ข บทสรุปผบู้ ริหำร รายงานวิชาการ เรื่อง การวิเคราะห์การจัดสรรงบลงทุนของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จัดทาข้ึนเพื่อใช้สนับสนุนข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบญั ญตั งิ บประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ท่ีมีต่อสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยให้ทบทวนความเหมาะสมในการก่อสร้างอาคารทางการศึกษาให้ สัมพนั ธก์ ับแนวโนม้ ประชากรแรกคลอดท่ีลดลง เพื่อสะท้อนถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณท่ี มีอยู่อย่างจากัด เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี และนาข้อมูลที่ได้จากการศึกษานาไปต่อยอดเพ่ือใช้ในการติดตามการบริหารงบประมาณฯ เชิงลึกใน อนาคตตอ่ ไป รวมถึง เปน็ การนาเสนอขอ้ มูลต่อบคุ คลทว่ั ไปทสี่ นใจ จากการศกึ ษาและเกบ็ รวบรวมข้อมลู ท่เี กย่ี วขอ้ ง ทาใหท้ ราบว่าอัตราแรกคลอดของประชากร ไทยมแี นวโน้มลดลงอยา่ งต่อเนอื่ ง โดยมีอัตราเกดิ เฉลีย่ 770,864 คนต่อปี และมีแนวโน้มลดลงเฉล่ียปี ละ 10,863 คน (2550-2560) ซ่ึงสอดคล้องกับการอนุมัติการจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2562 ต่อปริมาณโครงการที่มีแนวโน้มลดลงโดยมีจานวน 19,053 โครงการ 13,641 โครงการ และ 6,248 โครงการ ตามลาดับปีงบประมาณ และมูลค่าโครงการที่มีแนวโน้มลดลงด้วย ปริมาณ 15,353 ล้านบาท 13,844 ล้านบาท และ 12,649 ล้านบาท ตามลาดับปีงบประมาณ ทั้งน้ี จากข้อมูลภาพรวมดังกล่าวได้สะท้อนถึงแนวโน้มการอนุมัติปริมาณโครงการและมูลค่าโครงการภายใต้ งบลงทุนค่าที่ดินและส่ิงก่อสร้างของ สพฐ. มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับแนวโน้มอัตราการเกิดของประชากร กลุ่มเป้าหมาย หรือกล่าวโดยสรุปได้ว่าเมื่อแนวโน้มการเกิดของประชากรไทยลดลง การจัดสรรงบลงทุน คา่ ทีด่ ินและสิ่งก่อสร้างของ สพฐ. จะลดลงดว้ ยเช่นกัน ประกอบกับ ข้อมูลที่ศึกษาเพ่ิมเติมทาให้ทราบ วา่ จานวนโรงเรยี นในสงั กดั ของ สพฐ. ของปีการศึกษา 2558 มีจานวนสถานการศกึ ษาลดลง 1,446 โรงเรียน จากปีการศึกษา 2550 โดยจานวนที่ลดลงดังกล่าวสอดคล้องกับแนวโน้มอัตราเกิดของประชากร กลุม่ เป้าหมายท่ลี ดลง และงบลงทนุ คา่ ที่ดินและส่ิงกอ่ สรา้ งทลี่ ดลง ด้วยเชน่ กนั อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษารายละเอียดในมิติโครงสร้างภายในงบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ซึง่ ประกอบด้วยโครงการก่อสรา้ งส่งิ ก่อสรา้ งใหม่ และโครงการปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิม พบว่าสัดส่วนโครงการก่อสร้างส่ิงก่อสร้างใหม่มีแนวโน้มสูงข้ึนระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2562 โดยมสี ัดส่วนโครงการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่คิดเป็นร้อยละ 74.09 80.80 และ 90.39 ของงบลงทุน ค่าท่ีดินและสิ่งก่อสร้าง ตามลาดับปีงบประมาณ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มูลค่าโครงการก่อสร้างอาคารฯ ได้รับการจัดสรรเพิ่มข้ึนจากปีงบประมาณก่อนเป็นจานวนเงิน 247,398,400 บาท ซ่ึงไม่สอดรับกับแนวโน้มอัตราเกิดของประชากรกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มลดลง เช่นกับเดียวกับการศึกษามิติเชิงพ้ืนที่โดยการวัดความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างจานวนประชากร
ค กล่มุ เปา้ หมายกบั การจัดสรรงบลงทนุ คา่ ท่ีดนิ และสงิ่ กอ่ สร้างท้งั 77 จงั หวัด (ข้อมูลปีงบประมาณ พ.ศ. 2561) ด้วยการหาค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) พบผลลัพธ์อยู่ท่ี .5011 หรือแปลผลทางสถิติได้ว่าการพิจารณาปัจจัยจานวนประชากรกลุ่มเป้าหมายฯ มีอิทธิพลต่อการกาหนด งบลงทุนค่าท่ีดินและสิ่งก่อสร้างฯ ในระดับปานกลาง (หากค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ มีค่าใกล้ 1 หมายความว่าจานวนประชากรฯ และงบลงทุนฯ มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก แต่หากมีค่าเป็น 0 จะ หมายความว่าไม่มีความสัมพันธ์กัน) ประกอบกับการศึกษาข้อมูลเชิงประจักษ์ (เอกสารรายการลักษณะ งบลงทุนที่ดาเนินการในพ้ืนที่จังหวัด ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 – 2561) อนุมานได้ว่าจานวน ประชากรกลุ่มเป้าหมายของแต่ละจังหวัดไม่ใช่ตัวบ่งช้ีหลักในการจัดสรรวงเงินงบลงทุนค่าท่ีดินและ ส่งิ ก่อสรา้ ง จากผลการศกึ ษาทีไ่ ดก้ ลา่ วไวข้ ้างตน้ สรุปได้วา่ จานวนประชากรกลมุ่ เป้าหมายมีแนวโน้มลดลง ในขณะทง่ี บประมาณทใี่ ช้ในการกอ่ สรา้ งอาคารตา่ งๆ ของ สพฐ. มแี นวโนม้ สูงขึ้น ประกอบกับความสัมพันธ์ ระหว่างจานวนประชากรฯ และงบลงทุนฯ ค่อนข้างจะไม่มีอิทธิพลต่อกัน กล่าวคือรัฐบาลอาจนา ปัจจัยอ่ืนๆ ท่มี ผี ลตอ่ การขับเคลือ่ นยุทธศาสตร์หรือนโยบายของรฐั บาลและมคี วามจาเปน็ เร่งด่วน เป็น เกณฑ์สาคัญในการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณ มากกว่าปัจจัยด้านประชากร อาทิ ความสอดคล้อง กบั กรอบยุทธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี ความสอดคล้องแผนแม่บทของ สพฐ. ความสอดคล้องกับความ ต้องการและการแก้ไขปัญหาสาคัญของพื้นท่ี อย่างไรก็ตาม สพฐ. ควรทบทวนการจัดสรรงบลงทุนค่า ท่ีดินและสิ่งก่อสร้าง ซ่ึงรวมถึงค่าก่อสร้างต่างๆ และค่าปรับปรุงซ่อมแซม ให้มีความสอดคล้องกับ แนวโน้มอัตราแรกคลอดของประชากรในแต่ละพ้ืนท่ี เพ่ือให้งบประมาณท่ีมีอยู่อย่างจากัดสามารถ ตอบสนองดา้ นโครงสร้างพ้ืนฐานของสถานการศึกษาให้กับเยาวชนได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนั้น พบข้อ บ่งชใี้ นการบริหารจดั การรายจา่ ยลงทนุ ของ สพฐ. ว่าควรมกี ารทบทวนและปรบั ปรุงแก้ไข จากสัดส่วน ร้อยละ 64.93 ของการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของ สพฐ. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และการโอน รายการในลักษณะรายจ่ายลงทุนของ สพฐ. ตามพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2561 ด้วยวงเงิน 3,062 ล้านบาท ซ่ึงเป็นหน่วยงานท่ีถูกโอนงบประมาณมากที่สุด ในประเทศ (โอนรายจ่ายลงทุนตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีท่ีไม่สามารถลงนาม จดั ซื้อจดั จ้างภายในระยะเวลาท่ีกาหนดไปตง้ั จา่ ยเปน็ งบกลาง)
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: