่างๆเพอื่ เป็นการรกั ษากรอบวนิ ยั การเงนิ การคลงั ของรฐั พ.ศ.2561 ฉบับที่ 1 ณ วันท่ี 7 มถิ ุนายน 2561 และ ฉบับท่ี 2 ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2562 สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร -2-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค 1.2.2 การบรหิ ารหนี้สาธารณะ3 - สัดสว่ นหนีส้ าธารณะ ตอ่ ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศตอ้ งไม่เกนิ รอ้ ยละหกสิบ - สัดส่วนภาระหน้ีของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจาปีงบประมาณ ต้องไม่ เกินรอ้ ยละสามสิบหา้ - สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ต่อหน้ีสาธารณะทั้งหมด ต้องไม่ เกินร้อยละสิบ - สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะท่ีเป็นเงินตราต่างประเทศ ต่อรายได้จากการส่งออก สินค้าและบรกิ ารต้องไมเ่ กินรอ้ ยละห้า 2. ผลติ ภัณฑ์มวลรวมในประเทศ Gross domestic product, chain volume measures [reference year = 2002] (original) หมายเหตุ : *ปี 2562 ผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศ เป็นผลรวมจาก ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ท่ีมาข้อมลู : สานกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ จดั ทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา เม่ือเปรียบเทียบ GDP ช่วง 10 ปีท่ีผ่านมา (ปี 2552 - 2561) พบว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม ในประเทศหรือ GDP ปรบั เพิ่มขึ้นจาก 7.657 ลา้ นลา้ นบาทในปี 2552 เป็น 10.66 ล้านล้านบาทในปี 2561 มี อัตราการเติบโตเพ่ิมขึ้นอยู่ระหว่างร้อยละ -0.7 ถึง 7.5 ต่อปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการขยายตัวของ เศรษฐกิจ ปี 2562 มีแนวโน้มขยายตัวลดลง โดยคาดการณ์จากการได้รับผลกระทบจากมาตรการการ กีดกนั ทางการคา้ ของสหรัฐทมี่ แี นวโน้มจะยดื เยอ้ื และกาลงั แรงงานมแี นวโนม้ ลดลงจากการเปล่ยี นแปลง 3 ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลัง เร่ือง กาหนดกรอบในการบรหิ ารหน้สี าธารณะ พ.ศ. 2561 ณ วนั ท่ี 7 มิถุนายน 2561 สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -3-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค โครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย ดังน้ัน เพื่อให้เศรษฐกิจในอนาคตขยายตัวอย่างต่อเน่ือง ภาครัฐ จะตอ้ งมีนโยบายและมคี วามรว่ มมือระหว่างภาครฐั และเอกชนอยา่ งชัดเจน 2.1 ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ : ภาคเกษตรกรรม 2.2 ผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ : นอกภาคเกษตรกรรม ท่ีมาข้อมลู : ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงบประมาณของรัฐสภา -4- สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค เมื่อเปรียบเทียบ GDP ภาคเกษตรกรรมและนอกภาคเกษตรกรรม ชว่ งเกอื บ 10 ปที ีผ่ ่านมา (ปี 2552 - 2560) พบวา่ มลู ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรอื GDP ภาคเกษตร ปรับเพิม่ ขึ้นจาก 603 พันล้านบาท เป็น 631 พันล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณร้อยละ -0.2 ถึง 3.7 ต่อปี (ตามแผนภาพ 2.1) จะเห็นได้ว่า ขนาดของวงเงินมีการเปล่ียนแปลงเพ่ิมข้ึนอย่างจากัด ทาให้อัตราการเติบโตไม่สม่าเสมอ ในขณะท่ผี ลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ นอกภาคเกษตรกรรม ปรบั เพม่ิ ข้ึนจาก 7,061 พันล้านบาท เปน็ 9,692 พันล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณร้อยละ -0.7 ถึง 4.1 ต่อปี (ตามแผนภาพ 2.2) จะเห็นได้ว่า แม้ว่าขนาดของวงเงินมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง แต่อัตราการเติบโตกลับเติบโตอย่างไม่ สมา่ เสมอ 3. อตั ราเงนิ เฟ้อ หมายเหตุ : ร้อยละของการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (2558=100) และไม่รวมอาหารสดและพลังงาน ที่มาข้อมลู : ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรัฐสภา อัตราเงินเฟ้อ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2552 - 2561) อยู่ระหว่างร้อยละ -0.9 ถึง 3.8 โดยปี 2552 เท่ากับ -0.9 และปี 2561 เท่ากับ 1.07 เห็นได้ว่า มีแนวโน้มค่อนข้างผันผวนตามปัจจัยท่ีกระทบ สาหรับช่วงหลังปี 2554 ราคาน้ามันดิบได้ลดลงและอยู่ในระดับต่าต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรา เงินเฟ้อลดต่าลงอย่างรวดเร็ว และยังคงมีเสถียรภาพในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวแปร สาคัญตวั หน่งึ ในการประเมินแนวโนม้ การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ และการดาเนินนโยบายการเงิน สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -5-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค หน่วย : บาทต่อคน 4. ผลติ ภัณฑ์ประชาชาติ ทีม่ าข้อมลู : ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรัฐสภา ผลิตภัณฑ์ประชาชาติ ช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2552 - 2560) พบว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์ ประชาชาติ ปรับเพิ่มข้ึนจาก 142,200 บาทต่อคนในปี 2552 เป็น 218,200 บาทต่อคน ในปี 2560 (ตามแผนภาพ) จะเห็นไดว้ ่า อัตราการเติบโตเพิ่มข้ึนอย่างตอ่ เนอื่ ง อย่างไรก็ดี การคานวณรายได้ประชาชาติน้ันจะรวมเฉพาะธุรกรรมท่ีผ่านระบบตลาดเท่าน้ัน ในประเทศไทยมีธุรกรรมที่ไม่ผ่านระบบตลาดค่อนข้างมาก เช่น การปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เอง การทางาน บ้านเอง ดังนั้น รายได้ประชาชาติที่วดั ได้อาจต่ากว่าความเป็นจริง ท้ังนี้ รายได้ประชาชาติยังไม่สามารถ วัดการกระจายรายได้ได้ สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร -6-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค 5. อตั ราการว่างงาน หนว่ ย : รอ้ ยละ ปี พ.ศ. ท้งั ประเทศ กรงุ เทพ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ มหานคร เฉียงเหนอื 2554 0.68 0.65 2555 0.66 0.72 0.68 0.59 0.70 0.78 2556 0.72 0.63 0.75 0.62 0.66 0.69 2557 0.84 0.73 0.86 0.57 0.67 0.99 2558 0.88 0.79 0.93 0.71 0.75 1.17 2559 0.99 0.96 0.97 0.77 0.76 1.10 2560 1.18 0.89 1.04 0.95 0.88 1.36 2561 1.05 1.19 1.03 1.01 1.21 1.65 1.06 0.97 0.92 1.46 ทม่ี าขอ้ มูล : ธนาคารแหง่ ประเทศไทย จัดทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา การสารวจภาวะการทางานของประชากร ช่วงปี 2554 - 2561 พบว่า ภาพรวมท้ังประเทศมี อัตราการว่างงานในปี 2557 เท่ากับร้อยละ 0.68 เป็นร้อยละ 1.05 ในปี 2561 ท้ังนี้ เม่ือพิจารณาแยก รายภาค พบว่า อัตราการว่างงานของทุกภาคเพ่ิมขึ้นทั้งหมด โดยปี 2561 เขตกรุงเทพมหานครมีอัตรา การว่างงานสูงท่ีสุด มีค่าเท่ากับร้อยละ 1.06 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการว่างงานต่าท่ีสุด เท่ากบั ร้อยละ 0.92 ผลสารวจภาวะการทางานของประชากรเดือนกรกฎาคม 2562 พบวา่ จานวนผูม้ อี ายตุ ั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีจานวน 56.60 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกาลังแรงงานหรือผู้ท่ีพร้อมทางาน 38.09 ล้านคน ซึ่ง ประกอบด้วยผู้มีงานทา 37.62 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.4 แสนคน (อัตราการว่างงาน เท่ากับร้อยละ 1.1) และผู้ที่รอฤดูกาล 3.0 หม่ืนคน ส่วนผู้ที่อยู่นอกกาลังแรงงานหรือผู้ท่ีไม่พร้อมทางาน 18.51 ล้านคน ได้แก่ แมบ่ ้าน นักเรยี น คนชรา เปน็ ต้น สานักงบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -7-

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค 6. ฐานะการคลงั ตามระบบกระแสเงนิ สดของรัฐบาล หน่วย : ลา้ นลา้ นบาท ปีงบประมาณ 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562* 1. รายไดน้ าส่งคลัง 1.410 1.709 1.892 1.978 2.163 2.076 2.207 2.412 2.354 2.524 2.129 2. รายจ่าย 1.917 1.784 2.178 2.295 2.402 2.460 2.601 2.807 2.891 3.007 2.586 - ปปี จั จบุ นั 1.791 1.628 2.051 2.148 2.171 2.246 2.378 2.579 2.687 2.792 2.372 - ปีก่อน 0.126 0.157 0.127 0.147 0.231 0.214 0.223 0.228 0.204 0.215 0.214 3. ดลุ เงิน -0.507 -0.076 -0.286 -0.318 -0.239 -0.384 -0.394 -0.396 -0.537 -0.483 -0.457 งบประมาณ 4. ดลุ เงนิ นอก 0.131 -0.022 0.177 0.014 0.001 0.025 0.075 0.021 0.066 0.092 -0.015 งบประมาณ 5. ดลุ เงินสดก่อนกู้ -0.376 -0.097 -0.108 -0.304 -0.238 -0.359 -0.320 -0.375 -0.470 -0.391 -0.472 6. ก้เู พ่ือชดเชย 0.441 0.233 0.201 0.344 0.282 0.250 0.250 0.390 0.553 0.500 0.323 การขาดดลุ 7. ดุลเงินสดหลังกู้ 0.065 0.135 0.092 0.040 0.044 -0.109 -0.070 0.015 0.082 0.110 -0.149 8. เงนิ คงคลงั ตน้ ปี 0.229 0.294 0.429 0.521 0.561 0.605 0.496 0.426 0.441 0.524 0.633 9. เงนิ คงคลงั 0.294 0.429 0.521 0.561 0.605 0.496 0.426 0.441 0.524 0.633 0.485 ปลายปี หมายเหตุ : ขอ้ มูลปงี บประมาณ พ.ศ.2562 10 เดอื น (ตลุ าคม 2561 - สงิ หาคม 2562) ที่มาขอ้ มลู : สานักงานเศรษฐกิจการคลัง (ปรับปรงุ วนั ท่ี 15 สิงหาคม 2562) จะเห็นได้ว่า ต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2562 แม้ว่ารายได้ที่นาส่งคลังจะเพิ่มขึ้น จาก 1.410 ล้านล้าน เป็น 2.129 ล้านล้านบาท แต่รายจ่ายที่สะสมปีปัจจุบันและปีก่อนก็เพ่ิมขึ้นจาก 1.917 ล้านล้านบาท เป็น 2.586 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ขาดดุลเงินงบประมาณ และดุลเงินสดก่อนกู้ติดลบมา โดยตลอด ทาใหต้ ้องกเู้ พื่อชดเชยการขาดดุล โดยดลุ เงินสดุ หลังกจู้ ะมีค่าแตกต่างกนั อยรู่ ะหว่าง –0.149 ล้านล้านบาท ถึง 0.135 ล้านล้านบาท เม่ือรวมกับเงินคงคลังต้นปี ทาให้เงินคงคลังปลายปี มีค่าอยู่ ระหว่าง 0.294 ล้านล้านบาท ถึง 0.605 ล้านล้านบาท โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ต.ค. 2561 - ส.ค. 2562) มเี งินคงคลงั เท่ากบั 0.485 ล้านล้านบาท หรือ 485,550 ลา้ นบาท สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -8-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค 7. โครงสรา้ งงบประมาณ หนว่ ย : ลา้ นล้านบาท วงเงินงบประมาณ 3.500 2.170 2.380 2.400 2.525 2.575 2.776 2.923 3.050 3.000 3.000 2.500 2.000 1.700 ลา้ นลา้ นบาท 1.500 1.000 0.500 0.000 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 ปีงบประมาณ พ.ศ. ทม่ี าขอ้ มลู : สานกั งานเศรษฐกิจการคลัง ประมวลผลและจดั ทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -9-

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงนิ ภาครัฐในระดับมหภาค หนว่ ย : ล้านบาท ปี รวม วงเงนิ งบประมาณ รายจา่ ย ประมาณ ดุล ผลิตภณั ฑ์ รายจา่ ย รายจา่ ย รายจ่าย เพอ่ื ชดใช้ การรายได้ งบประมาณ รวมของ ประจา ลงทุน ชาระตน้ เงินคงคลงั (เกินดุล+ / ประเทศ ขาดดลุ -) เงนิ กู้ 2552* 1,951,700 1,411,382 429,962 63,676 46,680 1,604,640 -347,061 8,712,500 2553 1,700,000 1,434,710 214,369 50,921 - 1,350,000 -350,000 10,000,900 2554* 2,169,968 1,667,440 355,485 32,555 114,489 1,770,000 -399,968 10,539,400 2555 2,380,000 1,840,673 438,555 46,854 53,918 1,980,000 -400,000 11,478,600 2556 2,400,000 1,900,477 450,374 49,150 - 2,100,000 -300,000 11,922,000 2557 2,525,000 2,017,626 441,129 52,822 13,424 2,275,000 -250,000 12,424,000 2558 2,575,000 2,027,859 449,476 55,700 41,965 2,325,000 -250,000 12,627,000 2559* 2,776,000 2,127,779 564,354 61,992 21,875 2,386,000 -390,000 14,034,300 2560* 2,923,000 2,155,686 659,049 81,187 27,078 2,370,078 -552,922 15,185,500 2561* 3,050,000 2,236,946 676,470 86,942 49,642 2,499,642 -550,358 16,457,300 2562 3,000,000 2,272,656 649,138 78,206 - 2,550,000 -450,000 17,330,100 หมายเหตุ : * ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552/2554/2559/2560/2561 รวมงบประมาณเพ่มิ เติม ทม่ี าข้อมลู : สานักงานเศรษฐกจิ การคลัง โครงสร้างงบประมาณ ช่วง 10 ปที ่ผี ่านมา (ปี 2552 - 2560) พบว่า 1. ดาเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุลมาอย่างต่อเนื่อง เหตุผลประการหนึ่งอาจจะเป็น เพราะความจาเป็นในการลงทุนโครงสร้างพ้ืนฐานหรือปัจจัยพ้ืนฐาน เพื่อปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ใหส้ ามารถแขง่ ขันกบั ตา่ งชาตไิ ด้ 2. แมว้ า่ กรอบความย่งั ยืนทางการคลังกาหนดให้ภาระหนี้ต่องบประมาณไมเ่ กินรอ้ ยละ 15 และ ท่ีผ่านมายังอยู่ในกรอบฯ แต่การขาดดุลงบประมาณยังอยู่ระดับสูงซ่ึงจะส่งผลกับระดับหน้ีสาธารณะ และดอกเบี้ยจ่าย ดังนั้น การใช้จ่ายงบประมาณจึงควรจดั สรรเพ่ือการลงทุนมากกว่านามาเป็นค่าใช้จา่ ย ประจา สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร -10-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค 7.1 งบประมาณรายจา่ ยจาแนกตามลักษณะงานและลักษณะเศรษฐกิจ หนว่ ย : พันลา้ นบาท ดา้ น ปงี บประมาณ พ.ศ. 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 1. การบรหิ ารทว่ั ไป ของรฐั 426.28 603.22 571.73 500.69 580.19 576.74 627.37 671.34 671.38 666.30 2. การศกึ ษา 379.12 423.56 444.48 493.93 518.52 531.04 549.71 536.73 523.57 510.43 3. การเศรษฐกิจ 287.86 429.34 421.24 470.00 530.06 545.02 583.48 642.86 656.40 642.03 4. การสาธารณสุข 178.43 208.09 220.41 254.79 253.00 261.11 274.23 295.58 302.03 311.32 5. การป้องกนั ประเทศ 153.54 169.32 167.44 177.66 182.15 191.64 205.38 211.13 217.31 223.77 6. การสงั คม 118.00 144.36 179.03 201.15 217.13 227.80 264.29 270.60 351.43 369.94 สงเคราะห์ 7. การรักษาความ สงบภายใน 110.56 125.31 132.24 144.38 149.14 157.37 175.08 172.58 185.68 191.22 8. การเคหะและ 28.84 47.47 222.72 133.74 67.07 58.67 67.96 90.07 112.33 53.88 ชมุ ชน 13.20 16.54 19.17 21.48 24.63 21.69 21.55 22.04 21.30 20.17 9. การศาสนา วัฒนธรรมและ นนั ทนาการ 10. การส่ิงแวดลอ้ ม 4.17 2.76 1.52 2.16 3.10 3.93 6.95 10.07 8.57 10.94 ท่มี าข้อมูล : สานักงบประมาณ (เอกสารงบประมาณสงั เขป ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 - 2562) การจาแนกตามลักษณะงาน เป็นการแสดงงบประมาณตามวตั ถุประสงค์ในการดาเนินกิจกรรม ต่างๆของรัฐบาล โดยยึดหลักในการจาแนกรายจ่ายของรัฐบาลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่ง ไดจ้ าแนกการดาเนนิ งานของรฐั บาลตามวตั ถปุ ระสงค์อย่างกวา้ งขวางออกเปน็ ดา้ นต่าง ๆ 10 ดา้ น อย่างไรก็ตาม งบประมาณจาแนกตามลักษณะงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ลักษณะงานท่ีมี สัดส่วนการจัดสรรสูงที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ (1) การบริหารทั่วไปของรัฐ 666,300 ล้านบาท (2) การ เศรษฐกจิ 642,030 ล้านบาท (3) การศกึ ษา 510,427 ลา้ นบาท (4) การสงั คมสงเคราะห์ 369,943 ล้าน บาท (5) การสาธารณสุข 311,319 ล้านบาท และลักษณะงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ น้อยที่สุด ได้แก่ (1) การส่ิงแวดล้อม 10,945 ล้านบาท (2) การศาสนา วัฒนธรรมและนันทนาการ 20,172 ล้านบาท (3) การเคหะและชุมชน 53,878 ล้านบาท (4) การรักษาความสงบภายใน 191,221 ลา้ นบาท (5) การปอ้ งกนั ประเทศ 223,765 ลา้ นบาท สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร -11-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค จะเห็นได้ว่า การจัดสรรงบประมาณ จาแนกตามลักษณะงานระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2562 แต่ละด้านจะมีความใกล้เคียง กัน โดยด้านท่ีมีการจัดสรรงบประมาณสูงสุด ได้แก่ การบริหารทั่วไปของรัฐ และการศึกษา และด้านท่ีมีการจัดสรรงบประมาณน้อยที่สุด ได้แก่ การส่ิงแวดล้อม การศาสนา วัฒนธรรม และนันทนาการ ทีม่ าขอ้ มลู : สานักงบประมาณ (เอกสารงบประมาณสงั เขป ปงี บประมาณ พ.ศ. 2554 - 2562) จดั ทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร -12-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค 8. ผลการจดั เกบ็ รายไดร้ ัฐบาล 8.1 รายได้สุทธิของรัฐบาล ระหวา่ งปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 - 2562 หน่วย : ล้านล้านบาท หมายเหตุ : 1. รายได้สุทธกิ ่อนจดั สรรให้อปท.ตาม พรบ.กาหนดแผนฯ 2.* ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เปน็ รายไดส้ ุทธิ 10 เดอื น (ตุลาคม 2561 - สงิ หาคม 2562) รายได้สุทธิของรัฐบาล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จาก 1.4647 ล้านล้านบาทในปี 2552 เป็น 2.6536 ล้านล้านบาท ในปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 81.17 โดยรายได้ของรัฐบาลท่ีสาคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษเี งินได้นิติบคุ คล และภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ภาษีนา้ มนั ฯ และภาษรี ถยนต์ สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -13-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครัฐในระดบั มหภาค หนว่ ย : ลา้ นบาท 8.2 แนวโนม้ การจดั เกบ็ รายไดภ้ าษสี าคัญ 5 ประเภท หมายเหตุ : ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นรายไดส้ ทุ ธิ 10 เดอื น (ตุลาคม 2561 - สิงหาคม 2562) รายได้ของรฐั บาลท่สี าคัญ ในช่วงปี พ.ศ. 2552 - 2561 ได้แก่ 1. ภาษีมูลค่าเพ่ิม มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 431,775 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 792,999 ลา้ นบาท ในปี 2561 ซงึ่ มีการเพมิ่ ขึ้นโดยเฉลี่ยรอ้ ยละ 7.16 ต่อปี 2. ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คล มแี นวโนม้ เพิม่ ข้ึนอยา่ งต่อเนื่อง จาก 392,172 ลา้ นบาท ในปี 2552 เป็น 663,526 ลา้ นบาท ในปี 2561 ซ่งึ มกี ารเพมิ่ ขึน้ โดยเฉลยี่ ร้อยละ 6.41 ต่อปี 3. ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา มแี นวโน้มเพ่ิมขนึ้ จาก 198,095 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 319,022 ล้านบาท ในปี 2561 ซ่งึ มีการเพิม่ ขึ้นโดยเฉลย่ี รอ้ ยละ 5.63 ต่อปี 4. ภาษีนา้ มันฯ มแี นวโนม้ เพ่ิมขึน้ จาก 91,059 ลา้ นบาท ในปี 2552 เปน็ 224,883 ล้านบาท ในปี 2561 ซึง่ มีการเพมิ่ ขนึ้ โดยเฉลยี่ ร้อยละ 18.55 ตอ่ ปี 5. ภาษรี ถยนต์ มแี นวโน้มเพ่มิ ขึ้น จาก 49,278 ล้านบาท ในปี 2552 เปน็ 121,088 ลา้ นบาท ในปี 2561 ซงึ่ มกี ารเพ่มิ ข้ึนโดยเฉลยี่ รอ้ ยละ 14.03 ตอ่ ปี สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -14-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค 8.3 ผลการจัดเกบ็ รายได้รฐั บาล ปงี บประมาณ พ.ศ. 2552 - 2562 ของ กรมสรรพากร หนว่ ย : ล้านบาท หมายเหตุ : ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นรายไดส้ ุทธิ 10 เดือน (ตุลาคม 2561 - สิงหาคม 2562) ผลการจดั เกบ็ รายไดข้ องกรมสรรพากร 3 อนั ดับแรก ในช่วงปี พ.ศ. 2552 - 2561 ไดแ้ ก่ 1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง จาก 431,775 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 792,999 ลา้ นบาท ในปี 2561 ซ่ึงมีการเพม่ิ ขนึ้ โดยเฉล่ยี รอ้ ยละ 7.16 ต่อปี 2. ภาษีเงินได้นติ บิ ุคคล มแี นวโนม้ เพิม่ ขนึ้ อยา่ งต่อเน่ือง จาก 392,172 ลา้ นบาท ในปี 2552 เป็น 663,526 ล้านบาท ในปี 2561 ซึง่ มีการเพิ่มขึ้นโดยเฉล่ยี ร้อยละ 6.41 ต่อปี 3. ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา มีแนวโน้มเพิม่ ขึน้ จาก 198,095 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 319,022 ล้านบาท ในปี 2561 ซงึ่ มีการเพิ่มข้นึ โดยเฉล่ยี ร้อยละ 5.63 ตอ่ ปี สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -15-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดบั มหภาค 8.4 ผลการจัดเก็บรายไดร้ ัฐบาล ปงี บประมาณ พ.ศ. 2552 – 2562 ของ กรมสรรพสามิต หนว่ ย : ล้านบาท หมายเหตุ : ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นรายไดส้ ทุ ธิ 10 เดือน (ตุลาคม 2561 - สิงหาคม 2562) ผลการจดั เกบ็ รายไดข้ องกรมสรรพสามิต 3 อนั ดบั แรก ในชว่ งปี พ.ศ. 2552 - 2561 ได้แก่ 1. ภาษนี ้ามันฯ มีแนวโน้มเพ่ิมข้นึ จาก 91,059 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 224,883 ล้านบาท ในปี 2561 ซง่ึ มีการเพิ่มขึ้นโดยเฉล่ียร้อยละ 18.55 ต่อปี 2. ภาษีรถยนต์ มีแนวโน้มเพ่ิมข้ึน จาก 49,278 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 121,088 ล้านบาท ในปี 2561 ซงึ่ มีการเพิ่มขึน้ โดยเฉล่ียร้อยละ 14.03 ตอ่ ปี 3. ภาษเี บียร์ มแี นวโนม้ เพิม่ ขึ้น จาก 48,993 ลา้ นบาท ในปี 2552 เปน็ 76,357 ลา้ นบาท ใน ปี 2561 ซง่ึ มกี ารเพ่มิ ข้ึนโดยเฉล่ยี ร้อยละ 5.37 ตอ่ ปี สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร -16-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครฐั ในระดบั มหภาค 8.5 ผลการจดั เกบ็ รายไดร้ ัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 – 2562 ของ กรมศุลกากร หนว่ ย : ล้านบาท หมายเหตุ : ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เป็นรายไดส้ ุทธิ 10 เดือน (ตลุ าคม 2561 - สิงหาคม 2562) ที่มาข้อมลู : สานักงานเศรษฐกจิ การคลงั จัดทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรัฐสภา ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร ในช่วงปี พ.ศ. 2552 - 2561 พบว่า อากรขาเข้า เป็น รายไดท้ ี่จดั เก็บเข้ากรมศลุ กากรมากท่ีสุด โดยมแี นวโน้มเพิ่มข้ึนเฉล่ียร้อยละ 4.01 ตอ่ ปี ในขณะท่ี อากร ขาออก รวมทัง้ รายไดอ้ ื่น ๆ มแี นวโนม้ จดั เก็บไดน้ อ้ ยลง สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -17-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดับมหภาค 9. ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ หน่วย : ล้านล้านบาท หมายเหตุ : ผลการเบกิ จา่ ยปี 2562 ระหว่าง ต.ค. 2561 - ก.ค. 2562 ที่มาขอ้ มูล : สานกั งานเศรษฐกิจการคลัง จดั ทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรฐั สภา ผลการเบิกจ่ายงบประมาณระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2552-2562 พบว่า ผลการเบิกจ่ายต่า กว่างบประมาณท่ีได้รับจัดสรรในแต่ละปี ดังน้ัน รัฐบาลควรเร่งรัดการเบิกจ่ายไม่ว่าจะเป็นงบประจา หรืองบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด โดยใช้ข้อมูลการเบิกจ่ายรายหน่วยงานเพื่อประกอบการ พิจารณาหน่วยงานที่ไม่สามารถเบิกจ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันได้ตามเป้าหมายหรือแผนงานที่กาหนดไว้ให้ ไดร้ บั งบประมาณจานวนทเ่ี หมาะสมต่อไป สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -18-

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดบั มหภาค 10. หนสี้ าธารณะคงคา้ ง ระหวา่ งปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 - 2562 หน่วย : ล้านล้านบาท ทีม่ าขอ้ มลู : สานกั งานเศรษฐกจิ การคลงั จัดทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรฐั สภา หนี้สาธารณะคงค้าง มีแนวโน้มเพิ่มข้ึน จาก 4.002 ล้านล้านบาท ในปี 2552 เป็น 6.781 ล้าน ล้านบาท ในปี 2561 อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสัดส่วนหน้ีสาธารณะต่อ GDP ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-2561 มคี ่าอยรู่ ะหวา่ งรอ้ ยละ 41.87 - 44.26 ท้งั นี้ ยังอยใู่ นกรอบความยง่ั ยนื ทางการคลังท่ี กาหนดไวไ้ มเ่ กินร้อยละ 60 สานักงบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร -19-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค 10.1 หนส้ี าธารณะ จาแนกตามประเภทการกู้ หนว่ ย : ล้านบาท ปี / หนที้ ่ีรัฐบาลกู้ หนี้ของรฐั วสิ าหกิจทไ่ี มเ่ ปน็ หนี้ของ หนสี้ ินของ รวม สัดสว่ นหน้ี ประเภท โดยตรง สถาบนั การเงนิ หน่วยงาน กองทนุ เพอ่ื GDP สาธารณะต่อ ภาครฐั อื่น การฟน้ื ฟฯู รวม หน้ที ี่รัฐบาล หน้ีท่รี ัฐบาล GDP คา้ ประกัน ไมค่ า้ ประกัน 2552 2,586,513 1,317,372 768,265 549,106 - 98,146 4,002,031 9,041,600 44.26 2553 2,907,482 1,261,162 711,866 549,296 - 62,100 4,230,745 10,104,800 41.87 2554 3,181,159 1,236,691 684,373 552,318 - 30,445 4,448,295 10,523,080 42.27 2555 3,515,011 1,416,495 847,685 568,810 5,732 - 4,937,238 11,243,980 43.91 2556 3,774,819 1,654,906 991,048 663,858 835 - 5,430,560 11,938,250 45.49 2557 3,965,455 1,713,902 1,052,405 661,497 11,457 - 5,690,814 12,061,090 47.18 2558 4,157,395 1,607,496 967,416 640,079 18,433 - 5,783,323 13,453,060 42.99 2559 4,471,220 1,494,849 923,648 571,201 22,318 - 5,988,387 14,178,278 42.24 2560 4,959,164 1,396,537 844,461 552,076 13,630 - 6,369,331 15,059,710 42.29 2561 5,450,220 1,321,765 781,219 540,545 8,969 - 6,780,953 16,139,430 42.01 ทีม่ าข้อมลู : สานักงานเศรษฐกิจการคลัง ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเพ่ิมขึ้นต่อเนื่องทุกปี นับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2552-2561 พบว่ามีจานวน หนส้ี าธารณะเพิ่มขนึ้ ถงึ ร้อยละ 69.43 หรอื เพิม่ ข้นึ ในอัตรารอ้ ยละ 7.71 ต่อปี โดยในปี พ.ศ. 2561 มีหนี้ สาธารณะทั้งส้ิน 6,780,953 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.01 ของ GDP ประกอบไปด้วย หน้ีท่ีรัฐบาลกู้ โดยตรง ร้อยละ 80.38 หน้ขี องรัฐวิสาหกจิ ท่ีไมเ่ ป็นสถาบันการเงิน ร้อยละ 19.50 และหนี้ของหน่วยงาน ภาครัฐอื่น ร้อยละ 0.12 ซึ่งเม่ือพิจารณาสัดส่วนหน้ีสาธารณะต่อ GDP ที่ผ่านมา พบว่า มีสัดส่วนค่อนข้าง คงท่ี โดยต้ังแต่ปี พ.ศ. 2552-2561 ประเทศไทยมีสัดส่วนหน้ีสาธารณะต่อ GDP อยู่ในช่วง 41.87 ถึง 47.18 ซงึ่ อยใู่ นกรอบความยั่งยนื ทางการคลังที่กาหนดสัดส่วนหน้สี าธารณะต่อ GDP ไว้ไมเ่ กนิ ร้อยละ 60 11. วิเคราะห์งบการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ.25614 พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 กาหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดทารายงาน การเงินประจาปีงบประมาณ และนาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบผลการดาเนนิ งาน และสถานะ การเงินของประเทศ ซง่ึ จะนาไปประกอบการบรหิ ารสนิ ทรพั ย์ และหนีส้ ิน รวมถึงการบริหารงบประมาณ หนี้สาธารณะ รายได้ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุผล รอบคอบ คานึงถึงความคุ้มค่า สร้าง เสถียรภาพและความย่ังยืนทางการคลงั ทัง้ นี้ สินทรพั ย์ส่วนใหญ่มีสดั สว่ นมาจากเงินกยู้ มื ระยะยาว โดยมี “อัตราหนส้ี นิ ต่อทนุ เท่ากบั 2.47 เทา่ ” 4 รายละเอียดเพ่ิมเตมิ download ได้ท่ี เว็บไซต์สานักงบประมาณของรัฐสภา https://www.parliament.go.th/pbo/ สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -20-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงนิ ภาครฐั ในระดับมหภาค 11.1 ฐานะการเงิน หนว่ ย : ลา้ นบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ประกอบด้วย 1) สินทรัพย์รวม 28.1178 ล้านล้านบาท 2) หนี้สิน 20.0102 ลา้ นลา้ นบาท สว่ นทุน 8.1076 ล้านลา้ นบาท โดยมรี ายละเอียด สัดส่วนสินทรัพย์สาคัญ 3 อันดับแรก ไดแ้ ก่ (1) สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ร้อยละ 51 ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน อาคารอุปกรณ์ ประมาณร้อย ละ 31 (2) สินทรัพย์ของสถาบันการเงินของรัฐ ประมาณร้อยละ 30 (3) สินทรัพย์หมุนเวียน ร้อยละ 18 ซ่ึง ส่วนใหญ่เป็นเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด โดยสินทรัพย์มาจากหนี้สิน 20.0102 ล้านล้าน บาท ส่วนของทุน 8.1076 ล้านล้านบาท สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร -21-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค สัดส่วนหนี้สินสาคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) หนี้สินไม่หมุนเวียน ร้อยละ 45 ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ยืม ระยะยาวประมาณร้อยละ 29 (2) หนี้สินของสถาบัน การเงินของรัฐ ร้อยละ 40 (3) หนี้สินหมุนเวียน ร้อยละ 15 ทง้ั น้ี อัตราหนี้สนิ ตอ่ ทุนเท่ากบั 2.47 เท่า สัดส่วนของหน้ีสินไม่หมุนเวียนมีระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี มีจานวนเกือบครึ่งหนึ่งของหน้ีสิน ท้ังหมด ซึ่งทาให้มีภาระดอกเบี้ยจ่ายในระยะยาว ดังน้ัน การบริหารหนี้สินจะต้องรอบคอบ รัดกุม และ หากเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวต้องนาไปลงทุนในโครงสร้างพ้ืนฐานมากกว่าใช้สาหรับงบประจา ดังนัน้ การบรหิ ารหนีส้ ินต่างๆ ควร 1. พิจารณาจานวนหนี้สินและค่าใช้จ่ายค้างจ่ายต่างๆท่ีเกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุก ประเภท โดยเฉพาะหนี้สินไม่หมุนเวียนที่ไม่ได้เป็นหน้ีสาธารณะด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับสภาพคล่อง ความสามารถในการชาระหนี้ และความเสยี่ งทางการคลงั ในอนาคต 2. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโครงการสาคัญ ควรจัดทาบัญชีจาแนกแต่ละโครงการ ระบุแหล่งเงินกู้และดอกเบี้ยจ่ายอย่างชัดเจน เพ่ือให้สามารถประเมินความคุ้มค่าได้อย่างชัดเจน หากมี การปรับโครงสร้างหน้ีหลายคร้ังจะทาให้ไม่ทราบตน้ ทนุ ทางการเงนิ ทีแ่ ท้จริงของแตล่ ะโครงการ 11.2 รายได้ - ค่าใชจ้ ่าย ผลการดาเนินงานปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 สามารถจัดเก็บรายได้รวม 7.7047 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 5.4052 ล้านล้านบาท และ รายได้แผ่นดินส่วนใหญ่จาก ภาษี 2.2995 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 70 และ 30 ของรายได้ทั้งหมด (ตามลาดับ) รายได้จาก ภาษี แบ่งเปน็ (1) รายได้ภาษีทางตรง จานวน 1.0903 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นภาษีเงินได้นิติ บุคคล 0.6635 ล้านล้านบาท ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 0.3190 ล้านล้านบาท ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 0.1075 ล้านล้านบาท สานักงบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -22-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค (2) รายได้ภาษีทางอ้อม จานวน 1.5580 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นภาษีการขาย เฉพาะ เช่น ภาษีมูลค่าเพ่ิม ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ร้อยละ 30 และภาษีการขายเฉพาะ (เชน่ ภาษสี รรพสามติ ) ร้อยละ 22 ของรายไดจ้ ากภาษี รายได้จากภาษีทางตรงและทางอ้อม มีค่าประมาณร้อยละ 34 ของรายได้ท้ังหมดของรัฐบาล ส่วนใหญเ่ ปน็ ภาษีเงินไดน้ ิตบิ ุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนัน้ หากภาคเอกชนได้รบั ผลกระทบจากปัญหา เศรษฐกิจภายนอกประเทศทีท่ าให้เศรษฐกจิ ชะลอตัวอาจส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ให้ลดลงดว้ ย ซง่ึ อาจ ส่งผลตอ่ การบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายประจาปี ค่าใช้จ่ายรวมทั้งส้ิน 7.2408 ล้านล้านบาท โดยค่าใช้จ่าย สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) ต้นทุนขายและบริการ ร้อยละ 39 (2) ค่าใช้จ่ายอ่ืนรวม ร้อยละ 39 และ (3) ค่าใช้จ่าย บุคลากร ร้อยละ 18 จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายบุคลากร มีสัดส่วนต่อวงเงิน งบประมาณรายจ่ายประจาปีค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงควรควบคุม ค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ปรับเปล่ียน เครื่องมือ เทคโนโลยีท่ีทันสมัยเพื่อทดแทนการใช้คน ปรับเปล่ียนภารกิจบางอย่างเป็นระบบการจ้างเหมา (Outsource) เพ่ือลดค่าใช้จ่ายเก่ียวกับสวัสดิการ ตา่ ง ๆ ในระยะยาว ซงึ่ อาจทาให้ประหยดั งบประมาณรายจ่ายประจาปีได้ 11.3 สัดสว่ นสินทรัพยร์ วมต่อหนส้ี นิ รวม การเปรียบเทียบสัดส่วนหนี้สินรวมต่อสินทรัพย์รวม เพื่อวัดขนาดหน้ีสินทั้งหมดของหน่วยงาน เปรียบเทียบกับสินทรัพย์ท้ังหมดของหน่วยงาน หากอัตราส่วนนี้ปานกลางถึงต่า จะแสดงให้ เห็นว่ามีสนิ ทรัพย์รวมมากกวา่ หนีส้ นิ รวมเป็นการลดความเสี่ยงการบรหิ ารการเงิน หนว่ ย : ล้านบาท รายการ / งบการเงินรวม รัฐบาลและ รัฐวิสาหกจิ ท่ี รฐั วิสาหกจิ ท่ี องคก์ ร ประเภท ภาครฐั หนว่ ยงานของ ไม่ใช่สถาบัน เป็นสถาบนั ปกครองส่วน รัฐ การเงนิ ของรัฐ การเงินของรัฐ ทอ้ งถ่นิ หน้สี ินรวม 20,010,213 7,700,340 4,414,613 8,032,167 147,313 สนิ ทรัพย์รวม 28,117,842 14,778,246 6,501,156 8,587,111 652,155 สดั สว่ นหนี้สิน 71% 52% 68% 94% 23% รวมตอ่ สินทรัพย์รวม สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร -23-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครัฐในระดบั มหภาค ปี 2561 สัดส่วนของหน้ีสินรวมต่อสินทรัพย์รวมทุกหน่วยงาน เท่ากับ ร้อยละ 71 โดยมี รายละเอียดสัดส่วนหน้ีสินรวมต่อสินทรัพย์รวมของ รัฐบาลกลางและหน่วยงานของรัฐ เท่ากับร้อยละ 52 รัฐวิสาหกิจท่ีไม่ใช่สถาบันการเงินของรัฐ เท่ากับร้อยละ 68 รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินของรฐั เท่ากับร้อยละ 94 และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินร้อยละ 23 อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐวิสาหกิจที่เป็น สถาบันการเงินของรัฐจะมีสัดส่วนท่ีค่อนข้างสูง แต่หน้ีสินส่วนใหญ่น้ันเป็นหนี้จากการประกอบกิจการ การเงินการธนาคารและไม่ได้นับรวมเปน็ หน้สี าธารณะ 11.4 สัดส่วนหน้สี นิ เปรียบเทยี บกับผลิตภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) การวดั ขนาดของหน้สี นิ หมนุ เวยี นและหนสี้ ินระยะยาวน้ี มีวัตถุประสงคเ์ พื่อเปรียบเทียบขนาดของ หนสี้ นิ กบั ผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศ โดยได้นาสถานะหนีส้ ินหมนุ เวยี นและไมห่ มุนเวยี นของ หน่วยงานแต่ละประเภทและภาพรวมเปรยี บเทยี บกับผลติ ภณั ฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หน่วย : ลา้ นลา้ นบาท งบการเงินรวม รัฐบาลกลางและ รฐั วสิ าหกิจทไี่ มใ่ ช่ รฐั วสิ าหกจิ ทีเ่ ป็น องค์กรปกครอง หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงนิ สถาบันการเงนิ ส่วนท้องถิ่น รายการ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ต่อ GDP ต่อ GDP ต่อ GDP ต่อ GDP ตอ่ GDP หนี้สิน 3.0488 19% 1.2978 8% 1.6877 10% na. - na. - หมนุ เวียน หน้สี ินไม่ 9.0026 56% 6.4026 40% 2.7269 17% na. - na. - หมุนเวยี น หน้ีสินรวม 12.0515* 75% 7.7003 48% 4.4146 27% 8.0322 50% 0.1473 1% หมายเหตุ : 1. *ไม่รวมหนส้ี ินรัฐวิสาหกจิ ที่เปน็ สถาบันการเงิน 2. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 (1 ก.ย. 2560 - 30 ก.ย. 2561) เท่ากับ 16.1164 ล้านล้านบาท (สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต)ิ 3. “หนี้สาธารณะ” หมายถึง หน้ีทีก่ ระทรวงการคลงั หน่วยงานของรัฐ หรือ รฐั วิสาหกจิ กู้ หรอื หนีท้ กี่ ระทรวงการคลังค้าประกัน แตไ่ ม่รวมถงึ หน้ีของรัฐวิสาหกิจท่ีทาธุรกิจใหก้ ยู้ มื เงินโดยกระทรวงการคลงั มิได้ค้าประกัน และหน้ีสินของธนาคารแหง่ ประเทศไทย 1. หนี้สินที่ไม่รวมหน้ีสินรัฐวิสาหกิจท่ีเป็นสถาบันการเงิน มีจานวน 12.0515 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับ ร้อยละ 75 ของ GDP ประกอบด้วยหนี้สินไม่หมุนเวียน ร้อยละ 56 และหน้ีสินหมุนเวียน รอ้ ยละ 19 โดยหน้ีสนิ รวมส่วนใหญม่ าจากหนสี้ นิ ของรัฐบาลกลางและหน่วยงานของรัฐ 2. เม่ือวิเคราะห์เฉพาะหน้ีสินไม่หมุนเวียนรายการท่ีมีวงเงินมากที่สุด 3 อันดับในงบการเงิน ประกอบด้วย เงินกู้ยืมระยะยาว ร้อยละ 36 ของ GDP ประมาณการหนี้สินระยะยาว ร้อยละ 10 ของ GDP และหนี้สินไม่หมุนเวยี นอ่ืน ร้อยละ 5 ของ GDP สานักงบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร -24-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค ประเภท จานวน รอ้ ยละ หนสี้ นิ ไม่หมุนเวยี น (ล้านลา้ นบาท) ของ GDP - เงนิ กยู้ มื ระยะยาว - ประมาณการหนสี้ นิ ระยะยาว 9.0026 56% - หนีส้ นิ ไมห่ มนุ เวยี นอนื่ 5.8754 36% 1.5342 10% 0.7388 5% 3. สัดส่วนหนี้สาธารณะตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 ท่ีสานักงานบริหารหนี้สาธารณะรายงานไว้ เท่ากับ ร้อยละ 41.70 ของ GPD ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกาหนดไวไ้ ม่เกินร้อย ละ 60 ของ GDP โดยแบ่งเป็นหน้ีรัฐบาล 5.450 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 0.9541 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจท่ีเป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้าประกัน) 0.3676 ล้านบาท และหน้ีหน่วยงานของรัฐ 0.08684 ล้านล้านบาท 4. ข้อมูลรายงานงบการเงินรวมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานของรัฐ (CFS) ของกรมบัญชีกลาง ในส่วนงบการเงินของสานักงานบริหารหน้ีสาธารณะ (สบน.) แสดงถึงแนวโน้มการ เพิ่มขึ้นของดอกเบ้ียจ่าย โดยปี 2560 มีดอกเบี้ยจ่าย จานวน 159,105 ล้านบาท และปี 2561 เพิ่มข้ึน เปน็ 165,452 ล้านบาท หรอื เพิม่ ขนึ้ รอ้ ยละ 3.99 ดังนั้น การบริหารหน้ีสินของหน่วยงานของรัฐควรคานึงถึงรายการหน้ีสิน ภาระผูกพันและ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะหน้ีสินไม่หมุนเวียนซึ่งมีดอกเบี้ยจ่าย เพ่ือป้องกันความเส่ียงทางการคลังในอนาคต และจัดทาแผนการชาระหน้ีโดยคานึงถึงรายได้ ค่าใช้จ่าย ความคมุ้ ค่า และความสามารถในการชาระหนี้ สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร -25-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดบั มหภาค 11.5 สดั ส่วนภาระหนีต้ อ่ รายได้ของรัฐบาล ภาระหนี้ : รายจ่ายชาระคนื ต้นเงนิ ก้แู ละดอกเบย้ี จ่ายและคา่ ธรรมเนียมทกี่ ระทรวงการคลังชาระคืนจากเงนิ งบประมาณ (แตล่ ะปงี บประมาณ) “อัตราสว่ นนแ้ี สดงถงึ ความสามารถในการจา่ ยคนื เงินตน้ และดอกเบยี้ จากรายไดป้ ระเภทตา่ ง ๆ” ปี 2561 รัฐบาลมีภาระหน้ีเท่ากับ 0.2596 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย รายจ่ายชาระคืนต้น เงินกู้ เท่ากับ 0.0869 ล้านล้านบาท ดอกเบ้ียจ่ายและค่าธรรมเนียม เท่ากับ 0.1727 ล้านล้านบาท (เอกสารงบประมาณโดยสังเขป ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562) เมื่อนามาเปรียบเทียบกับสัดส่วนรายได้ ประเภทตา่ ง ๆ เพ่ือคานวณความสามารถในการจา่ ยคืนเงินต้นและดอกเบย้ี พบว่า ประเภทรายได้ จานวน สดั ส่วนของภาระหนี้ (0.2596 ล้านล้านบาท) รายได้ที่ (ล้านลา้ นบาท) ตอ่ รายได้แตล่ ะประเภท (ร้อยละ) เกี่ยวข้องกบั ภาษี 11 รายได้ของหน่วยงานของรฐั ท่ี 2.2995 รวมรัฐวสิ าหกิจ 5.4052 5 รายไดร้ วม 7.1705 4 “สัดส่วนภาระหน้ีต่อรายได้รวม เท่ากับ ร้อยละ 4” อย่างไรก็ตาม เมื่อจาแนกสัดส่วนรายได้ แตล่ ะประเภท พบวา่ (1) สดั ส่วนภาระหนีเ้ ปรียบเทียบกบั รายได้ท่เี ก่ียวขอ้ งกับภาษี เทา่ กับ รอ้ ยละ 11 (2) สัดสว่ นรายได้ของหน่วยงานของรฐั ทีร่ วมถงึ รายได้จากรฐั วิสาหกจิ เท่ากบั ร้อยละ 5 หมายความว่า “รายได้จากภาษี 100 บาท จะมีภาระหน้ี 11 บาท และรายได้ของหน่วยงาน ของรฐั ท่ีรวมรัฐวสิ าหกิจ 100 บาทจะมภี าระหนี้ 5 บาท สรปุ 1. การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ภาษี และสภาพ คลอ่ งของรัฐบาล 2. ค่าใช้จ่ายบุคลากร มีสัดส่วนต่อวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจาปีค่อนข้างสูง ดังน้ัน ควร ควบคุมค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปอย่างสมเหตุ สมผล พิจารณาปรับหาวิธีการ เคร่ืองมือ เทคโนโลยีท่ี ทนั สมัยเพอ่ื ทดแทนการใช้คน ซงึ่ จะทาให้ประหยัดงบประมาณรายจา่ ยได้ 3. การบริหารหน้ีสินจะต้องรอบคอบ รัดกุม และหากเป็นเงินกู้ยืมระยะยาวต้องนาไปลงทุนใน โครงสร้างพื้นฐานมากกว่าใช้สาหรับรายจ่ายประจา เพ่ือให้เกิดผลิตภาพจากการลงทุนจากโครงสร้าง พ้ืนฐานต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรคานึงถึงการบริหารหนี้สินและค่าใช้จ่ายค้างจ่ายต่างๆที่ เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมทุกประเภท โดยเฉพาะหนี้สินไม่หมุนเวียนที่ไม่ได้เป็นหนี้สาธารณะด้วย เพราะ เกย่ี วข้องกบั สภาพคล่อง และ เพ่อื ป้องกนั ความเสี่ยงทางการคลังในอนาคต สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร -26-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค 4. การลงทุนโครงสร้างพ้ืนฐานโครงการสาคัญ ควรระบุแหล่งเงินกู้และดอกเบ้ียจ่ายอย่าง ชดั เจน เพอ่ื ใหส้ ามารถประเมนิ ความคุ้มคา่ ได้ 12. จานวนประชากร หน่วย : ล้านคน ทม่ี าขอ้ มูล : กรมการปกครอง สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร จัดทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรัฐสภา -27- สานกั งบประมาณของรฐั สภา

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค ณ ธันวาคม 2561ประเทศไทย มีประชากร 66.41 ล้านคน จาแนกเป็นหญิง 33.86 ล้านคน (ร้อยละ 51.0) และชาย 32.56 ล้านคน (ร้อยละ 49.0) แบ่งตามช่วงอายุ จะพบว่า ประชากร ช่วงอายุ 40-49 ปี มรี ้อยละ 16 และ 50-59 ปี รอ้ ยละ 14.6 13. เสน้ ค่าความยากจน (Poverty line) หนว่ ย : บาทต่อเดอื น ที่มาขอ้ มูล : สานกั งานสถติ ิแห่งชาติ จดั ทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา เส้นความยากจน เป็นการคานวณเป็นตัวเงินท่สี ะท้อนต้นทุนหรือค่าใชจ้ ่ายของปัจเจกบุคคลใน การได้มาซ่ึงอาหารและสิ่งจาเป็นพ้ืนฐานท่ีทาให้สามารถดารงชีวิตได้ มีหน่วยเป็นบาทต่อเดือน หาก บคุ คลใดมรี ะดบั รายไดห้ รือคา่ ใช้จ่าย (ระดับการบรโิ ภค) ตา่ กว่าเสน้ คา่ ความยากจนถอื วา่ เปน็ คนจน ปัจจุบัน (ปี 2560) เส้นแบ่งความยากจนทั่วประเทศ อยู่ท่ี 2,686 บาท ต่อคน ต่อเดือน ซ่ึงต่า กว่าเส้นแบ่งความยากจนในกรุงเทพมหานครที่ 3,165 บาท ต่อคน ต่อเดือน เส้นแบ่งความยากจนใน ภาคกลางท่ี 2,861 บาท ต่อคน ต่อเดือน และเส้นแบ่งความยากจนในภาคใต้ท่ี 2,768 บาท ต่อคน ต่อ เดือน สานักงบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร -28-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครฐั ในระดับมหภาค หน่วย : รอ้ ยละ 14. สัดส่วนคนจน ท่มี าข้อมลู : สานักงานสถติ ิแห่งชาติ จัดทาแผนภาพ : สานกั งบประมาณของรัฐสภา ในปี 2560 ประชากรภาคใต้มีสัดส่วนคนจนมากท่ีสุดท่ีร้อยละ 11.84 รองลงมาคือภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ 11.42 ตามมาด้วยภาคเหนือ (ร้อยละ 9.82) และภาคกลาง (ร้อยละ 4.51) โดยในกรงุ เทพมหานคร มีคนจนน้อยท่สี ุดคอื รอ้ ยละ 1.12 สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -29-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงินภาครฐั ในระดบั มหภาค 15. สัมประสทิ ธ์ิความไม่เสมอภาค (Gini coefficient) คา่ สมั ประสทิ ธ์ิ จีนี่ (Gini coefficient) : เป็นเคร่ืองมอื ในการวัดความไมเ่ ทา่ เทียมในรปู ของสัดสว่ น (Gini ratio) ซ่งึ ค่าอยรู่ ะหว่าง 0 กับ 1 การแปลความหมาย : ย่ิงค่าเข้าใกล้ 1 มากเท่าไร แสดงว่าแสดงว่าความไม่เท่าเทียมกันของรายจ่ายเพื่อการ อุปโภคบรโิ ภคมีมากขน้ึ พืน้ ที่ 15.1 สมั ประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini coefficient) ของรายได้*จาแนกตามภาค และเขต ทวั่ กรุงเทพ ภาคตะวนั ออก หน่วย : รอ้ ยละ ราชอาณาจักร มหานคร เฉยี งเหนอื ปี/ภาค ภาคกลาง ภาคเหนอื ภาคใต้ 2550 0.50 0.47 0.42 0.47 0.48 0.46 2552 0.49 0.47 0.41 0.45 0.49 0.48 2554 0.48 0.51 0.40 0.44 0.46 0.46 2556 0.47 0.45 0.40 0.43 0.44 0.44 2558 0.45 0.40 0.40 0.39 0.43 0.45 2560 0.45 0.41 0.40 0.42 0.45 0.45 หมายเหตุ : * รายได้ หมายถึง รายไดป้ ระจา ท่ีไมร่ วมรายรบั อืน่ ๆ (เช่น เงินทนุ การศกึ ษา มรดก พินยั กรรม ของขวัญ ประกนั สุขภาพ ประกันภัยและประกันชีวิต/ประกนั สังคม เงินถกู สลาก เงินรางวลั ค่านายหน้าและเงินได้จากการพนนั เป็นตน้ ) 15.2 สัมประสทิ ธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini coefficient) ของรายจ่ายเพอ่ื การอุปโภค บรโิ ภค จาแนกตามภาค หนว่ ย : ร้อยละ ทวั่ ภาค ภาคตะวันออก ปี/ภาค ราชอาณาจักร กรงุ เทพ ภาคกลาง เหนือ เฉียงเหนือ ภาคใต้ 2550 0.40 0.34 0.34 0.39 0.37 0.37 2552 0.40 0.34 0.35 0.37 0.37 0.36 2554 0.38 0.40 0.33 0.35 0.35 0.34 2556 0.38 0.33 0.33 0.35 0.34 0.35 2558 0.36 0.34 0.31 0.31 0.34 0.35 2560 0.36 0.34 0.31 0.33 0.33 0.34 สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร -30-

รายงานเศรษฐกิจ สงั คม และการเงินภาครฐั ในระดับมหภาค 15.3 สมั ประสิทธ์ิความไมเ่ สมอภาค (Gini coefficient) ของรายจา่ ยเพื่อการอุปโภคบรโิ ภค จาแนกตามเขตพนื้ ท่ี หนว่ ย : รอ้ ยละ ปี ทั่วประเทศ เขตเมอื ง เขตชนบท 2550 0.40 0.37 0.36 2552 0.40 0.37 0.36 2554 0.38 0.37 0.33 2556 0.38 0.36 0.35 2558 0.36 0.35 0.33 2560 0.36 0.36 0.33 ท่ีมา: สานักงานสถิตแิ หง่ ชาติ ค่าเฉลี่ยของเส้นค่าความยากจนทั่วประเทศปี 2552 เท่ากับ 2,174 บาทต่อเดือน และเพ่ิมขึ้น เป็น 2,686 บาทต่อเดือน ซ่ึงแตล่ ะพื้นทีเ่ ส้นค่าความยากจนจะแตกต่างกัน โดยปี 2560 กรุงเทพมหานครมี คา่ เท่ากบั 3,165 บาทตอ่ เดือน และภาคเหนือมีค่าเท่ากับ 2,411 บาทต่อเดอื น เมื่อพิจารณาสัดส่วนคน จน พบว่า ปี 2552 มีสัดส่วนคนจนท่ัวประเทศเท่ากับร้อยละ 17.88 และลดลงเหลือร้อยละ 7.87 ในปี 2560 อย่างไรก็ตาม พ้ืนที่ที่มีสัดส่วนคนจนมากท่ีสุด คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 31.19 ในปี 2551 และลดลงเหลือ ร้อยละ 11.42 ในปี 2560 การวัดความไมเ่ สมอภาค ทั้งด้านรายได้และรายจ่ายโดยใช้สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini coefficient) จาแนกตามพน้ื ท่ี พบวา่ 1. ด้านรายได้ ท่ัวราชอาณาจักรมีค่าลดลงจาก 0.50 ในปี 2550 เป็น 0.45 ในปี 2560 โดย พน้ื ทีท่ ม่ี ีคา่ ลดลงมากท่สี ุดคือ กรุงเทพมหานคร และพืน้ ท่ที ม่ี คี ่าลดลงน้อยทสี่ ดุ คือ ภาคกลาง และภาคใต้ 2. ด้านรายจ่าย ท่ัวราชอาณาจักรมีค่าลดลงจาก 0.40 ในปี 2550 เป็น 0.36 ในปี 2560 โดย พืน้ ท่ีทีม่ ีคา่ ลดลงมากท่ีสดุ คอื ภาคเหนือ และพ้ืนท่ีที่มคี า่ ลดลงน้อยที่สดุ คือ กรุงเทพมหานคร 3. ด้านพื้นที่ระหว่างเขตเมืองและชนบท พบว่า มีแนวโน้มลดลงจาก ร้อยละ 0.40 ในปี 2550 เปน็ รอ้ ยละ 0.36 ในปี 2560 โดยเขตชนบทมีคา่ ลดลงมากกวา่ เขตเมือง สานักงบประมาณของรฐั สภา สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร -31-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค 16. รายไดโ้ ดยเฉลยี่ ตอ่ เดือนต่อครวั เรอื น เปน็ รายภาค หน่วย : บาทตอ่ เดอื นต่อครัวเรือน ที่มาขอ้ มลู : สานักงานสถิตแิ ห่งชาติ จัดทาโดย : สานักงบประมาณของรฐั สภา การเปรียบเทียบรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือน เป็นรายภาค จากปี 2552 ถึง 2560 พบว่า กรุงเทพมหานครยังคงมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนสูงที่สุด แต่ภาคที่มีรายได้ต่อเดือนต่าท่ีสุดเปลี่ยนจากภาค ตะวันออกเฉียงเหนอื เป็นภาคเหนอื โดยมีอัตราความเปลีย่ นแปลงของแต่ละภาค ดงั นี้ 1. ทวั่ ราชอาณาจกั ร เพ่มิ ขึน้ จาก 20,903 บาท เป็น 26,946 บาทตอ่ เดอื น หรือ รอ้ ยละ 29 2. กรุงเทพมหานคร เพิม่ ขนึ้ จาก 42,380 บาท เปน็ 45,707 บาทต่อเดอื น หรือ รอ้ ยละ 8 3. ภาคกลาง เพม่ิ ขึ้นจาก 20,952 บาท เปน็ 27,042 บาทต่อเดือน หรือ รอ้ ยละ 29 4. ภาคเหนือ เพมิ่ ขึน้ จาก 15,727 บาท เปน็ 19,046 บาทต่อเดือน หรอื ร้อยละ 21 5. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ เพ่ิมขึ้นจาก 15,358 บาท เป็น 20,271 บาทตอ่ เดือน หรือ รอ้ ยละ 32 6. ภาคใต้ เพมิ่ ข้นึ จาก 22,926 บาท เปน็ 26,913 บาทต่อเดือน หรอื รอ้ ยละ 17 สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -32-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงนิ ภาครฐั ในระดบั มหภาค 17. หน้ีสินทั้งสิ้นเฉล่ยี ต่อครัวเรือน จาแนกรายจังหวดั พ.ศ. 2552 – 2560 หน่วย: บาท 2560 ภาค จงั หวัด 2552 2554 2556 2558 202,700 กรงุ เทพมหานคร กรุงเทพมหานคร 207,665 218,741 275,577 164,706 179,804 ภาคกลาง สมทุ รปราการ 117,361 115,169 207,741 87,647 288,940 ภาคเหนือ นนทบรุ ี 240,769 258,853 260,752 277,606 294,901 ปทมุ ธานี 220,761 145,293 386,957 221,748 234,446 พระนครศรีอยุธยา 163,425 81,609 106,260 216,816 117,942 อ่างทอง 309,494 133,918 212,498 132,829 69,611 ลพบรุ ี 329,812 87,009 97,449 92,474 187,918 สงิ ห์บรุ ี 55,605 133,378 151,450 168,239 286,888 ชยั นาท 146,131 175,957 264,144 273,336 286,460 สระบรุ ี 148,743 142,504 248,741 197,696 170,023 ชลบรุ ี 191,149 186,509 159,084 149,192 124,478 ระยอง 144,786 104,910 171,432 145,527 186,072 จนั ทบรุ ี 125,646 124,266 110,504 130,258 193,675 ตราด 99,210 91,346 147,139 147,114 80,062 ฉะเชิงเทรา 95,398 102,745 217,298 75,443 135,499 ปราจีนบุรี 175,679 127,503 110,519 161,433 112,920 นครนายก 79,420 77,091 134,040 144,657 169,876 สระแกว้ 105,886 106,147 166,090 249,127 255,930 ราชบุรี 121,084 116,257 192,593 104,894 157,164 กาญจนบุรี 107,527 68,786 105,780 89,862 45,861 สพุ รรณบรุ ี 63,524 53,265 36,593 50,553 75,904 นครปฐม 101,030 59,484 175,894 153,504 104,677 สมทุ รสาคร 133,793 104,822 56,367 128,830 130,743 สมุทรสงคราม 27,061 226,175 เพชรบุรี 70,298 9,244 9,857 8,090 160,757 ประจวบครี ขี นั ธ์ 173,821 125,291 109,519 170,522 115,220 เชยี งใหม่ 131,525 159,828 222,219 168,374 228,039 ลาพูน 180,285 89,080 39,182 31,196 197,836 ลาปาง 91,695 177,830 188,174 231,587 156,686 อตุ รดิตถ์ 99,686 157,080 174,046 119,216 158,585 แพร่ 83,630 112,976 125,871 149,576 201,992 นา่ น 165,434 131,010 149,357 180,460 150,059 พะเยา 102,774 126,774 188,161 162,325 30,608 เชียงราย 94,392 104,638 80,663 148,001 122,602 แม่ฮ่องสอน 32,562 111,092 44,956 73,166 41,957 38,341 123,172 สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร -33-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค ภาค จังหวดั 2552 2554 2556 2558 2560 ภาคตะวนั ออก นครสวรรค์ 144,951 174,706 232,771 188,941 211,666 เฉียงเหนือ อุทัยธานี 139,482 140,001 219,238 194,462 263,755 กาแพงเพชร 98,772 105,745 178,672 204,669 210,410 ภาคใต้ ตาก 77,591 60,390 120,246 145,791 127,988 สุโขทัย 102,003 122,772 176,298 218,302 230,998 พษิ ณุโลก 128,177 157,766 224,876 263,135 273,212 พจิ ติ ร 138,861 161,005 208,219 148,751 176,992 เพชรบรู ณ์ 156,388 91,930 103,320 148,667 161,800 นครราชสมี า 134,654 116,108 170,703 245,760 223,239 บุรรี มั ย์ 117,943 161,895 117,814 159,766 131,638 สรุ นิ ทร์ 118,378 196,381 187,498 246,348 251,796 ศรีสะเกษ 88,342 112,526 191,057 135,277 189,528 อุบลราชธานี 116,045 173,065 166,222 136,208 195,122 ยโสธร 85,676 165,082 63,643 123,720 121,377 ชยั ภูมิ 103,092 105,134 164,135 155,902 194,195 อานาจเจรญิ 159,633 145,074 134,560 173,276 226,033 บึงกาฬ 69,432 257,989 212,781 หนองบวั ลาภู - - 96,118 140,079 187,626 ขอนแก่น 118,246 121,289 79,850 62,493 90,787 อุดรธานี 113,084 77,193 167,665 197,757 171,114 เลย 118,490 165,688 103,670 169,523 148,124 หนองคาย 96,423 123,951 80,636 107,736 98,463 มหาสารคาม 62,462 64,424 194,195 128,258 248,623 รอ้ ยเอด็ 177,380 167,718 244,163 149,907 182,396 กาฬสินธุ์ 138,771 187,017 124,725 131,577 134,002 สกลนคร 97,711 154,871 157,855 164,190 197,078 นครพนม 161,441 138,725 90,411 102,816 192,868 มกุ ดาหาร 92,430 76,338 123,125 184,067 171,992 นครศรธี รรมราช 129,737 182,411 123,678 164,476 152,743 กระบ่ี 167,985 89,625 168,946 373,325 289,237 พงั งา 219,674 177,495 123,376 164,167 131,646 ภูเก็ต 56,697 82,728 91,904 135,376 239,552 สรุ าษฎรธ์ านี 80,201 71,829 198,998 219,065 240,462 ระนอง 188,247 144,725 180,869 106,994 156,195 ชมุ พร 102,741 161,420 197,459 199,746 157,728 สงขลา 124,643 130,164 161,526 172,272 174,405 สตลู 115,079 107,472 155,314 145,458 166,361 183,123 101,355 สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -34-

รายงานเศรษฐกิจ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดบั มหภาค ภาค จังหวัด 2552 2554 2556 2558 2560 ตรงั 132,883 154,678 160,207 131,873 177,207 พัทลงุ 140,417 169,819 162,249 206,986 183,718 ปตั ตานี 82,370 83,777 109,103 141,540 137,592 ยะลา 18,901 60,167 35,829 22,272 28,438 นราธวิ าส 26,246 40,943 44,974 40,567 60,283 ทม่ี าขอ้ มูล : สานักงานสถิตแิ หง่ ชาติ จัดทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552-2560 ประเทศไทยมีแนวโน้มหน้ีสินท้ังส้ินเฉล่ียทั้งครัวเรือนสูงข้ึน โดย เมื่อจาแนกเป็นรายจังหวัด ในปีพ.ศ. 2560 พบว่าจังหวัดท่ีมีหนี้สินเฉลยี่ ท้ังครัวเรือนสูงที่สุดคือ จังหวัด กระบี่ มหี นสี้ นิ เฉลยี่ ท้ังครวั เรือนจานวน 289,237 บาท และจังหวดั ทม่ี หี น้ีสนิ เฉลีย่ ทง้ั ครวั เรอื นน้อยที่สุด คอื จงั หวดั ยะลา มหี นี้สนิ เฉล่ียทง้ั ครวั เรือน จานวน 28,438 บาท เม่ือจาแนกเป็นรายภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร พบว่า ในปี พ.ศ. 2560 กรุงเทพมหานคร มี หนี้สินเฉล่ียท้ังครัวเรือนสูงท่ีสุด จานวน 202,700 บาท ลาดับถัดไปได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีรายละเอยี ดในแต่ละภมู ิภาค ดังนี้ สานักงบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร -35-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดบั มหภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหี น้ีสนิ เฉล่ียทงั้ ครัวเรือนเฉล่ยี รายภาค จานวน 178,439 บาท โดย จงั หวัดท่ีมีหนีส้ ินเฉล่ยี ทง้ั ครัวเรือนสงู ที่สดุ 3 อนั ดับแรก คือ 1) สุรนิ ทร์ 2) มหาสารคาม 3) อานาจเจริญ และจังหวัดท่ีมีหน้สี นิ เฉล่ียท้ังครวั เรือนต่าทส่ี ุด 3 อนั ดบั แรก คือ 1) ขอนแกน่ 2) หนองคาย 3) ยโสธร ภาคเหนือ มีหน้ีสินเฉลี่ยท้ังครัวเรือนเฉลี่ยรายภาค จานวน 177,556 บาท โดยจังหวัดที่มี หน้ีสินเฉล่ียทั้งครัวเรือนสูงท่ีสุด 3 อันดับแรก คือ 1) พิษณุโลก 2) อุทัยธานี 3) สุโขทัย และจังหวัดท่ีมี หนส้ี ินเฉลี่ยทั้งครัวเรือนต่าท่สี ดุ 3 อันดับแรก คอื 1) เชยี งราย 2) แม่ฮ่องสอน 3) ตาก ภาคกลาง มีหนีส้ ินเฉล่ยี ท้ังครัวเรอื นเฉล่ียรายภาค จานวน 171,069 บาท โดยจงั หวัดท่มี หี นส้ี ิน เฉล่ียทั้งครัวเรือนสูงท่ีสุด 3 อันดับแรก คือ 1) ปทุมธานี 2) นนทบุรี 3) ชัยนาท และจังหวัดท่ีมีหนี้สิน เฉล่ยี ทง้ั ครัวเรอื นต่าทีส่ ุด 3 อันดับแรก คอื 1) สุพรรณบุรี 2) ลพบุรี 3) นครปฐม ภาคใต้ มีหนี้สินเฉลี่ยทั้งครัวเรือนเฉล่ียรายภาค จานวน 163,969 บาท โดยจังหวัดที่มีหนี้สิน เฉลี่ยทั้งครัวเรือนสูงท่ีสุด 3 อันดับแรก คือ 1) กระบ่ี 2) สุราษฎร์ธานี 3) ภูเก็ต และจังหวัดที่มีหนี้สิน เฉล่ียทั้งครัวเรอื นต่าที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1) ยะลา 2) นราธวิ าส 3) พงั งา 18. เคร่อื งชีภ้ าคครัวเรือน: สินเชอื่ จากสถาบันการเงนิ ตอ่ GDP เครอ่ื งช้สี ินเช่อื ภาคครวั เรือนจากสถาบนั การเงินต่อ GDP : คานวณจากยอดคงค้างสนิ เชื่อภาค ครวั เรือน (เงนิ ให้ก้จู ากสถาบันรบั ฝากเงนิ และสถาบันการเงนิ อ่ืน) หารดว้ ย ผลรวม QGDP 4 ไตรมาสยอ้ นหลงั เริ่มตน้ ท่ี ไตรมาส 1 ปี 2550 หนว่ ย : รอ้ ยละ ทีม่ าขอ้ มูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดทาแผนภาพ : สานักงบประมาณของรฐั สภา สานักงบประมาณของรัฐสภา สานกั งานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร -36-

รายงานเศรษฐกจิ สังคม และการเงนิ ภาครัฐในระดับมหภาค สินเชื่อจากสถาบันการเงินต่อ GDP ช่วง 10 ปีท่ีผ่านมา (ปี 2552 -2561) พบว่า มีการเร่งตัว เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากร้อยละ 57.1 ในปี 2552 เป็น ร้อยละ 78 ในปี 2561 (ตามตาราง) ทั้งน้ี สิ่งที่ควร พิจารณาเกี่ยวกับหน้ีภาคครัวเรือน คือวัตถุประสงค์ของการก่อหน้ีของภาคครัวเรือนควรส่งเสริมให้ใช้ สนิ เช่ือไปเพื่อการลงทุนหรอื สร้างรายไดม้ ากกว่าที่จะใช้อุปโภคบริโภค สานักงบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร -37-

รายงานเศรษฐกจิ สงั คม และการเงินภาครัฐในระดับมหภาค เอกสารอา้ งองิ กรมการปกครอง. ระบบสถิติทางการทะเบียน สานักบริหารการทะเบยี น. สบื คน้ จาก http://stat.bora.dopa.go.th (13 กันยายน 2562) ธนาคารแห่งประเทศไทย. สถิต.ิ สถติ ิเศรษฐกจิ การเงิน. เครอื่ งชี้เศรษฐกิจมหภาคของไทย. สบื ค้นจาก www.bot.or.th (13 กนั ยายน 2562) สานักงบประมาณ. เอกสารงบประมาณสังเขป. สืบค้นจาก www.bb.go.th (13 กันยายน 2562) สานักงานเศรษฐกิจการคลงั . ข้อมลู สถติ ิ. สบื คน้ จาก www.fpo.go.th (13 กนั ยายน 2562) สานักงานสถติ ิแห่งชาติ. ขอ้ มูลจากการสารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน. สืบค้นจาก http://statbbi.nso.go.th (13 กันยายน 2562) สานกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ. ข้อมูลเศรษฐกจิ และสงั คม. ขอ้ มูลสถิติ. เศรษฐกจิ . บัญชีประชาชาติ. ภาวะเศรษฐกจิ ในประเทศรายไตรมาส . สืบค้นจาก www.nesdb.go.th (13 กันยายน 2562) สานกั งบประมาณของรฐั สภา สานักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร -38-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook